Home / รักโบราณ / สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง / บทที่ 22 สัญชาตญาณที่ต้องปลดปล่อย

Share

บทที่ 22 สัญชาตญาณที่ต้องปลดปล่อย

last update Last Updated: 2025-04-21 20:00:57

บทที่ 22

สัญชาตญาณที่ต้องปลดปล่อย

ฟางเหนียงขยับกายไปนั่งลงบนตักของบุรุษ จากนั้นก็ใช้สะโพกกดลงบนความแข็งแกร่ง ครอบครองแก่นกายบุรุษเพศเข้าไปในตัวของตนเอง

“อ่า...” ทั้งฟางเหนียงและจินหมิงเยว่ครางด้วยความสุขสม

สตรีตัวน้อยโอบกอดบุรุษแนบอกแล้วเชิดหน้าขึ้น ก่อนจะจะเริ่มขยับสะโพกของตนเองด้วยท่าทางที่ดูเก้ๆ กังๆ ในช่วงแรก ทว่าไม่นานความวาบหวาม รัญจวนใจ ร่างกายก็ได้นำพาให้นางสามารถขับเคลื่อนร่างกาย มอบความเสียวซ่านให้กับบุรุษได้เป็นอย่างดี

นางเอนกายไปข้างหลัง ใช้มือเกาะบ่าของบุรุษเอาไว้ก่อนจะเด้งสะโพกระรัว รับรู้ได้ถึงความแข็งแกร่งของแก่นกายได้อย่างชัดเจน

“อ๊า ท่านพี่ อื้ม!” ทรวงอกของนางถูกดูดดื่มอย่างหื่นกระหาย แม้มันจะเจ็บเล็กน้อยเพราะมีรอยแผลจากการกระทำของบุรุษเมื่อครั้นก่อนหน้า หากแต่ความวาบหวามนั้นมีมากกว่า นางจึงยิ่งแอ่นอกให้ปากหยักดูดดื่มและกลืนกินตามต้องการ

ฟางเหนียงเชิดหน้าขึ้นแล้วร้องครางเสียงหวานอย่างลืมอาย สูญสิ้นสติในการยับยั้งชั่งใจ กลีบกายเนื้อดูดดึงแก่นกายบุรุษราวกับกำลังรีดน้ำออกจากแก่นกาย จินหมิงเยว่คำรามเสียงต่ำในลำคอ ฝ่ามือบีบเคล้นสะโพกกลมกลึง ส่วนอีกข้างโอบเอวบางเพื่อรั้งไม่ให้ตัวนางถอยห่างไปมากกว่านี้

นางเด้งสะโพกตามจังหวะอย่างเชื่องช้า รู้สึกได้ถึงตัวตนของบุรุษที่พองโตอยู่ในร่างของตน กลายเป็นการสอดประสานจนแทบเป็นหนึ่งเดียวกัน ดวงตาคู่หวานจดจ้องมองบุรุษใต้ร่างของตน ใบหน้าคมคายที่มักจะเก็บสีหน้า และฉายความเย็นชาดุจหิมะในเหมันต์ฤดู บัดนี้กลับฉาบไปด้วยสีระเรื่อราวกับเหมยกุ้ยฮวา ก่อนที่สตรีตัวน้อยจะจูบเบาๆ ที่ปลายจมูกของบุรุษ

…เจ้ากำลังทำให้ข้าคลั่ง!!...

บุรุษกัดฟันกรอด บัดนี้สัญชาตญาณดิบเถื่อนของเขาถูกปลุกให้ออกมาโลดแล่นเสียแล้ว อีกทั้งในวันนี้ยังเป็นค่ำคืนที่สัญชาตญาณสัตว์ป่าของเขามิอาจควบคุมได้อีกด้วย มันเกิดขึ้นทุกๆ ปี

เมื่อเรือนผมกลายเป็นสีดำ เมื่อนั้นสัญชาตญาณสัตว์ป่าจะถูกปล่อยออกมา และ... จะมีกำหนัดมากกว่าปกติ

ครั้นอดีตก็เคยไปหอนางโลมเพื่อปลดปล่อยกหนัดมากมาย ทว่าช่วงหลังมาหลังจากได้รู้ว่าฟางเหนียงกลับชาติมาเกิดอีกครั้ง ก็ได้แต่อดทนอดกลั้น และในยามนี้เขาไม่จำเป็นที่จะต้องปลดปล่อยกับสตรีอื่น ไม่จำเป็นต้องอดทนอดกลั้น เพราะมีนางอยู่เคียงข้างกายแล้ว!!

จนกว่าจะได้คืนรูปลักษณ์เดิม จินหมิงเยว่ไม่คิดที่จะปล่อยฟางเหนียงให้เป็นอิสระ!!

“อะ อ๊า!!” สตรีตัวน้อยร้องครางเสียงกระเส่าเมื่อขย่มสะโพกจนตนเองสุขสม

เวลาต่อมาร่างของนางถูกยกขึ้นโดยที่ส่วนร่างยังคงสอดประสานกัน ก่อนที่บุรุษจะถาโถมร่างกายใส่นางอย่างรุนแรง ฟางเหนียงรับรู้ถึงความใหญ่โต คับแน่นภายในกาย

แม้ภายในของนางจะบีบรัดแก่นกายบุรุษมากแค่ไหน มันก็ยังคงพองโตมากขึ้นเรื่อยๆ กายสตรีตอดหนึบจนบุรุษคำรามเสียงต่ำ แล้วกระแทกร่างกาย ถาโถมรุนแรงและดิบเถื่อน!

ท้ายที่สุดสายธารสีขาวก็พวยพุ่งเข้ามาในกายของสตรีจนเอ่อล้น จินหมิงเยว่โน้มหน้าลงไปมอบจูบแผ่วเบาลงบนหน้าผาก ข้างแก้ม และเตรียมที่จะจูบหนักๆ ลงบนกลีบปากอวบอิ่ม ทว่าฝ่ามือเล็กกลับยกขึ้นคั่นเอาไว้เสียก่อน

“เหนียงเอ๋อร์ไม่ไหวแล้วเจ้าค่ะ”

“มิได้ ช่วงนี้เป็นช่วงที่ข้าต้องปลดปล่อย”

“เจ้าคะ? ตะ แต่ท่านพี่ก็ทำบ่อย...” นางเอ่ยพลางก้มหน้าซ่อนความเขินอาย เพราะจินหมิงเยว่ทำกับนางบ่อยจริงๆ

“มันไม่เหมือนกัน รูปลักษณ์ของข้าเปลี่ยนไปเช่นนี้ เพราะสัญชาตญาณสัตว์ในร่างของข้า มันต้องการปลดปล่อย”

“ท่านพี่มากตัณหา!”

“หึหึ จิ้งจอกเช่นข้าเป็นสัญลักษณ์แห่งตัณหาราคะ เจ้าเองก็น่าจะรู้ดีนี่”

“อ๊ะ ชะ ช้าก่อน อื้อ ท่านพี่ ช้าก่อน!!”

ใบหน้าคมคายพยายามซุกไซร้ลำคอระหง อ้าปากดูดดึงเนื้อขาวๆ เข้าปากอย่างบุรุษมากัณหาและเอาแต่ใจ

“อื้อ ท่านพี่ ข้าเหนื่อยแล้ว…”

“ใครใช้ให้เจ้าขย่มข้ารุนแรงเสียขนาดนั้นกันเล่า มันยั่วยวนข้า เจ้าควรรู้เอาไว้นะ”

จินหมิงเยว่เอ่ยอย่างหยอกล้อ ดวงหน้าหวานขึ้นสีแดงระเรื่อเมื่อถูกเอ่ยถึงเรื่องราวที่ตนได้ขย่มบุรุษตามกามารมณ์ที่พลุ่งพล่านเมื่อครู่ ช่างเป็นเรื่องน่าอายยิ่งนักสำหรับนาง

“เช่นนั้นข้าจะไม่ทำแล้ว!”

นางเอ่ยอย่างอับอายแล้วสะบัดหน้าหนี จินหมิงเยว่จับดวงหน้าหวานให้หันกลับมาแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง ทว่าแววตากลับฉายความเจ้าเล่ห์เพทุบาย สมกับเป็นจิ้งจอกเจ้าเล่ห์จริงๆ

“มิได้ เจ้าทำให้ข้าติดใจ”

บุรุษวางร่างบางลงแล้วจับให้นางหันหน้าเข้าหาโต๊ะ คว้าเอวบอบบางแล้วดันให้สะโพกแนบชิด จากนั้นก็กดความแข็งแกร่งเข้าไปในช่องรักจากทางด้านหลัง

“อ่า”

“อื้อ!”

โหมกระหน่ำความกำยำซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพื่อปลดปล่อยกำหนัด สร้างความวาบหวามเสียจนฟางเหนียงตัวอ่อนยวบยาบ นางแทบไม่มีแรงพยุงตนเองแล้ว มีเพียงจินหมิงเยว่ที่เรี่ยวแรงล้นเหลือ

แล้วจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ตนนั้นก็ร่วมรักกับฟางเหนียงจวบจนกระทั่งท้องฟ้าเปลี่ยนสี แล้วยังอุ้มนางไปสานต่อในห้องนอน ไม่สนเสียงร้องโวยวายเพื่อขอร้องให้บุรุษเมตตานางเลยแม้แต่น้อย

สตรีตัวน้อยหยัดกายขึ้นแล้วสวมใส่อาภรณ์ ก่อนจะหันกลับมาที่เตียงแล้วพินิจมองใบหน้าคมคาย ใบหน้าของบุรุษไม่ต่างจากเดิม ที่แตกต่างเห็นจะเป็นสีผมซึ่งมันก็ให้เสน่ห์แบบร้ายๆ เถื่อนๆ ไปอีกแบบ

มือขาวๆ ยื่นออกไปสัมผัสเส้นผมเงางามขึ้น ในขณะที่ดวงตาก็พินิจดวงหน้าของบุรุษไปเรื่อย กระทั่งมาหยุดอยู่ที่ริมฝีปากหยัก ซึ่งเอาแต่จูบนางอย่างดูดดื่มทุกครั้งที่มีโอกาส

...สีผมยังเป็นสีดำอยู่เลย...

“เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้กัน?”

นางไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยว่าปีศาจจิ้งจอกเปลี่ยนสีผมเองได้ หรือว่าจะอยู่ในช่วงผลัดขนกัน? แต่ผลัดขนแล้วขนเป็นสีดำหรือ?

ครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะหยัดกายขึ้นแล้วเตรียมที่จะเดินออกไป เพื่อเตรียมอาหารเช้าให้กับจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ตนนี้ ทว่าไม่ทันที่นางจะเดินพ้นเตียง ก็ถูกจิ้งจอกตัวร้ายคว้าเอวบอบบางให้ล้มลงมาทาบทับอยู่บนร่างกำยำของบุรุษ

“ว้าย! ท่านพี่ ตื่นตั้งแต่เมื่อใดเจ้าคะ?” ดวงหน้าแนบกับแผงอกกว้าง

สัมผัสถึงกล้ามเนื้อแข็งๆ พาเอาดวงหน้าหวานเห่อร้อน ไม่ว่าเมื่อใดนางก็ไม่ชินเสียที กับร่างกายกำยำอันน่าหลงใหลของสามีนางเนี่ย!

“พร้อมเจ้า”

“ข้าทำให้ตื่นหรือเจ้าคะ?”

นางช้อนหน้าขึ้นมองบุรุษ โดยใช้สองมือวางทาบลงบนแผงอกกว้าง แล้ววางคางลงบนหลังมืออีกที

“ไม่หรอก ข้าตื่นง่ายเช่นนี้แหละ”

ปลายนิ้วสัมผัสที่พวงแก้มใส ลูบไล้เล่นอย่างเอ็นดู

“นอนต่อเถิดเจ้าค่ะ”

ยื่นมือออกไปปิดดวงตาทั้งสองข้างของบุรุษ เป็นการหยอกล้อตามประสาคู่รัก

“เจ้าก็นอนด้วยสิ”

“มิได้เจ้าค่ะ”

“เหตุใดมิได้ เจ้าจะไปที่ใด?”

“ข้าจะไปเตียมอาหารเจ้าค่ะ”

“เรื่องเช่นนั้นให้คนครัวเตรียมไปเถิด หากเจ้าเบื่อระหว่างรอก็มาทำอย่างอื่นกันก่อน”

ไม่เอ่ยเปล่ายังโอบกระชับร่างบอบบางแนบแน่นจนนางแทบหายใจไม่ออก ด้วยเหตุนั้นจึงโดนฝ่ามือขาวๆ ตีที่แผงอกกว้างไปหนี่งที

เพี๊ยะ!

“เอาแต่ฉวยโอกาสกับข้า!”

“เจ้าคิดอะไร ข้าหมายถึงอาบน้ำรอคนเอาอาหารมาให้ต่างหาก”

“กะ ก็ ถ้อยคำของท่านมันชวนคิดนี่เจ้าคะ”

ดวงหน้าหวานขึ้นสีแดงระเรื่อ เมื่อรู้ตัวว่าถูกบุรุษกลั่นแกล้งเข้าให้เสียแล้ว

“ชวนคิดอะไร?”

“ท่านพี่!”

“หึหึ เอาเป็นว่านอนกับข้านี่แหละ”

“ข้าอยากทำอาหารให้ท่านพี่นี่เจ้าคะ” เสียงหวานเอ่ยอย่างออดอ้อน จินหมิงเยว่คือปีศาจจิ้งจอกเก้าหางมีอิทธิฤทธิ์ สิ่งที่นางจะทำให้บุรุษได้นั้นจึงมีน้อยมาก และสิ่งที่นางมั่นใจที่สุดเห็นจะเป็นอาหารนี่แหละ

ฟางเหนียงไม่อยากเป็นเพียงผู้รับแต่เพียงฝ่ายเดียว นางอยากเป็นผู้ให้กับจินหมิงเยว่บ้าง ยิ่งได้รู้ว่าบุรุษกับตนเองนั้นเคยรักกันเมื่อครั้นภพชาติก่อน ความรู้สึกลึกซึ้งก็ยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ

“อ่า”

“มิได้หรือเจ้าคะ เหนียงเอ๋อร์ อยากปรนนิบัติท่านพี่”

“อืม...”

จินหมิงดยว่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ที่พานางมาก็เพื่อให้นางมีชีวิตอยู่ภายใตการปกครองของเขาอย่างยาวนาน ไม่ว่านางจะกระทำสิ่งใด จินหมิงเยว่ก็ไม่เคยคิดขัดนางเลย ขอเพียงอยู่ภายในตำหนักพันปีแห่งนี้เท่านั้น

หากแต่มิได้ต้องการให้นางทำสิ่งใดให้ตนเองลำบาก ทว่าเมื่อถูกดวงตาคู่งามมองอย่างออดอ้อนแล้ว... บุรุษมิอาจใจแข็งกับนางได้เลย

“ก็ได้ แต่อย่านานนะ ข้ากลัวทนคิดถึงเจ้าไม่ไหว”

“ปากหวาน!”

“กับเจ้าเพียงผู้เดียว”

“ข้าจะไปแล้ว ท่านพี่นอนต่อเถิดเจ้าค่ะ” นางหยัดกายลุกขึ้นจากตัวของบุรุษ “หลังกินอาหารเสร็จ ท่านพี่ต้องอธิบายมานะเจ้าคะ เกี่ยวกับรูปลักษณ์ของท่าน”

“อืม”

จินหมิงเยว่มองตามแผ่นหลังเล็กๆ ของนางเดินออกไป ก่อนจะหันกลับมาให้ความสนใจกับรูปลักษณ์ของตนเอง แม้จะปลดปล่อยกำหนัดออกไปบ้างแล้ว หากแต่มันยังมิได้ครึ่งหนึ่งเลยด้วยซ้ำ บุรุษอยาก... เข้าไปในตัวนางอีกสักครั้ง ไม่สิ ไม่เพียงแค่ครั้งเดียว แต่ต้องการมากกว่านั้น

...อ่า เหนียงเอ๋อร์ ข้าอยากกกอดเจ้าเหลือเกิน...

ฝ่ามือใหญ่คว้าท่อนเอ็นของตนเองขึ้นมาแล้วชักรูดตามอารมณ์ พลางนึกถึงดวงหน้าหวานเมื่อยามร้องครางเสียงกระเส่า โอบกอดตนอย่างคู่รักทั่วไป ร่างผมดำของจินหมิงเยว่นั้นไม่ต่างไปจากสัตว์ป่าในช่วงติดสัตว์เลยสักนิด เขามีกำหนัดมากมาย...

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 23 เช่นนั้นข้าปรนนิบัติเจ้าแทน

    บทที่ 23เช่นนั้นข้าปรนนิบัติเจ้าแทนฟางเหนียงลงมือทำอาหารหลายอย่าง รวมถึงของหวานด้วย นางคีบทั้งผักทั้งปลาใส่ในถ้วยของบุรุษ ส่วนจินหมิงเยว่ก็คีบแต่พวกเนื้อสัตว์ใส่ถ้วยให้นางเช่นเดิม“เมื่อใดเจ้าจะอ้วนเสียที หืม?”“ข้าไม่อยากอ้วนเจ้าค่ะ”“เหตุใดจึงไม่อยากอ้วน?”“ข้าเป็นสตรี ก็ต้องรักสวยรักงามเป็นธรรมดา หากอ้วนเมื่อสวมใส่อาภรณ์ใดๆ ก็ไร้ความมั่นใจนี่เจ้าค่ะ”“เจ้าเคยอ้วนหรือ?”“ไม่เคยเจ้าค่ะ”“เช่นนั้นเจ้าจะรู้ได้อย่างไรว่าหากอ้วนแล้วจะไม่งดงาม”“เรื่องเช่นนี้ไม่จำเป็นต้องเคยมาก่อนที่เจ้าค่ะ! อีกอย่างข้าไม่เคยบอกว่าไม่อ้วนแล้วจะไม่งดงาม ข้าก็แค่คิดว่าคงไม่มีความมั่นใจ”“อ้วนให้ข้าหน่อยเถิด”“เอ๊ะ! ท่านพี่นี่อย่างไร หากอยากได้สตรีอ้วนๆ ก็ไปหาที่อื่น ไม่ต้องมาหาที่ข้า!”&l

    Last Updated : 2025-04-22
  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 24 เดิมทีนางควรจะตายไปตั้งนานแล้ว

    บทที่ 24เดิมทีนางควรจะตายไปตั้งนานแล้วยามนั้นเองบางสิ่งร่วงหล่นลงมาจากท้องฟ้า เส้นแสงสีขาวหลายสายล้อมรอบพวกเขาเอาไว้“...!”จินหมิงเยว่และหลี่ตงหยางตวัดแขนขึ้นไปด้านหน้า ล้อมฟางเหนียงเอาไว้เพื่อปกป้องนางสตรีตัวน้อยสะดุ้งตกใจ โอบกอดจินหมิงเยว่เอาไว้ด้วยความหวาดกลัว...คนพวกนี้เป็นใครกัน?...“ส่งตัวนางมา หากต่อต้านจะถือว่าปรปักษ์ต่อสรวงสวรรค์”...สรวงสวรรค์หรือ!?...ดวงตาคู่งามเบิกกว้างด้วยความตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน นางสับสนว่าเกิดสิ่งใดขึ้นกันแน่!?“หากอยากได้ตัวนางนัก ก็เข้ามา!!” เป็นจินหมิงเยว่ที่เอ่ยออกไปอย่างไม่เกรงกลัว แม้จะเป็นผู้ใดหากมาพรากฟางเหนียงไปจากเขา บุรุษไม่ยินยอม!!เกิดการต่อสู้กันระหว่างปีศาจจิ้งจอก เทพหนุ่มตกสวรรค์และองครักษ์สวรรค์ โดยที่ฟางเหนียงอยู่ในการปกป้องของจินหมิงเยว่ตลอดการต่อสู้“ท่านพี่ เกิดอะไรขึ้นกันแน่เจ้าคะ เหตุใ

    Last Updated : 2025-04-23
  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 25 สูญเสียไปตลอดกาล

    บทที่ 25สูญเสียไปตลอดกาลดวงตาคู่งามลืมตาขึ้นท่ามกลางพงไพรอันคุ้นเคย ด้านข้างของนางคือร่างของจิ้งจอกหนุ่ม คนรักของนาง… ร่างของบุรุษที่รักนอนแน่นิ่งจนน่าหวาดหวั่นความอบอุ่นที่อยู่กลางอกบ่งบอกให้นางรับรู้ได้ถึงพลังชีวิตอันมหาศาล รวมถึงอิทธิฤทธิ์ของปีศาจจิ้งจอก มันคือลูกแก้วจิ้งจอกไม่ผิดแน่ใช่แล้ว ลูกแก้วจิ้งจอกอยู่กับนางมาตลอด ลูกแก้วจิ้งจอกที่เปรียบเสมือนพลังชีวิตของจินหมิงเยว่ บุรุษเคยบอกกับนางเช่นนั้น นั่นหมายความว่าไม่มีทางที่จินหมิงเยว่จะตาย เขาก็แค่หมดเรี่ยวแรงจึงหลับไปเท่านั้นนางเอ่ยปลอบตนเองแล้วหันไปหาบุรุษ หากทว่าเมื่อมือเล็กๆ แตะที่ร่างของบุรุษ ความเย็นยะเยือกก็แล่นผ่านเข้ามาในร่างของนาง สตรีตัวน้อยตัวแข็งทื่อ พลันน้ำตาก็ไหลอาบสู่สองข้างแก้ม“ไม่จริง ท่านพี่บอกว่า หากมีข้า มีลูกแก้วจิ้งจอก อย่างไรก็ไม่มีทางตายนี่”ฝ่ามือเล็กคว้าท่อนแขนของบุรุษแล้วออกแรงเขย่าแรงๆ เพื่อหวังให้บุรุษฟื้นตื่นขึ้นมา แม้ว่าบุรุษจะเจ็บ หากฟื้นขึ้นมานางจะยินยอมน

    Last Updated : 2025-04-24
  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 26 ห้วงคำนึงถึงนาง

    บทที่ 26ห้วงคำนึงถึงนางหลายฤดูผ่านไปจินหมิงอันเติบใหญ่เป็นจิ้งจอกหนุ่ม มีอิทธิฤทธิ์มากล้นเดินตามรอยของผู้เป็นบิดา ฟางเหนียงภาคภูมิใจเหลือคณานับที่บุตรชายสง่างามเช่นนี้ อีกทั้งยังรวบรวมพลังสร้างลูกแก้วจิ้งจอกของตนเองได้แล้ว แม้ว่าลูกแก้วจิ้งจอกนั้นจะยังแข็งแกร่งไม่เท่าลูกแก้วจิ้งจอกที่อยู่ในตัวของนางก็ตามยามนั้นเองสายลมพัดผ่านพาเอาความเย็นสบายโอบรอบร่าง ทว่ามีบางสิ่งลอยมากับสายลมด้วย กลิ่นที่คุ้นเคยพาให้หัวใจดวงน้อยเต้นแรงขึ้นมาฟางเหนียงหยัดกายขึ้นแล้วพุ่งตัวออกไปตามกลิ่นนั่น แหวกผ่านพงไพร เป็นหนึ่งเดียวกับสายลม กระทั่งมาถึงหมู่บ้านแห่งหนึ่ง นางเดินตามหาไม่นานก็มาหยุดอยู่ที่บ้านหลังหนึ่ง“ยินดีด้วยเจ้าค่ะ ท่านเจ้าตระกูลได้บุตรชายเจ้าค่ะ!”เสียงเด็กร้องไห้โยเยดังลอดออกมาให้ได้ยิน พร้อมกับเสียงแสดงความยินดีให้กับบิดาและมารดา นางยืนฟังเสียงร้องไห้นั้นอยู่นาน กระทั่งมีคนผู้หนึ่งทักนางเข้า“มาหาผู้ใดหรือเจ้าคะ?”

    Last Updated : 2025-04-25
  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 1 เครื่องบรรณาการแด่จิ้งจอกเก้าหาง

    บทที่ 1เครื่องบรรณาการแด่จิ้งจอกเก้าหางร่างเล็กๆ ของเด็กหญิงตัวน้อยที่กำลังเดินเก็บสมุนไพรในป่าลึกชะงักเล็กน้อย เมื่อเห็นร่างของเจ้าขนปุกปุยนอนฟุบอยู่ไม่ไกลจากที่นางอยู่มากนัก เด็กน้อยพาตนเองไปใกล้ๆ กับมันก็พบว่าเจ้าก้อนปุกปุยนั้นคือจิ้งจอกตัวน้อย‘หมาน้อย!’แม้ว่านางจะเชื่อว่ามันเป็นหมาน้อยก็ตาม...นางอุ้มจิ้งจอกตัวน้อยหรือหมาน้อยของนางขึ้นมา เห็นว่ามันได้รับบาดเจ็บก็ใช้สมุนไพรที่ตนเองเพิ่งเก็บมา ก่อนจะใช้หินทุบๆ แล้วนำมันไปวางโปะไว้ที่บาดแผลของจิ้งจอกตัวน้อย พร้อมทั้งฉีกแขนเสื้อตนเองแล้วใช้พันที่ท้องของมันเอาไว้ดวงตาใสๆ ของนางมองเจ้าจิ้งจอกน้อยตัวนี้ด้วยความเวทนา อยากจะนำมันไปดูแลเหลือเกิน หากแต่แค่ตัวนางเองก็ลำบากมากพอแล้ว ไม่อยากนำเจ้าสัตว์ตัวน้อยไปทุกข์ยากด้วย อีกอย่างขืนนำจิ้งจอกตัวนี้กลับบ้านไปด้วย มีหวังจากที่จิ้งจอกตัวนี้จะรอดตาย คงถูกตีจนตายต่อหน้าต่อตานางแน่ๆแม้นางจะยังเด็กนัก แต่ด้วยประสบการณ์ที่ผ่านมาก็ทำให้เด็กน้อยเข้าใจโลกที่นางอยู่อย่างถ่องแท้‘เรียบร้อย ข้าต้องไปแล้วนะ’ ด้วยความไร้เดียงสา นางคิดว่าทำแค่นี้จิ้งจอกตัวนั้นคงรอดตายแล้ว ก่อนจะเดินลงจากเขาไป...ดวงตาของ

    Last Updated : 2025-04-03
  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 2 จิ้งจอกเก้าหาง

    บทที่ 2จิ้งจอกเก้าหางฟางเหนียงรู้ว่าหากไม่รับถ้วยเหล้านี้ ก็คงถูกป้อนทางปากเหมือนเมื่อครู่อีกเป็นแน่ จึงยื่นมือเล็กๆ สองมือออกไปรับมันมาอย่างไม่เต็มใจ“ข้าคิดว่า... ท่านเป็นคนช่วยเจ้าค่ะ”“ใช่ แต่ก็ไม่ใช่”“หมายความเช่นไรเจ้าคะ?”“ข้าส่งคนไปจับเจ้า และคนที่ช่วยเจ้าก็คือคนของข้า เช่นนั้นแล้วก็ไม่ต่างจากข้าช่วยเจ้า เพียงแต่ข้ามิได้ไปช่วยด้วยตนเอง”“อ่า... อย่างไรก็ต้องขอบคุณนะเจ้าคะ” สตรีตัวน้อยกระโดดลงจากเตียง จากนั้นก็ประสานมือแล้วยอบกายคำนับ เท่านั้นยังไม่พอ นางยังก้มหัวลงจรดพื้นด้วยท่าทีอ่อนน้อมถ่อมตนอีกด้วย “เหนียงเอ๋อร์เป็นหนี้บุญคุณชีวิตท่านเสียแล้ว หากมีสิ่งใดที่เหนียงเอ๋อร์ตอบแทนท่านได้ โปรดบอกมาเถิดเจ้าค่ะ”“ลุกขึ้น”ฟางเหนียงทำตามอย่างว่าง่าย ก่อนจะจ้องมองบุรุษตาปริบๆ ในขณะเดียวกันจินหมิงเยว่หย่อนกายนั่งลงบนเตียงท่าทีสบายๆ“ข้าช่วยเจ้า เพราะเจ้าเป็นคนในปกครองของข้า คนที่ข้าส่งไปรับเจ้าย่อมรู้ดีว่าหากผู้ใดคิดแตะต้องเจ้า โทษคือตายสถานเดียว”“เจ้าคะ? คะ คนของท่าน?”“ใช่... ชุดนี่” กวาดสายตามองสตรีตัวน้อยตั้งแต่หัวจรดเท้า อาภรณ์พวกนี้มีกลิ่นเครื่องหอม ซึ่งต่างจากกลิ่นกายของฟางเ

    Last Updated : 2025-04-03
  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 3 เจ้าสาวจิ้งจอก

    บทที่ 3เจ้าสาวจิ้งจอกร่างกายของนางถูกพันธนาการอย่างร้ายกาจ แม้ท่าทีจะนุ่มนวลหากแต่เมื่อนางขยับ กลับมิอาจขยับร่างกายได้ตามใจ ร่างกายของบุรุษไม่ต่างจากหินผา ราวกับนางติดอยู่ในซอกหินไร้หนทางออก“ฮ้า!!” จวบจนเกือบหมดลมหายใจ จิ้งจอกตัวร้ายจึงถอนริมฝีปากออกเพื่อเปิดโอกาสให้นางสูดลมหายใจเสียงหัวเราะด้วยความเจ้าเล่ห์ระคนเอ็นดูดังขึ้นอย่างพึงพอใจ ก่อนที่อาภรณ์จะถูกปลดออกเผยเรือนร่างขาวผ่องใต้แสงจันทร์เต็มดวง ทว่า… ผิวขาวๆ ราวกับหยกมันแพะกลับแต่งแต้มไปด้วยรอยแผลจากการถูกทุบตีดวงตาเรียวคมจ้องมองมันอย่างโหดเหี้ยม เผลอออกแรงที่ข้อมือเล็กจนสตรีตัวน้อยสะดุ้งกับความเจ็บปวดนั่น“อ๊ะ!”และนั่นก็เรียกสติของจินหมิงเยว่กลับมา… คลายแรงที่มือออก เผยให้เห็นข้อมือเล็กๆ แดงก่ำจากการถูกบีบเมื่อครู่…เจ้าก็ตัวเล็กถึงเพียงนี้ เหตุใดจึงถูกทำร้ายไปทั้งตัว?...“ข้าบอกท่านแล้ว ว่าร่างกายของข้ามิได้งดงาม” เสียงหวานเอ่ยอย่างเศร้าสร้อยร่างกายของสตรีนั้นล้ำค่าไม่ต่างจากพรหมจรรย์ของพวกนาง หากแม้ร่างกายมีบาดแผลเพียงเล็กน้อยจนเกิดเป็นแผลเป็น เป็นข้ออ้างของการหย่าร้างได้ ในสตรีพรหมจรรย์ก็ทำให้พวกนางมิได้ออกเรือนกับบุรุษ

    Last Updated : 2025-04-03
  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 4 เมียของข้า ช่างขี้โวยวายยิ่งนัก

    บทที่ 4เมียของข้า ช่างขี้โวยวายยิ่งนัก“ทะ ท่านจะทำอะไรเจ้าคะ”“เจ้าไม่รู้ หรือแกล้งไม่รู้ หืม?” บุรุษไม่เอ่ยเพียงอย่างเดียว ยังแลบลิ้นเลียริมฝีปากของตนเองอย่างจงใจ“ขะ ข้าไม่แน่ใจ...”“เจ้าคิดว่าอย่างไร?”“ข้า ข้าคิดว่าท่านจะทำให้ข้าเป็นภรรยาของท่าน”“เจ้าเข้าใจถูก”“แล้วเหตุใดจึงต้องให้ข้าอ้าขาเช่นนี้เจ้าคะ”“หึหึ เรื่องนี้เจ้าไม่รู้จริงๆ หรือ?”บุรุษหยั่งเชิงสตรีตัวน้อย แม้นางจะเพิ่งอายุสิบหกปีในวันนี้ หากแต่สงสัยเสียจริงว่าในเรื่องธรรมชาติของการสืบพันธ์ นางไม่รู้จริงๆ หรือ?“ไม่รู้เจ้าค่ะ” ทว่าคำตอบกลับเป็นเสียงหวานสั่นเครือเล็กน้อย และนัยน์ตากลมแสนใสซื่อ“อ่า เจ้านี่ช่าง... ไร้เดียงสาเสียจริง เช่นนั้นคืนนี้ข้าคงต้อง ‘ทำให้เจ้ารู้’ หลายอย่างเลยล่ะ”“ข้ายินดีรับก

    Last Updated : 2025-04-03

Latest chapter

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 26 ห้วงคำนึงถึงนาง

    บทที่ 26ห้วงคำนึงถึงนางหลายฤดูผ่านไปจินหมิงอันเติบใหญ่เป็นจิ้งจอกหนุ่ม มีอิทธิฤทธิ์มากล้นเดินตามรอยของผู้เป็นบิดา ฟางเหนียงภาคภูมิใจเหลือคณานับที่บุตรชายสง่างามเช่นนี้ อีกทั้งยังรวบรวมพลังสร้างลูกแก้วจิ้งจอกของตนเองได้แล้ว แม้ว่าลูกแก้วจิ้งจอกนั้นจะยังแข็งแกร่งไม่เท่าลูกแก้วจิ้งจอกที่อยู่ในตัวของนางก็ตามยามนั้นเองสายลมพัดผ่านพาเอาความเย็นสบายโอบรอบร่าง ทว่ามีบางสิ่งลอยมากับสายลมด้วย กลิ่นที่คุ้นเคยพาให้หัวใจดวงน้อยเต้นแรงขึ้นมาฟางเหนียงหยัดกายขึ้นแล้วพุ่งตัวออกไปตามกลิ่นนั่น แหวกผ่านพงไพร เป็นหนึ่งเดียวกับสายลม กระทั่งมาถึงหมู่บ้านแห่งหนึ่ง นางเดินตามหาไม่นานก็มาหยุดอยู่ที่บ้านหลังหนึ่ง“ยินดีด้วยเจ้าค่ะ ท่านเจ้าตระกูลได้บุตรชายเจ้าค่ะ!”เสียงเด็กร้องไห้โยเยดังลอดออกมาให้ได้ยิน พร้อมกับเสียงแสดงความยินดีให้กับบิดาและมารดา นางยืนฟังเสียงร้องไห้นั้นอยู่นาน กระทั่งมีคนผู้หนึ่งทักนางเข้า“มาหาผู้ใดหรือเจ้าคะ?”

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 25 สูญเสียไปตลอดกาล

    บทที่ 25สูญเสียไปตลอดกาลดวงตาคู่งามลืมตาขึ้นท่ามกลางพงไพรอันคุ้นเคย ด้านข้างของนางคือร่างของจิ้งจอกหนุ่ม คนรักของนาง… ร่างของบุรุษที่รักนอนแน่นิ่งจนน่าหวาดหวั่นความอบอุ่นที่อยู่กลางอกบ่งบอกให้นางรับรู้ได้ถึงพลังชีวิตอันมหาศาล รวมถึงอิทธิฤทธิ์ของปีศาจจิ้งจอก มันคือลูกแก้วจิ้งจอกไม่ผิดแน่ใช่แล้ว ลูกแก้วจิ้งจอกอยู่กับนางมาตลอด ลูกแก้วจิ้งจอกที่เปรียบเสมือนพลังชีวิตของจินหมิงเยว่ บุรุษเคยบอกกับนางเช่นนั้น นั่นหมายความว่าไม่มีทางที่จินหมิงเยว่จะตาย เขาก็แค่หมดเรี่ยวแรงจึงหลับไปเท่านั้นนางเอ่ยปลอบตนเองแล้วหันไปหาบุรุษ หากทว่าเมื่อมือเล็กๆ แตะที่ร่างของบุรุษ ความเย็นยะเยือกก็แล่นผ่านเข้ามาในร่างของนาง สตรีตัวน้อยตัวแข็งทื่อ พลันน้ำตาก็ไหลอาบสู่สองข้างแก้ม“ไม่จริง ท่านพี่บอกว่า หากมีข้า มีลูกแก้วจิ้งจอก อย่างไรก็ไม่มีทางตายนี่”ฝ่ามือเล็กคว้าท่อนแขนของบุรุษแล้วออกแรงเขย่าแรงๆ เพื่อหวังให้บุรุษฟื้นตื่นขึ้นมา แม้ว่าบุรุษจะเจ็บ หากฟื้นขึ้นมานางจะยินยอมน

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 24 เดิมทีนางควรจะตายไปตั้งนานแล้ว

    บทที่ 24เดิมทีนางควรจะตายไปตั้งนานแล้วยามนั้นเองบางสิ่งร่วงหล่นลงมาจากท้องฟ้า เส้นแสงสีขาวหลายสายล้อมรอบพวกเขาเอาไว้“...!”จินหมิงเยว่และหลี่ตงหยางตวัดแขนขึ้นไปด้านหน้า ล้อมฟางเหนียงเอาไว้เพื่อปกป้องนางสตรีตัวน้อยสะดุ้งตกใจ โอบกอดจินหมิงเยว่เอาไว้ด้วยความหวาดกลัว...คนพวกนี้เป็นใครกัน?...“ส่งตัวนางมา หากต่อต้านจะถือว่าปรปักษ์ต่อสรวงสวรรค์”...สรวงสวรรค์หรือ!?...ดวงตาคู่งามเบิกกว้างด้วยความตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน นางสับสนว่าเกิดสิ่งใดขึ้นกันแน่!?“หากอยากได้ตัวนางนัก ก็เข้ามา!!” เป็นจินหมิงเยว่ที่เอ่ยออกไปอย่างไม่เกรงกลัว แม้จะเป็นผู้ใดหากมาพรากฟางเหนียงไปจากเขา บุรุษไม่ยินยอม!!เกิดการต่อสู้กันระหว่างปีศาจจิ้งจอก เทพหนุ่มตกสวรรค์และองครักษ์สวรรค์ โดยที่ฟางเหนียงอยู่ในการปกป้องของจินหมิงเยว่ตลอดการต่อสู้“ท่านพี่ เกิดอะไรขึ้นกันแน่เจ้าคะ เหตุใ

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 23 เช่นนั้นข้าปรนนิบัติเจ้าแทน

    บทที่ 23เช่นนั้นข้าปรนนิบัติเจ้าแทนฟางเหนียงลงมือทำอาหารหลายอย่าง รวมถึงของหวานด้วย นางคีบทั้งผักทั้งปลาใส่ในถ้วยของบุรุษ ส่วนจินหมิงเยว่ก็คีบแต่พวกเนื้อสัตว์ใส่ถ้วยให้นางเช่นเดิม“เมื่อใดเจ้าจะอ้วนเสียที หืม?”“ข้าไม่อยากอ้วนเจ้าค่ะ”“เหตุใดจึงไม่อยากอ้วน?”“ข้าเป็นสตรี ก็ต้องรักสวยรักงามเป็นธรรมดา หากอ้วนเมื่อสวมใส่อาภรณ์ใดๆ ก็ไร้ความมั่นใจนี่เจ้าค่ะ”“เจ้าเคยอ้วนหรือ?”“ไม่เคยเจ้าค่ะ”“เช่นนั้นเจ้าจะรู้ได้อย่างไรว่าหากอ้วนแล้วจะไม่งดงาม”“เรื่องเช่นนี้ไม่จำเป็นต้องเคยมาก่อนที่เจ้าค่ะ! อีกอย่างข้าไม่เคยบอกว่าไม่อ้วนแล้วจะไม่งดงาม ข้าก็แค่คิดว่าคงไม่มีความมั่นใจ”“อ้วนให้ข้าหน่อยเถิด”“เอ๊ะ! ท่านพี่นี่อย่างไร หากอยากได้สตรีอ้วนๆ ก็ไปหาที่อื่น ไม่ต้องมาหาที่ข้า!”&l

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 22 สัญชาตญาณที่ต้องปลดปล่อย

    บทที่ 22สัญชาตญาณที่ต้องปลดปล่อยฟางเหนียงขยับกายไปนั่งลงบนตักของบุรุษ จากนั้นก็ใช้สะโพกกดลงบนความแข็งแกร่ง ครอบครองแก่นกายบุรุษเพศเข้าไปในตัวของตนเอง“อ่า...” ทั้งฟางเหนียงและจินหมิงเยว่ครางด้วยความสุขสมสตรีตัวน้อยโอบกอดบุรุษแนบอกแล้วเชิดหน้าขึ้น ก่อนจะจะเริ่มขยับสะโพกของตนเองด้วยท่าทางที่ดูเก้ๆ กังๆ ในช่วงแรก ทว่าไม่นานความวาบหวาม รัญจวนใจ ร่างกายก็ได้นำพาให้นางสามารถขับเคลื่อนร่างกาย มอบความเสียวซ่านให้กับบุรุษได้เป็นอย่างดีนางเอนกายไปข้างหลัง ใช้มือเกาะบ่าของบุรุษเอาไว้ก่อนจะเด้งสะโพกระรัว รับรู้ได้ถึงความแข็งแกร่งของแก่นกายได้อย่างชัดเจน“อ๊า ท่านพี่ อื้ม!” ทรวงอกของนางถูกดูดดื่มอย่างหื่นกระหาย แม้มันจะเจ็บเล็กน้อยเพราะมีรอยแผลจากการกระทำของบุรุษเมื่อครั้นก่อนหน้า หากแต่ความวาบหวามนั้นมีมากกว่า นางจึงยิ่งแอ่นอกให้ปากหยักดูดดื่มและกลืนกินตามต้องการฟางเหนียงเชิดหน้าขึ้นแล้วร้องครางเสียงหวานอย่างลืมอาย สูญสิ้นสติในการยับยั้งชั่งใจ กลีบกา

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 21 รูปลักษณ์ที่เปลี่ยนไป

    บทที่ 21รูปลักษณ์ที่เปลี่ยนไปวันเวลาผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็ว ฟางเหนียงในวัยสิบหกปีครั้นมาที่ดินแดนจิ้งจอกแห่งนี้เป็นครั้งแรก บัดนี้นางอายุสิบแปดหนาวเสียแล้วความงดงามของนางนั้นเพิ่มมากขึ้นเสียจนจินหมิงเยว่แทบจะกกกอดนางเอาไว้ภายในห้องตลอดทั้งวันทั้งคืน ถึงแม้ว่ารอบตำหนักพันปีจะไม่มีผู้ใดย่างกรายเข้ามาได้ หากมิได้รับอนุญาตก็ตาม“ท่านพี่เจ้าคะ!” เสียงเจื้อยแจ้วของฟางเหนียงดังขึ้น พร้อมการปรากฏกายของนาง ในขณะที่จินหมิงเยว่กำลังฝึกพละกำลังและอาคมบุรุษตวัดฝ่ามือครั้งหนึ่งพาร่างบอบบางลอยละล่องมานั่งบนตักของตนเอง แล้วฉวยโอกาสหอมแก้มนางไปหนึ่งที“ว้าย! ท่านพี่! ฮวาอินก็อยู่นะเจ้าคะ”“เฮ้อ ฮวาอินออกจะชอบที่ข้ากับเจ้าพลอดรักกัน”“ท่านพี่!!”เพี๊ยะ!!ว่าแล้วก็ตีท่อนแขนแกร่งไปหนึ่งทีด้วยความเขินอาย จินหมิงเยว่หัวเราะเสียงดัง ยิ่งได้เห็นพวงแก้มทั้งสองข้างขึ้นสีแดงระเรื่อก็ยิ่งอยากแกล้

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 20 งอน

    บทที่ 20งอน“ลองขย่มข้าสิ”“ตะ แต่ข้าไม่รู้”“ทำแบบนี้”“อ๊ะ!?”ฝ่ามือหยาบยกสะโพกกลมขึ้นแล้วกดลงให้ครอบครองความแข็งแกร่งของตนเอง ความเสียวซ่านแล่นพล่านไปทั่วทั้งร่างบอบบางฟางเหนียงขยับตามการนำพาของบุรุษ กระทั่งหาจังหวะของตนเองเจอ จินหมิงเยว่ก็เปลี่ยนเป็นบีบเคล้นสะโพกกลมกลึงด้วยความมันเขี้วแทนท่วงท่าของนางสร้างความรัญจวนในเหลือเกิน มันเชื่องช้าและละมุนละไม ราวกับจงใจทรมานจินหมิงเยว่ให้ต้องอดทนกับกามารมณ์ เกร็งทั่วทั้งร่างจนเห็นก้อนกล้ามเนื้อชัดเจน อีกทั้งเส้นเลือดยังปูดโปนออกมา“อ่า เหนียงเอ๋อร์ เจ้าช่าง...” บุรุษมิอาจเอื้อนเอ่ยได้อีก เมื่อนางเริ่มขยับถี่ขึ้นเรื่อยๆ มิได้เข้าสุดออกสุดเหมือนอย่างในครั้งแรก แต่เป็นการกดสะโพกระรัว“อืม” นางครางเสียงหวานแล้วแหงนหน้าขึ้นตามอารมณ์ จินหมิงเยว่ก้ามหน้าลงดูดดื่มกับยอดอกสีหวานเข้าปากอย่างกระหายความรู้สึกวาบหวา

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 19 จิ้งจอกเจ้าเล่ห์

    บทที่ 19จิ้งจอกเจ้าเล่ห์ดวงตาคู่งามเปิดอย่างเชื่องช้า คราวนี้ฟางเหนียงไม่ตกใจอีกแล้วว่านางมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร สถานที่ที่ไม่ต่างไปจากสรวงสวรรค์ นางคงถูกเทพองค์นั้นเรียกตัวมาอีกเป็นแน่นางเตรียมที่จะมองหาตัวของผู้ที่เรียกนางมา แต่ไม่ทันที่จะได้หยัดกายลุกขึ้นเสียด้วยซ้ำ เสียงทุ้มน่าฟังก็ดังขึ้นเหนือหัว“เดี๋ยวนี้เจ้าไม่ตกใจแล้วหรือ?”ฟางเหนียงหยัดกายลุกขึ้น ก่อนจะหันไปยอบกายคำนับตามมารยาท“คำนับ ท่านเทพเจ้าค่ะ”“อ่า เจ้ารู้แล้วสินะ… รู้ได้อย่างไร หมิงเยว่บอกเจ้าหรือ?”“ท่านพี่ของข้ารู้จักกับท่านเป็นการส่วนตัวด้วยหรือเจ้าคะ?”“อ่า มิใช่สินะ”ใบหน้าคมคายหม่นลงเล็กน้อย ยิ่งสร้างความประหลาดใจให้กับฟางเหนียงดูเหมือนว่าทั้งสองจะรู้จักกันสินะ แต่รู้จักกันด้วยดีหรือร้ายมิอานคาดเดาได้“ท่านเทพ… จุดประสงค์ของท่านคือสิ่งใดกันแน่?”สตรีตัวน้อยรู้สึกหวาดหวั่นเหลือเกิน หวาดกลัวว

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 18 มิอาจยอมให้นางเสียหาย

    บทที่ 18มิอาจยอมให้นางเสียหายลิ้นสากหลีกหนีเรียวลิ้นของนาง ลิ้นของนางก็ยังตามติดไม่ออก กลายเป็นจูบที่แสนดูดดื่มจนเกิดเสียงน่าอาย เมื่อยามที่ฟางเหนียงยอมแพ้คิดจะถอนริมฝีปากออก จินหมิงเยว่ก็เป็นฝ่ายคว้าท้ายทอยของนางแล้วกดให้แนบแน่นยิ่งกว่าเดิม จากนั้นก็เป็นฝ่ายรุกรานโพรงปากอุ่น ตักตวงความหอมหวานอย่างเร่าร้อน ทั้งๆ ที่เมื่อครู่เอาแต่หลีกหนีปฏิเสธนางแท้ๆ...จิ้งจอกเจ้าเล่ห์!!...อดมิได้ที่จะต่อว่าบุรุษในใจที่คิดหลอกนาง แต่ก็ยอมให้บุรุษรุกรานแต่โดยดี เพราะจูบหวานๆ ที่ถูกส่งมอบมามันพาให้ร่างของนางอ่อนระทวย เคลิบเคลิ้มไปกับรสจูบซึ่งราวกับเอาอกเอาใจนาง นางจะยอมให้อภัยจินหมิงเยว่ก็แล้วกันเนิ่นนานกว่าทั้งสองจะถอนริมฝีปากออกจากัน ดวงตาสบประสานกันของหวานซึ้ง คล้ายกับกำลังแลกเปลี่ยนความรู้สึกที่มีให้กันและกัน“เอาลูกแก้วคืนไปหรือยังเจ้าคะ?”“ยัง”“อ้าว?”“ข้าฝากไว้กับเจ้า หากข้าบาดเจ็บเจ้าจะได้จู

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status