ฉันอยู่ที่ไหนเนี่ย? ...ตื่นขึ้นมาฉันก็นอนอยู่บนเตียงของตัวเองในตอนเช้าแล้ว พอฉันขยับตัวถึงได้รู้ว่าเนื้อตัวปวดหนึบไปหมด จำได้ว่าร่วมรักอยู่กับแซคเมื่อคืน โพรงรักของฉันที่ยังแสบ ๆ อยู่เป็นหลักฐานได้ ผลจากการให้บริการทั้งแซคธรรมดา และแซคสายดาร์ก
เจ็บจัง…ไปอาบน้ำอุ่นแล้วหาอะไรกินดีกว่า น่าจะใกล้เที่ยงแล้ว…
โทรศัพท์ของฉันสั่นขึ้นมา ใครส่งข้อความมานะ? ฉันเอื้อมมือไปคว้ามือถือ
‘ไปซื้อยาคลุมมาซะ ฉันชอบทำแบบดิบเท่านั้น’
ข้อความจากเอ็ดเวิร์ดปรากฏขึ้นมา…
ฉันไม่สนใจข้อความของเขา ก็ฉันไม่ต้องการพบเขาอีกแล้ว ฉันถอนหายใจแล้วเดินไปเข้าห้องน้ำ
ฉันมองร่างเปลือยเปล่าในกระจกเพราะรู้สึกช้ำไปหมด สองหนุ่มทำฉันหนักเกินไป ทั้งเอ็ดเวิร์ดและแซค…ฉันรู้สึกเหมือนเป็นโสเภณีที่ถูกใช้งานมากเกินไปและได้รับค่าจ้างโคตรต่ำ
แล้วดูสิ…แซคกัดที่ไหล่ของฉันทิ้งรอยแดงน่าเกลียดไว้อีก เขามักทำให้เขาทิ้งรอยไว้บนร่างกายของฉันทุกครั้งที่เราร่วมเพศกัน เป็นเพราะนิสัยขี้หวงของเขาโดยแท้
หลังจากอาบน้ำเสร็จ ฉันก็สวมชุดเดรสสีขาวพิมพ์ลายดอกกุหลาบสีชมพูกับกระโปรงยาวลงมาถึงเข่า อย่างน้อยที่สุดที่ฉันทำได้ก็คือแต่งตัวให้ดูสวยและแสดงสีหน้าร่าเริงเพื่อลูเซียนที่ฉันรัก
ฉันเดินลงบันไดไปที่น้ำพุเพื่อตามหาลูเซียน ฉันเฝ้ารอวันหยุดสุดสัปดาห์มาตลอดเพราะเป็นวันที่จะได้อยู่บ้านเงียบๆ กับเขาสักที
“ในที่สุดเจ้าหญิงของฉันก็มาถึง!” ลูเซียนทักทายจากโซฟาในห้องนั่งเล่นด้วยรอยยิ้มสดใส เรากอดกันและฉันก็จูบแก้มเขาอย่างไร้เดียงสา ถ้าเพียงแต่ฉันมีความกล้าที่จะทำมากกว่านี้
หลังจากนั้นไม่นานฉันก็รู้สึกได้ถึงสายตาที่กำลังจ้องพวกเราอยู่
“โอ้ เอ็ดเวิร์ด มาพอดี เขามารอพาหนูออกไปช้อปปิ้ง เห็นบอกว่ามีหลายอย่างที่หนูต้องใช้ในการฝึกงาน” ลูเซียนพูดอย่างเป็นกันเองในขณะที่เอ็ดเวิร์ดย่างก้าวเข้ามาด้วยท่าทางมั่นใจ
ฉันเกลียดความจองหองของเขา แต่ฉันก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเขาดูเท่มากในชุดสูทสามชิ้นสีน้ำเงินกรมท่า ท่าทางของเขาแตกต่างออกไปจากตอนที่เขาสวมเสื้อโค้ทแล็บเป็นอย่างมาก ว่าแต่เขามาที่นี่เพื่ออะไรกันแน่?
“นาตาลี!พวกเราจะต้องเข้าประชุมกับลูกค้าสำคัญสัปดาห์หน้า ไปช้อปปิ้งกัน อาอยากจะซื้อของให้เธอเพื่อเป็นการขอบคุณที่เธอช่วยงานพวกเราเป็นอย่างดี ถือว่าเป็นของตอบแทนจากอา” เอ็ดเวิร์ดพูดด้วยรอยยิ้มและโน้มตัวเข้ามาจูบที่แก้มซ้ายของฉัน ฉันยืนตัวแข็งทื่อไม่ตอบสนองรอยจูบของเขา…
“แล้วคุณล่ะ ลูเซียน?ไปด้วยกันไหม?" ฉันถามลูเซียน ได้โปรด ไปเถอะ…
“ฉันก็อยากไปนะ แต่ฉันมีนัดกับแองเจล่าและพ่อของเธอ… พวกคุณสองคนช้อปกันให้สนุกเถอะนะ” ลูเซียนตอบด้วยรอยยิ้ม
โอ๊ย…จะบ้าตาย ที่เขามากับฉันไม่ได้เพราะต้องไปพบแม่นั่นอย่างงั้นเหรอ? ฉันโมโหจนพูดอะไรไม่ออก
“ถ้างั้นฉันขอพาคู่เดตแสนสวยไปเลยก็แล้วกันนะ” เอ็ดเวิร์ดหันมาหาฉันด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยน ฉันแอบปรายหางตามองค้อนเขาไปทีหนึ่ง
ซื้อของให้เสร็จ ๆ ไปก็แล้วกัน…
ฉันเดินไปที่รถของเขาแต่พอกำลังจะเปิดประตู เขาก็ชิงเปิดประตูรถให้ฉันเสียก่อน การเสแสร้งทำตัวเป็นสุภาพบุรุษของเขาทำให้ฉันหงุดหงิดขึ้นมาแทน ฉันเดินขึ้นรถโดยไม่ขอบคุณเขาเลยสักคำ ถ้าฉันไม่ได้รับการฝึกฝนให้ทำตัวเหมือนผู้หญิงชั้นสูง ป่านนี้ฉันคงด่าเขาไปแล้ว
“ข้าวของอะไรเยอะแยะไปหมดเนี่ย” ฉันถามพลางมองไปทางถุงช้อปปิ้งมากมายจากแบรนด์ชั้นนำที่ตั้งอยู่ที่เบาะหลังรถ
“ของเธอทั้งหมดแหล่ะ อาซื้อมาให้เธอ” เอ็ดเวิร์ดตอบด้วยรอยยิ้มที่ปราศจากเล่ห์เหลี่ยม
“อ้าว แล้วไหนว่าพวกเราจะไปช้อปปิ้งด้วยกันไง?” ฉันถาม ตามเกมเขาไม่ค่อยทัน ลางสังหรณ์ไม่ดีเริ่มปรากฏขึ้นมาตงิด ๆ
“อาซื้อของทั้งหมดที่เราควรจะซื้อไว้แล้ว เราจะได้เอาเวลาไปทำอย่างอื่นแทน นั่นไม่ใช่สิ่งที่เธอรอคอยอยู่หรือไง เธอได้รับข้อความของอาใช่ไหม” เอ็ดเวิร์ดพูดอย่างยั่วยวน
แล้วเขาก็สตาร์รถโดยไม่พูดอะไรอีก
"เราจะไปที่ไหนกัน?" ฉันถามด้วยสีหน้าตื่นตระหนก เขาไม่ตอบกลับ
ฉันนั่งไปเงียบ ๆโดยไม่พูดอะไรจนกระทั่งเขาขับรถไปจอดอยู่ที่ไฟแดงแล้วโน้มตัวมางับหูฉันจนฉันสะดุ้งโหยงไม่ทันตั้งตัว ลิ้นเปียกร้อนของเขาเลื่อนเข้าไปในหูของฉันตามด้วยเสียงดูดเบา ๆ
“อา…อย่า…หยุดเดี๋ยวนี้นะ!” ฉันท้วง พยายามใช้มือผลักเขาออกไป แต่เขากลับหัวเราะออกมาแล้วจับคางของฉันให้หันไปให้เขาบดริมฝีปากลงบนใบหน้า
เขาดันลิ้นเข้าจ่อที่ริมฝีปากที่ปิดสนิทของฉันอย่างอุกอาจ เสียงครวญครางประท้วงของฉันมีแต่จะกระตุ้นเขามากขึ้นเมื่อลิ้นของเขาแทรกเข้าไปพันลิ้นของฉันจนสำเร็จ
เสียงบีบแตรจากรถด้านหลังบอกว่าไฟเปลี่ยนเป็นสีเขียวแล้ว ทำให้พวกเรากลับสู่ความเป็นจริงอีกครั้ง เขาผละริมฝีปากออกจากฉันอย่างช้าๆ ในขณะที่จ้องลึกเข้าไปในดวงตาของฉัน
หัวใจของฉันเต้นเร็วและแรงขึ้น รู้สึกเจ็บแปลบที่ท้องน้อยและอุ่นร้อนที่หว่างขา…อย่านะ… ฉันบีบต้นขาแน่น อย่าปล่อยให้เขายั่วยวนเธอได้อีก เป้าของฉันยังปวดระบมจากกิจกรรมเมื่อคืนยังไม่หายดีเลย
เขาจับมือฉันไปวางไว้บนเป้ากางเกงของเขา บีบมือของฉันเบา ๆเพื่อให้ฉันจับส่วนที่แข็งเป็นหินของเขาผ่านกางเกงที่คับแน่น เครื่องนุ่มห่มไม่ได้ปกปิดก้านเนื้อที่ใหญ่ยาวของเขาเลยแม้แต่น้อย อะไรเนี่ย…แค่จูบฉันเขาก็แข็งขนาดนี้เลยเหรอ ฉันกลืนน้ำลายอย่างยากลำบากในขณะที่ช่องรักของฉันบีบแน่น รู้สึกร้อนขึ้นมาเหมือนกัน
“เจ้าหญิง ดูดก้านให้อาที…” เขาออกคำสั่งขณะละสายตาจากถนน ตอนนี้เราอยู่บนโทลเวย์ที่ดูเหมือนจะมุ่งหน้าไปทางชานเมือง
ฉันส่ายหัวเป็นคำตอบและพยายามแกะมือออก ซึ่งผลก็คือเขาดึงมือฉันกลับอย่างแรงจนร่างของฉันร่วงไปกระแทกเขา ทันใดนั้นเขาก็หยุดรถจอดที่ข้างทาง
“ดูดของอาเดี๋ยวนี้…ไม่งั้นอาจะปล้ำเธอในรถคันนี้นี่ล่ะ เลือกเอา เธอต้องการแบบไหน” เขาหันมาหาฉันด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ คำท้าทายของเขาทำให้ฉันกลัวแต่ก็ตื่นเต้นในเวลาเดียวกัน...
มีรถหลายคันแล่นผ่านไปมาอยู่บนท้องถนน ถ้าเขาปล้ำฉันตอนนี้ ต้องมีคนเห็นอย่างแน่นอน
ทางเลือกของฉันเหรอ?
ฉันมีสิทธิ์เลือกซะที่ไหน?
เมื่อเห็นว่าฉันยอมทำตามที่เขาสั่ง เขาก็เคลื่อนรถอีกครั้งแล้วดึงมือของฉันไปแตะที่งูที่กำลังตื่นของเขาอีกครั้ง
ฉันค่อยๆ รูดซิปกางเกง ดึงบ็อกเซอร์ลงเพื่อปลดปล่อยหัวงูออกมาผึ่งผงาดด้วยความภาคภูมิใจ เจ้าหัวงูเต้นเร้าเชิญชวนให้ฉันดูดหัวมัน นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้เห็นท่อนเนื้อแน่นของเขาอย่างใกล้ชิด มันสวยมากไม่แพ้ของลูเซียนเลย อวัยวะของฉันเกร็งกำหนัดโดยสัญชาตญาณ น้ำล่อลื่นไหลออกมาทันทีเป็นข้อยืนยันว่าร่างของฉันตอบสนองเจ้างูใหญ่อย่างไม่บิดพริ้ว
ฉันเริ่มลูบดุ้นของเขาขึ้นและลงอย่างช้า ๆ เขาร้องครางเสียงทุ้มและขยับสะโพกขึ้น เชิญชวนให้ฉันสนุกกับเขาต่อไป ก้านแกร่งร้อนระอุและกระตุกรับกับฝ่ามือของฉัน ปลายก้านเริ่มเปลี่ยนเป็นสีม่วงเข้มเหมือนกำลังจะระเบิดตัวตนเสียเดี๋ยวนั้น
“เร็วขึ้น…ขยับมือเร็วขึ้น…แรงขึ้น!” เขาสั่ง ดันสะโพกขึ้นและลงในขณะที่ตายังคงมองถนนด้านหน้า ฉันกระตุกมือเร็วขึ้นและเร็วขึ้น รู้สึกเพลิดเพลินกับปฏิกิริยาตอบสนองของเขา
“นาตาลี…อ้า…” เขาหอบหนัก ครางชื่อฉันไปด้วย ทำให้ฉันอยากจะพาเขาไปให้ถึงสุดขอบโลก ฉันจึงค่อย ๆ ก้มลงจ่อหน้าอยู่ที่ปลายหัวเห็ดที่แข็งโด่จนได้กลิ่นที่คล้ายกับน้ำกามโชยเข้ามาในโสตประสาท น้ำกามของเขาก่อตัวที่รูเล็กๆ บนปลายมน
ฉันแลบลิ้นเลียริมฝีปากแล้วค่อยๆ ตวัดผ่านส่วนปลายของเขาเพื่ออมท่อนเสียวใส่ปาก เขาใช้มือข้างที่ไม่ได้จับพวงมาลัยลงดันหัวของฉันไปจนปลายก้านกระทุ้งเข้าที่ต้นคอของฉัน
“กลืนลึก ๆ” เขาขอร้องให้ฉันรับเอาความยาวของเขาเข้าไปทั้งหมด
ฉันป้อนส่วนปลายของเขาเข้าไปในโพรงปากไปพร้อม ๆ กับดูดปลายก้านไปด้วย จากนั้นก็วนลิ้นเป็นวงกลมรอบส่วนปลายไล่ไปจนถึงโคนก้าน กลิ่นและรสชาติที่เข้มข้นตลบอบอวลอยู่ในปากของฉัน ทำให้ฉันนึกถึงน้ำอสุจิที่เขาปล่อยทิ้งไว้ในช่องรักเมื่อวาน
ฉันกระตุกมือขึ้นลงตามความยาวของท่อนหนาผสมกับก้มศีรษะกดหัวเห็ดกระทุ้งเข้าคอจนน้ำคัดหลั่งแตกตัวออก...
“เชี่ย!อ้า…นาตาลี…ดูดฉันให้แรงกว่านี้!” เขาตะโกนเสียงดัง หอบหายใจไปด้วย เสียงครางของเขาดังลั่นรถพร้อมกับจิกผมบนศีรษะของฉันอย่างแรงเพื่อดึงหัวของฉันขึ้น ฉันจึงต้องปล่อยแท่งเนื้อของเขาออกจากปาก เขาจูบริมฝีปากที่บวมเจ่อของฉันอย่างดุเดือดดูดเอาน้ำลายของฉันที่ผสมกับน้ำกามของเขาออกไปกลืนกินจนหมดสิ้น พวกเราพันลิ้นด้วยกันต่ออย่างเร่าร้อน จูบของเรากินเวลาไม่นาน เอ็ดเวิร์ดก็กระแทกหัวของฉันกลับลงไปที่ดุ้นร้อนของเขาอีกครั้งเพื่อบังคับให้ฉันกลืนกินอวัยวะที่ขยายใหญ่ขึ้นของเขาเข้าปาก แต่ครั้งนี้เขาไม่ต้องการให้ฉันใช้มือช่วย เขาดันสะโพกขึ้นแล้วกระทุ้งดุ้นเนื้อควบปากฉันจนปลายก้านกระทบเข้ากับต้นคอก่อนที่จะเขากดหัวฉันและขยับสะโพกให้ฉันกลืนกินก้านยาวเข้าไปจนสุดลำ เขากระแทกเข้าที่หลังคอของฉันซ้ำแล้วซ้ำเล่า แทบจะทำให้ฉันขย้อนเอาสิ่งแปลกปลอมออกมา เขาเอามือออกจากหัวของฉันแล้วลูบไล้ฉันอย่างลวกๆ ที่หว่างขา ดันกระโปรงของฉันไปด้านข้างก่อนจะสอดมือที่เชี่ยวชาญเข้าไปในกางเกงในเพื่อลูบไล้ดอกบัวบานโดยตรง ฉันพ่นเสียงครางไปที่ดุ้นเนื้อในขณะเดียวกันกับอารมณ์เสียงซ่านของฉันเริ่มขยายตัวไปยังช่องท้อง ทำให้ฉันเริ่มยกสะโพ
“หันหลัง วางมือบนหน้าต่างแล้วยกก้นขึ้นทางฉัน” เสียงของเขาทุ้มต่ำ สงบนิ่ง แต่ทรงอำนาจ เป็นอันว่าบทลงโทษของฉันได้เริ่มต้นอย่างเป็นทางการแล้วสินะ ว่าแต่ทำไมฉันให้สิทธิ์เขาลงโทษฉันที่แอบร่วมรักกับแซคได้ ฉันปฏิบัติตามคำสั่งของเขาโดยไม่ขัดขืนเลยแม้แต่น้อย “อ๊ะ! ไม่! เอ็ดเวิร์ด!" ฉันกรีดร้อง หอบหายใจพ่นหมอกลงบนกระจกหน้าต่าง ในขณะที่เอ็ดเวิร์ดกระแทกอาวุธของเขาเข้าเปิดกลีบดอกไม้จากทางด้านหลังอย่างแรง เพียงครั้งเดียว ช่องรักก็กลืนกินท่อนแข็งเข้าไปทั้งก้าน หัวเห็ดแยกปากถ้ำแยกออกจากกันอย่างรวดเร็ว กระแทกมดลูกอย่างแรงจนฉันร้องครวญครางด้วยความทรมานที่เปี่ยมสุข อาวุธของเขาร้อนมาก อีกทั้งยังแข็งตัวเต็มช่องรักจนแม้แต่ฉันก็ยังรู้สึกถึงทุกอนุของกล้ามเนื้อแน่น นี่สินะความแตกต่างของการทำโดยไม่ใช้ถุงยาง ช่างเร้าใจกว่าจริงๆ “อย่าตะโกน…นาตาลี…” เขาคำรามหลังใบหูของฉัน แยงสองนิ้วแหย่เข้าไปในปากของฉันเพื่อไม่ให้ฉันร้อง ฉันดูดนิ้วของเขาอย่างหิวกระหายราวกับกำลังร่วมรักกับนิ้วในปากของฉันไปพร้อม ๆ กับดุ้นเนื้อสาวก็กำลังกระแทกอยู่ที่ระหว่างขาของฉัน เสียงน้ำรักที่ถูกพ่นออกมาดังขึ้นมาอยู่ภายในรถทุกครั้งที่เอ็ดเวิร์
นกลั้นลมหายใจ ส่งเสียงครวญครางเมื่อน้ำอุ่นๆ กระทบกับจุดกระสันหน้าปากถ้ำ เสียวจนน้ำทำท่าจะแตกอีกแล้วเอ็ดเวิร์ดใช้นิ้วลูบกลีบบัวเบา ๆ เพื่อชะล้างคราบการปลดปล่อยครั้งก่อนแล้วสอดนิ้วกลางเข้าไปภายในโพรงเล็ก ซอกเนื้ออ่อนตอดรัดรอบนิ้วที่ล่วงล้ำเข้ามาในทันที เขาจะเริ่มสอดส่ายนิ้วเดียวเข้าและออกจากรูคับแน่น น้ำอุ่นไหลตามนิ้วของเขาออกมาเป็นทางยาว“ร่อนหลืบร้อนและลื่นมาก สงสัยว่าคงจะไม่ใช่แค่น้ำอุ่นธรรมดาแล้วล่ะ น่าจะเป็นน้ำหล่อลื่นของเธอมากกว่า” เขาแกล้งเธอด้วยการดึงนิ้วออกมาดูด จากนั้นก็ใช้นิ้วหัวแม่มือทั้งสองแหวกร่องสวาทออกก่อนที่จะฝังใบหน้าของเขาไว้ที่หว่างขา“อย่า…อย่า…เอ็ดเวิร์ด…” ฉันท้วงอย่างอ่อนแรงขณะเอามือขยุ้มผมของเขา ลมหายใจร้อนผ่าวพ่นลงบนเนินสวาท เขาตวัดลิ้นหยอกล้อกับตุ่มบวมๆ ของฉัน ขณะที่ฉันร้องครางอย่างบ้าคลั่ง หัวนมของฉันแข็งตึงและรูรักเปียกแฉะจากความสุขสมที่เขามอบให้ เขาแยกต้นขาของฉันออกจากกันมากขึ้นเพื่อเข้าไปเลียน้ำดอกไม้จนเกิดเป็นเสียงดัง“ดูสิ เปียกโชกแล้ว...ชอบล่ะสิ ชอบให้ฉันดูดเลียเธอใช่ไหม เพราะเธอมันก็แค่ผู้หญิงสำส่อนเราดี ๆ นี่เอง…” เอ็ดเวิร์ดเอ่ยโดยที่หัวของเขายังฝังอย
เอ็ดเวิร์ดนั่งลงบนเก้าอี้เท้าแขนตรงข้ามกับลูเซียน ถึงเวลาที่จะต้องดำเนินตามแผนสักที“สงบสติอารมณ์และฟังฉันให้ดี เกี่ยวกับนาตาลี…” เอ็ดเวิร์ดเริ่มอธิบาย“นาตาลีทำไม” ลูเซียนหรี่ตาถาม ไม่น่าจะเป็นข่าวดี“เธอบอกว่าช่วงนี้มีพวกสตอล์กเกอร์สะกดรอยตามเธอ เธอรู้สึกไม่ปลอดภัยแม้ว่าจะยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ฉันคิดว่าเราควรปลอดภัยไว้ดีกว่ามาเสียใจทีหลัง ใช่ไหม?” เอ็ดเวิร์ดกล่าว“…แล้วนายว่าควรจะทำอย่างไร” ลูเซียนถามน้องชายที่กำลังบอกฉันว่านาตาลีเลือกที่จะไว้ใจเขาแทนที่จะมาขอความช่วยเหลือจากฉัน? ดูแล้วไม่น่าจะเป็นไปได้ อีกทั้งสองคนนี้ไม่ชอบขี้หน้ากันมาก่อน ไม่ว่าเอ็ดเวิร์ดจะมีเสน่ห์แค่ไหน การได้รับความไว้วางใจจากนาตาลีในช่วงเวลาแค่หนึ่งสัปดาห์ที่อยู่ใกล้กันก็ดูจะเกินเหตุ เขาต้องการอะไรกันแน่…?“ฉันอยากให้นาตาลีมีบอดี้การ์ดเพื่อความปลอดภัยของเธอ ฉันรู้จักบอดี้การ์ดที่เก่งและไว้ใจได้คนหนึ่งซึ่งเคยทำให้คุ้มกันคนที่บ้านใหญ่ ฉันขอแสนอเขาเป็นบอดี้การ์ดของเธอ ตอนนี้นาตาลีโตเป็นสาวแล้ว และด้วยสถานะทางสังคมของพวกเรา เธออาจตกเป็นเป้าโจมตีได้ทุกเวลา” เอ็ดเวิร์ดเสนอ หวังว่า ลูเซียนจะคำนึงถึงความปลอดภัยของลูก
เริ่มต้นสัปดาห์ที่สองของการฝึกงาน สวัสดีวันจันทร์และอีกหนึ่งสัปดาห์เต็มที่ต้องทำงานร่วมกับเอ็ดเวิร์ดที่แล็บ ตารางงานสำหรับสัปดาห์นี้ค่อนข้างยุ่ง รวมถึงการไปร่วมงานเลี้ยงตอนเย็นกับหนึ่งในลูกค้าองค์กรหลักของเราด้วย ฉันต้องยอมรับว่าเมื่อพูดถึงเรื่องธุรกิจ เอ็ดเวิร์ดเป็นมืออาชีพและเป็นที่นับหน้าถือตาในสายงานของเขามาก งานที่มอบหมายให้ฉันทำเป็นงานที่เขาตั้งใจให้ฉันได้เรียนรู้และพัฒนาทักษะที่ฉันยังขาดอยู่เพื่อให้ฉันเข้าใจธุรกิจได้ดีขึ้น วันนี้ฉันต้องตามเอ็ดเวิร์ดไปเข้าร่วมการประชุมต่างๆ กับนักวิจัยชั้นนำเพื่อติดตามความคืบหน้าของกระบวนการต่างๆ คาดว่าเราคงได้วิ่งวุ่นกันทั้งวัน…*กริ่ง...กริ่ง...* เสียงกริ่งโทรศัพท์ของแซคดังขึ้นมา“เฮ้ย นาตาลี คืนนี้ว่างไหม ฉันกำลังจะไปพบใครบางคนและฉันอยากพาเธอไปด้วย” น้ำเสียงที่ผ่อนคลายและขี้เกียจ ๆ หน่อยของแซคเอ่ยเข้ามา“ว่าง…ไปได้ ว่าแต่เราจะไปเจอใคร” ฉันถามด้วยน้ำเสียงอยากรู้อยากเห็นมาก แซคแทบไม่เคยชวนฉันไปพบใครเลย ยกเว้นเพื่อนสนิทของพวกเรา“เดี๋ยวมาก็รู้เอง เดี๋ยวส่งเวลาและสถานที่ไปให้ คืนนี้เจอกัน…แต่งตัวเซ็กซี่ล่ะ” แซ็คแซว“จะพยายามทำชุดทำงานให้เซ็กซี่ก็
เอ็ดเวิร์ดสัมผัสได้ถึงความชุ่มแฉะของนาตาลีผ่านกางเกงชั้นในที่เปียกโชกของเธอ เธอเสียวสั่นไปทั้งตัวแล้ว ไว้เดี๋ยวเก็บไปล้อเธอทีหลังผมใช้เท้าสะกิดข้อเท้าของเธอออกไปด้านข้างเพื่อให้เธอกางขาออกกว้างขึ้นในขณะที่ตอบคำถามและอธิบายแนวคิดให้กับผู้เข้าร่วมการประชุมไปด้วย ผมดึงกางเกงชั้นในที่ปิดเป้าของนาตาลีไปด้านข้างแล้วสอดนิ้วเข้าร่องเปียก ร่างบางสั่นสะท้าน กลีบดอกไม้ชื่นแฉะด้วยความเสียว ผมสอดนิ้วขึ้นลงเข้าร่องสวาทอย่างช้า ๆ และเร่งเร็วขึ้นเมื่อสะโพกของเธอขยับโยกตอบโต้นิ้วของผมน้ำหล่อเลี้ยงรื่นไหลอย่างเต็มฝ่ามือ ใบหน้าของเธอแดงระเรื่อเป็นสีชมพู เธอกัดริมฝีปากที่ดูเย้ายวน พยายามควบคุมความเร่าร้อนของเธอ ผมวนนิ้วเป็นวงกลม ได้ยินเสียงหอบหายใจด้วยความเสียว เม็ดทับทิมบวมเป่ง ผมจึงแกล้งบีบปุ่มเสียวซ้ำ ๆ อย่างเพลิดเพลินผมหยุดการกระตุ้นเป็นระยะเพื่อปล่อยให้เวลานาตาลีได้พักหายใจ แต่ก็ยัดสองนิ้วเข้าไปในรูรักของเธออีกครั้งอย่างแรงจนเธอตกใจ ส่งเสียงครางเบาๆ ออกมาแล้วรีบเอามือปิดปากแล้วเบือนหน้าหนีอย่างอาย ๆ ทว่าช่องร้อนของเธอกลับตอดนิ้วมือผมแน่น…ฉันกลั่นสียงครางอยู่เมื่อเอ็ดเวิร์ดสอดนิ้วหนาเข้าในมา ร่อ
ภาพนาตาลีคุกเข่ายอมจำนนเบื้องหน้าพร้อมบริการโลมเลียตัวดุ้นเนื้อของเขาทำเอาเอ็ดเวิร์ดมองแล้วแทบคลั่ง เขาอยากอัดลำอวบใส่ปากเธอแล้วกระแทกให้สมอยาก ลิ้นที่หยอกล้ออยู่ที่ปลายหัวเห็ดช่างร้อนแรงและเชิญชวน สะโพกเขาสั่นเทิ้มก่อนจะขยับเอวเพื่อดันแท่งเข้าสัมผัสกับลิ้นร้อนไม่ต้องหยอกเล่นแล้ว นาตาลี ผมจับหัวของเธอไว้ในมือแล้วกระแทกหัวมนที่แข็งโด่เข้าไปในปากที่อ่อนนุ่มของเธออย่างเร็วเพียงครั้งเดียว ดุ้นเนื้อชนต้นคอจนเธอหอบและเลียลิ้นไปตามความยาวก่อนจะดูดมันอย่างชำนิชำนาญ ฉันดึงดุ้นและกระแทกเข้าออกไปตามจังหวะลิ้นของเธอจนพวกเราครางออกมาราวกลับกำลังพากันขึ้นสวรรค์นาตาลีบริการผู้ชายเก่งมาก ไม่ว่าจะเป็นพรสวรรค์ตามธรรมชาติของเธอหรือจากประสบการณ์ที่เธอฝึกฝนกับผู้ชายคนอื่น ผมไม่สามารถบอกได้ ผมปัดเรื่องรอยกัดบนไหล่ของเธอออกจากความคิดผมไปไม่ได้ในขณะที่ก็ยังเพลิดเพลินกับริมฝีปากของเธออยู่ผมใกล้จะแตกแล้วแต่จำได้ว่าเธออยากให้เราหลั่งพร้อมกัน ผมจุดสะโพกและบอกให้เธอปล่อยดุ้นเนื้อออก ผมอยากแตกในช่องรักของเธอและเธอก็อยากให้ผมทำในช่องรักเหมือนกัน…“อาอยากร่วมรักกับเธอในที่แบบนี้มาตลอด” เอ็ดเวิร์ดกระซิบข้างหูฉัน
หลังจากหยิบกระเป๋าถือและของใช้ที่จำเป็นอื่นๆ จากโต๊ะทำงาน ฉันก็เดินตรงไปที่ลานจอดรถฉันใช้เวลาสองสามนาทีแต่งเติมใบหน้า…แต่ถ้าจะพูดให้ถูกคือแต่งหน้าใหม่หมดเพราะพอร่วมรักกับเอ็ดเวิร์ด เครื่องสำอางบนใบหน้าก็แทบไม่หลงเหลืออยู่แล้วน้ำเสียงของแซคฟังจากโทรศัพท์แล้วเหมือนกำลังหงุดหงิดอะไรอยู่ ฉันจึงตัดสินใจทาอายแชโดว์สีฟ้าครามกับอายไลน์เนอร์สีดำทึบที่ขอบตาพร้อมกับปัดแก้มโทนสีส้มที่มีกลิตเตอร์ ส่วนริมฝีปากฉันเลือกใช้ลิปกลอสสีส้มผสมกลิตเตอร์สีทองเพื่อให้ดูสดใส ร่าเริง และดูเป็นประกายสีเหล่านี้เป็นสีโปรดของแซคทั้งนั้น เมื่อก่อนตอนแซคยังเป็นนายแบบ เขาขอให้เพื่อนช่างแต่งหน้ามาแต่งหน้าฉันแล้วพวกเขาก็สรุปกันว่าสีนี้ล่ะ เหมาะกับฉันที่สุด แต่สำหรับฉัน ฉันว่าฉันชอบสีโทนธรรมชาติแบบกลาย ๆ หรือโทนสีชมพูมากกว่าแต่ก็นั่นล่ะ แซคยังคงชอบฉันแต่งหน้าให้ดูมีสีสันสดใสแบบที่เราเลือกในวันนั้น แซคเป็นคนที่ไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง ถึงแม้เขาจะเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นก็ตาม และเพื่อให้แซคดีใจ ฉันจึงเลือกสีที่เขาชอบ ดูสิว่าเขาคิดอย่างไรเมื่อเห็นฉันวันนี้ฉันขับรถไปที่จุดนัดพบหลังจากส่องกระจกจนพอใจแล้วก็เดินออกจากรถ ช่วงนี้ชีวิต
การทักท้วงจบลงทันทีเมื่อแซคจูบฉันต่อหน้าไรเนอร์ ฉันไม่สามารถผลักเขาออกไปได้ การใช้เวลาร่วมกันมาหลายปีทำให้ร่างกายและจิตใจฉันไม่สามารถต้านทานแซคได้ ฉันละลายในอ้อมแขนอันอบอุ่นของเขา ริมฝีปากและลิ้นร้อนๆ ยังคงหยอกเย้าในปาก ฉันเริ่มครางด้วยความพอใจเมื่อมือเขาลูบไล้สะโพกแซคปล่อยฉันในที่สุด ฉันหายใจไม่ออก รู้สึกอายในความอ่อนแอของตัวเองจนไม่กล้าสบตาไรเนอร์ ความผูกพันที่ฉันมีต่อแซคลึกซึ้งเกินกว่าใครจะเข้าใจ ฉันไม่แปลกใจเลยถ้าเรื่องระหว่างเรายังคงเป็นแบบนี้ไปตลอดชีวิต แซคเป็นเหมือนส่วนหนึ่งของฉัน“ฉันคิดถึงเธอมากเลยรู้มั้ย” แซคพูด เขากอดเอวฉันจากด้านหลังด้วยความรัก ชั่วขณะนึงฉันลืมไปว่าไรเนอร์ยังคงยืนดูพวกเราอยู่“ไรเนอร์ ฉัน…” ฉันอยากอธิบาย แม้ว่ายังไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี“เสียใจด้วยนะไรเนอร์ ไม่มีใครดีพอจะมาแทนที่ผมได้ แม้แต่คุณ” แซคพูด ก่อนถอนหายใจเสียงดังใส่ไรเนอร์“คุณแซค…คุณนาตาลีไม่ใช่ของเล่นของคุณ ปล่อยเธอเดี๋ยวนี้…” ไรเนอร์พูดเสียงเข้ม“นาตาลี ไม่ใช่ของเล่น ผมเคยบอกคุณไปแล้วว่านาตาลีคือรักแท้ของผม คุณบอกให้ผมปล่อยเธอ…เรื่องนั้นผมเข้าใจ แต่ถามนาตาลีก่อนว่าเธอเต็มใจปล่อยผมไปมั้ย” แซคพูดอ
ไรเนอร์กับฉันเดินออกจากห้องทันเวลาเพื่อดูการเผชิญหน้าระหว่างพี่น้อง ได้แต่คิดว่านี่เป็นจังหวะเลวร้ายที่สุดเท่าที่เคยมีมา ฉันยืนนิ่งโดยมีไรเนอร์ยืนอยู่ข้างๆ ระหว่างรอให้คำทักทายสั้นๆ นี้จบลง“นาตาลี!” เสียงของแซคเรียกชื่อฉันอย่างร่าเริงขัดจังหวะบรรยากาศตึงเครียด ถ้ามีผู้ชายที่ไม่เคยสนใจสถานการณ์รอบด้าน มักจะเป็นเจ้าชายแซคเสมอ“แซค” ฉันตอบกลับด้วยน้ำเสียงดีใจพร้อมโบกมือให้เขาแซคแต่งตัวราวกับเจ้าชายในชุดเป็นทางการ ส่วนมาดามฟรานเชสก้าเหมือนราชินีแก่ผู้ชั่วร้ายยืนอยู่ข้างๆ ฉันกลืนน้ำลายพลางหลบสายตา ต่างจากแซคที่ไม่เคยกลัวแม่ของตัวเองและรู้วิธีรับมือกับเธอ ฉันรู้สึกตัวเล็กและไร้ค่าเหมือนเม็ดทรายเวลาอยู่ต่อหน้าเธอ“ลูเชียน…เอ็ดเวิร์ด” มาดามฟรานเชสก้าพูดช้าๆ ด้วยน้ำเสียงน่าเกรงขาม ระหว่างทักทายน้องชาย“มาดามฟรานเชสก้า เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่คุณมาร่วมงานแต่งของผม” ลูเซียนตอบอย่างเป็นทางการ ก่อนจะโค้งคำนับเล็กน้อย เนื่องจากมาดามฟรานเชสก้ามีศักดิ์เป็นพี่คนโต ปฏิกิริยาของลูเซียนดูสมเหตุสมผลมาก ฉันรีบโค้งคำนับตามลูเซียน ขณะที่ไรเนอร์โค้งตาม“แฟรงกี้ แฟรงเกนสไตน์! พี่เป็นยังไงบ้าง” เอ็ดเวิร์ดทักทา
“ฉันทำตามที่ครอบครัวและผู้อาวุโสต้องการมาโดยตลอด แลกเปลี่ยนกับการที่พวกเขาจะดูแลให้เธอปลอดภัย วันหนึ่งฉันจะกลายเป็นผู้อาวุโสและฉันจะปกป้องเธอเอง ไม่ว่าคนอื่นจะพูดยังไง ความปลอดภัยของเธอเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ฉันรักเธอ… และจะไม่ยอมสูญเสียเธอไปเหมือนที่ฉันสูญเสียแม่ของเธอ” ลูเซียนพูดอย่างจริงจัง ฉันไม่เคยเห็นลูเซียนเป็นแบบนี้มาก่อนฉันไม่รู้จะตอบยังไง เหตุผลที่ลูเซียนแสดงท่าทีปกป้องและหวงแหนฉันมากเกินไปเป็นเพราะกลัวที่จะสูญเสียฉันไป เขาเชื่อว่าฉันอาจได้รับบาดเจ็บ…หรือแย่กว่านั้น เขาเสียสละมากมายเพื่อแม่และฉัน ทำไม…'ฉันไม่เสียใจเลย ฉันมีสิ่งคุ้มค่าแก่การปกป้อง เธอเห็นมั้ย...เราทั้งคู่มีสิ่งที่อยากจะปกป้องและเป็นคำสัญญาที่เราต้องรักษา’ คำพูดของลูเซียนย้อนกลับมาหาฉันเขาสัญญาอะไรและกับใคร?“ลูเซียน…ฉัน…” ฉันเริ่มพูด; แต่ไม่แน่ใจว่าควรจะพูดอะไรกับเขาในสถานการณ์นี้“เธอต้องอยู่กับฉันต่อไป ตราบใดที่ฉันยังไม่แน่ใจว่าเธอมีความสุขและปลอดภัย ฉันจะไม่ปล่อยเธอไป” ลูเซียนพูดเสียงแข็งจนรับรู้ได้ว่าไม่มีที่ว่างเหลือสำหรับการต่อรองหรือเจรจา“เธอดูสวยมาก…” ลูเซียนพูด ก่อนจูบปอยผมฉันในที่สุดวันแต่งงานก็มา
“มันไม่สำคัญหรอก …ยังไงเธอไม่กลับมาอีกแล้ว” ฉันตอบพร้อมกัดฟันแน่น“ฉันมีเรื่องอยากจะบอกเยอะมากนาตาลี เยอะจนไม่รู้ว่าจะเริ่มจากตรงไหนหรือจะบอกอะไรกับเธอก่อนดี เพราะเธอเจ็บปวดมามากพอแล้ว…” ลูเซียนสารภาพตามจริง ขณะมองไปทางทะเลอันมืดมิด"คุณหมายความว่ายังไง…?" ฉันถาม.ลูเซียนนั่งนิ่งคิดว่าจะเล่าให้ฉันฟังอย่างไรดี ในขณะที่ฉันแทบบ้าตาย“ลูเซียน…ได้โปรด…” ฉันอ้อนวอน พร้อมกับจับมือเขามาบีบ“มันจะทำร้ายเธอ…มากกว่าที่ทำร้ายฉันตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา” ลูเซียนพูด เขามองกลับมาที่ฉัน“ฉันพร้อมแล้ว…ช่วยบอกฉันที” ฉันพูดอย่างหนักแน่น"บางทีเธออาจจะเข้มแข็งพอแล้ว นาตาลี แม่ของเธอ…ถูกฆ่าตาย” ลูเซียนพูดด้วยน้ำเสียงเจ็บปวดแม่ของฉัน…ถูกฆ่าตาย?!เป็นไปไม่ได้ ฉันคิดระหว่างที่น้ำตาไหลอาบหน้า...“เป็นไปไม่ได้!” ฉันกรีดร้องพร้อมลุกขึ้นจากที่นั่ง“เสียใจด้วยที่ต้องบอกว่ามันเป็นเรื่องจริง… ฉันก็รู้สึกแบบเดียวกับเธอตอนรู้เรื่องนี้” ลูเซียนตอบเบาๆ เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่“ฉันอ่านข่าวการเสียชีวิตของแม่ฉันตั้งเยอะ มันเป็นข่าวใหญ่มากในตอนนั้น...แต่ไม่มีการพูดถึงการฆาตกรรมเลย ไม่จริง ฉันไม่เชื่อ” ฉันพูดจำได้ว่าฉันตั
อาหารค่ำถูกเสิร์ฟตรงระเบียงกลางแจ้ง ดินเนอร์ใต้แสงเทียนริมทะเลที่มีลมพัดปะทะใบหน้าและเส้นผม บรรยากาศโรแมนติกไม่ใช่เหตุผลเดียวที่ทำให้ฉันนึกถึงคืนบนหอดูดาวที่เอ็ดเวิร์ดบอกความจริงเรื่องที่เขาเป็นคนช่วยฉันในป่าเมื่อหลายปีก่อน ฉันรู้สึกว่าคืนนี้ฉันอาจจะได้รู้ความจริงที่ซ่อนอยู่ซึ่งจะเปลี่ยนชีวิตฉันอีกครั้งบรรยากาศคล้ายกับมื้อค่ำที่ฉันทานกับเอ็ดเวิร์ดในครั้งนั้น รสชาติอาหารเหมือนทรายแห้งๆ บนลิ้น โชคดีที่ลูเซียนไม่อ้อมค้อม หลังจากที่สาวใช้ปล่อยให้เราอยู่ตามลำพัง ลูเซียนก็เริ่มพูดทันที“เล่าให้ฉันฟังหน่อยว่าก่อนที่ฉันจะเจอเธอกับแม่ ชีวิตเธอเป็นยังไงบ้าง…” ลูเซียนถามอย่างลังเล“ทำไมคุณถึงถามเรื่องนี้ล่ะ?ฉันคิดว่าแม่น่าจะเล่าให้คุณฟังหมดแล้ว” ฉันตอบ มันไม่ปกติที่เขาจะพูดเรื่องนี้ ถามเกี่ยวกับวัยเด็กของฉันให้ได้อะไร?“ใช่ แม่เธอเล่าแล้ว แต่ฉันอยากฟังจากปากเธอมากกว่า” ลูเซียนตอบหนักแน่น“คุณต้องการรู้อะไร…เป็นพิเศษ?” ฉันถามเขากลับ“สภาพความเป็นอยู่ของเธอสองคนเป็นยังไง?แม่ของเธอทำงานรึเปล่า เธอไปโรงเรียนแบบไหน เรื่องทั่วๆ ไป อะไรก็ได้ที่เธอนึกออก” ลูเซียนตอบ“ฉันไม่รู้ว่าทำไมคุณถึงถามฉันเรื่องน
เรามาถึงบ้านพักริมทะเลซึ่งตั้งอยู่บนชายหาดส่วนตัวที่ลูเซียนเป็นเจ้าของ เราเรียกมันว่าบ้านพักแต่สุดท้ายแล้วมันก็คือคฤหาสน์ขนาดใหญ่อีกหลังหนึ่ง ไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้เลย ถ้าลูเซียนไม่มีทายาท ฉันคงได้รับมรดกทั้งหมดของเขารวมถึงชายหาดส่วนตัวนี้ด้วยฉันนั่งอยู่บนผืนทรายในชุดบิกินี่สีแดง แหงนหน้ามองท้องฟ้าสีฟ้าสดใสพร้อมหรี่ตาลง ฉันควรจะสนุกกับการเดินทางครั้งนี้ แต่สิ่งเดียวที่คิดคือจะเริ่มคุยกับลูเชียนยังไงดี ทันใดนั้นทรายใต้ตัวฉันขยับระหว่างที่ลูเซียนนั่งลงข้างๆ ฉัน เรานั่งข้างกันโดยไม่พูดอะไร ยังคงมองออกไปยังทะเลด้านหน้า“ตื่นเต้นกับงานแต่งงานมั้ยคะ” ฉันล้อเล่น นึกไม่ออกว่าจะชวนคุยเรื่องอะไรดี“ใช่…แต่ด้วยเหตุผลอื่นที่เธอเดาไม่ถูก” ลูเซียนตอบพร้อมกับโอบหลังฉันและขยิบตาให้ ฉันหัวเราะเล็กน้อยเป็นคำตอบขณะเอนศีรษะซบไหล่เขา“ฉันไม่เดาดีกว่า…” ฉันตอบ ระหว่างถอนหายใจออกมาเรากลับไปมองดูทิวทัศน์รอบตัวอย่างเงียบๆ หวังว่าจะไม่ถูกแดดเผา มันคงเป็นเรื่องตลกถ้าเจ้าบ่าวผิวลอกในงานแต่งงาน“เธอคิดถึงอนาคตของเธอบ้างหรือยัง” ลูเซียนถาม สายตาเขายังคงจับจ้องที่ขอบฟ้าไกลทำไมเขาถึงถามเรื่องนี้?ไม่ใช่ว่าฉันไม่ได้
“อาร์…ฉัน…หยุดไม่ได้……ฉันเสร็จอีกแล้ว!” ฉันร้องออกมาเมื่อร่างกายสูญเสียการควบคุมอีกครั้ง มันรุนแรงมากจนทำให้ฉันกลัว ร่างกายสั่นสะท้าน ฉันเริ่มร้องสะอื้นอย่างเงียบๆ ระหว่างซุกหน้าลงบนผ้าห่ม“ผมใกล้เสร็จแล้วเหมือนกัน…ผมเสร็จแล้ว…นาตาลี!” ไรเนอร์ร้องครางราวกับสัตว์ป่า มันทำให้ฉันรู้สึกมีความสุขมาก หัวมังกรขนาดใหญ่กระตุกรุนแรงก่อนที่น้ำกามร้อนพุ่งลึกเข้าไปในโพรงสวาท รู้สึกร้อนรุ่มภายในขณะที่น้ำรักอุ่นๆ ล้นทะลักออกมาเต็มมดลูก เขาดันแท่งร้อนดันเข้าออกเล็กน้อยทำให้น้ำกามกระฉูดในตัวฉันมากขึ้น มันรู้สึกมหัศจรรย์มากแต่เหมือนร่างกายฉันถูกใช้จนเกินขีดจำกัด“คุณยังโอเคอยู่มั้ย” ไรเนอร์กระซิบ เขาจ้องมองใบหน้าที่อ่อนล้าและร่างกายที่ไร้เรี่ยวแรง แทบจะตั้งสติไม่อยู่ ฉันคงดูเหมือนตายไปแล้วเพราะตัวเองก็รู้สึกอย่างนั้นจริงๆ“คุณคิดว่า…เป็นความผิดของใคร……?” ฉันพูดเบาๆ ระหว่างพยายามหายใจ“อย่าโทษผมเลย...คุณเป็นคนขอเองไม่ใช่เหรอ อย่าบอกนะว่าจำไม่ได้…” ไรเนอร์ตอบพร้อมหัวเราะเบาๆ พร้อมกับค่อยๆ ถอนท่อนร้อนออกจากช่องรักที่เปียกท่วมน้ำรักของเราไหลออกมาทันที เตียงของไรเนอร์ต้องเปรอะไปหมดแน่ แต่ฉันไม่มีเวลามากังว
“โอบขาคุณรอบสะโพกผม” ไรเนอร์สั่ง สมองฉันแทบจะไม่ทำงานในช่วงเวลานี้ ต้องใช้เวลาสักครู่เพื่อทำตามคำสั่งเขาอย่างช้าๆหลังจากโอบแขนรอบคอเขา ไรเนอร์ก็ค่อยๆ ยืนขึ้น มันน่าทึ่งมากที่เขาสามารถยกตัวฉันขึ้นมาได้ การที่ตัวเขาใหญ่กว่าฉันมากมันมีข้อดีอย่างนี้นี่เอง“ไม่ต้องห่วง ผมจะกอดคุณไว้…ผมไม่ปล่อยให้คุณหล่นแน” ไรเนอร์ยืนยัน มือขนาดใหญ่โอบประคองบั้นท้ายฉันไว้อยากจะบอกเขาว่าฉันไม่กลัวว่าจะตก แต่ฉันกลัวว่าช่องรักถูกฉีกออกจากกันเพราะความสุขที่เขากำลังมอบให้ฉัน รู้สึกได้ถึงท่อนร้อนที่แข็งเป็นหินของไรเนอร์ฝังลึกอยู่ในตัวฉัน ฉันหลั่งมาหลายครั้งแล้วแต่เขายังไม่ถึงจุดสุดยอดเลยแม้แต่ครั้งเดียว ผู้ชายคนนี้อึดเหลือเกิน…ฉันได้แต่พยักหน้ารับอย่างเงียบๆ พร้อมยิ้มให้เขาไรเนอร์ยิ้มกลับด้วยดวงตาสีฟ้าที่อ่อนโยนมาก ก่อนเขาจะดึงเจ้ามังกรยักษ์ออกจากโพรงสวาทแล้วดันมันกลับเข้าไปข้างในอีกครั้ง เขาทำอย่างนั้นครั้งแล้วครั้งเล่าระหว่างที่จับสะโพกฉันไว้ในมือ ฉันไม่สามารถทำอะไรได้เลยแม้กระทั่งเคลื่อนไหวสะโพกหรือร่างกาย สิ่งที่ฉันทำได้คือสนุกไปกับมันและตะโกนเรียกชื่อเขาอย่างบ้าคลั่งระหว่างที่เขากระแทกโพรงสวาทอย่างแรงไม่
"คุณโอเคมั้ย?" ไรเนอร์ถามพร้อมกับจูบที่หน้าผากฉัน“ค่ะ…คุณอยู่ลึกมากข้างใน…” ฉันตอบพร้อมกับพยักหน้าช้าๆ ไม่สามารถหยุดตัวเองจากการสำลักความสุขตอนนี้ความเป็นลูกผู้ชายของเขายืดและเติมเต็มฉันอย่างที่สุด มันรู้สึกดีมาก ร่างทั้งร่างสั่นจนควบคุมไม่ได้ ฉันร้องครางออกมาเหมือนคนโดนผีสิง“คุณเพิ่งหลั่งตอนผมใส่มันเข้าไปรึเปล่า” ไรเนอร์ถามพร้อมกับหัวเราะออกมาร่างกายสั่นไม่หยุดระหว่างที่สะโพกยังอยู่ใต้ตัวเขา ช่องรักบีบรัดรอบแท่งร้อนอย่างบ้าคลั่ง ฉันเพิ่งหลั่งอย่างที่เขาพูดจริงๆ เพียงแค่เขาดันเข้ามาในตัวฉันอย่างนั้นเหรอ?ความคิดนี้ทำให้ฉันกลัวเพราะเราเพิ่งจะเริ่มกันเอง“…ผมจะขยับต่อแล้วนะ” ไรเนอร์พูดด้วยรอยยิ้มอ่อนโยนขณะดึงสะโพกกลับไรเนอร์ดันหัวเห็ดขนาดใหญ่เข้ามาในตัวฉันอย่างช้าๆ ฉันใช้หลังมือปิดปากยับยั้งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดผสมกับความสุข มันเจ็บแต่ก็เริ่มรู้สึกดีในเวลาเดียวกัน ไม่สามารถหยุดผนังช่องรักบีบรัดท่อนเอ็นเนื้อของเขาได้“พยายามผ่อนคลาย นาตาลี ช่องรักคุณบีบผมแน่นมาก… จนมันขยับยาก…” ไรเนอร์กระซิบ เขาจับต้นขาฉันแยกออกจากกันให้กว้างขึ้นกว่าเดิมฉันหายใจเข้าลึกๆ สองสามครั้ง พยายามผ่อนคลาย