แชร์

บทที่ 10

เฟิงเย่เสวียนได้ยินคำพูดนี้ การเคลื่อนไหวหยุดชะงักในพริบตา เขาปล่อยฉู่เชียนหลีและตามสาวใช้ออกไปอย่างเร่งรีบ

ก่อนออกไป สาวใช้หันมาจ้องเขม็งฉู่เชียนหลีแวบหนึ่ง

‘ผู้หญิงอัปลักษณ์คนนี้ไม่เคยได้รับความโปรดปรานหรืออย่างไร? ตะโกนเสียเสียงดังเช่นนั้น โชคดีที่หูนางดีจึงได้ยิน ไม่เช่นนั้น ความโปรดปรานเพียงผู้เดียวที่เป็นของพระชายารองก็จะถูกนางแย่งไปแล้ว’

ฉู่เชียนหลีหล่นลงพื้น ก้มหัวใจที่เต้นตุบๆ ของตนเองไว้ อีกแค่ห้าก้าวก็จะถึงเตียงแล้ว…

ตกใจแทบตาย

นางตกใจมากจริงๆ!

นางใช้มือและเท้าดันร่างกายลุกขึ้น วิ่งกลับเรือนโทรมๆ อย่างเร็ว  นางหยิบผ้าห่อของผืนหนึ่งออกจากตู้ กางไว้บนโต๊ะ นำแจกันถ้วยชา ปิ่นปักผมเครื่องประดับใส่เข้าไปทั้งหมด

“คุณหนู เหตุใดจึงเพิ่งกลับมาเจ้าคะ ท่านหิว…”

นอกประตู เยว่เอ๋อร์วิ่งเข้ามา เมื่อเห็นท่าทางที่กำลังเก็บของของคุณหนู ก็ตะลึงงันครู่หนึ่ง

นี่คือ…

“ข้าจะไปจากสถานที่นี่! ข้าจะไปจากจวนอ๋อง!” ฉู่เชียนหลีพลางห่อของ พลางกัดฟันกล่าว “ข้าไม่อยากอยู่สถานที่บ้าบอแห่งนี้แม้แต่ครู่เดียว”

เยว่เอ๋อร์ตกใจมาก “ไม่ได้เจ้านะคุณหนู!”

ฮ่องเต้เป็นคนพระราชทานการแต่งงานครั้งนี้ หากคุณหนูตัดสินใจไปโดยพลการ จวนอัครมหาเสนาบดีฉู่จะพลอยเดือดร้อนไปด้วย

“ท่านรักท่านอ๋องเฉินที่สุดไม่ใช่หรือเจ้าคะ?”

ฉู่เชียนหลียิ้มอย่างเย็นชา “รักหรือ? รักเขาสามวันด่าข้าที ห้าวันตีข้าที แค่มีเงิน ชีวิตแบบไหนที่อยู่ไม่ได้ ชีวิตแบบไหนที่เพลิดเพลินไม่ได้”

นางพลิกข้อมือ จิตนึกคิด หยิบเงินหยวนออกจากกำไลเฉียนคุนหนึ่งปึกใหญ่

“ก็แค่เงินไม่ใช่หรอก” นางโยนเงินเป็นปึก ลงบนโต๊ะราวกับขนอิฐ “ข้าขาดแคลนทุกอย่าง แต่สิ่งที่ไม่ขาดแคลนมากที่สุดก็คือเงิน”

เงินเป็นปึกๆ กระแทกโต๊ะจนเป็นรู

เลิกแขนเสื้อขึ้น “เยว่เอ๋อร์ เจ้ารีบไปเก็บของของเจ้า ข้าจะออกไปดูเส้นทางก่อน พวกเราไปกันคืนนี้เลย”

“เห้อ คุณหนู! ไม่ได้นะคุณหนู…”

เยว่เอ๋อร์เดินออกไปอย่างเร่งรีบ มองดูร่างเงาของคุณหนูหายไปจากประตูเรือน ร้อนใจจนตาแดงแล้ว

ช่วงนี้คุณหนูเป็นอะไรไปน่ะ

เมื่อก่อนเงียบ เก็บตัว มีเหตุผล ปัจจุบันหยาบคาย ป่าเถื่อน ด่าไปทั่ว หน้ากับหลังเป็นคนละคนเลย คุณหนูคงจะไม่ใช่ถูกผีเข้ากระมัง

หลังจากนั้นสองเค่อ[footnoteRef:1] [1: หนึ่งเค่อ เท่ากับ 15 นาที]

ฉู่เชียนหลีรีบเดินวนในจวนอ๋องหนึ่งรอบ จนหาตำแหน่งของประตูหลังเจอ เก็บตะกร้าแตกสองใบไว้รองเท้าที่นั่น รอจนกระทั่งตอนที่นางกลับมาก็เห็น…

เงินของนางถูกเยว่เอ๋อร์ยัดใส่เตา เริ่มเผาทีละปึกใหญ่

“โอ้ไม่นะ!”

“เจ้ากำลังทำอะไร!”

เสียงที่ดังกะทันหันทำให้เยว่เอ๋อร์ตกใจจนมือสั่น เงินปึกสุดท้ายก็ตกลงไปในกองไฟ “คุณหนู ข้ากำลังจุดไฟทำอาหารค่ำให้ท่าน เมื่อก่อนท่านมักจะกินตอนกลางคืน”

สวรรค์!

ฉู่เชียนหลีพุ่งเข้าไปอย่างเร็ว มองดูธนบัตรถูกเผามอดกลายเป็นเถ้าในกองไฟต่อหน้าต่อตา โดยเฉพาะน้ำตายิ่งไหลออกมา

เงินของข้า!

เงินจ๋า!

“ทรัพย์สินล้านล้านของข้า!”

เยว่เอ๋อร์เกาศีรษะอย่างไม่เข้าใจ “คุณหนู บ่าวเก็บตั๋วเงินไว้ในลิ้นชักอย่างดี ไม่ได้แตะต้องเลย แล้วก็ของพวกนี้…เป็นกระดาษที่ใช้จุดไฟไม่ใช่หรือ?”

“...”

ลืมไปเลย เงินตราโบราณกับปัจจุบันมันต่างกัน

แต่นั่นก็เป็นเงินที่นางหามาด้วยความยากลำบาก ยังไม่ทันได้ใช้เลย ยังไม่ทันได้เพลิดเพลินกับชีวิตเศรษฐินีเลย ก็มาถึงสถานที่บ้าบอแห่งนี้แล้ว

ทรัพย์สินล้านล้านกลายเป็นเถ้าถ่าน

ฉู่เชียนหลีคว้าชายเสื้อที่อกอย่างปวดใจ “เหตุใดชีวิตข้าถึงได้ขมขื่นเช่นนี้…”

ตอนมีเงินไม่มีชีวิต

ตอนมีชีวิตไม่มีเงิน

“สวรรค์ เมื่อชาติที่แล้วข้าช่วยคนเจ็บรักษาคนใกล้ตาย ลำบากตรากตรำเพื่อวงการแพทย์ เหตุใดท่านต้องลงโทษข้าเช่นนี้!”

เยว่เอ๋อร์ปวดใจจนเบ้าตาแดงเล็กน้อย กอดคุณหนูของตนเอง กล่าวปลอบประโลมด้วยน้ำเสียงแหบ “คุณหนู วันแห่งความขมขื่นจะล่วงเลยไป หลังเมฆครึ้มคือสายรุ้ง บ่าวจะอดทนไปกับท่านเจ้าค่ะ”

ฉู่เชียนหลีมองดูนางอย่างสิ้นหวัง “ไม่ เจ้าไม่เข้าใจ…”

อยู่ในต่างโลก ไร้ที่พึ่งพาอาศัย ไม่มีใครสามารถเข้าใจอารมณ์ของนางในเวลานี้

นางถอนหายใจอย่างไร้เรี่ยวแรง เพื่อระบายความขุ่นเคืองใจในอก  นางหยิบปี่ซั่วน่า[footnoteRef:2]ไปยืนบนหลังคาทั้งในคืนนั้น ก็เริ่มเป่าบทเพลงสายลมร้าวรานแห่งบูรพา [2: เครื่องดนตรีชนิดเป่าของจีนรูปร่างคล้ายปี่มอญเสียงคล้ายแตร]
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
Kitti Sak
แล้วจะควักเงินออกมาทำซากอะไร สุดท้ายสาวใช้เอามาเผาเล่น โง่เกิน
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status