คุณหนูตกอับเกิดตายในเกี้ยวระหว่างงานแต่ง ลืมตาตื่นมาอีกที ฟู่จาวหนิงซึ่งเป็นอัจฉริยะแห่งวงการแพทย์ก็ข้ามภพมาอยู่ในร่างนี้แทนแล้ว บุตรสาวของหมอเทวดาพึ่งพาอำนาจรังแกคนอื่น ทั้งฉีกชุดแต่งงาน แถมยังบังคับให้นางยกเลิกงานแต่ง คู่หมั่นตัวเองก็เอาแต่ปกป้องคนอื่น ดูถูกนาง รังเกียจนาง แถมยังขู่จะฆ่านางอีก คนในตระกูลก็มีแต่พวกอกตัญญูที่คิดจะฆ่าผู้นำตระกูลเพื่อชิงสมบัติทั้งนั้น ฟู่จาวหนิงทำได้เพียงถลกแขนเสื้อขึ้นเพื่อเตรียมพร้อมสู้เท่านั้น เธอถือคติมีแค้นก็ต้องแก้ทันที งานแต่งเฮงซวยแบบนี้จะยกเลิกก็ยกเลิกไปเลย คนอกตัญญูมาคนหนึ่งฆ่าคนหนึ่ง คนชั่วมาสองคนก็ฆ่าทั้งสองคน! ไหนยังจะต้องสู้กับจวิ้นอ๋องผู้มีฐานะสูงส่ง อำนาจคับเมืองคนนั้นอีก จวิ้นอ๋อง : ข้าผิดไปแล้ว ให้อภัยข้าเถอะ ดีกันนะ มากอดหน่อยเร็ว...
ดูเพิ่มเติมอันเหนียนแปลงโฉมเป็นชายกลางคนคนหนึ่ง พาสาวใช้คนหนึ่งเข้ามาในจวนอ๋องเจวี้ยนฟู่จาวหนิงสายตาตกอยู่บนตัวสาวใช้คนนั้น หัวเราะพรวดออกมา"องค์หญิงแปลงโฉมใช้ได้นี่นา หน้าย่นลงมาแล้วนั่น"สาวใช้ที่ดูลับๆ ล่อๆ คนนึ้นยืดตัวตรง เงยหน้าขึ้นทันที ท่าทางเปลี่ยนไปในพริบตานางมองฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้นอย่างประหลาด "ข้าแต่งแบบนี้แล้ว เจ้ายังปราดเดียวก็รู้เลยหรือ?""ใบหู คางกับคอขององค์หญิงไม่ได้เปลี่ยนไปเลย" ฟู่จาวหนิงชี้ไปที่ช่องโหว่เหล่านั้นหงจั๋วกับเฝิ่นซิงยืนอยู่ข้างๆนาง ทั้งสองคนล้วนมององค์หญิงหนานฉืออย่างสนอกสนใจขนาดพระชายาชี้ช่องโหว่พวกนี้ออกมาแล้ว แต่พวกนางก็ยังมองไม่ออก ดูท่าสายตาของพระชายาจะแข็งแกร่งกว่าคนธรรมดามากเลยองค์หญิงหนานฉือเบ้ปาก "ตอนที่ข้าออกมาก็ส่องกระจกตั้งหลายรอบแล้วนา ขนาดข้าเองยังมองไม่ออกเลย"คอใบหูและมือของนาง ทาจนดำไว้ชั้นหนึ่ง มีช่องโหว่ตรงไหนกันอันเหนียนเอ่ยขึ้นว่า "พระชายาอ๋องเจวี้ยนเรียนวิชาแพทย์มานะ ต้องมองคนได้เฉียบคมกว่าพวกเราอยู่แล้ว""นี่เกี่ยวกับเรียนแพทย์ตรงไหนกัน" องค์หญิงหนานฉือไม่ค่อยเข้าใจฟู่จาวหนิงพยักหน้าให้อันเหนียน แสดงท่าทีชื่นชม "ผู้ตรวจการอันพูดถูกต้อง
ฮูหยินเฉินกลับมาในบ้านของต่งฮ่วนจือตอนที่สายัณห์กำลังมาถึง เฉินฮ่าวปิงก็กลับมาแล้ว"ท่านแม่!"ฮูหยินเฉินได้ยินเสียงของนาง ก็ลุกพรวดขึ้นมา จากนั้นนางก็เห็นเฉินฮ่าวปิงพาสาวใช้หน้าตาสะสวยสองคนเดินเข้ามาถึงอย่างไรก็เป็นคนที่เข้าใจลูกสาวดีที่สุด พอเห็นสีหน้าของเฉินฮ่าวปิง ฮูหยินเฉินก็รู้ว่านางคงจะได้เป็นท่านหญิงไปแล้วใจของนางดิ่งวูบทันที"ท่านแม่ รีบเก็บของเร็วเข้า พวกเรากลับบ้านกัน!" เฉินฮ่าวปิงเชิดคาง ดูภูมิใจมาก"ปิงเอ๋อร์ พวกเรามีบ้านที่ไหนกัน?""พระชายาเยว่ให้บ้านพวกเรามา อยู่ในซอยกุ้ยเซียงข้างหน้านี่ บ้านสองตอน หลังจากนี้พวกเราก็มีบ้านของตัวเองในเมืองหลวงแล้ว"เฉินฮ่าวปิงเอ่ยขึ้นอย่างดีใจ "แล้วก็ สาวใช้สองคนนี้พระชายาเยว่ก็ยกมาให้ข้า ชิวอวิ๋น ชิวเยว่ นี่แม่ของข้า"ชิวอวิ๋นชิวเยว่ขึ้นมาคารวะ "คารวะฮูหยิน"ฮูหยินเฉินสีหน้ายิ่งแข็งขึ้นไปอีก"ท่านแม่ ท่านทำไมถึงไม่ดีใจเลย? ท่านพ่อยังเป็นธุระ ให้องค์จักรพรรดิจัดหามามาอบรมมารยาทให้ข้าด้วย พรุ่งนี้จะเริ่มอบรมมารยาทในวังให้ข้า หลังจากนี้ข้าเองก็จะเป็นสตรีสูงศักดิ์ที่สง่างามได้แล้ว"เฉินฮ่าวปิงเข้ามาใกล้แม่ของนาง เอ่ยขึ้นเบาๆ ว่า "องค์จักรพร
ได้ยินว่าตระกูลของพระชายาอ๋องฉยงมีบารมีมากในเมืองฉยงโจว อ๋องฉยงไปที่นั่นเหมือนไปเกาะนางกินอย่างไรอย่างนั้น เขาตอนนี้ถ้าไปตบหน้าพระชายาอ๋องฉยงแบบนั้นอีก คือคิดจะไม่กลับไปเมืองฉยงโจวแล้วหรือ?เขาน่าจะรับปาก ถึงอย่างไรตอนนี้ก็เริ่มบ้าไปแล้ว" ส่งเขาเข้าคุกได้ ให้ไท่เฮาอยู่ในจวนอ๋องเจวี้ยนอย่ากลับวัง เรื่องเหล่านี้ยังทำออกมาได้ องค์จักรพรรดิบ้าไปหน่อยแล้วจริงๆ"ดังนั้น เจ้าความลับที่ฮูหยินเฉินกอดเอาไว้มันคืออะไรกันแน่?"มูลค่าสูงขนาดที่ ทำให้องค์จักรพรรดิต้องถอยให้ก้าวหนึ่งเลยหรือ"เรื่องเกี่ยวกับตงฉิง..." เสียงของเซียวหลันยวนเย็นชาลงเล็กน้อย "ตอนนี้ดูท่า การล่มสลายของตงฉิงครั้งนั้นเหมือนไม่ใช่ภัยธรรมชาติเสียแล้ว"ฟู่จาวหนิงมองเขา ดูกังวลขึ้นมา"ถ้าหากการล่มสลายของตงฉิงมีแผนร้ายอื่นอยู่ คนที่เกี่ยวข้องจะต้องไม่อยากให้ความจริงถูกเปิดเผยต่อใต้หล้าแน่ ถึงตอนนั้นตัวตนฐานะของท่านถ้าเปิดเผยออกมา จุดสนใจทั้งหมดก็จะพุ่งไปบนตัวท่านสิ"ถ้าหากมีแผนร้ายจริง คนที่เกี่ยวข้องจะต้องไม่ปล่อยเซียวหลันยวนแน่นอนกระมัง?ถึงอย่างไรเขาก็เป็นคนในราชวงศ์ตงฉิงหนึ่งเดียวที่ยังอยู่บนโลกนี้ เป็นสายเลือดเซียวหลันยวนนิ่
เฉินฮ่าวปิงบิดมือออกจากแขนของฮูหยินเฉินทันที"ท่านแม่ ข้าจะเข้าวังไปกับท่านพ่อ ถ้าท่านไม่ไป ข้าเข้าไปฟังองค์จักรพรรดิดูว่าเขาจะพูดอะไร กลับมาแล้วจะเล่าให้ท่านฟัง""ปิงเอ๋อร์! เจ้าห้ามไป!""ไป" อ๋องฉยงลุกขึ้นมา เดินนำไปก่อน เฉินฮ่าวปิงรีบตามขึ้นไป กลัวฮูหยินเฉินจะดึงเอาไว้ฮูหยินเฉินพอเห็นนางตามออกไปแล้ว ก็รีบร้อนตามขึ้นไป"ปิงเอ๋อร์ กลับมา!"พวกเขากว่าจะหลุดพ้นจากการไล่สังหารของพระชายาอ๋องฉยง ตอนนี้จะต้องกลับไปอยู่ในวังวนนั้นอีกแล้วหรือ? อ๋องฉยงคนนี้พึ่งพาไม่ได้!แต่ว่าเฉินฮ่าวปิงก็คิดแต่อยากจะให้ตนเองมีตัวตนฐานะดี นางไม่อยากเป็นลูกกำพร้าที่ไม่มีพ่อไม่มีชาติตระกูล แล้วทำได้แค่พึ่งพาการช่วยเหลือปกป้องจากต่งฮ่วนจือพ่อแท้ๆ ไม่ใช่ว่าดีกว่าคนอื่นหรือ?เป็นลูกสาวของอ๋อง ไม่ใช่ว่าดีกว่าอาศัยอยู่ในบ้านคนอื่นหรือ?"กลับไปแล้วก็เตือนแม่เจ้าหน่อย ว่าอย่าดื้อรั้นนัก" พอขึ้นรถม้า หลังจากที่รถม้าแล่นห่างออกจากร้านงานปัก อ๋องฉยงจึงพูดขึ้นมาคำหนึ่งกับเฉินฮ่าวปิงเฉินฮ่าวปิงพยักหน้านางถอนใจโล่ง ที่ท่านแม่ไม่ไล่ตามมา"ท่านพ่อ ข้าจะเตือนนางแน่ แต่ว่า ท่านทำไมถึงไม่ต้องการข้ากับท่านแม่ล่ะ?" เฉินฮ่าวปิงถ
"ถ้าเล็ดลอดออกไป พวกนางแม่ลูกน่าจะมีอันตรายถึงตัว นางยังถือว่าฉลาดอยู่" เซียวหลันยวนอันที่จริงในใจก็คาดเดาไว้บ้างแล้ว"แล้วตอนนั้นที่นางไปหาอ๋องฉยง เป็นเพราะจะยืมอำนาจของอ๋องฉยงหรือ?""ก็เป็นไปได้"และตอนนี้ที่ชั้นสองของร้านงานปักฝั่งตรงข้าม เฉินฮ่าวปิงกำลังถลึงตาอ้าปากค้างทุกคนพูดที่อ๋องฉยงพูดกับแม่นางฟังออกทั้งหมด แต่พอรวมเข้าด้วยกันทำไมนางถึงฟังไม่เข้าใจเลย?อะไรคือแคว้นเจาอยู่ต่อไม่ได้พวกเขาก็ยังหาทางอื่นได้?คิดจะกบฏต่อแคว้นหรือ?อะไรคือถ้าหากสามารถหาดินแดนผืนนั้นเจอ พวกเขาบางทีอาจจะเป็นอ๋องได้?เขาตอนนี้ไม่ใช่เป็นอ๋องอยู่แล้วหรือ? เขาไม่ใจว่ามีเมืองฉยงโจวอยู่แล้วหรือ? ยังคิดจะไปเป็นอ๋องที่ไหนอีก?อะไรคือตระกูลเฉินในครั้งนั้นติดต่อศัตรูเพื่อทรยศแคว้น?ฮูหยินเฉินตอนนี้สภาพดูไม่ดีเอาเลยหลายปีก่อนถูกพระชายาฮูหยินไล่สังหาร ตอนที่ชีวิตมีวิกฤตก็ไม่เคยคิดจะให้อ๋องฉยงช่วย เพราะรู้สึกว่าอ๋องฉยง่าจะรู้ความลับของนางเข้ามาแต่ความลับนั่นนางไม่อยากจะบอกอ๋องฉยงตอนแรกนางเคยคิดไว้แล้ว ดังนั้นจึงยอมตัวเองให้กับอ๋องฉยง แต่พออยู่กับเขาแล้ว นางพบว่าอ๋องฉยงยังไม่พอที่จะแบกเรื่องใหญ่เช่นนี้ได้ เขายั
"อะไรคือหาผู้ชายคนใหม่? เขาก็แค่ช่วยพวกเราแม่ลูกเท่านั้น" ฮูหยินเฉินเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าไร้อารมณ์"โอ๋? จริงหรือ? เจ้าไม่ได้ไปนอนบนเตียงต่งฮ่วนจือ เพื่อตอบแทนบุญคุณช่วยชีวิตหรือไรกัน?" อ๋องฉยงน้ำเสียงเย้ยหยัน เหมือนกำลังสงสัยในใจเฉินฮ่าวปิงรู้สึกไม่ค่อยสบายใจพ่อของนางทำไมจึงพูดเช่นนี้?"ท่านพ่อ ระหว่างแม่ของข้ากับลุงต่งไม่มีอะไรกัน!" นางรีบช่วยอธิบายขึ้นมาคำหนึ่ง อตนนี้นางเจอพ่อนางแล้ว แล้วยังเป็นถึงอ๋องฉยง นางต้องขีดเส้นกับต่งฮ่วนจือให้ชัดเจน!"ถ้าไม่มีอะไรกันจริง คนเขาจะช่วยแม่ลูกอย่างพวกเจ้าขนาดนี้หรือ?""ท่านคิดจะพูดอะไรกันแน่?" ฮูหยินเฉินกุมมือเฉินฮ่าวปิงแน่น ไม่ให้นางพูดอะไรอีก นางจ้องเขม็งที่อ๋องฉยง รู้สึคว่าที่เขาจู่ๆ ก็ปรากฏตัวขึ้นมันประหลาดหน่อยๆถ้าหากอยากจะหาตัวพวกนางแม่ลูกจริงๆ ทำไมต้องใช้เวลานานขนาดนี้?"ของในมือเจ้า ส่งมาให้ข้า" อ๋องฉยงกดเสียงต่ำตอนนี้ฟู่จาวหนิงกำลังนั่งอยู่ในโรงสุราตรงข้ามร้านงานปัก เซียวหลันยวนเองก็อยู่ด้วย แค่ยังคงสวมหน้ากากอยู่ฟู่จาวหนิงเพิ่งเห็นอ๋องฉยงเข้าไปในร้านงานปัก เพียงแต่ว่าที่นี่มองไม่เห็นและไม่ได้ยินว่าพวกเขาทำอะไรแน่นอนนางมองเซียวหลันยว
อ๋องฉยงอยู่ในวังราชนิเวศน์มานานไม่ได้ออกไปไหนแต่วันนี้ในที่สุดเขาก็หาที่อยู่ของฮูหยินเฉินพบแล้วอวิ๋นจูกลับไปเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในพันธมิตรโอสถเมื่อสองวันก่อนกับเขา และหยิบโคมไฟงานปักใบหนึ่งให้เขาดู เขาจำได้ นี่ต้องเป็นฝีมือของฮูหยินเฉินแน่นอนร้านงานปักจิ่นเยว่ เป็นร้านในนามของจวนชินอ๋องเซียวฮูหยินเฉินเองก็ได้ข่าวนี้ จึงเลือกร้านงานปักจิ่นเยว่นางพาเฉินฮ่าวปิงเข้าไปในร้านงานปัก ผู้จัดการจึงเชิญพวกนางขึ้นไปชั้นบน"ทั้งสองท่านนั่งดื่มชากันก่อน มีคนชอบงานปักของพวกท่านมาก อยากจะเข้ามาพูดคุยกับพวกท่านด้วยตนเอง กำลังจะมาถึงแล้ว" ผู้จัดการร้านบอก"ไม่ใช่ฮูหยินอาวุโสเจี่ยหรือ?"หลานชายของฮูหยินอาวุโสเจี่ยเป็นท่านโหวคนหนึ่ง ฮูหยินเฉินสองวันก่อนทำความรู้จักไว้ เดิมทีคิดว่ามาที่นี่แล้วจะได้เจอกับฮูหยินอาวุโสเจี่ยเสียอีกเพราะก่อนหน้านี้สาวใช้คนหนึ่งบอกว่า วันนี้ฮูหยินอาวุโสจะมาที่ร้านงานปักด้วยตนเองตอนนี้ทำไมฟังแล้วเหมือนไม่ใช่เลย?ผู้จัดการก็ไม่พูดอะไรมาก ให้พวกนางรอ ส่วนตัวเองก็ถอยออกไปแล้วไม่นานนัก พวกของฮูหยินเฉินก็ได้ยินเสียงฝีเท้า ด้านนอกมีคนพูดขึ้นว่า "พวกเจ้าเฝ้าอยู่ที่นี่""่ขอรับ"
"ถุด" เขายังพูดไม่ทันจบ ผู้อาวุโสจี้ก็ตัดบทเขาอย่างไม่ใยดี "ก่อนหน้านี้เจ้าไม่ใช่ว่าก่อเรื่องไปแล้วหรือ? ไม่ใช่ว่าไปหาศิษย์น้องหญิงเจ้าให้นางพาเจ้าเด็กนั่นไปผูกมิตรกับพวกคนชั้นสูงหรือ? ถ้าไม่ใช่ศิษย์น้องหญิงปฏิเสธออกมาเอง เจ้าไม่ใช่จะให้พวกเราทั้งกลายเป็นที่พึ่งให้เจ้าเด็กนั่นแล้วหรือไร?"ต่งฮ่วนจือไม่มีคำจะไปค้าน"ขนาดวันนี้แม่นางอันนั่น พวกเจ้าส่งเทียบเชิญให้นาง ไม่ใช่เพราะได้ยินว่าศิษย์น้องหญิงเคยช่วยนาง นางรู้จักศิษย์น้องหญิงเจ้า ความสัมพันธ์ก็ไม่เลว ดังนั้นจึงเชิญนางมาอย่างไม่กังวลหรือ? เจ้าใช้วิธีนี้มาเลือกคน แล้วยังบอกว่าไม่คิดจะพึ่งพาศิษย์น้องหญิงอีกเนี่ยนะ?"คำพูดนี้ของผู้อาวุโสจี้ถูกต้องต่งฮ่วนจือกับฮูหยินเฉินเลือกอันชิงมา นอกจากที่องค์หญิงหนานฉือแต่งงานเข้าจวนตระกูลอันแล้ว ยังมีเรื่องความสัมพันธ์กับฟู่จาวหนิงอยู่ด้วยไม่ว่าพวกฮูหยินเฉินจะมีมุมมองอย่างไรต่อฟู่จาวหนิง มีจุดหนึ่งที่แม่ลูกอย่างพวกนางต้องยอมรับ นั่นก็คือคนที่มีความสัมพันธ์อันดีกับฟู่จาวหนิง ในด้านนิสัยใจคอนั้นเชื่อถือได้ ดังนั้นพวกนางจึงเลือกอันชิงในจิตใต้สำนึก ต่งฮ่วนจือเองก็รู้สึกว่า ถ้าหากเฉินฮ่าวปิงสามารถเข
ต่งฮ่วนจืออันที่จริงก็คิดไว้แล้วว่าอาจารย์ต้องรู้เรื่องวันนี้แน่ ยิ่งไปกว่านั้นต้องมาด่าเขาแน่เขาเองก็เตรียมคำพูดไว้บ้างแล้วผลคือผู้อาวุโสจี้ไม่ให้โอกาสเขาเลย เอ่ยขึ้นมาตรงๆ ว่า "หลังจากนี้ห้ามพาแม่ลูกคู่นั้นมาที่พันธมิตรโอสถอีก แล้วก็ ห้ามให้นางยืมชื่อของพันธมิตรโอสถไปแอบอ้างทำเรื่องอะไรด้วย! แล้วเจ้าเองก็ห้ามเด็กนั่นมาปรากฏตัวต่อศิษย์น้องหญิงเจ้าด้วย!""ท่านอาจารย์ ฮ่าวปิงนาง...""เว้นเสียแต่นางจะมาเป็นลูกสาวเจ้าจริงๆ!" ผู้อาวุโสจี้ตัดบทเขา "ไม่เช่นนั้นพวกนางแม่ลูกก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเจ้า! ข้าบอกเจ้าไปตั้งหลายรอบแล้ว เจ้าพวกนางมาพอแล้ว อย่าทำตัวไม่มีสมอง!""แล้วก็ ต่อให้นางกลายเป็นลูกสาวเจ้าจริงๆ ก็ไม่ใช่ว่านางจะมากำเริบเสิบสานต่อนห้าศิษย์น้องเล็กของข้าได้! ก่อนหน้านี้นางเองก็ยังดูรู้จักมารยาท รู้จักประมาณตน แล้วตอนนี้ทำไมยิ่งโตยิ่งเลวร้าย? เจ้าเคยคิดบ้างไหม ว่านางอาจจะถูกเจ้าตามใจจนเสียคน! "ผู้อาวุโสจี้จำได้ว่าหลายปีก่อนตอนที่เจอกับเฉินฮ่าวปิง นางยังรู้สึกประมาณตน ยิ่งไปกว่านั้นยังรู้ถึงตัวตนฐานะของตนเองด้วย ตอนอยู่ในพันธมิตรโอสถก็เคารพผู้อาวุโสดีแล้วแม่ลูกอย่างพวกนา
ณ เมืองหลวง แคว้นเจาบนถนนที่คึกคักหญิงสาวที่สวมชุดงดงามนางหนึ่งกำลังนำทหารหลายคนของนางไปดักขบวนแห่เจ้าสาวขบวนหนึ่งอย่างดุดัน“หลีกไป นี่คือคุณหนูใหญ่จากตระกูลของหมอเทวดาหลี่ หากว่าพวกเจ้าทำให้คุณหนูไม่พอใจระวังจะเดือดร้อน!” ผู้คนที่กำลังเดินอยู่บนถนนต่างพากันรีบหลีกทางให้ในทันที ด้วยกลัวว่าจะถูกลูกหลง เหล่าชาวเมืองมองไปที่ขบวนแห่เจ้าสาวที่ถูกตกแต่งด้วยความรู้สึกเห็นใจ “นี่เจ้าสาวจากตระกูลไหนกันเนี่ย? ไปทำอะไรให้คุณหนูใหญ่ตระกูลหลี่ขัดใจกัน?”“เจ้าไม่รู้หรือ? วันนี้เป็นวันแต่งงานของรัชทายาทเซียวกับคุณหนูตระกูลฟู่ คนที่นั่งอยู่ในเกี้ยวเจ้าสาวนั่นก็ต้องเป็นคุณหนูฟู่นั่นแหละ”โครม เกี้ยวเจ้าสาวถูกทหารของตระกูลหลี่ใช้กำลังบังคับให้หยุดลง หลังจากที่เกี้ยวเจ้าสาวเกิดการสั่นไหวอย่างรุนแรง ก็ได้ยินเสียงตุ๊บดังออกมา คล้ายจะเป็นเสียงของศีรษะที่กระแทกอะไรสักอย่าง“ไปเอาตัวฟู่จาวหนิงมา! แล้วก็ไปถอดชุดเจ้าสาวของนางทิ้งซะ!”คุณหนูใหญ่ตระกูลหลี่ชี้นิ้วไปยังเกี้ยวเจ้าสาวก่อนจะสั่งออกมาอย่างวางอำนาจ ทันใดนั้นทหารรับใช้ก็วิ่งไปแล้วยื่นมือไปเปิดม่านบังเกี้ยวเจ้าสาวทันทียายเฒ่าผู้ดูแลพิธีที่ยืนอยู่ด้านข้...
ความคิดเห็น