Share

บทที่ 3

Author: ชวินเป่ยอี๋
last update Last Updated: 2023-04-28 11:14:52
งานที่เหลือใช้แรงออกน้อยกว่ามาก แค่ล้างรากหญ้าแล้วบดในครกหิน

หลังจากทำงานยุ่งมานาน หวังหยวนรู้สึกเหนื่อยมากจนปวดหลังไปหมด เขาจึงเอารากหญ้าที่ตำใส่ถังน้ำ

จึงค่อย ๆ เดินทอดน่องไปที่ริมแม่น้ำ

หวังหยวนเห็นพวกปลาแหวกว่ายอยู่ใต้น้ำ เขาจึงโรยแป้งหมี่ถั่วเหลืองและน้ำลงไป

ด้วยเหยื่อที่วางลงไป จำนวนปลาที่รุมเข้ามามากขึ้นเรื่อย ๆ หวังหยวนค่อย ๆ เทของเหลวที่ได้จากการตำรากหญ้าลงไปอย่างระมัดระวัง

เมื่อน้ำที่ได้จากการตำรากหญ้านั้นกระจายตัว ปลาที่ค่อย ๆ ลอยหงายท้องขึ้นมาจากน้ำ

หนึ่งตัว!

สองตัว!

...

หลังจากนั้นสักพัก หวังหยวนก็จับปลาตัวใหญ่ได้แปดตัว และตัวเล็กอีกสิบห้าตัว

ปลาตัวใหญ่หนักประมาณสองกิโลครึ่ง ตัวเล็กหนักประมาณสองร้อยห้าสิบกรัม ปลาที่เล็กกว่านี้ก็ปล่อยมันไป

เมื่อพระอาทิตย์ตกดิน หวังหยวนก็กลับบ้านด้วยของที่เต็มตะกร้า

ผ่านกระท่อมมุงหลังคาจากสี่หลัง คอกวัวและลานเล็ก ๆ ที่ล้อมรั้วทางด้านตะวันออกของหมู่บ้าน

“ลุงหานซาน!”

หวังหยวนตะโกนเรียกเขา

เด็กน้อยน่ารักที่เหมือนตุ๊กตาตัวน้อยสวมเสื้อคลุมยัดนุ่นวิ่งออกมาจากเรือน ไปมองดูหวังหยวนในชุดคลุมตัวอย่างสงสัยและเขินอาย

"หวังหยวน ลุงแกเพิ่งออกไป มีอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า?"

มีหญิงแก่คนหนึ่งเดินออกมาจากในบ้าน ดวงตาของนางดูขุ่นมัวฝ้าฟาง

"ป้าหง ลุงหานซานช่วยข้าเมื่อตอนบ่าย ข้าเลยเอาปลามาให้กิน!"

หวังหยวนหยิบปลาตัวใหญ่สองตัว และปลาตัวเล็กหกตัวออกมาวางไว้ที่ประตูแล้วจากไป

"อา นี่มันเยอะเกินไป เยอะเกินไปแล้ว หวังหยวนเจ้าเอาคืนไปเถอะ!"

แววตาที่มองมาอย่างระมัดระวังของป้าหงเปลี่ยนเป็นตกใจทันที

ปีนี้ขาดแคลนทั้งอาหารและเครื่องนุ่งห่ม การช่วยเหลือญาติมิตรก็เป็นเพียงการแบ่งปันธัญพืชเล็ก ๆ น้อย ๆ เท่านั้น

มีใครจะมาส่งปลาหลายกิโลแบบนี้กัน

แม้แต่หัวหน้าครอบครัวที่ร่ำรวยที่สุดในหมู่บ้านก็ยังลังเลที่จะซื้อปลาจำนวนมากในช่วงตรุษจีนด้วยซ้ำ

ปลาเยอะแยะแบบนี้หากขายออกไป คงได้มาหลายร้อยอีแปะ ซึ่งเป็นของขวัญที่ล้ำค่าเกินไป

นางคิดไม่ออกว่าทำไมคนเสเพลคนนี้ถึงได้ปลามากมายมาให้ครอบครัวของนาง!

"ข้ายังมีอีก!"

หวังหยวนเดินจากไปโดยไม่หันกลับมามอง

"ปลา ปลา!"

เจ้าเด็กตัวน้อยทั้งสามมามุงดูรอบปลาทั้งแปดตัว ต่างเริ่มน้ำลายไหลออกมา

แววตาป้าหงเต็มไปด้วยความลังเล อยากฆ่าปลาไปทำกับข้าวให้พวกเด็ก ๆ กิน แต่ก็ไม่กล้าทำ

หลังจากนั้นไม่นานนัก หวังหานซานและลูกชายทั้งสองก็กลับมา

ป้าหงพูดอย่างกระวนกระวายใจ "เจ้าบ้าน หวังหยวนบอกว่าเจ้าช่วยเขาไว้ เขาเพิ่งมาส่งปลามาให้ตั้งมากมาย เจ้าไปช่วยอะไรเขามา เขาถึงได้ส่งปลาให้เจ้าตั้งมากมายขนาดนี้!"

"ข้าไปช่วยเขาขุดรากหญ้าครู่เดียว เขาไปเอาปลาเยอะแยะขนาดนี้มาจากไหน?”

หวังหานซานมองไปที่ปลาทั้งแปดตัวด้วยความสงสัย "เจ้าไม่ได้มองผิดไปใช่ไหม หวังหยวนเอามาให้จริง ๆ หรือ?"

ปลามากมายขนาดนี้ แม้แต่ชาวประมงเฒ่าที่ตกปลามาหลายปีก็ยังต้องทอดแหเป็นเวลาหลายวัน

หวังหยวนไม่มีเรี่ยวแรงจะฆ่าไก่ด้วยซ้ำ จะไปจับปลามากมายได้อย่างไร

“ตาของข้าไม่ได้บอด และหวังหยวนก็ไม่เข้าใจผิดเช่นกัน”

ป้าหงมองกลับมาอย่างโล่งอก

หัวหน้าครอบครัวช่วยหวังหยวนจริง ๆ แบบนี้สามารถเก็บปลาไว้ได้ และทำมันให้ทุกคนกินได้

ส่วนที่เหลือนำไปขายหาเงินซื้อผ้าฝ้าย และทำเสื้อยัดฝ้ายตัวใหม่ให้พวกเด็ก ๆ ในช่วงปีใหม่ด้วย

“ไม่ได้ ข้ารับไว้ไม่ได้ ไม่ว่าเขาจะได้ปลามาอย่างไร เขาก็เป็นหนี้ท่านหลิวอยู่เยอะ เขาต้องขายปลาพวกนี้เพื่อใช้หนี้ พวกเรารับมันไว้ไม่ได้”

หวังหานซานยัดปลาลงในถัง ถือมันแล้วเดินออกไป

“เจ้าบ้าน!”

ป้าหงขอร้องเขา "ปลาตัวใหญ่คืนให้หวังหยวนไปขายเอาเงินเถอะ ส่วนปลาตัวเล็กเก็บไว้ให้ลูก ๆ ดูสิพวกเขาไม่ได้กินเนื้อมานานแค่ไหนแล้ว และอีกอย่างปลาตัวเล็กขายไปก็ไม่ได้ราคา "

เมื่อเห็นเด็กทั้งห้าคนน้ำลายไหล หวังหานซานก็เหลือปลาตัวเล็กไว้หกตัว และนำปลาตัวใหญ่สองตัวไปคืน

“ลุงซานไปจับปลาตัวใหญ่ได้สองตัวนี้ได้จากที่ไหน ตัวหนึ่งต้องหนักสองโลกว่า หรือสามโลแน่”

หวังซื่อไห่ที่กำลังเดินเตร็ดเตร่ไปรอบ ๆ หมู่บ้านเดินเข้ามา เมื่อเห็นปลาสองตัวอดที่จะกลืนน้ำลายไม่ได้

เขาไม่มีเนื้อตกถึงท้องมาครึ่งปีแล้ว

หวังหานซานบอกว่า “ปลาสองตัวนี้เป็นของหวังหยวน ข้าจะเอากลับไปให้เขา”

"ของหวังหยวน!”

หวังซื่อไห่ไม่อยากจะเชื่อ

ตอนกลางวันไอ้โง่นั่นยังขุดรากหญ้ากินอยู่เลย จะไปเอาปลาตัวใหญ่สองตัวมาได้อย่างไร

ร่างกายอ่อนแอขนาดนั้น และปลาก็หนักเกินไป!

ก่อนที่หวังหยวนจะกลับถึงบ้าน เขาถูกหวังหานซานขวางไว้ และอยากจะคืนปลาให้

หวังหยวนไม่ยอมรับคืน "ลุง นี่มันอะไรกัน? ข้าบอกว่าให้ท่านกิน ทำไมลุงถึงเอามาคืนล่ะ?

“หวังหยวน ปลาตัวเล็กลุงเอาไว้ได้ แล้วเอาปลาตัวใหญ่ไปขายหาเงินใช้หนี้เถอะ"

หวังหานซานวางปลาคืนลงในตะกร้าไม้ไผ่

“ท่านลุงขอรับ ปลาสองตัวนี้ขายก็ได้ไม่เท่าไหร่หรอก ได้มาก็ไม่พอใช้หนี้”

หวังหยวนหยิบปลาออกมา "ถ้าลุงรู้สึกเกรงใจ วันพรุ่งนี้เรียกต้าหู่และเอ้อร์หู่ให้มาช่วยข้า ข้าสัญญาว่าในอนาคตท่านจะได้กินเนื้อทุกวัน"

“กินเนื้อทุกวัน?”

หวังหานซานตกใจจนสะดุ้ง

ไม่ใช่ขุนนาง ใครเหล่าจะไปปัญญากินเนื้อได้ทุกวัน แค่ได้กินถั่วข้าวสาลีให้อิ่มเป็นอันใช้ได้แล้ว

แต่ในวันนี้เห็นหวังหยวนจับปลาได้มากมาย หวังหานซานก็เกิดความคาดหวังขึ้นมาเล็กน้อย

...

“ท่านพี่หายไปไหน ทำไมยังไม่กลับมา หรือว่าจะหนีหนี้ไปแล้ว”

ที่ประตูของลานบ้านเล็ก ๆ หลี่ซื่อหานเขย่งเท้ามองด้วยความรู้สึกไม่สบายใจ

ในขณะที่จิตใจกำลังสับสนว้าวุ่นแบบนี้ ก็เห็นร่างหนึ่งเดินมาอย่างช้า ๆ เข้ามาที่ประตู!

หลี่ซื่อหานรีบวิ่งไป เมื่อเห็นปลาเต็มถัง นางก็ยื่นมือออกไปรับด้วยความประหลาดใจ "ท่านพี่ ท่านไปเอาปลามากมายขนาดนี้มาจากไหน?"

“วางยามา!”

หวังหยวนเบี่ยงตัวหนี "มันหนักมาก เจ้าแรงน้อย ข้ายกเองได้!"

หลี่ซื่อหานตัวสั่น

ใครอยากได้?

หาใครอยากได้กัน?

ทำไมถึงมีคนให้ปลากับสามีมากมายขนาดนี้?

หวังหยวนพูดอีกว่า "คืนนี้ข้าจะทำปลาให้เจ้า!"

หลี่ซื่อหานฝืนยิ้ม "ท่านพี่ เดี๋ยวข้าทำปลาตัวเล็กให้ท่านกิน ข้ากินน้ำแกงปลานิดหน่อยก็พอแล้ว นำปลาตัวอื่นไปขายที่อำเภอเพื่อหาเงินเถอะ!"

หวังหยวนหยิบปลาสองตัวใหญ่ออกมา "เรื่องใช้หนี้ข้ามีวิธี คืนนี้เจ้าควรกินปลาให้มากขึ้นหน่อย ดูหน้าเจ้าสิซูบผอมหมดแล้ว"

หลี่ซื่อหานเริ่มกระวนกระวายใจ!

สามีเริ่มพูดจาเพราะ ๆ อีกครั้ง ปลาพวกนี้ต้องได้มาอย่างผิด ๆ เป็นแน่!

หวังหยวนฆ่าปลาและขอดเกล็ดปลา หลี่ซือหานเสนอความช่วยเหลือ แต่เขาขอให้เธอยืนข้าง ๆ

หลังจากนั้นไม่นาน ปลาสองตัวก็ถูกทำความสะอาดเรียบร้อย และหวังหยวนก็เอาปลาที่ทำเสร็จแล้วเข้าไปในครัว

เมื่อพูดถึงห้องครัว ก็เป็นกระท่อมมุงจากครึ่งหนึ่งเต็มไปด้วยฟืน และอีกครึ่งหนึ่งวางหม้อเหล็กและเตาดินเผา

มีหม้อดินเผาวางอยู่ในตู้ไม้สองใบ มีโถใส่น้ำมันหมูสีขาว และโถใส่เกลือหยาบเม็ดใหญ่สีเหลือง ชามดินเผาห้าใบและจานกระเบื้องสี่ใบ

ด้านข้างมีถังน้ำขนาดใหญ่ ด้านบนมีทัพพีและเขียง

หยาบมากซะจนทำให้หวังหยวนตกใจ!

“ท่านพี่ สุภาพบุรุษต้องอยู่ห่างจากห้องครัว ท่านเป็นบัณฑิต เรื่องหุงข้าวให้ข้าทำเถอะ”

หลี่ซื่อหานเดินเข้ามาพร้อมตะเกียงน้ำมัน และห้องครัวที่มืดก็สว่างขึ้น

“ข้าไม่ใช่สุภาพบุรุษ ตอนนี้ข้าแค่อยากกินเนื้อ รีบจุดไฟ!”

หลี่ซื่อหานตั้งหม้อให้ร้อน หวังหยวนใส่น้ำมันหมูลงไปสองช้อนโต๊ะ

“ท่านพี่ ใส่น้ำมันมากไปแล้ว แบบเดี๋ยวน้ำมันจะหมดเร็วนะ!”

หลี่ซื่อหานปวดใจที่ได้เห็น น้ำมันหมูสองช้อนนี้ใช้ได้ครึ่งเดือนเลยนะ

"ทอดปลาต้องใส่น้ำมันเยอะ ไม่งั้นมันจะเละทำอย่างไรได้!"

หวังหยวนใส่ปลาสองตัวลงไป ปลาที่ทอดในน้ำมันหมูก็ระเบิดเสียงดัง และกลิ่นหอมของปลาที่เย้ายวนก็โชยออกมา

อึก!

หลี่ซื่อหานกลืนน้ำลาย

กลิ่นปลาหอมลอยโชยออกมาจากลานบ้าน

"ปลา ปลาทอดในน้ำมันหมู บ้านหวังหยวนกำลังกินปลา กินดีกว่าตรุษจีนอีก!"

“หอมมาก ต้องใส่น้ำมันหมูเยอะมากแน่ ๆ!”

“เขาเป็นหนี้มากมายขนาดนี้ ยังกล้ากินปลา และใส่น้ำมันมากมายขนาดนี้ สมแล้วที่เป็นคนเสเพล!”

ชาวบ้านบางคนที่เดินผ่านไปผ่านมา ได้กลิ่นปลาลอยที่มาก็หยุดอยู่กับที่

พรวด!

หวังซื่อไห่ถือชามดินเผา และเดินออกไปดูหวังหยวนกินรากหญ้าแทนปลารึเปล่า จู่ ๆ ก็รู้สึกว่าถั่วและข้าวสาลีในชามไม่อร่อยอีกต่อไป น้ำลายของเขาก็หยดลงที่จาน

“กุก ๆ ๆ!”

หลังจากปรุงเป็นเวลาสิบห้านาที หวังหยวนก็หยิบโถเกลือออกมา และหยิบเกลือหยาบหนึ่งช้อนมาลองชิม

นี่คือเกลือเม็ดหยาบที่ไม่ผ่านการขัดสี มีสีเหลือง และมีสิ่งเจือปนอยู่ในนั้น

ราคาไม่แพง ครึ่งกิโลประมาณห้าสิบอีแปะ หลาย ๆ คนก็ยังไม่สามารถซื้อมันมาได้

วางปลาสองตัวบนจาน โรยด้วยผักป่าซอย และโรยลงน้ำแกงปลา แล้วจัดวางลงบนโต๊ะ

หวังหยวนผลักจานไปตรงหน้าหลี่ซื่อหาน แล้วพูดว่า "รีบกินซะ เดี๋ยวจะเย็น!"

อึก!

กลิ่นปลาเตะจมูกจนน้ำลายของหลี่ซื่อหานไหลออกมา แต่นางก็ไม่ยอมหยิบตะเกียบ "ท่านพี่ บอกข้ามาตามตรง ว่าปลาพวกนี้มาจากไหนกัน?"

Comments (1)
goodnovel comment avatar
ภูมิ รัตนะ
ทาาาาาาาาาาาาา
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 4

    ในโลกนี้มีการตกปลา ตกเบ็ด จับปลา แต่ยังไม่มีใครวางยาปลา หวังหยวนยิ้มและพูดว่า "ข้าค้นพบเคล็ดลับการตกปลาและก็จับปลากลับมาได้ตั้งเยอะ รีบกินเร็วเข้า ระวังถูกก้างทิ่มเอาล่ะ!" “เคล็ดลับการตกปลา!” หลี่ซื่อหานที่สงสัยอยู่แล้วนั้น ยิ่งเจอความเป็นห่วงเอาใจใส่ของหวังหยวน ทำให้หัวใจของเธอเต้นแรงราวกับกวางที่ตกใจอีกครั้ง ทั้งสองคนก็กินปลาต่อไป ไม่รู้ว่าเจ้าของร่างเดิมไม่ค่อยได้กินปลาหรือเปล่า หรือเป็นเพราะปลาสดใหม่ หวังหยวนพบว่าปลาที่ทอดในน้ำมันหมูสักพัก และใส่เกลืออบรอสักสิบห้านาที และโรยด้วยผักป่า มันจะอร่อยมากซะกินจนหมดเกลี้ยง มาดูทางหลี่ซื่อหาน นางกินเหมือนแมวดมไม่มีผิด กินไปเพียงแค่ครึ่งชิ้นเท่านั้น “ท่านพี่ ข้าอิ่มแล้ว อีกครึ่งตัวนี้ข้ายังไม่ได้แตะมัน!” เห็นหวังหยวนมองมาที่นาง หลี่ซื่อหานก็วางตะเกียบลงแล้วผลักจานปลานั้นมา “ข้ากินอิ่มแล้ว แค่มองเจ้ากินปลาแบบนี้ก็น่ามองแล้ว รีบกินเถอะ!” หวังหยวนลุกขึ้นและออกจากห้องโถง เมื่อใดก็ตามที่มีเนื้ออยู่ในบ้าน หลี่ซื่อหานลังเลไม่กล้ากินมัน ปล่อยให้เจ้าของร่างเดิมกินก่อนเสมอ นี่จึงทำให้นางผอมลงจนผอมซูบ จนความงามแต่เดิมของนางก็หายไ

    Last Updated : 2023-04-28
  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 5

    หวังซื่อไห่เอามือจับชายแขนเสื้อตัวเองยืนน้ำลายไหลอยู่หน้าประตูบ้านหวังหยวน หวังหยวนถามว่า "เจ้าทำอะไรน่ะ?" ต้าหู่และเอ้อหู่ก้าวออกมาล้อมขนาบหวังซื่อไห่ทั้งซ้ายและขวา มายืนน้ำลายไหลบ้านพี่หยวนแต่เช้า เจ้าอันธพาลนี่ต้องคิดเรื่องไม่ดีอยู่แน่ ๆ หวังซื่อไห่ตกใจจนสะดุ้ง แล้วจึงรีบถอยออกไปจากประตู “ข้า ข้าอยากกินปลา!" ช่างหน้าด้านได้อย่างตรงไปตรงมา หวังหยวนส่ายหน้า “เจ้ามาช้าไป ปลาถูกกินหมดแล้ว!” “เช้ากินหมดแล้ว ยังมีตอนเย็นอีก แค่อยากกินปลาเอง ให้ข้าไปขุดรากหญ้ากับเจ้าก็ได้นะ ไม่มีปัญหา” เมื่อวานที่เดินเตร็ดเตร่อยู่นั้น พบว่าที่บ้านหวังหยวนนั้นกินปลา และบ้านหวังหานซานก็ได้กินปลาเช่นกัน เดินมาแต่เช้าก็พบว่าบ้านหวังหยวนก็กินปลา และพ่อลูกหวังหานซานด้วย เมื่อนึกถึงที่หวังหยวนพูดถึงประโยชน์ เขาเข้าใจแล้วว่าเขาพลาดอะไรไป ปลาสองมื้อ! หวังหยวนกระพริบตา "งั้นไปเอาไข่สองฟองก่อน" ในชนบทแม้ว่าจะมีผู้เลี้ยงไก่อยู่ไม่กี่ราย แต่ไข่ทั้งหมดจะถูกเก็บไว้และขายเป็นเงิน กว่าจะได้ไข่สองฟองไม่ใช่เรื่องง่ายเลยจริง ๆ "...ตกลง!" หวังซื่อไห่กัดฟันและหันกลับมา หวังหานซานเตือนว่า "หวังหยว

    Last Updated : 2023-04-28
  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 6

    หวังหยวนยิ้มและพูดว่า "ท่านหัวหน้า ข้าแบ่งปลาให้ท่านได้ไม่มีปัญหา และข้านั้นจะแบ่งหนี้สี่สิบกว้านของข้าให้ท่านด้วย! ถ้าหากท่านไม่อยากใช้หนี้ ก็แบ่งที่ดินสองร้อยแปดสิบหมู่ของบ้านท่านให้ข้าสักสิบหมู่ ที่ดินของบ้านข้าติดจำนองอยู่" “ไอเด็กเจ้าเล่ห์!” หวังปี่จงเดินจากไปอย่างหงุดหงิด ข้าแค่อยากได้ปลาเจ้าตัวเดียว เจ้าจะให้ข้าแบกหนี้ไปด้วย และยังให้ข้าแบ่งที่ให้อีกหลายสิบหมู่อีก ไอคนเสเพลพรรค์นั้น ยังมีหน้าพูดออกมาได้อีก “ท่านหัวหน้า อย่างเพิ่งไปสิ ข้าแค่ล้อท่านเล่นเท่านั้น อย่าโมโหไปเลย!” หวังหยวนตะโกนไล่หลังมา จับปลาได้มากมาย หากมีใครขอแค่สักตัวสองตัว เขาย่อมให้ได้อยู่แล้ว แต่นี่มาใช้ศีลธรรมบีบบังคับเขาให้แบ่งปลาให้คนทั้งหมู่บ้าน แล้วตัวเองได้ความดีความชอบไป แบบนี้มันไม่ได้ หวังปี่จงโมโหกระฟัดกระเฟียดไม่หันกลับมา เมื่อเห็นแผนการของหวังหยวนแล้ว ชาวบ้านต่างโห่ร้องและหัวเราะออกมา เจ้าอยากได้ของของข้า ข้าก็อยากได้ของของเจ้า เจ้าไม่ให้ข้า ข้าจะให้เจ้าไปทำไม หวังหยวนยกมือแสดงความคารวะ "พ่อแม่ พี่น้อง ลุงป้า น้าอาทุกท่าน ตอนนี้ทุกคนต่างรู้เรื่องของข้า ปลาเหล่านี้ต้องนำไปขายเ

    Last Updated : 2023-04-28
  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 7

    “อืม ท่านพี่!” “อย่าเรียกท่านพี่สิ เรียกเหล่ากง!” “...ไม่ได้!” “ทำไม?” “ท่านพี่ เหล่ากงคือคำใช้เรียกขันที ท่านแค่ป่วย หาหมอดูอาการก็ดีขึ้นแล้ว ทำไมต้องดูถูกตัวเองแบบนี้ด้วย!” "...เหล่ากงคือคำใช้เรียกขันที???” "คำใช้เรียกขันทีถูกเรียกแตกต่างกันไปในแต่ละราชวงศ์ที่ผ่านมา พวกเขาเรียกขันทีอย่างเป็นทางการว่าหวางเหมินและเตียวตัง บางคนได้รับเกียรติยกย่องเป็นเน่ยกว้าน เน่ยเฉิง จงกว้าน และจงกุ้ย นอกจากนี้ยังมีชื่อที่เสื่อมเสียเช่น เน่ยซู่ เหยียนเฉิน ไท่เจี้ยน เหยียนเหริน และเหล่ากง ขันทีก็เรียกว่าเหล่ากงเจ้าค่ะ" “...ทำไมเจ้าถึงรู้เยอะนัก?” “...ตอนเด็ก ๆ มีหมอดูผ่านบ้านข้า บอกว่าข้ามีดวงชะตานางหงส์ ท่านพ่อจึงอบรมให้ข้าเป็นกุลสตรี สอนมารยาทและธรรมเนียมในวังให้ด้วย” “ดวงชะตานางหงส์?” “ท่านพี่อย่าโกรธไปเลย หมอดูคนนั้นเป็นนักต้มตุ๋น ข้าจะไปมีดวงชะตานางหงส์ได้อย่างไร! หลังจากแต่งงานกับท่านแล้ว ตราบใดที่สามียังต้องการข้า ข้าก็จะรับใช้ท่านตลอดไป” ...ในวันรุ่งขึ้น หวังหานซานขับเกวียนล่อขนปลาลงในถังไม้ขนาดใหญ่พวกเขาทั้งห้าก็เตรียมตัวออกเดินทาง หลี่ซื่อหานหยิบถุงผ้าสีแดงยัดใส่มื

    Last Updated : 2023-04-28
  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 8

    “เคารพเจ้าถิ่น?” เห็นท่าทางของคนกลุ่มนี้ หวังหยวนก็นึกขึ้นมาได้ "พวกเจ้ามาที่นี่เอาค่าคุ้มครองใช่ไหม?" ต้าหู่ เอ้อหู่กำหมัดแน่น และมายืนหลังหวังหยวน หวังหานซานขมวดคิ้วแน่น หวังซื่อไห่พูดเสียงทุ้มต่ำ “หวังหยวน ยุ่ง ๆ เลยไม่ได้บอกเจ้า นี่เป็นลูกพี่ใหญ่ค้าปลาของตลาดตะวันตก ‘น่าวซานเจียง’ มีลูกน้องตั้งสิบยี่สิบคน ไม่ว่าใครมาขายปลาต้องจ่ายส่วยให้เขาสองส่วนด้วยย” “สองส่วน?” หวังหยวนโกรธมาก “พวกเจ้าเก็บแพงกว่าทางการตั้งมากโข?” ลำบากลำบนทำงานอย่างหนักอยู่สองวันเพื่อจับปลา ตื่นตั้งแต่ฟ้ายังไม่สางเพื่อเข้าเมือง ทางการเก็บภาษีค้าขายแค่หนึ่งในสิบ แต่พวกอันธพาลเหล่านี้กล้าที่จะเก็บตั้งสองในสิบได้ เอ้อหู่จ้องเขม็งแม้แต่ต้าหู่ที่ใจเย็นและนิ่งอยู่เสมอยังกำมือแน่น จนเส้นเลือดปูดโปนไปหมด แท้จริงแล้วพวกอันธพาลเหล่านี้มีเอาเปรียบขูดเลือดขูดเนื้อได้โหดเหี้ยมมากกว่าทางการเสียอีก หวังหานซานจ้องไปที่ลูกชายทั้งสองแล้วส่ายหน้า “อยากขายปลาที่ตลาดนี้ก็ต้องจ่ายมาสองในสิบ นี่เป็นกฎของตระกูลซาที่นี่ ไม่งั้นก็ทิ้งปลาไว้ แล้วไสหัวไปซะ” น่าวซานเจียงยกมือขึ้นข่ม ทั้งแปดขึ้นที่ก้าวเข้ามา มีทั้งก

    Last Updated : 2023-04-28
  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 9

    มีชายวัยกลางคนเดินมาจากไกล ๆ เขาสวมหมวกทรงสูงขอบแดงสีดำ เสื้อสีน้ำเงินปักขอบสีแดง มีคำว่า "จับ" ที่ตรงกลางหน้าอก พร้อมด้วยรองเท้าบูทผ้าสีดำ และเหน็บดาบยาวที่เอว เขาไม่สูงไม่เตี้ย มีแววตาที่ดูเฉลียวฉลาดอยู่บ้าง โดยรวมแล้วก็ดูธรรมดาทั่วไป อย่างไรก็ตาม ทันทีที่เขาปรากฏตัว ทั้งตลาดก็เงียบลง ความโกรธในดวงตาของพ่อค้าหายไปอย่างไร้ร่องรอย และรอยยิ้มที่ประจบสอพลอปรากฏขึ้นบนใบหน้าของพวกเขา นี่คือเจ้าหน้าที่สายตรวจในตลาดตะวันตก ใต้เท้าในสายตาทุกคน ชื่อจริงชื่อซิงซาน เจ้าหน้าที่สายตรวจคนหนึ่ง แม้ว่าจะไม่ได้ใหญ่โตในเมืองนัก แต่ก็ไม่ใช่ใครไปลบหลู่ได้ นอกจากนายอำเภอ เจ้าหน้าที่ปกครอง ที่ว่าการอำเภอยังมีอีกแปดขั้น ส่วนที่เหลือเป็นข้าราชการชั้นผู้น้อย สายตรวจ เจ้าหน้าที่ในสำนักงาน... ล้วนเรียกรวมกันว่า "เจ้าหน้าที่" แม้ว่า 'เจ้าหน้าที่' เหล่านี้จะไม่มียศ แต่พวกเขาได้มีบันทึกชื่อในกรมข้าราชการพลเรือน มีอาชีพที่มั่นคง เมื่อพ่อตายก็สืบต่อให้ลูกได้ เจ้าหน้าที่แต่ละคนมีผู้ช่วยหลายสิบคน เพื่อช่วยงานราชการให้งานสำเร็จเรียบร้อย เจ้าหน้าที่ไม่รับค่าตอบแทน แต่เมื่อพวกเขาอยากพึ่งพาก็ต้องเอาสิน

    Last Updated : 2023-04-28
  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 10

    หวังหยวนมาที่ร้านช่างตีเหล็กของตระกูลจ้าวในเป่ยซื่อ ซึ่งเป็นบ้านของจ้าวต้าซุย ลุงของเจ้าของร่างเดิม เจ้าของร่างเดิมตอนอายุสิบขวบมาเรียนหนังสือในเมือง และอาศัยอยู่ที่บ้านของลุงของเขา ป้าสะใภ้คลอดน้องสาวออกมาได้ยากมาก ทั้งลุงและน้องจึงพึ่งพากัน และดีต่อเจ้าของร่างเดิมมาก แต่เมื่อสามปีก่อน เจ้าของร่างเดิมอยากจะแต่งงานกับหลี่ซื่อหาน และลุงได้คัดค้านในฐานะผู้อาวุโส มีข่าวลือว่าตระกูลหลี่กำลังจะถูกกำจัด และลุงก็กลัวว่าจะโดนร่างแหไปด้วย เจ้าของร่างเดิมไม่ฟังคำห้ามปราม ดังนั้นความสัมพันธ์ระหว่างลุงกับหลานชายจึงเย็นชาขึ้น เจ้าของร่างเดิมไม่ได้เชิญลุงมางานแต่งงาน และไม่ได้ไปเยี่ยมบ้านลุงมาสามปีแล้ว เห็นร้านช่างตีเหล็กที่คุ้นเคย หวังหยวนจึงเดินเข้าไป "ใครน่ะ!" มีเสียงมาจากสวนหลังบ้าน และหญิงสาวคนหนึ่งก็ออกมา เมื่อเห็นว่าเป็นหวังหยวนก็ตกใจ นางเม้มริมฝีปากอยู่ครู่หนึ่ง “หลังแต่งงานก็ลืมลุงของเจ้าไปแล้ว คนใจร้ายอย่างเจ้ามาที่ทำไมอีก!" เด็กสาวอายุสิบเจ็ดหรือสิบแปดปี ใบหน้ารูปไข่มัดผมหางม้า ตัวไม่สูงนัก มีกระบนใบหน้า ตาโต มีฟันเขี้ยวเล็ก ๆ สองซี่ นางดูสวยและดูโดดเด่น หวังหยวนไม่โ

    Last Updated : 2023-04-28
  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 11

    เมื่อจ้าวชิงเหอและลุงของเขามาถึงร้านค้า พวกเขาเห็นหวังหยวนหยิบหม้อเหล็กขึ้นมา และกำลังเทน้ำเชื่อมที่ผสมไว้กับโคลนสีเหลืองลงในกรวยที่มีฟางเรียงราย“ท่านพ่อ ดูนั่นสิ!”จ้าวชิงเหอมุ่ยหน้าลุงมองด้วยความประหลาดใจ ซู่ ซู่ว…กากน้ำตาลสีดำไหลออกมาจากด้านล่าง และน้ำเชื่อมเริ่มแยกตัวออกจากกันในกรวย ไม่นาน น้ำตาลทรายขาวก็ตกผลึกอยู่ด้านบน น้ำตาลทรายแดงอยู่ตรงกลาง และกากน้ำตาลดำอยู่ด้านล่าง“น้ำตาลทรายแดง น้ำตาลทรายขาว”ดวงตาของจ้าวชิงเหอแทบจะบินออกมาด้านนอกน้ำตาลดำมีราคาถูกที่สุดคือจินละหนึ่งร้อยอีแปะ น้ำตาลทรายแดงจินละสามร้อยอีแปะ และยังไม่มีน้ำตาลทรายขาวขายในท้องตลาดเมื่อดูอัตราส่วนของน้ำตาลสามสีในกรวยจะเห็นได้ว่ามีมีน้ำตาลทรายขาวห้าสิบเปอร์เซ็นต์ น้ำตาลทรายแดง สามสิบเปอร์เซ็นต์ และกากสีดำอีกยี่สิบเปอร์เซ็นต์ แค่น้ำตาลทรายแดงก็เกือบจะเทียบเท่าต้นทุนน้ำตาลดำแล้ว ส่วนเงินที่ขายน้ำตาลทรายขาวได้ก็ถือว่าเป็นกำไรลุง หวังหานชาน ต้าหู และหวังซื่อไห่รู้สึกประหลาดใจอย่างมาก พวกเขาไม่เข้าใจว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไรเอ้อหูถามออกไปตรง ๆ "พี่หยวน ทำไมน้ำตาลดำผสมกับโคลนสีเหลืองแล้วถึงกลายเป็

    Last Updated : 2023-04-28

Latest chapter

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2046

    น้ำเสียงของประมุขพรรคทมิฬเย็นยะเยือกน่าสะพรึงกลัว แววตาเต็มไปด้วยเจตนาฆ่าราวกับพร้อมจะฆ่าทุกคน!โอวหยางอวี่หวาดผวา เสื้อด้านหลังเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อเย็น!เหงื่อเม็ดใหญ่ผุดขึ้นบนหน้าผาก!ตอนนี้เขาอยากรู้ความจริงโดยเร็ว!ไม่มีทางที่หลิ่วหรูเยียนจะยังมีชีวิตอยู่!“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ พวกเราต้องเตรียมรับมือ!”ทันใดนั้น ชายสวมชุดดำคนหนึ่งก็เดินออกมาเขาเป็นหนึ่งในสี่องครักษ์ผู้มีอำนาจสูงส่ง“ลั่วเฉิน!”“นับจากนี้เจ้าจงรับผิดชอบองครักษ์นองเลือด!”“ข้าได้รับข่าวมาแล้ว จึงรู้เส้นทางของพวกหวังหยวน และเพิ่งรู้ว่าหลิ่วหรูเยียนยังมีญาติอยู่!”“ห้ามปล่อยให้คนผู้นั้นเข้าเมืองอู่เจียงได้!”“ต้องฆ่าให้ได้!”“แม้ว่าหวังหยวนจะช่วยชีวิตหลิ่วหรูเยียน แต่หลิ่วหรูเยียนก็คงจะนึกถึงความสัมพันธ์ระหว่างข้ากับนาง คงไม่ยอมบอกที่ตั้งฐานทัพของเราให้หวังหยวนรู้!”“แต่หากเกาเล่อสืบจนรู้ความจริง แล้วพาญาติของหลิ่วหรูเยียนมาพบ หลิ่วหรูเยียนอาจจะทรยศพวกเรา ทำให้พวกเราเสียเปรียบ!”“จำไว้! ต้องฆ่าคนผู้นั้นให้ได้!”“และส่งคนไปสืบที่เมืองอู่เจียง ดูว่าหลิ่วหรูเยียนยังมีชีวิตอยู่หรือไม่!”ประมุขพรรคทมิฬออกคำ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2045

    “ข้าไม่ได้ไม่เชื่อใจเจ้า!”หวังหยวนกล่าวด้วยรอยยิ้ม“เพียงแต่ข้ารู้ว่าเจ้าเกลียดชังพรรคทมิฬยิ่งนัก จึงอาจมองพวกเขาในแง่ลบเกินไป ข้าแค่อยากให้เจ้าใจเย็นสักหน่อย อย่าได้บิดเบือนข้อเท็จจริงเพื่อหลอกล่อให้หลิ่วหรูเยียนบอกความจริง”“หากเป็นเช่นนั้น เมื่อหลิ่วหรูเยียนรู้ความจริง เรื่องราวคงจะยุ่งยากยิ่งกว่าเดิม!”“เมื่อถึงเวลานั้น การจะล้วงข้อมูลจากนางคงจะเป็นเรื่องยาก!”เกาเล่อพยักหน้า ไม่ได้เอ่ยสิ่งใดแต่เขารู้ดีว่าตนเองทำอะไรอยู่ จึงไม่ได้ใส่ใจคำพูดของหวังหยวน!ยิ่งกว่านั้น เขายังตระหนักถึงมิตรภาพระหว่างเขากับหวังหยวนมากขึ้นด้วย!ไม่มีสิ่งใดมาขวางกั้นได้!หวังหยวนจะสงสัยและตำหนิเขาได้อย่างไร?ยิ่งไปกว่านั้น สิ่งที่เขากล่าวล้วนเป็นความจริง!“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าจะไม่จัดงานเลี้ยงต้อนรับเจ้าแล้ว”“เจ้าคงเหนื่อยล้าจากการเดินทาง รีบไปพักผ่อนเถิด”“เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจนี้ ข้าจะตอบแทนเจ้าอย่างงาม!”หวังหยวนกล่าวด้วยรอยยิ้มเกาเล่อพยักหน้า แล้วจากไป เป็นเช่นที่หวังหยวนกล่าว เขารู้สึกเหนื่อยล้าเป็นอย่างยิ่งเพราะช่วงนี้เขาทำงานหนักจนดึกดื่นทุกวันเพื่อสืบหาความจริงโดยเร็ว โชคดีที่

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2044

    “ข้าคิดว่าเจ้าคงรู้ดีใช่หรือไม่?”เกาเล่อกล่าวอย่างหนักแน่น“เท่าที่ข้ารู้ คนที่ลงมือทำร้ายเจ้าครั้งนี้คือพรรคทมิฬ! แม้ว่าข้าจะไม่รู้ว่าพวกเจ้ามีความขัดแย้งอะไรกัน แต่ข้ารู้สึกว่าเจ้าคงหมดประโยชน์แล้ว พวกเขาจึงคิดกำจัดเจ้า!”“เพราะเจ้ารู้ความลับมากมาย พวกเขาคงไม่ปล่อยเจ้าไป!”เกาเล่อกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาหลิ่วหรูเยียนกัดฟันแน่น ไม่เอ่ยคำใดแม้ว่านางจะไม่อยากเชื่อ แต่ความจริงก็ดูเหมือนจะเป็นเช่นนั้น...หลิ่วหรูเยียนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จึงเอ่ยขึ้นว่า “ข้าจะเชื่อเจ้าได้อย่างไร?”“เพียงแค่จดหมายฉบับนี้จะทำให้ข้าเชื่อเจ้าได้หรือ?”แม้ว่าคนของพรรคทมิฬจะไม่น่าไว้ใจ แต่เกาเล่อก็ไม่ต่างกันไม่ใช่หรือไง?บางทีหวังหยวนอาจจะแค่ต้องการใช้ประโยชน์จากนางก็เป็นได้!เพราะต้องการล้วงข้อมูลจากนางเพื่อไปจัดการพรรคทมิฬ!“ข้าพบญาติสายตรงของเจ้าแล้ว!”“เจ้าแค่ไปพิสูจน์กับเขาก็จะรู้เองว่าข้าพูดจริงหรือไม่?”เกาเล่อกล่าวพลางดื่มน้ำชาในเมื่อเขากลับมาแล้ว ฤก็แสดงว่าสืบเรื่องทุกอย่างจนกระจ่างแล้ว ไม่เช่นนั้นจะมาพูดเช่นนี้ได้อย่างไร?ดวงตาของหลิ่วหรูเยียนเบิกกว้าง รีบถามว่า “ข้ายังมีญาติอยู่หรือ?”

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2043

    “ข้ารีบเดินทางกลับมาเมื่อคืนนี้ และได้สืบเรื่องที่ท่านสั่งไว้เรียบร้อยแล้วขอรับ!”เกาเล่อโค้งคำนับก่อนจะรายงานหวังหยวนเมื่อเขากลับมาถึงก็รีบมาหาหวังหยวนทันที เมื่อรู้ว่าหวังหยวนอยู่ที่สวนหลังวังจึงรีบตามมาที่จริงแล้วเขาเห็นหวังหยวนกับหลิ่วหรูเยียนทะเลาะกันอยู่ จึงไม่ได้เข้าไปขัดจังหวะแต่ต้องยอมรับว่าแม้ว่าทั้งสองจะทะเลาะกัน แต่กลับให้ความรู้สึกเหมือนคู่สามีภรรยาที่มักจะมีปากเสียงกันเสมอ“ท่านให้เขาไปสืบเรื่องอะไร?”หลิ่วหรูเยียนรีบคว้ามือหวังหยวนพลางถามขึ้นนางมีความรู้สึกว่าเรื่องนี้ต้องเกี่ยวข้องกับนาง!เจียงเสี่ยวอวี๋ยืนอยู่ข้าง ๆ ไม่ได้เอ่ยคำใดหวังหยวนยกยิ้ม แล้วกล่าวว่า “ไม่ใช่ว่าเจ้าจะไปแล้วหรือ? ยังจะมายุ่งเรื่องนี้เพื่ออะไร?”“ท่าน...”หลิ่วหรูเยียนกัดฟัน ช่างเป็นผู้ชายที่น่าโมโหนัก!ให้เขาลงจากบันไดแล้วยังไม่ยอมลงอีกหรือ?หากผู้ชายทั้งโลกเป็นเหมือนหวังหยวน นางขออยู่เป็นโสด ไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับผู้ชายเช่นนี้!ไม่เช่นนั้นคงต้องตายเพราะความโมโห!“ไป!”“พวกเราไปคุยกันที่อื่นดีกว่า”หวังหยวนมองไปที่เกาเล่อ แล้วพาเขาไปยังห้องโถงใหญ่เป็นไปตามที่เขาคาด แม้จะไม่ได้ช

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2042

    “เช่นนั้นท่านก็บอกข้ามาสิ ข้าอยากรู้ว่าข้านั้นด้อยตรงไหน?”“ใครบ้างไม่รู้ว่าในบ้านท่านมีภรรยาโฉมงามหลายคน แต่แล้วอย่างไรเล่า?”“หากท่านเป็นสุภาพบุรุษจริงคงไม่หาภรรยามามากมายเช่นนี้หรอก!”เจียงเสี่ยวอวี๋ที่นั่งอยู่ข้าง ๆ หัวเราะไม่หยุดคนทั้งสองนี้ช่างน่าสนใจ ไม่ว่าจะพบกันเมื่อใดก็ต้องทะเลาะกันเสมอ!หวังหยวนกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ข้าจะเป็นสุภาพบุรุษหรือไม่ เจ้าไม่จำเป็นต้องรู้ แล้วข้ามีภรรยากี่คน เกี่ยวกับเจ้าอย่างไรไม่ทราบ?”“ผู้ชายมีสามภรรยาสี่อนุไม่ใช่เรื่องปกติหรือ?”“ลองดูฮ่องเต้ในยุคนี้สิ มีนางสนมตั้งหลายร้อยคนไม่ใช่หรือ?”“แม้ว่าข้าจะไม่ใช่ฮ่องเต้ แต่ข้าก็เป็นผู้ชาย พวกนางอยากอยู่กับข้า เจ้าจะทำอะไรได้?”ช่างพูดจาคารมคมคาย!น่าโมโหยิ่งนัก!หลิ่วหรูเยียนกลอกตามองหวังหยวน ก่อนจะเลิกสนใจเขาอีกหวังหยวนขี้เกียจต่อล้อต่อเถียง มีคนกล่าวว่าสตรีและคนถ่อยคบด้วยได้ยาก วันนี้เขาเข้าใจแล้วว่าคำกล่าวนี้ถูกต้อง!อย่างน้อยหลิ่วหรูเยียนตรงหน้าเขาก็ยังร้ายกาจกว่าคนถ่อยด้วยซ้ำ!“อะแฮ่ม”ขณะที่ทั้งสองกำลังเถียงกันก็มีเสียงกระแอมเบา ๆ ดังขึ้น เจียงเสี่ยวอวี๋รีบยืนขวางหน้าทั้งสอง แล้วกล่

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2041

    “ขอรับ!”เกาเล่อรับคำ แล้วเดินจากไป เมื่อชายชาติทหารได้รับภารกิจ ย่อมต้องทำให้สำเร็จแม้ต้องแลกด้วยชีวิต!หวังหยวนนั่งจิบชาอย่างสบายอารมณ์ มีเกาเล่อเป็นคนจัดการจึงไม่ต้องกังวลอะไร!เขารู้ดีว่าเมื่อสืบหาชาติกำเนิดของหลิ่วหรูเยียนได้แล้ว ก็จะทำให้นางยอมบอกทุกอย่างที่รู้ เมื่อถึงเวลานั้นจึงจะสามารถกำจัดพรรคทมิฬได้!นี่คือสิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้!...ในช่วงครึ่งเดือนต่อมา หลิ่วหรูเยียนยังคงนอนพักรักษาตัวอยู่บนเตียง เนื่องจากบาดแผลสาหัส การที่นางรอดชีวิตมาได้ก็นับว่าโชคดีมากแล้ว จึงต้องพักรักษาตัวให้หายดี!แต่กลับไม่มีข่าวคราวใดจากเกาเล่อระหว่างนั้น เขาเคยส่งจดหมายมาบอกหวังหยวนว่าคนของพรรคทมิฬเหมือนจะรู้ว่าพวกเขากำลังสืบเรื่องของหลิ่วหรูเยียนอยู่ จึงทำให้เกาเล่อทำงานลำบากแต่โชคดีที่หลายปีมานี้ เกาเล่อได้สร้างองค์กรเครือข่ายผีเสื้อให้เป็นองค์กรข่าวกรองอันดับหนึ่งในใต้หล้า ครั้งนี้เขายังพาลูกน้องฝีมือดีไปด้วย หากให้เวลาเขาอีกสักหน่อย เขาย่อมสามารถแก้ปัญหาได้แน่!แต่ก็มีข่าวดีเช่นกัน อาการป่วยของหลิ่วหรูเยียนนั้นเริ่มดีขึ้น หากเป็นเช่นนี้ต่อไป อีกครึ่งเดือนนางก็จะหายเป็นปกติดิน

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2040

    แน่นอนว่านางไม่ได้สนใจคำพูดของหวังหยวน ประชาชนทั่วหล้าเกี่ยวอะไรกับนาง?นางเป็นเพียงคนอาภัพคนหนึ่ง จะไปสนใจผู้อื่นเพื่ออะไร?ช่างน่าขันสิ้นดี!“ได้สิ!”“เจ้าเชื่อใจข้าได้!”“อย่าลืมว่าข้ามีองค์กรข่าวกรองที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก!”“เพียงข้าเอ่ยปาก พวกเขาก็จะรีบสืบหาชาติกำเนิดของเจ้า ไม่นานก็คงมีข่าวดี รับรองว่าเจ้าจะต้องพอใจ!”“ข้าเป็นคนรักษาคำพูด และไม่เคยผิดสัญญากับสตรี!”หวังหยวนกล่าวอย่างหนักแน่นเขาไม่ได้ล้อเล่น ความสามารถขององค์กรเครือข่ายผีเสื้อเหนือกว่าองค์กรข่าวกรองของอีกสามกองกำลังเป็นอย่างมาก!ไม่ใช่เพียงเพราะหวังหยวนทุ่มเงินจำนวนมากให้กับองค์กรเครือข่ายผีเสื้อเท่านั้น แต่ยังเป็นเพราะเกาเล่อด้วย!เขาเป็นบุคลากรชั้นเยี่ยมที่หาได้ยาก!มีเกาเล่ออยู่เคียงข้าง จึงไม่ต้องกังวลอะไร!หลิ่วหรูเยียนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จึงเอ่ยขึ้นว่า “ขอข้าคิดดูก่อน ให้เวลาข้าสักหน่อยได้หรือไม่?”“ได้!”“เช่นนั้นข้าจะรอคำตอบจากเจ้า”หลังจากพูดจบ หวังหยวนก็ออกจากห้องไปช่วงนี้หลิ่วหรูเยียนพบเจอเรื่องราวต่าง ๆ มากมาย ไม่ว่าใครก็ตามคงต้องใช้เวลาทำใจหลิ่วหรูเยียนก็เช่นกันหวังหยวนจะไม่บีบค

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2039

    “ข้าไม่อยากให้เป็นเขา...”“เพราะว่า...”หลิ่วหรูเยียนพูดไม่ออก แต่หวังหยวนเข้าใจดีว่าทั้งสองคนมีความสัมพันธ์ที่ไม่ธรรมดาแม้จะไม่ใช่สามีภรรยา ก็คงเป็นคู่รักหากถูกคนรักลงมือทำร้าย ใครจะรับได้?ยิ่งเป็นสตรีด้วยแล้ว จะไม่ยิ่งเสียใจได้อย่างไร?“ข้าสงสัยว่าเหตุใดสตรีโฉมงามเช่นเจ้าจึงยอมทำงานให้พรรคทมิฬ?”“มีเรื่องราวอะไรซ่อนเร้นอยู่หรือไม่?”หวังหยวนถามขึ้นอีกครั้ง“ใช่แล้ว”“ข้าเป็นเด็กกำพร้า ถูกท่านประมุขเก็บมาเลี้ยง เขาเคยบอกข้าว่าเป้าหมายของพรรคทมิฬคือการปลดปล่อยประชาชน ไม่ให้พวกเขาต้องทุกข์ยาก”“สงครามที่เกิดขึ้นต่อเนื่องทำให้ประชาชนเดือดร้อน หากพรรคทมิฬรวมแผ่นดินได้ ย่อมจะทำให้ใต้หล้าสงบสุข”“ข้าจึงเชื่อคำพูดของเขา”“แต่บัดนี้ดูเหมือนว่าเรื่องราวจะไม่ได้เป็นเช่นนั้น เขาแค่ต้องการอำนาจเท่านั้น”หลิ่วหรูเยียนไม่ใช่คนโง่เขลา แต่เป็นสตรีที่เฉลียวฉลาดการจะหลอกลวงนางจะเป็นเรื่องง่ายได้อย่างไร?ตอนที่นางยังเด็กย่อมไม่รู้อะไรมากมาย แต่เมื่อนางมาอยู่ที่เมืองอู่เจียง แล้วได้พบปะผู้คนมากขึ้น จึงเริ่มระแวง และความคิดก็เปลี่ยนไปมากเป้าหมายของพรรคทมิฬคงไม่ได้ใสซื่อเช่นนั้น!ไม่

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2038

    จากนั้นหลิ่วหรูเยียนก็ไอออกมาสองสามครั้งนางเพิ่งฟื้น ร่างกายจึงอ่อนแอมากเจียงเสี่ยวอวี๋รีบยื่นน้ำให้นาง ก่อนจะช่วยพยุงนางให้ดื่มน้ำ เสียงไอจึงค่อยบรรเทาลงแต่ใบหน้าของหลิ่วหรูเยียนยังคงซีดเผือด แสดงให้เห็นว่านางบาดเจ็บสาหัสเพียงใด“ในเมื่อพี่หรูเยียนฟื้นแล้ว เจ้าก็อย่ามัวอยู่ที่นี่ต่อเลย”“ข้ามีเรื่องต้องคุยกับหลิ่วหรูเยียน เจ้าออกไปก่อนเถิด”หวังหยวนไล่เจียงเสี่ยวอวี๋ทางอ้อมหลิ่วหรูเยียนนอนนิ่งบนเตียง หลับตาพักผ่อนตลอดเวลาแม้ว่าเจียงเสี่ยวอวี๋จะไม่เต็มใจ แต่ก็จำต้องออกจากห้องไปก่อน“ข้าไม่ไป!”“สองวันนี้ข้าจะอยู่ที่วังแห่งนี้เพื่อช่วยดูแลพี่หรูเยียน!”“และป้องกันไม่ให้ท่านรังแกนางด้วย!”เมื่อเห็นว่าหวังหยวนไม่ได้สนใจตน เจียงเสี่ยวอวี๋จึงพูดขณะเดินออกไปว่า “เช่นนั้นข้าจะรออยู่หน้าประตู รอจนกว่าพวกท่านจะคุยกันเสร็จ แล้วข้าจะเข้าไปอยู่เป็นเพื่อนพี่หรูเยียน”เมื่อเจียงเสี่ยวอวี๋ออกจากห้องไปแล้ว หวังหยวนก็เดินไปข้างเตียงหลิ่วหรูเยียน แล้วมองลงมาที่นาง“หากคนของข้าไปพบเจ้าไม่ทัน เจ้าคงตายไปแล้ว”“เมื่อครู่เจ้าพูดเช่นนั้น แสดงว่าเจ้ารู้ว่าใครเป็นคนทำร้ายเจ้าใช่หรือไม่?”ห

DMCA.com Protection Status