Share

บทที่ 4

Author: สกุลหยางมีบุตรสาว
ยามมีคนประคอง ราศีของเซียวจือฮว่ายิ่งดีสูงส่งอย่างเห็นได้ชัด ร่างขาวนวลอ้อนแอ้นบอบบางอรชร ก้าวย่างทีละน้อย ให้ความรู้สึกบอบบางจนแทบจะล้มไปตามลม

เมื่อสาวใช้เงยหน้าขึ้นเห็นว่าฉู่เชียนหลียังคงนั่งอยู่ที่เดิมไม่ขยับแม้สักนิดราวกับมองไม่เห็นก็อดโมโหไม่ได้

พระชายานี่ตาบอด ไม่รู้จักออกมาต้อนรับสักหน่อยรึ?

“พี่หญิง...” เซียวจือฮว่าเดินเข้ามาเห็นว่าฉู่เชียนหลีกำลังกินซาลาเปา ที่พำนักผุพังก็รู้สึกปวดใจจนตาแดงก่ำขึ้นทันที “เหตุได้ท่านจึงอยู่ในสถานที่ชนิดนี้ นี่หาใช่ที่สำหรับคนอยู่...”

“ไว้ข้ากลับไปจะต้องบอกกับเฉินสักหน่อย”

น้ำเสียงนั้น ถ้อยคำเช่นนั้น ราวกับว่านางต่างหากที่เป็นนายหญิงของจวนแห่งนี้ ส่วนฉู่เชียนหลีก็เป็นแค่เด็กสาวบ้านป่าผู้หนึ่งเท่านั้น

ฉู่เชียนหลีปรายตามองนางเรียบๆ กัดซาลาเปาคำหนึ่ง “ เจ้ามาทำไม?”

เมื่อสตรีผู้นี้ปรากฏตัว แน่นอนว่าต้องไม่ได้มาด้วยเจตนาดี

ก่อนนี้ เจ้าของเดิมของร่างนี้รักใคร่เฉินหวังอย่างล้ำลึก แต่เมื่อใดที่เซียวจือฮว่า ปรากฏตัว พอนางทำตาแดงๆ คราวหนึ่ง เบะปากคราวหนึ่ง ไม่ก็หลั่งน้ำตาครึ่งหยด ถ้านางไม่ถูกถีบกระเด็น ก็ถูกทุบตีอย่างทารุณยกหนึ่ง

พอเสร็จเรื่อง สตรีผู้นี้ก็ยังเสแสร้งทำมาเป็นห่วงเป็นใย

บนตัวนางติดป้ายเอาไว้ว่า ดอกบัวขาว

เซียวจือฮว่าเอ่ยเสียงละมุน “ข้าเพิ่งเข้าจวนมาเมื่อวาน ตามประเพณีแล้ว จะต้องมาคารวะพี่หญิงเจ้าคะ”

ฉู่เชียนหลีเงยหน้าขึ้นมา กลอกตามองซ้ายขวา “มามือเปล่าหรือ?”

เซียวจือฮว่าชะงักไปคราวหนึ่ง ก่อนก้มหน้าลงทำท่าเคอะเขิน “เป็นข้าที่เลินเล่อเอง เพราะเมื่อคืนท่านอ๋องรุกเร้าอยู่จนดึกนัก ข้าไม่ได้พักผ่อนเต็มอิ่มก็เลยลืมไป...”

มือเล็กๆ ทึ้งผ้าเช็ดหน้า เมื่อคิดถึงเรื่องเมื่อคืนแก้มของนางก็แดงขึ้นมาน้อยๆ เขินอายจนแทบอยากหาที่มุดลงดิน

“อ๊ะ! พี่หญิง” จู่ๆ ก็อุทานขึ้นมาอีก “ได้ยินว่าหลังจากท่านเข้าจวนมา ตลอดสามเดือนล้วนไม่เคย...”

นางรีบบอกว่า “ข้าเพิ่งเข้าจวนมาก็ได้รับความเมตตาจากท่านอ๋อง แต่เขากลับมองข้ามพี่หญิง เป็นข้าไม่รู้ความ รอคืนนี้ข้าจะต้องเตือนท่านอ๋องให้ดีเจ้าค่ะ!”

อาการรีบร้อนยอมรับผิดเช่นนั้น ดูไปก็ดูสมจริงดี

ฉู่เชียนหลีกัดซาลาเปาคำหนึ่ง แอบบ่นในใจว่า นางแสดงไม่เหนื่อย แต่นางดูจนเมื่อยตาแล้ว

“คารวะเสร็จแล้วก็ขยับออกไปที ขัดจังหวะข้ากินซาลาเปา”

เซียวจือฮว่าตะลึงงันอีกครั้ง

เหตุใดจึงรู้สึกว่า วันนี้ฉู่เชียนหลีดูแปลกๆ ไป แต่ว่าที่ใดแปลกนั้นกลับบอกไม่ถูก?

ก่อนนี้ ฉู่เชียนหลีริษยาที่นางได้รับความรัก นางแค่พูดลอยๆ สองประโยคก็ยั่วให้ฉู่เชียนหลีโกรธได้แล้ว พอฉู่เชียนหลีโกรธก็จะด่านางตะคอกนาง อาศัยโอกาสนี้ทำตาแดงๆ และท่านอ๋องก็มักลงทัณฑ์นางแพศยานนี่

แต่หากฉู่เชียนหลีไม่รังแกนาง แล้วนางจะหาโอกาสให้ท่านอ๋องหย่ากับฉู่เชียนหลีได้อย่างไร?

นางกลอกตาน้อยๆ อมยิ้มเดินเข้าไปหา “เหตุใดพี่หญิงจึงกินของเหล่านี้ ข้าสงสารเหลือเกิน มิสู้ไปทานอาหารเช้าด้วยกันที่เรือนของข้าดีหรือไม่เจ้าคะ?”

เอ่ยพลาง เข้าไปแย่งซาลาเปาในมือของฉู่เชียนหลีและโยนลงพื้นราวกับเป็นขยะ ซ้ำยังขยี้ด้วยเท้า

ท่าทีเช่นนั้น ราวกับกำลังเหยียบหน้าของฉู่เชียนหลีอยู่บนพื้น เหยียบย่ำด้วยท่าทีขยะแขยงนัก

ฉู่เชียนหลีดวงหน้าหนักอึ้ง นางไม่ชอบหาเรื่อง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่านางจะไม่หาเรื่องใคร หากคนอื่นมาข่มเหงนาง ก็อย่าได้หวังเลยว่าจะจบลงดีๆ

นางลุกขึ้นทันใด

“โอ๊ย...”

เพิ่งจะลุกขึ้น ร่างของเซียวจือฮว่าก็ร่วงลงบนพื้น ปากร้องตะโกนว่า “พี่หญิง ข้า เป็นห่วงท่านด้วยใจปรารถนาดี เหตุใดท่านจึงผลักข้าเล่า...”

“จือฮว่า!”

ประจวบเหมาะกับที่เงาดำเงาหนึ่งจากข้างนอกเรือนปรี่เข้ามาและประคองหญิงสาวขึ้นจากพื้น

ฉู่เชียนหลีเห็นดังนั้น พลันหัวเราะเย็นคราวหนึ่ง

มาไม้นี้อีกแล้วรึ?

นางกลัวหรือไร?

แน่นอนว่านาง...

“ท่านอ๋อง นี่ล้วนเป็นความผิดของข้าจริงๆ!” พริบตาต่อมา นางดึงผ้าเช็ดหน้าออกมาปิดดวงตา ร่ำไห้สะอึกสะอื้น “ข้าบังเอิญไปผลักน้องหญิงล้ม ทำร้ายคนที่ท่านรัก ข้ามีความผิด”

เซียวจือฮว่าใช้ลูกไม้ถูกผลักล้มใส่ร้ายนางมาไม่น้อยกว่าสิบหนแล้ว จะมีก็แต่พวกผู้ชายที่ดูแล้วเสียสายตาเท่านั้นที่มองไม่ออก

ไม่ต้องอธิบายกันแล้ว รีบหย่ากับนางเสียเถิด!

เมื่อเฟิงเย่เสวียนได้ยินเสียงในใจนางพลันมีแววตาหนักอึ้ง เมื่อย้อนคิดดูให้ละเอียด 'คล้ายว่าทุกคราวที่จือฮว่าอยู่กับฉู่เชียนหลีล้วนต้องเกิดเรื่อง หรือว่า...'

เซียวจือฮว่าอ่อนระทวยซบเข้ากับอกชายหนุ่มและรีบดึงแขนเสื้อเขา “เฉิน เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับพี่หญิงนะ เป็นข้าเอง... เป็นข้าที่ไม่ระวังหกล้ม... ท่านอย่าโทษนางเลย!”

ฉู่เชียนหลีกลอกตามองบน

ผู้หญิง ตัวบางๆ ถีบครั้งเดียวก็กระเด็นไปสิบเมตรแบบนี้มีคนชอบจริงๆ ด้วยหรือ?

ชอบตรงไหน?

ชอบที่หล่อนฉอเลาะ ชอบที่หล่อนออดอ้อน ชอบตอนที่หล่อนอยู่บนเตียงแล้วบอกว่า พี่คะหนูรักพี่ งั้นเหรอ?

เมื่อได้ยินทั้งหมด เฟิงเย่เสวียน ก็ “...”
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 5

    “ข้าจงใจผลักเอง” ฉู่เชียนหลีพูดต่อว่า “ข้าริษยาที่น้องเซียวเป็นที่รัก ไม่ใช่แค่ผลักนาง ยังอยากจะทุบตีนางด้วย เพราะรักกลายเป็นแค้น ไม่ว่าเรื่องใดก็ทำออกมาได้ทั้งสิ้น”เซียวจือฮว่าได้ยินคำก็หัวเราะเย็นอยู่ในใจแต่ไรมาท่านอ๋องก็รังเกียจสตรีขี้อิจฉาใจคับแคบเป็นที่สุด นี่เจ้ากลับโง่พูดออกมา เตรียมตัวถูกหย่าเสียเถิด ตำแหน่งพระชายาอ๋องเฉินจะต้องเป็นของนางในไม่ช้าก็เร็วเฟิงเย่เสวียนขมวดคิ้วกระบี่ของตนนางอยากจะไปให้พ้นจากจวนอ๋องเฉินจนแทบทนไม่ไหวถึงเพียงนี้เชียวหรือ แต่เขาจะไม่ให้นางได้สมหวังเสียอย่าง“ในเมื่อรู้ผิดแล้ว ยังไม่รีบ…”หย่ากับนางเสีย?“ขอบคุณท่านอ๋อง!” ฉู่เชียนหลีดีใจจนเผลอหลุดปากเฟิงเย่เสวียนมองนางคราวหนึ่งด้วยปรายสายตายะเยือก“ยังไม่รีบไปคุกเข่าสำนึกผิดที่เรือนหานเฟิงอีก? คุกเข่าจนกว่าจือฮว่าจะยกโทษให้เจ้า”ฉู่เชียนหลี “?”เซียวจือฮว่าชะงักอยู่น้อยๆ เปลี่ยนจากหย่ามาเป็นคุกเข่าเช่นนั้นรึ?ช่างเถิดอีกสักครู่ ดวงตะวันก็จะออกมาแล้ว ความร้อนในฤดูร้อนรุนแรงหนักหนา หากฉู่เชียนหลีต้องคุกเข่าอยู่กลางตะวันแผดเผาสักสี่ห้าชั่วยาม ต่อให้ไม่ตายก็ต้องเกือบตายฉู่เชียนหลีจ้องชายห

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 6

    “จู่ๆ ข้าก็นึกขึ้นได้ว่าครั้งก่อนบอกกับนางว่าวันนี้ข้าจะกลับไปเยี่ยมนาง ข้าจะเป็นลูกสาวกตัญญูที่รู้ความ ข้าไม่สามารถไม่รักษาคำพูด!” ฉู่เชียนหลีสะอื้นกัดผ้าเช็ดหน้า ท่าทางราวกับคิดถึงบ้านอย่างมากในความเป็นจริง หนังศีรษะของนางโดนแดดเผาจนแทบปริแตกแล้ว หากเป็นเช่นนี้ต่อไปนางต้องขาดน้ำตายแน่เฟิงเย่เสวียนกุมความคิดของนางไว้หมดแล้ว พอดีกับตอนนี้เขาก็มีเรื่องสำคัญต้องจัดการ ฉู่เชียนหลีมักจะมาป้วนเปี้ยนตรงหน้าเขา จิตใจไม่สามารถสงบ จึงมีความกรุณาเป็นพิเศษ “เช่นนั้นก็กลับ…”ฟิ้ว…พูดไม่ทันขาดคำ สายลมพัดผ่าน คนหายไปแล้วไม่มีแม้กระทั่งคำขอบคุณเลยหรือ? ผู้หญิงไร้มโนธรรมคนนี้!จวนอัครมหาเสนาบดีฉู่ราชสำนักในปัจจุบันแบ่งออกเป็นอัครมหาเสนาบดีฝ่ายซ้ายและอัครมหาเสนาบดีฝ่ายขวา ตระกูลฉู่คืออัครมหาเสนาบดีฝ่ายซ้าย ฐานะทางครอบครัวมั่งคั่ง เป็นชนชั้นสูงชั้นหนึ่งในเมืองหลวง เพียงแต่ ครอบครัวเช่นนี้กลับให้กำเนิดบุตรสาวหน้าตาอัปลักษณ์ไร้ความงามคนหนึ่ง กลายเป็นที่ขบขันของประชาชน ยิ่งมีคนวิจารณ์ว่าไม่ใช่ลูกแท้ๆหลายปีมานี้ คุณหนูอัปลักษณ์ไม่ได้รับความโปรดปราน และยังใช้กลอุบายแต่งเข้าจวนอ๋องเฉิน เป็นที่

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 7

    นางอันเอ่ยปากกล่าว “เจ้าแต่งเข้าจวนอ๋องเฉินสามเดือนแล้ว หนึ่งไม่ได้รับความโปรดปราน สองไม่ได้รับอำนาจ สามไม่ได้รับทรัพย์สิน สี่ไม่ได้รับข่าวที่เป็นประโยชน์ นั่งตำแหน่งพระชายาอ๋องเฉิน ไม่กลัวผู้อื่นหัวเราะเยาะหรือ?”กระทั่งนางยังรู้สึกขายหน้าเลยมองดูใบหน้าที่อัปลักษณ์ของฉู่เชียนหลี่ ขมวดคิ้วกล่าว “เจ้าจำเป็นต้องทำให้ได้หนึ่งเรื่อง จึงจะสามารถทำประโยชน์ให้จวนอัครมหาเสนาบดีฉู่”ต้องได้รับอำนาจหรือไม่ก็มีอิทธิพล“แล้วก็เดือนหน้าเป็นวันแต่งงานของพี่หญิงเจ้าแล้ว เจ้าไปหาทางจัดการเรื่องสินเจ้าสาวมาให้นางด้วย ยิ่งเยอะยิ่งดี” น้ำเสียงที่แข็งกร้าวของนางเหมือนออกคำสั่งเสียมากกว่าฉู่เชียนหลี่ราวกับได้ยินเรื่องตลกที่สุดในโลกพี่หญิงจะแต่งงาน จะอย่างไรก็ไม่ถึงคราวที่นางต้องซื้อสินเจ้าสาวกระมัง“น้องหญิงสี่ ข้ารู้ว่าเรื่องนี้ทำให้เจ้าลำบากใจ…” ฉู่เจียวเจียวจับมือทั้งสองข้างนาง หลุบตาทั้งคู่ลงอย่างตำหนิตนเอง “เป็นเพราะข้าไม่เอาไหน ไม่สามารถได้รับความสำคัญจากท่านพ่อ ทำให้ตำแหน่งของพวกเราสามแม่ลูกในจวนกระอักกระอ่วนยิ่งนัก”นางอันเป็นอนุภรรยา ข้างบนยังมีฮูหยินข่มอยู่คุณหนูใหญ่ที่กำเนิดฮูหยินให

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 8

    ฉู่เชียนหลีกินข้าว เที่ยวผู้ชาย ฟังคำซุบซิบของชาวบ้าน และเดินตลาดครู่หนึ่ง ท้ายที่สุดสองมือไพล่หลังเดินกลับจวนอ๋องเฉินอย่างสบายใจ ราวกับชายชราที่มีอายุมากแล้วเมื่อเหล่าคนรับใช้เห็นใบหน้าอัปลักษณ์ที่มีปาน ตกใจจนเดินเลี่ยงสามส่วนยามดึกยามราตรีในจวนดั่งวารี แสงเทียนล้นเหลือ สายลมอ่อนตีหน้า เงาต้นไม้กวัดแกว่ง สงบสุขสำราญทันใดนั้นเสียงจืดชืดของผู้ชายก็ดังขึ้นกลางอากาศ ไม่รู้ว่ามาจากที่ไหน“ไปไหนมา”ฉู่เชียนหลีหันกลับมา ก็มองเห็นเงาอันสูงศักดิ์ร่างหนึ่งเดินออกมาจากยามราตรีที่มืดสลัวอย่างเชื่องช้า ชายคนนั้นเดินทวนแสงเข้ามา เงาร่างยาวที่ถูกสะท้อนกระทบลงบนร่างกายของนาง ทำให้นางมองไม่เห็นใบหน้าของเขารู้สึกเพียงดวงตาสีดำคู่นั้นลึกล้ำมาก มองไม่เห็นก้นบึ้ง“กลับบ้านแม่”ตอนออกจากบ้านก็บอกนายแล้วไม่ใช่เหรอ?นายบกพร่องทางสติปัญญาเหรอ?นายหูหนวกเหรอ?นายปัญญาอ่อนเหรอ?แววตาเฟิงเย่เสวียนครึ้มลง เดินผ่านข้างกายนาง แล้วหยุดอยู่ตรงระหว่างไหล่ที่เฉียดผ่านหันหน้า โน้มตัว ริมฝีปากบางเฉียดผ่านติ่งหูของนาง“ตัวหอมเช่นนี้เลยหรือ?” น้ำเสียงแหบแห้งฉู่เชียนหลีตกใจจนร่างเกร็ง พริบตาที่ริมฝีปา

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 9

    อะไรนะ!ดวงตาฉู่เชียนหลีเบิกกว้างทันที ดวงตาทั้งสองลูกแทบหลุดออกจากเบ้า“นี่พระชายาดีใจหรือ?” เฟิงเย่เสวียนชำเลืองนางแวบนาง เก็บอาการตกใจกับตะลึงงันของนางไว้ในสายตา พลันมีแววเจตนาร้ายแล่นผ่านดวงตาอย่างเร็วฉู่เชียนหลีอยากร้องไห้จริงๆดีใจแม่เจ้าสิ!เสียงออดอ้อนร่างอรชรอย่างเซียวจือฮว่าเจ้าไม่เอา แต่จะเอานางที่อัปลักษณ์ไร้ความงาม เจ้าบ้านนี่ตาบอดหรืออย่างไร ของแปลกเช่นนี้ก็กล้าเอาอุจจาระที่สุนัขก็ไม่กิน แต่เขากลับกินเก่งยิ่งกว่าสุนัขด่าทอในใจ สีหน้าแสร้งปลื้มปีติอย่างคาดไม่ถึง “หา จริงหรือ จริงหรือ ความสุขมากะทันหันเกินไป ข้าอึ้งไปชั่วขณะ ข้าจะไปอาบน้ำเดี๋ยวนี้ จะได้ปรนนิบัติท่านอ๋องได้ดียิ่งขึ้น!”พูดจบก็สับขาวิ่งทันทีเพิ่งพุ่งออกไปครึ่งก้าว ปกคอเสื้อด้านหลังก็ถูกมือใหญ่ข้างหนึ่งคว้าไว้“ไม่เป็นไร ข้าชอบรสชาติดั้งเดิม”เชี่ย!ชอบของแปลกอย่างนี้เลย!ไม่ให้นางอาบน้ำ แล้วนางจะหาโอกาสหนีได้อย่างไรไม่ทันได้คิดมาก เฟิงเย่เสวียนได้เข้าใกล้นางแล้ว นางเซถอยหลังอย่างตื่นตระหนกหนึ่งก้าว ล้มก้นทิ่มนั่งลงบนหินภูเขาจำลองก้อนหนึ่ง เฟิงเย่เสวียนถือโอกาสนี้โน้มตัวเข้าไป แขนทั้งสองข้าง

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 10

    เฟิงเย่เสวียนได้ยินคำพูดนี้ การเคลื่อนไหวหยุดชะงักในพริบตา เขาปล่อยฉู่เชียนหลีและตามสาวใช้ออกไปอย่างเร่งรีบก่อนออกไป สาวใช้หันมาจ้องเขม็งฉู่เชียนหลีแวบหนึ่ง‘ผู้หญิงอัปลักษณ์คนนี้ไม่เคยได้รับความโปรดปรานหรืออย่างไร? ตะโกนเสียเสียงดังเช่นนั้น โชคดีที่หูนางดีจึงได้ยิน ไม่เช่นนั้น ความโปรดปรานเพียงผู้เดียวที่เป็นของพระชายารองก็จะถูกนางแย่งไปแล้ว’ฉู่เชียนหลีหล่นลงพื้น ก้มหัวใจที่เต้นตุบๆ ของตนเองไว้ อีกแค่ห้าก้าวก็จะถึงเตียงแล้ว…ตกใจแทบตายนางตกใจมากจริงๆ!นางใช้มือและเท้าดันร่างกายลุกขึ้น วิ่งกลับเรือนโทรมๆ อย่างเร็ว  นางหยิบผ้าห่อของผืนหนึ่งออกจากตู้ กางไว้บนโต๊ะ นำแจกันถ้วยชา ปิ่นปักผมเครื่องประดับใส่เข้าไปทั้งหมด“คุณหนู เหตุใดจึงเพิ่งกลับมาเจ้าคะ ท่านหิว…”นอกประตู เยว่เอ๋อร์วิ่งเข้ามา เมื่อเห็นท่าทางที่กำลังเก็บของของคุณหนู ก็ตะลึงงันครู่หนึ่งนี่คือ…“ข้าจะไปจากสถานที่นี่! ข้าจะไปจากจวนอ๋อง!” ฉู่เชียนหลีพลางห่อของ พลางกัดฟันกล่าว “ข้าไม่อยากอยู่สถานที่บ้าบอแห่งนี้แม้แต่ครู่เดียว”เยว่เอ๋อร์ตกใจมาก “ไม่ได้เจ้านะคุณหนู!”ฮ่องเต้เป็นคนพระราชทานการแต่งงานครั้งนี้ หากคุณหน

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 11

    เรือนหมิงเยว่ภายในห้องนอนที่ตกแต่งอย่างวิจิตรอ่อนโยน ร่างแสนอ่อนเพลียของเซียวจือฮว่านอนอยู่บนเตียง ใบหน้าเล็กๆ ขนาดเท่าฝ่ามือซีดขาวไปสามส่วน ไม่มีสีเลือด ลมหายใจค่อนข้างกระชั้น“เฉิน ทำให้ท่านต้อง... แค่ก... เป็นห่วง... รบกวนท่านทำงาน... แค่ก...”นางรู้จักฉอเลาะบุรุษท่าทางแสนทรมานเพราะขืนสะกดอาการไอเอาไว้แต่ยังคงคำนึงถึงบุรุษเช่นนั้นทำเอาคนสงสารยิ่งเฟิงเย่เสวียนนั่งอยู่ข้างเตียงกุมมือเล็กๆ ที่ค่อนข้างเย็นของนางเอาไว้ กล่าวเสียงหนักว่า “จือฮว่า ข้าจะต้องหายาดีมารักษาเจ้าให้ได้ ตลอดหลายปีมานี้ เป็นเพราะข้า เจ้าจึงต้องทุกข์ทรมาน”“แค่ก...ไม่...” นางส่ายหน้าอย่างอ่อนแรงพลางจับจ้องดวงตาที่เปี่ยมด้วยความรักลึกล้ำไม่ทรยศของเขา“ปีนั้น หากฮว่าเอ๋อร์มิได้ช่วยท่านอ๋องเอาไว้ ยามนี้ก็จะไม่ได้มีวาสนาได้แต่งงานกับท่านอ๋อง... แค่ก กลับเป็นฮว่าเอ๋อร์ที่ร่างกายอ่อนแอ ทำให้ท่านอ๋องเป็นห่วงเปล่าๆ ให้ท่านอ๋องพลอยต้องลำบาก...แค่ก...”เพียงแค่ไม่กี่ประโยค นางก็ทั้งหอบทั้งไอไม่หยุด ท่าทางเช่นนั้น ดั่งต้นหยางหลิวโบกไหวท่ามกลางสายลมเฟิงเย่เสวียนเอื้อมมือไปช่วยสอดชายผ้าห่มเข้าใต้ตัวนางเซียวจือฮว่า

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 12

    วันรุ่งขึ้นฉู่เชียนหลีนอนอยู่บนเตียงยังคงคำนึงถึงเรื่องที่ตนเองต้องสูญทรัพย์สินล้านล้านล้านไปในคืนเดียว นางกอดผ้าห่ม ยังคงอยู่ในอารมณ์เศร้าสลดเนิ่นนานมิอาจกลับมาเป็นตัวของตัวเองได้“เฮ้อ!”พอรุ่งเช้า เยว่เอ๋อร์ต้องวุ่นหน้าวุ่นหลัง ทำความสะอาดห้องหับ พับเสื้อผ้า เช็ดโต๊ะ ถอนหญ้าในลานบ้าน เปิดหน้าต่างระบายอากาศ และยังต้องยกกระถางดอกไม้ออกไปตากแดดด้วย ซึ่งฉู่เชียนหลีถอนหายใจมาเก้าสิบแปดครั้งแล้ว“เฮ้อ...”ทรัพย์สินล้านล้านของนางเยว่เอ๋อร์ยกอ่างน้ำเข้ามา “คุณหนูเจ้าคะ ตะวันส่องบั้นท้ายแล้ว ท่านยังไม่ตื่นอีกหรือเจ้าคะ?”ฉู่เชียนหลีช้อนดวงตาแดงก่ำทั้งคู่ขึ้น ดวงตาที่มีเต็มไปด้วยเส้นเลือดฝอยสีแดงจ้องเยว่เอ๋อร์ด้วยความคับแค้นใจแสนล้ำลึกถ้าไม่ใช่เพราะนังเด็กนี่รับใช้นางอย่างจงรักภักดี ไม่ละไม่ทิ้งมาตั้งแต่เล็ก จะต้องหักคอแสนชั่วช้าของนางเป็นแน่...“เฮ้อ!”นางพลิกตัว นอนหลับต่อไปด้วยความห่อเหี่ยวใจไม่อยากลุกจากเตียง ข้าวปลาก็ไม่อยากกิน เงินของฉัน...เยว่เอ๋อร์เรียกต่ออีกหลายครั้ง เมื่อเห็นคุณหนูไม่ตอบสนอง จึงได้แต่ไปทำงานอื่นๆ ต่ออย่างจนใจตลอดช่วงเช้า เรือนหลังเล็กโกโรโกโสและ

Latest chapter

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1264

    ระหว่างที่ทั้งสองคุยกัน นางค่อยๆ เดินเข้าไปใกล้เตียง จวินลั่วยวนนอนหลับแล้ว ไม่ได้เคลื่อนไหวเป็นเวลานาน หน้าซีดซูบผอม เหลือแต่หนังหุ้มกระดูกฉู่เชียนหลีเหลือบมองแวบหนึ่ง“เหตุใดข้อมือของนางยังมีเลือด?”สามเดือนแล้ว แผลยังไม่หาย?นางกำนัลที่อยู่ข้างๆ ตอบ“หมอหลวงบอกว่า จะใช้ยาพิเศษรักษาเอ็นมือและเท้าที่ขาดขององค์หญิง จำเป็นต้องเปิดแผล ขยับเอ็นที่ขาดไปรวมกันทุกวัน จนกระทั่งเชื่อมต่อกัน”“ฮืม?”ฉู่เชียนหลีเลิกคิ้วด้วยความสนใจเช่นนี้ก็เท่ากับว่า จวินลั่วยวนต้องทนกับความเจ็บปวดที่ใช้มีดเปิดปากแผลทุกวันติดต่อกันสามเดือนเต็มๆ น่าสังเวชน่าจะเจ็บมากกระมัง?นางค่อยๆ นั่งลง จับข้อมือของจวินลั่วยวนเบาๆ มองผ้าพันแผลที่ถูกพันห้าหกรอบอย่างครุ่นคิดทันใดนั้นออกแรงกดที่นิ้ว“ซี้ด…!”จวินลั่วยวนเจ็บจนตื่น ลืมตาทันทีฉู่เชียนหลีรีบปล่อยมือ “โอ๊ย…ขอโทษ ข้าไม่ได้ตั้งใจแตะตัวท่าน ดูท่านเจ็บมากเลยนะ ขอโทษจริงๆ”“!”หลินเหยี่ยมาอยู่ในตำหนักของนางได้อย่างไร?นางรังเกียจผู้หญิงคนนี้ที่สุด!อาศัยที่พี่ชายของตัวเองเป็นราชครู แสร้งทำเป็นช่วยเหลือชาวบ้าน ทำแต่ความดีทุกวัน มีแต่คนบอกว่าองค์หญ

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1263

    เซิ่นสือเฉิน “?”เหตุใดวันนี้รู้สึกว่าหลิงเหยี่ยแปลกๆ?เมื่อก่อนนางชอบเขามากเลยไม่ใช่หรือ? เวลาที่เขาอ่านหนังสือ นางชอบมาอยู่ข้างๆ ฝนหมึกพัดลมให้เขา เวลาที่เขาเขียนหนังสือ นางชอบแอบที่นอกหน้าต่าง จับจิ้งหรีดเล่น เวลาที่เขางีบหลับ นางมักจะชงชาหิมะชั้นดีมาให้เขานางยังบอกว่าจะแต่งงานกับเขาคนเดียวเหตุใดแค่วันเดียว ก็ปล่อยวางได้แล้ว?“องค์หญิงหลิง ข้าขอโทษ” เขากล่าวอย่างรู้สึกผิดที่จริงเขาก็ชอบหลิงเหยี่ยเช่นกัน แต่องค์หญิงยวนบอกเขาว่าหลิงเหยี่ยนิสัยไม่ดี ชอบรังแกคนรับใช้ หาเรื่องชาวบ้าน ใส่ร้ายโยนความผิดให้ผู้อื่นด้วยวิธีที่น่ารังเกียจ และทำทุกอย่างเพื่อบรรลุเป้าหมายเขาเป็นคนเรียนหนังสือ นิสัยซื่อตรง ไม่สามารถยอมรับคนที่จิตใจอำมหิตอย่างหลิงเหยี่ยเมื่อเปรียบเทียบกัน เขาชอบจวินลั่วยวนที่ไร้เดียงสา จิตใจดี และร่าเริงมากกว่า“เมื่อก่อนท่านส่งข้าเรียนหนังสือ ช่วยข้าหาอาจารย์ ใช้เส้นสาย ทำให้ข้าสอบติดขุนนาง…บุญคุณส่วนนี้ ข้า ข้าทำได้เพียงตอบแทนท่านชาติหน้าแล้ว…”ฉู่เชียนหลียิ้มอย่างอ่อนโยน“ไม่เป็นไร แค่เรื่องเล็กน้อย”“ได้ยินมาว่าองค์หญิงยวนได้รับบาดเจ็บ พวกเราเข้าวังไปดูนางกันเ

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1262

    องค์หญิง?คุณชายเซิ่น?ฉู่เชียนหลีไม่ได้รับความทรงจำใดๆ เพิ่งมาที่นี่ครั้งแรก สับสนและงงงวยเล็กน้อยยังไม่ทันรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น มีเสียงฝีเท้าที่ยุ่งเหยิงและเสียงต่อต้านดังมาจากนอกประตู “ใต้เท้าหลิง! ใต้เท้าหลิง ต่อให้ท่านบีบคั้นข้าจนตาย ข้าก็ไม่แต่งงานกับนาง!”“ตั้งแต่ต้นจนจบ ในใจข้ามีเพียงองค์หญิงยวนเอ๋อร์เท่านั้น!”ยวนเอ๋อร์?องค์หญิง?ฉู่เชียนหลีเงยหน้ามองไป เห็นชายหนุ่มสวมชุดเพ้าสีขาวและที่ครอบผมหยก กำลังลากผู้ชายที่ท่าทางสุภาพเหมือนคนเรียนหนังสือเข้ามานางตระหนักถึงบางอย่าง รีบดึงสาวใช้ที่อยู่ข้างกายมาถามเบาๆ“ที่นี่คือแคว้นหนานยวน?”สาวใช้ “?”องค์หญิงเป็นอะไรไป?เหตุใดถามคำถามเช่นนี้?“องค์หญิง ท่าน…”“อย่าพูดไร้สาระ ตอบข้า!”สาวใช้ตกใจ รีบกล่าว “ท่านคือหลิงเหยี่ย องค์หญิงต่างแซ่ของแคว้นหนานยวน ใต้เท้าคือมหาราชครูของแคว้นหนวนยวน เป็นพี่ชายแท้ๆ ของท่าน เพราะใต้เท้าชำนาญการทำนาย เคยช่วยแคว้นสามครั้ง สร้างคุณประโยชน์มากมาย ท่านจึงได้รับการแต่งตั้งเป็นองค์หญิงต่างแซ่…”คำพูดที่เหลือ ฉู่เชียนหลีมองข้ามโดยตรงสิ่งเดียวที่นางคิดคือ นางถูกส่งมาเป็นองค์หญิงต่างแซ่ อีกท

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1261

    ในเวลาต่อมา กลางคืนฉู่เชียนหลีอยู่กับเฟิงเย่เสวียน นอนกับเขา กลางวันอยู่กับลูก มองดูลูกทั้งสองเติบโตขึ้นวันแล้ววันเล่าเป็นเช่นนี้ สามเดือนผ่านในสามเดือนนี้ เฟิงเย่เสวียนไม่ได้ออกจากทำเนียบเลย หนึ่งวันสิบสองชั่วยาม อยู่ในห้องสิบชั่วยาม ที่เหลืออีกสองชั่วยามไปดูลูก เมื่อนานวันเข้า เขาเริ่มดูซูบผอม สีหน้าเศร้าหมอง ดูแก่กว่าวัยสิบกว่าปี ทุกคนล้วนกังวลมาก ถ้าหากเป็นเช่นนี้ต่อไป อ๋องเฉินจะกลายเป็นคนไร้ประโยชน์ แต่ใครเกลี้ยกล่อมก็ไม่มีประโยชน์ฉู่เชียนหลีเห็นเห็นแล้วปวดใจนางคุยและเกลี้ยกล่อมเขาทุกวัน แต่เขาไม่ได้ยินอยู่ใกล้แค่เอื้อมกลับเหมือนอยู่ไกลสุดขอบฟ้าความเจ็บปวดเช่นนี้ ไม่มีใครสามารถเข้าใจเวลานี้ ทำทำเหมือนเช่นเคย เข้านอนพร้อมกับเฟิงเย่เสวียน แต่จู่ๆ ก็ถูกพลังอันทรงพลังสายหนึ่งดูดเข้าไปในความมืด ไม่รู้จากทิศทางใด มีเสียงที่ชราภาพและน่าเกรงขามสายหนึ่งดังขึ้น “เจ้าตายแล้ว ไม่ควรอยู่ในโลกคนเป็น ทำลายความสมดุลหยินหยาง”เสียงที่ทรงพลังนี้ ราวกับดังมาจากขอบฟ้าอันไกลโพ้น แต่ก็เหมือนอยู่ใกล้แค่ข้างหู ไร้ตัวตน จับต้องไม่ได้ใครกำลังพูด?สะเทือนจนทำให้นางแสบแก้วหู“ข้าจะ

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1260

    สามวันแล้วที่เฟิงเย่เสวียนอยู่ข้างกายนางไม่ห่างแม้แต่ก้าวเดียวอย่างหมดอาลัยตายอยาก ฉู่เชียนหลีก็เฝ้าเขาสามวันเต็มๆ แล้วคนรับใช้ที่เป็นห่วงมาแล้วก็ไป ไปแล้วก็มา พยายามเกลี้ยกล่อมไม่หยุด“ท่านอ๋อง ท่านต้องสู้นะ”“พระชายาถูกฝังไปแล้ว ถ้าหากนางมาเห็นท่านในเวลานี้ จะต้องปวดใจแน่นอน”“เว่ยซีกับจื่อเยี่ยจะเสียใจ…”มนุษย์ต้องกินอาหาร ไม่ได้กินหนึ่งมื้อยังทนได้ แต่หนึ่งวัน สองวัน สามวันล่ะ? หิวตายได้เลยนะฉู่เชียนหลีเพิ่งจะรู้ พิธีศพของตัวเองเสร็จสิ้นแล้ว และเฟิงเย่เสวียนปิดบังทุกคน ขุดศพของนางขึ้นมา ใช้วิธีป้องกันการเน่าเปื่อยแบบพิเศษ เก็บนางไว้ข้างกายมองดูเขาที่ซูบผอมและเศร้าโศก รู้สึกปวดใจมาก“อาเฉิน ถ้าหากเป็นเช่นนี้ต่อไป สุขภาพของเจ้าจะแย่เอานะ”“เส้นทางของวันข้างหน้ายังอีกยาวไกล เว่นซีกับจื่อเยี่ยล้วนต้องการเจ้า ต่อให้เจ้าไม่คำนึงถึงตัวเอง ก็ต้องคิดถึงลูกด้วย…”“อย่าทำเช่นนี้เลย…”อาจเพราะได้ยินเสียงหัวใจของนาง จู่ๆ แววตาที่เหม่อลอยของเฟิงเย่เสวียน ก็ดูมีชีวิตชีวาขึ้นแล้ว“ลูก…”เขาค่อยๆ ฟื้นคืนสติสัมปชัญญะ รีบมองซ้ายมองขวา“ซีเอ๋อร์ จื่อเยี่ย…ลูก…”เหมือนกับค้นพบเป้าหมาย

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1259

    คนตายแล้ว จะไปไหน?ฉู่เชียนหลีก็ไม่รู้ตอนนางตกจากกำแพงเมือง สูญเสียสติสัมปชัญญะเสี้ยวสุดท้าย ราวกับว่านางตกลงไปในความมืดอันไร้ที่สิ้นสุด ไร้ขอบเขต ไร้เสียง ไร้ทิศทาง ไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวด ไม่รู้สึกหิว ล่องลอยอยู่กลางอากาศมีชีวิต?ตายแล้ว?วัฏสงสาร?กลับชาติมาเกิด?นางไม่รู้อะไรเลยและไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหนแล้ว ลืมตาขึ้นอีกครั้ง พบว่าตัวเองกลับมาอยู่ในทำเนียบแล้วนางเบิกตากว้างอย่างตะลึง มองดูร่างกายและมือที่สะอาดของตัวเอง และแสงแดดอันเฉื่อยชาเหนือศีรษะ ราวกับว่านางอยู่ในความฝันที่ยาวนานมากนางยังไม่ตาย?“ท่านอ๋อง ท่านกินอะไรหน่อยเถอะ…” ข้างนอก มีเสียงพูดฉู่เชียนหลีเงยหน้ามองไป เห็นผู้ติดตามหลายคนเดินตามหลังเฟิงเย่เสวียน เฟิงเย่เสวียนเข้าไปในห้องเพียงลำพัง สั่งให้พวกเขาออกไปพลันนางดีใจ“อาเฉิน!”รีบวิ่งเข้าไป ตอนที่เข้าใกล้เขา ร่างกายของนางกลับทะลุผ่านร่างกายเฟิงเย่เสวียนไร้แก่นสาร!พริบตานั้น รอยยิ้มบนใบหน้านางแข็งทื่อ ราวกับเลือดแข็งตัวนาง…ตายแล้วนางในตอนนี้เป็นวิญญาณนางเห็นเฟิงเย่เสวียนเปิดประตูเข้าห้อง และยังเห็นร่างกายของนางที่นอนอยู่บนเตียง!หมอส

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1258

    จวินลั่วยวนนอนจมกองเลือดบนพื้น หายใจรวยริน สะบักสะบอมเหมือนสุนัขเฟิงเย่เสวียนถือกระบี่เดินเข้าไป ยังไม่ทันแทงซ้ำ จู่ๆ ก็มีระเบิดควันหลายลูกถูกโยนเข้ามาปัง!พริบตาเดียว ควันหนาทึบพวยพุ่งเขาขมวดคิ้ว รีบคว้าไปทางจวินลั่วยวน แต่ควันที่หนาทึบบดบังวิสัยทัศน์ ยังไม่ทันเข้าใกล้ เห็นเพียงจวินลั่วยวนถูกคนชุดดำคนหนึ่งแบกไว้บนไหล่ และหนีออกไปอย่างรวดเร็วทั้งหมดนี้ใช้เวลาเพียงสามวินาที“องครักษ์อาภรณ์เทพของเสด็จพ่อ!”จวินชิงอวี่จำได้ในปราดเดียวคนกลุ่มนี้สังกัดราชวงศ์หนานยวน มีการสืบทอดต่อกันมานานหลายร้อยปี ลึกลับมาก วรยุทธ์ของพวกเขาสูงมาก แต่ละคนสามารถหนึ่งสู้ร้อย ล้วนเป็นมือดีที่ลงมือไม่เคยพลาดพวกเขาช่วยจวินลั่วยวนไปแล้ว“ดูเหมือนเสด็จพ่อรู้เรื่องที่เจียงหนานแล้ว ตั้งแต่เล็กจนโต เขารักหยวนเอ๋อร์ที่สุด”ต่อให้ฮ่องเต้หนานยวนรู้ว่าจวินลั่วยวนไม่ใช่ลูกสาวแท้ๆ ก็ยังคงปกป้องและรักนางเหมือนเมื่อก่อนจวินอวี้หยางขมวดคิ้ว“เสด็จพ่ออาจจะไม่รู้ว่าจวินลั่วยวนทำอะไรลงไป รอหลังจากเขารู้แล้ว ก็คงจะรู้สึกเหมือนพวกเรา”ทั้งสามคิดไม่ถึงว่าองครักษ์อาภรณ์เทพจะมาแขกที่ไม่ได้รับเชิญไม่ทันตั้งตัว

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1257

    “พวกเจ้าทุกคนล้วนเป็นฆาตกร อย่าคิดจะให้ข้ารับผิดชอบคนเดียว พวกเจ้าทุกคนล้วนมีความผิด! ต่อให้ฉู่เชียนหลีกลายเป็นผี ปล่อยปรากฏตัวในฝันของพวกเจ้า ชาติหน้า ชาติหน้าหน้า ก็ไม่มีวันให้อภัยพวกเจ้า!”“ฮ่าๆๆ! ฮ่าๆๆๆ!”จวินลั่วยวนแหงนหน้าหัวเราะเหมือนบ้าไปแล้วสีหน้าของฮองเฮาหนานยวน และพวกจวินอวี้หยางน่าเกลียดมากคำพูดของจวินลั่วยวนแทงใจดำพวกเขา พวกเขาเม้มปากแน่น แต่ละคนเถียงไม่ออกสักคำ กำมือที่ห้อยอยู่ข้างกายแน่น แม้แต่ร่างกายก็กำลังสั่นเฟิงเย่เสวียนย่อมจะสั่งสอนพวกเขาทีละคน เริ่มจากจวินลั่วยวนคือคนแรก!พลันแทงกระดูกไหปลาร้าของนาง“อ๊ะ!”เสียงหัวเราะที่บ้าคลั่ง ถูกแทนที่ด้วยเสียงกรีดร้อง“ในเมื่อเจ้าก่อกรรมทำเข็ญมากมายเช่นนี้ มือสองข้างนี้เก็บไว้ก็ไม่มีประโยชน์!” สิ้นเสียงที่เย็นชา ฟันกระบี่ออกไปฉึก…ตรงข้อมือ เลือดพุ่งกระฉูด เส้นเอ็นสีขาวที่เปื้อนเลือดถูกตัดจนขาดมือสองข้างของนางห้อยลงทันที และสูญเสียความรู้สึก ไม่ว่านางจะออกแรงอย่างไร สิบนิ้วก็ไม่ขยับ ฝ่ามือทั้งสองข้างก็ใช้งานไม่ได้แล้ว“มือของข้า…อ๊า!”นางกลายเป็นคนพิการแล้ว!ไม่!องค์หญิงแห่งแคว้นหนานยวน จะเป็นคนพิการได้อย

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1256

    นางโมโหจนตาแดง ใช้มือผลักอย่างแรงจนคนล้มโดยตรง “เจ้าไม่รู้สึกผิดเลย ทำเรื่องชั่วช้ามากมาย ยังทำเหมือนว่าตัวเองมีเหตุผล ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ความสัมพันธ์แม่ลูกสิบเจ็ดปีของพวกเรา จบลงเพียงเท่านี้!”“เสด็จแม่!”จวินลั่วยวนเบิกตากว้าง รีบกระโจนเข้าไป คว้าชายกระโปรงของฮองเฮาหนานยวน “เสด็จแม่ อย่านะ!”นางจะเป็นองค์หญิง!นางไม่อยากเป็นคุณหนูลูกอนุภรรยาของจวนอัครมหาเสนาบดีฉู่ นางเป็นองค์หญิงเพียงหนึ่งเดียวของแคว้นหนานยวนนะ!“เสด็จแม่ หม่อมฉันจะเป็นเด็กดี จะกตัญญูต่อท่าน จะทำในสิ่งที่ท่านมีความสุข ความสัมพันธ์สิบเจ็ดปีของพวกเรา บอกจะตัดก็ตัดเลยได้อย่างไร? แม้พวกเราไม่มีความเกี่ยวข้องทางสายเลือด แต่ในใจของหม่อมฉัน เสด็จแม่ก็คือมารดาแท้ๆ ของหม่อมฉัน!”หลักๆ คือตำแหน่งองค์หญิงนางที่เป็นองค์หญิงผู้อรชรอ้อนแอ้น จะลดตัวไปจวนอัครมหาเสนาบดี นับอนุภรรยาคนหนึ่งเป็นแม่ได้อย่างไร?ฮองเฮาหนานยวนมองนางอย่างไร้เยื่อใย“ฮืม การแสดงความกตัญญูต่อข้าของเจ้า ก็คือวางยาพิษข้า ทำให้ข้าเป็นใบ้?”ร่างกายจวินลั่วยวนสั่นสะท้าน เงยหน้าอย่างตะลึง สบตากับดวงตาที่เย็นชาของฮองเฮาหนานยวนนางรู้ความจริงแล้ว…พร

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status