นางผู้เป็นถึงอัจฉริยะทางการแพทย์ทะลุมิติมาเป็นคุณหนูใหญ่ตระกูลฉินที่ทั้งโง่เง่าและเลวร้ายกาจแห่งราชวงศ์ตงลู่หวัง ใต้หล้าล้วนกลั่นแกล้งนาง รังแกนาง ทำลายนาง! มือซ้ายถือโอสถพิษ มือขวาของนางที่ถือมีดผ่าตัด พร้อมร่างกายที่กำลังสั่นเทาไปด้วยความทรมาน เขาท่านอ๋องเจ็ดผู้มีชื่อเสียงโด่งดังภายในเมืองเหวินจิง บุรุษที่งดงามและเย็นชาประดุจเทพเซียน ทว่า กลับโหดเหี้ยมและน่ากลัวมิแพ้ยมทูตเลยสักนิด “แม่นาง หากเจ้ารักษาอาการป่วยของข้าให้หายได้แล้วไซร้ ข้าจักเป็นคนของเจ้า” "เรื่องหย่าร้างที่ตกลงกันไว้เล่า?" ฉินเหยี่ยนเย่ว์ได้แต่มองไปที่บุรุษหน้าดำคล้ำที่ยังเอาแต่หลอกหลอนนางไม่ไปไหน “หย่าร้างหรือ? ข้าเพิ่งจะไปวัดเย่ว์เหล่าเพื่อขอด้ายแดงมาหนึ่งเส้น นับว่าเป็นโอกาสดีที่จะลองดูว่า มันจะสามารถมัดใจแม่นางเอาไว้ได้หรือไม่?” ท่านอ๋องเจ็ดพลันค่อย ๆ ก้าวเดินเข้ามาพร้อมกับด้ายแดงในมือของตนเอง คู่รักใจอำมหิต ผนึกกำลังออกล้างแค้นศัตรูแล้ว
View More“อ๊าก มือข้า”เฉียนอ๋องพลันมองไปยังข้อมือของตนเองที่กำลังมีเลือดไหลออกมาก่อนหน้านั้น มือนั้นยังอยู่บนข้อมือของเขา เพียงพริบตาเดียวมิรู้ว่าหายไปไหนแล้วหลงเหลือไว้เพียงข้อมือว่างเปล่าที่มีเลือดพุ่งกระฉูดออกมาเลือดสด ๆ ที่ไหลออกมาไม่หยุดนั้น พลันไหลปกคลุมเตียงหินที่มีรอยเลือดแห้งดำด่างเก่า ๆ ในทันที
ความโกรธเกรี้ยวที่โหมกระหน่ำราวกับคลื่นที่ซัดเข้ามาฉินเหยี่ยนเย่ว์แทบจะควบคุมความโกรธที่สุมอยู่เต็มอกของนางไม่ไหวนางพยายามดิ้นรน เพื่อที่จะหลุดออกจากโซ่ตรวนนี้ภายในห้องลับที่มืดมิดนั้น เสียงดังของโซ่ตรวนเหล็กที่กระทบกันไปมาพลันกลบเสียงร้องของพระชายาเฉียนไปจนหมด“โกรธหรือ? ดิ้นรนหรือ? ฮ่าฮ่า ฉินเห
นางมิคิดเลยว่า เฉียนอ๋องจักกล้าโยนชายาของตนเองลงไปในดงบุรุษเหล่านั้นได้หูของนางพลันได้ยินเสียงกรีดร้องขอความช่วยเหลือของพระชายาเฉียนดังขึ้นมาเสียงนั่น ดังกึกก้องลึกเข้าไปในใจของฉินเหยี่ยนเย่ว์ในทันทีถึงแม้ว่านางจักมิไปเห็น มิได้ยิน แต่นางก็สัมผัสได้ว่าพระชายาเฉียนกำลังทุกข์ทรมานใจมากเพียงใดในยามน
ฉินเหยี่ยนเย่ว์พลันลืมตาขึ้นมาโดยไม่รู้ตัวการมองในครานี้ กลับทำเอาทั่วร่างเย็นยะเยือก พร้อมทั้งเลือดในกายที่ถูกสูบฉีดไหลเวียนไปทั่วร่างยามที่นางกำลังปิดกั้นตนเองจากโลกภายนอก เพื่อมุ่งมั่นในการรวบรวมสมาธิของตนเองมิรู้ว่าเฉียนอ๋องไปนำบุรุษสามสี่คนมาจากที่ใดบุรุษเหล่านั้นรูปร่างสูงใหญ่กำยำมิต่างอัน
“หากมิใช่เพราะข้าคิดถึงเจ้ามากถึงเพียงนั้น จนถึงกับลอบสังเกตติดตามผู้ที่เกี่ยวข้องกับเจ้าอย่างใกล้ชิดแล้วละก็ ถึงได้พบนกกางเขนเงาที่บินไปที่จวนอ๋องเจ็ดตัวนั้น มิเช่นนั้นข้าก็คงมิมีทางหาเจ้าพบแน่”“เจ้าเป็นของของข้า แต่กลับคิดหาทางหลบหนี ผู้ใดให้ความกล้าแก่เจ้ากัน? เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นตัวอันใด? ถึงกล้า
“นังสารเลว เจ้ากล้าดีอย่างไรมาถุยน้ำลายใส่ข้า!”“ถุ้ย!” พระชายาเฉียนพลันถ่มน้ำลายใส่เฉียนอ๋องอีกครั้ง“เพี๋ยะ!”เฉียนอ๋องโมโหยิ่งนัก พลางสะบัดมือไปตบหน้าพระชายาเฉียนในทันทีแรงตบจากฝ่ามือนั้น รุนแรงเป็นอย่างยิ่งทำเอาใบหน้าของพระชายาเฉียนหน้าหันไปอีกด้านหนึ่งในทันที พร้อมทั้งเลือดสด ๆ ที่ไหลอกมา เฉ
สิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้ ใช้เพียงหัวแม่เท้าคิดก็ยังรู้ว่าจักเกิดอะไรขึ้น!นางจักต้องถูกกระทำย่ำยีอย่างแน่นอนนางจะต้องถูกอสูรกายร้ายตัวนี้ทำลายอย่างย่อยยับ!เรื่องเช่นนี้!นางย่อมมิมีทางให้มันเกิดขึ้นเป็นอันขาด!ฉินเหยี่ยนเย่ว์ได้แต่กัดฟันแน่นเอาไว้“เย็นไว้ เย็นไว้ ฉินเหยี่ยนเย่ว์เจ้าใจเย็น ๆ เอา
เฉียนอ๋องพลางพ่นวาจาที่น่ารังเกียจออกมา พร้อมมองฉินเหยี่ยนเย่ว์ที่กำลังดิ้นรนหาทางหนีไปด้วยสองมือที่ถูกโซ่เหล็กมัดเอาไว้นั้นเต็มไปด้วยรอยเลือดมากมาย ไม่ว่าฉินเหยี่ยนเย่ว์จะอยากหนีออกไปเพียงใดก็ไม่อาจทำได้คราบเลือดที่อยู่บนเตียงหินนั้น มีทั้งรอยเก่ารอยใหม่ซ้อนทับกันอยู่มากมายกลิ่นคาวเลือดพลันกลบกล
“ข้าจะดูสิว่าเจ้าจะหนีไปที่ใดได้” สุ้มเสียงเย็นชาของเฉียนอ๋องดังก้องอยู่ภายในห้องลับแคบ ๆ แห่งนี้ ก่อนจะตามด้วยเสียงสะท้อนดังติ๋ง ๆ ของหยดน้ำไหลร่างกายของฉินเหยี่ยนเย่ว์ถูกแช่แข็งจนควบคุมไม่ได้บ้างโดยเฉพาะน้ำแข็งที่ไหลลงมาจากเรือนผม เสียดแทงจนศีรษะนางเจ็บปวดอย่างยิ่งห้องลับคับแคบ ไร้ทางให้หนีนาง
หนาว!น้ำเย็นจัดที่ไหลเข้าจมูกและลำคอนั้น ทำเอาไม่สามารถหายใจได้ในทันทีฉินเหยี่ยนเย่ว์พลันรู้สึกได้ว่า ศีรษะของนางกำลังถูกใครบางคนกดเอาไว้ทำให้มิอาจลุกออกมาจากน้ำเย็นได้ในระหว่างที่นางกำลังดิ้นทุรนทุรายอยู่นั้น ฉินเหยี่ยนเย่ว์พลางเห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มชั่วร้ายผ่านคลื่นน้ำที่กระจายไปมาได้ใน...
Comments