Share

บทที่ 12

Author: จี้เวยเวย
เฉินเซียงที่อยู่ข้างๆ ได้ยินคำพูดคุณหนูของตนเองแล้วก็นึกขำอย่างอดไม่ได้ เมื่อวานเพ่ยหลานถูกมัดตัวส่งไปที่จวนตระกูลหลิ่วชัดๆ โดยส่งตรงถึงเรือนพักของพ่อบ้านหลิ่ว

เมื่อพ่อบ้านหลิ่วรู้ว่าเป็นเรื่องมงคลที่คุณหนูจัดแจงให้ก็หาได้ปฏิเสธ สานต่อเรื่องดีจนสำเร็จ พวกเขายังจดให้คนมาเฝ้าอยู่ข้างนอก ได้ยินว่าตอนแรกเพ่ยหลานไม่ยินยอม แต่ตอนหลังเสียงที่ดังออกมานั้นก็ฟังต่อไปไม่ไหวจริงๆ

จากคำบอกกล่าวของคนที่มารายงาน ตอนออกมาเช้าวันนี้เห็นภรรยาเอกของพ่อบ้านหลิ่วสีหน้าดำคล้ำนำคนบุกไปจัดการเพ่ยหลานอย่างเกรี้ยวกราด ได้ยินเสียงกรีดร้องน่าอนาถดังมาจากข้างหลัง รายละเอียดเป็นอย่างไรก็ไม่มีแก่ใจจะอยู่ฟังต่อไปแล้ว

“นี่มันเหลวไหลชัดๆ รั่วเจิน ต่อให้งานวิวาห์ของเจ้ามีปัญหาก็ไม่ควรเอาไปลงกับคนรับใช้เช่นนี้! ดีชั่วอย่างไรเพ่ยหลานก็ติดตามเจ้ามาหลายปี เจ้าทำลายชีวิตนางเช่นนี้ไม่เกินไปหน่อยหรือ?”

หลิ่วเฟยเยี่ยนพลันนึกโมโห เดิมเข้าใจว่าแค่ส่งคนกลับไป อย่างมากแค่รอให้ผ่านไปสักพักค่อยให้กลับมาก็ได้ แต่กลายเป็นว่าแต่งให้หลิ่วเหิงไปเสียแล้ว?

หลิ่วเหิงไม่ได้เป็นแค่พ่อบ้าน เตียงของเขา คนแบบเพ่ยหลานสามารถปีนขึ้นไปได้เช่นนั้นหรือ?

“ข้าเหลวไหลงั้นหรือ? ข้าไม่เอาชีวิตนางก็นับว่าเมตตามากแล้ว!” สีหน้าซ่งรั่วเจินเปลี่ยนเป็นเย็นชา “ท่านน้า ข้าไม่ได้จะว่าท่านนะเจ้าคะ แต่สายตาของท่านย่ำแย่จริงๆ เพ่ยหลานถูกฉินซวงซวงซื้อตัวไปแล้ว คนที่ทรยศเนรคุณเจ้านายพรรค์นี้ เดิมทีสมควรตีให้ตายแล้วเอาไปโยนทิ้งด้วยซ้ำ แต่ข้าเห็นแก่ที่นางเป็นคนที่ท่านน้าตั้งใจเลือกมาถึงได้ไว้ชีวิตนาง”

“ต่อไปท่านน้าอย่าได้ส่งคนมาอยู่ข้างกายข้าอีกนะเจ้าคะ มิฉะนั้นหากข้าเกิดเรื่องอะไรขึ้นมา ท่านมิกลายเป็นผู้ร้ายเอาหรือ?”

“เพ่ยหลานถูกฉินซวงซวงซื้อตัว?” หลิ่วหรูเยียนหน้าถอดสี หันไปมองหลิ่วเฟยเยี่ยนแล้วคาดคั้นว่า “นี่มันเรื่องอะไรกัน?”

หลิ่วเฟยเยี่ยนตกใจ ด่าทอในใจว่าเพ่ยหลานช่างโง่เง่าจริงๆ ถูกจับได้ง่ายๆ แบบนี้ ไม่มีสมองเลยสักนิด!

“ข้า ข้าไม่รู้เรื่องเลยนะ มีเรื่องเข้าใจผิดกันหรือไม่? ก่อนนี้ข้าเห็นว่าเพ่ยหลานเป็นเด็กซื่อสัตย์รู้ความ จะทำเรื่องแบบนี้ได้อย่างไรกัน?”

“หลักฐานค้นเจอหมดแล้ว ท่านน้าต้องการให้ข้ายกมาไล่เรียงทีละข้อหรือเจ้าคะ?” ซ่งรั่วเจินหัวเราะเบาๆ สีหน้าดุดัน “พอมาคิดดูดีๆ แล้ว ระหว่างเพ่ยหลานกับฉินซวงซวงไม่น่ามีโอกาสมารู้จักกันได้ ประจวบกับได้ยินว่าท่านน้ากับฮูหยินตระกูลฉินมีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน แล้วเพ่ยหลานก็ยังเป็นสาวใช้ที่ท่านพามา...”

“น้องหญิง หรือเจ้ามีส่วนรู้เห็นในเรื่องนี้?”

หลิ่วหรูเยียนได้ยินวาจาของลูกสาวแล้วยังจะไม่เข้าใจความหมายอีกได้อย่างไร?

เพ่ยหลานเป็นแค่สาวใช้คนหนึ่ง ฉินซวงซวงกับหลินโหวเพิ่งกลับเมืองหลวงมาได้ไม่นาน ถูกคนซื้อตัวได้รวดเร็วเช่นนี้ ยากนักที่จะไม่ทำให้คนนึกสงสัย

หลิ่วเฟยเยี่ยนประท้วงว่า “ท่านพี่ ข้าเป็นคนอย่างไรท่านยังไม่รู้อีกหรือเจ้าคะ? รั่วเจินเป็นลูกสาวท่าน ข้าเห็นนางเป็นเสมือนลูกบังเกิดเกล้า แล้วจะทำเรื่องแบบนั้นออกมาได้อย่างไร?

ข้าไม่รู้จริงๆ ว่าเพ่ยหลานจะขวัญกล้าเทียมฟ้าถึงขั้นทำเรื่องพรรค์นี้ออกมาได้ พวกท่านคอยดูเถอะ ประเดี๋ยวข้าจะไปจัดการนางคนต่ำช้านั่นเอง!”

“ถ้าเจ้ารู้สึกว่ารั่วเจินได้รับความอยุติธรรมจริงๆ และยังให้ความสำคัญกับพี่สาวอย่างข้าคนนี้อยู่ ก็อยู่ให้ห่างจากฮูหยินตระกูลฉิน ไม่อย่างนั้นจะให้พวกข้ารู้สึกอย่างไร?”

หลิ่วหรูเยียนมีสีหน้าเย็นชา ต่อให้หลิ่วเฟยเยี่ยนไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ก็คงมีส่วนแพร่งพรายข้อมูล ฉินซวงซวงซื้อตัวเพ่ยหลาน เห็นได้ชัดว่ามีเจตนาร้าย เวลาแบบนี้ถ้าหลิ่วเฟยเยี่ยนยังไปมาหาสู่กับฮูหยินตระกูลฉิน เท่ากับตบหน้าพวกตนอย่างไม่ต้องสงสัย!

หลิ่วเฟยเยี่ยนเห็นอย่างนั้นก็ทำได้เพียงรับปาก ในใจกลับอึดอัดคับข้อง เมื่อก่อนล้วนเป็นนางพูดหลิ่วหรูเยียนฟัง วันนี้ประเสริฐนัก ถูกสองแม่ลูกโต้กลับจนพูดอะไรไม่ออก

ทุกอย่างกลายเป็นความผิดของนาง!

ด้วยความโมโห หลิ่วเฟยเยี่ยนไม่สนแม้แต่จะอยู่กินมื้อเที่ยงด้วยกัน พาซุนเยียนเอ๋อร์จากไปแล้ว พร่ำบอกว่าจะไปสั่งสอนเพ่ยหลานคนเนรคุณผู้นี้

“เจินเอ๋อร์ ครู่ก่อนเหตุใดเจ้าจึงพูดว่าอยากให้เยียนเอ๋อร์กับหลินจือเยว่แต่งงานกันเล่า?” หลิ่วหรูเยียนอดถามไม่ได้

ซ่งอี้อันก็ฟังเรื่องราวทั้งหมดจนกระจ่างแจ้งแล้วเช่นกัน จึงเอ่ยด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “เรื่องนี้...เจ้าสงสัยว่าท่านน้ามีส่วนเกี่ยวข้อง?”

ซ่งรั่วเจินพยักหน้า กวาดสายตาไปหาหลิ่วหรูเยียน “ท่านแม่ ข้ารู้ว่าท่านสนิทสนมกับท่านน้า ถ้าท่านไม่เชื่อ รอจนข้ารวบรวมหลักฐานครบแล้วจะนำมาบอกท่านแม่นะเจ้าคะ”

“เจินเอ๋อร์ เจ้าเป็นลูกสาวแม่ แม่ย่อมคิดถึงเจ้าเป็นอันดับแรกอยู่แล้ว” หลิ่วหรูเยียนอดปวดใจไม่ได้ สีหน้าจริงจังหาใดเปรียบ “เมื่อก่อนแม่ตามใจน้าเจ้ามากเกินไป แต่นั่นเป็นเรื่องเล็ก จะนำมาเทียบกับเจ้าได้อย่างไร?”

ซ่งรั่วเจินทราบใจจริงของหลิ่วหรูเยียนแล้วก็ว่า “ท่านแม่ เกรงว่าความสัมพันธ์ระหว่างท่านน้ากับฮูหยินตระกูลฉินจะแน่นแฟ้นกันยิ่งกว่าท่าน เพ่ยหลานรายงานเรื่องน้อยใหญ่เกี่ยวกับข้าให้พวกเขารู้โดยละเอียดทุกอย่างแล้ว พวกเขาถึงกล้าคิดจะเอาเปรียบข้าโดยไม่กลัวเกรงเช่นนี้”

“แต่ไหนแต่ไรมาท่านน้ามักอยากให้ญาติผู้น้องเหนือกว่าข้าในทุกๆ เรื่อง ยามนี้เรื่องมงคลนี้อาจไม่ได้ล้ำค่าสำหรับพวกเรา แต่สำหรับญาติผู้น้อง หลินโหวเป็นคู่ครองที่ดีอย่างไม่ต้องสงสัย”

“ด้วยนิสัยของท่านน้า ผลประโยชน์ดีๆ เช่นนี้จะต้องรีบตอบรับโดยไว แต่กลับบ่ายเบี่ยงครั้งแล้วครั้วเล่า นี่ไม่แปลกหรือเจ้าคะ?”

หลิ่วหรูเยียนขมวดคิ้วมุ่น วันนี้นางเองก็สังเกตเห็นแล้ว นิสัยของซุนเยียนเอ๋อร์เหมือนกับหลิ่วเฟยเยี่ยน หลิ่วเฟยเยี่ยนเองก็ชอบแย่งชิงกับนางมาตั้งแต่เล็ก วันนี้อยู่ดีๆ กลับมีเหตุผลขึ้นมา นับว่าประหลาดจริงๆ

“ฉินซวงซวงอยากออกเรือนให้หลินโหวก็ไม่แปลก แต่ตอนนี้กลับอยากให้เจ้าออกเรือนไปด้วยขนาดนี้ นับว่าแปลกจริงๆ” ซ่งอี้อันเอ่ยอย่างครุ่นคิด

หลิ่วหรูเยียนลังเล “หรือหวังทรัพย์สิน? ข้าได้ยินมาว่าแม้ฉินซวงซวงจะเป็นคุณหนูตระกูลฉิน แต่ไม่ได้รับความโปรดปรานจากคนในตระกูลมากนัก สินเดิมในงานวิวาห์ครานี้ก็น้อยนิดจนน่าสงสาร”

“เกรงว่าคงไม่ได้หวังแค่ทรัพย์ แต่หวังเอาชีวิตด้วยน่ะสิขอรับ!” สีหน้าซ่งอี้อันฉายแววเย็นเยียบ สองมือกำแน่นจนข้อนิ้วซีดขาว “ไม่เช่นนั้น พวกเขาก็ไม่จำเป็นต้องทุ่มเทถึงเพียงนี้!”

“อะไรนะ? พวกเขากล้าดีอย่างไร?” หลิ่วหรูเยียนเบิกตากว้างอย่างตื่นตระหนก มือที่กุมมือซ่งรั่วเจินออกแรงมากกว่าเดิมโดยไม่รู้ตัว

ซ่งรั่วเจินมองพี่รองของตนอย่างแปลกใจ สมแล้วที่ใครๆ ยกย่องเขาว่าเป็นบัณฑิตผู้ปราดเปรื่อง อาศัยเพียงร่องรอยแค่นี้ก็สามารถคาดคะเนเรื่องราวออกมาได้แล้ว เห็นได้ชัดว่าเขาเป็นคนละเอียดรอบคอบ หากไม่ใช่เพราะตาบอดสองข้างจะลงเอยด้วยการตายอย่างน่าอนาถเช่นนั้นได้อย่างไร?

“พี่รอง ข้าก็คิดเหมือนกับท่าน แต่ตอนนี้ยังไม่มีหลักฐาน อย่าทำอะไรกระโตกกระตากจะดีกว่า”

ซ่งอี้อันเห็นน้องสาวที่นิสัยอ่อนโยนผู้นี้ไม่ได้ละล้าละลังทำอะไรไม่ถูก แต่กลับเหมือนมีความคิดของตัวเองอยู่แล้ว ก็นึกประหลาดใจ แต่ที่มีมากกว่านั้นคือความยินดี

“อี้อัน ถ้านี่เป็นเรื่องจริง เจ้าว่าควรทำอย่างไรดี?”

หลิ่วหรูเยียนคิดมาตลอดว่าซ่งอี้อันเป็นคนฉลาดเจ้าความคิด มักปรึกษาเรื่องต่างๆ กับเขามานานแล้ว จึงอดร้อนใจไม่ได้ “ครอบครัวหลินโหวต่ำช้าเช่นนี้ คิดจะทำร้ายน้องสาวเจ้า พวกเราจะยอมอดทนอดกลั้นไม่ได้เด็ดขาด!”

“แทนที่จะมาถามข้า ลองถามความคิดของน้องหญิงห้าดีกว่าไหมขอรับ?”

ซ่งรั่วเจินแย้มยิ้ม “ความคิดของข้าเรียบง่ายมาก ให้ซุนเยียนเอ๋อร์ออกเรือน”

“ข้าก็คิดเช่นนี้” ซ่งอี้อันยิ้มบางแล้วว่า “ท่านแม่ เรื่องนี้คงต้องให้ท่านออกแรงแล้ว”

หลิ่วหรูเยียนมองซ่งอี้อันสลับกับมองซ่งรั่วเจิน ในสมองปรากฏภาพการอยู่ร่วมกับหลิ่วเฟยเยี่ยนในช่วงหลายปีมานี้ สุดท้ายแววตาเปลี่ยนเป็นหนักแน่น

“ได้!”

ใครก็ไม่สำคัญเท่าลูกสาวของนาง!

หลิ่วเฟยเยี่ยนสนิทสนมกับฮูหยินตระกูลฉิน เกรงว่าคงมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ใครก็ตามที่กล้าทำร้ายลูกนาง นางจะไม่ปล่อยไปเด็ดขาด!
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Comments (1)
goodnovel comment avatar
เย่อิง
ถือว่าแม่ฉลาดรู้จักปกป้องลูก
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 13

    ซ่งรั่วเจินกินอาหารมื้อกลางวันเสร็จก็ไปที่จวนตระกูลหลิ่วมองเห็นผู้คนมากมายเข้าออกประตูจวนตระกูลหลิ่วมาแต่ไกล คนไปมาหาสู่มีจำนวนไม่น้อย เมื่อเข้าไปใกล้ก็ได้ยินเสียงชมเชยเซ็งแซ่“ไต้ซือเทียนสุ่ยมีวิชาแก่กล้าจริงๆ เจ้าจำหลานชายของตระกูลจ้าวที่หมู่นี้เอาแต่ร้องไห้ไม่หยุดได้หรือไม่ หาหมอมากมายล้วนไม่เห็นผล เห็นๆ อยู่ว่าสุขภาพย่ำแย่ลงทุกทีจนแทบจะไม่ไหวแล้ว พอไต้ซือเทียนสุ่ยลงมือเท่านั้นก็หายดีเป็นปลิดทิ้ง!”“นั่นน่ะสิ หลานชายข้าพักนี้ค้าขายไม่ราบรื่น เกือบทำกิจการของตระกูลล้มละลายไปเสียแล้ว ตั้งแต่ไต้ซือเทียนสุ่ยอัญเชิญเทพเจ้าแห่งโชคลาภมาให้ ทุกวันนี้การค้าเจริญรุ่งเรือง ดีวันดีคืน!”“ตระกูลหลิ่วเองก็ไม่รู้ว่าต้องจ่ายค่าตอบแทนไปมากมายเท่าไหร่จึงสามารถเชิญไต้ซือเทียนสุ่ยมาได้ วันหน้าจะต้องได้ดิบได้ดีแน่”ได้ยินคำพูดแฝงความอิจฉาเหล่านั้น คิ้วใบหลิวของซ่งรั่วเจินก็เลิกขึ้นเล็กน้อย นางจะไปหยั่งเชิงไต้ซือเทียนสุ่ยผู้นี้ดูสักหน่อยว่ามีความสามารถจริงหรือไม่!เมื่อนางเข้าไปในจวนตระกูลหลิ่ว เห็นข้ารับใช้ในจวนกำลังจัดฮวงจุ้ยตามคำแนะนำของไต้ซือเทียนสุ่ย ก็แค่นหัวเราะในใจฮวงจุ้ยในจวนตระกูลหลิ่ว

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 14

    ไต้ซือเทียนสุ่ยมองซ่งรั่วเจินนิ่งๆ “แม่นางซ่ง หลายวันก่อนอาตมาไปดูฮวงจุ้ยที่จวนตระกูลซ่ง หมู่นี้จวนตระกูลซ่งเกิดเรื่องติดต่อกัน ใช่ว่าจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเจ้าเลยเสียทีเดียว”“อ้อ? ไหนท่านลองพูดให้ฟังที ว่าเกี่ยวข้องกับข้าอย่างไรบ้าง?”ซ่งรั่วเจินยิ้มหยัน มองคนตรงหน้าด้วยความสงบเยือกเย็น นางอยากรู้นักว่าคนผู้นี้จะแต่งเรื่องอย่างไรออกมา!“ข้าเคยดูเวลาตกฟากของเจ้ามาก่อน เจ้าชะตาอาภัพมีดวงพิฆาต หลินโหวเป็นดาวนำโชคในชีวิตเจ้า มีเพียงต้องออกเรือนให้เขาจึงจะสามารถคลี่คลายได้”“เดิมทีหลินโหวไม่มีทางแต่งเจ้า หากไม่ใช่เพราะข้าใช้วิธีการบางอย่าง แม้แต่ภรรยาหลวงเจ้าก็คงไม่ได้เป็น วันนี้เจ้าอยากอยู่อย่างสงบก็มีแต่ต้องเดินทางนี้เท่านั้น มิเช่นนั้น ดวงพิฆาตของเจ้ายังจะทำให้คนอื่นเคราะห์ร้ายไปด้วย”ได้ยินเช่นนั้น คนที่เดินตามไต้ซือเทียนสุ่ยออกมาล้วนเผยสีหน้าตื่นตกใจดวงพิฆาต นี่เป็นชะตาชีวิตที่ทุกคนหวาดกลัวที่สุด เดิมนึกว่าหลินโหวทอดทิ้งซ่งรั่วเจินเป็นการปฏิบัติต่อนางอย่างไม่เป็นธรรม แต่ดูจากตอนนี้ หลินโหวเป็นดาวช่วยชีวิตนาง นางกลับไม่รู้ดีชั่ว!“มิน่าเล่า หมู่นี้ตระกูลซ่งถึงได้เกิดเรื่องไม

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 15

    สิ้นเสียงซ่งรั่วเจิน ทุกคนก็ขมวดคิ้ว รู้สึกว่านางช่างก้าวร้าวเสียจริง ส่วนว่าของสกปรกดังกล่าวคืออะไรกลับไม่รู้เลยแม้แต่น้อยแต่เมื่อไต้ซือเทียนสุ่ยได้ยินคำพูดนั้น ใบหน้าก็พลันเปลี่ยนสี นางรู้เรื่องนี้ได้อย่างไร?หรือนางจะเข้าใจฮวงจุ้ยจริงๆ? นั่นเป็นไปไม่ได้!ความคิดนั้นเพิ่งผุดขึ้นมา ไต้ซือเทียนสุ่ยก็ปัดทิ้งไปโดยไม่ลังเล ถ้ารู้จริงก็ควรค้นพบไปนานแล้ว จะเพิ่งมาคิดบัญชีเอาป่านนี้ได้อย่างไร?“เจ้าทำอะไรของเจ้า?”น้ำเสียงแฝงความไม่พอใจเสียงหนึ่งดังขึ้น หลังจากนั้นก็มีเสียงอ่อนหวานดังตามมาติดๆ“ท่านโหว ท่านอย่าโมโหไปเลยเจ้าค่ะ เรื่องนี้อาจมีอะไรเข้าใจผิดกันก็เป็นได้”ใบหน้าเล็กจิ้มลิ้มของฉินซวงซวงฉายแววบริสุทธิ์ใจ สายตาที่มองมาทางซ่งรั่วเจินยังสะท้อนความไม่สบายใจอยู่ในนั้น “คิดว่าแม่นางซ่งคงรู้สึกไม่ดีจึงได้มาก่อเรื่องเช่นนี้ ท่านโหวอย่าถือสานางเลยนะเจ้าคะ”“ซ่งรั่วเจิน เมื่อวานข้าขอโทษเจ้าไปแล้ว เป็นเจ้าที่ไม่อยากแต่งกับข้า ไฉนตอนนี้ยังมาให้ร้ายซวงซวงอีก?”ซ่งรั่วเจินกวาดสายตาไปมองก็สบเข้ากับแววตาคาดคั้นของหลินจือเยว่ “ข้าประลองกับไต้ซือเทียนสุ่ยเกี่ยวอันใดกับฉินซวงซวง? หลินโหว สม

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 16

    ไต้ซือเทียนสุ่ยรับคำสั่งจากฉินซวงซวง สายตาที่ทอดมองซ่งรั่วเจินเองก็เจือไอเย็น สตรีผู้นี้บังอาจมาทำลายช่องทางทำมาหากินของเขา เขาจะจัดการให้หนักเลยทีเดียว!ครู่ถัดมา เขามองผีน้อยที่ตนเลี้ยงอย่างลำพองใจ เขาต้องเสียแรงไปมากถึงจะเลี้ยงออกมาได้ ยังได้รับคำชี้แนะจากผู้มีวิชาจึงมีความสามารถเช่นนี้สายตาซ่งรั่วเจินเองก็ตกลงบนตัวผีน้อย ผีน้อยตัวนี้อายุราวหกถึงเจ็ดขวบเท่านั้น เพราะถูกเลี้ยงดูอย่างดี รูปร่างกลับไม่น่ากลัว เพียงแต่กลิ่นอายชั่วร้ายยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ เห็นได้ชัดว่าคือวิญญาณอาฆาตตนหนึ่งตายอย่างไม่เป็นธรรม จึงสั่งสมไอแค้นไว้มากในฐานะคนของสำนักวิชาเต๋า เผชิญหน้ากับวิญญาณอาฆาตเช่นนี้สมควรหาวิธีกำจัดความอาฆาตพยาบาท ช่วยเหลือเขาให้ไปเกิดใหม่ในเร็ววันไต้ซือเทียนสุ่ยผู้นี้ ใช้ประโยชน์จากความอาฆาตพยาบาทเล็กน้อยนี้ ทำให้กลายเป็นกลวิธีหาเงิน“ไต้ซือเทียนสุ่ย ชาตินี้ข้ายังมีหวังจะหาตัวลูกสาวของข้าพบอีกหรือไม่?” สวีฮูหยินเอ่ยถามอย่างร้อนใจไต้ซือเทียนสุ่ยแสร้งหยิบกระดองเต่าออกมา ใส่แผ่นเหล็กสองชิ้นเข้าไปภายใน ปากบ่นงึมงำสวดคาถาขึ้นมาสกุลสวีตามหาลูกสาวคนนี้มานานนับสิบกว่าปีแล้ว ก

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 17

    “องค์ชายสาม?”ชั่วขณะหลินจือเยว่มองเห็นฉู่จวินถิง สีหน้าก็เข้มขึ้น เขายังจำได้ดี เมื่อสองปีก่อนซวงซวงปฏิเสธเขาก็เพราะฉู่จวินถิง!“ข้าได้ยินว่ามีไต้ซือวิชาล้ำเลิศของลัทธิเต๋าท่านหนึ่งเดินทางมาเมืองหลวงจึงมาดูสักหน่อย มองรูปลักษณ์ดูแล้วยอดเยี่ยมกว่าที่คิดไว้มากนัก”ใบหน้าฉู่จวินถิงประดับยิ้ม ท่วงท่าที่แสดงออกมากลับไม่ธรรมดา เห็นได้ชัดว่าเขาเพียงยืนอยู่ที่นั่น พูดคุยอย่างสนุกสนานแต่กลับสง่างามเจิดจรัส ทำให้คนไม่กล้าล่วงเกินชั่วขณะที่ฉินซวงซวงมองเห็นฉู่จวินถิง ก็ยังมิอาจควบคุมความหลงใหลที่สะท้อนภายในสายตาได้แม้กลับชาติมาเกิดอีกครั้ง ยามได้พบฉู่จวินถิงก็ยังรู้สึกโหยหาอย่างมิอาจอดกลั้น บุรุษเช่นนี้ถึงจะเป็นคนที่นางต้องการอย่างแท้จริง สูงศักดิ์ หล่อเหลา ลึกลับ นางอยากรู้เหลือเกินว่าบุรุษเช่นนี้ จะเป็นอย่างไรหากวันหนึ่งเกิดหลงใหลยอมจำนนขึ้นมา?ทว่าน่าเสียดายชาติก่อนนางเสียเวลาไปมากเพียงนั้น เดินทางผิดมากเพียงนั้น สุดท้ายก็ไม่สามารถทำให้เขาชายตาแลได้ ตรงกันข้ามกลับกลายเป็นตัวตลกในสายตาของทุกคนซ่งรั่วเจินเองก็คิดไม่ถึงว่าจะได้พบฉู่จวินถิงที่นี่ มองเห็นโชคชะตาสีแดงจนเริ่มม่วงนั้นของเขา

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 18

    หลังไต้ซือเทียนสุ่ยได้ยินคำนี้หัวใจก็เต้นตึกตัก จ้าวเหวินเทากลับย้อนคิดอย่างไม่เข้าใจ “หลานชายข้าเริ่มร้องไห้ราวเมื่อเจ็ดวันก่อน ไม่ยอมกินอะไร แม้กินแล้วก็อาเจียนออกมาอย่างรวดเร็ว...”พูดไปๆ เขาคล้ายนึกบางอย่างออกอย่างฉับพลัน ดวงตากลมโตหันมองเทียนสุ่ย “ไต้ซือเทียนสุ่ยคล้ายมาถึงเมืองหลวงในตอนนี้!”“ก่อนหลานชายท่านร้องไห้ เคยมีคนส่งของอันใดให้หรือไม่?” ซ่งรั่วเจินถามอีกครั้ง“เมื่อนั้นมีคนส่งจี้หยกหนึ่งชิ้นให้หลานชายข้าจริงๆ จี้หยกนี้ปลุกเสกมาก่อนแล้ว เป็นสมบัติชิ้นหนึ่ง เดิมทีข้าไม่อยากรับไว้ แต่เห็นหลานชายคล้ายชอบจนไม่ยอมปล่อยมือจึงสวมคอของเขาไว้แล้วเริ่มตั้งแต่วันที่สอง เด็กก็ร้องไห้ไม่หวาดไม่ไหว จนกระทั่งเมื่อสองวันก่อนข้าพาหลานชายมาพบไต้ซือเทียนสุ่ย ไต้ซือเทียนสุ่ยมอบหยกอีกหนึ่งชิ้นให้อาการจึงดีขึ้น แต่หยกชิ้นนั้นก่อนหน้านี้ไม่รู้หายไปที่ใดแล้ว”ใต้เท้าจ้าวเล่าถึงตรงนี้ ตอบสนองเชื่องช้าอย่างไรก็รู้ได้ว่าเกิดเหตุอันใดขึ้นแล้วเดิมทีนี่ก็ไม่ใช่วิธีขับไล่สิ่งสกปรกที่เกาะตัวเด็ก แต่เป็นได้รับภัยโดยไร้สาเหตุ!จี้หยกชิ้นก่อนทำร้ายเด็ก ถัดมาผ่านกลวิธีของไต้ซือเทียนสุ่ย อันที่จริงขอ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 19

    “ซวงซวงมิได้ตั้งใจ เหตุใดเจ้าต้องบีบคั้นคนอื่นถึงเพียงนี้?” หลินจือเยว่ปกป้องฉินซวงซวงไว้ทางด้านหลัง สีหน้าบึ้งตึง“ข้าบีบคั้นคน? คนมากมายที่นี่ถูกทำร้าย หลานชายของใต้เท้าจ้าวได้รับภัยโดยไร้สาเหตุ พี่รองข้าต้องตาบอดเพราะสวมสร้อยข้อมือเส้นนี้ บัดนี้หลินโหวพูดหนึ่งประโยคว่ามิได้ตั้งใจก็ถือว่าจบกันไปแล้วกระนั้นรึ? ท่านมีสิทธิ์อะไรพูดคำนี้กัน?”ใบหน้างดงามมีเสน่ห์ของฝ่ายหญิงเจืออารมณ์โกรธขึ้ง ดวงตาดำดุจหมึกคู่งามทอประกายวาวโรจน์ ท่าทีดุดันชัดเจน ถึงขั้นทำให้หลินโหวตะลึงงัน“ไต้ซือชั่วคนนี้หลอกพวกเราหลายคนเพียงนี้ หากมิใช่เพราะฉินซวงซวงเชิญมา พวกเราจะถูกหลอกได้อย่างไร?”“ตนเองตาไม่ดีก็ช่างเถอะ ยังพาหายนะเช่นนี้มาด้วย โชคร้ายที่พวกเราแต่ละคนหลงเชื่อ ทำร้ายพวกเราอย่างรันทดถึงเพียงนี้!”“หลินโหวเองก็มิใช่ว่าถูกหญิงคนนี้ใช้เล่ห์เหลี่ยมอันใดจับไว้แล้วหรือ หาไม่แล้วไฉนเลยจะลุ่มหลงนาง ไม่ยอมแต่งงานกับแม่นางซ่งที่ดีเพียงนี้ ต้องแต่งกับหญิงผู้นี้เท่านั้น?”ได้ยินเสียงตำหนิเกินควร ประโยคแรกว่ารุนแรงแล้วประโยคถัดมากลับรุนแรงยิ่งกว่า สีหน้าฉินซวงซวงเผือดซีด คิดดูแล้วก็ไม่เข้าใจ ทั้งที่ชาติก่อนไต้

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 20

    หลินจือเยว่คิดแล้วก็ไม่เข้าใจ เหตุใดฉู่อ๋องจึงให้ท้ายซ่งรั่วเจินฉู่อ๋องถึงวัยออกเรือนแล้ว แต่กลับยังไม่แต่งงาน คุณหนูในเมืองหลวงมากมายล้วนหลงใหล กลับไม่มีผู้ใดสามารถเข้าตาของเขาได้ เหตุใดบัดนี้กลับปกป้องซ่งรั่วเจิน?“เมื่อครู่เป็นข้าเข้าใจผิดไป ขออภัย”หลินจือเยว่พูดขอโทษอย่างฝืนๆ อึดอัดคับข้องใจเป็นที่สุด เขาเป็นขุนนางใหม่ในราชสำนัก เมื่อหลายวันก่อนทุกคนในราชสำนักล้วนชื่นชม ทุกคนที่ได้พบต่างเข้ามาผูกไมตรีกับเขา ทว่านับตั้งแต่เมื่อวานก็เริ่มขายหน้าอย่างต่อเนื่อง“หวังว่าท่านโหวจะจดจำไว้ อย่าเปิดปากขอโทษเพราะทำผิดบ่อยเกินไปนัก ข้าฟังแล้วเลี่ยนนัก” ซ่งรั่วเจินรับคำนิ่งๆ ไม่ไว้หน้าเลยแม้แต่น้อยสายตาฉู่จวินถิงกวาดมองบนตัวพวกซุนฮั่นเฟย “เมื่อครู่คนพูดจาส่งเดชคล้ายมิใช่เพียงหลินโหวคนเดียวกระมัง?”เห็นสถานการณ์แล้ว หลิ่วเฟยเยี่ยนที่กำลังวางแผนหลบหลีกเข้ากลุ่มคนพลันชะงักฝีเท้า ใบหน้าเผยรอยยิ้มประจบเอาใจ “รั่วเจิน ล้วนเป็นน้าไม่ดีเอง เข้าใจเจ้าผิดไปแล้ว น้าเองก็กังวลเจ้าพูดผิดไปจะสร้างปัญหาเอาได้ เจ้าไม่ถือสาน้าใช่หรือไม่?”“ญาติผู้น้อง พวกเราล้วนเป็นครอบครัวเดียวกัน” ซุนฮั่นเฟยพูดยิ้ม

Latest chapter

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 862

    ในช่วงฤดูที่สายหมอกและสายฝนโปรยปราย จ้าวซวี่ไป๋ได้บังเอิญพบเจอกับแม่นางเหมียวเหมี่ยวที่ลืมพกร่มมา    นางมีผิวพรรณขาวผ่องงดงาม ราวกับดอกไม้สีขาวที่เบ่งบานอยู่ริมทาง ทั้งบริสุทธิ์ อ่อนโยน และดูไร้เดียงสา จนผู้คนอดไม่ได้ที่จะอยากปกป้อง ยามที่นางยิ้มก็ยิ่งอ่อนหวาน ราวกับรอยยิ้มนั้นได้แทรกซึมเข้าสู่หัวใจผู้คน    จ้าวซวี่ไป๋พูดไปพูดมาก็อดไม่ได้ที่จะเผลอเผยรอยยิ้มออกมา ครั้นเมื่อกล่าวถึงช่วงท้าย แก้มก็ยิ่งแดงขึ้นกว่าเดิม    ซ่งรั่วเจินสบตากับคนอื่น ๆ แวบหนึ่ง แม้เขาจะไม่ได้กล่าวออกมาอย่างชัดเจน แต่ทุกคนล้วนเข้าใจดีว่า การพบเจอกันเช่นใดที่สามารถทำให้จิตใจของบุรุษว้าวุ่น จนถูกช่วงชิงวิญญาณไปโดยสิ้นเชิง    รสชาติแห่งความลุ่มหลงในความฝันนี้ คงไม่ใช่เรื่องธรรมดาเป็นแน่    “อวิ๋นอ๋อง ก่อนหน้านี้ท่านกล่าวว่าคุณชายจ้าวเคยมีสหายรักตั้งแต่วัยเยาว์ที่พลัดตกน้ำตายเมื่อหลายปีก่อน มีนามว่าอะไรหรือ?” ซ่งรั่วเจินเอ่ยถาม    ฉู่อวิ๋นกุยขมวดคิ้ว “ข้ากับแม่นางผู้นั้นมิได้สนิทสนมกันนัก อีกทั้งยังผ่านมาหลายปีเช่นนี้ กล่าวตามตรง ข้าก็จำมิได้”    “นางคือเฉียนชิ่งเหมียว” นายหญิงจ้าวรีบเอ่ยขึ้น    “เฉี

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 861

    “จ้าวฮูหยิน สถานการณ์ของคุณชายจ้าวมิอาจปล่อยให้ล่าช้าได้อีก หากปล่อยให้ล่าช้าต่อไป เกรงว่ายากที่จะมีชีวิตรอด”   ซ่งรั่วเจินเหลือบตามองเฉียนหย่าหลินเล็กน้อย “หากคุณชายจ้าวต้องเป็นอะไรไปเพราะการขัดขวางของท่าน ท่านจะรับผิดชอบไหวใช่หรือไม่?”    เฉียนหย่าหลินสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย “เจ้าพูดอะไรไร้สาระ? ซวี่ไป๋จะไม่เป็นอะไร!”    ก่อนหน้านี้ฉู่อวิ๋นกุยก็รู้เรื่องที่เฉียนหย่าหลินกับซ่งรั่วเจินขัดแย้งกันมาก่อน วันนี้จึงถือเป็นการได้เห็นว่า แท้จริงแล้วสตรีนางนี้บ้าคลั่งขนาดไหน ฉู่เทียนเช่อสามารถทนกับฮูหยินเช่นนางได้นานขนาดนี้ ก็ถือว่าเก่งมากยิ่งนัก!    “ไสหัวไป!”    ฉู่จวินถิงส่งสายตาหนึ่งที เพื่อให้อวิ๋นหยางไล่เฉียนหย่าหลินออกไปทันที    “ท่านน้า ท่านดูสิว่าพวกเขาทำกับข้าเช่นไร! ท่านอย่าทำร้ายซวี่ไป๋เลยนะ!” เฉียนหย่าหลินพูดด้วยความร้อนรน    นายหญิงจ้าวมีสีหน้าอับอาย พลางกล่าวว่า “ขออภัยจริง ๆ เฉียนหย่าหลินชินกับความเอาแต่ใจตั้งแต่เด็ก พูดจาไม่คำนึงถึงความเหมาะสม พวกท่านทั้งหลายอย่าถือสาเลยนะ”   เมื่อได้ยินดังนั้น ซ่งรั่วเจินจึงได้รู้ว่าแท้จริงแล้วจ้าวซวี่ไป๋กับเฉียนหย่าหลินเป็นญา

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 860

    “ผีสาวอะไรกัน เหมียวเหมี่ยวคือนางเซียน เจ้าอย่าใส่ร้ายนาง!” จ้าวซวี่ไป๋เลือดขึ้นหน้า“นางเซียน?” ฉู่อวิ๋นกุยแทบหัวเราะออกมาเพราะความโมโห “ถ้าเป็นนางเซียนจริง ตอนนี้เจ้าก็ควรกระปรี้ประเปร่าอิ่มเอิบ ทั้งยังเป็นไปได้ว่าอาจมีอายุยืนเป็นร้อยปีเพราะได้รับความช่วยเหลือจากนาง แต่เจ้าดูซิว่าตอนนี้เจ้ามีสารรูปแบบไหน?”“เจ้าดูตัวเองในกระจก สารรูปเหมือนใกล้จะลงโลงแบบนี้ เมื่อก่อนเจ้าชอบอ้างว่าตัวเองไม่มีทางถูกความรู้สึกบังตา จะต้องกตัญญูต่อพ่อแม่ไม่ใช่หรือไร?”“ตอนนี้เจ้ากำลังทำอะไรอยู่ ข้าแนะให้เจ้าใคร่ครวญดูให้ดีเสียเถอะ!”จ้าวซวี่ไป๋รับกระจกที่ฉู่อวิ๋นกุยโยนมาให้แล้วเหลือบมองไปโดยจิตใต้สำนึก หลังจากเห็นใบหน้าที่ซูบตอบซีดเซียว ไม่มีชีวิตชีวาแม้แต่น้อย ในใจก็ต้องตกตะลึง เหมือนคิดไม่ถึงว่าตนเองจะกลายเป็นแบบนี้ซ่งรั่วเจินเพิ่งเคยเห็นท่าทางเดือดดาลเช่นนี้ของฉู่อวิ๋นกุยเป็นครั้งแรก เห็นได้ชัดว่าคนทั้งสองเป็นสหายสนิทกันอย่างแท้จริง ไม่อย่างนั้นก็คงไม่โมโหถึงขั้นนี้“เจ้าดูอะไรออกหรือยัง? เป็นเพราะผีสาวตามรังควานจริงๆ หรือ?” ฉู่จวินถิงถามซ่งรั่วเจินพยักหน้า “ท่านดูพลังชีวิตของเขา พลังหยางแทบถู

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 859

    ทุกคนล้วนฝันกันทั้งนั้นฝันเป็นเรื่องราวติดต่อกันหลายวัน เรื่องแบบนี้ก็ใช่ว่าจะไม่เคยมีมาก่อนทว่าทุกวันล้วนฝัน สรรพสิ่งในฝันแทบเหมือนเป็นโลกอีกใบ เรื่องแบบนี้พวกเขากลับไม่เคยได้ยินมาก่อนจริงๆ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงแม่นางในฝันที่จะแต่งงานด้วยในตอนนี้!ซ่งรั่วเจินกลับไม่ประหลาดใจนัก เพียงแต่นึกยินดีอยู่บ้างโชคดีที่พวกนางมาได้ค่อนข้างทันเวลา ถ้าช้ากว่านี้สักหลายวัน รอจนคนทั้งสองแต่งงานกันจริงไปแล้ว นั่นก็จะช่วยยากจริงๆ แล้ว...“ฮูหยิน ท่านอ๋องทั้งสองมาแล้วเจ้าค่ะ” แม่นมรีบมารายงานนายหญิงจ้าวได้ยินคำรายงานนี้ก็ออกมาจากในห้องทันที เห็นพวกฉู่จวินถิงอยู่ข้างนอกก็รีบร้อนแสดงคารวะ “คารวะท่านอ๋องทั้งสอง”“ท่านป้า ที่ข้ามาวันนี้ก็เพราะรู้เรื่องซวี่ไป๋จึงตั้งใจมาเยี่ยมโดยเฉพาะ” ฉู่อวิ๋นกุยกล่าวตามตรงสายตานายหญิงจ้าวตกลงบนร่างซ่งรั่วเจินโดยไม่รู้ตัว นางย่อมเคยได้ยินมาก่อนว่าแม่นางตระกูลซ่งผู้นี้เชี่ยวชาญวิชาคุณไสย ตอนนั้นไม่เพียงช่วยสวีฮูหยินตามหาลูกสาวแท้ๆ จนเจอ ต่อมายังเปิดโปงความจริงเรื่องที่ตระกูลหลิ่วสลับตัวลูกอีกด้วยเดิมนางก็คิดว่าจะไปเชิญพระอาจารย์ที่มีวิชาแก่กล้ามาดูว่าลูกชายต้องคุ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 858

    “วันนี้พ่อของหม่อมฉันเข้าวังไปแล้ว ก่อนหน้านี้เกิดเรื่องขึ้นมากมายที่เมืองผิงหยาง วันนี้กลับมาแล้ว ไม่รู้ว่าทุกอย่างราบรื่นดีหรือไม่?” ซ่งรั่วเจินถาม“วางใจเถอะ เดิมทีท่านลุงก็เป็นขุนนางจงรัก คราวนี้สาเหตุที่อยู่ที่เมืองผิงหยางนานขนาดนี้ก็เป็นเพราะถูกบังคับ”“วันนี้รองแม่ทัพคนอื่นๆ ก็เข้าวังไปด้วยเหมือนกัน ก่อนหน้านี้เสด็จพ่อก็ทรงนึกเสียดายที่ท่านลุงพลีชีพไปในสมรภูมิ ตอนนี้เห็นเขากลับมาแล้วก็ดีพระทัยมาก”ซ่งรั่วเจินได้ยินอย่างนั้นก็ค่อยวางใจ “เช่นนั้นก็ดีเพคะ”“ข้ารู้ว่าหลังจากท่านลุงกลับมาจะต้องไม่ยอมปล่อยเรื่องที่เกิดขึ้นในสมรภูมิไปง่ายๆ เป็นแน่ แต่เรื่องก็ผ่านมานานขนาดนี้แล้ว ฝ่ายตรงข้ามก็คงใช้วิธีการตุกติกไปแล้ว ดังนั้นคิดจะพลิกคดีนี้ขึ้นมาอีกครั้งคงไม่ง่ายดายปานนั้น”“รอจนเจ้ากลับไปแล้วก็ลองเกลี้ยกล่อมท่านลุงดู อย่าได้ร้อนใจเกินไป ความจริงจะต้องถูกตรวจสอบออกมาได้ไม่ช้าก็เร็ว”“หม่อมฉันเข้าใจเพคะ”ซ่งรั่วเจินมองฉู่จวินถิงอย่างลึกซึ้ง เขาคาดเดาความคิดในใจของท่านพ่อได้จริงๆ ด้วย แต่คิดจะทำเรื่องนี้หาได้ง่ายดายไม่ แต่ดำย่อมไม่อาจกลายเป็นขาว ความจริงจะต้องปรากฏออกมาในสักวันณ ต

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 857

    หวงซือถิงได้ยินวาจานั้นแล้วก็เหลือบมองอวิ๋นเฉิงเจ๋อโดยไม่รู้ตัว ดวงตาแฝงรอยคาดหวังหลังจากพบกันคราวก่อน นางก็พบว่าท่าทีของอวิ๋นเฉิงเจ๋อเย็นชาอย่างมาก แม้นางจะไม่เคยมีประสบการณ์ด้านนี้มาก่อน แต่ก็เข้าใจว่านั่นไม่ใช่ท่าทางของคนที่ได้พบคนในดวงใจเดิมทีเขาก็ไม่ได้เต็มใจมาพบนาง เพราะได้รับความช่วยเหลือจากญาติผู้ใหญ่จึงมีโอกาสเจอหน้ากัน กระทั่งว่าตอนจากลา ท่าทีของเขาก็แสดงออกชัดเจนยิ่งว่าไม่มีความคิดจะแต่งงาน อย่ามาเสียเวลากับเขาเลยแต่ตอนนั้นนางพบอวิ๋นเฉิงเจ๋อครั้งแรกก็ตกหลุมรักทันที ตอนนี้ถึงวัยออกเรือนแล้วจึงอยากจะลองดูสักครั้งในเมื่อเขาไม่มีคนในดวงใจ เช่นนั้นตนเองก็ไม่แน่ว่าจะไม่มีโอกาสเอาเสียเลยอวิ๋นเฉิงเจ๋อได้ยินอย่างนั้นก็รู้ว่าอวิ๋นเนี่ยนชูกำลังโกรธเคืองเขาอยู่จึงกล่าวว่า “ระวังคำพูดและการกระทำ เรื่องที่ไม่มีมูลก็อย่าพูดจาส่งเดช จะทำให้ชื่อเสียงแม่นางหวงเสื่อมเสียเอาได้”“เรื่องที่ไม่มีมูล?”ดวงตาอวิ๋นเนี่ยนชูฉายแววตกตะลึงพลางมองไปทางหวงซือถิงโดยไม่รู้ตัว แล้วก็มองเห็นความผิดหวังบนสีหน้าของอีกฝ่ายแววตานางเปลี่ยนไปหลายส่วนโดยไม่รู้ตัว เห็นทีแม่นางผู้นี้คงเหมือนกับนางสินะ...

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 856

    “ข้าจำได้ว่าตอนนั้นเจ้าได้รับความตกใจ หลังกลับมาก็มีไข้สูงไปสามวัน ต่อมาถึงได้ดีขึ้น”เนื่องจากตอนนั้นนี่เป็นเรื่องครึกโครมมาก เขาจึงจำเรื่องนี้ได้แม่น ตอนนั้นคนที่กลับมาล้วนถูกสั่งสอนอย่างหนัก ฉู่จวินถิงจึงมีความประทับใจเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างลึกซึ้งตอนนั้นเขายังพยายามทำความเข้าใจต้นสายปลายเหตุของเรื่องนี้โดยละเอียด หลังจากจ้าวซวี่ไป๋ทะเลาะกับแม่นางผู้นั้น สองฝ่ายก็แยกทางกัน พวกเขาไปเล่นบริเวณไม่ไกลออกไป ทั้งยังไม่คิดว่าแม่นางผู้นั้นจะเกิดเรื่องไม่มีใครรู้ว่าเหตุใดอยู่ดีๆ จึงพลัดตกน้ำฉู่อวิ๋นกุยนึกถึงเรื่องในตอนนั้นขึ้นมาแล้วก็รู้สึกขนลุกซู่จึงลูบแขนโดยไม่รู้ตัว “แม่นางซ่ง เจ้าคงไม่ได้หมายความว่าแม่นางในความฝันของซวี่ไป๋คือเพื่อนเล่นสมัยเด็กผู้นั้นหรอกนะ?”หลังจากซ่งรั่วเจินได้ยินว่าที่นั่นเคยมีคนจมน้ำตายมาก่อนจริงๆ ทั้งยังเป็นแม่นางที่รู้จักก็รู้สึกว่ามีความเป็นไปได้สูง“ใช่ว่าจะไม่มีความเป็นไปได้นี้ ถ้าไม่มีต้นสายปลายเหตุเสียเลย จู่ๆ ฝ่ายตรงข้ามไม่มีทางมาพัวพันกะทันหันเช่นนี้”“แม่น้ำทุกสายล้วนเคยมีคนตายมาก่อน คนที่ตกน้ำยิ่งมีจำนวนนับไม่ถ้วน แต่คนส่วนใหญ่ หลังจากตกน้ำก็ไม่

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 855

    ซ่งรั่วเจินฟังคำบอกเล่านั้นแล้ว ดวงตาก็ฉายแววประหลาดใจ นี่คงไม่ใช่...เจ้าสาวผีหรอกนะ?เรื่องแบบนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่สำหรับนางแต่อย่างใด อันที่จริงในหมู่ชาวบ้านก็มักเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นบ่อยๆ กระทั่งว่าจัดงานแต่งงานกับผีก็ยังมี แต่เห็นได้ชัดว่าครอบครัวคนผู้นี้ไม่รู้เรื่อง ทั้งยังถูกผีสาวตามพัวพันสำเร็จแล้วด้วย?“เจ้าว่าเรื่องนี้แปลกไหม?”ฉู่อวิ๋นกุยมีสีหน้าร้อนใจ ถ้าเป็นตอนก่อนหน้าที่จะได้รู้จักซ่งรั่วเจิน เขาจะต้องไม่คิดอะไรมากเป็นแน่ คงคิดแค่ว่าเจ้าหมอนี่หมกมุ่นตอนกลางวันเอาไปฝันตอนกลางคืน พูดตรงๆ ก็คือแตกหนุ่มแล้วแต่หลังจากที่เขาได้เห็นสีหน้าที่ทั้งอิดโรยและไม่น่ามองของจ้าวซวี่ไป๋ก็รู้สึกว่าจะต้องมีปัญหาแน่นอนซ่งรั่วเจินพยักหน้าน้อยๆ แต่ก็ไม่ได้พูดยืนยันออกมาตรงๆ“จากที่ท่านพูดมา สถานการณ์ก็ประหลาดอยู่บ้างจริงๆ นั่นแหละ แต่ตกลงแล้วเป็นเรื่องอะไรกันแน่ ยังต้องไปดูด้วยตาตัวเองก่อนจึงจะยืนยันได้”“ตอนนี้สุขภาพเขาย่ำแย่ลงทุกที ท่านบอกว่าเขาล้มป่วยหนัก รู้หรือไม่ว่าป่วยเป็นอะไร?”“ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน” ฉู่อวิ๋นกุยส่ายศีรษะ “หมอหลายคนไปดูอาการให้แล้ว แต่ดูเหมือนก็ตรวจไม่พบอะไร

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 854

    “ไม่ได้เจอกันพักเดียว แม่นางซ่งงามขึ้นกว่าเมื่อก่อนเสียอีก มิน่าเล่าเสด็จพี่ไม่ได้เจอวันเดียวก็อดใจไม่ไหวต้องมาหาเสียแล้ว”ฉู่อวิ๋นกุยเห็นท่าทางอัดอั้นตันใจของเสด็จพี่สามของตนแล้วก็อดนึกขันไม่ได้เมื่อก่อนมีแต่ผู้หญิงที่หมุนรอบตัวเขา ตอนนี้กลับต้องมาหมุนรอบตัวแม่นางซ่ง แบบนี้คงเรียกว่าแพ้ทางสินะ!ฉู่จวินถิงปรายตามองเขา สายตาเต็มไปด้วยแววตักเตือนฉู่อวิ๋นกุยลูบจมูก แต่ก็หาได้กลัวไม่ อย่างไรเสียพี่สะใภ้ก็อยู่ด้วยจึงไม่ต้องกังวลเรื่องไฟโทสะของเสด็จพี่สามซ่งรั่วเจินเห็นฉู่จวินถิงมีสีหน้าเย็นชาราวกับว่ามีคนค้างเงินเขาแล้วยังไม่คืนกระนั้น นางกล่าวว่า“อย่าโกรธเลยเพคะ หม่อมฉันคิดว่าท่านเพิ่งกลับมา ทั้งยังต้องเข้าวังไปรายงาน ในจวนอ๋องก็มีเรื่องมากมายต้องจัดการ หม่อมฉันไม่อยากรบกวนท่านอย่างไรเล่าเพคะ?”ฉู่จวินถิงหัวเราะเบาๆ “ข้าว่าเจ้าไม่อยากให้ข้ารบกวนเจ้ามากกว่ากระมัง? คืนวานข้าให้คนมาแจ้งเจ้าแล้วนะว่าวันนี้ว่าง”ซ่งรั่วเจินที่ถูกพูดแทงใจดำ “...”วันนี้เดิมทีนางก็แค่อยากมาดูเรื่องสนุก การใส่ใจเรื่องคนอื่นแบบนี้ จะพาฉู่จวินถิงมาด้วยก็คงไม่ได้หรือเปล่า?ดูอย่างไรเขาก็ไม่เหมือนคนที่จะ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status