Share

บทที่ 14

Author: สกุลหยางมีบุตรสาว
พ่อบ้านยกทองแท่งก้อนหนึ่งยิ้มปากแทบฉีกเดินออกไป

เยว่เอ๋อร์ตะลึงจนเหม่อ “คุณหนูเจ้าคะ นะ นะ นะ นั่นคือทองคำแท่ง...ขะ ขะ ขะ เขาเอาไปแล้ว นะ นะ นั่น...”

กระทั่งพูดจาก็ยังติดๆ ขัดๆ เสียแล้ว

ฉู่เชียนหลีตบไหล่นางเอ่ยด้วยน้ำเสียงผ่อนคลาย “เงินทองเป็นของนอกกาย ไม่ต้องใส่ใจ ยามนี้เจ้าจงรีบไปเตรียมกระดาษพู่กันมาให้ข้า ยิ่งไวยิ่งดี”

ยังดีที่ก่อนนี้นางหลักแหลมจึงวางแผนจัดเก็บเงินที่หามาได้

ส่วนหนึ่งเอาไว้กับบัตรธนาคาร อีกส่วนหนึ่งเป็นเงินสด ที่เหลือซึ่งเป็นเงินส่วนใหญ่ก็เอาไปซื้อทองคำแท่งจนหมดและเรียงไว้เหมือนก่อผนัง

ฉะนั้น นางจึงมีทองคำแท่ง อยู่มากมายเท่ากับผนังด้านหนึ่งทีเดียว

แม้จะสูญเงินสดไปเป็นล้านๆ แต่ก็ยังมีทองแท่งอยู่อีกมากเพียงนี้ หลังจากโศกเศร้ามาหนึ่งคืน ที่สุดอารมณ์ก็ผ่อนคลายลงบ้างแล้ว ยามนี้นางมีเรื่องที่สำคัญกว่าจะต้องทำ

ตัวทั้งตัวของเยว่เอ๋อร์เหมือนถูกสายฟ้าฟาด แต่หัวจรดเท้ามีแต่ความงุนงง นางไปหยิบกระดาษและพู่กันมา มองแผ่นหลังของคุณหนูขณะเดินจากไป เนิ่นนานจากนั้นก็ยังดึงสติกลับมาไม่ได้

นี่

นี่ใช่คุณหนูของนางจริงหรือ?!

ณ เรือนหานเฟิง

ด้วยอ๋องเฉินปล่อยข่าวออกไปว่าได้รับบาดเจ็บสาหัส เวลานี้เขาจึงกำลังล้มหมอนนอนเสื่อ เซียวจือฮว่าคอยดูแลเขาไม่ห่างแม้สักชุ่น[footnoteRef:1] [1: ชุ่น เป็นหน่วยวัดความยาวของจีนโบราณ มีความยาวราว 3.33 ซม. ]

“เจ้าสารเลวนี่ช่างใช้วิธีชั่วช้านัก จะต้องควานหาตัวมันออกมาแล้วลงทัณฑ์ให้สาหัสจึงจะดี!” เซียวจือฮว่ายกถ้วยยามา ทางหนึ่งก็เป่ายาให้เย็นเพื่อป้อนชายหนุ่ม อีกทางหนึ่งก็กล่าวอย่างขุ่นเคือง

หานเฟิงยืนอยู่ข้างๆ กล่าวว่า

“พระชายารองไม่ทราบ ศึกใหญ่ครานี้มีคนลอบเผยกลยุทธ์ เป็นเหตุให้ท่านอ๋องถูกลอบทำร้าย ทั้งกองทัพเกือบมีอันต้องย่อยยับ และด้วยเหตุนี้เองท่านอ๋องจึงได้รับบาดเจ็บภายในรุนแรง เนิ่นนานไม่หายเสียทีขอรับ”

เซียวจือฮว่า มีโทสะไม่น้อย “บังอาจนัก กล้าหักหลังอ๋องเฉิน ขายบ้านเมือง ความผิดนี้ต้องประหาร!”

นางเดือดดาลหนักหนา

“แค่ก...” ข้างบนเตียง ชายหนุ่มปิดปากไอทีหนึ่ง ใบหน้าค่อนข้างซีดขาว สีหน้าอ่อนล้า เห็นชัดว่าอ่อนแอเหลือกำลัง

เซียวจือฮว่าปวดใจนัก จึงยิ่งดูแลเขาอย่างใส่ใจ

ซู่ๆ ...

ข้างนอก มีเสียงใด บางเบายิ่งนัก

ใบหูของเฟิงเย่เสวียนกระดิกน้อยๆ ช้อนตาขึ้นมองไป ดวงตาที่ดูคล้ายซีดเผือดแต่กลับคมกริบดุจตาอินทรี พริบตานั้นสามารถสังเกตเห็นร่างหนึ่งที่ซ่อนตัวอยู่ในพุ่มดอกไม้ข้างนอกได้

พุ่มดอกไม้หลายหลากสี

ในกองหญ้า มีหัวเล็กๆ หัวหนึ่งซ่อนอยู่ข้างใน แผงร่างอยู่ท่ามกลางพุ่มดอกไม้ โผล่แต่หัวออกมา เอาเศษหญ้าคลุมอยู่เต็มหัว มีเพียงดวงตาคู่หนึ่งเผยออกมา และกำลังจับจ้องเหตุการณ์ภายในห้อง

เพียงแค่คอยจับตาดูอ๋องเฉินเอาไว้และหักหลังอ๋องเฉิน หนังสือหย่าจะยังอยู่อีกไกลหรือ?

ฮ่าๆๆ!

ฉู่เชียนหลีฝืนทนต่อแสงแดดแผดจ้าและความเจ็บปวดจากยุงแมลงกัด ยังคงคลานอยู่ที่นั่นไม่ขยับเขยื้อน

ทางหนึ่งจ้องมอง อีกทางหนึ่งก็เอาปลายพู่กันใส่ปากแต้มน้ำลาย จากนั้นก็จดบันทึกลงในสมุดเล่มเล็ก...

แผนเดิมที่ฉู่เชียนหลีวางไว้นั้น จับตาดูแค่สามชั่วยามก็คงพอประมาณแล้ว แต่นึกไม่ถึงว่าชายารองเซียวนั่นกลับนั่งอยู่แต่เช้าจรดค่ำ คอยดูแลอ๋องเฉินตลอดเวลา ตกกลางคืนยังอยากจะ 'ปรนนิบัติ' ถึงบนเตียงเสียอีก

แต่อ๋องเฉินปรามไว้

“แค่ก...ดึกแล้ว จือฮว่าวุ่นวายมาทั้งวัน ควรรีบกลับไปพักผ่อนเสีย”

เซียวจือฮว่าไม่อยากไป

นางเข้าจวนมาสามวันแล้ว แต่อ๋องเฉินกลับยังมิได้เชยชิดนาง หากเรื่องนี้แพร่ออกไป ผู้อื่นต้องเยาะเอา

นางอยากทำให้คืนเข้าหอครบสมบูรณ์...

“เฉิน ข้า...”

ชายหนุ่ม “แค่กๆ! แค่กๆๆ...”

“...”

คำพูดมาถึงริมฝีปาก กลับต้องยั้งเอาไว้

เซียวจือฮว่าไม่กล้าเร่งร้อนร้องขอ หากเร่งรัดเกินไปรังแต่จะทำให้อ๋องเฉิน รังเกียจ หลังจากเอ่ยถ้อยคำแสดงความเป็นห่วงอีกสองสามประโยค จึงถอยออกไปอย่างว่าง่ายรู้ความ

หลังจากนางไปแล้ว ชายหนุ่มพลันหยุดไอและแววตาก็ขึงขังขึ้นมาด้วย เมื่อเทียบกับอาการอ่อนเพลียยามกลางวันแล้วราวกับเป็นคนละคน

หานเฟิงปรากฏตัวและเข้ามาหา “นายท่าน พระชายาเป็นสายลับจริงๆ ขอรับ นางซุ่มอยู่ข้างนอกมาตลอดหนึ่งวันเต็ม ซ้ำยังสมคบกับบ่าวในจวนให้ส่งข่าวออกไปด้วยขอรับ”

เขาหยิบจดหมายฉบับหนึ่งออกมาจากแขนเสื้อ และส่งให้ด้วยสองมือ

ชายหนุ่มรับมาคลี่ออก เมื่อเห็นเนื้อหาที่อยู่บนนั้น แววตาของเขาก็เคร่งขรึมขึ้นมาอีกคราว

Related chapters

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 15

    ในกระดาษจดหมาย เป็นตัวอักษรเขียนด้วยพู่กันที่โอนไปเอียงมา ตัวอักษรนั้นเหมือนถูกไก่เขี่ย เอียงกระเท่เร่ไปหมดเนื้อหาว่า:...วันนี้ อ๋องเฉินล้มป่วย อารมณ์แปรปรวนรุนแรง กินข้าวห้าถ้วยด้วยความโมโห จนเมื่อกินมันดิน[footnoteRef:1]เส้นไปคำหนึ่ง ใส่เกลือน้อยไป จึงลงโทษบ่าวอย่างหนัก คำที่สองกินปลานึ่งซีอิ๊ว ปรากฏว่ามันย่องเกินไป เป็นเหตุให้ โกรธจนไปแย่งกระทะมา ลงครัวด้วยตนเองเสีย [1: มันดิน คือ มันฝรั่ง] “เฮอะ!”เฟิงเย่เสวียนหลุดหัวเราะออกมา เมื่อรู้สึกตัวว่าเสียกิริยา จึงรีบกลั้นเอาไว้และอ่านต่อไป ...อ๋องเฉินร่อแร่ หญิงงามอยู่ในอ้อมอกหากไม่แตะต้อง ข้าสังเกตดู สงสัยว่าจะ...ไม่ขัน“...” ความโค้งที่มุมปากของชายหนุ่มหดหายไปทันใด หายไปอย่างไร้ร่องรอย บรรยากาศรอบตัวก็หนักอึ้งตามไปด้วย...แม้คนผู้นี้จะมีสันดานป่าเถื่อน แต่กลับหน้าตาไม่เลว จากที่ข้าสืบดูอย่างละเอียด บนแก้มก้นซ้ายของเขามีไฝดำอยู่เม็ดหนึ่ง“...”หานเฟิงยืนอยู่ข้างๆ เห็นเจ้านายตนมีอาการประเดี๋ยวอมยิ้ม ประเดี๋ยวสายตาเคร่งขรึม ประเดี๋ยวก็เลิกคิ้ว จึงตระหนกอยู่ในใจก่อนนี้ ยามนายท่านจัดการพวกสายลับ วิธีทรมานทั้งสิบแปดล้วนเลือก

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 16

    หลังป้อนยาเสร็จ ฉู่เชียนหลีกอดหมอน เดินไปนั่งที่ขอบหน้าต่างนำหมอนหนุนไว้ข้างหลัง นั่งพิงอยู่ตรงนั้น ชันขาข้างหนึ่งขึ้น แล้วห้อยขาอีกหนึ่งแกว่งสบายๆ และถือขวดแก้วใสใบเล็กไว้ในมือนี่เป็นยาชนิดใหม่ที่นางศึกษา สามารถแก้พิษประหลาด และก็ย่อมสามารถแก้พิษบนตัวอ๋องเฉินได้เช่นกันแต่นางไม่อยากให้ผิวปากไปพลาง แกว่งขาไปพลาง และล้วงปี่ซั่วน่าออกจากบั้นท้ายอย่างเข้ากับบรรยากาศเฟิงเย่เสวียน “...ห้ามเป่า!”เขายังไม่ตาย!“นี่ไม่ใช่เพราะกลัวท่านอ๋องนอนทั้งวันจะรู้สึกเบื่อหน่ายหรอกหรือ?” นางยิ้มแล้วยิ้มอีก พลางโยนยาช่วยชีวิตของผู้ชายบางคนออกนอกหน้าต่างนางยอมมองดูเขาตาย ก็ไม่ยอมช่วยเขาเฟิงเย่เสวียมองดูขวดโปร่งใสที่ใส่ของเหลวสีเขียวอ่อนถูกโยนออกนอกหน้าต่าง ตกลงไปในพุ่มดอกไม้และหายไป แววตาครึ้มลงนี่ยาถอนพิษหรือ?นางเป็นคนศึกษาทำเองกับมืออย่างนั้นหรือ?นางเกี่ยวข้องอะไรกับคนร้าย?ตอนนั้นนางแต่งเข้าจวนอ๋องเฉินโดยไม่เลือกวิธีการ ทว่านางกลับไม่สนใจความเป็นตาย แต่ในจดหมายลับที่ส่งให้จวนอัครมหาเสนาบดีฝ่ายซ้ายฉู่ กลับไม่ได้เปิดเผยข้อมูลสำคัญของจวนอ๋องเฉิน และตอนนี้ยังต้องการหนังสือหย่าตกลงจุด

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 17

    ซ่า…เงาสีดำสายหนึ่งถือกระบี่คมกระโจนเข้ามาจากหน้าต่าง ดวงตาเย็นชาคู่นั้นแทบรวมเป็นเป็นหนึ่งเดียวกับกระบี่อันเยือกเย็น แทงตรงมาทางผู้ชายพริบตานั้น บรรยากาศดุดันตึงเครียดเฟิงเย่เสวียนดึงผ้าห่มเข้ามาซ่อนฉู่เชียนหลีไว้ จากนั้นเหวี่ยงแขนสะบัดกระบี่อ่อนออกมาหนึ่งเล่ม พลันยกมือโจมตีออกไปปัง!กระบี่สองเล่มปะทะกัน ประกายไฟกระเด็นไปทั่วกำลังภายในที่แกร่งกล้าระเบิดออกมา พัดม่านปลิวว่อน กลิ่นอายเยือกเย็นบนกระบี่สะท้อนเข้าไปในดวงตาผู้ชาย สุขุม เจตนาสังหาร กระหายเลือด ไร้ความปราณีสองตาประสานกัน พลันสนามรบที่ไร้ควันดินปืนปะทุขึ้นร่างเงาสองสายหนึ่งดำหนึ่งทมิฬพัวพันปะทะกันโครมคราม!ฉู่เชียนหลีห่อตัวในผ้าห่ม หลบอยู่บนเตียง เผยให้เห็นเพียงดวงตาคู่หนึ่ง มองดูสถานการณ์ข้างนอกอย่างระมัดระวังวรยุทธ์ของทั้งสองแกร่งกล้า การเคลื่อนไหวและทักษะรวดเร็วมาก แทบมองไม่เห็นกระบวนท่าวรยุทธ์ เห็นเพียงกระบี่นั้นฟาดฟันกันชิ้งๆ เงากระบี่แกว่งไปแกว่งมาจนตาลายนี่เป็นครั้งแรกที่นางเห็นคนโบราณต่อสู้กันเชี่ย!ตวัดกำลังภายใน สะเทือนแจกันแตกซัดกำลังภายใน โต๊ะระเบิดเป็นเสี่ยงๆละครทีวีไม่ได้โกหกจริงๆ!ห

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 18

    เฟิงเย่เสวียน “?”หานเฟิง “?”ไม่เคยได้ยินได้ฟัง ไม่เคยได้พบได้เห็นฉู่เชียนหลีชำเลืองมองทั้งสองอย่างเย่อหยิ่งแวบหนึ่ง สายตาราวกับมองคนบ้านนอก “ปืน นี่คือปืน”นางในฐานะหมอเทวดาที่มีชื่อเสียงระดับโลกของศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ด ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของวงการแพทย์ คนที่อยากทำร้ายนางมีนับไม่ถ้วน นอกจากเชี่ยวชาญทั้งการแพทย์และพิษวิทยา ยังต้องมีความสามารถพอที่จะปกป้องตนเองนางที่ฉลาดหลักแหลมเช่นนี้ และมีทั้งกำลังและความสามารถ เหตุใดจึงมาเสียทีให้กับเจ้าเด็กน้อยอ๋องเฉินจนได้?“ปืน?” เฟิงเย่เสวียนประหลาดใจสิ่งของเล็กๆ สีดำเช่นนี้ สามารถปล่อยพลังที่รุนแรงเช่นนี้เลยหรือ?รุนแรงยิ่งกว่ากำลังภายในเสียอีก?อดไม่ได้ที่จะถามต่อ “อะไรคือปืน?”ฉู่เชียนหลีขี้เกียจอธิบาย เป่าปากกระบอกปืนเก้าแปดคาและหมุนกายเดินจากไปตอนผู้ชายคนนี้นอนอยู่บนเตียงท่าทางอ่อนปวกเปียก ที่แท้เสแสร้งทั้งหมดเลย ตอนต่อสู้ฮึกเหิมประดุจมังกรพยัคฆ์ผาดโผน ร่างกายแข็งแรง ทำให้นางต้องปรนนิบัติเปล่าๆ ทั้งคืนกลับเรือนไปนอนอ๋องเฉินอยากตาม “ฉู่…”ฉู่เชียนหลีหันกายกลับมา รูสีดำสนิทชี้มาทางผู้ชาย กล่าวด่าว่าอย่างรำคาญ “อย่ามาพูดไร้สาระ

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 19

    สีหน้าเฟิงเย่เสวียนเคร่งขรึมลง เหตุใดเขาจึงไม่รู้ว่าตนเองหลับไปแค่คืนเดียวก็ ‘ตายแล้ว’?เขาดึงธงสวดวิญญาณที่ขวางหูขวางตาทิ้ง พอก้าวเท้าเดินออกจากเรือนหานเฟิง ก็เห็นนอกเรือนมีร่างเงาเพรียวบางหนึ่งยืนอยู่บนก้อนหิน มือข้างหนึ่งเท้าเอว มืออีกข้างชี้ฟ้า  น้ำเสียงเปี่ยมล้นไปด้วยคุณธรรม“การจู่โจมของมือสังหารอันตรายสุดขีด ช่วงความเป็นความตายพริบตาเดียว! เขา ยืดอกถือกระบี่กระโจนออกไป!”“เขา ผลักภูเขาพลิกทะเล กล้าหาญไร้เทียมทาน!”“เขา เชี่ยวชาญบุ๋นและบู๊ ไม่กลัวความลำบาก!”สีหน้าหญิงสาวโกรธมาก เนื้อหนังบนใบหน้าสั่น ยิ่งเมื่อพูดถึงจุดสูงสุด น้ำลายถึงกับกระเด็น “สุดท้าย ในที่สุดเขาก็ตายใต้คมกระบี่ของมือสังหาร”“...”สาวใช้สิบกว่าคนที่มาล้อมวง ‘ฟังงิ้ว’ ที่นี่ ในที่สุดเบ้าตาก็แดงก่ำไม่สามารถหักห้ามใจได้อีกคิดไม่ถึงว่าเมื่อคืนจะเกิดเรื่องรุนแรงเช่นนี้คิดไม่ถึงว่าท่านอ๋องผู้อาจหาญที่เป็นดั่งเทพสงครามไร้พ่ายในสนามรบ สุดท้ายแล้วกลับต้องมาจบชีวิตให้กับมือสังหารไร้นามคนหนึ่ง“ท่านอ๋อง!”ในที่สุดสาวใช้คนหนึ่งก็อดกลั้นไม่อยู่ ปล่อยโฮร้องไห้ออกมา“ท่านอ๋องช่างน่าเวทนายิ่ง! ท่านอ๋อง ท่านนอนตาย

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 20

    เรือนข้างหลังจากฉู่เชียนหลีกลับถึงเรือน กินอาหารเช้าอย่างเรียบง่ายเสร็จ ก็นั่งอยู่หน้ากระจกทองเหลือง สังเกต ‘ปาน’ บนใบหน้าเยว่เอ๋อร์กำลังเก็บของที่ระเกะระกะบนโต๊ะ จนถึงตอนนี้ก็ยังตกใจ ตะลึงงัน ไม่กล้าเชื่อ มองแผ่นหลังของผู้หญิงอย่างไม่เชื่อสายตานิสัยคุณหนูเปลี่ยนไปกะทันหัน กินมากขึ้น นอนหลับสนิท และยังไม่รักท่านอ๋องมากเช่นนั้นเหมือนเมื่อก่อนแล้ว แม้แต่วิธีการพูด การกระทำ ก็เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิงนี่…ยังเป็นคุณของนางจริงหรือ?เงาสะท้อนในกระจกทองเหลือง ฉู่เชียนหลีประสานสายตากับเยว่เอ๋อร์ “มีอะไร?”เยว่เอ๋อร์ลุกลน รีบก้มศีรษะลง “ไม่ ไม่มีอะไรเจ้าค่ะ”“รู้สึกว่าข้าแปลกหน้ามากหรือ”คำพูดประโยคเดียวของฉู่เชียนหลี ชี้ให้เห็นสิ่งที่เยว่เอ๋อร์คิดในใจจริงๆนางยิ้มแล้ว “เยว่เอ๋อร์ เจ้ายังเด็ก ไม่รู้จักความโหดร้ายของโลกใบนี้ ไม่มีใครเหมือนเดิมตลอดไป ตอนเจ้าอายุห้าขวบชอบเล่นแมลงปอไม้ไผ่ เมื่อเจ้าอายุสิบห้าจะยังชอบเล่นหรือไม่”นางยังคงเป็นนาง“เห็นหรือไม่” นางชี้ใบหน้าของตนเอง “นี่ไม่ใช่ปาน แต่เป็นพิษ”“อะไรนะ?!” เยว่เอ๋อร์เบิกตากว้างอย่างตะลึงงันพิษ!พิษชนิดนี้เข้าสู่ร่างกายตั้งแต

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 21

    เฟิงเย่เสวียนได้เห็น วิญญาณก็แทบขึ้นสวรรค์คาที่ “...”แม้แต่คนแสดงงิ้วที่แสดงอยู่ในโรงละครก็ยังมิได้แต่งตัวเลยเถิดเพียงนี้ เพื่อให้ได้หนังสือหย่า นางถึงกับไม่ห่วงหน้าตาตนแรกเริ่ม คนที่ทำทุกวิถีเพื่อให้ได้แต่งกับเขาคือนางมายามนี้ คนที่พยายามสุดกำลังที่จะไปจากเขาก็คือนางนี่นางเห็นเขาเป็นสิ่งใด?กวักมือก็มา สะบัดมือก็ไปรึ?เขาจ้องนาง ริมฝีปากบางเอ่ยเย็นชาออกมาคำหนึ่ง “เปลี่ยน”ฉู่เชียนหลี “ไม่เปลี่ยน!”เพื่อไปร่วมงานเลี้ยงในวัง นางตั้งใจแต่งตัวอย่างพิถีพิถันครึ่งชั่วยาม แล้วจะให้ความตั้งใจทั้งหมดของนางสูญเปล่าได้อย่างไรกัน?แผนการของนางเป็นเช่นนี้นางเข้าวังไปกับเขา เมื่อขุนนางบุ๋นบู๊ทั้งมวลที่มาร่วมงานได้เห็นก็จะพากันด่าทออ๋องเฉินลับหลังว่าดวงตาไร้แวว อ๋องเฉินน่าสงสารนัก เหตุใดอ๋องเฉินจึงอดทนอย่างกับสีทนได้ถึงเพียงนี้!จากนั้น พออ๋องเฉิน 'สีทนได้' โมโห ก็จะมอบหนังสือหย่าให้นาง!ได้ยินเสียงในใจนาง มุมหน้าผากของเฟิงเย่เสวียนเต้นตุบๆสีทนได้?เขาสะกดความอยากเข้าไปบีบคอสตรีผู้นี้ให้ตายเอาไว้ แล้วจับนางโยนขึ้นรถม้า ดึงสองหนวดยาวๆ บนหัวนางออกมาเช็ดปากนางแรงๆ ให้ชาดแดงบนปากนางห

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 22

    คุณหนูมีตระกูลที่ถูกเบียดออกไปกวาดสายตาไปมองฉู่เชียนหลี พร้อมแววเย็นเฉียบอันแสนไม่พอใจฉายอยู่ในดวงตา 'ไม่รู้จักถ่ายปัสสาวะมาส่องสารรูปของตนเสียบ้าง หน้าตาเช่นนี้ยังกล้าออกมาให้ขายหน้าประชาชีอีก?' ฮึ!นางยกมุมปากขึ้น หากยามเอ่ยปากน้ำเสียงกลับอ่อนหวานนัก“พระชายาอ๋องเฉิน เมื่อครู่ข้าเพียงบังเอิญสะดุดล้ม ท่านผลักข้าเสียเจ็บนักนะเจ้าคะ...”นางยกมือขึ้นกุมข้างไหล่เบาๆ พร้อมส่งสายตาห่อเหี่ยวแสนน่าสงสารว่าตนถูกรังแกฉู่เชียนหลีมิได้เห็นผู้ใดอยู่สายตา กลับเข้าไปคล้องแขนของเฟิงเย่เสวียน เอ่ยคำทั้งน้ำเสียงที่ต้องการป่าวประกาศศักดิ์และสิทธิ์ที่ตนมี“ไม่ใช่แต่เจ้า ไม่ว่าสตรีใดที่ไม่ใช่ข้ามาเข้าใกล้เขาก็ล้วนไม่ได้ทั้งสิ้น! พวกเจ้าระวังตัวไว้ให้ดีเถิด!” น้ำเสียงอวดดียิ่งเมื่อทุกคนได้ยินความนี้ ตอนแรกกลับนิ่งอึ้งไป แล้วจากนั้นก็พากันหัวเราะจนหุบปากไม่ลงสวรรค์!ราวกับพวกเขาได้ยินเรื่องตลกที่น่าขบขันที่สุดในใต้หล้า!พระชายาอ๋องเฉินที่ไม่เป็นที่รักกลับกล้าอวดดีถึงเพียงนี้?สตรีผู้นี้ไปเอาความกล้ามาจากที่ใดกัน?ตามความเข้าใจที่พวกเขามีต่อตัวอ๋องเฉิน อีกไม่ถึงสามวินาที อ๋องเฉินจะต้องผลักฉู่

Latest chapter

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1212

    สองวันต่อจากนั้น ค่อนข้างสงบเพียงแต่สงครามกำลังจะปะทุขึ้นแล้ว เมื่อครึ่งเดือนก่อน อ๋องเฉินยึดเมืองเจียหนานได้ในคราวเดียว เพื่อโต้ตอบ ฮ่องเต้หลีเลือกที่จะร่วมมือกับแคว้นซีอวี้ ได้รับม้าศึก อาวุธ และยอดทหารที่หนึ่งคนสามารถสู้สิบคน เตรียมพร้อมลงสนามรบทุกเมื่อ  สงครามดุเดือดขึ้นเรื่อยๆ“กลับมาอย่างปลอดภัยนะ”ฉู่เชียนหลีผูกสายรัดเอวของเสื้อเกราะอ่อน สวมเสื้อเพ้าชั้นนอก และจัดแจงให้เฟิงเย่เสวียน ก่อนออกเดินทาง โอบเอวของเขาไม่ยอมปล่อยเป็นเวลานานเฟิงเย่เสวียนลูบศีรษะน้อยๆ ของนาง“อยู่บ้านดูแลเว่ยซีกับจื่อเยี่ยให้ดี อย่างมากข้าไปสองวันก็กลับ”“ระวังตัวด้วย”“อืม”จูบกลางหว่างคิ้วของนาง ถือกระบี่เดินจากไปฉู่เชียนหลีไปส่งถึงประตูใหญ่ กระทั่งมองไม่เห็นแผ่นหลังของเขา จึงจะกลับจวนร่างกายของอวิ๋นอิงฟื้นตัวได้ดี สีหน้าก็ดูดีขึ้นมาก มีกู่แพทย์คอยบำรุงรักษา สุขภาพของนางค่อยๆ ดีขึ้น และไม่กระอักเลือดแล้ว“พระชายา งานเลี้ยงอายุครบหนึ่งปีของเว่ยซีกับจื่อเยี่ย จะเชิญใครบ้างเจ้าค่ะ?” อวิ๋นอิงกำลังวางแผนพริบตาเดียว ยังเหลืออีกเจ็ดวัน เจ้าเด็กน้อยทั้งสองก็จะอายุหนึ่งปีแล้วเวลาผ่านไปเร็วมาก

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1211

    เมื่อได้ยินเช่นนี้ สีหน้าจวินลั่วยวนเปลี่ยนฉับพลัน กลิ่นอายรอบกายขรึมลง มีความตื่นตระหนกสายหนึ่งแลบผ่านแววตาอย่างรวดเร็วพริบตาเดียวไม่นานก็สงบลง บนใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธ“ท่านหมายความว่าอย่างไร?”“นี่ท่านพูดอะไรของท่าน!”นางสะบัดมือของจวินชิงอวี่หลุด ลุกขึ้นยืน ทั่วร่างเต็มไปด้วยความโกรธที่ถูกปรักปรำ“ข้าเป็นน้องสาวแท้ๆ ของท่าน ท่านกลับคิดว่าข้าทำเรื่องที่ไร้มโนธรรมเช่นนี้? เสด็จพี่สาม ก่อนที่ท่านจะพูด เคยถามใจตัวเองดูหรือไม่!”นางคำรามออกมาอย่างแค้นเคืองต่อความไม่เป็นธรรม ดวงตาก็กลายเป็นสีแดงไปแล้วจวินชิงอวี่รักนางมาก ตั้งแต่เล็กจนโต ไม่เคยตำหนินางแม้แต่คำเดียวแต่…“ยวนเอ๋อร์ เดิมทีคนที่วางยา เป็นคนตัดฟืนของทำเนียบเจียงหนาน รับคำสั่งจากฮองเฮาตงหลิง วางยาพิษทำร้ายพี่น้องฝาแฝด ถูกพระชายาอ๋องเฉินจับได้”“แต่เมื่อวานเจ้าส่งคนไปทำเนียบ คนตัดฟืนคนนี้ก็มาอยู่ที่ศาลาพักม้าแล้ว”“กลางคืน เสด็จแม่ก็ถูกพิษแล้ว”นำทั้งหมดนี้มาเชื่อมโยงกัน จะไม่ให้เขาสงสัยได้อย่างไร?จวินลั่วยวนเบิกตากว้าง“ข้าเป็นห่วงความร่วมมือของแคว้นหนานยวนกับอ๋องเฉิน ส่งคนไปลองถามดู ท่านกลับคิดว่าข้าติดสิ

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1210

    ความจริงเป็นไปตามที่ฉู่เชียนหลีคาดการณ์หลังจากจวินชิงอวี่ตามจวินลั่วยวนทัน ปลอบใจนางอยู่นาน เขารับประกันและใช้คำพูดดีๆ สารพัด จึงจะสามารถทำให้น้องสาวหายโกรธกลับถึงศาลาพักมา ก็พลบค่ำแล้วฮองเฮาหนานยวนฟื้นแล้ว“เสด็จแม่ ท่านฟื้นแล้ว!”“เสด็จแม่ ท่านรู้สึกไม่สบายตรงไหนหรือไม่? เจ็บคอหรือไม่?”จวินชิงอวี่ถามอย่างประหม่า จวินลั่วยวนรินน้ำอุ่นมาหนึ่งแก้ว ทั้งสองเฝ้าอยู่ที่หน้าเตียง มองมารดาด้วยความห่วงใยฮองเฮาหนานยวนรู้สึกเจ็บแบบแสบร้อนในลำคอ แค่ขยับเล็กน้อยก็เจ็บแสบมาก แม้กลืนน้ำก็เจ็บจนหน้าซีดนางเม้มปาก ไม่พูดสักคำจวินชิงอวี่จับมือของนาง กล่าวอย่างปวดใจ“เสด็จแม่ ท่านไม่ต้องกังวล พวกเราใช้ยาที่ดีที่สุดแล้ว ต้องดีขึ้นแน่นอน ทักษะการแพทย์ของพระชายาอ๋องเฉินเลิศล้ำ มีนางอยู่ ท่านจะต้องหายดีแน่นอน”จวินลั่วยวนพยักหน้า“ใช่แล้ว เสด็จแม่ ท่านก็อย่าเสียใจไปเลย อีกสามถึงห้าปีก็หายแล้ว”“...”คำพูดนี้ ฟังดูก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรแต่หากตั้งใจฟัง สำหรับฮองเฮาหนานยวนที่ชอบร้องเพลง ไม่ใช่จงใจพูดเสียดสีหรอกหรือ?ฮองเฮาหนานยวนถือแก้วน้ำ พิงอยู่ตรงหัวเตียง ค่อยๆ หลุบตา พูดไม่ออก และไม่อยา

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1209

    จวินลั่วยวนตื่นตระหนกแล้วนางคิดไม่ถึงว่าตัวเองจะตกหลุมพรางของฉู่เชียนหลี ตอนนี้ไม่สามารถทำให้นางตาย และยังทำให้เสด็จพี่สามสงสัย ไม่เพียงไม่ได้อะไรเลย แถมยังเสียอีกต่างหาก“เสด็จ เสด็จพี่สาม…”จบแล้ว!นางจะสูญเสียความรักของเสด็จพี่สามไม่ได้!จะปล่อยให้นางแพศยาฉู่เชียนหลีทำสำเร็จไม่ได้เด็ดขาด!สมองของจวินลั่วยวนแล่นอย่างรวดเร็ว ในเวลาสั้นๆ สองวินาที คิดแผนรับมือได้แล้ว เบ้าตาแดงก่ำโดยตรง มีน้ำตาไหลออกมาจากดวงตาที่กลมโต นางกล่าว“เสด็จพี่สาม ดีจังที่ท่านไม่เป็นอะไร!”“ข้าได้ยินซวงซวงบอกว่าท่านกับพระชายาอ๋องเฉินออกมาด้วยกัน และยังมาสถานที่ลับเช่นนี้อีก ข้าคิดว่าพวกท่านทำ…เรื่องอะไรที่ให้คนอื่นรู้ไม่ได้เสียอีก”“ข้าเป็นห่วงท่านจึงตามมา เสด็จพี่สาม ท่านไม่โทษข้ากระมัง?”น้ำตาแห่งความกังวลและไร้เดียงสาไหลออกมาจากหางตาของนางจวินชิงอวี่ชะงักเล็กน้อย“เป็นห่วง?”“ใช่แล้ว ท่านเป็นพี่ชายของข้า พระชายาอ๋องเฉินก็เป็นผู้หญิงที่มีสามีแล้ว พวกท่านสองคนอยู่ในห้องเดียวกัน และยังอยู่ด้วยกันนานเช่นนี้ จะไม่ให้คิดมากได้อย่างไร?”ทุกคำพูดของจวินลั่วยวนฟังดูมีเหตุผลมาก“ข้าคิดว่าพวกท่านกำลัง…

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1208

    หลังจากหัวเราะอย่างเย้ยหยัน นางไม่พูดอะไรอีก โคจรกำลังภายใน ประสานฝ่ามือกับจวินชิงอวี่จวินชิงอวี่รู้สึกเพียงมีกำลังภายในที่เย็นเฉียบสายหนึ่งไหลเข้าสู่ร่างกาย ความเย็นและความร้อนประสานกัน ปรับสมดุลให้กันและกัน เขารีบหลับตา โคจรเคล็ดวิชาเหมันต์ภายในห้อง เข้าสู่ความเงียบ…นอกประตูองครักษ์ลับเฝ้าไว้นอกประตูใหญ่ รถม้าคันหนึ่งค่อยๆ แล่นเข้ามาหยุดอยู่ที่ตรงข้ามกับบ้าน มือเล็กๆ ที่ขาวนวลข้างหนึ่งเลิกม่านขึ้น แล้วกระโดดลงมา“ที่นี่หรือ?”จวินลั่วยวนยืนอย่างมั่นคง เงยหน้ามองไปเป็นสถานที่ที่เงียบสงบซวงซวงกล่าวเสียงเบา “เจ้าค่ะองค์หญิง องค์ชายสามกับพระชายาอ๋องเฉินเข้าไปข้างในสามเค่อแล้ว”จวินลั่วยวนหรี่ตา“แม้แต่โรคร้อนก็สามารถรักษา ฉู่เชียนหลีคนนี้พอจะมีความสามารถอยู่บ้าง”ทักษะการแพทย์ดี มีประโยชน์อะไร?สุดท้ายก็ต้องตายอยู่ดีไม่ใช่หรือ?เมื่อวานตอนอยู่หอน้ำชา ได้ยินบทสนทนาของพวกเขาสองคน เมื่อไรที่เริ่มรักษา ห้ามถูกขัดจังหวะเด็ดขาด จะส่งผลให้กำลังภายในย้อนกลับ ทั้งสองจะกระอักเลือดจนตายขอแค่นางบุกเข้าไป ก็สามารถเอาชีวิตของฉู่เชียนหลีเพียงแต่…น่าเสียดายน่าเสียดายที่เสด็จ

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1207

    “ดื่มเยอะๆ”“...เสด็จแม่ยังไม่ฟื้นหรือ?”“หมอบอกว่าอาจจะต้องพรุ่งนี้ เสด็จพี่สาม ฉู่เชียนหลีโกหก ไม่ว่าเวลาไหน ท่านก็ห้ามเชื่อคำพูดของนางเด็ดขาด และไม่ว่ายวนเอ๋อร์ทำอะไร ก็ล้วนทำเพราะหวังดีต่อท่านพี่ ยวนเอ๋อร์ให้ความสำคัญกับคนในครอบครัวยิ่งกว่าชีวิตของตัวเอง”จวินลั่วยวนเงยหน้า กล่าวอย่างจริงจังมากจวินชิงอวี่เชื่อคำพูดของนางอย่างไม่มีเงื่อนไขเขามีแค่น้องสาวคนเดียว เขาไม่ตามใจแล้วใครจะตามใจ? เขาไม่รักแล้วใครจะรัก?“เป็นเด็กดีนะ”วันรุ่งขึ้นตามที่นัดหมายกับฉู่เชียนหลี เดิมทีจวินชิงอวี่ไม่อยากไป ยี่สิบกว่าปีมานี้ มีหมอนับไม่ถ้วนเคยรักษาเขา ไม่มีใครสามารถรักษาโรคร้อนของเขาได้เลยกล่าวอีกนัยคือ เขาไม่เชื่อฉู่เชียนหลี แต่การเดิมพันนั่น…เขาไม่เคยสงสัยยวนเอ๋อร์การเดิมพันนี้ ก็ย่อมไม่จำเป็นต้องมีองครักษ์ลับกล่าว “องค์ชาย ท่านไปดีกว่า ในแคว้นตงหลิง ไม่มีใครไม่รู้ว่าทักษะการแพทย์ของพระชายาอ๋องเฉินเลิศล้ำ ถ้าหากนางสามารถรักษาได้จริงๆ ต่อไปท่านก็ไม่ต้องเจ็บปวดเพราะโรคกำเริบแล้ว”หลังจากจวินชิงอวี่ครุ่นคิด สุดท้ายก็ตัดสินใจไปชานเมืองบ้านหลังหนึ่งที่เงียบสงบเอี๊ยด…“ท่านมา

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1206

    “เช่นนั้นพวกเราเหมือนเดิมพันกัน”“เดิมพันก็เดิมพัน!”นอกหอน้ำชาจวินลั่วยวนมาถึง หลังจากสอบถามข้อมูลคร่าวๆ จากเด็กในร้าน ก็ย่องขึ้นไปบนชั้นสอง เข้าใกล้ห้องส่วนตัวห้องหนึ่ง เพิ่งแนบหูเข้าไป ก็ได้ยินเสียงสนทนาข้างในเสียงของฉู่เชียนหลี“โรคร้อนอันตรายมาก แค่ไม่ระวังเล็กน้อยก็จะกำเริบ ตอนที่ข้ารักษาเจ้า ต้องเปิดจุดชีพจร กรีดเปิดแผลบนมือและเท้าสี่จุด ใช้เลือดของข้าแลกกับเจ้าครึ่งหนึ่ง ในระหว่างนี้ห้ามถูกรบกวนเด็ดขาด”ลดเสียงกล่าวอย่างจริงจัง“ไม่เช่นนั้น กำลังภายในจะย้อนกลับ ห้ามเลือดไม่ได้ ถึงเวลา ข้าจะตาย เจ้าก็เจ้าตาย”จวินลั่วยวนประหลาดใจฉู่เชียนหลีสามารถรักษาโรคร้อน?ยิ่งกว่านั้น!ประเด็นสำคัญคือ!ห้ามถูกขัดจังหวะกลางคันเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นฉู่เชียนหลีกับองค์ชายสามล้วนจะตาย!ฉู่เชียนหลีตายแล้ว ตำแหน่งพระชายาอ๋องเฉินก็ว่าง อยากได้อ๋องเฉิน ก็ง่ายเหมือนพลิกฝ่ามือแล้วไม่ใช่หรือ?ทันใดนั้น แววตาเร่าร้อนทันทีตื่นเต้นคาดหวังแทบรอไม่ไหวนางกำลังจะเป็นพระชายาอ๋องเฉินแล้ว!การสนทนาภายในห้องกินเวลานานหนึ่งเค่อ ก่อนจะจบลง จวินลั่วยวนรีบวิ่งไปซ่อนตัวที่หัวมุม ประตูห้องเปิดออ

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1205

    จวินลั่วยวนยกมือทั้งสองข้างขึ้น วางลงไปที่คอของฮองเฮาทันใดนั้น ร่างกายของฮองเฮาหนานยวนขยับเล็กน้อย นางรีบดึงมือกลับ ลุกขึ้นยืน และกลับมาดูเป็นเด็กดีอีกครั้ง“ซวงซวง ทางเสด็จพี่สามของข้าเป็นอย่างไรบ้างแล้ว?”ซวงซวงวิ่งเข้ามา“เมื่อครู่ทางองครักษ์มารายงาน หลังจากเสด็จพี่สามออกไป เจอสามีภรรยาอ๋องเฉิน ตอนนี้พวกเขาเข้าไปในหอน้ำชาแล้ว ไม่รู้ว่าคุยอะไรกันลับๆ เจ้าค่ะ”“?”พวกเขายังมีเรื่องให้คุยกันอีกหรือ?เสด็จพี่สามไม่ได้ไปสืบเรื่องของคนร้าย?เหตุใดยังสามารถคุยกับสามีภรรยาอ๋องเฉินดีๆ อีก?คุยอะไรกัน?หรือเป็นความลับที่นางไม่รู้?จวินลั่วยวนไม่อนุญาตให้มีเรื่องที่อยู่เหนือกันควบคุมของนาง กล่าวทันที “ซวงซวง เจ้าเฝ้าเสด็จแม่ไว้ ข้าลองไปดูหน่อย!”“เจ้าค่ะ องค์หญิง!”หอน้ำชาห้องส่วนตัวจวินชิงอวี่นั่งอยู่ที่ข้างโต๊ะ สีหน้าดูไม่ดีนัก และยังบึ้งตึงเหมือนจะกินคน กัดฟันจนดังก๊อกๆ“ท่านกล้าบอกว่ายวนเอ๋อร์เป็นคนวางยา!”จ้องฉู่เชียนหลีด้วยความโกรธโมโหมากถ้าหากไม่ใช่เพราะอ๋องเฉินนั่งอยู่ที่ข้างๆ เกรงว่าเขาลงมือโดยตรงแล้วฉู่เชียนหลีกล่าว“ตอนที่พวกเราออกจากศาลาพักม้า องครักษ์ลับ

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1204

    ฉู่เชียนหลี “องค์หญิงมั่นใจในตัวเองจริงๆ เหมือนจะลืมไปแล้วว่าผู้หญิงที่ถูกอ๋องเฉินโยนออกไปเป็นใคร?”“...”รออ๋องเฉินถีบฉู่เชียนหลีทิ้ง นางจะจับฉู่เชียนหลีมาขังไว้ ทรมานทุกวัน ทำให้นางทรมานยิ่งกว่าตายจวินลั่วยวนเถียงไม่ไหว พลันเบ้าตาแดงก็กระโจนเข้าไปในอ้อมแขนของจวินชิงอวี่ หาที่ปลอบใจตัวเองจวินชิงอวี่ย่อมเข้าข้างน้องสาว“ฉู่เชียนหลี ดูจากพฤติกรรมที่ชอบบีบคั้นคนของเจ้า มันก็ไม่แปลกอะไรที่เจ้าจะสามารถวางยาพิษ”อาศัยเพียงแค่การคาดเดา ก็ตัดสินโทษของนางแล้ว?น่าขำ!พี่น้องคู่นี้ คนหนึ่งหน้าไหว้หลังหลอก อีกคนความรักบังตา ช่างเป็นคู่ที่เหมาะสมกันจริงๆ“มันน่าอัศจรรย์จริงๆ ที่แคว้นหนานยวนของพวกท่านสามารถพัฒนามาจนถึงปัจจุบัน”จวินชิงอวี่หน้าบึ้งทันที “เจ้าหมายความว่าอย่างไร?”ปัญหาส่วนตัว ตอนนี้จะลามปามไปถึงบ้านเมืองแล้ว?“ตามที่พูด”“เจ้า!”เขาโมโหจนจะเดินเข้าไปหานางพลันเฟิงเย่เสวียนยกฝ่ามือใหญ่ ดึงนางมาที่ข้างกาย “ข้าตัดสินใจได้แล้วว่าจะเลือกอะไร”ทุกคนรีบหันไปมอง รอคอยคำพูดต่อจากนี้เฟิงเย่เสวียนกล่าวอย่างใจเย็น“แคว้นหนานยวนต่ำช้าเช่นนี้ ต่อให้ข้าแพ้ศึกครั้งนี้ ก็ไม่ร่วม

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status