Share

บทที่ 0005

Penulis: สายธารสะท้อนเงา
ฉินเหยี่ยนเย่ว์พลันขมวดคิ้วลงเล็กน้อย ก่อนจะดึงสติของตนเองกลับคืนมา นอนคว่ำตัวลงพร้อมทั้งห่มผ้าคลุมตัว แสร้งว่าตนเองกำลังหลับอยู่ ตั้งสติกลับคืนมา

พร้อมด้วยประตูห้อง ที่ถูกคนผู้หนึ่งเตะออก

พลันพัดพาลมหนาวให้เข้ามาในทันที ทำให้ห้องที่เย็นอยู่แล้วนั้น ทำเอาอุณหภูมิลดลงไปอีกสองสามองศา

“นางช่างโชคดีเสียจริง โดนโบยหนักถึงเพียงนี้กลับยังมีชีวิตอยู่รอดมาได้” สาวใช้นางหนึ่งพลันเดินเข้ามา พร้อมกับส่งเสียงบ่นออกมาด้วยความรำคาญใจ ก่อนจะวางชามใบหนึ่งลงบนโต๊ะ “หากนางตายไปได้ก็ดี พวกเราจักได้ไม่ต้องมาถูกกักขังอยู่ในที่รกร้างแห่งนี้"

“หู่พั่ว เจ้าหยุดพูดมากเสียที” สาวใช้อีกนางหนึ่งพลันเดินตามเข้ามา พร้อมกับถูมือไปมา ก่อนจะไอออกมาเป็นครั้งคราว “วันนี้อากาศหนาวยิ่งนัก”

“ใช่สิ นี่มันหน้าหนาวแล้ว หากแต่สิ่งที่พวกเราได้รับกลับมีเพียงถ่านที่ไม่อาจจุดไฟในเตาเผาให้ติดได้ รอจนหิมะตกมาเสียก่อนเถอะ พวกเราคงได้รวมหัวกันแข็งตายอยู่ในที่แห่งนี้เป็นแน่” สาวใช้ที่มานามว่าหู่พั่วนั้น พลันตะโกนกรีดร้องเสียงสูงออกมาด้วยความไม่พอใจ

“เหตุใดนางยังมีชีวิตอยู่กัน? หากนางตายไป ท่านอ๋องเจ็ดที่เห็นแก่หน้าของตนเองนั้น ย่อมต้องปฏิบัติต่อสาวใช้จากบ้านสกุลเดิมเป็นอย่างดี หากนางมิตาย ท่านอ๋องเจ็ดย่อมรังเกียจนาง ทำเอาพวกเราต้องมาทนทุกข์ทรมานไปกับนางด้วย ข้าโชคร้ายอะไรถึงกับต้องมาคอยรับใช้สตรีอับโชคเช่นนางด้วย?”

“เจ้าเอ่ยวาจาเช่นนี้กับพระชายาได้อย่างไรกัน?” เฟ่ยชุ่ยพยายามลดเสียงเบาลง นางที่ไอมานานแล้วนั้น คอของนางจึงรู้สึกแห้งยิ่งนัก

“จักต้องไปกังวลอะไรกัน? แม้แต่หมูโง่ยังฉลาดกว่านางเลย หากมิใช่เพราะนางใช้วิธีผิดจารีตประเพณีล่อลวงท่านอ๋องสามไม่สำเร็จ กลับไปปีนขึ้นเตียงท่านอ๋องเจ็ดแทน…”

“หู่พั่ว” เฟ่ยชุ่ยรีบดึงแขนเสื้อของนางเอาไว้ในทันที ก่อนจะเอ่ยกำชับนางเสียงเบาว่า “หุบปากเจ้าเสีย เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องต้องห้ามในจวนท่านอ๋องเจ็ด หากคนนอกได้ยินเข้า อาจจะเกิดเรื่องขึ้นมาได้ เจ้ารีบป้อนโจ๊กให้พระชายาเสียก่อน ข้าจะไปดูที่ห้องครัวว่าอาหารพร้อมแล้วหรือไม่”

สีหน้าของหู่พั่วพลันเปลี่ยนไปในทันที นางรู้ดีว่าตนเองเอ่ยวาจามิเหมาะสมเท่าใดนัก แต่ก็ทำได้แค่กระทืบเท้าลงด้วยท่าทีโกรธเคืองแทน

“ข้าอุตส่าห์คอยดูแลรับใช้งานข้างกายคุณหนูรองก็ดีอยู่แล้ว เหตุใดต้องถูกส่งให้มาคอยดูแลรับใช้เจ้าด้วย” หู่พั่วพลันยกชามโจ๊กเดินไปหยุดที่ข้างกายฉินเหยี่ยนเย่ว์ “ในจวนอ๋องแห่งนี้ แม้แต่เสื้อผ้าอาภรณ์อาหารการกินยังเทียบมิได้กับนางกำนัลที่มีฐานะต่ำสุด โจ๊กชามนี้เองก็เป็นเฟ่ยชุ่ยที่เป็นคนไปคอยเคี่ยวอยู่นานหลายชั่วยาม เจ้าหมูโง่ ทุกอย่างล้วนแต่เป็นความผิดของเจ้า”

โจ๊กที่เพิ่งเคี่ยวเสร็จย่อมมีความร้อนระอุ ยิ่งถือเอาไว้ในมือนานเท่าใด ก็อาจทำให้ร้อนจนลวกมือลงได้

หู่พั่วพลันหยิบชามโจ๊กขึ้นมาเป่าเล็กน้อย "เจ้าตัวโชคร้าย เหตุใดเจ้าถึงไม่รีบตายไปเร็ว ๆ เสีย? หากเจ้าตายเมื่อใด ข้าก็จักได้ไม่ต้องมาคอยรับใช้เจ้าอีก "

หู่พั่วพลางมองไปยังฉินเหยี่ยนเย่ว์ที่ยังนอนนิ่งไม่ขยับอยู่นั้น จู่ ๆ นางพลันมีความคิดร้าย ๆ ผุดขึ้นมาในหัวในทันที โจ๊กที่กำลังส่งกลิ่นควันร้อนระอุอยู่นั้น หากว่ามันหกใส่ลงไปยังบนบาดแผลที่ยังไม่หายสนิทดีละก็ พระชายาโง่ผู้นี้อาจจะถึงคราวตายก็เป็นได้

เมื่อมีความคิดเช่นนี้อยู่ในหัวนั้น นัยน์ตาของนางจึงฉายแววโหดร้ายขึ้นมาในทันที

“พระชายาเจ็ดเพคะ ท่านที่รับบาดเจ็ดสาหัสเช่นนี้ คงจะรู้สึกเจ็บปวดมากเลยใช่ไหมเพคะ? ให้บ่าวช่วยปลดปล่อยท่านดีหรือไม่เพคะ?” หู่พั่วกล่าวออกมาด้วยสีหน้าแววตามาดร้าย ก่อนจะค่อย ๆ เลิกผ้าห่มของฉินเหยี่ยนเย่ว์ขึ้นเพื่อที่จะราดโจ๊กลงไปในบาดแผลของนาง

หนังตาของฉินเหยี่ยนเย่ว์พลันกระตุกขึ้นมาในทันที

ฉินเหยี่ยนเย่ว์คาดเดาได้ถึงแผนการณ์ของนางกำนัลผู้นี้ในทันที

หากว่าถ้วยโจ๊กร้อน ๆ ถูกราดลงที่แผลของนางแล้วไซร้ มันย่อมทำให้เกิดการอักแสบจนรามไปถึงการติดเชื้อก็เป็นได้ ทั้งยังสามารถทำให้เกิดอาการแทรกซ้อนตามมาอีกด้วย ด้วยร่างกายที่อ่อนแอของนางในยามนี้ มิอาจทนพิษบาดแผลที่เกิดขึ้นได้เป็นแน่

ฉินเหยี่ยนเย่ว์ได้แต่ลอบขมวดคิ้วออกมา ก่อนจะออมแรงเอาไว้ ยามที่หู่พั่วกำลังจะนำชามโจ๊กเทราดลงมานั้น ฉินเหยี่ยวเย่ว์จึงรีบลุกขึ้น พร้อมทั้งจับข้อมือเพื่อหยุดยั้งการกระทำของหู่พั่วอย่างรวดเร็ว

หู่พั่วพลันตกใจขึ้นมาในทันที กว่าที่นางจะได้สติกลับมานั้น ฉินเหยี่ยนเย่วที่สมควรจะโดนชามโจ๊กราดลงไปบนตัวนั้น กลับเป็นชามโจ๊กร้อน ๆ ที่ราดลงมาบนใบหน้าของนางเอง

“ท่าน ท่านทำอันใดลงไป?” หู่พั่วรีบใช้แขนเสื้อของตนเองเช็ดไปที่ใบหน้าทันที ใบหน้าของนางที่โดนโจ๊กร้อน ๆ ลวกลงไปนั้น พลันเกิดอาการปวดแสบปวดร้อนขึ้นมาในทันใด

“ข้าควรจักเป็นฝ่ายถามเจ้าเสียมากกว่า ว่าเจ้าจักทำอันใด” ฉินเหยี่ยนเย่ว์พลันลุกขึ้นยืน

แผลที่กำลังจะใกล้ตกสะเก็ดนั้น จึงปริแตกออกมาได้ง่าย การเคลื่อนไหวเมื่อครู่นั้นใช้เรี่ยวแรงค่อนข้างมาก จึงทำให้บาดแผลเกิดการปริแตกขึ้นมาในทันที พร้อมทั้งความเจ็บปวดที่แล่นเข้าสู่ร่างกายในทันใด

“บ่าว บ่าวเพียงแค่ต้องการจะป้อนโจ๊กให้กับท่านเพคะ” ดวงตาของหู่พั่วพลันกระพริบลงไปมา “พระชายามิแยกแยะเขียวแดงดำขาว กลับมาเทโจ๊กร้อน ๆ ใส่หน้าบ่าวเช่นนี้ พระชายาช่างมิรู้จักน้ำใจของบ่าวเลยเสียจริง”

"ป้อนโจ๊กให้กับข้ารึ" ฉินเหยี่ยนเย่ว์พลันประจันหน้ากับหู่พั่วในทันที นัยน์ตาพลันแฝงไปด้วยประกายแห่งความเย็นชาในทันทีเผชิญหน้าเธอต่อหน้า โดยมีแสงส่องประกายในดวงตาของเขาเย็นชาราวกับน้ำแข็ง

หู่พั่วพลันตกใจกับแววตาของนางในทันที ก่อนจะถอยหลังลงไปเสียหลายก้าว พร้อมทั้งภายในใจที่นึกตื่นตระหนกยิ่งนัก “เพคะ บ่าวเพียงแค่ต้องการป้อนโจ๊กให้ท่านเท่านั้น”

"ดียิ่ง เพียงแค่ต้องการป้อนโจ๊กให้ข้า อีกเรื่องหาว่าข้ามิรู้จักน้ำใจบ่าว" ฉินเหยี่ยนเย่ว์พลันพับแขนเสื้อของตนเองขึ้นมา ก่อนจะยื่นมือของตนเองออกไป พร้อมทั้งฟาดลงไปที่ใบหน้าของหู่พั่วอย่างเต็มแรงถึงสี่ครั้ง

หู่พั่วมิคาดคิดว่าพระชายาที่มักจะขี้อายเงอะงะและโง่เง่าเสมือนหมู จักเปลี่ยนไปเป็นคนละคนเช่นนี้ ไม่เพียงแต่มีดวงตาที่ทำให้ผู้อื่นหวาดผวาด แต่การกระทำยังดูน่าหวาดกลัวมากขึ้นอีกด้วย

ยังมิทันที่หู่พั่วจะได้สติกลับมา ใบหน้าของนางกลับถูกตบลงมาอย่างรุนแรงถึงสี่ครั้ง

หลังจากถูกตบไปสี่ครั้ง ทำเอาหัวของหู่พั่วรู้สึกวิงเวียนไปในทันที พร้อมกับหูของนางที่เกิดอาการอื้ออึงขึ้นมา

“ท่าน ท่านตบบ่าวหรือ?” ถึงแม้ว่านางจักเป็นเพียงสาวใช้ แต่นางเป็นสาวใช้ขั้นสูง หาได้เคยพบเจอเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ ในยามนี้จึงรู้สึกโกรธโมโหเสียจนต้องการจะฉีกร่างของฉินเหยี่ยนเย่ว์ออกเป็นชิ้น ๆ

“หากเจ้ากล้าก้าวขึ้นมาข้างหน้าแล้วละก็ ข้าจักสั่งให้คนมาเรียกเจ้าออกไปทุบตีให้ตาย ก่อนจะจับเจ้าขายออกไปให้หอโคมเขียวเสีย” ฉินเหยี่ยวเย่ว์เอ่ยออกมาด้วยความเย็นชา “เจ้าเป็นสาวใช้สินเดิมของข้า ขอเพียงแค่ข้าจัดการเจ้าย่อมมิมีผู้ใดกล้าเห็นต่าง หากเจ้ามิเชื่อก็ลองดูเสีย”

“ท่าน!” ภายในใจของหู่พั่วเต้นรัวเสียจน มิกล้าขยับตัวไปมาในทันที

ฉินเหยี่ยนเย่ว์หาได้ข่มขู่หู่พั่วไม่ ในจวนอ๋องแห่งนี้ พระชายาถือเป็นเจ้านายที่แท้จริงของนาง หากจะสังหารจะทุบตีหรือขายนางทิ้ง ล้วนแต่เป็นเพียงความต้องการของนางเพียงผู้เดียวทั้งนั้น

ในอดีต ฉินเหยี่ยนเย่ว์มิกล้าขายนาง ทว่า ฉินเหยี่ยนเย่ว์ในยามนี้กลับมีอารมณ์ก้าวร้าวฉุนเฉียวเสียจน เสมือนกับปีศาจที่ผุดขึ้นมาจากนรก ด้วยท่าทีของฉินเหยี่ยนเย่ว์ในยามนี้แล้วละก็ หากพระนางต้องการจะขายนางหรือทุบตีนางมีความเป็นไปได้มากที่พระนางจะลงมือทำจริง ๆ อย่างแน่นอน

ลมหนาวที่พัดพาเข้ามาทำเอาหน้าต่างถูกเปิดออกในทันที พร้อมทั้งลมหนาวที่พัดเข้ามาภายในห้องเสียจนหน้าต่างส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าดออกมา

ใบไม้ที่ร่วงหล่นปลิวเข้ามาภายในห้องพร้อมกลิ่นอายของอากาศหนาว

“เจ้ารู้หรือไม่ว่า เหตุใดข้าถึงตบเจ้า?” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ปัดใบไม้ที่ร่วงหล่นออกจากผมของหู่พั่ว ก่อนเอ่นถามด้วยเสียงที่เย็นยะเยือก

หู่พั่วที่กำลังตัวสั่นเทานั้น ได้แต่กำหมัดแน่น พร้อมทั้งนัยน์ตาที่ฉายแววความเกลียดชังและเจือไปด้วยความกลัวเผยออกมา "บ่าวมิทราบว่า บ่าวทำอันใดผิดไปเพคะ"

“ดี ในเมื่อเจ้ามิรู้ว่าตนเองทำอันใดผิดไปนั้น” ฉินเหยี่ยนเย่ว์พลางแย้มยิ้มออกมาด้วยความเย็นชา “ เช่นนั้นข้าจักบอกเจ้าเอง ฐานะบ่าวเช่นเจ้า หากแต่วาจาที่เอ่ยกลับน่ารังเกียจยิ่งนัก ทั้งหาได้มีความเคารพต่อนายของตนเองไม่ สมควรโดน นี่คือการตบในคราแรก”

“ตบคราที่สอง ในฐานะบ่าวจากสินสมรส การที่เจ้าเอ่ยวาจาสาปแช่งเจ้านายของตนเอง ทั้งยังคิดวางแผนที่จะใช้การตายของเจ้านายในการเลื่อนสถานะเพื่อให้ตนเองได้รับการปฏิบัติตัวที่ดี เจตนาร้ายเช่นนี้สมควรโดนตบแล้ว”

“ตบคราที่สาม เมื่อครู่เจ้าต้องการจะราดชามโจ๊กร้อน ๆ ใส่ตัวข้า หากว่าข้ามิหลบแล้วละก็ เกรงว่าข้าคงได้โดนโจ๊กร้อน ๆ ลวกเอาได้ เจ้าจึงฉวยโอกาสในยามที่ข้ามิอาจเรียกหมอหลวงมารักษาตัวได้นั้น ต้องการเอาชีวิตข้า ในฐานะที่ตนเองเป็นบ่าวจากสินสมรสนั้น ในใจกลับมีแต่ความอาฆาตคิดร้ายต่อนายของตน การที่ข้าตบเจ้าเพียงแค่นี้ถือว่ายั้งมือไว้ไมตรีมากพอแล้ว”

“สำหรับการตบนคราที่สี่นั้น” ฉินเหยี่ยนเย่ว์แสยะยิ้มออกมาในทันที “ฉินเสวี่ยเย่ว์ส่งเจ้ามาติดตามข้า เจ้าคิดว่าข้ามิรู้หรือ? ในยามนี้เจ้าเป็นนางกำนัลของข้าแล้ว หากแต่กลับมินึกจงรักภักดิ์ดีในตัวเจ้านายเช่นนี้ ข้ามิอาจเก็บเจ้าเอาไว้ข้างกายอีกต่อไป ในเมื่อเจ้าก็มิต้องการรั้งอยู่ข้างกายข้า เช่นนั้นก็ไสหัวไปเสีย”

หู่พั่วพลันตะลึงงันเสียจนมิอาจเอ่ยคำพูดใดออกมาได้ แผ่นหลังกลับมีเหงื่อเย็น ๆ ไหลออกมามิมีหยุด

ด้วยกลิ่นอายของฉินเหยี่ยนเย่ว์ที่ยืนอยู่ตรงหน้านางนั้น ทำเอาหู่พั่วมิหาสิ่งใดมาทักท้านได้เลยแม้แต่น้อย นางในยามนี้ทำได้เพียงตัวสั่นเทาเท่านั้น

เมื่อเฟ่ยชุ่ยเปิดประตูเข้ามา นางพลางสัมผัสได้ถึงบางอย่างที่ผิดปกติไปในทันที ก่อนจะรีบร้อนนำอาหารวางเอาไว้บนโต๊ะ

“พระชายาเพคะ อาการบาดเจ็บของท่านยังไม่หายดี เหตุใดท่านลุกขึ้นยืนขึ้นมาเช่นนี้?” เฟ่ยชุ่ยรีบเข้าไปประคองฉินเหยี่ยนเย่ว์ “รีบนอนลงไปเถอะเพคะ บ่าวไปซื้อยารักษาแผลฟกช้ำมาจากนอกจวน”

ฉินเหยี่ยนเย่ว์เพียงเหลือบตามองหู่พั่วเล็กน้อย "ยังมิไสหัวออกไปอีกหรือ?"

หู่พั่วได้แต่กัดเม้มริมฝีปากของตนเอง ก่อนจะสะบัดหน้าออกจาห้องไปด้วยความโกรธเคืองในทันที
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Komen (1)
goodnovel comment avatar
Chatree Sedakum
เหมือนชีวิตจริงเลยครับ
LIHAT SEMUA KOMENTAR

Bab terkait

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 0006

    สีหน้าของเฟ่ยชุ่ยมีความซับซ้อน “พระนาง ท่านอย่าทรงกริ้วเลยเพคะ หู่พั่วนางมิได้มีเจตนา นางก็แค่ปากเสียเท่านั้นเพคะ...”“ไม่ต้องพูดแล้ว จะดีหรือเลวข้าสามารถแยกแยะได้ คนเช่นนั้น ข้าไม่ต้องการ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์หลุบตาลง “นำยามาให้ข้าเถิด”“บ่าวช่วยทาให้เพคะ” เฟ่ยชุ่ยถอนหายใจ รู้สึกเคืองใจเป็นอย่างยิ่ง “เด

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 0007

    หงเย้าคิดไม่ถึงว่าฉินเหยี่ยนเย่ว์จะปรากฏตัวขึ้น จึงเก็บแส้ เอ่ยอย่างฝืนยิ้ม “ที่แท้ก็เป็นพระชายา อากาศหนาวเช่นนี้ เหตุใดจึงต้องรบกวนให้ท่านเสด็จออกมาด้วยพระองค์เอง? พระนางโปรดวางใจเพคะ สาวใช้ของท่านไม่เชื่อฟัง บ่าวได้ช่วยท่านสั่งสอนนางไปแล้วเรียบร้อยแล้วเพคะ”“ขอบใจในความหวังดีของเจ้า” ฉินเหยี่ยนเย่

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 0008

    พวกองครักษ์สีหน้าค่อนข้างแย่เรื่องราวถูกพระชายาทรงกล่าวออกมาเช่นนี้ หากเรื่องใหญ่ขึ้นมา พวกเขาทั้งหลายคงมีจุดจบที่ไม่ดีนัก ยังจะพลอยเดือดร้อนไปถึงท่านอ๋องเจ็ดอีกด้วยพวกเขาสบตากันแวบหนึ่ง เอ่ยแสดงความขอโทษ “พระชายา ได้โปรดอย่าทรงกริ้วเลยพ่ะย่ะค่ะ พวกกระหม่อมยอมทำตามคำสั่งพ่ะย่ะค่ะ”พวกเขาหยิบไม้โบย

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 0009

    “เหตุใดจึงโบยหงเย้า?” เขาเอ่ยน้ำเสียงจริงจัง“นางโบยสาวใช้ของหม่อมฉัน เหตุใดหม่อมฉันจึงโบยเขามิได้เพคะ?” ฉินเหยี่ยนเย่ว์นั่งลง รินชาร้อนถ้วยหนึ่ง ใช้เล็บค่อย ๆ หยิบก้านชาออกมา “เพื่อสาวใช้คนหนึ่ง ท่านผู้เป็นท่านอ๋องถึงกับมาทวงความยุติธรรมด้วยองค์เองหรือเพคะ? ช่างน่าซาบซึ้งพระทัยยิ่งนัก”ตงฟางหลีได้ย

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 0010

    “ฉินเหยี่ยนเย่ว์ มีเพียงเจ้า ที่ไม่คู่ควรที่จะเอ่ยถึงชื่อนั้น” น้ำเสียงของตงฟางหลีเย็นชาเขาบีบคอแน่นขึ้น สีหน้าของฉินเหยี่ยนเย่ว์เปลี่ยนเป็นสีม่วงเนื่องจากหายใจไม่ออกฉินเหยี่ยนเย่ว์หายใจไม่ออก พวกเขาอยู่ใกล้กันมาก จนสามารถมองเห็นใบหน้าของเขา ดวงตาของเขาได้อย่างชัดเจน เธอมองความโศกเศร้าจากนัยน์ตาค

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 0011

    ภายในเรือนโยวหลานเฟ่ยชุ่ยที่กำลังเก็บเศษซากแจกันที่แตกหักอยู่ด้วยหยาดน้ำตาคลอเบ้า พร้อมทั้งไหล่ทั้งสองข้างที่กำลังสั่นเทาเบา ๆ ฉินเหยี่ยนเย่ว์ที่นอนบนเตียงนั้น ได้แต่มองท่าทีผิดหวังของเฟ่ยชุ่ย ก่อนจะถอนหายใจออกมา “เฟ่ยชุ่ย ข้ามิเป็นอันใด เจ้าหยุดร้องไห้ได้แล้ว”เฟ่ยชุ่ยพลันซืดน้ำมูกเข้าไป “เดิมที

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 0012

    “เจ้าลืมวันมงคลของทุกเดือนไปแล้วหรือ?” ตงฟางหลีกล่าว “วันรุ่งพรุ่งนี้ เจ้าจักต้องเข้าวังพร้อมกับข้า ทั้งเสื้อผ้าอาภรณ์และเครื่องประดับต่างก็จัดเตรียมเอาไว้ให้เจ้าครบหมดแล้ว”ฉินเหยี่ยนเย่ว์ที่ฉุกคิดขึ้นมาได้ในทันทีว่า วันพระบรมราชสมภพขององค์จักรพรรดินั้นเป็นวันยี่สิบสามของเดือนหนึ่ง ฉะนั้นแล้ววันที่

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 0013

    “เฟ่ยชุ่ย พาคนไปอยู่ในที่อุ่น ๆ ที” ฉินเหยี่ยนเย่ว์พลันกำมือของตนเองเอาไว้แน่น “ข้ามิอาจสัมผัสเลือดได้ คุณทำเอง ได้หรือไม่?”เมื่อเฟ่ยชุ่ยได้ยินเช่นนั้น นางจึงพยักหน้าอย่างรวดเร็วในทันที "พระชายามิจำเป็นต้องลงมือเองก็ได้เพคะ บ่าวทำได้ บ่าวทำได้เพคะ”เฟ่ยชุ่ยจึงพาหู่พั่วไปที่ห้องของนางในทันทีฉินเหยี

Bab terbaru

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 1319

    สิ้นเสียง เขาก็ก้าวยาว ๆ เดินจากไปพอเดินไปถึงประตู ก็หันหน้ากลับมาอีกครั้ง กล่าวด้วยเสียงเย็นชา “ท่านอ๋องเจ็ด ท่านเองก็ออกมาเถิด”ตงฟางหลีไม่แม้แต่จะสนใจเขาฉินเหยี่ยนเย่ว์เห็นว่าในที่สุดจอมมารออกไปแล้ว ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก “พี่เจ็ด ท่านก็ออกไปเถิดเพคะ”“ยัยหนู...” ตงฟางหลีไม่วางใจนาง“วางใจเถิ

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 1318

    เมื่อเพลิงโทสะของฉินเหยี่ยนเย่ว์พุ่งขึ้นมา วาจาที่พูดออกมาก็รุนแรงเช่นกันนางยิ่งพูดก็ยิ่งโกรธ ยิ่งตำหนิก็ยิ่งรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ“ท่านอย่าคิดนะว่าท่านไร้คู่ต่อกรในใต้หล้าแล้วจะสามารถทำอะไรก็ได้ ในที่ดินแปดร้อยหมู่ ท่านก็เป็นเพียงแค่ต้นหอมที่โตสูงกว่าเท่านั้น ท่านคิดว่าท่านเป็นใครกัน? ทำให้ข้าโมโห ข้

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 1317

    “พี่เจ็ด ท่านยืนอยู่ตรงนั้นห้ามขยับเพคะ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์รู้สึกได้ถึงจุดประสงค์ของตงฟางหลี ก็พูดตะคอก “เชื่อฟังสิเพคะ”“ยัยหนู เจ้าไม่ใช่คู่ต่อกรของเขา” นัยน์ตาของตงฟางหลีก็แดงก่ำขึ้นมาเช่นเดียวกัน“เชื่อฟัง แล้วอย่าขยับเพคะ”“ยัยหนู!”“หากท่านกล้าเข้ามา หม่อมฉันก็จะไม่สนใจท่านแล้ว” ในน้ำเสียงเย็นชาข

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 1316

    ตงฟางหลีกุมมือของนางแน่นอย่างควบคุมตนเองไม่ได้ออกแรงมากไปเล็กน้อย กุมแน่นจนฉินเหยี่ยนเย่ว์รู้สึกเจ็บเขารู้สึกหนักอึ้งอยู่ในก้นบึ้งหัวใจคนโง่คนนี้ ชัดเจนมากว่ากำลังฝืนให้ตนเองเข้มแข็ง!นางพูดง่ายปานนั้น หากในทางปฏิบัติจริง ๆ กลับทำได้ค่อนข้างยากถึงอย่างไร เขาก็ฟังทั้งหมดไม่เข้าใจอยู่แล้ว“ไม่ต้อง

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 1315

    “ข้าสามารถควบคุมหินจันทราของข้าได้ เป็นเพราะว่าความคิดและร่างกายของข้าทั้งหมดประสานกับหินจันทรา”นางวาดวงกลมสองวงลงบนกระแสน้ำวน “หินจันทราในร่างกายของอวี้เอ๋อร์มีอยู่ไม่มาก ทำได้เพียงฝืนประคองนางให้อยู่ในสภาพมีชีวิตต่อไปได้”“หลังจากที่มอบแหวนที่มีหินจันทราให้นาง แหวนก็ได้ทำลายสมดุลเดิม หากแต่หินจัน

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 1314

    สองมือของจีอู๋เยียนพันเกี่ยวกันไปมา ก่อนจะใช้นิ้วโป้งออกแรงกดที่หน้าผาก“อวี้เอ๋อร์...ขอร้องท่านล่ะ พยายามอีกครั้งเถอะ”เขาภาวนาเสียงพึมพำความเหี้ยมโหดในสีหน้านั้นลดลง และมีความหวังเพิ่มขึ้นฉินเหยี่ยนเย่ว์ตรวจร่างกายให้อวี้เอ๋อร์อีกหนึ่งรอบสถานการณ์ที่อวี้เอ๋อร์กำลังเผชิญในเวลานี้ คล้ายกับที่นาง

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 1313

    “เกิดอะไรขึ้นกันแน่?” ผ่านไปครู่หนึ่ง จีอู๋เยียนก็เอ่ยถามเสียงเข้ม“ปฏิกิริยาปฏิเสธน่ะ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์พูดเสียงทุ้มต่ำ“ปฏิกิริยาปฏิเสธหรือ?”“ข้าไม่รู้ว่าจะอธิบายให้ท่านฟังอย่างไร” นางพรูลมหายใจปฏิกิริยาปฏิเสธเดิมเป็นคำศัพท์ทางชีววิทยาซึ่งก็คือยามที่มีสิ่งแปลกปลอมเข้าสู่ร่างกายของมนุษย์ เซลล์ที่เ

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 1312

    “ข้าจะนับถึงสาม เก็บกลิ่นอายสังหารของท่านเสีย ข้าไม่รังเกียจที่จะตายหรอกนะ ถึงอย่างไรก็มีอวี้เอ๋อร์ตายไปพร้อมข้าอยู่แล้ว ข้ามิได้เสียเปรียบแต่อย่างใด”“สาม” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ไอออกมาหนึ่งคำกลิ่นอายสังหารที่จีอู๋เยียนปล่อยออกมาถูกตงฟางหลีกำบังไว้เป็นส่วนใหญ่ก็ตาม หากนางยังคงได้รับผลกระทบไปด้วยสีหน้าขอ

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 1311

    “แน่นอน” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ถูแหวนบนมือแม้ว่ายากจะเชื่อทว่า หินจันทราวัตถุเช่นนี้ อยู่เหนือจินตนาการจริง ๆหรือแม้กระทั่ง การที่นางสามารถมายังโลกใบนี้ได้ ก็เป็นเพราะพลังงานของหินจันทราจีอู๋เยียนไม่ค่อยเชื่อเท่าใดนัก “อาศัยเพียงวงแหวนเล็ก ๆ วงหนึ่ง ทำได้หรือ?”ฉินเหยี่ยนเย่ว์ถอนหายใจ “ข้ามิอาจอธิบายให

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status