共有

บทที่ 6

作者: สายธารสะท้อนเงา
สีหน้าของเฟ่ยชุ่ยมีความซับซ้อน “พระนาง ท่านอย่าทรงกริ้วเลยเพคะ หู่พั่วนางมิได้มีเจตนา นางก็แค่ปากเสียเท่านั้นเพคะ...”

“ไม่ต้องพูดแล้ว จะดีหรือเลวข้าสามารถแยกแยะได้ คนเช่นนั้น ข้าไม่ต้องการ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์หลุบตาลง “นำยามาให้ข้าเถิด”

“บ่าวช่วยทาให้เพคะ” เฟ่ยชุ่ยถอนหายใจ รู้สึกเคืองใจเป็นอย่างยิ่ง “เดิมทีบ่าวอยากจะเชิญท่านหมอ พวกองครักษ์ไม่ยอมปล่อยผ่าน พวกเขาทำเกินไปมากเพคะ ท่านอ๋องเพียงแค่ทรงกล่าวว่ามิอนุญาตให้พระนางเชิญหมอหลวง แต่มิได้ทรงกล่าวว่ามิอนุญาตให้เชิญท่านหมอ”

“ข้าทาเองได้” ฉินเหยี่ยนเย่ว์รับยามาแล้วดมกลิ่น ไม่มีกลิ่นอื่นใดนอกจากพวกสมุนไพรธรรมดาทั่วไปเช่นตังกุย ดอกคำฝอย และดอกดิน

“ขอบใจเจ้าที่หลายวันมานี้นำยามาให้ข้าทุกวัน ข้าอาการดีขึ้นมากแล้ว”

“พระนาง ท่านจะกล่าวขอบคุณบ่าวได้อย่างไรกันเพคะ? เรื่องเหล่านี้เป็นสิ่งที่บ่าวสมควรทำเพคะ” เฟ่ยชุ่ยตกใจ

ฉินเหยี่ยนเย่ว์หลุบตาลง

ยารักษาแผลฟกช้ำทั่วไปประสิทธิผลไม่ดีเท่าใดนัก แต่เมื่อใช้กับร่างกายของนางอาการก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ

“อาหารนี่ ห้องครัวให้มารึ?” นางเหลือบตามองอาหารบนโต๊ะแวบหนึ่ง อาหารไม่มีควันลอยออกมา อาหารที่เป็นเนื้อสัตว์เพียงอย่างเดียวก็ยังเย็นชืด ผักก็ไม่สดอีกด้วย เห็นได้ชัดว่าเป็นอาหารเหลือ

เฟ่ยชุ่ยกัดริมฝีปาก เอ่ย “บ่าวไปมาหลายรอบแล้วเพคะ ผู้ดูแลมักจะกล่าวว่ายังทำไม่เสร็จทุกครั้ง มีเพียงอาหารเหลือพวกนี้เพคะ”

“บ่าวรอจนพวกเขาตุ๋นโจ๊กเสร็จ กว่าจะได้โจ๊กร้อน ๆ สักถ้วยไม่ง่ายเลย ทั้งยังถูกปัดคว่ำอีก พระนาง ท่านอดทนเอาไว้ก่อนนะเพคะ บ่าว บ่าวจะไปซื้อซาลาเปาที่ข้างนอก ตอนกลางคืนบ่าวจะไปเฝ้าที่ห้องครัวเอาไว้เพคะ...”

“ไม่ต้อง” ฉินเหยี่ยนเย่ว์กล่าว “ช่วยเอาไปอุ่นบนเตาให้ข้าหน่อย”

เฟ่ยชุ่ยตะลึงงันไปทันที แต่ก่อนหลังจากที่พระชายาเห็นอาหารเหลือพวกนี้ จะปัดจานออก จะเกรี้ยวกราดใส่นางโดยที่ไม่ฟังเหตุผล ถึงขนาดดุด่าตบตีนาง ระบายความโกรธใส่นาง

แต่หลายวันมานี้ ไม่เพียงไม่โมโห ทั้งยังกินอาหารที่เย็นชืดพวกนี้อีกด้วย

พระชายา อย่างกับเปลี่ยนไปเป็นคนละคน

“อย่ามัวอึ้งอยู่เลย ช่วยข้าอุ่นให้ร้อนเสียหน่อยแล้วค่อยยกมา” ฉินเหยี่ยนเย่ว์อ่อนระโหยโรยแรง เป็นเพราะหมดเรี่ยวแรงไปกับการตบหู่พั่วสี่ห้าฉาดเมื่อครู่นี้

เธอต้องการเติมพลัง อาหารเหลือก็คืออาหารเช่นกัน นางไม่เลือกกินอาหารเท่าใดนัก แล้วก็จะไม่ยอมสิ้นเปลืองง่าย ๆ

ยิ่งไปกว่านั้น บาดแผลของเธอในตอนนี้ยังไม่หายดี จำต้องรอจนกว่าบาดแผลจะหายดี และสามารถเดินเหินได้ด้วยตนเอง แล้วค่อยทวงคืนสิ่งของที่ควรเป็นของนางกลับคืนมาทีละอย่าง

เฟ่ยชุ่ยไม่รู้ถึงความคิดภายในใจของนาง นำอาหารวางไว้บนเตา ควันหนาทึบจากถ่านทำให้นางสำลักจนไอออกมา

นางนำผ้าเช็คหน้าปิดปากเอาไว้ หลังจากที่ไออย่างรุนแรง บนผ้าเช็คหน้าของนางก็เปื้อนไปด้วยเลือกสีแดงสด

นางตกใจ รีบนำผ้าเช็คหน้าไปซุกเอาไว้

“เจ้าไอเป็นเลือดงั้นรึ?” หลังจากฉินเหยี่ยนเย่ว์มองเห็นบนผ้าเช็คหน้าขาวดุจหิมะของนางเปื้อนไปด้วยเลือดสีแดงสด ก็ตัวสั่นเทาทันที

วันนั้นที่พ่อแม่ของนางประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต นางพยายามช่วยชีวิตพวกเขา เลือดแดงสดไหลนองเต็มพื้น บนตัวของเธอก็เปื้อนไปด้วยเลือดสีแดงสดเช่นกัน แต่ไม่ว่านางจะพยายามยื้อชีวิตขนาดไหน พ่อกับแม่ก็ไม่ฟื้นขึ้นมาอีก

นับตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมา นางก็มีอาการกลัวเลือด ทันทีที่เห็นเลือดก็ตัวสั่นไม่หยุด ด้วยเหตุนี้จึงไม่สามารถเป็นหมอได้อีก

คิดไม่ถึงว่า อาการผิดปกตินี้จะตามมาด้วย

“ไม่ ไม่เป็นอะไรเพคะ” เฟ่ยชุ่ยพยายามเช็ดมุมปากอย่างลวก ๆ “ก็แค่ผลกระทบจากลมเย็น กินยานิดหน่อยก็หายแล้วเพคะ”

“นานแค่ไหนแล้ว มีอาการอย่างไรบ้าง?”

“ประมาณ สามเดือนแล้วเพคะ พระนาง บ่าวไม่เป็นอะไรเพคะ” เฟ่ยชุ่ยพูดไป ก็พยายามฝืนยกอาหารที่อุ่นเสร็จมาวางบนโต๊ะ กุมปากเอาไว้ แล้วออกไปอย่างรีบร้อน

ฉินเหยี่ยนเย่ว์ขยับแหวนเล็กน้อย ทำให้มือที่สั่นเทาทั้งสองข้างหยุดลง

ตามความทรงจำ เดิมทีเฟ่ยชุ่ยเป็นสาวใช้ที่อ้วนตุต๊ะคนหนึ่ง จู่ ๆก็ผอมลงในช่วงเวลาสามเดือนที่ผ่านมา สีหน้าซีดเหลือง สีหน้าแย่เป็นอย่างยิ่ง

นางมักจะไออยู่บ่อย ๆ ทั้งยังไอเป็นเลือดอีกด้วย อาการแบบนี้ มีความคล้ายคลึงกับโรคปอด หรือก็คือวัณโรค

ณ ยุคสมัยนี้ วัณโรคเป็นการเจ็บป่วยที่ถึงแก่ชีวิต

เมื่อเริ่มป่วยได้สามเดือน คนรอบข้างจะยังไม่ติดเชื้อ

ถ้าหากเป็นวัณโรค มีความเป็นไปได้มากที่ยังอยู่ในระยะไม่แพร่เชื้อ ตอนนี้ยังไม่มีการติดต่อ

ถ้าหากไม่ใช่วัณโรค แต่เป็นอาการของปอดอักเสบ ก็มีความเป็นไปได้เช่นกัน

ไม่ว่าจะเป็นโรคประเภทใด โรคปอดล้วนถึงแก่ชีวติได้ จำเป็นต้องได้รับการตรวจวินิจฉัย และรักษาอย่างทันท่วงที

ในระหว่างที่กำลังครุ่นคิด จู่ ๆ แหวนเกิดร้อนขึ้น

โรงพยาบาลปรากฏขึ้นตรงหน้า ที่แตกต่างจากตามปกติก็คือ นางมองเห็นสถานการณ์ภายในได้อย่างชัดเจน

ท่ามกลางห้องยาใหญ่ที่อยู่ชั้นหนึ่งของอาคาร หน้าต่างบานหนึ่งกำลังเปิดอยู่ ยาถูกเข็นออกมาจากทางด้านใน

จากนั้น มีผลิตภัณฑ์ยาปรากฏขึ้นใกล้ ๆ มือ

กระบวนการผ่านไปอย่างรวดเร็ว ทั้งน่ามหัศจรรย์ ฉินเหยี่ยนเย่ว์ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งถึงก้มหน้ามองไปทางผลิตภัณฑ์ยาที่ปรากฏขึ้นใหม่

หลังจากที่มองเห็นตัวหนังสือบนขวดยาอย่างชัดเจน ขมับกระตุกเล็กน้อย เดิมทีคิดว่าจะมียาจำพวกต้านวัณโรคเช่นไรแฟมพิซิน สเตรปโตมัยซินปรากฏขึ้น คิดไม่ถึงว่า ด้านในขวดเล็กจะบรรจุด้วยแมนนิทอล แล้วก็ยังมีอุปกรณ์ฉีดยาอีกหนึ่งชุด

ส่วนใหญ่แมนนิทอลใช้สำหรับภาวะขาดน้ำ สำหรับมีผลต่อผู้ที่มีภาวะความดันในกะโหลกศีรษะสูง และความดันในตาสูง แต่ไม่มีผลต่อผู้ที่เป็นโรคปอด

“เชื่อไม่ได้จริง ๆ” นางแอบแขวะ หยิบขวดยาและอุปกรณ์ฉีดยาขึ้นมา ซ่อนไว้อย่างดี

อาหารอุ่นเสร็จเรียบร้อยแล้ว นางฝืนกินสองสามคำ รสเค็มจัด รสชาติแย่เป็นอย่างยิ่ง

“เฟ่ยชุ่ย ช่วยรินน้ำให้ข้าหน่อย” นางเขย่ากาน้ำชา ข้างในว่างเปล่า จึงเพิ่มเสียงให้ดังขึ้น เพื่อเรียกสาวใช้

ผ่านไปนาน ไม่มีเสียงตอบรับ

นางจึงเรียกอีกสองสามครั้ง ยังคงไม่มีเสียงตอบรับเช่นเคย

ฉินเหยี่ยนเย่ว์คอแห้งจนทนไม่ไหว อยากจะไปขอน้ำร้อนจากห้องครัว

ทันทีที่เปิดประตู ก็มีลมหนาวพัดโชยมา

เมฆอึมครึม ท้องฟ้ามืดสลัว ราวกับว่ากำลังจะมีหิมะตกหนัก

นางกระชับเสื้อผ้าแน่น เดินมุ่งไปข้างหน้า

เพิ่งเดินไปได้ไม่นาน ก็ได้ยินเสียงคนกำลังร้องไห้สะอึกสะอื้น ขอร้องให้ยกโทษ ไม่หยุด น้ำเสียงเศร้าระทม ยังมีเสียงที่พยายามกลั้นไอเอาไว้ดังมาเป็นระยะ ๆ

ราวกับว่าบริเวณรอบ ๆ ยังมีผู้คนมุงดูอยู่อีกด้วย มีเสียงหัวเราะอย่างหยอกเย้าดังออกมาเป็นครั้งคราว

ฉินเหยี่ยนเย่ว์สีหน้าเปลี่ยนไปทันที

เสียงขอร้องให้ยกโทษนี้ เป็นเสียงของเฟ่ยชุ่ย!

นางเดินอย่างรวดเร็ว เลี้ยวที่มุมกำแพง ก็เห็นฝูงชนกลุ่มหนึ่งกำลังล้อมวงกัน ใจกลางฝูงชน มีผู้หญิงชุดแดงคนหนึ่งกำลังออกแรงสะบัดแส้ แส้ฟาดลงที่บนตัวของเฟ่ยชุ่ย

ชุดฤดูหนาวหนา ๆ ถูกตีจนขาดวิ่น ใยฝ้ายที่ขาดรุ่งริ่งปลิวว่อน

โชคดีที่เป็นฤดูหนาว เสื้อผ้าค่อนข้างหนา ไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัสเท่าใดนัก

เฟ่ยชุ่ยกุมหัวเอาไว้ เจ็บจนกลิ้งไปมา พลางร้องไห้สะอึกสะอื้นพลางขอร้องให้ยกโทษ

การขอร้องให้ยกโทษกลับไม่ได้รับการให้อภัย แต่กลับเป็นการกระตุ้นสตรีชุดแดง ให้นางตีแรงขึ้นเรื่อย ๆ

ฉินเหยี่ยนเย่ว์ดวงตาเย็นเยือก

สตรีชุดแดงคนนี้มีนามว่าหงเย้า เป็นสาวใช้ที่เสด็จแม่ของตงฟางหลีส่งไปให้เขา ในจวนอ๋องมักจะแสดงตัวเป็นนายหญิง ไม่เห็นนางผู้เป็นพระชายาอยู่ในสายตาเลยแม้แต่น้อย ยังเสี้ยมสอนให้คนรับใช้ปฏิบัติต่อนางอย่างโหดร้าย

ไม่เพียงเท่านี้ ตอนที่เจ้าของร่างเดิมตามประกบท่านอ๋องสามอย่างคลั่งไคล้ เคยเจอกับแม่นางหงเย้าผู้นี้ ราวกับว่านางเป็นคนของท่านอ๋องสาม ภายในสมองที่โง่เขลาของเจ้าของร่างเดิมเต็มไปด้วยผู้ชายสารเลว เพียงแค่รำคาณที่นางเข้าใกล้ท่านอ๋องสาม บัดนี้ดูเหมือนว่า หงเย้าผู้นี้ เกรงว่าจะเป็นหูตาของท่านอ๋องสามที่ซ่อนไว้ในจวนท่านอ๋องเจ็ด

เพียงเพราะนางเป็นคนที่เสด็จแม่ของตงฟางหลีส่งตัวมา ตลอดเวลาหลายปีมานี้จึงไม่ถูกผู้ใดสงสัย

ฉินเหยี่ยนเย่ว์ยิ้มเยาะ ยากที่จะหลบเลี่ยงจริง ๆ ได้เจอกับคนของผู้ชายสารเลวเร็วถึงเพียงนี้

ผู้ชายสารเลวพยายามวางแผนในระยะยาว นางจะต้องจัดการให้เรียบร้อยถึงจะไม่รู้สึกละอายใจต่อเขา

“หยุดเดี๋ยวนี้” ฉินเหยี่ยนเย่ว์เดินเข้าไปด้วยใบหน้าเย็นเยือก ออกแรงคว้าข้อมือของสตรีชุดแดงเอาไว้ น้ำเสียงเคร่งขรึม “สาวใช้ของข้าทำผิดอันใด? ถึงต้องให้แม่นางหงเย้าลงไม้ลงมือเช่นนี้?”
この本を無料で読み続ける
コードをスキャンしてアプリをダウンロード
コメント (2)
goodnovel comment avatar
บุศราพร
ไม่รู้สิคะ ชื่อยาถูก แต่บางสรรพคุณผิด อ่านเอาฟีลพอได้อยู่
goodnovel comment avatar
Chatree Sedakum
อ่านแล้วตีความหมายเป็นหนังได้เลยครับ
すべてのコメントを表示

関連チャプター

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 7

    หงเย้าคิดไม่ถึงว่าฉินเหยี่ยนเย่ว์จะปรากฏตัวขึ้น จึงเก็บแส้ เอ่ยอย่างฝืนยิ้ม “ที่แท้ก็เป็นพระชายา อากาศหนาวเช่นนี้ เหตุใดจึงต้องรบกวนให้ท่านเสด็จออกมาด้วยพระองค์เอง? พระนางโปรดวางใจเพคะ สาวใช้ของท่านไม่เชื่อฟัง บ่าวได้ช่วยท่านสั่งสอนนางไปแล้วเรียบร้อยแล้วเพคะ”“ขอบใจในความหวังดีของเจ้า” ฉินเหยี่ยนเย่

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 8

    พวกองครักษ์สีหน้าค่อนข้างแย่เรื่องราวถูกพระชายาทรงกล่าวออกมาเช่นนี้ หากเรื่องใหญ่ขึ้นมา พวกเขาทั้งหลายคงมีจุดจบที่ไม่ดีนัก ยังจะพลอยเดือดร้อนไปถึงท่านอ๋องเจ็ดอีกด้วยพวกเขาสบตากันแวบหนึ่ง เอ่ยแสดงความขอโทษ “พระชายา ได้โปรดอย่าทรงกริ้วเลยพ่ะย่ะค่ะ พวกกระหม่อมยอมทำตามคำสั่งพ่ะย่ะค่ะ”พวกเขาหยิบไม้โบย

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 9

    “เหตุใดจึงโบยหงเย้า?” เขาเอ่ยน้ำเสียงจริงจัง“นางโบยสาวใช้ของหม่อมฉัน เหตุใดหม่อมฉันจึงโบยเขามิได้เพคะ?” ฉินเหยี่ยนเย่ว์นั่งลง รินชาร้อนถ้วยหนึ่ง ใช้เล็บค่อย ๆ หยิบก้านชาออกมา “เพื่อสาวใช้คนหนึ่ง ท่านผู้เป็นท่านอ๋องถึงกับมาทวงความยุติธรรมด้วยองค์เองหรือเพคะ? ช่างน่าซาบซึ้งพระทัยยิ่งนัก”ตงฟางหลีได้ย

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 10

    “ฉินเหยี่ยนเย่ว์ มีเพียงเจ้า ที่ไม่คู่ควรที่จะเอ่ยถึงชื่อนั้น” น้ำเสียงของตงฟางหลีเย็นชาเขาบีบคอแน่นขึ้น สีหน้าของฉินเหยี่ยนเย่ว์เปลี่ยนเป็นสีม่วงเนื่องจากหายใจไม่ออกฉินเหยี่ยนเย่ว์หายใจไม่ออก พวกเขาอยู่ใกล้กันมาก จนสามารถมองเห็นใบหน้าของเขา ดวงตาของเขาได้อย่างชัดเจน เธอมองความโศกเศร้าจากนัยน์ตาค

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 11

    ภายในเรือนโยวหลานเฟ่ยชุ่ยที่กำลังเก็บเศษซากแจกันที่แตกหักอยู่ด้วยหยาดน้ำตาคลอเบ้า พร้อมทั้งไหล่ทั้งสองข้างที่กำลังสั่นเทาเบา ๆ ฉินเหยี่ยนเย่ว์ที่นอนบนเตียงนั้น ได้แต่มองท่าทีผิดหวังของเฟ่ยชุ่ย ก่อนจะถอนหายใจออกมา “เฟ่ยชุ่ย ข้ามิเป็นอันใด เจ้าหยุดร้องไห้ได้แล้ว”เฟ่ยชุ่ยพลันซืดน้ำมูกเข้าไป “เดิมที

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 12

    “เจ้าลืมวันมงคลของทุกเดือนไปแล้วหรือ?” ตงฟางหลีกล่าว “วันรุ่งพรุ่งนี้ เจ้าจักต้องเข้าวังพร้อมกับข้า ทั้งเสื้อผ้าอาภรณ์และเครื่องประดับต่างก็จัดเตรียมเอาไว้ให้เจ้าครบหมดแล้ว”ฉินเหยี่ยนเย่ว์ที่ฉุกคิดขึ้นมาได้ในทันทีว่า วันพระบรมราชสมภพขององค์จักรพรรดินั้นเป็นวันยี่สิบสามของเดือนหนึ่ง ฉะนั้นแล้ววันที่

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 13

    “เฟ่ยชุ่ย พาคนไปอยู่ในที่อุ่น ๆ ที” ฉินเหยี่ยนเย่ว์พลันกำมือของตนเองเอาไว้แน่น “ข้ามิอาจสัมผัสเลือดได้ คุณทำเอง ได้หรือไม่?”เมื่อเฟ่ยชุ่ยได้ยินเช่นนั้น นางจึงพยักหน้าอย่างรวดเร็วในทันที "พระชายามิจำเป็นต้องลงมือเองก็ได้เพคะ บ่าวทำได้ บ่าวทำได้เพคะ”เฟ่ยชุ่ยจึงพาหู่พั่วไปที่ห้องของนางในทันทีฉินเหยี

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 14

    “เฟ่ยชุ่ย เจ้าไปผลัดเปลี่ยนอาภรณ์ของตนเองเสียก่อน” ฉินเหยี่ยนเย่ว์พูดขึ้นด้วยใบหน้าที่เย็นชา “เจ้าไปดูแลหู่พั่วที่อยู่ในห้องให้ดี ข้าจักออกไปดูข้างนอกเสียหน่อย”“พระชายาเพคะ” ใบหน้าของเฟ่ยชุ่ยพลันซีดลงไปในทันที ก่อนจะกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า “พระชายาอ๋องสามหาได้มาดีไม่ อีกทั้ง นางยังพาแม่น

最新チャプター

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 1413

    เวลาเดียวกับที่เช็ดเลือดออก ได้ใส่ยาห้ามเลือด และในเวลาเดียวกันก็ฉีดยาฉุกเฉินเช่น ยากระตุ้นหัวใจอาการของเซียวเซี่ยงหวั่นค่อนข้างแย่แม้จะได้รับการรักษาฉุกเฉินแล้ว แต่การหายใจของนางยังคงอ่อนแรงมากโดยเฉพาะมือและเท้าเริ่มแข็ง ทำให้ไม่สามารถวัดชีพจรได้สิ่งที่เร่งด่วนที่สุด ทำได้เพียงตรวจคลื่นไฟฟ้าหัว

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 1412

    หลังจากกินยาช่วยชีวิตแล้ว เซียวเซี่ยงหวั่นก็เกิดอาการชักอย่างรุนแรงทันทีใบหน้าที่แทบจะจำไม่ได้บิดเบี้ยวเพราะความเจ็บปวดนางดิ้นรนด้วยความทรมาน มีเสียงร้องครวญครางอย่างไม่รู้สึกตัวออกมาจากลำคอ“แย่แล้ว” หัวใจของฉินเหยี่ยนเย่ว์ยังไม่ทันวางลง ก็ลอยขึ้นสูงอีกครั้งเซียวเซี่ยงหวั่นถูกเฉียนอ๋องทรมานจนหาย

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 1411

    เมื่อพวกเขาได้กลิ่นของฉินเหยี่ยนเย่ว์นั้น ทุกสายตาพลันหันไปหานางในทันที ก่อนจะน้ำลายไหลออกมา พร้อมทั้งนัยน์ตาที่แดงก่ำพวกเขาทั้งหมดล้วนแต่มีร่างกายสูงใหญ่ บนร่างกายนั้นกลับมีเงามันแปลก ๆ พร้อมทั้งเปรอะเปื้อนเลือดของพระชายาเฉียนอีกด้วยพวกมันราวกับสัตว์ร้ายที่จ้องมองนางด้วยสายตาราวกับอยากจะจับนางฉีก

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 1410

    ยามที่นางตกอยู่ในสภาวะว่างเปล่านั้น ย่อมมิอาจทำอันใดกับเฉียนอ๋องได้ทว่า นางในสภาวะปกติเช่นนี้ หาได้เห็นเขาอยู่ในสายตาไม่ยิ่งมิต้องเอ่ยถึงในยามที่พลังแห่งจิตวิญญาณของนางได้เพิ่มขึ้นเป็นสามเท่าตัวเช่นนี้เลยเมื่อต้องมาเผชิญหน้ากับสารเลวอย่างเฉียนอ๋องที่รังแกสตรีเช่นนี้ ฉินเหยี่ยนเย่ว์ย่อมมิมีทางวิ่ง

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 1409

    “อ๊าก มือข้า”เฉียนอ๋องพลันมองไปยังข้อมือของตนเองที่กำลังมีเลือดไหลออกมาก่อนหน้านั้น มือนั้นยังอยู่บนข้อมือของเขา เพียงพริบตาเดียวมิรู้ว่าหายไปไหนแล้วหลงเหลือไว้เพียงข้อมือว่างเปล่าที่มีเลือดพุ่งกระฉูดออกมาเลือดสด ๆ ที่ไหลออกมาไม่หยุดนั้น พลันไหลปกคลุมเตียงหินที่มีรอยเลือดแห้งดำด่างเก่า ๆ ในทันที

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 1408

    ความโกรธเกรี้ยวที่โหมกระหน่ำราวกับคลื่นที่ซัดเข้ามาฉินเหยี่ยนเย่ว์แทบจะควบคุมความโกรธที่สุมอยู่เต็มอกของนางไม่ไหวนางพยายามดิ้นรน เพื่อที่จะหลุดออกจากโซ่ตรวนนี้ภายในห้องลับที่มืดมิดนั้น เสียงดังของโซ่ตรวนเหล็กที่กระทบกันไปมาพลันกลบเสียงร้องของพระชายาเฉียนไปจนหมด“โกรธหรือ? ดิ้นรนหรือ? ฮ่าฮ่า ฉินเห

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 1407

    นางมิคิดเลยว่า เฉียนอ๋องจักกล้าโยนชายาของตนเองลงไปในดงบุรุษเหล่านั้นได้หูของนางพลันได้ยินเสียงกรีดร้องขอความช่วยเหลือของพระชายาเฉียนดังขึ้นมาเสียงนั่น ดังกึกก้องลึกเข้าไปในใจของฉินเหยี่ยนเย่ว์ในทันทีถึงแม้ว่านางจักมิไปเห็น มิได้ยิน แต่นางก็สัมผัสได้ว่าพระชายาเฉียนกำลังทุกข์ทรมานใจมากเพียงใดในยามน

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 1406

    ฉินเหยี่ยนเย่ว์พลันลืมตาขึ้นมาโดยไม่รู้ตัวการมองในครานี้ กลับทำเอาทั่วร่างเย็นยะเยือก พร้อมทั้งเลือดในกายที่ถูกสูบฉีดไหลเวียนไปทั่วร่างยามที่นางกำลังปิดกั้นตนเองจากโลกภายนอก เพื่อมุ่งมั่นในการรวบรวมสมาธิของตนเองมิรู้ว่าเฉียนอ๋องไปนำบุรุษสามสี่คนมาจากที่ใดบุรุษเหล่านั้นรูปร่างสูงใหญ่กำยำมิต่างอัน

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 1405

    “หากมิใช่เพราะข้าคิดถึงเจ้ามากถึงเพียงนั้น จนถึงกับลอบสังเกตติดตามผู้ที่เกี่ยวข้องกับเจ้าอย่างใกล้ชิดแล้วละก็ ถึงได้พบนกกางเขนเงาที่บินไปที่จวนอ๋องเจ็ดตัวนั้น มิเช่นนั้นข้าก็คงมิมีทางหาเจ้าพบแน่”“เจ้าเป็นของของข้า แต่กลับคิดหาทางหลบหนี ผู้ใดให้ความกล้าแก่เจ้ากัน? เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นตัวอันใด? ถึงกล้า

無料で面白い小説を探して読んでみましょう
GoodNovel アプリで人気小説に無料で!お好きな本をダウンロードして、いつでもどこでも読みましょう!
アプリで無料で本を読む
コードをスキャンしてアプリで読む
DMCA.com Protection Status