แชร์

บทที่ 14

พ่อบ้านยกทองแท่งก้อนหนึ่งยิ้มปากแทบฉีกเดินออกไป

เยว่เอ๋อร์ตะลึงจนเหม่อ “คุณหนูเจ้าคะ นะ นะ นะ นั่นคือทองคำแท่ง...ขะ ขะ ขะ เขาเอาไปแล้ว นะ นะ นั่น...”

กระทั่งพูดจาก็ยังติดๆ ขัดๆ เสียแล้ว

ฉู่เชียนหลีตบไหล่นางเอ่ยด้วยน้ำเสียงผ่อนคลาย “เงินทองเป็นของนอกกาย ไม่ต้องใส่ใจ ยามนี้เจ้าจงรีบไปเตรียมกระดาษพู่กันมาให้ข้า ยิ่งไวยิ่งดี”

ยังดีที่ก่อนนี้นางหลักแหลมจึงวางแผนจัดเก็บเงินที่หามาได้

ส่วนหนึ่งเอาไว้กับบัตรธนาคาร อีกส่วนหนึ่งเป็นเงินสด ที่เหลือซึ่งเป็นเงินส่วนใหญ่ก็เอาไปซื้อทองคำแท่งจนหมดและเรียงไว้เหมือนก่อผนัง

ฉะนั้น นางจึงมีทองคำแท่ง อยู่มากมายเท่ากับผนังด้านหนึ่งทีเดียว

แม้จะสูญเงินสดไปเป็นล้านๆ แต่ก็ยังมีทองแท่งอยู่อีกมากเพียงนี้ หลังจากโศกเศร้ามาหนึ่งคืน ที่สุดอารมณ์ก็ผ่อนคลายลงบ้างแล้ว ยามนี้นางมีเรื่องที่สำคัญกว่าจะต้องทำ

ตัวทั้งตัวของเยว่เอ๋อร์เหมือนถูกสายฟ้าฟาด แต่หัวจรดเท้ามีแต่ความงุนงง นางไปหยิบกระดาษและพู่กันมา มองแผ่นหลังของคุณหนูขณะเดินจากไป เนิ่นนานจากนั้นก็ยังดึงสติกลับมาไม่ได้

นี่

นี่ใช่คุณหนูของนางจริงหรือ?!

ณ เรือนหานเฟิง

ด้วยอ๋องเฉินปล่อยข่าวออกไปว่าได้รับบาดเจ็บสาหัส เวลานี้เขาจึงกำลังล้มหมอนนอนเสื่อ เซียวจือฮว่าคอยดูแลเขาไม่ห่างแม้สักชุ่น[footnoteRef:1] [1: ชุ่น เป็นหน่วยวัดความยาวของจีนโบราณ มีความยาวราว 3.33 ซม. ]

“เจ้าสารเลวนี่ช่างใช้วิธีชั่วช้านัก จะต้องควานหาตัวมันออกมาแล้วลงทัณฑ์ให้สาหัสจึงจะดี!” เซียวจือฮว่ายกถ้วยยามา ทางหนึ่งก็เป่ายาให้เย็นเพื่อป้อนชายหนุ่ม อีกทางหนึ่งก็กล่าวอย่างขุ่นเคือง

หานเฟิงยืนอยู่ข้างๆ กล่าวว่า

“พระชายารองไม่ทราบ ศึกใหญ่ครานี้มีคนลอบเผยกลยุทธ์ เป็นเหตุให้ท่านอ๋องถูกลอบทำร้าย ทั้งกองทัพเกือบมีอันต้องย่อยยับ และด้วยเหตุนี้เองท่านอ๋องจึงได้รับบาดเจ็บภายในรุนแรง เนิ่นนานไม่หายเสียทีขอรับ”

เซียวจือฮว่า มีโทสะไม่น้อย “บังอาจนัก กล้าหักหลังอ๋องเฉิน ขายบ้านเมือง ความผิดนี้ต้องประหาร!”

นางเดือดดาลหนักหนา

“แค่ก...” ข้างบนเตียง ชายหนุ่มปิดปากไอทีหนึ่ง ใบหน้าค่อนข้างซีดขาว สีหน้าอ่อนล้า เห็นชัดว่าอ่อนแอเหลือกำลัง

เซียวจือฮว่าปวดใจนัก จึงยิ่งดูแลเขาอย่างใส่ใจ

ซู่ๆ ...

ข้างนอก มีเสียงใด บางเบายิ่งนัก

ใบหูของเฟิงเย่เสวียนกระดิกน้อยๆ ช้อนตาขึ้นมองไป ดวงตาที่ดูคล้ายซีดเผือดแต่กลับคมกริบดุจตาอินทรี พริบตานั้นสามารถสังเกตเห็นร่างหนึ่งที่ซ่อนตัวอยู่ในพุ่มดอกไม้ข้างนอกได้

พุ่มดอกไม้หลายหลากสี

ในกองหญ้า มีหัวเล็กๆ หัวหนึ่งซ่อนอยู่ข้างใน แผงร่างอยู่ท่ามกลางพุ่มดอกไม้ โผล่แต่หัวออกมา เอาเศษหญ้าคลุมอยู่เต็มหัว มีเพียงดวงตาคู่หนึ่งเผยออกมา และกำลังจับจ้องเหตุการณ์ภายในห้อง

เพียงแค่คอยจับตาดูอ๋องเฉินเอาไว้และหักหลังอ๋องเฉิน หนังสือหย่าจะยังอยู่อีกไกลหรือ?

ฮ่าๆๆ!

ฉู่เชียนหลีฝืนทนต่อแสงแดดแผดจ้าและความเจ็บปวดจากยุงแมลงกัด ยังคงคลานอยู่ที่นั่นไม่ขยับเขยื้อน

ทางหนึ่งจ้องมอง อีกทางหนึ่งก็เอาปลายพู่กันใส่ปากแต้มน้ำลาย จากนั้นก็จดบันทึกลงในสมุดเล่มเล็ก...

แผนเดิมที่ฉู่เชียนหลีวางไว้นั้น จับตาดูแค่สามชั่วยามก็คงพอประมาณแล้ว แต่นึกไม่ถึงว่าชายารองเซียวนั่นกลับนั่งอยู่แต่เช้าจรดค่ำ คอยดูแลอ๋องเฉินตลอดเวลา ตกกลางคืนยังอยากจะ 'ปรนนิบัติ' ถึงบนเตียงเสียอีก

แต่อ๋องเฉินปรามไว้

“แค่ก...ดึกแล้ว จือฮว่าวุ่นวายมาทั้งวัน ควรรีบกลับไปพักผ่อนเสีย”

เซียวจือฮว่าไม่อยากไป

นางเข้าจวนมาสามวันแล้ว แต่อ๋องเฉินกลับยังมิได้เชยชิดนาง หากเรื่องนี้แพร่ออกไป ผู้อื่นต้องเยาะเอา

นางอยากทำให้คืนเข้าหอครบสมบูรณ์...

“เฉิน ข้า...”

ชายหนุ่ม “แค่กๆ! แค่กๆๆ...”

“...”

คำพูดมาถึงริมฝีปาก กลับต้องยั้งเอาไว้

เซียวจือฮว่าไม่กล้าเร่งร้อนร้องขอ หากเร่งรัดเกินไปรังแต่จะทำให้อ๋องเฉิน รังเกียจ หลังจากเอ่ยถ้อยคำแสดงความเป็นห่วงอีกสองสามประโยค จึงถอยออกไปอย่างว่าง่ายรู้ความ

หลังจากนางไปแล้ว ชายหนุ่มพลันหยุดไอและแววตาก็ขึงขังขึ้นมาด้วย เมื่อเทียบกับอาการอ่อนเพลียยามกลางวันแล้วราวกับเป็นคนละคน

หานเฟิงปรากฏตัวและเข้ามาหา “นายท่าน พระชายาเป็นสายลับจริงๆ ขอรับ นางซุ่มอยู่ข้างนอกมาตลอดหนึ่งวันเต็ม ซ้ำยังสมคบกับบ่าวในจวนให้ส่งข่าวออกไปด้วยขอรับ”

เขาหยิบจดหมายฉบับหนึ่งออกมาจากแขนเสื้อ และส่งให้ด้วยสองมือ

ชายหนุ่มรับมาคลี่ออก เมื่อเห็นเนื้อหาที่อยู่บนนั้น แววตาของเขาก็เคร่งขรึมขึ้นมาอีกคราว

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status