Share

บทที่ 10

Author: จี้เวยเวย
เฉินเซียงตกตะลึง “คุณหนู นี่อาจจะเป็นเรื่องเข้าใจผิดหรือไม่เจ้าคะ?”

“เจ้าดูสิ ชุดที่นางใส่อยู่เป็นผ้าแบบเดียวกับคนใช้ของฉินซวงซวง คนรู้ก็รู้ว่าเจ้าเป็นสาวใช้ของข้า แต่คนไม่รู้คงคิดว่าเจ้าเป็นสาวใช้ของนาง!”

ซ่งรั่วเจินมองด้วยสายตาเย็นชา ตอนที่อ่านนิยายนางก็รู้เรื่องนี้แล้ว เหตุผลที่ฉินซวงซวงรู้เรื่องของตัวเอกคนเดิมได้ดี เพราะนางได้วางคนเอาไว้ใกล้ตัวนางเอกมานานแล้ว

เมื่อคิดดูอย่างละเอียด เพ่ยหลานก็คือสาวใช้ที่ ‘ท่านน้าคนดี’ ของนางเลือกมาให้โดยเฉพาะ

นอกจากนี้ ตั้งแต่ที่นางทะลุมิติมา ก็ได้ตรวจร่างกายอย่างละเอียด พบว่าสุขภาพแข็งแรงดี ไม่มีปัญหาใด ๆ แต่ตัวเอกหลังจากแต่งงานกับหลินโหวเพียงสองปีก็เสียชีวิต

ก่อนหน้านี้ที่อ่านนิยายนางไม่ได้คิดเรื่องนี้ เพียงคิดว่าไม่ได้รับความรักจากสามี และทำงานหนักเพื่อจวนหลินโหวจนป่วย แต่ตอนนี้พอคิดถึงวิธีการที่โหดร้ายและเพ่ยหลานที่อยู่ข้างกาย เกรงว่าอาจมีสาเหตุการตายที่น่าสงสัยกว่านั้น มิใช่เพราะร่างกายอ่อนแอ แต่เพราะมีคนไม่อยากให้นางมีชีวิตอยู่ต่างหาก!

คนชั่วช้าเช่นนี้ต้องรีบจัดการออกไปโดยเร็ว!

“พวกเจ้า นำตัวเพ่ยหลานไปตระกูลหลิ่ว!” ซ่งรั่วเจินยกมือขึ้นสั่งให้คนมาปิดปากเพ่ยหลานแล้วส่งตัวออกไป

“คุณหนูเจ้าคะ เพ่ยหลานถูกฉินซวงซวงซื้อตัวไปแล้วจริงหรือ? ฉินซวงซวงเพิ่งกลับมามิใช่หรือเจ้าคะ? นางจะซื้อตัวเพ่ยหลานได้อย่างไร?”

ดวงตาของเฉินเซียงเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ แต่เมื่อคิดอย่างละเอียดก็รู้สึกหวาดกลัว ฉินซวงซวงที่ดูอ่อนแอกลับมีวิธีการที่ร้ายกาจเช่นนี้ได้อย่างไร?

“เจ้าคิดว่าข้าพูดเหลวไหลหรือ?” ซ่งรั่วเจินหัวเราะเบา ๆ แล้วถามกลับ นางรู้ว่าเฉินเซียงภักดีต่อตัวเอกคนเดิม น่าเสียดายที่สุดท้ายก็ไม่ได้มีจุดจบที่ดี กลับเป็นเพ่ยหลานที่กลายเป็นคนของฉินซวงซวงเต็มตัวและมีชีวิตสุขสบาย

เฉินเซียงส่ายหน้า เอ่ยอย่างโกรธจัด “บ่าวก็คิดว่าวันนี้นางพูดจาน่ารำคาญ ปากก็ช่วยพูดแทนจวนหลินโหว แต่บ่าวไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าถ้าถูกฉินซวงซวงซื้อตัวไปแล้ว เช่นนั้นมิใช่ว่าควรหาวิธีหยุดยั้งไม่ให้คุณหนูแต่งงานไปมิใช่หรือเจ้าคะ?”

“เหตุใดพอตอนนี้ไม่แต่งไป พวกเขากลับร้อนใจ?”

“เพราะพวกเขาเสียดายเงินของตระกูลซ่ง เจ้าก็เห็นสภาพจวนหลินโหวในยามนี้ บัญชีแทบไม่มีเงินเลย แม้ฉินซวงซวงจะเป็นคุณหนูตระกูลฉิน แต่ฮูหยินฉินเป็นภรรยาคนใหม่ นางไม่ได้รับการยกย่องในตระกูลมากนัก”

“ตอนนี้นางแต่งงานกับหลินโหว สินสอดย่อมไม่มาก หลินจือเยว่ยังประกาศต่อหน้าขุนนางทั้งหมดว่าจะรับใช้ราชสำนัก ไม่ยอมรับทองคำและสมบัติล้ำค่าที่ฮ่องเต้พระราชทาน ทำให้ได้ชื่อเสียงที่ดีว่าเป็นคนสุจริต”

“ชื่อเสียงภายนอกฟังดูดี แต่การจะใช้ชีวิตก็ต้องใช้เงินไปทุกที่ จึงวางแผนไว้ที่ข้า คิดว่าข้าจะทนยอมรับการเสียเปรียบนี้อย่างบื้อใบ้”

เมื่อซ่งรั่วเจินเล่าความจริงออกมา เฉินเซียงก็รู้สึกขนลุกไปทั่วร่าง “คุณหนู โชคดีที่คุณหนูไม่ได้แต่งออกไป หลินโหวช่างกินคนไม่เหลือกระดูกจริง ๆ ! เขาไร้ยางอายถึงเพียงนี้ วันนี้ยังมีท่าทางหยิ่งยโสเช่นนั้นอีก คนเช่นนี้คู่ควรต่อการเป็นขุนนางคนสำคัญในราชสำนักหรือ?”

“ไม่ต้องกังวล ข้าก็ยังไม่ได้แต่งออกไปนี่” ซ่งรั่วเจินตบไหล่เฉินเซียง พลางยิ้มบาง ๆ

“คุณหนู เพ่ยหลานทำเรื่องทรยศลืมบุญคุณเช่นนี้ การส่งนางไปแต่งงานเช่นนี้ไม่ง่ายไปหรือเจ้าคะ?” เฉินเซียงยังไม่สามารถยอมรับได้ พวกนางเติบโตมากับคุณหนูตั้งแต่เล็ก ไยจึงทรยศคุณหนูเพียงเพราะเงินแค่เล็กน้อยได้เล่า?

“ในเมื่อนางถูกซื้อตัวไปแล้ว ต่อให้ทุบตีและขายนางออกไปก็จะถูกตระกูลหลิ่วหรือฉินซวงซวงซื้อตัวกลับไป ถึงตอนนั้นข้าก็จะถูกใส่ร้ายป้ายสีอีก เกรงว่าจะทำให้ชื่อเสียงที่ข้าเป็นคนขี้อิจฉาและใจแคบเป็นจริง”

“ตอนนี้ในจวนเรากำลังมีเรื่องมากมาย มีสายตาหลายคู่จับจ้อง ไม่สู้ส่งนางกลับไปตระกูลหลิ่วเสีย ภรรยาของพ่อบ้านหลิ่วไม่ใช่คนที่อยู่ด้วยง่าย ๆ พวกเราไม่ต้องลงมือเอง นางก็ต้องทนทุกข์ทรมานเป็นแน่”

ในดวงตาซ่งรั่วเจินมีประกายเย็นวาบ ท่านน้าส่งเพ่ยหลานมาอยู่ข้างกายนาง ตอนนี้นางก็ส่งคนกลับไปอย่างครบสามสิบสอง!

นอกจากนี้ พูดถึงพ่อบ้านหลิ่วผู้นี้ก็มีความน่าสนใจ คนอื่นอาจไม่รู้ แต่นางรู้ว่าเหตุผลที่เขาสามารถเป็นพ่อบ้านตระกูลหลิ่วได้ในอายุแค่นี้ ไม่ใช่เพราะความสามารถโดดเด่น แต่เพราะมีความลับบางอย่าง

ท่านน้าโจมตีพวกเขาอย่างต่อเนื่อง โศกนาฏกรรมของครอบครัวนางเอกมีส่วนมาจากคนผู้นั้นไม่น้อย ตอนนี้นางมาแล้ว นางจะเอาคืนอย่างสาสม!

“จริงสิ เก็บของของนางให้เรียบร้อย แล้วส่งของขวัญเพิ่มเติมจากข้าไปพร้อมกันเลย!”

“จำไว้นะ ของสิ่งนี้ส่งให้ถึงมือเพ่ยหลาน อย่าเปิดเอง”

เฉินเซียงสงสัยว่ามีอะไรอยู่ข้างใน แต่เมื่อได้ยินคำพูดของคุณหนูก็รีบล้มเลิกความคิด แค่รู้สึกว่าท่าทางของคุณหนูจริงจังมาก นางจึงไม่กล้าทำตามใจตนเอง

ทั้ง ๆ ที่เป็นคุณหนูที่คุ้นเคย แต่ไม่รู้ว่าเหตุใดในวันนี้กลับรู้สึกเหมือนว่าคุณหนูเปลี่ยนไป ในอดีตเพ่ยหลานก็ทำเรื่องผิดพลาดไม่น้อย นางทนดูไม่ไหวจึงเอ่ยเตือนคุณหนูอยู่บ่อยครั้ง ทว่าคุณหนูก็ให้อภัยเพราะเห็นแก่ท่านน้า นานวันเข้านางก็ไม่พูดเตือนอีก

แต่วันนี้...ช่างสะใจเสียจริง!

เช้าวันต่อมา ซ่งรั่วเจินตื่นแต่เช้าตรู่ ตั้งใจจะไปหาไต้ซืออวิ๋นสุ่ยเพื่อสะสางเรื่องราว แต่ไม่คิดว่าจะมีคนมาเยือนเช้ากว่า

“น้องหญิง ข้าได้ยินเรื่องเมื่อวานแล้ว ดูสิ เรื่องนี้ใหญ่โตมากจนทั้งเมืองหลวงรู้กันหมด แม้ว่าการที่หลินโหวจะแต่งงานกับแม่นางตระกูลฉินพร้อมกันจะไม่เหมาะสม แต่รั่วเจินประกาศถอนหมั้นที่หน้าจวนหลินโหว มันผิดธรรมเนียมเกินไปแล้ว เช่นนี้จะให้จวนหลินโหวเอาหน้าไปไว้ที่ไหน”

“ตอนนี้ทุกคนต่างพูดว่ารั่วเจินขี้อิจฉา ไม่มีความใจกว้าง ทำให้ชื่อเสียงเสื่อมเสีย แล้วจะทำอย่างไรต่อไปดี?”

หลิ่วเฟยเยี่ยนมีสีหน้ากังวล พูดปลอบโยนอย่างใจดี “ข้าได้ยินว่าฮูหยินผู้เฒ่าหลินและหลินโหวมาขอโทษเมื่อวานนี้ สองปีที่ผ่านมาพวกเจ้าก็เข้ากันได้ดี เหตุใดต้องไม่พอใจกันเพราะเรื่องเล็กน้อยแค่นี้ด้วย?”

“หลินโหวเป็นสามีที่ดีขนาดนี้ หลายตระกูลต่างอิจฉา รั่วเจินกลับทำให้ความมั่งคั่งมหาศาลนี้หลุดมือไป เจ้าไม่คิดว่าสิ้นคิดไปหน่อยหรือ?”

“น้องหญิง ไม่ต้องพูดถึงเรื่องนี้อีกแล้ว หลินโหวมีคนรักอยู่แล้ว ต่อให้รั่วเจินแต่งงานไปก็ไม่ได้รับการใส่ใจ ในเมื่อทำให้เรื่องใหญ่โตขนาดนี้แล้ว เช่นนั้นก็ถอนหมั้นให้จบไปเถิด”

หลิ่วหรูเยียนโบกมือ นางนอนไม่หลับทั้งคืน ครุ่นคิดตลอดทั้งราตรี ทว่าไม่เสียใจที่ยกเลิกการหมั้นครั้งนี้ เพียงแค่รู้สึกไม่ยุติธรรมแทนรั่วเจิน

นางเสียเวลาไปกับหลินโหวถึงสองปี เสียช่วงเวลาที่ดีที่สุดของชีวิต และโทษตนเองในฐานะแม่ที่มองผิดไป คิดว่าจวนหลินโหวเป็นที่พึ่งพิงที่ดี

หลิ่วเฟยเยี่ยนเห็นหลิ่วหรูเยียนไม่หวั่นไหว ก็แปลกใจ “พี่หญิง ท่านเป็นอะไรไป? ข้าทำเพื่อรั่วเจินนะ หากพลาดการหมั้นหมายครั้งนี้ ต่อไปนางจะทำอย่างไร?”

“นางยังเด็ก อาจสับสนและแยกไม่ออกก็เท่านั้น แต่ท่านจะเลอะเลือนไม่ได้ ต้องคำนึงถึงนางให้ดี”

“ท่านน้าไม่ต้องเปลืองน้ำลายพูดมากแล้วเจ้าค่ะ ข้าจะไม่แต่งเข้าจวนหลินโหว” ซ่งรั่วเจินเดินเข้ามาพร้อมพูดด้วยเสียงเย็นชา

หลิ่วเฟยเยี่ยนเห็นซ่งรั่วเจินก็แสดงท่าทางเป็นมิตรทันที “รั่วเจิน เจ้ามาพอดี น้าคิดเพื่อเจ้าอย่างจริงใจ สตรีอย่างไรก็ต้องแต่งงาน สองปีมานี้เจ้ายุ่งอยู่แต่ในจวนหลินโหว ทุกคนต่างคิดว่าเจ้าเป็นฮูหยินของหลินโหว ตอนนี้การหมั้นยกเลิกไปแล้ว เกรงว่าจะไม่มีใครต้องการเจ้า”

“ไม่สู้เจ้าอดทนกล้ำกลืนไปก่อน? มีฮูหยินผู้เฒ่าหลินคอยหนุนหลังให้ก็สามารถใช้ชีวิตอย่างมีเกียรติได้มิใช่หรือ”
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 11

    “ที่ท่านน้าพูด หมายความว่าสิ่งที่ข้าทำที่จวนตระกูลซ่งวันนี้เป็นเรื่องเสื่อมเสียหรือเจ้าคะ?”ซ่งรั่วเจินมองหลิ่วเฟยเยี่ยนตรงหน้าอย่างประเมิน ท่อนบนสวมเสื้อคลุมชวีจวี [1] ตัวยาวสีเขียวน้ำทะเลปักลายโบตั๋น ท่อนล่างคือกระโปรงเนื้อบางสีเหลืองปักลายโบตั๋น ทรงผมที่จัดแต่งอย่างประณีตนั้นประดับด้วยปิ่นปักผมลวดลายโบตั๋น สร้อยมุกโมราตรงลำคอยิ่งวาววับจับตา การแต่งตัวยังหรูหรากว่ามารดาของนางเสียอีกแต่ถึงแม้หลิ่วเฟยเยี่ยนกับหลิ่วหรูเยียนจะเป็นพี่น้องแท้ๆ กัน รูปโฉมของนางกลับด้อยกว่าหลิ่วหรูเยียนชนิดทิ้งห่างกันไกลถึงตอนนี้จะสวมเครื่องประดับเต็มยศ แต่เมื่อมานั่งอยู่ข้างกายหลิ่วหรูเยียนผู้อ่อนโยนที่แต่งกายเรียบง่ายก็ยังคงเทียบไม่ติด กลับดูพะรุงพะรัง แต่งเยอะเกินงาม“รั่วเจิน น้าไม่ได้หมายความเช่นนั้น แต่เจ้าอายุเกินยี่สิบปีแล้ว เลือกคู่ครองดีๆ ไม่ได้แล้ว มิหนำซ้ำหลินโหวกำลังรุ่งโรจน์ ก่อเรื่องเช่นนี้แล้วผู้ใดจะกล้าเสี่ยงล่วงเกินหลินโหวมาสู่ขอเจ้า?”หลิ่วเฟยเยี่ยนเอ่ยราวกับปรารถนาดี หากมิใช่เพราะซ่งรั่วเจินรู้โฉมหน้าที่แท้จริงของนางแล้ว มาได้ยินถ้อยคำเปี่ยมน้ำใสใจจริงเช่นนี้เกรงว่าคงหลงเชื่อว่านาง

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 12

    เฉินเซียงที่อยู่ข้างๆ ได้ยินคำพูดคุณหนูของตนเองแล้วก็นึกขำอย่างอดไม่ได้ เมื่อวานเพ่ยหลานถูกมัดตัวส่งไปที่จวนตระกูลหลิ่วชัดๆ โดยส่งตรงถึงเรือนพักของพ่อบ้านหลิ่วเมื่อพ่อบ้านหลิ่วรู้ว่าเป็นเรื่องมงคลที่คุณหนูจัดแจงให้ก็หาได้ปฏิเสธ สานต่อเรื่องดีจนสำเร็จ พวกเขายังจดให้คนมาเฝ้าอยู่ข้างนอก ได้ยินว่าตอนแรกเพ่ยหลานไม่ยินยอม แต่ตอนหลังเสียงที่ดังออกมานั้นก็ฟังต่อไปไม่ไหวจริงๆจากคำบอกกล่าวของคนที่มารายงาน ตอนออกมาเช้าวันนี้เห็นภรรยาเอกของพ่อบ้านหลิ่วสีหน้าดำคล้ำนำคนบุกไปจัดการเพ่ยหลานอย่างเกรี้ยวกราด ได้ยินเสียงกรีดร้องน่าอนาถดังมาจากข้างหลัง รายละเอียดเป็นอย่างไรก็ไม่มีแก่ใจจะอยู่ฟังต่อไปแล้ว“นี่มันเหลวไหลชัดๆ รั่วเจิน ต่อให้งานวิวาห์ของเจ้ามีปัญหาก็ไม่ควรเอาไปลงกับคนรับใช้เช่นนี้! ดีชั่วอย่างไรเพ่ยหลานก็ติดตามเจ้ามาหลายปี เจ้าทำลายชีวิตนางเช่นนี้ไม่เกินไปหน่อยหรือ?”หลิ่วเฟยเยี่ยนพลันนึกโมโห เดิมเข้าใจว่าแค่ส่งคนกลับไป อย่างมากแค่รอให้ผ่านไปสักพักค่อยให้กลับมาก็ได้ แต่กลายเป็นว่าแต่งให้หลิ่วเหิงไปเสียแล้ว?หลิ่วเหิงไม่ได้เป็นแค่พ่อบ้าน เตียงของเขา คนแบบเพ่ยหลานสามารถปีนขึ้นไปได้เช่นนั้

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 13

    ซ่งรั่วเจินกินอาหารมื้อกลางวันเสร็จก็ไปที่จวนตระกูลหลิ่วมองเห็นผู้คนมากมายเข้าออกประตูจวนตระกูลหลิ่วมาแต่ไกล คนไปมาหาสู่มีจำนวนไม่น้อย เมื่อเข้าไปใกล้ก็ได้ยินเสียงชมเชยเซ็งแซ่“ไต้ซือเทียนสุ่ยมีวิชาแก่กล้าจริงๆ เจ้าจำหลานชายของตระกูลจ้าวที่หมู่นี้เอาแต่ร้องไห้ไม่หยุดได้หรือไม่ หาหมอมากมายล้วนไม่เห็นผล เห็นๆ อยู่ว่าสุขภาพย่ำแย่ลงทุกทีจนแทบจะไม่ไหวแล้ว พอไต้ซือเทียนสุ่ยลงมือเท่านั้นก็หายดีเป็นปลิดทิ้ง!”“นั่นน่ะสิ หลานชายข้าพักนี้ค้าขายไม่ราบรื่น เกือบทำกิจการของตระกูลล้มละลายไปเสียแล้ว ตั้งแต่ไต้ซือเทียนสุ่ยอัญเชิญเทพเจ้าแห่งโชคลาภมาให้ ทุกวันนี้การค้าเจริญรุ่งเรือง ดีวันดีคืน!”“ตระกูลหลิ่วเองก็ไม่รู้ว่าต้องจ่ายค่าตอบแทนไปมากมายเท่าไหร่จึงสามารถเชิญไต้ซือเทียนสุ่ยมาได้ วันหน้าจะต้องได้ดิบได้ดีแน่”ได้ยินคำพูดแฝงความอิจฉาเหล่านั้น คิ้วใบหลิวของซ่งรั่วเจินก็เลิกขึ้นเล็กน้อย นางจะไปหยั่งเชิงไต้ซือเทียนสุ่ยผู้นี้ดูสักหน่อยว่ามีความสามารถจริงหรือไม่!เมื่อนางเข้าไปในจวนตระกูลหลิ่ว เห็นข้ารับใช้ในจวนกำลังจัดฮวงจุ้ยตามคำแนะนำของไต้ซือเทียนสุ่ย ก็แค่นหัวเราะในใจฮวงจุ้ยในจวนตระกูลหลิ่ว

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 14

    ไต้ซือเทียนสุ่ยมองซ่งรั่วเจินนิ่งๆ “แม่นางซ่ง หลายวันก่อนอาตมาไปดูฮวงจุ้ยที่จวนตระกูลซ่ง หมู่นี้จวนตระกูลซ่งเกิดเรื่องติดต่อกัน ใช่ว่าจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเจ้าเลยเสียทีเดียว”“อ้อ? ไหนท่านลองพูดให้ฟังที ว่าเกี่ยวข้องกับข้าอย่างไรบ้าง?”ซ่งรั่วเจินยิ้มหยัน มองคนตรงหน้าด้วยความสงบเยือกเย็น นางอยากรู้นักว่าคนผู้นี้จะแต่งเรื่องอย่างไรออกมา!“ข้าเคยดูเวลาตกฟากของเจ้ามาก่อน เจ้าชะตาอาภัพมีดวงพิฆาต หลินโหวเป็นดาวนำโชคในชีวิตเจ้า มีเพียงต้องออกเรือนให้เขาจึงจะสามารถคลี่คลายได้”“เดิมทีหลินโหวไม่มีทางแต่งเจ้า หากไม่ใช่เพราะข้าใช้วิธีการบางอย่าง แม้แต่ภรรยาหลวงเจ้าก็คงไม่ได้เป็น วันนี้เจ้าอยากอยู่อย่างสงบก็มีแต่ต้องเดินทางนี้เท่านั้น มิเช่นนั้น ดวงพิฆาตของเจ้ายังจะทำให้คนอื่นเคราะห์ร้ายไปด้วย”ได้ยินเช่นนั้น คนที่เดินตามไต้ซือเทียนสุ่ยออกมาล้วนเผยสีหน้าตื่นตกใจดวงพิฆาต นี่เป็นชะตาชีวิตที่ทุกคนหวาดกลัวที่สุด เดิมนึกว่าหลินโหวทอดทิ้งซ่งรั่วเจินเป็นการปฏิบัติต่อนางอย่างไม่เป็นธรรม แต่ดูจากตอนนี้ หลินโหวเป็นดาวช่วยชีวิตนาง นางกลับไม่รู้ดีชั่ว!“มิน่าเล่า หมู่นี้ตระกูลซ่งถึงได้เกิดเรื่องไม

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 15

    สิ้นเสียงซ่งรั่วเจิน ทุกคนก็ขมวดคิ้ว รู้สึกว่านางช่างก้าวร้าวเสียจริง ส่วนว่าของสกปรกดังกล่าวคืออะไรกลับไม่รู้เลยแม้แต่น้อยแต่เมื่อไต้ซือเทียนสุ่ยได้ยินคำพูดนั้น ใบหน้าก็พลันเปลี่ยนสี นางรู้เรื่องนี้ได้อย่างไร?หรือนางจะเข้าใจฮวงจุ้ยจริงๆ? นั่นเป็นไปไม่ได้!ความคิดนั้นเพิ่งผุดขึ้นมา ไต้ซือเทียนสุ่ยก็ปัดทิ้งไปโดยไม่ลังเล ถ้ารู้จริงก็ควรค้นพบไปนานแล้ว จะเพิ่งมาคิดบัญชีเอาป่านนี้ได้อย่างไร?“เจ้าทำอะไรของเจ้า?”น้ำเสียงแฝงความไม่พอใจเสียงหนึ่งดังขึ้น หลังจากนั้นก็มีเสียงอ่อนหวานดังตามมาติดๆ“ท่านโหว ท่านอย่าโมโหไปเลยเจ้าค่ะ เรื่องนี้อาจมีอะไรเข้าใจผิดกันก็เป็นได้”ใบหน้าเล็กจิ้มลิ้มของฉินซวงซวงฉายแววบริสุทธิ์ใจ สายตาที่มองมาทางซ่งรั่วเจินยังสะท้อนความไม่สบายใจอยู่ในนั้น “คิดว่าแม่นางซ่งคงรู้สึกไม่ดีจึงได้มาก่อเรื่องเช่นนี้ ท่านโหวอย่าถือสานางเลยนะเจ้าคะ”“ซ่งรั่วเจิน เมื่อวานข้าขอโทษเจ้าไปแล้ว เป็นเจ้าที่ไม่อยากแต่งกับข้า ไฉนตอนนี้ยังมาให้ร้ายซวงซวงอีก?”ซ่งรั่วเจินกวาดสายตาไปมองก็สบเข้ากับแววตาคาดคั้นของหลินจือเยว่ “ข้าประลองกับไต้ซือเทียนสุ่ยเกี่ยวอันใดกับฉินซวงซวง? หลินโหว สม

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 16

    ไต้ซือเทียนสุ่ยรับคำสั่งจากฉินซวงซวง สายตาที่ทอดมองซ่งรั่วเจินเองก็เจือไอเย็น สตรีผู้นี้บังอาจมาทำลายช่องทางทำมาหากินของเขา เขาจะจัดการให้หนักเลยทีเดียว!ครู่ถัดมา เขามองผีน้อยที่ตนเลี้ยงอย่างลำพองใจ เขาต้องเสียแรงไปมากถึงจะเลี้ยงออกมาได้ ยังได้รับคำชี้แนะจากผู้มีวิชาจึงมีความสามารถเช่นนี้สายตาซ่งรั่วเจินเองก็ตกลงบนตัวผีน้อย ผีน้อยตัวนี้อายุราวหกถึงเจ็ดขวบเท่านั้น เพราะถูกเลี้ยงดูอย่างดี รูปร่างกลับไม่น่ากลัว เพียงแต่กลิ่นอายชั่วร้ายยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ เห็นได้ชัดว่าคือวิญญาณอาฆาตตนหนึ่งตายอย่างไม่เป็นธรรม จึงสั่งสมไอแค้นไว้มากในฐานะคนของสำนักวิชาเต๋า เผชิญหน้ากับวิญญาณอาฆาตเช่นนี้สมควรหาวิธีกำจัดความอาฆาตพยาบาท ช่วยเหลือเขาให้ไปเกิดใหม่ในเร็ววันไต้ซือเทียนสุ่ยผู้นี้ ใช้ประโยชน์จากความอาฆาตพยาบาทเล็กน้อยนี้ ทำให้กลายเป็นกลวิธีหาเงิน“ไต้ซือเทียนสุ่ย ชาตินี้ข้ายังมีหวังจะหาตัวลูกสาวของข้าพบอีกหรือไม่?” สวีฮูหยินเอ่ยถามอย่างร้อนใจไต้ซือเทียนสุ่ยแสร้งหยิบกระดองเต่าออกมา ใส่แผ่นเหล็กสองชิ้นเข้าไปภายใน ปากบ่นงึมงำสวดคาถาขึ้นมาสกุลสวีตามหาลูกสาวคนนี้มานานนับสิบกว่าปีแล้ว ก

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 17

    “องค์ชายสาม?”ชั่วขณะหลินจือเยว่มองเห็นฉู่จวินถิง สีหน้าก็เข้มขึ้น เขายังจำได้ดี เมื่อสองปีก่อนซวงซวงปฏิเสธเขาก็เพราะฉู่จวินถิง!“ข้าได้ยินว่ามีไต้ซือวิชาล้ำเลิศของลัทธิเต๋าท่านหนึ่งเดินทางมาเมืองหลวงจึงมาดูสักหน่อย มองรูปลักษณ์ดูแล้วยอดเยี่ยมกว่าที่คิดไว้มากนัก”ใบหน้าฉู่จวินถิงประดับยิ้ม ท่วงท่าที่แสดงออกมากลับไม่ธรรมดา เห็นได้ชัดว่าเขาเพียงยืนอยู่ที่นั่น พูดคุยอย่างสนุกสนานแต่กลับสง่างามเจิดจรัส ทำให้คนไม่กล้าล่วงเกินชั่วขณะที่ฉินซวงซวงมองเห็นฉู่จวินถิง ก็ยังมิอาจควบคุมความหลงใหลที่สะท้อนภายในสายตาได้แม้กลับชาติมาเกิดอีกครั้ง ยามได้พบฉู่จวินถิงก็ยังรู้สึกโหยหาอย่างมิอาจอดกลั้น บุรุษเช่นนี้ถึงจะเป็นคนที่นางต้องการอย่างแท้จริง สูงศักดิ์ หล่อเหลา ลึกลับ นางอยากรู้เหลือเกินว่าบุรุษเช่นนี้ จะเป็นอย่างไรหากวันหนึ่งเกิดหลงใหลยอมจำนนขึ้นมา?ทว่าน่าเสียดายชาติก่อนนางเสียเวลาไปมากเพียงนั้น เดินทางผิดมากเพียงนั้น สุดท้ายก็ไม่สามารถทำให้เขาชายตาแลได้ ตรงกันข้ามกลับกลายเป็นตัวตลกในสายตาของทุกคนซ่งรั่วเจินเองก็คิดไม่ถึงว่าจะได้พบฉู่จวินถิงที่นี่ มองเห็นโชคชะตาสีแดงจนเริ่มม่วงนั้นของเขา

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 18

    หลังไต้ซือเทียนสุ่ยได้ยินคำนี้หัวใจก็เต้นตึกตัก จ้าวเหวินเทากลับย้อนคิดอย่างไม่เข้าใจ “หลานชายข้าเริ่มร้องไห้ราวเมื่อเจ็ดวันก่อน ไม่ยอมกินอะไร แม้กินแล้วก็อาเจียนออกมาอย่างรวดเร็ว...”พูดไปๆ เขาคล้ายนึกบางอย่างออกอย่างฉับพลัน ดวงตากลมโตหันมองเทียนสุ่ย “ไต้ซือเทียนสุ่ยคล้ายมาถึงเมืองหลวงในตอนนี้!”“ก่อนหลานชายท่านร้องไห้ เคยมีคนส่งของอันใดให้หรือไม่?” ซ่งรั่วเจินถามอีกครั้ง“เมื่อนั้นมีคนส่งจี้หยกหนึ่งชิ้นให้หลานชายข้าจริงๆ จี้หยกนี้ปลุกเสกมาก่อนแล้ว เป็นสมบัติชิ้นหนึ่ง เดิมทีข้าไม่อยากรับไว้ แต่เห็นหลานชายคล้ายชอบจนไม่ยอมปล่อยมือจึงสวมคอของเขาไว้แล้วเริ่มตั้งแต่วันที่สอง เด็กก็ร้องไห้ไม่หวาดไม่ไหว จนกระทั่งเมื่อสองวันก่อนข้าพาหลานชายมาพบไต้ซือเทียนสุ่ย ไต้ซือเทียนสุ่ยมอบหยกอีกหนึ่งชิ้นให้อาการจึงดีขึ้น แต่หยกชิ้นนั้นก่อนหน้านี้ไม่รู้หายไปที่ใดแล้ว”ใต้เท้าจ้าวเล่าถึงตรงนี้ ตอบสนองเชื่องช้าอย่างไรก็รู้ได้ว่าเกิดเหตุอันใดขึ้นแล้วเดิมทีนี่ก็ไม่ใช่วิธีขับไล่สิ่งสกปรกที่เกาะตัวเด็ก แต่เป็นได้รับภัยโดยไร้สาเหตุ!จี้หยกชิ้นก่อนทำร้ายเด็ก ถัดมาผ่านกลวิธีของไต้ซือเทียนสุ่ย อันที่จริงขอ

Latest chapter

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 850

    หญิงสาวใสซื่อไร้เดียงสาดุจบุปผาสีขาวบุรุษส่วนมากล้วนชมชอบหญิงสาวเช่นนี้“รอข้าเสียใจภายหลัง เจ้าอย่าให้อภัยข้าเป็นอันขาด” ซ่งจิ่งเซินพูดเสียงแผ่ว ซวยจริงๆเห็นเคอหยวนจื่อโมโหจากไปแล้ว ซ่งรั่วเจินตบบ่าซ่งจิ่งเซิน “พี่สี่ ตอนนี้ข้าสงสัยเหลือเกินหากความทรงจำของท่านฟื้นคืนกลับมาแล้วจะเสียใจภายหลังที่ได้ทำเรื่องนี้หรือไม่”“ที่ผ่านมาสมองของข้าต้องเสียไปแล้วแน่ถึงได้ชอบนาง บัดนี้คิดตกทั้งหมดแล้ว”“ความรักระหว่างข้าและนางไม่ต้องพูดถึง ก็แค่ข้าชอบนาง นางกลับไม่จริงใจต่อข้าเลยสักเศษเสี้ยว นี่จะแต่งกลับไปให้ท่านพ่อท่านแม่โมโหข้ากระนั้นหรือ?”ซ่งจิ่งเซินนึกถึงท่านลุงสามที่ตนยังไม่เคยพบหน้าก็ถูกสกุลกู้ขับไล่ไปแล้วท่านนั้น นั่นก็คือตัวอย่างอย่างไรเล่า!“ข้าได้ยินมาว่านับตั้งแต่กู้ชิงเจ๋อถูกไล่ออกมา ฮูหยินก็หย่ากลับบ้านไป หลิ่วอวิ๋นเวยเองก็ตายไปแล้ว บัดนี้ดื่มเหล้าเมามาย ใช้ชีวิตอย่างไม่มีความสุข”ซ่งรั่วเจินเลิกคิ้วเรียวยาวดุจกิ่งหลิว “เพิ่งกลับมาไม่ใช่หรือ ท่านก็รู้เรื่องมากถึงเพียงนี้แล้ว?”“ย่อมเป็นเช่นนั้น ข่าวของพี่สี่เจ้าไม่ใช่เรื่องคุยโวโอ้อวดอย่างแน่นอน ข้าไม่อยากหลงใหลไม่ลืมหูลืม

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 849

    “จิ่งเซิน ก็ถือเสียว่าในอดีตไม่มีอันใดเกิดขึ้น ก่อนหน้านี้ข้ารับปากเลือกชวีคั่วก็เพราะถูกครอบครัวบังคับ ข้าทำอันใดไม่ได้!”เคอหยวนจื่อสบมองซ่งจิ่งเซินอย่างลึกซึ้ง “ข้ายอมรับก่อนหน้านี้ข้าผิดจริง ตอนนั้นเพราะท่านอยู่ข้างกายข้ามาโดยตลอด ข้าชินชากับการมีอยู่ของท่าน ไม่รู้ว่าท่านมีความสำคัญต่อข้ามากเพียงใด”“ช่วงเวลานี้ นับตั้งแต่ท่านลืมข้าไป ข้าเจ็บปวดใจราวกับถูกมีดกรีด นี่ถึงรู้ว่าที่แท้ภายในใจข้าไม่อาจไม่มีท่านได้ ท่านสามารถมอบโอกาสให้ข้าสักครั้งได้หรือไม่?”ซ่งรั่วเจินได้ยินถ้อยคำเหล่านี้ ภายในใจสะท้อนแววนึกสนุก เหตุใดเนื้อเรื่องคล้ายภรรยาตระหนักได้จึงไล่ตามง้อสามีเลยเล่า?ในอดีตยามซ่งจิ่งเซินไล่ตามนาง นางกลับไม่รู้สึกอันใด คิดเพียงว่าซ่งจิ่งเซินเป็นคนไร้ศักดิ์ศรี บัดนี้จู่ๆ คนไร้ศักดิ์ศรีก็มีศักดิ์ศรีแล้ว นางถึงรู้ว่าชอบซ่งจิ่งเซินไปแล้ว?นางหันมองทางซ่งจิ่งเซินอย่างอดไม่ได้ อยากรู้ว่าคนคลั่งรักอย่างเขาได้รู้สถานการณ์นนี้แล้วความคิดจะเปลี่ยนไปหรือไม่ซ่งจิ่งเซินได้เห็นสายตาของซ่งรั่วเจินก็หยั่งเดาความคิดออกแล้ว กลอกตาขาวอย่างอดไม่ได้ เขาเป็นตัวโง่งมหลอกง่ายถึงเพียงนั้นเชียวหรือ?

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 848

    “นั่นเพราะเดิมทีเจ้าก็ไม่สำคัญต่อข้า ดังนั้นข้าจึงลืมไปแล้ว” ซ่งจิ่งเซินพูดท่าทีของเคอหยวนจื่อแข็งทื่อไป “ไม่ เป็นเพราะข้าพิเศษที่สุดภายในใจท่าน ดังนั้นท่านถึงลืมเพียงข้า ข้าก็คือหนึ่งเดียวคนนั้นอย่างไรเล่า!”“ข้าว่าแม่นางเคอ ภายในใจข้า ท่านพ่อท่านแม่ข้า ครอบครัวของข้าต่างหากสำคัญที่สุด”“เจ้าพูดไปเสียทุกคำว่าความสัมพันธ์ก่อนหน้านี้ของพวกเราดีมาก แต่ข้าจำได้ว่าตอนพบหน้ากัน เจ้าคิดเพียงอยากแต่งงานกับชวีคั่ว”“หากระหว่างพวกเรามีความสัมพันธ์ลึกซึ้งถึงเพียงนี้จริง เจ้าก็คงไม่อยากแต่งงานกับคนอื่น น่ากลัวว่าเจ้าอยากฉวยโอกาสตอนข้าสูญเสียความทรงจำมาหลอกข้ากระมัง?”ซ่งรั่วเจินได้ยินคำพูดของซ่งจิ่งเซิน คิดว่าเขามีสติยิ่งกว่าในอดีตมาก คาดว่าต่อให้ฟื้นคืนความทรงจำ ก็ไม่มีวันขาดสติเหมือนในอดีตอีกเคอหยวนจื่อได้ยินแล้วก็คล้ายเข้าใจขึ้นมา ใบหน้าเผยรอยยิ้ม“ข้าก็รู้ท่านพูดเรื่องทั้งหมดนี้เพราะเรื่องงานแต่งของข้าและชวีคั่ว ท่านกำลังโกรธ ท่านเพิ่งกลับมาจึงน่าจะยังไม่รู้ ข้าและชวีคั่วถอนหมั้นกันแล้ว คราวนี้ท่านดีใจแล้วกระมัง?”ดวงตาซ่งจิ่งเซินเบิกกว้างอย่างตกตะลึง “เหตุใดชวีคั่วไอ้โง่ถูกหลอกใช้ค

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 847

    ซ่งรั่วเจินตามซ่งจิ่งเซินเข้ามาภายในร้าน มองคนมากมายกลุ่มนั้น ตกตะลึงอย่างอดไม่ได้นับตั้งแต่ร้านไก่ทอดและไส้กรอกย่างเปิดตัว การค้าก็ดีมากมาโดยตลอด ทั้งๆ ที่เปิดสาขาไม่น้อย แต่การค้ายังเหมือนที่ผ่านมา“น้องหญิงห้า เจ้ายอดเยี่ยมจริงๆ ไม่รู้คิดของอร่อยถึงเพียงนี้ออกมาได้เยี่ยงไร”ซ่งจิ่งเซินถอนใจอย่างอดไม่ได้ แต่ไหนแต่ไรมาการค้าของสกุลซ่งพวกเขาไม่เลวมาโดยตลอด แต่ของกินที่น้องหญิงห้าเพิ่งคิดค้น รสชาติอร่อยเกินไปแล้ว!ซ่งรั่วเจินมองบรรยากาศครึกครื้นเบื้องหน้า นึกถึงร้านปิ้งย่างอันเป็นที่นิยมมาอย่างยาวนานตามตรอกซอกซอยขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ปิ้งย่าง ทุกคนล้วนรักเสมอมา“พี่สี่ ข้านึกถึงของกินที่การค้าได้รับความนิยมยิ่งกว่านี้ขึ้นได้อย่างหนึ่ง” ซ่งรั่วเจินพูดถ้อยคำนี้พูดออกมาแล้ว ซ่งจิ่งเซินเบิกตากว้างอย่างเหลือจะเชื่อ “จริงหรือ?”ซ่งรั่วเจินพยักหน้า “หรือข้ายังจะหลอกท่านอีกกระนั้น? อันที่จริงก็คล้ายไส้กรอกย่าง แต่ไส้กรอกย่างเป็นเพียงแค่หนึ่งชนิดในนั้น พวกเราสามารถเพิ่มหลากหลายอย่างเข้าไปได้ ทุกคนเองก็สามารถเลือกได้มากยิ่งขึ้น”“คือสิ่งใด?”“ปิ้งย่าง!”ต่อจากคำพูดของซ่งรั่วเจิน ซ่งจิ่

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 846

    เดิมทีเขาก็เป็นคนให้ความสำคัญและหนักแน่นในความสัมพันธ์ บัดนี้สหายมากมายต้องตายเพราะเขา เขาไม่มีวันยอมเลิกราได้ยิน สีหน้ากู้หรูเยียนหม่นลงหลายส่วน แต่กลับมาหนักแน่นอย่างว่องไว“ข้ารู้อุปนิสัยของพ่อเจ้าดี เขาไม่มีวันยอมแพ้ ข้าก็แค่กังวลความปลอดภัยของเขา แต่คิดดูอย่างละเอียดแล้วหากเขามีอุปนิสัยน่ารังเกียจ เผชิญหน้ากับอันตรายก็ถอยกลับอย่างหวาดกลัว ข้าก็คงไม่แต่งกับเขา”ถ้อยคำนี้พูดออกมา ทุกคนล้วนหัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้“ท่านแม่พูดถูกแล้ว ท่านพ่อเป็นเช่นนี้ถึงแข็งแกร่งสมชายชาตรี ไม่รู้อยู่ที่ภายนอกมีคนอิจฉากี่มากน้อย ก็ดูเจ้าคนไร้น้ำยาที่หลิ่วเฟยเยี่ยนตบแต่งเถอะ ไม่สามารถเทียบได้เลยสักเศษเสี้ยว”ซ่งจิ่งเซินเผยสีหน้าภาคภูมิใจ เขาคิดว่าบิดาเขาแข็งแกร่งกว่าคนธรรมดามากขณะกำลังสนทนา ลั่วหวยหลี่ก็มาแล้ว“หวยหลี่มารับเนี่ยนชูออกไปหรือ?” หลิ่วหรูเยียนพูดยิ้มๆลั่วหวยหลี่ทำความเคารพ พูดอย่างเก้อเขิน “เมื่อวานนัดหมายไว้ดีแล้ว วันนี้อยากเชิญน้องเนี่ยนชูไปชมละครขอรับ”“ช่วงนี้คณะงิ้วเปิดตัวใหม่แสดงได้ดีมาก การค้ารุ่งเรือง ตั๋วหาได้ยากยิ่ง”ทันใดนั้นซ่งจิ่งเซินก็รู้แล้วว่าลั่วหวยหลี่กำลังพ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 845

    สีหน้าอวิ๋นเนี่ยนชูซับซ้อน นึกถึงสายตาเย็นชาของญาติผู้พี่ยามจากไปในวันนี้ รู้สึกเพียงตนเองคล้ายตัวตลกนางเกลียดที่ไม่แต่งงานโดยเร็ว ภายภาคหน้าก็มีโอกาสพบญาติผู้พี่ได้น้อยมาก อีกทั้งยังไม่ต้องคิดเหลวไหลที่ผ่านมานางเฝ้ารอญาติผู้พี่กลับมาเร็วๆ ทุกวัน ต่อให้ไม่พูดอันใด ขอเพียงได้เห็นเขาก็ดีใจมากแล้ว ทว่าบัดนี้เพียงได้ยินเรื่องของญาติผู้พี่และแม่นางหวง นางก็รู้สึกเจ็บปวดราวหัวใจถูกเข็มแทงก็มิปานอยากทำเพียงหลบซ่อน ไม่อยากได้ยินอันใด“ข้าเข้าใจความรู้สึกของเจ้า”ซ่งรั่วเจินปลอบโยนอวิ๋นเนี่ยนชู ไม่ว่าใครก็ล้วนเคยมีช่วงเวลาอยากหลีกหนีปัญหา โดยเฉพาะหลังเกิดเรื่องพรรค์นี้แล้ว“เจ้ารู้สึกว่าความคิดเช่นนี้ไม่ถูกต้อง พรุ่งนี้ยังต้องออกไปเที่ยวกับลั่วหวยหลี่อีกด้วย คิดว่ากำลังหลอกใช้ประโยชน์จากเขา รู้สึกผิดต่อเขากระมัง?”อวิ๋นเนี่ยนชูพยักหน้า “รั่วเจิน เจ้าช่างเข้าใจความรู้สึกของข้าจริงๆ อันที่จริงข้าคิดมาโดยตลอด ข้าที่เป็นเช่นนี้ต่ำช้าเกินไปแล้วกระมัง?”“อันที่จริงเมื่อครู่ข้าสมควรปฏิเสธ แต่ข้าไม่ได้ทำ ไม่รู้เพราะทะนงตนหรืออยากเปลี่ยนความคิดจริงๆ ข้าจึงไม่ได้ปฏิเสธ...”“อย่าคิดมากถึงเพียง

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 844

    “ญาติผู้พี่ไม่จำเป็นต้องกังวล รั่วเจินไม่รังเกียจข้าหรอกเจ้าค่ะ” อวิ๋นเนี่ยนชูเอ่ยตอบลูกกระเดือกอวิ๋นเฉิงเจ๋อกลิ้งขึ้นลง พูดเนิบๆ “พรุ่งนี้เจ้าจะออกไปหรือ?”“เมื่อครู่ท่านก็ได้ยินแล้วมิใช่หรือ? นัดหมายวันพรุ่งนี้ถูกกำหนดไว้ดีแล้ว ข้าย่อมต้องไปเจ้าค่ะ” อวิ๋นเนี่ยนชูเอ่ยรับดวงตาดำขลับของอวิ๋นเฉิงเจ๋อถูกปกคลุมด้วยหมอกหนา สุ้มเสียงกลับสงบนิ่งไร้คลื่นอารมณ์ “ได้ ข้าไปล่ะ”เห็นฝ่ายชายหันหลังจากไปโดยไม่หันหน้ากลับมา อวิ๋นเนี่ยนชูเองก็หันหลังกลับเข้าสกุลซ่งตอนนี้ซ่งรั่วเจินถูกลั่วชิงอินเรียกไปสอบถามสถานการณ์อยู่ทางด้านข้าง“พี่สะใภ้ใหญ่ ท่านถามถึงความชอบของเนี่ยนชู คงไม่ใช่...”เนตรขนงของซ่งรั่วเจินเผยแววแปลกใจ ภายในสมองกลับเริ่มครุ่นคิดภายในต้นฉบับเขียนความสัมพันธ์ระหว่างลั่วหวยหลี่และอวิ๋นเนี่ยนชูหรือไม่?เอือมระอาหนังสือเล่มนี้เขียนเพียงเรื่องราวเกี่ยวกับฉินซวงซวงและหลินจือเยว่ คนอื่นเป็นเพียงตัวประกอบ ส่วนเนี่ยนชูในฐานะสหายที่ดีของนาง สุดท้ายก็ตายไปเพราะนางแม้แต่สถานการณ์ของอวิ๋นเฉิงเจ๋อเองก็ไม่ได้เขียนมากนัก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงลั่วหวยหลี่ นี่คล้ายกำลังคลี่คลายเนื้อเรื่องลับ!ร

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 843

    เยี่ยนชิงอวี้สบตาลั่วกั๋วกงแวบหนึ่ง ฝ่ายหลังย่อมสังเกตเห็นปัญหา“ชุลมุนอยู่นาน เจ้าเด็กตัวเหม็นคนนี้มีแม่นางที่ชมชอบตั้งแต่แรกแล้ว?” ลั่วกั๋วกงลดเสียงให้เบาลง “ข้ายังคิดว่าเจ้าจับคู่ยวนยางส่งเดชเสียอีก”เยี่ยนชิงอวี้มองลั่วกั๋วกงอย่างไม่พอใจแวบหนึ่ง “พูดเหลวไหลอันใด? ข้าเป็นคนตาไม่มีแววถึงเพียงนั้นเชียวหรือ?”หากเปลี่ยนเป็นเวลาปกติ นางก็คงไม่วู่วามเอ่ยเรื่องนี้ออกมา นางสังเกตเห็นว่านับตั้งแต่เนี่ยนชูมา หวยหลี่ก็ลอบมองนางไม่ใช่เพียงครั้งเดียว นี่ถึงตั้งใจถามดูสักหน่อยเป็นมารดาย่อมรู้จักลูกชายดี นางเข้าใจดี!งานเลี้ยงครั้งนี้ เหล่าผู้อาวุโสแย้มยิ้มเบิกบาน เหล่าคนรุ่นหลังกลับมีความคิดของตนลั่วชิงอินมองน้องชายของตนและพูดว่า “ท่านแม่ทำให้เจ้าถึงขั้นนี้แล้ว จากนี้ไปเจ้าต้องพยายามด้วยตนเองดีๆ ล่ะ”“พี่หญิงรอง ไม่รู้ท่านกำลังพูดเหลวไหลอันใด?” ลั่วหวยหลี่พูดอย่างกระอักกระอ่วน“เจ้าอย่าคิดว่าข้ามองไม่ออก ตั้งแต่เด็กเจ้าไม่ใช่ชอบไปเล่นกับน้องหญิงเนี่ยนชูของเจ้าหรอกหรือ? ทว่านับตั้งแต่ญาติผู้พี่ของนางมา ทุกครั้งนางก็ไล่ตามหลังญาติผู้พี่ของนาง”“ตอนนั้นเจ้ายังโมโหเพราะเรื่องนี้อยู่เลย พู

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 842

    ยิ่งไปกว่านั้น ลั่วหวยหลี่เองก็เป็นคนจิตใจดี เป็นคู่ที่เหมาะสมอย่างแท้จริง!“เนี่ยนชูมีคนภายในใจแล้วหรือไม่? หากไม่มี ไม่สู้ให้เด็กทั้งสองคนได้ทำความรู้จักกัน?”เยี่ยนชิงอวี้สบมองสีหน้าจางเหวินก็รู้ว่าความคิดของนางเหมือนกับตนเอง ใบหน้าเผยรอยยิ้มนับตั้งแต่ได้เห็นชิงอินและเยี่ยนโจวมีความสัมพันธ์อันดีถึงเพียงนี้ นางก็คิดว่าคู่รักในวัยเยาว์ที่รู้จักกันตั้งแต่เด็กเข้ากันได้ไม่เลวจางเหวินเหลือบมองเนี่ยนชูแวบหนึ่ง เห็นนางมิได้ปฏิเสธจึงพูดยิ้มๆ “เด็กหน้าบาง ตอนนี้น่ากลัวว่าเขินอายเกินกว่าจะพูด มิสู้นัดพวกเขาออกไปเที่ยวเล่นด้วยกัน”“ไม่เลวๆ หวยหลี่คนนี้รู้จักสถานที่น่าสนใจไม่น้อย พวกเจ้าคนหนุ่มสาวสามารถไปเที่ยวเล่นได้ เชื่อว่าจะต้องชอบแน่”ใบหน้าเยี่ยนชิงอวี้เต็มไปด้วยรอยยิ้ม หากการจับคู่นี้สำเร็จ นั่นก็ดีเหลือเกินลั่วกั๋วกงทางด้านข้างกลับไม่มีความเห็น เดิมทีหวยหลี่ก็ถึงวัยแต่งงานแล้ว แม้ว่าจางเหวินหย่าร้าง แต่คนสง่างามน่าเลื่อมใส ไม่ว่าเนี่ยนชูหรือเฉิงเจ๋อก็ล้วนสั่งสอนออกมาได้ดีมาก เดิมทีก็ไม่ต้องกังวลซ่งรั่วเจินนั่งรับชมอยู่ทางด้านข้างเงียบๆ นางและลั่วหวยหลี่ได้ติดต่อกันมากที่สุดก

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status