แชร์

บทที่ 11

เรือนหมิงเยว่

ภายในห้องนอนที่ตกแต่งอย่างวิจิตรอ่อนโยน ร่างแสนอ่อนเพลียของเซียวจือฮว่านอนอยู่บนเตียง ใบหน้าเล็กๆ ขนาดเท่าฝ่ามือซีดขาวไปสามส่วน ไม่มีสีเลือด ลมหายใจค่อนข้างกระชั้น

“เฉิน ทำให้ท่านต้อง... แค่ก... เป็นห่วง... รบกวนท่านทำงาน... แค่ก...”

นางรู้จักฉอเลาะบุรุษ

ท่าทางแสนทรมานเพราะขืนสะกดอาการไอเอาไว้แต่ยังคงคำนึงถึงบุรุษเช่นนั้นทำเอาคนสงสารยิ่ง

เฟิงเย่เสวียนนั่งอยู่ข้างเตียงกุมมือเล็กๆ ที่ค่อนข้างเย็นของนางเอาไว้ กล่าวเสียงหนักว่า “จือฮว่า ข้าจะต้องหายาดีมารักษาเจ้าให้ได้ ตลอดหลายปีมานี้ เป็นเพราะข้า เจ้าจึงต้องทุกข์ทรมาน”

“แค่ก...ไม่...” นางส่ายหน้าอย่างอ่อนแรงพลางจับจ้องดวงตาที่เปี่ยมด้วยความรักลึกล้ำไม่ทรยศของเขา

“ปีนั้น หากฮว่าเอ๋อร์มิได้ช่วยท่านอ๋องเอาไว้ ยามนี้ก็จะไม่ได้มีวาสนาได้แต่งงานกับท่านอ๋อง... แค่ก กลับเป็นฮว่าเอ๋อร์ที่ร่างกายอ่อนแอ ทำให้ท่านอ๋องเป็นห่วงเปล่าๆ ให้ท่านอ๋องพลอยต้องลำบาก...แค่ก...”

เพียงแค่ไม่กี่ประโยค นางก็ทั้งหอบทั้งไอไม่หยุด ท่าทางเช่นนั้น ดั่งต้นหยางหลิวโบกไหวท่ามกลางสายลม

เฟิงเย่เสวียนเอื้อมมือไปช่วยสอดชายผ้าห่มเข้าใต้ตัวนาง

เซียวจือฮว่ายังอยากพูดบางสิ่ง

แต่ในขณะนั้นเองกลับมีเสียงปี่ซั่วน่าที่สูงแหลม ระคายหู รุนแรงดังมาจากบนหลังคาอย่างกะทันหัน เหมือนสายฟ้าฟาดกลางท้องฟ้า เซียวจือฮว่าตกใจจนหายใจไม่ทัน

เอียงคอลงและหมดสติลงทันใด

“?”

สีหน้าของเฟิงเย่เสวียนถมึงทึงขึ้นโดยพลัน ก่อนพุ่งออกไปจากประตูและกระโดดขึ้นบนหลังคา เห็นสตรีนางหนึ่งกำลังเอามือประกบแก้ม ร่ายรำขณะเป่าเสียงดนตรีอย่างเข้าถึงอารมณ์ เสียงนั้นกรีดบาดฟากฟ้ายามราตรีของจวนอ๋องเฉิน ก้องสะท้อนไปทั่วทั้งจวน

แสบแก้วหูเป็นที่สุด!

ค่ำคืนดึกดื่นเป็นเวลาที่ควรนอนหลับ นางกลับมาเป่าปี่ซั่วน่าอยู่ที่นี่!

“ฉู่เชียนหลี!”

ฉู่เชียนหลีแค่รู้สึกว่าแก้วหูสั่น พอหยุดและมองไปก็เห็นว่าชายหนุ่มไม่รู้มายามใด กำลังจับจ้องนางด้วยสีหน้าเกรี้ยวโกรธ ขบฟันบอกว่า

“จือฮว่ายังไม่ป่วยถึงเพียงนั้น นี่เจ้าอยากส่งนางไปจนอดรนทนไม่ไหวเชียวหรือ?”

ซั่วน่าประโคม ผ้าขาวห่มคลุม แขกทั้งเมืองรออาหารขึ้นโต๊ะ?

ร่างนอนเหยียดตรง สองมือแผ่ออก เข้านอนในโลงฝังบนภูผา?

ฉู่เชียนหลีเพียงต้องการอาศัยความโศกเศร้าจากเสียงของปี่ซั่วน่ามาปลอบประโลมความทุกข์ใจที่ต้องสูญเสียสมบัติล้านล้านไป เช่นนี้ก็ผิดด้วยหรือ?

นางเศร้าโศก

ไม่มีเงินแล้ว ยังจะถูกด่าว่าอีก

พอเลือดขึ้นหน้าจึงตะคอกกลับไปทันที “จวนอ๋องเฉินมีกฎด้วยหรือว่าห้ามเป่าปี่ซั่วน่า?”

เฟิงเย่เสวียนสีหน้าถมึงทึงทันที เอาใหญ่แล้ว ยังกล้าเถียงอีก วันหน้าจะไม่เหยียบหัวเขาแผลงฤทธิ์หรอกหรือ?

เขากล่าวเสียงเย็น “ยามนี้ดึกดื่น เป็นช่วงเวลาที่ควรนอนหลับ แต่เจ้ากลับมาเป่าปี่ซั่วน่ารึ?”

ฉู่เชียนหลีโต้เขา “ใครกำหนดว่าห้ามเป่าปี่ซั่วน่าตอนกลางดึกซึ่งเป็นเวลาที่ควรนอนหลับกัน?”

“ดึกดื่นเช่นนี้ ในเวลาที่ควรนอนหลับ แต่กลับวิ่งมาเป่าเพลงโศกเศร้าอยู่บนหลังคาของจื่อฮว่า เจ้ามีเจตนาใด?”

“แล้วใครกำหนดว่ากลางดึก ในเวลาที่ควรนอนหลับ ห้ามมาเป่าบรรเลงเพลงสายลมร้าวรานแห่งบูรพาบนหลังคาเพื่อปลดปล่อยอารมณ์โศกเศร้าเสียใจของตัวเองเล่า?”

“...”

สตรีปากคอเราะรายผู้นี้!

จือฮว่าตายแล้วนางจะเสียใจหรือ? กลัวแต่จะแอบยินดีอยู่ในใจอยู่นานแล้วต่างหาก

เขาสาวเท้าเข้าไปคว้าปี่ซั่วน่าของนาง “เอามา!”

“ไม่ให้!” ฉู่เชียนหลีแย่งกลับมา

“เจ้า!” ชายหนุ่มโมโหจนเส้นเลือดที่หน้าผากปูดโปนออกมา พลันเงื้อมือขึ้น

“อ๊า!” ฉู่เชียนหลีหมุนตัวและวิ่งไปทันใด ก่อนวิ่งไปยังไม่ลืมแย่งปี่ซั่วน่าของตนกลับไปและผลักชายหนุ่มหนหนึ่ง

ทว่า มือของนางซัดถูกหัวใจของชายหนุ่ม ทำให้ร่างของเขาสั่นสะเทือนจนเซถอยหลังไปสองก้าว โลหิตดำคำหนึ่งล้นออกมาจากมุมปากที่ปิดสนิทในทันใด

“อุ๊ก...”

“นายท่าน!”

องครักษ์ลับหานเฟิงพุ่งตัวออกมาจากมุมมืดและรีบประคองชายหนุ่มเอาไว้

พิษกำเริบแล้ว!

“หรือว่าหญิงอัปลักษณ์ผู้นี้จะเป็นองค์รัชทายาทส่งมาเป็นสายลับ!”

ชายหนุ่มปรับกำลังภายในอยู่ลับๆ เมื่อสะกดลมหายใจสงบแล้ว จึงมองตามทางที่ฉู่เชียนหลีจากไป แววแห่งความคิดฉายผ่านดวงตา

นางผู้นี้... น่าสนใจยิ่ง

“แค่กๆ...” เขาไอต่ำ “ปล่อยข่าวออกไป บอกว่าตอนที่ข้าทำสงครามได้รับบาดเจ็บสาหัสยังไม่ทันหาย ตอนนี้อาการร่อแร่...”

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status