หน้าหลัก / รักโบราณ / สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง / บทที่ 23 เช่นนั้นข้าปรนนิบัติเจ้าแทน

แชร์

บทที่ 23 เช่นนั้นข้าปรนนิบัติเจ้าแทน

ผู้เขียน: ฮวาเฟิ่งหวง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-04-22 20:00:33

บทที่ 23

เช่นนั้นข้าปรนนิบัติเจ้าแทน

ฟางเหนียงลงมือทำอาหารหลายอย่าง รวมถึงของหวานด้วย นางคีบทั้งผักทั้งปลาใส่ในถ้วยของบุรุษ ส่วนจินหมิงเยว่ก็คีบแต่พวกเนื้อสัตว์ใส่ถ้วยให้นางเช่นเดิม

“เมื่อใดเจ้าจะอ้วนเสียที หืม?”

“ข้าไม่อยากอ้วนเจ้าค่ะ”

“เหตุใดจึงไม่อยากอ้วน?”

“ข้าเป็นสตรี ก็ต้องรักสวยรักงามเป็นธรรมดา หากอ้วนเมื่อสวมใส่อาภรณ์ใดๆ ก็ไร้ความมั่นใจนี่เจ้าค่ะ”

“เจ้าเคยอ้วนหรือ?”

“ไม่เคยเจ้าค่ะ”

“เช่นนั้นเจ้าจะรู้ได้อย่างไรว่าหากอ้วนแล้วจะไม่งดงาม”

“เรื่องเช่นนี้ไม่จำเป็นต้องเคยมาก่อนที่เจ้าค่ะ! อีกอย่างข้าไม่เคยบอกว่าไม่อ้วนแล้วจะไม่งดงาม ข้าก็แค่คิดว่าคงไม่มีความมั่นใจ”

“อ้วนให้ข้าหน่อยเถิด”

“เอ๊ะ! ท่านพี่นี่อย่างไร หากอยากได้สตรีอ้วนๆ ก็ไปหาที่อื่น ไม่ต้องมาหาที่ข้า!”

“เฮ้อ ก็ได้ เช่นนั้นเจ้าก็ต้องให้ข้ากินบ่อยๆ ล่ะ”

คราวนี้จินหมิงเยว่ยิ้มกริ่ม ฟางเหนียงตาโตมองบุรุษตรงหน้า ที่อยู่ดีๆ ก็ทำสายตาเจ้าเล่ห์ เอ่ยถึงเรื่องในห้องหอนอนออกมากหน้าตาเฉย

“เจ้าคะ?”

“ถ้าเจ้าอ้วนข้าอาจจะกินเจ้าจนอิ่ม แต่เจ้าไม่ยอมอ้วน กินเท่าไหร่ข้าก็เลยไม่อิ่มสักทีไง เช่นนั้นคืนนี้ก็ต้องให้ข้ากินอีก เข้าใจหรือไม่?”

“ทะ ท่านพี่! ลามก!!”

ดวงหน้าหวานแดงก่ำไม่ต่างไปจากผลอิงเถาในสวนเลยสักนิด หากเทียบกันแล้วไม่แน่ว่าดวงหน้าหวานของฟางเหนียง อาจจะแดงเสียยิ่งกว่าผลอิงเถาก็เป็นได้ แดงสดจนน่าแกล้ง อ่า ไม่สิ น่ากินจริงๆ

หลังจากกินของคาว ก็ต่อด้วยของหวาน ระหว่างนั้นฟางเหนียงก็ป้อนจินหมิงเยว่อย่างเอาอกเอาใจ เพราะนางมีจุดประสงค์! มิเช่นนั้นคงไม่ยอมหายงอนหรอก

“สรุปแล้ว เหตุใดเรือนผมของท่านพี่จึงกลายเป็นสีดำเช่นนี้เจ้าคะ?”

“ช่วงของพลังที่ลดลงน่ะ แม้บำเพ็ญเพียรจนได้เป็นอมตะ หากแต่สัตว์ก็ยังคงมีสัญชาตญาณของสัตว์ มันเป็นกฎของธรรมชาติ และเมื่อผิดกฎของธรรมชาติ ร่างกายมันก็จะหาทางปลดปล่อยออกมาเอง ซึ่งก็คือการที่ร่างปีศาจของข้ากลายเป็นร่างไม่ต่างจากมนุษย์ไร้กำลัง หากเปรียบเทียบให้เจ้าเข้าได้ได้ง่าย ก็ไม่ต่างจากช่วงติดสัตว์ ข้ามีปรารถนาล้ำลึกมากกว่าปกติ และจะใช้เวลายาวนานจนกว่าจะหาย”

ฟางเหนียงเข้าใจได้ทันที เพราะจินหมิงเยว่ค่อนข้างตามใจนาง หากแต่เมื่อวานกลับไม่ยินยอมเมื่อนางขอไปทำในห้องหับ กลับเอารัดเอาเปรียบนางในที่โล่งแจ้งเช่นนั้น นั่นเป็นเพราะเขามิอาจอดทนอดกลั้นได้ด้วยเหตุผลนี้นี่เอง

…ข้าก็คิดอยู่ว่าท่านพี่ดูดุเดือดกว่าทุกที…

คิดแล้วดวงหน้าหวานก็ยิ่งขึ้นสีแดงระเรื่อ เพราะบทรักอันดุเดือดเมื่อวานนั้นสร้างความประทับใจให้นางไม่น้อย

“แล้วเมื่อใดจึงจะกลับไปเป็นเหมือนเดิมเจ้าคะ?”

“เร็วสุดก็สามวัน ช้าสุดก็เจ็ดวัน”

“เอ่อ แล้ว… ปกติท่านพี่… ปลดปล่อยมันหรืออดทนเจ้าคะ?”

“…เจ้าอยากได้คำตอบแบบไหนล่ะ?’

ดวงตาเรียวคมเป็นประกายเจ้าเล่ห์ ก่อนจะป้อนขนมใส่ปากของนาง มองดูเรียวลิ้นที่แลบออกมาเลียขนมที่นิดอยู่บนริมฝีปากไม่วางตา

“ความจริงเจ้าค่ะ”

“ช่วงที่เจ้ายังไม่เกิด ก็มีบ้างที่ข้าไปปลดปล่อยกับสตรีในหอนางโลม แต่โดยส่วนใหญ่ก็อดทนอดกลั้นเอา แต่ดูเหมือนว่ารอบนี้จะสบายขึ้น”

“…?”

“เพราะข้ามีเจ้าคอยปรนนิบัติอย่างไรเล่า”

“คะ ใครว่าข้าจะปรนนิบัติท่านพี่เจ้าคะ ท่านพี่น่ะ รุนแรงเกินไป เหนียงเอ๋อร์รับไม่ไหวหรอกเจ้าค่ะ”

นางครุ่นคิดถึงช่วงเวลาสามวันสามคืน หากต้องเอาแต่โดนกระแทก นอนกกนอนกอดอย่างเดียว มีหวังร่างกายนางต้องบุบสลายไปบ้างไม่มากก็น้อย

“เช่นนั้นข้าปรนนิบัติเจ้าแทนก็ได้”

“ว้าย! ท่านพี่! อื้อ!!”

แล้วริมฝีปากของนางก็ถูกเคล้าคลึงอย่างอ่อนโยน เรียวลิ้นสากสอดแทรกเข้าไปตักตวงความหอมหวานจากโพรงปากอุ่นๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า

มอบทั้งความอ่อนโยนและอ่อนหวานให้กับนาง เพื่อให้นางเคลิบเคลิ้ม จากนั้นค่อยทวีความร้อนแรงและดูดดื่มขึ้นตามอารมณ์ ฟางเหนียงมิอาจต่อต้านบุรุษได้เลย

ร่างกายของนางถูกจินหมิงเยว่ควบคุมไปตามใจของเขา จนบางครั้งนางก็นึกสงสัยว่านี่ร่างกายของนางหรือของบุรุษกันแน่ เหตุใดจึงรู้ว่าควรสัมผัสตรงส่วนใดเพื่อให้นางเกิดความวาบหวาม รู้ว่าจุดใดนางจะอ่อนไหวมากเป็นพิเศษ

และตลอดทั้งสามวันสามคืนนั้นจินหมิงเยว่ก็มิได้ปล่อยให้ฟางเหนียงออกมาจากห้องเลย ฮวาอินมีหน้าที่เพียงนำอาหารไปวางไว้ให้หน้าห้อง เมื่อถึงเวลาก็มาเก็บสำรับ

บางทีมาถึงก็ได้ยินเสียงครวญครางทำเอาฮวาอินหน้าร้อนผ่าว ต้องรีบหนีไปจากตรงนั้นเพื่อให้ความเป็นส่วนตัวแก่ผู้เป็นนายทั้งสอง

มันช่วยไม่ได้จริงๆ ที่ช่วงนี้จินหมิงเยว่อยู่ในช่วงติดสัตว์!

หากทว่าความสงบอันแสนสุขนั้นไม่ยั่งยืนเลยแม้แต่น้อย ในค่ำคืนหนึ่งท้องฟ้าถูกปกคลุมไปด้วยเมฆฝน สายฟ้าฟาดลงมายังพื้นพสุธาเกิดเป็นร่างของบุรุษรูปงามผู้หนึ่งอยู่หน้าตำหนักพันปี...

จินหมิงยเว่รับรู้ได้ถึงพลังอันรุนแรง ร่ายอาคมสะกดให้ฟางเหนียงเข้าสู่ห้วงนิทราตามเดิม มิให้สิ่งใดย่างกรายมารบกวนการนอนอันแสนหวานของนางได้ ก่อนจะหยัดกายขึ้นแล้วสวมเสื้อคลุม ก่อนจะเดินออกไปยังจุดที่รับรู้ได้ถึงพลังอันรุนแรงนั่น

เมื่อเปิดประตูตำหนักออกมา ก็พบเข้ากับร่างของเทพผู้หนึ่ง... เทพผู้ซึ่งเคยเป็นสหายเก่า!

“หลี่ตงหยาง?”

บุรุษผู้นั้นได้รับบาดเจ็บ แม้ร่างกายมิได้รับบาดเจ็บสาหัสแต่อย่างไร หากแต่ผู้มีพลังย่อมรับรู้ได้ถึงพลังวิญญาณซึ่งรั่วไหลออกมา

“เกิดอะไรขึ้นกับเจ้า”

“สวรรค์... ลงโทษข้าแล้ว” จากนั้นร่างของหลี่ตงหยางก็ล้มลงกับพื้น

ดวงตาเรียวคมตวัดมองขึ้นไปเบื้องบน สายฟ้าสีทองอร่ามไปทั่วทั้งท้องฟ้า จินหมิงเยว่รู้สึกหวาดหวั่นเหลือเกิน เรื่องที่เขาพยายามหลีกเลี่ยงมาตลอดกำลังจะเกิดขึ้น!

บุรุษเข้าไปประคองร่างของสหายสนิทขึ้นมาแล้วพาเข้าไปยังตำหนักพันปี ใช้อาคมของตนเองช่วยรักษาบาดแผลภายใน แต่ก็ทำได้ไม่มากนักเนื่องจากพลังของปีศาจและพลังของเทพนั้นแตกต่างกัน

หากรับไอปีศาจเข้าไปมากๆ จะเป็นอันตรายต่อหลี่ตงหยาง จึงเพียงแค่ช่วยให้มีชีวิตรอด ไม่ตายในตำหนักของเขา ให้ฟื้นตื่นขึ้นมาเอ่ยเล่าบางสิ่งที่เอ่ยค้างเอาไว้เมื่อครู่เท่านั้น เรื่องอื่นจินหมิงเยว่หาได้สนใจไม่

“อึก…!” หลี่ตงหยางฟื้นขึ้นแล้ว และถูกป้อนโอสถเข้าปากทันที

“กินๆ เข้าไป”

“เจ้านี่ช่างไม่อ่อนโยนเอาเสียเลย”

“ความอ่อนโยนของข้ามิได้มีไว้เพื่อเจ้า”

“หึ… ช่างเถอะ เจ้าก็ยังคงเป็นเจ้าเฉกเช่นเดิม”

“เข้าเรื่องได้แล้ว ข้าไม่อยากเสียเวลากับเจ้า”

“หึ เธออยากรู้เรื่องใดก่อนล่ะ เรื่องสภาพของข้า…” ดวงตาคงต้องแอบหนวดหมอจะหายตรงหน้าอย่างรู้ทัน “หรือเรื่องสายฟ้าที่สาดส่องไปทั่ว”

“ถ้าไม่อยากรู้เรื่องใดทั้งสิ้น หากมิใช่เรื่องที่เกี่ยวกับเหนียงเอ๋อร์”

“หึ มันก็คงต้องเป็นอย่างหลังสินะ… ดวงตาสวรรค์มองเห็นแล้ว… โชคชะตาที่ถูกบิดเบี้ยวไปจากเดิม” น้ำเสียงของเทพหนุ่มผู้ทำผิดกฎทรวงสวรรค์เศร้าสร้อยเหลือเกิน ตลอดมาก็คอยช่วยเหลืออยู่ตลอดหากแต่โชคชะตานั้นหลีกเลี่ยงได้ยากเหลือเกิน

“เจ้ากำลังจะบอกว่าแม้แต่ในชาตินี้ เหนียงเอ๋อร์ก็ยังคงต้องตายอย่างนั้นหรือ!!”

“โชคชะตาหลีกเลี่ยงได้ยาก” เขารู้ดี คิดว่าจะหายตรงหน้าก็คงรู้ดี เพียงแต่มันยากที่จะยอมรับ…

“แต่ข้าทำได้ ชีวิตของเหนียงเอ๋อร์ที่เจ้าเคยบอกว่าจะตายเมื่ออายุครบสิบหกหนาว นี่ก็ผ่านมาตั้งสามปีแล้ว นางก็ยังคงอยู่กับข้า!!”

“ใจเย็นๆ ก่อน เหตุใดคุยเรื่องนี้ทีไรเจ้าจึงต้องร้อนรนเช่นนี้ตลอด เจ้าจงสุขุม มิเช่นนั้นจะคิดหาทางออกได้อย่างไร?”

“ข้าทนดูนางตายมาทุกภพทุกชาติ โดยที่ข้ามิอาจยื่นมือออกไปช่วยนางได้ ทุกภพทุกชาติที่ข้าต้องทนทุกข์ทรมานกับการฝังร่างของนางด้วยตัวข้าเอง ทุกภพทุกชาติที่ข้าต้อง… มองเห็นภาพนางแม้แต่ในฝัน ภาพนางร่างไร้วิญญาณของนาง…”

ใบหน้าของจินหมิงเยว่ซึ่งฉาบไปด้วยความเย็นชาดุจหิมะในค่ำคืนเหมันฤดู บัดนี้มันกลับเจ็บปวดรวดร้าวราวกับจะแตกสลายเสียให้ได้

“หมิงเยว่ ข้าคิดว่า… เจ้าควรปล่อยนาง”

“เจ้าจะให้ข้าปล่อยนางไปเผชิญกับความตาย ทั้งๆ ที่รู้อยู่แล้วอย่างนั้นหรือ!?” บุรุษตะโกนเสียงดังอย่างไม่ยอมรับโดยง่าย

ที่ผ่านมาบุรุษให้โชคชะตานำพามาตลอด ทว่ามันหนักหนาเกินไป จินหมิงเยว่จึงตัดสินใจฝืนชะตาในชาตินี้

“มันเป็นโชคชะตาของนาง”

“ข้าเปลี่ยนมันได้ ข้าเปลี่ยนโชคชะตาของนางได้”

“เจ้าทำให้โชคชะตาของมนุษย์มันยุ่งเหยิงไปหมดแล้ว ผลกระทบมันมากเกินไป มีแต่นางที่จะได้รับเคราะห์หนักกว่าที่ผ่านมา!”

“ข้าจะรับแทนนางเอง”

“จินหมิงเยว่! เจ้าไร้เหตุผล!! เป็นถึงประมุขจิ้งจอกเหตุใดจึงโง่เขลาเช่นนี้!”

…เพราะข้ารักนาง…

เพราะความรักจึงยอมทำทุกวิธีทางเพื่อให้นางมีชีวิตรอด จึงยอมทำทุกวิถีทางไม่สนว่าตนเองจะต้องแลกด้วยสิ่งใด ขอเพียงแค่นางมีชีวิตอย่างยืนยาวและมีความสุข

ตลอดสามภพสามชาติที่เคยพบเจอนาง เคยสานสัมพันธ์กับนาง พยายามไม่โลภมาก ตัดความต้องการของตนเอง หากแต่ผลลัพธ์คือนางต้องตายทุกชาติภพ เช่นนั้นแล้วในชาตินี้จินหมิงเยว่จึงคิดว่าควรช่วยนาง อย่างน้อยก็ซักชาติภพหนึ่งเพื่อให้นางมีชีวิตอย่างยืนยาวและมีความสุข

“ไม่มีเวลาแล้ว โชคชะตากำลังตามหานาง… เจ้าคงไม่อยากให้นางทุกข์ทรมานใช่หรือไม่ หืม?”

จินหมิงเยว่ยังคงนิ่ง ให้ทำใจปล่อยคนที่รักไปตาย… เขาจะมำได้อย่างไร!?

“ขอร้องล่ะ ปล่อยนาง ปล่อยน้องสาวของข้า อย่าให้นางเผชิญกับชะตากรรมที่น่าอดสูมากกว่านี้ ให้นางจากไปอย่างสงบเถิด”

ครืน!!

“กรี๊ด!!”

เสียงท้องฟ้าขู่คำรามดังกึกก้อง พร้อมกับเสียงกรีดร้องของสตรีเพียงหนึ่งเดียวในตำหนักพันปีแห่งนี้!!

“เหนียงเอ๋อร์!!”

บุรุษทั้งสองรีบวิ่งไปยังต้นเสียง ทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็เห็นร่างบอบบางกำลังนั่งตัวสั่นระริกอยู่บนเตียง

“เหนียงเอ๋อร์ ข้าอยู่นี่ ข้าอยู่นี่แล้ว!” จินหมิงเยว่คว้าสตรีตัวน้อยเข้าสู่อ้อมกอดด้วยความเป็นห่วงเป็นใย ทางด้านของหลี่ตงหยางเมื่อเห็นว่าฟางเหนียงปลอดภัยจึงถอนหายใจอย่างโล่งอก “ดีขึ้นหรือไม่?”

“ท่านพี่ไปไหนมาเจ้าคะ?” ดวงตาคู่งามช้อนขึ้นมองบุรุษอย่างออดอ้อน เมื่อนางสะดุ้งตื่นขึ้นมาเพราะเสียงฟ้าร้อง นางยิ่งขวัญเสียมองข้างกายไร้บุรุษเคียงข้าง

“เอ่อ ข้า…” เหลือบสายตามองหลี่ตงหยางที่ยืนอยู่หน้าประตู ก่อนจะถอนหายใจแล้วเอ่ยว่า “พอดีสหายของข้ามากะทันหัน ข้าจึงไปต้อนรับ”

“สหายหรือเจ้าคะ?”

“อืม…” ช้อนดวงตาขึ้นมองบุรุษ ก็เห็นว่าจินหมิงเยว่มองไปยังหน้าประตูห้อง นางจึงหันไปมองตามสายตา แล้วก็เห็นร่างสูงโปร่งของบุรุษผู้หนึ่งซึ่งนางคุ้นหน้าคุ้นตาอยู่บ้าง “อ๊ะ ท่านเทพนี่!”

“หืม? เจ้ารู้จักด้วยหรือ?”

“เจ้าค่ะ เป็นเพราะท่านเทพ ทำให้เหนียงเอ๋อร์รู้จักท่านพี่มากขึ้น”

จินหมิงเยว่จ้องมองหลี่ตงหยางอย่างคาดคั้น

“เอ่อ แหะๆ”

แล้วหลี่ตงหยางก็ขยายความให้กับจินหมิงเยว่ได้เข้าใจ ว่าตนเองนั้นเคยมาหานาง และได้เปิดเผยอดีตชาติบางส่วนให้กับนาง เพราะอยากให้ทั้งสองเข้าใจกันมากขึ้น มิใช่ว่าเอาแต่เข้าใจผิดกันเช่นนี้

“...ชีวิตของมนุษย์นั้นหาได้ยืนยาวเฉกเช่นพวกเรา ข้าคิดว่าการให้นางเข้าใจอะไรเร็วขึ้น ย่อมเป็นการดีต่อตัวนาง”

หลี่ตงหยางมองฟางเหนียงด้วยสายตาเอ็นดู นั่นยิ่งทำให้ฟางเหนียงรู้สึกประหลาดใจเหลือเกิน

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 24 เดิมทีนางควรจะตายไปตั้งนานแล้ว

    บทที่ 24เดิมทีนางควรจะตายไปตั้งนานแล้วยามนั้นเองบางสิ่งร่วงหล่นลงมาจากท้องฟ้า เส้นแสงสีขาวหลายสายล้อมรอบพวกเขาเอาไว้“...!”จินหมิงเยว่และหลี่ตงหยางตวัดแขนขึ้นไปด้านหน้า ล้อมฟางเหนียงเอาไว้เพื่อปกป้องนางสตรีตัวน้อยสะดุ้งตกใจ โอบกอดจินหมิงเยว่เอาไว้ด้วยความหวาดกลัว...คนพวกนี้เป็นใครกัน?...“ส่งตัวนางมา หากต่อต้านจะถือว่าปรปักษ์ต่อสรวงสวรรค์”...สรวงสวรรค์หรือ!?...ดวงตาคู่งามเบิกกว้างด้วยความตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน นางสับสนว่าเกิดสิ่งใดขึ้นกันแน่!?“หากอยากได้ตัวนางนัก ก็เข้ามา!!” เป็นจินหมิงเยว่ที่เอ่ยออกไปอย่างไม่เกรงกลัว แม้จะเป็นผู้ใดหากมาพรากฟางเหนียงไปจากเขา บุรุษไม่ยินยอม!!เกิดการต่อสู้กันระหว่างปีศาจจิ้งจอก เทพหนุ่มตกสวรรค์และองครักษ์สวรรค์ โดยที่ฟางเหนียงอยู่ในการปกป้องของจินหมิงเยว่ตลอดการต่อสู้“ท่านพี่ เกิดอะไรขึ้นกันแน่เจ้าคะ เหตุใ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-23
  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 25 สูญเสียไปตลอดกาล

    บทที่ 25สูญเสียไปตลอดกาลดวงตาคู่งามลืมตาขึ้นท่ามกลางพงไพรอันคุ้นเคย ด้านข้างของนางคือร่างของจิ้งจอกหนุ่ม คนรักของนาง… ร่างของบุรุษที่รักนอนแน่นิ่งจนน่าหวาดหวั่นความอบอุ่นที่อยู่กลางอกบ่งบอกให้นางรับรู้ได้ถึงพลังชีวิตอันมหาศาล รวมถึงอิทธิฤทธิ์ของปีศาจจิ้งจอก มันคือลูกแก้วจิ้งจอกไม่ผิดแน่ใช่แล้ว ลูกแก้วจิ้งจอกอยู่กับนางมาตลอด ลูกแก้วจิ้งจอกที่เปรียบเสมือนพลังชีวิตของจินหมิงเยว่ บุรุษเคยบอกกับนางเช่นนั้น นั่นหมายความว่าไม่มีทางที่จินหมิงเยว่จะตาย เขาก็แค่หมดเรี่ยวแรงจึงหลับไปเท่านั้นนางเอ่ยปลอบตนเองแล้วหันไปหาบุรุษ หากทว่าเมื่อมือเล็กๆ แตะที่ร่างของบุรุษ ความเย็นยะเยือกก็แล่นผ่านเข้ามาในร่างของนาง สตรีตัวน้อยตัวแข็งทื่อ พลันน้ำตาก็ไหลอาบสู่สองข้างแก้ม“ไม่จริง ท่านพี่บอกว่า หากมีข้า มีลูกแก้วจิ้งจอก อย่างไรก็ไม่มีทางตายนี่”ฝ่ามือเล็กคว้าท่อนแขนของบุรุษแล้วออกแรงเขย่าแรงๆ เพื่อหวังให้บุรุษฟื้นตื่นขึ้นมา แม้ว่าบุรุษจะเจ็บ หากฟื้นขึ้นมานางจะยินยอมน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-24
  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 26 ห้วงคำนึงถึงนาง

    บทที่ 26ห้วงคำนึงถึงนางหลายฤดูผ่านไปจินหมิงอันเติบใหญ่เป็นจิ้งจอกหนุ่ม มีอิทธิฤทธิ์มากล้นเดินตามรอยของผู้เป็นบิดา ฟางเหนียงภาคภูมิใจเหลือคณานับที่บุตรชายสง่างามเช่นนี้ อีกทั้งยังรวบรวมพลังสร้างลูกแก้วจิ้งจอกของตนเองได้แล้ว แม้ว่าลูกแก้วจิ้งจอกนั้นจะยังแข็งแกร่งไม่เท่าลูกแก้วจิ้งจอกที่อยู่ในตัวของนางก็ตามยามนั้นเองสายลมพัดผ่านพาเอาความเย็นสบายโอบรอบร่าง ทว่ามีบางสิ่งลอยมากับสายลมด้วย กลิ่นที่คุ้นเคยพาให้หัวใจดวงน้อยเต้นแรงขึ้นมาฟางเหนียงหยัดกายขึ้นแล้วพุ่งตัวออกไปตามกลิ่นนั่น แหวกผ่านพงไพร เป็นหนึ่งเดียวกับสายลม กระทั่งมาถึงหมู่บ้านแห่งหนึ่ง นางเดินตามหาไม่นานก็มาหยุดอยู่ที่บ้านหลังหนึ่ง“ยินดีด้วยเจ้าค่ะ ท่านเจ้าตระกูลได้บุตรชายเจ้าค่ะ!”เสียงเด็กร้องไห้โยเยดังลอดออกมาให้ได้ยิน พร้อมกับเสียงแสดงความยินดีให้กับบิดาและมารดา นางยืนฟังเสียงร้องไห้นั้นอยู่นาน กระทั่งมีคนผู้หนึ่งทักนางเข้า“มาหาผู้ใดหรือเจ้าคะ?”

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-25
  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 1 เครื่องบรรณาการแด่จิ้งจอกเก้าหาง

    บทที่ 1เครื่องบรรณาการแด่จิ้งจอกเก้าหางร่างเล็กๆ ของเด็กหญิงตัวน้อยที่กำลังเดินเก็บสมุนไพรในป่าลึกชะงักเล็กน้อย เมื่อเห็นร่างของเจ้าขนปุกปุยนอนฟุบอยู่ไม่ไกลจากที่นางอยู่มากนัก เด็กน้อยพาตนเองไปใกล้ๆ กับมันก็พบว่าเจ้าก้อนปุกปุยนั้นคือจิ้งจอกตัวน้อย‘หมาน้อย!’แม้ว่านางจะเชื่อว่ามันเป็นหมาน้อยก็ตาม...นางอุ้มจิ้งจอกตัวน้อยหรือหมาน้อยของนางขึ้นมา เห็นว่ามันได้รับบาดเจ็บก็ใช้สมุนไพรที่ตนเองเพิ่งเก็บมา ก่อนจะใช้หินทุบๆ แล้วนำมันไปวางโปะไว้ที่บาดแผลของจิ้งจอกตัวน้อย พร้อมทั้งฉีกแขนเสื้อตนเองแล้วใช้พันที่ท้องของมันเอาไว้ดวงตาใสๆ ของนางมองเจ้าจิ้งจอกน้อยตัวนี้ด้วยความเวทนา อยากจะนำมันไปดูแลเหลือเกิน หากแต่แค่ตัวนางเองก็ลำบากมากพอแล้ว ไม่อยากนำเจ้าสัตว์ตัวน้อยไปทุกข์ยากด้วย อีกอย่างขืนนำจิ้งจอกตัวนี้กลับบ้านไปด้วย มีหวังจากที่จิ้งจอกตัวนี้จะรอดตาย คงถูกตีจนตายต่อหน้าต่อตานางแน่ๆแม้นางจะยังเด็กนัก แต่ด้วยประสบการณ์ที่ผ่านมาก็ทำให้เด็กน้อยเข้าใจโลกที่นางอยู่อย่างถ่องแท้‘เรียบร้อย ข้าต้องไปแล้วนะ’ ด้วยความไร้เดียงสา นางคิดว่าทำแค่นี้จิ้งจอกตัวนั้นคงรอดตายแล้ว ก่อนจะเดินลงจากเขาไป...ดวงตาของ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-03
  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 2 จิ้งจอกเก้าหาง

    บทที่ 2จิ้งจอกเก้าหางฟางเหนียงรู้ว่าหากไม่รับถ้วยเหล้านี้ ก็คงถูกป้อนทางปากเหมือนเมื่อครู่อีกเป็นแน่ จึงยื่นมือเล็กๆ สองมือออกไปรับมันมาอย่างไม่เต็มใจ“ข้าคิดว่า... ท่านเป็นคนช่วยเจ้าค่ะ”“ใช่ แต่ก็ไม่ใช่”“หมายความเช่นไรเจ้าคะ?”“ข้าส่งคนไปจับเจ้า และคนที่ช่วยเจ้าก็คือคนของข้า เช่นนั้นแล้วก็ไม่ต่างจากข้าช่วยเจ้า เพียงแต่ข้ามิได้ไปช่วยด้วยตนเอง”“อ่า... อย่างไรก็ต้องขอบคุณนะเจ้าคะ” สตรีตัวน้อยกระโดดลงจากเตียง จากนั้นก็ประสานมือแล้วยอบกายคำนับ เท่านั้นยังไม่พอ นางยังก้มหัวลงจรดพื้นด้วยท่าทีอ่อนน้อมถ่อมตนอีกด้วย “เหนียงเอ๋อร์เป็นหนี้บุญคุณชีวิตท่านเสียแล้ว หากมีสิ่งใดที่เหนียงเอ๋อร์ตอบแทนท่านได้ โปรดบอกมาเถิดเจ้าค่ะ”“ลุกขึ้น”ฟางเหนียงทำตามอย่างว่าง่าย ก่อนจะจ้องมองบุรุษตาปริบๆ ในขณะเดียวกันจินหมิงเยว่หย่อนกายนั่งลงบนเตียงท่าทีสบายๆ“ข้าช่วยเจ้า เพราะเจ้าเป็นคนในปกครองของข้า คนที่ข้าส่งไปรับเจ้าย่อมรู้ดีว่าหากผู้ใดคิดแตะต้องเจ้า โทษคือตายสถานเดียว”“เจ้าคะ? คะ คนของท่าน?”“ใช่... ชุดนี่” กวาดสายตามองสตรีตัวน้อยตั้งแต่หัวจรดเท้า อาภรณ์พวกนี้มีกลิ่นเครื่องหอม ซึ่งต่างจากกลิ่นกายของฟางเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-03
  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 3 เจ้าสาวจิ้งจอก

    บทที่ 3เจ้าสาวจิ้งจอกร่างกายของนางถูกพันธนาการอย่างร้ายกาจ แม้ท่าทีจะนุ่มนวลหากแต่เมื่อนางขยับ กลับมิอาจขยับร่างกายได้ตามใจ ร่างกายของบุรุษไม่ต่างจากหินผา ราวกับนางติดอยู่ในซอกหินไร้หนทางออก“ฮ้า!!” จวบจนเกือบหมดลมหายใจ จิ้งจอกตัวร้ายจึงถอนริมฝีปากออกเพื่อเปิดโอกาสให้นางสูดลมหายใจเสียงหัวเราะด้วยความเจ้าเล่ห์ระคนเอ็นดูดังขึ้นอย่างพึงพอใจ ก่อนที่อาภรณ์จะถูกปลดออกเผยเรือนร่างขาวผ่องใต้แสงจันทร์เต็มดวง ทว่า… ผิวขาวๆ ราวกับหยกมันแพะกลับแต่งแต้มไปด้วยรอยแผลจากการถูกทุบตีดวงตาเรียวคมจ้องมองมันอย่างโหดเหี้ยม เผลอออกแรงที่ข้อมือเล็กจนสตรีตัวน้อยสะดุ้งกับความเจ็บปวดนั่น“อ๊ะ!”และนั่นก็เรียกสติของจินหมิงเยว่กลับมา… คลายแรงที่มือออก เผยให้เห็นข้อมือเล็กๆ แดงก่ำจากการถูกบีบเมื่อครู่…เจ้าก็ตัวเล็กถึงเพียงนี้ เหตุใดจึงถูกทำร้ายไปทั้งตัว?...“ข้าบอกท่านแล้ว ว่าร่างกายของข้ามิได้งดงาม” เสียงหวานเอ่ยอย่างเศร้าสร้อยร่างกายของสตรีนั้นล้ำค่าไม่ต่างจากพรหมจรรย์ของพวกนาง หากแม้ร่างกายมีบาดแผลเพียงเล็กน้อยจนเกิดเป็นแผลเป็น เป็นข้ออ้างของการหย่าร้างได้ ในสตรีพรหมจรรย์ก็ทำให้พวกนางมิได้ออกเรือนกับบุรุษ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-03
  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 4 เมียของข้า ช่างขี้โวยวายยิ่งนัก

    บทที่ 4เมียของข้า ช่างขี้โวยวายยิ่งนัก“ทะ ท่านจะทำอะไรเจ้าคะ”“เจ้าไม่รู้ หรือแกล้งไม่รู้ หืม?” บุรุษไม่เอ่ยเพียงอย่างเดียว ยังแลบลิ้นเลียริมฝีปากของตนเองอย่างจงใจ“ขะ ข้าไม่แน่ใจ...”“เจ้าคิดว่าอย่างไร?”“ข้า ข้าคิดว่าท่านจะทำให้ข้าเป็นภรรยาของท่าน”“เจ้าเข้าใจถูก”“แล้วเหตุใดจึงต้องให้ข้าอ้าขาเช่นนี้เจ้าคะ”“หึหึ เรื่องนี้เจ้าไม่รู้จริงๆ หรือ?”บุรุษหยั่งเชิงสตรีตัวน้อย แม้นางจะเพิ่งอายุสิบหกปีในวันนี้ หากแต่สงสัยเสียจริงว่าในเรื่องธรรมชาติของการสืบพันธ์ นางไม่รู้จริงๆ หรือ?“ไม่รู้เจ้าค่ะ” ทว่าคำตอบกลับเป็นเสียงหวานสั่นเครือเล็กน้อย และนัยน์ตากลมแสนใสซื่อ“อ่า เจ้านี่ช่าง... ไร้เดียงสาเสียจริง เช่นนั้นคืนนี้ข้าคงต้อง ‘ทำให้เจ้ารู้’ หลายอย่างเลยล่ะ”“ข้ายินดีรับก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-03
  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 28 ตัวตนที่แท้จริงของนาง

    บทที่ 28ตัวตนที่แท้จริงของนางจินหมิงอันนางไม่เป็นห่วงเท่าใดนัก เพราะรู้จากไห่ไท่หยางว่าบุตรชายของตนนั้นอยู่ที่ต้นไม้ใหญ่ ศูนย์รวมพลังของดินแดนจิ้งจอกแห่งนี้ อีกทั้งภายในตัวของบุตรชายนั้นมีลูกแก้วจิ้งจอกอันสมบูรณ์ ไม่นานก็คงฟื้นตัวได้แต่กับตนเองนั้นแม้จะมีลูกแก้วจิ้งจอกซึ่งมีพลังมากมายมหาศาล หากแต่มิใช่ลูกแก้วจิ้งจอกซึ่งเป็นพลังต้นกำเนิดของนาง ไม่ต่างไปจากจิตวิญญาณที่อาศัยร่างของนาง การมีลูกแก้วจิ้งจอกทำให้นางทนความเจ็บปวดได้ ขนาดนางมีลูกแก้วจิ้งจอกยังเจ็บปวดถึงเพียงนี้ ไม่อยากจะนึกภาพเลยว่าถ้าหากนางไม่มีมันจะเจ็บปวดเจียนตายที่ขนาดไหนหากเป็นบาดแผลธรรมดาลูกแก้วจิ้งจอกก็สามารถรักษาให้นางหายได้ในชั่วพริบตา หากแต่มันเป็นแผลที่เกิดจากปีศาจ อีกทั้งร่างกายของนางแต่เดิมทีแล้วนั้นเป็นเพียงมนุษย์ มันจึงค่อนข้างใช้เวลาในการรักษาและฟื้นฟูฟางเหนียงบอกทางบุรุษมายังบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ตลอดมานางเคยหลีกเลี่ยงสถานที่แห่งนี้ มันเต็มไปด้วยความทรงจำยากลืมเลือน นางเคยแช่อยู่ที่นี่พร้อมกับร่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-03

บทล่าสุด

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 26 ห้วงคำนึงถึงนาง

    บทที่ 26ห้วงคำนึงถึงนางหลายฤดูผ่านไปจินหมิงอันเติบใหญ่เป็นจิ้งจอกหนุ่ม มีอิทธิฤทธิ์มากล้นเดินตามรอยของผู้เป็นบิดา ฟางเหนียงภาคภูมิใจเหลือคณานับที่บุตรชายสง่างามเช่นนี้ อีกทั้งยังรวบรวมพลังสร้างลูกแก้วจิ้งจอกของตนเองได้แล้ว แม้ว่าลูกแก้วจิ้งจอกนั้นจะยังแข็งแกร่งไม่เท่าลูกแก้วจิ้งจอกที่อยู่ในตัวของนางก็ตามยามนั้นเองสายลมพัดผ่านพาเอาความเย็นสบายโอบรอบร่าง ทว่ามีบางสิ่งลอยมากับสายลมด้วย กลิ่นที่คุ้นเคยพาให้หัวใจดวงน้อยเต้นแรงขึ้นมาฟางเหนียงหยัดกายขึ้นแล้วพุ่งตัวออกไปตามกลิ่นนั่น แหวกผ่านพงไพร เป็นหนึ่งเดียวกับสายลม กระทั่งมาถึงหมู่บ้านแห่งหนึ่ง นางเดินตามหาไม่นานก็มาหยุดอยู่ที่บ้านหลังหนึ่ง“ยินดีด้วยเจ้าค่ะ ท่านเจ้าตระกูลได้บุตรชายเจ้าค่ะ!”เสียงเด็กร้องไห้โยเยดังลอดออกมาให้ได้ยิน พร้อมกับเสียงแสดงความยินดีให้กับบิดาและมารดา นางยืนฟังเสียงร้องไห้นั้นอยู่นาน กระทั่งมีคนผู้หนึ่งทักนางเข้า“มาหาผู้ใดหรือเจ้าคะ?”

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 25 สูญเสียไปตลอดกาล

    บทที่ 25สูญเสียไปตลอดกาลดวงตาคู่งามลืมตาขึ้นท่ามกลางพงไพรอันคุ้นเคย ด้านข้างของนางคือร่างของจิ้งจอกหนุ่ม คนรักของนาง… ร่างของบุรุษที่รักนอนแน่นิ่งจนน่าหวาดหวั่นความอบอุ่นที่อยู่กลางอกบ่งบอกให้นางรับรู้ได้ถึงพลังชีวิตอันมหาศาล รวมถึงอิทธิฤทธิ์ของปีศาจจิ้งจอก มันคือลูกแก้วจิ้งจอกไม่ผิดแน่ใช่แล้ว ลูกแก้วจิ้งจอกอยู่กับนางมาตลอด ลูกแก้วจิ้งจอกที่เปรียบเสมือนพลังชีวิตของจินหมิงเยว่ บุรุษเคยบอกกับนางเช่นนั้น นั่นหมายความว่าไม่มีทางที่จินหมิงเยว่จะตาย เขาก็แค่หมดเรี่ยวแรงจึงหลับไปเท่านั้นนางเอ่ยปลอบตนเองแล้วหันไปหาบุรุษ หากทว่าเมื่อมือเล็กๆ แตะที่ร่างของบุรุษ ความเย็นยะเยือกก็แล่นผ่านเข้ามาในร่างของนาง สตรีตัวน้อยตัวแข็งทื่อ พลันน้ำตาก็ไหลอาบสู่สองข้างแก้ม“ไม่จริง ท่านพี่บอกว่า หากมีข้า มีลูกแก้วจิ้งจอก อย่างไรก็ไม่มีทางตายนี่”ฝ่ามือเล็กคว้าท่อนแขนของบุรุษแล้วออกแรงเขย่าแรงๆ เพื่อหวังให้บุรุษฟื้นตื่นขึ้นมา แม้ว่าบุรุษจะเจ็บ หากฟื้นขึ้นมานางจะยินยอมน

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 24 เดิมทีนางควรจะตายไปตั้งนานแล้ว

    บทที่ 24เดิมทีนางควรจะตายไปตั้งนานแล้วยามนั้นเองบางสิ่งร่วงหล่นลงมาจากท้องฟ้า เส้นแสงสีขาวหลายสายล้อมรอบพวกเขาเอาไว้“...!”จินหมิงเยว่และหลี่ตงหยางตวัดแขนขึ้นไปด้านหน้า ล้อมฟางเหนียงเอาไว้เพื่อปกป้องนางสตรีตัวน้อยสะดุ้งตกใจ โอบกอดจินหมิงเยว่เอาไว้ด้วยความหวาดกลัว...คนพวกนี้เป็นใครกัน?...“ส่งตัวนางมา หากต่อต้านจะถือว่าปรปักษ์ต่อสรวงสวรรค์”...สรวงสวรรค์หรือ!?...ดวงตาคู่งามเบิกกว้างด้วยความตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน นางสับสนว่าเกิดสิ่งใดขึ้นกันแน่!?“หากอยากได้ตัวนางนัก ก็เข้ามา!!” เป็นจินหมิงเยว่ที่เอ่ยออกไปอย่างไม่เกรงกลัว แม้จะเป็นผู้ใดหากมาพรากฟางเหนียงไปจากเขา บุรุษไม่ยินยอม!!เกิดการต่อสู้กันระหว่างปีศาจจิ้งจอก เทพหนุ่มตกสวรรค์และองครักษ์สวรรค์ โดยที่ฟางเหนียงอยู่ในการปกป้องของจินหมิงเยว่ตลอดการต่อสู้“ท่านพี่ เกิดอะไรขึ้นกันแน่เจ้าคะ เหตุใ

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 23 เช่นนั้นข้าปรนนิบัติเจ้าแทน

    บทที่ 23เช่นนั้นข้าปรนนิบัติเจ้าแทนฟางเหนียงลงมือทำอาหารหลายอย่าง รวมถึงของหวานด้วย นางคีบทั้งผักทั้งปลาใส่ในถ้วยของบุรุษ ส่วนจินหมิงเยว่ก็คีบแต่พวกเนื้อสัตว์ใส่ถ้วยให้นางเช่นเดิม“เมื่อใดเจ้าจะอ้วนเสียที หืม?”“ข้าไม่อยากอ้วนเจ้าค่ะ”“เหตุใดจึงไม่อยากอ้วน?”“ข้าเป็นสตรี ก็ต้องรักสวยรักงามเป็นธรรมดา หากอ้วนเมื่อสวมใส่อาภรณ์ใดๆ ก็ไร้ความมั่นใจนี่เจ้าค่ะ”“เจ้าเคยอ้วนหรือ?”“ไม่เคยเจ้าค่ะ”“เช่นนั้นเจ้าจะรู้ได้อย่างไรว่าหากอ้วนแล้วจะไม่งดงาม”“เรื่องเช่นนี้ไม่จำเป็นต้องเคยมาก่อนที่เจ้าค่ะ! อีกอย่างข้าไม่เคยบอกว่าไม่อ้วนแล้วจะไม่งดงาม ข้าก็แค่คิดว่าคงไม่มีความมั่นใจ”“อ้วนให้ข้าหน่อยเถิด”“เอ๊ะ! ท่านพี่นี่อย่างไร หากอยากได้สตรีอ้วนๆ ก็ไปหาที่อื่น ไม่ต้องมาหาที่ข้า!”&l

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 22 สัญชาตญาณที่ต้องปลดปล่อย

    บทที่ 22สัญชาตญาณที่ต้องปลดปล่อยฟางเหนียงขยับกายไปนั่งลงบนตักของบุรุษ จากนั้นก็ใช้สะโพกกดลงบนความแข็งแกร่ง ครอบครองแก่นกายบุรุษเพศเข้าไปในตัวของตนเอง“อ่า...” ทั้งฟางเหนียงและจินหมิงเยว่ครางด้วยความสุขสมสตรีตัวน้อยโอบกอดบุรุษแนบอกแล้วเชิดหน้าขึ้น ก่อนจะจะเริ่มขยับสะโพกของตนเองด้วยท่าทางที่ดูเก้ๆ กังๆ ในช่วงแรก ทว่าไม่นานความวาบหวาม รัญจวนใจ ร่างกายก็ได้นำพาให้นางสามารถขับเคลื่อนร่างกาย มอบความเสียวซ่านให้กับบุรุษได้เป็นอย่างดีนางเอนกายไปข้างหลัง ใช้มือเกาะบ่าของบุรุษเอาไว้ก่อนจะเด้งสะโพกระรัว รับรู้ได้ถึงความแข็งแกร่งของแก่นกายได้อย่างชัดเจน“อ๊า ท่านพี่ อื้ม!” ทรวงอกของนางถูกดูดดื่มอย่างหื่นกระหาย แม้มันจะเจ็บเล็กน้อยเพราะมีรอยแผลจากการกระทำของบุรุษเมื่อครั้นก่อนหน้า หากแต่ความวาบหวามนั้นมีมากกว่า นางจึงยิ่งแอ่นอกให้ปากหยักดูดดื่มและกลืนกินตามต้องการฟางเหนียงเชิดหน้าขึ้นแล้วร้องครางเสียงหวานอย่างลืมอาย สูญสิ้นสติในการยับยั้งชั่งใจ กลีบกา

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 21 รูปลักษณ์ที่เปลี่ยนไป

    บทที่ 21รูปลักษณ์ที่เปลี่ยนไปวันเวลาผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็ว ฟางเหนียงในวัยสิบหกปีครั้นมาที่ดินแดนจิ้งจอกแห่งนี้เป็นครั้งแรก บัดนี้นางอายุสิบแปดหนาวเสียแล้วความงดงามของนางนั้นเพิ่มมากขึ้นเสียจนจินหมิงเยว่แทบจะกกกอดนางเอาไว้ภายในห้องตลอดทั้งวันทั้งคืน ถึงแม้ว่ารอบตำหนักพันปีจะไม่มีผู้ใดย่างกรายเข้ามาได้ หากมิได้รับอนุญาตก็ตาม“ท่านพี่เจ้าคะ!” เสียงเจื้อยแจ้วของฟางเหนียงดังขึ้น พร้อมการปรากฏกายของนาง ในขณะที่จินหมิงเยว่กำลังฝึกพละกำลังและอาคมบุรุษตวัดฝ่ามือครั้งหนึ่งพาร่างบอบบางลอยละล่องมานั่งบนตักของตนเอง แล้วฉวยโอกาสหอมแก้มนางไปหนึ่งที“ว้าย! ท่านพี่! ฮวาอินก็อยู่นะเจ้าคะ”“เฮ้อ ฮวาอินออกจะชอบที่ข้ากับเจ้าพลอดรักกัน”“ท่านพี่!!”เพี๊ยะ!!ว่าแล้วก็ตีท่อนแขนแกร่งไปหนึ่งทีด้วยความเขินอาย จินหมิงเยว่หัวเราะเสียงดัง ยิ่งได้เห็นพวงแก้มทั้งสองข้างขึ้นสีแดงระเรื่อก็ยิ่งอยากแกล้

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 20 งอน

    บทที่ 20งอน“ลองขย่มข้าสิ”“ตะ แต่ข้าไม่รู้”“ทำแบบนี้”“อ๊ะ!?”ฝ่ามือหยาบยกสะโพกกลมขึ้นแล้วกดลงให้ครอบครองความแข็งแกร่งของตนเอง ความเสียวซ่านแล่นพล่านไปทั่วทั้งร่างบอบบางฟางเหนียงขยับตามการนำพาของบุรุษ กระทั่งหาจังหวะของตนเองเจอ จินหมิงเยว่ก็เปลี่ยนเป็นบีบเคล้นสะโพกกลมกลึงด้วยความมันเขี้วแทนท่วงท่าของนางสร้างความรัญจวนในเหลือเกิน มันเชื่องช้าและละมุนละไม ราวกับจงใจทรมานจินหมิงเยว่ให้ต้องอดทนกับกามารมณ์ เกร็งทั่วทั้งร่างจนเห็นก้อนกล้ามเนื้อชัดเจน อีกทั้งเส้นเลือดยังปูดโปนออกมา“อ่า เหนียงเอ๋อร์ เจ้าช่าง...” บุรุษมิอาจเอื้อนเอ่ยได้อีก เมื่อนางเริ่มขยับถี่ขึ้นเรื่อยๆ มิได้เข้าสุดออกสุดเหมือนอย่างในครั้งแรก แต่เป็นการกดสะโพกระรัว“อืม” นางครางเสียงหวานแล้วแหงนหน้าขึ้นตามอารมณ์ จินหมิงเยว่ก้ามหน้าลงดูดดื่มกับยอดอกสีหวานเข้าปากอย่างกระหายความรู้สึกวาบหวา

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 19 จิ้งจอกเจ้าเล่ห์

    บทที่ 19จิ้งจอกเจ้าเล่ห์ดวงตาคู่งามเปิดอย่างเชื่องช้า คราวนี้ฟางเหนียงไม่ตกใจอีกแล้วว่านางมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร สถานที่ที่ไม่ต่างไปจากสรวงสวรรค์ นางคงถูกเทพองค์นั้นเรียกตัวมาอีกเป็นแน่นางเตรียมที่จะมองหาตัวของผู้ที่เรียกนางมา แต่ไม่ทันที่จะได้หยัดกายลุกขึ้นเสียด้วยซ้ำ เสียงทุ้มน่าฟังก็ดังขึ้นเหนือหัว“เดี๋ยวนี้เจ้าไม่ตกใจแล้วหรือ?”ฟางเหนียงหยัดกายลุกขึ้น ก่อนจะหันไปยอบกายคำนับตามมารยาท“คำนับ ท่านเทพเจ้าค่ะ”“อ่า เจ้ารู้แล้วสินะ… รู้ได้อย่างไร หมิงเยว่บอกเจ้าหรือ?”“ท่านพี่ของข้ารู้จักกับท่านเป็นการส่วนตัวด้วยหรือเจ้าคะ?”“อ่า มิใช่สินะ”ใบหน้าคมคายหม่นลงเล็กน้อย ยิ่งสร้างความประหลาดใจให้กับฟางเหนียงดูเหมือนว่าทั้งสองจะรู้จักกันสินะ แต่รู้จักกันด้วยดีหรือร้ายมิอานคาดเดาได้“ท่านเทพ… จุดประสงค์ของท่านคือสิ่งใดกันแน่?”สตรีตัวน้อยรู้สึกหวาดหวั่นเหลือเกิน หวาดกลัวว

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 18 มิอาจยอมให้นางเสียหาย

    บทที่ 18มิอาจยอมให้นางเสียหายลิ้นสากหลีกหนีเรียวลิ้นของนาง ลิ้นของนางก็ยังตามติดไม่ออก กลายเป็นจูบที่แสนดูดดื่มจนเกิดเสียงน่าอาย เมื่อยามที่ฟางเหนียงยอมแพ้คิดจะถอนริมฝีปากออก จินหมิงเยว่ก็เป็นฝ่ายคว้าท้ายทอยของนางแล้วกดให้แนบแน่นยิ่งกว่าเดิม จากนั้นก็เป็นฝ่ายรุกรานโพรงปากอุ่น ตักตวงความหอมหวานอย่างเร่าร้อน ทั้งๆ ที่เมื่อครู่เอาแต่หลีกหนีปฏิเสธนางแท้ๆ...จิ้งจอกเจ้าเล่ห์!!...อดมิได้ที่จะต่อว่าบุรุษในใจที่คิดหลอกนาง แต่ก็ยอมให้บุรุษรุกรานแต่โดยดี เพราะจูบหวานๆ ที่ถูกส่งมอบมามันพาให้ร่างของนางอ่อนระทวย เคลิบเคลิ้มไปกับรสจูบซึ่งราวกับเอาอกเอาใจนาง นางจะยอมให้อภัยจินหมิงเยว่ก็แล้วกันเนิ่นนานกว่าทั้งสองจะถอนริมฝีปากออกจากัน ดวงตาสบประสานกันของหวานซึ้ง คล้ายกับกำลังแลกเปลี่ยนความรู้สึกที่มีให้กันและกัน“เอาลูกแก้วคืนไปหรือยังเจ้าคะ?”“ยัง”“อ้าว?”“ข้าฝากไว้กับเจ้า หากข้าบาดเจ็บเจ้าจะได้จู

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status