Share

บทที่ 12 เติมพลัง

last update Last Updated: 2025-04-11 20:00:48

บทที่ 12

เติมพลัง

เสียงนุ่มทุ้มดังขึ้นที่ข้างหู พร้อมกับลมหายใจอุ่นๆ รินรดแผ่วเบา หนังสือที่อยู่ในมือร่วงหล่นลง โชคดีที่เจ้าของเสียงนุ่มทุ้มคว้าหนังสือเล่มนั้นเอาไว้ ราวกับรู้อยู่ก่อนแล้ว ในณะที่ดวงตาเรียวคมจ้องมองดวงตาคู่งามนิ่งไม่ยอมละสายตา

“ทะ ท่านพี่ ข้าตกใจหมด”

“ตกใจเรื่องอะไร เว้นเสียแต่ว่าเจ้ากระทำความผิด”

“เหนียยงเอ๋อร์กำลังอ่านหนังสือเพลินๆ ท่านพี่เข้ามามิให้สุ้มมิให้เสียงก็ต้องตกใจสิเจ้าคะ”

“หากเจ้ามาหาข้าแล้วแกล้งกระโดดกอดคอข้า สาบานเลยว่าข้าไม่มีทางตกใจ” บุรุษว่าพลางยกยิ้มมุมปากด้วยความเจ้าเล่ห์

สตรีตัวน้อยถอนหายใจแล้วยื่นมือออกไปคว้าหนังสือที่อยู่ในมือของบุรุษ แต่อีกฝ่ายกลับขยับหนี ฟางเหนียงเหลือบสายตามองบุรุษอีกหน แล้วส่งสายตาดุๆ ใส่ก่อนจะยื่นมือออกไปคว้าหนังสือ ทว่าจินหมิงเยว่ก็ยังกระทำแบบเดิม

“ท่านพี่!”

คราวนี้จินหมิงเยว่เหลือบสายตาอ่านชื่อหนังสือบนหน้าปก ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นลายมือของตนเอง ตลอดหลายร้อยปีมานี้เขามีความชอบคัดลอกหนังสือที่สนใจ และหายาก รวมถึงหนังสือที่เกี่ยวกับทวยเทพด้วย ทว่าหากไม่มาเห็นกับตาก็คงลืมไปเสียแล้วว่าเคยคัดลอกหนังสือเช่นนี้ด้วย

ภาพจำในอดีตผุดขึ้นมา หลายร้อยปีที่ตามหาเหล่าทวยเทพ เพื่อหวังหาวิธีเปลี่ยนกงล้อชะตากรรมของคนผู้หนึ่ง แล้วก็ได้เป็นสหายกับเทพผู้หนึ่งซึ่งลงมาเที่ยวเล่นบนโลกมนุษย์ ไม่ต่างไปจากพี่น้องร่วมสาบาน มาคิดดูแล้วนี่ก็ผ่านมาหลายร้อยปีเหลือเกิน ที่บุรุษผู้นั้นต้องกลับไปยังที่ที่จากมา

“ของข้านะเจ้าคะ! ว้าย!” คราวนี้จินหมิงเยว่ยกหนังสือเล่มนั้นขึ้นสูงเหนือหัวของตนเอง สำหรับสตรีตัวน้อยแล้วมันช่างสูงเหลือเกิน เพราความสูงของนางอยู่แค่เพียงช่วงอก บุรุษยกแขนขึ้นเหนือหัวของตนเอง ย่อมสูงจนนางมิอาจเอื้อมถึง “ท่านพี่!”

“เจ้าสนใจเกี่ยวกับทวยเทพหรือ?”

“เจ้าค่ะ”

“เจ้าอยากเจอพวกเขา?”

“ไม่เลยเจ้าค่ะ”

...แต่มีทวยเทพท่านหนึ่งมาหาข้า พอมาหาข้ามิได้ก็เรียกดวงจิตของข้าออกไปข้างนอกสุ่มสี่สุ่มห้าต่างหาก ข้ามิได้อยากเจอสิ่งใดที่ต่างไปจากมนุษย์ธรรมดาเลยสักนิด...

แน่นอนว่าฟางเหนียงมิได้เอ่ยออกไป นางเพียงแต่ทำหน้าแง่งอนให้กับบุรุษ ในขณะเดียวกันนั้นก็พยายามกระโดดและยืดแขนสุดตัวเพื่อคว้าหนังสือเล่มนั้น แต่ก็ไม่ต่างสิ่งใดจากการออกแรงเสียเปล่า

กระโดดไปกระโดดมา จินหมิงเยว่ก็ถอยหลังไปเรื่อยๆ ฟางเหนียงก็เดินหน้าก้าวเท้าตามบุรุษอย่างไม่ลดละ ยามนั้นเองรอยยิ้มผุดขึ้นที่มุมปากของจิ้งจอกตัวร้ายแสนเจ้าเล่ห์ ฟางเหนียงรับรู้ได้เพียงชั่วพริบตาซึ่งมิอาจถอนตัวได้ทัน ร่างของนางก็ถูกแขนแกร่งโอบรอบเอว ตวัดร่างบอบบางเข้าชิดกับชั้นหนังสือที่อยู่ด้านหลังของตนเอง

ตั้งแต่แรกที่เห็นสตรีตัวน้อยกระโดดหยองๆ ราวกับกระต่ายน้อยขนปุกปุย บุรุษก็คิดแผนชั่วร้ายและแสนเจ้าเล่ห์สมกับเป็นจิ้งจอกขึ้นมา หากเดินหน้าเข้าหานางจะต้องก้าวถอยหลังอย่างหวาดหวั่นกลัวว่าจินหมิงเยว่จะเอารัดเอาเปรียบนาง ไม่ทางใดก็ทางหนึ่งเป็นแน่

ด้วยเหตุนั้นจึงหลอกล่อให้นางก้าวเดินตามตนเองมา และท้ายที่สุดก็... เอารัดเอาเปรียบให้นางอยู่ใต้อาณัติของตนเอง

แขนแกร่งข้างหนึ่งโอบรอบเอวบอบบาง แขนอีกข้างเท้ายันไว้บนชั้นหนังสือด้านข้างของนาง สองมือของสตรีตัวน้อยทาบทับบนแผงอกกว้าง ดวงหน้าหวานก้มหน้างุดด้วยความเขินอาย ท่าทางเช่นนี้เกิดเป็นความใกล้ชิดมากเกินความจำเป็น

มุมปากกระตุกยิ้มเมื่อเห็นว่าใบหูและลำคอของนางขึ้นสีแดงระเรื่อ แม้มองไม่เห็นดวงหน้าหวานแต่ก็พอจะคาดเดาได้ว่ายามนี้ดวงหน้าของนางเป็นแบบใด คงจะไม่ต่างไปจากผลอิงเถาแดงก่ำเป็นแน่ ช่างน่าเสียดายที่มิได้เห็น จินหมิงเยว่อยากจะทอดสายตามองคนงามเสียหน่อย

“ข้าคิดว่า... ถึงเวลาที่ข้าต้องเติมพลังแล้ว เจ้าเต็มใจให้ข้าหรือไม่?” บุรุษจงใจโน้มใบหน้าของตนเองมาหยุดอยู่ที่ข้างใบหูเล็ก แล้วเอ่ยกระซิบเสียงแผ่วเบา อีกทั้งยังจงใจคลอเคลียอยู่ที่เดิมด้วยรู้ว่านางจะไม่กล้าขยับ ทำให้ตนสามารถเอารัดเอาเปรียบนางได้อีกเล็กน้อย

...เหตุใดจึงถามเช่นนั้น หากเป็นการเติมพลัง ข้ามีสิทธิ์ปฏิเสธเสียเมื่อไหร่ หากปฏิเสธก็เห็นแก่ตัวเกินไปแล้ว...

ฟางเหนียงช้อนดวงหน้าหวานและดวงตาคู่งามขึ้นมองบุรุษตรงหน้าด้วยแววตาสั่นไหว ยิ่งได้สบตากับนัยน์ตาดำดั่งหยกดำคู่นี้แล้ว หัวใจของนางก็เริ่มมิอาจควบคุมมันได้ คล้ายกับถูกฉุดกระชากอย่างรุนแรง ทั้งๆ ที่แค่เพียงสบตาเท่านั้น

“ข้าปฏิเสธได้หรือเจ้าคะ” นางเอ่ยด้วยท่าทางแง่งอนเล็กน้อย

จินหมิงเยว่เผยรอยยิ้มบางเบา ฝ่ามือข้างหนึ่งละจากเอวบอบบาง แล้วยกขึ้นสัมผัสเส้นผมนุ่มสลวยทัดที่ใบหูให้กับนาง ก่อนจะเลื่อนมาสัมผัสที่กรอบหน้าอย่างแผ่วเบา ทุกสัมผัสคล้ายกับบุรุษกำลังสัมผัสหยกแก้วล้ำค่า ยิ่งทำให้หัวใจดวงน้อยสั่นไหว

ทว่าเมื่อได้สบตากลับรู้สึกถึงความย้อยแย้งอย่างน่าประหลาด การกระทำแสนอ่อนโยน หากแต่ดวงตาของบุรุษกลับเต็มไปด้วยความปรารถนาอย่างแรงกล้า ฟางเหนียงเพียงรู้สึกว่าสายตานั้นแสนอันตราย มิได้รู้เลยว่าจินหมิงเยว่ต้องยับยั้งชั่งใจตนเองมากเพียงใด ในการไม่ทำการกินทุกค่ำคืน แค่เพียงนอนเคียงข้างกันอย่างอดทนอดกลั้น

อย่างที่บุรุษเคยเอ่ยไปว่ามนุษย์นั้นต่างขนานนามปีศาจจิ้งจอกแตกต่างกันออกไป อยู่ที่ว่ามนุษย์ผู้นั้นเจอกับจิ้งจอกแบบใด ซึ่งในตัวของปีศาจจิ้งจอกทุกตนนั้นต่างมีไม่ต่างจากมนุษย์ อยู่ที่ว่าจะเลือกเผยสิ่งใดออกมา และแน่นอนว่าจินหมิงเยว่เองก็มีความปรารถนาในตัณหาราคะมากมาย เพียงแต่ต้องสะกดกลั้นมันเอาไว้ เพราะบุรุษไม่ชอบฝืนเด็ดแตงที่ฝาด แต่ชอบกินแตงหวานๆ มากกว่า

“ข้าเคยบอกเจ้าแล้ว... ข้าไม่อยากฝืนใจเจ้า”

“แล้วถ้าข้าปฏิเสธ...”

“ข้าก็จะไป ไม่รบกวนเจ้าอีก”

นางรับรู้ได้ถึงน้ำเสียงอันเศร้าสร้อยและ... ดวงตาที่ฉายชัดถึงความจริงใจซึ่งมีต่อนาง ทั้งที่ในยามปกติชอบมองนางด้วยสายตาเจ้าเล่ห์แท้ๆ ยามนี้ความรู้สึกมากล้นที่พยายามส่งมอบให้นางนั้นมากมายเหลือคณานับ มากมายเสียจนนางมิอาจรับมันไว้ได้

หากทว่านางก็มีหัวใจอันน้อยนิด เมื่อถูกบุรุษรุกรานบ่อยครั้ง มันก็เริ่มสั่นไหวไปตามแววตาหวานซึ้ง...

“...แล้วท่าน... จะไม่เป็นอะไรหรือเจ้าคะ?”

“เจ้าอยากได้คำตอบแบบไหนล่ะ?”

“ตามความจริงเจ้าค่ะ”

“พลังของข้าก็คงจำกัดมากขึ้น บาดแผลและความเจ็บปวดจะฟื้นตัวได้ช้า”

“ก็คงหรือ?”

“ใช่... ตั้งแต่บำเพ็ญจนมีอิทธิฤทธิ์เหนือปีศาจจิ้งจอกทั้งหมด ข้าก็ไม่เคยให้ลูกแก้วจิ้งจอกห่างจากกายข้าเลย”

...แล้วเหตุใดจึงเสียสละให้ข้า มนุษย์แสนต่ำต้อย ที่จิ้งจอกปีศาจหลายตนต่อต้าน...

ฟางเหนียงมิอาจเอื้อนเอ่ยถ้อยคำเหล่านั้นออกไป นางหวาดกลัว... อย่างไร้สาเหตุ

กลัวคำตอบ หรือกลัวว่าจะต้องแบกรับคำตอบนั้นก็ไม่แน่ใจนัก...

“คำตอบของเจ้าล่ะ ว่าอย่างไร?”

“...เหนียงเอ๋อร์ไม่เคยเนรคุณ เมื่อได้รับความช่วยเหลือ ก็ต้องตอบแทนคืนหลายเท่าเจ้าค่ะ เชิญท่านเติมพลังที่ข้าได้ตามสบายเลยเจ้าค่ะ”

เพียงชั่วพริบตาริมฝีปากของฟางเหนียงก็ถูกจินหมิงเยว่ครอบครอง หากแต่คล้ายกับว่าก่อนหน้านั้นนางเห็นบุรุษเผยรอยยิ้มแสนเจ้าเล่ห์ด้วย มิใช่ว่านางตกหลุมพลางของจิ้งจอกตัวร้ายแล้วหรือ!!

เรียวลิ้นของบุรุษชอกชอนเข้าไปในโพรงปากอุ่น ตักตวงความหอมหวานอย่างเชื่องช้า ราวกับกลัวว่านางจะตกใจ หากแต่กลับไม่มีท่าทีถอยห่างเลยแม้แต่น้อย คล้ายกับว่าแม้นางจะตกใจก็จะไม่ถอนริมฝีปากออก แต่จะมอบจูบหวานๆ ปลอบประโลมให้นางหายตกใจแทน

ฟางเหนียงเองก็มิได้ต่อต้าน เมื่อรับปากว่าจะยอมให้เติมพลังนางก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี โดยปากอ้าปากรับสัมผัสอันอ่อนโยนจากเขา ริมฝีปากหยักบดเคล้าคลึงอย่างชำนาญ ดูดดึงเรียวลิ้นของนางเข้าสู่ปากของตนเอง เกี่ยวกระหวัดรัดรึงอย่างย่ามใจ

สตรีตัวน้อยหลับตาพริ้ม เคลิบเคลิ้มไปกับสัมผัสซึ่งพาให้หัวใจดวงน้อยสั่นไหว ฝ่ามือเล็กที่ทาบลงบนแผงอกกว้างเมื่อครู่นี้ขยับเข้าหากัน กำอกเสื้อของบุรุษจนยับยู่นี่ด้วยอารมณ์วาบหวามซึ่งก่อเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว

จินหมิงเยว่จูบเก่งจนนางมิอาจต้านทานได้ นางโดนจิ้งจอกเจ้าเล่ห์หว่านล้อมให้หลงมัวเมาไปกับจูบหวานๆ นี้เสียแล้ว บุรุษถอนริมฝีปากออกเล็กน้อยเพื่อให้โอกาสนางได้สูดลมหายใจ หากแต่ยังคงคลอเคลียชิดริมฝีปากอวบอิ่มอย่างอ้อยอิ่ง

“แฮ่ก แฮ่ก พอหรือยังเจ้าคะ”

“ยัง อีกนิดได้หรือไม่” ดวงตาเรียวคมจ้องมองนางอย่างออดอ้อน ไม่น่าเชื่อว่าจิ้งจอกผู้ยืนอยู่เหนือจิ้งจอกทั้งปวง จะทำสายตาราวกับลูกจิ้งจอกขอขนมจากพี่สาวเช่นนี้

“เจ้าค่ะ” นางตอบรับด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 13 ข้าปรารถนาเจ้าอย่างสุดหัวใจ

    บทที่ 13ข้าปรารถนาเจ้าอย่างสุดหัวใจ“เจ้าค่ะ” นางตอบรับด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง เดิมทีฟางเหนียงก็ไม่คิดปฏิเสธอยู่แล้ว เพราะรู้สึกผิดที่ครอบครองลูกแก้วจิ้งจอกเอาไว้ ทั้งๆ ที่มันควรจะอยู่กับเจ้าของหากทว่าข้อเท้าของนางยังเป็นรอยช้ำสีเข้มอยู่เลย นางขอโลภมากและเห็นแก่ตัว ครอบครองมันนานอีกคงไม่เป็นอะไร อย่างไรเสียเจ้าตัวก็อนุญาตนางแล้วรอบนี้จูบที่เคยหวานปานมธุรสกลับถูกบดขยี้ลงมาอย่างเร่าร้อน ฟางเหนียงรู้สึกตกใจจนสะดุ้ง หากถอยหลังหนีได้นางคงถอยไปแล้ว แต่ร่างของนางกลับถูกดันชิดกับชั้นหนังสือน่ะสิ จึงไม่มีโอกาสให้นางได้ถอยห่างเลยแม้แต่น้อย ยิ่งบุรุษกดริมฝีปากลงมา ก็ยิ่งเป็นการเปิดปากของนางให้อ้าออก เพื่อที่จินหมิงเยว่จะได้รุกรานเข้ามาได้อย่างลึกซึ้งมากกว่าเดิม“อื้อ” แม้รสจูบนั้นจะมิได้หวานซาบซ่าอย่างที่นางชื่นชอบ แต่รสจูบเช่นนี้กลับเร่งเร้าให้หัวใจของนางเต้นระรัวได้ดี ฟางเหนียงเผลอไผลไปกับสัมผัสของบุรษ ฝ่ามือหนาเริ่มซุกซน เฟ้นฟ้อนไปทั่วทั้งเรือนร่างของนางกระทั่งถ

    Last Updated : 2025-04-12
  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 14 ทั้งโง่เขลาและดื้อรั้น

    บทที่ 14ทั้งโง่เขลาและดื้อรั้น“ช้าก่อนเจ้าค่ะ ช้าก่อน!”ทันทีที่สารถีเห็นคนงามก็หยุดรถม้าลงแล้วมองนางด้วยความฉงนใจ สภาพของนางดูสะอาดสะอ้านเกินกว่าคนที่หลงทาง อีกทั้งยังดูมีเรี่ยวมีแรงราวกับเพิ่งกินอิ่ม…ใบหน้านี้คุ้นเคยอย่างไรบอกไม่ถูก?...“ข้าขอติดรถท่านไปลงที่หมู่บ้านได้หรือไม่เจ้าคะ?”“เจ้าหลงป่าหรือ?”“เจ้าค่ะ ข้าออกมาตามหากระต่ายป่าที่ข้าเลี้ยงเอาไว้ แต่คลาดกับมัน มารู้ตัวอีกทีก็อยู่กลางป่าเสียแล้ว”“ขึ้นมาสิ ข้าจะพาไปส่งที่หมู่บ้าน”“ขอบคุณเจ้าค่ะ!!” ฟางเหนียงเอ่ยพลางยิ้มกว้าง กำลังจะเดินขึ้นรถม้าทว่าสารถีผู้นั้นก็เอ่ยเรียกนางเอาไว้เสียก่อน“ช้าก่อน เจ้า… ฟางเหนียง!?”“เจ้าคะ? ท่านรู้จักข้าด้วยหรือเจ้าคะ?”พลันโทสะก็ครอบงำบุรุษผู้นี้แล้วกระโดดเข้าจู่โจมฟางเหนียง!!

    Last Updated : 2025-04-13
  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 15 ยินยอม

    บทที่ 15ยินยอม“กลับกับข้าเถิด”สตรีตัวน้อยพยักหน้า ถึงอย่างไรนางก็ต้องกลับกับเขาอยู่แล้ว ไม่มีทางปล่อยให้ผู้ที่บาดเจ็บเพราะความดื้อรั้นของตัวเองกลับไปเพียงคนเดียวเป็นแน่“เดินไหวหรือไม่เจ้าคะ?”“เจ้าประคองข้าหน่อยได้หรือไม่?” บุรุษใช้โอกาสออดอ้อนนางอย่างเจ้าเล่ห์ หากไม่ถือโอกาสนี้ก็ไม่รู้แล้วว่าจะมีโอกาสออดอ้อนนางอีกเมื่อใดแม้บาดแผลจะลึก แต่ตนเป็นปีศาจจิ้งจอก บาดแผลจากสิ่งของมนุษย์อีกทั้งยังไร้พิษ ตราบใดที่มีลูกแก้วจิ้งจอกอยู่ข้างกาย ร่างกายก็สามารถฟื้นคืนสภาพได้อย่างรวดเร็ว“เจ้าค่ะ”เมื่อกลับมายังตำหนักพันปี ฟางเหนียงก็เตรียมที่จะออกไปหาฮวาอิน สำหรับนางแล้วปีศาจด้วยกันย่อมรู้ว่าควรทำอย่างไรกับบาดแผล อีกอย่างนางมาอยู่ที่นี่ก็ได้รับแต่การปรนนิบัติ จึงไม่รู้ว่าข้าวของเครื่องใช้นั้นอยู่ที่ใดบ้าง แต่กลับถูกจินหมิงเยว่คว้าท่อนแขนเอาไว้เสียก่อน“เจ้าจะไปที่ใด?

    Last Updated : 2025-04-14
  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 16 อยากลองจับมันหรือไม่

    บทที่ 16อยากลองจับมันหรือไม่ใบหน้าคมคายเลื่อนลงมาที่ลำคอระหง ไม่รีรอที่จะฝากฝังรอยรักสีเข้มไว้บนเนื้อขาวๆ ของนาง เป็นหลักฐานว่าฟางเหนียงได้เต็มใจร่วมค่ำคืนนี้กับเขาแล้ว ทั้งดูดและเลียอย่างเชื่องช้าราวกับกำลังตราตรึงสัมผัสนี้เข้าไปในกายของนาง“อื้อ ท่านพี่...”“ชอบหรือไม่”“อึก อื้อ” นางไม่ยอมตอบ และถึงแม้จะอยากตอบสิ่งใดออกไปก็ทำได้ยากเย็นเหลือเกิน เมื่อจินหมิงเยว่รุกรานนางอย่างหนักหน่วง แม้แต่การหายใจยังยากแล้ว อารมณ์วาบหวามทำให้นางมิอาจควบคุมตนเองได้“เปล่งเสียงออกมาเถิด ข้าชอบเสียงของเจ้า” บุรุษเอ่ย ขณะที่ฝ่ามือหยาบปลดอาภรณ์ของนางผิวขาวนวลเนียนที่อยู่ด้านใน กระตุกปมของเอี๊ยมสีขาวออกเผยทรวงอกอวบอิ่มที่เคยสัมผัสเมื่อคืนวันวสันต์ และบัดนี้ความงดงามปรากฏแกสายตาอีกครั้งฝ่ามือหยาบกอบกุมความอวบอิ่มทั้งสองเต้า ฟ้อนเฟ้นด้วยความมันเขี้ยว ก่อนจะปาดป่ายหยอกล้อเล่นกับยอดอกสีหวาน ฟางเหนียงเกร็งไปทั่วทั้งร่างกับสัมผัสวาบหวามนี้ น

    Last Updated : 2025-04-15
  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 17 ลูกแก้วจิ้งจอก

    บทที่ 17ลูกแก้วจิ้งจอกไม่รู้กี่โมงกี่ยามแล้ว แต่เจ้าของดวงตากลมก็ค่อยๆ เปิดออกอย่างเชื่องช้า เมื่อแสงแดดด้านนอกส่องเข้ามาจนนางรู้สึกแสบตา พลันบางสิ่งก็บดบังแสงนั้นให้นาง เมื่อฟางเหนียงลืมตาขึ้นด้วยความสงสัย ก็เห็นว่าหางนุ่มนิ่มของจิ้งจอกเจ้าเล่ห์นั่นเองที่โผล่ออกมาเพื่อบังแสงแดดให้กับนางมือเล็กๆ ยื่นออกไปสัมผัสความนุ่มนิ่มของมันเล่นอย่างเอาแต่ใจ หางสีขาวขยับเข้ามาหานางแล้วลูบไล้ตามร่างกายจนนางรู้สึกจั๊กจี้“คิกคิก อย่าแกล้งข้าสิเจ้าคะ”“หึหึ” จินหมิงเยว่หัวเราะก่อนจะตวัดร่างของตนเองไปอีกฝั่งของเตียง เพื่อใช้ร่างกายของตนเองบดบังแสงแดดให้นาง “ตื่นแล้วหรือ? หิวหรือไม่?”ไม่เอ่ยอย่างเดียว กลับโน้มใบหน้าลงไปประทับริมฝีปาก ฝากฝังรอยจูบลงบนหน้าผากเนียนของนางอย่างรักใคร่“กี่ยามแล้วเจ้าคะ?”“ยามเชิน[1]แล้ว”“เจ้าคะ!?” ดวงตาคู่งามเบิกกว้าง ก่อนจะค่อยๆ หยัดกายลุกขึ้น หากแต่ความปวดร

    Last Updated : 2025-04-16
  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 18 มิอาจยอมให้นางเสียหาย

    บทที่ 18มิอาจยอมให้นางเสียหายลิ้นสากหลีกหนีเรียวลิ้นของนาง ลิ้นของนางก็ยังตามติดไม่ออก กลายเป็นจูบที่แสนดูดดื่มจนเกิดเสียงน่าอาย เมื่อยามที่ฟางเหนียงยอมแพ้คิดจะถอนริมฝีปากออก จินหมิงเยว่ก็เป็นฝ่ายคว้าท้ายทอยของนางแล้วกดให้แนบแน่นยิ่งกว่าเดิม จากนั้นก็เป็นฝ่ายรุกรานโพรงปากอุ่น ตักตวงความหอมหวานอย่างเร่าร้อน ทั้งๆ ที่เมื่อครู่เอาแต่หลีกหนีปฏิเสธนางแท้ๆ...จิ้งจอกเจ้าเล่ห์!!...อดมิได้ที่จะต่อว่าบุรุษในใจที่คิดหลอกนาง แต่ก็ยอมให้บุรุษรุกรานแต่โดยดี เพราะจูบหวานๆ ที่ถูกส่งมอบมามันพาให้ร่างของนางอ่อนระทวย เคลิบเคลิ้มไปกับรสจูบซึ่งราวกับเอาอกเอาใจนาง นางจะยอมให้อภัยจินหมิงเยว่ก็แล้วกันเนิ่นนานกว่าทั้งสองจะถอนริมฝีปากออกจากัน ดวงตาสบประสานกันของหวานซึ้ง คล้ายกับกำลังแลกเปลี่ยนความรู้สึกที่มีให้กันและกัน“เอาลูกแก้วคืนไปหรือยังเจ้าคะ?”“ยัง”“อ้าว?”“ข้าฝากไว้กับเจ้า หากข้าบาดเจ็บเจ้าจะได้จู

    Last Updated : 2025-04-17
  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 19 จิ้งจอกเจ้าเล่ห์

    บทที่ 19จิ้งจอกเจ้าเล่ห์ดวงตาคู่งามเปิดอย่างเชื่องช้า คราวนี้ฟางเหนียงไม่ตกใจอีกแล้วว่านางมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร สถานที่ที่ไม่ต่างไปจากสรวงสวรรค์ นางคงถูกเทพองค์นั้นเรียกตัวมาอีกเป็นแน่นางเตรียมที่จะมองหาตัวของผู้ที่เรียกนางมา แต่ไม่ทันที่จะได้หยัดกายลุกขึ้นเสียด้วยซ้ำ เสียงทุ้มน่าฟังก็ดังขึ้นเหนือหัว“เดี๋ยวนี้เจ้าไม่ตกใจแล้วหรือ?”ฟางเหนียงหยัดกายลุกขึ้น ก่อนจะหันไปยอบกายคำนับตามมารยาท“คำนับ ท่านเทพเจ้าค่ะ”“อ่า เจ้ารู้แล้วสินะ… รู้ได้อย่างไร หมิงเยว่บอกเจ้าหรือ?”“ท่านพี่ของข้ารู้จักกับท่านเป็นการส่วนตัวด้วยหรือเจ้าคะ?”“อ่า มิใช่สินะ”ใบหน้าคมคายหม่นลงเล็กน้อย ยิ่งสร้างความประหลาดใจให้กับฟางเหนียงดูเหมือนว่าทั้งสองจะรู้จักกันสินะ แต่รู้จักกันด้วยดีหรือร้ายมิอานคาดเดาได้“ท่านเทพ… จุดประสงค์ของท่านคือสิ่งใดกันแน่?”สตรีตัวน้อยรู้สึกหวาดหวั่นเหลือเกิน หวาดกลัวว

    Last Updated : 2025-04-18
  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 20 งอน

    บทที่ 20งอน“ลองขย่มข้าสิ”“ตะ แต่ข้าไม่รู้”“ทำแบบนี้”“อ๊ะ!?”ฝ่ามือหยาบยกสะโพกกลมขึ้นแล้วกดลงให้ครอบครองความแข็งแกร่งของตนเอง ความเสียวซ่านแล่นพล่านไปทั่วทั้งร่างบอบบางฟางเหนียงขยับตามการนำพาของบุรุษ กระทั่งหาจังหวะของตนเองเจอ จินหมิงเยว่ก็เปลี่ยนเป็นบีบเคล้นสะโพกกลมกลึงด้วยความมันเขี้วแทนท่วงท่าของนางสร้างความรัญจวนในเหลือเกิน มันเชื่องช้าและละมุนละไม ราวกับจงใจทรมานจินหมิงเยว่ให้ต้องอดทนกับกามารมณ์ เกร็งทั่วทั้งร่างจนเห็นก้อนกล้ามเนื้อชัดเจน อีกทั้งเส้นเลือดยังปูดโปนออกมา“อ่า เหนียงเอ๋อร์ เจ้าช่าง...” บุรุษมิอาจเอื้อนเอ่ยได้อีก เมื่อนางเริ่มขยับถี่ขึ้นเรื่อยๆ มิได้เข้าสุดออกสุดเหมือนอย่างในครั้งแรก แต่เป็นการกดสะโพกระรัว“อืม” นางครางเสียงหวานแล้วแหงนหน้าขึ้นตามอารมณ์ จินหมิงเยว่ก้ามหน้าลงดูดดื่มกับยอดอกสีหวานเข้าปากอย่างกระหายความรู้สึกวาบหวา

    Last Updated : 2025-04-19

Latest chapter

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 26 ห้วงคำนึงถึงนาง

    บทที่ 26ห้วงคำนึงถึงนางหลายฤดูผ่านไปจินหมิงอันเติบใหญ่เป็นจิ้งจอกหนุ่ม มีอิทธิฤทธิ์มากล้นเดินตามรอยของผู้เป็นบิดา ฟางเหนียงภาคภูมิใจเหลือคณานับที่บุตรชายสง่างามเช่นนี้ อีกทั้งยังรวบรวมพลังสร้างลูกแก้วจิ้งจอกของตนเองได้แล้ว แม้ว่าลูกแก้วจิ้งจอกนั้นจะยังแข็งแกร่งไม่เท่าลูกแก้วจิ้งจอกที่อยู่ในตัวของนางก็ตามยามนั้นเองสายลมพัดผ่านพาเอาความเย็นสบายโอบรอบร่าง ทว่ามีบางสิ่งลอยมากับสายลมด้วย กลิ่นที่คุ้นเคยพาให้หัวใจดวงน้อยเต้นแรงขึ้นมาฟางเหนียงหยัดกายขึ้นแล้วพุ่งตัวออกไปตามกลิ่นนั่น แหวกผ่านพงไพร เป็นหนึ่งเดียวกับสายลม กระทั่งมาถึงหมู่บ้านแห่งหนึ่ง นางเดินตามหาไม่นานก็มาหยุดอยู่ที่บ้านหลังหนึ่ง“ยินดีด้วยเจ้าค่ะ ท่านเจ้าตระกูลได้บุตรชายเจ้าค่ะ!”เสียงเด็กร้องไห้โยเยดังลอดออกมาให้ได้ยิน พร้อมกับเสียงแสดงความยินดีให้กับบิดาและมารดา นางยืนฟังเสียงร้องไห้นั้นอยู่นาน กระทั่งมีคนผู้หนึ่งทักนางเข้า“มาหาผู้ใดหรือเจ้าคะ?”

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 25 สูญเสียไปตลอดกาล

    บทที่ 25สูญเสียไปตลอดกาลดวงตาคู่งามลืมตาขึ้นท่ามกลางพงไพรอันคุ้นเคย ด้านข้างของนางคือร่างของจิ้งจอกหนุ่ม คนรักของนาง… ร่างของบุรุษที่รักนอนแน่นิ่งจนน่าหวาดหวั่นความอบอุ่นที่อยู่กลางอกบ่งบอกให้นางรับรู้ได้ถึงพลังชีวิตอันมหาศาล รวมถึงอิทธิฤทธิ์ของปีศาจจิ้งจอก มันคือลูกแก้วจิ้งจอกไม่ผิดแน่ใช่แล้ว ลูกแก้วจิ้งจอกอยู่กับนางมาตลอด ลูกแก้วจิ้งจอกที่เปรียบเสมือนพลังชีวิตของจินหมิงเยว่ บุรุษเคยบอกกับนางเช่นนั้น นั่นหมายความว่าไม่มีทางที่จินหมิงเยว่จะตาย เขาก็แค่หมดเรี่ยวแรงจึงหลับไปเท่านั้นนางเอ่ยปลอบตนเองแล้วหันไปหาบุรุษ หากทว่าเมื่อมือเล็กๆ แตะที่ร่างของบุรุษ ความเย็นยะเยือกก็แล่นผ่านเข้ามาในร่างของนาง สตรีตัวน้อยตัวแข็งทื่อ พลันน้ำตาก็ไหลอาบสู่สองข้างแก้ม“ไม่จริง ท่านพี่บอกว่า หากมีข้า มีลูกแก้วจิ้งจอก อย่างไรก็ไม่มีทางตายนี่”ฝ่ามือเล็กคว้าท่อนแขนของบุรุษแล้วออกแรงเขย่าแรงๆ เพื่อหวังให้บุรุษฟื้นตื่นขึ้นมา แม้ว่าบุรุษจะเจ็บ หากฟื้นขึ้นมานางจะยินยอมน

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 24 เดิมทีนางควรจะตายไปตั้งนานแล้ว

    บทที่ 24เดิมทีนางควรจะตายไปตั้งนานแล้วยามนั้นเองบางสิ่งร่วงหล่นลงมาจากท้องฟ้า เส้นแสงสีขาวหลายสายล้อมรอบพวกเขาเอาไว้“...!”จินหมิงเยว่และหลี่ตงหยางตวัดแขนขึ้นไปด้านหน้า ล้อมฟางเหนียงเอาไว้เพื่อปกป้องนางสตรีตัวน้อยสะดุ้งตกใจ โอบกอดจินหมิงเยว่เอาไว้ด้วยความหวาดกลัว...คนพวกนี้เป็นใครกัน?...“ส่งตัวนางมา หากต่อต้านจะถือว่าปรปักษ์ต่อสรวงสวรรค์”...สรวงสวรรค์หรือ!?...ดวงตาคู่งามเบิกกว้างด้วยความตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน นางสับสนว่าเกิดสิ่งใดขึ้นกันแน่!?“หากอยากได้ตัวนางนัก ก็เข้ามา!!” เป็นจินหมิงเยว่ที่เอ่ยออกไปอย่างไม่เกรงกลัว แม้จะเป็นผู้ใดหากมาพรากฟางเหนียงไปจากเขา บุรุษไม่ยินยอม!!เกิดการต่อสู้กันระหว่างปีศาจจิ้งจอก เทพหนุ่มตกสวรรค์และองครักษ์สวรรค์ โดยที่ฟางเหนียงอยู่ในการปกป้องของจินหมิงเยว่ตลอดการต่อสู้“ท่านพี่ เกิดอะไรขึ้นกันแน่เจ้าคะ เหตุใ

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 23 เช่นนั้นข้าปรนนิบัติเจ้าแทน

    บทที่ 23เช่นนั้นข้าปรนนิบัติเจ้าแทนฟางเหนียงลงมือทำอาหารหลายอย่าง รวมถึงของหวานด้วย นางคีบทั้งผักทั้งปลาใส่ในถ้วยของบุรุษ ส่วนจินหมิงเยว่ก็คีบแต่พวกเนื้อสัตว์ใส่ถ้วยให้นางเช่นเดิม“เมื่อใดเจ้าจะอ้วนเสียที หืม?”“ข้าไม่อยากอ้วนเจ้าค่ะ”“เหตุใดจึงไม่อยากอ้วน?”“ข้าเป็นสตรี ก็ต้องรักสวยรักงามเป็นธรรมดา หากอ้วนเมื่อสวมใส่อาภรณ์ใดๆ ก็ไร้ความมั่นใจนี่เจ้าค่ะ”“เจ้าเคยอ้วนหรือ?”“ไม่เคยเจ้าค่ะ”“เช่นนั้นเจ้าจะรู้ได้อย่างไรว่าหากอ้วนแล้วจะไม่งดงาม”“เรื่องเช่นนี้ไม่จำเป็นต้องเคยมาก่อนที่เจ้าค่ะ! อีกอย่างข้าไม่เคยบอกว่าไม่อ้วนแล้วจะไม่งดงาม ข้าก็แค่คิดว่าคงไม่มีความมั่นใจ”“อ้วนให้ข้าหน่อยเถิด”“เอ๊ะ! ท่านพี่นี่อย่างไร หากอยากได้สตรีอ้วนๆ ก็ไปหาที่อื่น ไม่ต้องมาหาที่ข้า!”&l

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 22 สัญชาตญาณที่ต้องปลดปล่อย

    บทที่ 22สัญชาตญาณที่ต้องปลดปล่อยฟางเหนียงขยับกายไปนั่งลงบนตักของบุรุษ จากนั้นก็ใช้สะโพกกดลงบนความแข็งแกร่ง ครอบครองแก่นกายบุรุษเพศเข้าไปในตัวของตนเอง“อ่า...” ทั้งฟางเหนียงและจินหมิงเยว่ครางด้วยความสุขสมสตรีตัวน้อยโอบกอดบุรุษแนบอกแล้วเชิดหน้าขึ้น ก่อนจะจะเริ่มขยับสะโพกของตนเองด้วยท่าทางที่ดูเก้ๆ กังๆ ในช่วงแรก ทว่าไม่นานความวาบหวาม รัญจวนใจ ร่างกายก็ได้นำพาให้นางสามารถขับเคลื่อนร่างกาย มอบความเสียวซ่านให้กับบุรุษได้เป็นอย่างดีนางเอนกายไปข้างหลัง ใช้มือเกาะบ่าของบุรุษเอาไว้ก่อนจะเด้งสะโพกระรัว รับรู้ได้ถึงความแข็งแกร่งของแก่นกายได้อย่างชัดเจน“อ๊า ท่านพี่ อื้ม!” ทรวงอกของนางถูกดูดดื่มอย่างหื่นกระหาย แม้มันจะเจ็บเล็กน้อยเพราะมีรอยแผลจากการกระทำของบุรุษเมื่อครั้นก่อนหน้า หากแต่ความวาบหวามนั้นมีมากกว่า นางจึงยิ่งแอ่นอกให้ปากหยักดูดดื่มและกลืนกินตามต้องการฟางเหนียงเชิดหน้าขึ้นแล้วร้องครางเสียงหวานอย่างลืมอาย สูญสิ้นสติในการยับยั้งชั่งใจ กลีบกา

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 21 รูปลักษณ์ที่เปลี่ยนไป

    บทที่ 21รูปลักษณ์ที่เปลี่ยนไปวันเวลาผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็ว ฟางเหนียงในวัยสิบหกปีครั้นมาที่ดินแดนจิ้งจอกแห่งนี้เป็นครั้งแรก บัดนี้นางอายุสิบแปดหนาวเสียแล้วความงดงามของนางนั้นเพิ่มมากขึ้นเสียจนจินหมิงเยว่แทบจะกกกอดนางเอาไว้ภายในห้องตลอดทั้งวันทั้งคืน ถึงแม้ว่ารอบตำหนักพันปีจะไม่มีผู้ใดย่างกรายเข้ามาได้ หากมิได้รับอนุญาตก็ตาม“ท่านพี่เจ้าคะ!” เสียงเจื้อยแจ้วของฟางเหนียงดังขึ้น พร้อมการปรากฏกายของนาง ในขณะที่จินหมิงเยว่กำลังฝึกพละกำลังและอาคมบุรุษตวัดฝ่ามือครั้งหนึ่งพาร่างบอบบางลอยละล่องมานั่งบนตักของตนเอง แล้วฉวยโอกาสหอมแก้มนางไปหนึ่งที“ว้าย! ท่านพี่! ฮวาอินก็อยู่นะเจ้าคะ”“เฮ้อ ฮวาอินออกจะชอบที่ข้ากับเจ้าพลอดรักกัน”“ท่านพี่!!”เพี๊ยะ!!ว่าแล้วก็ตีท่อนแขนแกร่งไปหนึ่งทีด้วยความเขินอาย จินหมิงเยว่หัวเราะเสียงดัง ยิ่งได้เห็นพวงแก้มทั้งสองข้างขึ้นสีแดงระเรื่อก็ยิ่งอยากแกล้

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 20 งอน

    บทที่ 20งอน“ลองขย่มข้าสิ”“ตะ แต่ข้าไม่รู้”“ทำแบบนี้”“อ๊ะ!?”ฝ่ามือหยาบยกสะโพกกลมขึ้นแล้วกดลงให้ครอบครองความแข็งแกร่งของตนเอง ความเสียวซ่านแล่นพล่านไปทั่วทั้งร่างบอบบางฟางเหนียงขยับตามการนำพาของบุรุษ กระทั่งหาจังหวะของตนเองเจอ จินหมิงเยว่ก็เปลี่ยนเป็นบีบเคล้นสะโพกกลมกลึงด้วยความมันเขี้วแทนท่วงท่าของนางสร้างความรัญจวนในเหลือเกิน มันเชื่องช้าและละมุนละไม ราวกับจงใจทรมานจินหมิงเยว่ให้ต้องอดทนกับกามารมณ์ เกร็งทั่วทั้งร่างจนเห็นก้อนกล้ามเนื้อชัดเจน อีกทั้งเส้นเลือดยังปูดโปนออกมา“อ่า เหนียงเอ๋อร์ เจ้าช่าง...” บุรุษมิอาจเอื้อนเอ่ยได้อีก เมื่อนางเริ่มขยับถี่ขึ้นเรื่อยๆ มิได้เข้าสุดออกสุดเหมือนอย่างในครั้งแรก แต่เป็นการกดสะโพกระรัว“อืม” นางครางเสียงหวานแล้วแหงนหน้าขึ้นตามอารมณ์ จินหมิงเยว่ก้ามหน้าลงดูดดื่มกับยอดอกสีหวานเข้าปากอย่างกระหายความรู้สึกวาบหวา

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 19 จิ้งจอกเจ้าเล่ห์

    บทที่ 19จิ้งจอกเจ้าเล่ห์ดวงตาคู่งามเปิดอย่างเชื่องช้า คราวนี้ฟางเหนียงไม่ตกใจอีกแล้วว่านางมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร สถานที่ที่ไม่ต่างไปจากสรวงสวรรค์ นางคงถูกเทพองค์นั้นเรียกตัวมาอีกเป็นแน่นางเตรียมที่จะมองหาตัวของผู้ที่เรียกนางมา แต่ไม่ทันที่จะได้หยัดกายลุกขึ้นเสียด้วยซ้ำ เสียงทุ้มน่าฟังก็ดังขึ้นเหนือหัว“เดี๋ยวนี้เจ้าไม่ตกใจแล้วหรือ?”ฟางเหนียงหยัดกายลุกขึ้น ก่อนจะหันไปยอบกายคำนับตามมารยาท“คำนับ ท่านเทพเจ้าค่ะ”“อ่า เจ้ารู้แล้วสินะ… รู้ได้อย่างไร หมิงเยว่บอกเจ้าหรือ?”“ท่านพี่ของข้ารู้จักกับท่านเป็นการส่วนตัวด้วยหรือเจ้าคะ?”“อ่า มิใช่สินะ”ใบหน้าคมคายหม่นลงเล็กน้อย ยิ่งสร้างความประหลาดใจให้กับฟางเหนียงดูเหมือนว่าทั้งสองจะรู้จักกันสินะ แต่รู้จักกันด้วยดีหรือร้ายมิอานคาดเดาได้“ท่านเทพ… จุดประสงค์ของท่านคือสิ่งใดกันแน่?”สตรีตัวน้อยรู้สึกหวาดหวั่นเหลือเกิน หวาดกลัวว

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 18 มิอาจยอมให้นางเสียหาย

    บทที่ 18มิอาจยอมให้นางเสียหายลิ้นสากหลีกหนีเรียวลิ้นของนาง ลิ้นของนางก็ยังตามติดไม่ออก กลายเป็นจูบที่แสนดูดดื่มจนเกิดเสียงน่าอาย เมื่อยามที่ฟางเหนียงยอมแพ้คิดจะถอนริมฝีปากออก จินหมิงเยว่ก็เป็นฝ่ายคว้าท้ายทอยของนางแล้วกดให้แนบแน่นยิ่งกว่าเดิม จากนั้นก็เป็นฝ่ายรุกรานโพรงปากอุ่น ตักตวงความหอมหวานอย่างเร่าร้อน ทั้งๆ ที่เมื่อครู่เอาแต่หลีกหนีปฏิเสธนางแท้ๆ...จิ้งจอกเจ้าเล่ห์!!...อดมิได้ที่จะต่อว่าบุรุษในใจที่คิดหลอกนาง แต่ก็ยอมให้บุรุษรุกรานแต่โดยดี เพราะจูบหวานๆ ที่ถูกส่งมอบมามันพาให้ร่างของนางอ่อนระทวย เคลิบเคลิ้มไปกับรสจูบซึ่งราวกับเอาอกเอาใจนาง นางจะยอมให้อภัยจินหมิงเยว่ก็แล้วกันเนิ่นนานกว่าทั้งสองจะถอนริมฝีปากออกจากัน ดวงตาสบประสานกันของหวานซึ้ง คล้ายกับกำลังแลกเปลี่ยนความรู้สึกที่มีให้กันและกัน“เอาลูกแก้วคืนไปหรือยังเจ้าคะ?”“ยัง”“อ้าว?”“ข้าฝากไว้กับเจ้า หากข้าบาดเจ็บเจ้าจะได้จู

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status