[ทะลุมิติเข้าไปในนิยาย+ถูกบังคับให้เป็นตัวรับกระสุน+เป็นที่รักของทุกคน+นิยายที่อ่านแล้วฟิน+หญิงแกร่ง] ซ่งรั่วเจินทะลุมิติเข้ามาในนิยาย เข้ามาอยู่ในร่างอดีตภรรยาที่ด่วนจากไปของพระเอก ตระกูลมั่งคั่งร่ำรวยทำให้พระเอกและนางเอกใช้ชีวิตอย่างรุ่งเรืองไปชั่วนิรันดร์ แม้แต่ทุกคนในครอบครัวก็ถูกควบคุมและตายอย่างอเนจอนาถ นางทะลุมิติเข้ามาในวันแต่งงาน เกี้ยวสองหลังข้ามประตูพร้อมกัน ยังไม่ต้องพูดว่าหนังสือแต่งงานเป็นภรรยาที่ถูกต้องในมือกลายเป็นภรรยาหลวงลำดับเดียวกัน แต่ยังกลายเป็นความกรุณาต่อนางอีกด้วย? ซ่งรั่วเจิน “เฮงซวย! ใครอยากเป็นภรรยาหลวงลำดับเดียวกัน?” มีเงินทองมากมายนำไปทำอย่างอื่นไม่ดีกว่าหรือ? เหตุใดนางต้องมอบทรัพย์สินให้พระเอกกับนางเอกด้วย ตัวโง่งมเช่นนี้ใครอยากเป็นก็เป็นเถอะ! บิดาหายตัวไป? นางเป็นถึงเจ้าสำนักวิชาเต๋า ทำนายดวง คำนวณฮวงจุ้ยตามหาคน หาคนกลับมาให้ได้ก็พอ! พี่ใหญ่พิการฆ่าตัวตาย? รักษาหายแล้วก็กลับเข้ากองทัพสร้างความดีความชอบกลายเป็นแม่ทัพยิ่งใหญ่บารมีเทียมฟ้าในราชสำนัก พี่รองถอนหมั้นเพราะตาบอด? คว้าชัยชนะกลายเป็นดาวดวงใหม่ของราชสำนัก เป็นคนโปรดหน้าพระพักตร์ฮ่องเต้! ในที่สุดซ่งรั่วเจินก็มีชีวิตร่ำรวยและเวลาว่างมากมาย แต่กลับพบว่าท่านอ๋องที่นางเอกในต้นฉบับหลงรักแต่มิได้รับรักตอบถึงขั้นมาตามตอแยนาง? เนื้อเรื่องผิดเพี้ยนไปนี่นา! ฉู่จวินถิง…บิดาหายตัวไป พี่ชายพิการ มารดาร้องไห้น้ำตานองหน้า ตัวนางที่แหลกสลาย แม้มีพลังมหาศาลดุจวัว หนึ่งฝ่ามือสามารถตบชายหลายใจตายได้ แต่ก็ยังปวดใจเหลือเกิน
View Moreยิ่งไปกว่านั้น ลั่วหวยหลี่เองก็เป็นคนจิตใจดี เป็นคู่ที่เหมาะสมอย่างแท้จริง!“เนี่ยนชูมีคนภายในใจแล้วหรือไม่? หากไม่มี ไม่สู้ให้เด็กทั้งสองคนได้ทำความรู้จักกัน?”เยี่ยนชิงอวี้สบมองสีหน้าจางเหวินก็รู้ว่าความคิดของนางเหมือนกับตนเอง ใบหน้าเผยรอยยิ้มนับตั้งแต่ได้เห็นชิงอินและเยี่ยนโจวมีความสัมพันธ์อันดีถึงเพียงนี้ นางก็คิดว่าคู่รักในวัยเยาว์ที่รู้จักกันตั้งแต่เด็กเข้ากันได้ไม่เลวจางเหวินเหลือบมองเนี่ยนชูแวบหนึ่ง เห็นนางมิได้ปฏิเสธจึงพูดยิ้มๆ “เด็กหน้าบาง ตอนนี้น่ากลัวว่าเขินอายเกินกว่าจะพูด มิสู้นัดพวกเขาออกไปเที่ยวเล่นด้วยกัน”“ไม่เลวๆ หวยหลี่คนนี้รู้จักสถานที่น่าสนใจไม่น้อย พวกเจ้าคนหนุ่มสาวสามารถไปเที่ยวเล่นได้ เชื่อว่าจะต้องชอบแน่”ใบหน้าเยี่ยนชิงอวี้เต็มไปด้วยรอยยิ้ม หากการจับคู่นี้สำเร็จ นั่นก็ดีเหลือเกินลั่วกั๋วกงทางด้านข้างกลับไม่มีความเห็น เดิมทีหวยหลี่ก็ถึงวัยแต่งงานแล้ว แม้ว่าจางเหวินหย่าร้าง แต่คนสง่างามน่าเลื่อมใส ไม่ว่าเนี่ยนชูหรือเฉิงเจ๋อก็ล้วนสั่งสอนออกมาได้ดีมาก เดิมทีก็ไม่ต้องกังวลซ่งรั่วเจินนั่งรับชมอยู่ทางด้านข้างเงียบๆ นางและลั่วหวยหลี่ได้ติดต่อกันมากที่สุดก
ระหว่างเนี่ยนชูและเฉิงเจ๋อมีสายสัมพันธ์ส่วนตัว?จางเหวินย้อนนึกถึงช่วงเวลาที่เนี่ยนชูและเฉิงเจ๋ออยู่ด้วยกันในแต่ละวัน นางรู้ว่าเนี่ยนชูชอบอยู่กับเฉิงเจ๋อมาก ออกไปข้างนอกด้วยกันเป็นปกตินางคิดมาโดยตลอดว่านั้นคือสายสัมพันธ์พี่น้อง ไม่เคยคิดถึงความเป็นไปได้อย่างอื่น ทว่าลองคิดดูอย่างละเอียดแล้ว เนี่ยนชูถึงวัยแต่งงานแล้ว กลับไม่มีความรักแรกแย้มของหญิงสาว คู่ดูตัวที่แนะนำให้ล้วนถูกนางปฏิเสธไปจนหมด ไม่ยอมกระทั่งไปพบหน้าสักครั้งเฉิงเจ๋อยิ่งไม่ต้องพูดมาก ทว่าเขาเป็นคนคิดมากตั้งแต่เด็ก ทีแรกก็บอกว่าทั้งหมดยังรอให้สอบผ่านก่อนค่อยว่ากันก่อนมีชื่อเสียงและเกียรติยศ เขาไม่คิดเรื่องแต่งงาน ไม่อยากให้ทั้งหมดต้องสูญเปล่า นี่ทำให้น้าอย่างนางต้องวุ่นวายกับการเตรียมความพร้อมทั้งหมดเพราะเหตุนี้ นางไม่ได้เร่ง จนกระทั่งตอนนี้เฉิงเจ๋อเป็นขุนนางแล้ว นางถึงให้เขาไปดูตัวกับแม่นางหวงแม่นางหวงไม่ว่าชาติกำเนิด รูปโฉมหรืออุปนิสัยล้วนไม่เลว มิหนำซ้ำก่อนหน้านี้หวงฮูหยินเองก็พูดกับนางจนเข้าใจแล้ว แม่นางหวงลอบมีใจมาตั้งนานแล้ว หากได้อยู่ร่วมกันก็เป็นเรื่องดีที่สุดในสายตาของนาง นี่คืองานแต่งที่ดีมาก ทว่าเฉิงเ
ส่วนบิดานาง พรุ่งนี้ก็ต้องเข้าวังอธิบายเรื่องทั้งหมดเช่นเดียวกันอวิ๋นเนี่ยนชูเข้าใจแล้ว พูดว่า “ข้าได้ยินว่าเรื่องอุทกภัยในครั้งนี้ร้ายแรงมาก ครั้งนี้พวกเจ้าสามารถกลับมาได้โดยเร็ว อยู่เหนือความคาดหมายของข้าจริงๆ”“ทว่าเห็นเจ้ากลับมาได้ข้าดีใจมากจริงๆ ที่ผ่านมายามเจ้าอยู่ข้ากลับไม่รู้สึกอะไร ระยะนี้เจ้าไม่อยู่ ข้ารู้สึกคล้ายไม่มีที่พึ่งทางใจก็มิปาน”“บัดนี้ข้ากลับมาแล้ว เจ้าสามารถวางใจได้” ซ่งรั่วเจินหัวเราะเบาๆ “หากมีเรื่องไม่สบายใจ อย่าเก็บไว้คนเดียว จำไว้ว่าต้องมาหาข้า”อวิ๋นเนี่ยนชูพยักหน้า “ต่อให้เจ้ารำคาญ ข้าก็จะมา”ขณะกำลังพูดอยู่นั้น อวิ๋นเฉิงเจ๋อเองก็มาแล้ว“เฉิงเจ๋อเองก็มาแล้ว คนมาครบแล้ว เริ่มงานเลี้ยงได้!” กู้หรูเยียนพูดยิ้มๆยามอวิ๋นเนี่ยนชูได้ยินชื่ออวิ๋นเฉิงเจ๋อก็เลื่อนสายตาไปมองโดยไม่รู้ตัว แต่ชั่วขณะสอดประสานสายตากับฝ่ายชาย แววตาหม่นลง มากที่สุดกลับเป็นความเด็ดเดี่ยวและเป็นฝ่ายเลื่อนสายตาก่อนก่อนหน้านี้รั่วเจินหมั้นหมายกับหลินจือเยว่สองปี รู้ว่าไม่เหมาะสมกันก็สามารถถอนหมั้นได้อย่างไม่ลังเล ส่วนนางบัดนี้พยายามอย่างเต็มที่จนเจอทางตันแล้ว หากยังไม่หันหลังกลับ หรื
อวิ๋นเนี่ยนชูถูกคำพูดของซ่งรั่วเจินทำให้ตกใจ “บัง บังคับพากลับมา?”“ใช่แล้ว”ซ่งรั่วเจินพูดด้วยท่าทางมีเหตุผล บ่อยครั้งที่คนมักถูกความคิดของตนจองจำเอาไว้ แท้จริงแล้วกระโดดออกมามองดู มากมายหลายเรื่องก็ไม่ได้ร้ายแรงถึงเพียงนั้น“รั่วเจิน บัดนี้เจ้าเปลี่ยนไปมาก แต่ข้าคิดว่าเจ้าพูดถูก!”อวิ๋นเนี่ยนชูนึกถึงสถานการณ์ยามซ่งรั่วเจินถอนหมั้น ทุกคนล้วนพูดว่านางไม่มีวันหาคู่ครองที่ดีได้อีก ทว่าบัดนี้ฉู่อ๋องดีต่อนางมาก พวกเขาล้วนเห็นอยู่ในสายตาบางทีนางก็สมควรคิดให้ตก ในเมื่อไม่อาจฝืนเด็ดแตงลูกนี้อย่างญาติผู้พี่ได้ เช่นนั้นก็เปลี่ยนแตงลูกใหม่!ไม่ช้าก็เร็วจะต้องได้พบแตงที่เหมาะสมแน่!เห็นอารมณ์ของอวิ๋นเนี่ยนชูเริ่มสงบลง คล้ายคิดตกแล้วจริงๆ ซ่งรั่วเจินถึงพูด “วันนี้อนุอวิ๋นสร้างความวุ่นวายภายในจวน พูดว่าเจ้าชอบอวิ๋นเฉิงเจ๋อ ข้านี่ถึงตั้งใจมาแจ้งเจ้า”“อะไรนะ?”สีหน้าอวิ๋นเนี่ยนชูเปลี่ยนไป ที่ผ่านมานางเคยคิดมาก่อนว่าหากญาติผู้พี่เองก็ชอบนาง นางจะบอกเรื่องทั้งหมดกับมารดาบัดนี้นางคิดจะปล่อยมือแล้ว อนุอวิ๋นกลับเปิดเผยเรื่องนี้ต่อหน้ามารดา นี่จะยังไม่เกิดปัญหาอีกหรือ?“ข้าเห็นท่าทีของท่านป้า
“ข้าคิดว่าข้าคล้ายกำลังฝันหนึ่งตื่น รักข้างเดียวมานานหลายปีถึงเพียงนี้ บัดนี้สมควรตื่นจากฝันแล้ว”สุ้มเสียงของอวิ๋นเนี่ยนชูเรียบเฉยอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน “อันที่จริงข้าใคร่ครวญอยู่ภายในห้องนานมาก แท้จริงแล้วข้ามควรเข้าใจตั้งนานแล้ว เพียงแต่หลอกตนเองจึงไม่ยอมปล่อยมือมาโดยตลอด” “เจ้าคิดจะปล่อยมือแล้วหรือ?” ซ่งรั่วเจินเอ่ยถามอวิ๋นเนี่ยนชูพยักหน้า “บัดนี้ความจริงอยู่เบื้องหน้าแล้ว ทั้งยังเคยพยายามอย่างเต็มที่มาก่อน ภายในใจเขาไม่มีข้า ข้าตอแยเขาก็รังแต่จะทำให้เขารังเกียจ”ซ่งรั่วเจินนึกถึงอวิ๋นเนี่ยนชูที่ตายอย่างอนาถในชาติก่อน หรือว่าสิ่งที่อวิ๋นเฉิงเจ๋อทำทั้งหมดล้วนเป็นเพียงแค่ความรักของพี่น้อง?“ไม่ว่าเจ้าทำอันใด ข้าล้วนสนับสนุนเจ้า”ซ่งรั่วเจินกุมมืออวิ๋นเนี่ยนชู พูดว่า “สุดหล้าฟ้าเขียวมีที่ใดไร้บุปผา ไฉนเลยจะต้องยึดติดกับบุปผาเพียงดอกเดียว บุรุษที่ดีในเมืองหลวงมีมากมายนัก เขาไม่รู้จักถนอมไว้ พวกเราก็ไปหาบุรุษที่ดียิ่งกว่าคนอื่น”“เจ้าดีถึงเพียงนี้ บุรุษที่ชมชอบเจ้าภายในเมืองหลวงมีมากมายนัก!”อวิ๋นเนี่ยนชูหลุดหัวเราะออกมา “ข้าดีอย่างที่เจ้าพูดที่ใดกัน? บัดนี้ข้าตกอยู่ในสถานการณ
หากกำหนดงานแต่งของคุณชายอวิ๋นเรียบร้อยแล้ว นางจะต้องทุกข์ทรมานอย่างมากแน่ซ่งรั่วเจินเข้าใจ “อวิ๋นเฉิงเจ๋อเป็นอะไรไป? เจ้าทึ่มคนนี้เตรียมแสดงความกตัญญู แต่ทำผิดต่อเนี่ยนชูกระนั้นหรือ?”ยามซ่งรั่วเจินได้พบอวิ๋นเนี่ยนชูก็พบว่าดวงตาของนางแดงก่ำ เห็นได้ชัดว่าเพิ่งผ่านการร้องไห้มา“รั่วเจิน เจ้ากลับมาตั้งแต่ยามใด?”ใบหน้าเล็กของอวิ๋นเนี่ยนชูสะท้อนแววดีใจระคนประหลาดใจ สืบเท้าขึ้นมาอย่างว่องไว จับนางพลางสำรวจอย่างละเอียดหนึ่งรอบ “ผอมแล้ว อยู่ข้างนอกจะต้องลำบากมากแน่กระมัง?”“เจ้าอยู่แต่ในจวน ข้าเห็นว่าเจ้าผอมกว่าข้ามากนัก”ซ่งรั่วเจินมองเห็นอวิ๋นเนี่ยนชูขมวดคิ้วแน่นไม่ยอมคลายออกจากกัน ถอนหายใจหนักๆ “พูดกับข้าเถอะ ตกลงเกิดเรื่องใดขึ้น?”“เจ้าเพิ่งกลับมา ไม่พักผ่อนดีๆ เหตุใดยังมาใส่ใจกับเรื่องของข้าอีกเล่า?” อวิ๋นเนี่ยนชูเอ่ยถามอย่างอดไม่ได้“เจ้าเป็นพี่น้องที่ดีของข้า ข้าไม่ใส่ใจเจ้าจะใส่ใจใครอีกเล่า?” ซ่งรั่วเจินมองนางอย่างระอา จูงนางเดินไปนั่งที่ฝั่งหนึ่ง“เดิมทีข้าก็นั่งเรือกลับมา ไม่เหนื่อย เพียงแต่กินที่ภายนอกไม่ดีเท่าที่บ้าน อยู่ดูแลที่บ้านสองสามวันก็อ้วนกลับมาได้แล้ว ระหว่างทาง
“คุณหนู นี่พวกเราจะไปที่ใดกันเจ้าคะ?” “เจ้ารู้ไหมว่าตอนนี้เนี่ยนชูอยู่ที่ใด?” ซ่งรั่วเจินถามขึ้น เฉินเซียงคิดครู่หนึ่ง แล้วตอบว่า “ตอนนี้คุณหนูอวิ๋นคงจะอยู่ที่ที่พักกระมังเจ้าคะ?” “พวกเราไปหาเนี่ยนชูก่อน! จริงสิ ในช่วงที่ข้าจากไป เมืองหลวงเกิดเรื่องอะไรขึ้นบ้าง เจ้าเล่าให้ข้าฟังที” ซ่งรั่วเจินนึกถึงหญิงสาวแปลกหน้าที่เห็นอยู่ข้างกายใต้เท้าอวิ๋นก่อนที่จะกลับมายังเมืองหลวง ดูจากท่าทีแล้ว...คงจะสนิทสนมกันอยู่บ้าง เฉินเซียงได้ยินเช่นนั้น ก็เริ่มเล่าออกมาไม่หยุดทันที “คุณหนู ในช่วงที่ท่านจากไป เมืองหลวงได้เกิดเรื่องขึ้นไม่น้อยเลยเจ้าค่ะ เรื่องวุ่นวายในสกุลอวิ๋นก็มีเข้ามาไม่หยุดหย่อน” “ไป๋หย่าเหลียนกำลังจะได้แต่งงานเป็นฮูหยินของใต้เท้าอวิ๋นในอีกไม่ช้านี้ ส่วนความสัมพันธ์ของอนุอวิ๋นกับนางไม่จะลงรอยกันนัก วันนี้ก็มาก่อกวนฮูหยินถึงที่เลยเจ้าค่ะ” “ข้าเห็นว่าไป๋หย่าเหลียนอายุน้อยกว่าใต้เท้าอวิ๋นมาก เหตุใดจึงต้องแต่งงานกับเขาล่ะ?” ซ่งรั่วเจินแอบตกใจ ช่างเป็นดอกไม้สดที่ปลูกอยู่บนขี้วัวจริงๆ! “แม่นางไป๋ผู้นั้นก็มิใช่คนที่จะรับมือได้ง่าย ๆ ได้ยินมาว่าก่อนหน
“เอาล่ะ เอาล่ะ กลับมาปลอดภัยก็ดีแล้ว!” ฮูหยินผู้เฒ่ากู้มองซ่งหลินด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรู้สึกขอบคุณ “แม่ทัพซ่ง พวกเรามีวาสนาที่พิเศษต่อกันจริง ๆ ลูกสาวของข้าตกทุกข์ได้ยากอยู่ข้างนอก หลายปีมานี้ต้องขอบคุณท่านที่ดูแลนาง” “หากไม่มีท่าน ข้าก็ไม่กล้าคิดเลยว่าหรูเยียนจะต้องใช้ชีวิตอย่างไรในตอนนี้” ท่าทีของสกุลหลิ่วที่มีต่อกู้หรูเยียนในช่วงหลายปีที่ผ่านมา นางย่อมรู้ดี หากไม่ใช่เพราะหรูเยียนโชคดีที่ได้แต่งงานกับซ่งหลิน ซ่งหลินปกป้องนางสุดหัวใจ หากนางแต่งงานกับคนอื่น และมีพ่อแม่ที่เป็นผีดูดเลือดเช่นนี้ เกรงว่าหรูเยียนอาจไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตอนนี้ชีวิตของนางจะลำบากเพียงใด “ท่านแม่ยาย การได้แต่งงานกับหรูเยียนถือเป็นวาสนาของข้า!” ใบหน้าของซ่งหลินเต็มไปด้วยรอยยิ้ม “ดูลูก ๆ เหล่านี้ของข้าสิ หากไม่มีหรูเยียน ข้าจะได้มีวาสนาเช่นนี้งั้นหรือ?” “ครั้งนี้ที่เมืองผิงหยาง บรรดาผู้ใต้บังคับบัญชาของข้า เมื่อเห็นว่าลูก ๆ มารับข้าด้วยตัวเอง ไม่รู้ว่าแต่ละคนต่างอิจฉาข้าขนาดไหน!” ทุกคนที่มองเห็นท่าทางดีใจจนไม่สามารถซ่อนความรู้สึกได้ของซ่งหลิน ก็สัมผัสได้ถึงความภาคภูมิใจของเขา ทั
แต่ตอนนี้เมื่อเห็นว่านางยิ่งได้ใจ ก่อเรื่องวุ่นวายซ้ำแล้วซ้ำเล่า เขาจึงดูต่อไปอีกไม่ไหวแล้ว! “ไม่ ไม่นะ!” อนุอวิ๋นหน้าถอดสี “ท่านทำกับข้าเช่นนี้ได้เยี่ยงไร?” “ความอดทนของข้าที่มีต่อเจ้าถึงขีดสุดแล้ว เจ้ามิรู้จักสำนึกผิด เช่นนั้นเจ้าก็ปิดเรือนสำนึกตนให้ดีเถิด!” ไป๋หย่าเหลียนก้าวเข้าไปตรงหน้าอวิ๋นหงหล่าง นางมีท่าทางอ่อนหวาน “หงหล่าง ข้าได้ยินว่านางวิ่งโร่มาถึงจวนซ่งเพื่อก่อกวนซ่งฮูหยินและพี่จาง ข้าถึงได้มาที่นี่” “ข้าเข้าใจแล้ว” อวิ๋นหงหล่างพยักหน้า จางเหวินมองภาพตรงหน้านิ่ง ๆ นางเห็นสีหน้าที่คุ้นตาบนใบหน้าของอวิ๋นหงหล่าง และรู้สึกว่ามันแทบจะทับซ้อนกับภาพเมื่อหลายปีก่อน ที่แท้ ตลอดหลายปีมานี้ อวิ๋นหงหล่างก็ไม่เคยเปลี่ยนไปเลย เขาไม่ได้ชอบอนุอวิ๋น แต่ที่ผ่านมา เขาชื่นชอบสตรีประเภทนี้ต่างหาก บัดนี้เมื่อไป๋หย่าเหลียนที่ทั้งอ่อนวัยและสดใหม่เข้ามา อนุอวิ๋นก็หมดความหมายไปโดยปริยาย “ใต้เท้าอวิ๋น ท่านควรดูแลอนุอวิ๋นให้ดี วันนี้นางวิ่งโร่มาก่อกวนถึงหน้าจวนพวกเรา คนที่ไม่รู้ก็คงจะคิดว่าจวนซ่งของพวกเราทำเรื่องที่ไม่ดีต่อนาง ถึงขนาดไม่อยากให้เข้ามาก็ยังไม่ได้”
ราชวงศ์ฉู่โยว เมืองหลวงเกี้ยวเจ้าสาวสองหลังหยุดเรียงกันหน้าประตูจวนหลินโหว ตามมาด้วยเสียงประทัดฆ้องกลอง ครึกครื้นมากเป็นพิเศษแขกเหรื่อมาร่วมงานเห็นภาพนี้แล้วก็ตกตะลึง “เหตุใดมีเกี้ยวเจ้าสาวสองหลังกันเล่า?”“แม่นางห้าสกุลซ่ง—ซ่งรั่วเจิน รอหลินโหวมานานสองปี ดูแลงานทั้งจวนโหวแทนเขา บัดนี้หลินโหวคว้าชัยชนะกลับมา ตบแต่งแม่นางซ่งก็คือเรื่องดีของเมืองหลวง แต่เกี้ยวเจ้าสาวเข้าประตูพร้อมกัน มิใช่ว่ายังแต่งกับคนอื่นด้วยหรือ?”“คุณหนู ตอนนี้จะทำอย่างไรดีเจ้าคะ?”ซ่งรั่วเจินรู้สึกเพียงเสียงดังเอะอะอยู่ข้างหูพักหนึ่ง ขมวดคิ้วอย่างไม่รู้ตัว ลืมตาทั้งสองข้างก็มองเห็นชุดแต่งงานสีแดงเข้ม?เกิดเหตุอันใดขึ้น?ชุดแต่งงานซิ่วเหอและเกี้ยวเจ้าสาวสีแดงเข้ม นี่มิใช่ขบวนแต่งงานหรอกหรือ?“ท่านโหวทำเกินไปแล้ว ก่อนนี้เขาออกรบอยู่ภายนอก หากมิได้ท่านดูแลฮูหยินผู้เฒ่า ไฉนเลยเขาจะสามารถออกรบอย่างสบายใจได้? บัดนี้กลับมาอย่างยากลำบาก เขาถึงขั้นตบแต่งฉินซวงซวงเป็นภรรยาหลวงลำดับเดียวกันในวันแต่งงาน ไม่บอกกล่าวแม้คำเดียว เห็นได้ชัดว่ากำลังรังแกคุณหนู!”เฉินเซียงยิ่งพูดยิ่งโมโห บัดนี้เกี้ยวเจ้าสาวทั้งสองหลังหยุดอ...
Comments