พออ่านใจได้ ท่านอ๋องก็จู่โจมชายาแพทย์ทุกวัน ฉินเหย่สุดยอดผู้เชี่ยวชาญทั้งการแพทย์และพิษวิทยาแห่งศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ด ทะลุมิติไปเป็นพระชายาเฉินที่ทั้งอัปลักษณ์และไม่เป็นที่โปรดปราน ความปรารถนาเดียวชั่วชีวิตของนางก็คือ หย่าขาด! ชายารองประจบสอพลอ นางคอยยื้อแย่งความโปรดปรานในทุกทาง แต่ในใจ 'ฉันสะอิดสะเอียนนายแทบตายแล้ว หย่ากับฉันไวๆ เถอะ!' อ๋องเฉินป่วย ต่อหน้านางรักษาเขา แต่ในใจ 'ฉันจะวางยาพิษให้ท่อนล่างนายหมดสภาพไปเลย!' อ๋องเฉินถูกใส่ร้าย ต่อหน้านางร้อนใจ แต่ในใจ 'ฮ่องเต้กรุณามีราชโองการตัดหัวตาบ้านี่ทีเถอะ!' ทางอ๋องเฉินที่ได้ยินความใจของนางทั้งหมดต้องเดือดดาลคลุ้มคลั่ง ทั้งผลักทั้งดันนางเข้าผ้าห่ม กัดฟันพูด “ชายาที่รัก ควรเข้านอนได้แล้ว!” ครึ่งปีต่อมา นางมองท้องป่องกลมๆ ของตน ร่ำไห้อย่างหมดคำพูดว่า “ขอสวรรค์เปิดตา ให้ตาบ้านี่หมดแรงตายทีเถอะ!”
ดูเพิ่มเติมฉู่เชียนหลีมองนาง กล่าวด้วยรอยยิ้ม “ถ้าหากไม่ใช่เพราะเจ้า อ๋องหลีก็ไม่สามารถก่อเรื่องมากมายเช่นนี้ เจ้าจะให้ข้าจัดการเจ้าอย่างไรจึงจะดี?”ถ้าไม่มียาอายุวัฒนะ อ๋องหลีจบสิ้นไปนานแล้วและยาชนิดนี้ก็มาจากมือของอูหนูอูหนูยืนอยู่ตรงนั้นด้วยสีหน้าเย็นชา ยืดอกหลังตรง การแสดงออกบนใบหน้าไม่เย่อหยิ่งแต่ก็ไม่ถ่อมตน นางเป็นคนที่เคยตายมาแล้วหนึ่งครั้ง ย่อมไม่กลัว“จะฆ่าจะแกง เชิญตามสะดวก”นางเงยหน้า หลับตา“เจ้าเป็นผู้ช่วยที่ดีของอ๋องหลี ข้าฆ่าเจ้าทั้งเช่นนี้ จะไม่เสียดายแย่หรือ?” ฉู่เชียนหลีเดินไปที่ตรงหน้านาง “ข้าขอถามเจ้า เจ้าทำอะไรกับฝ่าบาท? เหตุใดจู่ๆ เขาก็เป็นอัมพาตเฉียบพลัน”อูหนูย่อมไม่อยากพูดไม่รอนางเอ่ยปาก ฉู่เชียนหลีเสริมอีกประโยค“ตายเป็นแค่ผลลัพธ์อย่างหนึ่ง แต่ขั้นตอนการตาย ควรตายอย่างไร ขึ้นอยู่กับข้า”“เจ้าสามารถปากแข็ง แต่ปากแข็งไม่สามารถเปลี่ยนแปลงผลลัพธ์ และยังจะเพิ่มความเจ็บปวด เจ้าเป็นคนฉลาด รู้ว่าควรเลือกอย่างไร”อูหนู “...”ข่มขู่อย่างโจ่งแจ้งถ้าหากนางยอมพูด มอบความตายที่ไม่เจ็บปวดให้นางถ้าหากนางไม่ยอมพูด คิดวิธีทรมานสารพัด เพื่อทำให้นางยอมพูด สุดท้ายก็ตายอยู่
กล่าวจบ เขาหมุนกาย นั่งขัดสมาธิลงบนกระดานไม้ที่เย็นเยียบ หันหลังให้นางฉู่เชียนหลีมองไม่เห็นสีหน้าของเขา และไม่แน่ใจคำพูดนี้ของหมายความว่าอย่างไร ยืนอยู่ตรงนั้นครู่หนึ่งก็จากไปแล้วออกจากคุกหลวง ข้างนอกท้องฟ้าสดใส อากาศสดชื่น“ส่งพระชายาอ๋องหลีไปอยู่ตำหนักเจาหยางชั่วคราว ปรนนิบัติให้ดี ห้ามละเลยเด็ดขาด” นางสั่งให้องครักษ์ลับคนหนึ่งคุ้มกันส่ง ในความเป็นจริงก็สั่งให้คนจับตาดูฉู่เจียวเจียวด้วยหลังไปแล้วท้องฟ้า ละอองฝนโปรยปรายลงมาเมื่อเงยหน้าก็ปะทะลม ละอองฝนตกใส่ใบหน้า หนาวจนรู้สึกเจ็บแสบเล็กน้อย ใบไม้เหี่ยวหลุดจากกิ่งก้าน ล่องลอยไปตามสายลมรู้ตัวอีกทีก็เข้าหน้าหนาวแล้วมองดูท้องฟ้าอึมครึมที่ถูกเมฆดำปกคลุม นึกถึงคำพูดของอ๋องหลี รู้สึกกดดันอย่างน่าประหลาด และไม่สบายใจเล็กน้อย เหมือนมีเรื่องบางอย่างกำลังจะเกิดขึ้นก้มหน้าอก รีบไปที่ห้องทรงอักษรเฟิงเย่เสวียนยุ่งมากฮ่องเต้ป่วย อ๋องหลีถูกจับ ราชสำนัก บ้านเมือง พรรคอ๋องหลี เรื่องราวต่างๆ มารวมกัน กดทับอยู่บนไหล่เฟิงเย่เสวียนทั้งหมด เขายุ่งจนตัวหมุน ไม่ได้หลับตาพักผ่อนมาสองวันแล้วฉู่เชียนหลีเดินเข้าห้องทรงอักษร “จับอูหนูได้หรือย
ฉู่เชียนหลีกวาดมองหมอหลวงที่อยู่โดยรอบแวบหนึ่ง ยกเท้าเดินออกไป “เจ้าตามข้ามา”เมื่อฉู่เจียวเจียวได้ยินก็ดีใจ รีบกอดลูกแน่น แล้วเดินตามออกไปอย่างไวคุกหลวงองครักษ์เงาเฝ้ายาม เมื่อพวกเขาเห็นผู้มา ก็คำนับอย่างนอบน้อม “พระชายา”ฉู่เชียนหลีพยักหน้า เดินเข้าไปในคุกหลวงหัวใจฉู่เจียวเจียวบีบรัดแน่น ฝีเท้าเร็วขึ้นเรื่อยๆ หลังจากเดินผ่านทางเดินยาวที่มืดสลัว มาถึงห้องขังที่อยู่ห้องท้ายสุด เมื่อเห็นผู้ชายที่ถูกขังอยู่ข้างใน รู้สึกเจ็บหน้าอกฉับพลัน“ท่านโหว!”เดินปรี่เข้าไป เอาข้างหนึ่งอุ้มลูก มืออีกข้างจับราวลูกกรงอย่างร้อนใจ“ท่านอ๋อง ท่านไม่เป็นอะไรกระมัง!”ไม่เจอกันแค่คืนเดียว สภาพของเฟิงเจิ้งหลีโทรมมากสภาพแวดล้อมในห้องขังเปียกชื้นมืดสลัว ตรงที่มุมมีแมลงสาบกับหนูเกาะอยู่ ชุดเพ้าสีขาวเปื้อนไปด้วยสิ่งสกปรกและความโชคร้าย ตรงคางเริ่มมีตอนหนวดปรากฏให้เห็น สภาพดูสะบักสะบอมมากผ่านไปครู่หนึ่งเฟิงเจิ้งหลีค่อยๆ เงยหน้า เมื่อเห็นเฟิงเจิ้งจื่อเยี่ย มีประกายที่ปกปิดสายหนึ่งแลบผ่าน“ถ้าไม่เป็นอะไร…”เขาลุกขึ้นยืน เสียงแหบไร้เรี่ยวแรงฉู่เจียวเจียวตาแดงทันที “คุกหลวงสกปรกเช่นนี้ เหม็นเช่นน
หมอหลวงคนหนึ่งกล่าวทันที “พระชายาอ๋องเฉิน ลูกสามารถมีใหม่ แต่ถ้าตายแล้ว ก็ไม่มีอะไรแล้ว มีเพียงเอาเด็กออก แล้วใช้สูตรยานี่ ผู้ป่วยจึงจะมีโอกาสรอด”หมอหญิงเว่ยพยักหน้า “นี่เป็นวิธีเดียวเจ้าค่ะ”เด็กกับผู้ใหญ่ เลือกได้แค่คนเดียวฉู่เชียนหลีขมวดคิ้วแน่น สีหน้ากังวลนางไม่มีสิทธิ์ขัดความปรารถนาของอวิ๋นอิง ถอดคุณสมบัติการเป็นแม่ของนางออก ถ้าหากฝืนเอาเด็กคนนี้ออก อวิ๋นอิงต้องเกลียดนางทั้งชีวิตแน่นอนอีกทางร่างกายของอวิ๋นอิงอ่อนแอมาก เกรงว่าไม่สามารถทนต่อการแท้งบุตรไม่ไหวนางถอนใจหนักๆ “ข้าจะเก็บไว้ทั้งสองคน”“ฮะ?!”ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ตะลึงแล้วหรือพระชายาอ๋องเฉินเลอะเลือนแล้ว?“พระชายาอ๋องเฉิน คนท้องห้ามกินยาส่งเดช และถ้าไม่กินยา จะรักษาโรคอวัยวะล้มเหลวได้อย่างไร? ใต้ฟ้าไม่มีวิธีทำสองอย่างให้สมบูรณ์แบบพร้อมกัน”ฉู่เชียนหลีรู้ว่าเป็นไปไม่ได้ แต่อย่างไรก็ต้องพยายามสักตั้ง รอวันที่ผลลัพธ์ออกมา จึงจะไม่รู้สึกผิดนางกวาดมองตำราที่เก็บสะสมในห้องแวบหนึ่ง ชั้นวางที่สูงตระหง่านสองกว่าแถว มีตำราที่หลากหลายและนับไม่ถ้วนวางเต็มไปหมด“ตำราแพทย์ทั้งหมดล้วนอยู่ที่นี่หรือ?”หมอหญิงเว่ยพยัก
“ไม่เป็นอะไรเจ้าค่ะ พระชายา ข้าชอบเว่ยซีกับลู่ฉิน พวกนางเป็นเด็กดีมาก เมื่อคืนไม่ร้องไห้เลย” อวิ๋นอิงเม้มปากยิ้มเล็กน้อยฉู่เชียนหลีจูงมือของนาง “ทุกคนลำบากมาทั้งคืนแล้ว ไปพักผ่อนเถอะ”“จิ่งอี้ เสียวอู่ พวกเจ้าอุ้มเด็กไปที่ตำหนักผานหลง ฝ่าบาทอยู่ที่นั่น มีคนช่วยดูแลด้วยกัน”หลังมอบหมายงานเสร็จ นางกับอวิ๋นอิงก็ไปแล้วกระซิบไปตลอดทาง“ยาที่ข้าจ่ายให้เจ้า กินทุกวันหรือไม่?” ขณะเดียวกับที่จูงมืออวิ๋นอิง ก็จับชีพจรของนางด้วยสภาพร่างกายของนาง…ไม่สู้ดีนักกินยาแล้ว แต่ไม่เห็นผลเพราะกำลังตั้งครรภ์ ฉู่เชียนหลีไม่กล้าใช้ยาฤทธิ์แรง ส่วนยาฤทธิ์เบาสำหรับอวิ๋นอิงนั้น มีผลไม่มาก ซึ่งเทียบเท่ากับไม่มีเลย อวิ๋นอิงพยักหน้า “ทำให้พระชายาเป็นห่วงแล้ว ร่างกายของข้า ข้ารู้ดีเจ้าค่ะ ดีก็ดี ไม่ดีก็ช่าง ข้าทำใจยอมรับผลแล้ว”ทัศนคติของนางดีมาก มองโลกในแง่ดีมากพลางลูบท้อง แววตาเผยให้เห็นความหวัง“ขอแค่เด็กคนนี้สามารถเกิดมาอย่างปลอดภัย ทุกอย่างก็คุ้มค่าแล้ว”ชั่วขณะ ในใจฉู่เชียนหลีรู้สึกไม่สบอารมณ์หลังจากมีลูก นางสามารถเข้าใจความรักของแม่ของอวิ๋นอิง แต่นางก็ปล่อยมืออวิ๋นอิงไม่ลง ถ้าหากต้องเลื
“จริงๆ แล้ว ไม่มีใครสามารถราบรื่นทั้งชีวิต ชีวิตใครบ้างไม่เคยมีปัญหา? ร้องไห้ก็ดี หัวเราะก็ดี ล้วนต้องมองไปข้างหน้า”“อย่าจมอยู่กับอดีตที่ผ่านไปแล้ว ถ้าหากมักจะใช้ชีวิตอยู่ในเงาของอดีต เช่นนั้นชีวิตนี้เจ้าก็ไม่มีวันหลุดพ้นจากมัน”ฉู่เชียนหลีปลอบใจเขาเด็กที่อยู่ในท้องของกู้ชิงชิง มันหมายถึงการเริ่มต้นใหม่ไม่ใช่หรือ?หลิงเชียนอี้สะอื้นเบาๆ เงยใบหน้าที่เปื้อนน้ำตาขึ้นมา“น้าสะใภ้ ตกลงอวิ๋นอิงกับจิ่งอี้มันอย่างไรกันแน่? จิ่งอี้จะดีกับนางจริงๆ หรือ? เหตุใดข้ารู้สึกว่าดูไม่ค่อยเหมือน?”ฉู่เชียนหลีชะงักเล็กน้อยเรื่องนี้นางก็ถูกปิดบังอยู่นานมากเช่นกัน เพิ่งจะรู้เมื่อไม่กี่วันก่อน นางไม่สามารถอธิบายความพัวพันระหว่างอวิ๋นอิงกับจิ่งอี้“ข้าเชื่อในตัวจิ่งอี้ เขาไม่มีทางจงใจทำร้ายผู้อื่นโดยเจตนา”“แต่อวิ๋นอิงได้รับบาดเจ็บ…”ฉู่เชียนหลีเม้มปากเพราะเยว่เอ๋อร์ ส่งผลให้ระหว่างพวกเขาเกิดการเข้าใจผิด ตอนนี้ความขัดแย้งคลี่คลายแล้ว จิ่งอี้ตระหนักถึงความผิดพลาดของตัวเอง เชื่อว่าต่อไปจะดีกับอวิ๋นอิงแน่นอนปัญหาที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือ หัวใจของอวิ๋นอิงปิดตายแล้ว ไม่มีทางเปิดออกง่ายๆเกรงว่า
ในที่สุดทุกคนก็สามารถออกจากวังแล้ว สีหน้าของแต่ละคน…ยากจะพูดให้เข้าใจในประโยคเดียวมีทั้งโล่งอก มีทั้งร้องไห้โดยไม่มีน้ำตา มีทั้งรู้สึกโชคดีที่รอดมาได้ ต่างๆ นานาหลังจากนั่งมานานทั้งคืน ร่างกายของทุกคนแข็งหมดแล้ว ตอนที่ลุกขึ้นยืน บางคนก็ตัวแข็งจนเดินไม่ไหว บางคนก็ล้มลงพื้นด้วยอาการเหน็บชา และยังมีบางคนเป็นตะคริวที่ขา ต้องใช้คนสองคนช่วยพยุงภาพภาพนี้ นับว่าเป็นความสุขอีกแบบหนึ่งฉู่เชียนหลีเห็นแล้วเม้มปากกลั้นยิ้ม เดินไปรอเฟิงเย่เสวียนที่ข้างนอกแล้วผ่านไปครู่หนึ่งเฟิงเย่เสวียนมาแล้ว“เจ้าก็เหนื่อยมาทั้งคืนแล้ว ไปนอนพักสักครู่?” เขากล่าวอย่างห่วงใยฉู่เชียนหลีกล่าว “เจ้ารู้สุขภาพของฝ่าบาทดี ไม่รู้ว่าอ๋องหลีทำอะไรลงไป เขาอาจจะไม่สามารถฟื้นตัวในครึ่งปีหรือหนึ่งปี…เหตุใดเจ้าไม่ถือโอกาสนี้ดูแลราชสำนักล่ะ?”แม้เป็นตัวแทน แต่ความหมายก็ใกล้เคียงกันแต่ก็นะ ด้วยสถานการณ์ในตอนนี้ เก้าในสิบราชบัลลังก์เป็นของเขาแล้ว จะช้าหรือเร็วมันก็เหมือนกัน“ในขุนนางกลุ่มนั้น เกรงว่ายังมีคนของอ๋องหลีไม่น้อย ถ้าหากข้าฉวยโอกาสตอนที่ฝ่าบาทไม่มีสติ แทรกแซงการบริหารแผ่นดินอย่างโจ่งแจ้ง อาจจะถูกคนเจตนาร้
หมอหลวงของสำนักหมอหลวงมาถึงอย่างรวดเร็ว หลังจากฉู่เชียนหลีจัดยาสมุนไพรให้ฮ่องเต้ดื่ม ชีพจรจึงจะคงที่ แต่ยังคงหมดสติอยู่จนถึงตอนนี้ยามห้าแสงแรกของวันปรากฏขึ้นที่ขอบฟ้า แสงรุ่งอรุณที่ริบหรี่ จะว่าสว่างก็ไม่สว่าง จะว่ามืดก็ไม่มืด จากทางตำหนัก แผ่ขยายไปจนถึงสุดขอบฟ้า มีความรู้สึกที่พูดไม่ถูกอธิบายไม่ได้สายหนึ่งอบอวลอยู่ฉู่เชียนหลียืนอยู่บนบันไดที่สูงสูงตระหง่าน มองดูแสงยามเช้าบนท้องฟ้าค่ำคืนนี้ เกิดเรื่องมากมาย แต่แสงยามเช้านี้ยังคงเป็นเหมือนเช่นเดิม สว่าง มีพลัง เปี่ยมล้นไปด้วยความหวังฝ่ามือใหญ่ข้างหนึ่งโอบนางจากข้างหลัง“สวยมาก”เฟิงเย่เสวียนเงยหน้ามองแล้วกล่าว“ท้องฟ้าตอนที่จะสว่างไม่สว่าง สวยที่สุด”ฉู่เชียนหลีตอบกลับด้วยรอยยิ้ม“มนุษย์ตอนที่อยู่ใกล้แต่ไม่กล้า มีเสน่ห์ที่สุด”เขาเลิกคิ้ว หมุนร่างกายนางกลับมา ประทับจูบลงบนกลีบริมฝีปากนาง เขากัดริมฝีปากล่างของนางไว้ กล่าวด้วยเสียงที่ทุ้มต่ำ“พูดเหลวไหล”“ไม่ว่าเวลาใด เจ้าก็ล้วนมีเสน่ห์ที่สุด”ฉู่เชียนหลีหลุดหัวเราะ ปลายนิ้วจิ้มหน้าอกของเขา ลูกก็มีแล้ว ยังใช้คำพูดเจ้าชู้เช่นนี้อีก ไม่ใช่คู่ใหม่ปลามันอะไรแล้ว“ฟ้าใกล้
ใบหน้าฮ่องเต้กระตุกจนเบี้ยวแล้ว มีน้ำลายไหลออกจากมุมปาก มือเท้าสั่นจนเกร็ง แต่เขายังมีสติอยู่เมื่อเห็นอ๋องเฉินมา เขาดีใจแต่ไม่สามารถสื่อออกมา ทำได้เพียงส่งเสียงที่คลุมเครือออกมา“เออ…เออ…”เฟิงเย่เสวียนเห็นแล้ว ปวดที่ระหว่างคิ้วเล็กน้อยเสด็จพ่อลำเอียงรักเขาตั้งแต่เด็ก เอาใจเขา ตามใจเขา ในสายตาของเขา เสด็จพ่อมีภาพลักษณ์ที่สูงส่งผ่าเผย สุขุมและน่าเกรงขามมาโดยตลอด จู่ๆ ก็กลายเป็นสภาพเช่นนี้ เขารู้สึกไม่สบอารมณ์อย่างบอกไม่ถูก“รักษาหายได้ ไม่ต้องห่วง เป็นแค่ปัญหาของเวลา จับตัวอูหนูให้ได้ก่อน ถามให้รู้ว่าพวกเขาว่าทำอะไรกับฝ่าบาท แล้วค่อยจ่ายยาตามอาการ”เฟิงเย่เสวียนเม้มริมฝีปากบาง ฝืนกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ข้าเชื่อในทักษะการแพทย์ของเจ้า”เวลานี้เอง ฮ่องเต้มองเห็นฉู่เจียวเจียวที่ยืนอยู่ตรงประตู และเฟิงเจิ้งจื่อเยี่ยที่อยู่ในอ้อมแขนของนาง เขาเบิกตากว้างทันที“เออ!”อารมณ์ของเขาพลุ่งพล่านกะทันหัน ร่างกายก็สั่นอย่างแรง พยายามอยากลุกขึ้นยืน กลับล้มลงพื้นอย่างชักกระตุก“เสด็จพ่อ!”“ฝ่าบาท!”ฉู่เชียนหลีกับเฟิงเย่เสวียนช่วยกันประคองเขาขึ้นมา“เออ!”ฮ่องเต้พยายามชำเลืองมองแม่ลูกที่อย
ณ จวนอ๋องเฉิน แคว้นตงหลิง “สารเลว!” “โอ๊ย!”เสียงตวาดแผดขึ้น ร่างผอมบางร่างหนึ่งถูกถีบจนกระเด็นเข้าชนกับเสาที่ผนัง ก่อนกระแทกกับพื้นอย่างแรง ปิ่นเงินร่วงลง เส้นผมสีดำกระจายลงบนพื้นเจ็บ...เจ็บจัง...เธอเพิ่งเสร็จสิ้นการผ่าตัดใหญ่ที่นานถึงสามสิบแปดชั่วโมงโดยไม่หยุดพัก พอออกมาจากห้องผ่าตัดก็หมดสติล้มลงกับพื้น แต่ทำไมตัวเธอถึงได้เจ็บขนาดนี้นะ?จากนั้น ความทรงจำที่ไม่คุ้นเคยกลุ่มหนึ่งก็เบียดเข้ามาในหัวสมองและฉายให้เห็นอย่างรวดเร็ว ฉู่เชียนหลี คุณหนูสี่ผู้ไม่เป็นที่ชื่นชอบของจวนอัครมหาเสนาบดีฉู่ ใบหน้าอัปลักษณ์ไร้ซึ่งความงาม นางแต่งเข้าจวนเฉินอ๋องเมื่อสามเดือนก่อน ไม่เคยได้รับความชื่นและต้องอยู่ลำพังในห้องว่างเปล่าเรื่อยมาวันนี้อ๋องเฉินรับอนุภรรยา นางถูกเรียกให้มาปรนนิบัติอนุภรรยา แต่เพราะพลั้งเผลอปัดน้ำชาหกไปลวกถูกอีกฝ่าย จึงถูกอ๋องเฉินถีบจนตายในคราวเดียว!เป็นผู้ชายที่โหดจริงๆ!แต่ในเมื่อมาแล้ว ก็ทำใจอยู่อย่างสงบเสียฉู่เชียนหลีรับเรื่องราวต่างๆ เข้ามาในหัวอย่างรวดเร็ว ฝืนทนความเจ็บปวด เงยหน้าขึ้นมาห้องหอที่ประดับตกแต่งด้วยสีแดงแห่งงานมงคล ชายหญิงในชุดแต่งงานคู่หนึ่งอย...
ความคิดเห็น