นกลั้นลมหายใจ ส่งเสียงครวญครางเมื่อน้ำอุ่นๆ กระทบกับจุดกระสันหน้าปากถ้ำ เสียวจนน้ำทำท่าจะแตกอีกแล้วเอ็ดเวิร์ดใช้นิ้วลูบกลีบบัวเบา ๆ เพื่อชะล้างคราบการปลดปล่อยครั้งก่อนแล้วสอดนิ้วกลางเข้าไปภายในโพรงเล็ก ซอกเนื้ออ่อนตอดรัดรอบนิ้วที่ล่วงล้ำเข้ามาในทันที เขาจะเริ่มสอดส่ายนิ้วเดียวเข้าและออกจากรูคับแน่น น้ำอุ่นไหลตามนิ้วของเขาออกมาเป็นทางยาว“ร่อนหลืบร้อนและลื่นมาก สงสัยว่าคงจะไม่ใช่แค่น้ำอุ่นธรรมดาแล้วล่ะ น่าจะเป็นน้ำหล่อลื่นของเธอมากกว่า” เขาแกล้งเธอด้วยการดึงนิ้วออกมาดูด จากนั้นก็ใช้นิ้วหัวแม่มือทั้งสองแหวกร่องสวาทออกก่อนที่จะฝังใบหน้าของเขาไว้ที่หว่างขา“อย่า…อย่า…เอ็ดเวิร์ด…” ฉันท้วงอย่างอ่อนแรงขณะเอามือขยุ้มผมของเขา ลมหายใจร้อนผ่าวพ่นลงบนเนินสวาท เขาตวัดลิ้นหยอกล้อกับตุ่มบวมๆ ของฉัน ขณะที่ฉันร้องครางอย่างบ้าคลั่ง หัวนมของฉันแข็งตึงและรูรักเปียกแฉะจากความสุขสมที่เขามอบให้ เขาแยกต้นขาของฉันออกจากกันมากขึ้นเพื่อเข้าไปเลียน้ำดอกไม้จนเกิดเป็นเสียงดัง“ดูสิ เปียกโชกแล้ว...ชอบล่ะสิ ชอบให้ฉันดูดเลียเธอใช่ไหม เพราะเธอมันก็แค่ผู้หญิงสำส่อนเราดี ๆ นี่เอง…” เอ็ดเวิร์ดเอ่ยโดยที่หัวของเขายังฝังอย
เอ็ดเวิร์ดนั่งลงบนเก้าอี้เท้าแขนตรงข้ามกับลูเซียน ถึงเวลาที่จะต้องดำเนินตามแผนสักที“สงบสติอารมณ์และฟังฉันให้ดี เกี่ยวกับนาตาลี…” เอ็ดเวิร์ดเริ่มอธิบาย“นาตาลีทำไม” ลูเซียนหรี่ตาถาม ไม่น่าจะเป็นข่าวดี“เธอบอกว่าช่วงนี้มีพวกสตอล์กเกอร์สะกดรอยตามเธอ เธอรู้สึกไม่ปลอดภัยแม้ว่าจะยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ฉันคิดว่าเราควรปลอดภัยไว้ดีกว่ามาเสียใจทีหลัง ใช่ไหม?” เอ็ดเวิร์ดกล่าว“…แล้วนายว่าควรจะทำอย่างไร” ลูเซียนถามน้องชายที่กำลังบอกฉันว่านาตาลีเลือกที่จะไว้ใจเขาแทนที่จะมาขอความช่วยเหลือจากฉัน? ดูแล้วไม่น่าจะเป็นไปได้ อีกทั้งสองคนนี้ไม่ชอบขี้หน้ากันมาก่อน ไม่ว่าเอ็ดเวิร์ดจะมีเสน่ห์แค่ไหน การได้รับความไว้วางใจจากนาตาลีในช่วงเวลาแค่หนึ่งสัปดาห์ที่อยู่ใกล้กันก็ดูจะเกินเหตุ เขาต้องการอะไรกันแน่…?“ฉันอยากให้นาตาลีมีบอดี้การ์ดเพื่อความปลอดภัยของเธอ ฉันรู้จักบอดี้การ์ดที่เก่งและไว้ใจได้คนหนึ่งซึ่งเคยทำให้คุ้มกันคนที่บ้านใหญ่ ฉันขอแสนอเขาเป็นบอดี้การ์ดของเธอ ตอนนี้นาตาลีโตเป็นสาวแล้ว และด้วยสถานะทางสังคมของพวกเรา เธออาจตกเป็นเป้าโจมตีได้ทุกเวลา” เอ็ดเวิร์ดเสนอ หวังว่า ลูเซียนจะคำนึงถึงความปลอดภัยของลูก
เริ่มต้นสัปดาห์ที่สองของการฝึกงาน สวัสดีวันจันทร์และอีกหนึ่งสัปดาห์เต็มที่ต้องทำงานร่วมกับเอ็ดเวิร์ดที่แล็บ ตารางงานสำหรับสัปดาห์นี้ค่อนข้างยุ่ง รวมถึงการไปร่วมงานเลี้ยงตอนเย็นกับหนึ่งในลูกค้าองค์กรหลักของเราด้วย ฉันต้องยอมรับว่าเมื่อพูดถึงเรื่องธุรกิจ เอ็ดเวิร์ดเป็นมืออาชีพและเป็นที่นับหน้าถือตาในสายงานของเขามาก งานที่มอบหมายให้ฉันทำเป็นงานที่เขาตั้งใจให้ฉันได้เรียนรู้และพัฒนาทักษะที่ฉันยังขาดอยู่เพื่อให้ฉันเข้าใจธุรกิจได้ดีขึ้น วันนี้ฉันต้องตามเอ็ดเวิร์ดไปเข้าร่วมการประชุมต่างๆ กับนักวิจัยชั้นนำเพื่อติดตามความคืบหน้าของกระบวนการต่างๆ คาดว่าเราคงได้วิ่งวุ่นกันทั้งวัน…*กริ่ง...กริ่ง...* เสียงกริ่งโทรศัพท์ของแซคดังขึ้นมา“เฮ้ย นาตาลี คืนนี้ว่างไหม ฉันกำลังจะไปพบใครบางคนและฉันอยากพาเธอไปด้วย” น้ำเสียงที่ผ่อนคลายและขี้เกียจ ๆ หน่อยของแซคเอ่ยเข้ามา“ว่าง…ไปได้ ว่าแต่เราจะไปเจอใคร” ฉันถามด้วยน้ำเสียงอยากรู้อยากเห็นมาก แซคแทบไม่เคยชวนฉันไปพบใครเลย ยกเว้นเพื่อนสนิทของพวกเรา“เดี๋ยวมาก็รู้เอง เดี๋ยวส่งเวลาและสถานที่ไปให้ คืนนี้เจอกัน…แต่งตัวเซ็กซี่ล่ะ” แซ็คแซว“จะพยายามทำชุดทำงานให้เซ็กซี่ก็
เอ็ดเวิร์ดสัมผัสได้ถึงความชุ่มแฉะของนาตาลีผ่านกางเกงชั้นในที่เปียกโชกของเธอ เธอเสียวสั่นไปทั้งตัวแล้ว ไว้เดี๋ยวเก็บไปล้อเธอทีหลังผมใช้เท้าสะกิดข้อเท้าของเธอออกไปด้านข้างเพื่อให้เธอกางขาออกกว้างขึ้นในขณะที่ตอบคำถามและอธิบายแนวคิดให้กับผู้เข้าร่วมการประชุมไปด้วย ผมดึงกางเกงชั้นในที่ปิดเป้าของนาตาลีไปด้านข้างแล้วสอดนิ้วเข้าร่องเปียก ร่างบางสั่นสะท้าน กลีบดอกไม้ชื่นแฉะด้วยความเสียว ผมสอดนิ้วขึ้นลงเข้าร่องสวาทอย่างช้า ๆ และเร่งเร็วขึ้นเมื่อสะโพกของเธอขยับโยกตอบโต้นิ้วของผมน้ำหล่อเลี้ยงรื่นไหลอย่างเต็มฝ่ามือ ใบหน้าของเธอแดงระเรื่อเป็นสีชมพู เธอกัดริมฝีปากที่ดูเย้ายวน พยายามควบคุมความเร่าร้อนของเธอ ผมวนนิ้วเป็นวงกลม ได้ยินเสียงหอบหายใจด้วยความเสียว เม็ดทับทิมบวมเป่ง ผมจึงแกล้งบีบปุ่มเสียวซ้ำ ๆ อย่างเพลิดเพลินผมหยุดการกระตุ้นเป็นระยะเพื่อปล่อยให้เวลานาตาลีได้พักหายใจ แต่ก็ยัดสองนิ้วเข้าไปในรูรักของเธออีกครั้งอย่างแรงจนเธอตกใจ ส่งเสียงครางเบาๆ ออกมาแล้วรีบเอามือปิดปากแล้วเบือนหน้าหนีอย่างอาย ๆ ทว่าช่องร้อนของเธอกลับตอดนิ้วมือผมแน่น…ฉันกลั่นสียงครางอยู่เมื่อเอ็ดเวิร์ดสอดนิ้วหนาเข้าในมา ร่อ
ภาพนาตาลีคุกเข่ายอมจำนนเบื้องหน้าพร้อมบริการโลมเลียตัวดุ้นเนื้อของเขาทำเอาเอ็ดเวิร์ดมองแล้วแทบคลั่ง เขาอยากอัดลำอวบใส่ปากเธอแล้วกระแทกให้สมอยาก ลิ้นที่หยอกล้ออยู่ที่ปลายหัวเห็ดช่างร้อนแรงและเชิญชวน สะโพกเขาสั่นเทิ้มก่อนจะขยับเอวเพื่อดันแท่งเข้าสัมผัสกับลิ้นร้อนไม่ต้องหยอกเล่นแล้ว นาตาลี ผมจับหัวของเธอไว้ในมือแล้วกระแทกหัวมนที่แข็งโด่เข้าไปในปากที่อ่อนนุ่มของเธออย่างเร็วเพียงครั้งเดียว ดุ้นเนื้อชนต้นคอจนเธอหอบและเลียลิ้นไปตามความยาวก่อนจะดูดมันอย่างชำนิชำนาญ ฉันดึงดุ้นและกระแทกเข้าออกไปตามจังหวะลิ้นของเธอจนพวกเราครางออกมาราวกลับกำลังพากันขึ้นสวรรค์นาตาลีบริการผู้ชายเก่งมาก ไม่ว่าจะเป็นพรสวรรค์ตามธรรมชาติของเธอหรือจากประสบการณ์ที่เธอฝึกฝนกับผู้ชายคนอื่น ผมไม่สามารถบอกได้ ผมปัดเรื่องรอยกัดบนไหล่ของเธอออกจากความคิดผมไปไม่ได้ในขณะที่ก็ยังเพลิดเพลินกับริมฝีปากของเธออยู่ผมใกล้จะแตกแล้วแต่จำได้ว่าเธออยากให้เราหลั่งพร้อมกัน ผมจุดสะโพกและบอกให้เธอปล่อยดุ้นเนื้อออก ผมอยากแตกในช่องรักของเธอและเธอก็อยากให้ผมทำในช่องรักเหมือนกัน…“อาอยากร่วมรักกับเธอในที่แบบนี้มาตลอด” เอ็ดเวิร์ดกระซิบข้างหูฉัน
หลังจากหยิบกระเป๋าถือและของใช้ที่จำเป็นอื่นๆ จากโต๊ะทำงาน ฉันก็เดินตรงไปที่ลานจอดรถฉันใช้เวลาสองสามนาทีแต่งเติมใบหน้า…แต่ถ้าจะพูดให้ถูกคือแต่งหน้าใหม่หมดเพราะพอร่วมรักกับเอ็ดเวิร์ด เครื่องสำอางบนใบหน้าก็แทบไม่หลงเหลืออยู่แล้วน้ำเสียงของแซคฟังจากโทรศัพท์แล้วเหมือนกำลังหงุดหงิดอะไรอยู่ ฉันจึงตัดสินใจทาอายแชโดว์สีฟ้าครามกับอายไลน์เนอร์สีดำทึบที่ขอบตาพร้อมกับปัดแก้มโทนสีส้มที่มีกลิตเตอร์ ส่วนริมฝีปากฉันเลือกใช้ลิปกลอสสีส้มผสมกลิตเตอร์สีทองเพื่อให้ดูสดใส ร่าเริง และดูเป็นประกายสีเหล่านี้เป็นสีโปรดของแซคทั้งนั้น เมื่อก่อนตอนแซคยังเป็นนายแบบ เขาขอให้เพื่อนช่างแต่งหน้ามาแต่งหน้าฉันแล้วพวกเขาก็สรุปกันว่าสีนี้ล่ะ เหมาะกับฉันที่สุด แต่สำหรับฉัน ฉันว่าฉันชอบสีโทนธรรมชาติแบบกลาย ๆ หรือโทนสีชมพูมากกว่าแต่ก็นั่นล่ะ แซคยังคงชอบฉันแต่งหน้าให้ดูมีสีสันสดใสแบบที่เราเลือกในวันนั้น แซคเป็นคนที่ไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง ถึงแม้เขาจะเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นก็ตาม และเพื่อให้แซคดีใจ ฉันจึงเลือกสีที่เขาชอบ ดูสิว่าเขาคิดอย่างไรเมื่อเห็นฉันวันนี้ฉันขับรถไปที่จุดนัดพบหลังจากส่องกระจกจนพอใจแล้วก็เดินออกจากรถ ช่วงนี้ชีวิต
แซคก็ไม่แน่ใจว่าทำไมเขาถึงชวนนาตาลีมาที่นี่ เขาแค่รู้สึกผิดที่คิดจะแต่งงานกับคนอื่นโดยไม่ปรึกษานาตาลีก่อน เขาไม่เคยอยากมีแฟนเป็นตัวเป็นต้น อย่าว่าแต่แต่งงานกับใครอื่นเลย ความสัมผัสระหว่างเขากับนาตาลีก็เพียงพอแล้วสำหรับตอนนี้ และถ้าเขาต้องการมากกว่านี้เขาก็อยากให้คนคนนั้นเป็นนาตาลีตั้งแต่เขาเข้าสู่ช่วงวัยรุ่นแซคก็มีคู่เดตมากหน้าหลายตา มากกว่าที่เขาควรจะมีซะด้วยซ้ำเพราะรูปร่างหน้าตาและภูมิหลังของครอบครัวที่ร่ำรวยมหาศาลของเขาจึงทำให้มีผู้หญิงล้อมรอบไม่เคยขาด แต่ผู้หญิงเหล่านั้นก็มาง่ายและไปง่ายแต่ตอนผมกอดนาตาลี ความรู้สึกมันแตกต่างกันออกไป ผมไม่แน่ใจว่าผมคาดหวังปฏิกิริยาอย่างไรจากนาตาลีตอนเธอรู้ว่าผมอาจจะต้องหมั้นกับผู้หญิงคนอื่น แต่การที่เธอไม่มีปฏิกิริยาอะไรเลยนี่มันโคตรห่วยแตกเลยแต่ก็นั่นล่ะนะ ในเมื่อเธอไม่ได้รักผมแบบนั้นจะมาคาดหวังว่าเธอจะโกรธหรือหึงคงจะไม่สมจริงนัก ตอนนี้ผมมีความสุขมากกับความสัมผัสของเราสองคนเพราะฉะนั้นถ้ามีอะไรจะมาพรากพวกเราออกจากกันก็ต้องข้ามศพฉันไปก่อน“บอกฉันได้ไหมว่าทำไมคุณถึงไม่ค่อยสบอารมณ์ มีปัญหาอะไรกันแน่ ๆ” ฉันถามแซคอีกครั้ง ถ้าฉันถามเขาบ่อย ๆ ฉันรู้ว่า
นาตาลีหลับไปทันทีที่ผมช่วยเธอขึ้นรถ ผมเอนเบาะไปด้านหลังเพื่อทำให้เธอหลับสบายขึ้นระหว่างนั่งรถกลับบ้าน เธอดูเหนื่อยล้าแต่ไม่ใช่จากเซ็กซ์ที่เราเพิ่งทำ โดยรวมแล้วเธอดูเนือยๆ เหมือนไม่มีแรง วันนี้เธอแต่งหน้าได้สดสวยมาก เป็นโทนสีที่เหมาะกับเธอจริงๆ ทำให้ผมซาบซึ้งที่เธอประดิดประดอยแต่งมาให้ผมดูแต่กลับทำให้ผมรู้สึกไม่สบายใจ ถึงเธอจะแต่งหน้าด้วยสีสดสวยมากขนาดไหน ก็ยังไม่สามารถซ่อนเร้นความเครียดและความเหนื่อยล้าบนใบหน้างามได้ หรือที่เธอผอมลงจนเห็นได้ชัด จะเป็นเพราะมีบางอย่างกำลังกัดกินนาตาลีอยู่ภายในใจ จนถึงตอนนี้เธอก็ยังไม่เล่าให้ผมฟัง ซึ่งแสดงได้สองอย่าง อย่างแรกคือ ถ้าเล่าให้ผมฟัง ผมจะไม่สบายใจ หรืออย่างที่สองคือเล่าไปแล้วผมก็ช่วยอะไรเธอไม่ได้ ซึ่งนั่นคือสิ่งที่กวนใจผมเอามากๆมันเป็นธรรมชาติของนาตาลีที่มักจะคิดถึงคนอื่นก่อนตัวเองเสมอ บางครั้งมันทำผมให้รู้สึกโมโหเพราะผมเองเป็นหนึ่งคนที่เธอให้ความสำคัญ ผมเป็นพี่ชายของนาตาลีมา 10 ปีและเป็นคนรักของเธอมา 4 ปี เราเข้าใจกันและกันจากฝันร้ายที่เราต้องเผชิญ ถึงแม้ผมจะพยายามปกป้องเธอทุกวิถีทาง แต่เมื่ออายุเราสองคนมากขึ้น ทางญาติผู้ใหญ่ก็ดูจะยิ่งกดดันเ
การทักท้วงจบลงทันทีเมื่อแซคจูบฉันต่อหน้าไรเนอร์ ฉันไม่สามารถผลักเขาออกไปได้ การใช้เวลาร่วมกันมาหลายปีทำให้ร่างกายและจิตใจฉันไม่สามารถต้านทานแซคได้ ฉันละลายในอ้อมแขนอันอบอุ่นของเขา ริมฝีปากและลิ้นร้อนๆ ยังคงหยอกเย้าในปาก ฉันเริ่มครางด้วยความพอใจเมื่อมือเขาลูบไล้สะโพกแซคปล่อยฉันในที่สุด ฉันหายใจไม่ออก รู้สึกอายในความอ่อนแอของตัวเองจนไม่กล้าสบตาไรเนอร์ ความผูกพันที่ฉันมีต่อแซคลึกซึ้งเกินกว่าใครจะเข้าใจ ฉันไม่แปลกใจเลยถ้าเรื่องระหว่างเรายังคงเป็นแบบนี้ไปตลอดชีวิต แซคเป็นเหมือนส่วนหนึ่งของฉัน“ฉันคิดถึงเธอมากเลยรู้มั้ย” แซคพูด เขากอดเอวฉันจากด้านหลังด้วยความรัก ชั่วขณะนึงฉันลืมไปว่าไรเนอร์ยังคงยืนดูพวกเราอยู่“ไรเนอร์ ฉัน…” ฉันอยากอธิบาย แม้ว่ายังไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี“เสียใจด้วยนะไรเนอร์ ไม่มีใครดีพอจะมาแทนที่ผมได้ แม้แต่คุณ” แซคพูด ก่อนถอนหายใจเสียงดังใส่ไรเนอร์“คุณแซค…คุณนาตาลีไม่ใช่ของเล่นของคุณ ปล่อยเธอเดี๋ยวนี้…” ไรเนอร์พูดเสียงเข้ม“นาตาลี ไม่ใช่ของเล่น ผมเคยบอกคุณไปแล้วว่านาตาลีคือรักแท้ของผม คุณบอกให้ผมปล่อยเธอ…เรื่องนั้นผมเข้าใจ แต่ถามนาตาลีก่อนว่าเธอเต็มใจปล่อยผมไปมั้ย” แซคพูดอ
ไรเนอร์กับฉันเดินออกจากห้องทันเวลาเพื่อดูการเผชิญหน้าระหว่างพี่น้อง ได้แต่คิดว่านี่เป็นจังหวะเลวร้ายที่สุดเท่าที่เคยมีมา ฉันยืนนิ่งโดยมีไรเนอร์ยืนอยู่ข้างๆ ระหว่างรอให้คำทักทายสั้นๆ นี้จบลง“นาตาลี!” เสียงของแซคเรียกชื่อฉันอย่างร่าเริงขัดจังหวะบรรยากาศตึงเครียด ถ้ามีผู้ชายที่ไม่เคยสนใจสถานการณ์รอบด้าน มักจะเป็นเจ้าชายแซคเสมอ“แซค” ฉันตอบกลับด้วยน้ำเสียงดีใจพร้อมโบกมือให้เขาแซคแต่งตัวราวกับเจ้าชายในชุดเป็นทางการ ส่วนมาดามฟรานเชสก้าเหมือนราชินีแก่ผู้ชั่วร้ายยืนอยู่ข้างๆ ฉันกลืนน้ำลายพลางหลบสายตา ต่างจากแซคที่ไม่เคยกลัวแม่ของตัวเองและรู้วิธีรับมือกับเธอ ฉันรู้สึกตัวเล็กและไร้ค่าเหมือนเม็ดทรายเวลาอยู่ต่อหน้าเธอ“ลูเชียน…เอ็ดเวิร์ด” มาดามฟรานเชสก้าพูดช้าๆ ด้วยน้ำเสียงน่าเกรงขาม ระหว่างทักทายน้องชาย“มาดามฟรานเชสก้า เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่คุณมาร่วมงานแต่งของผม” ลูเซียนตอบอย่างเป็นทางการ ก่อนจะโค้งคำนับเล็กน้อย เนื่องจากมาดามฟรานเชสก้ามีศักดิ์เป็นพี่คนโต ปฏิกิริยาของลูเซียนดูสมเหตุสมผลมาก ฉันรีบโค้งคำนับตามลูเซียน ขณะที่ไรเนอร์โค้งตาม“แฟรงกี้ แฟรงเกนสไตน์! พี่เป็นยังไงบ้าง” เอ็ดเวิร์ดทักทา
“ฉันทำตามที่ครอบครัวและผู้อาวุโสต้องการมาโดยตลอด แลกเปลี่ยนกับการที่พวกเขาจะดูแลให้เธอปลอดภัย วันหนึ่งฉันจะกลายเป็นผู้อาวุโสและฉันจะปกป้องเธอเอง ไม่ว่าคนอื่นจะพูดยังไง ความปลอดภัยของเธอเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ฉันรักเธอ… และจะไม่ยอมสูญเสียเธอไปเหมือนที่ฉันสูญเสียแม่ของเธอ” ลูเซียนพูดอย่างจริงจัง ฉันไม่เคยเห็นลูเซียนเป็นแบบนี้มาก่อนฉันไม่รู้จะตอบยังไง เหตุผลที่ลูเซียนแสดงท่าทีปกป้องและหวงแหนฉันมากเกินไปเป็นเพราะกลัวที่จะสูญเสียฉันไป เขาเชื่อว่าฉันอาจได้รับบาดเจ็บ…หรือแย่กว่านั้น เขาเสียสละมากมายเพื่อแม่และฉัน ทำไม…'ฉันไม่เสียใจเลย ฉันมีสิ่งคุ้มค่าแก่การปกป้อง เธอเห็นมั้ย...เราทั้งคู่มีสิ่งที่อยากจะปกป้องและเป็นคำสัญญาที่เราต้องรักษา’ คำพูดของลูเซียนย้อนกลับมาหาฉันเขาสัญญาอะไรและกับใคร?“ลูเซียน…ฉัน…” ฉันเริ่มพูด; แต่ไม่แน่ใจว่าควรจะพูดอะไรกับเขาในสถานการณ์นี้“เธอต้องอยู่กับฉันต่อไป ตราบใดที่ฉันยังไม่แน่ใจว่าเธอมีความสุขและปลอดภัย ฉันจะไม่ปล่อยเธอไป” ลูเซียนพูดเสียงแข็งจนรับรู้ได้ว่าไม่มีที่ว่างเหลือสำหรับการต่อรองหรือเจรจา“เธอดูสวยมาก…” ลูเซียนพูด ก่อนจูบปอยผมฉันในที่สุดวันแต่งงานก็มา
“มันไม่สำคัญหรอก …ยังไงเธอไม่กลับมาอีกแล้ว” ฉันตอบพร้อมกัดฟันแน่น“ฉันมีเรื่องอยากจะบอกเยอะมากนาตาลี เยอะจนไม่รู้ว่าจะเริ่มจากตรงไหนหรือจะบอกอะไรกับเธอก่อนดี เพราะเธอเจ็บปวดมามากพอแล้ว…” ลูเซียนสารภาพตามจริง ขณะมองไปทางทะเลอันมืดมิด"คุณหมายความว่ายังไง…?" ฉันถาม.ลูเซียนนั่งนิ่งคิดว่าจะเล่าให้ฉันฟังอย่างไรดี ในขณะที่ฉันแทบบ้าตาย“ลูเซียน…ได้โปรด…” ฉันอ้อนวอน พร้อมกับจับมือเขามาบีบ“มันจะทำร้ายเธอ…มากกว่าที่ทำร้ายฉันตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา” ลูเซียนพูด เขามองกลับมาที่ฉัน“ฉันพร้อมแล้ว…ช่วยบอกฉันที” ฉันพูดอย่างหนักแน่น"บางทีเธออาจจะเข้มแข็งพอแล้ว นาตาลี แม่ของเธอ…ถูกฆ่าตาย” ลูเซียนพูดด้วยน้ำเสียงเจ็บปวดแม่ของฉัน…ถูกฆ่าตาย?!เป็นไปไม่ได้ ฉันคิดระหว่างที่น้ำตาไหลอาบหน้า...“เป็นไปไม่ได้!” ฉันกรีดร้องพร้อมลุกขึ้นจากที่นั่ง“เสียใจด้วยที่ต้องบอกว่ามันเป็นเรื่องจริง… ฉันก็รู้สึกแบบเดียวกับเธอตอนรู้เรื่องนี้” ลูเซียนตอบเบาๆ เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่“ฉันอ่านข่าวการเสียชีวิตของแม่ฉันตั้งเยอะ มันเป็นข่าวใหญ่มากในตอนนั้น...แต่ไม่มีการพูดถึงการฆาตกรรมเลย ไม่จริง ฉันไม่เชื่อ” ฉันพูดจำได้ว่าฉันตั
อาหารค่ำถูกเสิร์ฟตรงระเบียงกลางแจ้ง ดินเนอร์ใต้แสงเทียนริมทะเลที่มีลมพัดปะทะใบหน้าและเส้นผม บรรยากาศโรแมนติกไม่ใช่เหตุผลเดียวที่ทำให้ฉันนึกถึงคืนบนหอดูดาวที่เอ็ดเวิร์ดบอกความจริงเรื่องที่เขาเป็นคนช่วยฉันในป่าเมื่อหลายปีก่อน ฉันรู้สึกว่าคืนนี้ฉันอาจจะได้รู้ความจริงที่ซ่อนอยู่ซึ่งจะเปลี่ยนชีวิตฉันอีกครั้งบรรยากาศคล้ายกับมื้อค่ำที่ฉันทานกับเอ็ดเวิร์ดในครั้งนั้น รสชาติอาหารเหมือนทรายแห้งๆ บนลิ้น โชคดีที่ลูเซียนไม่อ้อมค้อม หลังจากที่สาวใช้ปล่อยให้เราอยู่ตามลำพัง ลูเซียนก็เริ่มพูดทันที“เล่าให้ฉันฟังหน่อยว่าก่อนที่ฉันจะเจอเธอกับแม่ ชีวิตเธอเป็นยังไงบ้าง…” ลูเซียนถามอย่างลังเล“ทำไมคุณถึงถามเรื่องนี้ล่ะ?ฉันคิดว่าแม่น่าจะเล่าให้คุณฟังหมดแล้ว” ฉันตอบ มันไม่ปกติที่เขาจะพูดเรื่องนี้ ถามเกี่ยวกับวัยเด็กของฉันให้ได้อะไร?“ใช่ แม่เธอเล่าแล้ว แต่ฉันอยากฟังจากปากเธอมากกว่า” ลูเซียนตอบหนักแน่น“คุณต้องการรู้อะไร…เป็นพิเศษ?” ฉันถามเขากลับ“สภาพความเป็นอยู่ของเธอสองคนเป็นยังไง?แม่ของเธอทำงานรึเปล่า เธอไปโรงเรียนแบบไหน เรื่องทั่วๆ ไป อะไรก็ได้ที่เธอนึกออก” ลูเซียนตอบ“ฉันไม่รู้ว่าทำไมคุณถึงถามฉันเรื่องน
เรามาถึงบ้านพักริมทะเลซึ่งตั้งอยู่บนชายหาดส่วนตัวที่ลูเซียนเป็นเจ้าของ เราเรียกมันว่าบ้านพักแต่สุดท้ายแล้วมันก็คือคฤหาสน์ขนาดใหญ่อีกหลังหนึ่ง ไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้เลย ถ้าลูเซียนไม่มีทายาท ฉันคงได้รับมรดกทั้งหมดของเขารวมถึงชายหาดส่วนตัวนี้ด้วยฉันนั่งอยู่บนผืนทรายในชุดบิกินี่สีแดง แหงนหน้ามองท้องฟ้าสีฟ้าสดใสพร้อมหรี่ตาลง ฉันควรจะสนุกกับการเดินทางครั้งนี้ แต่สิ่งเดียวที่คิดคือจะเริ่มคุยกับลูเชียนยังไงดี ทันใดนั้นทรายใต้ตัวฉันขยับระหว่างที่ลูเซียนนั่งลงข้างๆ ฉัน เรานั่งข้างกันโดยไม่พูดอะไร ยังคงมองออกไปยังทะเลด้านหน้า“ตื่นเต้นกับงานแต่งงานมั้ยคะ” ฉันล้อเล่น นึกไม่ออกว่าจะชวนคุยเรื่องอะไรดี“ใช่…แต่ด้วยเหตุผลอื่นที่เธอเดาไม่ถูก” ลูเซียนตอบพร้อมกับโอบหลังฉันและขยิบตาให้ ฉันหัวเราะเล็กน้อยเป็นคำตอบขณะเอนศีรษะซบไหล่เขา“ฉันไม่เดาดีกว่า…” ฉันตอบ ระหว่างถอนหายใจออกมาเรากลับไปมองดูทิวทัศน์รอบตัวอย่างเงียบๆ หวังว่าจะไม่ถูกแดดเผา มันคงเป็นเรื่องตลกถ้าเจ้าบ่าวผิวลอกในงานแต่งงาน“เธอคิดถึงอนาคตของเธอบ้างหรือยัง” ลูเซียนถาม สายตาเขายังคงจับจ้องที่ขอบฟ้าไกลทำไมเขาถึงถามเรื่องนี้?ไม่ใช่ว่าฉันไม่ได้
“อาร์…ฉัน…หยุดไม่ได้……ฉันเสร็จอีกแล้ว!” ฉันร้องออกมาเมื่อร่างกายสูญเสียการควบคุมอีกครั้ง มันรุนแรงมากจนทำให้ฉันกลัว ร่างกายสั่นสะท้าน ฉันเริ่มร้องสะอื้นอย่างเงียบๆ ระหว่างซุกหน้าลงบนผ้าห่ม“ผมใกล้เสร็จแล้วเหมือนกัน…ผมเสร็จแล้ว…นาตาลี!” ไรเนอร์ร้องครางราวกับสัตว์ป่า มันทำให้ฉันรู้สึกมีความสุขมาก หัวมังกรขนาดใหญ่กระตุกรุนแรงก่อนที่น้ำกามร้อนพุ่งลึกเข้าไปในโพรงสวาท รู้สึกร้อนรุ่มภายในขณะที่น้ำรักอุ่นๆ ล้นทะลักออกมาเต็มมดลูก เขาดันแท่งร้อนดันเข้าออกเล็กน้อยทำให้น้ำกามกระฉูดในตัวฉันมากขึ้น มันรู้สึกมหัศจรรย์มากแต่เหมือนร่างกายฉันถูกใช้จนเกินขีดจำกัด“คุณยังโอเคอยู่มั้ย” ไรเนอร์กระซิบ เขาจ้องมองใบหน้าที่อ่อนล้าและร่างกายที่ไร้เรี่ยวแรง แทบจะตั้งสติไม่อยู่ ฉันคงดูเหมือนตายไปแล้วเพราะตัวเองก็รู้สึกอย่างนั้นจริงๆ“คุณคิดว่า…เป็นความผิดของใคร……?” ฉันพูดเบาๆ ระหว่างพยายามหายใจ“อย่าโทษผมเลย...คุณเป็นคนขอเองไม่ใช่เหรอ อย่าบอกนะว่าจำไม่ได้…” ไรเนอร์ตอบพร้อมหัวเราะเบาๆ พร้อมกับค่อยๆ ถอนท่อนร้อนออกจากช่องรักที่เปียกท่วมน้ำรักของเราไหลออกมาทันที เตียงของไรเนอร์ต้องเปรอะไปหมดแน่ แต่ฉันไม่มีเวลามากังว
“โอบขาคุณรอบสะโพกผม” ไรเนอร์สั่ง สมองฉันแทบจะไม่ทำงานในช่วงเวลานี้ ต้องใช้เวลาสักครู่เพื่อทำตามคำสั่งเขาอย่างช้าๆหลังจากโอบแขนรอบคอเขา ไรเนอร์ก็ค่อยๆ ยืนขึ้น มันน่าทึ่งมากที่เขาสามารถยกตัวฉันขึ้นมาได้ การที่ตัวเขาใหญ่กว่าฉันมากมันมีข้อดีอย่างนี้นี่เอง“ไม่ต้องห่วง ผมจะกอดคุณไว้…ผมไม่ปล่อยให้คุณหล่นแน” ไรเนอร์ยืนยัน มือขนาดใหญ่โอบประคองบั้นท้ายฉันไว้อยากจะบอกเขาว่าฉันไม่กลัวว่าจะตก แต่ฉันกลัวว่าช่องรักถูกฉีกออกจากกันเพราะความสุขที่เขากำลังมอบให้ฉัน รู้สึกได้ถึงท่อนร้อนที่แข็งเป็นหินของไรเนอร์ฝังลึกอยู่ในตัวฉัน ฉันหลั่งมาหลายครั้งแล้วแต่เขายังไม่ถึงจุดสุดยอดเลยแม้แต่ครั้งเดียว ผู้ชายคนนี้อึดเหลือเกิน…ฉันได้แต่พยักหน้ารับอย่างเงียบๆ พร้อมยิ้มให้เขาไรเนอร์ยิ้มกลับด้วยดวงตาสีฟ้าที่อ่อนโยนมาก ก่อนเขาจะดึงเจ้ามังกรยักษ์ออกจากโพรงสวาทแล้วดันมันกลับเข้าไปข้างในอีกครั้ง เขาทำอย่างนั้นครั้งแล้วครั้งเล่าระหว่างที่จับสะโพกฉันไว้ในมือ ฉันไม่สามารถทำอะไรได้เลยแม้กระทั่งเคลื่อนไหวสะโพกหรือร่างกาย สิ่งที่ฉันทำได้คือสนุกไปกับมันและตะโกนเรียกชื่อเขาอย่างบ้าคลั่งระหว่างที่เขากระแทกโพรงสวาทอย่างแรงไม่
"คุณโอเคมั้ย?" ไรเนอร์ถามพร้อมกับจูบที่หน้าผากฉัน“ค่ะ…คุณอยู่ลึกมากข้างใน…” ฉันตอบพร้อมกับพยักหน้าช้าๆ ไม่สามารถหยุดตัวเองจากการสำลักความสุขตอนนี้ความเป็นลูกผู้ชายของเขายืดและเติมเต็มฉันอย่างที่สุด มันรู้สึกดีมาก ร่างทั้งร่างสั่นจนควบคุมไม่ได้ ฉันร้องครางออกมาเหมือนคนโดนผีสิง“คุณเพิ่งหลั่งตอนผมใส่มันเข้าไปรึเปล่า” ไรเนอร์ถามพร้อมกับหัวเราะออกมาร่างกายสั่นไม่หยุดระหว่างที่สะโพกยังอยู่ใต้ตัวเขา ช่องรักบีบรัดรอบแท่งร้อนอย่างบ้าคลั่ง ฉันเพิ่งหลั่งอย่างที่เขาพูดจริงๆ เพียงแค่เขาดันเข้ามาในตัวฉันอย่างนั้นเหรอ?ความคิดนี้ทำให้ฉันกลัวเพราะเราเพิ่งจะเริ่มกันเอง“…ผมจะขยับต่อแล้วนะ” ไรเนอร์พูดด้วยรอยยิ้มอ่อนโยนขณะดึงสะโพกกลับไรเนอร์ดันหัวเห็ดขนาดใหญ่เข้ามาในตัวฉันอย่างช้าๆ ฉันใช้หลังมือปิดปากยับยั้งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดผสมกับความสุข มันเจ็บแต่ก็เริ่มรู้สึกดีในเวลาเดียวกัน ไม่สามารถหยุดผนังช่องรักบีบรัดท่อนเอ็นเนื้อของเขาได้“พยายามผ่อนคลาย นาตาลี ช่องรักคุณบีบผมแน่นมาก… จนมันขยับยาก…” ไรเนอร์กระซิบ เขาจับต้นขาฉันแยกออกจากกันให้กว้างขึ้นกว่าเดิมฉันหายใจเข้าลึกๆ สองสามครั้ง พยายามผ่อนคลาย