นางผู้เป็นถึงอัจฉริยะทางการแพทย์ทะลุมิติมาเป็นคุณหนูใหญ่ตระกูลฉินที่ทั้งโง่เง่าและเลวร้ายกาจแห่งราชวงศ์ตงลู่หวัง ใต้หล้าล้วนกลั่นแกล้งนาง รังแกนาง ทำลายนาง! มือซ้ายถือโอสถพิษ มือขวาของนางที่ถือมีดผ่าตัด พร้อมร่างกายที่กำลังสั่นเทาไปด้วยความทรมาน เขาท่านอ๋องเจ็ดผู้มีชื่อเสียงโด่งดังภายในเมืองเหวินจิง บุรุษที่งดงามและเย็นชาประดุจเทพเซียน ทว่า กลับโหดเหี้ยมและน่ากลัวมิแพ้ยมทูตเลยสักนิด “แม่นาง หากเจ้ารักษาอาการป่วยของข้าให้หายได้แล้วไซร้ ข้าจักเป็นคนของเจ้า” "เรื่องหย่าร้างที่ตกลงกันไว้เล่า?" ฉินเหยี่ยนเย่ว์ได้แต่มองไปที่บุรุษหน้าดำคล้ำที่ยังเอาแต่หลอกหลอนนางไม่ไปไหน “หย่าร้างหรือ? ข้าเพิ่งจะไปวัดเย่ว์เหล่าเพื่อขอด้ายแดงมาหนึ่งเส้น นับว่าเป็นโอกาสดีที่จะลองดูว่า มันจะสามารถมัดใจแม่นางเอาไว้ได้หรือไม่?” ท่านอ๋องเจ็ดพลันค่อย ๆ ก้าวเดินเข้ามาพร้อมกับด้ายแดงในมือของตนเอง คู่รักใจอำมหิต ผนึกกำลังออกล้างแค้นศัตรูแล้ว
ดูเพิ่มเติมมันเหมือนกับจะเริ่มขัดแย้งกับตงฟางหลี ทำแต่ละอย่างล้วนแต่จงใจทำให้เขาโกรธนางก้าวเข้าไปข้างหน้า ลูบท้องน้อยของมันเดิมทีแมวไม่ชอบให้ลูบท้องทว่าเฮยตั้นกลับเป็นข้อยกเว้น มันมีสีหน้ามีความสุข เปล่งเสียงครางอย่างมีความสุขจากในลำคอดวงตาสีทองคู่นั้นหรี่ลงน้อย ๆ ราวกับพออกพอใจกับการบริการของฉินเหยี่ยนเย่
ฉินเหยี่ยนเย่ว์มองสีหน้าแปรเปลี่ยนไปของตงฟางหลี ในใจก็รู้สึกเป็นกังวลขึ้นมาเล็กน้อยหลังจากได้ยินว่าเขาในวัยเยาว์ถูกไท่เฟยฉางขังไว้ในกรงสุนัข ภายในใจของนางก็ได้กลั้นโทสะนี้ไว้แล้วนางไม่เคยเห็นท่าทีน่าเวทนาของพี่เจ็ดตอนที่เขายังวัยเยาว์ก็จริงทว่า เคยเห็นเหตุการณ์ที่เจ้าเก้าถูกทารุณมาด้วยตาของตนเองแ
มันหาตำหนักซีอวิ๋นเจอได้อย่างไร?“เจ้ารู้จักแมวตัวนี้หรือ?” สีหน้าตงฟางหลีดำครึ้ม“รู้จักเพคะ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์สีหน้าสับสนเล็กน้อยเมื่อครู่นี้ในห้องมิได้จุดไฟไว้ มีเพียงแสงสว่างจากภายนอกที่ส่องเข้ามาเฮยตั้นขดตัวนอนหลับอยู่บนเตียง ภายใต้แสงสะท้อนจากแสงสว่างที่อยู่ไกลออกไป และภายใต้ความบังเอิญได้เกิ
ฉินเหยี่ยนเย่ว์ที่ไม่เคยเชื่อเรื่องพวกนี้มาตลอดถูกทำให้ตกใจแล้วจริง ๆ จึงไม่กล้าอยู่ในห้องนี้ต่อ หมุนกายวิ่งออกไปข้างนอกเพิ่งจะถึงประตู พลันตกอยู่ในอ้อมกอดที่เย็นยะเยือก“ยัยหนู?” ตงฟางหลีเลิกคิ้ว “เจ้ากำลังทำอะไร?”ฉินเหยี่ยนเย่ว์เงยหน้า ครั้นมองเห็นใบหน้าตกตะลึงของตงฟางหลี พลันเบาใจลงทันควัน ก่อน
“ข้าไม่อยากเห็นสิ่งนั้น ช่วยข้า ช่วยข้าด้วย ข้าจะหาคนที่มีดวงชะตาสอดคล้องกับข้าภายในเวลาสั้นที่สุดได้แน่นอน”ป้าผิงนิ่งไม่ไหวติงบนใบหน้าที่ดูคล้ายกับหน้าปลอมนั้นเผยสีหน้าแปลกประหลาดออกมาครั้นนางจับจ้องไท่เฟยฉางที่อยู่ในอาการหวาดกลัวครู่ใหญ่ ก็ได้ใช้เสียงกลแหบพร่าพูดต่อไป “นับจากวันนี้เป็นต้นไป ท่า
เถี่ยตั้นยังก่อเรื่องได้ไม่หนำใจ และอยากจะวิ่งเข้าไปในลานเรือนต่อ แต่ฉินเหยี่ยนเย่ว์รีบคว้าตัวเอาไว้“โฮ่งโฮ่ง”เถี่ยตั้นดิ้นไม่หลุด จึงส่งเสียงเห่าอย่างสิ้นหวังไปทางเรือนด้านหลังไท่เฟยฉางรู้สึกหวาดระแวงอยู่แล้ว พอได้ยินเถี่ยตั้นส่งเสียงเห่าอย่างดุเดือด ก็ยิ่งรู้สึกหวาดกลัวสิ่งมีชีวิตอย่างสุนัขนั้
ฉินเหยี่ยนเย่ว์ตรวจดูของที่ถูกทำลายเบา ๆ และรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก“ไท่เฟยฉาง หม่อมฉันนับแล้ว ข้าวของเหล่านี้ที่เถี่ยตั้นทำเสียหาย ถึงแม้ว่าจะล้ำค่า กลับไม่ใช่สิ่งที่ทดแทนไม่ได้ และไม่ได้ทำลายข้าวของที่อดีตฮ่องเต้พระราชทานเสียหายด้วย ตามคำเดิมของพระองค์คือ ของที่อดีตฮ่องเต้พระราชทานเป็นสมบัติล้
“เหลวไหล!” ไท่เฟยฉางตะโกนน้ำเสียงเฉียบขาด “นี่จะเป็นของปลอมได้อย่างไร! นี่เป็นกระถางธูปเคลือบหลิวหลีของแท้ที่อดีตฮ่องเต้พระราชทานให้ข้า เจ้าพูดเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร?”“ถ้าเป็นของจริง กระถางธูปเคลือบหลิวหลีนี้ที่ล้ำค่าเหลือล้น ก็ควรเก็บไว้ในที่ปลอดภัยเป็นอย่างดี เหตุใดถึงอยู่ในลานเรือนเล่าเพคะ?”
เห็นได้ชัดว่านางอาลัยอาวรณ์สุนัขตัวนี้ในสถานการณ์ที่ไม่เอื้ออำนวย ปีศาจเฒ่าตระหนักจุดนี้เป็นอย่างดี และตอบโต้กลับมาประโยคที่ดูเหมือนลอยละล่องนั้น ชัดเจนว่าผ่านการไตร่ตรองมาอย่างดีโหดร้ายยิ่งนัก!“ไท่เฟยฉางแน่ใจหรือ?” ฉินเหยี่ยนเย่ว์พยายามทำให้เสียงของตนสงบที่สุด เคลือบรอยยิ้มบนใบหน้า และสมองทำงาน
หนาว!น้ำเย็นจัดที่ไหลเข้าจมูกและลำคอนั้น ทำเอาไม่สามารถหายใจได้ในทันทีฉินเหยี่ยนเย่ว์พลันรู้สึกได้ว่า ศีรษะของนางกำลังถูกใครบางคนกดเอาไว้ทำให้มิอาจลุกออกมาจากน้ำเย็นได้ในระหว่างที่นางกำลังดิ้นทุรนทุรายอยู่นั้น ฉินเหยี่ยนเย่ว์พลางเห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มชั่วร้ายผ่านคลื่นน้ำที่กระจายไปมาได้ใน...
ความคิดเห็น