** เรื่องนี้ไม่มีการร่วมประเวณีระหว่างสายเลือดเดียวกัน ผู้ชายคู่รักทุกคนไม่ได้มีความเกี่ยวข้องทางสายเลือดกับนางเอก**
“อ๊า! ... เอ็ดเวิร์ด อย่าค่ะ หยุด… เรา… อา… ทำอย่างนี้ไม่ได้… อืมมมม” ฉันหอบหายใจเมื่อลิ้นของคุณอาเลี้ยงทะลวงผ่านเข้ามาในช่องปาก หมุนวนกับลิ้นของฉันพลางดูดเบา ๆ ด้วยความหลงใหล
“บอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าเวลาอยู่ที่ทำงานให้เรียกอาว่า ‘ศาสตราจารย์’ ” เขาตอบอย่างเยาะเย้ยก่อนจะรุกเร้าริมฝีปากของฉันต่อไม่ยอมหยุด
ร่างของฉันกระตุกเกร็งด้วยความตกใจมือกำเสื้อกาวน์แล็บสีขาวของเขาไว้แน่น พยายามผละริมฝีปากออกแต่มืออันอบอุ่นและใหญ่โตของเขาดันต้นคอฉันไว้แน่น ไม่ยอมให้ฉันผินหน้าออกจากริมฝีปากที่หิวกระหาย ลิ้นหยาบตวัดไม่ยอมหยุด
“อาจะทำให้เธอมีความสุขจนลืมรสสัมผัสของลูเซียนไปเลย…” น้ำเสียงทุ้มต่ำกลั้วเสียงหัวเราะกระซิบข้างหู
“คุณอา… อย่าค่ะ” ฉันครางออกมาอย่างไม่ตั้งใจ
รู้สึกว่าทั้งจิตใจและร่างกายเริ่มสูญเสียการควบคุมในขณะที่มือใหญ่ค่อยๆ สอดเข้าไปใต้เสื้อกาวน์ นวดคลึงทรวงอกนุ่ม
ความเสียวซ่านพลุ่งพล่านภายในเรือนร่างเล็กจนกลายเป็นความอบอุ่น กลีบดอกไม้ชุ่มแฉะตอบสนองรสสัมผัสของเขาจนฉันเองยังประหลาดใจ
เป็นไปได้อย่างไร…
ร่างของฉันตอบสนองเขาอย่างรวดเร็วและร้อนแรง และดูเหมือนเขาจะสัมผัสได้ เพราะเขาดันร่างของฉันไปชนกับโต๊ะทำงาน แล้วแทรกต้นขาซ้ายเข้าทาบหว่างขาของฉัน
ฉันพยายามอ้อนวอนให้เขาหยุดแต่เสียงเดียวที่ฉันเปล่งออกมาคือเสียงครวญครางที่เย้ายวนผสมกับลมหายใจสั่นกระเส่าแสดงออกถึงความสุขสม
คุณอากอบกุมอกอวบทั้งสองข้างบดขยี้ผ่านเสื้อบางอย่างหย่ามใจ
“ไม่…หยุดเถอะค่ะ…หนูไม่ไหวแล้ว…” ฉันครางกระสันเมื่อลิ้นของเขาเลียติ่งหูของฉันอย่างช้า ๆ พลางดูดเล่นจนเปียกชื้นไปทั่ว
ความรู้สึกรุนแรงมากจนฉันเบิกตากว้าง ใบหน้าหล่อเหลาและดวงตาที่ลุกเป็นไฟด้วยความอยากจ้องกลับมาที่ฉัน
เหมือนกันมาก…ฉันคิดในใจ ดวงตาสีเขียว ผมสีน้ำตาลเข้ม จมูกโด่งสวย ริมฝีปากขี้เล่น ร่างกายที่ซูบผอมปะปนกับกล้ามเนื้อเล็กน้อยของเขาช่างคล้ายกับผู้ชายที่ฉันรักและแอบโหยหา …พ่อเลี้ยงของฉัน
เขาพรหมจูบฉันอีกครั้ง สอดลิ้นร้อนเข้ามาในโพรงปาก น้ำลายของพวกเราชื้นแฉะจนไหลออกมานอกปากทุกครั้งที่เขาเปลี่ยนมุมจูบ
สองเสียงร้องครวญครางไปพร้อม ๆ กัน ต้นขาของเขาเสียดสีเข้ากับช่องรักที่เต้นระริก
“สะโพกของคุณกำลังจะกลืนกินผมแล้ว” เอ็ดเวิร์ดแหย่
ว๊าย…ฉันทำอะไรลงไปเนี่ย…ใบหน้าของฉันแดงก่ำ อายตัวเองที่เผลอไผลมีอารมณ์ร่วมไปกับนิ้วมือของเขา
ทว่าหลังจากนั้นเขาก็กระชากเปิดสาบเสื้อด้านหน้า พร้อมกับดึงเสื้อชั้นในตัวจิ๋วออกไปจนเผยให้เห็นหน้าอกที่เปลือยเปล่า
ลมเย็นจากแอร์ของห้องปฏิบัติการกระทบลงบนผิวที่เปลือยเปล่า หัวนมแข็งเป็นไตสู้ฝ่ามืออันอบอุ่นที่ลงมากอบกุมหน้าอกข้างซ้าย ในขณะที่หัวนมข้างขวาถูกปากร้อนกระตุ้นไปพร้อม ๆ กัน
“คุณอาคะ อย่าค่ะ!” น้ำเสียงครางกระเส่าจนฉันเองยังไม่คิดว่าเป็นเสียงของตัวเอง
ลิ้นร้อนของเขาไม่ยอมฟังเสียงห้ามแต่หมุนเลียหัวนมที่ตั้งชูชันอย่างรวดเร็ว เขาบีบเคล้นทรวงอกอีกข้างต่อไป ยิ่งเขาดูดหนักขึ้น ฉันยิ่งครางดังขึ้น
สะโพกของฉันพลิ้วไหวเต้นเป็นจังหวะอีกทั้งยังตอดแน่นจนฉันเจ็บหน้าท้อง เขาขยับต้นขาเสียดสีให้ฉันบรรเทาความทรมานชั่วคราว
“น้ำหวานของเธอเปียกขาอาหมดแล้ว เห็นทีคุณอาสกปรกของเธอคงทำให้เธอตื่นเต้นมากใช่ไหม” เขากระซิบข้างหูด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์ แล้วดันนิ้วถูไถผ่านเป้าชั้นในลูกไม้ของฉัน
“แค่ดูดหน้าอก อาก็ทำเธอเสร็จแล้วเหรอ ชั้นในของเธอแฉะไปหมดแล้ว” เอ็ดเวิร์ดถามก่อนจะหัวเราะเบาๆ
ทันใดนั้นเขาก็ถกกระโปรงของฉันขึ้นมาห้อยรอบเอว พร้อมกับดึงกางเกงตัวจิ๋วลงจนสุดขา
แอร์เย็นปะทะกับโพรงดอกไม้ที่เปียกชื้นบริเวณต้นขา ทำให้ฉันรู้ว่าฉันปลดปล่อยอารมณ์ร้อนเร่าออกมามากแค่ไหน
“อย่าทำอีกเลยนะคะ เดี๋ยวมีใครมาเห็นเข้า” ฉันกระซิบพร้อมกับสรรหาเหตุผลเพื่อให้เขาหยุด
“ถ้าอย่างนั้นก็อย่าครางเสียงดังนักสิ” ไม่พูดเปล่า เขายังคงสอดนิ้วกลางเข้าไปในร่องรักของฉันลึกและเร็วขึ้นจนฉันส่งเสียงร้องด้วยความสุขสมขึ้นมาอีกครั้ง
แขนทั้งสองข้างสั่นระริกจนแทบทรงตัวไม่อยู่ต้องเอนหลังพิงโต๊ะเพื่อพยุงตัวเองไว้ไม่ให้ล้ม
เสียงเฉอะแฉะดังไปทั่วห้องทำงานของคุณอาตอนเขาขยับนิ้วเข้าออกผ่านสะโพกฉันก่อนจะหยุดนิ่งและควานสำรวจผนังด้านบนของถ้ำค้นหาจุดที่จะทำให้ฉันครางเสียงได้อย่างพึงพอใจอีกครั้ง
“ชอบให้ฉันจับตรงนี้หรือเปล่า” น้ำเสียงแหบเสน่ห์เอ่ยในขณะที่นิ้วของเขากดอยู่ที่จุดจีสปอต
ฉันรู้สึกว่าตัวเองเปียกชื้นขึ้นเรื่อย ๆ ทรมานจนฉันต้องเป็นฝ่ายส่ายสะโพกบดขยี้และตอดรัดมือของเขาอย่างหนักแน่นไปพร้อม ๆ กับเสียงครางดังลั่น
เมื่อรู้สึกว่าฉันต้องการมากกว่านี้ เขาก็ดันนิ้วอีกนิ้วเข้ามาข้างในร่างบางแล้วเริ่มกระทุ้งหนักขึ้นและเร็วขึ้นจากมุมต่างๆ
“เธอตอดนิ้วอา... อยากได้อาจนตัวสั่นแล้วเนี่ย รู้ตัวหรือเปล่า เดี๋ยวอาจะกินเธอห้หนำใจเลย” เขาครางใส่หูฉันขณะที่ใช้นิ้วหมุนวนแรงขึ้น เขาดูดหัวนมที่ตั้งชันของฉันต่อไปพลางบีบปุ่มกระสันที่บวมแข็งของฉัน ทำฉันปวดหนึบจนหยุดครางเสียงไม่ได้ นัยน์ตาพร่ามัวคล้ายกับกำลังขึ้นสวรรค์
“ตัวหนูสั่นมากรู้ไหม จะเสร็จแล้วเหรอ” เขาล้อพลางดูดดื่มหัวนมที่แข็งเป็นไตอย่างดุดัน
ฉันไม่ตอบ ในหัวสมองมัวเมาอยู่แต่กับรสสัมผัสอันเร่าร้อนที่เขามอบให้ ร่างเล็กส่ายกระเส่าไปตามสัญชาตญาณ เร่าร้อน ทรมาน
ฉันตวัดขารัดสะโพกของเขาไว้แน่นและส่ายรัวให้เข้ากับจังหวะนิ้วมือของเขา
ฉันกอดรัดรอบคอของเขาและแทรกลิ้นร้อนเข้าโพรงปากก่อนจะครางเสียงดังออกมาเมื่อถึงจุดไคลแม็กซ์
สะโพกส่ายร่อนกระแทกนิ้วมือหนา รัดต้นขาเข้ากับเอวแกร่งทำให้ร่างของเราสองคนแนบชิดจนเหมือนเป็นเนื้อเดียวกัน
สิ่งที่ฉันจำได้เป็นครั้งสุดท้ายคือภาพสีขาวที่ฉายวาบขึ้นมาในสมองก่อนที่น้ำหล่อเลี้ยงจะไหลทะลักออกมาเปียกชื้นไปทั่วต้นขา
“อย่าเพิ่งหลับนาตาลี…ยังไม่จบแค่นี้” เอ็ดเวิร์ดกระซิบ
ฉันไม่แน่ใจว่าเป็นเสียงของเขาที่ปลุกฉันจากภวังค์หรือรสสัมผัสที่ท้องน้อยของฉันตอนที่เขาจับตัวฉันขึ้นไปนั่งอยู่บนตักและสวนสะโพกด้วยแท่งร้อนที่แข็งตัวหนา
เอ็นเนื้อขนาดมหึมากระแทกเข้าภายในกลีบดอกไม้ในขณะที่เขากางขาฉันกว้างขึ้นเพื่อให้เขาแทรกตัวได้ลึกขึ้น
“เธอยังกระสันอยู่เลย ขนาดว่าขึ้นสวรรค์ไปแล้วนะ สงสัยว่านิ้วของฉันคงทำให้เธอยังไม่จุใจ” เขาครางเสียงต่ำอย่างหิวกระหาย
หลังจากนั้นเขาก็ดึงแท่งรักออกก่อนจะกระแทกเข้าอีกครั้งจนสุดก้าน
“อ้า…” ฉันร้องด้วยความทรมานแต่กลับสุขสมในเวลาเดียวกันเพราะโพรงร้อนเริ่มเกาะเกี่ยวกับเนื้อเอ็นจนกลายเป็นส่วนเติมเต็มของกันและกัน
“อย่าเกร็ง ฉันจะเริ่มขยับแล้ว อ้าขากว้าง ๆ” เอ็ดเวิร์ดออกคำสั่ง
ฉันทำตามอย่างว่าง่ายราวกับต้องมนต์สะกด ในขณะที่เขากระแทกกระทั้นสอดใส่สะโพกหนาเข้าออกอย่างรวดเร็วจนช่องรักเปียกชุ่ม
ตับ…ตับ…ตับ…
เขาขยับสะโพกเร็วขึ้น หนักขึ้น จนท่อนแกร็งเสียดสีกับช่องน้อยอันเร่าร้อน ในขณะที่ลิ้นของเขาก็ตวัดเกี่ยวอยู่ในโพรงปากจนฉันกลั้นเสียงครางอย่างสุขสม
พ่อเลี้ยง ขอโทษด้วยค่ะ แต่ทั้งหน้าและรูปร่างของเขาช่างเหมือนพ่อเลี้ยงเหลือเกิน ฉันอดไม่ได้จริง ๆ
เอ็ดเวิร์ดขยับสะโพกให้ฉันนั่งได้ถนัดขึ้น เพื่อเขาจะได้กดสะโพกของฉันได้ลึกขึ้น
เขาร่อนสะโพกเข้าออกไม่ยอมหยุด ทั้งหนักหน่วง ทั้งบ้าคลั่ง ไม่ยอมเหน็ด ยอมเหนื่อย
ฉันรู้สึกเหมือนร่างทั้งร่างหลอมละลายอยู่ในอ้อมกอดของเขา ยิ่งเขากระแทกแรงขึ้น ฉันก็ยิ่งใกล้สรวงสวรรค์มากขึ้น
“ฉันจะ…จะ…” ฉันจุกจนพูดไม่ออก ดันตัวเข้าใกล้สะโพกเขามากขึ้น
“ปล่อยออกมาเลย เสร็จพร้อมกัน นาตาลี อาก็จะเสร็จแล้ว” เขากระเส่าร้อง กระทุ้งท่อนแกร็งสอดใส่เข้าออกไม่ยอมหยุด
ฉันเองก็ส่ายร่อนจนเนินเนื้อเสียดสี ตอดรัดท่อนหนาจนเขาร้องออกมาก่อนเขาจะพ่นน้ำเหนียวเข้าในช่องคลอด ฉันตะโกนร้องตะกายขึ้นสวรรค์ ขานเสียงครางออกมาอย่างไม่อาย
กริ๊ง…กริ๊ง…กริ๊ง…
“เฮ้ ลูเซียน… ได้… ใกล้เสร็จแล้ว เดี๋ยวฉันไปส่งลูกสาวนายเอง อีกไม่กี่นาที… ไม่ล่ะ ฉันคงอยู่กินข้าวกับนายไม่ได้ โอเค เจอกัน” เขาวางโทรศัพท์ลง
“ได้ยินแล้วใช่ไหม พ่อเธออยากให้เธอกลับบ้านเดี๋ยวนี้ แต่งตัวเร็วเข้า เดี๋ยวฉันไปส่งเอง ฉันไม่อยากปล่อยให้พ่อลูกที่รักกันปานจะกลืนกินต้องแยกจากกันนานเกินไป แต่งตัวเสร็จแล้วก็ลงมาที่รถนะ” เอ็ดเวิร์ดเอ่ยออกมาอย่างกวน ๆ
ฉันยังล้าจากรสรักของพวกเราอยู่เลย เขาดึงเอาดุ้นเนื้อออกจากสะโพกของฉันอย่างช้า ๆ น้ำเฉอะแฉะไหลเยิ้มตามออกมาด้วย
กลิ่นคาวจากบทรักของพวกเราฟุ้งกระจายไปทั่วห้อง นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันร่วมรักโดยไม่ใส่ถุงยาง ฉันยอมให้เขาพ่นน้ำเชื้อในตัวฉันโดยไม่ทักท้วง เขาจัดแต่งเสื้อผ้าให้เรียบร้อยและเดินออกจากห้องไปโดยไม่พูดอะไรเลย
ฉันเองก็รีบแต่งตัวอย่างร้อนรน พร้อมกับหยิบกระเป๋าถือแล้ววิ่งตามเขาออกไป
นี่ฉันทำอะไรไปเนี่ย? ทำไมฉันถึงควบคุมตัวเองไม่ได้ ฉันยอมสมสู่กับอาของตัวเอง ช่างน่าอาย น่ารังเกียจ น่าขยะแขยง ฉันปล่อยให้อาตัวเองปล้ำฉันในห้องทำงานโดยไม่ขัดขืนเขาเลยแม้แต่น้อย
แต่เดี๋ยวก่อน เขารู้ได้อย่างไร
ใจของฉันสั่นเทา ฝ่ามือเปียกชื้นขึ้นทันทีเมื่อฉันถามตัวเองว่าเขารู้ได้อย่างไรว่าฉันหลงรักพ่อบุญธรรมของตัวเอง มันเป็นความลับที่ฉันไม่เคยเปิดอายเพราะมันน่าอายเกินไป เขารู้ว่าฉันหลงรักพี่ชายของเขามานาน รักต้องห้ามที่ไม่ควรเกิดขึ้น
ฉันหยิบโทรศัพท์มือถือแล้วจึงเห็นข้อความของแซค ญาติผู้พี่ของฉัน
‘เป็นไงบ้าง ฝึกงานอาทิตย์แรกกับอาเอ็ดเวิร์ด คิดถึง อยากกอดเธอมากเลย คืนนี้ว่างไหม ตอบด้วยนะ…รักเธอเสมอ’
หลังจากลูเซียน โรเซนฮอล CEO ชื่อดังระดับโลกของบริษัทผลิตยาชั้นนำมีข่าวหนีการแต่งงานแบบคลุมถุงชน เขาก็ช็อกทุกคนในวงการต่อด้วยการประกาศข่าวหมั้นกับพนักงานสาวที่อายุแก่กว่าเขาหลายปี ซึ่งก็คือแม่ของฉันเอง แม่เลี้ยงฉันเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวมาตั้งแต่ฉันเกิด นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้ฉันดีใจมากที่ท่านได้พบคนที่ท่านรัก ฉันเจอลูเซียนครั้งแรกสองสามเดือนก่อนที่พวกท่านสองคนจะตกลงแต่งงานกัน ตอนนั้นฉันอายุแค่ 12 ปี แต่ก็รู้ได้ในทันทีว่าท่านเป็นคนใจดีและไว้ใจได้ เขาแต่งงานกับแม่ตอนอายุเพียง 28 ปี และถึงแม้จะเป็นงานแต่งงานที่ใหญ่โตหรูหราและทั้งเจ้าบ่าว เจ้าสาวดูเหมือนเป็นคู่รักที่มีความสุขมาก แต่ฉันมารู้ทีหลังว่าครอบครัวของลูเซียนไม่ชอบภรรยาของเขาเลยแม้แต่น้อย ถึงอย่างนั้นชีวิตใหม่ของครอบครัวเราก็มีความสุขดี เหมือนนิยายเลยทีเดียว เราใช้ชีวิตอยู่ในแมนชั่นหลังใหญ่ซึ่งอยู่ในอาณาเขตบ้านของครอบครัวของลูเซียน ทุกครั้งที่เขาหยุดงาน เขามักจะพาพวกเราไปท่องเที่ยวในที่ต่าง ๆ ชีวิตของเราเข้าขั้นเพอร์เฟค แทบไม่มีที่ติเลย อาจจะดีมากเกินไปด้วยซ้ำ แต่มันก็ดีได้ไม่นาน… “นาตาลี แม่ของหนูอยู่โรงพยาบาล เดี๋ยวฉันส่งคนขั
**กลับสู่ปัจจุบัน** เพียงหนึ่งสัปดาห์หลังจากที่ฉันเริ่มฝึกงานกับเอ็ดเวิร์ด พวกเราก็ร่วมรักกัน...ในที่ทำงานของเขา! ฉันพยายามทรงตัวเดินให้เป็นปกติในระหว่างที่ก้าวขาไปขึ้นรถของเขา หว่างขาของฉันปวดมากและน้ำรักที่ชื้นแฉะของเขาก็ไหลซึมออกมาจนกางเกงชั้นในและต้นขาของฉันเปียกโชก ตายแล้ว… ฉันต้องรีบกลับไปล้างตัวทำความสะอาดอย่างด่วน และแล้วช่วงเวลาที่ฉันหวาดหวั่นก็มาถึง ฉันยืนอยู่หน้าประตูรถเบนท์ลีย์สุดหรูของเอ็ดเวิร์ด ฉันกำลังจะประจันหน้ากับเขา ฉันต้องแสดงให้แนบเนียนให้ได้...ต้องไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในวันนี้...โดยเฉพาะลูเซียน ฉันสูดหายใจเข้าลึก เปิดประตูรถ แล้วนั่งลงบนเบาะหนังสีแดงข้าง ๆ เอ็ดเวิร์ด พอฉันปิดประตูออก เอ็ดเวิร์ดก็โน้มตัวมาขโมยจูบที่ริมฝีปากของฉัน เขาค่อยๆ สอดลิ้นเข้ามาในโพรงอุ่นอย่างช้าๆส่วนฝ่ามือก็บีบหน้าอกขวาของฉันแน่น ฉันหันหน้าหนีเพื่อหลบจูบของเขาและพยายามแกะมือเขาออก "หยุด! ได้โปรด…อย่าทำอีกเลย!” ฉันท้วงเสียงดัง “ร่างกายเธองดงามมาก เราควรทำกันบนรถอาอีกรอบ ดีไหม หลานสาวที่รัก” เอ็ดเวิร์ดกระซิบข้างหูฉันด้วยน้ำเสียงเย้ายวน ทำให้ฉันสั่นสะท้าน จากนั้นเขาก็สอดมือเข้าม
“แซค ฉันเอง ขอโทษที่ไม่ได้ตอบข้อความ ตอนนี้กำลังจะเดินไปถึงบ้านนายแล้ว” ฉันพูดผ่านโทรศัพท์ ถ้ามีคนที่ฉันพึ่งพาได้เสมอตอนที่ฉันมีปัญหาก็คงจะเป็นแซคนี่ล่ะ สาวใช้ของครอบครัวเขาเดินออกมาต้อนรับฉันที่ประตูหน้าคฤหาสน์เพราะจำฉันได้ในทันที เธอโค้งศีรษะทำความเคารพและจากไปอย่างเงียบ ๆ ตามปกติแล้วสาวใช้ทุกคนที่นี่ได้รับคำสั่งไม่ให้ฉันอยู่คนเดียวโดยเฉพาะเมื่อฉันอยู่กับแซค ฉันเดินตรงไปที่ห้องของเขา เขารอการมาถึงของฉันอย่างใจจดใจจ่อเหมือนเคย "สวัสดี! สุดที่รัก!” ฉันส่งเสียงร้องด้วยความยินดีพลางกอดเขาไว้แน่นบนโซฟาในห้องนอนของเขา แซคดึงแขนฉันออกจากรอบตัวเขา ไม่ทักทายอะไรสักคำ แต่กดฉันลงใต้ร่างของเขาพร้อมกับวางฉันเอนหลังลงบนโซฟา เขาจูบฉันอย่างเร่าร้อน ลิ้นร้อนพรวดพราดเข้ามาระหว่างริมฝีปาก บังคับให้ฉันเปิดปากเพื่อที่เขาจะได้ผสมผลานลิ้นของเขาอย่างบันเทิงใจ ฉันคราง ขดมือเข้ากับผมสีบลอนด์เป็นลอน ดันศีรษะของเขามาใกล้ขึ้นเพื่อที่ฉันจะได้บดขยี้ริมฝีปากเขาให้แรงขึ้น มือหนาสอดเข้ามาใต้เสื้อและบดเข้าที่หัวนมทั้งสองข้างอย่างรวดเร็ว ด้วยอัตรานี้ ตามปกติแล้ว เราจะร่วมเพศกันอย่างดุเดือดก่อนที่เราจะเปิดหนังด
ฉันอยู่ที่ไหนเนี่ย? ...ตื่นขึ้นมาฉันก็นอนอยู่บนเตียงของตัวเองในตอนเช้าแล้ว พอฉันขยับตัวถึงได้รู้ว่าเนื้อตัวปวดหนึบไปหมด จำได้ว่าร่วมรักอยู่กับแซคเมื่อคืน โพรงรักของฉันที่ยังแสบ ๆ อยู่เป็นหลักฐานได้ ผลจากการให้บริการทั้งแซคธรรมดา และแซคสายดาร์ก เจ็บจัง…ไปอาบน้ำอุ่นแล้วหาอะไรกินดีกว่า น่าจะใกล้เที่ยงแล้ว… โทรศัพท์ของฉันสั่นขึ้นมา ใครส่งข้อความมานะ? ฉันเอื้อมมือไปคว้ามือถือ ‘ไปซื้อยาคลุมมาซะ ฉันชอบทำแบบดิบเท่านั้น’ ข้อความจากเอ็ดเวิร์ดปรากฏขึ้นมา… ฉันไม่สนใจข้อความของเขา ก็ฉันไม่ต้องการพบเขาอีกแล้ว ฉันถอนหายใจแล้วเดินไปเข้าห้องน้ำ ฉันมองร่างเปลือยเปล่าในกระจกเพราะรู้สึกช้ำไปหมด สองหนุ่มทำฉันหนักเกินไป ทั้งเอ็ดเวิร์ดและแซค…ฉันรู้สึกเหมือนเป็นโสเภณีที่ถูกใช้งานมากเกินไปและได้รับค่าจ้างโคตรต่ำ แล้วดูสิ…แซคกัดที่ไหล่ของฉันทิ้งรอยแดงน่าเกลียดไว้อีก เขามักทำให้เขาทิ้งรอยไว้บนร่างกายของฉันทุกครั้งที่เราร่วมเพศกัน เป็นเพราะนิสัยขี้หวงของเขาโดยแท้ หลังจากอาบน้ำเสร็จ ฉันก็สวมชุดเดรสสีขาวพิมพ์ลายดอกกุหลาบสีชมพูกับกระโปรงยาวลงมาถึงเข่า อย่างน้อยที่สุดที่ฉันทำได้ก็คือแต่งตัวให้ดูสวยและแสดงสีหน
“เชี่ย!อ้า…นาตาลี…ดูดฉันให้แรงกว่านี้!” เขาตะโกนเสียงดัง หอบหายใจไปด้วย เสียงครางของเขาดังลั่นรถพร้อมกับจิกผมบนศีรษะของฉันอย่างแรงเพื่อดึงหัวของฉันขึ้น ฉันจึงต้องปล่อยแท่งเนื้อของเขาออกจากปาก เขาจูบริมฝีปากที่บวมเจ่อของฉันอย่างดุเดือดดูดเอาน้ำลายของฉันที่ผสมกับน้ำกามของเขาออกไปกลืนกินจนหมดสิ้น พวกเราพันลิ้นด้วยกันต่ออย่างเร่าร้อน จูบของเรากินเวลาไม่นาน เอ็ดเวิร์ดก็กระแทกหัวของฉันกลับลงไปที่ดุ้นร้อนของเขาอีกครั้งเพื่อบังคับให้ฉันกลืนกินอวัยวะที่ขยายใหญ่ขึ้นของเขาเข้าปาก แต่ครั้งนี้เขาไม่ต้องการให้ฉันใช้มือช่วย เขาดันสะโพกขึ้นแล้วกระทุ้งดุ้นเนื้อควบปากฉันจนปลายก้านกระทบเข้ากับต้นคอก่อนที่จะเขากดหัวฉันและขยับสะโพกให้ฉันกลืนกินก้านยาวเข้าไปจนสุดลำ เขากระแทกเข้าที่หลังคอของฉันซ้ำแล้วซ้ำเล่า แทบจะทำให้ฉันขย้อนเอาสิ่งแปลกปลอมออกมา เขาเอามือออกจากหัวของฉันแล้วลูบไล้ฉันอย่างลวกๆ ที่หว่างขา ดันกระโปรงของฉันไปด้านข้างก่อนจะสอดมือที่เชี่ยวชาญเข้าไปในกางเกงในเพื่อลูบไล้ดอกบัวบานโดยตรง ฉันพ่นเสียงครางไปที่ดุ้นเนื้อในขณะเดียวกันกับอารมณ์เสียงซ่านของฉันเริ่มขยายตัวไปยังช่องท้อง ทำให้ฉันเริ่มยกสะโพ
“หันหลัง วางมือบนหน้าต่างแล้วยกก้นขึ้นทางฉัน” เสียงของเขาทุ้มต่ำ สงบนิ่ง แต่ทรงอำนาจ เป็นอันว่าบทลงโทษของฉันได้เริ่มต้นอย่างเป็นทางการแล้วสินะ ว่าแต่ทำไมฉันให้สิทธิ์เขาลงโทษฉันที่แอบร่วมรักกับแซคได้ ฉันปฏิบัติตามคำสั่งของเขาโดยไม่ขัดขืนเลยแม้แต่น้อย “อ๊ะ! ไม่! เอ็ดเวิร์ด!" ฉันกรีดร้อง หอบหายใจพ่นหมอกลงบนกระจกหน้าต่าง ในขณะที่เอ็ดเวิร์ดกระแทกอาวุธของเขาเข้าเปิดกลีบดอกไม้จากทางด้านหลังอย่างแรง เพียงครั้งเดียว ช่องรักก็กลืนกินท่อนแข็งเข้าไปทั้งก้าน หัวเห็ดแยกปากถ้ำแยกออกจากกันอย่างรวดเร็ว กระแทกมดลูกอย่างแรงจนฉันร้องครวญครางด้วยความทรมานที่เปี่ยมสุข อาวุธของเขาร้อนมาก อีกทั้งยังแข็งตัวเต็มช่องรักจนแม้แต่ฉันก็ยังรู้สึกถึงทุกอนุของกล้ามเนื้อแน่น นี่สินะความแตกต่างของการทำโดยไม่ใช้ถุงยาง ช่างเร้าใจกว่าจริงๆ “อย่าตะโกน…นาตาลี…” เขาคำรามหลังใบหูของฉัน แยงสองนิ้วแหย่เข้าไปในปากของฉันเพื่อไม่ให้ฉันร้อง ฉันดูดนิ้วของเขาอย่างหิวกระหายราวกับกำลังร่วมรักกับนิ้วในปากของฉันไปพร้อม ๆ กับดุ้นเนื้อสาวก็กำลังกระแทกอยู่ที่ระหว่างขาของฉัน เสียงน้ำรักที่ถูกพ่นออกมาดังขึ้นมาอยู่ภายในรถทุกครั้งที่เอ็ดเวิร์
นกลั้นลมหายใจ ส่งเสียงครวญครางเมื่อน้ำอุ่นๆ กระทบกับจุดกระสันหน้าปากถ้ำ เสียวจนน้ำทำท่าจะแตกอีกแล้วเอ็ดเวิร์ดใช้นิ้วลูบกลีบบัวเบา ๆ เพื่อชะล้างคราบการปลดปล่อยครั้งก่อนแล้วสอดนิ้วกลางเข้าไปภายในโพรงเล็ก ซอกเนื้ออ่อนตอดรัดรอบนิ้วที่ล่วงล้ำเข้ามาในทันที เขาจะเริ่มสอดส่ายนิ้วเดียวเข้าและออกจากรูคับแน่น น้ำอุ่นไหลตามนิ้วของเขาออกมาเป็นทางยาว“ร่อนหลืบร้อนและลื่นมาก สงสัยว่าคงจะไม่ใช่แค่น้ำอุ่นธรรมดาแล้วล่ะ น่าจะเป็นน้ำหล่อลื่นของเธอมากกว่า” เขาแกล้งเธอด้วยการดึงนิ้วออกมาดูด จากนั้นก็ใช้นิ้วหัวแม่มือทั้งสองแหวกร่องสวาทออกก่อนที่จะฝังใบหน้าของเขาไว้ที่หว่างขา“อย่า…อย่า…เอ็ดเวิร์ด…” ฉันท้วงอย่างอ่อนแรงขณะเอามือขยุ้มผมของเขา ลมหายใจร้อนผ่าวพ่นลงบนเนินสวาท เขาตวัดลิ้นหยอกล้อกับตุ่มบวมๆ ของฉัน ขณะที่ฉันร้องครางอย่างบ้าคลั่ง หัวนมของฉันแข็งตึงและรูรักเปียกแฉะจากความสุขสมที่เขามอบให้ เขาแยกต้นขาของฉันออกจากกันมากขึ้นเพื่อเข้าไปเลียน้ำดอกไม้จนเกิดเป็นเสียงดัง“ดูสิ เปียกโชกแล้ว...ชอบล่ะสิ ชอบให้ฉันดูดเลียเธอใช่ไหม เพราะเธอมันก็แค่ผู้หญิงสำส่อนเราดี ๆ นี่เอง…” เอ็ดเวิร์ดเอ่ยโดยที่หัวของเขายังฝังอย
เอ็ดเวิร์ดนั่งลงบนเก้าอี้เท้าแขนตรงข้ามกับลูเซียน ถึงเวลาที่จะต้องดำเนินตามแผนสักที“สงบสติอารมณ์และฟังฉันให้ดี เกี่ยวกับนาตาลี…” เอ็ดเวิร์ดเริ่มอธิบาย“นาตาลีทำไม” ลูเซียนหรี่ตาถาม ไม่น่าจะเป็นข่าวดี“เธอบอกว่าช่วงนี้มีพวกสตอล์กเกอร์สะกดรอยตามเธอ เธอรู้สึกไม่ปลอดภัยแม้ว่าจะยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ฉันคิดว่าเราควรปลอดภัยไว้ดีกว่ามาเสียใจทีหลัง ใช่ไหม?” เอ็ดเวิร์ดกล่าว“…แล้วนายว่าควรจะทำอย่างไร” ลูเซียนถามน้องชายที่กำลังบอกฉันว่านาตาลีเลือกที่จะไว้ใจเขาแทนที่จะมาขอความช่วยเหลือจากฉัน? ดูแล้วไม่น่าจะเป็นไปได้ อีกทั้งสองคนนี้ไม่ชอบขี้หน้ากันมาก่อน ไม่ว่าเอ็ดเวิร์ดจะมีเสน่ห์แค่ไหน การได้รับความไว้วางใจจากนาตาลีในช่วงเวลาแค่หนึ่งสัปดาห์ที่อยู่ใกล้กันก็ดูจะเกินเหตุ เขาต้องการอะไรกันแน่…?“ฉันอยากให้นาตาลีมีบอดี้การ์ดเพื่อความปลอดภัยของเธอ ฉันรู้จักบอดี้การ์ดที่เก่งและไว้ใจได้คนหนึ่งซึ่งเคยทำให้คุ้มกันคนที่บ้านใหญ่ ฉันขอแสนอเขาเป็นบอดี้การ์ดของเธอ ตอนนี้นาตาลีโตเป็นสาวแล้ว และด้วยสถานะทางสังคมของพวกเรา เธออาจตกเป็นเป้าโจมตีได้ทุกเวลา” เอ็ดเวิร์ดเสนอ หวังว่า ลูเซียนจะคำนึงถึงความปลอดภัยของลูก
“ฉัน…ฉันขอโทษที่ไม่ได้พูดแบบนี้มาก่อน…” ฉันเริ่มเสียงอ่อน สงสัยว่าทำไมต้องเสียงสั่นด้วย?เอ็ดเวิร์ดมองอย่างเงียบๆ เขารอให้ฉันพูดต่อ ฉันอยากทำให้มันถูกต้อง“อาเอ็ดเวิร์ด! ขอบคุณที่ช่วยฉันไว้!” ฉันพูดอย่างหนักแน่น พร้อมกับจ้องตาเขา ดวงตาเขาเป็นประกายจากแสงอันอบอุ่นของน้ำพุ มันดูมีเสน่ห์มาก"…อะไรนะ?" เอ็ดเวิร์ดชะงักก่อนจะถามด้วยเสียงกระซิบ ดูเหมือนว่าเขาไม่ได้คาดหวังคำขอบคุณจากฉันหลังจากผ่านมาแล้วสิบปีและหลายชั่วโมงหลังจากที่เขาบอกความจริงกับฉัน“ขอบคุณ…ที่ช่วยฉันในป่าวันนั้น ฉันตั้งใจจะบอกคุณก่อนหน้านี้ แต่... ทุกอย่างที่เกิดขึ้น ฉันเลย... ลืม ขอโทษจริงๆ ค่ะ!” ฉันอธิบายอย่างรวดเร็ว เวลาตื่นเต้นฉันจะพูดตะกุกตะกักเอ็ดเวิร์ดเงียบไปชั่วครู่หนึ่งก่อนจะหัวเราะออกมา ตอนนี้กลายเป็นฉันที่สับสน อะไรที่ทำให้เขาหัวเราะได้ขนาดนี้?หัวเราะเหมือนเด็กน้อยที่ร่าเริง เอ็ดเวิร์ดน่าทึ่งจริงๆ แม้ว่าเขาจะผ่านอะไรมามากมาย ยังสามารถก้าวไปข้างหน้า สร้างสถานที่ในโลกสำหรับตัวเขาเอง หัวเราะอย่างไร้กังวลและมีความสุขแบบนี้ การมองดูอาการเขาทำให้ฉันอมยิ้มตามไป“อาขำอะไรขนาดนั้น” ฉันถามอย่างสงสัย“ขอโทษ…ที่อาขำเพราะ…ม
“อาพูดจริงนะ อาเชื่อว่าทางเลือกที่ดีที่สุดของเธอคือแต่งงานกับอา ยิ่งเร็วยิ่งดี” เอ็ดเวิร์ดดูจริงจังมาก“อาบอกได้มั้ยว่าทำไม” ฉันถาม"ดึกมากแล้ว. เธอคงเหนื่อย เราค่อยคุยกันต่อพรุ่งนี้ดีกว่า” เอ็ดเวิร์ดพูดตัดบทแล้วรีบลุกจากโซฟาเดินไปที่ประตู“อาเอ็ดเวิร์ด…” ฉันเรียกชื่อเขาเบาๆ“ห้องนอนอาอยู่ที่สุดทางเดิน… เผื่อเธอต้องการอะไร” เอ็ดเวิร์ดพูดโดยไม่หันหลังกลับเขาจากไปก่อนที่ฉันจะนึกอะไรออก ตอนนี้ฉันควรทำยังไงดี?ทำตามคำแนะนำแล้วเข้านอนเลยอย่างนั้นเหรอ…ฉันรู้สึกแย่มากหลังจากนอนพลิกตัวอยู่บนเตียงไปมาหลายชั่วโมงแต่ทำยังไงก็หลับไม่ลง จิตใจกระสับกระส่ายกับข้อมูลที่เพิ่งรับรู้ คำพูดของเอ็ดเวิร์ดที่วนเวียนอยู่ในหัวทำให้ฉันแทบเป็นบ้า เหงื่อชุ่มตัว ทั้งเตียงและห้องทำให้ฉันรู้สึกอึดอัด รู้อยู่แก่ใจว่ามันไม่ใช่ความผิดของสถานที่ ทุกอย่างอยู่ที่ตัวฉันเองที่ไม่สามารถควบคุมความเครียดได้ฉันคลำหาโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะข้างเตียงในความมืด หน้าจอโทรศัพท์แสดงเวลา 03:45 น. รู้สึกเหนื่อยแต่ก็ยังตื่นอยู่ ชีวิตฉันว่างเปล่ามากในตอนนี้ ไม่มีอะไรต้องทำและไม่มีแผนการสำหรับอนาคต เกิดคำถามในใจว่าชีวิตฉันจะเป็นแบบนี้ไ
“นี่อาไม่ได้ล้อเล่นใช่มั้ย” ฉันถามอย่างอยากรู้อยากเห็น เขาเคยพูดกับฉันแบบนี้มาก่อน แต่มันจบลงไม่ค่อยดีนักแทนที่จะตอบคำถามฉัน เอ็ดเวิร์ดกลับหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วพิมพ์ข้อความแทน เขากำลังทำอะไร?'คืนนี้นาตาลีจะค้างที่นี่ ไม่ต้องห่วง ฉันเริ่มต้นใหม่อย่างความยุติธรรมแล้วนะ...พี่ชาย’เอ็ดเวิร์ดกดปุ่มส่งก่อนจะหันไปหานาตาลีอีกครั้ง พร้อมส่งยิ้มอย่างไร้เดียงสาให้เธอ…**ก่อนหน้านั้น**"นี่คืออะไร!?" ลูเซียนตะโกนใส่หน้าน้องชาย พร้อมกับกระแทกสร้อยคอที่ถืออยู่ลงบนโต๊ะ“อรุณสวัสดิ์!” เอ็ดเวิร์ดทักทายพี่ชายอย่างร่าเริง“เอ็ดเวิร์ด…” ลูเซียนเอ่ยชื่อด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม“พี่มาที่นี่เพื่อถามฉันแค่นี้เองเหรอ?พี่ดูก็รู้?มันคือสร้อยคอ…พร้อมจี้เพชรรูปดาวแบบสั่งทำพิเศษ” เอ็ดเวิร์ดพูดด้วยรอยยิ้ม“เป็นของนายจริงๆ ด้วย” ลูเซียนพูดพร้อมกับหรี่ตาลง“ตอนนี้มันเป็นของนาตาลี ฉันให้เธอไปแล้ว พี่มาเพื่อถามเรื่องแค่นี้เองเหรอ?” เอ็ดเวิร์ดถามด้วยรอยยิ้มไร้เดียงสา“ทำไมนายถึงให้สร้อยคอเส้นนี้กับเธอ นายต้องการอะไร?" ลูเซียนถาม“ฉันมอบให้เธอเพื่อเตือนให้เธอซื่อสัตย์ต่อตัวเอง ฉันไม่ได้ต้องการอะไรเป็นพิเศษ...มีปัญหาอะไร
ฉันนั่งอึ้งอยู่อย่างนั้น ไม่รู้ว่าจะคิดหรือตอบยังไง ถ้าเอ็ดเวิร์ดคือคนที่ช่วยชีวิตและเป็นรักแรกของฉัน มันจะทำให้ความรู้สึกที่ฉันมีต่อลูเซียนเปลี่ยนไปมั้ย ฉันรู้สึกสับสนมากตอนนี้…“หลักฐานแค่นี้พอรึยัง” เอ็ดเวิร์ดเอ่ยปากถาม เขาวางหัวลงบนตักฉันแววตาเขาที่มองฉันทำให้นึกถึงแมวขี้เล่น“ขอโทษค่ะ ฉันไม่รู้ว่าควรจะตอบอายังไง…” ฉันบอกตามความรู้สึกจริงๆ"ไม่เป็นไร มันค่อนข้างทำใจยาก เพราะสิ่งที่เธอเชื่อมาเป็นสิบปีไม่เป็นอย่างที่เธอเข้าใจ” เอ็ดเวิร์ดตอบอย่างเห็นอกเห็นใจ“อือ...” ฉันตอบแบบงง ๆรู้สึกสับสนเกินกว่าจะแยกแยะความรู้สึกของตัวเอง“เธอดูเหนื่อยๆ อยากถามคำถามอีกสองข้อตอนนี้เลยมั้ย?หรือเอาไว้วันหลัง…” เอ็ดเวิร์ดแนะนำ ศีรษะเขาที่หนุนอยู่บนตักให้ความรู้สึกอบอุ่นมากเรานั่งกันอยู่ในความเงียบ ฉันเงยหน้าขึ้นมองดาวที่ส่องแสงระยิบระยับและสงสัยว่าดาวพวกนั้นจะรู้สึกเจ็บปวดและหงุดหงิดเหมือนฉันมั้ย มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้างเมื่อฉันรู้ว่าเอ็ดเวิร์ดเป็นรักแรก ไม่ใช่ลูเซียน?มันจะทำให้ฉันรักลูเซียนน้อยลงรึเปล่า?หรือว่าฉันต้องรักเอ็ดเวิร์ดแทนเพราะเขาเป็นรักแรกของฉัน?ความรู้สึกมันเปลี่ยนกันง่ายๆ ได้ขนาดนั้นเ
“เป็นไปไม่ได้… ที่ฉันจำได้มันไม่ได้เป็นแบบนั้น” ฉันตอบด้วยความตกใจและสับสน“อาไม่โทษเธอ อย่างที่อาเคยบอกไปว่าเธอจะไม่เชื่ออาหรอก” เอ็ดเวิร์ดตอบพร้อมกับยักไหล่ราวกับว่าเขาไม่สนใจว่าฉันจะรับในสิ่งที่เขาพูดได้รึเปล่า“อารู้เรื่องนี้ได้ยังไง?อามีหลักฐานว่าเรื่องของอาเป็นความจริงเหรอ” ฉันถามอย่างจริงจัง“ลูเซียนไม่ได้ช่วยเธอไว้ เขาไม่เคยช่วยเธอ…” เอ็ดเวิร์ดพูดขณะที่สบตากับฉัน"ไม่จริง! ลูเซียนเป็นคนช่วยฉัน” ฉันตะโกนอย่างมั่นใจเพราะลูเซียนคอยช่วยฉันเสมอ“เขาบอกเธออย่างนั้นเหรอ?ตอนเธอถามว่าเขาช่วยเธอรึเปล่า… เขาตอบว่าไง” เอ็ดเวิร์ดถามกลับเขา…“เธอต้องขอบคุณผู้ชายคนนั้นที่ช่วยชีวิตเธอไว้ เธอรู้จักเขามั้ย เขามีหน้าตายังไง” เขาฟังดูเป็นคนที่วิเศษจริงๆ … ใช่มั้ย’คำพูดของลูเซียนกลับมาหาฉัน...“พี่ชายของอามีหลักการที่ชัดเจน เขาจะไม่พูดว่าเขาช่วยเธอทั้งๆ ที่เขาไม่ได้ทำ ดังนั้นอาแน่ใจว่าเขาไม่เคยพูด เธอต่างหากที่คิดไปเองว่าเข้าไปคนช่วยเธฮ” เอ็ดเวิร์ดพูดช้าๆ เพื่อให้ฉันเข้าใจทุกอย่าง"อารู้เรื่องนี้ได้ยังไง?!" ฉันตะโกนใส่เอ็ดเวิร์ด พอกันทีกับทฤษฎีของเขา ทำไมเขาถึงบอกฉันตรงๆ ไม่ได้“นาตาลี ลูเซียนไม
“ราล์ฟเล่าอะไรให้คุณฟังบ้าง เขาชอบพูดไปเรื่อย อย่าไปสนใจล่ะ” เอ็ดเวิร์ดพูด ขณะพาฉันเดินไปตามทาง“เขาเป็นมิตรมาก ฉันชอบเขานะ เราจะไปที่ไหนกันคะ?" ฉันตอบขณะเดินไปกับเอ็ดเวิร์ด“มื้อเย็นกับดวงดาว” เอ็ดเวิร์ดตอบพร้อมชี้นิ้วไปด้วยในไม่ช้าเราก็ยืนอยู่ที่ด้านล่างบันไดที่ดูคดเคี้ยว มองขึ้นไปด้านบนบอกได้เลยว่าเราต้องเดินขึ้นไปสูงทีเดียว หรือว่าที่นี่คือหอดูดาวที่เขาพูดถึงก่อนหน้านี้?“นี่คือทางขึ้นไปหอดูดาว อาคิดว่าขึ้นบันไดดีกว่าใช้ลิฟต์” เอ็ดเวิร์ดตอบคำถามที่ยังไม่ได้ถามแล้วจับมือฉันเราเดินขึ้นบันไดเวียนไปด้วยกัน ไม่รู้ว่าเราต้องเดินขึ้นไปสูงแค่ไหน ขาที่ไม่แข็งแรงของฉันเริ่มล้า เอ็ดเวิร์ดชะลอความเร็วลงเพื่อรอฉัน เห็นได้ชัดว่าการเดินขึ้นครั้งนี้อยู่เหนือความสามารถของฉัน“อืม…อาไม่ได้มีความหมายอย่างอื่น แต่…ถ้าเธอต้องการ อาอุ้มเธอขึ้นไปได้นะ” เอ็ดเวิร์ดเสนออย่างเกรงใจระหว่างที่จ้องหน้าฉัน ตอนนี้หน้าฉันต้องแดงมากแน่ๆ ฉันเริ่มหมดแรงตั้งแต่เมื่อไหร่?สงสัยว่าต้องเดินขึ้นไปอีกนานแค่ไหน ฉันสูดหายใจเข้าลึกๆ สองสามครั้งและตัดสินใจที่จะเดินต่อ"ไม่เป็นไรค่ะ ฉันเดินได้ ขอบคุณที่ถาม” ฉันกัดฟันยิ้มหลัง
“ขอแสดงความยินดีที่เธอชนะเกมนี้ ตามสัญญา อาจะคืนสิ่งนี้ให้กับเธอ” เอ็ดเวิร์ดพูดด้วยรอยยิ้มเขาค่อยๆ ใส่สร้อยจี้รูปดาวที่คอให้ฉัน สังเกตเห็นว่าโซ่ที่ขาดได้รับการแก้ไขแล้ว“ขอบคุณค่ะ” ฉันตอบสั้นๆ เพราะไม่รู้จะพูดอะไรดี“มันเหมาะกับเธอ ตอนนี้ตาเธอเลือกเสื้อผ้าให้อา แล้วแต่งตัวให้อาด้วย” เอ็ดเวิร์ดเสนอ ขณะที่ชี้ไปที่เสื้อผ้าผู้ชายฉันเดินไปหาเสื้อผ้าให้เอ็ดเวิร์ด มีตัวเลือกเยอะจริงๆ เอาอะไรที่เรียบง่ายและผ่อนคลายเพราะเรากำลังจะไปทานอาหารเย็นกัน ฉันหยิบเสื้อเชิ้ตสีชมพูอ่อน คาร์ดิแกนสีขาว และกางเกงสีน้ำตาลอ่อน เอ็ดเวิร์ดสามารถเลือกรองเท้าเองได้“มา ฉันจะแต่งตัวให้อาบ้าง” ฉันบอกเอ็ดเวิร์ดด้วยรอยยิ้ม ขณะยกเสื้อผ้าไปที่โซฟาเมื่อฉันเริ่มแต่งตัวให้เอ็ดเวิร์ด เขายืนนิ่งแต่เฝ้าดูทุกอิริยาบถของฉัน เขาช่วยขยับแขนและขาไปมา เหมือนฉันกำลังเล่นกับตุ๊กตาขนาดเท่าคนจริง ฉันคิดพร้อมหัวเราะเบาๆ กับตัวเอง เอ็ดเวิร์ดไม่พูดซักคำเหมือนเขาจะคิดอะไรอยู่ มันทำให้ฉันรู้สึกกังวลฉันใส่เสื้อให้เขาแล้วเริ่มติดกระดุม รู้สึกได้ว่าเขาไม่ได้ละสายตาจากฉันเลย ฉันยิ้มให้เมื่อติดกระดุมเม็ดสุดท้ายเสร็จ"เสร็จแล้วค่ะ ฉันทำถูกรึ
น้ำอุ่นจากฝักบัวทำให้ผิวหนังและร่างกายที่กำลังอ่อนล้ารู้สึกดีขึ้นมาก ฉันอาบน้ำสระผมเพื่อผ่อนคลาย หยดน้ำที่กระทบกับผิวเปลือยเปล่า เสียงน้ำไหลทำให้รู้สึกสงบลง ฉันรู้สึกดีขึ้นมาก อยากจะยืนพักอยู่ตรงนี้นานๆจู่ๆ ประตูห้องน้ำก็เปิดออก ฉันมั่นใจมากว่าฉันล็อกตอนเข้ามา แต่เดาได้ว่าไม่มีประตูในบ้านนี้ที่เจ้าของบ้านเปิดเข้าไม่ได้ ความจริงฉันไม่ควรแปลกใจเพราะคำว่า 'พื้นที่ส่วนตัวสำหรับนาตาลี' ไม่มีอยู่ในพจนานุกรมของเอ็ดเวิร์ดแน่นนอน“นาตาลี…” เอ็ดเวิร์ดเรียกชื่อฉันอย่างร่าเริงเมื่อเขาโผล่หน้าเข้ามา ทั้งตัวเอ็ดเวิร์ดมีแค่ผ้าเช็ดตัวสีขาวพันรอบเอวเขาเท่านั้น"อาเข้ามาทำไม?!" ฉันกรีดร้องเสียงดัง ไม่คิดว่าในห้องน้ำเสียงจะก้องขนาดนี้ ฉันรีบเอามือปิดหน้าอก ขณะที่หันตัวเข้าหากำแพง“เธอทำเหมือนกับอาไม่เคยเห็นเธอเปลือยกายมาก่อน…” เอ็ดเวิร์ดพูดอย่างอารมณ์ดี"ฉันถามว่าอาเข้ามาทำไม?" ฉันถามซ้ำอีกครั้ง ทั้งที่อยากจะตะโกนไล่เขาออกไป!“ในเมื่อเธอเป็นคนเปลื้องผ้าอา อาเลยคิดว่าเธอควรรับผิดชอบด้วยการแต่งตัวให้อา” เอ็ดเวิร์ดพูดด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์“เกมนี้เป็นความคิดของอา ทำไมฉันต้องรับผิดชอบด้วย?” ฉันสวนกลับ“เธอพู
ไม่สามารถหยุดตัวเองไม่ให้ครางได้ นิ้วเขายังคงลูบไล้ฉันอยู่ตรงนั้น ฉันไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองเปียกโชกอยู่ข้างล่าง นิ้วเขาเล่นกับปุ่มวิเศษอันบอบบาง ก่อนมืออีกข้างจะสอดนิ้วหนาสองนิ้วเข้าไปในช่องรักที่เปียกชื้น มันรู้สึกดีมาก ฉันร้องครวญครางและเอ็ดเวิร์ดก็เริ่มสอดนิ้วเข้าไปลึกในร่างกายฉัน“เหลือเวลาอีกเท่าไหร่…” ฉันเริ่มถามแต่พูดต่อไม่ได้ คำถามฉันถูกแทนที่ด้วยเสียงครวญคราง ร่างกายฉันสั่นสะท้านเมื่อเอ็ดเวิร์ดเริ่มใช้นิ้วแตะที่จุดจีสปอต“จนกว่าเธอจะเสร็จ…” เอ็ดเวิร์ดตอบจนกว่าฉันจะเสร็จ…คงไม่นานเกินไป เอ็ดเวิร์ดใส่นิ้วเข้าไปในตัวฉันเร็วขึ้นและแรงขึ้น อีกมือเขาบีบปุ่มกระสันอย่างต่อเนื่อง ฉันเรียกชื่อเขาเมื่อความเร่าร้อนเข้าครอบงำ หยุดส่ายสะโพกสู้นิ้วเขาไม่ได้ นิ้วเขาเข้าไปลึกมาก รู้สึกมหัศจรรย์เมื่อนิ้วเขาถูผนังช่องรักที่ยืดออก คิดว่าฉันกำลังจะหลั่งเร็วๆ นี้“เอ็ดเวิร์ด…ฉัน…” ฉันพูดระหว่างครางอย่างรุนแรงเอ็ดเวิร์ดค่อยๆ ถอนนิ้วออกจากช่องรักที่เปียกชื้น ฉันรู้สึกร้อนขึ้นภายในโพรงรัก แทนที่จะใช้นิ้วเขา เอ็ดเวิร์ดเอาลิ้นเข้าไปแทน ใบหน้าเขาฝังอยู่ที่หว่างขาฉัน เขาดูดและเลียไปรอบๆ ความร้อนของลิ้นเข