Home / รักโบราณ / สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง / บทที่ 9 นางเป็นเพียงมนุษย์คนหนึ่ง

Share

บทที่ 9 นางเป็นเพียงมนุษย์คนหนึ่ง

last update Last Updated: 2025-04-08 20:00:58

บทที่ 9

นางเป็นเพียงมนุษย์คนหนึ่ง

“ขออภัยฮูหยินประมุข แต่ข้าน้อยขอบังอาจถาม... ฮูหยินประมุขมาที่นี่ทำไมหรือเจ้าคะ?”

“ข้าอยากทำอาหาร”

“หากอยากกินอะไรบอกข้าน้อยได้ ข้าน้อยจะนำมาบอกกับคนครัว ฮูหยินประมุขไม่เห็นต้องมาเองเลยเจ้าค่ะ”

การมาถึงห้องครัวด้วยตนเองของผู้เป็นนาย สร้างความอกสั่นขวัญแขวนให้กับคนครัว เนื่องจากห้องครัวเป็นสถานที่ไร้ซึ่งความสนใจ หากทำอาหารออกมาดีก็ดีไป แต่หากทำอาหารออกมาไม่ดีนอกจากจะโดนตำหนิแล้ว บางคนอาจจะบุกมาถึงห้องครัวเฉกเช่นฟางเหนียง ซึ่งเรื่องนี้ฟางเหนียงรู้ดีอยู่แล้วจึงได้เอ่ยออกไปว่า

“ข้าอยากทำอาหารด้วยตนเอง ข้าอยากปรนนิบัติท่านประมุขของพวกเจ้า” สตรีตัวน้อยเอ่ยออกไปเช่นนั้น ฮวาอินถึงกับสะดุ้ง

แม่นางผู้นี้คล้ายกับเฉลียวฉลาด รู้วิธีการเอาตัวรอด หากแต่ในเรื่องเช่นนี้กลับโง่เขลายิ่งนัก แน่นอนว่าเรื่องที่ฟางเหนียงเอ่ยเรียกจินหมิงเยว่ต่อหน้าธารกำนัลว่าท่านประมุขอย่างห่างเหินเช่นนี้ จะต้องถึงหูของบุรุษเป็นแน่

และด้วยการเรียกขานนี้ทำให้ปีศาจจิ้งจอกตำแหน่งคนครัวมองว่า นางยังมิได้รับความโปรดปรานจากประมุขของตนไม่ต่างไปจากสตรีนางอื่นที่เคยเข้ามา และไม่นานก็คงกระทำผิดจนต้องถูกสังหารอีกเป็นแน่

“ฮูหยินประมุขทำเป็นหรือเจ้าคะ?”

“ข้าพอทำขนมเป็นอยู่บ้าง แต่หากมีอาหารอะไรที่ท่านประมุขชื่นชอบ พวกเจ้าสอนข้าหน่อยเถิด” ฟางเหนียงจงใจเอ่ยกับคนครัวอย่างเป็นมิตร

หนึ่งก็เพื่อผูกมิตร เผื่อวันใดวันหนึ่งพอจะใช้งานพวกนางได้บ้าง สองคนครัวพวกนี้ล้วนแล้วแต่เป็นจิ้งจอก เพราะนางจำได้ว่าสถานที่แห่งนี้คือดินแดนจิ้งจอก ก็คงมีแต่พวกจิ้งจอกนั่นแหละ!

“ได้เจ้าค่ะ” ปีศาจจิ้งจอกตนหนึ่งเสนอช่วยเหลือนาง

ฟางเหนียงยิ้มจนตาหยีเพื่อเผยความจริงใจทุกส่วน จากนั้นนางก็เข้าครัวฝึกทำอาหาร เอาอกเอาใจจิ้งจอกตัวร้ายเพื่อความอยู่รอดของตนเอง

ในค่ำวันนั้นเอง...

สตรีตัวน้อยเดินนวยนาดเข้าไปหาบุรุษ ซึ่งกำลังนั่งครุ่นคิดอะไรอยู่คนเดียวภายใต้ต้นไม้ใหญ่ จินหมิงเยว่รับรู้ถึงการมาหาของนางจากฝีเท้าที่ก้าวเดิน และกลิ่นกายของนาง เนื่องจากจิ้งจอกนั้นมีหูและจมูกที่ดีกว่ามนุษย์หลายเท่า ยิ่งกับจิ้งจอกเก้าหางมีอิทธิฤทธิ์เช่นจินหมิงเยว่แล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึง บุรุษผู้นี้แข็งแกร่งไร้เทียมทาน ถึงขั้นก่อสร้างดินแดนที่มีเพียงจิ้งจอกเท่านั้นขึ้นมาได้

บุรุษเหลือบสายตามองร่างบอบบางที่เดินเข้ามา เว้นระยะห่างพองามก่อนจะยอบกายคำนับ แล้วจัดวางสำรับที่ตรงหน้าของบุรุษ

“นี่อะไร?”

“วันนี้เหนียงเอ๋อร์เป็นผู้ทำอาหารเจ้าค่ะ” สตรีตัวน้อยเผยรอยยิ้มกว้าง ยืดอกอย่างภาคภูมิ

ฟางเหนียงนั้นทำอาหารและขนมเป็น เนื่องจากบางครั้งก็เป็นนางที่ทำอาหารให้คนในบ้าน ในช่วงที่ยังขัดสน ฐานะยากจน เมื่อบิดาตบแต่งกับฮูหยินปัจจุบัน ฐานะก็เลื่อนขั้นเป็นขุนนางขั้นต่ำแต่นางก็ยังคงหุงหาอาหารให้ตามเดิม

เพราะอะไรน่ะหรือ เพราะพวกเขาอยากด้อยค่านางอย่างไรเล่า ข้อนี้ฟางเหนียงรู้ดี แต่รู้แล้วอย่างไร รู้แล้วทำสิ่งใดได้ ทว่าอย่างน้อยมันกำให้นางมีฝีมือการทำอาหารที่สามารถเปิดร้านได้เลย แม้รูปโฉมของนางจะมิได้งามล่มเมือง หรืองามเทียบเท่าน้องสาวต่างมารดา มารยาทเองก็มิได้โดดเด่นเฉกเช่นบุตรสาวขุนนางทั่วไป

เนื่องจากฐานะของครอบครัวเพิ่งถูกเลื่อนขึ้นไม่กี่ปี ครูสอนมารยาทก็สอนให้นางแค่พอมีพื้นฐานไม่เป็นที่ติฉินนินทาของชาวบ้าน มีเพียงความสามารถในการทำอาหารนี่แหละที่นางมั่นอกมั่นใจ

จินหมิงเยว่ตวัดสายตามองฮวาอิน ไอเย็นยะเยือกถูกแผ่รอบกายจนฮวาอินสั่นสะท้าน ยามนั้นเองฟางเหนียงก้มตัวลงตักข้าวใส่ถ้วยให้บุรุษ ทว่านางเองก็รู้สึกได้ถึงไอเย็นยะเยือกนั่น จึงเงยหน้าขึ้นมองบุรุษ จินหมิงเยว่เก็บอารมณ์ขุ่นมัวเอาไว้แทบไม่ทัน

“ทำให้ข้าหรือ?”

“เจ้าค่ะ เหนียงเอ๋อร์ได้คำแนะนำจากคนครัว” นางว่าพลางถือวิสาสะหย่อนกายนั่งลงเคียงข้างบุรุษสูงศักดิ์ ก่อนจะคีบเนื้อปลาและผักลงบนจานของบุรุษ “ลองชิมดูเถิดเจ้าค่ะ”

สตรีตัวน้อยเฝ้ารออย่างใจจดใจจ่อ ดวงตาคู่งามเป็นประกาย เนื่องจากนี่เป็นครั้งแรกที่นางทำอาหารให้กับจิ้งจอก อีกทั้งยังเป็นจิ้งจอกเก้าหาง รสมือของนางนั้นถูกปากมนุษย์ หากแต่ไม่รู้ว่าสัตว์อย่างจิ้งจอกเก้าหางซึ่งบำเพ็ญตบะ จนมีกายหยาบไม่ต่างจากมนุษย์นั้นจะถูกปากรสชาติอาหารของนางหรือไม่

บุรุษเห็นเช่นนั้นก็ต้องคีบปลาที่นางคีบใส่ถ้วยไว้ให้ขึ้นกินอย่างเสียมิได้ ถึงแม้ว่าเนื้อปลาจะเป็นสิ่งที่เขาไม่ชอบก็ตาม แต่ว่าแล้วอย่างไรเล่า ฟางเหนียงทำเพื่อตนถึงเพียงนี้ หากไม่ถึงตายจินหมิงเยว่ก็จะทำให้นางสบายใจ

“อร่อยดี ถือว่าเจ้ามีฝีมือ”

“จริงหรือ เช่นนั้นกินเยอะๆ เลยนะเจ้าคะ” มือเล็กจับตะเกียบคีบเนื้อปลาส่วนที่อร่อยที่สุดให้กับบุรุษอย่างเอาใจใส่ เนื้อปลาตรงส่วนที่ใกล้กับหัว สำหรับฟางเหนียงแล้วอร่อยที่สุด

“เจ้าก็กินด้วยเถิด” คราวนี้จินหมิงเยว่เป็นฝ่ายคีบเนื้อปลาให้กับนางบ้าง ตามด้วยเนื้อหมู เว้นผักเอาไว้เพราะอยากขุนให้นางอ้วน

“ขอบคุณเจ้าค่ะ!” สตรีตัวน้อยเอ่ยพลางยิ้มจนตาหยี พาเอาคนมองยิ้มตามไปด้วย

อาหารมื้อนั้นดำเนินไปอย่างเรียบง่าย ทว่าช่างมีความสุขเหลือเกิน เมื่อกินอาหารเสร็จฮวาอินก็เก็บสำรับ จินหมิงเยว่และฟางเหนียงจึงได้อยู่ด้วยกันเพียงลำพัง

“มีสิ่งใดขาดเหลือหรือไม่?” จินหมิงเยว่เป็นฝ่ายทำลายความเงียบงัน

“ไม่มีเจ้าค่ะ ขอบคุณท่านพี่ที่เมตตา...”

...ไม่สังหารข้า...

ถ้อยคำหลังฟางเหนียงต่อในใจ ถึงอย่างไรจินหมิงเยว่ก็เป็นปีศาจจิ้งจอก การกระทำอันโหดร้ายของบุรุษยังคงฉายชัดอยู่ในหัวของนาง ย้ำเตือนให้นางกระทำตนสงบเสงี่ยม มิเช่นนั้นนางอาจจะเป็นรายต่อไป แม้บุรุษจะเผยท่าทีว่าโปรดปรานนางถึงขั้นมอบลูกแก้วจิ้งจอกให้ ทว่าอย่างไรนางก็หวาดกลัวอยู่ดี อย่างไรป้องกันไว้ก่อนย่อมไม่เสียหาย ทำให้บุรุษรักแต่กว่าทำให้ชิงชัง

“เจ้า...” คราวนี้บุรุษหันกลับไปมองสตรีตัวน้อย เห็นนางนั่งเหม่อมมองออกไปข้างหน้าด้วยสายตาเศร้าสร้อย “ยังหวาดกลัวข้าอยู่หรือไม่?”

“...”

ช่างเป็นคำถามที่ฟางเหนียงไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจินหมิงเยว่จะเอ่ยถามนางเช่นนี้...

“มนุษย์มักจะหวาดกลัวสิ่งที่แตกต่างอยู่เสมอ แม้กระทั่งความเปลี่ยนแปลง... ฤดูกาลซึ่งผันเปลี่ยนในทุกๆ ปี แม้จะรู้อยู่แล้วว่าฤดูกาลนั้นจะมาถึง หากแต่มนุษย์บางคนยังหวาดกลัว”

“เจ้าเป็นหนึ่งในนั้นหรือไม่?”

“...เหนียงเอ๋อร์เองก็เป็นเพียงมนุษย์คนหนึ่งเจ้าค่ะ...”

“เช่นนั้นทำอย่างไรเจ้าจึงจะคลายความหวาดกลัวลง”

“ก็คง... ไม่สังหารผู้ใดกระมังเจ้าคะ”

“...”

แล้วทุกอย่างก็ตกอยู่ในความเงียบงัน ฟางเหนียงไม่รู้ว่าตนเองอวดดีเกินไปหรือไม่ หากทว่านางก็ได้พูดออกไปแล้ว แม้จะบอกว่ากลัวแต่ก็ทำเหมือนไม่กลัวเลยสักนิด แม้แต่ตัวนางเองยังสับสนในตนเอง...

ในคืนนั้นเองจินหมิงเยว่ได้มายังห้องครัว แล้วจัดการสอบปากคำคนครัวจนรู้ถึงของผู้กระทำผิด

ปลา คือสิ่งที่บุรุษไม่ชื่นชอบเลยแม้แต่น้อย หากแต่คนครัวแนะนำสำรับอาหารนี้ให้แก่ฟางเหนียง มีเจตนาร้ายให้ตนขุ่นเคืองนางอย่างชัดเจน

“เจ้ารู้ความผิดของเจ้าใช่หรือไม่”

“ขะ ข้าน้อย...”

“ข้าถามว่ารู้หรือไม่!?”

“อึก!”

มวลแสงสีแดง คลื่นพลังสังหารของจินหมิงเยว่อันเป็นเอกลักษณ์ แค่เพียงเผยมันออกมาก็สร้างความอึดอัดจนแทบหายใจไม่ออกสู่สิ่งมีชีวิตที่อยู่ใกล้เคียง ยังไม่ทันที่บุรุษจะได้กระทำสิ่งใด จิ้งจอกเฒ่าชราตนนั้นก็หวาดกลัวจนสิ้นชีพไปเสียเอง

“ขี้ขลาด” จินหมิงเยว่เอ่ยก่อนจะปรายตามองคนครัวทุกคนด้วยนัยน์ตาเคลือบน้ำแข็ง “เจ้าผู้ใดบังอาจมีเจตนาร้ายต่อสตรีของข้า ข้าไม่เอาไว้แน่ หากมิอาจเก็บเจตนาร้ายของตนได้ก็ออกไปเสีย แล้วข้าจะไม่ตามไม่ถามหาสิ่งใดให้มากความ ข้าให้เวลาถึงพรุ่งนี้เช้า หากทุกคนยังมาทำงานตามเดิม แต่ยังมีพฤติกรรมเช่นเดิม...ก็อย่าหาว่าข้าไม่เตือน”

จบถ้อยคำนั้นปีศาจจิ้งจอกชั้นผู้น้อยได้แต่สั่นระริกด้วยความหวาดหวั่นดูเหมือนว่าพวกเขาจะไปแตะต้องสิ่งที่ไม่ควรเข้าให้แล้ว ต่อจากนี้คงต้องระวังให้มากๆ แม้มนุษย์นั้นจะไร้อิทธิฤทธิ์เฉกเช่นปีศาจจิ้งจอก หากแต่ผู้หนุนหลัง คอยปกป้องนางช่างแข็งแกร่งเหลือเกิน

อีกทั้งค่าตอบแทนในการมีทำงานในที่แห่งนี้ก็มากมายมหาศาล ซึ่งแลกเปลี่ยนด้วยความซื่อสัตย์อย่างล้นเหลือ สิ่งที่ได้ยิน ได้รู้ภายในตำหนักพันปี ห้ามแพร่งพรายให้ผู้ใดแม้กระทั่งครอบครัวของตนเอง หากถูกจับได้ก็ต้องทำตามกฎที่ได้ประทับตราเอาไว้ตั้งแต่เริ่มงาน

เมื่อจินหมิงเยว่ออกไป คนครัวก็พากันเก็บร่างของสหาย จะปล่อยทิ้งไว้ตรงนี้ก็ทั้งน่าเวทนาและเสี่ยงที่ฟางเหนียงจะมาเห็น ก่อเกิดความหวาดกลัวภายในใจนางอีก หากเป็นเช่นนั้นคนครัวคงได้ลาไปน้ำพุเหลืองกันยกครัวแน่

ในวันหนึ่งฟางเหนียงครุ่นคิดอยู่เพียงคนเดียวเฉกเช่นเคย ความสงสัยใคร่รู้ทำให้นางเอ่ยถามกับฮวาอิน

“ฮวาอิน”

“เจ้าคะ?”

“ลูกแก้วจิ้งจอกคือสิ่งใดหรือ?”

“คือพลังของจิ้งจอกเจ้าค่ะ เป็นทั้งพลังและชีวิต”

“ชีวิตหรือ?”

“เจ้าค่ะ จิ้งจอกปีศาจทุกตน จะมีแก่นพลังซึ่งมันรวมตัวกันก่อเกิดเป็นลูกแก้ว”

“เจ้าก็มีหรือ?”

“เจ้าค่ะ แต่ตอนนี้มันมิได้อยู่กับข้าหรอกเจ้าค่ะ”

“อ้าว ไหนเจ้าบอกว่ามันเป็นทั้งพลังทั้งชีวิต?”

“ตราบใดที่ลูกแก้วมิได้ซึมซับไอดำชั่วร้าย หรือถูกทำให้แตกสลาย ข้าก็ยังคงมีชีวิตอยู่ดีเจ้าค่ะ ลูกแก้วของข้าอยู่กับน้องสาว น้องของข้ายังเด็กนักพลังยังไม่เสถียร แต่เดิมทีร่างกายก็อ่อนแออยู่แล้ว ข้าจึงให้ลูกแก้วจิ้งจอกแก่นาง เมื่อใดที่พลังของนางเสถียรข้าจึงค่อยเอากลับคืนเจ้าค่ะ”

“อ่า…”

…เป็นสิ่งที่สำคัญมากถึงเพียงนี้ เหตุใดท่านจึงให้ข้ากัน…

“การที่จิ้งจอกให้ลูกแก้ว ไม่ต่างจากบอกกับคนผู้นั้นว่านางสำคัญเทียบเท่าชีวิตของตนนะเจ้าคะ”

ฮวาอินเอ่ยพลางเหลือบสายตามองกลางอกของนาง แสงสว่างอันบริสุทธิ์ของพลังวิญญาณแห่งลูกแก้วจิ้งจอก ไม่มีทางที่ปีศาจจะมองไม่เห็น ฟางเหนียงไร้วรยุทธ์ไม่มีทางที่จะไม่เป็นเหยื่อของปีศาจชั้นต่ำที่อยากเลื่อนฐานะตนเอง หรือแม้แต่ปีศาจระดับสูงที่อยากอยู่เหนือผู้อื่น

“ด้วยเหตุนั้น โปรดอยู่ข้างกายท่านประมุขด้วยเถิดเจ้าค่ะ”

“…ประมุขของเจ้า… น่ากลัวสำหรับข้า”

“ท่านประมุขเป็นปีศาจที่อ่อนโยนมากนะเจ้าคะ แต่การกระทำอาจจะแข็งกระด้างไปเสียหน่อย ท่านมีพลังมากแต่กลับไม่เคยใช้พลังกดขี่ เว้นเสียแต่ผู้ที่ผิดกฎ”

ฟางเหนียงส่ายหน้ารัวๆ ถึงอย่างไรสำหรับนาง จินหมิงเยว่ก็น่ากลัวเหลือเกิน

“เขาน่ากลัว”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 10 อยากจับกิน

    บทที่ 10อยากจับกิน“เขาน่ากลัว” นางพึมพำเสียงเบา ก่อนจะหยัดกายลุกขึ้นแล้วเดินออกไปข้างนอก ในเมื่อจินหมิงเยว่อนุญาตให้นางไปที่ใดก็ได้ตามที่ต้องการ เช่นนั้นนางก็ขอสำรวจรอบตำหนักเสียหน่อยเถิดเพื่อหาทางหนีทีไล่เอาไว้ด้วย เผื่อสักวันหนึ่งจินหมิงเยว่เลิกสนใจในตัวนาง นางจะได้หนีออกไปมีชีวิตเป็นของตนเอง ในยามนั้นคิดว่าจินหมิงเยว่คงไม่ไล่ตามนางแล้ว ทว่ายามนี้ต้องคอยเอาอกเอาใจบุรุษไปก่อน เพราะถึงหนีไปตอนนี้ก็ถูกจับกลับมาอยู่ดี“เจ้าแนะนำตำหนักให้ข้าหน่อยสิ”“ตำหนักพันปีข้าน้อยพอรู้คร่าวๆ มิได้รู้ลึกเจ้าค่ะ เนื่องจากที่นี่แม้แต่ปีศาจจิ้งจอกด้วยกันยังเข้ามายาก มีเพียงผู้ที่ได้รับอนุญาตเท่านั้นเจ้าค่ะ”“ไม่เป็นไร ข้าแค่อยากรู้คร่าวๆ ว่าตรงไหนอยู่ตรงไหนเท่านั้น อ้อ ว่าแต่ ที่นี่มีห้อวหนังสือหรือไม่?”“มีเจ้าค่ะ ท่านประมุขค่อนข้างชื่นชอบหนังสือ อีกทั้งยังเป็นผู้คัดลอกอักษรเหล่านั้นด้วยตนเอง ว่ากันว่าห้องหนังสือภายในตำหนักพันปี

    Last Updated : 2025-04-09
  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 11 ตัวตนของบุรุษปริศนา

    บทที่ 11ตัวตนของบุรุษปริศนา“ทำได้สิ พวกมนุษย์กล่าวขานพวกข้าอยู่หลายสิ่ง ตัวแทนแห่งการบำเพ็ญเพียร ตัวแทนแห่งความพยายาม ตัวแทนแห่งพลังอำนาจ และ... ตัวแทนแห่งตัณหาราคะ” จงใจจดจ้องมองเข้าไปในดวงตาคู่งาม แล้วค่อยๆ โน้มหน้าไปใกล้ๆ จนปลายจมูกสัมผัสกัน “ตัวข้านั้นเป็นทั้งหมด ที่เหล่ามนุษย์ขนานนาม”“ตะ แต่แตงที่ฝืนเด็ดจากต้นย่อมไม่หวาน[1]นะเจ้าคะ”“ไม่ลองแล้วจะรู้หรือ ไม่แน่แตงดิบๆ อาจจะถูกปากกว่าที่คิดก็ได้”...ท่านช่าง... เจ้าเล่ห์สมกับเป็นจิ้งจอกจริงๆ...“หึ!” จินหมิงเยว่หัวเราะเสียงเบาก็จะละออกจากร่างบอบบาง “แต่อย่างไรแตงหวานๆ ก็อร่อย เช่นนั้นข้าจะรอให้แตงหวานก่อนก็ได้”ฟางเหนียงรีบหยัดกายลุกขึ้นจ้องมองบุรุษด้วยความไม่เข้าใจว่าเหตุใดจึงหยุด นางคิดว่าบุรุษจะขืนใจนางแม้นางไม่ยินยอมเป็นแน่...“ทว่าลูกแก้วที่อยู่กับเจ้านั้นสำคัญกับข้า อย่างน้อยทุกเจ็ดวันก็มาให้ข้าได้เติมพลังจาก

    Last Updated : 2025-04-10
  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 12 เติมพลัง

    บทที่ 12เติมพลังเสียงนุ่มทุ้มดังขึ้นที่ข้างหู พร้อมกับลมหายใจอุ่นๆ รินรดแผ่วเบา หนังสือที่อยู่ในมือร่วงหล่นลง โชคดีที่เจ้าของเสียงนุ่มทุ้มคว้าหนังสือเล่มนั้นเอาไว้ ราวกับรู้อยู่ก่อนแล้ว ในณะที่ดวงตาเรียวคมจ้องมองดวงตาคู่งามนิ่งไม่ยอมละสายตา“ทะ ท่านพี่ ข้าตกใจหมด”“ตกใจเรื่องอะไร เว้นเสียแต่ว่าเจ้ากระทำความผิด”“เหนียยงเอ๋อร์กำลังอ่านหนังสือเพลินๆ ท่านพี่เข้ามามิให้สุ้มมิให้เสียงก็ต้องตกใจสิเจ้าคะ”“หากเจ้ามาหาข้าแล้วแกล้งกระโดดกอดคอข้า สาบานเลยว่าข้าไม่มีทางตกใจ” บุรุษว่าพลางยกยิ้มมุมปากด้วยความเจ้าเล่ห์สตรีตัวน้อยถอนหายใจแล้วยื่นมือออกไปคว้าหนังสือที่อยู่ในมือของบุรุษ แต่อีกฝ่ายกลับขยับหนี ฟางเหนียงเหลือบสายตามองบุรุษอีกหน แล้วส่งสายตาดุๆ ใส่ก่อนจะยื่นมือออกไปคว้าหนังสือ ทว่าจินหมิงเยว่ก็ยังกระทำแบบเดิม“ท่านพี่!”คราวนี้จินหมิงเยว่เหลือบสายตาอ่านชื่อหนังสือบนหน้าปก ซึ่งล้วนแล้วแต่

    Last Updated : 2025-04-11
  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 13 ข้าปรารถนาเจ้าอย่างสุดหัวใจ

    บทที่ 13ข้าปรารถนาเจ้าอย่างสุดหัวใจ“เจ้าค่ะ” นางตอบรับด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง เดิมทีฟางเหนียงก็ไม่คิดปฏิเสธอยู่แล้ว เพราะรู้สึกผิดที่ครอบครองลูกแก้วจิ้งจอกเอาไว้ ทั้งๆ ที่มันควรจะอยู่กับเจ้าของหากทว่าข้อเท้าของนางยังเป็นรอยช้ำสีเข้มอยู่เลย นางขอโลภมากและเห็นแก่ตัว ครอบครองมันนานอีกคงไม่เป็นอะไร อย่างไรเสียเจ้าตัวก็อนุญาตนางแล้วรอบนี้จูบที่เคยหวานปานมธุรสกลับถูกบดขยี้ลงมาอย่างเร่าร้อน ฟางเหนียงรู้สึกตกใจจนสะดุ้ง หากถอยหลังหนีได้นางคงถอยไปแล้ว แต่ร่างของนางกลับถูกดันชิดกับชั้นหนังสือน่ะสิ จึงไม่มีโอกาสให้นางได้ถอยห่างเลยแม้แต่น้อย ยิ่งบุรุษกดริมฝีปากลงมา ก็ยิ่งเป็นการเปิดปากของนางให้อ้าออก เพื่อที่จินหมิงเยว่จะได้รุกรานเข้ามาได้อย่างลึกซึ้งมากกว่าเดิม“อื้อ” แม้รสจูบนั้นจะมิได้หวานซาบซ่าอย่างที่นางชื่นชอบ แต่รสจูบเช่นนี้กลับเร่งเร้าให้หัวใจของนางเต้นระรัวได้ดี ฟางเหนียงเผลอไผลไปกับสัมผัสของบุรษ ฝ่ามือหนาเริ่มซุกซน เฟ้นฟ้อนไปทั่วทั้งเรือนร่างของนางกระทั่งถ

    Last Updated : 2025-04-12
  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 14 ทั้งโง่เขลาและดื้อรั้น

    บทที่ 14ทั้งโง่เขลาและดื้อรั้น“ช้าก่อนเจ้าค่ะ ช้าก่อน!”ทันทีที่สารถีเห็นคนงามก็หยุดรถม้าลงแล้วมองนางด้วยความฉงนใจ สภาพของนางดูสะอาดสะอ้านเกินกว่าคนที่หลงทาง อีกทั้งยังดูมีเรี่ยวมีแรงราวกับเพิ่งกินอิ่ม…ใบหน้านี้คุ้นเคยอย่างไรบอกไม่ถูก?...“ข้าขอติดรถท่านไปลงที่หมู่บ้านได้หรือไม่เจ้าคะ?”“เจ้าหลงป่าหรือ?”“เจ้าค่ะ ข้าออกมาตามหากระต่ายป่าที่ข้าเลี้ยงเอาไว้ แต่คลาดกับมัน มารู้ตัวอีกทีก็อยู่กลางป่าเสียแล้ว”“ขึ้นมาสิ ข้าจะพาไปส่งที่หมู่บ้าน”“ขอบคุณเจ้าค่ะ!!” ฟางเหนียงเอ่ยพลางยิ้มกว้าง กำลังจะเดินขึ้นรถม้าทว่าสารถีผู้นั้นก็เอ่ยเรียกนางเอาไว้เสียก่อน“ช้าก่อน เจ้า… ฟางเหนียง!?”“เจ้าคะ? ท่านรู้จักข้าด้วยหรือเจ้าคะ?”พลันโทสะก็ครอบงำบุรุษผู้นี้แล้วกระโดดเข้าจู่โจมฟางเหนียง!!

    Last Updated : 2025-04-13
  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 15 ยินยอม

    บทที่ 15ยินยอม“กลับกับข้าเถิด”สตรีตัวน้อยพยักหน้า ถึงอย่างไรนางก็ต้องกลับกับเขาอยู่แล้ว ไม่มีทางปล่อยให้ผู้ที่บาดเจ็บเพราะความดื้อรั้นของตัวเองกลับไปเพียงคนเดียวเป็นแน่“เดินไหวหรือไม่เจ้าคะ?”“เจ้าประคองข้าหน่อยได้หรือไม่?” บุรุษใช้โอกาสออดอ้อนนางอย่างเจ้าเล่ห์ หากไม่ถือโอกาสนี้ก็ไม่รู้แล้วว่าจะมีโอกาสออดอ้อนนางอีกเมื่อใดแม้บาดแผลจะลึก แต่ตนเป็นปีศาจจิ้งจอก บาดแผลจากสิ่งของมนุษย์อีกทั้งยังไร้พิษ ตราบใดที่มีลูกแก้วจิ้งจอกอยู่ข้างกาย ร่างกายก็สามารถฟื้นคืนสภาพได้อย่างรวดเร็ว“เจ้าค่ะ”เมื่อกลับมายังตำหนักพันปี ฟางเหนียงก็เตรียมที่จะออกไปหาฮวาอิน สำหรับนางแล้วปีศาจด้วยกันย่อมรู้ว่าควรทำอย่างไรกับบาดแผล อีกอย่างนางมาอยู่ที่นี่ก็ได้รับแต่การปรนนิบัติ จึงไม่รู้ว่าข้าวของเครื่องใช้นั้นอยู่ที่ใดบ้าง แต่กลับถูกจินหมิงเยว่คว้าท่อนแขนเอาไว้เสียก่อน“เจ้าจะไปที่ใด?

    Last Updated : 2025-04-14
  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 16 อยากลองจับมันหรือไม่

    บทที่ 16อยากลองจับมันหรือไม่ใบหน้าคมคายเลื่อนลงมาที่ลำคอระหง ไม่รีรอที่จะฝากฝังรอยรักสีเข้มไว้บนเนื้อขาวๆ ของนาง เป็นหลักฐานว่าฟางเหนียงได้เต็มใจร่วมค่ำคืนนี้กับเขาแล้ว ทั้งดูดและเลียอย่างเชื่องช้าราวกับกำลังตราตรึงสัมผัสนี้เข้าไปในกายของนาง“อื้อ ท่านพี่...”“ชอบหรือไม่”“อึก อื้อ” นางไม่ยอมตอบ และถึงแม้จะอยากตอบสิ่งใดออกไปก็ทำได้ยากเย็นเหลือเกิน เมื่อจินหมิงเยว่รุกรานนางอย่างหนักหน่วง แม้แต่การหายใจยังยากแล้ว อารมณ์วาบหวามทำให้นางมิอาจควบคุมตนเองได้“เปล่งเสียงออกมาเถิด ข้าชอบเสียงของเจ้า” บุรุษเอ่ย ขณะที่ฝ่ามือหยาบปลดอาภรณ์ของนางผิวขาวนวลเนียนที่อยู่ด้านใน กระตุกปมของเอี๊ยมสีขาวออกเผยทรวงอกอวบอิ่มที่เคยสัมผัสเมื่อคืนวันวสันต์ และบัดนี้ความงดงามปรากฏแกสายตาอีกครั้งฝ่ามือหยาบกอบกุมความอวบอิ่มทั้งสองเต้า ฟ้อนเฟ้นด้วยความมันเขี้ยว ก่อนจะปาดป่ายหยอกล้อเล่นกับยอดอกสีหวาน ฟางเหนียงเกร็งไปทั่วทั้งร่างกับสัมผัสวาบหวามนี้ น

    Last Updated : 2025-04-15
  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 17 ลูกแก้วจิ้งจอก

    บทที่ 17ลูกแก้วจิ้งจอกไม่รู้กี่โมงกี่ยามแล้ว แต่เจ้าของดวงตากลมก็ค่อยๆ เปิดออกอย่างเชื่องช้า เมื่อแสงแดดด้านนอกส่องเข้ามาจนนางรู้สึกแสบตา พลันบางสิ่งก็บดบังแสงนั้นให้นาง เมื่อฟางเหนียงลืมตาขึ้นด้วยความสงสัย ก็เห็นว่าหางนุ่มนิ่มของจิ้งจอกเจ้าเล่ห์นั่นเองที่โผล่ออกมาเพื่อบังแสงแดดให้กับนางมือเล็กๆ ยื่นออกไปสัมผัสความนุ่มนิ่มของมันเล่นอย่างเอาแต่ใจ หางสีขาวขยับเข้ามาหานางแล้วลูบไล้ตามร่างกายจนนางรู้สึกจั๊กจี้“คิกคิก อย่าแกล้งข้าสิเจ้าคะ”“หึหึ” จินหมิงเยว่หัวเราะก่อนจะตวัดร่างของตนเองไปอีกฝั่งของเตียง เพื่อใช้ร่างกายของตนเองบดบังแสงแดดให้นาง “ตื่นแล้วหรือ? หิวหรือไม่?”ไม่เอ่ยอย่างเดียว กลับโน้มใบหน้าลงไปประทับริมฝีปาก ฝากฝังรอยจูบลงบนหน้าผากเนียนของนางอย่างรักใคร่“กี่ยามแล้วเจ้าคะ?”“ยามเชิน[1]แล้ว”“เจ้าคะ!?” ดวงตาคู่งามเบิกกว้าง ก่อนจะค่อยๆ หยัดกายลุกขึ้น หากแต่ความปวดร

    Last Updated : 2025-04-16

Latest chapter

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 26 ห้วงคำนึงถึงนาง

    บทที่ 26ห้วงคำนึงถึงนางหลายฤดูผ่านไปจินหมิงอันเติบใหญ่เป็นจิ้งจอกหนุ่ม มีอิทธิฤทธิ์มากล้นเดินตามรอยของผู้เป็นบิดา ฟางเหนียงภาคภูมิใจเหลือคณานับที่บุตรชายสง่างามเช่นนี้ อีกทั้งยังรวบรวมพลังสร้างลูกแก้วจิ้งจอกของตนเองได้แล้ว แม้ว่าลูกแก้วจิ้งจอกนั้นจะยังแข็งแกร่งไม่เท่าลูกแก้วจิ้งจอกที่อยู่ในตัวของนางก็ตามยามนั้นเองสายลมพัดผ่านพาเอาความเย็นสบายโอบรอบร่าง ทว่ามีบางสิ่งลอยมากับสายลมด้วย กลิ่นที่คุ้นเคยพาให้หัวใจดวงน้อยเต้นแรงขึ้นมาฟางเหนียงหยัดกายขึ้นแล้วพุ่งตัวออกไปตามกลิ่นนั่น แหวกผ่านพงไพร เป็นหนึ่งเดียวกับสายลม กระทั่งมาถึงหมู่บ้านแห่งหนึ่ง นางเดินตามหาไม่นานก็มาหยุดอยู่ที่บ้านหลังหนึ่ง“ยินดีด้วยเจ้าค่ะ ท่านเจ้าตระกูลได้บุตรชายเจ้าค่ะ!”เสียงเด็กร้องไห้โยเยดังลอดออกมาให้ได้ยิน พร้อมกับเสียงแสดงความยินดีให้กับบิดาและมารดา นางยืนฟังเสียงร้องไห้นั้นอยู่นาน กระทั่งมีคนผู้หนึ่งทักนางเข้า“มาหาผู้ใดหรือเจ้าคะ?”

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 25 สูญเสียไปตลอดกาล

    บทที่ 25สูญเสียไปตลอดกาลดวงตาคู่งามลืมตาขึ้นท่ามกลางพงไพรอันคุ้นเคย ด้านข้างของนางคือร่างของจิ้งจอกหนุ่ม คนรักของนาง… ร่างของบุรุษที่รักนอนแน่นิ่งจนน่าหวาดหวั่นความอบอุ่นที่อยู่กลางอกบ่งบอกให้นางรับรู้ได้ถึงพลังชีวิตอันมหาศาล รวมถึงอิทธิฤทธิ์ของปีศาจจิ้งจอก มันคือลูกแก้วจิ้งจอกไม่ผิดแน่ใช่แล้ว ลูกแก้วจิ้งจอกอยู่กับนางมาตลอด ลูกแก้วจิ้งจอกที่เปรียบเสมือนพลังชีวิตของจินหมิงเยว่ บุรุษเคยบอกกับนางเช่นนั้น นั่นหมายความว่าไม่มีทางที่จินหมิงเยว่จะตาย เขาก็แค่หมดเรี่ยวแรงจึงหลับไปเท่านั้นนางเอ่ยปลอบตนเองแล้วหันไปหาบุรุษ หากทว่าเมื่อมือเล็กๆ แตะที่ร่างของบุรุษ ความเย็นยะเยือกก็แล่นผ่านเข้ามาในร่างของนาง สตรีตัวน้อยตัวแข็งทื่อ พลันน้ำตาก็ไหลอาบสู่สองข้างแก้ม“ไม่จริง ท่านพี่บอกว่า หากมีข้า มีลูกแก้วจิ้งจอก อย่างไรก็ไม่มีทางตายนี่”ฝ่ามือเล็กคว้าท่อนแขนของบุรุษแล้วออกแรงเขย่าแรงๆ เพื่อหวังให้บุรุษฟื้นตื่นขึ้นมา แม้ว่าบุรุษจะเจ็บ หากฟื้นขึ้นมานางจะยินยอมน

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 24 เดิมทีนางควรจะตายไปตั้งนานแล้ว

    บทที่ 24เดิมทีนางควรจะตายไปตั้งนานแล้วยามนั้นเองบางสิ่งร่วงหล่นลงมาจากท้องฟ้า เส้นแสงสีขาวหลายสายล้อมรอบพวกเขาเอาไว้“...!”จินหมิงเยว่และหลี่ตงหยางตวัดแขนขึ้นไปด้านหน้า ล้อมฟางเหนียงเอาไว้เพื่อปกป้องนางสตรีตัวน้อยสะดุ้งตกใจ โอบกอดจินหมิงเยว่เอาไว้ด้วยความหวาดกลัว...คนพวกนี้เป็นใครกัน?...“ส่งตัวนางมา หากต่อต้านจะถือว่าปรปักษ์ต่อสรวงสวรรค์”...สรวงสวรรค์หรือ!?...ดวงตาคู่งามเบิกกว้างด้วยความตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน นางสับสนว่าเกิดสิ่งใดขึ้นกันแน่!?“หากอยากได้ตัวนางนัก ก็เข้ามา!!” เป็นจินหมิงเยว่ที่เอ่ยออกไปอย่างไม่เกรงกลัว แม้จะเป็นผู้ใดหากมาพรากฟางเหนียงไปจากเขา บุรุษไม่ยินยอม!!เกิดการต่อสู้กันระหว่างปีศาจจิ้งจอก เทพหนุ่มตกสวรรค์และองครักษ์สวรรค์ โดยที่ฟางเหนียงอยู่ในการปกป้องของจินหมิงเยว่ตลอดการต่อสู้“ท่านพี่ เกิดอะไรขึ้นกันแน่เจ้าคะ เหตุใ

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 23 เช่นนั้นข้าปรนนิบัติเจ้าแทน

    บทที่ 23เช่นนั้นข้าปรนนิบัติเจ้าแทนฟางเหนียงลงมือทำอาหารหลายอย่าง รวมถึงของหวานด้วย นางคีบทั้งผักทั้งปลาใส่ในถ้วยของบุรุษ ส่วนจินหมิงเยว่ก็คีบแต่พวกเนื้อสัตว์ใส่ถ้วยให้นางเช่นเดิม“เมื่อใดเจ้าจะอ้วนเสียที หืม?”“ข้าไม่อยากอ้วนเจ้าค่ะ”“เหตุใดจึงไม่อยากอ้วน?”“ข้าเป็นสตรี ก็ต้องรักสวยรักงามเป็นธรรมดา หากอ้วนเมื่อสวมใส่อาภรณ์ใดๆ ก็ไร้ความมั่นใจนี่เจ้าค่ะ”“เจ้าเคยอ้วนหรือ?”“ไม่เคยเจ้าค่ะ”“เช่นนั้นเจ้าจะรู้ได้อย่างไรว่าหากอ้วนแล้วจะไม่งดงาม”“เรื่องเช่นนี้ไม่จำเป็นต้องเคยมาก่อนที่เจ้าค่ะ! อีกอย่างข้าไม่เคยบอกว่าไม่อ้วนแล้วจะไม่งดงาม ข้าก็แค่คิดว่าคงไม่มีความมั่นใจ”“อ้วนให้ข้าหน่อยเถิด”“เอ๊ะ! ท่านพี่นี่อย่างไร หากอยากได้สตรีอ้วนๆ ก็ไปหาที่อื่น ไม่ต้องมาหาที่ข้า!”&l

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 22 สัญชาตญาณที่ต้องปลดปล่อย

    บทที่ 22สัญชาตญาณที่ต้องปลดปล่อยฟางเหนียงขยับกายไปนั่งลงบนตักของบุรุษ จากนั้นก็ใช้สะโพกกดลงบนความแข็งแกร่ง ครอบครองแก่นกายบุรุษเพศเข้าไปในตัวของตนเอง“อ่า...” ทั้งฟางเหนียงและจินหมิงเยว่ครางด้วยความสุขสมสตรีตัวน้อยโอบกอดบุรุษแนบอกแล้วเชิดหน้าขึ้น ก่อนจะจะเริ่มขยับสะโพกของตนเองด้วยท่าทางที่ดูเก้ๆ กังๆ ในช่วงแรก ทว่าไม่นานความวาบหวาม รัญจวนใจ ร่างกายก็ได้นำพาให้นางสามารถขับเคลื่อนร่างกาย มอบความเสียวซ่านให้กับบุรุษได้เป็นอย่างดีนางเอนกายไปข้างหลัง ใช้มือเกาะบ่าของบุรุษเอาไว้ก่อนจะเด้งสะโพกระรัว รับรู้ได้ถึงความแข็งแกร่งของแก่นกายได้อย่างชัดเจน“อ๊า ท่านพี่ อื้ม!” ทรวงอกของนางถูกดูดดื่มอย่างหื่นกระหาย แม้มันจะเจ็บเล็กน้อยเพราะมีรอยแผลจากการกระทำของบุรุษเมื่อครั้นก่อนหน้า หากแต่ความวาบหวามนั้นมีมากกว่า นางจึงยิ่งแอ่นอกให้ปากหยักดูดดื่มและกลืนกินตามต้องการฟางเหนียงเชิดหน้าขึ้นแล้วร้องครางเสียงหวานอย่างลืมอาย สูญสิ้นสติในการยับยั้งชั่งใจ กลีบกา

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 21 รูปลักษณ์ที่เปลี่ยนไป

    บทที่ 21รูปลักษณ์ที่เปลี่ยนไปวันเวลาผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็ว ฟางเหนียงในวัยสิบหกปีครั้นมาที่ดินแดนจิ้งจอกแห่งนี้เป็นครั้งแรก บัดนี้นางอายุสิบแปดหนาวเสียแล้วความงดงามของนางนั้นเพิ่มมากขึ้นเสียจนจินหมิงเยว่แทบจะกกกอดนางเอาไว้ภายในห้องตลอดทั้งวันทั้งคืน ถึงแม้ว่ารอบตำหนักพันปีจะไม่มีผู้ใดย่างกรายเข้ามาได้ หากมิได้รับอนุญาตก็ตาม“ท่านพี่เจ้าคะ!” เสียงเจื้อยแจ้วของฟางเหนียงดังขึ้น พร้อมการปรากฏกายของนาง ในขณะที่จินหมิงเยว่กำลังฝึกพละกำลังและอาคมบุรุษตวัดฝ่ามือครั้งหนึ่งพาร่างบอบบางลอยละล่องมานั่งบนตักของตนเอง แล้วฉวยโอกาสหอมแก้มนางไปหนึ่งที“ว้าย! ท่านพี่! ฮวาอินก็อยู่นะเจ้าคะ”“เฮ้อ ฮวาอินออกจะชอบที่ข้ากับเจ้าพลอดรักกัน”“ท่านพี่!!”เพี๊ยะ!!ว่าแล้วก็ตีท่อนแขนแกร่งไปหนึ่งทีด้วยความเขินอาย จินหมิงเยว่หัวเราะเสียงดัง ยิ่งได้เห็นพวงแก้มทั้งสองข้างขึ้นสีแดงระเรื่อก็ยิ่งอยากแกล้

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 20 งอน

    บทที่ 20งอน“ลองขย่มข้าสิ”“ตะ แต่ข้าไม่รู้”“ทำแบบนี้”“อ๊ะ!?”ฝ่ามือหยาบยกสะโพกกลมขึ้นแล้วกดลงให้ครอบครองความแข็งแกร่งของตนเอง ความเสียวซ่านแล่นพล่านไปทั่วทั้งร่างบอบบางฟางเหนียงขยับตามการนำพาของบุรุษ กระทั่งหาจังหวะของตนเองเจอ จินหมิงเยว่ก็เปลี่ยนเป็นบีบเคล้นสะโพกกลมกลึงด้วยความมันเขี้วแทนท่วงท่าของนางสร้างความรัญจวนในเหลือเกิน มันเชื่องช้าและละมุนละไม ราวกับจงใจทรมานจินหมิงเยว่ให้ต้องอดทนกับกามารมณ์ เกร็งทั่วทั้งร่างจนเห็นก้อนกล้ามเนื้อชัดเจน อีกทั้งเส้นเลือดยังปูดโปนออกมา“อ่า เหนียงเอ๋อร์ เจ้าช่าง...” บุรุษมิอาจเอื้อนเอ่ยได้อีก เมื่อนางเริ่มขยับถี่ขึ้นเรื่อยๆ มิได้เข้าสุดออกสุดเหมือนอย่างในครั้งแรก แต่เป็นการกดสะโพกระรัว“อืม” นางครางเสียงหวานแล้วแหงนหน้าขึ้นตามอารมณ์ จินหมิงเยว่ก้ามหน้าลงดูดดื่มกับยอดอกสีหวานเข้าปากอย่างกระหายความรู้สึกวาบหวา

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 19 จิ้งจอกเจ้าเล่ห์

    บทที่ 19จิ้งจอกเจ้าเล่ห์ดวงตาคู่งามเปิดอย่างเชื่องช้า คราวนี้ฟางเหนียงไม่ตกใจอีกแล้วว่านางมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร สถานที่ที่ไม่ต่างไปจากสรวงสวรรค์ นางคงถูกเทพองค์นั้นเรียกตัวมาอีกเป็นแน่นางเตรียมที่จะมองหาตัวของผู้ที่เรียกนางมา แต่ไม่ทันที่จะได้หยัดกายลุกขึ้นเสียด้วยซ้ำ เสียงทุ้มน่าฟังก็ดังขึ้นเหนือหัว“เดี๋ยวนี้เจ้าไม่ตกใจแล้วหรือ?”ฟางเหนียงหยัดกายลุกขึ้น ก่อนจะหันไปยอบกายคำนับตามมารยาท“คำนับ ท่านเทพเจ้าค่ะ”“อ่า เจ้ารู้แล้วสินะ… รู้ได้อย่างไร หมิงเยว่บอกเจ้าหรือ?”“ท่านพี่ของข้ารู้จักกับท่านเป็นการส่วนตัวด้วยหรือเจ้าคะ?”“อ่า มิใช่สินะ”ใบหน้าคมคายหม่นลงเล็กน้อย ยิ่งสร้างความประหลาดใจให้กับฟางเหนียงดูเหมือนว่าทั้งสองจะรู้จักกันสินะ แต่รู้จักกันด้วยดีหรือร้ายมิอานคาดเดาได้“ท่านเทพ… จุดประสงค์ของท่านคือสิ่งใดกันแน่?”สตรีตัวน้อยรู้สึกหวาดหวั่นเหลือเกิน หวาดกลัวว

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 18 มิอาจยอมให้นางเสียหาย

    บทที่ 18มิอาจยอมให้นางเสียหายลิ้นสากหลีกหนีเรียวลิ้นของนาง ลิ้นของนางก็ยังตามติดไม่ออก กลายเป็นจูบที่แสนดูดดื่มจนเกิดเสียงน่าอาย เมื่อยามที่ฟางเหนียงยอมแพ้คิดจะถอนริมฝีปากออก จินหมิงเยว่ก็เป็นฝ่ายคว้าท้ายทอยของนางแล้วกดให้แนบแน่นยิ่งกว่าเดิม จากนั้นก็เป็นฝ่ายรุกรานโพรงปากอุ่น ตักตวงความหอมหวานอย่างเร่าร้อน ทั้งๆ ที่เมื่อครู่เอาแต่หลีกหนีปฏิเสธนางแท้ๆ...จิ้งจอกเจ้าเล่ห์!!...อดมิได้ที่จะต่อว่าบุรุษในใจที่คิดหลอกนาง แต่ก็ยอมให้บุรุษรุกรานแต่โดยดี เพราะจูบหวานๆ ที่ถูกส่งมอบมามันพาให้ร่างของนางอ่อนระทวย เคลิบเคลิ้มไปกับรสจูบซึ่งราวกับเอาอกเอาใจนาง นางจะยอมให้อภัยจินหมิงเยว่ก็แล้วกันเนิ่นนานกว่าทั้งสองจะถอนริมฝีปากออกจากัน ดวงตาสบประสานกันของหวานซึ้ง คล้ายกับกำลังแลกเปลี่ยนความรู้สึกที่มีให้กันและกัน“เอาลูกแก้วคืนไปหรือยังเจ้าคะ?”“ยัง”“อ้าว?”“ข้าฝากไว้กับเจ้า หากข้าบาดเจ็บเจ้าจะได้จู

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status