Share

บทที่ 12

Author: สกุลหยางมีบุตรสาว
last update Last Updated: 2024-10-29 19:42:56
วันรุ่งขึ้น

ฉู่เชียนหลีนอนอยู่บนเตียงยังคงคำนึงถึงเรื่องที่ตนเองต้องสูญทรัพย์สินล้านล้านล้านไปในคืนเดียว นางกอดผ้าห่ม ยังคงอยู่ในอารมณ์เศร้าสลดเนิ่นนานมิอาจกลับมาเป็นตัวของตัวเองได้

“เฮ้อ!”

พอรุ่งเช้า เยว่เอ๋อร์ต้องวุ่นหน้าวุ่นหลัง ทำความสะอาดห้องหับ พับเสื้อผ้า เช็ดโต๊ะ ถอนหญ้าในลานบ้าน เปิดหน้าต่างระบายอากาศ และยังต้องยกกระถางดอกไม้ออกไปตากแดดด้วย ซึ่งฉู่เชียนหลีถอนหายใจมาเก้าสิบแปดครั้งแล้ว

“เฮ้อ...”

ทรัพย์สินล้านล้านของนาง

เยว่เอ๋อร์ยกอ่างน้ำเข้ามา “คุณหนูเจ้าคะ ตะวันส่องบั้นท้ายแล้ว ท่านยังไม่ตื่นอีกหรือเจ้าคะ?”

ฉู่เชียนหลีช้อนดวงตาแดงก่ำทั้งคู่ขึ้น ดวงตาที่มีเต็มไปด้วยเส้นเลือดฝอยสีแดงจ้องเยว่เอ๋อร์ด้วยความคับแค้นใจแสนล้ำลึก

ถ้าไม่ใช่เพราะนังเด็กนี่รับใช้นางอย่างจงรักภักดี ไม่ละไม่ทิ้งมาตั้งแต่เล็ก จะต้องหักคอแสนชั่วช้าของนางเป็นแน่...

“เฮ้อ!”

นางพลิกตัว นอนหลับต่อไปด้วยความห่อเหี่ยวใจ

ไม่อยากลุกจากเตียง ข้าวปลาก็ไม่อยากกิน

เงินของฉัน...

เยว่เอ๋อร์เรียกต่ออีกหลายครั้ง เมื่อเห็นคุณหนูไม่ตอบสนอง จึงได้แต่ไปทำงานอื่นๆ ต่ออย่างจนใจ

ตลอดช่วงเช้า เรือนหลังเล็กโกโรโกโสและรกร้างแห่งนี้กลับคึกคัก

บ่าวในครัวนำอาหารเช้ามาส่ง เยว่เอ๋อร์เกิดมีปากเสียงกับพวกเขา “อาหารนี้ดูคล้ายว่าเน่าเสียแล้ว ข้าวก็แข็งนัก ยามนี้คุณหนูของเรายังอยู่ในตำแหน่งพระฉายาเฉินอ๋อง พวกเจ้ากลับกล้าละเลยถึงเพียงนี้เชียวรึ!”

บ่าวผิวคล้ำจากในครัวกลุ่มนั้นหัวเราะเย็นคราวหนึ่ง ก่อนโยนตะกร้าลงกับพื้น “ในครัวมีแค่เท่านั้นแล้ว ไม่เอาก็แล้วแต่”

เข้าจวนมาสามเดือนกว่าล้วนไม่เคยเป็นที่โปรดปราน ดูทีว่าชาตินี้คงได้อยู่แต่ในเรือนเย็น[footnoteRef:1]เท่านั้น [1: เรือนเย็น เหมือนตำหนักเย็นในวังหลวง ซึ่งเป็นที่พำนักสำหรับนางในในวังที่ไม่เป็นที่โปรดปรานของกษัตริย์แล้ว]

ยังฝันหวานจะได้เป็นพระชายาที่รักของอ๋องเฉินอีกหรือ?

จากนั้น มีพวกบ่าวมาจัดสรรสิ่งของให้

เยว่เอ๋อร์ก็มีปากเสียงกับพวกเขาขึ้นมาอีก “ตามกฎของจวน เครื่องใช้ต่างๆ ของคุณหนูข้าอย่างน้อยต้องมีผ้าห่มนวมสี่ผืน เหตุใดจึงส่งมาแค่ผ้าห่มบางๆ ผืนหนึ่ง นี่ก็จวนเจียนจะเข้าช่วงหนาวของฤดูใบไม้ร่วงแล้ว จะให้พวกเราใช้ชีวิตในฤดูหนาวอย่างไร?”

บ่าวจึงโยนผ้าห่มบางไว้กับพื้นเสียเลย

“โยนกระดูกอันหนึ่งให้สุนัข สุนัขยังรู้จักเห่าโฮ่งๆขอบคุณข้า แต่ยามมาส่งของให้พวกเจ้าน่ะรึ? เทียบไม่ได้กับเดรัจฉานสักตัวด้วยซ้ำ!”

พวกเขาล้วนได้ยินได้ฟังมาว่าในวันที่พระชายารองเซียวเข้าจวน พระชายาก็ถูกเรียกไปปรนนิบัติรับใช้นาง ซ้ำยังถูกท่านอ๋องลงโทษอย่างหนัก เพราะทำน้ำชาหกอีกด้วย

ผู้ใดคือว่าที่นายผู้หญิงของจวนแห่งนี้ ก็เห็นชัดกันอยู่แล้ว

เยว่เอ๋อร์โมโหจนร้องไห้ แต่ก็ไม่รู้จะทำฉันใด

ยามเที่ยง พ่อบ้านเดินเนิบนาบมาหาเพื่อจ่ายเบี้ยเดือน

เมื่อเศษก้อนเงินเล็กๆ แสนน่าสงสารสองก้อนถูกโยนลงบนอุ้งมือของเยว่เอ๋อร์ นางก็ควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ “พ่อบ้าน นี่ท่านจะบีบคุณหนูของข้าให้ตายใช่หรือไม่!”

เบี้ยเดือนของพระชายาอ๋องคือยี่สิบตำลึง พ่อบ้านกลับให้เพียงหนึ่งตำลึง นี่เท่ากับยักยอกเอาไว้เองแทบทั้งหมด!

ยามนี้กระทั่งเบี้ยหวัดก็ยังไม่มี แล้วจะไปซื้อของใช้สำหรับฤดูหนาวให้คุณหนูได้อย่างไร?

“ท่านไม่กลัวหรือไรว่าข้าจะเอาเรื่องท่านไปฟ้องต่อท่านอ๋อง” เยว่เอ๋อร์ถลึงตาใส่พ่อบ้าน ดวงตาทั้งคู่โมโหจนแดงก่ำ

พ่อบ้านเหลือบตามองนางอย่างเกียจคร้านคราวหนึ่ง เอามือสองข้างไพล่หลัง ทำตัวเฉกหัวหน้าเล็กๆ เอ่ยอย่างมีนัยสำคัญว่า “เยว่เอ๋อร์ เจ้าต้องมองสถานการณ์ยามนี้ให้ชัดสิ”

“พระชายาไม่เป็นที่โปรดปราน มีตำแหน่งที่ไม่มั่นคง ทุกคนภายในจวนล้วนไปประจบพระชายารองเซียวกันหมด แต่ข้ายังมาจ่ายเบี้ยเดือนให้พระชายาด้วยตนเอง พระชายาควรต้องขอบใจข้าจึงจะถูก”

ข่มเหงกันเกินไปแล้ว!

ยักยอกเบี้ยเดือนด้วยเจตนาชั่ว ยังอ้างอย่างมีเหตุมีผลอีก

ใครเขาข่มเหงกันอย่างหน้าตาเฉยเช่นนี้!

เยว่เอ๋อร์บันดาลโทสะจนไม่สามารถควบคุมได้ ก้าวเท้าพุ่งตัวเข้าชนทันใด “เอาเบี้ยเดือนของคุณหนูข้ามาเดี๋ยวนี้!”

“เจ้าเป็นผู้น้อยกล้าล่วงเกินผู้ใหญ่รึ?”

พ่อบ้านตวาดใส่ ขณะเอามือจับแขนน้อยๆ แสนผอมบางของเยว่เอ๋อร์ และเงื้อมือขึ้นสูง แต่ในขณะที่กำลังจะหวดลงมากลับรู้สึกเจ็บที่หน้าผาก

“โอ๊ย!”

สิ่งใดกันกระแทกถูกหัวอย่างแรง ทั้งเจ็บทั้งแสบ

เมื่อก้มลงดู

เป็นทองคำแท่งแท่งหนึ่ง?

Related chapters

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 13

    ยังไม่ทันตั้งตัว ก็มีอีกแท่งลอยมากระแทกข้อมือเขา แทบจะกระแทกจนกระดูกป่น จึงคลายมือที่จับเยว่เอ๋อร์“คุณหนู!”นางเห็นคนที่นอนมาทั้งช่วงเช้าลุกจากเตียงแล้วและยืนอยู่ตรงหน้าประตูห้อง กำลังกะน้ำหนักทองแท่งที่ทั้งใหญ่ทั้งหนักด้วยการโยนขึ้นลงในมือนางหรี่ตา เล็งเป้า“กล้าแตะต้องคนของข้ารึ? แม่จะเอาทองแท่งปาเจ้าให้ตาย!”ตุบ!“โอ๊ย...”โดนทองไปสามแท่ง พ่อบ้านถูกปาจนหน้าผากแตก กระดูกข้อมือหัก เอวชราๆ ยอกไปหมด พลันล้มพับอยู่บนพื้น กุมสะเอวร้องครวญคราง 'ไอ้หยาๆ' ทว่า ในพริบตาต่อมา เขาก็กัดฟันทนต่อความเจ็บปวด หอบเอาทองแท่งหนึ่งขึ้นมาแล้วออกแรงขบไปครั้งหนึ่งในทันทีเจ็บฟัน!แข็งจริงๆ!เป็นของจริง!ทองคำ!หน่วงขนาดนี้ หนักถึงเพียงนี้ ซ้ำยังมีตั้งสามแท่ง พระชายามั่งมียิ่งกว่าท่านอ๋องเสียอีก!ตาของพ่อบ้านเป็นประกายแวววาวขึ้นในบัดดล จู่ๆ เอวก็ไม่เจ็บ ขาไม่ปวด โรคข้ออักเสบที่เป็นมาหลายสิบปีก็หายเป็นปลิดทิ้ง พลันคุกเข่าแบบประจบลงตรงหน้าพระชายา ยิ้มเสียจนมีแต่ความสอพลออยู่เต็มใบหน้า“เป็นบ่าวเองที่ดวงตาโง่เง่า มีตาหามีแววไม่ นับแต่นี้ไป พระชายาให้บ่าวทำสิ่งใดบ่าวก็จะทำสิ่งนั้นขอรับ”“บ่

    Last Updated : 2024-10-29
  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 14

    พ่อบ้านยกทองแท่งก้อนหนึ่งยิ้มปากแทบฉีกเดินออกไปเยว่เอ๋อร์ตะลึงจนเหม่อ “คุณหนูเจ้าคะ นะ นะ นะ นั่นคือทองคำแท่ง...ขะ ขะ ขะ เขาเอาไปแล้ว นะ นะ นั่น...”กระทั่งพูดจาก็ยังติดๆ ขัดๆ เสียแล้วฉู่เชียนหลีตบไหล่นางเอ่ยด้วยน้ำเสียงผ่อนคลาย “เงินทองเป็นของนอกกาย ไม่ต้องใส่ใจ ยามนี้เจ้าจงรีบไปเตรียมกระดาษพู่กันมาให้ข้า ยิ่งไวยิ่งดี”ยังดีที่ก่อนนี้นางหลักแหลมจึงวางแผนจัดเก็บเงินที่หามาได้ส่วนหนึ่งเอาไว้กับบัตรธนาคาร อีกส่วนหนึ่งเป็นเงินสด ที่เหลือซึ่งเป็นเงินส่วนใหญ่ก็เอาไปซื้อทองคำแท่งจนหมดและเรียงไว้เหมือนก่อผนังฉะนั้น นางจึงมีทองคำแท่ง อยู่มากมายเท่ากับผนังด้านหนึ่งทีเดียวแม้จะสูญเงินสดไปเป็นล้านๆ แต่ก็ยังมีทองแท่งอยู่อีกมากเพียงนี้ หลังจากโศกเศร้ามาหนึ่งคืน ที่สุดอารมณ์ก็ผ่อนคลายลงบ้างแล้ว ยามนี้นางมีเรื่องที่สำคัญกว่าจะต้องทำตัวทั้งตัวของเยว่เอ๋อร์เหมือนถูกสายฟ้าฟาด แต่หัวจรดเท้ามีแต่ความงุนงง นางไปหยิบกระดาษและพู่กันมา มองแผ่นหลังของคุณหนูขณะเดินจากไป เนิ่นนานจากนั้นก็ยังดึงสติกลับมาไม่ได้นี่นี่ใช่คุณหนูของนางจริงหรือ?!ณ เรือนหานเฟิงด้วยอ๋องเฉินปล่อยข่าวออกไปว่าได้รับบาด

    Last Updated : 2024-10-29
  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 15

    ในกระดาษจดหมาย เป็นตัวอักษรเขียนด้วยพู่กันที่โอนไปเอียงมา ตัวอักษรนั้นเหมือนถูกไก่เขี่ย เอียงกระเท่เร่ไปหมดเนื้อหาว่า:...วันนี้ อ๋องเฉินล้มป่วย อารมณ์แปรปรวนรุนแรง กินข้าวห้าถ้วยด้วยความโมโห จนเมื่อกินมันดิน[footnoteRef:1]เส้นไปคำหนึ่ง ใส่เกลือน้อยไป จึงลงโทษบ่าวอย่างหนัก คำที่สองกินปลานึ่งซีอิ๊ว ปรากฏว่ามันย่องเกินไป เป็นเหตุให้ โกรธจนไปแย่งกระทะมา ลงครัวด้วยตนเองเสีย [1: มันดิน คือ มันฝรั่ง] “เฮอะ!”เฟิงเย่เสวียนหลุดหัวเราะออกมา เมื่อรู้สึกตัวว่าเสียกิริยา จึงรีบกลั้นเอาไว้และอ่านต่อไป ...อ๋องเฉินร่อแร่ หญิงงามอยู่ในอ้อมอกหากไม่แตะต้อง ข้าสังเกตดู สงสัยว่าจะ...ไม่ขัน“...” ความโค้งที่มุมปากของชายหนุ่มหดหายไปทันใด หายไปอย่างไร้ร่องรอย บรรยากาศรอบตัวก็หนักอึ้งตามไปด้วย...แม้คนผู้นี้จะมีสันดานป่าเถื่อน แต่กลับหน้าตาไม่เลว จากที่ข้าสืบดูอย่างละเอียด บนแก้มก้นซ้ายของเขามีไฝดำอยู่เม็ดหนึ่ง“...”หานเฟิงยืนอยู่ข้างๆ เห็นเจ้านายตนมีอาการประเดี๋ยวอมยิ้ม ประเดี๋ยวสายตาเคร่งขรึม ประเดี๋ยวก็เลิกคิ้ว จึงตระหนกอยู่ในใจก่อนนี้ ยามนายท่านจัดการพวกสายลับ วิธีทรมานทั้งสิบแปดล้วนเลือก

    Last Updated : 2024-10-29
  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 16

    หลังป้อนยาเสร็จ ฉู่เชียนหลีกอดหมอน เดินไปนั่งที่ขอบหน้าต่างนำหมอนหนุนไว้ข้างหลัง นั่งพิงอยู่ตรงนั้น ชันขาข้างหนึ่งขึ้น แล้วห้อยขาอีกหนึ่งแกว่งสบายๆ และถือขวดแก้วใสใบเล็กไว้ในมือนี่เป็นยาชนิดใหม่ที่นางศึกษา สามารถแก้พิษประหลาด และก็ย่อมสามารถแก้พิษบนตัวอ๋องเฉินได้เช่นกันแต่นางไม่อยากให้ผิวปากไปพลาง แกว่งขาไปพลาง และล้วงปี่ซั่วน่าออกจากบั้นท้ายอย่างเข้ากับบรรยากาศเฟิงเย่เสวียน “...ห้ามเป่า!”เขายังไม่ตาย!“นี่ไม่ใช่เพราะกลัวท่านอ๋องนอนทั้งวันจะรู้สึกเบื่อหน่ายหรอกหรือ?” นางยิ้มแล้วยิ้มอีก พลางโยนยาช่วยชีวิตของผู้ชายบางคนออกนอกหน้าต่างนางยอมมองดูเขาตาย ก็ไม่ยอมช่วยเขาเฟิงเย่เสวียมองดูขวดโปร่งใสที่ใส่ของเหลวสีเขียวอ่อนถูกโยนออกนอกหน้าต่าง ตกลงไปในพุ่มดอกไม้และหายไป แววตาครึ้มลงนี่ยาถอนพิษหรือ?นางเป็นคนศึกษาทำเองกับมืออย่างนั้นหรือ?นางเกี่ยวข้องอะไรกับคนร้าย?ตอนนั้นนางแต่งเข้าจวนอ๋องเฉินโดยไม่เลือกวิธีการ ทว่านางกลับไม่สนใจความเป็นตาย แต่ในจดหมายลับที่ส่งให้จวนอัครมหาเสนาบดีฝ่ายซ้ายฉู่ กลับไม่ได้เปิดเผยข้อมูลสำคัญของจวนอ๋องเฉิน และตอนนี้ยังต้องการหนังสือหย่าตกลงจุด

    Last Updated : 2024-10-29
  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 17

    ซ่า…เงาสีดำสายหนึ่งถือกระบี่คมกระโจนเข้ามาจากหน้าต่าง ดวงตาเย็นชาคู่นั้นแทบรวมเป็นเป็นหนึ่งเดียวกับกระบี่อันเยือกเย็น แทงตรงมาทางผู้ชายพริบตานั้น บรรยากาศดุดันตึงเครียดเฟิงเย่เสวียนดึงผ้าห่มเข้ามาซ่อนฉู่เชียนหลีไว้ จากนั้นเหวี่ยงแขนสะบัดกระบี่อ่อนออกมาหนึ่งเล่ม พลันยกมือโจมตีออกไปปัง!กระบี่สองเล่มปะทะกัน ประกายไฟกระเด็นไปทั่วกำลังภายในที่แกร่งกล้าระเบิดออกมา พัดม่านปลิวว่อน กลิ่นอายเยือกเย็นบนกระบี่สะท้อนเข้าไปในดวงตาผู้ชาย สุขุม เจตนาสังหาร กระหายเลือด ไร้ความปราณีสองตาประสานกัน พลันสนามรบที่ไร้ควันดินปืนปะทุขึ้นร่างเงาสองสายหนึ่งดำหนึ่งทมิฬพัวพันปะทะกันโครมคราม!ฉู่เชียนหลีห่อตัวในผ้าห่ม หลบอยู่บนเตียง เผยให้เห็นเพียงดวงตาคู่หนึ่ง มองดูสถานการณ์ข้างนอกอย่างระมัดระวังวรยุทธ์ของทั้งสองแกร่งกล้า การเคลื่อนไหวและทักษะรวดเร็วมาก แทบมองไม่เห็นกระบวนท่าวรยุทธ์ เห็นเพียงกระบี่นั้นฟาดฟันกันชิ้งๆ เงากระบี่แกว่งไปแกว่งมาจนตาลายนี่เป็นครั้งแรกที่นางเห็นคนโบราณต่อสู้กันเชี่ย!ตวัดกำลังภายใน สะเทือนแจกันแตกซัดกำลังภายใน โต๊ะระเบิดเป็นเสี่ยงๆละครทีวีไม่ได้โกหกจริงๆ!ห

    Last Updated : 2024-10-29
  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 18

    เฟิงเย่เสวียน “?”หานเฟิง “?”ไม่เคยได้ยินได้ฟัง ไม่เคยได้พบได้เห็นฉู่เชียนหลีชำเลืองมองทั้งสองอย่างเย่อหยิ่งแวบหนึ่ง สายตาราวกับมองคนบ้านนอก “ปืน นี่คือปืน”นางในฐานะหมอเทวดาที่มีชื่อเสียงระดับโลกของศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ด ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของวงการแพทย์ คนที่อยากทำร้ายนางมีนับไม่ถ้วน นอกจากเชี่ยวชาญทั้งการแพทย์และพิษวิทยา ยังต้องมีความสามารถพอที่จะปกป้องตนเองนางที่ฉลาดหลักแหลมเช่นนี้ และมีทั้งกำลังและความสามารถ เหตุใดจึงมาเสียทีให้กับเจ้าเด็กน้อยอ๋องเฉินจนได้?“ปืน?” เฟิงเย่เสวียนประหลาดใจสิ่งของเล็กๆ สีดำเช่นนี้ สามารถปล่อยพลังที่รุนแรงเช่นนี้เลยหรือ?รุนแรงยิ่งกว่ากำลังภายในเสียอีก?อดไม่ได้ที่จะถามต่อ “อะไรคือปืน?”ฉู่เชียนหลีขี้เกียจอธิบาย เป่าปากกระบอกปืนเก้าแปดคาและหมุนกายเดินจากไปตอนผู้ชายคนนี้นอนอยู่บนเตียงท่าทางอ่อนปวกเปียก ที่แท้เสแสร้งทั้งหมดเลย ตอนต่อสู้ฮึกเหิมประดุจมังกรพยัคฆ์ผาดโผน ร่างกายแข็งแรง ทำให้นางต้องปรนนิบัติเปล่าๆ ทั้งคืนกลับเรือนไปนอนอ๋องเฉินอยากตาม “ฉู่…”ฉู่เชียนหลีหันกายกลับมา รูสีดำสนิทชี้มาทางผู้ชาย กล่าวด่าว่าอย่างรำคาญ “อย่ามาพูดไร้สาระ

    Last Updated : 2024-10-29
  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 19

    สีหน้าเฟิงเย่เสวียนเคร่งขรึมลง เหตุใดเขาจึงไม่รู้ว่าตนเองหลับไปแค่คืนเดียวก็ ‘ตายแล้ว’?เขาดึงธงสวดวิญญาณที่ขวางหูขวางตาทิ้ง พอก้าวเท้าเดินออกจากเรือนหานเฟิง ก็เห็นนอกเรือนมีร่างเงาเพรียวบางหนึ่งยืนอยู่บนก้อนหิน มือข้างหนึ่งเท้าเอว มืออีกข้างชี้ฟ้า  น้ำเสียงเปี่ยมล้นไปด้วยคุณธรรม“การจู่โจมของมือสังหารอันตรายสุดขีด ช่วงความเป็นความตายพริบตาเดียว! เขา ยืดอกถือกระบี่กระโจนออกไป!”“เขา ผลักภูเขาพลิกทะเล กล้าหาญไร้เทียมทาน!”“เขา เชี่ยวชาญบุ๋นและบู๊ ไม่กลัวความลำบาก!”สีหน้าหญิงสาวโกรธมาก เนื้อหนังบนใบหน้าสั่น ยิ่งเมื่อพูดถึงจุดสูงสุด น้ำลายถึงกับกระเด็น “สุดท้าย ในที่สุดเขาก็ตายใต้คมกระบี่ของมือสังหาร”“...”สาวใช้สิบกว่าคนที่มาล้อมวง ‘ฟังงิ้ว’ ที่นี่ ในที่สุดเบ้าตาก็แดงก่ำไม่สามารถหักห้ามใจได้อีกคิดไม่ถึงว่าเมื่อคืนจะเกิดเรื่องรุนแรงเช่นนี้คิดไม่ถึงว่าท่านอ๋องผู้อาจหาญที่เป็นดั่งเทพสงครามไร้พ่ายในสนามรบ สุดท้ายแล้วกลับต้องมาจบชีวิตให้กับมือสังหารไร้นามคนหนึ่ง“ท่านอ๋อง!”ในที่สุดสาวใช้คนหนึ่งก็อดกลั้นไม่อยู่ ปล่อยโฮร้องไห้ออกมา“ท่านอ๋องช่างน่าเวทนายิ่ง! ท่านอ๋อง ท่านนอนตาย

    Last Updated : 2024-10-29
  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 20

    เรือนข้างหลังจากฉู่เชียนหลีกลับถึงเรือน กินอาหารเช้าอย่างเรียบง่ายเสร็จ ก็นั่งอยู่หน้ากระจกทองเหลือง สังเกต ‘ปาน’ บนใบหน้าเยว่เอ๋อร์กำลังเก็บของที่ระเกะระกะบนโต๊ะ จนถึงตอนนี้ก็ยังตกใจ ตะลึงงัน ไม่กล้าเชื่อ มองแผ่นหลังของผู้หญิงอย่างไม่เชื่อสายตานิสัยคุณหนูเปลี่ยนไปกะทันหัน กินมากขึ้น นอนหลับสนิท และยังไม่รักท่านอ๋องมากเช่นนั้นเหมือนเมื่อก่อนแล้ว แม้แต่วิธีการพูด การกระทำ ก็เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิงนี่…ยังเป็นคุณของนางจริงหรือ?เงาสะท้อนในกระจกทองเหลือง ฉู่เชียนหลีประสานสายตากับเยว่เอ๋อร์ “มีอะไร?”เยว่เอ๋อร์ลุกลน รีบก้มศีรษะลง “ไม่ ไม่มีอะไรเจ้าค่ะ”“รู้สึกว่าข้าแปลกหน้ามากหรือ”คำพูดประโยคเดียวของฉู่เชียนหลี ชี้ให้เห็นสิ่งที่เยว่เอ๋อร์คิดในใจจริงๆนางยิ้มแล้ว “เยว่เอ๋อร์ เจ้ายังเด็ก ไม่รู้จักความโหดร้ายของโลกใบนี้ ไม่มีใครเหมือนเดิมตลอดไป ตอนเจ้าอายุห้าขวบชอบเล่นแมลงปอไม้ไผ่ เมื่อเจ้าอายุสิบห้าจะยังชอบเล่นหรือไม่”นางยังคงเป็นนาง“เห็นหรือไม่” นางชี้ใบหน้าของตนเอง “นี่ไม่ใช่ปาน แต่เป็นพิษ”“อะไรนะ?!” เยว่เอ๋อร์เบิกตากว้างอย่างตะลึงงันพิษ!พิษชนิดนี้เข้าสู่ร่างกายตั้งแต

    Last Updated : 2024-10-29

Latest chapter

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1010

    จิ่งอี้ชะงักเล็กน้อย มีประกายแปลกๆ แลบผ่านแววตาไม่กล้าพูดถึงอวิ๋นอิง…เมื่อพูดถึงชื่อนี้ เขาร้อนตัว“นาง…” เขากวาดมองประตูห้องที่ปิดสนิท “น่าจะกลับไปแล้วกระมัง”ยิ่งกว่านั้นเขายังไม่รู้ว่าจะอธิบายกับคุณหนูอย่างไร…เยว่เอ๋อร์เกาศีรษะอวิ๋นอิงกลับจวนอ๋องเฉินแล้ว?เหตุใดนางไม่เห็น?สงสัยระหว่างทางที่มา นางกับอวิ๋นอิงเดินคลาดกันกระมัง ในเมื่ออวิ๋นอิงไม่อยู่ที่นี่ เช่นนั้นนางก็สามารถพูดสิ่งที่จะพูดต่อจากนี้ได้อย่างวางใจแล้ว“คุณชายจิ่ง เมื่อคืนอวิ๋นอิงค้างคืนกับท่านหรือ?”เพิ่งถามคำพูดนี้ออกมา ก็รู้สึกได้ว่าสายตาของเขาเย็นลงแล้ว นางรีบกล่าวเสริม“ความหมายของข้าคือ นางค้างคืนที่โรงหมอหรือ? เพราะเมื่อคืนนางไม่ได้กลับจวน พระชายาค่อนข้างเป็นห่วงนาง…”ที่จริงเยว่เอ๋อร์อยากหยั่งเชิงความสัมพันธ์ของจิ่งอี้กับอวิ๋นอิง อยากรู้ว่าพวกเขาพัฒนาไปถึงขั้นใดแล้ว แต่คุณชายจิ่งเฉียบแหลม นางไม่กล้าพูดตรงเกินไปจิ่งอี้ยังคงมองเยว่เอ๋อร์อย่างเย็นชาสายตาเฉียบคม ราวกับสามารถมองทะลุความคิดของเยว่เอ๋อร์ เขาสามารถมองออก นางหนูนี่ไม่ธรรมดาเมื่อคืน ทั้งๆ ที่เขาส่งคนไปแจ้งจวนอ๋องเฉินแล้ว บอกคุณหนูว่า

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1009

    เวลาผ่านไปอย่างเงียบๆ ทีละนิด เงียบจนสามารถได้ยินเสียงหายใจนางหายใจเบามาก หน้าอกที่กระพือขึ้นลงก็เบามาก ท่าทางที่อ่อนแอเช่นนั้น ราวกับแค่ใช้นิ้วจิ้มเบาๆ ก็จะหายไปตามสายลม…เขานั่งอยู่ที่หน้าเตียงหวังว่านางจะฟื้น หวังว่านางจะสามารถลืมตากลับมาเป็นเหมือนเมื่อก่อน ใช้ดวงตาที่เป็นประกายและมีพลังมองเขาแต่เขาก็กลัว…กลัวเผชิญหน้ากับนางกลัวเห็นสายตาที่นางเกลียดชังเขา ยิ่งกลัวไม่รู้จะพูดกับนางอย่างไร…จิ่งอี้ก้มหน้าลงอย่างเจ็บปวด ในแววตาเต็มไปด้วยความขมขื่น“ตกลงข้าควรทำอย่างไร…ข้าทำอะไรลงไป เดินมาถึงขั้นนี้ หัวใจของข้าวุ่นวายและสับสนมาก จู่ๆ ก็ไม่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไร จะทำอะไร ควรทำอะไร อะไรคือถูก อะไรคือผิด จู่ๆ ข้าก็เหมือนหลงทาง…”ยี่สิบกว่าปีมานี้ ครั้งแรกที่หลงทางตอนเด็ก ถูกคนเหล่านั้นตามล่า เขาอดทนผ่านมาได้ตอนจางเฟยตาย เขาก็อดทนผ่านมาได้แล้วแต่ตอนนี้ อวิ๋นอิง สองคำนี้ก็เหมือนภูเขาลูกใหญ่ที่หนักอึ้ง ทับอยู่บนไหล่ของเขา ทับจนเขาแทบหายใจไม่ออกเฟิ่งหรานที่ยืนอยู่ข้างๆ เม้มมุมปากแน่นเรื่องราวมาถึงขั้นนี้ พูดมากก็ไม่มีประโยชน์ เมื่อเทียบกับหนีความกลัว ไม่สู้หาทางออกที่ด

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1008

    โรงหมอคืนนี้ จิ่งอี้นอนไม่หลับทั้งคืน หัวใจของเขาเหมือนถูกโยนขึ้นกลางอากาศแล้วตกลงมา ความรู้สึกที่เหมือนหายใจไม่ออก เคยเกิดขึ้นแค่ตอนที่จางเฟยตาย บนเตียงอวิ๋นอิงนอนอยู่ตรงนั้นนางเปลี่ยนชุดที่สะอาดแล้ว ผมก็ถูกหวีอย่างเรียบร้อย แต่สีหน้าซีดราวกับกระดาษ ไร้ร่องรอยของเลือด ร่างกายผอมเหมือนหนังหุ้มกระดูก ผ้าห่มคลุมอยู่บนร่างกายของนาง เรียบเหมือนไม่มีคนนอนอยู่นางผอมจนแทบเป็นหนึ่งเดียวกับเตียง ราวกับไม่มีตัวตนจิ่งอี้นั่งลืมตาอยู่ที่หน้าเตียงมาทั้งคืนแล้ว ไม่รู้เพราะเหนื่อยล้า หรือเพราะอะไร เบ้าตาของเขาแดงก่ำ ท่าทางที่เหี้ยมเกรียมนั่น มีความดุร้ายแฝงอยู่หลายส่วนริมฝีปากบางเม้มเป็นเส้นตรง สายตาเอาแต่จ้องใบหน้าของนางตลอด คืนนี้ หัวใจของเขาสงบอย่างน่าประหลาดเมื่อใจเย็นลง จู่ๆ เขาก็พบว่านางผอมจนน่ากลัว ผอมจนแก้มไม่มีเนื้อ กระดูกก็นูนออกมาแล้วเมื่อใจเย็นลง เขาพบเช่นกันว่านางที่นอนอยู่บนเตียง เหมือนดอกไม้ที่เหี่ยวเฉา ไม่หลงเหลือความสดใสในอดีตในความทรงจำของเขา นางเป็นคนมั่นใจและภาคภูมิใจเสมอไม่กลัวลำบาก กล้าเผชิญหน้าไม่กลัวอันตราย ยิ่งเจ็บยิ่งแกร่งบนใบหน้าของนางไม่เคยปรากฏ

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1007

    เมื่อเยว่เอ๋อร์ได้ยินคำพูดนี้ ก็สะดุ้งด้วยความตกใจ กวาดมองรอบๆ โดยไม่รู้ตัว เมื่อเห็นว่าไม่มีคนในวัง จึงจะถอนใจอย่างโล่งอกนางเดินเข้าไปใกล้พระชายา กล่าวเสียงเบา“พระชายา ในวังคนเยอะหูหลาย ท่านอย่าพูดส่งเดชนะ!”ถ้าหากมีคนได้ยิน ไม่แน่อาจจะใส่ความพระชายาอย่างไรก็ไม่รู้ลูกที่พระชายาอ๋องหลีให้กำเนิด จะคล้ายลูกที่พระชายาอ๋องเฉินให้กำเนิดได้อย่างไร?ต่อให้หน้าตาคล้าย ก็ต้องคล้ายท่านอ๋องฉู่เชียนหลีเม้มปาก “ข้ารู้ ข้าไม่ควรพูดคำพูดประโยคนี้ แต่ตอนที่ข้าอุ้มจื่อเยี่ย สายตาที่เขามองข้า มือของเขาที่จับข้า และรอยยิ้มที่ไร้เดียงสาของเขา ในใจข้ารู้สึกแปลกๆ มันอบอุ่นมากๆ…”ความรู้สึกเช่นนี้แปลกเล็กน้อย อธิบายไม่ถูกเหมือนกับว่านางกับเฟิงเจิ้งจื่อเยี่ยมีความเชื่อมโยงอะไรบางอย่างเยว่เอ๋อร์กล่าว“หรือตอนที่ท่านอุ้มเว่ยซีกับลู่ฉิน ในใจไม่ได้รู้สึกอบอุ่นหรือ?”“ข้า…”ตอนที่นางอุ้มลูกสาวทั้งสองคน ในใจย่อมอบอุ่นมากแต่นางอุ้มเฟิงเจิ้งจื่อเยี่ยไว้ ก็มีความรู้สึกเช่นนี้“เยว่เอ๋อร์ เจ้าไม่รู้หรอก คือ…มันไม่เหมือนกัน ข้า…ข้าไม่รู้จะอธิบายกับเจ้าอย่างไร” ฉู่เชียนหลีไม่รู้จะสรรหาคำอะไรมาอธิบาย

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1006

    ท่าทางที่โบกมือถีบเท้าด้วยความตื่นเต้น แก้มแดงๆ และดวงตาที่สะอาดเป็นประกายของเจ้าตัวน้อยนั่น ไม่ต้องพูดถึงว่าน่ารักเพียงใด“อุ้ย…”เต๋อเฟยมองตามสายตาของเขา เห็นพระชายาอ๋องเฉิน รู้ความหมายของเด็กคนนี้แล้ว กล่าวอย่างประหลาดใจ“พระชายาอ๋องเฉิน เหมือนจื่อเยี่ยจะชอบเจ้ามากเลยนะ”นางเลี้ยงพระนัดดาองค์โตเกือบสิบวันแล้ว ตลอดหลายวันมานี้ พระนัดดาองค์โตกินอิ่มนอนหลับทุกวัน ไม่เคยร้องไห้ ไม่ต้องห่วงเลยขณะเดียวกัน ก็ไม่เคยตื่นเต้นเช่นนี้เห็นพระชายาอ๋องเฉิน นี่เป็นครั้งแรกที่มีปฏิกิริยารุนแรงเช่นนี้ฮ่องเต้ก็หันมามองด้วยความอยากรู้อยากเห็นเช่นกัน “เจ้าหนูนี่ ตอนเห็นเราที่เป็นปู่คนนี้ ก็ไม่เคยเห็นเขามีความสุขเช่นนี้ หรือหน้าของเรามีแรงดึงดูดสู้พระชายาอ๋องเฉินไม่ได้?”เขาลูบหนวดเคราบนใบหน้าเต๋อเฟย “ฝ่าบาท ตอนที่ท่านใช้หนวดแทงจื่อเยี่ย จื่อเยี่ยไม่ร้องไห้ก็ดีมากแล้ว”ฮ่องเต้ “...”พูดความจริงส่งเดชอะไร“คิกๆ”จื่อเยี่ยน้อยพลางโบกกำปั้น พลางหัวเราะคิกคักใส่ฉู่เชียนหลี และกะพริบตาปริบๆ ไม่หยุด ราวกับพูดได้ในใจเต๋อเฟยหวั่นไหวแล้ว “พระชายาอ๋องเฉิน หรือไม่เจ้ามาอุ้มหน่อย?”ในใจฉู่เชียนหล

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1005

    เพียงชั่วข้ามคืน ข่าวลือที่เกี่ยวกับอ๋องหลีแพร่กระจายไปทั่วเมืองหลวง และถึงขั้นกระจายไปถึงเมืองอื่น โจษจันไปทั้งเมือง เป็นที่รู้กันทุกคน“ได้ข่าวหรือยัง อ๋องหลีวางแผนฆ่าอ๋องเฉินไม่สำเร็จ…”“สองพี่น้องชิงราชบัลลังก์ เกรงว่าในอีกไม่ช้า จะเกิดการนองเลือดครั้งใหญ่”“ไม่รู้ใครจะชนะ…”“ได้ยินมาว่าอ๋องหลีถูกกักบริเวณแล้ว ฝ่าบาทกำลังตรวจสอบเรื่องนี้ ถ้าหากเป็นความจริง เขาน่าจะถูกลงโทษกระมัง?”“ข้าว่าไม่หรอก เขาเป็นพ่อของพระนัดดาอ๋องโต อายุพระนัดดาองค์โตยังไม่ครบหนึ่งเดือนเลย ฝ่าบาทไม่ไว้หน้าเขา ก็ต้องเห็นแก่พระนัดดาองค์โต อย่างไรก็ไม่ทำอะไรอ๋องหลีแน่นอน…”ความคิดเห็นแตกต่างกันไปทุกคนมีปาก หนึ่งร้อยคน มีหนึ่งร้อยวิธีพูด หนึ่งพันคน มีหนึ่งพันความคิดเห็นจวนอ๋องเฉินรุ่งเช้า กงกงในวังมาถ่ายทอดคำพูดที่จวน บอกว่าให้พระชายาอ๋องเฉินพาลูกสาวฝาแฝดไปเดินเล่นในวังบ้าง ตั้งแต่นางคลอดลูก ฝ่าบาทยังไม่เคยได้ดูเด็กสองคนนี้ดีๆ สักครั้งหลังอาหารเช้าฉู่เชียนหลีอุ้มลูกไว้ ถามเฟิงเย่เสวียน “เจ้าจะไปหรือไม่?”เฟิงเย่เสวียนกล่าว “เมื่อคืนข้าได้รับจดหมายลับ จวนอ๋องหลีกับจวนอัครเสนาบดีฉู่แอบติดต่อกัน ข้

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1004

    จวนอ๋องเฉินกลางดึกฉู่เชียนหลียังไม่นอน กำลังรออวิ๋นอิงกลับมาเยว่เอ๋อร์อุ้มเด็กทั้งสองคนไปนอนแล้ว เมื่อเห็นพระชายายังไม่นอน อดไม่ได้ที่ห้ามปราม“พระชายา นี่ก็ดึกแล้ว ท่านรีบพักผ่อนเถอะ อวิ๋นอิงไม่ใช่เด็กแล้ว และยังเป็นวรยุทธ์ ไม่ต้องห่วงเจ้าค่ะ”ฉู่เชียนหลีกังวลวันนี้ทั้งวันไม่เจออวิ๋นอิงเลย และยังเป็นวันแต่งงานของท่านโหวน้อยกับกู้ชิงชิง จะให้นางนอนหลับได้อย่างไร?“ข้าให้หานเฟิง หานอิ๋ง ลองไปตามหาดู” เฟิงเย่เสวียนกล่าว “แต่สถานการณ์เช่นนี้ บางทีให้นางอยู่เงียบๆ คนเดียว ไม่ไปรบกวนน่าจะดีกว่า เชียนหลี เจ้าแน่ใจหรือว่าจะตามนางกลับมาตอนนี้?”ตอนที่จิตใจสับสน อยู่เงียบๆ คนเดียว จิตใจสงบง่ายกว่าถ้าหากคนอื่นเข้ามายุ่ง เจ้าหนึ่งคำ ข้าหนึ่งคำ ความห่วงใยกลับยิ่งทำให้วุ่นวายฉู่เชียนหลีอ้าปากแล้วอ้าปากอีก“ข้า…”นางลังเลแล้ว“แต่ว่า…”นางลังเลอยู่สองอึดใจ เสียงของพ่อบ้านหยางดังมาจากข้างนอก “พระชายา มีคนจากโรงหมอมาขอรับ บอกว่าคืนนี้อวิ๋นอิงนอนที่คุณชายจิ่ง ท่านไม่ต้องห่วง”เยว่เอ๋อร์เบิกตากว้าง “?!”เมื่อฉู่เชียนหลีได้ยิน โล่งอกทันทีเป็นห่วงทั้งวันที่แท้อวิ๋นอิงอยู่กับจิ่งอี้

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1003

    “อ๊ะ!”ร่างกายที่สั่นเทาของนางขนลุกตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า กระทั่งทุกตารางนิ้วของผิวหนัง แม้แต่ลมหายใจก็กำลังต่อต้านอย่าแตะต้องนาง!อย่าเข้าใกล้นาง!นางพยายามขัดขืน ดิ้นรนอย่างแรงแต่ถูกมัดมือสองข้าง สองขาก็ถูกเขาทับไว้ นอกจากบิดเอว ก็ขยับไม่ได้อีกแล้ว กลับกัน การกระทำที่บิดเอวของนาง เหมือนอยากปฏิเสธแต่ก็ต้องการ ทำให้การกระทำต่อจากนี้ของจิ่งอี้ ยิ่งลื่นไหลเหมือนปลาได้น้ำบุกเข้าตีอย่างหนักหน่วง“ปล่อยข้า!”นางต่อต้านอย่างสุดชีวิต เพราะดิ้นรนแรงเกินไป ข้อมือจึงถูกสายรัดเอวถูจนถลอก มีเลือดไหลออกมาแล้วไม่รู้สึกเจ็บเลยสักนิด กลับกันยิ่งดิ้นรนสุดชีวิตในแววตาของนาง เต็มไปด้วยความรังเกียจเขาเหมือนถูกกระตุ้นจนโกรธแล้ว ไม่เพียงไม่ปล่อยนาง และยังจับคางของนาง ตรึงศีรษะนางไว้ ให้นางมองดูคนที่รังเกียจเข้าใกล้ต่อหน้าต่อตา มันเป็นความรู้สึกเช่นไรที่จริง นางควรเคยชินนานแล้ว…การดิ้นรนและต่อต้านของนาง สำหรับเขา มันไม่เคยมีประโยชน์เมื่อเวลาค่อยๆ ผ่านไป เสียงของนางค่อยๆ เบาลง มือสองข้างเลิกดิ้นรน ร่างกายผ่อนคลายนอนแผ่ ละทิ้งแรงทั้งหมด นอนแน่นิ่งอยู่ตรงนั้นเจ็บต่อให้ร้องก็ไม่มีประโยชน์

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1002

    “แค่กๆ…อ่า…”อวิ๋นอิงอาเจียนอย่างหนัก สีหน้าซีดขาวเหมือนกระดาษ ไร้ร่องรอยของเลือดปฏิกิริยาของนางทำให้สายตาจิ่งอี้ขรึมลง และดุร้ายขึ้นเรื่อยๆ กลิ่นอายโดยรอบก็เย็นลงเรื่อยๆเมื่อเอ่ยถึงท่านโหวน้อย ปฏิกิริยาก็รุนแรงเช่นนี้ต่อให้ท่านโหวน้อยแต่งงานแล้ว นางก็ยังคิดถึงเขา?เขาลุกขึ้นยืน คว้าไหล่ของนาง แล้วกดกลับไปนั่งที่เก้าอี้ “กิน!”ในกระเพาะอวิ๋นอิงปั่นป่วนมาก กินไม่ลงแล้วจริงๆ“ข้าไม่กิน!”นางปฏิเสธสายตาจิ่งอี้เย็นชา “เจ้าคิดว่าข้ากำลังหารือกับเจ้าหรือ?”เขาจับคางของนาง พลันออกแรงบิดเปิดปากนาง มืออีกข้างที่ว่างอยู่ หยิบช้อนขึ้นตักข้าวหนึ่งคำ แล้วยัดใส่ปากนาง“อ๊ะ!”นางพลางบิดร่างกาย พลางส่ายศีรษะ พยายามดิ้นรน“ข้าไม่…อ่า…แค่กๆ…ปล่อย ปล่อยข้า…”นางพยายามบิดอย่างสุดชีวิต แต่ฝ่ามือใหญ่ของจิ่งอี้ที่จับนางเหมือนกับเหล็กกล้า เย็นๆ แข็งๆ ทำอย่างไรก็ดิ้นไม่หลุดถูกบังคับให้กลืน ในกระเพาะปั่นป่วน ร่างกายทรมาน แทบเป็นลมแล้วทรมานมาก“ข้าไม่กิน…ไม่กิน…” นางถูกบังคับให้เงยหน้า ไม่รู้เพราะสำลัก หรือเพราะทรมาน น้ำตามารวมกันตรงหางตาที่เปียกชุ่ม ไหลออกจากเบ้าตา หยดลงมาติ๋ง!หยดน้ำต

DMCA.com Protection Status