แชร์

บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่
บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่
ผู้แต่ง: ชวินเป่ยอี๋

บทที่ 1

ผู้เขียน: ชวินเป่ยอี๋
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2023-04-28 11:14:52
“ไม่อร่อยเลยสักนิด”

เมื่อได้เคี้ยวข้าวสาลีผสมถั่ว หวังหยวนวางชามดินเผาลง รู้สึกเหมือนกินแกลบไม่มีผิด

ตอนนี้ใครมาบอกว่าการข้ามกาลเวลามันดี เขาก็พร้อมที่จะบอกความในใจให้พวกเขา

ข้ามกาลเวลามาถึงช่วงราชวงศ์ต้าเย่ คล้ายช่วงยุคสมัยโบราณของจีน

เจ้าของร่างเดิมเป็นเป็นเจ้าของที่ดินเล็ก ๆ ตอนที่พ่อแม่ยังอยู่ ตอนเช้าได้กินข้าวต้มข้าวฟ่าง เที่ยงได้กินข้าวผสมข้าวฟ่าง ตอนเย็นได้กินเซาปิ่งพร้อมธัญพืชผสม ทุก ๆ สิบวันหลังจากกลับมาจากโรงเรียนในเมือง ถึงจะได้กลับมากินให้หายอยากได้

สำหรับคนทั่วไป แต่ละวันกินข้าวต้มข้าวฟ่าง หรือข้าวสาลีผสมถั่ว ส่วนเนื้อนั้นในช่วงปกติอย่าไปคิดถึงมันเลย คงมีแค่ช่วงฉลองตรุษจีนเท่านั้นถึงจะได้กินเนื้อบ้าง

ส่วนแป้งและข้าวสารนั้นเป็นที่นิยมของเจ้าของที่ดิน คหบดีและขุนนาง

นึกถึงพวกไข่ เนื้อหมู ไก่ ปลา บนโลกที่ถูกทิ้ง หวังหยวนอดที่จะตีตัวเองไม่ได้

น้ำเสียงที่ฟังดูขลาดกลัวของคน ๆ หนึ่งดังขึ้น “ท่านพี่ ขอโทษนะ ในบ้านไม่มีข้าวฟ่างแล้ว ให้ท่านที่เป็นบัณฑิตเพิ่งหายป่วยกินข้าวสาลีผสมถั่วเช่นนี้?”

แววตาของหวังหยวนมีประกายขึ้นมา สาวน้อยคนสวยที่ท่าทางขี้ขลาดยืนอยู่หน้าห้องโถง

อายุสักประมาณสิบเจ็ดสิบแปดปี ร่างนางสูงโปร่งน่าจะสักหนึ่งร้อยเจ็ดสิบเซนได้ งดงามอ่อนช้อยเหมือนดั่งภาพวาด

นางสวมชุดตัวนอกสีแดง กระโปรงผ้าสีเขียว และรองเท้าปักลาย เธอแต่งตัวอย่างสุภาพด้วยเสน่ห์เรียบง่าย แต่ราวกับว่าเหมือนเดินออกมาจากภาพวาดในหนังสือที่ผ่านฝุ่นผงออกมาอย่างนุ่มนวล

แต่รูปหน้าเรียวเล็กเหมือนเม็ดแตงนั้นกลับซีดเซียว เส้นผมดูแห้งกรอบราวกับเป็นโรคขาดสารอาหาร

นี่คือภรรยาของเจ้าของร่างเดิม หลี่ซื่อหาน เป็นสาวงามอันดับหนึ่งในเมืองฝู เป็นคนที่เจ้าของร่างเดิมไม่อาจเอื้อมแต่งงานได้ด้วยซ้ำ

ในตอนนั้นตระกูลหลี่ประสบหายนะใหญ่ฆ่าล้างตระกูล จึงคิดให้ลูกสาวแต่งออกไป เพื่อหลีกเลี่ยงหายนะในครั้งนั้น

แต่ไม่มีใครในเมืองกล้าแต่งด้วย เว้นเสียแต่คนนั้นจะมีร่างกายเป็นเหล็ก

ผลคือในวันแต่งงานนั้น พ่อของหลี่ซื่อหานสามารถก้าวผ่านวิกฤตมาได้ และตระกูลหลี่ต้องการจะยกเลิกงานแต่ง

อย่างไรก็ตาม หลี่ซื่อหานปฏิเสธอย่างแน่วแน่ และตัดสินใจว่าสามีและภรรยาจะอยู่ด้วยกันจนกว่าชีวิตจะหาไม่

ไม่ว่าจะเป็นความตกใจของครอบครัวหลี่ที่ต้องการยุติการแต่งงาน หรือความเจ็บป่วยบางอย่างในร่างกายของบุคคลเดิม

ทั้งคู่แต่งงานมาสามปีแล้ว แต่ไม่เคยร่วมหอกันเลย!

เมื่อวานเจ้าของร่างเดิมจู่ ๆ ก็ป่วยหนัก หวังหยวนจึงได้เข้ามาครองร่างเขาเมื่อเช้านี้

มองเห็นสาวน้อยร้องไห้ขี้มูกโป่ง หวังหยวนจึงลุกขึ้นยื่นมือออกไป

“อ๊า!”

หลี่ซื่อหานคุกเข่าคู้ตัวเอามือกุมศีรษะไว้และร้องไห้ "ท่านพี่อย่าตีข้าเลย สินเดิมของข้าขายหมดแล้วจริง ๆ!"

มือของหวังหยวนหยุดค้างอยู่กลางอากาศ

บุคคลิกของเจ้าของร่างเดิมได้รับการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ

ไม่เรียนหนังสือ สอบเป็นขุนนางเคอจวี่ วัน ๆ เอาแต่กินดื่มสำมะเลเทเมา ใช้จ่ายทรัพย์สินเงินทองอย่างสุรุ่ยสุร่าย

เขาข่มเหงรังแกภรรยาผู้งดงามของเขาด้วยวิธีต่าง ๆ นานา ไม่เพียงแต่ขายสินเดิม แต่ยังบังคับให้นางกลับไปที่บ้านแม่ของนาง เพื่อยืมเงินมาให้เขาไปใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย ทำให้นางทุกข์ทรมาน ร้องไห้น้ำตานองมาตลอด

หลี่ซื่อหานคิดว่านี่คือการร่วมสุขร่วมทุกข์ของชีวิตคู่

นางไม่เพียงไม่หนีหาย แต่ยังลากสังขารที่บาดเจ็บและอ่อนล้ามาปรนิบัติรับใช้เจ้าของร่างเดิม

"ท่านพี่อย่าตีข้า ข้าจะคิดหนทางหาเงินซื้อเหล้าซื้อเนื้อมาให้ท่าน!"

ใบหน้าเรียวเล็กเหมือนเม็ดแตงนั้นพนมมืออ้อนวอนขอร้อง หลี่ซื่อหานร้องไห้น้ำตาร่วงพรูเหมือนดอกสาลี่พรำฝน

"ข้าไม่อยากกินเหล้ากินเนื้อ จมูกเจ้าเปื้อน ข้าแค่จะช่วยเช็ดให้!”

เขาช่วยประคองหลี่ซื่อหานขึ้น หวังหยวนใช้แขนเสื้อเช็ดเขม่าถ่านที่เปื้อนจมูกนาง

หลี่ซื่อหานยิ่งรู้สึกหวาดกลัวมากขึ้นไปอีก!

ในช่วงสามปีที่ผ่านมา สามีนางทั้งตบตีและดุด่า บางครั้งก็พูดจาไพเราะ เกลี้ยกล่อมให้นางเอาสินสอดไปจำนำ หรือให้นางกลับไปบ้านแม่เพื่อขอยืมเงิน!

วันนี้อ่อนโยนได้ขนาดนี้ ต้องไถ่เงินนางเป็นแน่!

หวังหยวนพูดขอโทษด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล “เมื่อก่อนข้าผิดเอง วันหลังข้าจะไม่ตีเจ้าอีก!”

“ฮือ ๆ"

หลี่ซื่อหานน้ำตาคลอเบ้า “ท่านพี่ ท่านยืมเงินจากข้างนอกไปเท่าไหร่ ฤดูร้อนกลับบ้าน พี่ชายข้าบอกว่าจะไม่ให้ข้ายืมอีกแม้แต่แดงเดียว!”

หวังหยวนฝืนยิ้ม “ข้าไม่ได้ยืมเงินข้างนอก ไม่ให้เจ้ากลับบ้านแม่ไปยืมเงินด้วย!”

หลี่ซื่อหานยังคงสงสัยอยู่ “จริงรึ?”

หวังหยวนพยักหน้า “เชื่อข้าสิ!”

สาวน้อยที่ดีเช่นนี้ เอาตะเกียงส่องหาบนโลกก็ยังหาได้ยากยิ่ง

ทำไมเจ้าของร่างเดิมไม่รู้จักทะนุถนอมกันนะ

“ข้า ข้าจะเชื่อท่านอีกสักครั้ง!”

น้ำเสียงของหลี่ซื่อหานยังคงมีความขลาดกลัวอยู่

ทุกครั้งที่เชื่อคำหวานของสามี มักเสียใจภายหลังทุกที

หวังว่าครั้งนี้จะเป็นข้อยกเว้น

ปัง!

ประตูไม้ถูกผลักออกอย่างแรง

ชายวัยกลางคนสวมหมวกทรงสูงสีดำ และเสื้อคลุมดำคาดเข็มขัดสีแดง สวมรองเท้าบูทเดินเข้ามา

เขามองหลี่ซื่อหานตาเป็นมัน และมองไปทางชามดินเผาที่มีข้าวสาลีผสมถั่วและยิ้มฟันเหลืองออกมา “โอ้ น้องหวัง กินข้าวฟ่างจนเอียนแล้ว ก็เปลี่ยนรสชาติมากินข้าวสาลีผสมถั่ว ก็ใช่ หนึ่งวันกินข้าวต้มข้าวฟ่างสามมื้อ คงขับถ่ายออกมาแห้ง ๆ และลำบากเป็นแน่”

ในสมัยนี้หากจะอวดรวย กินข้าวต้มข้าวฟ่างได้ก็เอาไปอวดโม้ได้แล้ว

รู้สึกเหมือนคนคุ้นเคย แค่หวังหยวนกลับนึกไม่ออกว่าเจ้าของร่างเดิมเกี่ยวข้องอย่างไรกับเขา!

“หัวหน้าหลิว จะอวดร่ำอวดรวยว่าบ้านเจ้ามีเงินก็กลับไปที่หมู่บ้านเสี่ยวหลิวซะ อย่ามาเที่ยวอวดเบ่งที่หมู่บ้านต้าหวังของพวกเรา!”

หลี่ซื่อหานผู้งดงามมาอยู่ขวางหน้าหวังหยวนไว้ ราวกับว่าจะปกป้องเขา

“หัวหน้าหลิว!”

หวังหยวนนึกออกแล้ว

หลิวโหย่วไฉผู้ช่วยนายอำเภอ และยังเป็นหัวหน้าตำบลเป่ยผิง และหมู่บ้านใกล้เคียงอย่างหมู่บ้านเสี่ยวหลิวอีกด้วย

ทำหน้าที่รับผิดชอบในการจัดเก็บภาษีอากร ภาษีที่นา และภาษีเบ็ดเตล็ดของตำบลเป่ยผิง และนอกเวลางานให้ปล่อยกู้ยืมเงินดอกเบี้ยสูง

ครอบครัวใครก็ตามที่ป่วย หรือไม่จ่ายภาษีที่นา เขาจะมาที่บ้านเพื่อให้หยิบยืมเงิน

ด้วยวิธีการแบบนี้ เขาสามารถผนวกยึดครองที่ดินสามร้อยหมู่ และถือครองเป็นเจ้าของที่ดินขนาดเล็ก

“บ้านพวกเจ้า? นี่มันบ้านของข้า รวมถึงสาวน้อยน่ารักอย่างเจ้าด้วยในไม่ช้านี้ เบิกตาดูให้ชัด ๆ”

หลิวโหย่วไฉล้วงเอาเอกสารหลักฐานการกู้ยืมเงินออกมาจากแขนเสื้อ และคลี่มันออก

“บัณฑิตถงเซินหวังหยวน จากหมู่บ้านเสี่ยวหวัง ยืมเงินสามสิบกว้านจากหลิวโหย่วไฉแห่งหมู่บ้านต้าหลิว และจะคืนเงินต้นสี่สิบกว้านในหนึ่งเดือน โดยใช้ที่ดินบรรพบุรุษ ที่ดินสิบหมู่ทางตะวันออกของหน้าหมู่บ้าน และภรรยาหลี่ซื่อหานเป็นหลักประกัน ... "

เมื่อมองไปที่ลายมือที่เขียนชื่อลงไป ความทรงจำบางอย่างก็ปรากฏขึ้นมา หวังหยวนก็กัดฟันด้วยความเกลียดชัง

ครั้งหนึ่งเจ้าของร่างเดิมเคยเมาและถูกหลิวโหย่วไฉลากไปเล่นการพนันในเขตปกครอง แล้วเกิดอิจฉาตาร้อนจนต้องการยืมเงินและเขียนกู้ยืมเงิน

เพิ่งพูดจาดี ๆ กับหลี่ซื่อหาน เจ้าของร่างเดิมก็ทำเรื่องงามหน้าไม่ต่างจากพายุฝนฟ้าร้องเลย

ความเป็นอยู่ของผู้คนในเฉิงโจวนั้นยากจน และคนงานที่แข็งแรงสามารถหารายได้เพียงสามสิบหรือสี่สิบอีแปะต่อวันเท่านั้น

หนึ่งพันอีแปะเท่ากับหนึ่งกว้าน สามสิบกว้านไม่นับว่าเป็นดอกเบี้ย กรรมกรที่แข็งแรงต้องทำงานเป็นเวลาสามปี ไม่นับค่ากินดื่ม ค่าภาษีมหาโหด และการถูกเรียกเข้าเกณฑ์อีก

เงินจำนวนมากเช่นนี้ ทำให้เขาที่เรียนปริญญาเอกสองใบในสาขากลศาสตร์ และวัสดุศาสตร์ถึงกับต้องปวดหัว!

หลิวโหย่วไฉหรี่ตามองหลี่ซื่อหาน "สาวน้อย เจ้าหย่าแล้วมาแต่งกับข้าแล้ว ข้าประกันว่าให้เจ้าได้เลยว่า เจ้าจะกินดีอยู่ดี ไม่ต้องมาทนทุกข์ทรมานกับผู้ชายเสเพลคนนี้อีก!"

เพล้ง!

เพล้ง!

หลี่ซื่อหานหันกลับมามองหวังหยวน น้ำตาไหลอาบนองหน้านาง และทุบพื้นกระเบื้องนั้น

ที่สุดแล้วก็พลาดหลงเชื่อสามี!

สามีข่มเหงรังแกนางอย่างไรก็ได้ แต่นี่เขากลับใช้นางเป็นทรัพย์สินค้ำประกัน!

ในตอนนี้ หัวใจของนางเหมือนถูกมีดกรีด!

หวังหยวนไม่รู้จะปลอบนางอย่างไร เขาขมวดคิ้วมองหลิวโหย่วไฉ "เอาหลักฐานการยืมเงินมาและออกไปซะ!"

“ไอ้สารเลว เจ้าคิดจะหนีหนี้งั้นรึ?”

หลิวโหย่วไฉโบกหลักฐานการยืมเงินในมือและลุกขึ้น "เชื่อหรือไม่ว่า ข้ากลับไปที่หมู่บ้านเสี่ยวหลิว และสั่งให้คนสักสองร้อยคนมากระทืบเจ้า เจ้านายจะให้บ้าน ทุ่งนา และภรรยาของเจ้ากับข้าด้วย หลักฐานการยืมเงินแบบนี้ เจ้ากล้าที่จะหนีหนี้ อยากตายรึไง!"

หลี่ซื่อหานดึงแขนเสื้อของหวังหยวนและเช็ดน้ำตา "ท่านพี่หนีหนี้ไม่ได้นะ ข้าจะกลับไปบ้านแม่เพื่อยืมเงิน!"

หนีหนี้จะต้องไปที่ว่าการอำเภอทำการตัดสินก่อนโบย ร่างกายสามีนางเป็นแบบนี้ จะไปทนไหวได้อย่างไร!

"...ซื่อหาน ไม่จำเป็นต้องกลับไปยืมเงินที่บ้านแม่ ข้าจัดการเรื่องนี้ได้!"

หวังหยวนตกตะลึง

คิดไม่ถึงเลยว่าหลี่ซื่อหานยังยอมที่จะช่วยเจ้าของร่างเดิม

หลิวโหย่วไฉมองไปที่หวังหยวนอย่างเหยียดหยาม "ไอคนเสเพลอย่างเจ้า มีสิทธิ์อะไรจัดการมันได้! ถ้าข้าไม่เห็นสี่สิบกว้านในวันนี้ ข้าจะไม่ไปไหนทั้งนั้น"

หวังหยวนชี้ไปที่วันที่ในหลักฐานการยืมเงิน "เปิดตาสุนัขของเจ้าและมองให้ชัด ๆ ครบกำหนดหนึ่งเดือนแล้วหรือ?"

หลิวโหย่วไฉถึงกับสะอึก เขาได้ยินมาว่าหวังหยวนป่วยหนัก จึงรีบมาทวงหนี้ที่บ้าน ทะเลาะกันจนลืมไปเลยว่ายังเหลืออีกสามวันถึงจะครบกำหนดสัญญา “ข้าไม่เชื่อหรอกว่าไอคนเสเพลอย่างเจ้า ในสามวันจะมีปัญญาหาเงินสี่สิบกว้านมาได้?”

ความคิดเห็น (19)
goodnovel comment avatar
ออนกนก โพธิรักษ์
เปิดหน้าหลักได้ที่ไกนคะ
goodnovel comment avatar
ออนกนก โพธิรักษ์
ขอดูเรื่องที่อ่านค้างไว้
goodnovel comment avatar
Cynthia Galoso
make an English substitutions we can't read it.
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2

    หวังหยวนเลิกคิ้ว "ถ้าข้าทำได้ล่ะ?" หลิวโย่วไฉเผยสีหน้าเจ้าเล่ห์ "ถ้าเจ้าทำได้ ข้าจะไม่คิดดอกเบี้ย! แต่ถ้าทำไม่ได้ เจ้าจะต้องขายตัวเองเป็นคนรับใช้นายของข้า ว่าอย่างไรบ้าง?" หลี่ซื่อหานหน้าถอดสี “ท่านพี่ อย่ารับปากนะ!” เจ้าของที่ใจดำคนนี้ต้องการให้เขาขายตัวเองเป็นทาส หวังหยวนโกรธมาก แต่เขาเดินไปเขียนสัญญาสองฉบับและหยิบแผ่นหมึกสีแดงออกมา "เขียนชื่อและประทับนิ้วซะ!" “ได้!” หลังจากเขียนชื่อด้วยลายมือน่าเกลียด และประทับลายนิ้วมือสีแดงแล้ว หลิวโย่วไฉก็เดินจากไปด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์ คนเสเพลเช่นนี้ เขาไม่มีหาเงินสี่สิบกว้านได้ภายในสามวันอย่างแน่นอน แม้ว่าครอบครัวของสาวน้อยจะร่ำรวย แต่พวกเขาก็อยากให้นางทิ้งคนเสเพลพรรค์นี้อยู่เสมอ ดังนั้นการยืมเงินคงจะเป็นไปไม่ได้แน่ การเดิมพันครั้งนี้ จะได้ทาสมาฟรี ๆ และสามารถขายได้ต่อในราคาหลายสิบกว้านด้วย! เข้าใกล้เป้าหมายที่ตระกูลหลิวจะครอบครองที่ดินพันหมู่ไปอีกหนึ่งเก้า 'สามีภรรยา' ยืนอยู่ตรงข้ามกันในลานบ้าน “ซื่อหาน” หวังหยวนอยากจะปลอบนาง หลี่ซื่อหานเช็ดน้ำตา และรีบวิ่งเข้าไปในห้องนอน หวังหยวนเข้าใจว่านี่เป็นทำร้าย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-04-28
  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 3

    งานที่เหลือใช้แรงออกน้อยกว่ามาก แค่ล้างรากหญ้าแล้วบดในครกหิน หลังจากทำงานยุ่งมานาน หวังหยวนรู้สึกเหนื่อยมากจนปวดหลังไปหมด เขาจึงเอารากหญ้าที่ตำใส่ถังน้ำ จึงค่อย ๆ เดินทอดน่องไปที่ริมแม่น้ำ หวังหยวนเห็นพวกปลาแหวกว่ายอยู่ใต้น้ำ เขาจึงโรยแป้งหมี่ถั่วเหลืองและน้ำลงไป ด้วยเหยื่อที่วางลงไป จำนวนปลาที่รุมเข้ามามากขึ้นเรื่อย ๆ หวังหยวนค่อย ๆ เทของเหลวที่ได้จากการตำรากหญ้าลงไปอย่างระมัดระวัง เมื่อน้ำที่ได้จากการตำรากหญ้านั้นกระจายตัว ปลาที่ค่อย ๆ ลอยหงายท้องขึ้นมาจากน้ำ หนึ่งตัว! สองตัว! ... หลังจากนั้นสักพัก หวังหยวนก็จับปลาตัวใหญ่ได้แปดตัว และตัวเล็กอีกสิบห้าตัว ปลาตัวใหญ่หนักประมาณสองกิโลครึ่ง ตัวเล็กหนักประมาณสองร้อยห้าสิบกรัม ปลาที่เล็กกว่านี้ก็ปล่อยมันไป เมื่อพระอาทิตย์ตกดิน หวังหยวนก็กลับบ้านด้วยของที่เต็มตะกร้า ผ่านกระท่อมมุงหลังคาจากสี่หลัง คอกวัวและลานเล็ก ๆ ที่ล้อมรั้วทางด้านตะวันออกของหมู่บ้าน “ลุงหานซาน!” หวังหยวนตะโกนเรียกเขา เด็กน้อยน่ารักที่เหมือนตุ๊กตาตัวน้อยสวมเสื้อคลุมยัดนุ่นวิ่งออกมาจากเรือน ไปมองดูหวังหยวนในชุดคลุมตัวอย่างสงสัยและเขินอาย "หวั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-04-28
  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 4

    ในโลกนี้มีการตกปลา ตกเบ็ด จับปลา แต่ยังไม่มีใครวางยาปลา หวังหยวนยิ้มและพูดว่า "ข้าค้นพบเคล็ดลับการตกปลาและก็จับปลากลับมาได้ตั้งเยอะ รีบกินเร็วเข้า ระวังถูกก้างทิ่มเอาล่ะ!" “เคล็ดลับการตกปลา!” หลี่ซื่อหานที่สงสัยอยู่แล้วนั้น ยิ่งเจอความเป็นห่วงเอาใจใส่ของหวังหยวน ทำให้หัวใจของเธอเต้นแรงราวกับกวางที่ตกใจอีกครั้ง ทั้งสองคนก็กินปลาต่อไป ไม่รู้ว่าเจ้าของร่างเดิมไม่ค่อยได้กินปลาหรือเปล่า หรือเป็นเพราะปลาสดใหม่ หวังหยวนพบว่าปลาที่ทอดในน้ำมันหมูสักพัก และใส่เกลืออบรอสักสิบห้านาที และโรยด้วยผักป่า มันจะอร่อยมากซะกินจนหมดเกลี้ยง มาดูทางหลี่ซื่อหาน นางกินเหมือนแมวดมไม่มีผิด กินไปเพียงแค่ครึ่งชิ้นเท่านั้น “ท่านพี่ ข้าอิ่มแล้ว อีกครึ่งตัวนี้ข้ายังไม่ได้แตะมัน!” เห็นหวังหยวนมองมาที่นาง หลี่ซื่อหานก็วางตะเกียบลงแล้วผลักจานปลานั้นมา “ข้ากินอิ่มแล้ว แค่มองเจ้ากินปลาแบบนี้ก็น่ามองแล้ว รีบกินเถอะ!” หวังหยวนลุกขึ้นและออกจากห้องโถง เมื่อใดก็ตามที่มีเนื้ออยู่ในบ้าน หลี่ซื่อหานลังเลไม่กล้ากินมัน ปล่อยให้เจ้าของร่างเดิมกินก่อนเสมอ นี่จึงทำให้นางผอมลงจนผอมซูบ จนความงามแต่เดิมของนางก็หายไ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-04-28
  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 5

    หวังซื่อไห่เอามือจับชายแขนเสื้อตัวเองยืนน้ำลายไหลอยู่หน้าประตูบ้านหวังหยวน หวังหยวนถามว่า "เจ้าทำอะไรน่ะ?" ต้าหู่และเอ้อหู่ก้าวออกมาล้อมขนาบหวังซื่อไห่ทั้งซ้ายและขวา มายืนน้ำลายไหลบ้านพี่หยวนแต่เช้า เจ้าอันธพาลนี่ต้องคิดเรื่องไม่ดีอยู่แน่ ๆ หวังซื่อไห่ตกใจจนสะดุ้ง แล้วจึงรีบถอยออกไปจากประตู “ข้า ข้าอยากกินปลา!" ช่างหน้าด้านได้อย่างตรงไปตรงมา หวังหยวนส่ายหน้า “เจ้ามาช้าไป ปลาถูกกินหมดแล้ว!” “เช้ากินหมดแล้ว ยังมีตอนเย็นอีก แค่อยากกินปลาเอง ให้ข้าไปขุดรากหญ้ากับเจ้าก็ได้นะ ไม่มีปัญหา” เมื่อวานที่เดินเตร็ดเตร่อยู่นั้น พบว่าที่บ้านหวังหยวนนั้นกินปลา และบ้านหวังหานซานก็ได้กินปลาเช่นกัน เดินมาแต่เช้าก็พบว่าบ้านหวังหยวนก็กินปลา และพ่อลูกหวังหานซานด้วย เมื่อนึกถึงที่หวังหยวนพูดถึงประโยชน์ เขาเข้าใจแล้วว่าเขาพลาดอะไรไป ปลาสองมื้อ! หวังหยวนกระพริบตา "งั้นไปเอาไข่สองฟองก่อน" ในชนบทแม้ว่าจะมีผู้เลี้ยงไก่อยู่ไม่กี่ราย แต่ไข่ทั้งหมดจะถูกเก็บไว้และขายเป็นเงิน กว่าจะได้ไข่สองฟองไม่ใช่เรื่องง่ายเลยจริง ๆ "...ตกลง!" หวังซื่อไห่กัดฟันและหันกลับมา หวังหานซานเตือนว่า "หวังหยว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-04-28
  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 6

    หวังหยวนยิ้มและพูดว่า "ท่านหัวหน้า ข้าแบ่งปลาให้ท่านได้ไม่มีปัญหา และข้านั้นจะแบ่งหนี้สี่สิบกว้านของข้าให้ท่านด้วย! ถ้าหากท่านไม่อยากใช้หนี้ ก็แบ่งที่ดินสองร้อยแปดสิบหมู่ของบ้านท่านให้ข้าสักสิบหมู่ ที่ดินของบ้านข้าติดจำนองอยู่" “ไอเด็กเจ้าเล่ห์!” หวังปี่จงเดินจากไปอย่างหงุดหงิด ข้าแค่อยากได้ปลาเจ้าตัวเดียว เจ้าจะให้ข้าแบกหนี้ไปด้วย และยังให้ข้าแบ่งที่ให้อีกหลายสิบหมู่อีก ไอคนเสเพลพรรค์นั้น ยังมีหน้าพูดออกมาได้อีก “ท่านหัวหน้า อย่างเพิ่งไปสิ ข้าแค่ล้อท่านเล่นเท่านั้น อย่าโมโหไปเลย!” หวังหยวนตะโกนไล่หลังมา จับปลาได้มากมาย หากมีใครขอแค่สักตัวสองตัว เขาย่อมให้ได้อยู่แล้ว แต่นี่มาใช้ศีลธรรมบีบบังคับเขาให้แบ่งปลาให้คนทั้งหมู่บ้าน แล้วตัวเองได้ความดีความชอบไป แบบนี้มันไม่ได้ หวังปี่จงโมโหกระฟัดกระเฟียดไม่หันกลับมา เมื่อเห็นแผนการของหวังหยวนแล้ว ชาวบ้านต่างโห่ร้องและหัวเราะออกมา เจ้าอยากได้ของของข้า ข้าก็อยากได้ของของเจ้า เจ้าไม่ให้ข้า ข้าจะให้เจ้าไปทำไม หวังหยวนยกมือแสดงความคารวะ "พ่อแม่ พี่น้อง ลุงป้า น้าอาทุกท่าน ตอนนี้ทุกคนต่างรู้เรื่องของข้า ปลาเหล่านี้ต้องนำไปขายเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-04-28
  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 7

    “อืม ท่านพี่!” “อย่าเรียกท่านพี่สิ เรียกเหล่ากง!” “...ไม่ได้!” “ทำไม?” “ท่านพี่ เหล่ากงคือคำใช้เรียกขันที ท่านแค่ป่วย หาหมอดูอาการก็ดีขึ้นแล้ว ทำไมต้องดูถูกตัวเองแบบนี้ด้วย!” "...เหล่ากงคือคำใช้เรียกขันที???” "คำใช้เรียกขันทีถูกเรียกแตกต่างกันไปในแต่ละราชวงศ์ที่ผ่านมา พวกเขาเรียกขันทีอย่างเป็นทางการว่าหวางเหมินและเตียวตัง บางคนได้รับเกียรติยกย่องเป็นเน่ยกว้าน เน่ยเฉิง จงกว้าน และจงกุ้ย นอกจากนี้ยังมีชื่อที่เสื่อมเสียเช่น เน่ยซู่ เหยียนเฉิน ไท่เจี้ยน เหยียนเหริน และเหล่ากง ขันทีก็เรียกว่าเหล่ากงเจ้าค่ะ" “...ทำไมเจ้าถึงรู้เยอะนัก?” “...ตอนเด็ก ๆ มีหมอดูผ่านบ้านข้า บอกว่าข้ามีดวงชะตานางหงส์ ท่านพ่อจึงอบรมให้ข้าเป็นกุลสตรี สอนมารยาทและธรรมเนียมในวังให้ด้วย” “ดวงชะตานางหงส์?” “ท่านพี่อย่าโกรธไปเลย หมอดูคนนั้นเป็นนักต้มตุ๋น ข้าจะไปมีดวงชะตานางหงส์ได้อย่างไร! หลังจากแต่งงานกับท่านแล้ว ตราบใดที่สามียังต้องการข้า ข้าก็จะรับใช้ท่านตลอดไป” ...ในวันรุ่งขึ้น หวังหานซานขับเกวียนล่อขนปลาลงในถังไม้ขนาดใหญ่พวกเขาทั้งห้าก็เตรียมตัวออกเดินทาง หลี่ซื่อหานหยิบถุงผ้าสีแดงยัดใส่มื

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-04-28
  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 8

    “เคารพเจ้าถิ่น?” เห็นท่าทางของคนกลุ่มนี้ หวังหยวนก็นึกขึ้นมาได้ "พวกเจ้ามาที่นี่เอาค่าคุ้มครองใช่ไหม?" ต้าหู่ เอ้อหู่กำหมัดแน่น และมายืนหลังหวังหยวน หวังหานซานขมวดคิ้วแน่น หวังซื่อไห่พูดเสียงทุ้มต่ำ “หวังหยวน ยุ่ง ๆ เลยไม่ได้บอกเจ้า นี่เป็นลูกพี่ใหญ่ค้าปลาของตลาดตะวันตก ‘น่าวซานเจียง’ มีลูกน้องตั้งสิบยี่สิบคน ไม่ว่าใครมาขายปลาต้องจ่ายส่วยให้เขาสองส่วนด้วยย” “สองส่วน?” หวังหยวนโกรธมาก “พวกเจ้าเก็บแพงกว่าทางการตั้งมากโข?” ลำบากลำบนทำงานอย่างหนักอยู่สองวันเพื่อจับปลา ตื่นตั้งแต่ฟ้ายังไม่สางเพื่อเข้าเมือง ทางการเก็บภาษีค้าขายแค่หนึ่งในสิบ แต่พวกอันธพาลเหล่านี้กล้าที่จะเก็บตั้งสองในสิบได้ เอ้อหู่จ้องเขม็งแม้แต่ต้าหู่ที่ใจเย็นและนิ่งอยู่เสมอยังกำมือแน่น จนเส้นเลือดปูดโปนไปหมด แท้จริงแล้วพวกอันธพาลเหล่านี้มีเอาเปรียบขูดเลือดขูดเนื้อได้โหดเหี้ยมมากกว่าทางการเสียอีก หวังหานซานจ้องไปที่ลูกชายทั้งสองแล้วส่ายหน้า “อยากขายปลาที่ตลาดนี้ก็ต้องจ่ายมาสองในสิบ นี่เป็นกฎของตระกูลซาที่นี่ ไม่งั้นก็ทิ้งปลาไว้ แล้วไสหัวไปซะ” น่าวซานเจียงยกมือขึ้นข่ม ทั้งแปดขึ้นที่ก้าวเข้ามา มีทั้งก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-04-28
  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 9

    มีชายวัยกลางคนเดินมาจากไกล ๆ เขาสวมหมวกทรงสูงขอบแดงสีดำ เสื้อสีน้ำเงินปักขอบสีแดง มีคำว่า "จับ" ที่ตรงกลางหน้าอก พร้อมด้วยรองเท้าบูทผ้าสีดำ และเหน็บดาบยาวที่เอว เขาไม่สูงไม่เตี้ย มีแววตาที่ดูเฉลียวฉลาดอยู่บ้าง โดยรวมแล้วก็ดูธรรมดาทั่วไป อย่างไรก็ตาม ทันทีที่เขาปรากฏตัว ทั้งตลาดก็เงียบลง ความโกรธในดวงตาของพ่อค้าหายไปอย่างไร้ร่องรอย และรอยยิ้มที่ประจบสอพลอปรากฏขึ้นบนใบหน้าของพวกเขา นี่คือเจ้าหน้าที่สายตรวจในตลาดตะวันตก ใต้เท้าในสายตาทุกคน ชื่อจริงชื่อซิงซาน เจ้าหน้าที่สายตรวจคนหนึ่ง แม้ว่าจะไม่ได้ใหญ่โตในเมืองนัก แต่ก็ไม่ใช่ใครไปลบหลู่ได้ นอกจากนายอำเภอ เจ้าหน้าที่ปกครอง ที่ว่าการอำเภอยังมีอีกแปดขั้น ส่วนที่เหลือเป็นข้าราชการชั้นผู้น้อย สายตรวจ เจ้าหน้าที่ในสำนักงาน... ล้วนเรียกรวมกันว่า "เจ้าหน้าที่" แม้ว่า 'เจ้าหน้าที่' เหล่านี้จะไม่มียศ แต่พวกเขาได้มีบันทึกชื่อในกรมข้าราชการพลเรือน มีอาชีพที่มั่นคง เมื่อพ่อตายก็สืบต่อให้ลูกได้ เจ้าหน้าที่แต่ละคนมีผู้ช่วยหลายสิบคน เพื่อช่วยงานราชการให้งานสำเร็จเรียบร้อย เจ้าหน้าที่ไม่รับค่าตอบแทน แต่เมื่อพวกเขาอยากพึ่งพาก็ต้องเอาสิน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-04-28

บทล่าสุด

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2046

    น้ำเสียงของประมุขพรรคทมิฬเย็นยะเยือกน่าสะพรึงกลัว แววตาเต็มไปด้วยเจตนาฆ่าราวกับพร้อมจะฆ่าทุกคน!โอวหยางอวี่หวาดผวา เสื้อด้านหลังเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อเย็น!เหงื่อเม็ดใหญ่ผุดขึ้นบนหน้าผาก!ตอนนี้เขาอยากรู้ความจริงโดยเร็ว!ไม่มีทางที่หลิ่วหรูเยียนจะยังมีชีวิตอยู่!“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ พวกเราต้องเตรียมรับมือ!”ทันใดนั้น ชายสวมชุดดำคนหนึ่งก็เดินออกมาเขาเป็นหนึ่งในสี่องครักษ์ผู้มีอำนาจสูงส่ง“ลั่วเฉิน!”“นับจากนี้เจ้าจงรับผิดชอบองครักษ์นองเลือด!”“ข้าได้รับข่าวมาแล้ว จึงรู้เส้นทางของพวกหวังหยวน และเพิ่งรู้ว่าหลิ่วหรูเยียนยังมีญาติอยู่!”“ห้ามปล่อยให้คนผู้นั้นเข้าเมืองอู่เจียงได้!”“ต้องฆ่าให้ได้!”“แม้ว่าหวังหยวนจะช่วยชีวิตหลิ่วหรูเยียน แต่หลิ่วหรูเยียนก็คงจะนึกถึงความสัมพันธ์ระหว่างข้ากับนาง คงไม่ยอมบอกที่ตั้งฐานทัพของเราให้หวังหยวนรู้!”“แต่หากเกาเล่อสืบจนรู้ความจริง แล้วพาญาติของหลิ่วหรูเยียนมาพบ หลิ่วหรูเยียนอาจจะทรยศพวกเรา ทำให้พวกเราเสียเปรียบ!”“จำไว้! ต้องฆ่าคนผู้นั้นให้ได้!”“และส่งคนไปสืบที่เมืองอู่เจียง ดูว่าหลิ่วหรูเยียนยังมีชีวิตอยู่หรือไม่!”ประมุขพรรคทมิฬออกคำ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2045

    “ข้าไม่ได้ไม่เชื่อใจเจ้า!”หวังหยวนกล่าวด้วยรอยยิ้ม“เพียงแต่ข้ารู้ว่าเจ้าเกลียดชังพรรคทมิฬยิ่งนัก จึงอาจมองพวกเขาในแง่ลบเกินไป ข้าแค่อยากให้เจ้าใจเย็นสักหน่อย อย่าได้บิดเบือนข้อเท็จจริงเพื่อหลอกล่อให้หลิ่วหรูเยียนบอกความจริง”“หากเป็นเช่นนั้น เมื่อหลิ่วหรูเยียนรู้ความจริง เรื่องราวคงจะยุ่งยากยิ่งกว่าเดิม!”“เมื่อถึงเวลานั้น การจะล้วงข้อมูลจากนางคงจะเป็นเรื่องยาก!”เกาเล่อพยักหน้า ไม่ได้เอ่ยสิ่งใดแต่เขารู้ดีว่าตนเองทำอะไรอยู่ จึงไม่ได้ใส่ใจคำพูดของหวังหยวน!ยิ่งกว่านั้น เขายังตระหนักถึงมิตรภาพระหว่างเขากับหวังหยวนมากขึ้นด้วย!ไม่มีสิ่งใดมาขวางกั้นได้!หวังหยวนจะสงสัยและตำหนิเขาได้อย่างไร?ยิ่งไปกว่านั้น สิ่งที่เขากล่าวล้วนเป็นความจริง!“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าจะไม่จัดงานเลี้ยงต้อนรับเจ้าแล้ว”“เจ้าคงเหนื่อยล้าจากการเดินทาง รีบไปพักผ่อนเถิด”“เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจนี้ ข้าจะตอบแทนเจ้าอย่างงาม!”หวังหยวนกล่าวด้วยรอยยิ้มเกาเล่อพยักหน้า แล้วจากไป เป็นเช่นที่หวังหยวนกล่าว เขารู้สึกเหนื่อยล้าเป็นอย่างยิ่งเพราะช่วงนี้เขาทำงานหนักจนดึกดื่นทุกวันเพื่อสืบหาความจริงโดยเร็ว โชคดีที่

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2044

    “ข้าคิดว่าเจ้าคงรู้ดีใช่หรือไม่?”เกาเล่อกล่าวอย่างหนักแน่น“เท่าที่ข้ารู้ คนที่ลงมือทำร้ายเจ้าครั้งนี้คือพรรคทมิฬ! แม้ว่าข้าจะไม่รู้ว่าพวกเจ้ามีความขัดแย้งอะไรกัน แต่ข้ารู้สึกว่าเจ้าคงหมดประโยชน์แล้ว พวกเขาจึงคิดกำจัดเจ้า!”“เพราะเจ้ารู้ความลับมากมาย พวกเขาคงไม่ปล่อยเจ้าไป!”เกาเล่อกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาหลิ่วหรูเยียนกัดฟันแน่น ไม่เอ่ยคำใดแม้ว่านางจะไม่อยากเชื่อ แต่ความจริงก็ดูเหมือนจะเป็นเช่นนั้น...หลิ่วหรูเยียนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จึงเอ่ยขึ้นว่า “ข้าจะเชื่อเจ้าได้อย่างไร?”“เพียงแค่จดหมายฉบับนี้จะทำให้ข้าเชื่อเจ้าได้หรือ?”แม้ว่าคนของพรรคทมิฬจะไม่น่าไว้ใจ แต่เกาเล่อก็ไม่ต่างกันไม่ใช่หรือไง?บางทีหวังหยวนอาจจะแค่ต้องการใช้ประโยชน์จากนางก็เป็นได้!เพราะต้องการล้วงข้อมูลจากนางเพื่อไปจัดการพรรคทมิฬ!“ข้าพบญาติสายตรงของเจ้าแล้ว!”“เจ้าแค่ไปพิสูจน์กับเขาก็จะรู้เองว่าข้าพูดจริงหรือไม่?”เกาเล่อกล่าวพลางดื่มน้ำชาในเมื่อเขากลับมาแล้ว ฤก็แสดงว่าสืบเรื่องทุกอย่างจนกระจ่างแล้ว ไม่เช่นนั้นจะมาพูดเช่นนี้ได้อย่างไร?ดวงตาของหลิ่วหรูเยียนเบิกกว้าง รีบถามว่า “ข้ายังมีญาติอยู่หรือ?”

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2043

    “ข้ารีบเดินทางกลับมาเมื่อคืนนี้ และได้สืบเรื่องที่ท่านสั่งไว้เรียบร้อยแล้วขอรับ!”เกาเล่อโค้งคำนับก่อนจะรายงานหวังหยวนเมื่อเขากลับมาถึงก็รีบมาหาหวังหยวนทันที เมื่อรู้ว่าหวังหยวนอยู่ที่สวนหลังวังจึงรีบตามมาที่จริงแล้วเขาเห็นหวังหยวนกับหลิ่วหรูเยียนทะเลาะกันอยู่ จึงไม่ได้เข้าไปขัดจังหวะแต่ต้องยอมรับว่าแม้ว่าทั้งสองจะทะเลาะกัน แต่กลับให้ความรู้สึกเหมือนคู่สามีภรรยาที่มักจะมีปากเสียงกันเสมอ“ท่านให้เขาไปสืบเรื่องอะไร?”หลิ่วหรูเยียนรีบคว้ามือหวังหยวนพลางถามขึ้นนางมีความรู้สึกว่าเรื่องนี้ต้องเกี่ยวข้องกับนาง!เจียงเสี่ยวอวี๋ยืนอยู่ข้าง ๆ ไม่ได้เอ่ยคำใดหวังหยวนยกยิ้ม แล้วกล่าวว่า “ไม่ใช่ว่าเจ้าจะไปแล้วหรือ? ยังจะมายุ่งเรื่องนี้เพื่ออะไร?”“ท่าน...”หลิ่วหรูเยียนกัดฟัน ช่างเป็นผู้ชายที่น่าโมโหนัก!ให้เขาลงจากบันไดแล้วยังไม่ยอมลงอีกหรือ?หากผู้ชายทั้งโลกเป็นเหมือนหวังหยวน นางขออยู่เป็นโสด ไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับผู้ชายเช่นนี้!ไม่เช่นนั้นคงต้องตายเพราะความโมโห!“ไป!”“พวกเราไปคุยกันที่อื่นดีกว่า”หวังหยวนมองไปที่เกาเล่อ แล้วพาเขาไปยังห้องโถงใหญ่เป็นไปตามที่เขาคาด แม้จะไม่ได้ช

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2042

    “เช่นนั้นท่านก็บอกข้ามาสิ ข้าอยากรู้ว่าข้านั้นด้อยตรงไหน?”“ใครบ้างไม่รู้ว่าในบ้านท่านมีภรรยาโฉมงามหลายคน แต่แล้วอย่างไรเล่า?”“หากท่านเป็นสุภาพบุรุษจริงคงไม่หาภรรยามามากมายเช่นนี้หรอก!”เจียงเสี่ยวอวี๋ที่นั่งอยู่ข้าง ๆ หัวเราะไม่หยุดคนทั้งสองนี้ช่างน่าสนใจ ไม่ว่าจะพบกันเมื่อใดก็ต้องทะเลาะกันเสมอ!หวังหยวนกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ข้าจะเป็นสุภาพบุรุษหรือไม่ เจ้าไม่จำเป็นต้องรู้ แล้วข้ามีภรรยากี่คน เกี่ยวกับเจ้าอย่างไรไม่ทราบ?”“ผู้ชายมีสามภรรยาสี่อนุไม่ใช่เรื่องปกติหรือ?”“ลองดูฮ่องเต้ในยุคนี้สิ มีนางสนมตั้งหลายร้อยคนไม่ใช่หรือ?”“แม้ว่าข้าจะไม่ใช่ฮ่องเต้ แต่ข้าก็เป็นผู้ชาย พวกนางอยากอยู่กับข้า เจ้าจะทำอะไรได้?”ช่างพูดจาคารมคมคาย!น่าโมโหยิ่งนัก!หลิ่วหรูเยียนกลอกตามองหวังหยวน ก่อนจะเลิกสนใจเขาอีกหวังหยวนขี้เกียจต่อล้อต่อเถียง มีคนกล่าวว่าสตรีและคนถ่อยคบด้วยได้ยาก วันนี้เขาเข้าใจแล้วว่าคำกล่าวนี้ถูกต้อง!อย่างน้อยหลิ่วหรูเยียนตรงหน้าเขาก็ยังร้ายกาจกว่าคนถ่อยด้วยซ้ำ!“อะแฮ่ม”ขณะที่ทั้งสองกำลังเถียงกันก็มีเสียงกระแอมเบา ๆ ดังขึ้น เจียงเสี่ยวอวี๋รีบยืนขวางหน้าทั้งสอง แล้วกล่

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2041

    “ขอรับ!”เกาเล่อรับคำ แล้วเดินจากไป เมื่อชายชาติทหารได้รับภารกิจ ย่อมต้องทำให้สำเร็จแม้ต้องแลกด้วยชีวิต!หวังหยวนนั่งจิบชาอย่างสบายอารมณ์ มีเกาเล่อเป็นคนจัดการจึงไม่ต้องกังวลอะไร!เขารู้ดีว่าเมื่อสืบหาชาติกำเนิดของหลิ่วหรูเยียนได้แล้ว ก็จะทำให้นางยอมบอกทุกอย่างที่รู้ เมื่อถึงเวลานั้นจึงจะสามารถกำจัดพรรคทมิฬได้!นี่คือสิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้!...ในช่วงครึ่งเดือนต่อมา หลิ่วหรูเยียนยังคงนอนพักรักษาตัวอยู่บนเตียง เนื่องจากบาดแผลสาหัส การที่นางรอดชีวิตมาได้ก็นับว่าโชคดีมากแล้ว จึงต้องพักรักษาตัวให้หายดี!แต่กลับไม่มีข่าวคราวใดจากเกาเล่อระหว่างนั้น เขาเคยส่งจดหมายมาบอกหวังหยวนว่าคนของพรรคทมิฬเหมือนจะรู้ว่าพวกเขากำลังสืบเรื่องของหลิ่วหรูเยียนอยู่ จึงทำให้เกาเล่อทำงานลำบากแต่โชคดีที่หลายปีมานี้ เกาเล่อได้สร้างองค์กรเครือข่ายผีเสื้อให้เป็นองค์กรข่าวกรองอันดับหนึ่งในใต้หล้า ครั้งนี้เขายังพาลูกน้องฝีมือดีไปด้วย หากให้เวลาเขาอีกสักหน่อย เขาย่อมสามารถแก้ปัญหาได้แน่!แต่ก็มีข่าวดีเช่นกัน อาการป่วยของหลิ่วหรูเยียนนั้นเริ่มดีขึ้น หากเป็นเช่นนี้ต่อไป อีกครึ่งเดือนนางก็จะหายเป็นปกติดิน

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2040

    แน่นอนว่านางไม่ได้สนใจคำพูดของหวังหยวน ประชาชนทั่วหล้าเกี่ยวอะไรกับนาง?นางเป็นเพียงคนอาภัพคนหนึ่ง จะไปสนใจผู้อื่นเพื่ออะไร?ช่างน่าขันสิ้นดี!“ได้สิ!”“เจ้าเชื่อใจข้าได้!”“อย่าลืมว่าข้ามีองค์กรข่าวกรองที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก!”“เพียงข้าเอ่ยปาก พวกเขาก็จะรีบสืบหาชาติกำเนิดของเจ้า ไม่นานก็คงมีข่าวดี รับรองว่าเจ้าจะต้องพอใจ!”“ข้าเป็นคนรักษาคำพูด และไม่เคยผิดสัญญากับสตรี!”หวังหยวนกล่าวอย่างหนักแน่นเขาไม่ได้ล้อเล่น ความสามารถขององค์กรเครือข่ายผีเสื้อเหนือกว่าองค์กรข่าวกรองของอีกสามกองกำลังเป็นอย่างมาก!ไม่ใช่เพียงเพราะหวังหยวนทุ่มเงินจำนวนมากให้กับองค์กรเครือข่ายผีเสื้อเท่านั้น แต่ยังเป็นเพราะเกาเล่อด้วย!เขาเป็นบุคลากรชั้นเยี่ยมที่หาได้ยาก!มีเกาเล่ออยู่เคียงข้าง จึงไม่ต้องกังวลอะไร!หลิ่วหรูเยียนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จึงเอ่ยขึ้นว่า “ขอข้าคิดดูก่อน ให้เวลาข้าสักหน่อยได้หรือไม่?”“ได้!”“เช่นนั้นข้าจะรอคำตอบจากเจ้า”หลังจากพูดจบ หวังหยวนก็ออกจากห้องไปช่วงนี้หลิ่วหรูเยียนพบเจอเรื่องราวต่าง ๆ มากมาย ไม่ว่าใครก็ตามคงต้องใช้เวลาทำใจหลิ่วหรูเยียนก็เช่นกันหวังหยวนจะไม่บีบค

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2039

    “ข้าไม่อยากให้เป็นเขา...”“เพราะว่า...”หลิ่วหรูเยียนพูดไม่ออก แต่หวังหยวนเข้าใจดีว่าทั้งสองคนมีความสัมพันธ์ที่ไม่ธรรมดาแม้จะไม่ใช่สามีภรรยา ก็คงเป็นคู่รักหากถูกคนรักลงมือทำร้าย ใครจะรับได้?ยิ่งเป็นสตรีด้วยแล้ว จะไม่ยิ่งเสียใจได้อย่างไร?“ข้าสงสัยว่าเหตุใดสตรีโฉมงามเช่นเจ้าจึงยอมทำงานให้พรรคทมิฬ?”“มีเรื่องราวอะไรซ่อนเร้นอยู่หรือไม่?”หวังหยวนถามขึ้นอีกครั้ง“ใช่แล้ว”“ข้าเป็นเด็กกำพร้า ถูกท่านประมุขเก็บมาเลี้ยง เขาเคยบอกข้าว่าเป้าหมายของพรรคทมิฬคือการปลดปล่อยประชาชน ไม่ให้พวกเขาต้องทุกข์ยาก”“สงครามที่เกิดขึ้นต่อเนื่องทำให้ประชาชนเดือดร้อน หากพรรคทมิฬรวมแผ่นดินได้ ย่อมจะทำให้ใต้หล้าสงบสุข”“ข้าจึงเชื่อคำพูดของเขา”“แต่บัดนี้ดูเหมือนว่าเรื่องราวจะไม่ได้เป็นเช่นนั้น เขาแค่ต้องการอำนาจเท่านั้น”หลิ่วหรูเยียนไม่ใช่คนโง่เขลา แต่เป็นสตรีที่เฉลียวฉลาดการจะหลอกลวงนางจะเป็นเรื่องง่ายได้อย่างไร?ตอนที่นางยังเด็กย่อมไม่รู้อะไรมากมาย แต่เมื่อนางมาอยู่ที่เมืองอู่เจียง แล้วได้พบปะผู้คนมากขึ้น จึงเริ่มระแวง และความคิดก็เปลี่ยนไปมากเป้าหมายของพรรคทมิฬคงไม่ได้ใสซื่อเช่นนั้น!ไม่

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2038

    จากนั้นหลิ่วหรูเยียนก็ไอออกมาสองสามครั้งนางเพิ่งฟื้น ร่างกายจึงอ่อนแอมากเจียงเสี่ยวอวี๋รีบยื่นน้ำให้นาง ก่อนจะช่วยพยุงนางให้ดื่มน้ำ เสียงไอจึงค่อยบรรเทาลงแต่ใบหน้าของหลิ่วหรูเยียนยังคงซีดเผือด แสดงให้เห็นว่านางบาดเจ็บสาหัสเพียงใด“ในเมื่อพี่หรูเยียนฟื้นแล้ว เจ้าก็อย่ามัวอยู่ที่นี่ต่อเลย”“ข้ามีเรื่องต้องคุยกับหลิ่วหรูเยียน เจ้าออกไปก่อนเถิด”หวังหยวนไล่เจียงเสี่ยวอวี๋ทางอ้อมหลิ่วหรูเยียนนอนนิ่งบนเตียง หลับตาพักผ่อนตลอดเวลาแม้ว่าเจียงเสี่ยวอวี๋จะไม่เต็มใจ แต่ก็จำต้องออกจากห้องไปก่อน“ข้าไม่ไป!”“สองวันนี้ข้าจะอยู่ที่วังแห่งนี้เพื่อช่วยดูแลพี่หรูเยียน!”“และป้องกันไม่ให้ท่านรังแกนางด้วย!”เมื่อเห็นว่าหวังหยวนไม่ได้สนใจตน เจียงเสี่ยวอวี๋จึงพูดขณะเดินออกไปว่า “เช่นนั้นข้าจะรออยู่หน้าประตู รอจนกว่าพวกท่านจะคุยกันเสร็จ แล้วข้าจะเข้าไปอยู่เป็นเพื่อนพี่หรูเยียน”เมื่อเจียงเสี่ยวอวี๋ออกจากห้องไปแล้ว หวังหยวนก็เดินไปข้างเตียงหลิ่วหรูเยียน แล้วมองลงมาที่นาง“หากคนของข้าไปพบเจ้าไม่ทัน เจ้าคงตายไปแล้ว”“เมื่อครู่เจ้าพูดเช่นนั้น แสดงว่าเจ้ารู้ว่าใครเป็นคนทำร้ายเจ้าใช่หรือไม่?”ห

DMCA.com Protection Status