แชร์

บทที่ 10

ผู้เขียน: สกุลหยางมีบุตรสาว
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-02-21 16:53:47
เฟิงเย่เสวียนได้ยินคำพูดนี้ การเคลื่อนไหวหยุดชะงักในพริบตา เขาปล่อยฉู่เชียนหลีและตามสาวใช้ออกไปอย่างเร่งรีบ

ก่อนออกไป สาวใช้หันมาจ้องเขม็งฉู่เชียนหลีแวบหนึ่ง

‘ผู้หญิงอัปลักษณ์คนนี้ไม่เคยได้รับความโปรดปรานหรืออย่างไร? ตะโกนเสียเสียงดังเช่นนั้น โชคดีที่หูนางดีจึงได้ยิน ไม่เช่นนั้น ความโปรดปรานเพียงผู้เดียวที่เป็นของพระชายารองก็จะถูกนางแย่งไปแล้ว’

ฉู่เชียนหลีหล่นลงพื้น ก้มหัวใจที่เต้นตุบๆ ของตนเองไว้ อีกแค่ห้าก้าวก็จะถึงเตียงแล้ว…

ตกใจแทบตาย

นางตกใจมากจริงๆ!

นางใช้มือและเท้าดันร่างกายลุกขึ้น วิ่งกลับเรือนโทรมๆ อย่างเร็ว  นางหยิบผ้าห่อของผืนหนึ่งออกจากตู้ กางไว้บนโต๊ะ นำแจกันถ้วยชา ปิ่นปักผมเครื่องประดับใส่เข้าไปทั้งหมด

“คุณหนู เหตุใดจึงเพิ่งกลับมาเจ้าคะ ท่านหิว…”

นอกประตู เยว่เอ๋อร์วิ่งเข้ามา เมื่อเห็นท่าทางที่กำลังเก็บของของคุณหนู ก็ตะลึงงันครู่หนึ่ง

นี่คือ…

“ข้าจะไปจากสถานที่นี่! ข้าจะไปจากจวนอ๋อง!” ฉู่เชียนหลีพลางห่อของ พลางกัดฟันกล่าว “ข้าไม่อยากอยู่สถานที่บ้าบอแห่งนี้แม้แต่ครู่เดียว”

เยว่เอ๋อร์ตกใจมาก “ไม่ได้เจ้านะคุณหนู!”

ฮ่องเต้เป็นคนพระราชทานการแต่งงานครั้งนี้ หากคุณหนูตัดสินใจไปโดยพลการ จวนอัครมหาเสนาบดีฉู่จะพลอยเดือดร้อนไปด้วย

“ท่านรักท่านอ๋องเฉินที่สุดไม่ใช่หรือเจ้าคะ?”

ฉู่เชียนหลียิ้มอย่างเย็นชา “รักหรือ? รักเขาสามวันด่าข้าที ห้าวันตีข้าที แค่มีเงิน ชีวิตแบบไหนที่อยู่ไม่ได้ ชีวิตแบบไหนที่เพลิดเพลินไม่ได้”

นางพลิกข้อมือ จิตนึกคิด หยิบเงินหยวนออกจากกำไลเฉียนคุนหนึ่งปึกใหญ่

“ก็แค่เงินไม่ใช่หรอก” นางโยนเงินเป็นปึก ลงบนโต๊ะราวกับขนอิฐ “ข้าขาดแคลนทุกอย่าง แต่สิ่งที่ไม่ขาดแคลนมากที่สุดก็คือเงิน”

เงินเป็นปึกๆ กระแทกโต๊ะจนเป็นรู

เลิกแขนเสื้อขึ้น “เยว่เอ๋อร์ เจ้ารีบไปเก็บของของเจ้า ข้าจะออกไปดูเส้นทางก่อน พวกเราไปกันคืนนี้เลย”

“เห้อ คุณหนู! ไม่ได้นะคุณหนู…”

เยว่เอ๋อร์เดินออกไปอย่างเร่งรีบ มองดูร่างเงาของคุณหนูหายไปจากประตูเรือน ร้อนใจจนตาแดงแล้ว

ช่วงนี้คุณหนูเป็นอะไรไปน่ะ

เมื่อก่อนเงียบ เก็บตัว มีเหตุผล ปัจจุบันหยาบคาย ป่าเถื่อน ด่าไปทั่ว หน้ากับหลังเป็นคนละคนเลย คุณหนูคงจะไม่ใช่ถูกผีเข้ากระมัง

หลังจากนั้นสองเค่อ[footnoteRef:1] [1: หนึ่งเค่อ เท่ากับ 15 นาที]

ฉู่เชียนหลีรีบเดินวนในจวนอ๋องหนึ่งรอบ จนหาตำแหน่งของประตูหลังเจอ เก็บตะกร้าแตกสองใบไว้รองเท้าที่นั่น รอจนกระทั่งตอนที่นางกลับมาก็เห็น…

เงินของนางถูกเยว่เอ๋อร์ยัดใส่เตา เริ่มเผาทีละปึกใหญ่

“โอ้ไม่นะ!”

“เจ้ากำลังทำอะไร!”

เสียงที่ดังกะทันหันทำให้เยว่เอ๋อร์ตกใจจนมือสั่น เงินปึกสุดท้ายก็ตกลงไปในกองไฟ “คุณหนู ข้ากำลังจุดไฟทำอาหารค่ำให้ท่าน เมื่อก่อนท่านมักจะกินตอนกลางคืน”

สวรรค์!

ฉู่เชียนหลีพุ่งเข้าไปอย่างเร็ว มองดูธนบัตรถูกเผามอดกลายเป็นเถ้าในกองไฟต่อหน้าต่อตา โดยเฉพาะน้ำตายิ่งไหลออกมา

เงินของข้า!

เงินจ๋า!

“ทรัพย์สินล้านล้านของข้า!”

เยว่เอ๋อร์เกาศีรษะอย่างไม่เข้าใจ “คุณหนู บ่าวเก็บตั๋วเงินไว้ในลิ้นชักอย่างดี ไม่ได้แตะต้องเลย แล้วก็ของพวกนี้…เป็นกระดาษที่ใช้จุดไฟไม่ใช่หรือ?”

“...”

ลืมไปเลย เงินตราโบราณกับปัจจุบันมันต่างกัน

แต่นั่นก็เป็นเงินที่นางหามาด้วยความยากลำบาก ยังไม่ทันได้ใช้เลย ยังไม่ทันได้เพลิดเพลินกับชีวิตเศรษฐินีเลย ก็มาถึงสถานที่บ้าบอแห่งนี้แล้ว

ทรัพย์สินล้านล้านกลายเป็นเถ้าถ่าน

ฉู่เชียนหลีคว้าชายเสื้อที่อกอย่างปวดใจ “เหตุใดชีวิตข้าถึงได้ขมขื่นเช่นนี้…”

ตอนมีเงินไม่มีชีวิต

ตอนมีชีวิตไม่มีเงิน

“สวรรค์ เมื่อชาติที่แล้วข้าช่วยคนเจ็บรักษาคนใกล้ตาย ลำบากตรากตรำเพื่อวงการแพทย์ เหตุใดท่านต้องลงโทษข้าเช่นนี้!”

เยว่เอ๋อร์ปวดใจจนเบ้าตาแดงเล็กน้อย กอดคุณหนูของตนเอง กล่าวปลอบประโลมด้วยน้ำเสียงแหบ “คุณหนู วันแห่งความขมขื่นจะล่วงเลยไป หลังเมฆครึ้มคือสายรุ้ง บ่าวจะอดทนไปกับท่านเจ้าค่ะ”

ฉู่เชียนหลีมองดูนางอย่างสิ้นหวัง “ไม่ เจ้าไม่เข้าใจ…”

อยู่ในต่างโลก ไร้ที่พึ่งพาอาศัย ไม่มีใครสามารถเข้าใจอารมณ์ของนางในเวลานี้

นางถอนหายใจอย่างไร้เรี่ยวแรง เพื่อระบายความขุ่นเคืองใจในอก  นางหยิบปี่ซั่วน่า[footnoteRef:2]ไปยืนบนหลังคาทั้งในคืนนั้น ก็เริ่มเป่าบทเพลงสายลมร้าวรานแห่งบูรพา [2: เครื่องดนตรีชนิดเป่าของจีนรูปร่างคล้ายปี่มอญเสียงคล้ายแตร]
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
Kitti Sak
แล้วจะควักเงินออกมาทำซากอะไร สุดท้ายสาวใช้เอามาเผาเล่น โง่เกิน
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 11

    เรือนหมิงเยว่ภายในห้องนอนที่ตกแต่งอย่างวิจิตรอ่อนโยน ร่างแสนอ่อนเพลียของเซียวจือฮว่านอนอยู่บนเตียง ใบหน้าเล็กๆ ขนาดเท่าฝ่ามือซีดขาวไปสามส่วน ไม่มีสีเลือด ลมหายใจค่อนข้างกระชั้น“เฉิน ทำให้ท่านต้อง... แค่ก... เป็นห่วง... รบกวนท่านทำงาน... แค่ก...”นางรู้จักฉอเลาะบุรุษท่าทางแสนทรมานเพราะขืนสะกดอาการไอเอาไว้แต่ยังคงคำนึงถึงบุรุษเช่นนั้นทำเอาคนสงสารยิ่งเฟิงเย่เสวียนนั่งอยู่ข้างเตียงกุมมือเล็กๆ ที่ค่อนข้างเย็นของนางเอาไว้ กล่าวเสียงหนักว่า “จือฮว่า ข้าจะต้องหายาดีมารักษาเจ้าให้ได้ ตลอดหลายปีมานี้ เป็นเพราะข้า เจ้าจึงต้องทุกข์ทรมาน”“แค่ก...ไม่...” นางส่ายหน้าอย่างอ่อนแรงพลางจับจ้องดวงตาที่เปี่ยมด้วยความรักลึกล้ำไม่ทรยศของเขา“ปีนั้น หากฮว่าเอ๋อร์มิได้ช่วยท่านอ๋องเอาไว้ ยามนี้ก็จะไม่ได้มีวาสนาได้แต่งงานกับท่านอ๋อง... แค่ก กลับเป็นฮว่าเอ๋อร์ที่ร่างกายอ่อนแอ ทำให้ท่านอ๋องเป็นห่วงเปล่าๆ ให้ท่านอ๋องพลอยต้องลำบาก...แค่ก...”เพียงแค่ไม่กี่ประโยค นางก็ทั้งหอบทั้งไอไม่หยุด ท่าทางเช่นนั้น ดั่งต้นหยางหลิวโบกไหวท่ามกลางสายลมเฟิงเย่เสวียนเอื้อมมือไปช่วยสอดชายผ้าห่มเข้าใต้ตัวนางเซียวจือฮว่า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-02-21
  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 12

    วันรุ่งขึ้นฉู่เชียนหลีนอนอยู่บนเตียงยังคงคำนึงถึงเรื่องที่ตนเองต้องสูญทรัพย์สินล้านล้านล้านไปในคืนเดียว นางกอดผ้าห่ม ยังคงอยู่ในอารมณ์เศร้าสลดเนิ่นนานมิอาจกลับมาเป็นตัวของตัวเองได้“เฮ้อ!”พอรุ่งเช้า เยว่เอ๋อร์ต้องวุ่นหน้าวุ่นหลัง ทำความสะอาดห้องหับ พับเสื้อผ้า เช็ดโต๊ะ ถอนหญ้าในลานบ้าน เปิดหน้าต่างระบายอากาศ และยังต้องยกกระถางดอกไม้ออกไปตากแดดด้วย ซึ่งฉู่เชียนหลีถอนหายใจมาเก้าสิบแปดครั้งแล้ว“เฮ้อ...”ทรัพย์สินล้านล้านของนางเยว่เอ๋อร์ยกอ่างน้ำเข้ามา “คุณหนูเจ้าคะ ตะวันส่องบั้นท้ายแล้ว ท่านยังไม่ตื่นอีกหรือเจ้าคะ?”ฉู่เชียนหลีช้อนดวงตาแดงก่ำทั้งคู่ขึ้น ดวงตาที่มีเต็มไปด้วยเส้นเลือดฝอยสีแดงจ้องเยว่เอ๋อร์ด้วยความคับแค้นใจแสนล้ำลึกถ้าไม่ใช่เพราะนังเด็กนี่รับใช้นางอย่างจงรักภักดี ไม่ละไม่ทิ้งมาตั้งแต่เล็ก จะต้องหักคอแสนชั่วช้าของนางเป็นแน่...“เฮ้อ!”นางพลิกตัว นอนหลับต่อไปด้วยความห่อเหี่ยวใจไม่อยากลุกจากเตียง ข้าวปลาก็ไม่อยากกิน เงินของฉัน...เยว่เอ๋อร์เรียกต่ออีกหลายครั้ง เมื่อเห็นคุณหนูไม่ตอบสนอง จึงได้แต่ไปทำงานอื่นๆ ต่ออย่างจนใจตลอดช่วงเช้า เรือนหลังเล็กโกโรโกโสและ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-02-21
  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 13

    ยังไม่ทันตั้งตัว ก็มีอีกแท่งลอยมากระแทกข้อมือเขา แทบจะกระแทกจนกระดูกป่น จึงคลายมือที่จับเยว่เอ๋อร์“คุณหนู!”นางเห็นคนที่นอนมาทั้งช่วงเช้าลุกจากเตียงแล้วและยืนอยู่ตรงหน้าประตูห้อง กำลังกะน้ำหนักทองแท่งที่ทั้งใหญ่ทั้งหนักด้วยการโยนขึ้นลงในมือนางหรี่ตา เล็งเป้า“กล้าแตะต้องคนของข้ารึ? แม่จะเอาทองแท่งปาเจ้าให้ตาย!”ตุบ!“โอ๊ย...”โดนทองไปสามแท่ง พ่อบ้านถูกปาจนหน้าผากแตก กระดูกข้อมือหัก เอวชราๆ ยอกไปหมด พลันล้มพับอยู่บนพื้น กุมสะเอวร้องครวญคราง 'ไอ้หยาๆ' ทว่า ในพริบตาต่อมา เขาก็กัดฟันทนต่อความเจ็บปวด หอบเอาทองแท่งหนึ่งขึ้นมาแล้วออกแรงขบไปครั้งหนึ่งในทันทีเจ็บฟัน!แข็งจริงๆ!เป็นของจริง!ทองคำ!หน่วงขนาดนี้ หนักถึงเพียงนี้ ซ้ำยังมีตั้งสามแท่ง พระชายามั่งมียิ่งกว่าท่านอ๋องเสียอีก!ตาของพ่อบ้านเป็นประกายแวววาวขึ้นในบัดดล จู่ๆ เอวก็ไม่เจ็บ ขาไม่ปวด โรคข้ออักเสบที่เป็นมาหลายสิบปีก็หายเป็นปลิดทิ้ง พลันคุกเข่าแบบประจบลงตรงหน้าพระชายา ยิ้มเสียจนมีแต่ความสอพลออยู่เต็มใบหน้า“เป็นบ่าวเองที่ดวงตาโง่เง่า มีตาหามีแววไม่ นับแต่นี้ไป พระชายาให้บ่าวทำสิ่งใดบ่าวก็จะทำสิ่งนั้นขอรับ”“บ่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-02-21
  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 14

    พ่อบ้านยกทองแท่งก้อนหนึ่งยิ้มปากแทบฉีกเดินออกไปเยว่เอ๋อร์ตะลึงจนเหม่อ “คุณหนูเจ้าคะ นะ นะ นะ นั่นคือทองคำแท่ง...ขะ ขะ ขะ เขาเอาไปแล้ว นะ นะ นั่น...”กระทั่งพูดจาก็ยังติดๆ ขัดๆ เสียแล้วฉู่เชียนหลีตบไหล่นางเอ่ยด้วยน้ำเสียงผ่อนคลาย “เงินทองเป็นของนอกกาย ไม่ต้องใส่ใจ ยามนี้เจ้าจงรีบไปเตรียมกระดาษพู่กันมาให้ข้า ยิ่งไวยิ่งดี”ยังดีที่ก่อนนี้นางหลักแหลมจึงวางแผนจัดเก็บเงินที่หามาได้ส่วนหนึ่งเอาไว้กับบัตรธนาคาร อีกส่วนหนึ่งเป็นเงินสด ที่เหลือซึ่งเป็นเงินส่วนใหญ่ก็เอาไปซื้อทองคำแท่งจนหมดและเรียงไว้เหมือนก่อผนังฉะนั้น นางจึงมีทองคำแท่ง อยู่มากมายเท่ากับผนังด้านหนึ่งทีเดียวแม้จะสูญเงินสดไปเป็นล้านๆ แต่ก็ยังมีทองแท่งอยู่อีกมากเพียงนี้ หลังจากโศกเศร้ามาหนึ่งคืน ที่สุดอารมณ์ก็ผ่อนคลายลงบ้างแล้ว ยามนี้นางมีเรื่องที่สำคัญกว่าจะต้องทำตัวทั้งตัวของเยว่เอ๋อร์เหมือนถูกสายฟ้าฟาด แต่หัวจรดเท้ามีแต่ความงุนงง นางไปหยิบกระดาษและพู่กันมา มองแผ่นหลังของคุณหนูขณะเดินจากไป เนิ่นนานจากนั้นก็ยังดึงสติกลับมาไม่ได้นี่นี่ใช่คุณหนูของนางจริงหรือ?!ณ เรือนหานเฟิงด้วยอ๋องเฉินปล่อยข่าวออกไปว่าได้รับบาด

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-02-21
  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 15

    ในกระดาษจดหมาย เป็นตัวอักษรเขียนด้วยพู่กันที่โอนไปเอียงมา ตัวอักษรนั้นเหมือนถูกไก่เขี่ย เอียงกระเท่เร่ไปหมดเนื้อหาว่า:...วันนี้ อ๋องเฉินล้มป่วย อารมณ์แปรปรวนรุนแรง กินข้าวห้าถ้วยด้วยความโมโห จนเมื่อกินมันดิน[footnoteRef:1]เส้นไปคำหนึ่ง ใส่เกลือน้อยไป จึงลงโทษบ่าวอย่างหนัก คำที่สองกินปลานึ่งซีอิ๊ว ปรากฏว่ามันย่องเกินไป เป็นเหตุให้ โกรธจนไปแย่งกระทะมา ลงครัวด้วยตนเองเสีย [1: มันดิน คือ มันฝรั่ง] “เฮอะ!”เฟิงเย่เสวียนหลุดหัวเราะออกมา เมื่อรู้สึกตัวว่าเสียกิริยา จึงรีบกลั้นเอาไว้และอ่านต่อไป ...อ๋องเฉินร่อแร่ หญิงงามอยู่ในอ้อมอกหากไม่แตะต้อง ข้าสังเกตดู สงสัยว่าจะ...ไม่ขัน“...” ความโค้งที่มุมปากของชายหนุ่มหดหายไปทันใด หายไปอย่างไร้ร่องรอย บรรยากาศรอบตัวก็หนักอึ้งตามไปด้วย...แม้คนผู้นี้จะมีสันดานป่าเถื่อน แต่กลับหน้าตาไม่เลว จากที่ข้าสืบดูอย่างละเอียด บนแก้มก้นซ้ายของเขามีไฝดำอยู่เม็ดหนึ่ง“...”หานเฟิงยืนอยู่ข้างๆ เห็นเจ้านายตนมีอาการประเดี๋ยวอมยิ้ม ประเดี๋ยวสายตาเคร่งขรึม ประเดี๋ยวก็เลิกคิ้ว จึงตระหนกอยู่ในใจก่อนนี้ ยามนายท่านจัดการพวกสายลับ วิธีทรมานทั้งสิบแปดล้วนเลือก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-02-21
  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 16

    หลังป้อนยาเสร็จ ฉู่เชียนหลีกอดหมอน เดินไปนั่งที่ขอบหน้าต่างนำหมอนหนุนไว้ข้างหลัง นั่งพิงอยู่ตรงนั้น ชันขาข้างหนึ่งขึ้น แล้วห้อยขาอีกหนึ่งแกว่งสบายๆ และถือขวดแก้วใสใบเล็กไว้ในมือนี่เป็นยาชนิดใหม่ที่นางศึกษา สามารถแก้พิษประหลาด และก็ย่อมสามารถแก้พิษบนตัวอ๋องเฉินได้เช่นกันแต่นางไม่อยากให้ผิวปากไปพลาง แกว่งขาไปพลาง และล้วงปี่ซั่วน่าออกจากบั้นท้ายอย่างเข้ากับบรรยากาศเฟิงเย่เสวียน “...ห้ามเป่า!”เขายังไม่ตาย!“นี่ไม่ใช่เพราะกลัวท่านอ๋องนอนทั้งวันจะรู้สึกเบื่อหน่ายหรอกหรือ?” นางยิ้มแล้วยิ้มอีก พลางโยนยาช่วยชีวิตของผู้ชายบางคนออกนอกหน้าต่างนางยอมมองดูเขาตาย ก็ไม่ยอมช่วยเขาเฟิงเย่เสวียมองดูขวดโปร่งใสที่ใส่ของเหลวสีเขียวอ่อนถูกโยนออกนอกหน้าต่าง ตกลงไปในพุ่มดอกไม้และหายไป แววตาครึ้มลงนี่ยาถอนพิษหรือ?นางเป็นคนศึกษาทำเองกับมืออย่างนั้นหรือ?นางเกี่ยวข้องอะไรกับคนร้าย?ตอนนั้นนางแต่งเข้าจวนอ๋องเฉินโดยไม่เลือกวิธีการ ทว่านางกลับไม่สนใจความเป็นตาย แต่ในจดหมายลับที่ส่งให้จวนอัครมหาเสนาบดีฝ่ายซ้ายฉู่ กลับไม่ได้เปิดเผยข้อมูลสำคัญของจวนอ๋องเฉิน และตอนนี้ยังต้องการหนังสือหย่าตกลงจุด

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-02-21
  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 17

    ซ่า…เงาสีดำสายหนึ่งถือกระบี่คมกระโจนเข้ามาจากหน้าต่าง ดวงตาเย็นชาคู่นั้นแทบรวมเป็นเป็นหนึ่งเดียวกับกระบี่อันเยือกเย็น แทงตรงมาทางผู้ชายพริบตานั้น บรรยากาศดุดันตึงเครียดเฟิงเย่เสวียนดึงผ้าห่มเข้ามาซ่อนฉู่เชียนหลีไว้ จากนั้นเหวี่ยงแขนสะบัดกระบี่อ่อนออกมาหนึ่งเล่ม พลันยกมือโจมตีออกไปปัง!กระบี่สองเล่มปะทะกัน ประกายไฟกระเด็นไปทั่วกำลังภายในที่แกร่งกล้าระเบิดออกมา พัดม่านปลิวว่อน กลิ่นอายเยือกเย็นบนกระบี่สะท้อนเข้าไปในดวงตาผู้ชาย สุขุม เจตนาสังหาร กระหายเลือด ไร้ความปราณีสองตาประสานกัน พลันสนามรบที่ไร้ควันดินปืนปะทุขึ้นร่างเงาสองสายหนึ่งดำหนึ่งทมิฬพัวพันปะทะกันโครมคราม!ฉู่เชียนหลีห่อตัวในผ้าห่ม หลบอยู่บนเตียง เผยให้เห็นเพียงดวงตาคู่หนึ่ง มองดูสถานการณ์ข้างนอกอย่างระมัดระวังวรยุทธ์ของทั้งสองแกร่งกล้า การเคลื่อนไหวและทักษะรวดเร็วมาก แทบมองไม่เห็นกระบวนท่าวรยุทธ์ เห็นเพียงกระบี่นั้นฟาดฟันกันชิ้งๆ เงากระบี่แกว่งไปแกว่งมาจนตาลายนี่เป็นครั้งแรกที่นางเห็นคนโบราณต่อสู้กันเชี่ย!ตวัดกำลังภายใน สะเทือนแจกันแตกซัดกำลังภายใน โต๊ะระเบิดเป็นเสี่ยงๆละครทีวีไม่ได้โกหกจริงๆ!ห

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-02-21
  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 18

    เฟิงเย่เสวียน “?”หานเฟิง “?”ไม่เคยได้ยินได้ฟัง ไม่เคยได้พบได้เห็นฉู่เชียนหลีชำเลืองมองทั้งสองอย่างเย่อหยิ่งแวบหนึ่ง สายตาราวกับมองคนบ้านนอก “ปืน นี่คือปืน”นางในฐานะหมอเทวดาที่มีชื่อเสียงระดับโลกของศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ด ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของวงการแพทย์ คนที่อยากทำร้ายนางมีนับไม่ถ้วน นอกจากเชี่ยวชาญทั้งการแพทย์และพิษวิทยา ยังต้องมีความสามารถพอที่จะปกป้องตนเองนางที่ฉลาดหลักแหลมเช่นนี้ และมีทั้งกำลังและความสามารถ เหตุใดจึงมาเสียทีให้กับเจ้าเด็กน้อยอ๋องเฉินจนได้?“ปืน?” เฟิงเย่เสวียนประหลาดใจสิ่งของเล็กๆ สีดำเช่นนี้ สามารถปล่อยพลังที่รุนแรงเช่นนี้เลยหรือ?รุนแรงยิ่งกว่ากำลังภายในเสียอีก?อดไม่ได้ที่จะถามต่อ “อะไรคือปืน?”ฉู่เชียนหลีขี้เกียจอธิบาย เป่าปากกระบอกปืนเก้าแปดคาและหมุนกายเดินจากไปตอนผู้ชายคนนี้นอนอยู่บนเตียงท่าทางอ่อนปวกเปียก ที่แท้เสแสร้งทั้งหมดเลย ตอนต่อสู้ฮึกเหิมประดุจมังกรพยัคฆ์ผาดโผน ร่างกายแข็งแรง ทำให้นางต้องปรนนิบัติเปล่าๆ ทั้งคืนกลับเรือนไปนอนอ๋องเฉินอยากตาม “ฉู่…”ฉู่เชียนหลีหันกายกลับมา รูสีดำสนิทชี้มาทางผู้ชาย กล่าวด่าว่าอย่างรำคาญ “อย่ามาพูดไร้สาระ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-02-21

บทล่าสุด

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1082

    นางกำนัลรีบนำพู่กันมาฉู่เชียนหลีเอาพู่กันจุ่มน้ำหมึก แล้วใส่ในมือฮ่องเต้ร่างกายของฮ่องเต้เป็นอัมพาต ไม่ควบคุมมือไม่ได้ ไม่สามารถจับพู่กันด้วยซ้ำ ปากของเขาเบี้ยว ใช้แรงทั้งหมดหนีบด้ามพู่กันด้วยนิ้วชี้กับนิ้วกลาง อาศัยแรงกระตุกของร่างกาย ลงพู่กันบนกระดาษอย่างเบี้ยวไปเบี้ยวมาเพียงไม่กี่ขีด เขียนอย่างยากลำบาก บนหน้าผากเต็มไปด้วยเหงื่อแนวเฉียง…แนวตั้ง…สองคำ ทั้งหมดสี่ขีดเขียนเสร็จ พู่กันก็ร่วงตกบนพื้น เขาเหนื่อยจนหอบบนเตียง ขยับไม่ได้อีกแล้ว“ลูกชาย…” อวิ๋นอิงอุทานเบาๆ “คนที่ฝ่าบาทคิดถึงคือลูกชาย?”ฉู่เชียนหลีถือกระดาษ แม้สองคำนี้เขียนได้คดเคี้ยวมาก แต่เนื่องจากลายเส้นเรียบง่าย จึงมองออกในปราดเดียวว่ามันคือคำว่า ‘ลูกชาย’นี่เขาอยากบอกอะไรนาง?“หรือเป็นอ๋องหลี?” อวิ๋นอิงคาดเดาฉู่เชียนหลีส่ายศีรษะโดยไม่ต้องคิด“อ๋องหลีวางยาพิษเขา กบฏวังชิงราชบัลลังก์ มีความทะเยอทะยาน ฝ่าบาทไม่มีทางคิดถึงอ๋องหลี”นางกล่าววิเคราะห์“ส่วนอ๋องหลีหลังจากขึ้นบัลลังก์ ไม่ฆ่าผู้บริสุทธิ์ องค์ชายท่านอื่นอยู่อย่างสงบเสงี่ยมเหมือนเมื่อก่อน ไม่มีอันตราย ฮ่องเต้ก็ไม่มีทางคิดถึงองค์ชายท่านอื่น”อวิ๋

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1081

    ตอนที่ตื่น ก็เป็นเที่ยงของวันใหม่แล้ว เฟิงเย่เสวียนรู้จักเตียงนานแล้ว หลังจากฉู่เชียนหลีกินอะไรง่ายๆ ก็ไปที่สำนักหมอหลวง หมกมุ่นอยู่กับตำราแพทย์พริบตาเดียวก็กลางคืนแล้วนางกำนัลมารายงาน ฮ่องเต้ฟื้นแล้ว ฉู่เชียนหลีไปตำหนักผานหลง ฮ่องเต้นอนตัวเกร็งอยู่บนเตียง นิ้วมือหยิกงอ ร่างกายครึ่งหนึ่งแข็งเหมือนท่อนไม้ ปากก็เบี้ยวจนมีน้ำลายไหลยืดเขาเบิกตากว้างจนลูกตาแทบทะลักออกมาแล้ว นางกำนัลที่ปรนนิบัติกลัวเล็กน้อย ไม่กล้าเข้าไปปรนนิบัติฉู่เชียนหลีเดินเข้ามา“ฝ่าบาททรงฟื้นเมื่อไร”“เมื่อหนึ่งเค่อก่อนเจ้าค่ะ” นางกำนัลตอบ“ดื่มโอสถหรือยัง?”“หนึ่งวันสามมื้อ ป้อนตรงเวลาเจ้าค่ะ”“อืม”นางเดินไปที่หน้าเตียง จับชีพจรของฮ่องเต้ ลักษณะชีพจรคงที่ ไม่มีปัญหาใหญ่อะไร เพียงแต่ร่างกายได้รับหญ้าหมาเฟ้ยมากเกินไป ส่งผลให้ร่างกายชาจนไม่ตอบสนอง อย่างน้อยต้องใช้เวลาอีกครึ่งปี จึงจะสามารถสลายหญ้าหมาเฟ้ยเหล่านี้หมดถึงเวลา ก็สามารถกลับมาเป็นปกติ“ดูแลดีๆ ต้องมีคนเฝ้าอยู่ข้างพระวรกายตลอดอย่างน้อยสองคน” นางกำชับนางกำนัลเวลานี้เอง ที่นอกประตู อวิ๋นอิงอุ้มน้องสาวมาแล้ว“พระชายา ท่านเอาแต่ยุ่งทั้งวัน ลู่ฉิ

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1080

    ฉู่เชียนหลีมองนาง กล่าวด้วยรอยยิ้ม “ถ้าหากไม่ใช่เพราะเจ้า อ๋องหลีก็ไม่สามารถก่อเรื่องมากมายเช่นนี้ เจ้าจะให้ข้าจัดการเจ้าอย่างไรจึงจะดี?”ถ้าไม่มียาอายุวัฒนะ อ๋องหลีจบสิ้นไปนานแล้วและยาชนิดนี้ก็มาจากมือของอูหนูอูหนูยืนอยู่ตรงนั้นด้วยสีหน้าเย็นชา ยืดอกหลังตรง การแสดงออกบนใบหน้าไม่เย่อหยิ่งแต่ก็ไม่ถ่อมตน นางเป็นคนที่เคยตายมาแล้วหนึ่งครั้ง ย่อมไม่กลัว“จะฆ่าจะแกง เชิญตามสะดวก”นางเงยหน้า หลับตา“เจ้าเป็นผู้ช่วยที่ดีของอ๋องหลี ข้าฆ่าเจ้าทั้งเช่นนี้ จะไม่เสียดายแย่หรือ?” ฉู่เชียนหลีเดินไปที่ตรงหน้านาง “ข้าขอถามเจ้า เจ้าทำอะไรกับฝ่าบาท? เหตุใดจู่ๆ เขาก็เป็นอัมพาตเฉียบพลัน”อูหนูย่อมไม่อยากพูดไม่รอนางเอ่ยปาก ฉู่เชียนหลีเสริมอีกประโยค“ตายเป็นแค่ผลลัพธ์อย่างหนึ่ง แต่ขั้นตอนการตาย ควรตายอย่างไร ขึ้นอยู่กับข้า”“เจ้าสามารถปากแข็ง แต่ปากแข็งไม่สามารถเปลี่ยนแปลงผลลัพธ์ และยังจะเพิ่มความเจ็บปวด เจ้าเป็นคนฉลาด รู้ว่าควรเลือกอย่างไร”อูหนู “...”ข่มขู่อย่างโจ่งแจ้งถ้าหากนางยอมพูด มอบความตายที่ไม่เจ็บปวดให้นางถ้าหากนางไม่ยอมพูด คิดวิธีทรมานสารพัด เพื่อทำให้นางยอมพูด สุดท้ายก็ตายอยู่

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1079

    กล่าวจบ เขาหมุนกาย นั่งขัดสมาธิลงบนกระดานไม้ที่เย็นเยียบ หันหลังให้นางฉู่เชียนหลีมองไม่เห็นสีหน้าของเขา และไม่แน่ใจคำพูดนี้ของหมายความว่าอย่างไร ยืนอยู่ตรงนั้นครู่หนึ่งก็จากไปแล้วออกจากคุกหลวง ข้างนอกท้องฟ้าสดใส อากาศสดชื่น“ส่งพระชายาอ๋องหลีไปอยู่ตำหนักเจาหยางชั่วคราว ปรนนิบัติให้ดี ห้ามละเลยเด็ดขาด” นางสั่งให้องครักษ์ลับคนหนึ่งคุ้มกันส่ง ในความเป็นจริงก็สั่งให้คนจับตาดูฉู่เจียวเจียวด้วยหลังไปแล้วท้องฟ้า ละอองฝนโปรยปรายลงมาเมื่อเงยหน้าก็ปะทะลม ละอองฝนตกใส่ใบหน้า หนาวจนรู้สึกเจ็บแสบเล็กน้อย ใบไม้เหี่ยวหลุดจากกิ่งก้าน ล่องลอยไปตามสายลมรู้ตัวอีกทีก็เข้าหน้าหนาวแล้วมองดูท้องฟ้าอึมครึมที่ถูกเมฆดำปกคลุม นึกถึงคำพูดของอ๋องหลี รู้สึกกดดันอย่างน่าประหลาด และไม่สบายใจเล็กน้อย เหมือนมีเรื่องบางอย่างกำลังจะเกิดขึ้นก้มหน้าอก รีบไปที่ห้องทรงอักษรเฟิงเย่เสวียนยุ่งมากฮ่องเต้ป่วย อ๋องหลีถูกจับ ราชสำนัก บ้านเมือง พรรคอ๋องหลี เรื่องราวต่างๆ มารวมกัน กดทับอยู่บนไหล่เฟิงเย่เสวียนทั้งหมด เขายุ่งจนตัวหมุน ไม่ได้หลับตาพักผ่อนมาสองวันแล้วฉู่เชียนหลีเดินเข้าห้องทรงอักษร “จับอูหนูได้หรือย

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1078

    ฉู่เชียนหลีกวาดมองหมอหลวงที่อยู่โดยรอบแวบหนึ่ง ยกเท้าเดินออกไป “เจ้าตามข้ามา”เมื่อฉู่เจียวเจียวได้ยินก็ดีใจ รีบกอดลูกแน่น แล้วเดินตามออกไปอย่างไวคุกหลวงองครักษ์เงาเฝ้ายาม เมื่อพวกเขาเห็นผู้มา ก็คำนับอย่างนอบน้อม “พระชายา”ฉู่เชียนหลีพยักหน้า เดินเข้าไปในคุกหลวงหัวใจฉู่เจียวเจียวบีบรัดแน่น ฝีเท้าเร็วขึ้นเรื่อยๆ หลังจากเดินผ่านทางเดินยาวที่มืดสลัว มาถึงห้องขังที่อยู่ห้องท้ายสุด เมื่อเห็นผู้ชายที่ถูกขังอยู่ข้างใน รู้สึกเจ็บหน้าอกฉับพลัน“ท่านโหว!”เดินปรี่เข้าไป เอาข้างหนึ่งอุ้มลูก มืออีกข้างจับราวลูกกรงอย่างร้อนใจ“ท่านอ๋อง ท่านไม่เป็นอะไรกระมัง!”ไม่เจอกันแค่คืนเดียว สภาพของเฟิงเจิ้งหลีโทรมมากสภาพแวดล้อมในห้องขังเปียกชื้นมืดสลัว ตรงที่มุมมีแมลงสาบกับหนูเกาะอยู่ ชุดเพ้าสีขาวเปื้อนไปด้วยสิ่งสกปรกและความโชคร้าย ตรงคางเริ่มมีตอนหนวดปรากฏให้เห็น สภาพดูสะบักสะบอมมากผ่านไปครู่หนึ่งเฟิงเจิ้งหลีค่อยๆ เงยหน้า เมื่อเห็นเฟิงเจิ้งจื่อเยี่ย มีประกายที่ปกปิดสายหนึ่งแลบผ่าน“ถ้าไม่เป็นอะไร…”เขาลุกขึ้นยืน เสียงแหบไร้เรี่ยวแรงฉู่เจียวเจียวตาแดงทันที “คุกหลวงสกปรกเช่นนี้ เหม็นเช่นน

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1077

    หมอหลวงคนหนึ่งกล่าวทันที “พระชายาอ๋องเฉิน ลูกสามารถมีใหม่ แต่ถ้าตายแล้ว ก็ไม่มีอะไรแล้ว มีเพียงเอาเด็กออก แล้วใช้สูตรยานี่ ผู้ป่วยจึงจะมีโอกาสรอด”หมอหญิงเว่ยพยักหน้า “นี่เป็นวิธีเดียวเจ้าค่ะ”เด็กกับผู้ใหญ่ เลือกได้แค่คนเดียวฉู่เชียนหลีขมวดคิ้วแน่น สีหน้ากังวลนางไม่มีสิทธิ์ขัดความปรารถนาของอวิ๋นอิง ถอดคุณสมบัติการเป็นแม่ของนางออก ถ้าหากฝืนเอาเด็กคนนี้ออก อวิ๋นอิงต้องเกลียดนางทั้งชีวิตแน่นอนอีกทางร่างกายของอวิ๋นอิงอ่อนแอมาก เกรงว่าไม่สามารถทนต่อการแท้งบุตรไม่ไหวนางถอนใจหนักๆ “ข้าจะเก็บไว้ทั้งสองคน”“ฮะ?!”ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ตะลึงแล้วหรือพระชายาอ๋องเฉินเลอะเลือนแล้ว?“พระชายาอ๋องเฉิน คนท้องห้ามกินยาส่งเดช และถ้าไม่กินยา จะรักษาโรคอวัยวะล้มเหลวได้อย่างไร? ใต้ฟ้าไม่มีวิธีทำสองอย่างให้สมบูรณ์แบบพร้อมกัน”ฉู่เชียนหลีรู้ว่าเป็นไปไม่ได้ แต่อย่างไรก็ต้องพยายามสักตั้ง รอวันที่ผลลัพธ์ออกมา จึงจะไม่รู้สึกผิดนางกวาดมองตำราที่เก็บสะสมในห้องแวบหนึ่ง ชั้นวางที่สูงตระหง่านสองกว่าแถว มีตำราที่หลากหลายและนับไม่ถ้วนวางเต็มไปหมด“ตำราแพทย์ทั้งหมดล้วนอยู่ที่นี่หรือ?”หมอหญิงเว่ยพยัก

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1076

    “ไม่เป็นอะไรเจ้าค่ะ พระชายา ข้าชอบเว่ยซีกับลู่ฉิน พวกนางเป็นเด็กดีมาก เมื่อคืนไม่ร้องไห้เลย” อวิ๋นอิงเม้มปากยิ้มเล็กน้อยฉู่เชียนหลีจูงมือของนาง “ทุกคนลำบากมาทั้งคืนแล้ว ไปพักผ่อนเถอะ”“จิ่งอี้ เสียวอู่ พวกเจ้าอุ้มเด็กไปที่ตำหนักผานหลง ฝ่าบาทอยู่ที่นั่น มีคนช่วยดูแลด้วยกัน”หลังมอบหมายงานเสร็จ นางกับอวิ๋นอิงก็ไปแล้วกระซิบไปตลอดทาง“ยาที่ข้าจ่ายให้เจ้า กินทุกวันหรือไม่?” ขณะเดียวกับที่จูงมืออวิ๋นอิง ก็จับชีพจรของนางด้วยสภาพร่างกายของนาง…ไม่สู้ดีนักกินยาแล้ว แต่ไม่เห็นผลเพราะกำลังตั้งครรภ์ ฉู่เชียนหลีไม่กล้าใช้ยาฤทธิ์แรง ส่วนยาฤทธิ์เบาสำหรับอวิ๋นอิงนั้น มีผลไม่มาก ซึ่งเทียบเท่ากับไม่มีเลย อวิ๋นอิงพยักหน้า “ทำให้พระชายาเป็นห่วงแล้ว ร่างกายของข้า ข้ารู้ดีเจ้าค่ะ ดีก็ดี ไม่ดีก็ช่าง ข้าทำใจยอมรับผลแล้ว”ทัศนคติของนางดีมาก มองโลกในแง่ดีมากพลางลูบท้อง แววตาเผยให้เห็นความหวัง“ขอแค่เด็กคนนี้สามารถเกิดมาอย่างปลอดภัย ทุกอย่างก็คุ้มค่าแล้ว”ชั่วขณะ ในใจฉู่เชียนหลีรู้สึกไม่สบอารมณ์หลังจากมีลูก นางสามารถเข้าใจความรักของแม่ของอวิ๋นอิง แต่นางก็ปล่อยมืออวิ๋นอิงไม่ลง ถ้าหากต้องเลื

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1075

    “จริงๆ แล้ว ไม่มีใครสามารถราบรื่นทั้งชีวิต ชีวิตใครบ้างไม่เคยมีปัญหา? ร้องไห้ก็ดี หัวเราะก็ดี ล้วนต้องมองไปข้างหน้า”“อย่าจมอยู่กับอดีตที่ผ่านไปแล้ว ถ้าหากมักจะใช้ชีวิตอยู่ในเงาของอดีต เช่นนั้นชีวิตนี้เจ้าก็ไม่มีวันหลุดพ้นจากมัน”ฉู่เชียนหลีปลอบใจเขาเด็กที่อยู่ในท้องของกู้ชิงชิง มันหมายถึงการเริ่มต้นใหม่ไม่ใช่หรือ?หลิงเชียนอี้สะอื้นเบาๆ เงยใบหน้าที่เปื้อนน้ำตาขึ้นมา“น้าสะใภ้ ตกลงอวิ๋นอิงกับจิ่งอี้มันอย่างไรกันแน่? จิ่งอี้จะดีกับนางจริงๆ หรือ? เหตุใดข้ารู้สึกว่าดูไม่ค่อยเหมือน?”ฉู่เชียนหลีชะงักเล็กน้อยเรื่องนี้นางก็ถูกปิดบังอยู่นานมากเช่นกัน เพิ่งจะรู้เมื่อไม่กี่วันก่อน นางไม่สามารถอธิบายความพัวพันระหว่างอวิ๋นอิงกับจิ่งอี้“ข้าเชื่อในตัวจิ่งอี้ เขาไม่มีทางจงใจทำร้ายผู้อื่นโดยเจตนา”“แต่อวิ๋นอิงได้รับบาดเจ็บ…”ฉู่เชียนหลีเม้มปากเพราะเยว่เอ๋อร์ ส่งผลให้ระหว่างพวกเขาเกิดการเข้าใจผิด ตอนนี้ความขัดแย้งคลี่คลายแล้ว จิ่งอี้ตระหนักถึงความผิดพลาดของตัวเอง เชื่อว่าต่อไปจะดีกับอวิ๋นอิงแน่นอนปัญหาที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือ หัวใจของอวิ๋นอิงปิดตายแล้ว ไม่มีทางเปิดออกง่ายๆเกรงว่า

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1074

    ในที่สุดทุกคนก็สามารถออกจากวังแล้ว สีหน้าของแต่ละคน…ยากจะพูดให้เข้าใจในประโยคเดียวมีทั้งโล่งอก มีทั้งร้องไห้โดยไม่มีน้ำตา มีทั้งรู้สึกโชคดีที่รอดมาได้ ต่างๆ นานาหลังจากนั่งมานานทั้งคืน ร่างกายของทุกคนแข็งหมดแล้ว ตอนที่ลุกขึ้นยืน บางคนก็ตัวแข็งจนเดินไม่ไหว บางคนก็ล้มลงพื้นด้วยอาการเหน็บชา และยังมีบางคนเป็นตะคริวที่ขา ต้องใช้คนสองคนช่วยพยุงภาพภาพนี้ นับว่าเป็นความสุขอีกแบบหนึ่งฉู่เชียนหลีเห็นแล้วเม้มปากกลั้นยิ้ม เดินไปรอเฟิงเย่เสวียนที่ข้างนอกแล้วผ่านไปครู่หนึ่งเฟิงเย่เสวียนมาแล้ว“เจ้าก็เหนื่อยมาทั้งคืนแล้ว ไปนอนพักสักครู่?” เขากล่าวอย่างห่วงใยฉู่เชียนหลีกล่าว “เจ้ารู้สุขภาพของฝ่าบาทดี ไม่รู้ว่าอ๋องหลีทำอะไรลงไป เขาอาจจะไม่สามารถฟื้นตัวในครึ่งปีหรือหนึ่งปี…เหตุใดเจ้าไม่ถือโอกาสนี้ดูแลราชสำนักล่ะ?”แม้เป็นตัวแทน แต่ความหมายก็ใกล้เคียงกันแต่ก็นะ ด้วยสถานการณ์ในตอนนี้ เก้าในสิบราชบัลลังก์เป็นของเขาแล้ว จะช้าหรือเร็วมันก็เหมือนกัน“ในขุนนางกลุ่มนั้น เกรงว่ายังมีคนของอ๋องหลีไม่น้อย ถ้าหากข้าฉวยโอกาสตอนที่ฝ่าบาทไม่มีสติ แทรกแซงการบริหารแผ่นดินอย่างโจ่งแจ้ง อาจจะถูกคนเจตนาร้

DMCA.com Protection Status