Share

บทที่ 5 ริมฝีปากงดงาม

last update Terakhir Diperbarui: 2025-04-04 20:00:25

บทที่ 5

ริมฝีปากงดงาม

ค่ำคืนวสันต์อันเร่าร้อนผ่านพ้นไป เสียงนกขับขานเป็นบทเพลงแรกในยามเช้า ปลุกให้บุรุษและสตรีในห้องหอนอนตื่นจากห้วงแห่งนิทรา ทว่ามีเพียงจินหมิงเยว่ที่ลืมตาตื่นขึ้นอย่างสดชื่น เอียงใบหน้าพินิจสตรีในอ้อมแขนที่สลบระหว่างบทรักเมื่อคืนนี้ ก้มหน้าลงจุมพิตหน้าผากเนียนแนบแน่น

ทว่าร่างกายร้อนผ่าวทำเอาจินหมิงเยว่สะดุ้งเล็กน้อย

…เหตุใดร่างกายของนางจึงร้อนเป็นไฟเช่นนี้?...

“เหนียงเอ๋อร์?” มือหนาตบลงบนหัวไหล่เล็กเบาๆ เพื่อปลุกให้นางตื่น หากแต่สตรีตัวน้อยยังคงหลับตาพริ้ม

เมื่อคืนนางก็สลบคาเตียง เช้าวันนี้นางตัวร้อนผ่าว มันคืออาการอะไรกันแน่? เหตุใดมนุษย์จึงมีร่างกายที่ซับซ้อนเช่นนี้?

จินหมิงเยว่คือปีศาจจิ้งจอกเก้าหาง ซึ่งบำเพ็ญเพียรมานานถึงพันปี ตลอดพันปีไม่เคยป่วยไข้เฉกเช่นมนุษย์ ถึงแม้ว่าในเผ่าพันธุ์เดียวกันจะมีอาการเจ็บป่วย หากแต่บุรุษซึ่งปลีกวิเวกฝึกฝนตนหลงลืมมันไปนานเหลือเกิน จึงมิอาจรับรู้เลยว่าอาการนี้คืออาการป่วยไข้

รออยู่นานนางก็ยังไม่ฟื้นตื่นเสียที ไม่ว่าจะปลุกอย่างไรก็ตาม จินหมิงเยว่จึงไปยังหอสมุดซึ่งเก็บรวบรวมตำราฉบับคัดลอกจากทั่วทุกมุมโลก ซึ่งเป็นตำราที่จินหมิงเยว่คัดลอกด้วยตนเองตลอดพันปีมานี้ และแล้วเขาก็เจอสาเหตุ จึงเฝ้าดูแลนางตามวิธีในตำราไม่ห่าง

กว่านางจะฟื้นตื่นท้องฟ้าก็ถูกฉาบไปด้วยความมืดอีกครั้ง…

“อืม…”

ดวงตาคู่งามค่อยๆ เปิดออกอย่างเชื่องช้า ความอ่อนล้าสะสมจากค่ำคืนที่ถูกบุรุษเคี่ยวกรำจนร่างกายระบมและปวดร้าว อีกทั้งยังมิได้กินอะไรมาตั้งแต่เมื่อคืน แล้วยังจับไข้จากบทรักอันหนักหน่วงจนร่างกายรับไม่ไหว ฟางเหนียงกวาดสายตามองรอบห้อง เห็นว่าข้างเตียงมีถังไม้ใส่น้ำสะอาดจนเกือบเต็ม และผ้าสะอาดซึ่งวางอยู่บนหน้าผาก และขอบถังน้ำอยู่สองสามผืน

ฟางเหนียงปะติดปะต่อเรื่องราวได้ในทันทีว่าเกิดสิ่งใดขึ้น สึกซาบซึ้งที่บุรุษเฝ้าดูแลนาง หากแต่ต้นสายปลายเหตุก็มาจากปีศาจจิ้งจอกตนนี้นี่แหละ ที่ทำให้นางจับไข้เช่นนี้

ดวงตาคู่งามจ้องมองบุรุษด้วยความไม่พอใจ หากเป็นครั้นก่อนหน้านางคงไม่กล้า ทว่าในยามนี้บุรุษหลับอยู่ เหตุใดนางจึงจะไม่กล้า!!

“ท่านรังแกข้า จนข้าป่วยไข้” ไม่เอ่ยเปล่า ยังยื่นมือออกไปแตะจมูกเบาๆ เป็นการประทุษร้ายบุรุษ

ทว่าอีกฝ่ายก็ยังคงหลับตาพริ้ม ฟางเหนียงจึงถือโอกาสพินิจเสี้ยวหน้าของจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ตนนี้อย่างละเอียด

คิ้วคมเข้มรูปทรงราวกับดาบเล่มยาว ทำให้ใบหน้าของจินหมิงเยว่ดูเข้ม รูปตาเรียวยาวดั่งดวงตาของจิ้งจอก แค่มองตาก็รู้สึกได้ถึงความเจ้าเล่ห์เพทุบาย จมูกเด่นเป็นสันชัดเจนรับกับริมฝีปากหยักได้เป็นอย่างดี โครงหน้านั้นเห็นสันกรามชัดเจนมาก ยิ่งทำให้ใบหน้าดูดุ

ขณะที่พินิจใบหน้าของจินหมิงเยว่ ปลายนิ้วเรียวก็ลากสัมผัสผิวหน้าของเขาไปด้วย กระทั่งมาหยุดอยู่ที่ริมฝีปาก จุมพิตร้อนแรงดั่งเปลวเพลิงโหมกระหน่ำเมื่อคืนผุดขึ้นมาในความทรงจำ ทำเอาสตรีตัวน้อยหน้าร้อนผ่าว โดยเฉพาะบริเวณริมฝีปากอวบอิ่ม คล้ายกับว่าสัมผัสของบุรุษยังคงตราตรึง

เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมาทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นครั้งแรกของนาง จูบของนาง การสานสัมพันธ์ลึกซึ้ง ทุกสิ่งอย่างล้วนเป็นจินหมิงเยว่เป็นผู้ครอบครองทั้งสิ้น

งับ!

“ว้าย!!” สตรีตัวน้อยร้องเสียงหลง เมื่อสัมผัสริมฝีปากของบุรุษอยู่ดีๆ ปลายนิ้วของนางก็ถูกกัด

แม้ว่าแรงกัดจะไม่ได้สร้างบาดแผลให้กับนาง แต่มันทำให้นางตกใจจนผวา

ดึงมือกลับมากอดเอาไว้แล้วมองอีกฝ่ายด้วยดวงตาเบิกกว้าง

“แอบทำร้ายข้าหรือ?”

จินหมิงเยว่หยัดกายนั่งตัวตรง หลังจากฟุบหลับลงข้างเตียงของนาง เมื่อตัดสินใจพักสายตาชั่วครู่ แต่มีสติรับรู้อยู่ตลอด เนื่องจากมันคือสัญชาตญาณสัตว์ป่า

“หามิได้ เหนียงเอ๋อร์เพียงแต่…”

ดวงตาคู่งามกรอกขึ้นกรอกลง และมองซ้ายทีขวาที จนจินหมิงเยว่เกือบจะหลุดหัวเราะออกมาเสียแล้ว ท่าทางของนางดูอย่างไรก็กำลังหาเรื่องโกหกเป็นแน่ กระนั้นถึงจะรู้แต่ก็รอให้นางเอ่ยอย่างใจเย็น

“เพียงแต่?”

“หะ เห็นว่าริมฝีปากของท่าน… งะ งดงาม”

“หึ เช่นนั้นหรือ”

บุรุษหยัดกายขึ้นจากเก้าอี้ไม้ ใช้สองมือคืบคลานลงบนเตียง เผยท่าทีอย่างชัดเจนถึงการคุกคาม ฟางเหนียงจ้องมองจินหมิงเยว่ไม่วางตา ภายในแววตาของนางฉายชัดถึงความหวาดกังวล จินหมิงเยว่นึกดีใจ แววตาของนางเช่นนี้ดีกว่าแววตาหวาดกลัวตนมากนัก

“เช่นนั้น… เจ้าอยากลองสัมผัสอีกครั้งหรือไม่?”

“ไม่!” ฟางเหนียงปฏิเสธในทันที เรียกเสียงหัวเราะเบาๆ จากจินหมิงเยว่

“แต่ข้าอยาก” จบถ้อยคำนั้น แขนแกร่งก็เอี่ยวไปด้านหลังของนาง คว้าหัวเล็กๆ เอาไว้เพื่อกันไม่ให้นางหันหน้าหนี ก่อนจะโน้มหน้าลงไปแล้วประกบริมฝีปากอย่างแนบแน่น

“อื้อ!”

แม้จะรู้ดีว่าอย่างไรก็ไม่สามารถทัดทานเรี่ยวแรงของบุรุษร่างโต อีกทั้งยังเป็นถึงจิ้งจอกเก้าหางมีอิทธิฤทธิ์มากนักอย่างจินหมิงเยว่ ไม่มีทางเลยที่ฟางเหนียงจะต่อต้านได้ แต่หากใช้ความน่าเอ็นดูเข้าสู้ก็พอมีทางเป็นไปได้อยู่ หากแต่นางกลับไม่รู้จักวิธีออดอ้อนบุรุษเลยน่ะสิ

เรียวลิ้นที่สากแต่อ่อนนุ่มสอดแทรกเข้าไปภายในโพรงปากอุ่นร้อน ร่างกายของนางยังคงมีพิษไข้อยู่เล็กน้อย ยิ่งทำให้ภายในอุ้มปากของนางร้อนระอุ ราวกับไอร้อนนั่นส่งผ่านไปยังร่างกายของบุรุษ

บัดนี้จินหมิงเยว่ร้อนผ่าวไปทั่วทั้งร่าง ความกำหนัดพลุกพล่านอีกครั้ง เพียงแค่ได้สำรวจโพรงปากหวานฉ่ำราวกับมธุรสหวานล้ำ

สตรีตัวน้อยหลับตาแน่น ฝ่ามือเรียวเล็กจิกที่อกเสื้อของบุรุษ ในขณะที่ลมหายใจขาดห้วงไปเสียแล้ว จินหมิงเยว่ถอนริมฝีปากออกก่อนจะเอ่ยเสียงเบาชิดกลีบปากอวบอิ่ม

“หายใจ”

“เฮือก!”

ฟางเหนียงเพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองกลั้นหายใจ มารู้ตัวก็ตอนที่จินหมิงเยว่เอ่ยเช่นนั้น นางจึงรีบสูดอากาศเข้าปอดจนแทบสำลัก

บุรุษยกยิ้มมุมปากอย่างนึกเอ็นดู ก่อนจะถอยออกห่างจากกายของนาง

“เจ้าดีขึ้นก็ดีแล้ว ข้าจะออกไปข้างนอกเสียหน่อย แต่จะให้คนมาดูแลเจ้า หากอยากได้สิ่งใดก็บอกกับพวกนางได้เลย”

“อะ เอ่อ…”

เมื่อบุรุษตั้งท่าจะเดินออกไป ฟางเหนียงก็ร้องเรียกเอาไว้เสียก่อน

“…?”

“คือ… ข้าต้องอยู่ที่นี่หรือเจ้าคะ?”

ได้ยินเช่นนั้นแล้ว จิ้งจอกตัวร้ายในคราบบุรุษรูปงามก็สาวเท้าก้าวมาหานางที่ข้างเตียงอีกครั้ง

“ใช่” มือเรียวหนายื่นออกไปข้างหน้าแล้วเชยปลายคางมนขึ้น เพื่อบังคับให้นางสบตากับตนเอง “ข้าจะบอกกับเจ้าเอาไว้อีกอย่างหนึ่ง ตราบใดที่ข้าไม่อนุญาต เจ้าก็ไม่สามารถไปจากข้าได้”

แล้วจินหมิงเยว่ก็เดินออกไป… ฟางเหนียงเอนกายลงนอนบนเตียงตามเดิม ก่อนจะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่

ชีวิตของฟางเหนียงพลิกผันชั่วข้ามคืน จากสตรีชาวบ้านไร้การศึกษา บิดาเพิ่งได้เป็นขุนนางขั้นต่ำสุด บัดนี้กลับกลายเป็นสตรีของจิ้งจอกเก้าหางไปเสียแล้ว

“คำนับ ฮูหยินประมุข”

ไม่รู้ว่าตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ฟางเหนียงสะดุ้งตกใจไปเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้ว หากนางเป็นเพียงกระต่ายน้อยป่านนี้คงไปเยือนน้ำพุเหลืองแล้วกระมัง

“ข้าน้อยมีนามว่า ฮวาอิน ปีศาจรับใช้ที่จะมาเป็นผู้ดูแลฮูหยินประมุขนับแต่บัดนี้เจ้าค่ะ”

สตรีตัวน้อยหันมองสตรีผู้หนึ่งซึ่งยืนคำนับให้นางอย่างนอบน้อม ฮวาอินคือปีศาจจิ้งจอกซึ่งมีสามหาง ที่ฟางเหนียงรู้เนื่องจากหางของนางยังโผล่ออกมาอยู่เลย

นางหยัดกายลุกขึ้น แต่ก็ทรุดลงไปในทันทีด้วยความอ่อนเรี่ยวแรง อาหารก็มิได้กินมาตั้งแต่เมื่อคืน อีกทั้งยังถูกบุรุษสานสัมพันธ์ลึกซึ้งอย่างหนักหน่วง แล้วไหนจะพิษไข้อีก นางจึงไร้เรี่ยวแรงแม้แต่จะพยุงตนเองให้ยืน มิหนำซ้ำความเจ็บปวดใจกลางลำตัวทำเอานางหน้าซีด

“จะลุกขึ้นรวดเดียวเช่นนี้มิได้นะเจ้าคะ” ประคองร่างบอบบางให้นั่งลงบนเตียง แล้วให้นางเอนกายลงตามเดิม “ข้าน้อยจะไปนำสำรับมาให้ ฮูหยินประมุขโปรดรอสักครู่”

ฮวาอินเดินหายออกไป ก่อนจะกลับเข้ามาพร้อมข้าวต้มอุ่นๆ และกับข้าวซึ่งย่อยง่าย รวมถึงชาบำรุงกายสำหรับอิสตรี

“เชิญเจ้าค่ะ”

กลิ่นหอมของอาหารลอยเตะจมูก อย่างที่เอ่ยว่าฟางเหนียงมิได้กินอะไรมาตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว เป็นเรื่องธรรมดาที่นางจะหิวโหย สตรีตัวน้อยคว้าช้อนขึ้นตักข้ามต้มเข้าปากอย่างกระหาย จนมันลวกปากนาง กระนั้นก็มิอาจหยุดนางที่กำลังเพลิดเพลินไปกับอาหารได้

“เอ่อ จะ เจ้า มากินด้วยกันไหม?”

“ขออภัย ข้าน้อยเป็นเพียงปีศาจรับใช้ต่ำต้อย อีกทั้งยังอยู่ในเวลางาน มิอาจร่วมโต๊ะกับฮูหยินประมุขได้เจ้าค่ะ”

“เอ่อ เช่นนั้น… เจ้ามีสิ่งใดให้ทำก็ไปทำเถิด”

“หน้าที่ของข้าน้อยคือการดูแลรับใช้ฮูหยินประมุขเจ้าค่ะ”

“เฮ้อ!”

ฟางเหนียงถอนหายใจ ก่อนจะก้มหน้าก้มตากินอาหารตรงหน้าอย่างหิวโหย นางชวนแล้วแต่อีกฝ่ายไม่กินก็ช่างประไร แม้เป็นเพียงข้าวต้มสำหรับคนป่วย แต่มันคืออาหารที่ดีที่สุดเท่าที่ในชีวิตของฟางเหนียงเคยกินมา

ไม่นานอาหารก็หมดไม่เหลือแม้ข้าวสักเม็ด ปลาก็เหลือแต่ก้าง ส่วนผัดผักก็แทบไม่เหลือน้ำแกง

…ตัวนางก็เล็กเพียงนี้แต่กลับกินเก่งเหลือเกิน เช่นนี้แล้วท่านประมุขคงดีใจเป็นแน่…

ฮวาอินได้แต่ครุ่นคิดภายในใจพลางเก็บสำรับ เมื่อกลับมาก็ได้ช่วยนางผลัดเปลี่ยนอาภรณ์ ระหว่างนั้นเองก็เห็นคราบสีแดงบนเตียงนอน ภาพจำในค่ำคืนที่ผ่านมาผุดขึ้นถ้าเอาดวงหน้าหวานแดงระเรื่ออีกครั้ง นางจำได้ว่าขณะที่บุรุษเข้ามาในตัวของนางนั้นเจ็บมากๆ เลือดที่อยู่บนเตียงนั่น…

…ละ เลือดของข้าหรือ? จะ จากตรงนั้น!?...

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terkait

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 6 ตำหนักพันปี

    บทที่ 6ตำหนักพันปี…ละ เลือดของข้าหรือ? จะ จากตรงนั้น!?...“เฮือก!!”“เป็นอะไรหรือเจ้าคะ?”“ละ เลือดข้า!”…ระ รอบเดือนหรือ!? ช่างน่าอายยิ่งนัก!...สตรีตัวน้อยรีบวิ่งเข้าไปดึงผ้าปูออกมาด้วยความอับอาย“ตายจริง ให้ข้าน้อยทำเอาเถิดเจ้าค่ะ”“มิได้ๆ นี่เป็นเลือดของข้า”“มิได้เจ้าค่ะ นี่เป็นงานของข้าน้อย”“ตะ แต่นี่ ระ รอบเดือนของข้านะ”“หืม?” ฮวาอินเอียงคอมองฟางเหนียงซึ่งหน้าแดงก่ำราวกับผลอิงเถา “ข้าน้อยคิดว่าอาจจะเป็นเลือดอย่างอื่นนะเจ้าคะ”“…”“เช่น… เลือดพรหมจรรย์ของท่าน”“…!?”“มาเจ้าค่ะ ข้าน้อยจะเอาไปซัก ระหว่างนั้นฮูหยินประมุขก็ลองตรวจสอบดูนะเจ้าคะ หากเป็นเลือดรอบเดือนจ

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-05
  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 7 จิ้งจอกใจร้าย

    บทที่ 7จิ้งจอกใจร้ายหากแต่ก่อนหน้านั้นก็ถูกมือของฮวาอินทะลวงกลางอกจนทะลุไปอีกด้านเสียก่อน“เฮือก!!” ฟางเหนียงเห็นช่วงเวลานั้นพอดิบพอดี ราวกับทรวงสวรรค์กลั่นแกล้งให้นางหวาดกลัวสถานที่แห่งนี้มากกว่าเดิม!!สองขาอ่อนเรี่ยวแรง มองภาพฮวาอินจัดการกับศพของพวกเดียวกันไม่วางตา นางมิได้อยากมองหากแต่มิอาจบังคับสายตาได้พรึ่บ!ผ้าคลุมผืนหนึ่งถูกตวัดโอบคลุมรอบกายตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า ก่อนที่ร่างบอบบางจะถูกโอบอุ้มขึ้นมาจากพื้น ฮวาอินคำนับประมุขสูงสุดของเผ่าจิ้งจอก บุรุษปรายตามองร่างไร้วิญญาณของปีศาจจิ้งจอกซึ่งมีไอดำลอยออกมาจากกาย เขาใช้ปลายนิ้วชี้ไปที่ร่างนั้นก่อนที่ไอดำจะสลายหายไป ส่งสายตาโหดเหี้ยมแทนคำสั่งแล้วพานางกลับไปยังตำหนักพันปีเมื่อเข้ามาในห้อง บุรุษก็ดึงผ้าคลุมออกสบสายตากับสตรีตัวน้อยซึ่งนั่งตัวสั่นระริกอยู่บนเตียง“ท่าน… ประมุข” เสียงที่เคยหวานกลับถูกเอ่ยออกมาอย่างแหบแห้ง“ท่านประมุขหรือ? ค่ำคืนวสันต์ไม่อยู่ใน

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-06
  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 8 ความรักทำให้ข้าดูโง่เขลา

    บทที่ 8ความรักทำให้ข้าดูโง่เขลาหมับ!“ว้าย! ทะ ท่านพี่ ท่านจะทำอะไรเจ้าคะ!?”บุรุษย่อกายลงคุกเข่าอยู่ตรงหน้าของนาง เรียวขาของนางถูกยกขึ้นสูง ก่อนที่บุรุษจะก้มหน้าลงไปแล้วใช้เรียวลิ้นปาดเลียบาดแผลจากงูพิษ“อึก!” ความเจ็บปวดบริเวณนั้นทำเอาสตรีตัวน้อยสะดุ้ง นางพยายามจะดึงขาหนีหากแต่มิอาจทำได้ดั่งใจ ยิ่งถูกเรียวลิ้นนั่นสัมผัสนางยิ่งเจ็บปวดเหตุใดบุรุษจึงต้องทรมานนางด้วย!!ทว่าไม่นานบุรุษก็ดึงใบหน้าออก ช่างน่าแปลกนักที่บริเวณนั้นกลับไม่รู้สึกเจ็บปวดอีกเลย ทั้งที่ครั้นก่อนหน้านางรู้สึกปวดหนึบแปลกๆ เมื่อกดสายตามองดูก็เห็นว่าบาดแผลที่ตรงนั้นหายไปแล้ว นางจำได้ว่าเคยมีแผลอยู่ตรงนี้นี่!“ท่านพี่… รักษาให้ข้าหรือเจ้าคะ?”“ถือว่าความหวาดกลัวยังไม่ยึดครองสมองน้อยๆ ของเจ้า”“…?”“มา ข้าจะช่วยแต่งตัว”“ข้าทำเองได้เจ้าค่ะ” นางกอดตน

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-07
  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 9 นางเป็นเพียงมนุษย์คนหนึ่ง

    บทที่ 9นางเป็นเพียงมนุษย์คนหนึ่ง“ขออภัยฮูหยินประมุข แต่ข้าน้อยขอบังอาจถาม... ฮูหยินประมุขมาที่นี่ทำไมหรือเจ้าคะ?”“ข้าอยากทำอาหาร”“หากอยากกินอะไรบอกข้าน้อยได้ ข้าน้อยจะนำมาบอกกับคนครัว ฮูหยินประมุขไม่เห็นต้องมาเองเลยเจ้าค่ะ”การมาถึงห้องครัวด้วยตนเองของผู้เป็นนาย สร้างความอกสั่นขวัญแขวนให้กับคนครัว เนื่องจากห้องครัวเป็นสถานที่ไร้ซึ่งความสนใจ หากทำอาหารออกมาดีก็ดีไป แต่หากทำอาหารออกมาไม่ดีนอกจากจะโดนตำหนิแล้ว บางคนอาจจะบุกมาถึงห้องครัวเฉกเช่นฟางเหนียง ซึ่งเรื่องนี้ฟางเหนียงรู้ดีอยู่แล้วจึงได้เอ่ยออกไปว่า“ข้าอยากทำอาหารด้วยตนเอง ข้าอยากปรนนิบัติท่านประมุขของพวกเจ้า” สตรีตัวน้อยเอ่ยออกไปเช่นนั้น ฮวาอินถึงกับสะดุ้งแม่นางผู้นี้คล้ายกับเฉลียวฉลาด รู้วิธีการเอาตัวรอด หากแต่ในเรื่องเช่นนี้กลับโง่เขลายิ่งนัก แน่นอนว่าเรื่องที่ฟางเหนียงเอ่ยเรียกจินหมิงเยว่ต่อหน้าธารกำนัลว่าท่านประมุขอย่างห่างเหินเช่นนี้ จะต้องถึงหูของบุรุษเป

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-08
  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 10 อยากจับกิน

    บทที่ 10อยากจับกิน“เขาน่ากลัว” นางพึมพำเสียงเบา ก่อนจะหยัดกายลุกขึ้นแล้วเดินออกไปข้างนอก ในเมื่อจินหมิงเยว่อนุญาตให้นางไปที่ใดก็ได้ตามที่ต้องการ เช่นนั้นนางก็ขอสำรวจรอบตำหนักเสียหน่อยเถิดเพื่อหาทางหนีทีไล่เอาไว้ด้วย เผื่อสักวันหนึ่งจินหมิงเยว่เลิกสนใจในตัวนาง นางจะได้หนีออกไปมีชีวิตเป็นของตนเอง ในยามนั้นคิดว่าจินหมิงเยว่คงไม่ไล่ตามนางแล้ว ทว่ายามนี้ต้องคอยเอาอกเอาใจบุรุษไปก่อน เพราะถึงหนีไปตอนนี้ก็ถูกจับกลับมาอยู่ดี“เจ้าแนะนำตำหนักให้ข้าหน่อยสิ”“ตำหนักพันปีข้าน้อยพอรู้คร่าวๆ มิได้รู้ลึกเจ้าค่ะ เนื่องจากที่นี่แม้แต่ปีศาจจิ้งจอกด้วยกันยังเข้ามายาก มีเพียงผู้ที่ได้รับอนุญาตเท่านั้นเจ้าค่ะ”“ไม่เป็นไร ข้าแค่อยากรู้คร่าวๆ ว่าตรงไหนอยู่ตรงไหนเท่านั้น อ้อ ว่าแต่ ที่นี่มีห้อวหนังสือหรือไม่?”“มีเจ้าค่ะ ท่านประมุขค่อนข้างชื่นชอบหนังสือ อีกทั้งยังเป็นผู้คัดลอกอักษรเหล่านั้นด้วยตนเอง ว่ากันว่าห้องหนังสือภายในตำหนักพันปี

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-09
  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 11 ตัวตนของบุรุษปริศนา

    บทที่ 11ตัวตนของบุรุษปริศนา“ทำได้สิ พวกมนุษย์กล่าวขานพวกข้าอยู่หลายสิ่ง ตัวแทนแห่งการบำเพ็ญเพียร ตัวแทนแห่งความพยายาม ตัวแทนแห่งพลังอำนาจ และ... ตัวแทนแห่งตัณหาราคะ” จงใจจดจ้องมองเข้าไปในดวงตาคู่งาม แล้วค่อยๆ โน้มหน้าไปใกล้ๆ จนปลายจมูกสัมผัสกัน “ตัวข้านั้นเป็นทั้งหมด ที่เหล่ามนุษย์ขนานนาม”“ตะ แต่แตงที่ฝืนเด็ดจากต้นย่อมไม่หวาน[1]นะเจ้าคะ”“ไม่ลองแล้วจะรู้หรือ ไม่แน่แตงดิบๆ อาจจะถูกปากกว่าที่คิดก็ได้”...ท่านช่าง... เจ้าเล่ห์สมกับเป็นจิ้งจอกจริงๆ...“หึ!” จินหมิงเยว่หัวเราะเสียงเบาก็จะละออกจากร่างบอบบาง “แต่อย่างไรแตงหวานๆ ก็อร่อย เช่นนั้นข้าจะรอให้แตงหวานก่อนก็ได้”ฟางเหนียงรีบหยัดกายลุกขึ้นจ้องมองบุรุษด้วยความไม่เข้าใจว่าเหตุใดจึงหยุด นางคิดว่าบุรุษจะขืนใจนางแม้นางไม่ยินยอมเป็นแน่...“ทว่าลูกแก้วที่อยู่กับเจ้านั้นสำคัญกับข้า อย่างน้อยทุกเจ็ดวันก็มาให้ข้าได้เติมพลังจาก

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-10
  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 12 เติมพลัง

    บทที่ 12เติมพลังเสียงนุ่มทุ้มดังขึ้นที่ข้างหู พร้อมกับลมหายใจอุ่นๆ รินรดแผ่วเบา หนังสือที่อยู่ในมือร่วงหล่นลง โชคดีที่เจ้าของเสียงนุ่มทุ้มคว้าหนังสือเล่มนั้นเอาไว้ ราวกับรู้อยู่ก่อนแล้ว ในณะที่ดวงตาเรียวคมจ้องมองดวงตาคู่งามนิ่งไม่ยอมละสายตา“ทะ ท่านพี่ ข้าตกใจหมด”“ตกใจเรื่องอะไร เว้นเสียแต่ว่าเจ้ากระทำความผิด”“เหนียยงเอ๋อร์กำลังอ่านหนังสือเพลินๆ ท่านพี่เข้ามามิให้สุ้มมิให้เสียงก็ต้องตกใจสิเจ้าคะ”“หากเจ้ามาหาข้าแล้วแกล้งกระโดดกอดคอข้า สาบานเลยว่าข้าไม่มีทางตกใจ” บุรุษว่าพลางยกยิ้มมุมปากด้วยความเจ้าเล่ห์สตรีตัวน้อยถอนหายใจแล้วยื่นมือออกไปคว้าหนังสือที่อยู่ในมือของบุรุษ แต่อีกฝ่ายกลับขยับหนี ฟางเหนียงเหลือบสายตามองบุรุษอีกหน แล้วส่งสายตาดุๆ ใส่ก่อนจะยื่นมือออกไปคว้าหนังสือ ทว่าจินหมิงเยว่ก็ยังกระทำแบบเดิม“ท่านพี่!”คราวนี้จินหมิงเยว่เหลือบสายตาอ่านชื่อหนังสือบนหน้าปก ซึ่งล้วนแล้วแต่

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-11
  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 13 ข้าปรารถนาเจ้าอย่างสุดหัวใจ

    บทที่ 13ข้าปรารถนาเจ้าอย่างสุดหัวใจ“เจ้าค่ะ” นางตอบรับด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง เดิมทีฟางเหนียงก็ไม่คิดปฏิเสธอยู่แล้ว เพราะรู้สึกผิดที่ครอบครองลูกแก้วจิ้งจอกเอาไว้ ทั้งๆ ที่มันควรจะอยู่กับเจ้าของหากทว่าข้อเท้าของนางยังเป็นรอยช้ำสีเข้มอยู่เลย นางขอโลภมากและเห็นแก่ตัว ครอบครองมันนานอีกคงไม่เป็นอะไร อย่างไรเสียเจ้าตัวก็อนุญาตนางแล้วรอบนี้จูบที่เคยหวานปานมธุรสกลับถูกบดขยี้ลงมาอย่างเร่าร้อน ฟางเหนียงรู้สึกตกใจจนสะดุ้ง หากถอยหลังหนีได้นางคงถอยไปแล้ว แต่ร่างของนางกลับถูกดันชิดกับชั้นหนังสือน่ะสิ จึงไม่มีโอกาสให้นางได้ถอยห่างเลยแม้แต่น้อย ยิ่งบุรุษกดริมฝีปากลงมา ก็ยิ่งเป็นการเปิดปากของนางให้อ้าออก เพื่อที่จินหมิงเยว่จะได้รุกรานเข้ามาได้อย่างลึกซึ้งมากกว่าเดิม“อื้อ” แม้รสจูบนั้นจะมิได้หวานซาบซ่าอย่างที่นางชื่นชอบ แต่รสจูบเช่นนี้กลับเร่งเร้าให้หัวใจของนางเต้นระรัวได้ดี ฟางเหนียงเผลอไผลไปกับสัมผัสของบุรษ ฝ่ามือหนาเริ่มซุกซน เฟ้นฟ้อนไปทั่วทั้งเรือนร่างของนางกระทั่งถ

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-12

Bab terbaru

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 26 ห้วงคำนึงถึงนาง

    บทที่ 26ห้วงคำนึงถึงนางหลายฤดูผ่านไปจินหมิงอันเติบใหญ่เป็นจิ้งจอกหนุ่ม มีอิทธิฤทธิ์มากล้นเดินตามรอยของผู้เป็นบิดา ฟางเหนียงภาคภูมิใจเหลือคณานับที่บุตรชายสง่างามเช่นนี้ อีกทั้งยังรวบรวมพลังสร้างลูกแก้วจิ้งจอกของตนเองได้แล้ว แม้ว่าลูกแก้วจิ้งจอกนั้นจะยังแข็งแกร่งไม่เท่าลูกแก้วจิ้งจอกที่อยู่ในตัวของนางก็ตามยามนั้นเองสายลมพัดผ่านพาเอาความเย็นสบายโอบรอบร่าง ทว่ามีบางสิ่งลอยมากับสายลมด้วย กลิ่นที่คุ้นเคยพาให้หัวใจดวงน้อยเต้นแรงขึ้นมาฟางเหนียงหยัดกายขึ้นแล้วพุ่งตัวออกไปตามกลิ่นนั่น แหวกผ่านพงไพร เป็นหนึ่งเดียวกับสายลม กระทั่งมาถึงหมู่บ้านแห่งหนึ่ง นางเดินตามหาไม่นานก็มาหยุดอยู่ที่บ้านหลังหนึ่ง“ยินดีด้วยเจ้าค่ะ ท่านเจ้าตระกูลได้บุตรชายเจ้าค่ะ!”เสียงเด็กร้องไห้โยเยดังลอดออกมาให้ได้ยิน พร้อมกับเสียงแสดงความยินดีให้กับบิดาและมารดา นางยืนฟังเสียงร้องไห้นั้นอยู่นาน กระทั่งมีคนผู้หนึ่งทักนางเข้า“มาหาผู้ใดหรือเจ้าคะ?”

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 25 สูญเสียไปตลอดกาล

    บทที่ 25สูญเสียไปตลอดกาลดวงตาคู่งามลืมตาขึ้นท่ามกลางพงไพรอันคุ้นเคย ด้านข้างของนางคือร่างของจิ้งจอกหนุ่ม คนรักของนาง… ร่างของบุรุษที่รักนอนแน่นิ่งจนน่าหวาดหวั่นความอบอุ่นที่อยู่กลางอกบ่งบอกให้นางรับรู้ได้ถึงพลังชีวิตอันมหาศาล รวมถึงอิทธิฤทธิ์ของปีศาจจิ้งจอก มันคือลูกแก้วจิ้งจอกไม่ผิดแน่ใช่แล้ว ลูกแก้วจิ้งจอกอยู่กับนางมาตลอด ลูกแก้วจิ้งจอกที่เปรียบเสมือนพลังชีวิตของจินหมิงเยว่ บุรุษเคยบอกกับนางเช่นนั้น นั่นหมายความว่าไม่มีทางที่จินหมิงเยว่จะตาย เขาก็แค่หมดเรี่ยวแรงจึงหลับไปเท่านั้นนางเอ่ยปลอบตนเองแล้วหันไปหาบุรุษ หากทว่าเมื่อมือเล็กๆ แตะที่ร่างของบุรุษ ความเย็นยะเยือกก็แล่นผ่านเข้ามาในร่างของนาง สตรีตัวน้อยตัวแข็งทื่อ พลันน้ำตาก็ไหลอาบสู่สองข้างแก้ม“ไม่จริง ท่านพี่บอกว่า หากมีข้า มีลูกแก้วจิ้งจอก อย่างไรก็ไม่มีทางตายนี่”ฝ่ามือเล็กคว้าท่อนแขนของบุรุษแล้วออกแรงเขย่าแรงๆ เพื่อหวังให้บุรุษฟื้นตื่นขึ้นมา แม้ว่าบุรุษจะเจ็บ หากฟื้นขึ้นมานางจะยินยอมน

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 24 เดิมทีนางควรจะตายไปตั้งนานแล้ว

    บทที่ 24เดิมทีนางควรจะตายไปตั้งนานแล้วยามนั้นเองบางสิ่งร่วงหล่นลงมาจากท้องฟ้า เส้นแสงสีขาวหลายสายล้อมรอบพวกเขาเอาไว้“...!”จินหมิงเยว่และหลี่ตงหยางตวัดแขนขึ้นไปด้านหน้า ล้อมฟางเหนียงเอาไว้เพื่อปกป้องนางสตรีตัวน้อยสะดุ้งตกใจ โอบกอดจินหมิงเยว่เอาไว้ด้วยความหวาดกลัว...คนพวกนี้เป็นใครกัน?...“ส่งตัวนางมา หากต่อต้านจะถือว่าปรปักษ์ต่อสรวงสวรรค์”...สรวงสวรรค์หรือ!?...ดวงตาคู่งามเบิกกว้างด้วยความตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน นางสับสนว่าเกิดสิ่งใดขึ้นกันแน่!?“หากอยากได้ตัวนางนัก ก็เข้ามา!!” เป็นจินหมิงเยว่ที่เอ่ยออกไปอย่างไม่เกรงกลัว แม้จะเป็นผู้ใดหากมาพรากฟางเหนียงไปจากเขา บุรุษไม่ยินยอม!!เกิดการต่อสู้กันระหว่างปีศาจจิ้งจอก เทพหนุ่มตกสวรรค์และองครักษ์สวรรค์ โดยที่ฟางเหนียงอยู่ในการปกป้องของจินหมิงเยว่ตลอดการต่อสู้“ท่านพี่ เกิดอะไรขึ้นกันแน่เจ้าคะ เหตุใ

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 23 เช่นนั้นข้าปรนนิบัติเจ้าแทน

    บทที่ 23เช่นนั้นข้าปรนนิบัติเจ้าแทนฟางเหนียงลงมือทำอาหารหลายอย่าง รวมถึงของหวานด้วย นางคีบทั้งผักทั้งปลาใส่ในถ้วยของบุรุษ ส่วนจินหมิงเยว่ก็คีบแต่พวกเนื้อสัตว์ใส่ถ้วยให้นางเช่นเดิม“เมื่อใดเจ้าจะอ้วนเสียที หืม?”“ข้าไม่อยากอ้วนเจ้าค่ะ”“เหตุใดจึงไม่อยากอ้วน?”“ข้าเป็นสตรี ก็ต้องรักสวยรักงามเป็นธรรมดา หากอ้วนเมื่อสวมใส่อาภรณ์ใดๆ ก็ไร้ความมั่นใจนี่เจ้าค่ะ”“เจ้าเคยอ้วนหรือ?”“ไม่เคยเจ้าค่ะ”“เช่นนั้นเจ้าจะรู้ได้อย่างไรว่าหากอ้วนแล้วจะไม่งดงาม”“เรื่องเช่นนี้ไม่จำเป็นต้องเคยมาก่อนที่เจ้าค่ะ! อีกอย่างข้าไม่เคยบอกว่าไม่อ้วนแล้วจะไม่งดงาม ข้าก็แค่คิดว่าคงไม่มีความมั่นใจ”“อ้วนให้ข้าหน่อยเถิด”“เอ๊ะ! ท่านพี่นี่อย่างไร หากอยากได้สตรีอ้วนๆ ก็ไปหาที่อื่น ไม่ต้องมาหาที่ข้า!”&l

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 22 สัญชาตญาณที่ต้องปลดปล่อย

    บทที่ 22สัญชาตญาณที่ต้องปลดปล่อยฟางเหนียงขยับกายไปนั่งลงบนตักของบุรุษ จากนั้นก็ใช้สะโพกกดลงบนความแข็งแกร่ง ครอบครองแก่นกายบุรุษเพศเข้าไปในตัวของตนเอง“อ่า...” ทั้งฟางเหนียงและจินหมิงเยว่ครางด้วยความสุขสมสตรีตัวน้อยโอบกอดบุรุษแนบอกแล้วเชิดหน้าขึ้น ก่อนจะจะเริ่มขยับสะโพกของตนเองด้วยท่าทางที่ดูเก้ๆ กังๆ ในช่วงแรก ทว่าไม่นานความวาบหวาม รัญจวนใจ ร่างกายก็ได้นำพาให้นางสามารถขับเคลื่อนร่างกาย มอบความเสียวซ่านให้กับบุรุษได้เป็นอย่างดีนางเอนกายไปข้างหลัง ใช้มือเกาะบ่าของบุรุษเอาไว้ก่อนจะเด้งสะโพกระรัว รับรู้ได้ถึงความแข็งแกร่งของแก่นกายได้อย่างชัดเจน“อ๊า ท่านพี่ อื้ม!” ทรวงอกของนางถูกดูดดื่มอย่างหื่นกระหาย แม้มันจะเจ็บเล็กน้อยเพราะมีรอยแผลจากการกระทำของบุรุษเมื่อครั้นก่อนหน้า หากแต่ความวาบหวามนั้นมีมากกว่า นางจึงยิ่งแอ่นอกให้ปากหยักดูดดื่มและกลืนกินตามต้องการฟางเหนียงเชิดหน้าขึ้นแล้วร้องครางเสียงหวานอย่างลืมอาย สูญสิ้นสติในการยับยั้งชั่งใจ กลีบกา

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 21 รูปลักษณ์ที่เปลี่ยนไป

    บทที่ 21รูปลักษณ์ที่เปลี่ยนไปวันเวลาผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็ว ฟางเหนียงในวัยสิบหกปีครั้นมาที่ดินแดนจิ้งจอกแห่งนี้เป็นครั้งแรก บัดนี้นางอายุสิบแปดหนาวเสียแล้วความงดงามของนางนั้นเพิ่มมากขึ้นเสียจนจินหมิงเยว่แทบจะกกกอดนางเอาไว้ภายในห้องตลอดทั้งวันทั้งคืน ถึงแม้ว่ารอบตำหนักพันปีจะไม่มีผู้ใดย่างกรายเข้ามาได้ หากมิได้รับอนุญาตก็ตาม“ท่านพี่เจ้าคะ!” เสียงเจื้อยแจ้วของฟางเหนียงดังขึ้น พร้อมการปรากฏกายของนาง ในขณะที่จินหมิงเยว่กำลังฝึกพละกำลังและอาคมบุรุษตวัดฝ่ามือครั้งหนึ่งพาร่างบอบบางลอยละล่องมานั่งบนตักของตนเอง แล้วฉวยโอกาสหอมแก้มนางไปหนึ่งที“ว้าย! ท่านพี่! ฮวาอินก็อยู่นะเจ้าคะ”“เฮ้อ ฮวาอินออกจะชอบที่ข้ากับเจ้าพลอดรักกัน”“ท่านพี่!!”เพี๊ยะ!!ว่าแล้วก็ตีท่อนแขนแกร่งไปหนึ่งทีด้วยความเขินอาย จินหมิงเยว่หัวเราะเสียงดัง ยิ่งได้เห็นพวงแก้มทั้งสองข้างขึ้นสีแดงระเรื่อก็ยิ่งอยากแกล้

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 20 งอน

    บทที่ 20งอน“ลองขย่มข้าสิ”“ตะ แต่ข้าไม่รู้”“ทำแบบนี้”“อ๊ะ!?”ฝ่ามือหยาบยกสะโพกกลมขึ้นแล้วกดลงให้ครอบครองความแข็งแกร่งของตนเอง ความเสียวซ่านแล่นพล่านไปทั่วทั้งร่างบอบบางฟางเหนียงขยับตามการนำพาของบุรุษ กระทั่งหาจังหวะของตนเองเจอ จินหมิงเยว่ก็เปลี่ยนเป็นบีบเคล้นสะโพกกลมกลึงด้วยความมันเขี้วแทนท่วงท่าของนางสร้างความรัญจวนในเหลือเกิน มันเชื่องช้าและละมุนละไม ราวกับจงใจทรมานจินหมิงเยว่ให้ต้องอดทนกับกามารมณ์ เกร็งทั่วทั้งร่างจนเห็นก้อนกล้ามเนื้อชัดเจน อีกทั้งเส้นเลือดยังปูดโปนออกมา“อ่า เหนียงเอ๋อร์ เจ้าช่าง...” บุรุษมิอาจเอื้อนเอ่ยได้อีก เมื่อนางเริ่มขยับถี่ขึ้นเรื่อยๆ มิได้เข้าสุดออกสุดเหมือนอย่างในครั้งแรก แต่เป็นการกดสะโพกระรัว“อืม” นางครางเสียงหวานแล้วแหงนหน้าขึ้นตามอารมณ์ จินหมิงเยว่ก้ามหน้าลงดูดดื่มกับยอดอกสีหวานเข้าปากอย่างกระหายความรู้สึกวาบหวา

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 19 จิ้งจอกเจ้าเล่ห์

    บทที่ 19จิ้งจอกเจ้าเล่ห์ดวงตาคู่งามเปิดอย่างเชื่องช้า คราวนี้ฟางเหนียงไม่ตกใจอีกแล้วว่านางมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร สถานที่ที่ไม่ต่างไปจากสรวงสวรรค์ นางคงถูกเทพองค์นั้นเรียกตัวมาอีกเป็นแน่นางเตรียมที่จะมองหาตัวของผู้ที่เรียกนางมา แต่ไม่ทันที่จะได้หยัดกายลุกขึ้นเสียด้วยซ้ำ เสียงทุ้มน่าฟังก็ดังขึ้นเหนือหัว“เดี๋ยวนี้เจ้าไม่ตกใจแล้วหรือ?”ฟางเหนียงหยัดกายลุกขึ้น ก่อนจะหันไปยอบกายคำนับตามมารยาท“คำนับ ท่านเทพเจ้าค่ะ”“อ่า เจ้ารู้แล้วสินะ… รู้ได้อย่างไร หมิงเยว่บอกเจ้าหรือ?”“ท่านพี่ของข้ารู้จักกับท่านเป็นการส่วนตัวด้วยหรือเจ้าคะ?”“อ่า มิใช่สินะ”ใบหน้าคมคายหม่นลงเล็กน้อย ยิ่งสร้างความประหลาดใจให้กับฟางเหนียงดูเหมือนว่าทั้งสองจะรู้จักกันสินะ แต่รู้จักกันด้วยดีหรือร้ายมิอานคาดเดาได้“ท่านเทพ… จุดประสงค์ของท่านคือสิ่งใดกันแน่?”สตรีตัวน้อยรู้สึกหวาดหวั่นเหลือเกิน หวาดกลัวว

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 18 มิอาจยอมให้นางเสียหาย

    บทที่ 18มิอาจยอมให้นางเสียหายลิ้นสากหลีกหนีเรียวลิ้นของนาง ลิ้นของนางก็ยังตามติดไม่ออก กลายเป็นจูบที่แสนดูดดื่มจนเกิดเสียงน่าอาย เมื่อยามที่ฟางเหนียงยอมแพ้คิดจะถอนริมฝีปากออก จินหมิงเยว่ก็เป็นฝ่ายคว้าท้ายทอยของนางแล้วกดให้แนบแน่นยิ่งกว่าเดิม จากนั้นก็เป็นฝ่ายรุกรานโพรงปากอุ่น ตักตวงความหอมหวานอย่างเร่าร้อน ทั้งๆ ที่เมื่อครู่เอาแต่หลีกหนีปฏิเสธนางแท้ๆ...จิ้งจอกเจ้าเล่ห์!!...อดมิได้ที่จะต่อว่าบุรุษในใจที่คิดหลอกนาง แต่ก็ยอมให้บุรุษรุกรานแต่โดยดี เพราะจูบหวานๆ ที่ถูกส่งมอบมามันพาให้ร่างของนางอ่อนระทวย เคลิบเคลิ้มไปกับรสจูบซึ่งราวกับเอาอกเอาใจนาง นางจะยอมให้อภัยจินหมิงเยว่ก็แล้วกันเนิ่นนานกว่าทั้งสองจะถอนริมฝีปากออกจากัน ดวงตาสบประสานกันของหวานซึ้ง คล้ายกับกำลังแลกเปลี่ยนความรู้สึกที่มีให้กันและกัน“เอาลูกแก้วคืนไปหรือยังเจ้าคะ?”“ยัง”“อ้าว?”“ข้าฝากไว้กับเจ้า หากข้าบาดเจ็บเจ้าจะได้จู

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status