Share

บทที่ 6 ตำหนักพันปี

last update Last Updated: 2025-04-05 20:00:03

บทที่ 6

ตำหนักพันปี

…ละ เลือดของข้าหรือ? จะ จากตรงนั้น!?...

“เฮือก!!”

“เป็นอะไรหรือเจ้าคะ?”

“ละ เลือดข้า!”

…ระ รอบเดือนหรือ!? ช่างน่าอายยิ่งนัก!...

สตรีตัวน้อยรีบวิ่งเข้าไปดึงผ้าปูออกมาด้วยความอับอาย

“ตายจริง ให้ข้าน้อยทำเอาเถิดเจ้าค่ะ”

“มิได้ๆ นี่เป็นเลือดของข้า”

“มิได้เจ้าค่ะ นี่เป็นงานของข้าน้อย”

“ตะ แต่นี่ ระ รอบเดือนของข้านะ”

“หืม?” ฮวาอินเอียงคอมองฟางเหนียงซึ่งหน้าแดงก่ำราวกับผลอิงเถา “ข้าน้อยคิดว่าอาจจะเป็นเลือดอย่างอื่นนะเจ้าคะ”

“…”

“เช่น… เลือดพรหมจรรย์ของท่าน”

“…!?”

“มาเจ้าค่ะ ข้าน้อยจะเอาไปซัก ระหว่างนั้นฮูหยินประมุขก็ลองตรวจสอบดูนะเจ้าคะ หากเป็นเลือดรอบเดือนจริงๆ ข้าน้อยจะนำผ้าซับมาให้เจ้าค่ะ”

ปีศาจสาวใช้คว้าผ้าปูที่นอนไปจากฟางเหนียง ก่อนจะเดินออกไป สตรีตัวน้อยจึงตรวจสอบระหว่างขารวมถึงลองใช้นิ้วกับภายในของตนเอง ทว่ากลับมีแต่น้ำใสเคลือบปลายนิ้ว

…เลือดพรหมจรรย์จริงๆ หรือ?...

ไม่นานฮวาอินก็กลับมาพร้อมกับอาภรณ์ตัวใหม่ แล้วจัดการช่วยนางอาบน้ำชำระกาย ฮวาอินเห็นรอยแผลเป็นบนแผ่นหลังกว้างก็ต้องตกใจ ร่างกายของสตรีตัวน้อยเพียงนี้ แต่กลับมีร่องรอยบาดแผลมากมาย ปะปนกับรอยจูบจากประมุขเผ่าจิ้งจอก ยิ่งทำให้ร่างกายของนางไร้พื้นที่ว่าง

…ถึงว่าล่ะ ท่านประมุขจึงให้ข้าพานางไปที่นั่นหลังจากอาบน้ำเสร็จ…

หลังจากขัดสีฉวีวรรณเรียบร้อย ก็สวมใส่อาภรณ์ตัวใหญ่ ซึ่งเป็นอาภรณ์ของบุรุษ เนื่องจากการรับนางมาเป็นภรรยานั้นกะทันหันจึงไม่มีอาภรณ์ของอิสตรี ฮวาอินนำทางฟางเหนียงมายังบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่เผ่าจิ้งจอกเชื่อว่า เป็นบ่อน้ำที่รักษาได้ทุกโรค แม้กระทั่งคนใกล้ตายก็สามารถทำให้กลับมามีชีวิตได้

ปีศาจสาวใช้โค้งคำนับให้ฟางเหนียงก่อนจะยืนรออยู่ด้านนอก เนื่องจากบ่อน้ำแห่งนี้มิใช่ว่าผู้ใดก็สามารถเข้ามาได้ จะต้องได้รับอนุญาตจากประมุขของเผ่าก่อนเพียงเท่านั้น

เมื่อเข้ามาด้านในก็เห็นจินหมิงเยว่นั่งรออยู่บนโต๊ะไม้ไผ่ สตรีตัวน้อยยอบกายคำนับ แม้ท่วงท่ามิได้สง่างามเหมือนอย่างสตรีในวัง หากแต่มิได้ดูขัดหูขัดตา มันกลับดูน่าเอ็นดูที่นางรู้ตำแหน่งของตนเอง

“เอ่อ คำนับเจ้าค่ะ”

“มานี่สิ”

สตรีตัวน้อยขยับกายเข้าไปใกล้กระทั่งปลายเท้าหยุดอยู่ตรงหน้าของบุรุษ แขนแกร่งตวัดขึ้นโอบไหล่สตรีตัวน้อย พาเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์

“เจ้าลงไปแช่สิ”

“เอ่อ แต่ว่าข้าเพิ่งอาบน้ำมา…”

จินหมิงเยว่ร่ายมือเล็กน้อย ลำแสงสีแดงซึ่งเป็นพลังจิ้งจอกของบุรุษก็พุ่งเข้าหาฟางเหนียง สตรีตัวน้อยร้องเสียงหลงด้วยความตกใจ! นางคิดว่าจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ตัวนี้จะกินนางเข้าให้แล้ว

“อย่ากินข้านะ อย่ากินข้า!!” พยายามดิ้นให้หลุดจากเชือกล่องหน แม้ว่าเชือกจะรัดไม่แน่นมาก แต่ก็แน่นพอที่จะทำให้นางขยับตัวมิได้ ก่อนจะสะบัดมือกดตัวนางแช่ลงบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์

แรกเริ่มนางก็ไม่ได้รู้สึกอะไร ทว่าเมื่อเริ่มแช่นานขึ้นก็เริ่มรู้สึกถึงความเจ็บปวด มันทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนสตรีตัวน้อยเริ่มหน้าซีด

ช่างโหดร้ายเหลือเกิน ปีศาจตนนี้กำลังทรมานนางก่อนจับกิน! ไม่แน่ว่าสตรีคนก่อนๆ ที่ถูกส่งตัวมาก็คงจะโดนเช่นเดียวกัน!

“อดทนหน่อยเถิด” จินหมิงเยว่ซึ่งเฝ้าดูอยู่ขอบอ่างยื่นมือออกไปสัมผัสกับดวงหน้าหวานชื้นเหงื่อ

“อึก! ยะ อย่ากินข้าเลยเจ้าค่ะ ข้า ข้ามีประโยชน์กับท่าน ข้าทำงานได้ทุกอย่างนะเจ้าคะ” สตรีตัวน้อยร่ำไห้ด้วยรักตัวกลัวตาย

“อดทนอีกหน่อย” บุรุษมองดูผืนน้ำใสสะอาดเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังรักษาอันแสนบริสุทธิ์ คล้ายกับปลาเล็กปลาน้อยแหวกว่ายเข้าหานาง นั่นคือพลังการรักษา

“ฮึก อือ…”

ทว่าความเจ็บปวดทำให้ฟางเหนียงมิอาจทัดทานได้ไหว ร่างกายของนางไร้การทรงตัวและเกือบจะจมสู่ก้นบ่อ หากแต่ได้จินหมิงเยว่คว้าเอาไว้ได้ทัน

การฝืนรักษาร่างกายผิดแปลกไปจากธรรมชาติย่อมสร้างความเจ็บปวดให้ จินหมิงเยว่รู้อยู่แล้ว แต่ก็ยังตัดสินใจเช่นนี้ เนื่องจากมิอาจทนได้ที่เห็นสตรีตัวน้อยมีบาดแผลจากการทารุณกรรมเต็มแผ่นหลัง ทั้งๆ ที่นางอาถเพียงเท่านี้ ตัวก็เล็กเท่านี้

“ขออภัย ท่านประมุข” เสียงของบุรุษผู้หนึ่งดังขึ้นอยู่ด้านนอกของฉากกั้น “ที่เขตแดนเกิดเรื่องแล้วขอรับ”

จินหมิงเยว่โอบร่างบอบบางขึ้นมาจากน้ำ ก่อนจะพานางกลับตำหนักแล้วมุ่งหน้าสู่เขตแดน อันเป็นอาณาเขตระหว่างเผ่ามนุษย์และเผ่าปีศาจจิ้งจอก

แม้ว่าชีวิตของนางจะได้รับการปรนนิบัติอย่างดีเช่นไร หากแต่สตรีชาวบ้านเช่นนางรู้สึกอึดอัดเหลือเกิน ปีศาจสาวใช้แทบไม่ให้นางขยับตัวเลย อยากได้สิ่งใดขอเพียงแค่เอ่ยปากก็รีบไปหามาประเคนให้นาง อีกทั้งภายในตำหนักยังเงียบเหงาไร้ผู้คน

หลังจากวันนั้นจินหมิงเยว่ก็หายไปเลย ฮวาอินบอกกับนางว่าเกิดเรื่องที่จุดเชื่อมอาณาเขตระหว่างเผ่ามนุษย์และเผ่าปีศาจจิ้งจอก ซึ่งสำหรับนางแล้ววันเช่นนี้เป็นวันดีที่จะได้ทำตามแผนการมิใช่หรือ แผนการหลบหนีไปใช้ชีวิตอย่างเป็นอิสระ!

ทว่าจะออกไปอย่างไรในเมื่อฮวาอินตามติดนางเช่นนี้ อีกอย่าง... ภาพจำของหางทั้งเก้าที่สยายออกมาราวกับปีกนั้นติดตามาจนถึงยามนี้ ทั้งองอาจและน่าหวาดหวั่นเหลือเกิน หากเผลอทำสิ่งใดผิดพลาดไป นางไม่ถูกจับกินเลยหรือ?

“ออกไปเดินเล่นเสียหน่อย ดีหรือไม่เจ้าคะ?”

สตรีตัวน้อยส่ายหน้าแทนคำตอบ แม้ว่าค่ำคืนนั้นบุรุษจะอ่อนโยนกับนาง อีกทั้งยังดูเหมือนให้ความสำคัญกับนาง หากแต่ทั้งสองเพิ่งเคยพบกัน ไม่แน่ว่านี่อาจจะเป็นเพียงอารมณ์ชั่ววูบเฉกเช่นที่บุรุษทำต่อสตรีทุกคน ที่ถูกส่งมาเป็นเครื่องบรรณาการ

หากจะอยู่รอดก็มีแต่ต้องทำตัวสงบเสงี่ยม!! อย่างน้อยก็ทำให้ตายใจเสียก่อน เมื่อได้โอกาสเมื่อใดก็ค่อยหลบหนีออกไป

มาคิดดูแล้ว นางก็มีคำถามมากมายอย่างถามบุรุษอยู่เหมือนกัน แต่อีกฝ่ายกลับไม่อยู่ให้ถามเสียนี่

“ท่าน เอ่อ…” สตรีตัวน้อยครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เอียงคอซ้ายทีขวาที นางไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วควรเอ่ยเรียกจินหมิงเยว่ว่าอะไรดี แม้ว่าบุรุษจะเคยบอกเอาไว้ก็ตาม แต่ครั้งนั้นอยู่กันแค่สองคนนางจึงเรียกได้ ทว่ายามนี้ต้องเรียกให้คนอื่นได้ยิน จะให้เรียกท่านพี่ก็กระดากอายเหลือเกิน เช่นนั้น… “ท่านประมุขของเจ้าจะกลับมาเมื่อใดหรือ?”

นางจำได้ว่าหลังจากตื่นขึ้นมา ฮวาอินก็บอกกับนางว่าจินหมิงเยว่มีเรื่องต้องจัดการ จึงจะไม่อยู่สองสามวัน ยามนั้นนางแทบกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ เนื่องจากไม่คุ้นชินกับบุรุษเพศ อีกทั้งยังเป็นถึงจิ้งจอกเก้าหาง

“ขออภัยเจ้าค่ะ ข้าน้อยไม่ทราบ”

“ช่างเถิด…” สตรีตัวน้อยทำหน้างอ ครั้นบุรุษอยู่ด้วยก็หวาดกลัว แต่ครั้นไม่อยู่นางกลับอยากเจอ ทว่ามิใช่ความพิศวาสแต่เพราะนางมีเรื่องอยากถามต่างหาก

ฟางเหนียงเดินไปหยุดยืนอยู่ตรงหน้าต่าง กวาดสายตามองไปทั่วบริเวณซึ่งกว้างขวางเหลือเกิน หากแต่ไม่มีสิ่งมีชีวิตเลยแม้แต่น้อย มีเพียงนางและปีศาจรับใช้ฮวาอินเท่านั้น

“นั่นคืออะไรน่ะ?”

“สวนบุปผาพันปีเจ้าค่ะ”

“สวนบุปผาพันปี!?” นางทวนถ้อยคำสถานที่นั้นด้วยความประหลาดใจ ดวงตากลมเบิกกว้างจ้องมองสถานที่แห่งนั้นซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่นี่ด้วยความสนอกสนใจ

“แม้จะได้ชื่อว่าเป็นสวนบุปผาพันปี หากแต่อยู่มานานมากกว่านั้นแล้วเจ้าค่ะ ข้าน้อยมีอายุสามร้อยห้าสิบเจ็ดปี ครั้นมาที่นี่ก็เห็นมันอยู่ก่อนแล้ว ว่ากันว่าที่แห่งนั้นบุปผาจะบานตลอดทั้งปี ไม่ร่วงโรยเฉกเช่นบุปผาของเผ่ามนุษย์ ฮูหยินประมุขอยากลองประดูหรือไม่เจ้าคะ?”

“อื้อ!!”

ลืมเสียสิ้นซึ่งความหวาดกลัวที่มีเมื่อครู่นี้ นางสนอกสนใจบุปผาพันปีที่ไม่ร่วงเลยเสียมากกว่า

ฮวาอินนำทางนางมายังสวนบุปผาแห่งนี้ ซึ่งห้ามไม่ให้ผู้ใดย่างกรายเข้าไปเฉกเช่นเดียวกับบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ต้องได้รับอนุญาตก่อนเท่านั้น จินหมิงเยว่กำชับฮวาอินว่าให้ตามใจฟางเหนียง นางอยากกระทำสิ่งใด อยากไปที่ใดก็ให้ตามใจนาง บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่ต่างจากเขตหวงห้ามก็ไปมาแล้ว นับประสาอะไรกับสวนบุปผาพันปีแห่งนี้

“ว้าว งดงามเหลือเกิน”

ดวงตาคู่งามเป็นประกายแข่งกับบุปผาพันปี ซึ่งระยิบระยับราวกับอัญมณีล้ำค่า มันไม่เหมือนบุปผา แต่เหมือนอัญมณีแกะสลักเป็นรูปบุปผางดงามเสียมากกว่า

“ว่ากันว่าสถานที่แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นมาก่อนตำหนักพันปีเสียอีกเจ้าค่ะ”

“ตำหนักพันปีหรือ?”

“คือตำหนักที่ท่านประมุขและฮูหยินพำนักอยู่เจ้าค่ะ”

ฟางเหนียงพยักหน้าเข้าใจก่อนจะเดินชมทั่วทั้งสวน  เพลิดเพลินไปกับบุปผาหลากสีสัน มารู้ตัวอีกทีก็ได้เวลาอาหารเย็นเสียแล้ว ฮวาอินจึงชวนนางกลับ ยามนั้นเอง…

ควับ!!

ลมเย็นๆ พัดผ่านร่างพร้อมกับร่างบอบบางถูกผลักไปด้านหลัง!! ฟางเหนียงล้มลงพื้นก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองสถานการณ์ในยามนี้

จิ้งจอกปีศาจตนหนึ่งกระโจนเข้ามาหานาง แววตาฉายชัดถึงความมุ่งร้าย ฮวาอินรับมือได้อย่างรวดเร็ว เกิดเป็นการต่อสู้ตัวต่อตัวระหว่างจิ้งจอกทั้งสอง ฟางเหนียงเพิ่งรู้ก็ในยามนี้ว่าฮวาอินหาได้เป็นเพียงปีศาจรับใช้ธรรมดา แต่กลับมีวรยุทธการต่อสู้ที่เชี่ยวชาญ!

“ฮูหยิน รีบกลับเข้าไปในสวนบุปผาเจ้าค่ะ!”

ได้ยินเช่นนั้นฟางเหนียงก็หยัดกายขึ้นแล้วรีบวิ่งออกไปทันที ทว่ากลับสะดุดล้มจนเข่าถลอก จังหวะนั้นจิ้งจอกตัวร้ายก็พุ่งเข้ามาหานาง ยื่นมือออกมาหมายจะคว้าลำคอขาวๆ ของนาง หากแต่ก่อนหน้านั้นก็ถูกมือของฮวาอินทะลวงกลางอกจนทะลุไปอีกด้านเสียก่อน

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 7 จิ้งจอกใจร้าย

    บทที่ 7จิ้งจอกใจร้ายหากแต่ก่อนหน้านั้นก็ถูกมือของฮวาอินทะลวงกลางอกจนทะลุไปอีกด้านเสียก่อน“เฮือก!!” ฟางเหนียงเห็นช่วงเวลานั้นพอดิบพอดี ราวกับทรวงสวรรค์กลั่นแกล้งให้นางหวาดกลัวสถานที่แห่งนี้มากกว่าเดิม!!สองขาอ่อนเรี่ยวแรง มองภาพฮวาอินจัดการกับศพของพวกเดียวกันไม่วางตา นางมิได้อยากมองหากแต่มิอาจบังคับสายตาได้พรึ่บ!ผ้าคลุมผืนหนึ่งถูกตวัดโอบคลุมรอบกายตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า ก่อนที่ร่างบอบบางจะถูกโอบอุ้มขึ้นมาจากพื้น ฮวาอินคำนับประมุขสูงสุดของเผ่าจิ้งจอก บุรุษปรายตามองร่างไร้วิญญาณของปีศาจจิ้งจอกซึ่งมีไอดำลอยออกมาจากกาย เขาใช้ปลายนิ้วชี้ไปที่ร่างนั้นก่อนที่ไอดำจะสลายหายไป ส่งสายตาโหดเหี้ยมแทนคำสั่งแล้วพานางกลับไปยังตำหนักพันปีเมื่อเข้ามาในห้อง บุรุษก็ดึงผ้าคลุมออกสบสายตากับสตรีตัวน้อยซึ่งนั่งตัวสั่นระริกอยู่บนเตียง“ท่าน… ประมุข” เสียงที่เคยหวานกลับถูกเอ่ยออกมาอย่างแหบแห้ง“ท่านประมุขหรือ? ค่ำคืนวสันต์ไม่อยู่ใน

    Last Updated : 2025-04-06
  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 8 ความรักทำให้ข้าดูโง่เขลา

    บทที่ 8ความรักทำให้ข้าดูโง่เขลาหมับ!“ว้าย! ทะ ท่านพี่ ท่านจะทำอะไรเจ้าคะ!?”บุรุษย่อกายลงคุกเข่าอยู่ตรงหน้าของนาง เรียวขาของนางถูกยกขึ้นสูง ก่อนที่บุรุษจะก้มหน้าลงไปแล้วใช้เรียวลิ้นปาดเลียบาดแผลจากงูพิษ“อึก!” ความเจ็บปวดบริเวณนั้นทำเอาสตรีตัวน้อยสะดุ้ง นางพยายามจะดึงขาหนีหากแต่มิอาจทำได้ดั่งใจ ยิ่งถูกเรียวลิ้นนั่นสัมผัสนางยิ่งเจ็บปวดเหตุใดบุรุษจึงต้องทรมานนางด้วย!!ทว่าไม่นานบุรุษก็ดึงใบหน้าออก ช่างน่าแปลกนักที่บริเวณนั้นกลับไม่รู้สึกเจ็บปวดอีกเลย ทั้งที่ครั้นก่อนหน้านางรู้สึกปวดหนึบแปลกๆ เมื่อกดสายตามองดูก็เห็นว่าบาดแผลที่ตรงนั้นหายไปแล้ว นางจำได้ว่าเคยมีแผลอยู่ตรงนี้นี่!“ท่านพี่… รักษาให้ข้าหรือเจ้าคะ?”“ถือว่าความหวาดกลัวยังไม่ยึดครองสมองน้อยๆ ของเจ้า”“…?”“มา ข้าจะช่วยแต่งตัว”“ข้าทำเองได้เจ้าค่ะ” นางกอดตน

    Last Updated : 2025-04-07
  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 9 นางเป็นเพียงมนุษย์คนหนึ่ง

    บทที่ 9นางเป็นเพียงมนุษย์คนหนึ่ง“ขออภัยฮูหยินประมุข แต่ข้าน้อยขอบังอาจถาม... ฮูหยินประมุขมาที่นี่ทำไมหรือเจ้าคะ?”“ข้าอยากทำอาหาร”“หากอยากกินอะไรบอกข้าน้อยได้ ข้าน้อยจะนำมาบอกกับคนครัว ฮูหยินประมุขไม่เห็นต้องมาเองเลยเจ้าค่ะ”การมาถึงห้องครัวด้วยตนเองของผู้เป็นนาย สร้างความอกสั่นขวัญแขวนให้กับคนครัว เนื่องจากห้องครัวเป็นสถานที่ไร้ซึ่งความสนใจ หากทำอาหารออกมาดีก็ดีไป แต่หากทำอาหารออกมาไม่ดีนอกจากจะโดนตำหนิแล้ว บางคนอาจจะบุกมาถึงห้องครัวเฉกเช่นฟางเหนียง ซึ่งเรื่องนี้ฟางเหนียงรู้ดีอยู่แล้วจึงได้เอ่ยออกไปว่า“ข้าอยากทำอาหารด้วยตนเอง ข้าอยากปรนนิบัติท่านประมุขของพวกเจ้า” สตรีตัวน้อยเอ่ยออกไปเช่นนั้น ฮวาอินถึงกับสะดุ้งแม่นางผู้นี้คล้ายกับเฉลียวฉลาด รู้วิธีการเอาตัวรอด หากแต่ในเรื่องเช่นนี้กลับโง่เขลายิ่งนัก แน่นอนว่าเรื่องที่ฟางเหนียงเอ่ยเรียกจินหมิงเยว่ต่อหน้าธารกำนัลว่าท่านประมุขอย่างห่างเหินเช่นนี้ จะต้องถึงหูของบุรุษเป

    Last Updated : 2025-04-08
  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 10 อยากจับกิน

    บทที่ 10อยากจับกิน“เขาน่ากลัว” นางพึมพำเสียงเบา ก่อนจะหยัดกายลุกขึ้นแล้วเดินออกไปข้างนอก ในเมื่อจินหมิงเยว่อนุญาตให้นางไปที่ใดก็ได้ตามที่ต้องการ เช่นนั้นนางก็ขอสำรวจรอบตำหนักเสียหน่อยเถิดเพื่อหาทางหนีทีไล่เอาไว้ด้วย เผื่อสักวันหนึ่งจินหมิงเยว่เลิกสนใจในตัวนาง นางจะได้หนีออกไปมีชีวิตเป็นของตนเอง ในยามนั้นคิดว่าจินหมิงเยว่คงไม่ไล่ตามนางแล้ว ทว่ายามนี้ต้องคอยเอาอกเอาใจบุรุษไปก่อน เพราะถึงหนีไปตอนนี้ก็ถูกจับกลับมาอยู่ดี“เจ้าแนะนำตำหนักให้ข้าหน่อยสิ”“ตำหนักพันปีข้าน้อยพอรู้คร่าวๆ มิได้รู้ลึกเจ้าค่ะ เนื่องจากที่นี่แม้แต่ปีศาจจิ้งจอกด้วยกันยังเข้ามายาก มีเพียงผู้ที่ได้รับอนุญาตเท่านั้นเจ้าค่ะ”“ไม่เป็นไร ข้าแค่อยากรู้คร่าวๆ ว่าตรงไหนอยู่ตรงไหนเท่านั้น อ้อ ว่าแต่ ที่นี่มีห้อวหนังสือหรือไม่?”“มีเจ้าค่ะ ท่านประมุขค่อนข้างชื่นชอบหนังสือ อีกทั้งยังเป็นผู้คัดลอกอักษรเหล่านั้นด้วยตนเอง ว่ากันว่าห้องหนังสือภายในตำหนักพันปี

    Last Updated : 2025-04-09
  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 11 ตัวตนของบุรุษปริศนา

    บทที่ 11ตัวตนของบุรุษปริศนา“ทำได้สิ พวกมนุษย์กล่าวขานพวกข้าอยู่หลายสิ่ง ตัวแทนแห่งการบำเพ็ญเพียร ตัวแทนแห่งความพยายาม ตัวแทนแห่งพลังอำนาจ และ... ตัวแทนแห่งตัณหาราคะ” จงใจจดจ้องมองเข้าไปในดวงตาคู่งาม แล้วค่อยๆ โน้มหน้าไปใกล้ๆ จนปลายจมูกสัมผัสกัน “ตัวข้านั้นเป็นทั้งหมด ที่เหล่ามนุษย์ขนานนาม”“ตะ แต่แตงที่ฝืนเด็ดจากต้นย่อมไม่หวาน[1]นะเจ้าคะ”“ไม่ลองแล้วจะรู้หรือ ไม่แน่แตงดิบๆ อาจจะถูกปากกว่าที่คิดก็ได้”...ท่านช่าง... เจ้าเล่ห์สมกับเป็นจิ้งจอกจริงๆ...“หึ!” จินหมิงเยว่หัวเราะเสียงเบาก็จะละออกจากร่างบอบบาง “แต่อย่างไรแตงหวานๆ ก็อร่อย เช่นนั้นข้าจะรอให้แตงหวานก่อนก็ได้”ฟางเหนียงรีบหยัดกายลุกขึ้นจ้องมองบุรุษด้วยความไม่เข้าใจว่าเหตุใดจึงหยุด นางคิดว่าบุรุษจะขืนใจนางแม้นางไม่ยินยอมเป็นแน่...“ทว่าลูกแก้วที่อยู่กับเจ้านั้นสำคัญกับข้า อย่างน้อยทุกเจ็ดวันก็มาให้ข้าได้เติมพลังจาก

    Last Updated : 2025-04-10
  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 12 เติมพลัง

    บทที่ 12เติมพลังเสียงนุ่มทุ้มดังขึ้นที่ข้างหู พร้อมกับลมหายใจอุ่นๆ รินรดแผ่วเบา หนังสือที่อยู่ในมือร่วงหล่นลง โชคดีที่เจ้าของเสียงนุ่มทุ้มคว้าหนังสือเล่มนั้นเอาไว้ ราวกับรู้อยู่ก่อนแล้ว ในณะที่ดวงตาเรียวคมจ้องมองดวงตาคู่งามนิ่งไม่ยอมละสายตา“ทะ ท่านพี่ ข้าตกใจหมด”“ตกใจเรื่องอะไร เว้นเสียแต่ว่าเจ้ากระทำความผิด”“เหนียยงเอ๋อร์กำลังอ่านหนังสือเพลินๆ ท่านพี่เข้ามามิให้สุ้มมิให้เสียงก็ต้องตกใจสิเจ้าคะ”“หากเจ้ามาหาข้าแล้วแกล้งกระโดดกอดคอข้า สาบานเลยว่าข้าไม่มีทางตกใจ” บุรุษว่าพลางยกยิ้มมุมปากด้วยความเจ้าเล่ห์สตรีตัวน้อยถอนหายใจแล้วยื่นมือออกไปคว้าหนังสือที่อยู่ในมือของบุรุษ แต่อีกฝ่ายกลับขยับหนี ฟางเหนียงเหลือบสายตามองบุรุษอีกหน แล้วส่งสายตาดุๆ ใส่ก่อนจะยื่นมือออกไปคว้าหนังสือ ทว่าจินหมิงเยว่ก็ยังกระทำแบบเดิม“ท่านพี่!”คราวนี้จินหมิงเยว่เหลือบสายตาอ่านชื่อหนังสือบนหน้าปก ซึ่งล้วนแล้วแต่

    Last Updated : 2025-04-11
  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 13 ข้าปรารถนาเจ้าอย่างสุดหัวใจ

    บทที่ 13ข้าปรารถนาเจ้าอย่างสุดหัวใจ“เจ้าค่ะ” นางตอบรับด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง เดิมทีฟางเหนียงก็ไม่คิดปฏิเสธอยู่แล้ว เพราะรู้สึกผิดที่ครอบครองลูกแก้วจิ้งจอกเอาไว้ ทั้งๆ ที่มันควรจะอยู่กับเจ้าของหากทว่าข้อเท้าของนางยังเป็นรอยช้ำสีเข้มอยู่เลย นางขอโลภมากและเห็นแก่ตัว ครอบครองมันนานอีกคงไม่เป็นอะไร อย่างไรเสียเจ้าตัวก็อนุญาตนางแล้วรอบนี้จูบที่เคยหวานปานมธุรสกลับถูกบดขยี้ลงมาอย่างเร่าร้อน ฟางเหนียงรู้สึกตกใจจนสะดุ้ง หากถอยหลังหนีได้นางคงถอยไปแล้ว แต่ร่างของนางกลับถูกดันชิดกับชั้นหนังสือน่ะสิ จึงไม่มีโอกาสให้นางได้ถอยห่างเลยแม้แต่น้อย ยิ่งบุรุษกดริมฝีปากลงมา ก็ยิ่งเป็นการเปิดปากของนางให้อ้าออก เพื่อที่จินหมิงเยว่จะได้รุกรานเข้ามาได้อย่างลึกซึ้งมากกว่าเดิม“อื้อ” แม้รสจูบนั้นจะมิได้หวานซาบซ่าอย่างที่นางชื่นชอบ แต่รสจูบเช่นนี้กลับเร่งเร้าให้หัวใจของนางเต้นระรัวได้ดี ฟางเหนียงเผลอไผลไปกับสัมผัสของบุรษ ฝ่ามือหนาเริ่มซุกซน เฟ้นฟ้อนไปทั่วทั้งเรือนร่างของนางกระทั่งถ

    Last Updated : 2025-04-12
  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 14 ทั้งโง่เขลาและดื้อรั้น

    บทที่ 14ทั้งโง่เขลาและดื้อรั้น“ช้าก่อนเจ้าค่ะ ช้าก่อน!”ทันทีที่สารถีเห็นคนงามก็หยุดรถม้าลงแล้วมองนางด้วยความฉงนใจ สภาพของนางดูสะอาดสะอ้านเกินกว่าคนที่หลงทาง อีกทั้งยังดูมีเรี่ยวมีแรงราวกับเพิ่งกินอิ่ม…ใบหน้านี้คุ้นเคยอย่างไรบอกไม่ถูก?...“ข้าขอติดรถท่านไปลงที่หมู่บ้านได้หรือไม่เจ้าคะ?”“เจ้าหลงป่าหรือ?”“เจ้าค่ะ ข้าออกมาตามหากระต่ายป่าที่ข้าเลี้ยงเอาไว้ แต่คลาดกับมัน มารู้ตัวอีกทีก็อยู่กลางป่าเสียแล้ว”“ขึ้นมาสิ ข้าจะพาไปส่งที่หมู่บ้าน”“ขอบคุณเจ้าค่ะ!!” ฟางเหนียงเอ่ยพลางยิ้มกว้าง กำลังจะเดินขึ้นรถม้าทว่าสารถีผู้นั้นก็เอ่ยเรียกนางเอาไว้เสียก่อน“ช้าก่อน เจ้า… ฟางเหนียง!?”“เจ้าคะ? ท่านรู้จักข้าด้วยหรือเจ้าคะ?”พลันโทสะก็ครอบงำบุรุษผู้นี้แล้วกระโดดเข้าจู่โจมฟางเหนียง!!

    Last Updated : 2025-04-13

Latest chapter

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 26 ห้วงคำนึงถึงนาง

    บทที่ 26ห้วงคำนึงถึงนางหลายฤดูผ่านไปจินหมิงอันเติบใหญ่เป็นจิ้งจอกหนุ่ม มีอิทธิฤทธิ์มากล้นเดินตามรอยของผู้เป็นบิดา ฟางเหนียงภาคภูมิใจเหลือคณานับที่บุตรชายสง่างามเช่นนี้ อีกทั้งยังรวบรวมพลังสร้างลูกแก้วจิ้งจอกของตนเองได้แล้ว แม้ว่าลูกแก้วจิ้งจอกนั้นจะยังแข็งแกร่งไม่เท่าลูกแก้วจิ้งจอกที่อยู่ในตัวของนางก็ตามยามนั้นเองสายลมพัดผ่านพาเอาความเย็นสบายโอบรอบร่าง ทว่ามีบางสิ่งลอยมากับสายลมด้วย กลิ่นที่คุ้นเคยพาให้หัวใจดวงน้อยเต้นแรงขึ้นมาฟางเหนียงหยัดกายขึ้นแล้วพุ่งตัวออกไปตามกลิ่นนั่น แหวกผ่านพงไพร เป็นหนึ่งเดียวกับสายลม กระทั่งมาถึงหมู่บ้านแห่งหนึ่ง นางเดินตามหาไม่นานก็มาหยุดอยู่ที่บ้านหลังหนึ่ง“ยินดีด้วยเจ้าค่ะ ท่านเจ้าตระกูลได้บุตรชายเจ้าค่ะ!”เสียงเด็กร้องไห้โยเยดังลอดออกมาให้ได้ยิน พร้อมกับเสียงแสดงความยินดีให้กับบิดาและมารดา นางยืนฟังเสียงร้องไห้นั้นอยู่นาน กระทั่งมีคนผู้หนึ่งทักนางเข้า“มาหาผู้ใดหรือเจ้าคะ?”

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 25 สูญเสียไปตลอดกาล

    บทที่ 25สูญเสียไปตลอดกาลดวงตาคู่งามลืมตาขึ้นท่ามกลางพงไพรอันคุ้นเคย ด้านข้างของนางคือร่างของจิ้งจอกหนุ่ม คนรักของนาง… ร่างของบุรุษที่รักนอนแน่นิ่งจนน่าหวาดหวั่นความอบอุ่นที่อยู่กลางอกบ่งบอกให้นางรับรู้ได้ถึงพลังชีวิตอันมหาศาล รวมถึงอิทธิฤทธิ์ของปีศาจจิ้งจอก มันคือลูกแก้วจิ้งจอกไม่ผิดแน่ใช่แล้ว ลูกแก้วจิ้งจอกอยู่กับนางมาตลอด ลูกแก้วจิ้งจอกที่เปรียบเสมือนพลังชีวิตของจินหมิงเยว่ บุรุษเคยบอกกับนางเช่นนั้น นั่นหมายความว่าไม่มีทางที่จินหมิงเยว่จะตาย เขาก็แค่หมดเรี่ยวแรงจึงหลับไปเท่านั้นนางเอ่ยปลอบตนเองแล้วหันไปหาบุรุษ หากทว่าเมื่อมือเล็กๆ แตะที่ร่างของบุรุษ ความเย็นยะเยือกก็แล่นผ่านเข้ามาในร่างของนาง สตรีตัวน้อยตัวแข็งทื่อ พลันน้ำตาก็ไหลอาบสู่สองข้างแก้ม“ไม่จริง ท่านพี่บอกว่า หากมีข้า มีลูกแก้วจิ้งจอก อย่างไรก็ไม่มีทางตายนี่”ฝ่ามือเล็กคว้าท่อนแขนของบุรุษแล้วออกแรงเขย่าแรงๆ เพื่อหวังให้บุรุษฟื้นตื่นขึ้นมา แม้ว่าบุรุษจะเจ็บ หากฟื้นขึ้นมานางจะยินยอมน

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 24 เดิมทีนางควรจะตายไปตั้งนานแล้ว

    บทที่ 24เดิมทีนางควรจะตายไปตั้งนานแล้วยามนั้นเองบางสิ่งร่วงหล่นลงมาจากท้องฟ้า เส้นแสงสีขาวหลายสายล้อมรอบพวกเขาเอาไว้“...!”จินหมิงเยว่และหลี่ตงหยางตวัดแขนขึ้นไปด้านหน้า ล้อมฟางเหนียงเอาไว้เพื่อปกป้องนางสตรีตัวน้อยสะดุ้งตกใจ โอบกอดจินหมิงเยว่เอาไว้ด้วยความหวาดกลัว...คนพวกนี้เป็นใครกัน?...“ส่งตัวนางมา หากต่อต้านจะถือว่าปรปักษ์ต่อสรวงสวรรค์”...สรวงสวรรค์หรือ!?...ดวงตาคู่งามเบิกกว้างด้วยความตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน นางสับสนว่าเกิดสิ่งใดขึ้นกันแน่!?“หากอยากได้ตัวนางนัก ก็เข้ามา!!” เป็นจินหมิงเยว่ที่เอ่ยออกไปอย่างไม่เกรงกลัว แม้จะเป็นผู้ใดหากมาพรากฟางเหนียงไปจากเขา บุรุษไม่ยินยอม!!เกิดการต่อสู้กันระหว่างปีศาจจิ้งจอก เทพหนุ่มตกสวรรค์และองครักษ์สวรรค์ โดยที่ฟางเหนียงอยู่ในการปกป้องของจินหมิงเยว่ตลอดการต่อสู้“ท่านพี่ เกิดอะไรขึ้นกันแน่เจ้าคะ เหตุใ

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 23 เช่นนั้นข้าปรนนิบัติเจ้าแทน

    บทที่ 23เช่นนั้นข้าปรนนิบัติเจ้าแทนฟางเหนียงลงมือทำอาหารหลายอย่าง รวมถึงของหวานด้วย นางคีบทั้งผักทั้งปลาใส่ในถ้วยของบุรุษ ส่วนจินหมิงเยว่ก็คีบแต่พวกเนื้อสัตว์ใส่ถ้วยให้นางเช่นเดิม“เมื่อใดเจ้าจะอ้วนเสียที หืม?”“ข้าไม่อยากอ้วนเจ้าค่ะ”“เหตุใดจึงไม่อยากอ้วน?”“ข้าเป็นสตรี ก็ต้องรักสวยรักงามเป็นธรรมดา หากอ้วนเมื่อสวมใส่อาภรณ์ใดๆ ก็ไร้ความมั่นใจนี่เจ้าค่ะ”“เจ้าเคยอ้วนหรือ?”“ไม่เคยเจ้าค่ะ”“เช่นนั้นเจ้าจะรู้ได้อย่างไรว่าหากอ้วนแล้วจะไม่งดงาม”“เรื่องเช่นนี้ไม่จำเป็นต้องเคยมาก่อนที่เจ้าค่ะ! อีกอย่างข้าไม่เคยบอกว่าไม่อ้วนแล้วจะไม่งดงาม ข้าก็แค่คิดว่าคงไม่มีความมั่นใจ”“อ้วนให้ข้าหน่อยเถิด”“เอ๊ะ! ท่านพี่นี่อย่างไร หากอยากได้สตรีอ้วนๆ ก็ไปหาที่อื่น ไม่ต้องมาหาที่ข้า!”&l

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 22 สัญชาตญาณที่ต้องปลดปล่อย

    บทที่ 22สัญชาตญาณที่ต้องปลดปล่อยฟางเหนียงขยับกายไปนั่งลงบนตักของบุรุษ จากนั้นก็ใช้สะโพกกดลงบนความแข็งแกร่ง ครอบครองแก่นกายบุรุษเพศเข้าไปในตัวของตนเอง“อ่า...” ทั้งฟางเหนียงและจินหมิงเยว่ครางด้วยความสุขสมสตรีตัวน้อยโอบกอดบุรุษแนบอกแล้วเชิดหน้าขึ้น ก่อนจะจะเริ่มขยับสะโพกของตนเองด้วยท่าทางที่ดูเก้ๆ กังๆ ในช่วงแรก ทว่าไม่นานความวาบหวาม รัญจวนใจ ร่างกายก็ได้นำพาให้นางสามารถขับเคลื่อนร่างกาย มอบความเสียวซ่านให้กับบุรุษได้เป็นอย่างดีนางเอนกายไปข้างหลัง ใช้มือเกาะบ่าของบุรุษเอาไว้ก่อนจะเด้งสะโพกระรัว รับรู้ได้ถึงความแข็งแกร่งของแก่นกายได้อย่างชัดเจน“อ๊า ท่านพี่ อื้ม!” ทรวงอกของนางถูกดูดดื่มอย่างหื่นกระหาย แม้มันจะเจ็บเล็กน้อยเพราะมีรอยแผลจากการกระทำของบุรุษเมื่อครั้นก่อนหน้า หากแต่ความวาบหวามนั้นมีมากกว่า นางจึงยิ่งแอ่นอกให้ปากหยักดูดดื่มและกลืนกินตามต้องการฟางเหนียงเชิดหน้าขึ้นแล้วร้องครางเสียงหวานอย่างลืมอาย สูญสิ้นสติในการยับยั้งชั่งใจ กลีบกา

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 21 รูปลักษณ์ที่เปลี่ยนไป

    บทที่ 21รูปลักษณ์ที่เปลี่ยนไปวันเวลาผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็ว ฟางเหนียงในวัยสิบหกปีครั้นมาที่ดินแดนจิ้งจอกแห่งนี้เป็นครั้งแรก บัดนี้นางอายุสิบแปดหนาวเสียแล้วความงดงามของนางนั้นเพิ่มมากขึ้นเสียจนจินหมิงเยว่แทบจะกกกอดนางเอาไว้ภายในห้องตลอดทั้งวันทั้งคืน ถึงแม้ว่ารอบตำหนักพันปีจะไม่มีผู้ใดย่างกรายเข้ามาได้ หากมิได้รับอนุญาตก็ตาม“ท่านพี่เจ้าคะ!” เสียงเจื้อยแจ้วของฟางเหนียงดังขึ้น พร้อมการปรากฏกายของนาง ในขณะที่จินหมิงเยว่กำลังฝึกพละกำลังและอาคมบุรุษตวัดฝ่ามือครั้งหนึ่งพาร่างบอบบางลอยละล่องมานั่งบนตักของตนเอง แล้วฉวยโอกาสหอมแก้มนางไปหนึ่งที“ว้าย! ท่านพี่! ฮวาอินก็อยู่นะเจ้าคะ”“เฮ้อ ฮวาอินออกจะชอบที่ข้ากับเจ้าพลอดรักกัน”“ท่านพี่!!”เพี๊ยะ!!ว่าแล้วก็ตีท่อนแขนแกร่งไปหนึ่งทีด้วยความเขินอาย จินหมิงเยว่หัวเราะเสียงดัง ยิ่งได้เห็นพวงแก้มทั้งสองข้างขึ้นสีแดงระเรื่อก็ยิ่งอยากแกล้

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 20 งอน

    บทที่ 20งอน“ลองขย่มข้าสิ”“ตะ แต่ข้าไม่รู้”“ทำแบบนี้”“อ๊ะ!?”ฝ่ามือหยาบยกสะโพกกลมขึ้นแล้วกดลงให้ครอบครองความแข็งแกร่งของตนเอง ความเสียวซ่านแล่นพล่านไปทั่วทั้งร่างบอบบางฟางเหนียงขยับตามการนำพาของบุรุษ กระทั่งหาจังหวะของตนเองเจอ จินหมิงเยว่ก็เปลี่ยนเป็นบีบเคล้นสะโพกกลมกลึงด้วยความมันเขี้วแทนท่วงท่าของนางสร้างความรัญจวนในเหลือเกิน มันเชื่องช้าและละมุนละไม ราวกับจงใจทรมานจินหมิงเยว่ให้ต้องอดทนกับกามารมณ์ เกร็งทั่วทั้งร่างจนเห็นก้อนกล้ามเนื้อชัดเจน อีกทั้งเส้นเลือดยังปูดโปนออกมา“อ่า เหนียงเอ๋อร์ เจ้าช่าง...” บุรุษมิอาจเอื้อนเอ่ยได้อีก เมื่อนางเริ่มขยับถี่ขึ้นเรื่อยๆ มิได้เข้าสุดออกสุดเหมือนอย่างในครั้งแรก แต่เป็นการกดสะโพกระรัว“อืม” นางครางเสียงหวานแล้วแหงนหน้าขึ้นตามอารมณ์ จินหมิงเยว่ก้ามหน้าลงดูดดื่มกับยอดอกสีหวานเข้าปากอย่างกระหายความรู้สึกวาบหวา

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 19 จิ้งจอกเจ้าเล่ห์

    บทที่ 19จิ้งจอกเจ้าเล่ห์ดวงตาคู่งามเปิดอย่างเชื่องช้า คราวนี้ฟางเหนียงไม่ตกใจอีกแล้วว่านางมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร สถานที่ที่ไม่ต่างไปจากสรวงสวรรค์ นางคงถูกเทพองค์นั้นเรียกตัวมาอีกเป็นแน่นางเตรียมที่จะมองหาตัวของผู้ที่เรียกนางมา แต่ไม่ทันที่จะได้หยัดกายลุกขึ้นเสียด้วยซ้ำ เสียงทุ้มน่าฟังก็ดังขึ้นเหนือหัว“เดี๋ยวนี้เจ้าไม่ตกใจแล้วหรือ?”ฟางเหนียงหยัดกายลุกขึ้น ก่อนจะหันไปยอบกายคำนับตามมารยาท“คำนับ ท่านเทพเจ้าค่ะ”“อ่า เจ้ารู้แล้วสินะ… รู้ได้อย่างไร หมิงเยว่บอกเจ้าหรือ?”“ท่านพี่ของข้ารู้จักกับท่านเป็นการส่วนตัวด้วยหรือเจ้าคะ?”“อ่า มิใช่สินะ”ใบหน้าคมคายหม่นลงเล็กน้อย ยิ่งสร้างความประหลาดใจให้กับฟางเหนียงดูเหมือนว่าทั้งสองจะรู้จักกันสินะ แต่รู้จักกันด้วยดีหรือร้ายมิอานคาดเดาได้“ท่านเทพ… จุดประสงค์ของท่านคือสิ่งใดกันแน่?”สตรีตัวน้อยรู้สึกหวาดหวั่นเหลือเกิน หวาดกลัวว

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 18 มิอาจยอมให้นางเสียหาย

    บทที่ 18มิอาจยอมให้นางเสียหายลิ้นสากหลีกหนีเรียวลิ้นของนาง ลิ้นของนางก็ยังตามติดไม่ออก กลายเป็นจูบที่แสนดูดดื่มจนเกิดเสียงน่าอาย เมื่อยามที่ฟางเหนียงยอมแพ้คิดจะถอนริมฝีปากออก จินหมิงเยว่ก็เป็นฝ่ายคว้าท้ายทอยของนางแล้วกดให้แนบแน่นยิ่งกว่าเดิม จากนั้นก็เป็นฝ่ายรุกรานโพรงปากอุ่น ตักตวงความหอมหวานอย่างเร่าร้อน ทั้งๆ ที่เมื่อครู่เอาแต่หลีกหนีปฏิเสธนางแท้ๆ...จิ้งจอกเจ้าเล่ห์!!...อดมิได้ที่จะต่อว่าบุรุษในใจที่คิดหลอกนาง แต่ก็ยอมให้บุรุษรุกรานแต่โดยดี เพราะจูบหวานๆ ที่ถูกส่งมอบมามันพาให้ร่างของนางอ่อนระทวย เคลิบเคลิ้มไปกับรสจูบซึ่งราวกับเอาอกเอาใจนาง นางจะยอมให้อภัยจินหมิงเยว่ก็แล้วกันเนิ่นนานกว่าทั้งสองจะถอนริมฝีปากออกจากัน ดวงตาสบประสานกันของหวานซึ้ง คล้ายกับกำลังแลกเปลี่ยนความรู้สึกที่มีให้กันและกัน“เอาลูกแก้วคืนไปหรือยังเจ้าคะ?”“ยัง”“อ้าว?”“ข้าฝากไว้กับเจ้า หากข้าบาดเจ็บเจ้าจะได้จู

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status