แชร์

บทที่ 22

ผู้เขียน: สกุลหยางมีบุตรสาว
คุณหนูมีตระกูลที่ถูกเบียดออกไปกวาดสายตาไปมองฉู่เชียนหลี พร้อมแววเย็นเฉียบอันแสนไม่พอใจฉายอยู่ในดวงตา 'ไม่รู้จักถ่ายปัสสาวะมาส่องสารรูปของตนเสียบ้าง หน้าตาเช่นนี้ยังกล้าออกมาให้ขายหน้าประชาชีอีก?'

ฮึ!

นางยกมุมปากขึ้น หากยามเอ่ยปากน้ำเสียงกลับอ่อนหวานนัก

“พระชายาอ๋องเฉิน เมื่อครู่ข้าเพียงบังเอิญสะดุดล้ม ท่านผลักข้าเสียเจ็บนักนะเจ้าคะ...”

นางยกมือขึ้นกุมข้างไหล่เบาๆ พร้อมส่งสายตาห่อเหี่ยวแสนน่าสงสารว่าตนถูกรังแก

ฉู่เชียนหลีมิได้เห็นผู้ใดอยู่สายตา กลับเข้าไปคล้องแขนของเฟิงเย่เสวียน เอ่ยคำทั้งน้ำเสียงที่ต้องการป่าวประกาศศักดิ์และสิทธิ์ที่ตนมี

“ไม่ใช่แต่เจ้า ไม่ว่าสตรีใดที่ไม่ใช่ข้ามาเข้าใกล้เขาก็ล้วนไม่ได้ทั้งสิ้น! พวกเจ้าระวังตัวไว้ให้ดีเถิด!” น้ำเสียงอวดดียิ่ง

เมื่อทุกคนได้ยินความนี้ ตอนแรกกลับนิ่งอึ้งไป แล้วจากนั้นก็พากันหัวเราะจนหุบปากไม่ลง

สวรรค์!

ราวกับพวกเขาได้ยินเรื่องตลกที่น่าขบขันที่สุดในใต้หล้า!

พระชายาอ๋องเฉินที่ไม่เป็นที่รักกลับกล้าอวดดีถึงเพียงนี้?

สตรีผู้นี้ไปเอาความกล้ามาจากที่ใดกัน?

ตามความเข้าใจที่พวกเขามีต่อตัวอ๋องเฉิน อีกไม่ถึงสามวินาที อ๋องเฉินจะต้องผลักฉู่
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (2)
goodnovel comment avatar
อี๊ด ฟขพ
ตอนสั้นไปนะคะ เนื้อเรื่องน่าติดตาม โฆษณาเยอะไปหน่อย
goodnovel comment avatar
PP Channel
ทำไมต้องเว้นวรรคคำด้วยคะ
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 23

    ระหว่างที่แขกเหรื่อกำลังสนทนากันอย่างครื้นเครง นอกห้องโถงก็มีเสียงประกาศอันนุ่มนวลขันทีดังเข้ามา“ฮ่องเต้เสด็จ! องค์รัชทายาทมาถึงแล้ว...”ทุกคนหยุดพูดในทันใด พากันลุกขึ้นยืน ฉู่เชียนหลีช้อนตาขึ้นมองไปตามสายตาทุกคนพรมแดงปูยาวออกไปจนถึงนอกโถง ที่สุดปลายทางนั้นร่างในชุดเหลืองอร่ามเดินไพล่หลังเข้ามา ฮ่องเต้องค์ปัจจุบันราวสี่สิบพระชันษา เกล้าผมเรียบทุกกระเบียดนิ้ว อาภรณ์จัดการจนไม่มีแม้รอยยับย่นสักน้อย เชิดหัวขึ้นน้อยๆ ดวงตาจับจ้องเบื้องหน้า บนพระวรกายถูกห่อหุ้มด้วยความสูงศักดิ์มาแต่กำเนิดผู้ที่ตามหลังเขามาคือชายหนุ่มอายุราวยี่สิบเจ็ดยี่สิบแปดปีผู้หนึ่งสวมชุดผาว[footnoteRef:1]สีน้ำตาลลายหม่างเปี่ยมสง่าราศี [1: ชุดผาว คือ เสื้อคลุมยาวทั้งตัวแขนยาว] เขาก็คือรัชทายาทองค์ปัจจุบัน โอรสองค์โตของฮ่องเต้นามเฟิงเจิ้งอวี้ ฮ่องเต้นำองค์รัชทายาทเข้ามายังโถงใหญ่ ท่ามกลางสายตาของทุกผู้ทุกคน เมื่อเดินไปถึงที่นั่งหลักซึ่งอยู่สูงสุดแล้ว ทุกคนก็ถวายบังคมเสร็จสิ้นพิธีนั่งลงฮ่องเต้เริ่มเอ่ยปาก “เมื่อสองเดือนก่อน พวกซยงหนูคอยรุกรานชายแดนไม่หยุดหย่อน เหล่าราษฎรที่ชายแดนต้องมีความเป็นอยู่ยากลำ

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 24

    ทุกคนมองนางแล้วพากันหัวเราะสตรีอัปลักษณ์ผู้นี้แต่งกายน่าเกลียดนักหนา สีสันฉูดฉาดราวกับผีเสื้อยักษ์กลางพุ่มดอกไม้ ยิ่งเมื่ออยู่กับใบหน้าที่มีปาน ยิ่งอัปลักษณ์เสียจนเทพและมนุษย์ยังชิงชังนางกลับเอาความกล้าที่ใดมาเอ่ยวาจา?ฮ่องเต้หันมามองด้วยสีหน้าไม่รู้ว่าควรร้องไห้ดีหรือว่าควรจะหัวเราะดี อีหลักอีเหลื่อ“พระชายาอ๋องเฉิน เจ้าแต่งตัวเรียบหน่อยเถิด”สีสันฉูดฉาดเช่นนี้ เหมาะกับงานไว้อาลัยเสียมากกว่า“ฝ่าบาท หม่อมฉันแต่งตัวเรียบไม่ได้เพคะ!” ฉู่เชียนหลีเอามือกุมที่หน้าอก “อ๋องเฉินรักใคร่หม่อมฉันแต่ผู้เดียวและยังเลือกเสื้อผ้าให้หม่อมฉันด้วยตนเอง แต่เสื้อผ้านี้ก็น่าเกลียดนัก ไม่ทราบเช่นกันว่าครั้งอ๋องเฉินเข้าทำศึกถูกทำร้ายจนตาบอดเสียแล้วหรือไม่”เฮ้อ!นางถอนใจหนักๆ หนหนึ่งนี่เป็นคำด่าชัดๆ ทำเอาสีหน้าของเฟิงเย่เสวียนดำทะมึนลงทันใด แต่ความสนใจของทุกคนกลับไปอยู่ที่อีกประเด็นหนึ่งสตรีอัปลักษณ์ผู้นี้หรือจะเป็นที่รัก?ฝันกลางวันกระมัง?รัชทายาทแย้มยิ้ม “การแต่งกายของพระชายาอ๋องเฉินในวันนี้ เหมาะกับการเต้นระบำยิ่งนัก ดูทีว่าคงตั้งใจมาเต้นระบำให้อ๋องเฉินในงานฉลองชัยชนะครานี้สักเพลงกระมัง?

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 25

    อูย…ยามถ้อยคำนี้เอ่ยออกไป ทั้งงานล้วนต้องตกตะลึงเมื่อองค์รัชทายาทขึ้นครองราชย์ พระชายาองค์รัชทายาทก็จะเป็นถึงฮองเฮาแห่งแคว้นตงหลิง เป็นสตรีที่สูงศักดิ์ที่สุดในใต้หล้า แล้วจะมาเต้นระบำต่อหน้าผู้คนเช่นนางงิ้วได้อย่างไร?พระชายาองค์รัชทายาทกล่าวเช่นนี้ นับเป็นการลบหลู่องค์รัชทายาทโดยแท้พระชายาองค์รัชทายาทซึ่งถูกเอ่ยถึงนี้คือสตรีที่สูงส่งและงดงามผู้หนึ่ง นางกวาดสายตาเย็นเฉียบมาที่ฉู่เชียนหลีคราวหนึ่ง มิได้เห็นหญิงอัปลักษณ์ผู้นี้อยู่ในสายตาแม้แต่น้อย“พระชายาอ๋องเฉิน เจ้าบังอาจนัก! ถึงกับเอาข้าไปเทียบกับพวกนางงิ้ว!” เสียงน่าเกรงขามดังขึ้น ความน่าเกรงขามที่อยู่ภายในกายประหนึ่งภูเขาลูกหนึ่งกำลังทับตัวฉู่เชียนหลีอยู่มิเกรี้ยวโกรธหากน่าเกรงขามมีละครเด็ดให้ดูแล้ว!ทุกคนพากันหยัดตัวตรงขึ้นอีกหลายส่วน รอดูว่าฉู่เชียนหลีจะถูกข่มเหงจนร้องไห้อย่างไรฉู่เชียนหลีลูบเล็บมือกลมมนของตนด้วยท่าทีสบายอุรา ย้อนถามประโยคหนึ่งว่า “ก็มิใช่ว่าองค์รัชทายาทเริ่มก่อนหรอกหรือ? เขาให้ข้าเต้นรำได้ แล้วท่านจะเต้นไม่ได้หรืออย่างไร?”พระชายาองค์รัชทายาทบันดาลโทสะนางมีฐานะสูงส่งปานนี้ หญิงอัปลักษณ์เช่นฉู่เ

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 26

    งานเลี้ยงฉลองยังคงดำเนินต่อ ส่วนใหญ่เป็นไปตามฉากตายตัวฮ่องเต้อาศัยเรื่องชนะสงคราม สร้างแรงบันดาลใจและปลุกความฝักใฝ่ให้ขุนนางฝ่ายบุ๋นและบู๊ ว่าควรมุ่งมั่นพัฒนา ปกบ้านป้องชาติส่วนเหล่าขุนนางพากันพยักหน้าเห็นด้วย และดื่มให้อ๋องเฉิน ถือโอกาสนี้ประจบสอพลอพูดจาดีไม่หยุดเจ้ามาข้าไป เจ้าชมข้าฟัง ฉู่เชียนหลีเบื่อหน่ายอย่างยิ่งในที่สุดก็จบแล้วงานเลี้ยงเลิกรา!ฉู่เชียนหลีรีบลุกขึ้นทันที นางนั่งจนเมื่อยก้นไปหมดแล้ว วิ่งปรู๊ดออกจากท้องพระโรงเป็นคนแรก วิ่งไปที่มุมอับไร้ผู้คน เล่นท่าบริหารร่างกายทางวิทยุชุดที่สิบแปดของเด็กประถมมัธยมเพื่อยืดเส้นยืดสายเฟิงเย่เสวียนที่เดินผ่านมาเห็นการเคลื่อนไหวแปลกๆ ของนาง ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ก็ถือว่าคุ้นชินกับความแปลกประหลาดของนางแล้ว“ข้าจะไปเยี่ยมเสด็จแม่”ฉู่เชียนหลีหันกลับไป “เช่นนั้นข้า…”“เจ้าห้ามไป”“...”“ไปรอนอกประตูวัง” สิ้นเสียง เขาก็เดินผ่านนางและตรงไปยังทิศทางหนึ่ง ฉู่เชียนหลีเหลือบมองเขาอย่างไม่สบอารมณ์แวบหนึ่งไม่ไปก็ไม่ไปสิ เขาคิดว่านางอยากไปหรืออย่างไร?ตั้งแต่ในอดีต ความสัมพันธ์แม่สามีกับลูกสะใภ้เข้ากันยากที่สุด นางไม่ต้อ

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 27

    ร่างกายชายคนนั้นแข็งทื่อครู่หนึ่ง หันกายกลับมา ก็เห็นผู้หญิงแปลกหน้าคนหนึ่งปรากฏตัวตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้ ใบหน้านั้น…พอเห็นปานบนใบหน้า เขาก็เดาสถานะของนางได้รางๆ พระชายาอ๋องเฉินสายตาฉู่เชียนหลีไปตกที่มือของเขา หลังจากผ่านความล่าช้าเมื่อครู่ พื้นข้างกายเขามีเลือดหยดสะสมเป็นแอ่งเล็กๆ แล้ว ส่วนทั้งฝ่ามือของเขากลายเป็นสีแดง แลดูน่าตกใจมากนางคิ้วหลิวขมวดเล็กน้อย หยิบผ้าเช็ดหน้าสะอาดผืนหนึ่งออกจากอก จับมือเขามาพันร่างของชายคนนั้นสะดุ้ง “เจ้า…”ตั้งแต่เล็กจนโต นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนเป็นฝ่ายเข้าหาเขาการกระทำของฉู่เชียนหลีกระฉับกระเฉง พันบาดแผลที่ถูกบาดอย่างรวดเร็ว พันอยู่สองรอบก็ผูกเป็นเงื่อนผีเสื้อ ห้ามเลือดเอาไว้แล้ว“กลับไปแล้วรีบล้างด้วยน้ำสะอาดสองรอบ เสร็จแล้วก็ทายาและพันแผล ระวังเรื่องการกิน อย่าโดนน้ำ ระวังการอักเสบนะ”นางพูดพลาง สอดมือเข้าไปในแขนเสื้อพลาง ครั้นจิตนึกคิด นำยาออกมาจากกำไลเฉียนคุนหนึ่งตลับ วางไว้บนมือของเขาฝ่ามือของชายคนนั้นกางออกอย่างแข็งทื่อ มองสิ่งของที่อยู่ในมืออย่างตะลึงงันยา…มีคนยินดีมอบยาให้เขาด้วย…ผ่านไปครู่ใหญ่ สติของเขาจึงจะหวนคืน เงยหน้าข

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 28

    ก๊อกแก๊กๆ…ล้อรถม้าบดทับถนน ก่อให้เกิดเสียงการทำงานของกลไกซ้ำๆ แลดูน่าเบื่อหน่าย ยามดึกขณะงานเลี้ยงในวังหลวงจบก็เป็นเวลาค่ำมากแล้ว รถม้าแล่นอยู่บนถนน มีผู้คนเดินประปรายไม่กี่คน สายลมยามค่ำคืนพัดผ่าน เงาเทียนวูบไหว ยิ่งแลดูเงียบสงบในรถม้า ฉู่เชียนหลีตาปรือ กำลังหาวง่วงนอน มือเล็กวางอยู่บนต้นขาทั้งสอง พลางเคาะนิ้วชี้เบาๆทันใดนั้น มีเสียงที่เหี้ยมเกรียมสายหนึ่งปะทุกลางอากาศฉู่เชียนหลีเบิกตาโพลงฉับพลัน จากนั้นรถม้าโคลงเคลงอย่างรุนแรงแล้วหยุดฉับพลัน แรงเฉื่อยมหาศาลทำให้นางที่ไม่ทันตั้งตัวถลาตกนอกรถม้า เสียงของหานเฟิง“พระชายาโปรดอย่าออกมา!”สิ้นเสียง ก็เกิดเสียงการต่อสู้อย่างดุเดือดฉู่เชียนหลีจับกรอบประตูลุกขึ้น มือซ้ายประคบสีข้างที่ล้มจนเจ็บ มือขวาแง้มม่านขึ้นสองส่วน มองดูสถานการณ์ข้างนอกที่นี่เป็นถนนมืดสลัวไร้ผู้คน ชายชุดดำสิบกว่าคนไม่รู้โผล่ออกมาจากไหน พวกเขาคลุมหน้า มือถือกระบี่คม ปิดล้อมหานเฟิงไว้หานเฟิงตกอยู่ตรงกลาง หนึ่งสู้สิบ สู้จนยากจะแยกว่าฝ่ายไหนเป็นฝ่ายไหนปัง!ซ่า!ผลัวะ!ดาบและกระบี่กระทบกัน เสียดสีจนเกิดประกายไฟที่รุนแรง ทำให้อากาศก็ดุดันขึ้นสามส่วน ป

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 29

    ฉู่เชียนหลีสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายอันตราย หันกายวิ่งทันทีขาเพิ่งก้าวออกไป ความเจ็บปวดถูกส่งมาจากก้น“โอ๊ย…!”ฆ่าหมูแล้ว!“พระชายา!”หานเฟิงเป็นห่วงสถานการณ์ทางนี้ การโจมตีที่มือรุนแรงขึ้นหลายส่วน เร่งบีบให้มือสังหารล่าถอยโดยเร็วที่สุด แล้ววิ่งไปทางตรอก เห็นเพียงฉู่เชียนหลีล้มคว่ำหน้า สองมือประคบบั้นท้าย คำพูดประโยคแรกคือ “เฟิงเย่เสวียนมารดามันเถอะ!”เขา “...”ฉู่เชียนหลีเจ็บจนสีหน้าบิดเบี้ยว รู้สึกเพียงเหมือนถูกคนเอามีดมาเฉือนเนื้อที่ก้นออกมาหนึ่งชิ้นภายใต้สภาวะที่ยังไม่ฉีดยาชา ความเจ็บปวดกระจายทั่วร่าง เจ็บจนนิ้วเท้านางงุ้มเข้าบ้าชิบ!บัดซบ!ในโลกปัจจุบัน ขนาดฉีดยานางก็ยังกลัวมาถึงยุคโบราณ แม่เอ๊ย!แค่ดูก็รู้ว่ามือสังหารเหล่านี้พุ่งเป้ามาที่อ๋องเฉิน นางนั่งรถม้าของอ๋องเฉิน ส่งผลให้มือสังหารเหล่านี้ทำร้ายนาง หากไม่ใช่เพราะนางมีกำไลเฉียนคุนติดตัว คืนนี้ต้องตายอย่างอนาถแน่“พระชายา ท่านบาดเจ็บตรงไหนหรือ” หานเฟิงเก็บกระบี่เข้าฝัก ประคองฉู่เชียนหลีลุกขึ้นโน้มเอวลงไป เห็นบั้นท้ายของฉู่เชียนหลีกลายเป็นสีแดง สะดุ้งแล้ว รีบหันศีรษะละสายตาทันที “พระชายาโปรดอดทนหน่อย ที่นี่ไม่

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 30

    หลังจากก้นที่บาดเจ็บประคบยาชาก็ชาไปทั้งก้น ริมฝีปากเย็นนั้นประทับลงไป ความรู้สึกแปลกๆ สายหนึ่งแผ่ออก…ชาหนาวเย็นและยังรู้สึกสบาย…อย่างอธิบายไม่ถูก?ฉู่เชียนหลีนอนคว่ำอยู่บนเตียง กอดหมอนไว้ มีความตื้นตันผุดขึ้นในใจหลายส่วนอยู่ในต่างโลก นางโดดเดี่ยวลำพังไร้ที่พึ่ง มีเพียงเด็กน้อยเยว่เอ๋อร์คนนี้ ติดตามนางตั้งแต่เด็ก หลายปีมานี้ ไม่ว่าจะเป็นการกลั่นแกล้งของคนรับใช้ หรือถูกพ่อกากเดนและเหล่าพี่สาวดูหมิ่น เยว่เอ๋อร์ก็จะปกป้องนางตลอดตอนนี้ก็มาช่วยนางดูดสารพิษโดยไม่ห่วงตัวเอง…นางเม้มริมฝีปากเน้น กล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม“เยว่เอ๋อร์ ความดีที่เจ้ามีต่อข้า ข้าเห็นอยู่ในสายตา ข้าเป็นคนมีบุญคุณต้องตอบแทน มีแค้นต้องชำระ จะไม่ปล่อยให้เจ้าติดตามข้าโดยเปล่าประโยชน์แน่นอน”ฉู่เชียนหลีคนก่อนได้ตายไปแล้ว ฉู่เชียนหลีในตอนนี้ได้เกิดใหม่แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป จะไม่มีใครสามารถรังแกพวกนางอีก“เยว่เอ๋อร์ เจ้าวางใจได้ รอข้าไปจากจวนอ๋องเฉิน จะหาสามีที่ดีให้เจ้าแน่นอน”พอพูดถึงจวนอ๋องเฉิน ฉู่เชียนหลี่รู้สึกโมโหขึ้นมาทันทีนึกถึงเรื่องที่เจอการลอบสังหารในคืนนี้ ยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห ยิ่งคิดก็ยิ่

บทล่าสุด

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1148

    “เป็นไปได้อย่างไร?”นางกล่าวด้วยความประหลาดใจ “เมื่อห้าวันก่อน ข้าคุยกับเขาแล้ว และจัดการทุกอย่างไว้ให้เขาแล้ว เขาสามารถออกจากวังอย่างราบรื่น นอกเสียจาก…”จู่ๆ นางก็เข้าใจอะไรบางอย่าง เสียงค่อยๆ เบาลงเฟิงเย่เสวียนกล่าวต่อ“เขาไม่อยากไป”ใช่!ไท่ซ่างหวงไม่อยากไปมีความเป็นไปได้เพียงหนึ่งเดียวไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด ยังอาลัยอาวรณ์ หรือเพราะสาเหตุอื่น เขาจึงเลือกที่จะอยู่เมืองหลวงแต่ถ้าหากเขาอยู่เมืองหลวง เฟิงเจิ้งหลีต้องหาเรื่องเขาแน่นอนฉู่เชียนหลีเป็นห่วง หลังจากครุ่นคิด ก็เดินออกไปข้างนอกแล้ว“ไม่ได้ ข้าต้องกลับวังหลวง ทิ้งเขาไว้ในเมืองหลวงเพียงลำพังไม่ได้”“ไม่ทันแล้ว”เฟิงเย่เสวียนจับข้อมือของนาง กล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “การเคลื่อนไหวเมื่อครู่ทำให้ทุกคนรู้ตัวแล้ว เกรงว่าตอนนี้คนสนิทของเฟิงเย่เสวียนกำลังมา เขาก็อยู่ระหว่างทางกลับเช่นกัน เสียเวลาไม่ได้แล้ว”กำลังหลักของเขาอยู่ที่เจียงหนานไม่เหมาะที่จะอยู่เมืองหลวงนาน ครึ่งปีมานี้ วิธีการของเฟิงเจิ้งหลีเหี้ยมโหด กำจัดพวกต่อต้าน รวบอำนาจเข้าด้วยกัน เมืองหลวงเป็นถิ่นของเขา อยู่ในถิ่นของเขา พวกเขาเป็นฝ่ายที่เสียเปรียบ

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1147

    “อ๋อง อ๋องเฉิน…”มองดูเฟิงเย่เสวียนเดินเข้ามาทีละก้าว ร่างกายผู้บัญชาการจางหดเกร็ง เพิ่งอ้าปาก ก็ได้ยินเสียงแหวกอากาศที่เฉียบคมดังขึ้นเพี๊ยะ!“อ่า!”แส้สีดำแหวกอากาศ ฟาดไปที่ใบหน้าผู้บัญชาการจางตั้งแต่หน้าผากถึงจะจมูกและคาง มีรอยสีเลือดปรากฏขึ้นทั้งลึกทั้งน่ากลัวเขากุมใบหน้า ขดตัวด้วยความเจ็บปวด เสียงกรีดร้องราวกับหมูถูกฆ่า ก่อนที่เขาจะตั้งสติได้ ก็โดนฟาดอีกครั้ง“อ่า!”แผ่นหลัง เจ็บอย่างรุนแรงเสื้อผ้าฉีกขาด ผิวหนังปรี่แตกเพี๊ยะเพี๊ยะๆ!“ช่วยด้วย…อ่า!”“อ๊ะ…โปรด โปรดไว้ชีวิต….อ่า!”ผู้บัญชาการจางอยากโต้ตอบ แต่เขาไม่มีโอกาสนี้ และไม่มีความสามารถนี้ อยู่ต่อหน้าเฟิงเย่เสวียน ก็เหมือนกับลูกไก่ตัวหนึ่ง ทำอะไรไม่ได้เลยเขาเจ็บจนกลิ้งไปกลิ้งมาพื้นไม่มีใครกล้าเข้าไปเหมือนกับที่ผู้บัญชาการจางฟาดเฟิงเย่เสวียนเมื่อครึ่งปีก่อน เฟิงเย่เสวียนฟาดคืนด้วยสีหน้าที่นิ่งสงบและยังเหี้ยมโหดกว่าด้วยหลังจากถูกฟาดไปหลายสีที ร่างกายเต็มไปด้วยเลือด ใบหน้าเละจนจำไม่ได้ผู้บัญชาการจางทั้งเจ็บทั้งกลัว ประมาณว่ากลัวจนถึงขีดสุด ฟางเส้นสุดท้ายขาด กุมศีรษะกล่าวอย่างเกรี้ยวกราด“เฟิงเย่เ

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1146

    เฟิงเย่เสวียน!“อ๋องเฉิน?!”“เฟิงเย่เสวียน!”เมื่อร่างเงาสีหมึกสายนั้นร่อนลงบนพื้นอย่างมั่นคง และใบหน้าที่คุ้นเคยแผ่กลิ่นอายอันเย็นเยือก ทุกคนเบิกตากว้างด้วยความตะลึงตกใจประหลาดใจคิดไม่ถึงผ่านไปครึ่งปี อ๋องเฉินกลับถึงเมืองหลวงอีกครั้ง ก้าวสู่บ้านเกิดที่คุ้นเคยแห่งนี้ฉู่เชียนหลีไม่เจอเขามาครึ่งปีเต็มๆ แวบแรก ก็มองเห็นหนวดที่อยู่ใต้คางของเขาแล้วทั้งๆ ที่เพิ่งอายุยี่สิบห้าปี ยังหนุ่ม สุขุม หนักแน่น หนวดสีดำนั่นดูไม่เข้ากับใบหน้าของเขาเลยแปลกๆตลกสบตากันผ่านผู้คนมากมายนางมองเห็นเขาในฝูงชนตั้งแต่แวบแรก แล้วเขาจะมองไม่เห็นนางตั้งแต่แวบแรกหรือ? เขาพุ่งพรวดเข้ามากอดนางไว้ในอ้อมกอด กระชับแขนกอดนางไว้แน่น หมื่นพันคำพูด ทั้งหมดอยู่ในอ้อมกอดที่แน่นหนานี้ไม่จำเป็นต้องใช้คำพูด กลับสื่อความหมายออกมาทั้งหมดการกอดคือสิ่งที่ทำให้รู้สึกปลอดภัยที่สุด“อีอา!”จื่อเยี่ยน้อยยังถูกฉู่เชียนหลีอุ้มไว้ในอ้อมแขนบิดากอดมารดา ประกบเขาไว้ตรงกลาง ทำให้เขาแทบหายใจไม่ออก โดยเฉพาะหนวดที่อยู่ใต้คาง ตามใบหน้าของเขาจนแดงก่ำแล้วผู้ชายบ้าที่ไหนเนี่ย!โมโห!โบกกำปั้นน้อยๆ ตีใส่ใบหน้าของเฟ

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1145

    ฉู่เจียวเจียวได้ยินคำนี้ แค่อยากหัวเราะดังๆนี่มันเวลาไหนแล้ว นางกำนัลตัวน้อยๆ คนหนึ่งก็กล้าขวางนาง?“ข้าอยากให้ใครตาย คนคนนั้นก็ต้องตาย ข้าอยากฆ่าเจ้า ก็ง่ายเหมือนบี้มดตัวหนึ่ง”มดตัวน้อยๆ ยังกล้ากระโดดออกมาเรียกร้องความสนใจ?น่าขำ!ขันทีคนหนึ่งเดินเข้าไปใช้มือคว้าคอของไฉ่เซียไว้“อ่า!”ออกแรงบีบ!ไฉ่เซียหายใจไม่ออก หน้าแดงก่ำ ดิ้นรนอย่างเจ็บปวด“คนอย่างเจ้าก็กล้าออกหน้าแทนฉู่เชียนหลี? รนหาที่ตาย นี่ก็คือจุดจบของเจ้า!” ฉู่เจียวเจียวมองอย่างเย็นชาฉู่เชียนหลีขมวดคิ้วพลันยกเขาถีบขันทีคนนั้นจนหน้าหงาย“แค่ก…แค่กๆ…” ไฉ่เซียล้มลงพื้นอย่างเจ็บปวด หอบหายใจและน้ำตาคลอเบ้า“กลับไป” ฉู่เชียนหลีหลุบตาไฉ่เซียพักหายใจครู่หนึ่ง เงยหน้าขึ้น จับชายกระโปรงของฉู่เชียนหลี “บ่าวไม่ไป”นางรับใช้แม่นางฉู่ครึ่งปี แม่นางฉู่ดีกับนางมาก และนางก็ชอบจื่อเยี่ยน้อยมาก มีความผูกพันต่อกัน“ฝ่าบาทเคยสั่งไว้ ต้องดูแลท่านให้ดี บ่าวจะปล่อยให้ท่านตกอยู่ในอันตรายได้อย่างไร?”เขาหอยหายใจ ลุกขึ้นอย่างโซซัดโซเซ“ฮองเฮา ท่านขัดเจตนาของฝ่าบาท หลังจากฝ่าบาทกลับมา ต้องลงโทษท่านแน่”ฉู่เจียวเจียวโกรธทันทีนา

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1144

    ข้าเกือบจะจมอยู่ในโลกของเจ้าแล้ว รักเจ้า ปกป้องเจ้า ตามใจเจ้า ในใจในสายตาล้วนมีแต่เจ้าสุดท้ายแล้วกลับบอกเขาว่า นี่เป็นเพียงแผนลวงฉู่เชียนหลี เจ้าเป็นเด็กดื้อจริงๆการอยู่ด้วยกันที่ยาวนานถึงครึ่งปี ข้าทุ่มเทให้เจ้าทุกอย่าง เจ้าไม่รู้สึกซาบซึ้งเลยหรือ? ไม่มีความผูกพันเลยหรือ?ต่อให้เป็นก้อนหิน ก็ควรจะกุมจนอุ่นนานแล้วต่อให้เป็นน้ำแข็ง ก็ควรกุมจนละลายนานแล้วหัวใจของเจ้าทำด้วยอะไร?เหตุใดจึงแข็งยิ่งกว่าก้อนหิน เย็นยิ่งกว่าหิมะน้ำแข็ง แต่ข้า…กลับรักเจ้าองครักษ์ลับคุกเข่าอยู่บนพื้นอย่างกระวนกระวาย หัวใจกระสับกระส่าย หางตากวาดมองสีหน้าเขาอย่างระมัดระวัง และกล่าวอย่างระมัดระวัง“นายท่านวางใจได้ ผู้บัญชาการจางจับตัวไว้แล้ว”อาศัยแค่แม่นางฉู่คนเดียว และเด็กอายุครึ่งขวบคนหนึ่ง ต่อให้ติดปีกก็ยากจะหนีออกจากเมืองหลวงเฟิงเจิ้งหลีค่อยๆ หลุบตา เสียงที่เฉยเมยฟังอารมณ์ไม่ออก“อย่าทำร้ายนาง”“ขอรับ…”เวลานี้แล้ว นายท่านยังห่วงความปลอดภัยของแม่นางฉู่เฮ้อตั้งแต่อดีตรักมากก็เจ็บมากองครักษ์ลับรับคำสั่ง ขี่ม้าเร็วกลับเมืองหลวง เวลาเดียวกัน ทหารส่งสารของเมืองเทียนสู่ก็ส่งจดหมายมา“รายงา

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1143

    ฉู่เจียวเจียวกุมมือที่มีเลือดไหล เจ็บจนโกรธแล้ว ประกอบกับไฟโทสะที่อยู่เต็มอก ระเบิดออกมาโดยตรง“ความโชคร้ายของข้าล้วนเกิดจากเจ้า!”ฉู่เชียนหลีกล่าวเสียงเย็น“ข้าไม่เคยชอบเฟิงเจิ้งหลี และไม่เคยคิดจะแย่งผู้ชายกับเจ้า เจ้าเป็นคนยืนกรานว่าเป็นข้า เจ้าเป็นคนคาดเดาว่าเป็นข้าอย่างไร้เหตุผล เจ้าแต่งงานกับเขา และยังให้กำเนิดลูกสาวของเขาหนึ่งคน เป็นเจ้าที่ไม่รู้จักดูแลครอบครัวนี้ จึงส่งผลให้เกิดเหตุการณ์ในวันนี้”“ข้าไม่ได้ทำอะไรเลย!”คนสองคนอยู่ด้วยกัน ความสัมพันธ์ที่ยาวนานคืออาศัยการดูแลซึ่งกันและกันไม่ได้พยายามอะไรเลย ก็อยากได้มา?ใต้ฟ้าไม่มีเรื่องที่ดีเช่นนี้“ไม่! เจ้านั่นแหละ!” ฉู่เจียวเจียวกรีดร้อง น้ำตาทะลักออกมาอย่างไม่สามารถควบคุม “ตราบใดที่เจ้ายังมีชีวิต ฝ่าบาทก็ชอบเจ้า ห่วงเจ้า เจ้ายังมีชีวิต ข้าก็ไม่มีวันมีโอกาส”“ทั้งหมดเป็นความผิดของเจ้า!”“อ๊ะ!”นางร้องไห้อย่างเศร้าโศก“ฉู่เชียนหลี เจ้าเป็นแค่ลูกสาวชาวนาที่แม่ข้าเก็บมาเลี้ยง ชาติกำเนิดของเจ้าต่ำต้อย ในร่างกายมีเลือดของคนธรรมดาไหลอยู่ ถ้าไม่ใช่แม่ข้ารับเลี้ยงเจ้า เจ้าก็ไม่มีวันกลายเป็นคุณสี่จวนอัครเสนาบดีฉู่ และไม่มีส

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1142

    แม่คือจุดอ่อนของลูกไม่มีข้อยกเว้นไม่ มีคนหนึ่งที่ยกเว้น ฉู่เจียวเจียวไม่เคยเป็นห่วงลูกสาวของตัวเองเลยฉู่เชียนหลีกล่าว “เจ้าเป็นผู้หญิงที่น่าเวทนาจริงๆ”ฉู่เจียวเจียวอึ้งไปครู่หนึ่ง“ในฐานะภรรยา เจ้าไม่ได้ใจของสามี ทำได้เพียงดึงดูดความสนใจด้วยวิธีที่บ้าคลั่งเหมือนคนบ้า”“ในฐานะแม่ เจ้าให้กำเนิดลู่ฉิน กลับไม่เคยเลี้ยงนาง ไม่เคยแยแสนาง เจ้าตั้งครรภ์สิบเดือนคลอดอะไรออกมา? เจ้าไม่รู้สึกว่าตัวเองน่าเวทนาและน่าสมเพชเลยหรือ?”ม่านตาฉู่เจียวเจียวหด มีอารมณ์บางอย่างแลบผ่านแววตาอารมณ์เชื่อมโยงกับหัวใจ แน่นหน้าอกฉับพลันนาง…ได้ครอบครองตำแหน่งฮองเฮาแล้วมารดาแห่งแผ่นดินในสายตาของผู้อื่น ความสูงศักดิ์และความสูงส่งของนางทำให้ผู้คนอิจฉาริษยา แต่ในความเป็นจริง ภายใต้รูปลักษณ์ที่สดใสงดงาม กลับมีจิตวิญญาณที่โดดเดี่ยวและน่าเวทนานางไม่มีครอบครัว…กำหมัดแน่น ไม่แสดงอารมณ์ออกมา กล่าวเสียงแข็ง“คนที่น่าเวทนาคือเจ้า! เจ้ามันก็แค่นักโทษคนหนึ่ง มีสิทธิ์อะไรมาตัดสิน? คืนนี้ เจ้าก็จะตายแล้ว เมื่อเทียบกับว่าข้า ไม่สู้เป็นห่วงตัวเองก่อนดีกว่า!”เพิ่งสิ้นเสียง ยกมือจับคอที่บอบบางของเฟิงเจิ้งจื่

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1141

    “พ่ะย่ะค่ะ!”เหล่าขันทีขานรับ ล้วงไม้กระบองที่ซ่อนอยู่ในแขนเสื้อออกมา เดินปรี่เข้าไปยกกระบองขึ้นก็ฟาดลงไปอย่างแรงตายซะเถอะ!ฉู่เชียนหลีใช้มือซ้ายอุ้มลูกไว้แน่น เบี่ยงร่างกายหลบ มือขวาคว้าข้อมือของขันทีคนหนึ่ง พลันออกแรงหัก ก็ผลักเขาออก ชนขันทีล้มไปสามคนในเมื่ออย่างไรก็ต้องสู้ เช่นนั้นนางก็ไม่เกรงใจแล้วสะบัดแขนเสื้อ โคจรกำลังภายใน ยกมือคว้ากลางอากาศ ก็มีกระบี่น้ำแข็งเล่มหนึ่งปรากฏในมือชูกระบี่ฟันออกไป ไม้กระบองแตกเป็นเสี่ยงเพียะ!เมื่อกระทบกัน คมกระบี่แตกออกเป็นเศษน้ำแข็ง กระจายกลางอากาศ ระเหยเป็นไอ อากาศที่หนาวเย็นแผ่ออก ทำให้ค่ำคืนที่ไม่ธรรมดานี้ดุเดือดยิ่งขึ้นการเคลื่อนไหวของนางปราดเปรียว รับมือการโจมตีของเหล่าขันทีได้อย่างง่ายดาย ทำเอาพวกเขาไม่สามารถโต้ตอบฉู่เจียวเจียวเห็นแล้ว สีหน้าเคร่งขรึมเล็กน้อยฉู่เชียนหลีซ่อนไผ่ตายไว้ด้วย?เป็นวรยุทธ์ตั้งแต่เมื่อไร?เหตุใดร้ายกาจเช่นนี้?แต่ว่าต่อให้นางมีวรยุทธ์ที่ร้ายกาจเพียงใด มันก็ไม่มีประโยชน์ นางคนเดียวจะสู้คนมากมายเช่นนี้ได้อย่างไร? ต่อให้ผลัดกันเข้าไปสู้กับนาง ก็ต้องทำให้นางเหนื่อยตายทั้งเป็น!นางเหลือบมองนางกำน

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1140

    ฉู่เชียนหลีหัวเราะเบาๆ ช่างเถอะ อุ้มเขาขึ้น เปิดประตู“แม่นางฉู่ ดึกเช่นนี้แล้ว ท่านจะออกไปข้างนอกหรือ?” ไฉ่เซียกับไฉ่เตี๋ยยืนอยู่ที่นอกประตู รับใช้อย่างเอาใจใส่ทั้งวันทั้งคืนโดยเฉพาะไฉ่เตี๋ย เป็นคนมากอุบายฉู่เชียนหลีกล่าวด้วยน้ำเสียงเป็นกันเองเหมือนเช่นเคย“คืนนี้ป้อนนมจื่อเยี่ยมากไปหน่อย เขาไม่ค่อยสบาย ข้าพาเขาไปสูดอากาศในสวน”“ไฉ่เตี๋ย ไปเอานำซานจาที่ห้องครัวให้ข้าหน่อย”ไฉ่เตี๋ยโน้มกายกล่าวอย่างนอบน้อมโดยไม่ต้องคิด ‘เจ้าค่ะ’ ก็ไปแล้ว“ไฉ่เซีย”“เจ้าคะ” ไฉ่เซียเดินออกมาหนึ่งก้าว โน้มกายก้มหน้าฉู่เชียนหลีมองนาง กล่าวด้วยรอยยิ้ม “ครึ่งปีมานี้ ขอบคุณที่เจ้าดูแลข้า เจ้าเป็นคนจิตใจดี วันข้างหน้าต้องได้แต่งงานกับคนดีแน่นอน”เมื่อไฉ่เซียได้ยินคำนี้ จู่ๆ ก็แน่นหน้าอกอย่างน่าประหลาด“แม่นางฉู่…”อยู่ดีๆ มาพูดเรื่องนี้นางได้กลิ่นแปลกๆฝ่าบาทเพิ่งออกรบ แม่นางฉู่ก็พูดเรื่องนี้ คงไม่ได้คิดจะ…“แม่นางฉู่ เจ้า…”ฉู่เชียนหลีนำทรัพย์สินทั้งหมดที่มี และส่วนใหญ่เป็นของที่เฟิงเจิ้งหลีมอบให้นาง เปลี่ยนเป็นตั๋วเงิน มอบให้ไฉ่เตี๋ยทั้งหมด“ดูแลตัวเองด้วย”ไฉ่เซียเบิกตากว้าง มองตั๋วเงิ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status