MY SISTER "แต่ก้อนะ...นายเป็นเกย์ คงไม่รู้หรอก" "เหอะ!!!...แค่ครั้งเดียว ช้านไม่นับ" นีรดา สุระเวช... หนูดา อายุ 26 ปี Planner บริษัท Y สวย เก่ง ฉลาด ภายนอกเข้มแข็ง แต่ข้างในอ่อนแอ่มาก ไม่ยอมคน รักความยุติธรรมเป็นที่สุด "เหอะ!!! จะลองป่ะหล่ะ" "ใครบอกครั้งเดียว...ทั้งคืนต่างหาก" ปฐพี เดชาพิพักษ์...ดิน อายุ 22 ปี เรียนวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ ที่มหาลัย A ปี 4 หล่อ ดุ เถือน รักอิสระ ชอบความเป็นส่วนตัว ไม่ชอบผูกมัด และดูเหมือนไม่ชอบผู้หญิง แต่เขาแค่รำคาญนิสัยผู้หญิงต่างหาก
View Moreอื้ออออ...อืออออฉันยกแขนบิดตัวก่อนจะค่อยๆ กะพริบตาเพื่อปรับให้เข้ากับแสงไฟ นี่ฉันเผลอหลับไปเหรอเนี่ย นานแค่ไหนแล้วนะ ดวงตาเบิกกว้างทันทีเมื่อเห็นว่ามีผู้ชายที่ไหนก็ไม่รู้มายืนจ้องหน้าอยู่ ฉันพลิกตัวหนีไปอีกทางจนลืมไปว่าตัวเองนอนอยู่บนโซฟาไม่ได้มีพื้นที่เยอะขนาดจะรองรับร่างกายฉันได้ ส่งผลให้ทั้งตัวหล่นร่วงไปกองอยู่กับพื้นตุบบบ...โอ๊ยยยย!!!!“เห่ยยย!!!”เขาร้องอุทานพลางเอื้อมมือจะคว้าตัวฉัน..แต่ไม่ทัน ฉันยันตัวลุกขึ้นนั่ง เอามือลูบตามเนื้อตัวที่มีร่องรอยการตกกระทบนิดหน่อย นิ่วหน้า ซูดปาก ตกลงมาแค่นี้ก็เจ็บเหมือนกันนะเนี่ย ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าบุคคลปริศนาอยู่ในบ้านด้วย ฉันรีบดีดตัวลุกขึ้นยืนแล้วถอยหลังไปทางห้องครัวเพื่อหาอะไรป้องกันตัว โดยที่ยังจ้องคนคนนั้นอยู่ แต่เห็นหน้าเขาไม่ชัดเท่าไรเพราะไม่ได้ใส่แว่น ยิ่งไฟในห้องนี้เป็นแสงสลัว ยิ่งทำให้ฉันแทบจะไม่เห็นหน้าเขาเลย ฉันเอื้อมมือไปควานหาบางอย่างบนเคาน์เตอร์ครัวก่อนจะหยิบกรรไกรมากำไว้ในมือแน่น ในจังหวะเดียวกันผู้บุกรุกก็ค่อยๆ ก้าวเข้าหาและฉันถอยหนีปึกกกก!!!ความเย็นของประตูตู้เย็นทำให้ฉันสะดุ้งเล็กน้อย นั่นแปลว่าฉันถอยไปอีกไม่ได้แล้ว เขาย
[ Patapee Talk ]ขณะที่ผมกำลังนอนเล่นโทรศัพท์มือถืออยู่บนเตียงก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเดินลงบันไดมาจากชั้นบนแล้วเสียงนั่นก็เงียบไปสักพัก...ผมเลยไม่ได้สนใจอะไร นั้นคงจะเป็นผู้หญิงคนที่ป้าพิมบอกไว้ซินะ เหอะ...เป็นผู้หญิงแบบไหนกันถึงยอมมาอยู่บ้านเดียวกับผู้ชายที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน ตอนที่ป้าแกบอกผมก็ไม่ได้ขัดอะไร เพราะคิดว่าผู้หญิงคนนั้นจะต้องไม่ยอมแน่ๆ แต่มันคงเป็นคราวซวยของผมที่มาเจอผู้หญิงบ้า ที่กล้ามาอยู่กับผู้ชายสองต่อสอง...ความจริงผมย้ายออกไปอยู่คอนโดที่ป๊าซื้อไว้ให้ก็ได้นะ แต่ผมไม่อยากพึ่งพาท่านเพราะผมไม่อยากสืบทอดสิ่งที่ท่านกำลังทำอยู่ ผมไม่เห็นด้วยกับทุกอย่างที่ท่านทำ เฮ้อออออ.... เตรียมตัวไปสนามแข่งรถดีกว่า ปกติผมจะไปทำงานพาร์ทไทม์ที่ผับใกล้ๆ เนี่ยแหละ ไปบ้าง ไม่ไปบ้าง แต่หลักๆ ผมอยู่ที่สนามแข่งรถมากกว่า ที่นี่เงินดี ได้เงินง่าย และตายได้ง่ายๆ เหมือนกันแต่มีรึที่ผมจะกลัว ผมลุกขึ้นจากที่นอนเพื่อจะไปอาบน้ำแต่งตัว วันนี้ผมไม่มีเรียนบ่ายและผมก็ไม่อยากเจอยัยผู้หญิงคนนั้น ปกติผมก็ไม่ค่อยได้กลับมาบ้านนี้เท่าไร ออกไปตั้งแต่เช้ากลับเข้ามาก็ห้าทุ่มเที่ยงคืน แต่ถ้าวันหยุดก็เช้า หรือไม่ก็ไม่กลั
“คุณนีรดาร์ รึเปล่าครับ”ฉันหันไปตามเสียงเรียกขณะที่กำลังยืนหันหน้าหันหลังอยู่หน้าสนามบินเชียงใหม่ ผู้จัดการบอกว่าพอถึงที่สนามบินก็จะมีคนของบริษัทมารับ นี้คงเป็นคนของบริษัทซินะ“ค่ะ ฉันนีรดาร์”“อ๋อครับ ผมมาจากบริษัท Y ครับ มารับคุณไปส่งที่พักครับ” เขาพูดพลางเอื้อมมือมายกกระเป๋าเดินทางสองสามใบที่อยู่บนรถเข็นเพื่อขนขึ้นรถ“ขอบคุณนะคะ คุณ...เออ”“ผม...ที ครับ”ฉันเอ่ยขอบคุณเขาตามมารยาทและก็ควรรู้ชื่อเขาด้วยเพราะเราอาจได้ทำงานร่วมกันในวันข้างหน้า เขาตอบฉันกลับมาแบบยิ้มๆ มือเล็กเอื้อมไปเปิดประตูรถขึ้นไปนั่งบนเบาะด้านหลังคนขับ มีความรู้สึกเหมือนเป็นคนสำคัญเลยแฮะ มีรถตู้มารับด้วย รถแล่นมาได้ซักประมาณครึ่งชั่วโมงได้แหละมั้งก่อนจะมาหยุดนิ่งอยู่หน้าบ้านหลังหนึ่ง ที่ดูภายนอกมันอาจจะเล็กไปหน่อยแต่ก็น่าอยู่ดีนะ สะอาดสะอ้าน น่าจะมีคนค่อยดูแลแน่ๆ ดีเลย ฉันเป็นพวกไม่ชอบทำงานบ้านสักเท่าไร ก็ส่วนมากแม่จะทำให้นี่นา“ถึงแล้วครับ” พี่คนขับที่ชื่อที..คนนั้นหันมาบอกฉัน แล้วหันกลับไปเปิดประตูลงจากรถเดินไปเปิดกระโปรงหลังเพื่อขนของลง ฉันจึงเปิดประตูลงมาจากรถ อากาศที่นี่ดีจัง ไม่ร้อนอบอ้าวหรืออาจเป็นเพราะยังเช
ซ่าาาา……...ปึกอร๊ายยยยย!!!!!ทันที...ที่น้ำในแก้วที่ฉันถือมาลอยไปอยู่บนหน้าของผู้หญิงคนนั้นจนหมด แก้วเปล่าถูกวางลงบนโต๊ะอย่างแรงเพื่อแสดงให้กลุ่มคนตรงหน้ารู้ว่าฉันโกรธมาก และตามมาด้วยเสียงกรี๊ดของหญิงสาววัยแรกรุ่นที่เพิ่งเข้ามาทำงานได้ไม่กี่เดือน แต่ดันปากดี ฉันไม่รู้หรอกว่ายัยนี้เด็กใคร แต่คงเส้นใหญ่มากถึงได้มาทำงานที่นี่ได้ เพราะเธอทำงานไม่ได้เรื่องเอาซะเลย ขนาดฉันที่ทั้งสวยและเก่ง กว่าจะเข้าได้ก็แทบแย่ แต่เพราะอารมณ์ไง ไม่แคร์อะไรทั้งนั้น แล้วเป็นไงล่ะทีเนี้ย เฮ้ออออ!!!“คุณนีรดาร์ เข้าใจที่ผมพูดใช่ไหม”“คุณนีรดาร์!!!!!”“คะๆๆๆๆ”เสียงตะคอกของผู้จัดการทำให้ฉันหลุดจากภวังค์ หลังจากที่จัดการยัยเด็กนั่นเรียบร้อย ฉันก็ถูกเรียกเข้ามาในห้องเย็นเกือบชั่วโมงและไม่มีท่าทีว่าจะได้ออกไป ถ้าเทียบกับสมัยเป็นนักเรียนก็คงหมายถึงห้องปกครองที่ไม่มีใครอยากเข้ามา แต่ฉันจับใจความที่คุณผู้จัดการพูดไม่ได้สักอย่างเพราะมัวแต่คิดถึงคำที่ยัยนั่นพูด ยิ่งคิดก็ยิ่งแค้น แต่เอ๊ะ...เมื่อกี้เหมือนได้ยินย้ายๆ อะไรย้าย“ผู้จัดการว่ายังไงนะคะ”“เฮ้อออ!!! ผมบอกว่า คุณต้องย้ายไปประจำที่เชียงใหม่” เขาถอนหายใจแรงหนึ่งคร
Comments