คุณหนูตกอับเกิดตายในเกี้ยวระหว่างงานแต่ง ลืมตาตื่นมาอีกที ฟู่จาวหนิงซึ่งเป็นอัจฉริยะแห่งวงการแพทย์ก็ข้ามภพมาอยู่ในร่างนี้แทนแล้ว บุตรสาวของหมอเทวดาพึ่งพาอำนาจรังแกคนอื่น ทั้งฉีกชุดแต่งงาน แถมยังบังคับให้นางยกเลิกงานแต่ง คู่หมั่นตัวเองก็เอาแต่ปกป้องคนอื่น ดูถูกนาง รังเกียจนาง แถมยังขู่จะฆ่านางอีก คนในตระกูลก็มีแต่พวกอกตัญญูที่คิดจะฆ่าผู้นำตระกูลเพื่อชิงสมบัติทั้งนั้น ฟู่จาวหนิงทำได้เพียงถลกแขนเสื้อขึ้นเพื่อเตรียมพร้อมสู้เท่านั้น เธอถือคติมีแค้นก็ต้องแก้ทันที งานแต่งเฮงซวยแบบนี้จะยกเลิกก็ยกเลิกไปเลย คนอกตัญญูมาคนหนึ่งฆ่าคนหนึ่ง คนชั่วมาสองคนก็ฆ่าทั้งสองคน! ไหนยังจะต้องสู้กับจวิ้นอ๋องผู้มีฐานะสูงส่ง อำนาจคับเมืองคนนั้นอีก จวิ้นอ๋อง : ข้าผิดไปแล้ว ให้อภัยข้าเถอะ ดีกันนะ มากอดหน่อยเร็ว...
View Moreไปแท่นชมดาวช่วงจื่อ(23.00-01.00น.)หรือ?ฟู่จาวหนิงมองไปทางเซียวหลันยวน "แท่นชมดาวเป็นสถานที่แบบไหน?""แท่นชมดาวต้องเดินขึ้นไปจากตำหนักถวายเครื่องหอม อีกด้านหนึ่ง ที่นั่นมีศาลาอยู่ ด้านนอกศาลามีลานอยู่แห่งหนึ่ง เวลาที่อากาศดีจะมองเห็นดาวระยิบระยับ เหมือนยื่นมือไปเด็ดมาได้เลย"เซียวหลันยวนเลิกคิ้วเล็กน้อย "แต่ว่าแท่นชมดาวเคยมีศิษย์คนหนึ่งตกลงไป หลังจากนั้นจึงปิดตายไว้ ไม่มีคนเข้าไปนานแล้ว"สถานที่อันตรายหรือ? ทำไมถึงมีคนตกลงไปได้?"แล้วเจ้าอารามให้พวกเราไปที่นั่นทำไมกัน?"เซียวหลันยวนมองซางจื่อซางจื่อส่ายหัว "เจ้าอารามไม่ได้บอกอะไร แต่ว่า เหมือนน่าจะไปชมดาวกระมัง"แท่นชมดาวถ้าไม่ไปชมดาวแล้วจะไปทำอะไรได้?แต่พวกเขาดูชวนฝันขนาดนั้นเลยหรือ? แล้วยังนัดไปดูดาวช่วงจื่ออีกฟู่จาวหนิงถามซางจื่อ "นอกจากเราสองคน ยังเรียกใครไปอีกไหม?""เจ้าอารามให้องค์หญิงใหญ่ไปด้วย"โอ๋? ฟู่จาวหนิงอดพึมพำขึ้นมาไม่ได้ "แยกกันไม่ได้เลยว่างั้น?"สวรรค์ให้อภัยนางด้วย เดิมทีนางไม่ใช่คนใจแคบช่างสอดรู้สอดเห็นขนาดนี้ ใครให้เจ้าอารามสร้างภวังค์เฮงซวยให้นาง แล้วไปสร้างภวังค์ที่เซียวหลันยวนกับองค์หญิงใหญ่เป็นสา
"เรียนพระชายา ชามนี้เป็นของท่านอ๋อง พ่อครัวทำอาหารให้ท่านอ๋องจนชินแล้ว ทำตามรสชาติที่ท่านอ๋องชอบ"คนที่เข้ามายกชามหมี่น้ำใสไปไว้ตรงหน้าเซียวหลันยวน ส่วนอีกชามวางไว้ตรงหน้าฟู่จาวหนิง"ชามนี้คุณชายถังเป็นคนทำ คุณชายถังบอกว่านี่เป็นหมี่ที่คนเขาชิงถงชื่นชอบ ลุงของเขาก็ชอบมาก ดังนั้นจึงลงมือทำชามนี้ให้พระชายาเป็นพิเศษ เชิญพระชายาชิม""ถังอู๋เจวี้ยนเป็นคนทำหรือ?"ฟู่จาวหนิงมองเซียวหลันยวนด้วยสัญชาตญาณ แล้วก็เห็นเขาหน้าขรึมลงจริงๆ"กลัวว่าเขาจะวางยาพิษไหม?" ฟู่จาวหนิงพูดติดตลก"พระชายาวางใจ คุณชายถังตอนที่ปรุงในห้องครัวพวกเราคอยดูอยู่ตลอด ใช้แต่วัตถุดิบในห้องครัวเท่านั้น ไม่มีปัญหาแน่นอน" คนที่นำเข้ามาเอ่ยขึ้นเซียวหลันยวนแม้จะรู้สึกจี๊ดในใจที่ถังอู๋เจวี้ยนประจบนางขนาดนี้ แต่จุดนี้ก็ยังต้องยอมรับ: "ถ้าเขากล้ามาวางยาพิษเจ้าที่นี่จริงก็แสดงว่าไม่กลัวตาย"เขากวาดล้างเขาชิงถงทิ้งทั้งหมดได้ยิ่งไปกว่านั้น เจ้าอารามยอดเขาโยวชิงก็อยู่ที่นี่ด้วย ไม่ยอมให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นแน่ฟู่จาวหนิงพอได้ยินเขาพูดเช่นนี้ ก็หยิบตะเกียบขึ้น "สู้ท่านลองชิมไหม? แล้วชามนั้นท่านให้ข้ากิน"นางรู้ว่าถ้าตนเองก
ฟู่จาวหนิงเห็นปฏิกิริยาของเซียวหลันยวน รู้สึกไม่เข้าใจอยู่หน่อยๆ"ทำไมหรือ? เจ้าอารามฝึกบำเพ็ญ แต่งงานไม่ได้หรือ?"ก่อนหน้านี้นางเหมือนได้ยินว่าอารามนี้ของเจ้าอาราม ไม่ใช่อารามเต๋าที่ไว้สำหรับฝึกบำเพ็ญเต๋า แล้วก็ไม่เคยได้ยินด้วยว่าจะแต่งงานไม่ได้ยิ่งไปกว่านั้น หน้าตาของเจ้าอารามยังน่าหลงใหลขนาดนั้น เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มีหญิงสาวมาชอบแต่จากคำพูดของเซียวหลันยวนก่อนหน้านี้ บนยอดเขาโยวชิงนี้ไม่มีนายหญิงอยู่จริงๆ ไม่มีผู้อาวุโสหญิงที่ติดตามเจ้าอารามแล้วเลี้ยงดูเขามาจนโต"ได้ยินว่า ตอนเจ้าอารามยังหนุ่มมีคู่หมั้นอยู่" เซียวหลันยวนนึกๆ จำเรื่องนี้ขึ้นมาได้ "แต่ต่อมาไม่รู้ทำไมจึงไม่ได้แต่งงาน เรื่องนี้ข้าได้ยินมาโดยบังเอิญสมัยยังเด็กน่ะ""แล้วคู่หมั้นของเขาล่ะ?""ไม่รู้สิ ต่อมาข้าก็ไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้เลย และยิ่งไม่เคยถามด้วย"เซียวหลันยวนก่อนหน้านี้ไม่ใช่พวกชอบแส่เรื่องชาวบ้าน นิสัยเองก็ค่อนข้างเย็นชา เขารู้สึกว่าเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับตนเองก็จะไม่ถามไม่ไถ่ให้มันมากความ"ก่อนหน้านี้ข้ากับเจ้าอารามไม่ค่อยคุยเร่องส่วนตัวกันนัก เคารพเขา แต่ก็ไม่ได้ใกล้ชิดกันมาก แขาแค่เอ็นดูข้า ไม่ได้สนิท
นิ้วของเจ้าอารามเคาะเบาๆ บนโต๊ะ มืออีกข้างก็ลูบเบาๆ วาดผ่านบนเตาถ่านข้างๆ พริบตาที่องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นมองไม่เห็น ก็มีผงฝุ่นลอดจากระหว่างนิ้วของเขาปลิวเข้าไปในไฟของเตา แล้วเผาไหม้เป็นกลิ่นหอมจางๆ ออกมาอย่างรวดเร็วองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นไม่ทันได้รู้สึกเลยนางกำลังมองเจ้าอารามอย่างตกตะลึง"เจ้าอารามกำลังล้อข้าเล่นใช่ไหม? ข้าจำได้ชัดเจนแท้ๆ แล้วจะเป็นภวังค์ได้อย่างไรกัน?"ชายคนนั้นที่นางกอด ความรู้สึกที่ริมฝีปากชุ่มชื้นอ่อนนุ่มตอนที่จูบ ใจที่เต้นระรัว มันแจ่มชัดอย่างมาก แล้วจะเป็นภวังค์ได้อย่างไรกัน?"องค์หญิงใหญ่ เจ้ามองข้านะ"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นมองดวงตาเขาข้างหูยังได้ยินจังหวะเคาะโต๊ะเบาๆ ของเขามองดวงตาที่ดูเหมือนมีความเมตตาต่อสรรพชีวิตของเจ้าอาราม นางก็ตะลึงงันไป"ไม่เกิดอะไรขึ้นทั้งนั้น เป็นแค่ภวังค์ อีกไม่นานเจ้าก็จะลืมเรื่องทั้งหมด ถ้ามีคนพูดเรื่องนี้อีก เจ้าก็แค่บอกว่าตนเองพูดเล่นไปก็พอ ไม่มีเรื่องอะไรทั้งนั้น"เสียงของเจ้าอารามค่อยๆ ไหลเข้ามาในหู แฝงไว้ด้วยการปลอบโยนที่แข็งแกร่งสายตาองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเริ่มเลือนรางไปบ้าง"เป็นแค่ภวังค์หรือ?""ใช่แล้ว""ไม่เกิดอะไรขึ้น
องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเงยหน้าขึ้นมองเขาช้าๆเจ้าอารามกำลังล้างถ้วยชา ไม่มองนาง"ใช่แล้ว""ตอนองค์หญิงใหญ่ยังเล็ก ข้าเคยทำนายว่าเจ้าจะมีเคราะห์ภัย ขอแค่ผ่านเคราะห์ภัยนั้นได้ แล้วมาอยู่ด้วยกันกับอ๋องเจวี้ยน ชะตาของเจ้าก็จะดีขึ้น โชคดีตลอดไปสงบสุขจนแก่เฒ่า"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นได้ยินคำพูดเขาในที่สุดก็ได้สติกลับมา"เคราะห์อะไรหรือ?""ตอนนี้ดูแล้ว เคราะห์นั้นน่าจะอยู่บนตัวฝ่าบาทต้าชื่อ และองค์หญิงใหญ่ก็เป็นแม่นางที่ฉลาด ตัดสินใจเด็ดขาด หนีออกมาจากวังหลวงต้าชื่อ วังจักรพรรดิต้าชื่อกลับไปไม่ได้อีกแล้ว ถ้าเข้าประตูวังไปก็เหมือนจมลงสู่ก้นทะเล คำนี้นำมาพูดกับองค์หญิงใหญ่แล้ว ถือว่าถูกต้องอย่างมาก"เจ้าอารามล้างชาไปรอบหนึ่ง ชงชามาสองถ้วย ยกขึ้นมาให้นาง "ดื่มชาเถอะ ชาของอายวน"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเมื่อครู่ร้องไห้ไปยกใหญ่ ตอนนี้คอเองก็แหบพร่าไปหมดแล้ว กระหายมากด้วย พอสูดๆ จมูก นางจึงยกถ้วยช้านั่นขึ้นมาอย่างกระตือรือร้น"ดื่มทีละนิด ระวังลวกปาก" เจ้าอารามเตือนนางทันที"โอ้"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นอยู่ต่อหน้าเขาก็ดูว่าง่ายขึ้นมาก ถอนหายใจแล้วหันมาจิบเบาๆในที่สุดก็ได้ดื่มชานี้แล้ว ทำไมนางถึงไม่ดีใ
จานชามที่วางอยู่เต็มโต๊ะพลิกคว่ำหมดแล้ว มีเศษบางส่วนกระเด็ไปถึงธรณีประตูทางนั้นด้วย ทำเอาองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นที่กำลังร้องไห้ชะงักไป เหมือนถูกบีบคอหอยเอาไว้ตอนนี้ใครก็ไม่ต้องกินแล้วทั้งนั้น"ข้ายังไม่เคยแตะต้องเจ้าแม้แต่ปลายผมด้วยซ้ำ แล้วจะมายอมให้เจ้ามาใส่ร้ายข้าแบบนี้ได้ยังไง? ความบริสุทธิ์ของชายหนุ่มไม่ถือว่าเป็นความบริสุทธิ์เรอะ?"พรวดสถานการณ์นี้จะหัวเราะออกมาก็คงไม่มีมารยาท แต่ถังอู๋เจวี้ยนก็ยังหัวเราะขึ้นมาอย่างทนไม่ไหวเขามองอย่างไม่อยากเชื่อไปทางเซียวหลันยวน คิดไม่ถึงจริงๆ ว่าเขาจะพูดคำพูดแบบนี้ออกมาความบริสุทธิ์ของชายหนุ่ม?ใบหน้าที่หล่อเหลานี่ของอ๋องเจวี้ยนพูดคำพวกนี้ออกมาได้ยังไงกัน?องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นนิ่งงันไปแล้วนางได้ยินอะไรเนี่ย?ริมฝีปากนางสั่นระริก อยากจะพูด แต่ว่า แต่ว่านางไม่ได้ใส่ร้ายเขา มันเป็นเรื่องจริงเจ้าอารามถอนหายใจ บอกกับซางจื่อว่า "ให้คนมาเก็บกวาดหน่อย""ขอรับ"เจ้าอารามเดินไปหาองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น ยืนอยู่ตรงหน้านาง โค้งเอวยื่นมือไปทางนาง"ลุกขึ้นมา"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นยังงงงันอยู่ พอเห็นเขายื่นมือออกมา ก็ใช้มือของตนเองออกไปทาบรับด้วยสัญชา
"พวกเรากลับเมืองหลวงเถอะ" เซียวหลันยวนเอ่ยขึ้นฟู่จาวหนิงถลึงตามองเขา"ที่นี่ล้วนเป็นผู้อาวุโสท่านทั้งั้น จ้าเองก็เคารพพวกเขา ท่านอยู่ที่นี่นั่นล่ะ"นางทนไม่ไหวจนจะเอาความโกรธไปลงกับเขาแล้ว ถึงอย่างไร ถ้าไม่ใช่เพราะเขา นางจะต้องเดินทางมานับพันลี้เพื่อเจอเรื่องแบบนี้หรือ?ก่อนหน้านี้ฮูหยินเฉิงเองก็พูดล้ำเส้นมามากแล้ว เซียวหลันยวนแม้จะใช้มาตรการตีตัวออกห่างจากนาง แต่ก็ไม่ทำให้ถึงที่สุด ทำให้ฮูหยินเฉิงจนถึงตอนนี้ยังกล้ามาพูดจาพล่อยๆ ต่อหน้านางอีกนางทนมาจนพอแล้วจริงๆบวกกับภวังค์อะไรนั่นที่เจ้าอารามทำออกมาก่อนหน้านี้ ก็ทำให้ในนางยัดไฟดวงหนึ่งเข้าไป เซียวหลันยวนแม้จะเข้ามาปลอบนางทันที แต่พอมาเจอคนหาเรื่อง ก็ทำให้นางระเบิดขึ้นมาแล้ว"หนิงหนิง..."เซียวหลันยวนพอเห็นก็รู้ว่าเขาถูกพาลมาใส่แล้ว รีบกุมมือนางไว้ "กินข้าวก่อนเถอะ ถ้าไม่กินจะเสียเปล่านะ เดินทางท้องกิ่วทรมานมากไม่ใช่หรือ?"เขาบอกกับพวกชิงอี "ไล่ออกไป"ไปช่วยซะ อย่าให้พวกนางเอะอะขึ้นอีกไม่เช่นนั้นตัวเขาก็จะถูกสะบัดทิ้งไปด้วยฮูหยินเฉิงมองเขาอย่างไม่อยากเชื่อ "ท่านอ๋อง? อายวน นี่เจ้า!""ออกไป"เซียวหลันยวนเสียงเย็นลงมาแ
ฮูหยินเฉิงคิดจะให้น้ำเสียงตนเองดูจริงใจขึ้นหน่อย แสดงออกมาว่าตนเองไม่ใช่ว่ารังเกียจฟู่จาวหนิง"พระชายาเข้าร่วมสมาคมหมอใหญ่ แล้วยังช่วยรักษาผู้ประสบภัยเมืองเจ้อ เรื่องนี้มีส่วนช่วยกับชื่อเสียงท่านอ๋องแน่นอน แต่พอมีงานใหญ่มากเข้า งานในบ้านก็คงจะไม่มีเรี่ยวแรงกำลังแล้ว ถ้าเวลาเช่นนี้ในจวนอ๋องมีคนเพิ่มอีกคนจะไม่ใช่เรื่องดีหรือ? แล้วยังช่วยดูแลท่านอ๋องได้ แบ่งเบาการรับผิดชอบเรื่องมีทายาทให้จวนอ๋องได้ด้วย..."องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นก็ไม่คิดว่าฮูหยินเฉิงจะพูดมาตรงๆ ต่อหน้าคนทั้งหมดได้แบบนี้นางรู้สึกอับอายขุ่นเคือง แต่ก็ยังรู้สึกคาดหวังอยู่ด้วยเหลือบมองไปทางเจ้าอารามอย่างไม่ค่อยสงบนัก และมองไปยังถังอู๋เจวี้ยนที่นางคิดว่าเป็นคนนอกอย่างสมบูรณ์ สุดท้ายสายตาก็ตกอยู่บนใบหน้าเซียวหลันยวน รอปฏิกิริยาตอบกลับของเขาพอมองไป กลับพบว่าสายตาเซียวหลันยวนมีจิตสังหารอยู่ด้วยและนางยังไม่ทันจะเข้าใจ ฟู่จาวหนิงก็ออกแรงตบตะเกียบลงบนโต๊ะเสียงดัง "ปัง" จากนั้นก็บอกกับเสี่ยวเยว่ว่า "เสี่ยวเยว่ ลากฮูหยินเฉิงกับองค์หญิงใหญ่ออกไปให้ที!"หา?คำสั่งนี้ กระทั่งเซียวหลันยวนที่มีจิตสังหารอยู่ก็ยังงงงันไปด้วยเสี่ยวเ
ถึงอย่างไรก็มีเรื่องตั้งมาขนาดนี้แล้ว ต่อให้ไม่กินข้าวเรื่องพวกนี้ก็ไม่หายไปหรอก เช่นนั้นก็สู้กินให้อร่อยไปดีกว่าไหมองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นคอยมองเซียวหลันยวนตลอดเวลา แก้มเองก็แดงระเรื่อ แต่เซียวหลันยวนไม่แม้แต่จะเหลือบมองนาง ทำให้นางใจว้าวุ่นมาก อารมณ์ปนเปไปหมดหรือว่าเขาจะทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรือ?หรือก็คือ เพราะฟู่จาวหนิงอยู่ที่นี่ ดังนั้นเขาจึงไม่อยากจะเปิดเผย?กินไปได้ครึ่งหนึ่ง ฮูหยินเฉิงก็ทนไม่ไหว เปิดปากถามเรื่องชะตาของพวกเขาขึ้นมา"เจ้าอารามทำนายชะตาให้พวกเขาแล้ว เป็นอย่างไรบ้าง?"เจ้าอารามเองก็วางตะเกียบลง"ชะตาของอายวนกับองค์หญิงใหญ่ ผลลัพธ์เหมือนกัน เข้ากันเป็นอย่างมาก""จริงหรือ? เช่นนั้นไม่ใช่อธิบายว่าพวกเขาคือคู่สวรรค์สร้างรึ? พวกเขาต้องแต่งงานกันสิ ดีกันทั้งหมดไม่ใช่หรือ?" ฮูหยินเฉิงตื่นเต้นขึ้นมาแต่หลังจากพูดออกมา นางก็รู้ว่าไม่ค่อยเหมาะสมนักถึงอย่างไรตอนนี้เซียวหลันยวนก็มีพระชายาแล้ว พระชายาเองก็อยู่ที่นี่ด้วยพูดแบบนี้ สำหรับพระชายาอ๋องเจวี้ยนถือเป็นการหักหาญน้ำใจทำร้ายกันมากจริงๆฮูหยินเฉิงเห็นเซียวหลันยวนสีหน้าเย็นชาไป ใจก็สั่นกึก คิดจะแก้ไขสถานการณ์
ณ เมืองหลวง แคว้นเจาบนถนนที่คึกคักหญิงสาวที่สวมชุดงดงามนางหนึ่งกำลังนำทหารหลายคนของนางไปดักขบวนแห่เจ้าสาวขบวนหนึ่งอย่างดุดัน“หลีกไป นี่คือคุณหนูใหญ่จากตระกูลของหมอเทวดาหลี่ หากว่าพวกเจ้าทำให้คุณหนูไม่พอใจระวังจะเดือดร้อน!” ผู้คนที่กำลังเดินอยู่บนถนนต่างพากันรีบหลีกทางให้ในทันที ด้วยกลัวว่าจะถูกลูกหลง เหล่าชาวเมืองมองไปที่ขบวนแห่เจ้าสาวที่ถูกตกแต่งด้วยความรู้สึกเห็นใจ “นี่เจ้าสาวจากตระกูลไหนกันเนี่ย? ไปทำอะไรให้คุณหนูใหญ่ตระกูลหลี่ขัดใจกัน?”“เจ้าไม่รู้หรือ? วันนี้เป็นวันแต่งงานของรัชทายาทเซียวกับคุณหนูตระกูลฟู่ คนที่นั่งอยู่ในเกี้ยวเจ้าสาวนั่นก็ต้องเป็นคุณหนูฟู่นั่นแหละ”โครม เกี้ยวเจ้าสาวถูกทหารของตระกูลหลี่ใช้กำลังบังคับให้หยุดลง หลังจากที่เกี้ยวเจ้าสาวเกิดการสั่นไหวอย่างรุนแรง ก็ได้ยินเสียงตุ๊บดังออกมา คล้ายจะเป็นเสียงของศีรษะที่กระแทกอะไรสักอย่าง“ไปเอาตัวฟู่จาวหนิงมา! แล้วก็ไปถอดชุดเจ้าสาวของนางทิ้งซะ!”คุณหนูใหญ่ตระกูลหลี่ชี้นิ้วไปยังเกี้ยวเจ้าสาวก่อนจะสั่งออกมาอย่างวางอำนาจ ทันใดนั้นทหารรับใช้ก็วิ่งไปแล้วยื่นมือไปเปิดม่านบังเกี้ยวเจ้าสาวทันทียายเฒ่าผู้ดูแลพิธีที่ยืนอยู่ด้านข้...
Comments