공유

บทที่ 20 งอน

last update 최신 업데이트: 2025-04-19 20:00:49

บทที่ 20

งอน

“ลองขย่มข้าสิ”

“ตะ แต่ข้าไม่รู้”

“ทำแบบนี้”

“อ๊ะ!?”

ฝ่ามือหยาบยกสะโพกกลมขึ้นแล้วกดลงให้ครอบครองความแข็งแกร่งของตนเอง ความเสียวซ่านแล่นพล่านไปทั่วทั้งร่างบอบบาง

ฟางเหนียงขยับตามการนำพาของบุรุษ กระทั่งหาจังหวะของตนเองเจอ จินหมิงเยว่ก็เปลี่ยนเป็นบีบเคล้นสะโพกกลมกลึงด้วยความมันเขี้วแทน

ท่วงท่าของนางสร้างความรัญจวนในเหลือเกิน มันเชื่องช้าและละมุนละไม ราวกับจงใจทรมานจินหมิงเยว่ให้ต้องอดทนกับกามารมณ์ เกร็งทั่วทั้งร่างจนเห็นก้อนกล้ามเนื้อชัดเจน อีกทั้งเส้นเลือดยังปูดโปนออกมา

“อ่า เหนียงเอ๋อร์ เจ้าช่าง...” บุรุษมิอาจเอื้อนเอ่ยได้อีก เมื่อนางเริ่มขยับถี่ขึ้นเรื่อยๆ มิได้เข้าสุดออกสุดเหมือนอย่างในครั้งแรก แต่เป็นการกดสะโพกระรัว

“อืม” นางครางเสียงหวานแล้วแหงนหน้าขึ้นตามอารมณ์ จินหมิงเยว่ก้ามหน้าลงดูดดื่มกับยอดอกสีหวานเข้าปากอย่างกระหาย

ความรู้สึกวาบหวามไต่ระดับขึ้นสูง พร้อมกับช่องรักบีบกายคับแน่นมากขึ้น ทำเอาแก่นกายกระตุกเกร็งสู้กับความคับแน่นในโพรงสวาทอย่างไม่มีใครยอมใคร กระทั่งสตรีตัวน้อยสุขสมในกามารมณ์ แต่จินหมิงเยว่นั้นยังไม่เสร็จ

บุรุษจับสะโพกกลมยกขึ้นแล้วจัดการกดมันกระแทกกระทันอย่างรุนแรง ฟางเหนียงร้องเสียงหลงแล้วโอบกอดรอบลำคอแกร่งแนบแน่น ช่วงที่บุรุษสุขสมในครั้งแรกนั้น ฟางเหนียงกลับสุขสมพร้อมบุรุษไปด้วยอีกหนึ่งรอบ

นางหอบหายใจซบบ่าหนาแล้วร้องขอให้เขาหยุด

“ท่านพี่ ได้โปรด เหนียงเอ่อร์ขอพักก่อนนะเจ้าคะ”

“แต่ข้ายังไม่อิ่ม”

ไม่เอ่ยเพียงลมปาก ยังจับร่างบอบบางชิดกับขอบอ่างแล้วสอดแทรกแก่นกายเข้าสู่ช่องรักจากทางด้านหลัง บรรเลงบทรักอีกครั้ง และอีกครั้ง จนน้ำที่เติมเกือบเต็มอ่างกระเด็นออกไปเปียกชุ่มพื้นด้านล่าง

แม้ว่าฟางเหียงจะขอร้องให้จินหมิงเยว่หยุด หากแต่นางกลับแอ่นสะโพกรับกับการกดกระแทก อีกทั้งยังตอดรัดหนึบเสียจนบุรุษครางเสียงกระเส่า

กว่าบทรักภายในห้องอาน้ำของพวกเขาจะจบลง ก็ทำเอาฟางเหนียงขาสั่นระริกเสียแล้ว

หลังจากเอารัดเอาเปรียบแล้วกล่อมให้นางเข้าสู่ห้วงนิทราในช่วงกลางวันแล้ว จินหมิงเยว่ก็กำชับให้ฮวาอินดูแลฟางเหนียง ก่อนที่ตนเองจะออกไปจัดการกับบางสิ่งที่ยังคงค้างคามาตั้งแต่เมื่อคืน ที่รีบกลับมาก่อนเพราะกลัวว่าฟางเหนียงจะรู้เข้าว่าตนเองนั้นออกมาเพื่อจัดการกับสิ่งใด จินหมิงเยว่ไม่ต้องการให้นางรู้ว่าตนเองได้ออกมาเข่นฆ่าผู้ที่ดูหมิ่นนาง

จากการสืบหาต้นเหตุก็พบว่าปีศาจจิ้งจอกที่ถูกจินหมิงเยว่เนรเทศออกจากดินแดน เนื่องจากไม่เห็นด้วยกับการให้ฟางเหนียงเป็นฮูหยินประมุข จินหมิงเยว่รู้ดีว่ามิอาจเปลี่ยนใจผู้อื่นได้ ทว่าขอเพียงไม่คิดทำร้ายนาง บุรุษก็ใจกว้างพอที่จะให้ปีศาจจิ้งจอกอาศัยอยู่ในดินแดนต่อไป หากแต่เบื้องหลังของผู้ที่ปองร้ายนางในวันนั้นก็คือปีศาจจิ้งจอกตนนี้!!

จินหมิงเยว่มิอาจปล่อยไปได้ ตอนแรกบุรุษคิดที่จะสังหาร หากแต่นึกถึงดวงหน้าหวานที่หวาดกลัวยามมือของตนเปื้อนเลือด จึงตัดสินแค่เพียงเนรเทศและจะไม่ยอมให้กลับเข้ามาอีก

ด้วยเหตุนั้นจึงสร้างความแค้นให้กับจิ้งจอกปีศาจตนนั้น มันจึงแปลงกายเป็นฟางเหนียงแล้วล่อลวงมนุษย์เพื่อล่อลวงพลังชีวิต ส่วนเรื่องของการกินตับนั้นก็เพื่อทำให้มันสยดสยอง ให้มนุษย์เกลียดชังดวงหน้าของฟางเหนียง ซึ่งมันก็ได้ผลดีเกินคาดเสียด้วย

มนุษย์นั้นเกลียดชังฟางเลี้ยงถึงขั้นอยากเอาชีวิต!!

บุรุษไล่ตามปีศาจจิ้งจอกตนนั้นหลายวันหลายคืน จนในที่ก็สามารถจับมันไว้ได้!!

โซ่จิ้งจอกพัฒนาการร่างของปีศาจจิ้งจอกตนนั้น อีกทั้งยังมีอิทธิฤทธิ์ดูดกลืนพลังวิญญาณ ยิ่งขยับโซ่จิ้งจอกก็ยิ่งพัฒนาการแน่นหนามากขึ้นและดูดกลืนพลังชีวิตเร็วมากขึ้น

“ปล่อยข้านะ! ปล่อยข้า!!”

“ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือปีศาจ ข้าก็ให้ความใว้เนื้อเชื่อใจได้แค่ครั้งละหนึ่ง แต่เจ้าได้พังทลายมันไปหมดแล้ว บัดนี้ไม่มีโอกาสให้เจ้าได้แก้ตัว!” เอ่ยจบจินหมิงเยว่ก็กระชับโซ่ในมือแล้วตวัดร่างของปีศาจจิ้งจอกตรงนั้นกระทบกับต้นไม้ ปล่อยให้โซ่จิ้งจอกพันธนาการมัดติดไว้

“อ๊าก!!”

พลังวิญญาณถูกดูดกลืนอย่างรวดเร็วจนร่างกายซูบซีด จิ้งจอกเจ้าเล่ห์ร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด จุดในที่สุดก็ยอมพ่ายแพ้

“เหตุใดท่านจึงทำเช่นนี้ เป็นเพราะนางมนุษย์นั่นหรือ?”

“ระวังปากของเจ้าเอาไว้ให้ดี บัดนี้นางคือฮูหยินประมุข ดูหมิ่นนางก็ไม่ต่างสิ่งใดจากดูหมิ่นข้า!”

“ท่านเคยเกลียดชังมนุษย์ ไม่อนุญาตให้พวกมันเข้ามาในดินแดนของเรา และเหตุใดนางจึงได้รับการยกเว้นแต่เพียงผู้เดียว?”

“เพราะดินแดนจิ้งจอกแต่แรกก็สร้างขึ้นมาเพื่อนาง”

“แต่มันคือดินแดนจิ้งจอก? เหตุใดจึงสร้างมาเพื่อนาง?”

“ข้าสร้างพื้นที่ปลอดภัย หลบเร้นจากสายตาของมนุษย์หรือแม้แต่ทวยเทพ เพื่อให้นางใช้ชีวิตได้อย่างยืนยาว เพียงแต่ปีศาจจิ้งจอกเฉกเช่นพวกเจ้าเห็นว่าข้ามีอิทธิฤทธิ์มากนัก จึงยอมศิโรราบแล้วมาขออาศัย ข้าเองก็เห็นแก่เผ่าพันธุ์เดียวกันจึงได้ยอมให้อาศัย หากแต่มีเพียงตำหนักพันปีเท่านั้น ที่มิอาจให้ผู้ใดย่างกรายเข้ามาได้ เว้นเสียแต่ผู้ที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น ซึ่งเจ้าฝ่าฝืนกฎนั้น!”

เมื่อได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดจากปากของประมุขจิ้งจอกผู้ยิ่งใหญ่ ปีศาจจิ้งจอกตอนนี้ก็รับรู้แล้วถึงความผิดใหญ่หลวงของตนเอง แต่กระนั้นเจ้าปีศาจจิ้งจอกผู้โง่เขลาก็ยังคงไม่ยอมรับนาง ด้วยในอดีตตนนั้นถูกมนุษย์ทำร้าย จนเกือบถูกช่วงชิงหัวใจ!

“ท่านก็แค่หลงนางชั่วครู่เท่านั้น! อีกไม่นานมนุษย์ผู้นั้นจะต้องเผยธาตุแท้ทำให้ท่านเจ็บปวด แล้วท่านจะได้รู้ แล้วท่านจะนึกเสียใจที่สังหารข้าในวันนี้!!”

“อย่านำประสบการณ์ที่เจ้าพบเจอมาดูหมิ่นผู้อื่น เหนียงเอ๋อร์ของข้านั้นทั้งงดงามและอ่อนโยน ถึงแม้ว่านางจะทำให้ข้าเจ็บปวด แต่นั่นหมายถึงค่าเต็มใจเจ็บปวดเพื่อนาง”

“ท่านมัน… วิกลจริตไปเสียแล้วสินะ”

“ข้าเสียเวลากับเจ้าไปมากพอแล้ว เช่นนั้นลาก่อน… ตลอดกาล” จินหมิงเยว่หมุนกายแล้วกระโดดขึ้นสู่ท้องนภา ใช้อิทธิฤทธิ์ของตนเองเคลื่อนย้ายในพริบตามายังตำหนักพันปี

ทันทีที่มาถึงก็ได้ยินเสียงของสตรีอันเป็นที่รักเจื้อยแจ้วอยู่ในห้องหนังสือ เมื่อจินหมิงเยว่ปรากฎตัว ฟางเหนียงก็สะบัดหน้าหนี ฮวาอินลอบยิ้มก่อนจะยอบกายคำนับให้คนทั้งคู่แล้วเดินออกไป

“เกิดอะไรขึ้น หืม?” จินหิงเยว่เดินเข้าไปโอบร่างบอบบาง หากแต่นางก็แกะมือของเขาออก แล้วเดินหนีไปอีกทาง “เหนียงเอ๋อร์?”

“โกรธข้าหรือ?”

“มิได้โกรธเจ้าคะ เหนียงเอ๋อร์จะไปกล้าโกระท่านพี่ได้อย่างไรเจ้าคะ ไม่ว่าท่านพี่จะไปที่ใดโดยไม่บอกไม่กล่าว หรือจะหายไปสองสามวัน เหนียงเอ๋อร์ก็ไม่มีสิทธิ์ไปถือโอษโกรธท่านพี่หรอกเจ้าค่ะ!”

ทั้งน้ำเสียงและท่าทางของนางเปิดเผยอย่างชัดเจนถึงความขุ่นเคืองใจ ดวงหน้างามเง้างอนแม้ปากจะเอ่นเช่นนั้นก็ตาม

“เจ้าโกรธจริงๆ ด้วย”

“บอกว่ามิได้โกรธ พูดไม่รู้ความหรือเจ้าคะ!” ดวงตาคู่งามตวัดมองบุรุษอย่างฉุนเฉียว ก่อนจะเดินออกจากห้องหนังสือไป

...นี่คือมิได้โกรธหรือ?...

“รีบไปง้อนางสิเจ้าคะ ท่านประมุขไม่อยู่ ฮูหยินประมุขรอคอยท่านกลับมาทุกวันทุกคืนเลยนะเจ้าคะ”

เมื่อเดินตามออกมา ฮวาอินก็ได้รายงานบางสิ่งให้กับบุรษ หัวใจแกร่งเต้นระรัวด้วยความดีใจ ไม่คิดว่าการหายไปของตนเองนั้นจะทำให้นางเฝ้ารอคอยเช่นนี้

“เช่นนั้นหรือ...”

“เจ้าค่ะ วันหนึ่งฮูหยินประมุขทำขนมเพื่อรอท่านประมุข แต่ก็ต้องทิ้งเพราะท่านไม่กลับมา...”

“อืม ข้าเข้าใจแล้ว วันนี้เจ้ากลับไปเถิด ข้าจะดูแลเหนียงเอ๋อร์เอง”

บุรุษเอ่ยพลางรีบสาวเท้าก้าวเดินตามสตรีตัวน้อยผู้เป็นที่รักของตน ครุ่นคิดว่าควรทำอย่างไรให้นางอารมณ์ดี

“เจ้าค่ะ” ฮวาอินตอบรับแล้วรีบปลีกตัวไปอย่างรวดเร็ว

จินหมิงเยว่เดินตามนางไปอย่างรวดเร็ว สตรีตัวน้อยเดินมายังสวนบุปผาพันปี แล้วแอบเหลือบสายตามองว่าจินหมิงเยว่ตามมาง้อนางหรือไม่

ในตอนแรกไม่เห็นแม้แต่เงาก็นึกน้อยเนื้อต่ำใจระคนโกรธเกรี้ยว ทว่ากลับต้องรีบดึงสายตากลับมาพร้อมกับหัวใจที่เต้นระรัว เมื่อเห็นว่าจินหมิงเยว่กำลังเดินมาที่นาง

“บุปผาพันปี อยู่มาก่อนตำหนักพันปีเสียอีก” บุรุษย่อกายลงแล้วเด็ดบุปผางามสีขาวบริสุทธิ์ขึ้นมาหนึ่งดอก

อันที่จริงแล้วบุรุษจะใช้อาคมของตนเองในการเด็ดบุปผามาให้นางก็ได้ หากแต่จินหมิงเยว่อยากทำด้วยคนเอง บุรุษเดินไปหาสตรีตัวน้อยแสนงอน ก่อนจะคว้าข้อมือคนงามให้หันกลับมามองหน้าตนเอง นางยอมหันมาแต่กลับไม่ยอมสบตาด้วย

ฝ่ามือหนาบรรจงเสียบบุปผาพันปีลงบนเรือนผมของนางอย่างเบามือ นางจะรู้หรือไม่ว่าการมอบบุปผาพันปีให้กับนางนั้นมีความหมายเช่นไร?

ก่อนจะประคองดวงหน้าหวานด้วยมือทั้งสองข้างให้หันกลับมาสบตากับตนเอง

“เหนียงเอ๋อร์ ข้ารักเจ้า” ถ้อยคำสารภาพรักถูกเอื้อนเอ่ยออกมาอย่างกะทันหัน

ดวงตาคู่งามเบิกกว้างด้วยความตกใจ สบประสานดวงตากับเจ้าของถ้อยคำสารภาพรักด้วยหัวใจเต้นระรัว

“รู้หรือไม่ความหมายของบุปผาพันปีคือสิ่งใด?”

ยื่นมือออกไปสัมผัสบุปผาพันปีซึ่งประดับอยู่บนผมของนาง…

“บุปผาพันปีหมายถึง… เจ้าของทุกสรรพสิ่ง ความลุ่มหลงอันยาวนาน และ… รักตราบชั่วนิรันดร์” ถ้อยคำสุดท้ายถูกเอ่ยออกมา พร้อมทั้งจ้องมองดวงตากลมเพื่อสื่อความหมายลึกซึ้ง “ที่ข้ามอบบุปผาพันปีให้กับเจ้า นั่นเพราะเจ้าคือเจ้าของดวงใจของข้า เจ้าของบุปผาพันปี เจ้าของดินแดนแห่งนี้”

“ทะ ท่านก็พูดไปเรื่อย ดินแดนแห่งนี้จะเป็นของข้าได้อย่างไร ที่นี่คือดินแดนจิ้งจอกนะเจ้าคะ”

“เดิมทีแล้วที่นี่ถูกสร้างขึ้นมาก็เพื่อเจ้า”

“เจ้าคะ?”

“เจ้าเชื่อเรื่องชาติภพหรือไม่?”

ดวงหน้าหวานมิได้ตกใจหรือเผยท่าทีใด แต่กลับพยักหน้าอย่างเชื่องช้าแทนคำตอบ

“จริงหรือ?”

“เจ้าค่ะ... ท่านพี่กับข้า เคยพบเจอกันมาก่อนใช่หรือไม่เจ้าคะ”

การที่ฟางเหนียงเป็นคนเข้าใจง่ายก็ทำให้เขาไม่ต้องขยายความสิ่งใดมาก สำหรับนางแล้วการมีตัวตนของจิ้งจอกเก้าหางก็เหนือความคาดหมายมากแล้ว การที่เคยเจอกันในภพชาติก่อนๆ มาบ้าง ล้วนแล้วแต่มิใช่เรื่องที่ยากจะเชื่อได้ อีกทั้ง… นางยังเคยเห็นมาแล้ว

“ใช่... เมื่อหลายร้อยปี หลายชาติภพ...”

สายลมพัดผ่านพาเอากลิ่นมวลบุปผาอันหอมหวาน อีกทั้งความเย็นของสายลมคลายความร้อนจากผิวกายได้เล็กน้อย

เส้นผมนุ่มสลวยพริ้มเข้าตาของนางทำให้เกิดการระคายเคือง ฟางเหนียงยกมือขึ้นเกลี่ยมันออก แต่ก็ไม่ทันมือใหญ่ของบุรุษที่จับเส้นผมทัดใบหูให้กับนาง

“ข้ารักเจ้ามาทุกภพทุกชาติที่เจ้าเวียนว่ายตายเกิด... เมื่อมีผู้ใดให้ร้ายเจ้า ข้าจึงมิอาจอยู่เฉยได้”

“มีคนให้ร้ายข้าหรือเจ้าคะ?”

“ยังหรอก ข้าแค่พูดเผื่อเอาไว้”

“สรุปแล้วที่ผ่านมาไปที่ไหน ทำสิ่งใดมาเจ้าคะ?”

...อ่า คิดว่าลืมไปแล้วเสียอีก...

“ข้าเป็นประมุข จึงมีเรื่องของเผ่าพันธุ์ให้จัดการน่ะ เจ้าอย่าห่วงไปเลย หายโกรธข้าได้แล้วนะ”

“ฮึ ครั้งนี้เหนียงเอ๋อร์จะยอมให้ อย่าให้มีครั้งหน้านะเจ้าคะ”

“ขอรับ ฮูหยินประมุข!”

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

관련 챕터

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 21 รูปลักษณ์ที่เปลี่ยนไป

    บทที่ 21รูปลักษณ์ที่เปลี่ยนไปวันเวลาผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็ว ฟางเหนียงในวัยสิบหกปีครั้นมาที่ดินแดนจิ้งจอกแห่งนี้เป็นครั้งแรก บัดนี้นางอายุสิบแปดหนาวเสียแล้วความงดงามของนางนั้นเพิ่มมากขึ้นเสียจนจินหมิงเยว่แทบจะกกกอดนางเอาไว้ภายในห้องตลอดทั้งวันทั้งคืน ถึงแม้ว่ารอบตำหนักพันปีจะไม่มีผู้ใดย่างกรายเข้ามาได้ หากมิได้รับอนุญาตก็ตาม“ท่านพี่เจ้าคะ!” เสียงเจื้อยแจ้วของฟางเหนียงดังขึ้น พร้อมการปรากฏกายของนาง ในขณะที่จินหมิงเยว่กำลังฝึกพละกำลังและอาคมบุรุษตวัดฝ่ามือครั้งหนึ่งพาร่างบอบบางลอยละล่องมานั่งบนตักของตนเอง แล้วฉวยโอกาสหอมแก้มนางไปหนึ่งที“ว้าย! ท่านพี่! ฮวาอินก็อยู่นะเจ้าคะ”“เฮ้อ ฮวาอินออกจะชอบที่ข้ากับเจ้าพลอดรักกัน”“ท่านพี่!!”เพี๊ยะ!!ว่าแล้วก็ตีท่อนแขนแกร่งไปหนึ่งทีด้วยความเขินอาย จินหมิงเยว่หัวเราะเสียงดัง ยิ่งได้เห็นพวงแก้มทั้งสองข้างขึ้นสีแดงระเรื่อก็ยิ่งอยากแกล้

    최신 업데이트 : 2025-04-20
  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 22 สัญชาตญาณที่ต้องปลดปล่อย

    บทที่ 22สัญชาตญาณที่ต้องปลดปล่อยฟางเหนียงขยับกายไปนั่งลงบนตักของบุรุษ จากนั้นก็ใช้สะโพกกดลงบนความแข็งแกร่ง ครอบครองแก่นกายบุรุษเพศเข้าไปในตัวของตนเอง“อ่า...” ทั้งฟางเหนียงและจินหมิงเยว่ครางด้วยความสุขสมสตรีตัวน้อยโอบกอดบุรุษแนบอกแล้วเชิดหน้าขึ้น ก่อนจะจะเริ่มขยับสะโพกของตนเองด้วยท่าทางที่ดูเก้ๆ กังๆ ในช่วงแรก ทว่าไม่นานความวาบหวาม รัญจวนใจ ร่างกายก็ได้นำพาให้นางสามารถขับเคลื่อนร่างกาย มอบความเสียวซ่านให้กับบุรุษได้เป็นอย่างดีนางเอนกายไปข้างหลัง ใช้มือเกาะบ่าของบุรุษเอาไว้ก่อนจะเด้งสะโพกระรัว รับรู้ได้ถึงความแข็งแกร่งของแก่นกายได้อย่างชัดเจน“อ๊า ท่านพี่ อื้ม!” ทรวงอกของนางถูกดูดดื่มอย่างหื่นกระหาย แม้มันจะเจ็บเล็กน้อยเพราะมีรอยแผลจากการกระทำของบุรุษเมื่อครั้นก่อนหน้า หากแต่ความวาบหวามนั้นมีมากกว่า นางจึงยิ่งแอ่นอกให้ปากหยักดูดดื่มและกลืนกินตามต้องการฟางเหนียงเชิดหน้าขึ้นแล้วร้องครางเสียงหวานอย่างลืมอาย สูญสิ้นสติในการยับยั้งชั่งใจ กลีบกา

    최신 업데이트 : 2025-04-21
  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 23 เช่นนั้นข้าปรนนิบัติเจ้าแทน

    บทที่ 23เช่นนั้นข้าปรนนิบัติเจ้าแทนฟางเหนียงลงมือทำอาหารหลายอย่าง รวมถึงของหวานด้วย นางคีบทั้งผักทั้งปลาใส่ในถ้วยของบุรุษ ส่วนจินหมิงเยว่ก็คีบแต่พวกเนื้อสัตว์ใส่ถ้วยให้นางเช่นเดิม“เมื่อใดเจ้าจะอ้วนเสียที หืม?”“ข้าไม่อยากอ้วนเจ้าค่ะ”“เหตุใดจึงไม่อยากอ้วน?”“ข้าเป็นสตรี ก็ต้องรักสวยรักงามเป็นธรรมดา หากอ้วนเมื่อสวมใส่อาภรณ์ใดๆ ก็ไร้ความมั่นใจนี่เจ้าค่ะ”“เจ้าเคยอ้วนหรือ?”“ไม่เคยเจ้าค่ะ”“เช่นนั้นเจ้าจะรู้ได้อย่างไรว่าหากอ้วนแล้วจะไม่งดงาม”“เรื่องเช่นนี้ไม่จำเป็นต้องเคยมาก่อนที่เจ้าค่ะ! อีกอย่างข้าไม่เคยบอกว่าไม่อ้วนแล้วจะไม่งดงาม ข้าก็แค่คิดว่าคงไม่มีความมั่นใจ”“อ้วนให้ข้าหน่อยเถิด”“เอ๊ะ! ท่านพี่นี่อย่างไร หากอยากได้สตรีอ้วนๆ ก็ไปหาที่อื่น ไม่ต้องมาหาที่ข้า!”&l

    최신 업데이트 : 2025-04-22
  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 24 เดิมทีนางควรจะตายไปตั้งนานแล้ว

    บทที่ 24เดิมทีนางควรจะตายไปตั้งนานแล้วยามนั้นเองบางสิ่งร่วงหล่นลงมาจากท้องฟ้า เส้นแสงสีขาวหลายสายล้อมรอบพวกเขาเอาไว้“...!”จินหมิงเยว่และหลี่ตงหยางตวัดแขนขึ้นไปด้านหน้า ล้อมฟางเหนียงเอาไว้เพื่อปกป้องนางสตรีตัวน้อยสะดุ้งตกใจ โอบกอดจินหมิงเยว่เอาไว้ด้วยความหวาดกลัว...คนพวกนี้เป็นใครกัน?...“ส่งตัวนางมา หากต่อต้านจะถือว่าปรปักษ์ต่อสรวงสวรรค์”...สรวงสวรรค์หรือ!?...ดวงตาคู่งามเบิกกว้างด้วยความตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน นางสับสนว่าเกิดสิ่งใดขึ้นกันแน่!?“หากอยากได้ตัวนางนัก ก็เข้ามา!!” เป็นจินหมิงเยว่ที่เอ่ยออกไปอย่างไม่เกรงกลัว แม้จะเป็นผู้ใดหากมาพรากฟางเหนียงไปจากเขา บุรุษไม่ยินยอม!!เกิดการต่อสู้กันระหว่างปีศาจจิ้งจอก เทพหนุ่มตกสวรรค์และองครักษ์สวรรค์ โดยที่ฟางเหนียงอยู่ในการปกป้องของจินหมิงเยว่ตลอดการต่อสู้“ท่านพี่ เกิดอะไรขึ้นกันแน่เจ้าคะ เหตุใ

    최신 업데이트 : 2025-04-23
  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 25 สูญเสียไปตลอดกาล

    บทที่ 25สูญเสียไปตลอดกาลดวงตาคู่งามลืมตาขึ้นท่ามกลางพงไพรอันคุ้นเคย ด้านข้างของนางคือร่างของจิ้งจอกหนุ่ม คนรักของนาง… ร่างของบุรุษที่รักนอนแน่นิ่งจนน่าหวาดหวั่นความอบอุ่นที่อยู่กลางอกบ่งบอกให้นางรับรู้ได้ถึงพลังชีวิตอันมหาศาล รวมถึงอิทธิฤทธิ์ของปีศาจจิ้งจอก มันคือลูกแก้วจิ้งจอกไม่ผิดแน่ใช่แล้ว ลูกแก้วจิ้งจอกอยู่กับนางมาตลอด ลูกแก้วจิ้งจอกที่เปรียบเสมือนพลังชีวิตของจินหมิงเยว่ บุรุษเคยบอกกับนางเช่นนั้น นั่นหมายความว่าไม่มีทางที่จินหมิงเยว่จะตาย เขาก็แค่หมดเรี่ยวแรงจึงหลับไปเท่านั้นนางเอ่ยปลอบตนเองแล้วหันไปหาบุรุษ หากทว่าเมื่อมือเล็กๆ แตะที่ร่างของบุรุษ ความเย็นยะเยือกก็แล่นผ่านเข้ามาในร่างของนาง สตรีตัวน้อยตัวแข็งทื่อ พลันน้ำตาก็ไหลอาบสู่สองข้างแก้ม“ไม่จริง ท่านพี่บอกว่า หากมีข้า มีลูกแก้วจิ้งจอก อย่างไรก็ไม่มีทางตายนี่”ฝ่ามือเล็กคว้าท่อนแขนของบุรุษแล้วออกแรงเขย่าแรงๆ เพื่อหวังให้บุรุษฟื้นตื่นขึ้นมา แม้ว่าบุรุษจะเจ็บ หากฟื้นขึ้นมานางจะยินยอมน

    최신 업데이트 : 2025-04-24
  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 26 ห้วงคำนึงถึงนาง

    บทที่ 26ห้วงคำนึงถึงนางหลายฤดูผ่านไปจินหมิงอันเติบใหญ่เป็นจิ้งจอกหนุ่ม มีอิทธิฤทธิ์มากล้นเดินตามรอยของผู้เป็นบิดา ฟางเหนียงภาคภูมิใจเหลือคณานับที่บุตรชายสง่างามเช่นนี้ อีกทั้งยังรวบรวมพลังสร้างลูกแก้วจิ้งจอกของตนเองได้แล้ว แม้ว่าลูกแก้วจิ้งจอกนั้นจะยังแข็งแกร่งไม่เท่าลูกแก้วจิ้งจอกที่อยู่ในตัวของนางก็ตามยามนั้นเองสายลมพัดผ่านพาเอาความเย็นสบายโอบรอบร่าง ทว่ามีบางสิ่งลอยมากับสายลมด้วย กลิ่นที่คุ้นเคยพาให้หัวใจดวงน้อยเต้นแรงขึ้นมาฟางเหนียงหยัดกายขึ้นแล้วพุ่งตัวออกไปตามกลิ่นนั่น แหวกผ่านพงไพร เป็นหนึ่งเดียวกับสายลม กระทั่งมาถึงหมู่บ้านแห่งหนึ่ง นางเดินตามหาไม่นานก็มาหยุดอยู่ที่บ้านหลังหนึ่ง“ยินดีด้วยเจ้าค่ะ ท่านเจ้าตระกูลได้บุตรชายเจ้าค่ะ!”เสียงเด็กร้องไห้โยเยดังลอดออกมาให้ได้ยิน พร้อมกับเสียงแสดงความยินดีให้กับบิดาและมารดา นางยืนฟังเสียงร้องไห้นั้นอยู่นาน กระทั่งมีคนผู้หนึ่งทักนางเข้า“มาหาผู้ใดหรือเจ้าคะ?”

    최신 업데이트 : 2025-04-25
  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 1 เครื่องบรรณาการแด่จิ้งจอกเก้าหาง

    บทที่ 1เครื่องบรรณาการแด่จิ้งจอกเก้าหางร่างเล็กๆ ของเด็กหญิงตัวน้อยที่กำลังเดินเก็บสมุนไพรในป่าลึกชะงักเล็กน้อย เมื่อเห็นร่างของเจ้าขนปุกปุยนอนฟุบอยู่ไม่ไกลจากที่นางอยู่มากนัก เด็กน้อยพาตนเองไปใกล้ๆ กับมันก็พบว่าเจ้าก้อนปุกปุยนั้นคือจิ้งจอกตัวน้อย‘หมาน้อย!’แม้ว่านางจะเชื่อว่ามันเป็นหมาน้อยก็ตาม...นางอุ้มจิ้งจอกตัวน้อยหรือหมาน้อยของนางขึ้นมา เห็นว่ามันได้รับบาดเจ็บก็ใช้สมุนไพรที่ตนเองเพิ่งเก็บมา ก่อนจะใช้หินทุบๆ แล้วนำมันไปวางโปะไว้ที่บาดแผลของจิ้งจอกตัวน้อย พร้อมทั้งฉีกแขนเสื้อตนเองแล้วใช้พันที่ท้องของมันเอาไว้ดวงตาใสๆ ของนางมองเจ้าจิ้งจอกน้อยตัวนี้ด้วยความเวทนา อยากจะนำมันไปดูแลเหลือเกิน หากแต่แค่ตัวนางเองก็ลำบากมากพอแล้ว ไม่อยากนำเจ้าสัตว์ตัวน้อยไปทุกข์ยากด้วย อีกอย่างขืนนำจิ้งจอกตัวนี้กลับบ้านไปด้วย มีหวังจากที่จิ้งจอกตัวนี้จะรอดตาย คงถูกตีจนตายต่อหน้าต่อตานางแน่ๆแม้นางจะยังเด็กนัก แต่ด้วยประสบการณ์ที่ผ่านมาก็ทำให้เด็กน้อยเข้าใจโลกที่นางอยู่อย่างถ่องแท้‘เรียบร้อย ข้าต้องไปแล้วนะ’ ด้วยความไร้เดียงสา นางคิดว่าทำแค่นี้จิ้งจอกตัวนั้นคงรอดตายแล้ว ก่อนจะเดินลงจากเขาไป...ดวงตาของ

    최신 업데이트 : 2025-04-03
  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 2 จิ้งจอกเก้าหาง

    บทที่ 2จิ้งจอกเก้าหางฟางเหนียงรู้ว่าหากไม่รับถ้วยเหล้านี้ ก็คงถูกป้อนทางปากเหมือนเมื่อครู่อีกเป็นแน่ จึงยื่นมือเล็กๆ สองมือออกไปรับมันมาอย่างไม่เต็มใจ“ข้าคิดว่า... ท่านเป็นคนช่วยเจ้าค่ะ”“ใช่ แต่ก็ไม่ใช่”“หมายความเช่นไรเจ้าคะ?”“ข้าส่งคนไปจับเจ้า และคนที่ช่วยเจ้าก็คือคนของข้า เช่นนั้นแล้วก็ไม่ต่างจากข้าช่วยเจ้า เพียงแต่ข้ามิได้ไปช่วยด้วยตนเอง”“อ่า... อย่างไรก็ต้องขอบคุณนะเจ้าคะ” สตรีตัวน้อยกระโดดลงจากเตียง จากนั้นก็ประสานมือแล้วยอบกายคำนับ เท่านั้นยังไม่พอ นางยังก้มหัวลงจรดพื้นด้วยท่าทีอ่อนน้อมถ่อมตนอีกด้วย “เหนียงเอ๋อร์เป็นหนี้บุญคุณชีวิตท่านเสียแล้ว หากมีสิ่งใดที่เหนียงเอ๋อร์ตอบแทนท่านได้ โปรดบอกมาเถิดเจ้าค่ะ”“ลุกขึ้น”ฟางเหนียงทำตามอย่างว่าง่าย ก่อนจะจ้องมองบุรุษตาปริบๆ ในขณะเดียวกันจินหมิงเยว่หย่อนกายนั่งลงบนเตียงท่าทีสบายๆ“ข้าช่วยเจ้า เพราะเจ้าเป็นคนในปกครองของข้า คนที่ข้าส่งไปรับเจ้าย่อมรู้ดีว่าหากผู้ใดคิดแตะต้องเจ้า โทษคือตายสถานเดียว”“เจ้าคะ? คะ คนของท่าน?”“ใช่... ชุดนี่” กวาดสายตามองสตรีตัวน้อยตั้งแต่หัวจรดเท้า อาภรณ์พวกนี้มีกลิ่นเครื่องหอม ซึ่งต่างจากกลิ่นกายของฟางเ

    최신 업데이트 : 2025-04-03

최신 챕터

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 26 ห้วงคำนึงถึงนาง

    บทที่ 26ห้วงคำนึงถึงนางหลายฤดูผ่านไปจินหมิงอันเติบใหญ่เป็นจิ้งจอกหนุ่ม มีอิทธิฤทธิ์มากล้นเดินตามรอยของผู้เป็นบิดา ฟางเหนียงภาคภูมิใจเหลือคณานับที่บุตรชายสง่างามเช่นนี้ อีกทั้งยังรวบรวมพลังสร้างลูกแก้วจิ้งจอกของตนเองได้แล้ว แม้ว่าลูกแก้วจิ้งจอกนั้นจะยังแข็งแกร่งไม่เท่าลูกแก้วจิ้งจอกที่อยู่ในตัวของนางก็ตามยามนั้นเองสายลมพัดผ่านพาเอาความเย็นสบายโอบรอบร่าง ทว่ามีบางสิ่งลอยมากับสายลมด้วย กลิ่นที่คุ้นเคยพาให้หัวใจดวงน้อยเต้นแรงขึ้นมาฟางเหนียงหยัดกายขึ้นแล้วพุ่งตัวออกไปตามกลิ่นนั่น แหวกผ่านพงไพร เป็นหนึ่งเดียวกับสายลม กระทั่งมาถึงหมู่บ้านแห่งหนึ่ง นางเดินตามหาไม่นานก็มาหยุดอยู่ที่บ้านหลังหนึ่ง“ยินดีด้วยเจ้าค่ะ ท่านเจ้าตระกูลได้บุตรชายเจ้าค่ะ!”เสียงเด็กร้องไห้โยเยดังลอดออกมาให้ได้ยิน พร้อมกับเสียงแสดงความยินดีให้กับบิดาและมารดา นางยืนฟังเสียงร้องไห้นั้นอยู่นาน กระทั่งมีคนผู้หนึ่งทักนางเข้า“มาหาผู้ใดหรือเจ้าคะ?”

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 25 สูญเสียไปตลอดกาล

    บทที่ 25สูญเสียไปตลอดกาลดวงตาคู่งามลืมตาขึ้นท่ามกลางพงไพรอันคุ้นเคย ด้านข้างของนางคือร่างของจิ้งจอกหนุ่ม คนรักของนาง… ร่างของบุรุษที่รักนอนแน่นิ่งจนน่าหวาดหวั่นความอบอุ่นที่อยู่กลางอกบ่งบอกให้นางรับรู้ได้ถึงพลังชีวิตอันมหาศาล รวมถึงอิทธิฤทธิ์ของปีศาจจิ้งจอก มันคือลูกแก้วจิ้งจอกไม่ผิดแน่ใช่แล้ว ลูกแก้วจิ้งจอกอยู่กับนางมาตลอด ลูกแก้วจิ้งจอกที่เปรียบเสมือนพลังชีวิตของจินหมิงเยว่ บุรุษเคยบอกกับนางเช่นนั้น นั่นหมายความว่าไม่มีทางที่จินหมิงเยว่จะตาย เขาก็แค่หมดเรี่ยวแรงจึงหลับไปเท่านั้นนางเอ่ยปลอบตนเองแล้วหันไปหาบุรุษ หากทว่าเมื่อมือเล็กๆ แตะที่ร่างของบุรุษ ความเย็นยะเยือกก็แล่นผ่านเข้ามาในร่างของนาง สตรีตัวน้อยตัวแข็งทื่อ พลันน้ำตาก็ไหลอาบสู่สองข้างแก้ม“ไม่จริง ท่านพี่บอกว่า หากมีข้า มีลูกแก้วจิ้งจอก อย่างไรก็ไม่มีทางตายนี่”ฝ่ามือเล็กคว้าท่อนแขนของบุรุษแล้วออกแรงเขย่าแรงๆ เพื่อหวังให้บุรุษฟื้นตื่นขึ้นมา แม้ว่าบุรุษจะเจ็บ หากฟื้นขึ้นมานางจะยินยอมน

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 24 เดิมทีนางควรจะตายไปตั้งนานแล้ว

    บทที่ 24เดิมทีนางควรจะตายไปตั้งนานแล้วยามนั้นเองบางสิ่งร่วงหล่นลงมาจากท้องฟ้า เส้นแสงสีขาวหลายสายล้อมรอบพวกเขาเอาไว้“...!”จินหมิงเยว่และหลี่ตงหยางตวัดแขนขึ้นไปด้านหน้า ล้อมฟางเหนียงเอาไว้เพื่อปกป้องนางสตรีตัวน้อยสะดุ้งตกใจ โอบกอดจินหมิงเยว่เอาไว้ด้วยความหวาดกลัว...คนพวกนี้เป็นใครกัน?...“ส่งตัวนางมา หากต่อต้านจะถือว่าปรปักษ์ต่อสรวงสวรรค์”...สรวงสวรรค์หรือ!?...ดวงตาคู่งามเบิกกว้างด้วยความตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน นางสับสนว่าเกิดสิ่งใดขึ้นกันแน่!?“หากอยากได้ตัวนางนัก ก็เข้ามา!!” เป็นจินหมิงเยว่ที่เอ่ยออกไปอย่างไม่เกรงกลัว แม้จะเป็นผู้ใดหากมาพรากฟางเหนียงไปจากเขา บุรุษไม่ยินยอม!!เกิดการต่อสู้กันระหว่างปีศาจจิ้งจอก เทพหนุ่มตกสวรรค์และองครักษ์สวรรค์ โดยที่ฟางเหนียงอยู่ในการปกป้องของจินหมิงเยว่ตลอดการต่อสู้“ท่านพี่ เกิดอะไรขึ้นกันแน่เจ้าคะ เหตุใ

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 23 เช่นนั้นข้าปรนนิบัติเจ้าแทน

    บทที่ 23เช่นนั้นข้าปรนนิบัติเจ้าแทนฟางเหนียงลงมือทำอาหารหลายอย่าง รวมถึงของหวานด้วย นางคีบทั้งผักทั้งปลาใส่ในถ้วยของบุรุษ ส่วนจินหมิงเยว่ก็คีบแต่พวกเนื้อสัตว์ใส่ถ้วยให้นางเช่นเดิม“เมื่อใดเจ้าจะอ้วนเสียที หืม?”“ข้าไม่อยากอ้วนเจ้าค่ะ”“เหตุใดจึงไม่อยากอ้วน?”“ข้าเป็นสตรี ก็ต้องรักสวยรักงามเป็นธรรมดา หากอ้วนเมื่อสวมใส่อาภรณ์ใดๆ ก็ไร้ความมั่นใจนี่เจ้าค่ะ”“เจ้าเคยอ้วนหรือ?”“ไม่เคยเจ้าค่ะ”“เช่นนั้นเจ้าจะรู้ได้อย่างไรว่าหากอ้วนแล้วจะไม่งดงาม”“เรื่องเช่นนี้ไม่จำเป็นต้องเคยมาก่อนที่เจ้าค่ะ! อีกอย่างข้าไม่เคยบอกว่าไม่อ้วนแล้วจะไม่งดงาม ข้าก็แค่คิดว่าคงไม่มีความมั่นใจ”“อ้วนให้ข้าหน่อยเถิด”“เอ๊ะ! ท่านพี่นี่อย่างไร หากอยากได้สตรีอ้วนๆ ก็ไปหาที่อื่น ไม่ต้องมาหาที่ข้า!”&l

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 22 สัญชาตญาณที่ต้องปลดปล่อย

    บทที่ 22สัญชาตญาณที่ต้องปลดปล่อยฟางเหนียงขยับกายไปนั่งลงบนตักของบุรุษ จากนั้นก็ใช้สะโพกกดลงบนความแข็งแกร่ง ครอบครองแก่นกายบุรุษเพศเข้าไปในตัวของตนเอง“อ่า...” ทั้งฟางเหนียงและจินหมิงเยว่ครางด้วยความสุขสมสตรีตัวน้อยโอบกอดบุรุษแนบอกแล้วเชิดหน้าขึ้น ก่อนจะจะเริ่มขยับสะโพกของตนเองด้วยท่าทางที่ดูเก้ๆ กังๆ ในช่วงแรก ทว่าไม่นานความวาบหวาม รัญจวนใจ ร่างกายก็ได้นำพาให้นางสามารถขับเคลื่อนร่างกาย มอบความเสียวซ่านให้กับบุรุษได้เป็นอย่างดีนางเอนกายไปข้างหลัง ใช้มือเกาะบ่าของบุรุษเอาไว้ก่อนจะเด้งสะโพกระรัว รับรู้ได้ถึงความแข็งแกร่งของแก่นกายได้อย่างชัดเจน“อ๊า ท่านพี่ อื้ม!” ทรวงอกของนางถูกดูดดื่มอย่างหื่นกระหาย แม้มันจะเจ็บเล็กน้อยเพราะมีรอยแผลจากการกระทำของบุรุษเมื่อครั้นก่อนหน้า หากแต่ความวาบหวามนั้นมีมากกว่า นางจึงยิ่งแอ่นอกให้ปากหยักดูดดื่มและกลืนกินตามต้องการฟางเหนียงเชิดหน้าขึ้นแล้วร้องครางเสียงหวานอย่างลืมอาย สูญสิ้นสติในการยับยั้งชั่งใจ กลีบกา

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 21 รูปลักษณ์ที่เปลี่ยนไป

    บทที่ 21รูปลักษณ์ที่เปลี่ยนไปวันเวลาผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็ว ฟางเหนียงในวัยสิบหกปีครั้นมาที่ดินแดนจิ้งจอกแห่งนี้เป็นครั้งแรก บัดนี้นางอายุสิบแปดหนาวเสียแล้วความงดงามของนางนั้นเพิ่มมากขึ้นเสียจนจินหมิงเยว่แทบจะกกกอดนางเอาไว้ภายในห้องตลอดทั้งวันทั้งคืน ถึงแม้ว่ารอบตำหนักพันปีจะไม่มีผู้ใดย่างกรายเข้ามาได้ หากมิได้รับอนุญาตก็ตาม“ท่านพี่เจ้าคะ!” เสียงเจื้อยแจ้วของฟางเหนียงดังขึ้น พร้อมการปรากฏกายของนาง ในขณะที่จินหมิงเยว่กำลังฝึกพละกำลังและอาคมบุรุษตวัดฝ่ามือครั้งหนึ่งพาร่างบอบบางลอยละล่องมานั่งบนตักของตนเอง แล้วฉวยโอกาสหอมแก้มนางไปหนึ่งที“ว้าย! ท่านพี่! ฮวาอินก็อยู่นะเจ้าคะ”“เฮ้อ ฮวาอินออกจะชอบที่ข้ากับเจ้าพลอดรักกัน”“ท่านพี่!!”เพี๊ยะ!!ว่าแล้วก็ตีท่อนแขนแกร่งไปหนึ่งทีด้วยความเขินอาย จินหมิงเยว่หัวเราะเสียงดัง ยิ่งได้เห็นพวงแก้มทั้งสองข้างขึ้นสีแดงระเรื่อก็ยิ่งอยากแกล้

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 20 งอน

    บทที่ 20งอน“ลองขย่มข้าสิ”“ตะ แต่ข้าไม่รู้”“ทำแบบนี้”“อ๊ะ!?”ฝ่ามือหยาบยกสะโพกกลมขึ้นแล้วกดลงให้ครอบครองความแข็งแกร่งของตนเอง ความเสียวซ่านแล่นพล่านไปทั่วทั้งร่างบอบบางฟางเหนียงขยับตามการนำพาของบุรุษ กระทั่งหาจังหวะของตนเองเจอ จินหมิงเยว่ก็เปลี่ยนเป็นบีบเคล้นสะโพกกลมกลึงด้วยความมันเขี้วแทนท่วงท่าของนางสร้างความรัญจวนในเหลือเกิน มันเชื่องช้าและละมุนละไม ราวกับจงใจทรมานจินหมิงเยว่ให้ต้องอดทนกับกามารมณ์ เกร็งทั่วทั้งร่างจนเห็นก้อนกล้ามเนื้อชัดเจน อีกทั้งเส้นเลือดยังปูดโปนออกมา“อ่า เหนียงเอ๋อร์ เจ้าช่าง...” บุรุษมิอาจเอื้อนเอ่ยได้อีก เมื่อนางเริ่มขยับถี่ขึ้นเรื่อยๆ มิได้เข้าสุดออกสุดเหมือนอย่างในครั้งแรก แต่เป็นการกดสะโพกระรัว“อืม” นางครางเสียงหวานแล้วแหงนหน้าขึ้นตามอารมณ์ จินหมิงเยว่ก้ามหน้าลงดูดดื่มกับยอดอกสีหวานเข้าปากอย่างกระหายความรู้สึกวาบหวา

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 19 จิ้งจอกเจ้าเล่ห์

    บทที่ 19จิ้งจอกเจ้าเล่ห์ดวงตาคู่งามเปิดอย่างเชื่องช้า คราวนี้ฟางเหนียงไม่ตกใจอีกแล้วว่านางมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร สถานที่ที่ไม่ต่างไปจากสรวงสวรรค์ นางคงถูกเทพองค์นั้นเรียกตัวมาอีกเป็นแน่นางเตรียมที่จะมองหาตัวของผู้ที่เรียกนางมา แต่ไม่ทันที่จะได้หยัดกายลุกขึ้นเสียด้วยซ้ำ เสียงทุ้มน่าฟังก็ดังขึ้นเหนือหัว“เดี๋ยวนี้เจ้าไม่ตกใจแล้วหรือ?”ฟางเหนียงหยัดกายลุกขึ้น ก่อนจะหันไปยอบกายคำนับตามมารยาท“คำนับ ท่านเทพเจ้าค่ะ”“อ่า เจ้ารู้แล้วสินะ… รู้ได้อย่างไร หมิงเยว่บอกเจ้าหรือ?”“ท่านพี่ของข้ารู้จักกับท่านเป็นการส่วนตัวด้วยหรือเจ้าคะ?”“อ่า มิใช่สินะ”ใบหน้าคมคายหม่นลงเล็กน้อย ยิ่งสร้างความประหลาดใจให้กับฟางเหนียงดูเหมือนว่าทั้งสองจะรู้จักกันสินะ แต่รู้จักกันด้วยดีหรือร้ายมิอานคาดเดาได้“ท่านเทพ… จุดประสงค์ของท่านคือสิ่งใดกันแน่?”สตรีตัวน้อยรู้สึกหวาดหวั่นเหลือเกิน หวาดกลัวว

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 18 มิอาจยอมให้นางเสียหาย

    บทที่ 18มิอาจยอมให้นางเสียหายลิ้นสากหลีกหนีเรียวลิ้นของนาง ลิ้นของนางก็ยังตามติดไม่ออก กลายเป็นจูบที่แสนดูดดื่มจนเกิดเสียงน่าอาย เมื่อยามที่ฟางเหนียงยอมแพ้คิดจะถอนริมฝีปากออก จินหมิงเยว่ก็เป็นฝ่ายคว้าท้ายทอยของนางแล้วกดให้แนบแน่นยิ่งกว่าเดิม จากนั้นก็เป็นฝ่ายรุกรานโพรงปากอุ่น ตักตวงความหอมหวานอย่างเร่าร้อน ทั้งๆ ที่เมื่อครู่เอาแต่หลีกหนีปฏิเสธนางแท้ๆ...จิ้งจอกเจ้าเล่ห์!!...อดมิได้ที่จะต่อว่าบุรุษในใจที่คิดหลอกนาง แต่ก็ยอมให้บุรุษรุกรานแต่โดยดี เพราะจูบหวานๆ ที่ถูกส่งมอบมามันพาให้ร่างของนางอ่อนระทวย เคลิบเคลิ้มไปกับรสจูบซึ่งราวกับเอาอกเอาใจนาง นางจะยอมให้อภัยจินหมิงเยว่ก็แล้วกันเนิ่นนานกว่าทั้งสองจะถอนริมฝีปากออกจากัน ดวงตาสบประสานกันของหวานซึ้ง คล้ายกับกำลังแลกเปลี่ยนความรู้สึกที่มีให้กันและกัน“เอาลูกแก้วคืนไปหรือยังเจ้าคะ?”“ยัง”“อ้าว?”“ข้าฝากไว้กับเจ้า หากข้าบาดเจ็บเจ้าจะได้จู

좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status