ข้ามกาลเวลาไปสู่ครอบครัวตกยากในยุคโบราณ ครอบครัวทั้งยากจนและอดอยาก แค่เริ่มต้นหวังหยวนก็ทำครอบครัวล่มจมซะแล้ว! น้ำตาลทรายแดงผสมโคลน น้ำมันหมูผสมน้ำปูนใส การสกัดเกลือจากบ่อ การกลั่นเหล้าให้บริสุทธิ์ การเผาหางวัว และเห็นขอทานก็ให้เงินได้… วิธีแปลกประหลาดมากมายจากคนเสเพล ทำให้ทั้งราชวงศ์ เหล่าตระกูลที่มีอำนาจ ตระกูลชนชั้นสูง และผู้ดีชั้นสูงไม่สามารถทนอยู่เฉยได้ เพราะทุกย่างก้าวของคนเสเพลอย่างหวังหยวนนั้น แม้ว่าครอบครัวจะล่มจม แต่ก็ดันรวยขึ้นเรื่อย ๆ ไม่เพียงแต่รวยที่สุดในใต้หล้าเท่านั้น แต่ทั้งโลกยังต้องมาสยบให้กับเขา คุณชายเสเพลแห่งตระกูลตกอับเช่นนี้!
View Moreในเมื่อสวรรค์มอบเส้นทางใหม่ให้ เขาย่อมต้องใช้ชีวิตให้คุ้มค่าเพื่อตอบแทนบุญคุณของสวรรค์!“เช่นนั้นเอง...”“พี่ใหญ่ก็เป็นแค่คนธรรมดาเช่นกัน”ไฉจวิ้นหัวเราะ แล้วรีบเดินตามหวังหยวนไป ทุกคนมุ่งหน้าออกจากเมืองหลวงในวัดร้างแห่งหนึ่ง ห่างจากเมืองหลวงไปห้าสิบลี้หลังจากหวังหยวนและพรรคพวกหนีออกมาได้ เขาก็ส่งจดหมายถึงเกาเล่อให้นัดพบกันที่นี่เมืองหลวงของต้าเย่กลายเป็นสถานที่อันตราย ตอนนี้การรีบออกจากที่นี่คือทางออกที่ดีที่สุดภายในวัดร้าง ทุกคนต่างมารวมตัวกันสมาชิกขององค์กรเครือข่ายผีเสื้อกระจายกำลังกันไป บางส่วนอยู่ในเมืองหลวง บางส่วนอยู่รอบกายหวังหยวน แต่ซ่อนตัวอยู่ คอยสอดส่องสถานการณ์!เพื่อป้องกันการโจมตีกะทันหันของซือฟางตอนนี้พวกหวังหยวนไม่มีอะไรที่จะคุกคามซือฟางได้ อีกอย่างคือพวกเขายังพาไป๋อวิ๋นเฟยมาด้วย นั่นเป็นเหมือนระเบิดเวลาการดำรงอยู่ของไป๋อวิ๋นเฟยทำให้ซือฟางและเจี๋ยงโฉ่วอีรู้สึกหวาดระแวงดังนั้นช่วงนี้คงจะไม่สงบสุขเสียแล้ว...“ท่านผู้นำ ต่อไปพวกเราจะทำอย่างไรดีขอรับ?”“จะกลับไปเมืองหลิงหรือจะอยู่ที่นี่เพื่อต่อกรกับซือฟางต่อ?”เกาเล่อเอ่ยถามไป๋อวิ๋นเฟยและไป๋ลั่วห
ทุกคนกำลังรอคอยจังหวะที่จะหลบหนี!หวังหยวนรอให้ซือฟางยอมหลีกทาง ส่วนซือฟางก็กำลังคิดว่าจะปล่อยหวังหยวนไปหรือไม่!“ถึงแม้จะเป็นเช่นนั้น แต่พวกเราก็คุกคามชีวิตหวังหยวน”“หมาจนตรอกยังกัด หวังหยวนจะยอมง่าย ๆ เชียวหรือ?”เจี๋ยงโฉ่วอีเดินไปข้างซือฟาง แล้วกระซิบว่า “ข้าเคยได้ยินว่าหวังหยวนเป็นคนรอบคอบ หากไม่มั่นใจ มันคงไม่กล้าเสี่ยง”“ตอนที่สู้กับพวกต้าเป่ยก็เห็นได้ชัดว่าหวังหยวนเป็นคนเช่นนี้จริง”“ด้วยเหตุนี้ ขุนพลใหญ่หานเทาของต้าเป่ยจึงหวาดกลัวหวังหยวน”“ดังนั้น ข้าคิดว่าพวกเราควรหลีกทางให้มันก่อนดีหรือไม่?”“ปล่อยหวังหยวนไปก็เท่ากับปล่อยพวกเราเองด้วย!”“พวกเรามีอำนาจทางการทหารของต้าเย่อยู่ในการควบคุม อนาคตสดใสรออยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องเสี่ยงเพราะหวังหยวนแค่คนเดียว!”เจี๋ยงโฉ่วอีพยายามเกลี้ยกล่อมซือฟางแม้หวังหยวนจะเป็นคนรอบคอบ แล้วเจี๋ยงโฉ่วอีจะไม่รอบคอบได้อย่างไร?อีกอย่าง เจี๋ยงโฉ่วอีเข้าใจหลักการที่ว่าตราบใดที่ขุนเขาเขียวขจียังอยู่ อย่าได้กลัวไม่มีฟืนตราบใดที่ยังมีชีวิต ต่อให้พ่ายแพ้ก็ยังมีโอกาสแก้ตัว!เมื่อเจี๋ยงโฉ่วอีพูดเช่นนี้ ซือฟางจึงยอมปล่อยมือจากดาบ เดินไปด้านข้างด้ว
หากเป็นเช่นนั้น ต่อให้เขาขึ้นแทนที่ไป๋หมิงได้ย่อมจะถูกประชาชนติฉินนินทา!ช่างเป็นเรื่องยุ่งยาก!“หวังหยวน! เจ้าแค่บอกว่าอยากพบองค์ชาย ตอนนี้เจ้าได้พบแล้ว ข้าจะปล่อยให้เจ้าพาองค์ชายไปได้อย่างไร?”“องค์ชายเป็นถึงองค์ชายของต้าเย่! ตอนนี้บ้านเมืองกำลังวุ่นวาย ข้าจะปล่อยให้เจ้าพาองค์ชายไปไม่ได้! ต่อให้ต้องสละชีวิต ข้าก็จะขัดขวาง!”ซือฟางก้าวออกมา มือแตะที่ดาบข้างเอว เห็นได้ชัดว่าพร้อมจะลงมือได้ทุกเมื่อ!แม้หวังหยวนจะมีสัญญาณระเบิด แต่หากลงมือฆ่าหวังหยวนก่อนที่เขาจะจุดสัญญาณ แล้วให้คนไปค้นทั่วเมืองก็จะสามารถแก้ไขสถานการณ์ได้!แม้จะอันตราย แต่เพื่อความมั่งคั่งย่อมต้องยอมเสี่ยง!“ดูเหมือนว่าเจ้าจะไม่เห็นโลงศพ ไม่หลั่งน้ำตา!”หวังหยวนส่ายหน้าก่อนยิ้มเยาะ ล้วงมือเข้าไปในอกหยิบสัญญาณระเบิดอีกอันออกมาแกว่งไปมาต่อหน้าซือฟางเขามองสายตาของซือฟางก็เดาความคิดได้แล้ว จึงกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “หากข้าเดาไม่ผิด ตอนนี้เจ้าคงอยากแย่งสัญญาณระเบิดจากข้าใช่หรือไม่?”“ข้ายกสัญญาณทั้งหมดให้เจ้าก็ได้!”“หากภายในครึ่งชั่วยาม ข้าไม่ได้พบกับคนของข้า พวกเขาก็จะจุดระเบิดทั้งหมดอยู่ดี!”“สุดท้ายผลลัพธ์ไม่
ณ ที่แห่งหนึ่งในเมืองหลวงเกาเล่อและไป๋ลั่วหลียืนอยู่ด้วยกัน สายตาจับจ้องไปยังวังหลวงเมื่อครู่หลังจากได้รับสัญญาณ พวกเขาก็จุดระเบิดที่อยู่ใกล้เคียง แต่ไม่ได้สร้างความเสียหายมากนักหากไม่จำเป็น เกาเล่อจะไม่จุดระเบิดทั้งหมด เพราะจะทำให้มีผู้บาดเจ็บล้มตายจำนวนมากหวังหยวนแค่ลองเสี่ยง หากต้องสู้ตายค่อยจุดระเบิดทั้งหมดก็ไม่สาย!“ท่านเกา ท่านว่าซือฟางจะยอมปล่อยตัวองค์ชายหรือไม่?”ไป๋ลั่วหลีร้อนใจเหมือนมดบนกระทะร้อน เดินไปเดินมาไม่หยุด นางแทบจะอดทนไม่ไหวหากหวังหยวนไม่กลัวว่านางจะควบคุมอารมณ์ไม่อยู่คงพานางไปด้วยแล้วแต่ตอนนี้ทุกอย่างต้องขึ้นอยู่กับหวังหยวน นางไม่อาจทำตามใจตัวเอง ไม่เช่นนั้นจะทำลายแผนการของหวังหยวน“ตอนนี้ข้าก็ยังไม่รู้”“แต่ซือฟางและเจี๋ยงโฉ่วอีต่างก็รักษาหน้าตา ต่อให้พวกเขาคิดว่าท่านผู้นำโกหก ทหารพวกนั้นก็คงไม่กล้าทำอะไรท่านผู้นำ”“รอดูกันเถิด สถานการณ์ที่อันตรายกว่านี้ ข้ากับท่านผู้นำก็เคยผ่านมาแล้ว”เกาเล่ออดเป็นห่วงหวังหยวนไม่ได้ แต่ไม่อาจแสดงท่าทีใด ๆ เพราะต้องทำตัวให้เป็นคนเข้มแข็งเขาและหวังหยวนคือที่พึ่งของทุกคน ในเวลาแบบนี้ต้องห้ามหวั่นไหว จึงจะควบคุมสถ
“รีบทำตามที่สามีข้าบอก!”“รีบพาองค์ชายใหญ่ออกมาพบพวกข้า ไม่เช่นนั้นอย่าหาว่าสามีข้าใจร้ายเพราะจุดพลุสัญญาณอีกครั้ง ข้าเตือนแล้วนะ ทั้งอาณาจักรจะหายไปในพริบตา!”“ไม่เพียงแต่พวกเจ้าจะตาย แม้แต่วังที่หรูหราแห่งนี้ก็จะพังทลายลงด้วย! นี่คืออานุภาพของดินปืน!”หลิ่วหรูเยียนตวาดหวังหยวนเคยใช้ปืนใหญ่ในสนามรบ อีกอย่างคือเขามีปืนคาบศิลา ทุกคนต่างก็รู้ถึงอานุภาพของดินปืน ใครบ้างจะกล้าต่อกรกับหวังหยวน?เหล่าทหารหยุดชะงัก ไม่มีใครกล้าก้าวเข้าไปพวกเขาล้วนกล้าหาญ แต่ก็มีครอบครัว พ่อแม่ ลูกเมีย บางคนก็อยู่ในเมืองหลวง!หากหวังหยวนพูดจริง แล้วพวกเขาลงมือ ครอบครัวของพวกเขาย่อมจะเดือดร้อน เมื่อถึงตอนนั้นคงสายเกินแก้!เมื่อเห็นทหารลังเล ซือฟางถึงกับโกรธจนกัดฟันกรอด เขาชี้ไปที่พวกทหารแล้วกล่าวว่า “พวกเจ้าเชื่อคำพูดของเขาหรือ?”“พวกเจ้าช่างโง่เขลา!”“พวกเจ้าไม่คิดบ้างหรือหากหวังหยวนจะระเบิดวังหลวงจริง เขาต้องใช้คนเตรียมการเยอะแค่ไหน?”“อย่าว่าแต่ไม่มีกำลังพลมากพอเลย ต่อให้มีก็ต้องใช้เวลาเตรียมการเป็นครึ่งเดือนจึงจะเสร็จสมบูรณ์!”“ข้าไม่รู้ว่าหวังหยวนกลับมาเมืองหลวงตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ที่แน่ ๆ คื
“ก่อนหน้านี้ที่ข้าไม่ลงมือกับเจ้า เพราะเห็นแก่ฐานะของเจ้า!”“ฮ่องเต้องค์ใหม่ของพวกเราเพิ่งขึ้นครองราชย์ ข้าเป็นถึงขุนพลใหญ่ ย่อมไม่อยากทำสงคราม แต่เจ้ากลับเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องของพวกข้าหลายครั้งหลายครา อีกอย่างตอนนี้บ้านเมืองสงบสุข เจ้าคิดว่าข้าจะทนเจ้าได้หรือ?”“หวังหยวน! วันนี้เจ้าคิดผิดแล้ว ข้าจะไม่ปล่อยเจ้าไปแน่นอน!”“ต่อให้คนของเจ้ามา พวกข้าก็จะสู้ ข้าอยากรู้ว่าเจ้ามีกำลังพลมากกว่าหรือข้าคุมทัพเก่งกว่า!”ซือฟางกล่าวอย่างเย็นชา ดวงตาเต็มไปด้วยจิตสังหาร เขารอวันนี้มานาน ก่อนหน้านี้ส่งจางเหวินเชาไปจัดการหวังหยวน แต่ก็ล้มเหลว ดูเหมือนว่าต้องลงมือเองเสียแล้ว!“ก่อนจะลงมือ ข้าขอถามหน่อย เจ้าส่งจางเหวินเชามาใช่หรือไม่?” หวังหยวนเอ่ยถาม“ใช่! เจ้าเดาถูก! ข้าส่งจางเหวินเชาไปฆ่าเจ้า!”ซือฟางพูดจบ เจี๋ยงโฉ่วอีก็เดินเข้ามาโบกมือก่อนกล่าวว่า “เหล่าทหาร อย่าเข้าใจผิด ที่ท่านขุนพลใหญ่เกลียดชังหวังหยวนก็เพราะหวังดีกับพวกเรา!”“หวังหยวนมีแผนการชั่วร้าย เขาต้องการใช้กำลังของชนเผ่าทางเหนือมาสู้รบกับต้าเย่! แล้วเขาก็จะฉวยโอกาสจากความวุ่นวายยึดครองแผ่นดินของพวกเรา โดยที่ฝ่ายตนเองไม่เสียเลื
“ไม่เช่นนั้นจะให้เข้าไปอย่างไรเล่า?”“เจ้าคิดว่าพวกเราเป็นโจรหรือ?”“ครั้งนี้ข้าจะพาไป๋อวิ๋นเฟยออกมาด้วยการเดินเข้าประตูหน้าไปเลย!”“ข้าไม่เชื่อหรอกว่าพวกเขาจะกล้าทำอะไรข้า?”หวังหยวนกล่าวอย่างมั่นใจหลิ่วหรูเยียนและไฉจวิ้นมองหน้ากัน เดาใจหวังหยวนไม่ออก ได้แต่ติดตามเขาไปไม่นานทั้งสามก็มาถึงหน้าประตูวังหลวง ทหารองครักษ์ถือหอกยาวขวางทางพวกเขาไว้หนึ่งในนั้นกล่าวอย่างไม่ใส่ใจ “เขตพระราชฐาน รีบไสหัวไป!”“พวกเจ้าเป็นคนของซือฟางหรือ?”หวังหยวนไม่สนใจท่าทางของอีกฝ่าย แต่กลับถามด้วยรอยยิ้มเมื่อได้ยินหวังหยวนพูดชื่อซือฟาง ท่าทีของทหารองครักษ์ก็เปลี่ยนไป พวกเขาคิดว่าหวังหยวนเป็นสหายของซือฟางเพราะมีไม่กี่คนที่กล้าเรียกชื่อซือฟาง!“ไม่ทราบว่าท่านคือใคร?”“ท่านมีความสัมพันธ์เช่นไรกับท่านขุนพลใหญ่?”ทหารองครักษ์คนหนึ่งรีบถามหวังหยวนกล่าวอย่างใจเย็น “หากเขารู้ว่าข้ามาที่นี่ คงวิ่งหน้าตาตื่นมาพบข้าแล้วกระมัง?”“เจ้าไปแจ้งเขาว่าข้าชื่อหวังหยวน อยากพบเขา”ชื่อเสียงขจรขจายไปไกล แม้แต่ทหารองครักษ์หน้าวังหลวงก็เคยได้ยินชื่อหวังหยวน!ทันใดนั้น เหล่าทหารองครักษ์ต่างกรูกันเข้ามาล้อมหวังห
“ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว เลือกคืนนี้เลยก็แล้วกัน”หวังหยวนกล่าวด้วยรอยยิ้ม จากนั้นยกถ้วยน้ำชาขึ้นมองไปยังท้องฟ้าคืนนี้คงเป็นคืนที่นอนไม่หลับอีกด้านหนึ่ง ไป๋ลั่วหลีควบม้าอย่างรวดเร็ว มุ่งหน้าไปยังค่ายทหาร!เวลาคือทุกสิ่ง นางต้องรีบหาคนมาช่วยเหลือไป๋อวิ๋นเฟยให้เร็วที่สุด!ด้วยวิธีนี้เท่านั้น ต้าเย่จึงจะกลับคืนสู่ความสงบสุขได้อีกครั้ง!และยังใช้โอกาสนี้กำจัดซือฟางและเจี๋ยงโฉ่วอีได้ด้วย!...ค่ำคืนมาเยือน หวังหยวนเปลี่ยนเป็นชุดใหม่ มุ่งหน้าไปยังประตูวังหลวงเพียงลำพังด้วยคำขอร้องของหลิ่วหรูเยียนและไฉจวิ้น หวังหยวนจึงจำใจพาทั้งสองไปด้วย แต่ในใจก็รู้สึกซาบซึ้งแม้จะเตรียมการไว้พร้อมแล้ว แต่คนฉลาดก็อาจพลาดพลั้งได้ หากเกิดความผิดพลาด พวกเขาทั้งสามคงต้องติดอยู่ในต้าเย่ตลอดไป...ทั้งสองรู้เรื่องนี้ดี แต่ยังยืนหยัดที่จะติดตามเขา มิตรภาพเช่นนี้ยิ่งใหญ่กว่าสิ่งใด!“พวกเจ้าตัดสินใจแล้วหรือ?”เมื่อใกล้จะถึงประตูวัง หวังหยวนถามขึ้น“เหตุใดท่านจึงลังเล?”“ท่านอย่าบอกนะว่าจะเปลี่ยนใจ?”“ข้าบอกไว้ก่อน! หากท่านไม่พาข้าไปด้วย ข้าจะวิ่งชนกำแพงตายตรงนี้แหละ!”“ข้าเกิดมายังไม่เคยเข้าวังหลวง วันน
“เรื่องในต้าเย่วุ่นวายราวกับน้ำโคลนขุ่น ใครเข้าไปก็มีแต่จะเดือดร้อน ไม่เพียงแต่ไม่มีทางทำให้น้ำใสเท่านั้น แต่ยังอาจทำให้ตัวเองแปดเปื้อนไปด้วย...”“ไม่ใช่ว่าท่านเห็นแม่นางไป๋หน้าตาสะสวย จึงอยากช่วยนางให้ช่วยไป๋อวิ๋นเฟยได้ใช่หรือไม่?”หลิ่วหรูเยียนมองหวังหยวนด้วยความแปลกใจ ใบหน้าเต็มไปด้วยความสงสัยหวังหยวนหัวเราะ แล้วกล่าวว่า “เหตุใดเจ้าคิดมากนัก? ข้าเป็นคนเห็นแก่ผู้หญิงหรือ?”“ที่ข้าทำเช่นนี้ย่อมมีเหตุผล!”“เจ้าไม่คิดบ้างหรือ หากซือฟางและเจี๋ยงโฉ่วอีทำให้ไป๋หมิงเป็นหุ่นเชิด เรื่องในต้าเย่ก็จะขึ้นอยู่กับพวกเขา ข้ากับพวกเขาเป็นศัตรูกัน หากพวกเขามีอำนาจขึ้นมา เจ้าว่าพวกเขาจะเล่นงานใครก่อน?”หลิ่วหรูเยียนเข้าใจในทันทีดูเหมือนว่านางจะคิดเล็กคิดน้อยเกินไป...ต้าเย่และเมืองหลิงที่หวังหยวนปกครองต่างก็อยู่ในดินแดนทั้งเก้า หากเกิดสงคราม ถึงแม้หวังหยวนจะใช้ปืนใหญ่จนชนะศึก แต่ก็ต้องเกิดความสูญเสียมากมาย!ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่หวังหยวนต้องการอีกอย่างคือต้าเป่ยก็ยังจ้องจะโจมตี หากพวกเขาฉวยโอกาสในเวลานั้น หวังหยวนก็จะตกอยู่ในวงล้อมของทั้งสองฝ่ายอย่างแน่นอน!ผลที่ตามมาคงจะเลวร้าย!“การเป็นศัต
“ไม่อร่อยเลยสักนิด”เมื่อได้เคี้ยวข้าวสาลีผสมถั่ว หวังหยวนวางชามดินเผาลง รู้สึกเหมือนกินแกลบไม่มีผิด ตอนนี้ใครมาบอกว่าการข้ามกาลเวลามันดี เขาก็พร้อมที่จะบอกความในใจให้พวกเขา ข้ามกาลเวลามาถึงช่วงราชวงศ์ต้าเย่ คล้ายช่วงยุคสมัยโบราณของจีน เจ้าของร่างเดิมเป็นเป็นเจ้าของที่ดินเล็ก ๆ ตอนที่พ่อแม่ยังอยู่ ตอนเช้าได้กินข้าวต้มข้าวฟ่าง เที่ยงได้กินข้าวผสมข้าวฟ่าง ตอนเย็นได้กินเซาปิ่งพร้อมธัญพืชผสม ทุก ๆ สิบวันหลังจากกลับมาจากโรงเรียนในเมือง ถึงจะได้กลับมากินให้หายอยากได้สำหรับคนทั่วไป แต่ละวันกินข้าวต้มข้าวฟ่าง หรือข้าวสาลีผสมถั่ว ส่วนเนื้อนั้นในช่วงปกติอย่าไปคิดถึงมันเลย คงมีแค่ช่วงฉลองตรุษจีนเท่านั้นถึงจะได้กินเนื้อบ้าง ส่วนแป้งและข้าวสารนั้นเป็นที่นิยมของเจ้าของที่ดิน คหบดีและขุนนาง นึกถึงพวกไข่ เนื้อหมู ไก่ ปลา บนโลกที่ถูกทิ้ง หวังหยวนอดที่จะตีตัวเองไม่ได้ น้ำเสียงที่ฟังดูขลาดกลัวของคน ๆ หนึ่งดังขึ้น “ท่านพี่ ขอโทษนะ ในบ้านไม่มีข้าวฟ่างแล้ว ให้ท่านที่เป็นบัณฑิตเพิ่งหายป่วยกินข้าวสาลีผสมถั่วเช่นนี้?” แววตาของหวังหยวนมีประกายขึ้นมา สาวน้อยคนสวยที่ท่าทางขี้ขลาดยืนอยู่หน้าห้องโ...
Comments