‘กังสดาล’ สาวน้อยฝึกงานในบริษัทของประธานพ่อหม้ายในเครือสหพันธ์กรุ๊ป เธอรับจ้างวิวาห์ให้กับชายนิรนามผู้หนึ่งที่บังเอิญเจอกันที่สตูดิโอชุดแต่งงาน ‘วิชพันธ์’ ชายหนุ่มทายาทของประธานบริษัทในเครือสหพันธ์กรุ๊ป ที่เพิ่งเดินทางกลับมาจากต่างประเทศมารับช่วงธุรกิจต่อของบริษัท เขาตกลงว่าจ้างสาวน้อยนางหนึ่ง ขณะที่เธอไปเป็นเพื่อนว่าที่เจ้าสาวซึ่งเป็นญาติในสตูดิโอแห่งนั้น เขากำลังวุ่นวายใจที่พ่อของเขาบังคับให้หาเจ้าสาวแต่งงานอย่างรวดเร็ว เพราะพินัยกรรมระบุถึงกำหนดว่าทายาทจะต้องแต่งงานให้ทันเวลา ไม่เช่นนั้นกิจการทั้งหมดจะตกไปอยู่กับคุณอาของเขา ซึ่งคุณย่าได้ระบุเอาไว้อย่างจงใจแกล้งคุณพ่อของเขาตั้งแต่แรก กังสดาลตกลงเซ็นสัญญาแต่งงานกับชายหนุ่มเพียงแค่วันเดียว โดยสัญญามีข้อกำหนดหากหากเธอผิดสัญญาจะถูกริบเงินคืนพร้อมดอกเบี้ย แต่แล้วด้วยใจซื่อบริสุทธิ์ของหญิงสาวที่ทำหน้าที่ภรรยาในนามให้กับชายหนุ่มตลอดเวลาตามข้อตกลง ได้กลายมาเป็นความรักที่มีต่อเธออย่างไร้เงื่อนไข เขาพยายามสลัดเธอออกไปจากหัวใจของเขา แต่ทำได้ยากยิ่งทั้งที่เขามีอีกคนที่ถือว่าหมาะสมซึ่งครอบครัวกำลังจับคู่ให้ก็ตาม กังสดาลไม่เคยคิดว่าชายหนุ่มจะเข้ามาจับจองหัวใจเธอได้ เธอแค่รับจ้างเป็นเจ้าสาวให้เขาเพียงในนาม แต่หัวใจเธอกลับร่ำร้องทั้งที่อยากไปให้ไกลแสนไกล
View Moreมันเจ็บลึกฝังเป็นตัวหนังสืออยู่กลางใจ พอเปิดใจครั้งใดเหมือนเปิดหนังสือหน้านี้ทุกที--------------------------------กังสดาลเจอหน้าของวีระพันธ์ที่โต๊ะกินข้าวตอนเช้า เธอไม่อยากพูดด้วยกำลังหันหลังจะเดินไปที่ครัว เขารั้งข้อศอกเธอไว้“มีอะไรว่ามา...ไม่ต้องถูกเนื้อต้องตัว” เธอหันไปปัดมือเขาออกอย่างไม่พอใจ“พี่วิช...เขียนมาด่าผมหาว่า ลวนลามคุณ”“ใช่ ฉันฟ้องคุณวิชเองเมื่อวันก่อน”“ทำไมต้องขนาดนั้น...เราคุยกันได้”“ถ้าทำบ่อยๆ อย่าหาว่าไม่เตือนนะ”“จะทำอะไรผมได้...”“จะดีดให้สลบคาบาทา”“รู้ไว้นะ...ฉันไม่ชอบคนนิสัยไม่ดี”“โอย...พี่สะใภ้ครับ แค่ล้อเล่นทำเป็นเรื่องใหญ่เรื่องโต”“โน่น...ไปล้อเล่นกับเดซี่ ไม่ใช่ฉัน”เธอหันหลังเดินขึ้นบันไดชั้นบนไม่เหลียวหลัง ได้ยินเขาบ่นพึมพำเบาๆ“พี่วิช...จะทำอะไรได้ ยังทำเป็นเล่นตัว อีกไม่นานโดนทิ้ง จะร้องไห้วิ่งมาหาเรา...ฮ่าฮ่าฮ่า” เขาหุบปากทันที เมื่อคุณพ่อเดินมาได้ยิน“เป็นอะไรหัวเราะร่า...มีสาวใหม่ตามมาถึงนี่ เลยเบิกบานล่ะพ่อ” ลุงเขาเยาะเย้ย“โน่น...สะใภ้คุณลุง สาวพีเรียดยุคคุณย่า” เขาเสียดสีกลับ“เบล...เธอเป็นคนดี และอย่าทำให้ตาวิชมีปัญหา ลุงอยากเตือนให้รู้จ
ทั้งครอบครัวถูกคนคนเดียวระรานใจจนร้าวฉาน--------------------------------กังสดาลเหมือนคอยถูกจับตาจากน้องชายของสามีตลอดเวลา ไม่ว่าเธอจะทำอะไรก็ถูกชายหนุ่มคนนี้จับจ้องจนเธอรู้สึกอึดอัด เมื่อสามีวิดีโอคอลมาคุยกับเธอตามที่เขาได้สัญญาไว้หลังจากถึงเมืองไทย เธออดรนทนไม่ได้ฟ้องเขาทันที“คุณวิชคะ...ขอฟ้องอะไรนิดนะคะ” เธอทำเสียงเรียบเฉยไม่ให้เขารำคาญใจ“เรื่องอะไร...ไอ้วีทำอะไรคุณ” เขาเสียงขุ่นทันที“ชอบลวนลาม...เบล” เธอทำเสียงกระเง้ากระงอด“ไอ้นี่...สั่งมันแล้วนะ”“เบล...อย่าโกรธนะ คุณเคยไปให้ท่ามันบ้างไหม” เขานึกถึงคำพูดของดิษยาขณะนั่งคู่กันอยู่บนเครื่องบิน “พูดอะไรบ้าๆ...” เธอนึกโมโห ตั้งแต่อยู่ด้วยกันมาแม้จะแต่งงานกันในนาม แต่ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเธอมันเกินเลยมาไกลแล้วอย่างที่เขาเอ่ยเมื่อวันก่อนนั้น จนเขาเรียกเธอว่า ภรรยาโดยสมบูรณ์ น่าจะรู้ว่าเธอเป็นคนนิสัยอย่างไร“พรุ่งนี้ผมจะไปยิมชกมวย...ขออนุญาตแล้วนะ” เขาเปลี่ยนเรื่องทันที เมื่อรับรู้ความรู้สึกไม่สบอารมณ์ของภรรยาในนามของเขา“เชิญตามสบายค่ะ...มีอะไรคืบหน้าบอกด้วยนะคะ” กังสดาลนึกแล้วว่าเขายังไม่ทิ้งความสัมพันธ์กับเธอ ยังไงเขาก็เคยคบ
ปล่อยหัวใจไว้กับคาสโนว่าจอมเกเร--------------------------------พรุ่งนี้ถึงกำหนดที่วิชพันธ์ต้องเดินทางกลับไปสะสางงานที่เขาทิ้งมาเกือบสองอาทิตย์ เขาบอกกังสดาลวันเดินทางกลับให้หาข้อมูลเรื่องการเรียนต่อให้เรียบร้อย เขาอาจไม่มีเวลาพูดคุยช่วงเวลากลางวัน แต่จะพยายามวิดีโอทุกคืนก่อนเธอเข้านอน “ผมจะฝากให้วี มันช่วยดูแลเรื่องคอร์สภาษา” เขาเปรยกับเธอให้ติดตามข้อมูลกับน้องชายของเขา“ค่ะ...โอลี่น่าจะช่วยได้ดีกว่าค่ะ” เธอแย้งเขา เพราะไม่เห็นความจำเป็นที่ต้องให้น้องชายเข้ามาวุ่นวายกับเรื่องนี้“ผมสั่งมันไว้แล้ว... อย่าไปยุ่งผัวชาวบ้าน!” เสียงหงุดหงิดฟังดูเหมือนเสียดสีเธอ“ท่านรองประธานคะ...สุภาพหน่อยนะคะ นั่นเพื่อนคุณนะ” เธอรู้สึกว่าในใจเขาคิดอะไรกับเพื่อนออสซี่คนนี้หลังจากมื้อค่ำที่อาอุมากลับมาดูแล กิ๊กของคุณพ่อคนนี้มีฝีมือการทำอาหารไทยเมนูสุขภาพบริการสมาชิกทุกคนในครอบครัว“อา...อยากให้คุณวิชและหนูเบล ลองผักกับปลานึ่งเมนูสมุนไพรนี้...หอมและดีต่อสุขภาพ พวกหนูควรมีลูกเร็วๆ นะคะ คุณพ่อท่านอยากอุ้มหลานแทบทนไม่ไหวแล้ว” อาอุมาจ้องหน้ากังสดาลอย่างกังวล“ค่ะ...หนูชอบทานผักอยู่แล้ว”“คุณวิช กลับไป…หนูเบ
อยากทดสอบว่า เป็นคนที่ใช่...จะไม่เข้าใจไปเอง--------------------------------ต้นสัปดาห์ถัดมาวิชพันธ์บอกกังสดาลขณะเขากำลังทานข้าวก่อนจะพาเธอไปพบดอกเตอร์ลิเดียด้วยกัน“คุณอาอุมาจะบินมาดูแลคุณพ่อพรุ่งนี้ ปลายสัปดาห์ผมจะบินกลับพร้อมเดซี่” เขาพูดขึ้นเบาๆ ช่วงที่คุณพ่อทานเสร็จลุกจากโต๊ะกินข้าวเข้าห้องหนังสือไปแล้ว“รับทราบค่ะ” เธอจ้องตาเขาอย่างเฉยเมยตั้งแต่งานปาร์ตี้วันนั้นเป็นต้นมา เขาเงียบไม่ค่อยคุยหยอกล้อและเข้ามาใกล้เธอเลย เขาทำตัวเฉยเมยจนเธอรู้สึกว่าเขาคงรู้สึกผิดต่อเธอ แต่มันไม่ใช่อย่างที่เธอเข้าใจจากคำพูดขณะนี้“อย่าเข้าใจผิดล่ะ...ผมจะกลับไปทำงาน เดซี่เธอมีธุรกิจที่ยิมชกมวยนั่น” เขาเอ่ยขึ้นโดยที่เธอยังไม่ทันได้ถามอะไร“ค่ะ...เข้าใจคุณสองคนมากพอแล้ว” เธอพูดไม่สบตา เก็บถ้วยชามเพื่อเอาไปล้าง “วันนี้...เราจะไปพบหมอลิเดียด้วยกัน” เขาจับมือรั้งไว้ก่อนที่เธอจะยกชามทั้งหมดไปล้าง“ค่ะ...คุณไปเตรียมตัวเลย จะตามขึ้นไปค่ะ” เธอพูดขึ้นขณะก้มหน้าเดินไปที่ซิงค์ล้างชามกังสดาลขึ้นมาเปิดประตูห้องเบาๆ เดินเข้าไปไม่เห็นเขา จึงโผล่หน้ามองเข้าไปเห็นเขานอนหลับตาแช่อยู่ในอ่างน้ำ เขาดูเป็นคนที่โปรดปรานการ
อยากจะไปหาความสุขที่ไม่ได้รับการยินยอมให้พึงระลึกถึงความทุกข์ที่จะตามมานั้นด้วย--------------------------------กังสดาลตื่นขึ้นกลางดึกเธอพยายามมองหาสามีของเธอท่ามกลางความมืดของห้อง ด้วยความสงสัยเลยลุกจากเตียงเดินเข้าไปมองหาในห้องน้ำ ปรากฏว่าไม่มีเสียงน้ำดูเงียบว่างเปล่าไร้ชีวิตชีวาจนเธอรู้สึกใจหาย เขาน่าจะยังไม่กลับมาถึงบ้านแล้วเขาไปทำอะไรอยู่ อากาศข้างนอกวันนี้หนาวกว่าเมื่อวานเล็กน้อย เกือบรุ่งสางเธอรู้สึกว่าเตียงนอนอีกมุมกระเพื่อมด้วยแรงของอีกคนที่กำลังล้มตัวลงนอน เธอได้กลิ่นแอลกอฮอล์โชยมาเข้าจมูกหญิงสาวหันไปหยิบนาฬิกาปลุกที่มุมโต๊ะข้างเตียงด้านเธอมาดู คิดอยู่ในใจว่าน่าจะใกล้สว่างแล้ว แต่เวลาเกือบตีสี่เท่านั้นเธอหลับไปตั้งแต่ก่อนสี่ทุ่ม จึงทำให้เธอนึกได้ว่านอนไปเกือบหกชั่วโมงซึ่งหลับลึกเป็นตายอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัวเธอลืมตามองเพดานและตัดสินใจลุกไปเปิดน้ำอุ่นลงอ่างน้ำ เติมกลิ่นกุหลาบจากอีกขวดหนึ่งที่วางอยู่บนแท่นข้างกลิ่นลาเวนเดอร์“อืม...หอมมากเลย จะนอนหลับแช่ไปเรื่อยๆ จนถึงเช้า” เธอพึมพำอย่างมีความสุข แต่ในใจยังนึกสงสัยสามีในนามของเธอ เขาเริ่มแสดงพฤติกรรมที่ชวนให้คิด ‘ต้องคำสาป’
ต้องคำสาปเกิดจากใจที่วิบัติของคนเราที่เข้าไปสู่วังวน ถ้าไม่สร้างเหตุปัจจัยเข้าไปเอื้อให้เกิดขึ้น--------------------------------ต้นสัปดาห์ต่อมาอาอนุพันธ์กับอาระพีเดินทางมาถึงที่ซิดนีย์ไล่หลังวิชพันธ์และกังสดาล ทั้งสองจะมาพบคุณประพันธ์ที่บ้าน ส่วนอาอุมาเดินทางกลับไปก่อนหน้าแล้วหนึ่งวัน“แก...ช่วยอยู่ต้อนรับอาแกด้วย เขาโทรมาเมื่อวานว่ามาถึงแล้ว จะมาหาพ่อบ่ายนี้” คุณพ่อนึกขึ้นได้ระหว่างมื้อเช้า“หนูเบล ถ้าไม่ว่างก็ไม่เป็นไร”“ค่ะ...ขอโทษนะคะ รินญานัดจะพาไปกินข้าวเที่ยงค่ะ” กังสดาลมองหน้าพ่อสามีอย่างเกรงใจ“ไปเถอะ...บอกสองคนด้วยว่าผมไม่ว่าง” เขากะพริบตาส่งสัญญาณว่าโอเคกังสดาลขอตัวขึ้นไปเตรียมตัวก่อน ปล่อยให้คุณพ่อและสามีปรึกษากัน เธอรู้จากวิชพันธ์ว่าอาสองคนน่าจะมาติดต่อธุรกิจ ซึ่งดิษยาบอกเขาไว้ก่อนหน้าแล้วว่าจะบินตามมาทีหลังเธอเอ่ยเปรยๆ เรื่องนี้ให้รินญาและโอลี่“วันนี้คุณวิชเขาอยู่คุยกับคุณอาเขาน่ะ ฝากขอโทษโอลี่ด้วย...Sorry จริงๆ” เธอหันหน้าไปพูดไทยปนอังกฤษกับสามีของญาติสาว“เราได้ยินเพื่อนกลุ่มนาง...ซุบซิบกันดังจนมาถึงเรา...” เธอทำหน้าแบบสงสัยกับกังสดาล ราวกับว่าทำไมเธอถึงไม่รู้“เ
เราตอบแทนคนที่ยังเหลืออยู่...ถือว่าได้ตอบแทนพระคุณเช่นกัน--------------------------------การเดินทางออกจากสนามบินช่วงบ่ายกว่าจะถึงที่ปลายทางสนามบินซิดนีย์ใช้เวลาเกือบเก้าชั่วโมง เที่ยวบินจากเมืองไทยต้องแวะที่มาเลเซียและต่อเที่ยวบินรอที่กัวลาลัมเปอร์อีกหกชั่วโมง ระหว่างรอเธอเห็นสามีเอาโน้ตบุ๊คออกมาทำงาน คงฆ่าเวลาไป เขาปล่อยให้กังสดาลไปเดินมองดูของเรื่อยเปื่อยที่ร้านต่างๆ ในสนามบิน เธอเข้าไปเช็คดูไลน์ของรินญาที่เขียนส่งมาทักทาย“ฝากดูของที่ระลึกของมาเลที อยากได้อ่ะ” เธอรู้จากข้อความว่ากังสดาลจะต้องแวะเปลี่ยนเครื่องที่มาเลเซีย“เอาช็อกโกรูปตึกแฝดนะ...” เธอถ่ายรูปส่งไปให้รินญาดูเธอเดินกลับมาที่เขานั่งอยู่ในเลาจน์กำลังทำงานไม่ยอมเงยหน้ามองอะไรเลย“ซื้ออะไรมา...” เขาถามขณะเหลือบเห็นถุงพลาสติกที่เธอถือ“ของฝากที่รินอยากได้ค่ะ...” “ผู้หญิงชอบกินช็อกโกแลตรึ” เขาถามไม่มองหน้าเธอ“ชอบสิ...กินแล้วคลายเครียด” เธอหยอกชายหนุ่มต่อ“ช่วยให้มีลูกดก...” เธอพูดขำๆ“เฮ้ย...จริงดิ...ขอสักชิ้นหนึ่ง” เขาจ้องหน้าเธออย่างจริงจัง“หมดสิทธิ ซื้อมาแค่กล่องเดียวค่ะ” เธอมองหน้าตลกๆ ของเขา“เดินไปซื้อมาอีก...อยา
แค่ความหอมยังช่วยดูแลใจให้กันได้รื่นรมย์กว่าการสัมผัสทางกายเสียอีก--------------------------------เช้าวันศุกร์ปลายเดือนที่วิชพันธ์กำลังวุ่นวายกับงานประชุมต่างๆ ของบริษัททั้งหมด เขาจึงขอให้กังสดาลเข้าไปดูแลเอกสารเกือบทั้งหมดเพื่อจัดการเอาใส่กระเป๋าไปด้วย คุณบิวเข้ามาคุยอย่างยินดีกับสถานะใหม่ของเธอ “ได้ข่าวว่า ได้ทุนไปเรียนต่อจากบริษัทรึ” “ค่ะ...หนูจะกลับมาทำงานที่นี่หลังเรียนจบ” กังสดาลเข้าใจว่าทุกคนที่นี่ไม่น่ารู้อะไรมากไปกว่าการที่เธอได้รับทุนเพื่อไปเรียนต่อกับทางบริษัท“โชคดีนะ...เบล” ทุกคนที่แผนกประชาสัมพันธ์ซักไซ้นิดหน่อย เธอจึงขอตัวกลับออกไปกับคนขับรถของวิชพันธ์ที่มาช่วยถือกระเป๋าเอกสารไปที่รถเธอกลับมาที่บ้านก่อนสามี เพราะเขามีประชุมกับทุกแผนกต่อ การสั่งงานน่าจะยังไม่ลงตัวกับทุกฝ่าย แต่เขาได้ขอให้อาอนุพันธ์ช่วยดูแลช่วงที่เขาเดินทางล่วงหน้าไปก่อนแล้ว กังสดาลไม่รอสามีสำหรับมื้อนี้ เธอหิวจนตาลายเพราะวันนี้ทั้งวันช่วยเขาจัดการเรื่องต่างๆ ทั้งออกไปติดต่อกับบางบริษัทที่ดีลกันอยู่แทนเขา เธอเพลินกับการออกไปติดต่อผู้คนเกือบค่อนวัน ข้าวปลาแทบจะไม่ได้สนใจกินให้อิ่มสักเท่าไหร่ย่าสั่งใ
การหาตัวตึงไว้สำรอง จะช่วยให้วันเวลาที่รอสัญญาสิ้นสุดลง มีความหมาย--------------------------------เช้ารุ่งขึ้นเป็นวันอาทิตย์ วิชพันธ์คงออกไปยิมแต่เช้าเพื่อซ้อมมวยอย่างที่เขาได้บอกไว้ก่อนหน้านั้นแล้ว กังสดาลยังนอนพลิกตัวมองเพดานห้องคิดว่า ถ้าเขาจริงจังกับดิษยาขึ้นมาจริงๆ เธอจะทำอย่างไร“นางเป็นตัวตึงของคุณย่าศรีนวลด้วยสิ” เธอพึมพำเบาๆ กับตนเอง “หรือว่าลองคุยกับริน ให้หาฝรั่งที่นั่นสำรองไว้ เผื่อเขาฉีกสัญญาเร็วกว่ากำหนด เธอจะได้อยู่ที่นั่นต่อ โดยไม่ต้องพึ่งพาคุณพ่อของเขา” เธอพูดกับตนเองเสียงเคาะประตูเบาๆ ดังขึ้น“ย่าหรือคะ...” เธอตะโกนถาม“ผมเอง...”เธอได้ยินเสียงกลอนประตูหมุนดังกริ๊ก เขาเดินเข้ามาพร้อมกางเกงขาสั้นตัวเดียว“นึกว่าไปยิมแล้ว...”“รอคุณไปด้วย...”“ลุกไปอาบน้ำ...จะได้ลงไปกินข้าว สายมากแล้ว”เธอเห็นเขาแต่งตัวกำลังเปิดประตูลงไป กังสดาลส่งเสียงจากในห้องน้ำ“เอ่อ...ขอไม่ไปได้ไหมคะ อยากไปเดินห้าง”“ตามใจ...ผมอยากไปคลายเครียด”“เชิญตามสบายนะคะ...” หญิงสาวยินดีที่วันนี้เธอจะมีเวลาว่างหลังจากทานข้าวเช้าแบบเบาๆ กังสดาลขออนุญาตกับย่าด้วยว่าจะออกไปเดินห้าง แท้จริงเธออยากกินข้าวเช
‘ถ้าทำงานหนึ่งวันแล้วได้เงินมหาศาล...เอาไหม ติดต่อมาที่เบอร์ข้างล่างนี้’หญิงสาวเปิดโน้ตใบน้อยอ่านทันทีที่กลับถึงบ้าน-------------------------------- กังสดาลถูกญาติสาวที่กำลังจะแต่งงานเดือนหน้า ชวนออกมาเจอกันที่ห้องเสื้อซึ่งเป็นสตูดิโอชุดแต่งงานแห่งหนึ่งย่านสุขุมวิท“เราเจอกันที่ตรงรถไฟฟ้าสถานีพร้อมพงษ์ดีกว่านะ จะได้เดินลงไปที่ร้านด้วยกัน เรากลัวหลงอ่ะ” กังสดาลกังวลเพราะเธอไม่ค่อยมาแถวนี้บ่อยนัก“ได้สิ…ตามนั้นเลย เจอกันสิบโมงครึ่ง ออกจากร้านจะได้ไปหาอะไรกินที่เอ็มโพเรียม” รินญา ญาติผู้น้องชวนกังสดาลมาเป็นเพื่อนครั้งแรก เพราะเห็นว่าญาติคนนี้ไม่ค่อยออกบ้านไปไหน วันหยุดเธอได้แต่ทำกับข้าวดูแลย่าลำดวนที่บ้าน ซึ่งนางเป็นย่าของรินญาด้วยกังสดาลหยุดมองชุดแต่งงานตรงกระจกหน้าร้านด้วยสายตาชื่นชม เธอยังยืนใจลอยนึกฝันหวานไปไกลว่า สักวันเธอจะมีโอกาสได้สวมชุดสุดสวยเช่นนี้เหมือนญาติสาวที่โชคดีบ้างไหม“เข้ามา...ยืนมองอยู่นั่น...มาช่วยกันเลือกหน่อย” รินญามองญาติเธออย่างขำๆ“โทษที...ชอบชุดนี้ รินลองดูสิ...” กังสดาลเอ่ยแนะนำ“บานฟู...แบบนี้ไม่ชอบ...” ญาติสาวส่ายหน้า“เราว่าลองใส่ดูก่อน อาจเหมาะนะ เพร
Comments