แชร์

บทที่ 25 สูญเสียไปตลอดกาล

ผู้เขียน: ฮวาเฟิ่งหวง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-04-24 20:00:51

บทที่ 25

สูญเสียไปตลอดกาล

ดวงตาคู่งามลืมตาขึ้นท่ามกลางพงไพรอันคุ้นเคย ด้านข้างของนางคือร่างของจิ้งจอกหนุ่ม คนรักของนาง… ร่างของบุรุษที่รักนอนแน่นิ่งจนน่าหวาดหวั่น

ความอบอุ่นที่อยู่กลางอกบ่งบอกให้นางรับรู้ได้ถึงพลังชีวิตอันมหาศาล รวมถึงอิทธิฤทธิ์ของปีศาจจิ้งจอก มันคือลูกแก้วจิ้งจอกไม่ผิดแน่

ใช่แล้ว ลูกแก้วจิ้งจอกอยู่กับนางมาตลอด ลูกแก้วจิ้งจอกที่เปรียบเสมือนพลังชีวิตของจินหมิงเยว่ บุรุษเคยบอกกับนางเช่นนั้น นั่นหมายความว่าไม่มีทางที่จินหมิงเยว่จะตาย เขาก็แค่หมดเรี่ยวแรงจึงหลับไปเท่านั้น

นางเอ่ยปลอบตนเองแล้วหันไปหาบุรุษ หากทว่าเมื่อมือเล็กๆ แตะที่ร่างของบุรุษ ความเย็นยะเยือกก็แล่นผ่านเข้ามาในร่างของนาง สตรีตัวน้อยตัวแข็งทื่อ พลันน้ำตาก็ไหลอาบสู่สองข้างแก้ม

“ไม่จริง ท่านพี่บอกว่า หากมีข้า มีลูกแก้วจิ้งจอก อย่างไรก็ไม่มีทางตายนี่”

ฝ่ามือเล็กคว้าท่อนแขนของบุรุษแล้วออกแรงเขย่าแรงๆ เพื่อหวังให้บุรุษฟื้นตื่นขึ้นมา แม้ว่าบุรุษจะเจ็บ หากฟื้นขึ้นมานางจะยินยอมน้อมรับความผิด ที่บังอาจทำให้ร่างกายของประมุขมีบาดแผล ขอเพียงจินหมิงเยว่ฟื้นขึ้นมา ลืมมตามองนาง...

“ท่านพี่ ฮึก ท่านพี่ ไหนว่าจะปกป้องข้า ท่านโกหกข้าหรือเจ้าคะ ท่านพี่ ตื่นสิ ท่านพี่ ท่านพี่!!”

ความจริงทำเอาร่างบอบบางสั่นระริก ความจริงที่ว่าจินหมิงเยว่เสียสละให้นางได้มีชีวิตอยู่อย่างยืนยาวตราบชั่วนิรันดร์ โดยแลกกับชีวิตของตนเอง…

“อ๊าก!!!”

ฟางเหนียงโผเข้าโอบกอดร่างไร้วิญญาณของบุรุษอันเป็นที่รัก โอดครวญอย่างเศร้าโศกกับการสูญเสียผู้เป็นที่รักอย่างไม่มีวันหวนกลับคืน

หัวใจของนางแตกสลายเสียยิ่งกว่าเศษแก้วที่ถูกบุตรเป็นผุยผง มิอาจนำกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ ภายในใจของนางนั้นทุกข์ระทมเหลือเกิน นางร้องไห้จนน้ำตาแทบเป็นสายเลือด หัวใจจะขาดอยู่รอนๆ

โดยไม่รู้เลยว่าอารมณ์ความรู้สึกของนางหากไม่ควบคุมให้ดีๆ จะเกิดภัยพิบัติ ท้องฟ้าแปรปรวน สายลมพัดหอมกระหน่ำ พลังในกายของนางพลุกพล่านไปตามอารมณ์เศร้าหมอง มันรุนแรงมากขึ้นยากที่จะมีผู้ใดหยุดยั้งมันได้ เพราะนางได้กลายเป็นเจ้าของลูกแก้วจิ้งจอกนี้อย่างสมบูรณ์แล้ว เมื่อเจ้าของเก่าสิ้นชีพไป ผู้ที่ถือครองอยู่ก็จะกลายเป็นผู้ถือครองอย่างชอบธรรม

นางพยายามส่งคืนลูกแก้วจิ้งจอกให้กับบุรุษ หากทว่าร่างไร้วิญญาณมิอาจดูดกลืนลูกแก้วจิ้งจอกเข้าไปได้ ยามนั้นเองนางจำได้ว่ามีบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่รักษาได้แทบทุกโรค แม้กระทั่งคนใกล้ตายก็สามารถฟื้นคืนชีพขึ้นมาได้ สตรีตัวน้อยจึงหยัดกายลุกขึ้นแล้วแบกร่างกำยำของบุรุษไปยังที่นั่น

พาร่างกำยำลงแช่บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์แล้วภาวนาอย่างแรงกล้า หากแต่แช่ไปสองชั่วยามแล้ว จินหมิงเยว่ก็ยังคงไม่ลืมตาขึ้นมา เสียงหัวใจ เปิดเสียงลมหายใจยังแผ่วเบาสักนิดก็ยังไม่มี

ความหวังของนางพังทลายลง เหลือเพียงความว่างเปล่า… สิ่งที่ฟางเหนียงทำได้มีเพียงร่ำไห้อย่างหนักหน่วงเพียงเท่านั้น

หลายร้อยปีผ่านไป

จิ้งจอกตัวน้อยวิ่งเล่นไปทั่ว เล่นกับเหล่าแมลงที่บินกันให้ว่อน แต่ที่ชอบที่สุดเห็นจะเป็นต้นไม้ใหญ่กลางสวนบุปผาพันปีแห่งนี้ จิ้งจอกน้อยรับรู้ได้ถึงพลังงานอบอุ่น ตั้งแต่เล็กจนโตก็มักจะนอนหลับใต้ต้นไม้ต้นนี้ในช่วงกลางวัน ส่วนช่วงกลางคืนก็ชอบนอนซบบนอกของมารดา

“มาอยู่ที่นี่อีกแล้ว”

“ท่านแม่!!”

มนุษย์จิ้งจอกตัวน้อย แม้จะแปลงกายเป็นมนุษย์ได้ แต่หางจิ้งจอกยังคงโผล่มาให้เห็น เจ้าตัวน้อยกระโดดเข้าสู่อ้อมกอดของมารดา

ฟางเหนียงเงยหน้าขึ้นมองต้นไม้ใหญ่ซึ่งสูงตระหง่านอย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังเป็นศูนย์กลางรวมพลังของแดนจิ้งจอกแห่งนี้ และใต้พื้นพสุธาแห่งนี้เคยเป็นที่ฝังร่างของประมุขจิ้งจอกคนก่อน... จินหมิงเยว่

หลังจากที่นางรับรู้ว่าจินหมิงเยว่มิอาจกลับคืนมาได้แล้ว นางก็พร้อมที่จะตายตามบุรุษไป หากแต่ลูกแก้วจิ้งจอกช่วยต่อเติมพลังชีวิตของนาง ฟื้นฟูร่างกายของนางซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนนางเหนื่อยเหลือเกิน เหนื่อยที่จะพยายามตายแล้ว ชีวิตของนางช่างแสรันทด ในยามที่อยากตายก็ยังมิอาจตายได้ง่ายๆ

ฮวาอินคอยอยู่กับนางตลอด คุยจ้อไปเรื่อยเฉกเช่นวันวานแต่นางก็ยังคงซึมเศร้าไม่ดีขึ้นเลย กระทั่งฮวาอินให้หมอมาตรวจอาการของนางก็ได้พบกับเรื่องน่าตกใจ และสิ่งที่จะทำให้ฟางเหนียงมีชีวิตอยู่ต่อ นั่นก็คือในท้องของนางมีกำลังเด็กน้อย!

เมื่อได้รู้ฟางเหนียงก็มิอาจคิดสังหารตนเองได้อีกต่อไป นางโอบกอดตนเองแล้วร่ำไห้อยู่หลายคืน บางครั้งก็ออกไปนอนที่กลางสวนบุปผาพันปี ร่ำไห้กระทั่งรุ่งเช้า ในวันหนึ่งเมื่อนางตื่นขึ้นมาจุดที่เคยฝังร่างของบุรุษกลับมีต้นไม้ใหญ่มาแทนที่ ต้นไม้ใหญ่แผ่ขยายออกไปอย่างกว้างขวาง สร้างร่มเงาให้กับนางราวกับเป็นตัวแทนของจินหมิงเยว่ ที่เคยเอ่ยว่าจะปกป้องนาง

บุรุษได้ทำตามที่เอ่ยจริงๆ ลูกแก้วจิ้งจอกช่วยชีวิตของนางเอาไว้ อีกทั้งยังฝากฝังบุตรเพื่อให้ฟางเหนียงมีเหตุผลในการมีชีวิตอยู่ต่อ และ... กลายเป็นต้นไม้ใหญ่เพื่อให้นางระลึกถึง เป็นจุดรวมพลังดินแดนแห่งนี้ราวกับกำลังช่วยเหลืองานของนาง เนื่องจากนางต้องกลายเป็นประมุขจิ้งจอก คอยดูแลดินแดนแห่งนี้...

“ท่านแม่”

“อืม?” นางสลัดความคิดเหล่านั้นออกจากหัว ก่อนจะกดสายตาก้มลงมองจิ้งจอกตัวน้อยในอ้อมกอดของนาง

“ท่านแม่ชอบต้นไม้หรือขอรับ?”

“อืม...” เผยรอยยิ้มอ่อนโยนแล้วจูบที่หน้าผากของจิ้งจอกน้อยแสนซน ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองต้นไม้ใหญ่ต้นนี้อีกครั้ง “แม่รักต้นไม้ต้นนี้มาก”

สองแม่ลูกยืนอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ พูดคุยเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ มากมาย ช่างเป็นชีวิตที่เรียบง่ายและแสนสงบสุขเหลือเกิน

ในขณะเดียวกันนั้น ณ แดนสวรรค์ ได้เกิดการผลัดเปลี่ยนอำนาจ หลี่ตงหยางได้กลายเป็นเทพสูงสุดด้วยความสามารถของตนเอง และความเห็นชอบจากทุกคนในแดนสวรรค์

หลี่ตงหยางได้สืบหาความจริงจากเรื่องราวเมื่อหลายพันปีก่อน เมื่อครั้นก่อนหน้าหลี่ตงหยางยังเยาว์วัยนัก แม้จะสืบเสาะหาความจริงให้กับจื่อหยางเพียงใด หากแต่ก็คล้ายกับถูกขัดขวางตลอด บัดนี้บุรุษกลายเป็นผู้มีอำนาจสูงสุดแล้ว จึงสืบหาต้นตอของเหตุการณ์นี้ได้อย่างง่ายดายราวกับพลิกฝ่ามือ ที่ตอนนั้นหลี่ตงหยางมิอาจหาความจริงได้โดยง่าย เนื่องจากคนร้ายที่อยู่เบื้องหลังก็คือสตรีผู้อยู่เคียงข้างบัลลังก์สวรรค์แห่งนี้

นางสวรรค์ชั้นต่ำสุดซึ่งอยู่ในเหตุการณ์นั้นโดยบังเอิญได้เล่าความจริงทั้งหมด ในตอนนั้นจื่อหยางโดนดูถูกเหยียดหยามไปถึงบุพการีและพี่ชายเช่นหลี่ตงหยาง หากเหยียดหยามนาง จื่อหยางไม่โกรธ หากกล่าวถึงบุพการีที่รักนางมิอาจอดทนอดกลั้นได้ จึงบันดาลโทสะทำร้ายร่างกายพี่สาวต่างมารดาผู้นั้น หากแต่มิได้ตั้งใจให้ถึงตาย

ทว่าพี่สาวต่างมารดาผู้นั้นตั้งใจทำร้ายจื่อหยางให้ถึงตาย แต่จื่อหยางนั้นมีไข่มุกป้องกันกาย ไม่ว่าภัยใดๆ สามารถปกป้องนางได้หนึ่งครั้ง และสะท้อนกลับหาผู้ที่คิดจะทำร้ายนางด้วยพลังที่มากกว่าหลายเท่า นางไปช่วยปลาน้อยตนหนึ่งเข้า จึงได้ของตอบแทนจากท้องทะเล และด้วยเหตุนั้นทำให้พี่สาวต่างมารดาของนางสิ้นชีพไป

ในตอนแรกนางปฏิเสธข้อกล่าวหา ทว่าทุกคนทำให้นางต้องยอมจำนน ท้ายที่สุดด้วยความรู้สึกผิดจื่อหยางในยามนั้นจึงได้ยอมรับด้วยตนเอง ว่าเป็นผู้สังหารพี่สาวต่างมารดา....

ได้ยินเรื่องราวเช่นนี้แล้วหลี่ตงหยางก็เศร้าใจเหลือเกิน จื่อหยางน้องสาวของตนได้รับความไม่เป็นธรรม อีกทั้งยังได้รับโทษไปผ่านด่านเคราะห์อันโหดร้ายบนโลกมนุษย์นั้นสี่ภพสี่ชาติ ยังไม่รวมถึงโดนโทษทัณฑ์สายฟ้าจนวิญญาณได้รับความเสียหาย หากมิได้จินหมิงเยว่ ป่านนี้ดวงจิตของจื่อหยางคงแตกสลายไปแล้ว...

บัดนี้จื่อหยางไร้ความผิด หลี่ตงหยางจึงลงจากสวรรค์เพื่อชวนจื่อหยาง ซึ่งบัดนี้มีนามใหม่ว่าฟางเหนียงกลับคืนสู่สรวงสวรรค์

“หยางเอ๋อร์ อ่า ไม่สิ เหนียงเอ๋อร์…”

“คำนับเจ้าค่ะ ท่านเทพ”

ฟางเหนียงซึ่งอุ้มบุตรชายเอาไว้ยอบกายคำนับ

“ท่านลุง!” จินหมิงอันลงจากอ้อมกอดของมารดาแล้วโค้งคำนับเช่นเดียวกัน เห็นแล้วข่างน่ารักน่าเอ็นดูเสียจริง

“อืม สบายดีหรือไม่ อันเอ๋อร์”

“ขอรับ ท่านลุง”

“เจ้าไปวิ่งเล่นก่อน ข้าขอคุยกับท่านแม่ของเจ้าสักหน่อยได้หรือไม่”

“ขอรับ”

แล้วจิ้งจอกน้อยก็ออกไปวิ่งเล่นรอบตำหนักพันปี หลี่ตงหยางหันกลับมาหาฟางเหนียงหรือก็คือจื่อหยาง

“ข้าสืบหาความจริงให้เจ้าแล้ว… เรื่องในอดีตมิใช่ความผิดของเจ้า เจ้ามิได้สังหารผู้ใด”

“มันเกิดอะไรขึ้นเจ้าคะ?”

หลี่ตงหยางเอ่ยเล่าความจริง และเมื่อได้รู้ความจริงสองพี่น้องต่างคิดเช่นเดียวกันว่า มันช่างไม่ยุติธรรมต่อจื่อหยางเสียเลย นางต้องผ่านด่านเคราะห์ เวียนว่ายตายเกิดเฉกเช่นมนุษย์มาหลายภพหลายชาติ อีกทั้งทุกชาติจะต้องตายตกอย่างทุกร์ทรมาน

ทว่าก็เข้าใจได้ที่จื่อหยางยอมรับผิด นางคงจะตกใจไม่น้อยที่อยู่ดีๆ พี่น้องของตนก็ต้องมาตายเพราะการสะท้อนกลับของไข่มุกป้องกัน

“กลับสวรรค์กันเถิด กลับไปในที่ที่เจ้าควรอยู่”

“ท่านพี่ไม่คิดว่ามันคือโชคชะตาของข้าหรือเจ้าคะ…” นางหันกลับไปเผชิญหน้ากับต้นไม้ใหญ่ซึ่งมีพลังอันอ่อนโยนให้กับนางอยู่เสมอ “โชคชะตาในการนำพาให้ข้าพบกับรักแท้”

ฝ่ามือเล็กสัมผัสต้นไม้ใหญ่ ซึ่งนางเชื่อว่าเป็นตัวแทนของจินหมิงเยว่ ไม่ว่าจะครั้นอดีตหรือปัจจุบัน จินหมิงเยว่ก็คอยอยู่เคียงข้างนางอยู่ตลอด…

“ข้าไปมิได้ ไม่สิ…” ฟางเหนียงหันกลับไปหาหลี่ตงหยาง ที่มองนางอย่างเวทนา เพราะรู้ดีถึงเหตุผลของนางมากเกินกว่าผู้ใด “ข้าไม่อยากไปเจ้าค่ะ… ยามนี้ข้าได้กลายเป็นจิ้งจอกแล้ว ผูกสัมพันธ์กับแดนจิ้งจอก อีกทั้งยังมีบุตร จะให้ข้าจากไปได้อย่างไรเจ้าคะ?”

“ข้ารู้ว่ามันอาจจะโหดร้ายต่อผู้ที่จากไป ทว่าผู้ที่ต้องอยู่ต่อคือเจ้า หากเจ้าทุกข์ทรมานมากนัก… ดื่มน้ำยาลืมเลือนดีหรือไม่ แล้วกลับ…”

“ไม่!! ไม่โหดร้ายต่อผู้ใด แต่โหดร้ายต่อข้า! จะให้ข้าหลงลืมความรักทั้งหมดได้อย่างไรเจ้าคะ”

หยาดน้ำตาไหลรินอาบสองข้างแก้ม หลี่ตงหยางเจ็บปวดใจยิ่งนักที่มิอาจทำสิ่งใดได้…

“ข้าขอโทษ ข้าแค่… ไม่อยากให้เจ้าร้องไห้ เจ้าอาจจะจำมิได้ อาจจะหลงลืมไป แต่อย่างไรข้าก็เป็นพี่ชายของเจ้า หากลำบากอะไรให้เรียกข้า ข้าจะมาหาเจ้า… เช่นนั้นข้าคงต้องกลับก่อน สวรรค์ขาดผู้ครองบัลลังก์นานๆ ไม่ดีนัก”

แล้วหลี่ตงหยางก็กลับแดนสวรรค์ไป หากแต่ได้ทิ้งบางอย่างเอาไว้ นั่นก็คือของเล่นสำหรับเด็ก และอาภรณ์เนื้อดีจากสรวงสวรรค์ อย่างน้อยก็อยากทำบางสิ่งให้น้องสาวและหลานชาย แม้ว่านั่นจะเป็นเรื่องเล็กน้อยก็ตาม

…ข้าขออภัยเจ้าค่ะ ข้ามิอาจกลับแดนสวรรค์ได้ ใจข้าผูกติดอยู่กับคนผู้หนึ่ง มิอาจจากไปได้เลยเจ้าค่ะ…

นี่เป็นครั้งแรกหลังจากจินหมิงอันเกิด ที่นางร่ำไห้มากมายถึงเพียงนี้

ตลอดมานางอดทนอดกลั้น มิอาจร้องไห้ให้บุตรชายเห็น แม้ภายในใจจะอัดแน่นไปด้วยความคะนึงหาผู้ที่จากไปอย่างไม่มีวันหวนกลับมากมายเพียงใด ก็ทำได้แค่ระลึกและเศร้าเพียงในใจ แต่แล้วในวันนี้มันกลับถูกกระตุ้น กำแพงที่สร้างขึ้นเพื่อปกป้องอารมณ์อ่อนไหวพังทลายลงเสียแล้ว

นางพิงซบต้นไม้ใหญ่แล้วร่ำไห้ด้วยความคะนึงหาสุดหัวใจ…

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 26 ห้วงคำนึงถึงนาง

    บทที่ 26ห้วงคำนึงถึงนางหลายฤดูผ่านไปจินหมิงอันเติบใหญ่เป็นจิ้งจอกหนุ่ม มีอิทธิฤทธิ์มากล้นเดินตามรอยของผู้เป็นบิดา ฟางเหนียงภาคภูมิใจเหลือคณานับที่บุตรชายสง่างามเช่นนี้ อีกทั้งยังรวบรวมพลังสร้างลูกแก้วจิ้งจอกของตนเองได้แล้ว แม้ว่าลูกแก้วจิ้งจอกนั้นจะยังแข็งแกร่งไม่เท่าลูกแก้วจิ้งจอกที่อยู่ในตัวของนางก็ตามยามนั้นเองสายลมพัดผ่านพาเอาความเย็นสบายโอบรอบร่าง ทว่ามีบางสิ่งลอยมากับสายลมด้วย กลิ่นที่คุ้นเคยพาให้หัวใจดวงน้อยเต้นแรงขึ้นมาฟางเหนียงหยัดกายขึ้นแล้วพุ่งตัวออกไปตามกลิ่นนั่น แหวกผ่านพงไพร เป็นหนึ่งเดียวกับสายลม กระทั่งมาถึงหมู่บ้านแห่งหนึ่ง นางเดินตามหาไม่นานก็มาหยุดอยู่ที่บ้านหลังหนึ่ง“ยินดีด้วยเจ้าค่ะ ท่านเจ้าตระกูลได้บุตรชายเจ้าค่ะ!”เสียงเด็กร้องไห้โยเยดังลอดออกมาให้ได้ยิน พร้อมกับเสียงแสดงความยินดีให้กับบิดาและมารดา นางยืนฟังเสียงร้องไห้นั้นอยู่นาน กระทั่งมีคนผู้หนึ่งทักนางเข้า“มาหาผู้ใดหรือเจ้าคะ?”

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-25
  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 1 เครื่องบรรณาการแด่จิ้งจอกเก้าหาง

    บทที่ 1เครื่องบรรณาการแด่จิ้งจอกเก้าหางร่างเล็กๆ ของเด็กหญิงตัวน้อยที่กำลังเดินเก็บสมุนไพรในป่าลึกชะงักเล็กน้อย เมื่อเห็นร่างของเจ้าขนปุกปุยนอนฟุบอยู่ไม่ไกลจากที่นางอยู่มากนัก เด็กน้อยพาตนเองไปใกล้ๆ กับมันก็พบว่าเจ้าก้อนปุกปุยนั้นคือจิ้งจอกตัวน้อย‘หมาน้อย!’แม้ว่านางจะเชื่อว่ามันเป็นหมาน้อยก็ตาม...นางอุ้มจิ้งจอกตัวน้อยหรือหมาน้อยของนางขึ้นมา เห็นว่ามันได้รับบาดเจ็บก็ใช้สมุนไพรที่ตนเองเพิ่งเก็บมา ก่อนจะใช้หินทุบๆ แล้วนำมันไปวางโปะไว้ที่บาดแผลของจิ้งจอกตัวน้อย พร้อมทั้งฉีกแขนเสื้อตนเองแล้วใช้พันที่ท้องของมันเอาไว้ดวงตาใสๆ ของนางมองเจ้าจิ้งจอกน้อยตัวนี้ด้วยความเวทนา อยากจะนำมันไปดูแลเหลือเกิน หากแต่แค่ตัวนางเองก็ลำบากมากพอแล้ว ไม่อยากนำเจ้าสัตว์ตัวน้อยไปทุกข์ยากด้วย อีกอย่างขืนนำจิ้งจอกตัวนี้กลับบ้านไปด้วย มีหวังจากที่จิ้งจอกตัวนี้จะรอดตาย คงถูกตีจนตายต่อหน้าต่อตานางแน่ๆแม้นางจะยังเด็กนัก แต่ด้วยประสบการณ์ที่ผ่านมาก็ทำให้เด็กน้อยเข้าใจโลกที่นางอยู่อย่างถ่องแท้‘เรียบร้อย ข้าต้องไปแล้วนะ’ ด้วยความไร้เดียงสา นางคิดว่าทำแค่นี้จิ้งจอกตัวนั้นคงรอดตายแล้ว ก่อนจะเดินลงจากเขาไป...ดวงตาของ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-03
  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 2 จิ้งจอกเก้าหาง

    บทที่ 2จิ้งจอกเก้าหางฟางเหนียงรู้ว่าหากไม่รับถ้วยเหล้านี้ ก็คงถูกป้อนทางปากเหมือนเมื่อครู่อีกเป็นแน่ จึงยื่นมือเล็กๆ สองมือออกไปรับมันมาอย่างไม่เต็มใจ“ข้าคิดว่า... ท่านเป็นคนช่วยเจ้าค่ะ”“ใช่ แต่ก็ไม่ใช่”“หมายความเช่นไรเจ้าคะ?”“ข้าส่งคนไปจับเจ้า และคนที่ช่วยเจ้าก็คือคนของข้า เช่นนั้นแล้วก็ไม่ต่างจากข้าช่วยเจ้า เพียงแต่ข้ามิได้ไปช่วยด้วยตนเอง”“อ่า... อย่างไรก็ต้องขอบคุณนะเจ้าคะ” สตรีตัวน้อยกระโดดลงจากเตียง จากนั้นก็ประสานมือแล้วยอบกายคำนับ เท่านั้นยังไม่พอ นางยังก้มหัวลงจรดพื้นด้วยท่าทีอ่อนน้อมถ่อมตนอีกด้วย “เหนียงเอ๋อร์เป็นหนี้บุญคุณชีวิตท่านเสียแล้ว หากมีสิ่งใดที่เหนียงเอ๋อร์ตอบแทนท่านได้ โปรดบอกมาเถิดเจ้าค่ะ”“ลุกขึ้น”ฟางเหนียงทำตามอย่างว่าง่าย ก่อนจะจ้องมองบุรุษตาปริบๆ ในขณะเดียวกันจินหมิงเยว่หย่อนกายนั่งลงบนเตียงท่าทีสบายๆ“ข้าช่วยเจ้า เพราะเจ้าเป็นคนในปกครองของข้า คนที่ข้าส่งไปรับเจ้าย่อมรู้ดีว่าหากผู้ใดคิดแตะต้องเจ้า โทษคือตายสถานเดียว”“เจ้าคะ? คะ คนของท่าน?”“ใช่... ชุดนี่” กวาดสายตามองสตรีตัวน้อยตั้งแต่หัวจรดเท้า อาภรณ์พวกนี้มีกลิ่นเครื่องหอม ซึ่งต่างจากกลิ่นกายของฟางเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-03
  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 3 เจ้าสาวจิ้งจอก

    บทที่ 3เจ้าสาวจิ้งจอกร่างกายของนางถูกพันธนาการอย่างร้ายกาจ แม้ท่าทีจะนุ่มนวลหากแต่เมื่อนางขยับ กลับมิอาจขยับร่างกายได้ตามใจ ร่างกายของบุรุษไม่ต่างจากหินผา ราวกับนางติดอยู่ในซอกหินไร้หนทางออก“ฮ้า!!” จวบจนเกือบหมดลมหายใจ จิ้งจอกตัวร้ายจึงถอนริมฝีปากออกเพื่อเปิดโอกาสให้นางสูดลมหายใจเสียงหัวเราะด้วยความเจ้าเล่ห์ระคนเอ็นดูดังขึ้นอย่างพึงพอใจ ก่อนที่อาภรณ์จะถูกปลดออกเผยเรือนร่างขาวผ่องใต้แสงจันทร์เต็มดวง ทว่า… ผิวขาวๆ ราวกับหยกมันแพะกลับแต่งแต้มไปด้วยรอยแผลจากการถูกทุบตีดวงตาเรียวคมจ้องมองมันอย่างโหดเหี้ยม เผลอออกแรงที่ข้อมือเล็กจนสตรีตัวน้อยสะดุ้งกับความเจ็บปวดนั่น“อ๊ะ!”และนั่นก็เรียกสติของจินหมิงเยว่กลับมา… คลายแรงที่มือออก เผยให้เห็นข้อมือเล็กๆ แดงก่ำจากการถูกบีบเมื่อครู่…เจ้าก็ตัวเล็กถึงเพียงนี้ เหตุใดจึงถูกทำร้ายไปทั้งตัว?...“ข้าบอกท่านแล้ว ว่าร่างกายของข้ามิได้งดงาม” เสียงหวานเอ่ยอย่างเศร้าสร้อยร่างกายของสตรีนั้นล้ำค่าไม่ต่างจากพรหมจรรย์ของพวกนาง หากแม้ร่างกายมีบาดแผลเพียงเล็กน้อยจนเกิดเป็นแผลเป็น เป็นข้ออ้างของการหย่าร้างได้ ในสตรีพรหมจรรย์ก็ทำให้พวกนางมิได้ออกเรือนกับบุรุษ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-03
  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 4 เมียของข้า ช่างขี้โวยวายยิ่งนัก

    บทที่ 4เมียของข้า ช่างขี้โวยวายยิ่งนัก“ทะ ท่านจะทำอะไรเจ้าคะ”“เจ้าไม่รู้ หรือแกล้งไม่รู้ หืม?” บุรุษไม่เอ่ยเพียงอย่างเดียว ยังแลบลิ้นเลียริมฝีปากของตนเองอย่างจงใจ“ขะ ข้าไม่แน่ใจ...”“เจ้าคิดว่าอย่างไร?”“ข้า ข้าคิดว่าท่านจะทำให้ข้าเป็นภรรยาของท่าน”“เจ้าเข้าใจถูก”“แล้วเหตุใดจึงต้องให้ข้าอ้าขาเช่นนี้เจ้าคะ”“หึหึ เรื่องนี้เจ้าไม่รู้จริงๆ หรือ?”บุรุษหยั่งเชิงสตรีตัวน้อย แม้นางจะเพิ่งอายุสิบหกปีในวันนี้ หากแต่สงสัยเสียจริงว่าในเรื่องธรรมชาติของการสืบพันธ์ นางไม่รู้จริงๆ หรือ?“ไม่รู้เจ้าค่ะ” ทว่าคำตอบกลับเป็นเสียงหวานสั่นเครือเล็กน้อย และนัยน์ตากลมแสนใสซื่อ“อ่า เจ้านี่ช่าง... ไร้เดียงสาเสียจริง เช่นนั้นคืนนี้ข้าคงต้อง ‘ทำให้เจ้ารู้’ หลายอย่างเลยล่ะ”“ข้ายินดีรับก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-03
  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 28 ตัวตนที่แท้จริงของนาง

    บทที่ 28ตัวตนที่แท้จริงของนางจินหมิงอันนางไม่เป็นห่วงเท่าใดนัก เพราะรู้จากไห่ไท่หยางว่าบุตรชายของตนนั้นอยู่ที่ต้นไม้ใหญ่ ศูนย์รวมพลังของดินแดนจิ้งจอกแห่งนี้ อีกทั้งภายในตัวของบุตรชายนั้นมีลูกแก้วจิ้งจอกอันสมบูรณ์ ไม่นานก็คงฟื้นตัวได้แต่กับตนเองนั้นแม้จะมีลูกแก้วจิ้งจอกซึ่งมีพลังมากมายมหาศาล หากแต่มิใช่ลูกแก้วจิ้งจอกซึ่งเป็นพลังต้นกำเนิดของนาง ไม่ต่างไปจากจิตวิญญาณที่อาศัยร่างของนาง การมีลูกแก้วจิ้งจอกทำให้นางทนความเจ็บปวดได้ ขนาดนางมีลูกแก้วจิ้งจอกยังเจ็บปวดถึงเพียงนี้ ไม่อยากจะนึกภาพเลยว่าถ้าหากนางไม่มีมันจะเจ็บปวดเจียนตายที่ขนาดไหนหากเป็นบาดแผลธรรมดาลูกแก้วจิ้งจอกก็สามารถรักษาให้นางหายได้ในชั่วพริบตา หากแต่มันเป็นแผลที่เกิดจากปีศาจ อีกทั้งร่างกายของนางแต่เดิมทีแล้วนั้นเป็นเพียงมนุษย์ มันจึงค่อนข้างใช้เวลาในการรักษาและฟื้นฟูฟางเหนียงบอกทางบุรุษมายังบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ตลอดมานางเคยหลีกเลี่ยงสถานที่แห่งนี้ มันเต็มไปด้วยความทรงจำยากลืมเลือน นางเคยแช่อยู่ที่นี่พร้อมกับร่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-03
  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 5 ริมฝีปากงดงาม

    บทที่ 5ริมฝีปากงดงามค่ำคืนวสันต์อันเร่าร้อนผ่านพ้นไป เสียงนกขับขานเป็นบทเพลงแรกในยามเช้า ปลุกให้บุรุษและสตรีในห้องหอนอนตื่นจากห้วงแห่งนิทรา ทว่ามีเพียงจินหมิงเยว่ที่ลืมตาตื่นขึ้นอย่างสดชื่น เอียงใบหน้าพินิจสตรีในอ้อมแขนที่สลบระหว่างบทรักเมื่อคืนนี้ ก้มหน้าลงจุมพิตหน้าผากเนียนแนบแน่นทว่าร่างกายร้อนผ่าวทำเอาจินหมิงเยว่สะดุ้งเล็กน้อย…เหตุใดร่างกายของนางจึงร้อนเป็นไฟเช่นนี้?...“เหนียงเอ๋อร์?” มือหนาตบลงบนหัวไหล่เล็กเบาๆ เพื่อปลุกให้นางตื่น หากแต่สตรีตัวน้อยยังคงหลับตาพริ้มเมื่อคืนนางก็สลบคาเตียง เช้าวันนี้นางตัวร้อนผ่าว มันคืออาการอะไรกันแน่? เหตุใดมนุษย์จึงมีร่างกายที่ซับซ้อนเช่นนี้?จินหมิงเยว่คือปีศาจจิ้งจอกเก้าหาง ซึ่งบำเพ็ญเพียรมานานถึงพันปี ตลอดพันปีไม่เคยป่วยไข้เฉกเช่นมนุษย์ ถึงแม้ว่าในเผ่าพันธุ์เดียวกันจะมีอาการเจ็บป่วย หากแต่บุรุษซึ่งปลีกวิเวกฝึกฝนตนหลงลืมมันไปนานเหลือเกิน จึงมิอาจรับรู้เลยว่าอาการนี้คืออาการป่วยไข้ร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-04
  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 6 ตำหนักพันปี

    บทที่ 6ตำหนักพันปี…ละ เลือดของข้าหรือ? จะ จากตรงนั้น!?...“เฮือก!!”“เป็นอะไรหรือเจ้าคะ?”“ละ เลือดข้า!”…ระ รอบเดือนหรือ!? ช่างน่าอายยิ่งนัก!...สตรีตัวน้อยรีบวิ่งเข้าไปดึงผ้าปูออกมาด้วยความอับอาย“ตายจริง ให้ข้าน้อยทำเอาเถิดเจ้าค่ะ”“มิได้ๆ นี่เป็นเลือดของข้า”“มิได้เจ้าค่ะ นี่เป็นงานของข้าน้อย”“ตะ แต่นี่ ระ รอบเดือนของข้านะ”“หืม?” ฮวาอินเอียงคอมองฟางเหนียงซึ่งหน้าแดงก่ำราวกับผลอิงเถา “ข้าน้อยคิดว่าอาจจะเป็นเลือดอย่างอื่นนะเจ้าคะ”“…”“เช่น… เลือดพรหมจรรย์ของท่าน”“…!?”“มาเจ้าค่ะ ข้าน้อยจะเอาไปซัก ระหว่างนั้นฮูหยินประมุขก็ลองตรวจสอบดูนะเจ้าคะ หากเป็นเลือดรอบเดือนจ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-05

บทล่าสุด

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 26 ห้วงคำนึงถึงนาง

    บทที่ 26ห้วงคำนึงถึงนางหลายฤดูผ่านไปจินหมิงอันเติบใหญ่เป็นจิ้งจอกหนุ่ม มีอิทธิฤทธิ์มากล้นเดินตามรอยของผู้เป็นบิดา ฟางเหนียงภาคภูมิใจเหลือคณานับที่บุตรชายสง่างามเช่นนี้ อีกทั้งยังรวบรวมพลังสร้างลูกแก้วจิ้งจอกของตนเองได้แล้ว แม้ว่าลูกแก้วจิ้งจอกนั้นจะยังแข็งแกร่งไม่เท่าลูกแก้วจิ้งจอกที่อยู่ในตัวของนางก็ตามยามนั้นเองสายลมพัดผ่านพาเอาความเย็นสบายโอบรอบร่าง ทว่ามีบางสิ่งลอยมากับสายลมด้วย กลิ่นที่คุ้นเคยพาให้หัวใจดวงน้อยเต้นแรงขึ้นมาฟางเหนียงหยัดกายขึ้นแล้วพุ่งตัวออกไปตามกลิ่นนั่น แหวกผ่านพงไพร เป็นหนึ่งเดียวกับสายลม กระทั่งมาถึงหมู่บ้านแห่งหนึ่ง นางเดินตามหาไม่นานก็มาหยุดอยู่ที่บ้านหลังหนึ่ง“ยินดีด้วยเจ้าค่ะ ท่านเจ้าตระกูลได้บุตรชายเจ้าค่ะ!”เสียงเด็กร้องไห้โยเยดังลอดออกมาให้ได้ยิน พร้อมกับเสียงแสดงความยินดีให้กับบิดาและมารดา นางยืนฟังเสียงร้องไห้นั้นอยู่นาน กระทั่งมีคนผู้หนึ่งทักนางเข้า“มาหาผู้ใดหรือเจ้าคะ?”

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 25 สูญเสียไปตลอดกาล

    บทที่ 25สูญเสียไปตลอดกาลดวงตาคู่งามลืมตาขึ้นท่ามกลางพงไพรอันคุ้นเคย ด้านข้างของนางคือร่างของจิ้งจอกหนุ่ม คนรักของนาง… ร่างของบุรุษที่รักนอนแน่นิ่งจนน่าหวาดหวั่นความอบอุ่นที่อยู่กลางอกบ่งบอกให้นางรับรู้ได้ถึงพลังชีวิตอันมหาศาล รวมถึงอิทธิฤทธิ์ของปีศาจจิ้งจอก มันคือลูกแก้วจิ้งจอกไม่ผิดแน่ใช่แล้ว ลูกแก้วจิ้งจอกอยู่กับนางมาตลอด ลูกแก้วจิ้งจอกที่เปรียบเสมือนพลังชีวิตของจินหมิงเยว่ บุรุษเคยบอกกับนางเช่นนั้น นั่นหมายความว่าไม่มีทางที่จินหมิงเยว่จะตาย เขาก็แค่หมดเรี่ยวแรงจึงหลับไปเท่านั้นนางเอ่ยปลอบตนเองแล้วหันไปหาบุรุษ หากทว่าเมื่อมือเล็กๆ แตะที่ร่างของบุรุษ ความเย็นยะเยือกก็แล่นผ่านเข้ามาในร่างของนาง สตรีตัวน้อยตัวแข็งทื่อ พลันน้ำตาก็ไหลอาบสู่สองข้างแก้ม“ไม่จริง ท่านพี่บอกว่า หากมีข้า มีลูกแก้วจิ้งจอก อย่างไรก็ไม่มีทางตายนี่”ฝ่ามือเล็กคว้าท่อนแขนของบุรุษแล้วออกแรงเขย่าแรงๆ เพื่อหวังให้บุรุษฟื้นตื่นขึ้นมา แม้ว่าบุรุษจะเจ็บ หากฟื้นขึ้นมานางจะยินยอมน

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 24 เดิมทีนางควรจะตายไปตั้งนานแล้ว

    บทที่ 24เดิมทีนางควรจะตายไปตั้งนานแล้วยามนั้นเองบางสิ่งร่วงหล่นลงมาจากท้องฟ้า เส้นแสงสีขาวหลายสายล้อมรอบพวกเขาเอาไว้“...!”จินหมิงเยว่และหลี่ตงหยางตวัดแขนขึ้นไปด้านหน้า ล้อมฟางเหนียงเอาไว้เพื่อปกป้องนางสตรีตัวน้อยสะดุ้งตกใจ โอบกอดจินหมิงเยว่เอาไว้ด้วยความหวาดกลัว...คนพวกนี้เป็นใครกัน?...“ส่งตัวนางมา หากต่อต้านจะถือว่าปรปักษ์ต่อสรวงสวรรค์”...สรวงสวรรค์หรือ!?...ดวงตาคู่งามเบิกกว้างด้วยความตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน นางสับสนว่าเกิดสิ่งใดขึ้นกันแน่!?“หากอยากได้ตัวนางนัก ก็เข้ามา!!” เป็นจินหมิงเยว่ที่เอ่ยออกไปอย่างไม่เกรงกลัว แม้จะเป็นผู้ใดหากมาพรากฟางเหนียงไปจากเขา บุรุษไม่ยินยอม!!เกิดการต่อสู้กันระหว่างปีศาจจิ้งจอก เทพหนุ่มตกสวรรค์และองครักษ์สวรรค์ โดยที่ฟางเหนียงอยู่ในการปกป้องของจินหมิงเยว่ตลอดการต่อสู้“ท่านพี่ เกิดอะไรขึ้นกันแน่เจ้าคะ เหตุใ

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 23 เช่นนั้นข้าปรนนิบัติเจ้าแทน

    บทที่ 23เช่นนั้นข้าปรนนิบัติเจ้าแทนฟางเหนียงลงมือทำอาหารหลายอย่าง รวมถึงของหวานด้วย นางคีบทั้งผักทั้งปลาใส่ในถ้วยของบุรุษ ส่วนจินหมิงเยว่ก็คีบแต่พวกเนื้อสัตว์ใส่ถ้วยให้นางเช่นเดิม“เมื่อใดเจ้าจะอ้วนเสียที หืม?”“ข้าไม่อยากอ้วนเจ้าค่ะ”“เหตุใดจึงไม่อยากอ้วน?”“ข้าเป็นสตรี ก็ต้องรักสวยรักงามเป็นธรรมดา หากอ้วนเมื่อสวมใส่อาภรณ์ใดๆ ก็ไร้ความมั่นใจนี่เจ้าค่ะ”“เจ้าเคยอ้วนหรือ?”“ไม่เคยเจ้าค่ะ”“เช่นนั้นเจ้าจะรู้ได้อย่างไรว่าหากอ้วนแล้วจะไม่งดงาม”“เรื่องเช่นนี้ไม่จำเป็นต้องเคยมาก่อนที่เจ้าค่ะ! อีกอย่างข้าไม่เคยบอกว่าไม่อ้วนแล้วจะไม่งดงาม ข้าก็แค่คิดว่าคงไม่มีความมั่นใจ”“อ้วนให้ข้าหน่อยเถิด”“เอ๊ะ! ท่านพี่นี่อย่างไร หากอยากได้สตรีอ้วนๆ ก็ไปหาที่อื่น ไม่ต้องมาหาที่ข้า!”&l

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 22 สัญชาตญาณที่ต้องปลดปล่อย

    บทที่ 22สัญชาตญาณที่ต้องปลดปล่อยฟางเหนียงขยับกายไปนั่งลงบนตักของบุรุษ จากนั้นก็ใช้สะโพกกดลงบนความแข็งแกร่ง ครอบครองแก่นกายบุรุษเพศเข้าไปในตัวของตนเอง“อ่า...” ทั้งฟางเหนียงและจินหมิงเยว่ครางด้วยความสุขสมสตรีตัวน้อยโอบกอดบุรุษแนบอกแล้วเชิดหน้าขึ้น ก่อนจะจะเริ่มขยับสะโพกของตนเองด้วยท่าทางที่ดูเก้ๆ กังๆ ในช่วงแรก ทว่าไม่นานความวาบหวาม รัญจวนใจ ร่างกายก็ได้นำพาให้นางสามารถขับเคลื่อนร่างกาย มอบความเสียวซ่านให้กับบุรุษได้เป็นอย่างดีนางเอนกายไปข้างหลัง ใช้มือเกาะบ่าของบุรุษเอาไว้ก่อนจะเด้งสะโพกระรัว รับรู้ได้ถึงความแข็งแกร่งของแก่นกายได้อย่างชัดเจน“อ๊า ท่านพี่ อื้ม!” ทรวงอกของนางถูกดูดดื่มอย่างหื่นกระหาย แม้มันจะเจ็บเล็กน้อยเพราะมีรอยแผลจากการกระทำของบุรุษเมื่อครั้นก่อนหน้า หากแต่ความวาบหวามนั้นมีมากกว่า นางจึงยิ่งแอ่นอกให้ปากหยักดูดดื่มและกลืนกินตามต้องการฟางเหนียงเชิดหน้าขึ้นแล้วร้องครางเสียงหวานอย่างลืมอาย สูญสิ้นสติในการยับยั้งชั่งใจ กลีบกา

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 21 รูปลักษณ์ที่เปลี่ยนไป

    บทที่ 21รูปลักษณ์ที่เปลี่ยนไปวันเวลาผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็ว ฟางเหนียงในวัยสิบหกปีครั้นมาที่ดินแดนจิ้งจอกแห่งนี้เป็นครั้งแรก บัดนี้นางอายุสิบแปดหนาวเสียแล้วความงดงามของนางนั้นเพิ่มมากขึ้นเสียจนจินหมิงเยว่แทบจะกกกอดนางเอาไว้ภายในห้องตลอดทั้งวันทั้งคืน ถึงแม้ว่ารอบตำหนักพันปีจะไม่มีผู้ใดย่างกรายเข้ามาได้ หากมิได้รับอนุญาตก็ตาม“ท่านพี่เจ้าคะ!” เสียงเจื้อยแจ้วของฟางเหนียงดังขึ้น พร้อมการปรากฏกายของนาง ในขณะที่จินหมิงเยว่กำลังฝึกพละกำลังและอาคมบุรุษตวัดฝ่ามือครั้งหนึ่งพาร่างบอบบางลอยละล่องมานั่งบนตักของตนเอง แล้วฉวยโอกาสหอมแก้มนางไปหนึ่งที“ว้าย! ท่านพี่! ฮวาอินก็อยู่นะเจ้าคะ”“เฮ้อ ฮวาอินออกจะชอบที่ข้ากับเจ้าพลอดรักกัน”“ท่านพี่!!”เพี๊ยะ!!ว่าแล้วก็ตีท่อนแขนแกร่งไปหนึ่งทีด้วยความเขินอาย จินหมิงเยว่หัวเราะเสียงดัง ยิ่งได้เห็นพวงแก้มทั้งสองข้างขึ้นสีแดงระเรื่อก็ยิ่งอยากแกล้

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 20 งอน

    บทที่ 20งอน“ลองขย่มข้าสิ”“ตะ แต่ข้าไม่รู้”“ทำแบบนี้”“อ๊ะ!?”ฝ่ามือหยาบยกสะโพกกลมขึ้นแล้วกดลงให้ครอบครองความแข็งแกร่งของตนเอง ความเสียวซ่านแล่นพล่านไปทั่วทั้งร่างบอบบางฟางเหนียงขยับตามการนำพาของบุรุษ กระทั่งหาจังหวะของตนเองเจอ จินหมิงเยว่ก็เปลี่ยนเป็นบีบเคล้นสะโพกกลมกลึงด้วยความมันเขี้วแทนท่วงท่าของนางสร้างความรัญจวนในเหลือเกิน มันเชื่องช้าและละมุนละไม ราวกับจงใจทรมานจินหมิงเยว่ให้ต้องอดทนกับกามารมณ์ เกร็งทั่วทั้งร่างจนเห็นก้อนกล้ามเนื้อชัดเจน อีกทั้งเส้นเลือดยังปูดโปนออกมา“อ่า เหนียงเอ๋อร์ เจ้าช่าง...” บุรุษมิอาจเอื้อนเอ่ยได้อีก เมื่อนางเริ่มขยับถี่ขึ้นเรื่อยๆ มิได้เข้าสุดออกสุดเหมือนอย่างในครั้งแรก แต่เป็นการกดสะโพกระรัว“อืม” นางครางเสียงหวานแล้วแหงนหน้าขึ้นตามอารมณ์ จินหมิงเยว่ก้ามหน้าลงดูดดื่มกับยอดอกสีหวานเข้าปากอย่างกระหายความรู้สึกวาบหวา

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 19 จิ้งจอกเจ้าเล่ห์

    บทที่ 19จิ้งจอกเจ้าเล่ห์ดวงตาคู่งามเปิดอย่างเชื่องช้า คราวนี้ฟางเหนียงไม่ตกใจอีกแล้วว่านางมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร สถานที่ที่ไม่ต่างไปจากสรวงสวรรค์ นางคงถูกเทพองค์นั้นเรียกตัวมาอีกเป็นแน่นางเตรียมที่จะมองหาตัวของผู้ที่เรียกนางมา แต่ไม่ทันที่จะได้หยัดกายลุกขึ้นเสียด้วยซ้ำ เสียงทุ้มน่าฟังก็ดังขึ้นเหนือหัว“เดี๋ยวนี้เจ้าไม่ตกใจแล้วหรือ?”ฟางเหนียงหยัดกายลุกขึ้น ก่อนจะหันไปยอบกายคำนับตามมารยาท“คำนับ ท่านเทพเจ้าค่ะ”“อ่า เจ้ารู้แล้วสินะ… รู้ได้อย่างไร หมิงเยว่บอกเจ้าหรือ?”“ท่านพี่ของข้ารู้จักกับท่านเป็นการส่วนตัวด้วยหรือเจ้าคะ?”“อ่า มิใช่สินะ”ใบหน้าคมคายหม่นลงเล็กน้อย ยิ่งสร้างความประหลาดใจให้กับฟางเหนียงดูเหมือนว่าทั้งสองจะรู้จักกันสินะ แต่รู้จักกันด้วยดีหรือร้ายมิอานคาดเดาได้“ท่านเทพ… จุดประสงค์ของท่านคือสิ่งใดกันแน่?”สตรีตัวน้อยรู้สึกหวาดหวั่นเหลือเกิน หวาดกลัวว

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 18 มิอาจยอมให้นางเสียหาย

    บทที่ 18มิอาจยอมให้นางเสียหายลิ้นสากหลีกหนีเรียวลิ้นของนาง ลิ้นของนางก็ยังตามติดไม่ออก กลายเป็นจูบที่แสนดูดดื่มจนเกิดเสียงน่าอาย เมื่อยามที่ฟางเหนียงยอมแพ้คิดจะถอนริมฝีปากออก จินหมิงเยว่ก็เป็นฝ่ายคว้าท้ายทอยของนางแล้วกดให้แนบแน่นยิ่งกว่าเดิม จากนั้นก็เป็นฝ่ายรุกรานโพรงปากอุ่น ตักตวงความหอมหวานอย่างเร่าร้อน ทั้งๆ ที่เมื่อครู่เอาแต่หลีกหนีปฏิเสธนางแท้ๆ...จิ้งจอกเจ้าเล่ห์!!...อดมิได้ที่จะต่อว่าบุรุษในใจที่คิดหลอกนาง แต่ก็ยอมให้บุรุษรุกรานแต่โดยดี เพราะจูบหวานๆ ที่ถูกส่งมอบมามันพาให้ร่างของนางอ่อนระทวย เคลิบเคลิ้มไปกับรสจูบซึ่งราวกับเอาอกเอาใจนาง นางจะยอมให้อภัยจินหมิงเยว่ก็แล้วกันเนิ่นนานกว่าทั้งสองจะถอนริมฝีปากออกจากัน ดวงตาสบประสานกันของหวานซึ้ง คล้ายกับกำลังแลกเปลี่ยนความรู้สึกที่มีให้กันและกัน“เอาลูกแก้วคืนไปหรือยังเจ้าคะ?”“ยัง”“อ้าว?”“ข้าฝากไว้กับเจ้า หากข้าบาดเจ็บเจ้าจะได้จู

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status