อัจฉริยะทางการแพทย์ยุคปัจจุบันเดินทางข้ามผ่านเวลากลายมาเป็นพระชายาอ๋องผู้ถูกทอดทิ้ง แม้แต่ลูกชายของตนยังถูกเรียกว่าลูกนอกสมรส! จ้าวสงครามที่สองขาพิการรังเกียจนางเยี่ยงมด แม้แต่การอยู่การกินของนางก็แสนระกำลำบาก! ดีที่นางมีมืออันวิเศษของหมออัจฉริยะ และพรแห่งห้วงเวลาอยู่ ถูกคนรับใช้ดูหมิ่น ก็ทำให้ตาบอดเสียเลย! พวกนางรับใช้ แม่นมรังแก ก็ตัดเส้นเอ็นข้อมือเสียให้! สามีขี้เผด็จการ ก็แขวนเขาไว้บนต้นไม้ซะสิ! หลิงอวี๋ถลกแขนเสื้อขึ้น ทำเสียจนตำหนักอ๋องอี้วุ่นวาย! อาศัยมือวิเศษคู่นั้นที่ช่วยชีวิตท่านเสนาบดี ช่วยชีวิตไทเฮา... ! ชนะใจชายหนุ่มผู้มากยศมั่งคั่งทั้งหลาย ในที่สุด นางก็ถูกสามีจ้าวสงครามต้อนจนมุมเสียได้ “ขโมยทั้งร่างกายทั้งหัวใจข้า ยังคิดที่จะหนีไปให้ไร้ร่องรอยอีกรึ?”
View Moreผู้นำคนหนึ่งและชาวบ้านของหลายหมู่บ้านพากันคุกเข่าลงอย่างล้นหลาม“ฝ่าบาททรงนึกถึงราษฎรและนำพาความร่ำรวยมาสู่พวกเราเช่นนี้ พวกเราจะให้ความร่วมมือกับฝ่าบาท จะเลี้ยงวัวนมอย่างดี ทำให้ห่วงโซ่อุตสาหกรรมวัวนมพัฒนายิ่ง ๆ ขึ้นไปพ่ะย่ะค่ะ!”“ฝ่าบาทโปรดวางประทัย กระหม่อมเสี่ยวเฮยจะเลี้ยงวัวนมให้ขาวสะอาดและแข็งแรง ในทุกวันจะรีดนมวัวให้ได้มาก ๆ พ่ะย่ะค่ะ!”ชาวบ้านแต่ละคนแย่งกันแสดงออกถึงความภักดีและความมุ่งมั่นต่อเซียวหลินเทียนเซียวหลินเทียนยิ้มอย่างพึงพอใจ จากนั้นก็ยิ้มให้ชาวบ้านเหล่านั้นอย่างเมตตาพลางเอ่ย “ผลิตภัณฑ์นมเหล่านี้ล้วนเป็นฮองเฮาที่คิดขึ้นมา พวกเรามิอาจทำให้เจตนาของฮองเฮาต้องผิดหวังได้! พวกเราต้องพัฒนาห่วงโซ่อุตสาหกรรมของผลิตภัณฑ์วัวนมให้ดี ทำให้แคว้นฉินตะวันตกร่ำรวยและราษฎรแข็งแกร่ง!”“อีกอย่างผลิตภัณฑ์นมเหล่านี้มิเพียงแต่ทำให้อิ่มท้องแต่ยังทำให้ร่างกายแข็งแรงด้วย คนชรากินเข้าไปกระดูกก็จะดี เด็ก ๆ กินแล้วก็แข็งแรงและเติบโตขึ้น...”“ฉินตะวันตกของเราต้องเลี้ยงวัวนมให้มาก ให้ราษฎรของฉินตะวันตกสามารถดื่มนมได้วันละถ้วย เมื่อร่างกายแข็งแรง ก็จะสร้างฉินตะวันตกที่แข็งแกร่งได้!”คำพูดขอ
เซียวหลินเทียนอยู่บนแท่นสูงเห็นผลิตภัณฑ์นมเหล่านั้นถูกทุกคนลิ้มลองไปอย่างเอร็ดอร่อย มุมปากของเขาก็ปรากฏความเยาะเย้ยต่อหมู่บ้านที่ค้านการเลี้ยงวัวนมเหล่านั้น เรื่องนี้ทำให้เขานึกถึงตอนแรก หลิงอวี๋กับเกิ่งเสี่ยวหาวสร้างโรงงานยาที่หมู่บ้านตระกูลเฉินจนทำให้ชาวบ้านท้องถิ่งนั้นร่ำรวยกันขึ้นมา!แต่องค์หญิงหกต้องการจะแย่งโรงงานยาของหลิงอวี๋ จึงซื้อโรงงานยาด้วยราคาที่สูง เกิ่งเสี่ยวหาวโกรธมากก็เลยย้ายโรงงานยาไปที่หมู่บ้านอื่น!หลิงอวี๋กับตนพยายามคิดทุกทางเพื่อส่งเสริมการเพาะเลี้ยง และคิดที่จะช่วยให้ชาวบ้านท้องถิ่นให้ร่ำรวยขึ้น ในเมื่อพวกเขามิเห็นค่าก็มองหมู่บ้านอื่นร่ำรวยด้วยความอิจฉาตาร้อนไปเสียเถิด!กฎหมายมิได้รับผิดชอบต่อทุกคน เมื่อเทียบกับการลงโทษชาวบ้านเหล่านี้ เซียวหลินเทียนคิดว่าการลงโทษที่ดีที่สุดก็คือปล่อยให้พวกเขาได้มองการสูญเสียความร่ำรวยนั้นไป...ฉินซานกับผู้ใต้บังคับบัญชาของตนเดินตามงานเลี้ยงและแจกใบประชาสัมพันธ์ให้ราษฎรและบัณฑิตเหล่านั้น ประกาศว่าผลิตภัณฑ์นมจะนำพาผลกำไรทางเศรษฐกิจมาให้เทียบกับการโฆษณาปากเปล่าแล้ว การมีผลิตภัณฑ์นมจำนวนมากวางอยู่ตรงหน้าเช่นนี้ ทุกคนทั้งได้ลิ
การผ่าตัดเปิดกะโหลก นี่เป็นครั้งแรกในรอบพันปีของเมืองหลวง!หลิงเสียงกังเลือดท่วม สถานการณ์เร่งด่วนร้ายแรงถึงชีวิตทำให้เหล่าบัณฑิตและราษฎรเหล่านั้นวางความโกรธที่มีต่อหลิงอวี๋ลงชั่วคราวแม้จะมีข้อสงสัยในใจ แต่ท่านอดีตเสนาบดีเป็นบิดาของหลิงเสียงกัง ตามกฎหมายแล้วมีอำนาจในการตัดสินใจว่าจะให้หลิงอวี๋รักษาหรือไม่ และพวกเขาเองก็ไม่มีสิทธิ์คัดค้านนางซุนในฐานะภรรยามิได้มีสิทธิ์ตัดสินใจ การคัดค้านของนางจึงถูกเมินไปหลิงอวี๋พาพวกหลิงหว่านเข้าไปปฐมพยาบาลหลิงเสียงกังข้างในเซียวหลินเทียนมองนางซุนอย่างเย็นชาราวกับมองคนตายนางซุนผู้นี้ใส่ร้ายหลิงอวี๋ซ้ำแล้วซ้ำเล่า แม้ว่าจะมีความยากบำลาก ก็มิคู่ควรที่จะได้รับการอภัยนางซุนเห็นหลิงเสียงกังถูกล้อมไว้ ส่วนนางนั้นเดียวดายไร้ผู้ใดสนใจ เมื่อเห็นเผยอวี้นั่งอยู่ด้านข้างและมีองครักษ์คนหนึ่งกำลังจัดการบาดแผลให้เขาอยู่นางซุนก็เข้าไปอย่างรู้สึกผิด พลางเอ่ยถามอย่างเศร้าใจ “แม่ทัพเผย หว่านเอ๋อร์ของข้าเล่า?”เผยอวี้มิรู้ว่าควรจะเกลียดหรือโกรธนางซุนดี จึงเอ่ยเรียบ ๆ “นางก็ถูกช่วยออกมาแล้ว อีกประเดี๋ยวก็มาถึง!”นางซุนได้ยินดังนั้นก็โล่งใจแล้วรีบเอ่ย “คนที่ข
“ฉึก… ฉึก...”เสียงลูกธนูคมกริบทั้งสองที่แทงทะลุร่าง ทำให้ราษฎรและบัณฑิตที่พุ่งไปข้างหน้าเมื่อเห็นทหารสองคนถูกยิงเข้าที่อกก็ชะงักอยู่กับที่ทันทียังมิทันที่พวกเขาจะได้ตอบสนองก็ได้ยินเสียงโกรธเกรี้ยวของเซียวหลินเทียนเอ่ยขึ้นมา “ทหารของข้าไม่มีทางสังหารคนบริสุทธิ์มิเลือกหน้า คนเลวสองคนนี้คิดจะสังหารพวกเจ้า กระตุ้นให้เกิดความวุ่นวาย มีเจตนาแอบแฝง เป็นความผิดร้ายแรงมิอาจให้อภัยได้!”“ข้าสังหารพวกเขาเป็นการเตือน! ผู้ใดที่กล้ามิฟังคำสั่งและลงมืออีกก็จะมีจุดจบดังเช่นพวกเขา!”ราษฎรและบัณฑิตเหล่านั้นตกตะลึงไปกับฉากนี้ คนที่มีเหตุผลเมื่อคิดแล้วก็เหงื่อออกทั่วร่างหากมิใช่เพราะมือธนูที่ซ่อนตัวอยู่บนที่สูงสังหารมือสังหารที่ก่อเรื่องสองคนนั้น พวกเขาก็จะถูกปลุกปั่น เมื่อเห็นทหารของจักรพรรดิสังหารราษฎร พวกเขาจะพุ่งเข้าไปทุบตีต่อสู้กับเหล่าทหารหรือไม่!ถึงเวลานั้นจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น?มิว่าจะเป็นราษฎรหรือทหารที่ตายก็ล้านทำให้จัตุรัสเกิดสถานการณ์นองเลือดที่ไหลดั่งสายน้ำ...เมื่อนึกถึงภาพนองเลือดนั้น ทุกคนก็กลัวจนตัวสั่น!และในระยะเวลาสั้น ๆ นี้ เผยอวี้ก็ขี่ม้าพร้อมแบกหลิงเสียงกังมาออกมาตามทางที
เหล่าบัณฑิตและขุนนางที่เดิมทีคล้อยตามท่านอดีตเสนาบดีกับผู้ป่วยแต่ละคนจนเลือกเชื่อหลิงอวี๋แล้ว เมื่อได้ยินคำพูดนี้ก็หวั่นไหวทันทีเมื่อเห็นนางซุนที่คำนับหัวโขกพื้นจนเลือดไหลคุกเข่าขอร้องหลิงอวี๋อยู่ที่พื้น ภาพนองเลือดนี้กระตุ้นให้หัวใจแห่งความชอบธรรมของพวกเขาปั่นป่วนขึ้นอีกครั้งแล้ว“หลิงอวี๋เผด็จการรังแกผู้คนเช่นนี้ จะคู่ควรกับการนั่งเพลิดเพลินอยู่ในตำแหน่งฮองเฮาบนแท่นสูงนั้นได้อย่างไร!”“หลิงอวี๋ ลงมาเสีย เจ้าควรจะฆ่าตัวตายเป็นการขอโทษ!”“ประหารมือสังหารที่บีบให้คนตายผู้นี้เสีย!”เสียงแห่งความโกรธเกรี้ยวดังก้องขึ้นมาในจัตุรัส บัณฑิตเหล่านั้นพยักหน้า และทุกคนก็พุ่งไปที่แท่นสูงกองทัพหลวงก้าวออกมากั้นเอาไว้ แต่พวกเขามิสามารถสังหารราษฎรได้ และมิสามารถลงมือกับพวกเขาได้ด้วย จึงถูกบีบจนต้องถอยร่นไปเซียวหลินเทียนเด้งตัวลุกขึ้นมา สีหน้าของเขามืดครึ้ม วันนี้แม้จะต้องสังหารคนที่ก่อเรื่องเหล่านี้ให้หมดและขึ้นชื่อเรื่องเผด็จการเป็นชนักติดหลัง เขาก็จะมิยอมพูดได้มิชัดเจนแล้วอย่างไร เขาก็จะใช้สถานการณ์ที่นองเลือดยิ่งกว่ามาทำให้นางซุนและคนที่ด่าหลิงอวี๋ต้องหุบปากตลอดไป!หลิงอวี๋เองก็ลุกขึ้
ผู้ป่วยเหล่านี้แต่ละคนต่างก็แย่งกันเล่าว่าหลิงอวี๋รักษาโรคให้พวกเขาอย่างไร จนเสียงดังที่จัตุรัสยิ่งวุ่นวายมากขึ้นแต่ใต้เท้าเถี่ยมิได้คิดจะห้ามแม้แต่น้อยคนที่ด่าเหล่านั้นก็ยังคงตะโกนอย่างมิพอใจ “พวกเจ้าถูกหลิงอวี๋ซื้อตัวเพื่อมาล้างมลทินให้ชื่อของนาง!”“พวกเจ้าจะต้องเห็นว่านางเป็นฮองเฮาจึงได้ตั้งใจจะเอาใจนาง พูดดีกับนาง!”ครอบครัวผู้ป่วยคนหนึ่งมีคนด่าที่ลุกออกไปด้านข้าง เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ครอบครัวนั้นก็ทนมิไหวแล้วซัดหมัดให้หน้าคนที่ด่าไปเต็ม ๆ“พล่ามไร้สาระอะไรของเจ้า ข้ามิเคยได้รับเงินจากฮองเฮาสักตำลึง!”“เรามีกันมากถึงเพียงนี้ ล้วนรู้บุญคุณของฮองเฮา มิอยากเห็นพระนางที่มีความคิดที่ดีต่อราษฎรเช่นนี้ต้องถูกคำต่ำช้าเยี่ยงพวกเจ้าใส่ร้าย!”“หมู่บ้านข้าก็มีคนมา เจ้ามิเชื่อคำพูดของข้าก็ไปถามคนในหมู่บ้านว่าฮองเฮาส่งคนไปจ่ายเงินซื้อพวกเราหรือไม่?”“หากฮองเฮาซื้อพวกเราได้ แล้วพระนางจะสามารถซื้อตัวคนในหลายหมู่บ้านทั้งหมดนั้นได้หรือ?”คนที่ด่าเหล่านั้นเห็นว่าคนนับมิถ้วนส่งสายตาโกรธเกรี้ยวมาให้พวกเขา คนที่ด่าคนหนึ่งยังคงเอ่ยอย่างแข็งกร้าว “พูดเรื่องพวกนี้หาได้มีประโยชน์ไม่… ต้องให้หลิงเส
เมื่อไต่สวนคดีนี้แล้ว หลี่ต้าหนิวมิเพียงแต่มิถูกลงโทษ แต่ยังได้รับชื่อเสียงที่ดีมากอีกด้วย ครอบครัวผู้เสียหายเหล่านั้นก็รู้สึกละอายใจต่อหลี่ต้าหนิววันที่อาคารศึกษาถล่ม พวกเขาโกรธจนมีคนวิ่งไปที่บ้านของหลี่ต้าหนิวแล้วทุบบ้านเขาจนพังตอนนี้เมื่อรู้ว่าถูกคนทำให้เข้าใจหลี่ต้าหนิวผิด คนเหล่านั้นจึงละอายกับการกระทำของตน“เมื่อพูดเรื่องของหลี่ต้าหนิวกระจ่างแล้ว ตอนนี้จะไต่สวนคดีที่หลิงอวี๋เรียกเงินค่ารักษาเกินจริงและเห็นชีวิตคนเป็นผักปลา!”ใต้เท้าเถี่ยเป็นคนที่เที่ยงตรงมิเห็นแก่หน้าใครอย่างแท้จริง ยามไต่สวนคดีก็ถือว่าหลิงอวี๋เป็นคนผิด มิเรียกแม้แต่ฮองเฮาแต่เรียกชื่อออกไปตรง ๆการกระทำนี้ได้รับการยอมรับจากบัณฑิตอย่างล้นหลาม พวกเขารู้สึกว่าใต้เท้าเถี่ยจะต้องตัดสินคดีโดยยึดมั่นในความยุติธรรมอย่างแน่นอนเมื่อเห็นหลิงอวี๋แต่งกายด้วยชุดฮองเฮา รอให้คดีตัดสินเสร็จสิ้น นางจะไม่มีวาสนาได้แต่งชุดฮองเฮาอีกต่อไป!ใต้เท้าเถี่ยยังมิได้รับข่าวว่าเผยอวี้พาตัวหลิงเสียงกังกลับมา ภายนอกเขาดูสงบ แต่กลับแอบมองไปทางแม่ทัพสือตอนนี้คำให้การของหลิงเสียงกังสำคัญที่สุด หากเขามิมาให้การ คำให้การของพวกท่านอดีตเสน
เถ้าแก่เหอถูกใต้เท้าเถี่ยรัวคำถามใส่ก็พูดมิออก เหงื่อเย็นพลันผุดออกมาเต็มไปหมด“เถ้าแก่เหอ ข้าไปเยี่ยมชมร้านค้าที่อยู่ใกล้ ๆ กับร้านตั๋วเงินมาแล้ว ทั้งยังมีผู้ที่อยู่แถวนั้นอีกหลายสิบคน วันที่ในสมุดบัญชีเจ้าบันทึกว่าหลี่ต้าหนิวไปฝากเงินสองแสนไว้ ไม่มีผู้ใดเห็นหลี่ต้าหนิวมาฝากเงินเลย!”“สองแสนนี้มาโผล่ในสมุดบัญชีอย่างน่าประหลาดได้อย่างไร?”“หรือเจ้ามิพอใจหลี่ต้าหนิวจึงจงใจปลอมแปลงบัญชีเพื่อกล่าวหาเท็จว่าเขาทุจริต?”เถ้าแก่เหอทนมิไหวอีกต่อไปแล้วจึงตะโกนออกไป “ใต้เท้าเถี่ย ข้าหรือจะกล้ากล่าวหาหลี่ต้าหนิวอย่างเป็นเท็จ มีคนที่รูปร่างหน้าตาดูเหมือนหลี่ต้าหนิวเอาตั๋วเงินของร้านตั๋วเงินไท่เหอมาที่ร้านตั๋วเงินสี่หลายแล้วฝากในชื่อของหลี่ต้าหนิวจริง ๆ ขอรับ!”“ตอนนั้นเขาใช้ตั๋วเงิน ย่อมไม่มีทางที่จะมีคนมาขนย้าย!”“คล้ายหลี่ต้าหนิว มิได้หมายความว่าคนที่มาฝากเงินคือหลี่ต้าหนิว เงินนี้ก็มีความเป็นไปได้ว่ามีคนจงใจใช้ชื่อเขาฝากเงินเพื่อใส่ร้ายหลี่ต้าหนิว ใช่หรือไม่?”“ขอรับ!” เถ้าแก่เหอทำได้เพียงยอมรับ“เรื่องนี้หยุดไว้ก่อน ตอนนี้ข้าจะไต่สวนเรื่องที่พวกเจ้าฟ้องร้องว่าหลี่ต้าหนิวทุจริตเงินก่อสร
คนที่จ้าวหรุ่ยหรุ่ยสั่งการล้วนปะปนอยู่ในฝูงชน เมื่อเห็นคนนั้นกระโดดออกมาฟ้องร้องหลี่ต้าหนิว ก็มีคนตามกันออกมา“ใต้เท้าเถี่ยทำเพื่อฮองเฮา จึงจงใจปกปิดหลี่ต้าหนิว!”“สังหารหลี่ต้าหนิว ลงโทษฮองเฮาสถานหนัก ถอดถอนฮองเฮา!”“ถอดถอนฮองเฮา!”เสียงคัดค้านเหล่านั้นแหลมสูงขึ้นเรื่อย ๆ“เงียบ!”แม่ทัพสือตะโกนขึ้นมาอีกครั้ง พลางตะคอกเสียงแข็ง “ใต้เท้าเถี่ยกำลังไต่สวน ห้ามพวกเจ้าเอะอะเสียงดัง มิเช่นนั้นจะถูกลงโทษที่ส่งเสียงดัง!”“เกรียงไกร...”ทหารกองทัพหลงที่อยู่รอบ ๆ ตะโกนขึ้นมาโดยพร้อมเพรียงกันบรรยากาศที่ทรงอำนาจและหอกที่ส่องประกายในมือพวกเขาปรามให้คนที่โวยวายจำนวนมากมิกล้าพูดคนหนึ่งคิดว่าแม่ทัพสือมิกล้าสังหารตนต่อหน้าคนจำนวนมากเช่นนี้ จึงตะโกนขึ้นมา“ใต้เท้าเถี่ยตัดสินคดีมิยุติธรรม ยังมิให้เราเอ่ยทวงความยุติธรรมอีกหรือ? พวกเราเรียกร้องให้เปลี่ยนตัวใต้เท้าเถี่ยแล้วไต่สวนคดีนี้ใหม่อีกครั้ง!เซียวหลินเทียนสีหน้าเรียบนิ่งลง นี่มิได้กำลังท้าทายใต้เท้าเถี่ย แต่กำลังท้าทายอำนาจของตน!เขามองแม่ทัพสือ แม่ทัพสือจึงโบกมือทันที จากนั้นทหารกองทัพหลวงหลายคนก็พุ่งไปข้างหน้าแล้วกดคนผู้นั้นลงกับพื้
“หลิงอวี๋!” “ในปีนั้นเจ้าวางแผนการชั่วร้ายใส่ข้าอย่างไร้ยางอาย… จากนั้นยังใช้ป้ายทองอาญาสิทธิ์ที่องค์จักรพรรดิพระราชทานให้มาบีบบังคับให้ข้าแต่งงานกับเจ้า...” “มาตอนนี้ยังลอบขโมยของล้ำค่าที่เสด็จแม่ของข้าทิ้งเอาไว้ เพื่อเติมเต็มสิ่งที่เจ้าขาดหายไป! ยิ่งไปกว่านั้นคือทำร้ายเฮยจื่อเสียจนปางตาย!” “หากว่าข้ายังไว้ชีวิตเจ้าอีก ข้าก็คงจะไม่แซ่เซียวแล้ว!” ใคร? ใครกำลังพูดอยู่กัน ขณะที่เธอกึ่งหลับกึ่งตื่นอยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงแส้ “เพียะ!” ดังขึ้น ทั่วทั้งตัวของหลิงอวี๋เจ็บปวดจนสั่นสะท้าน จนต้องลืมตาขึ้นมาทันที... จากนั้นเมื่อมองเห็นด้านหน้าของเธอ มีชายหนุ่มหล่อเหลา สูงส่งราวกับเทพเจ้านั่งอยู่บนรถเข็น จ้องมองยังเธออย่างแข็งกร้าว “โบย! ห้าสิบแส้! อย่าให้ขาดแม้แต่หนึ่ง!” “โบยให้ตาย แล้วจงลากไปโยนทิ้งที่สุสานรวมซะ!” เพียะ! เพียะ! เพียะ! เสียงแส้ดังออกมาพร้อมกับเสียงลมครั้งแล้วครั้งเล่ากระแทกลงบนกายของหลิงอวี๋ หลิงอวี๋เจ็บปวดจนดวงตามืดมน อีกเพียงนิดเกือบจะเป็นลมไป... หลิงอวี๋ที่เกือบจะสิ้นลมไป เธอนึกไม่ออกว่านี่มันเกิดอะไรขึ้น? ท่านอ๋องอะไรกัน? เฮยจื่ออะไร? เมื่อคร
Comments