หลังจากหยิบกระเป๋าถือและของใช้ที่จำเป็นอื่นๆ จากโต๊ะทำงาน ฉันก็เดินตรงไปที่ลานจอดรถฉันใช้เวลาสองสามนาทีแต่งเติมใบหน้า…แต่ถ้าจะพูดให้ถูกคือแต่งหน้าใหม่หมดเพราะพอร่วมรักกับเอ็ดเวิร์ด เครื่องสำอางบนใบหน้าก็แทบไม่หลงเหลืออยู่แล้วน้ำเสียงของแซคฟังจากโทรศัพท์แล้วเหมือนกำลังหงุดหงิดอะไรอยู่ ฉันจึงตัดสินใจทาอายแชโดว์สีฟ้าครามกับอายไลน์เนอร์สีดำทึบที่ขอบตาพร้อมกับปัดแก้มโทนสีส้มที่มีกลิตเตอร์ ส่วนริมฝีปากฉันเลือกใช้ลิปกลอสสีส้มผสมกลิตเตอร์สีทองเพื่อให้ดูสดใส ร่าเริง และดูเป็นประกายสีเหล่านี้เป็นสีโปรดของแซคทั้งนั้น เมื่อก่อนตอนแซคยังเป็นนายแบบ เขาขอให้เพื่อนช่างแต่งหน้ามาแต่งหน้าฉันแล้วพวกเขาก็สรุปกันว่าสีนี้ล่ะ เหมาะกับฉันที่สุด แต่สำหรับฉัน ฉันว่าฉันชอบสีโทนธรรมชาติแบบกลาย ๆ หรือโทนสีชมพูมากกว่าแต่ก็นั่นล่ะ แซคยังคงชอบฉันแต่งหน้าให้ดูมีสีสันสดใสแบบที่เราเลือกในวันนั้น แซคเป็นคนที่ไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง ถึงแม้เขาจะเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นก็ตาม และเพื่อให้แซคดีใจ ฉันจึงเลือกสีที่เขาชอบ ดูสิว่าเขาคิดอย่างไรเมื่อเห็นฉันวันนี้ฉันขับรถไปที่จุดนัดพบหลังจากส่องกระจกจนพอใจแล้วก็เดินออกจากรถ ช่วงนี้ชีวิต
แซคก็ไม่แน่ใจว่าทำไมเขาถึงชวนนาตาลีมาที่นี่ เขาแค่รู้สึกผิดที่คิดจะแต่งงานกับคนอื่นโดยไม่ปรึกษานาตาลีก่อน เขาไม่เคยอยากมีแฟนเป็นตัวเป็นต้น อย่าว่าแต่แต่งงานกับใครอื่นเลย ความสัมผัสระหว่างเขากับนาตาลีก็เพียงพอแล้วสำหรับตอนนี้ และถ้าเขาต้องการมากกว่านี้เขาก็อยากให้คนคนนั้นเป็นนาตาลีตั้งแต่เขาเข้าสู่ช่วงวัยรุ่นแซคก็มีคู่เดตมากหน้าหลายตา มากกว่าที่เขาควรจะมีซะด้วยซ้ำเพราะรูปร่างหน้าตาและภูมิหลังของครอบครัวที่ร่ำรวยมหาศาลของเขาจึงทำให้มีผู้หญิงล้อมรอบไม่เคยขาด แต่ผู้หญิงเหล่านั้นก็มาง่ายและไปง่ายแต่ตอนผมกอดนาตาลี ความรู้สึกมันแตกต่างกันออกไป ผมไม่แน่ใจว่าผมคาดหวังปฏิกิริยาอย่างไรจากนาตาลีตอนเธอรู้ว่าผมอาจจะต้องหมั้นกับผู้หญิงคนอื่น แต่การที่เธอไม่มีปฏิกิริยาอะไรเลยนี่มันโคตรห่วยแตกเลยแต่ก็นั่นล่ะนะ ในเมื่อเธอไม่ได้รักผมแบบนั้นจะมาคาดหวังว่าเธอจะโกรธหรือหึงคงจะไม่สมจริงนัก ตอนนี้ผมมีความสุขมากกับความสัมผัสของเราสองคนเพราะฉะนั้นถ้ามีอะไรจะมาพรากพวกเราออกจากกันก็ต้องข้ามศพฉันไปก่อน“บอกฉันได้ไหมว่าทำไมคุณถึงไม่ค่อยสบอารมณ์ มีปัญหาอะไรกันแน่ ๆ” ฉันถามแซคอีกครั้ง ถ้าฉันถามเขาบ่อย ๆ ฉันรู้ว่า
นาตาลีหลับไปทันทีที่ผมช่วยเธอขึ้นรถ ผมเอนเบาะไปด้านหลังเพื่อทำให้เธอหลับสบายขึ้นระหว่างนั่งรถกลับบ้าน เธอดูเหนื่อยล้าแต่ไม่ใช่จากเซ็กซ์ที่เราเพิ่งทำ โดยรวมแล้วเธอดูเนือยๆ เหมือนไม่มีแรง วันนี้เธอแต่งหน้าได้สดสวยมาก เป็นโทนสีที่เหมาะกับเธอจริงๆ ทำให้ผมซาบซึ้งที่เธอประดิดประดอยแต่งมาให้ผมดูแต่กลับทำให้ผมรู้สึกไม่สบายใจ ถึงเธอจะแต่งหน้าด้วยสีสดสวยมากขนาดไหน ก็ยังไม่สามารถซ่อนเร้นความเครียดและความเหนื่อยล้าบนใบหน้างามได้ หรือที่เธอผอมลงจนเห็นได้ชัด จะเป็นเพราะมีบางอย่างกำลังกัดกินนาตาลีอยู่ภายในใจ จนถึงตอนนี้เธอก็ยังไม่เล่าให้ผมฟัง ซึ่งแสดงได้สองอย่าง อย่างแรกคือ ถ้าเล่าให้ผมฟัง ผมจะไม่สบายใจ หรืออย่างที่สองคือเล่าไปแล้วผมก็ช่วยอะไรเธอไม่ได้ ซึ่งนั่นคือสิ่งที่กวนใจผมเอามากๆมันเป็นธรรมชาติของนาตาลีที่มักจะคิดถึงคนอื่นก่อนตัวเองเสมอ บางครั้งมันทำผมให้รู้สึกโมโหเพราะผมเองเป็นหนึ่งคนที่เธอให้ความสำคัญ ผมเป็นพี่ชายของนาตาลีมา 10 ปีและเป็นคนรักของเธอมา 4 ปี เราเข้าใจกันและกันจากฝันร้ายที่เราต้องเผชิญ ถึงแม้ผมจะพยายามปกป้องเธอทุกวิถีทาง แต่เมื่ออายุเราสองคนมากขึ้น ทางญาติผู้ใหญ่ก็ดูจะยิ่งกดดันเ
**กลับสู่ปัจจุบัน**ฉันตื่นขึ้นมาในชุดนอน สงสัยแม่บ้านน่าจะเป็นคนเปลี่ยนชุดให้ตอนฉันกลับมาเมื่อคืนนี้เมื่อวานเกิดเรื่องกับแซคหลายเรื่อง แถมพอฉันรู้เรื่องแอนนี่คู่เดทของแซคอีก ฉันเลยลืมไปเลยว่ามีเรื่องจะบอกเขาฉันรีบโทรหาแซค ทุกครั้งเขาจะรับสายทันทีราวกับว่าเขานั่งรอฉันโทรไปหา ครั้งนี้ก็เหมือนกัน นี่คือสาเหตุที่ฉันรักเขา"สุดสัปดาห์นี้ไปล่องเรือเป็นเพื่อนฉันนะ?” ฉันแกล้งถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น ซ่อนเร้นจุดประสงค์ที่แท้จริง“…กับพ่อคุณและว่าที่แม่เลี้ยง?” แซคตอบอย่างรู้ทันพร้อมกับหัวเราะไปด้วย ให้ตายเถอะ เขาจับได้ ไม่มีทางที่ฉันจะไปล่องเรือในฐานะก้างขวางคอกับแองเจล่าแม่สาวนมใหญ่คนเดียวแน่“ไปเถอะนะแซค… บางทีคู่หมั้นของลูเซียนอาจตกหลุมรักนายและขอถอนหมั้นกับลูเซียนก็ได้” ฉันรีบหยอก"ไม่มีทาง. ฉันไม่ชอบผู้หญิงทำนม เห็นบ่อยจนเอือมแล้ว” แซคตอบทันทีเหมือนเขาดูออก“นายรู้ได้ไงว่าแองเจล่าทำนมมา?รู้จักเธอมาก่อนเหรอ?" ฉันถามแบบอยากรู้อยากเห็น“ฉันเคยเจอเธอในงานสังสรรค์บ่อยๆ แต่ยังไม่เคยนอนกับเธอนะ แต่เรื่องซุบซิบนินทาของสังคมไฮโซนี่มันมาเร็ว โดยเฉพาะถ้าพ่อของฉันกำลังอยากจับฉันแต่งงานนะ” แซคตอบ เข
ไม่บ่อยนักที่พวกเราจะมาล่องเรือด้วยกัน ฉันจึงตั้งใจไว้ว่าจะสนุกกันกับแซคให้เต็มที่ เราสองคนมาเล่นน้ำกันที่สระบนดาดฟ้าเรือ"รู้สึกดีขึ้นมั้ย?คุณดูเหมือนไม่สบายใจมาสักพักแล้วใช่ไหม” เขาขยับเข้ามาใกล้ฉันมากขึ้น“ไหน ๆ ก็มาแล้ว งั้นก็ต้องสนุกสุดเหวี่ยงที่สุดนั่นล่ะ แล้วนายล่ะ เรื่องแอนนี่…โอเคไหม” ฉันพยายามเปลี่ยนเรื่อง“บอกตามตรง เฉย ๆอ่ะ ก็รู้อยู่แล้วว่าเดี๋ยวก็ต้องมีคนหาคู่ให้ ถ้าการออกเดทกับแอนนี่เป็นข้อแลกเปลี่ยนกับสิ่งที่ฉันอยากทำ มันก็คุ้มอยู่ เธอก็รู้ว่าฉันใช้เวลาเกือบทั้งชีวิตต่อรองกับแม่และผู้อาวุโสว่าอยากจะทำงานแฟชั่น ศิลปะ ภาพยนตร์ แถมยังเป็นผู้นำด้านการตลาดของครอบครัวเราได้อีก” แซคอธิบาย“ถ้านายยอมรับได้ก็ดีใจด้วยนะ” ฉันไม่รู้จะพูดอะไรต่อดีแซคบีบมือฉันใต้น้ำ“เธอจะยังอยู่ข้าง ๆ ฉันไหม ถ้าเป็นแบบนี้” แซคถามในขณะที่มองลึกเข้าไปในดวงตาของฉัน ดวงตาสีน้ำตาลแดงของเขากับขนตายาวสีบลอนด์อ่อนนั้นช่างงดงามราวกับดวงตาของราชสีห์ทองคำ“ตลอดไป…ตราบเท่าที่นายยังต้องการฉันอยู่” ฉันสัญญาว่าเราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป ตราบใดที่เขายังต้องการฉันอยู่ ในเมื่อเขาเองก็ช่วยเยียวยาแผลเป็นของฉันด้วยเหมือนกั
หลังจากร่างใหญ่ของลูเซียนหย่อนลงมานั่งกับฉันในอ่าง ทั้งน้ำและโฟมก็เอ่อล้นออกมาและทำให้อ่างอาบน้ำดูเล็กลงไปทันที“ลูเซียน…ทำอะไรของคุณน่ะ!” ฉันถามด้วยความตกใจแล้วรีบยกมือขึ้นปิดหน้าอก อะไรดลใจให้เขาทำอย่างนี้?เราไม่เคยอาบน้ำด้วยกันเลยตลอดระยะเวลา 10 ปีที่อยู่ด้วยกัน ฉันโตพอที่จะดูแลตัวเองได้ตั้งแต่เราพบกันครั้งแรก“นาตาลีถูหลังให้อาหน่อย” เขาอ้อนวอนพลางหันหลังเปลือยเปล่าที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อให้ฉัน นี่มันเกิดอะไรขึ้น?ฉันจะปฏิเสธเขาได้อย่างไรในเมื่อเขาขอร้องมาแบบนี้?ความร้อนจากร่างกายของเขาปะทะกับฝ่ามือของฉันลูเซียนทำเสียงพอใจ…เป็นสถานการณ์ที่ดูแปลกมาก แต่เขากลับทำตัวเป็นปกติและดูผ่อนคลายมาก การเปลือยกายในอ่างอาบน้ำพร้อมกับลูเซียน ทำให้ร่างกายของฉันรู้สึกร้อนขึ้นเรื่อยๆสักพักลูเซียนก็หันกลับมาพร้อมกับเอื้อมมือมาจับข้อมือทั้งสองข้างของฉันเอาไว้ ตัวฉันแข็งเกร็ง ตาของเขาเลื่อนลงมามองที่หน้าอกจนหัวนมของฉันลุกชัน เขาเลื่อนใบหน้าเข้ามาใกล้ฉันอย่างช้าๆ ฉันรู้สึกถึงลมหายใจอันร้อนระอุที่ข้างหูตอนเขากระซิบว่า “ให้ฉันถูหลังให้เธอนะ”เขายิ้มก่อนที่จะใช้ฟองน้ำถูหลังให้ฉัน มันรู้สึกดีมาก มือของเขา
“อา…อา…เพราะ…เรา…อา…คุณคือ…พ่อเลี้ยงของฉัน” ฉันพูดจบประโยคท่ามกลางเสียงครางที่เร้าร้อน ลูเซียนเป็นพ่อเลี้ยงของฉันถึงแม้ฉันไม่อยากให้เขาเป็นก็เถอะ“ถ้าอาไม่เป็นพ่อเลี้ยงของเธอ แปลว่าอาทำแบบนี้ได้ใช่มั้ย?” ลูเซียนถาม ฉันพูดไม่ออก ถ้าเขาไม่ได้เป็นพ่อเลี้ยงฉัน มันหมายความว่ายังไง?เราจะยังอยู่ด้วยกันเหมือนเดิมไหม?ฉันจะได้เจอเขาอีกหรือเปล่า“ไม่…ได้โปรด…ฉันไม่อยากเสียคุณอาไป” ฉันหันไปมองเขาขณะที่น้ำตาคลอเบ้า“เธอจะไม่เสียอาไปอย่างแน่นอน อาไม่ไปไหนหรอก และอาก็จะไม่ให้เธอไปไหนด้วย” ลูเซียนกระซิบตอบอย่างเร่าร้อนริมฝีปากที่ร้อนเหมือนเปลวไฟเริ่มจูบฉัน มือหนาประคองใบหน้าของฉันไว้ไม่ให้หนีไปไหน ลิ้นร้อนตวัดกวัดแกว่งอยู่ในช่องปากที่เปียกชื้น ฉันกับเขาออกเสียงครางร่วมกันด้วยความยินดี ฉันไม่เคยคิดมาก่อนว่าการจูบกับลูเซียนจะเร้าใจได้ถึงขนาดนี้ ฉันดึงศีรษะของเขาเข้ามาใกล้ขึ้นอีก อยากให้เราจูบกันแบบนี้ตลอดไปฉันแน่ใจว่าหน้าของฉันคงแดงไปหมดเมื่อริมฝีปากของเราแยกจากกัน ฉันยังต้องการมากกว่านี้ ตัวของฉันสั่นด้วยความอยาก อยากได้ร่างกายของเขา อยากได้ความรักของเขา หว่างขาของฉันแฉะชื้นขึ้นเรื่อย ๆ“นาตาลี อาขอ
ลูเซียนจูบลงที่ต้นคอพร้อมขยำหน้าอกของฉันผ่านชุดนอน ฉันเสียวซ่านไปทั้งตัว อยากให้เขาสอดมือเข้าสัมผัสร่างฉันโดยตรงมากกว่าในสภาวะครึ่งหลับครึ่งตื่นฉันรู้สึกเหมือนร่างกายยังคงถูกลูบไล้ไปทั่ว เซ็กซ์แบบไม่สอดใส่ในอ่างอาบน้ำทำให้ร่างกายของฉันโหยหาเขามากขึ้นฝ่ามือหนากอบกุม บีบเค้นหน้าอกหนักขึ้น ทำไมเขารุนแรงกับฉันจัง ฉันคิดในใจแล้วครางออกมาเบา ๆ เมื่อเขาเลื่อนมือลงมาที่หน้าท้องและหยุดตรงหว่างขา เคล้นคลึงปุ่มกระสัน“ขนาดหลับ ก็ยังอยากอยู่อีกเหรอ?” เสียงหัวเราะเบา ๆดังขึ้นข้างหูฉันฉันลืมตาขึ้นด้วยความตกใจ“แซค!” ฉันอ้าปากค้างเมื่อเห็นแซคนอนอยู่ข้างๆรอบห้องมืดสนิทเพราะดึกมากแล้ว แสงจันทร์ที่ส่องเข้ามาทางหน้าต่างสะท้อนกับโครงหน้าอันหล่อเหลาและผมสีบลอนด์อ่อนเป็นลอนของแซค“ว่าไงซินเดอเรลล่า เที่ยงคืนแล้ว เจ้าชายมาแล้วนะ” แซคกระซิบเบาๆ ที่หูของฉันก่อนจะกัดเบาๆ บนต้นคอ“เนื้อเรื่องในเทพนิยายไม่ได้เป็นแบบนี้สักหน่อย” ฉันตอบแบบประชดประชัน“พอเป็นเรื่องของเราก็ต้องมีหักมุมนิดหน่อยสิ ก็ดีไม่ใช่เหรอ” แซคยิ้มให้ฉันก่อนจะหยิบผ้าปิดตาที่เตรียมไว้ออกมา"พร้อมยัง?" เขาถามยกยิ้มอย่างคนขี้เล่นเขาไม่รอคำตอบแต
การทักท้วงจบลงทันทีเมื่อแซคจูบฉันต่อหน้าไรเนอร์ ฉันไม่สามารถผลักเขาออกไปได้ การใช้เวลาร่วมกันมาหลายปีทำให้ร่างกายและจิตใจฉันไม่สามารถต้านทานแซคได้ ฉันละลายในอ้อมแขนอันอบอุ่นของเขา ริมฝีปากและลิ้นร้อนๆ ยังคงหยอกเย้าในปาก ฉันเริ่มครางด้วยความพอใจเมื่อมือเขาลูบไล้สะโพกแซคปล่อยฉันในที่สุด ฉันหายใจไม่ออก รู้สึกอายในความอ่อนแอของตัวเองจนไม่กล้าสบตาไรเนอร์ ความผูกพันที่ฉันมีต่อแซคลึกซึ้งเกินกว่าใครจะเข้าใจ ฉันไม่แปลกใจเลยถ้าเรื่องระหว่างเรายังคงเป็นแบบนี้ไปตลอดชีวิต แซคเป็นเหมือนส่วนหนึ่งของฉัน“ฉันคิดถึงเธอมากเลยรู้มั้ย” แซคพูด เขากอดเอวฉันจากด้านหลังด้วยความรัก ชั่วขณะนึงฉันลืมไปว่าไรเนอร์ยังคงยืนดูพวกเราอยู่“ไรเนอร์ ฉัน…” ฉันอยากอธิบาย แม้ว่ายังไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี“เสียใจด้วยนะไรเนอร์ ไม่มีใครดีพอจะมาแทนที่ผมได้ แม้แต่คุณ” แซคพูด ก่อนถอนหายใจเสียงดังใส่ไรเนอร์“คุณแซค…คุณนาตาลีไม่ใช่ของเล่นของคุณ ปล่อยเธอเดี๋ยวนี้…” ไรเนอร์พูดเสียงเข้ม“นาตาลี ไม่ใช่ของเล่น ผมเคยบอกคุณไปแล้วว่านาตาลีคือรักแท้ของผม คุณบอกให้ผมปล่อยเธอ…เรื่องนั้นผมเข้าใจ แต่ถามนาตาลีก่อนว่าเธอเต็มใจปล่อยผมไปมั้ย” แซคพูดอ
ไรเนอร์กับฉันเดินออกจากห้องทันเวลาเพื่อดูการเผชิญหน้าระหว่างพี่น้อง ได้แต่คิดว่านี่เป็นจังหวะเลวร้ายที่สุดเท่าที่เคยมีมา ฉันยืนนิ่งโดยมีไรเนอร์ยืนอยู่ข้างๆ ระหว่างรอให้คำทักทายสั้นๆ นี้จบลง“นาตาลี!” เสียงของแซคเรียกชื่อฉันอย่างร่าเริงขัดจังหวะบรรยากาศตึงเครียด ถ้ามีผู้ชายที่ไม่เคยสนใจสถานการณ์รอบด้าน มักจะเป็นเจ้าชายแซคเสมอ“แซค” ฉันตอบกลับด้วยน้ำเสียงดีใจพร้อมโบกมือให้เขาแซคแต่งตัวราวกับเจ้าชายในชุดเป็นทางการ ส่วนมาดามฟรานเชสก้าเหมือนราชินีแก่ผู้ชั่วร้ายยืนอยู่ข้างๆ ฉันกลืนน้ำลายพลางหลบสายตา ต่างจากแซคที่ไม่เคยกลัวแม่ของตัวเองและรู้วิธีรับมือกับเธอ ฉันรู้สึกตัวเล็กและไร้ค่าเหมือนเม็ดทรายเวลาอยู่ต่อหน้าเธอ“ลูเชียน…เอ็ดเวิร์ด” มาดามฟรานเชสก้าพูดช้าๆ ด้วยน้ำเสียงน่าเกรงขาม ระหว่างทักทายน้องชาย“มาดามฟรานเชสก้า เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่คุณมาร่วมงานแต่งของผม” ลูเซียนตอบอย่างเป็นทางการ ก่อนจะโค้งคำนับเล็กน้อย เนื่องจากมาดามฟรานเชสก้ามีศักดิ์เป็นพี่คนโต ปฏิกิริยาของลูเซียนดูสมเหตุสมผลมาก ฉันรีบโค้งคำนับตามลูเซียน ขณะที่ไรเนอร์โค้งตาม“แฟรงกี้ แฟรงเกนสไตน์! พี่เป็นยังไงบ้าง” เอ็ดเวิร์ดทักทา
“ฉันทำตามที่ครอบครัวและผู้อาวุโสต้องการมาโดยตลอด แลกเปลี่ยนกับการที่พวกเขาจะดูแลให้เธอปลอดภัย วันหนึ่งฉันจะกลายเป็นผู้อาวุโสและฉันจะปกป้องเธอเอง ไม่ว่าคนอื่นจะพูดยังไง ความปลอดภัยของเธอเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ฉันรักเธอ… และจะไม่ยอมสูญเสียเธอไปเหมือนที่ฉันสูญเสียแม่ของเธอ” ลูเซียนพูดอย่างจริงจัง ฉันไม่เคยเห็นลูเซียนเป็นแบบนี้มาก่อนฉันไม่รู้จะตอบยังไง เหตุผลที่ลูเซียนแสดงท่าทีปกป้องและหวงแหนฉันมากเกินไปเป็นเพราะกลัวที่จะสูญเสียฉันไป เขาเชื่อว่าฉันอาจได้รับบาดเจ็บ…หรือแย่กว่านั้น เขาเสียสละมากมายเพื่อแม่และฉัน ทำไม…'ฉันไม่เสียใจเลย ฉันมีสิ่งคุ้มค่าแก่การปกป้อง เธอเห็นมั้ย...เราทั้งคู่มีสิ่งที่อยากจะปกป้องและเป็นคำสัญญาที่เราต้องรักษา’ คำพูดของลูเซียนย้อนกลับมาหาฉันเขาสัญญาอะไรและกับใคร?“ลูเซียน…ฉัน…” ฉันเริ่มพูด; แต่ไม่แน่ใจว่าควรจะพูดอะไรกับเขาในสถานการณ์นี้“เธอต้องอยู่กับฉันต่อไป ตราบใดที่ฉันยังไม่แน่ใจว่าเธอมีความสุขและปลอดภัย ฉันจะไม่ปล่อยเธอไป” ลูเซียนพูดเสียงแข็งจนรับรู้ได้ว่าไม่มีที่ว่างเหลือสำหรับการต่อรองหรือเจรจา“เธอดูสวยมาก…” ลูเซียนพูด ก่อนจูบปอยผมฉันในที่สุดวันแต่งงานก็มา
“มันไม่สำคัญหรอก …ยังไงเธอไม่กลับมาอีกแล้ว” ฉันตอบพร้อมกัดฟันแน่น“ฉันมีเรื่องอยากจะบอกเยอะมากนาตาลี เยอะจนไม่รู้ว่าจะเริ่มจากตรงไหนหรือจะบอกอะไรกับเธอก่อนดี เพราะเธอเจ็บปวดมามากพอแล้ว…” ลูเซียนสารภาพตามจริง ขณะมองไปทางทะเลอันมืดมิด"คุณหมายความว่ายังไง…?" ฉันถาม.ลูเซียนนั่งนิ่งคิดว่าจะเล่าให้ฉันฟังอย่างไรดี ในขณะที่ฉันแทบบ้าตาย“ลูเซียน…ได้โปรด…” ฉันอ้อนวอน พร้อมกับจับมือเขามาบีบ“มันจะทำร้ายเธอ…มากกว่าที่ทำร้ายฉันตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา” ลูเซียนพูด เขามองกลับมาที่ฉัน“ฉันพร้อมแล้ว…ช่วยบอกฉันที” ฉันพูดอย่างหนักแน่น"บางทีเธออาจจะเข้มแข็งพอแล้ว นาตาลี แม่ของเธอ…ถูกฆ่าตาย” ลูเซียนพูดด้วยน้ำเสียงเจ็บปวดแม่ของฉัน…ถูกฆ่าตาย?!เป็นไปไม่ได้ ฉันคิดระหว่างที่น้ำตาไหลอาบหน้า...“เป็นไปไม่ได้!” ฉันกรีดร้องพร้อมลุกขึ้นจากที่นั่ง“เสียใจด้วยที่ต้องบอกว่ามันเป็นเรื่องจริง… ฉันก็รู้สึกแบบเดียวกับเธอตอนรู้เรื่องนี้” ลูเซียนตอบเบาๆ เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่“ฉันอ่านข่าวการเสียชีวิตของแม่ฉันตั้งเยอะ มันเป็นข่าวใหญ่มากในตอนนั้น...แต่ไม่มีการพูดถึงการฆาตกรรมเลย ไม่จริง ฉันไม่เชื่อ” ฉันพูดจำได้ว่าฉันตั
อาหารค่ำถูกเสิร์ฟตรงระเบียงกลางแจ้ง ดินเนอร์ใต้แสงเทียนริมทะเลที่มีลมพัดปะทะใบหน้าและเส้นผม บรรยากาศโรแมนติกไม่ใช่เหตุผลเดียวที่ทำให้ฉันนึกถึงคืนบนหอดูดาวที่เอ็ดเวิร์ดบอกความจริงเรื่องที่เขาเป็นคนช่วยฉันในป่าเมื่อหลายปีก่อน ฉันรู้สึกว่าคืนนี้ฉันอาจจะได้รู้ความจริงที่ซ่อนอยู่ซึ่งจะเปลี่ยนชีวิตฉันอีกครั้งบรรยากาศคล้ายกับมื้อค่ำที่ฉันทานกับเอ็ดเวิร์ดในครั้งนั้น รสชาติอาหารเหมือนทรายแห้งๆ บนลิ้น โชคดีที่ลูเซียนไม่อ้อมค้อม หลังจากที่สาวใช้ปล่อยให้เราอยู่ตามลำพัง ลูเซียนก็เริ่มพูดทันที“เล่าให้ฉันฟังหน่อยว่าก่อนที่ฉันจะเจอเธอกับแม่ ชีวิตเธอเป็นยังไงบ้าง…” ลูเซียนถามอย่างลังเล“ทำไมคุณถึงถามเรื่องนี้ล่ะ?ฉันคิดว่าแม่น่าจะเล่าให้คุณฟังหมดแล้ว” ฉันตอบ มันไม่ปกติที่เขาจะพูดเรื่องนี้ ถามเกี่ยวกับวัยเด็กของฉันให้ได้อะไร?“ใช่ แม่เธอเล่าแล้ว แต่ฉันอยากฟังจากปากเธอมากกว่า” ลูเซียนตอบหนักแน่น“คุณต้องการรู้อะไร…เป็นพิเศษ?” ฉันถามเขากลับ“สภาพความเป็นอยู่ของเธอสองคนเป็นยังไง?แม่ของเธอทำงานรึเปล่า เธอไปโรงเรียนแบบไหน เรื่องทั่วๆ ไป อะไรก็ได้ที่เธอนึกออก” ลูเซียนตอบ“ฉันไม่รู้ว่าทำไมคุณถึงถามฉันเรื่องน
เรามาถึงบ้านพักริมทะเลซึ่งตั้งอยู่บนชายหาดส่วนตัวที่ลูเซียนเป็นเจ้าของ เราเรียกมันว่าบ้านพักแต่สุดท้ายแล้วมันก็คือคฤหาสน์ขนาดใหญ่อีกหลังหนึ่ง ไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้เลย ถ้าลูเซียนไม่มีทายาท ฉันคงได้รับมรดกทั้งหมดของเขารวมถึงชายหาดส่วนตัวนี้ด้วยฉันนั่งอยู่บนผืนทรายในชุดบิกินี่สีแดง แหงนหน้ามองท้องฟ้าสีฟ้าสดใสพร้อมหรี่ตาลง ฉันควรจะสนุกกับการเดินทางครั้งนี้ แต่สิ่งเดียวที่คิดคือจะเริ่มคุยกับลูเชียนยังไงดี ทันใดนั้นทรายใต้ตัวฉันขยับระหว่างที่ลูเซียนนั่งลงข้างๆ ฉัน เรานั่งข้างกันโดยไม่พูดอะไร ยังคงมองออกไปยังทะเลด้านหน้า“ตื่นเต้นกับงานแต่งงานมั้ยคะ” ฉันล้อเล่น นึกไม่ออกว่าจะชวนคุยเรื่องอะไรดี“ใช่…แต่ด้วยเหตุผลอื่นที่เธอเดาไม่ถูก” ลูเซียนตอบพร้อมกับโอบหลังฉันและขยิบตาให้ ฉันหัวเราะเล็กน้อยเป็นคำตอบขณะเอนศีรษะซบไหล่เขา“ฉันไม่เดาดีกว่า…” ฉันตอบ ระหว่างถอนหายใจออกมาเรากลับไปมองดูทิวทัศน์รอบตัวอย่างเงียบๆ หวังว่าจะไม่ถูกแดดเผา มันคงเป็นเรื่องตลกถ้าเจ้าบ่าวผิวลอกในงานแต่งงาน“เธอคิดถึงอนาคตของเธอบ้างหรือยัง” ลูเซียนถาม สายตาเขายังคงจับจ้องที่ขอบฟ้าไกลทำไมเขาถึงถามเรื่องนี้?ไม่ใช่ว่าฉันไม่ได้
“อาร์…ฉัน…หยุดไม่ได้……ฉันเสร็จอีกแล้ว!” ฉันร้องออกมาเมื่อร่างกายสูญเสียการควบคุมอีกครั้ง มันรุนแรงมากจนทำให้ฉันกลัว ร่างกายสั่นสะท้าน ฉันเริ่มร้องสะอื้นอย่างเงียบๆ ระหว่างซุกหน้าลงบนผ้าห่ม“ผมใกล้เสร็จแล้วเหมือนกัน…ผมเสร็จแล้ว…นาตาลี!” ไรเนอร์ร้องครางราวกับสัตว์ป่า มันทำให้ฉันรู้สึกมีความสุขมาก หัวมังกรขนาดใหญ่กระตุกรุนแรงก่อนที่น้ำกามร้อนพุ่งลึกเข้าไปในโพรงสวาท รู้สึกร้อนรุ่มภายในขณะที่น้ำรักอุ่นๆ ล้นทะลักออกมาเต็มมดลูก เขาดันแท่งร้อนดันเข้าออกเล็กน้อยทำให้น้ำกามกระฉูดในตัวฉันมากขึ้น มันรู้สึกมหัศจรรย์มากแต่เหมือนร่างกายฉันถูกใช้จนเกินขีดจำกัด“คุณยังโอเคอยู่มั้ย” ไรเนอร์กระซิบ เขาจ้องมองใบหน้าที่อ่อนล้าและร่างกายที่ไร้เรี่ยวแรง แทบจะตั้งสติไม่อยู่ ฉันคงดูเหมือนตายไปแล้วเพราะตัวเองก็รู้สึกอย่างนั้นจริงๆ“คุณคิดว่า…เป็นความผิดของใคร……?” ฉันพูดเบาๆ ระหว่างพยายามหายใจ“อย่าโทษผมเลย...คุณเป็นคนขอเองไม่ใช่เหรอ อย่าบอกนะว่าจำไม่ได้…” ไรเนอร์ตอบพร้อมหัวเราะเบาๆ พร้อมกับค่อยๆ ถอนท่อนร้อนออกจากช่องรักที่เปียกท่วมน้ำรักของเราไหลออกมาทันที เตียงของไรเนอร์ต้องเปรอะไปหมดแน่ แต่ฉันไม่มีเวลามากังว
“โอบขาคุณรอบสะโพกผม” ไรเนอร์สั่ง สมองฉันแทบจะไม่ทำงานในช่วงเวลานี้ ต้องใช้เวลาสักครู่เพื่อทำตามคำสั่งเขาอย่างช้าๆหลังจากโอบแขนรอบคอเขา ไรเนอร์ก็ค่อยๆ ยืนขึ้น มันน่าทึ่งมากที่เขาสามารถยกตัวฉันขึ้นมาได้ การที่ตัวเขาใหญ่กว่าฉันมากมันมีข้อดีอย่างนี้นี่เอง“ไม่ต้องห่วง ผมจะกอดคุณไว้…ผมไม่ปล่อยให้คุณหล่นแน” ไรเนอร์ยืนยัน มือขนาดใหญ่โอบประคองบั้นท้ายฉันไว้อยากจะบอกเขาว่าฉันไม่กลัวว่าจะตก แต่ฉันกลัวว่าช่องรักถูกฉีกออกจากกันเพราะความสุขที่เขากำลังมอบให้ฉัน รู้สึกได้ถึงท่อนร้อนที่แข็งเป็นหินของไรเนอร์ฝังลึกอยู่ในตัวฉัน ฉันหลั่งมาหลายครั้งแล้วแต่เขายังไม่ถึงจุดสุดยอดเลยแม้แต่ครั้งเดียว ผู้ชายคนนี้อึดเหลือเกิน…ฉันได้แต่พยักหน้ารับอย่างเงียบๆ พร้อมยิ้มให้เขาไรเนอร์ยิ้มกลับด้วยดวงตาสีฟ้าที่อ่อนโยนมาก ก่อนเขาจะดึงเจ้ามังกรยักษ์ออกจากโพรงสวาทแล้วดันมันกลับเข้าไปข้างในอีกครั้ง เขาทำอย่างนั้นครั้งแล้วครั้งเล่าระหว่างที่จับสะโพกฉันไว้ในมือ ฉันไม่สามารถทำอะไรได้เลยแม้กระทั่งเคลื่อนไหวสะโพกหรือร่างกาย สิ่งที่ฉันทำได้คือสนุกไปกับมันและตะโกนเรียกชื่อเขาอย่างบ้าคลั่งระหว่างที่เขากระแทกโพรงสวาทอย่างแรงไม่
"คุณโอเคมั้ย?" ไรเนอร์ถามพร้อมกับจูบที่หน้าผากฉัน“ค่ะ…คุณอยู่ลึกมากข้างใน…” ฉันตอบพร้อมกับพยักหน้าช้าๆ ไม่สามารถหยุดตัวเองจากการสำลักความสุขตอนนี้ความเป็นลูกผู้ชายของเขายืดและเติมเต็มฉันอย่างที่สุด มันรู้สึกดีมาก ร่างทั้งร่างสั่นจนควบคุมไม่ได้ ฉันร้องครางออกมาเหมือนคนโดนผีสิง“คุณเพิ่งหลั่งตอนผมใส่มันเข้าไปรึเปล่า” ไรเนอร์ถามพร้อมกับหัวเราะออกมาร่างกายสั่นไม่หยุดระหว่างที่สะโพกยังอยู่ใต้ตัวเขา ช่องรักบีบรัดรอบแท่งร้อนอย่างบ้าคลั่ง ฉันเพิ่งหลั่งอย่างที่เขาพูดจริงๆ เพียงแค่เขาดันเข้ามาในตัวฉันอย่างนั้นเหรอ?ความคิดนี้ทำให้ฉันกลัวเพราะเราเพิ่งจะเริ่มกันเอง“…ผมจะขยับต่อแล้วนะ” ไรเนอร์พูดด้วยรอยยิ้มอ่อนโยนขณะดึงสะโพกกลับไรเนอร์ดันหัวเห็ดขนาดใหญ่เข้ามาในตัวฉันอย่างช้าๆ ฉันใช้หลังมือปิดปากยับยั้งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดผสมกับความสุข มันเจ็บแต่ก็เริ่มรู้สึกดีในเวลาเดียวกัน ไม่สามารถหยุดผนังช่องรักบีบรัดท่อนเอ็นเนื้อของเขาได้“พยายามผ่อนคลาย นาตาลี ช่องรักคุณบีบผมแน่นมาก… จนมันขยับยาก…” ไรเนอร์กระซิบ เขาจับต้นขาฉันแยกออกจากกันให้กว้างขึ้นกว่าเดิมฉันหายใจเข้าลึกๆ สองสามครั้ง พยายามผ่อนคลาย