ฟางเหนียงถูกส่งไปเป็นเครื่องบรรณาการแด่จิ้งจอกเก้าหาง แต่ผู้ใดจะคิดว่าจิ้งจอกเก้าหางตนนั้นจะกลายเป็นตำนานที่มีชีวิต และนางถูกส่งมาแต่งให้กับเขา เช่นนั้นบุรุษจึงเคี่ยวกรำนางทั้งคืน!
View Moreบทที่ 19จิ้งจอกเจ้าเล่ห์ดวงตาคู่งามเปิดอย่างเชื่องช้า คราวนี้ฟางเหนียงไม่ตกใจอีกแล้วว่านางมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร สถานที่ที่ไม่ต่างไปจากสรวงสวรรค์ นางคงถูกเทพองค์นั้นเรียกตัวมาอีกเป็นแน่นางเตรียมที่จะมองหาตัวของผู้ที่เรียกนางมา แต่ไม่ทันที่จะได้หยัดกายลุกขึ้นเสียด้วยซ้ำ เสียงทุ้มน่าฟังก็ดังขึ้นเหนือหัว“เดี๋ยวนี้เจ้าไม่ตกใจแล้วหรือ?”ฟางเหนียงหยัดกายลุกขึ้น ก่อนจะหันไปยอบกายคำนับตามมารยาท“คำนับ ท่านเทพเจ้าค่ะ”“อ่า เจ้ารู้แล้วสินะ… รู้ได้อย่างไร หมิงเยว่บอกเจ้าหรือ?”“ท่านพี่ของข้ารู้จักกับท่านเป็นการส่วนตัวด้วยหรือเจ้าคะ?”“อ่า มิใช่สินะ”ใบหน้าคมคายหม่นลงเล็กน้อย ยิ่งสร้างความประหลาดใจให้กับฟางเหนียงดูเหมือนว่าทั้งสองจะรู้จักกันสินะ แต่รู้จักกันด้วยดีหรือร้ายมิอานคาดเดาได้“ท่านเทพ… จุดประสงค์ของท่านคือสิ่งใดกันแน่?”สตรีตัวน้อยรู้สึกหวาดหวั่นเหลือเกิน หวาดกลัวว
บทที่ 18มิอาจยอมให้นางเสียหายลิ้นสากหลีกหนีเรียวลิ้นของนาง ลิ้นของนางก็ยังตามติดไม่ออก กลายเป็นจูบที่แสนดูดดื่มจนเกิดเสียงน่าอาย เมื่อยามที่ฟางเหนียงยอมแพ้คิดจะถอนริมฝีปากออก จินหมิงเยว่ก็เป็นฝ่ายคว้าท้ายทอยของนางแล้วกดให้แนบแน่นยิ่งกว่าเดิม จากนั้นก็เป็นฝ่ายรุกรานโพรงปากอุ่น ตักตวงความหอมหวานอย่างเร่าร้อน ทั้งๆ ที่เมื่อครู่เอาแต่หลีกหนีปฏิเสธนางแท้ๆ...จิ้งจอกเจ้าเล่ห์!!...อดมิได้ที่จะต่อว่าบุรุษในใจที่คิดหลอกนาง แต่ก็ยอมให้บุรุษรุกรานแต่โดยดี เพราะจูบหวานๆ ที่ถูกส่งมอบมามันพาให้ร่างของนางอ่อนระทวย เคลิบเคลิ้มไปกับรสจูบซึ่งราวกับเอาอกเอาใจนาง นางจะยอมให้อภัยจินหมิงเยว่ก็แล้วกันเนิ่นนานกว่าทั้งสองจะถอนริมฝีปากออกจากัน ดวงตาสบประสานกันของหวานซึ้ง คล้ายกับกำลังแลกเปลี่ยนความรู้สึกที่มีให้กันและกัน“เอาลูกแก้วคืนไปหรือยังเจ้าคะ?”“ยัง”“อ้าว?”“ข้าฝากไว้กับเจ้า หากข้าบาดเจ็บเจ้าจะได้จู
บทที่ 17ลูกแก้วจิ้งจอกไม่รู้กี่โมงกี่ยามแล้ว แต่เจ้าของดวงตากลมก็ค่อยๆ เปิดออกอย่างเชื่องช้า เมื่อแสงแดดด้านนอกส่องเข้ามาจนนางรู้สึกแสบตา พลันบางสิ่งก็บดบังแสงนั้นให้นาง เมื่อฟางเหนียงลืมตาขึ้นด้วยความสงสัย ก็เห็นว่าหางนุ่มนิ่มของจิ้งจอกเจ้าเล่ห์นั่นเองที่โผล่ออกมาเพื่อบังแสงแดดให้กับนางมือเล็กๆ ยื่นออกไปสัมผัสความนุ่มนิ่มของมันเล่นอย่างเอาแต่ใจ หางสีขาวขยับเข้ามาหานางแล้วลูบไล้ตามร่างกายจนนางรู้สึกจั๊กจี้“คิกคิก อย่าแกล้งข้าสิเจ้าคะ”“หึหึ” จินหมิงเยว่หัวเราะก่อนจะตวัดร่างของตนเองไปอีกฝั่งของเตียง เพื่อใช้ร่างกายของตนเองบดบังแสงแดดให้นาง “ตื่นแล้วหรือ? หิวหรือไม่?”ไม่เอ่ยอย่างเดียว กลับโน้มใบหน้าลงไปประทับริมฝีปาก ฝากฝังรอยจูบลงบนหน้าผากเนียนของนางอย่างรักใคร่“กี่ยามแล้วเจ้าคะ?”“ยามเชิน[1]แล้ว”“เจ้าคะ!?” ดวงตาคู่งามเบิกกว้าง ก่อนจะค่อยๆ หยัดกายลุกขึ้น หากแต่ความปวดร
บทที่ 16อยากลองจับมันหรือไม่ใบหน้าคมคายเลื่อนลงมาที่ลำคอระหง ไม่รีรอที่จะฝากฝังรอยรักสีเข้มไว้บนเนื้อขาวๆ ของนาง เป็นหลักฐานว่าฟางเหนียงได้เต็มใจร่วมค่ำคืนนี้กับเขาแล้ว ทั้งดูดและเลียอย่างเชื่องช้าราวกับกำลังตราตรึงสัมผัสนี้เข้าไปในกายของนาง“อื้อ ท่านพี่...”“ชอบหรือไม่”“อึก อื้อ” นางไม่ยอมตอบ และถึงแม้จะอยากตอบสิ่งใดออกไปก็ทำได้ยากเย็นเหลือเกิน เมื่อจินหมิงเยว่รุกรานนางอย่างหนักหน่วง แม้แต่การหายใจยังยากแล้ว อารมณ์วาบหวามทำให้นางมิอาจควบคุมตนเองได้“เปล่งเสียงออกมาเถิด ข้าชอบเสียงของเจ้า” บุรุษเอ่ย ขณะที่ฝ่ามือหยาบปลดอาภรณ์ของนางผิวขาวนวลเนียนที่อยู่ด้านใน กระตุกปมของเอี๊ยมสีขาวออกเผยทรวงอกอวบอิ่มที่เคยสัมผัสเมื่อคืนวันวสันต์ และบัดนี้ความงดงามปรากฏแกสายตาอีกครั้งฝ่ามือหยาบกอบกุมความอวบอิ่มทั้งสองเต้า ฟ้อนเฟ้นด้วยความมันเขี้ยว ก่อนจะปาดป่ายหยอกล้อเล่นกับยอดอกสีหวาน ฟางเหนียงเกร็งไปทั่วทั้งร่างกับสัมผัสวาบหวามนี้ น
บทที่ 15ยินยอม“กลับกับข้าเถิด”สตรีตัวน้อยพยักหน้า ถึงอย่างไรนางก็ต้องกลับกับเขาอยู่แล้ว ไม่มีทางปล่อยให้ผู้ที่บาดเจ็บเพราะความดื้อรั้นของตัวเองกลับไปเพียงคนเดียวเป็นแน่“เดินไหวหรือไม่เจ้าคะ?”“เจ้าประคองข้าหน่อยได้หรือไม่?” บุรุษใช้โอกาสออดอ้อนนางอย่างเจ้าเล่ห์ หากไม่ถือโอกาสนี้ก็ไม่รู้แล้วว่าจะมีโอกาสออดอ้อนนางอีกเมื่อใดแม้บาดแผลจะลึก แต่ตนเป็นปีศาจจิ้งจอก บาดแผลจากสิ่งของมนุษย์อีกทั้งยังไร้พิษ ตราบใดที่มีลูกแก้วจิ้งจอกอยู่ข้างกาย ร่างกายก็สามารถฟื้นคืนสภาพได้อย่างรวดเร็ว“เจ้าค่ะ”เมื่อกลับมายังตำหนักพันปี ฟางเหนียงก็เตรียมที่จะออกไปหาฮวาอิน สำหรับนางแล้วปีศาจด้วยกันย่อมรู้ว่าควรทำอย่างไรกับบาดแผล อีกอย่างนางมาอยู่ที่นี่ก็ได้รับแต่การปรนนิบัติ จึงไม่รู้ว่าข้าวของเครื่องใช้นั้นอยู่ที่ใดบ้าง แต่กลับถูกจินหมิงเยว่คว้าท่อนแขนเอาไว้เสียก่อน“เจ้าจะไปที่ใด?
บทที่ 14ทั้งโง่เขลาและดื้อรั้น“ช้าก่อนเจ้าค่ะ ช้าก่อน!”ทันทีที่สารถีเห็นคนงามก็หยุดรถม้าลงแล้วมองนางด้วยความฉงนใจ สภาพของนางดูสะอาดสะอ้านเกินกว่าคนที่หลงทาง อีกทั้งยังดูมีเรี่ยวมีแรงราวกับเพิ่งกินอิ่ม…ใบหน้านี้คุ้นเคยอย่างไรบอกไม่ถูก?...“ข้าขอติดรถท่านไปลงที่หมู่บ้านได้หรือไม่เจ้าคะ?”“เจ้าหลงป่าหรือ?”“เจ้าค่ะ ข้าออกมาตามหากระต่ายป่าที่ข้าเลี้ยงเอาไว้ แต่คลาดกับมัน มารู้ตัวอีกทีก็อยู่กลางป่าเสียแล้ว”“ขึ้นมาสิ ข้าจะพาไปส่งที่หมู่บ้าน”“ขอบคุณเจ้าค่ะ!!” ฟางเหนียงเอ่ยพลางยิ้มกว้าง กำลังจะเดินขึ้นรถม้าทว่าสารถีผู้นั้นก็เอ่ยเรียกนางเอาไว้เสียก่อน“ช้าก่อน เจ้า… ฟางเหนียง!?”“เจ้าคะ? ท่านรู้จักข้าด้วยหรือเจ้าคะ?”พลันโทสะก็ครอบงำบุรุษผู้นี้แล้วกระโดดเข้าจู่โจมฟางเหนียง!!
บทที่ 13ข้าปรารถนาเจ้าอย่างสุดหัวใจ“เจ้าค่ะ” นางตอบรับด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง เดิมทีฟางเหนียงก็ไม่คิดปฏิเสธอยู่แล้ว เพราะรู้สึกผิดที่ครอบครองลูกแก้วจิ้งจอกเอาไว้ ทั้งๆ ที่มันควรจะอยู่กับเจ้าของหากทว่าข้อเท้าของนางยังเป็นรอยช้ำสีเข้มอยู่เลย นางขอโลภมากและเห็นแก่ตัว ครอบครองมันนานอีกคงไม่เป็นอะไร อย่างไรเสียเจ้าตัวก็อนุญาตนางแล้วรอบนี้จูบที่เคยหวานปานมธุรสกลับถูกบดขยี้ลงมาอย่างเร่าร้อน ฟางเหนียงรู้สึกตกใจจนสะดุ้ง หากถอยหลังหนีได้นางคงถอยไปแล้ว แต่ร่างของนางกลับถูกดันชิดกับชั้นหนังสือน่ะสิ จึงไม่มีโอกาสให้นางได้ถอยห่างเลยแม้แต่น้อย ยิ่งบุรุษกดริมฝีปากลงมา ก็ยิ่งเป็นการเปิดปากของนางให้อ้าออก เพื่อที่จินหมิงเยว่จะได้รุกรานเข้ามาได้อย่างลึกซึ้งมากกว่าเดิม“อื้อ” แม้รสจูบนั้นจะมิได้หวานซาบซ่าอย่างที่นางชื่นชอบ แต่รสจูบเช่นนี้กลับเร่งเร้าให้หัวใจของนางเต้นระรัวได้ดี ฟางเหนียงเผลอไผลไปกับสัมผัสของบุรษ ฝ่ามือหนาเริ่มซุกซน เฟ้นฟ้อนไปทั่วทั้งเรือนร่างของนางกระทั่งถ
บทที่ 12เติมพลังเสียงนุ่มทุ้มดังขึ้นที่ข้างหู พร้อมกับลมหายใจอุ่นๆ รินรดแผ่วเบา หนังสือที่อยู่ในมือร่วงหล่นลง โชคดีที่เจ้าของเสียงนุ่มทุ้มคว้าหนังสือเล่มนั้นเอาไว้ ราวกับรู้อยู่ก่อนแล้ว ในณะที่ดวงตาเรียวคมจ้องมองดวงตาคู่งามนิ่งไม่ยอมละสายตา“ทะ ท่านพี่ ข้าตกใจหมด”“ตกใจเรื่องอะไร เว้นเสียแต่ว่าเจ้ากระทำความผิด”“เหนียยงเอ๋อร์กำลังอ่านหนังสือเพลินๆ ท่านพี่เข้ามามิให้สุ้มมิให้เสียงก็ต้องตกใจสิเจ้าคะ”“หากเจ้ามาหาข้าแล้วแกล้งกระโดดกอดคอข้า สาบานเลยว่าข้าไม่มีทางตกใจ” บุรุษว่าพลางยกยิ้มมุมปากด้วยความเจ้าเล่ห์สตรีตัวน้อยถอนหายใจแล้วยื่นมือออกไปคว้าหนังสือที่อยู่ในมือของบุรุษ แต่อีกฝ่ายกลับขยับหนี ฟางเหนียงเหลือบสายตามองบุรุษอีกหน แล้วส่งสายตาดุๆ ใส่ก่อนจะยื่นมือออกไปคว้าหนังสือ ทว่าจินหมิงเยว่ก็ยังกระทำแบบเดิม“ท่านพี่!”คราวนี้จินหมิงเยว่เหลือบสายตาอ่านชื่อหนังสือบนหน้าปก ซึ่งล้วนแล้วแต่
บทที่ 11ตัวตนของบุรุษปริศนา“ทำได้สิ พวกมนุษย์กล่าวขานพวกข้าอยู่หลายสิ่ง ตัวแทนแห่งการบำเพ็ญเพียร ตัวแทนแห่งความพยายาม ตัวแทนแห่งพลังอำนาจ และ... ตัวแทนแห่งตัณหาราคะ” จงใจจดจ้องมองเข้าไปในดวงตาคู่งาม แล้วค่อยๆ โน้มหน้าไปใกล้ๆ จนปลายจมูกสัมผัสกัน “ตัวข้านั้นเป็นทั้งหมด ที่เหล่ามนุษย์ขนานนาม”“ตะ แต่แตงที่ฝืนเด็ดจากต้นย่อมไม่หวาน[1]นะเจ้าคะ”“ไม่ลองแล้วจะรู้หรือ ไม่แน่แตงดิบๆ อาจจะถูกปากกว่าที่คิดก็ได้”...ท่านช่าง... เจ้าเล่ห์สมกับเป็นจิ้งจอกจริงๆ...“หึ!” จินหมิงเยว่หัวเราะเสียงเบาก็จะละออกจากร่างบอบบาง “แต่อย่างไรแตงหวานๆ ก็อร่อย เช่นนั้นข้าจะรอให้แตงหวานก่อนก็ได้”ฟางเหนียงรีบหยัดกายลุกขึ้นจ้องมองบุรุษด้วยความไม่เข้าใจว่าเหตุใดจึงหยุด นางคิดว่าบุรุษจะขืนใจนางแม้นางไม่ยินยอมเป็นแน่...“ทว่าลูกแก้วที่อยู่กับเจ้านั้นสำคัญกับข้า อย่างน้อยทุกเจ็ดวันก็มาให้ข้าได้เติมพลังจาก
บทที่ 1เครื่องบรรณาการแด่จิ้งจอกเก้าหางร่างเล็กๆ ของเด็กหญิงตัวน้อยที่กำลังเดินเก็บสมุนไพรในป่าลึกชะงักเล็กน้อย เมื่อเห็นร่างของเจ้าขนปุกปุยนอนฟุบอยู่ไม่ไกลจากที่นางอยู่มากนัก เด็กน้อยพาตนเองไปใกล้ๆ กับมันก็พบว่าเจ้าก้อนปุกปุยนั้นคือจิ้งจอกตัวน้อย‘หมาน้อย!’แม้ว่านางจะเชื่อว่ามันเป็นหมาน้อยก็ตาม...นางอุ้มจิ้งจอกตัวน้อยหรือหมาน้อยของนางขึ้นมา เห็นว่ามันได้รับบาดเจ็บก็ใช้สมุนไพรที่ตนเองเพิ่งเก็บมา ก่อนจะใช้หินทุบๆ แล้วนำมันไปวางโปะไว้ที่บาดแผลของจิ้งจอกตัวน้อย พร้อมทั้งฉีกแขนเสื้อตนเองแล้วใช้พันที่ท้องของมันเอาไว้ดวงตาใสๆ ของนางมองเจ้าจิ้งจอกน้อยตัวนี้ด้วยความเวทนา อยากจะนำมันไปดูแลเหลือเกิน หากแต่แค่ตัวนางเองก็ลำบากมากพอแล้ว ไม่อยากนำเจ้าสัตว์ตัวน้อยไปทุกข์ยากด้วย อีกอย่างขืนนำจิ้งจอกตัวนี้กลับบ้านไปด้วย มีหวังจากที่จิ้งจอกตัวนี้จะรอดตาย คงถูกตีจนตายต่อหน้าต่อตานางแน่ๆแม้นางจะยังเด็กนัก แต่ด้วยประสบการณ์ที่ผ่านมาก็ทำให้เด็กน้อยเข้าใจโลกที่นางอยู่อย่างถ่องแท้‘เรียบร้อย ข้าต้องไปแล้วนะ’ ด้วยความไร้เดียงสา นางคิดว่าทำแค่นี้จิ้งจอกตัวนั้นคงรอดตายแล้ว ก่อนจะเดินลงจากเขาไป...ดวงตาของ...
Comments