Share

บทที่ 0005

Author: สายธารสะท้อนเงา
last update Last Updated: 2024-04-23 13:47:37
ฉินเหยี่ยนเย่ว์พลันขมวดคิ้วลงเล็กน้อย ก่อนจะดึงสติของตนเองกลับคืนมา นอนคว่ำตัวลงพร้อมทั้งห่มผ้าคลุมตัว แสร้งว่าตนเองกำลังหลับอยู่ ตั้งสติกลับคืนมา

พร้อมด้วยประตูห้อง ที่ถูกคนผู้หนึ่งเตะออก

พลันพัดพาลมหนาวให้เข้ามาในทันที ทำให้ห้องที่เย็นอยู่แล้วนั้น ทำเอาอุณหภูมิลดลงไปอีกสองสามองศา

“นางช่างโชคดีเสียจริง โดนโบยหนักถึงเพียงนี้กลับยังมีชีวิตอยู่รอดมาได้” สาวใช้นางหนึ่งพลันเดินเข้ามา พร้อมกับส่งเสียงบ่นออกมาด้วยความรำคาญใจ ก่อนจะวางชามใบหนึ่งลงบนโต๊ะ “หากนางตายไปได้ก็ดี พวกเราจักได้ไม่ต้องมาถูกกักขังอยู่ในที่รกร้างแห่งนี้"

“หู่พั่ว เจ้าหยุดพูดมากเสียที” สาวใช้อีกนางหนึ่งพลันเดินตามเข้ามา พร้อมกับถูมือไปมา ก่อนจะไอออกมาเป็นครั้งคราว “วันนี้อากาศหนาวยิ่งนัก”

“ใช่สิ นี่มันหน้าหนาวแล้ว หากแต่สิ่งที่พวกเราได้รับกลับมีเพียงถ่านที่ไม่อาจจุดไฟในเตาเผาให้ติดได้ รอจนหิมะตกมาเสียก่อนเถอะ พวกเราคงได้รวมหัวกันแข็งตายอยู่ในที่แห่งนี้เป็นแน่” สาวใช้ที่มานามว่าหู่พั่วนั้น พลันตะโกนกรีดร้องเสียงสูงออกมาด้วยความไม่พอใจ

“เหตุใดนางยังมีชีวิตอยู่กัน? หากนางตายไป ท่านอ๋องเจ็ดที่เห็นแก่หน้าของตนเองนั้น ย่อมต้องปฏิบัติต่อสาวใช้จากบ้านสกุลเดิมเป็นอย่างดี หากนางมิตาย ท่านอ๋องเจ็ดย่อมรังเกียจนาง ทำเอาพวกเราต้องมาทนทุกข์ทรมานไปกับนางด้วย ข้าโชคร้ายอะไรถึงกับต้องมาคอยรับใช้สตรีอับโชคเช่นนางด้วย?”

“เจ้าเอ่ยวาจาเช่นนี้กับพระชายาได้อย่างไรกัน?” เฟ่ยชุ่ยพยายามลดเสียงเบาลง นางที่ไอมานานแล้วนั้น คอของนางจึงรู้สึกแห้งยิ่งนัก

“จักต้องไปกังวลอะไรกัน? แม้แต่หมูโง่ยังฉลาดกว่านางเลย หากมิใช่เพราะนางใช้วิธีผิดจารีตประเพณีล่อลวงท่านอ๋องสามไม่สำเร็จ กลับไปปีนขึ้นเตียงท่านอ๋องเจ็ดแทน…”

“หู่พั่ว” เฟ่ยชุ่ยรีบดึงแขนเสื้อของนางเอาไว้ในทันที ก่อนจะเอ่ยกำชับนางเสียงเบาว่า “หุบปากเจ้าเสีย เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องต้องห้ามในจวนท่านอ๋องเจ็ด หากคนนอกได้ยินเข้า อาจจะเกิดเรื่องขึ้นมาได้ เจ้ารีบป้อนโจ๊กให้พระชายาเสียก่อน ข้าจะไปดูที่ห้องครัวว่าอาหารพร้อมแล้วหรือไม่”

สีหน้าของหู่พั่วพลันเปลี่ยนไปในทันที นางรู้ดีว่าตนเองเอ่ยวาจามิเหมาะสมเท่าใดนัก แต่ก็ทำได้แค่กระทืบเท้าลงด้วยท่าทีโกรธเคืองแทน

“ข้าอุตส่าห์คอยดูแลรับใช้งานข้างกายคุณหนูรองก็ดีอยู่แล้ว เหตุใดต้องถูกส่งให้มาคอยดูแลรับใช้เจ้าด้วย” หู่พั่วพลันยกชามโจ๊กเดินไปหยุดที่ข้างกายฉินเหยี่ยนเย่ว์ “ในจวนอ๋องแห่งนี้ แม้แต่เสื้อผ้าอาภรณ์อาหารการกินยังเทียบมิได้กับนางกำนัลที่มีฐานะต่ำสุด โจ๊กชามนี้เองก็เป็นเฟ่ยชุ่ยที่เป็นคนไปคอยเคี่ยวอยู่นานหลายชั่วยาม เจ้าหมูโง่ ทุกอย่างล้วนแต่เป็นความผิดของเจ้า”

โจ๊กที่เพิ่งเคี่ยวเสร็จย่อมมีความร้อนระอุ ยิ่งถือเอาไว้ในมือนานเท่าใด ก็อาจทำให้ร้อนจนลวกมือลงได้

หู่พั่วพลันหยิบชามโจ๊กขึ้นมาเป่าเล็กน้อย "เจ้าตัวโชคร้าย เหตุใดเจ้าถึงไม่รีบตายไปเร็ว ๆ เสีย? หากเจ้าตายเมื่อใด ข้าก็จักได้ไม่ต้องมาคอยรับใช้เจ้าอีก "

หู่พั่วพลางมองไปยังฉินเหยี่ยนเย่ว์ที่ยังนอนนิ่งไม่ขยับอยู่นั้น จู่ ๆ นางพลันมีความคิดร้าย ๆ ผุดขึ้นมาในหัวในทันที โจ๊กที่กำลังส่งกลิ่นควันร้อนระอุอยู่นั้น หากว่ามันหกใส่ลงไปยังบนบาดแผลที่ยังไม่หายสนิทดีละก็ พระชายาโง่ผู้นี้อาจจะถึงคราวตายก็เป็นได้

เมื่อมีความคิดเช่นนี้อยู่ในหัวนั้น นัยน์ตาของนางจึงฉายแววโหดร้ายขึ้นมาในทันที

“พระชายาเจ็ดเพคะ ท่านที่รับบาดเจ็ดสาหัสเช่นนี้ คงจะรู้สึกเจ็บปวดมากเลยใช่ไหมเพคะ? ให้บ่าวช่วยปลดปล่อยท่านดีหรือไม่เพคะ?” หู่พั่วกล่าวออกมาด้วยสีหน้าแววตามาดร้าย ก่อนจะค่อย ๆ เลิกผ้าห่มของฉินเหยี่ยนเย่ว์ขึ้นเพื่อที่จะราดโจ๊กลงไปในบาดแผลของนาง

หนังตาของฉินเหยี่ยนเย่ว์พลันกระตุกขึ้นมาในทันที

ฉินเหยี่ยนเย่ว์คาดเดาได้ถึงแผนการณ์ของนางกำนัลผู้นี้ในทันที

หากว่าถ้วยโจ๊กร้อน ๆ ถูกราดลงที่แผลของนางแล้วไซร้ มันย่อมทำให้เกิดการอักแสบจนรามไปถึงการติดเชื้อก็เป็นได้ ทั้งยังสามารถทำให้เกิดอาการแทรกซ้อนตามมาอีกด้วย ด้วยร่างกายที่อ่อนแอของนางในยามนี้ มิอาจทนพิษบาดแผลที่เกิดขึ้นได้เป็นแน่

ฉินเหยี่ยนเย่ว์ได้แต่ลอบขมวดคิ้วออกมา ก่อนจะออมแรงเอาไว้ ยามที่หู่พั่วกำลังจะนำชามโจ๊กเทราดลงมานั้น ฉินเหยี่ยวเย่ว์จึงรีบลุกขึ้น พร้อมทั้งจับข้อมือเพื่อหยุดยั้งการกระทำของหู่พั่วอย่างรวดเร็ว

หู่พั่วพลันตกใจขึ้นมาในทันที กว่าที่นางจะได้สติกลับมานั้น ฉินเหยี่ยนเย่วที่สมควรจะโดนชามโจ๊กราดลงไปบนตัวนั้น กลับเป็นชามโจ๊กร้อน ๆ ที่ราดลงมาบนใบหน้าของนางเอง

“ท่าน ท่านทำอันใดลงไป?” หู่พั่วรีบใช้แขนเสื้อของตนเองเช็ดไปที่ใบหน้าทันที ใบหน้าของนางที่โดนโจ๊กร้อน ๆ ลวกลงไปนั้น พลันเกิดอาการปวดแสบปวดร้อนขึ้นมาในทันใด

“ข้าควรจักเป็นฝ่ายถามเจ้าเสียมากกว่า ว่าเจ้าจักทำอันใด” ฉินเหยี่ยนเย่ว์พลันลุกขึ้นยืน

แผลที่กำลังจะใกล้ตกสะเก็ดนั้น จึงปริแตกออกมาได้ง่าย การเคลื่อนไหวเมื่อครู่นั้นใช้เรี่ยวแรงค่อนข้างมาก จึงทำให้บาดแผลเกิดการปริแตกขึ้นมาในทันที พร้อมทั้งความเจ็บปวดที่แล่นเข้าสู่ร่างกายในทันใด

“บ่าว บ่าวเพียงแค่ต้องการจะป้อนโจ๊กให้กับท่านเพคะ” ดวงตาของหู่พั่วพลันกระพริบลงไปมา “พระชายามิแยกแยะเขียวแดงดำขาว กลับมาเทโจ๊กร้อน ๆ ใส่หน้าบ่าวเช่นนี้ พระชายาช่างมิรู้จักน้ำใจของบ่าวเลยเสียจริง”

"ป้อนโจ๊กให้กับข้ารึ" ฉินเหยี่ยนเย่ว์พลันประจันหน้ากับหู่พั่วในทันที นัยน์ตาพลันแฝงไปด้วยประกายแห่งความเย็นชาในทันทีเผชิญหน้าเธอต่อหน้า โดยมีแสงส่องประกายในดวงตาของเขาเย็นชาราวกับน้ำแข็ง

หู่พั่วพลันตกใจกับแววตาของนางในทันที ก่อนจะถอยหลังลงไปเสียหลายก้าว พร้อมทั้งภายในใจที่นึกตื่นตระหนกยิ่งนัก “เพคะ บ่าวเพียงแค่ต้องการป้อนโจ๊กให้ท่านเท่านั้น”

"ดียิ่ง เพียงแค่ต้องการป้อนโจ๊กให้ข้า อีกเรื่องหาว่าข้ามิรู้จักน้ำใจบ่าว" ฉินเหยี่ยนเย่ว์พลันพับแขนเสื้อของตนเองขึ้นมา ก่อนจะยื่นมือของตนเองออกไป พร้อมทั้งฟาดลงไปที่ใบหน้าของหู่พั่วอย่างเต็มแรงถึงสี่ครั้ง

หู่พั่วมิคาดคิดว่าพระชายาที่มักจะขี้อายเงอะงะและโง่เง่าเสมือนหมู จักเปลี่ยนไปเป็นคนละคนเช่นนี้ ไม่เพียงแต่มีดวงตาที่ทำให้ผู้อื่นหวาดผวาด แต่การกระทำยังดูน่าหวาดกลัวมากขึ้นอีกด้วย

ยังมิทันที่หู่พั่วจะได้สติกลับมา ใบหน้าของนางกลับถูกตบลงมาอย่างรุนแรงถึงสี่ครั้ง

หลังจากถูกตบไปสี่ครั้ง ทำเอาหัวของหู่พั่วรู้สึกวิงเวียนไปในทันที พร้อมกับหูของนางที่เกิดอาการอื้ออึงขึ้นมา

“ท่าน ท่านตบบ่าวหรือ?” ถึงแม้ว่านางจักเป็นเพียงสาวใช้ แต่นางเป็นสาวใช้ขั้นสูง หาได้เคยพบเจอเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ ในยามนี้จึงรู้สึกโกรธโมโหเสียจนต้องการจะฉีกร่างของฉินเหยี่ยนเย่ว์ออกเป็นชิ้น ๆ

“หากเจ้ากล้าก้าวขึ้นมาข้างหน้าแล้วละก็ ข้าจักสั่งให้คนมาเรียกเจ้าออกไปทุบตีให้ตาย ก่อนจะจับเจ้าขายออกไปให้หอโคมเขียวเสีย” ฉินเหยี่ยวเย่ว์เอ่ยออกมาด้วยความเย็นชา “เจ้าเป็นสาวใช้สินเดิมของข้า ขอเพียงแค่ข้าจัดการเจ้าย่อมมิมีผู้ใดกล้าเห็นต่าง หากเจ้ามิเชื่อก็ลองดูเสีย”

“ท่าน!” ภายในใจของหู่พั่วเต้นรัวเสียจน มิกล้าขยับตัวไปมาในทันที

ฉินเหยี่ยนเย่ว์หาได้ข่มขู่หู่พั่วไม่ ในจวนอ๋องแห่งนี้ พระชายาถือเป็นเจ้านายที่แท้จริงของนาง หากจะสังหารจะทุบตีหรือขายนางทิ้ง ล้วนแต่เป็นเพียงความต้องการของนางเพียงผู้เดียวทั้งนั้น

ในอดีต ฉินเหยี่ยนเย่ว์มิกล้าขายนาง ทว่า ฉินเหยี่ยนเย่ว์ในยามนี้กลับมีอารมณ์ก้าวร้าวฉุนเฉียวเสียจน เสมือนกับปีศาจที่ผุดขึ้นมาจากนรก ด้วยท่าทีของฉินเหยี่ยนเย่ว์ในยามนี้แล้วละก็ หากพระนางต้องการจะขายนางหรือทุบตีนางมีความเป็นไปได้มากที่พระนางจะลงมือทำจริง ๆ อย่างแน่นอน

ลมหนาวที่พัดพาเข้ามาทำเอาหน้าต่างถูกเปิดออกในทันที พร้อมทั้งลมหนาวที่พัดเข้ามาภายในห้องเสียจนหน้าต่างส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าดออกมา

ใบไม้ที่ร่วงหล่นปลิวเข้ามาภายในห้องพร้อมกลิ่นอายของอากาศหนาว

“เจ้ารู้หรือไม่ว่า เหตุใดข้าถึงตบเจ้า?” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ปัดใบไม้ที่ร่วงหล่นออกจากผมของหู่พั่ว ก่อนเอ่นถามด้วยเสียงที่เย็นยะเยือก

หู่พั่วที่กำลังตัวสั่นเทานั้น ได้แต่กำหมัดแน่น พร้อมทั้งนัยน์ตาที่ฉายแววความเกลียดชังและเจือไปด้วยความกลัวเผยออกมา "บ่าวมิทราบว่า บ่าวทำอันใดผิดไปเพคะ"

“ดี ในเมื่อเจ้ามิรู้ว่าตนเองทำอันใดผิดไปนั้น” ฉินเหยี่ยนเย่ว์พลางแย้มยิ้มออกมาด้วยความเย็นชา “ เช่นนั้นข้าจักบอกเจ้าเอง ฐานะบ่าวเช่นเจ้า หากแต่วาจาที่เอ่ยกลับน่ารังเกียจยิ่งนัก ทั้งหาได้มีความเคารพต่อนายของตนเองไม่ สมควรโดน นี่คือการตบในคราแรก”

“ตบคราที่สอง ในฐานะบ่าวจากสินสมรส การที่เจ้าเอ่ยวาจาสาปแช่งเจ้านายของตนเอง ทั้งยังคิดวางแผนที่จะใช้การตายของเจ้านายในการเลื่อนสถานะเพื่อให้ตนเองได้รับการปฏิบัติตัวที่ดี เจตนาร้ายเช่นนี้สมควรโดนตบแล้ว”

“ตบคราที่สาม เมื่อครู่เจ้าต้องการจะราดชามโจ๊กร้อน ๆ ใส่ตัวข้า หากว่าข้ามิหลบแล้วละก็ เกรงว่าข้าคงได้โดนโจ๊กร้อน ๆ ลวกเอาได้ เจ้าจึงฉวยโอกาสในยามที่ข้ามิอาจเรียกหมอหลวงมารักษาตัวได้นั้น ต้องการเอาชีวิตข้า ในฐานะที่ตนเองเป็นบ่าวจากสินสมรสนั้น ในใจกลับมีแต่ความอาฆาตคิดร้ายต่อนายของตน การที่ข้าตบเจ้าเพียงแค่นี้ถือว่ายั้งมือไว้ไมตรีมากพอแล้ว”

“สำหรับการตบนคราที่สี่นั้น” ฉินเหยี่ยนเย่ว์แสยะยิ้มออกมาในทันที “ฉินเสวี่ยเย่ว์ส่งเจ้ามาติดตามข้า เจ้าคิดว่าข้ามิรู้หรือ? ในยามนี้เจ้าเป็นนางกำนัลของข้าแล้ว หากแต่กลับมินึกจงรักภักดิ์ดีในตัวเจ้านายเช่นนี้ ข้ามิอาจเก็บเจ้าเอาไว้ข้างกายอีกต่อไป ในเมื่อเจ้าก็มิต้องการรั้งอยู่ข้างกายข้า เช่นนั้นก็ไสหัวไปเสีย”

หู่พั่วพลันตะลึงงันเสียจนมิอาจเอ่ยคำพูดใดออกมาได้ แผ่นหลังกลับมีเหงื่อเย็น ๆ ไหลออกมามิมีหยุด

ด้วยกลิ่นอายของฉินเหยี่ยนเย่ว์ที่ยืนอยู่ตรงหน้านางนั้น ทำเอาหู่พั่วมิหาสิ่งใดมาทักท้านได้เลยแม้แต่น้อย นางในยามนี้ทำได้เพียงตัวสั่นเทาเท่านั้น

เมื่อเฟ่ยชุ่ยเปิดประตูเข้ามา นางพลางสัมผัสได้ถึงบางอย่างที่ผิดปกติไปในทันที ก่อนจะรีบร้อนนำอาหารวางเอาไว้บนโต๊ะ

“พระชายาเพคะ อาการบาดเจ็บของท่านยังไม่หายดี เหตุใดท่านลุกขึ้นยืนขึ้นมาเช่นนี้?” เฟ่ยชุ่ยรีบเข้าไปประคองฉินเหยี่ยนเย่ว์ “รีบนอนลงไปเถอะเพคะ บ่าวไปซื้อยารักษาแผลฟกช้ำมาจากนอกจวน”

ฉินเหยี่ยนเย่ว์เพียงเหลือบตามองหู่พั่วเล็กน้อย "ยังมิไสหัวออกไปอีกหรือ?"

หู่พั่วได้แต่กัดเม้มริมฝีปากของตนเอง ก่อนจะสะบัดหน้าออกจาห้องไปด้วยความโกรธเคืองในทันที
Comments (1)
goodnovel comment avatar
Chatree Sedakum
เหมือนชีวิตจริงเลยครับ
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 0006

    สีหน้าของเฟ่ยชุ่ยมีความซับซ้อน “พระนาง ท่านอย่าทรงกริ้วเลยเพคะ หู่พั่วนางมิได้มีเจตนา นางก็แค่ปากเสียเท่านั้นเพคะ...”“ไม่ต้องพูดแล้ว จะดีหรือเลวข้าสามารถแยกแยะได้ คนเช่นนั้น ข้าไม่ต้องการ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์หลุบตาลง “นำยามาให้ข้าเถิด”“บ่าวช่วยทาให้เพคะ” เฟ่ยชุ่ยถอนหายใจ รู้สึกเคืองใจเป็นอย่างยิ่ง “เด

    Last Updated : 2024-04-23
  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 0007

    หงเย้าคิดไม่ถึงว่าฉินเหยี่ยนเย่ว์จะปรากฏตัวขึ้น จึงเก็บแส้ เอ่ยอย่างฝืนยิ้ม “ที่แท้ก็เป็นพระชายา อากาศหนาวเช่นนี้ เหตุใดจึงต้องรบกวนให้ท่านเสด็จออกมาด้วยพระองค์เอง? พระนางโปรดวางใจเพคะ สาวใช้ของท่านไม่เชื่อฟัง บ่าวได้ช่วยท่านสั่งสอนนางไปแล้วเรียบร้อยแล้วเพคะ”“ขอบใจในความหวังดีของเจ้า” ฉินเหยี่ยนเย่

    Last Updated : 2024-04-23
  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 0008

    พวกองครักษ์สีหน้าค่อนข้างแย่เรื่องราวถูกพระชายาทรงกล่าวออกมาเช่นนี้ หากเรื่องใหญ่ขึ้นมา พวกเขาทั้งหลายคงมีจุดจบที่ไม่ดีนัก ยังจะพลอยเดือดร้อนไปถึงท่านอ๋องเจ็ดอีกด้วยพวกเขาสบตากันแวบหนึ่ง เอ่ยแสดงความขอโทษ “พระชายา ได้โปรดอย่าทรงกริ้วเลยพ่ะย่ะค่ะ พวกกระหม่อมยอมทำตามคำสั่งพ่ะย่ะค่ะ”พวกเขาหยิบไม้โบย

    Last Updated : 2024-04-23
  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 0009

    “เหตุใดจึงโบยหงเย้า?” เขาเอ่ยน้ำเสียงจริงจัง“นางโบยสาวใช้ของหม่อมฉัน เหตุใดหม่อมฉันจึงโบยเขามิได้เพคะ?” ฉินเหยี่ยนเย่ว์นั่งลง รินชาร้อนถ้วยหนึ่ง ใช้เล็บค่อย ๆ หยิบก้านชาออกมา “เพื่อสาวใช้คนหนึ่ง ท่านผู้เป็นท่านอ๋องถึงกับมาทวงความยุติธรรมด้วยองค์เองหรือเพคะ? ช่างน่าซาบซึ้งพระทัยยิ่งนัก”ตงฟางหลีได้ย

    Last Updated : 2024-04-23
  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 0010

    “ฉินเหยี่ยนเย่ว์ มีเพียงเจ้า ที่ไม่คู่ควรที่จะเอ่ยถึงชื่อนั้น” น้ำเสียงของตงฟางหลีเย็นชาเขาบีบคอแน่นขึ้น สีหน้าของฉินเหยี่ยนเย่ว์เปลี่ยนเป็นสีม่วงเนื่องจากหายใจไม่ออกฉินเหยี่ยนเย่ว์หายใจไม่ออก พวกเขาอยู่ใกล้กันมาก จนสามารถมองเห็นใบหน้าของเขา ดวงตาของเขาได้อย่างชัดเจน เธอมองความโศกเศร้าจากนัยน์ตาค

    Last Updated : 2024-04-23
  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 0011

    ภายในเรือนโยวหลานเฟ่ยชุ่ยที่กำลังเก็บเศษซากแจกันที่แตกหักอยู่ด้วยหยาดน้ำตาคลอเบ้า พร้อมทั้งไหล่ทั้งสองข้างที่กำลังสั่นเทาเบา ๆ ฉินเหยี่ยนเย่ว์ที่นอนบนเตียงนั้น ได้แต่มองท่าทีผิดหวังของเฟ่ยชุ่ย ก่อนจะถอนหายใจออกมา “เฟ่ยชุ่ย ข้ามิเป็นอันใด เจ้าหยุดร้องไห้ได้แล้ว”เฟ่ยชุ่ยพลันซืดน้ำมูกเข้าไป “เดิมที

    Last Updated : 2024-04-23
  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 0012

    “เจ้าลืมวันมงคลของทุกเดือนไปแล้วหรือ?” ตงฟางหลีกล่าว “วันรุ่งพรุ่งนี้ เจ้าจักต้องเข้าวังพร้อมกับข้า ทั้งเสื้อผ้าอาภรณ์และเครื่องประดับต่างก็จัดเตรียมเอาไว้ให้เจ้าครบหมดแล้ว”ฉินเหยี่ยนเย่ว์ที่ฉุกคิดขึ้นมาได้ในทันทีว่า วันพระบรมราชสมภพขององค์จักรพรรดินั้นเป็นวันยี่สิบสามของเดือนหนึ่ง ฉะนั้นแล้ววันที่

    Last Updated : 2024-04-23
  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 0013

    “เฟ่ยชุ่ย พาคนไปอยู่ในที่อุ่น ๆ ที” ฉินเหยี่ยนเย่ว์พลันกำมือของตนเองเอาไว้แน่น “ข้ามิอาจสัมผัสเลือดได้ คุณทำเอง ได้หรือไม่?”เมื่อเฟ่ยชุ่ยได้ยินเช่นนั้น นางจึงพยักหน้าอย่างรวดเร็วในทันที "พระชายามิจำเป็นต้องลงมือเองก็ได้เพคะ บ่าวทำได้ บ่าวทำได้เพคะ”เฟ่ยชุ่ยจึงพาหู่พั่วไปที่ห้องของนางในทันทีฉินเหยี

    Last Updated : 2024-04-23

Latest chapter

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 0927

    นางกำชับทุกคนให้เปลี่ยนอาภรณ์ให้เรียบร้อยแสงเทียนทั้งหมดกระจุกตัวกันอยู่ในจุด ๆ เดียวเมื่อแสงยังสว่างไม่มากพอ ฮ่องเต้จึงมีรับสั่งให้องครักษ์จื่ออวี๋นำไข่มุกราตรีในคลังเก็บสมบัติมาแสงสว่างของไข่มุกราตรีสะท้อนอยู่ภายในห้องจนดูคล้ายกับตอนกลางวันฉินเหยี่ยนเย่ว์มิสนใจพูดขอบคุณ หลังจากแบ่งงานกันอย่างช

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 0926

    ฉินเหยี่ยนเย่ว์รู้สึกลำบากใจยิ่งนักในสายตานาง เทียบกับชีวิตแล้ว ความเป็นส่วนตัวเท่านี้ไม่นับว่าเป็นอันใดด้วยซ้ำ“ป้าฉา บางครั้งเจ้ามิอาจเข้าใจได้ ทว่าข้ายังจะต้องบอกกับเจ้าว่า ในระหว่างขั้นตอนการผ่าตัด ต่อให้สวมอาภรณ์ก็จำเป็นต้องตัดทิ้ง โดยเฉพาะสถานการณ์ในยามนี้นั้นยากลำบากยิ่งนัก”การผ่าตัดเปิดช่อ

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 0925

    นางจับข้อมือของพระสนมอวิ๋น หากแต่ยังไร้ชีพจร หัวใจก็แทบหยุดเต้น “เสด็จแม่ ขอประทานอภัยเพคะ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์รู้สึกผิดอย่างยิ่งยวดนางรู้มาตั้งแต่เนิ่น ๆ แล้วว่าพระสนมอวิ๋นสุขภาพไม่ดี ควรจะเตรียมการให้รอบด้านถึงจะถูกนางมั่นใจในตัวเองมากเกินไป มิได้คำนึงว่ากระเพาะอาหารจะยังมีแมลงพิษกู่ด้วยเช่นกัน จึง

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 0924

    ฮ่องเต้ทรงกุมมือของพระสนมอวิ๋นแน่น“เรื่องเช่นนั้น สามารถทำได้หรือ?” เขามองพระสนมอวิ๋นที่อ่อนแรง ก่อนตรัสถามด้วยเสียงเบาทำเอาฉินเหยี่ยนเย่ว์ถอนหายใจยาวเหยียดตามหลักแล้วทำไม่ได้พระสนมอวิ๋นมีความดันโลหิตต่ำ ชีพจรแทบจะไม่มี ไม่เหมาะจะฉีดยาชา และไม่เหมาะจะทำการผ่าตัดเช่นกันโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เงื่อนไข

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 0923

    หากมิใช่เพราะนางยังสามารถสัมผัสได้ถึงชีพจรที่เต้นอย่างอ่อนแรง ก็แทบจะคิดว่าพระสนมอวิ๋นตายไปแล้วต้องเกิดปัญหาขึ้นที่ไหนสักที่!ฉินเหยี่ยนเย่ว์กำมือแน่น สมองหมุนวนอย่างรวดเร็วก่อนที่จะกำจัดกู่นั้น นางได้ตรวจร่างกายของพระสนมอวิ๋นแล้ว นอกเสียจากถูกพิษกู่กัดกร่อนจนทำให้รู้สึกเจ็บปวดร่างกาย แล้ว ก็มีเพี

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 0922

    ฉินเหยี่ยนเย่ว์ถึงกับสะดุ้งตกใจจะเป็นไปได้อย่างไร?พระสนมอวิ๋นจะไม่หายใจได้อย่างไร!หลังจากขับแมลงพิษกู่ออกมา แม้ชีพจรของพระสนมอวิ๋นจะอ่อนแรง หากแต่ไม่มีอันตรายถึงชีวิตอันตรายถึงแก่ชีวิตที่แท้จริงคือขั้นตอนต่อไปต่างหากนางสาวเท้าเข้าไปหยุดที่ข้างกายพระสนมอวิ๋นอย่างรวดเร็ว นิ้วก็สัมผัสชีพจรของพระสน

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 0921

    “จับได้แล้วหรือเพคะ?” ป้าฉาไม่อยากจะเชื่อ“อืม” ฉินเหยี่ยนเย่ว์สูดลมหยใจเข้าลึกจับได้แล้ว!ในลัทธิเต๋า มีคำพูดที่ว่าโคจรรอบเสี่ยวโจวเทียนและโคจรรอบต้าโจวเทียนสิ่งที่เรียกว่าโคจรรอบต้าโจวเทียนก็คือการโคจรพลังชี่ไหลไปรอบ ๆ ร่างกายหนึ่งรอบใหญ่โคจรรอบเสี่ยวโจวเทียน คือพลังชี่ออกจากจุดตันเถียนล่าง ผ่า

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 0920

    อุณหภูมิของยากำลังพอดีพระสนมอวิ๋นถอดอาภรณ์ออกอย่างช้า ๆ การถอดอาภรณ์ต่อหน้าลูกสะใภ้ ทำเอานางรู้สึกเขินอายเอามาก ๆ จึงใช้มือบังเอาไว้ ก่อนจะเดินเข้าไปด้วยความขัดเขิน“เสด็จแม่ นี่เป็นชามสุดท้ายแล้วเพคะ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ยกยาที่ทั้งดำทั้งขมชามหนึ่งเข้ามา พลางพูดกล่อม “สามวันนี้ แมลงกู่พิษมีร่องรอยกา

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 0919

    บางที ใช้ปรสิตมาอธิบายจะดูสมเหตุสมผลกว่าเมื่อเวลาผ่านไปนานวันเข้า แมลงพิษกู่ก็จะเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ จนทำให้การเต้นของหัวใจได้รับผลกระทบ และส่งผลกระทบต่อการไหลเวียนโลหิต และอวัยวะภายในส่วนท้องจะได้รับผลกระทบเป็นที่แรก และจะค่อย ๆ กระจายไปทั่วร่างกาย ภายใต้ผลกระทบของการอักเสบและเลือดไหลเวียนไม่สะดวก

DMCA.com Protection Status