ความเจ็บปวดร่างกายมากมายเพียงใด ยังไม่เท่าความขมขื่นจากการถูกทำร้ายจิตใจ -------------------------------- ครอบครัวของทั้งสองฝ่ายยืนอยู่หน้าห้องของชายหนุ่ม ย่าศรีนวลและย่าลำดวนซึ่งเจอกันตั้งแต่พิธีช่วงเช้า ต่างยังสงวนท่าทีไม่ยอมเสียเปรียบกัน ได้แต่แอบมองกันอย่างเฉยเมย หลังจากทักทายพอเป็นพิธี ขณะนี้ทั้งสองกำลังทำหน้าที่เป็นประธานในฐานะญาติผู้ใหญ่ของทั้งสองฝั่งที่เกี่ยวดองกันแล้ว “ย่า...ขอให้เราทั้งสองอยู่กันดีๆ มีหลานให้ย่าไวไวนะ...ตาวิช” ย่าศรีนวลเหลือบมองย่าลำดวน ก่อนชิงกล่าวอวยพร “ครับ/ค่ะ...คุณย่า” ทั้งสองพนมมือไหว้รับพร “ย่า...อยากฝากหลานสาวคนนี้ให้ดูแล...อย่ารุนแรงกับเธอนะ...ย่าไม่ขออะไรมากไปกว่านี้” น้ำเสียงของย่าลำดวนกึ่งๆ ขอร้อง “ย่า...คะ อวยพรแบบนี้...หนูขอถอนหายใจได้ไหม” กังสดาลแอบมองหน้าเจ้าบ่าว “ครับ...ผมจะเบาๆ ตั้งแต่คืนนี้” เสียงของเขาหยอกล้อคุณแก่ ทำทุกคนหัวเราะขึ้นพร้อมกัน โดยเฉพาะคุณประพันธ์เข้ามาโอบกังสดาล และกอดลูกชายของเขาตบหลังเบาๆ “ตาวิช...ค่อยไปนะ จะมีลูกเร็วจนพวกเรา...แย่งกันอุ้มหลานไม่ทัน” คุณพ่อของเขาหัวเราะเบาๆ ขณะหันมามองหน้าหญิงสาว ทำเธอหน้าเปลี่ย
หน้าที่ในนาม ...ที่เราไม่สามารถทำอะไรได้มากไปกว่านี้--------------------------------ตกค่ำกังสดาลทราบว่าคุณประพันธ์ได้เดินทางไปสิงคโปร์แล้วกับคุณอาอุมาตั้งแต่บ่าย วิชพันธ์อยากพากังสดาลออกมาทานข้าวนอกบ้านเพื่อไม่อยากให้หญิงสาวคิดมากกับเรื่องภายในครอบครัวของเขา“ชวนย่าไปด้วยสิคะ...กลัวว่าท่านจะเหงา”“ผมถามท่านแล้ว ย่าบอกว่าไปหาความสุขกันเถอะ” เขามองหน้าเธออมยิ้ม“หมายความว่ายังไง”“เอ้า...ใครเขาจะมาเป็นก้างขวางคอเราล่ะ” เขาจ้องแววตาเธอ“ย่าบอกว่า ให้ผมรีบมีลูก”“อะไรกันคะ...ท่านรองประธาน” หญิงสาวขึ้นเสียงเสียดสี“ท่านคงแก่ๆ กันแล้ว เห็นว่าอยากไปเริ่มมิตรภาพกับย่าศรีนวลอีกครั้ง” ชายหนุ่มคงได้รับรู้แล้วว่าย่าทั้งสองเคยเป็นเพื่อนกันมาก่อนเขาขับรถพาเธอไปโดยให้ลุงสนได้พัก เขาน่าจะมีอะไรคุยกับเธอส่วนตัว“คุณพ่อจะไปปรึกษาหมอที่เป็นเพื่อนของคุณอาที่นั่น เรื่องของผมด้วย”“คุณอาแนะนำให้ผมกับคุณบินตามไปที่ซิดนีย์ สัปดาห์หน้า”“เพื่อ...???” กังสดาลมองหน้าด้านข้างที่เรียบ แววตานิ่งเฉย“ผมมีลูกไม่ได้!!!”“อะไรนะ???” กังสดาลทำเสียงตกใจ“คุณก็เห็นแล้วเมื่อเช้าว่าผมเป็นอะไร” น้ำเสียงของเขาเศร้ามาก“ที
ความทรงจำแสนเจ็บปวด... คือแผลในใจที่บาดลึก -------------------------------- หลังจากที่วิชพันธ์ออกไปทำงานแล้ว กังสดาลถามย่าเรื่องภายในครอบครัวของเขา “ฉันอยากเตือน...ครอบครัวนี้มันยุ่งอีรุงตุงนังไปหมด ยิ่งกว่ารังงูเห่า...” “โห...ถึงขนาดนั้นเลย” “ฉันได้ยินมาว่า นางศรีนวลนี่ล่ะ ที่ทำให้ประสานผิดใจกับลูกๆ เรื่องพินัยกรรม” “แล้วเรื่องมันลามมาถึงหลานด้วยไหมคะ” กังสดาลเข้าใจว่าผลกระทบน่าจะมาถึงวิชพันธ์ด้วย “ฉันไม่ได้รู้อะไรมากกว่านี้” “เอ่อ...เมื่อวานหนูเจออาของเขาที่ร้านอาหาร” “ชื่อคุณอาอนุพันธ์ นั่งทานข้าวกับผู้หญิงที่ชื่อระพี” เธออยากรู้ว่าย่ารู้จักคนนี้ไหม “น่าจะเป็นลูกนางศรีนวลกับประสาน” “เท่าที่รินเล่าให้ฟัง ดิษยาเป็นลูกสาวของอาระพี” “เหรอ...รินจะแต่งงานวันไหน ย่าลืมแล้ว” “วันเสาร์นี่ละค่ะ” บ่ายสี่โมงกังสดาลแปลกใจที่เห็นลุงสนคนขับรถมาจอดเทียบลานหน้าประตูบ้าน เธอได้บอกวิชพันธ์ไปแล้วว่าจะเดินทางไปเอง เพราะยิมของดิษยาไม่ได้ไกลจากสถานีรถไฟฟ้าเท่าไหร่ “คุณวิชให้ผมกลับมารับคุณหนูเอง...ครับ” “ลุงคะ...แวะร้านคุณอาอุมาด้วยนะคะ” เธอเกือบลืมที่เขาเขียนสั่งมาที่ไลน์ เพราะเธอไม่มีชุด
การแต่งงานเหมือนฝันฮันนีมูน ที่คนสองคนกำลังอยู่ในช่วงข้าวใหม่ปลามัน--------------------------------กังสดาลถูกสามีในนามอุ้มเธอมาที่เตียงนอนของเขา เขาพยายามจะทำให้เธอระงับความเศร้าสร้อย“คืนนี้นอนกับผมบนเตียงนี้เถอะ” น้ำเสียงของเขานุ่มทุ้ม ทำให้เธอยังสะอื้นต่อเบาๆ“อย่าร้องไห้... ผมยิ่งรู้สึกทุเรศใจมาก” เขาเอานิ้วรีดน้ำตาของเธอที่ไหลเป็นสายเขาพยายามกอดเธอไว้แน่นเอาหน้าซุกตรงหัวไหล่ของหญิงสาว เขารับรู้จากแรงสั่นสะท้านของตัวเธอ จึงมองหารีโมทเพื่อปรับอุณหภูมิไม่ให้เธอหนาวเหมือนคืนวาน“นอนเถอะ...คุณคงเหนื่อยมาก กินข้าวน้อยอีก”“ไม่ค่ะ...อยากทำต่อตามสัญญาก็ได้นะ” เสียงเธอยังสะอื้นเบาๆ“อย่าเลย...บรรยากาศไม่เอื้อแล้วล่ะ”เธอเพลียมากหลับปุ๋ยไปจนถึงเช้าบนเตียงนอนของเขา ไม่รู้สึกตัวเลยว่าเขาลุกออกไปตั้งแต่เมื่อไหร่ มาสะดุ้งอีกทีตอนชายหนุ่มกระซิบข้างหูเบาๆ“ผมอยากให้ชีวิตเหมือนฝัน...” เสียงของเขาดูมีชีวิตชีวาแต่เช้า“ยังไงคะ”“คุณพ่อส่งข้อความมา...”“เราต้องไปซิดนีย์อาทิตย์หน้า จำได้ไหม”“ค่ะ...เรื่องนั้นรึ”“เพื่อนของคุณอาแนะนำหมอคนหนึ่งให้ได้แล้ว” ชายหนุ่มจ้องแววตาเธออย่างปรีดา“ยินดีด้วยนะค
เว้นระยะห่างบ้าง...เปลี่ยนบรรยากาศ----------------คืนนั้นกังสดาลตกใจที่สามีในนามของเธอ กังวลอะไรบางอย่าง“ผมต้องขอให้คุณนอนห้องเล็ก...นะ” เขาจ้องหน้าเธออย่างครุ่นคิด“ได้เลยค่ะ...กำลังจะถามอยู่” หญิงสาวอมยิ้ม“ผมเหนื่อยเมื่อวานทั้งคืน” “เอ้า...นึกว่าเมื่อเช้า” “อย่าหาว่า ถามไร้สาระเลยนะคะ”“อยากมีกิ๊ก...ไม่ต้องบอกก็ได้ค่ะ”“ไม่...ผมไม่อยากเสียเงินฟรีๆ ก่อนกำหนด” เขาชิงตอบทันที ดูแววตาสีหน้าล้อเลียน“พูดเล่น พูดจริงเนี่ย” กังสดาลรู้สึกว่าเขาสงวนท่าทีบางครั้ง“อยากให้ผมคบ...เดซี่...รึไง” “ตัวตึงเลย...นาง” เธอพยักหน้าเห็นด้วย“เชิญเลย เพื่อผ่อนคลาย จะได้ไม่หมกมุ่นอยู่กับคนคนเดียว” เธอพูดไปก็รู้สึกใจหายกลัวเขาทำจริงๆ “งั้นพรุ่งนี้ ผมไปยิมคนเดียวนะ” กังสดาลเดินไปหยุดตรงประตูหน้าห้องเล็ก หันหลังกลับมาเจอแววตาที่ยังจับจ้องเธออยู่ เธอทำมือบ๊ายบายให้ชายหนุ่มที่แอบทำหน้าเขินๆรุ่งเช้าวันต่อมาเป็นวันเสาร์ เขาไม่ได้ไปทำงาน เธอตื่นสายนอนพลิกตัวไปมาอยู่บนเตียงนานแล้ว นึกได้ว่าวันนี้เป็นวันแต่งงานของรินญา เธอเด้งตัวออกทันทีกระโดดลุกจากเตียงเข้าห้องน้ำ ลงมาที่ห้องอาหารเจอย่า“นึกว่าต้องให้นางแ
การหาตัวตึงไว้สำรอง จะช่วยให้วันเวลาที่รอสัญญาสิ้นสุดลง มีความหมาย--------------------------------เช้ารุ่งขึ้นเป็นวันอาทิตย์ วิชพันธ์คงออกไปยิมแต่เช้าเพื่อซ้อมมวยอย่างที่เขาได้บอกไว้ก่อนหน้านั้นแล้ว กังสดาลยังนอนพลิกตัวมองเพดานห้องคิดว่า ถ้าเขาจริงจังกับดิษยาขึ้นมาจริงๆ เธอจะทำอย่างไร“นางเป็นตัวตึงของคุณย่าศรีนวลด้วยสิ” เธอพึมพำเบาๆ กับตนเอง “หรือว่าลองคุยกับริน ให้หาฝรั่งที่นั่นสำรองไว้ เผื่อเขาฉีกสัญญาเร็วกว่ากำหนด เธอจะได้อยู่ที่นั่นต่อ โดยไม่ต้องพึ่งพาคุณพ่อของเขา” เธอพูดกับตนเองเสียงเคาะประตูเบาๆ ดังขึ้น“ย่าหรือคะ...” เธอตะโกนถาม“ผมเอง...”เธอได้ยินเสียงกลอนประตูหมุนดังกริ๊ก เขาเดินเข้ามาพร้อมกางเกงขาสั้นตัวเดียว“นึกว่าไปยิมแล้ว...”“รอคุณไปด้วย...”“ลุกไปอาบน้ำ...จะได้ลงไปกินข้าว สายมากแล้ว”เธอเห็นเขาแต่งตัวกำลังเปิดประตูลงไป กังสดาลส่งเสียงจากในห้องน้ำ“เอ่อ...ขอไม่ไปได้ไหมคะ อยากไปเดินห้าง”“ตามใจ...ผมอยากไปคลายเครียด”“เชิญตามสบายนะคะ...” หญิงสาวยินดีที่วันนี้เธอจะมีเวลาว่างหลังจากทานข้าวเช้าแบบเบาๆ กังสดาลขออนุญาตกับย่าด้วยว่าจะออกไปเดินห้าง แท้จริงเธออยากกินข้าวเช
แค่ความหอมยังช่วยดูแลใจให้กันได้รื่นรมย์กว่าการสัมผัสทางกายเสียอีก--------------------------------เช้าวันศุกร์ปลายเดือนที่วิชพันธ์กำลังวุ่นวายกับงานประชุมต่างๆ ของบริษัททั้งหมด เขาจึงขอให้กังสดาลเข้าไปดูแลเอกสารเกือบทั้งหมดเพื่อจัดการเอาใส่กระเป๋าไปด้วย คุณบิวเข้ามาคุยอย่างยินดีกับสถานะใหม่ของเธอ “ได้ข่าวว่า ได้ทุนไปเรียนต่อจากบริษัทรึ” “ค่ะ...หนูจะกลับมาทำงานที่นี่หลังเรียนจบ” กังสดาลเข้าใจว่าทุกคนที่นี่ไม่น่ารู้อะไรมากไปกว่าการที่เธอได้รับทุนเพื่อไปเรียนต่อกับทางบริษัท“โชคดีนะ...เบล” ทุกคนที่แผนกประชาสัมพันธ์ซักไซ้นิดหน่อย เธอจึงขอตัวกลับออกไปกับคนขับรถของวิชพันธ์ที่มาช่วยถือกระเป๋าเอกสารไปที่รถเธอกลับมาที่บ้านก่อนสามี เพราะเขามีประชุมกับทุกแผนกต่อ การสั่งงานน่าจะยังไม่ลงตัวกับทุกฝ่าย แต่เขาได้ขอให้อาอนุพันธ์ช่วยดูแลช่วงที่เขาเดินทางล่วงหน้าไปก่อนแล้ว กังสดาลไม่รอสามีสำหรับมื้อนี้ เธอหิวจนตาลายเพราะวันนี้ทั้งวันช่วยเขาจัดการเรื่องต่างๆ ทั้งออกไปติดต่อกับบางบริษัทที่ดีลกันอยู่แทนเขา เธอเพลินกับการออกไปติดต่อผู้คนเกือบค่อนวัน ข้าวปลาแทบจะไม่ได้สนใจกินให้อิ่มสักเท่าไหร่ย่าสั่งใ
เราตอบแทนคนที่ยังเหลืออยู่...ถือว่าได้ตอบแทนพระคุณเช่นกัน--------------------------------การเดินทางออกจากสนามบินช่วงบ่ายกว่าจะถึงที่ปลายทางสนามบินซิดนีย์ใช้เวลาเกือบเก้าชั่วโมง เที่ยวบินจากเมืองไทยต้องแวะที่มาเลเซียและต่อเที่ยวบินรอที่กัวลาลัมเปอร์อีกหกชั่วโมง ระหว่างรอเธอเห็นสามีเอาโน้ตบุ๊คออกมาทำงาน คงฆ่าเวลาไป เขาปล่อยให้กังสดาลไปเดินมองดูของเรื่อยเปื่อยที่ร้านต่างๆ ในสนามบิน เธอเข้าไปเช็คดูไลน์ของรินญาที่เขียนส่งมาทักทาย“ฝากดูของที่ระลึกของมาเลที อยากได้อ่ะ” เธอรู้จากข้อความว่ากังสดาลจะต้องแวะเปลี่ยนเครื่องที่มาเลเซีย“เอาช็อกโกรูปตึกแฝดนะ...” เธอถ่ายรูปส่งไปให้รินญาดูเธอเดินกลับมาที่เขานั่งอยู่ในเลาจน์กำลังทำงานไม่ยอมเงยหน้ามองอะไรเลย“ซื้ออะไรมา...” เขาถามขณะเหลือบเห็นถุงพลาสติกที่เธอถือ“ของฝากที่รินอยากได้ค่ะ...” “ผู้หญิงชอบกินช็อกโกแลตรึ” เขาถามไม่มองหน้าเธอ“ชอบสิ...กินแล้วคลายเครียด” เธอหยอกชายหนุ่มต่อ“ช่วยให้มีลูกดก...” เธอพูดขำๆ“เฮ้ย...จริงดิ...ขอสักชิ้นหนึ่ง” เขาจ้องหน้าเธออย่างจริงจัง“หมดสิทธิ ซื้อมาแค่กล่องเดียวค่ะ” เธอมองหน้าตลกๆ ของเขา“เดินไปซื้อมาอีก...อยา
ได้ไอเดียใหม่ในธุรกิจ...เทรนที่ใกล้ตัวที่สุด-------------------------------วิชพันธ์ได้ให้สองคนย่าหลานย้ายออกจากบ้านเข้าไปอยู่คอนโดหลังจากที่กลับไปอยู่ได้แค่เพียงหนึ่งสัปดาห์ เขามีภารกิจต้องบินไปร่วมงานแต่งของเดฟกับเกศรา เป็นตัวแทนคุณพ่อควงแขนเจ้าสาวส่งตัวให้เจ้าบ่าว กังสดาลซึ่งอยู่ในช่วงพักฟื้นจากบาดแผลผ่าตัดจึงถูกห้ามไม่ให้เดินทางไปด้วย“ฝากบอกคุณพ่อนะคะ กราบขอโทษที่สร้างเรื่องร้ายๆ ให้ท่านไม่สบายใจ” เธอกราบอกวิชพันธ์แทนคุณพ่อ“ผมกลายเป็นตัวแทนไปทุกที่...” เขากอดเธอจูบที่หน้าผาก“คนดีไงคะ...”“ฝากบอกมาร์ตินไหม...” เขาจ้องตาเธอหัวเราะหึหึ“ค่ะ...ขอบคุณที่รักเบล และดีกับเบลมาตลอด” วิชพันธ์บินมาทำหน้าที่ส่งตัวเกศราในฐานะพี่ชายให้กับเจ้าบ่าวออสเตรเลียนหน้าตาหมดจดสุดหล่อ ญาติฝ่ายชายมากันครบมองมายังพี่ชายของเจ้าสาวด้วยความปลาบปลื้ม ญาติฝ่ายหญิงมีวิชพันธ์ อาอุมา และครอบครัวของคุณแม่ คือคุณยายมาเรียและน้ามาร์ติน “เดฟ...ฝากดูแลเกศให้ดีนะ” วิชพันธ์พูดขณะส่งตัวบ่าวสาวที่กำลังขึ้นรถ Rolls-Royce เป็น wedding car ติดสติกเกอร์ just married เพื่อไปฮันนีมูน“คุณพ่อจะให้เดฟกับเกศไปดูแลกิจการที่เมื
ทายาทของตระกูลที่ปกปิดนานกว่า 20 ปี ก็เผยตัวตน-------------------------------วีระพันธ์บินกลับมาเมื่อรู้ข่าวจากวิชพันธ์ ชายหนุ่มซึ่งเคยทำตัวไม่เอาไหนมาก่อนกลายเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการจัดการพิธีต่างๆ ในงานศพของพ่อตัวเอง อาบุษบาร้องไห้จนตาบวม ส่วนย่าศรีนวลร้องไห้คร่ำครวญสาปแช่งย่าลำดวนและกังดาล ทั้งโยนความผิดของเรื่องร้ายทั้งหมดว่าต้นเหตุมาจากย่าหลานคู่นี้ย่าลำดวนขออยู่โรงพยาบาลเฝ้ากังสดาลจนกว่าหลานสาวจะหาย ย่าไม่อาจกลับไปบ้านของวิชพันธ์ได้ และไม่อยากสู้หน้าครอบครัวของเขาให้เรื่องบานปลายใหญ่โตเข้าไปอีก“ย่าครับ...เบลออกจากโรงพยาบาล ผมขอไปอยู่บ้านย่านะครับ” เขากอดย่าแน่นเพื่อให้กำลังใจว่าเขาอยู่ข้างคนทั้งคู่“จะสะดวกคุณหรือเปล่า...” น้ำเสียงย่าลังเล“ไม่เป็นไรครับ...คุณพ่อบอกผมแล้วว่า จะส่งผู้รับเหมาให้มาตกแต่งซ่อมบ้าน ผมจะประสานเองครับ” เขายิ้มให้ย่าและลูบฝ่ามือท่าน“แล้วจะยังไงกัน ยัยเบลไม่ยอมลูกเดียว” ย่ารู้สึกกังวลกับหลานสาวหัวดื้อ“ผมเล่าเรื่องทั้งหมดแล้ว ท่านบอกว่าให้เบลกลับไปเรียนให้จบ” เขาตัดสินใจว่าหลังจากเสร็จงานศพของอาอนุพันธ์ เขาจะขอถอนตัวไม่รับตำแหน่งในธุรกิจทั้งหมดของคุณพ
ความคิดอยากหนีไปให้พ้นปัญหา แต่กลับกลายมาเจอปัญหาใหม่-------------------------------กังสดาลตัดสินใจแอบหนีวิชพันธ์ออกจากโรงแรมช่วงที่เขาบอกว่านัดไปพบกับเดฟในโรงแรมที่มาร่วมการประชุม เธอแกล้งทำเป็นคลื่นไส้เวียนหัวซึ่งเป็นอาการของคนเริ่มตั้งท้อง เขาเขียนไลน์บอกว่าอยากให้เธอพักไม่ต้องเดินทาง จะรีบกลับมาดินเนอร์ช่วงค่ำหนึ่งทุ่มครึ่งกับเดฟที่ห้องอาหารชั้นล่างของโรงแรม และให้เธอเตรียมตัวหนึ่งทุ่มตรงซึ่งเขาน่าจะกลับมาถึงพอดี หญิงสาวจัดการซื้อตั๋วบินตรงกลับมายังกรุงเทพซึ่งโชคดีได้ไฟลต์ช่วงก่อนเที่ยง เธอออกจากสนามบินสุวรรณภูมิตรงไปหาย่าที่บ้านของเขาประมาณบ่ายสองโมงเศษ ย่าออกมาดูหน้าประตูว่าใครลงจากแท็กซี่ เห็นหลานสาวกำลังมองมาอย่างแสนดีใจ เธอเดินเข้าไปกอดเอวซบหน้ากับไหล่ย่าร้องไห้เบาๆ“เฮ้ย...แม่คนเก่ง นี่ทำไมไม่บอกย่าเลย หนีมาล่ะสิ” ย่ามองจ้องหน้าเธออ่านสถานการณ์ออกทันที“ค่ะ...” เสียงของกังสดาลสะอื้นยกใหญ่“มา...เข้ามา นี่ไม่มีกระเป๋าอะไรเลยรึ” ย่ามองหากระเป๋าเดินทาง “หนู...ถูกเขาบังคับให้บินไปสิงคโปร์ เสื้อผ้าเขาคงไปหาซื้ออยู่ หนูได้โอกาสเลยบินหนีมา” เธอยังสะอื้นตอบย่า“ไม่เป็นไร...ดีแล
โชคชะตามักเล่นตลก แม้จะท้าทายยังไงก็ตาม -------------------------------การต่อรองของเธอดูไร้เหตุผลในสายตากร้าวดุดันของเขา สีหน้าท่าทางเหมือนเสือบาดเจ็บพร้อมจะกัดสู้ได้ทุกเมื่อ เธอสงสารเขาจับใจ แต่ด้วยความดีงามของเขามีอยู่มากพอให้เธอรู้สึกยอมรับแต่ยังมีข้อแม้“หากต้องหนีกันไปอย่างนี้ เราอยู่สู้ไม่ดีกว่าหรือคะ” “ไม่ได้!!...ต้องให้ท่านรู้ว่าผมไม่ยอม จะตัดผมทิ้งจากครอบครัวเลยก็ได้ ผมจะพาคุณไปเริ่มต้น ดีกว่าฟังคำสั่งตามใจท่านตลอดไป ชีวิตเป็นของผม...เบล” เขาส่ายหน้าอย่างไม่เห็นด้วย “เราอยู่สู้ด้วยกันได้นี่คะ...คุณพ่อท่านไม่ได้ใจร้ายหรอก” เธอยังเถียง “เราต้องการเวลาคลายเครียด ถ้าต้องสู้หน้าท่าน face to face จะไม่ดี...เบล จะไม่ดีต่อสุขภาพของท่านด้วย เชื่อผม!!!” “คลายปมใช่ไหม เบลเข้าใจค่ะ” “แล้วเราจะไปเจอใครที่สิงคโปร์คะ” เธอจ้องตาเขาอย่างสงสัย “ไปถึงแล้วจะรู้...ไม่ต้องถาม เขารอเราอยู่” “ไปเถอะ จะไม่ทันเที่ยวบินบ่ายนี้” เขาเร่งเธอคุณบุญส่งรีบขับรถพาทั้งคู่มาที่สนามบิน วิชพันธ์จองเที่ยวบินให้เธอตั้งแต่เมื่อคืน เขาแอบถ่ายรูปพาสปอร์ตของเธอเก็บไว้ในมือถือของเขา “โห...แอบลักข้อมู
หากไม่ต่อรองกับโชคชะตา ก็จะถูกลิขิตอย่างไม่เป็นธรรม-------------------------------วิชพันธ์ขอร้องให้กังสดาลอยู่ที่โรงแรมกับเขา เธอเกรงว่าคุณพ่อสามีเกิดรู้ขึ้นมา ทั้งเธอและวิชพันธ์คงไม่รอดพ้นบาปที่ทำให้ท่านลำบากใจ คำสัญญาที่รับปากกับท่านไปแล้วถือว่าไร้ความหมาย ท่านจะไม่มีทางไว้ใจพวกเขาอีกต่อไป“คุณย่าบอกว่าท่านจะจัดการทางนั้นให้เรา ท่านไม่ได้บอกรายละเอียด แค่บอกให้เบลอย่าคิดมาก” เขากอดเธอขณะพูดถึงย่า“ท่านบอกให้ผมรีบมีลูก จะได้เป็นข้อต่อรองกับคุณพ่อ” “เบล ขอถามนะคะ” เธอผลักอกสามีออก ขณะถามเขาอย่างจริงจัง“ผมตอบได้เท่าที่รู้”“ทำไมคุณพ่อไม่ค้านแต่แรก ตอนคุณพาย่าและเบลมาพบท่าน” “เวลาในพินัยกรรมระบุให้ผมต้องแต่งงานภายในปีนี้ หากเลยกำหนดนี้ไปแล้วท่านจะต้องสละทุกตำแหน่งให้คุณอา”“เบลยังไม่ get อยู่ดีค่ะ” “แค่เรื่องแต่งงานทำไมต้องซีเรียสขนาดนั้น” เธอส่ายหน้า“ผมไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของคุณพ่อ ดังนั้นพินัยกรรมถูกระบุโดยคุณย่าก่อนคุณปู่เสีย ให้ผมถือหุ้นได้แค่ 25 เปอร์เซ็นต์ คุณพ่อถือหุ้นกับคุณอาคนละ 25 เปอร์เซ็นต์ ท่านจึงพยายามหาทางให้ผมแต่งงานเพื่อจะได้ take ส่วนนี้ขึ้นมาอีก 25 เปอร์เซ็นต์ แล้วทุ
ความลับนั้น...เป็นเรื่องลึกลับดำมืด ที่ไม่มีใครอยากขุดคุ้ย แต่เมื่อถึงเวลาเหมาะสม มันจะเปิดเผยออกมาจนได้-------------------------------สัปดาห์ต่อมากังสดาลได้เช่าเรือปิกนิกของโจเซฟเพื่อนสนิทของวิชพันธ์ เพื่อพารินญาไปเลี้ยงข้าวเที่ยงและท่องเที่ยวไปรอบอ่าวให้จิตใจสบายยิ่งขึ้น “เฮ้ย...เบล คุณวิชบอกเราว่า จะบินมาเร็วๆ นี้ แต่ไม่ได้บอกว่าวันไหน”“เหรอ...มาทำไม” เธอทำหน้าสงสัย“คงอยากมาพบเธอมั้ง” “ฮะ!!!...คงไม่ได้ล่ะ คุณพ่อห้ามพบเรา” เธอร้องเสียงหลง“เขาบอกว่า คุณพ่อจะไปเมลเบิร์น เขาเลยคงอยากมาเจอเธอน่ะ” “เฮ้อออ!!!...” หญิงสาวรู้สึกหนักใจมาก เธอไม่อยากทำให้คุณพ่อสามีโกรธ เพราะท่านเมตตาเธอมากมายจนไม่รู้จะตอบแทนท่านอย่างไร“อย่าหาว่าเราเสือกเลย...ทำไมคุณพ่อเพิ่งจะมาให้แยกกัน ไม่เข้าใจจริงๆ” รินญาจ้องตาเธอเพื่อจับพิรุธ“ริน...เราไม่รู้อะไรเลย คุณวิชน่าจะรู้เรื่องทั้งหมดดี แต่ไม่เล่าให้เราฟัง” เธอจ้องตาของญาติสาวกลับไป“ถ้าอย่างนั้น...เธอต้องเจอเขาล่ะ” “ไม่ได้...คุณพ่อห้ามเราด้วย ท่านรู้เข้าเกิดโกรธและไล่เราออกจากคอนโด จะทำยังไง” เธอทำหน้าเศร้าจนรินญาต้องขยับเข้ามากอดตัวเธอไว้แน่น“เออน่า.
ในชีวิตคนเรานั้น ยากที่จะหาความสุขไร้ซึ่งความขมขื่นเจอปน...คงไม่มี--------------------------------คุณพ่อสามีสั่งห้ามกังสดาลติดต่อกับวิชพันธ์ตั้งแต่ย้ายออกไปอยู่ที่คอนโดของอาจารย์แอน เธอนั่งเหม่อใจลอยมองภาพของคุณแม่สามีที่แขวนอยู่บนผนังในห้องนอน ก่อนนอนเธอสวดมนต์และนั่งภาวนาเพื่อส่งจิตถึงท่าน‘อาจารย์แอนคะ หนูขอกราบดวงวิญญาณของอาจารย์ ไม่ว่าจะสถิต ณ หนใดในปรโลก ขอช่วยวิชพันธ์ลูกชายกำพร้าที่ท่านได้ชุบเลี้ยงอุปถัมภ์ด้วยนะคะ เขาคงหาทางออกไม่ได้กับปัญหานี้ หนูช่วยอะไรเขาไม่ได้เลยค่ะ’เธอหลับไปพร้อมฝันเลือนรางได้ยินเสียงอาจารย์แอนบอกว่าไม่เป็นไร เธอตามหาต้นเสียงร้องเรียกไปยังทิศทางใดก็ไม่เห็นท่าน เสียงสะอื้นเบาๆ ของเธอสะท้อนออกมาจากห้วงสำนึกในความฝันกังสดาลตกใจตื่นแต่เช้ามืดและเดินออกไปสูดลมเย็นที่ระเบียงมองเห็นดาวระยิบบนท้องฟ้าเหนือท้องทะเลเบื้องหน้า เธอหวนคิดถึงคืนที่เขาและเธอเดินกันไปถึงริมอ่าว เขาชี้ขึ้นบนท้องฟ้าให้เธอมองหาดาวกางเขนใต้ วิชพันธ์เป็นผู้ชายสมัยใหม่ที่ไม่น่าเชื่อว่าจะพูดถึงตำแหน่ดวงดาวของผืนฟ้ายามราตรีได้อย่างสวยงาม เขาเล่าว่าสมัยก่อนมีตำนานมากมายของชนเผ่าอะบอริจิน ชื่อข
ความลับที่ยังบอกกับใจไม่ได้ว่า เป็นความรักแท้จริงหรือแค่เพียงเงินตรา--------------------------------กังสดาลใจจดจ่อถึงวันเสาร์ซึ่งน้ามาร์ตินนัดจะมารับเธอที่บ้านคุณพ่อสามี เธอกระวนกระวายใจกว่าจะถึงวันนั้น เลยตัดสินใจบอกคุณพ่อสามีในช่วงมื้อเช้าวันศุกร์“คุณพ่อคะ...หนูขออนุญาตค่ะ”“มีปัญหาอะไร...หนูเบล” คุณพ่อสามีมองหน้าหญิงสาวอย่างลำบากใจ“คือหนูขอไม่ไปอยู่บ้านน้ามาร์ตินค่ะ”“อ้าว...จะไปอยู่ไหน รินญารึ” น้ำเสียงท่านดูกังวล“ค่ะ...หนูจะให้รินมารับค่ะ” เธอพยายามจะทำให้ทุกคนสบายใจ“งั้น...อุมา โทรให้ผมทีนะ หลังกินข้าวอยากคุยกับมาร์ตินอีกเรื่องหนึ่ง” ท่านทำให้กังสดาลสงสัยขึ้นมาทันที“บ่ายๆ ลงมาคุยกับพ่อที่ห้อง” กังสดาลรับรู้เหตุผลว่าทำไมน้ามาร์ตินต้องเข้ามาทำหน้าที่ดูแลเธอ เพราะคุณพ่อสามีให้สัญญากับเขาก่อนหน้านั้นตอนที่อาจารย์แอนยังมีชีวิตอยู่ว่า ท่านจะทำตามที่น้ามาร์ตินขอร้องไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม เพราะเขาเป็นคนนำพาวิชพันธ์เข้ามาสู่ครอบครัวท่าน ซึ่งเป็นสัญญาใจที่ท่านต้องทำให้เพื่อทดแทนความดีของเขา “คุณพ่อค่ะ หนูขอโต้แย้ง เพราะหนูไม่ได้รับรู้ข้อผูกพันนี้มาก่อนนะคะ” คำพูดของเธอทำคุณพ่อสามี
ความรักมันคือที่สุด และเขายังรออยู่--------------------------------คุณพ่อสามีสั่งให้ลียาขึ้นมาตามวิชพันธ์ลงไปพบที่ห้องนอนท่าน ก่อนที่เขาจะออกไปสนามบินตอนบ่าย ประมาณครึ่งชั่วโมงเขากลับขึ้นมาที่ห้องนอน เขามองเธออย่างกังวล“คุณพ่อให้คุณลงไปพบ” “ค่ะ...คุณเตรียมตัวเถอะ ใกล้ถึงเวลาแล้ว” กังสดาลลากกระเป๋าเดินทางออกมาวางไว้ที่หน้าห้องนอน เธอเดินไปเคาะห้องถัดไปเพื่อบอกลียาให้ช่วยลากมันลงไปไว้ข้างล่างกังสดาลเดินลงบันไดไปเจออาอุมากำลังเตรียมอาหารมื้อเที่ยงไว้เพื่อเลี้ยงส่งวิชพันธ์ เธอถามว่าจะให้ช่วยอะไรไหม“ไปพบคุณพ่อ แล้วมาช่วยอานะ” อาอุมาหันมาสีหน้าเคร่งเครียด“คุณพ่อ...มีอะไรกับหนูรึคะ” เธอถามก่อนเดินไปเคาะประตูห้องคุณพ่อสามี“เข้าไปหาท่านก่อนค่อยมาคุยกัน” กังสดาลออกมาหลังจากพบท่านแค่ห้านาที ท่านดูไม่สบายใจมากทำใจเธอหดแฟบ เธอเดินเข้ามาในครัวเหมือนคนไร้เรี่ยวแรง“คุณอาคะ...คุณพ่อท่านไม่ให้หนูอยู่ดูแลท่านที่นี่” เสียงสะอื้นของหญิงสาวทำอาอุมาซึ่งกำลังอยู่ตรงหน้าเตาหันมาทันที“ไม่เป็นไร ย้ายไปอยู่กับคุณยายเถอะ หนูเบล...เหลือกี่เดือนจะจบ”“อีกสามเดือน แล้วใครจะดูแลท่านกับคุณอาล่ะคะ” อาอุมาเดิ