นาตาลีหลงรักพ่อเลี้ยงมหาเศรษฐีของเธอมานานมากแล้ว หลังแม่ของเธอจากไปอย่างกะทันหันด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ ชีวิตของเธอก็พลิกผันอีกครั้งเมื่อพ่อเลี้ยงหมั้นหมายกับผู้หญิงคนใหม่ ในขณะเดียวกันอาเลี้ยงของเธอได้ค้นพบว่านาตาลีมีความรักและปรารถนาต้องห้ามต่อพ่อเลี้ยงของเธอ การโกหกของนาตาลีทำให้เธอโดนบังคับให้ต้องมีบอดี้การ์ดส่วนตัว ชีวิตอันวุ่นวายของเธอยังไม่จบแค่นี้ในเมื่อเธอยังต้องดิ้นรนเพื่อปกปิดความรักต้องห้ามที่ก่อเกิดมาจากรักสมัยเด็กของเธอ สิ่งที่เธอไม่รู้ก็คือโลกมายาอันหลอกลวงกำลังรอเธออยู่ซึ่งจะบีบให้เธอต้องเผชิญหน้ากับความลึกลับและความจริงที่อยู่เบื้องหลังการเสียชีวิตของแม่ของเธอและตัวตนที่แท้จริงของตัวเธอเอง นาตาลีจะจัดการกับความรักและความสัมพันธ์กับชายทั้งสี่อย่างไร การตัดสินใจของเธอจะส่งผลต่อชีวิตและความสัมพันธ์ของเธอกับชายต้องห้ามทั้งสี่คนนี้อย่างไร “ฉันไม่อยากถูกลืมอีกต่อไป ฉันจะให้ความสุขแก่คุณมากจนคุณจะลืมทุกอย่างเกี่ยวกับพี่ชายของฉัน” - เอ็ดเวิร์ด"ฉันจะทำทุกอย่างเพื่อให้คุณปลอดภัย ถ้ามีใครต้องเจ็บ คนๆ นั้นต้องเป็นฉัน..." - แซค"ฉันจะทำทุกอย่างเพื่อให้คุณเป็นของฉัน โปรดรออีกหน่อย" - ลูเซียน"ฉันจะปกป้องเธอเสมอ...แม้จากตัวเธอเอง" - ไรเนอร์บรรณาธิการตรวจแก้โดย ธีรินทร
View Moreการทักท้วงจบลงทันทีเมื่อแซคจูบฉันต่อหน้าไรเนอร์ ฉันไม่สามารถผลักเขาออกไปได้ การใช้เวลาร่วมกันมาหลายปีทำให้ร่างกายและจิตใจฉันไม่สามารถต้านทานแซคได้ ฉันละลายในอ้อมแขนอันอบอุ่นของเขา ริมฝีปากและลิ้นร้อนๆ ยังคงหยอกเย้าในปาก ฉันเริ่มครางด้วยความพอใจเมื่อมือเขาลูบไล้สะโพกแซคปล่อยฉันในที่สุด ฉันหายใจไม่ออก รู้สึกอายในความอ่อนแอของตัวเองจนไม่กล้าสบตาไรเนอร์ ความผูกพันที่ฉันมีต่อแซคลึกซึ้งเกินกว่าใครจะเข้าใจ ฉันไม่แปลกใจเลยถ้าเรื่องระหว่างเรายังคงเป็นแบบนี้ไปตลอดชีวิต แซคเป็นเหมือนส่วนหนึ่งของฉัน“ฉันคิดถึงเธอมากเลยรู้มั้ย” แซคพูด เขากอดเอวฉันจากด้านหลังด้วยความรัก ชั่วขณะนึงฉันลืมไปว่าไรเนอร์ยังคงยืนดูพวกเราอยู่“ไรเนอร์ ฉัน…” ฉันอยากอธิบาย แม้ว่ายังไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี“เสียใจด้วยนะไรเนอร์ ไม่มีใครดีพอจะมาแทนที่ผมได้ แม้แต่คุณ” แซคพูด ก่อนถอนหายใจเสียงดังใส่ไรเนอร์“คุณแซค…คุณนาตาลีไม่ใช่ของเล่นของคุณ ปล่อยเธอเดี๋ยวนี้…” ไรเนอร์พูดเสียงเข้ม“นาตาลี ไม่ใช่ของเล่น ผมเคยบอกคุณไปแล้วว่านาตาลีคือรักแท้ของผม คุณบอกให้ผมปล่อยเธอ…เรื่องนั้นผมเข้าใจ แต่ถามนาตาลีก่อนว่าเธอเต็มใจปล่อยผมไปมั้ย” แซคพูดอ
ไรเนอร์กับฉันเดินออกจากห้องทันเวลาเพื่อดูการเผชิญหน้าระหว่างพี่น้อง ได้แต่คิดว่านี่เป็นจังหวะเลวร้ายที่สุดเท่าที่เคยมีมา ฉันยืนนิ่งโดยมีไรเนอร์ยืนอยู่ข้างๆ ระหว่างรอให้คำทักทายสั้นๆ นี้จบลง“นาตาลี!” เสียงของแซคเรียกชื่อฉันอย่างร่าเริงขัดจังหวะบรรยากาศตึงเครียด ถ้ามีผู้ชายที่ไม่เคยสนใจสถานการณ์รอบด้าน มักจะเป็นเจ้าชายแซคเสมอ“แซค” ฉันตอบกลับด้วยน้ำเสียงดีใจพร้อมโบกมือให้เขาแซคแต่งตัวราวกับเจ้าชายในชุดเป็นทางการ ส่วนมาดามฟรานเชสก้าเหมือนราชินีแก่ผู้ชั่วร้ายยืนอยู่ข้างๆ ฉันกลืนน้ำลายพลางหลบสายตา ต่างจากแซคที่ไม่เคยกลัวแม่ของตัวเองและรู้วิธีรับมือกับเธอ ฉันรู้สึกตัวเล็กและไร้ค่าเหมือนเม็ดทรายเวลาอยู่ต่อหน้าเธอ“ลูเชียน…เอ็ดเวิร์ด” มาดามฟรานเชสก้าพูดช้าๆ ด้วยน้ำเสียงน่าเกรงขาม ระหว่างทักทายน้องชาย“มาดามฟรานเชสก้า เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่คุณมาร่วมงานแต่งของผม” ลูเซียนตอบอย่างเป็นทางการ ก่อนจะโค้งคำนับเล็กน้อย เนื่องจากมาดามฟรานเชสก้ามีศักดิ์เป็นพี่คนโต ปฏิกิริยาของลูเซียนดูสมเหตุสมผลมาก ฉันรีบโค้งคำนับตามลูเซียน ขณะที่ไรเนอร์โค้งตาม“แฟรงกี้ แฟรงเกนสไตน์! พี่เป็นยังไงบ้าง” เอ็ดเวิร์ดทักทา
“ฉันทำตามที่ครอบครัวและผู้อาวุโสต้องการมาโดยตลอด แลกเปลี่ยนกับการที่พวกเขาจะดูแลให้เธอปลอดภัย วันหนึ่งฉันจะกลายเป็นผู้อาวุโสและฉันจะปกป้องเธอเอง ไม่ว่าคนอื่นจะพูดยังไง ความปลอดภัยของเธอเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ฉันรักเธอ… และจะไม่ยอมสูญเสียเธอไปเหมือนที่ฉันสูญเสียแม่ของเธอ” ลูเซียนพูดอย่างจริงจัง ฉันไม่เคยเห็นลูเซียนเป็นแบบนี้มาก่อนฉันไม่รู้จะตอบยังไง เหตุผลที่ลูเซียนแสดงท่าทีปกป้องและหวงแหนฉันมากเกินไปเป็นเพราะกลัวที่จะสูญเสียฉันไป เขาเชื่อว่าฉันอาจได้รับบาดเจ็บ…หรือแย่กว่านั้น เขาเสียสละมากมายเพื่อแม่และฉัน ทำไม…'ฉันไม่เสียใจเลย ฉันมีสิ่งคุ้มค่าแก่การปกป้อง เธอเห็นมั้ย...เราทั้งคู่มีสิ่งที่อยากจะปกป้องและเป็นคำสัญญาที่เราต้องรักษา’ คำพูดของลูเซียนย้อนกลับมาหาฉันเขาสัญญาอะไรและกับใคร?“ลูเซียน…ฉัน…” ฉันเริ่มพูด; แต่ไม่แน่ใจว่าควรจะพูดอะไรกับเขาในสถานการณ์นี้“เธอต้องอยู่กับฉันต่อไป ตราบใดที่ฉันยังไม่แน่ใจว่าเธอมีความสุขและปลอดภัย ฉันจะไม่ปล่อยเธอไป” ลูเซียนพูดเสียงแข็งจนรับรู้ได้ว่าไม่มีที่ว่างเหลือสำหรับการต่อรองหรือเจรจา“เธอดูสวยมาก…” ลูเซียนพูด ก่อนจูบปอยผมฉันในที่สุดวันแต่งงานก็มา
“มันไม่สำคัญหรอก …ยังไงเธอไม่กลับมาอีกแล้ว” ฉันตอบพร้อมกัดฟันแน่น“ฉันมีเรื่องอยากจะบอกเยอะมากนาตาลี เยอะจนไม่รู้ว่าจะเริ่มจากตรงไหนหรือจะบอกอะไรกับเธอก่อนดี เพราะเธอเจ็บปวดมามากพอแล้ว…” ลูเซียนสารภาพตามจริง ขณะมองไปทางทะเลอันมืดมิด"คุณหมายความว่ายังไง…?" ฉันถาม.ลูเซียนนั่งนิ่งคิดว่าจะเล่าให้ฉันฟังอย่างไรดี ในขณะที่ฉันแทบบ้าตาย“ลูเซียน…ได้โปรด…” ฉันอ้อนวอน พร้อมกับจับมือเขามาบีบ“มันจะทำร้ายเธอ…มากกว่าที่ทำร้ายฉันตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา” ลูเซียนพูด เขามองกลับมาที่ฉัน“ฉันพร้อมแล้ว…ช่วยบอกฉันที” ฉันพูดอย่างหนักแน่น"บางทีเธออาจจะเข้มแข็งพอแล้ว นาตาลี แม่ของเธอ…ถูกฆ่าตาย” ลูเซียนพูดด้วยน้ำเสียงเจ็บปวดแม่ของฉัน…ถูกฆ่าตาย?!เป็นไปไม่ได้ ฉันคิดระหว่างที่น้ำตาไหลอาบหน้า...“เป็นไปไม่ได้!” ฉันกรีดร้องพร้อมลุกขึ้นจากที่นั่ง“เสียใจด้วยที่ต้องบอกว่ามันเป็นเรื่องจริง… ฉันก็รู้สึกแบบเดียวกับเธอตอนรู้เรื่องนี้” ลูเซียนตอบเบาๆ เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่“ฉันอ่านข่าวการเสียชีวิตของแม่ฉันตั้งเยอะ มันเป็นข่าวใหญ่มากในตอนนั้น...แต่ไม่มีการพูดถึงการฆาตกรรมเลย ไม่จริง ฉันไม่เชื่อ” ฉันพูดจำได้ว่าฉันตั
อาหารค่ำถูกเสิร์ฟตรงระเบียงกลางแจ้ง ดินเนอร์ใต้แสงเทียนริมทะเลที่มีลมพัดปะทะใบหน้าและเส้นผม บรรยากาศโรแมนติกไม่ใช่เหตุผลเดียวที่ทำให้ฉันนึกถึงคืนบนหอดูดาวที่เอ็ดเวิร์ดบอกความจริงเรื่องที่เขาเป็นคนช่วยฉันในป่าเมื่อหลายปีก่อน ฉันรู้สึกว่าคืนนี้ฉันอาจจะได้รู้ความจริงที่ซ่อนอยู่ซึ่งจะเปลี่ยนชีวิตฉันอีกครั้งบรรยากาศคล้ายกับมื้อค่ำที่ฉันทานกับเอ็ดเวิร์ดในครั้งนั้น รสชาติอาหารเหมือนทรายแห้งๆ บนลิ้น โชคดีที่ลูเซียนไม่อ้อมค้อม หลังจากที่สาวใช้ปล่อยให้เราอยู่ตามลำพัง ลูเซียนก็เริ่มพูดทันที“เล่าให้ฉันฟังหน่อยว่าก่อนที่ฉันจะเจอเธอกับแม่ ชีวิตเธอเป็นยังไงบ้าง…” ลูเซียนถามอย่างลังเล“ทำไมคุณถึงถามเรื่องนี้ล่ะ?ฉันคิดว่าแม่น่าจะเล่าให้คุณฟังหมดแล้ว” ฉันตอบ มันไม่ปกติที่เขาจะพูดเรื่องนี้ ถามเกี่ยวกับวัยเด็กของฉันให้ได้อะไร?“ใช่ แม่เธอเล่าแล้ว แต่ฉันอยากฟังจากปากเธอมากกว่า” ลูเซียนตอบหนักแน่น“คุณต้องการรู้อะไร…เป็นพิเศษ?” ฉันถามเขากลับ“สภาพความเป็นอยู่ของเธอสองคนเป็นยังไง?แม่ของเธอทำงานรึเปล่า เธอไปโรงเรียนแบบไหน เรื่องทั่วๆ ไป อะไรก็ได้ที่เธอนึกออก” ลูเซียนตอบ“ฉันไม่รู้ว่าทำไมคุณถึงถามฉันเรื่องน
เรามาถึงบ้านพักริมทะเลซึ่งตั้งอยู่บนชายหาดส่วนตัวที่ลูเซียนเป็นเจ้าของ เราเรียกมันว่าบ้านพักแต่สุดท้ายแล้วมันก็คือคฤหาสน์ขนาดใหญ่อีกหลังหนึ่ง ไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้เลย ถ้าลูเซียนไม่มีทายาท ฉันคงได้รับมรดกทั้งหมดของเขารวมถึงชายหาดส่วนตัวนี้ด้วยฉันนั่งอยู่บนผืนทรายในชุดบิกินี่สีแดง แหงนหน้ามองท้องฟ้าสีฟ้าสดใสพร้อมหรี่ตาลง ฉันควรจะสนุกกับการเดินทางครั้งนี้ แต่สิ่งเดียวที่คิดคือจะเริ่มคุยกับลูเชียนยังไงดี ทันใดนั้นทรายใต้ตัวฉันขยับระหว่างที่ลูเซียนนั่งลงข้างๆ ฉัน เรานั่งข้างกันโดยไม่พูดอะไร ยังคงมองออกไปยังทะเลด้านหน้า“ตื่นเต้นกับงานแต่งงานมั้ยคะ” ฉันล้อเล่น นึกไม่ออกว่าจะชวนคุยเรื่องอะไรดี“ใช่…แต่ด้วยเหตุผลอื่นที่เธอเดาไม่ถูก” ลูเซียนตอบพร้อมกับโอบหลังฉันและขยิบตาให้ ฉันหัวเราะเล็กน้อยเป็นคำตอบขณะเอนศีรษะซบไหล่เขา“ฉันไม่เดาดีกว่า…” ฉันตอบ ระหว่างถอนหายใจออกมาเรากลับไปมองดูทิวทัศน์รอบตัวอย่างเงียบๆ หวังว่าจะไม่ถูกแดดเผา มันคงเป็นเรื่องตลกถ้าเจ้าบ่าวผิวลอกในงานแต่งงาน“เธอคิดถึงอนาคตของเธอบ้างหรือยัง” ลูเซียนถาม สายตาเขายังคงจับจ้องที่ขอบฟ้าไกลทำไมเขาถึงถามเรื่องนี้?ไม่ใช่ว่าฉันไม่ได้
“อาร์…ฉัน…หยุดไม่ได้……ฉันเสร็จอีกแล้ว!” ฉันร้องออกมาเมื่อร่างกายสูญเสียการควบคุมอีกครั้ง มันรุนแรงมากจนทำให้ฉันกลัว ร่างกายสั่นสะท้าน ฉันเริ่มร้องสะอื้นอย่างเงียบๆ ระหว่างซุกหน้าลงบนผ้าห่ม“ผมใกล้เสร็จแล้วเหมือนกัน…ผมเสร็จแล้ว…นาตาลี!” ไรเนอร์ร้องครางราวกับสัตว์ป่า มันทำให้ฉันรู้สึกมีความสุขมาก หัวมังกรขนาดใหญ่กระตุกรุนแรงก่อนที่น้ำกามร้อนพุ่งลึกเข้าไปในโพรงสวาท รู้สึกร้อนรุ่มภายในขณะที่น้ำรักอุ่นๆ ล้นทะลักออกมาเต็มมดลูก เขาดันแท่งร้อนดันเข้าออกเล็กน้อยทำให้น้ำกามกระฉูดในตัวฉันมากขึ้น มันรู้สึกมหัศจรรย์มากแต่เหมือนร่างกายฉันถูกใช้จนเกินขีดจำกัด“คุณยังโอเคอยู่มั้ย” ไรเนอร์กระซิบ เขาจ้องมองใบหน้าที่อ่อนล้าและร่างกายที่ไร้เรี่ยวแรง แทบจะตั้งสติไม่อยู่ ฉันคงดูเหมือนตายไปแล้วเพราะตัวเองก็รู้สึกอย่างนั้นจริงๆ“คุณคิดว่า…เป็นความผิดของใคร……?” ฉันพูดเบาๆ ระหว่างพยายามหายใจ“อย่าโทษผมเลย...คุณเป็นคนขอเองไม่ใช่เหรอ อย่าบอกนะว่าจำไม่ได้…” ไรเนอร์ตอบพร้อมหัวเราะเบาๆ พร้อมกับค่อยๆ ถอนท่อนร้อนออกจากช่องรักที่เปียกท่วมน้ำรักของเราไหลออกมาทันที เตียงของไรเนอร์ต้องเปรอะไปหมดแน่ แต่ฉันไม่มีเวลามากังว
“โอบขาคุณรอบสะโพกผม” ไรเนอร์สั่ง สมองฉันแทบจะไม่ทำงานในช่วงเวลานี้ ต้องใช้เวลาสักครู่เพื่อทำตามคำสั่งเขาอย่างช้าๆหลังจากโอบแขนรอบคอเขา ไรเนอร์ก็ค่อยๆ ยืนขึ้น มันน่าทึ่งมากที่เขาสามารถยกตัวฉันขึ้นมาได้ การที่ตัวเขาใหญ่กว่าฉันมากมันมีข้อดีอย่างนี้นี่เอง“ไม่ต้องห่วง ผมจะกอดคุณไว้…ผมไม่ปล่อยให้คุณหล่นแน” ไรเนอร์ยืนยัน มือขนาดใหญ่โอบประคองบั้นท้ายฉันไว้อยากจะบอกเขาว่าฉันไม่กลัวว่าจะตก แต่ฉันกลัวว่าช่องรักถูกฉีกออกจากกันเพราะความสุขที่เขากำลังมอบให้ฉัน รู้สึกได้ถึงท่อนร้อนที่แข็งเป็นหินของไรเนอร์ฝังลึกอยู่ในตัวฉัน ฉันหลั่งมาหลายครั้งแล้วแต่เขายังไม่ถึงจุดสุดยอดเลยแม้แต่ครั้งเดียว ผู้ชายคนนี้อึดเหลือเกิน…ฉันได้แต่พยักหน้ารับอย่างเงียบๆ พร้อมยิ้มให้เขาไรเนอร์ยิ้มกลับด้วยดวงตาสีฟ้าที่อ่อนโยนมาก ก่อนเขาจะดึงเจ้ามังกรยักษ์ออกจากโพรงสวาทแล้วดันมันกลับเข้าไปข้างในอีกครั้ง เขาทำอย่างนั้นครั้งแล้วครั้งเล่าระหว่างที่จับสะโพกฉันไว้ในมือ ฉันไม่สามารถทำอะไรได้เลยแม้กระทั่งเคลื่อนไหวสะโพกหรือร่างกาย สิ่งที่ฉันทำได้คือสนุกไปกับมันและตะโกนเรียกชื่อเขาอย่างบ้าคลั่งระหว่างที่เขากระแทกโพรงสวาทอย่างแรงไม่
"คุณโอเคมั้ย?" ไรเนอร์ถามพร้อมกับจูบที่หน้าผากฉัน“ค่ะ…คุณอยู่ลึกมากข้างใน…” ฉันตอบพร้อมกับพยักหน้าช้าๆ ไม่สามารถหยุดตัวเองจากการสำลักความสุขตอนนี้ความเป็นลูกผู้ชายของเขายืดและเติมเต็มฉันอย่างที่สุด มันรู้สึกดีมาก ร่างทั้งร่างสั่นจนควบคุมไม่ได้ ฉันร้องครางออกมาเหมือนคนโดนผีสิง“คุณเพิ่งหลั่งตอนผมใส่มันเข้าไปรึเปล่า” ไรเนอร์ถามพร้อมกับหัวเราะออกมาร่างกายสั่นไม่หยุดระหว่างที่สะโพกยังอยู่ใต้ตัวเขา ช่องรักบีบรัดรอบแท่งร้อนอย่างบ้าคลั่ง ฉันเพิ่งหลั่งอย่างที่เขาพูดจริงๆ เพียงแค่เขาดันเข้ามาในตัวฉันอย่างนั้นเหรอ?ความคิดนี้ทำให้ฉันกลัวเพราะเราเพิ่งจะเริ่มกันเอง“…ผมจะขยับต่อแล้วนะ” ไรเนอร์พูดด้วยรอยยิ้มอ่อนโยนขณะดึงสะโพกกลับไรเนอร์ดันหัวเห็ดขนาดใหญ่เข้ามาในตัวฉันอย่างช้าๆ ฉันใช้หลังมือปิดปากยับยั้งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดผสมกับความสุข มันเจ็บแต่ก็เริ่มรู้สึกดีในเวลาเดียวกัน ไม่สามารถหยุดผนังช่องรักบีบรัดท่อนเอ็นเนื้อของเขาได้“พยายามผ่อนคลาย นาตาลี ช่องรักคุณบีบผมแน่นมาก… จนมันขยับยาก…” ไรเนอร์กระซิบ เขาจับต้นขาฉันแยกออกจากกันให้กว้างขึ้นกว่าเดิมฉันหายใจเข้าลึกๆ สองสามครั้ง พยายามผ่อนคลาย
** เรื่องนี้ไม่มีการร่วมประเวณีระหว่างสายเลือดเดียวกัน ผู้ชายคู่รักทุกคนไม่ได้มีความเกี่ยวข้องทางสายเลือดกับนางเอก** “อ๊า! ... เอ็ดเวิร์ด อย่าค่ะ หยุด… เรา… อา… ทำอย่างนี้ไม่ได้… อืมมมม” ฉันหอบหายใจเมื่อลิ้นของคุณอาเลี้ยงทะลวงผ่านเข้ามาในช่องปาก หมุนวนกับลิ้นของฉันพลางดูดเบา ๆ ด้วยความหลงใหล “บอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าเวลาอยู่ที่ทำงานให้เรียกอาว่า ‘ศาสตราจารย์’ ” เขาตอบอย่างเยาะเย้ยก่อนจะรุกเร้าริมฝีปากของฉันต่อไม่ยอมหยุด ร่างของฉันกระตุกเกร็งด้วยความตกใจมือกำเสื้อกาวน์แล็บสีขาวของเขาไว้แน่น พยายามผละริมฝีปากออกแต่มืออันอบอุ่นและใหญ่โตของเขาดันต้นคอฉันไว้แน่น ไม่ยอมให้ฉันผินหน้าออกจากริมฝีปากที่หิวกระหาย ลิ้นหยาบตวัดไม่ยอมหยุด “อาจะทำให้เธอมีความสุขจนลืมรสสัมผัสของลูเซียนไปเลย…” น้ำเสียงทุ้มต่ำกลั้วเสียงหัวเราะกระซิบข้างหู “คุณอา… อย่าค่ะ” ฉันครางออกมาอย่างไม่ตั้งใจ รู้สึกว่าทั้งจิตใจและร่างกายเริ่มสูญเสียการควบคุมในขณะที่มือใหญ่ค่อยๆ สอดเข้าไปใต้เสื้อกาวน์ นวดคลึงทรวงอกนุ่ม ความเสียวซ่านพลุ่งพล่านภายในเรือนร่างเล็กจนกลายเป็นความอบอุ่น กลีบดอกไม้ชุ่มแฉะตอบสนองรสสัมผัสของเขาจนฉันเองยัง...
Comments