Share

บทที่ 3 เจ้าสาวจิ้งจอก

last update Last Updated: 2025-04-03 09:46:53

บทที่ 3

เจ้าสาวจิ้งจอก

ร่างกายของนางถูกพันธนาการอย่างร้ายกาจ แม้ท่าทีจะนุ่มนวลหากแต่เมื่อนางขยับ กลับมิอาจขยับร่างกายได้ตามใจ ร่างกายของบุรุษไม่ต่างจากหินผา ราวกับนางติดอยู่ในซอกหินไร้หนทางออก

“ฮ้า!!” จวบจนเกือบหมดลมหายใจ จิ้งจอกตัวร้ายจึงถอนริมฝีปากออกเพื่อเปิดโอกาสให้นางสูดลมหายใจ

เสียงหัวเราะด้วยความเจ้าเล่ห์ระคนเอ็นดูดังขึ้นอย่างพึงพอใจ ก่อนที่อาภรณ์จะถูกปลดออกเผยเรือนร่างขาวผ่องใต้แสงจันทร์เต็มดวง ทว่า… ผิวขาวๆ ราวกับหยกมันแพะกลับแต่งแต้มไปด้วยรอยแผลจากการถูกทุบตี

ดวงตาเรียวคมจ้องมองมันอย่างโหดเหี้ยม เผลอออกแรงที่ข้อมือเล็กจนสตรีตัวน้อยสะดุ้งกับความเจ็บปวดนั่น

“อ๊ะ!”

และนั่นก็เรียกสติของจินหมิงเยว่กลับมา… คลายแรงที่มือออก เผยให้เห็นข้อมือเล็กๆ แดงก่ำจากการถูกบีบเมื่อครู่

…เจ้าก็ตัวเล็กถึงเพียงนี้ เหตุใดจึงถูกทำร้ายไปทั้งตัว?...

“ข้าบอกท่านแล้ว ว่าร่างกายของข้ามิได้งดงาม” เสียงหวานเอ่ยอย่างเศร้าสร้อย

ร่างกายของสตรีนั้นล้ำค่าไม่ต่างจากพรหมจรรย์ของพวกนาง หากแม้ร่างกายมีบาดแผลเพียงเล็กน้อยจนเกิดเป็นแผลเป็น เป็นข้ออ้างของการหย่าร้างได้ ในสตรีพรหมจรรย์ก็ทำให้พวกนางมิได้ออกเรือนกับบุรุษสูงศักดิ์ หรืออาจจะออกเรือนมิได้เลย

ฟางเหนียงดึงแขนกลับมาแล้วใช้มือเล็กๆ ที่สั่นด้วยความหวาดกลัวและความอับอาย จัดอาภรณ์เข้าที่เดิมแล้วดันแผงอกกว้างนั่นให้ถอยห่าง

หมับ!

ทว่าฝ่ามือเรียวกลับคว้าข้อมือเล็กเอาไว้ แล้วจ้องมองเข้าไปในดวงตาของนาง

“ข้ามิได้รังเกียจเจ้า”

จินหมิงเยว่นิ่งงันไปไม่ใช่ว่ารังเกียจนาง แต่เวทนาในชะตาชีวิตของนาง ด่านเคราะห์ที่ผ่านมาล้วนแล้วแต่จบสิ้นชีวิตตั้งแต่อายุยังน้อย หากบุรุษไม่ออกอุบายนำนางมาเป็นภรรยา ฟางเหนียงก็คงพบกับชะตากรรมเฉกเช่นที่ผ่านมา

“แต่ข้า… มีตำหนิ อื้อ!!”

จิ้งจอกเจ้าเล่ห์บดกลีบปากอวบอิ่มอย่างเจนจัด สอดแทรกเรียวลิ้นเข้าไปรุกรานภายใน ดูดลิ้นเล็กๆ เข้าไปในปากของตนเอง ในขณะที่ฝ่ามือหยาบลูบเรียวขานวลเนียนของนาง ปลดเปลื้องอาภรณ์จนเหลือแต่เอี๊ยมตัวใน ซึ่งเป็นปราการด่านสุดท้ายที่ปกปิดเรือนร่าง

เมื่อบุรุษถอนริมฝีปากออก ฟางเหนียงก็หอบหายใจอย่างเหน็ดเหนื่อย ไม่นานริมฝีปากของนางก็ถูกครอบครองอีกครั้ง ราวกับเมื่อครู่เพียงให้อิสระนางเพื่อสูดอากาศหายใจ

“อื้อ!”

ฟางเหนียงไม่ทันจะสูดอากาศได้เต็มปอดเลย นางรู้สึกทรมาน อีกทั้งยังความรู้สึกวาบหวามอันไร้ที่มาที่ไป ความรู้สึกประหลาดเหล่านี้แผ่ซ่านไปทั่วทั้งร่างกาย สตรีตัวน้อยไม่รู้ว่าควรกระทำเช่นไร จึงได้แต่พยายามต่อต้านด้วยเรี่ยวแรงเล็กๆ แม้จะรู้ว่าไม่มีทางรอดพ้นไปได้ก็ตาม

“เฮือก! แค่ก แค่ก!”

เป็นอีกครั้งที่ฟางเหนียงได้รับอิสระ นางรีบสูดหายใจเข้าปอดจนสำลักอากาศ ใบหน้าคมคายยังคงประดับไปด้วยรอยยิ้มพึงพอใจกับท่าทางไร้เดียงสาของนาง ก่อนจะเลื่อนใบหน้าลงไป กดปลายจมูกลงบนลำคอระหง จนแทบจะฝังจมูกคมเข้าไปอยู่แล้ว

สูดกลิ่นหอมรัญจวนจนแทบคลั่ง จิ้งจอกนั้นมีจมูกที่ดีกว่ามนุษย์ โดยเฉพาะกับจิ้งจอกเก้าหางเฉกเช่นจินหมิงเยว่ กลิ่นหอมอ่อนๆ ของนางไม่ต่างจากกำยานปลุกกำหนัดเลยสักนิด

กัด!

“อ๊ะ!?”

ฟันคมกัดลงบนผิวกายของนางจนเลือดซึมออกมา จินหมิงเยว่อ้าปากดูดมันอย่างรุนแรง จนสตรีตัวน้อยสั่นสะท้านกับความรู้สึกแปลกใหม่

จะว่าเจ็บนางก็เจ็บ แต่มีความรู้สึกบางอย่างปะปนเข้ามาด้วย ซึ่งเป็นความรู้สึกที่นางไม่เคยพบเจอมาก่อน แต่กลับรับรู้ได้ถึงอันตรายบางอย่าง หากเผลอไผลแม้เพียงเล็กน้อยก็คงไม่รอดเป็นแน่!

เรียวลิ้นสากลากเลียมาจนถึงใบหู ก่อนจะไล้เลียเข้าไปด้านใน ขบเม้มติ่งหูเล็กๆ จนร่างบางอ่อนระทวย มือหนาเริ่มจัดการปลดเอี๊ยมส่วนสุดท้ายออกเผยทรวงอกอวบอิ่มกระเพื่อมตามแรงหายใจ

หัวใจดวงน้อยเต้นระรัวเมื่อร่างกายสัมผัสสายลมอ่อนๆ และ… ฝ่ามืออุ่นกอบกุมความอวบอิ่มเต็มไม้เต็มมือ ปลายนิ้วหัวแม่มือและนิ้วโป้งบดขยี้ยอดอกสีสวย จนมันชูชันและแข็งราวกับเม็ดบัวในฝัก

จิ้งจอกเจ้าเล่ห์ถอนใบหน้าออกจากลำคอระหง ก่อนจะจ้องมองทรวงอกอวบอิ่มคู่งามด้วยสายตาหื่นกระหายอย่างไม่คิดปิดบังแม้แต่น้อย แม้ว่าจะมีรอยช้ำสีม่วง และรอยแผลจากการถูกเฆี่ยนเล็กน้อยก็ตาม หากแต่เนื้อแท้ของนางงดงามจึงไม่ใช่ปัญหาเลย

“ทะ ท่านไม่รังเกียจข้าหรือเจ้าคะ”

“ข้าจะรังเกียจเจ้าสาวของข้าได้อย่างไร”

งับ!

“อื้อ!”

พลันยอดอกก็ถูกอุ้งปากอุ่นครอบครองอย่างนุ่มนวล ฟางเหนียงเผลอกลั้นหายใจด้วยความวาบหวาม ความรู้สึกบางอย่างที่นางไม่คุ้นชินก่อตัวขึ้นภายในร่างกาย หน้าท้องแบนราบหดเกร็งกับความวาบหวามยากเกินต้านทานนั้น

ดวงหน้าได้รูปงามบูดเบี้ยวเล็กน้อย เนื่องจากนางนิ่วหน้าคิ้วขมวดกับสัมผัสแสนรัณจวนใจ พยายามถดถอยร่างกายเพื่อหลีกหนีสัมผัสจากลิ้นสาก แต่ร่างของนางก็ถูกบุรุษกดจนแทบจะจมเข้าไปในเตียงอยู่แล้ว

แขนแกร่งสอดเข้าไปใต้แผ่นหลังเล็ก เพื่อบังคับให้ร่างบอบบางแอ่นอกรับริมฝีปาก บุรุษออกแรงดูดดึงอย่างอ่อนโยนแต่กลับหนักหน่วง คล้ายกับจะดูดกลืนยอดอกเข้าปากแล้วกลืนลงคอไป

สองมือเล็กจิกอาภรณ์บนบ่าหนาแนบแน่นเพื่อระบายความวาบหวามที่ไม่คุ้นชิน

…ความรู้สึกนี้คืออะไร?...

เกิดคำถามแสนไร้เดียงสาขึ้นมาภายในหัวของฟางเหนียง นางเม้มริมฝีปากแน่นด้วยกลัวว่าจะเผลอร้องเสียงใดน่าอับอายออกมา

ในขณะที่ปากร้ายดูดดื่มยอดอกทั้งสองข้างสลับกันไปมาราวกับเป็นเจ้าของเจ้าของ มืออีกข้างที่ยังว่างอยู่ก็มิได้อยู่เฉย ลูบไล้ต้นขานวลเนียนแล้วบีบเคล้นจนขึ้นสีแดงระเรื่อ

ลูบไล้มาเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงความโหนกนูนที่ใจกลางลำตัว ฟางเหนียงรู้สึกเขินอายเหลือเกิน นางหนีบขาเข้าหากันและดันบ่าหนาให้ออกห่างจากตัว

“อ๊ะ ตะ ตรงนั้น…” ดวงตาคงเบิกกว้างพร้อมกับเสียงที่ขาดหายไป

จิ้งจอกเก้าหางถอยออกไปเล็กน้อย ก่อนจะจับเรียวขาทั้งสองข้างแยกออกจากกัน แล้วครอบครองพื้นที่ว่างระหว่างนั้น โน้มตัวลงไปดูดดื่มกับทรวงอกคู่งามอีกครั้ง สองมือบีบเค้นความนุ่มหยุ่นอย่างหมั่นเขี้ยว แล้วใช้ริมฝีปากดูดดื่มอย่างจาบจ้วง แทบจะละทิ้งความอ่อนโยนที่กระทำมาทั้งหมด

ก่อนที่มือข้างหนึ่งจะผงะออกจากเต้าอวบอิ่มแล้วเลื่อนลงไปที่ใจกลางลำตัว แค่สัมผัสภายนอกไม่เพียงพอสำหรับจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ตัวนี้ นิ้วแกร่งแหวกกลีบกายสตรีเผยความอมชมพูที่ด้านใน

“ว้าย! ทะ ท่าน ท่านจิ้งจอก!”

“ท่านพี่หรือท่านสามี ข้าอนุญาตให้เจ้าเลือกได้แค่เพียงเท่านี้” จินหมิงเยว่ช้อนดวงตาขึ้นมองสตรีตัวน้อยอย่างดุดัน โดยที่ตนเองไม่ยอมถอยออกจากทรวงอกคู่งาม

“ทะ ท่านพี่” จะให้ฟางเหนียงเรียกบุรุษว่าสามี แม้ว่าพวกเขาจะกำลังดำเนินตามลำดับขั้นตอนการเป็นสามีภรรยา แต่มันก็ถือว่าเร็วไปสำหรับนางเหลือเกิน “อ๊ะ! มะ ไม่ เหนียงเอ๋อร์ยังไม่พร้อม”

นิ้วกลางสอดเข้าไปข้างในพร้อมกับเสียงครางอย่างรัญจวนใจของจินหมิงเยว่ ฟางเหนียงใช้กำลังทั้งหมดที่มีเพื่อต่อต้าน แต่ไม่คิดทำให้อีกฝ่ายบาดเจ็บ ด้วยกลัวว่าจะถูกจิ้งจอกตัวร้ายจับกินเข้าจริงๆ

สิ่งที่นางทำได้มีเพียงพยายามดันร่างกำยำซึ่งแข็งแกร่งไม่ต่างจากหินผาออกจากตัวเองเท่านั้น ซึ่งไม่ว่าจะใช้พละกำลังทั้งหมดที่นางมีเท่าใด ก็มิอาจทำให้บุรุษขยับเขยื้อนได้เลย

“ข้าจะทำให้เจ้าพร้อมเอง”

นิ้วร้ายสอดเข้าและออกอย่างเชื่องช้า ความคับแน่นภายในกายของนาง อีกทั้งยังความอุ่นร้อนทำให้บุรุษขบกรามแน่น จิ้งจอกผู้บำเพ็ญเพียรมาหลายพันปีแทบคลั่ง แค่เพียงได้ครอบครองสาวงามที่ตนหมายปอง

หากนางมาเพื่อโค่นล้มดินแดนจิ้งจอก ก็ถือว่านางทำสำเร็จแล้ว

“อ๊ะ! ท่านพี่…!” ฟางเหนียงร้องเสียงกระเส่า พลางกลั้นหายใจกับความรู้วาบหวามซึ่งก่อตัวขึ้น

เมื่อนิ้วร้ายสอดเข้าลึกจนสุดนิ้ว สร้างความเจ็บปวดให้กับนางเหลือเกิน แต่ก็วาบหวามรัญจวนใจเช่นกัน ซึ่งนางไม่รู้ว่าความรู้สึกนั้นคือสิ่งใด ทำได้เพียงปฏิเสธด้วยความไม่คุ้นชิน

“ทะ ท่านพี่ อึก! ได้โปรด เมตตา…อื้อ!”

เสียงหวานถูกดูดกลืนโดยฉับพลัน ทัดทานไม่ให้นางส่งเสียงห้ามเขา ตัวของนางช่างเล็กเมื่อเทียบกับเขา ภายในช่องรักนุ่มนิ่มนี้แม้แต่นิ้วก็ยังเข้าไปได้ยาก ความอุ่นร้อนโอบรอบนิ้วแกร่งสร้างความกำหนัดให้กับบุรุษจนแทบคลั่ง

จูบหวานๆ ต่างจากการกระทำของบุรุษเหลือเกิน จุมพิตหวานฉ่ำราวกับกำลังหว่านล้อมให้นางผ่อนคลายร่างกาย นิ้วแกร่งแช่อยู่ด้านในเพื่อรอให้นางปรับตัวชินกับนิ้ว มันตอดหนึบเสียจนจินหมิงเยว่แทบทัดทานไม่ไหว

ฟางเหนียงหอบหายใจด้วยความเหน็ดเหนื่อย ขึ้นเขาเพื่อหาเก็บสมุนไพรในป่ายังไม่เหนื่อยเพียงนี้เลย ยามนี้คล้ายกับร่างกายของนางอ่อนล้าไปหมด ได้แต่พยายามร้องขอความเมตตาจากบุรุษแสนเจ้าเล่ห์

จินหมิงเยว่ดึงนิ้วที่ฉ่ำไปด้วยน้ำจากกลางลำตัวของอิสตรีขึ้นมาแล้วอ้าปากดูดเลียอย่างจงใจ ทั้งรสชาติและกลิ่นของฟาเหนียงนั้นเป็นเอกลักษณ์เหลือเกิน ทำเอาบุรุษใจสั่นไหวยากเกินควบคุม การกระทำนั้นสร้างความอับอายให้กับสตรีตัวน้อยเหลือเกิน

คราวนี้บุรุษขยับกายถอยห่างจากนาง หากแต่สายตาไม่ละไปจากเรือนร่างอรชรนี้เลย มือหนาจับเรียวขาทั้งสองข้างแยกออกจากกัน เผยกลีบกายน่าลุ่มหลงที่เขาได้สัมผัสไปเมื่อครู่ ฟางเหนียงสะดุ้งเฮือก รีบใช้มือเล็กๆ ปิดมันด้วยความอับอาย

“ทะ ท่าน...!”

“จิ๊!” บุรุษส่งเสียงด้วยความไม่พอใจ ก่อนจะดึงมือของนางออก ใช้อิทธิฤทธิ์ของจิ้งจอก เกิดเป็นเชือกลำแสงสีขาวสว่างมัดข้อมือเล็กๆ เอาไว้โดยไม่ให้นางได้รับบาดเจ็บ ก่อนจะถูกกดด้วยลงเหนือหัวราวกับถูกจับวาง

บุรุษไม่คิดที่จะบังคับนางเลย แต่ถ้านางยังคงขัดขืน เขาเองก็ไม่มีทางเลือกเช่นกัน ไหนๆ ก็เป็นจิ้งจอกเก้าหางแสนเจ้าเล่ห์อยู่แล้ว ก็ขอใช้ความเจ้าเล่ห์เหลือร้ายของตนเองให้สมชาติเกิดเสียหน่อย จากนั้นจินหมิงเยว่ก็หันกลับมาให้ความสนใจกับความอวบอิ่มตรงหน้า

...มันช่าง... น่ากินเหลือเกิน...

สตรีตัวน้อยหวาดหวั่นยิ่งนัก สายตาของบุรุษที่จ้องมองนางราวกับจะกลืนกินไปทั้งตัว ยิ่งสายตาของบุรุษในยามนี้ราวกับนางเข้าใกล้ความตายมากขึ้นทุกที

เหตุใดจึงต้องจับขาของนางอ้าเช่นนี้ ท่วงท่าไร้ยางอายทำเอาสตรีตัวน้อยอยากจะกัดลิ้นตนเองให้ตายเสีย อีกทั้งยังโดนจดจ้องมองเนิ่นนานถึงเพียงนี้!

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 4 เมียของข้า ช่างขี้โวยวายยิ่งนัก

    บทที่ 4เมียของข้า ช่างขี้โวยวายยิ่งนัก“ทะ ท่านจะทำอะไรเจ้าคะ”“เจ้าไม่รู้ หรือแกล้งไม่รู้ หืม?” บุรุษไม่เอ่ยเพียงอย่างเดียว ยังแลบลิ้นเลียริมฝีปากของตนเองอย่างจงใจ“ขะ ข้าไม่แน่ใจ...”“เจ้าคิดว่าอย่างไร?”“ข้า ข้าคิดว่าท่านจะทำให้ข้าเป็นภรรยาของท่าน”“เจ้าเข้าใจถูก”“แล้วเหตุใดจึงต้องให้ข้าอ้าขาเช่นนี้เจ้าคะ”“หึหึ เรื่องนี้เจ้าไม่รู้จริงๆ หรือ?”บุรุษหยั่งเชิงสตรีตัวน้อย แม้นางจะเพิ่งอายุสิบหกปีในวันนี้ หากแต่สงสัยเสียจริงว่าในเรื่องธรรมชาติของการสืบพันธ์ นางไม่รู้จริงๆ หรือ?“ไม่รู้เจ้าค่ะ” ทว่าคำตอบกลับเป็นเสียงหวานสั่นเครือเล็กน้อย และนัยน์ตากลมแสนใสซื่อ“อ่า เจ้านี่ช่าง... ไร้เดียงสาเสียจริง เช่นนั้นคืนนี้ข้าคงต้อง ‘ทำให้เจ้ารู้’ หลายอย่างเลยล่ะ”“ข้ายินดีรับก

    Last Updated : 2025-04-03
  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 28 ตัวตนที่แท้จริงของนาง

    บทที่ 28ตัวตนที่แท้จริงของนางจินหมิงอันนางไม่เป็นห่วงเท่าใดนัก เพราะรู้จากไห่ไท่หยางว่าบุตรชายของตนนั้นอยู่ที่ต้นไม้ใหญ่ ศูนย์รวมพลังของดินแดนจิ้งจอกแห่งนี้ อีกทั้งภายในตัวของบุตรชายนั้นมีลูกแก้วจิ้งจอกอันสมบูรณ์ ไม่นานก็คงฟื้นตัวได้แต่กับตนเองนั้นแม้จะมีลูกแก้วจิ้งจอกซึ่งมีพลังมากมายมหาศาล หากแต่มิใช่ลูกแก้วจิ้งจอกซึ่งเป็นพลังต้นกำเนิดของนาง ไม่ต่างไปจากจิตวิญญาณที่อาศัยร่างของนาง การมีลูกแก้วจิ้งจอกทำให้นางทนความเจ็บปวดได้ ขนาดนางมีลูกแก้วจิ้งจอกยังเจ็บปวดถึงเพียงนี้ ไม่อยากจะนึกภาพเลยว่าถ้าหากนางไม่มีมันจะเจ็บปวดเจียนตายที่ขนาดไหนหากเป็นบาดแผลธรรมดาลูกแก้วจิ้งจอกก็สามารถรักษาให้นางหายได้ในชั่วพริบตา หากแต่มันเป็นแผลที่เกิดจากปีศาจ อีกทั้งร่างกายของนางแต่เดิมทีแล้วนั้นเป็นเพียงมนุษย์ มันจึงค่อนข้างใช้เวลาในการรักษาและฟื้นฟูฟางเหนียงบอกทางบุรุษมายังบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ตลอดมานางเคยหลีกเลี่ยงสถานที่แห่งนี้ มันเต็มไปด้วยความทรงจำยากลืมเลือน นางเคยแช่อยู่ที่นี่พร้อมกับร่

    Last Updated : 2025-04-03
  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 5 ริมฝีปากงดงาม

    บทที่ 5ริมฝีปากงดงามค่ำคืนวสันต์อันเร่าร้อนผ่านพ้นไป เสียงนกขับขานเป็นบทเพลงแรกในยามเช้า ปลุกให้บุรุษและสตรีในห้องหอนอนตื่นจากห้วงแห่งนิทรา ทว่ามีเพียงจินหมิงเยว่ที่ลืมตาตื่นขึ้นอย่างสดชื่น เอียงใบหน้าพินิจสตรีในอ้อมแขนที่สลบระหว่างบทรักเมื่อคืนนี้ ก้มหน้าลงจุมพิตหน้าผากเนียนแนบแน่นทว่าร่างกายร้อนผ่าวทำเอาจินหมิงเยว่สะดุ้งเล็กน้อย…เหตุใดร่างกายของนางจึงร้อนเป็นไฟเช่นนี้?...“เหนียงเอ๋อร์?” มือหนาตบลงบนหัวไหล่เล็กเบาๆ เพื่อปลุกให้นางตื่น หากแต่สตรีตัวน้อยยังคงหลับตาพริ้มเมื่อคืนนางก็สลบคาเตียง เช้าวันนี้นางตัวร้อนผ่าว มันคืออาการอะไรกันแน่? เหตุใดมนุษย์จึงมีร่างกายที่ซับซ้อนเช่นนี้?จินหมิงเยว่คือปีศาจจิ้งจอกเก้าหาง ซึ่งบำเพ็ญเพียรมานานถึงพันปี ตลอดพันปีไม่เคยป่วยไข้เฉกเช่นมนุษย์ ถึงแม้ว่าในเผ่าพันธุ์เดียวกันจะมีอาการเจ็บป่วย หากแต่บุรุษซึ่งปลีกวิเวกฝึกฝนตนหลงลืมมันไปนานเหลือเกิน จึงมิอาจรับรู้เลยว่าอาการนี้คืออาการป่วยไข้ร

    Last Updated : 2025-04-04
  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 6 ตำหนักพันปี

    บทที่ 6ตำหนักพันปี…ละ เลือดของข้าหรือ? จะ จากตรงนั้น!?...“เฮือก!!”“เป็นอะไรหรือเจ้าคะ?”“ละ เลือดข้า!”…ระ รอบเดือนหรือ!? ช่างน่าอายยิ่งนัก!...สตรีตัวน้อยรีบวิ่งเข้าไปดึงผ้าปูออกมาด้วยความอับอาย“ตายจริง ให้ข้าน้อยทำเอาเถิดเจ้าค่ะ”“มิได้ๆ นี่เป็นเลือดของข้า”“มิได้เจ้าค่ะ นี่เป็นงานของข้าน้อย”“ตะ แต่นี่ ระ รอบเดือนของข้านะ”“หืม?” ฮวาอินเอียงคอมองฟางเหนียงซึ่งหน้าแดงก่ำราวกับผลอิงเถา “ข้าน้อยคิดว่าอาจจะเป็นเลือดอย่างอื่นนะเจ้าคะ”“…”“เช่น… เลือดพรหมจรรย์ของท่าน”“…!?”“มาเจ้าค่ะ ข้าน้อยจะเอาไปซัก ระหว่างนั้นฮูหยินประมุขก็ลองตรวจสอบดูนะเจ้าคะ หากเป็นเลือดรอบเดือนจ

    Last Updated : 2025-04-05
  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 7 จิ้งจอกใจร้าย

    บทที่ 7จิ้งจอกใจร้ายหากแต่ก่อนหน้านั้นก็ถูกมือของฮวาอินทะลวงกลางอกจนทะลุไปอีกด้านเสียก่อน“เฮือก!!” ฟางเหนียงเห็นช่วงเวลานั้นพอดิบพอดี ราวกับทรวงสวรรค์กลั่นแกล้งให้นางหวาดกลัวสถานที่แห่งนี้มากกว่าเดิม!!สองขาอ่อนเรี่ยวแรง มองภาพฮวาอินจัดการกับศพของพวกเดียวกันไม่วางตา นางมิได้อยากมองหากแต่มิอาจบังคับสายตาได้พรึ่บ!ผ้าคลุมผืนหนึ่งถูกตวัดโอบคลุมรอบกายตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า ก่อนที่ร่างบอบบางจะถูกโอบอุ้มขึ้นมาจากพื้น ฮวาอินคำนับประมุขสูงสุดของเผ่าจิ้งจอก บุรุษปรายตามองร่างไร้วิญญาณของปีศาจจิ้งจอกซึ่งมีไอดำลอยออกมาจากกาย เขาใช้ปลายนิ้วชี้ไปที่ร่างนั้นก่อนที่ไอดำจะสลายหายไป ส่งสายตาโหดเหี้ยมแทนคำสั่งแล้วพานางกลับไปยังตำหนักพันปีเมื่อเข้ามาในห้อง บุรุษก็ดึงผ้าคลุมออกสบสายตากับสตรีตัวน้อยซึ่งนั่งตัวสั่นระริกอยู่บนเตียง“ท่าน… ประมุข” เสียงที่เคยหวานกลับถูกเอ่ยออกมาอย่างแหบแห้ง“ท่านประมุขหรือ? ค่ำคืนวสันต์ไม่อยู่ใน

    Last Updated : 2025-04-06
  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 8 ความรักทำให้ข้าดูโง่เขลา

    บทที่ 8ความรักทำให้ข้าดูโง่เขลาหมับ!“ว้าย! ทะ ท่านพี่ ท่านจะทำอะไรเจ้าคะ!?”บุรุษย่อกายลงคุกเข่าอยู่ตรงหน้าของนาง เรียวขาของนางถูกยกขึ้นสูง ก่อนที่บุรุษจะก้มหน้าลงไปแล้วใช้เรียวลิ้นปาดเลียบาดแผลจากงูพิษ“อึก!” ความเจ็บปวดบริเวณนั้นทำเอาสตรีตัวน้อยสะดุ้ง นางพยายามจะดึงขาหนีหากแต่มิอาจทำได้ดั่งใจ ยิ่งถูกเรียวลิ้นนั่นสัมผัสนางยิ่งเจ็บปวดเหตุใดบุรุษจึงต้องทรมานนางด้วย!!ทว่าไม่นานบุรุษก็ดึงใบหน้าออก ช่างน่าแปลกนักที่บริเวณนั้นกลับไม่รู้สึกเจ็บปวดอีกเลย ทั้งที่ครั้นก่อนหน้านางรู้สึกปวดหนึบแปลกๆ เมื่อกดสายตามองดูก็เห็นว่าบาดแผลที่ตรงนั้นหายไปแล้ว นางจำได้ว่าเคยมีแผลอยู่ตรงนี้นี่!“ท่านพี่… รักษาให้ข้าหรือเจ้าคะ?”“ถือว่าความหวาดกลัวยังไม่ยึดครองสมองน้อยๆ ของเจ้า”“…?”“มา ข้าจะช่วยแต่งตัว”“ข้าทำเองได้เจ้าค่ะ” นางกอดตน

    Last Updated : 2025-04-07
  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 9 นางเป็นเพียงมนุษย์คนหนึ่ง

    บทที่ 9นางเป็นเพียงมนุษย์คนหนึ่ง“ขออภัยฮูหยินประมุข แต่ข้าน้อยขอบังอาจถาม... ฮูหยินประมุขมาที่นี่ทำไมหรือเจ้าคะ?”“ข้าอยากทำอาหาร”“หากอยากกินอะไรบอกข้าน้อยได้ ข้าน้อยจะนำมาบอกกับคนครัว ฮูหยินประมุขไม่เห็นต้องมาเองเลยเจ้าค่ะ”การมาถึงห้องครัวด้วยตนเองของผู้เป็นนาย สร้างความอกสั่นขวัญแขวนให้กับคนครัว เนื่องจากห้องครัวเป็นสถานที่ไร้ซึ่งความสนใจ หากทำอาหารออกมาดีก็ดีไป แต่หากทำอาหารออกมาไม่ดีนอกจากจะโดนตำหนิแล้ว บางคนอาจจะบุกมาถึงห้องครัวเฉกเช่นฟางเหนียง ซึ่งเรื่องนี้ฟางเหนียงรู้ดีอยู่แล้วจึงได้เอ่ยออกไปว่า“ข้าอยากทำอาหารด้วยตนเอง ข้าอยากปรนนิบัติท่านประมุขของพวกเจ้า” สตรีตัวน้อยเอ่ยออกไปเช่นนั้น ฮวาอินถึงกับสะดุ้งแม่นางผู้นี้คล้ายกับเฉลียวฉลาด รู้วิธีการเอาตัวรอด หากแต่ในเรื่องเช่นนี้กลับโง่เขลายิ่งนัก แน่นอนว่าเรื่องที่ฟางเหนียงเอ่ยเรียกจินหมิงเยว่ต่อหน้าธารกำนัลว่าท่านประมุขอย่างห่างเหินเช่นนี้ จะต้องถึงหูของบุรุษเป

    Last Updated : 2025-04-08
  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 10 อยากจับกิน

    บทที่ 10อยากจับกิน“เขาน่ากลัว” นางพึมพำเสียงเบา ก่อนจะหยัดกายลุกขึ้นแล้วเดินออกไปข้างนอก ในเมื่อจินหมิงเยว่อนุญาตให้นางไปที่ใดก็ได้ตามที่ต้องการ เช่นนั้นนางก็ขอสำรวจรอบตำหนักเสียหน่อยเถิดเพื่อหาทางหนีทีไล่เอาไว้ด้วย เผื่อสักวันหนึ่งจินหมิงเยว่เลิกสนใจในตัวนาง นางจะได้หนีออกไปมีชีวิตเป็นของตนเอง ในยามนั้นคิดว่าจินหมิงเยว่คงไม่ไล่ตามนางแล้ว ทว่ายามนี้ต้องคอยเอาอกเอาใจบุรุษไปก่อน เพราะถึงหนีไปตอนนี้ก็ถูกจับกลับมาอยู่ดี“เจ้าแนะนำตำหนักให้ข้าหน่อยสิ”“ตำหนักพันปีข้าน้อยพอรู้คร่าวๆ มิได้รู้ลึกเจ้าค่ะ เนื่องจากที่นี่แม้แต่ปีศาจจิ้งจอกด้วยกันยังเข้ามายาก มีเพียงผู้ที่ได้รับอนุญาตเท่านั้นเจ้าค่ะ”“ไม่เป็นไร ข้าแค่อยากรู้คร่าวๆ ว่าตรงไหนอยู่ตรงไหนเท่านั้น อ้อ ว่าแต่ ที่นี่มีห้อวหนังสือหรือไม่?”“มีเจ้าค่ะ ท่านประมุขค่อนข้างชื่นชอบหนังสือ อีกทั้งยังเป็นผู้คัดลอกอักษรเหล่านั้นด้วยตนเอง ว่ากันว่าห้องหนังสือภายในตำหนักพันปี

    Last Updated : 2025-04-09

Latest chapter

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 26 ห้วงคำนึงถึงนาง

    บทที่ 26ห้วงคำนึงถึงนางหลายฤดูผ่านไปจินหมิงอันเติบใหญ่เป็นจิ้งจอกหนุ่ม มีอิทธิฤทธิ์มากล้นเดินตามรอยของผู้เป็นบิดา ฟางเหนียงภาคภูมิใจเหลือคณานับที่บุตรชายสง่างามเช่นนี้ อีกทั้งยังรวบรวมพลังสร้างลูกแก้วจิ้งจอกของตนเองได้แล้ว แม้ว่าลูกแก้วจิ้งจอกนั้นจะยังแข็งแกร่งไม่เท่าลูกแก้วจิ้งจอกที่อยู่ในตัวของนางก็ตามยามนั้นเองสายลมพัดผ่านพาเอาความเย็นสบายโอบรอบร่าง ทว่ามีบางสิ่งลอยมากับสายลมด้วย กลิ่นที่คุ้นเคยพาให้หัวใจดวงน้อยเต้นแรงขึ้นมาฟางเหนียงหยัดกายขึ้นแล้วพุ่งตัวออกไปตามกลิ่นนั่น แหวกผ่านพงไพร เป็นหนึ่งเดียวกับสายลม กระทั่งมาถึงหมู่บ้านแห่งหนึ่ง นางเดินตามหาไม่นานก็มาหยุดอยู่ที่บ้านหลังหนึ่ง“ยินดีด้วยเจ้าค่ะ ท่านเจ้าตระกูลได้บุตรชายเจ้าค่ะ!”เสียงเด็กร้องไห้โยเยดังลอดออกมาให้ได้ยิน พร้อมกับเสียงแสดงความยินดีให้กับบิดาและมารดา นางยืนฟังเสียงร้องไห้นั้นอยู่นาน กระทั่งมีคนผู้หนึ่งทักนางเข้า“มาหาผู้ใดหรือเจ้าคะ?”

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 25 สูญเสียไปตลอดกาล

    บทที่ 25สูญเสียไปตลอดกาลดวงตาคู่งามลืมตาขึ้นท่ามกลางพงไพรอันคุ้นเคย ด้านข้างของนางคือร่างของจิ้งจอกหนุ่ม คนรักของนาง… ร่างของบุรุษที่รักนอนแน่นิ่งจนน่าหวาดหวั่นความอบอุ่นที่อยู่กลางอกบ่งบอกให้นางรับรู้ได้ถึงพลังชีวิตอันมหาศาล รวมถึงอิทธิฤทธิ์ของปีศาจจิ้งจอก มันคือลูกแก้วจิ้งจอกไม่ผิดแน่ใช่แล้ว ลูกแก้วจิ้งจอกอยู่กับนางมาตลอด ลูกแก้วจิ้งจอกที่เปรียบเสมือนพลังชีวิตของจินหมิงเยว่ บุรุษเคยบอกกับนางเช่นนั้น นั่นหมายความว่าไม่มีทางที่จินหมิงเยว่จะตาย เขาก็แค่หมดเรี่ยวแรงจึงหลับไปเท่านั้นนางเอ่ยปลอบตนเองแล้วหันไปหาบุรุษ หากทว่าเมื่อมือเล็กๆ แตะที่ร่างของบุรุษ ความเย็นยะเยือกก็แล่นผ่านเข้ามาในร่างของนาง สตรีตัวน้อยตัวแข็งทื่อ พลันน้ำตาก็ไหลอาบสู่สองข้างแก้ม“ไม่จริง ท่านพี่บอกว่า หากมีข้า มีลูกแก้วจิ้งจอก อย่างไรก็ไม่มีทางตายนี่”ฝ่ามือเล็กคว้าท่อนแขนของบุรุษแล้วออกแรงเขย่าแรงๆ เพื่อหวังให้บุรุษฟื้นตื่นขึ้นมา แม้ว่าบุรุษจะเจ็บ หากฟื้นขึ้นมานางจะยินยอมน

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 24 เดิมทีนางควรจะตายไปตั้งนานแล้ว

    บทที่ 24เดิมทีนางควรจะตายไปตั้งนานแล้วยามนั้นเองบางสิ่งร่วงหล่นลงมาจากท้องฟ้า เส้นแสงสีขาวหลายสายล้อมรอบพวกเขาเอาไว้“...!”จินหมิงเยว่และหลี่ตงหยางตวัดแขนขึ้นไปด้านหน้า ล้อมฟางเหนียงเอาไว้เพื่อปกป้องนางสตรีตัวน้อยสะดุ้งตกใจ โอบกอดจินหมิงเยว่เอาไว้ด้วยความหวาดกลัว...คนพวกนี้เป็นใครกัน?...“ส่งตัวนางมา หากต่อต้านจะถือว่าปรปักษ์ต่อสรวงสวรรค์”...สรวงสวรรค์หรือ!?...ดวงตาคู่งามเบิกกว้างด้วยความตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน นางสับสนว่าเกิดสิ่งใดขึ้นกันแน่!?“หากอยากได้ตัวนางนัก ก็เข้ามา!!” เป็นจินหมิงเยว่ที่เอ่ยออกไปอย่างไม่เกรงกลัว แม้จะเป็นผู้ใดหากมาพรากฟางเหนียงไปจากเขา บุรุษไม่ยินยอม!!เกิดการต่อสู้กันระหว่างปีศาจจิ้งจอก เทพหนุ่มตกสวรรค์และองครักษ์สวรรค์ โดยที่ฟางเหนียงอยู่ในการปกป้องของจินหมิงเยว่ตลอดการต่อสู้“ท่านพี่ เกิดอะไรขึ้นกันแน่เจ้าคะ เหตุใ

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 23 เช่นนั้นข้าปรนนิบัติเจ้าแทน

    บทที่ 23เช่นนั้นข้าปรนนิบัติเจ้าแทนฟางเหนียงลงมือทำอาหารหลายอย่าง รวมถึงของหวานด้วย นางคีบทั้งผักทั้งปลาใส่ในถ้วยของบุรุษ ส่วนจินหมิงเยว่ก็คีบแต่พวกเนื้อสัตว์ใส่ถ้วยให้นางเช่นเดิม“เมื่อใดเจ้าจะอ้วนเสียที หืม?”“ข้าไม่อยากอ้วนเจ้าค่ะ”“เหตุใดจึงไม่อยากอ้วน?”“ข้าเป็นสตรี ก็ต้องรักสวยรักงามเป็นธรรมดา หากอ้วนเมื่อสวมใส่อาภรณ์ใดๆ ก็ไร้ความมั่นใจนี่เจ้าค่ะ”“เจ้าเคยอ้วนหรือ?”“ไม่เคยเจ้าค่ะ”“เช่นนั้นเจ้าจะรู้ได้อย่างไรว่าหากอ้วนแล้วจะไม่งดงาม”“เรื่องเช่นนี้ไม่จำเป็นต้องเคยมาก่อนที่เจ้าค่ะ! อีกอย่างข้าไม่เคยบอกว่าไม่อ้วนแล้วจะไม่งดงาม ข้าก็แค่คิดว่าคงไม่มีความมั่นใจ”“อ้วนให้ข้าหน่อยเถิด”“เอ๊ะ! ท่านพี่นี่อย่างไร หากอยากได้สตรีอ้วนๆ ก็ไปหาที่อื่น ไม่ต้องมาหาที่ข้า!”&l

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 22 สัญชาตญาณที่ต้องปลดปล่อย

    บทที่ 22สัญชาตญาณที่ต้องปลดปล่อยฟางเหนียงขยับกายไปนั่งลงบนตักของบุรุษ จากนั้นก็ใช้สะโพกกดลงบนความแข็งแกร่ง ครอบครองแก่นกายบุรุษเพศเข้าไปในตัวของตนเอง“อ่า...” ทั้งฟางเหนียงและจินหมิงเยว่ครางด้วยความสุขสมสตรีตัวน้อยโอบกอดบุรุษแนบอกแล้วเชิดหน้าขึ้น ก่อนจะจะเริ่มขยับสะโพกของตนเองด้วยท่าทางที่ดูเก้ๆ กังๆ ในช่วงแรก ทว่าไม่นานความวาบหวาม รัญจวนใจ ร่างกายก็ได้นำพาให้นางสามารถขับเคลื่อนร่างกาย มอบความเสียวซ่านให้กับบุรุษได้เป็นอย่างดีนางเอนกายไปข้างหลัง ใช้มือเกาะบ่าของบุรุษเอาไว้ก่อนจะเด้งสะโพกระรัว รับรู้ได้ถึงความแข็งแกร่งของแก่นกายได้อย่างชัดเจน“อ๊า ท่านพี่ อื้ม!” ทรวงอกของนางถูกดูดดื่มอย่างหื่นกระหาย แม้มันจะเจ็บเล็กน้อยเพราะมีรอยแผลจากการกระทำของบุรุษเมื่อครั้นก่อนหน้า หากแต่ความวาบหวามนั้นมีมากกว่า นางจึงยิ่งแอ่นอกให้ปากหยักดูดดื่มและกลืนกินตามต้องการฟางเหนียงเชิดหน้าขึ้นแล้วร้องครางเสียงหวานอย่างลืมอาย สูญสิ้นสติในการยับยั้งชั่งใจ กลีบกา

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 21 รูปลักษณ์ที่เปลี่ยนไป

    บทที่ 21รูปลักษณ์ที่เปลี่ยนไปวันเวลาผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็ว ฟางเหนียงในวัยสิบหกปีครั้นมาที่ดินแดนจิ้งจอกแห่งนี้เป็นครั้งแรก บัดนี้นางอายุสิบแปดหนาวเสียแล้วความงดงามของนางนั้นเพิ่มมากขึ้นเสียจนจินหมิงเยว่แทบจะกกกอดนางเอาไว้ภายในห้องตลอดทั้งวันทั้งคืน ถึงแม้ว่ารอบตำหนักพันปีจะไม่มีผู้ใดย่างกรายเข้ามาได้ หากมิได้รับอนุญาตก็ตาม“ท่านพี่เจ้าคะ!” เสียงเจื้อยแจ้วของฟางเหนียงดังขึ้น พร้อมการปรากฏกายของนาง ในขณะที่จินหมิงเยว่กำลังฝึกพละกำลังและอาคมบุรุษตวัดฝ่ามือครั้งหนึ่งพาร่างบอบบางลอยละล่องมานั่งบนตักของตนเอง แล้วฉวยโอกาสหอมแก้มนางไปหนึ่งที“ว้าย! ท่านพี่! ฮวาอินก็อยู่นะเจ้าคะ”“เฮ้อ ฮวาอินออกจะชอบที่ข้ากับเจ้าพลอดรักกัน”“ท่านพี่!!”เพี๊ยะ!!ว่าแล้วก็ตีท่อนแขนแกร่งไปหนึ่งทีด้วยความเขินอาย จินหมิงเยว่หัวเราะเสียงดัง ยิ่งได้เห็นพวงแก้มทั้งสองข้างขึ้นสีแดงระเรื่อก็ยิ่งอยากแกล้

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 20 งอน

    บทที่ 20งอน“ลองขย่มข้าสิ”“ตะ แต่ข้าไม่รู้”“ทำแบบนี้”“อ๊ะ!?”ฝ่ามือหยาบยกสะโพกกลมขึ้นแล้วกดลงให้ครอบครองความแข็งแกร่งของตนเอง ความเสียวซ่านแล่นพล่านไปทั่วทั้งร่างบอบบางฟางเหนียงขยับตามการนำพาของบุรุษ กระทั่งหาจังหวะของตนเองเจอ จินหมิงเยว่ก็เปลี่ยนเป็นบีบเคล้นสะโพกกลมกลึงด้วยความมันเขี้วแทนท่วงท่าของนางสร้างความรัญจวนในเหลือเกิน มันเชื่องช้าและละมุนละไม ราวกับจงใจทรมานจินหมิงเยว่ให้ต้องอดทนกับกามารมณ์ เกร็งทั่วทั้งร่างจนเห็นก้อนกล้ามเนื้อชัดเจน อีกทั้งเส้นเลือดยังปูดโปนออกมา“อ่า เหนียงเอ๋อร์ เจ้าช่าง...” บุรุษมิอาจเอื้อนเอ่ยได้อีก เมื่อนางเริ่มขยับถี่ขึ้นเรื่อยๆ มิได้เข้าสุดออกสุดเหมือนอย่างในครั้งแรก แต่เป็นการกดสะโพกระรัว“อืม” นางครางเสียงหวานแล้วแหงนหน้าขึ้นตามอารมณ์ จินหมิงเยว่ก้ามหน้าลงดูดดื่มกับยอดอกสีหวานเข้าปากอย่างกระหายความรู้สึกวาบหวา

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 19 จิ้งจอกเจ้าเล่ห์

    บทที่ 19จิ้งจอกเจ้าเล่ห์ดวงตาคู่งามเปิดอย่างเชื่องช้า คราวนี้ฟางเหนียงไม่ตกใจอีกแล้วว่านางมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร สถานที่ที่ไม่ต่างไปจากสรวงสวรรค์ นางคงถูกเทพองค์นั้นเรียกตัวมาอีกเป็นแน่นางเตรียมที่จะมองหาตัวของผู้ที่เรียกนางมา แต่ไม่ทันที่จะได้หยัดกายลุกขึ้นเสียด้วยซ้ำ เสียงทุ้มน่าฟังก็ดังขึ้นเหนือหัว“เดี๋ยวนี้เจ้าไม่ตกใจแล้วหรือ?”ฟางเหนียงหยัดกายลุกขึ้น ก่อนจะหันไปยอบกายคำนับตามมารยาท“คำนับ ท่านเทพเจ้าค่ะ”“อ่า เจ้ารู้แล้วสินะ… รู้ได้อย่างไร หมิงเยว่บอกเจ้าหรือ?”“ท่านพี่ของข้ารู้จักกับท่านเป็นการส่วนตัวด้วยหรือเจ้าคะ?”“อ่า มิใช่สินะ”ใบหน้าคมคายหม่นลงเล็กน้อย ยิ่งสร้างความประหลาดใจให้กับฟางเหนียงดูเหมือนว่าทั้งสองจะรู้จักกันสินะ แต่รู้จักกันด้วยดีหรือร้ายมิอานคาดเดาได้“ท่านเทพ… จุดประสงค์ของท่านคือสิ่งใดกันแน่?”สตรีตัวน้อยรู้สึกหวาดหวั่นเหลือเกิน หวาดกลัวว

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 18 มิอาจยอมให้นางเสียหาย

    บทที่ 18มิอาจยอมให้นางเสียหายลิ้นสากหลีกหนีเรียวลิ้นของนาง ลิ้นของนางก็ยังตามติดไม่ออก กลายเป็นจูบที่แสนดูดดื่มจนเกิดเสียงน่าอาย เมื่อยามที่ฟางเหนียงยอมแพ้คิดจะถอนริมฝีปากออก จินหมิงเยว่ก็เป็นฝ่ายคว้าท้ายทอยของนางแล้วกดให้แนบแน่นยิ่งกว่าเดิม จากนั้นก็เป็นฝ่ายรุกรานโพรงปากอุ่น ตักตวงความหอมหวานอย่างเร่าร้อน ทั้งๆ ที่เมื่อครู่เอาแต่หลีกหนีปฏิเสธนางแท้ๆ...จิ้งจอกเจ้าเล่ห์!!...อดมิได้ที่จะต่อว่าบุรุษในใจที่คิดหลอกนาง แต่ก็ยอมให้บุรุษรุกรานแต่โดยดี เพราะจูบหวานๆ ที่ถูกส่งมอบมามันพาให้ร่างของนางอ่อนระทวย เคลิบเคลิ้มไปกับรสจูบซึ่งราวกับเอาอกเอาใจนาง นางจะยอมให้อภัยจินหมิงเยว่ก็แล้วกันเนิ่นนานกว่าทั้งสองจะถอนริมฝีปากออกจากัน ดวงตาสบประสานกันของหวานซึ้ง คล้ายกับกำลังแลกเปลี่ยนความรู้สึกที่มีให้กันและกัน“เอาลูกแก้วคืนไปหรือยังเจ้าคะ?”“ยัง”“อ้าว?”“ข้าฝากไว้กับเจ้า หากข้าบาดเจ็บเจ้าจะได้จู

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status