แชร์

บทที่ 3

ผู้เขียน: สกุลหยางมีบุตรสาว
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-02-21 16:53:47
ในเรือนหลังเล็กโกโรโกโส

สาวใช้เยว่เอ๋อร์กำลังเดินวนเวียนไปมา สองมือกำแน่นอย่างกระวนกระวายใจ และคอยชะเง้อมองข้างนอกตลอดเวลา ยามเห็นร่างที่คุ้นเคยนั้น นางก็พุ่งตัวออกไปทันใด

“พระชายา!”

นางรีบปรี่เข้าไปกุมมือสองของฉู่เชียนหลี ก่อนตรวจดูทั้งบนล่างซ้ายขวาหน้าหลัง “พระชายา เป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ?” ท่านอ๋องไม่ได้ทำให้ท่านลำบากใช่หรือไม่เจ้าคะ? พระชายารองเซียวนั่นรังแกท่านหรือไม่เจ้าคะ? พวกเขาเรียกท่านไปทำสิ่งใดเจ้าคะ?”

ฉู่เชียนหลีกะพริบตา

เยว่เอ๋อร์เป็นสาวใช้ที่ปรนนิบัตินางมาสิบปีแล้ว เติบโตมาพร้อมกับนางตั้งแต่เล็ก สนิทกันดังพี่สาวน้องสาว

นางส่ายหัวพลางผลักประตูเข้าไปในห้อง เรื่องแรกที่ทำก็คือปรี่เข้าไปที่โต๊ะแต่งหน้า และคว้าเอากระจกทองเหลืองแสนเก่าเขรอะขนาดเท่าฝ่ามือ

อี๋...

น่าเกลียดชะมัด!

แม้จะทำใจมาแล้ว แต่เมื่อได้เห็นใบหน้านี้ นางก็ยังต้องตกใจกับตัวเอง

ภาพสะท้อนในกระจกทองเหลืองนั้น ครึ่งหน้าของสตรีหยาบขรุขระ เหมือนถูกเผาด้วยไฟร้อน ผิวหนังยู่ย่น อัปลักษณ์น่าตกใจกลัว เหมือนปีศาจไม่มีผิด ใครพบเห็นเข้า ตกกลางคืนต้องมีอันฝันร้าย

เยว่เอ๋อร์กังวลว่าพระชายาจะน้อยเนื้อต่ำใจจึงรีบดึงกระจกทองเหลืองออก ก่อนปลอบโยนว่า “พระชายา ท่านไม่ต้องดูอีกแล้วเจ้าค่ะ คำโบราณว่าไว้ดีนัก เมื่อคนเราเกิดมาย่อมต้องมีประโยชน์ ท่านจะต้องได้รับความสุขที่เป็นของท่านเองเป็นแน่เจ้าค่ะ...”

คุณหนูผู้น่าสงสาร

ครั้งอยู่ในจวนอัครมหาเสนาบดีนั้น บิดาไม่รัก มารดาไม่ใคร่ และโดยเหล่าพี่สาวรังแกอย่างสาหัส ยามแต่งเข้าจวนอ๋องเฉินก็ไม่เป็นที่ชื่นชอบ สวรรค์ช่างไม่เปิดตาเสียเลย!

ฉู่เชียนหลีเอามือทาบรอยอัปลักษณ์บนใบหน้า หากดำดิ่งสู่ห้วงความคิด

ครั้งเยาว์วัย คล้ายว่าจะไม่มีสิ่งใดใบบนหน้าของนาง...

ทันใดนั้น หางตาก็ปรายไปยังสิ่งที่อยู่บนข้อมือ ว่าแล้วก็กระโดดขึ้นสูงสามฉื่อ ด้วยความตกใจ

“เฮ้ย!”

เยว่เอ๋อร์ตกใจยกใหญ่ “พระชายา เป็นอันใดไปเจ้าคะ?”

“นิ้วมือทอง!” ฉู่เชียนหลีกระโดดขึ้นบนโต๊ะได้อย่างไม่น่าเชื่อ ถลกแขนเสื้อขึ้น เผยให้เห็นกำไลเงินคู่หนึ่งบนข้อมือ

เยว่เอ๋อร์ร้องตกใจ “สวรรค์! ท่านอ๋องช่างโหดร้ายนัก ถึงกับเอาห่วงมาล่ามท่านไว้!”

“?”

นี่คือสมบัติที่สืบทอดมาในตระกูลของนางมีชื่อว่า 'กำไลเฉียนคุน '

กำไลเงินที่มือซ้ายคือคุน ภายในมีมิติลับที่มีขนาดสามร้อยตารางเมตร ภายในบรรจุห้องทดลองและเครื่องมือเครื่องใช้ในการรักษาของนางเอาไว้เต็มไปหมด กำไลเงินที่มือขวาคือเฉียน บรรจุทั้งปืน กระสุน ดินระเบิด จรวดหลายลำกล้องนานาชนิดเอาไว้พรั่งพร้อม สิ่งใดควรมีก็มีทั้งสิ้น

นึกไม่ถึงว่ากำไลเฉียนคุนก็ติดตามนางทะลุมิติมาในยุคโบราณด้วย และทำให้นางได้อยู่ในจุดสุดยอดของชีวิตในทันใด

“เยว่เอ๋อร์ นับแต่วันนี้ไป พวกเราไม่ต้องอาศัยอยู่ใต้ชายคาผู้อื่น ไม่ต้องคอยพินอบพิเทา และปล่อยให้ใครก็ได้มารังแกเหมือนสุนัขอีกแล้ว” ฉู่เชียนหลียืนเท้าสะเอวอยู่บนโต๊ะ ตื่นเต้นดีใจจนไม่รู้จะอธิบายอย่างไร

เมื่อมีกำไลเฉียนคุนนี้แล้ว ดูซิว่าวันหน้าหน้าไหนจะกล้ารังแกนาง?

ยาพิษกำหนึ่งจะทำให้เจ้าตายโดยไร้ซากศพ!

นางมีหนทางแล้ว!

เมื่อเห็นว่าหญิงสาวมีท่าทีตื่นเต้นตูมตาม กระโดดโหยงเหยงเช่นนั้น เยว่เอ๋อร์ต้องตกใจอ้าปากหวอ

นะ นะ นี่...

นี่ยังใช่พระชายาหรือ?

นี่ยังคงคือพระชายาที่สงบเสงี่ยม อ่อนโยนเรียบร้อย แม้แต่เสียงพูดก็ยังบางเบาดุจน้ำผู้นั้นหรือ?

นางรีบเข้าไปปลอบ “พระชายาเจ้าคะ ท่านสงบใจสักหน่อยเจ้าค่ะ! ต่อให้ท่านอ๋อง รับพระชายารองเซียวเข้าจวน แต่จะอย่างไรท่านก็คือชายาเอก เป็นนายหญิงของจวนแห่งนี้ ขอเพียงมีฐานะนี้อยู่ ช้าเร็วท่านก็จะต้องได้รับความโปรดปรานเจ้าค่ะ”

ได้รับความโปรดปรานรึ?

ฮึ!

ต้องถีบกาน้ำเส็งเคร็งให้กระเด็น

“สิ่งที่ฉันต้องรีบทำตอนนี้ก็คือถีบอีตาผู้ชายใช้กำลังในครอบครัวนั่นทิ้ง เพราะผู้ชายรังจะทำให้แม่ลงมือได้ชักช้า” ฉู่เชียนหลีหัวเราะเย็น

เยว่เอ๋อร์ “...”

จบกัน

พระชายาออกไปครั้งเดียว ก็เหมือนจะเสียสติไปแล้ว

คืนนี้ ฉู่เชียนหลีตั้งอกตั้งใจวางแผนชีวิตในยุคโบราณของตน

เช้าวันรุ่งขึ้น ฉู่เชียนหลีที่กำลังกินซาลาเปาไส้ผักดองเค็มและเพิ่งกินไปได้แค่เก้าลูกก็มีเสียงเครื่องประดับกระทบกันกับเสียงฝีเท้าก้าวเบาๆ ดังมาจากข้างนอก พอเงยหน้าขึ้นก็เห็นเซียวจือฮว่าที่มีสาวใช้ประคองอยู่ เดินโยกย้ายเข้ามา

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 4

    ยามมีคนประคอง ราศีของเซียวจือฮว่ายิ่งดีสูงส่งอย่างเห็นได้ชัด ร่างขาวนวลอ้อนแอ้นบอบบางอรชร ก้าวย่างทีละน้อย ให้ความรู้สึกบอบบางจนแทบจะล้มไปตามลมเมื่อสาวใช้เงยหน้าขึ้นเห็นว่าฉู่เชียนหลียังคงนั่งอยู่ที่เดิมไม่ขยับแม้สักนิดราวกับมองไม่เห็นก็อดโมโหไม่ได้พระชายานี่ตาบอด ไม่รู้จักออกมาต้อนรับสักหน่อยรึ?“พี่หญิง...” เซียวจือฮว่าเดินเข้ามาเห็นว่าฉู่เชียนหลีกำลังกินซาลาเปา ที่พำนักผุพังก็รู้สึกปวดใจจนตาแดงก่ำขึ้นทันที “เหตุได้ท่านจึงอยู่ในสถานที่ชนิดนี้ นี่หาใช่ที่สำหรับคนอยู่...”“ไว้ข้ากลับไปจะต้องบอกกับเฉินสักหน่อย”น้ำเสียงนั้น ถ้อยคำเช่นนั้น ราวกับว่านางต่างหากที่เป็นนายหญิงของจวนแห่งนี้ ส่วนฉู่เชียนหลีก็เป็นแค่เด็กสาวบ้านป่าผู้หนึ่งเท่านั้นฉู่เชียนหลีปรายตามองนางเรียบๆ กัดซาลาเปาคำหนึ่ง “ เจ้ามาทำไม?”เมื่อสตรีผู้นี้ปรากฏตัว แน่นอนว่าต้องไม่ได้มาด้วยเจตนาดีก่อนนี้ เจ้าของเดิมของร่างนี้รักใคร่เฉินหวังอย่างล้ำลึก แต่เมื่อใดที่เซียวจือฮว่า ปรากฏตัว พอนางทำตาแดงๆ คราวหนึ่ง เบะปากคราวหนึ่ง ไม่ก็หลั่งน้ำตาครึ่งหยด ถ้านางไม่ถูกถีบกระเด็น ก็ถูกทุบตีอย่างทารุณยกหนึ่งพอเสร็จเรื่อง สตร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-02-21
  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 5

    “ข้าจงใจผลักเอง” ฉู่เชียนหลีพูดต่อว่า “ข้าริษยาที่น้องเซียวเป็นที่รัก ไม่ใช่แค่ผลักนาง ยังอยากจะทุบตีนางด้วย เพราะรักกลายเป็นแค้น ไม่ว่าเรื่องใดก็ทำออกมาได้ทั้งสิ้น”เซียวจือฮว่าได้ยินคำก็หัวเราะเย็นอยู่ในใจแต่ไรมาท่านอ๋องก็รังเกียจสตรีขี้อิจฉาใจคับแคบเป็นที่สุด นี่เจ้ากลับโง่พูดออกมา เตรียมตัวถูกหย่าเสียเถิด ตำแหน่งพระชายาอ๋องเฉินจะต้องเป็นของนางในไม่ช้าก็เร็วเฟิงเย่เสวียนขมวดคิ้วกระบี่ของตนนางอยากจะไปให้พ้นจากจวนอ๋องเฉินจนแทบทนไม่ไหวถึงเพียงนี้เชียวหรือ แต่เขาจะไม่ให้นางได้สมหวังเสียอย่าง“ในเมื่อรู้ผิดแล้ว ยังไม่รีบ…”หย่ากับนางเสีย?“ขอบคุณท่านอ๋อง!” ฉู่เชียนหลีดีใจจนเผลอหลุดปากเฟิงเย่เสวียนมองนางคราวหนึ่งด้วยปรายสายตายะเยือก“ยังไม่รีบไปคุกเข่าสำนึกผิดที่เรือนหานเฟิงอีก? คุกเข่าจนกว่าจือฮว่าจะยกโทษให้เจ้า”ฉู่เชียนหลี “?”เซียวจือฮว่าชะงักอยู่น้อยๆ เปลี่ยนจากหย่ามาเป็นคุกเข่าเช่นนั้นรึ?ช่างเถิดอีกสักครู่ ดวงตะวันก็จะออกมาแล้ว ความร้อนในฤดูร้อนรุนแรงหนักหนา หากฉู่เชียนหลีต้องคุกเข่าอยู่กลางตะวันแผดเผาสักสี่ห้าชั่วยาม ต่อให้ไม่ตายก็ต้องเกือบตายฉู่เชียนหลีจ้องชายห

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-02-21
  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 6

    “จู่ๆ ข้าก็นึกขึ้นได้ว่าครั้งก่อนบอกกับนางว่าวันนี้ข้าจะกลับไปเยี่ยมนาง ข้าจะเป็นลูกสาวกตัญญูที่รู้ความ ข้าไม่สามารถไม่รักษาคำพูด!” ฉู่เชียนหลีสะอื้นกัดผ้าเช็ดหน้า ท่าทางราวกับคิดถึงบ้านอย่างมากในความเป็นจริง หนังศีรษะของนางโดนแดดเผาจนแทบปริแตกแล้ว หากเป็นเช่นนี้ต่อไปนางต้องขาดน้ำตายแน่เฟิงเย่เสวียนกุมความคิดของนางไว้หมดแล้ว พอดีกับตอนนี้เขาก็มีเรื่องสำคัญต้องจัดการ ฉู่เชียนหลีมักจะมาป้วนเปี้ยนตรงหน้าเขา จิตใจไม่สามารถสงบ จึงมีความกรุณาเป็นพิเศษ “เช่นนั้นก็กลับ…”ฟิ้ว…พูดไม่ทันขาดคำ สายลมพัดผ่าน คนหายไปแล้วไม่มีแม้กระทั่งคำขอบคุณเลยหรือ? ผู้หญิงไร้มโนธรรมคนนี้!จวนอัครมหาเสนาบดีฉู่ราชสำนักในปัจจุบันแบ่งออกเป็นอัครมหาเสนาบดีฝ่ายซ้ายและอัครมหาเสนาบดีฝ่ายขวา ตระกูลฉู่คืออัครมหาเสนาบดีฝ่ายซ้าย ฐานะทางครอบครัวมั่งคั่ง เป็นชนชั้นสูงชั้นหนึ่งในเมืองหลวง เพียงแต่ ครอบครัวเช่นนี้กลับให้กำเนิดบุตรสาวหน้าตาอัปลักษณ์ไร้ความงามคนหนึ่ง กลายเป็นที่ขบขันของประชาชน ยิ่งมีคนวิจารณ์ว่าไม่ใช่ลูกแท้ๆหลายปีมานี้ คุณหนูอัปลักษณ์ไม่ได้รับความโปรดปราน และยังใช้กลอุบายแต่งเข้าจวนอ๋องเฉิน เป็นที่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-02-21
  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 7

    นางอันเอ่ยปากกล่าว “เจ้าแต่งเข้าจวนอ๋องเฉินสามเดือนแล้ว หนึ่งไม่ได้รับความโปรดปราน สองไม่ได้รับอำนาจ สามไม่ได้รับทรัพย์สิน สี่ไม่ได้รับข่าวที่เป็นประโยชน์ นั่งตำแหน่งพระชายาอ๋องเฉิน ไม่กลัวผู้อื่นหัวเราะเยาะหรือ?”กระทั่งนางยังรู้สึกขายหน้าเลยมองดูใบหน้าที่อัปลักษณ์ของฉู่เชียนหลี่ ขมวดคิ้วกล่าว “เจ้าจำเป็นต้องทำให้ได้หนึ่งเรื่อง จึงจะสามารถทำประโยชน์ให้จวนอัครมหาเสนาบดีฉู่”ต้องได้รับอำนาจหรือไม่ก็มีอิทธิพล“แล้วก็เดือนหน้าเป็นวันแต่งงานของพี่หญิงเจ้าแล้ว เจ้าไปหาทางจัดการเรื่องสินเจ้าสาวมาให้นางด้วย ยิ่งเยอะยิ่งดี” น้ำเสียงที่แข็งกร้าวของนางเหมือนออกคำสั่งเสียมากกว่าฉู่เชียนหลี่ราวกับได้ยินเรื่องตลกที่สุดในโลกพี่หญิงจะแต่งงาน จะอย่างไรก็ไม่ถึงคราวที่นางต้องซื้อสินเจ้าสาวกระมัง“น้องหญิงสี่ ข้ารู้ว่าเรื่องนี้ทำให้เจ้าลำบากใจ…” ฉู่เจียวเจียวจับมือทั้งสองข้างนาง หลุบตาทั้งคู่ลงอย่างตำหนิตนเอง “เป็นเพราะข้าไม่เอาไหน ไม่สามารถได้รับความสำคัญจากท่านพ่อ ทำให้ตำแหน่งของพวกเราสามแม่ลูกในจวนกระอักกระอ่วนยิ่งนัก”นางอันเป็นอนุภรรยา ข้างบนยังมีฮูหยินข่มอยู่คุณหนูใหญ่ที่กำเนิดฮูหยินให

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-02-21
  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 8

    ฉู่เชียนหลีกินข้าว เที่ยวผู้ชาย ฟังคำซุบซิบของชาวบ้าน และเดินตลาดครู่หนึ่ง ท้ายที่สุดสองมือไพล่หลังเดินกลับจวนอ๋องเฉินอย่างสบายใจ ราวกับชายชราที่มีอายุมากแล้วเมื่อเหล่าคนรับใช้เห็นใบหน้าอัปลักษณ์ที่มีปาน ตกใจจนเดินเลี่ยงสามส่วนยามดึกยามราตรีในจวนดั่งวารี แสงเทียนล้นเหลือ สายลมอ่อนตีหน้า เงาต้นไม้กวัดแกว่ง สงบสุขสำราญทันใดนั้นเสียงจืดชืดของผู้ชายก็ดังขึ้นกลางอากาศ ไม่รู้ว่ามาจากที่ไหน“ไปไหนมา”ฉู่เชียนหลีหันกลับมา ก็มองเห็นเงาอันสูงศักดิ์ร่างหนึ่งเดินออกมาจากยามราตรีที่มืดสลัวอย่างเชื่องช้า ชายคนนั้นเดินทวนแสงเข้ามา เงาร่างยาวที่ถูกสะท้อนกระทบลงบนร่างกายของนาง ทำให้นางมองไม่เห็นใบหน้าของเขารู้สึกเพียงดวงตาสีดำคู่นั้นลึกล้ำมาก มองไม่เห็นก้นบึ้ง“กลับบ้านแม่”ตอนออกจากบ้านก็บอกนายแล้วไม่ใช่เหรอ?นายบกพร่องทางสติปัญญาเหรอ?นายหูหนวกเหรอ?นายปัญญาอ่อนเหรอ?แววตาเฟิงเย่เสวียนครึ้มลง เดินผ่านข้างกายนาง แล้วหยุดอยู่ตรงระหว่างไหล่ที่เฉียดผ่านหันหน้า โน้มตัว ริมฝีปากบางเฉียดผ่านติ่งหูของนาง“ตัวหอมเช่นนี้เลยหรือ?” น้ำเสียงแหบแห้งฉู่เชียนหลีตกใจจนร่างเกร็ง พริบตาที่ริมฝีปา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-02-21
  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 9

    อะไรนะ!ดวงตาฉู่เชียนหลีเบิกกว้างทันที ดวงตาทั้งสองลูกแทบหลุดออกจากเบ้า“นี่พระชายาดีใจหรือ?” เฟิงเย่เสวียนชำเลืองนางแวบนาง เก็บอาการตกใจกับตะลึงงันของนางไว้ในสายตา พลันมีแววเจตนาร้ายแล่นผ่านดวงตาอย่างเร็วฉู่เชียนหลีอยากร้องไห้จริงๆดีใจแม่เจ้าสิ!เสียงออดอ้อนร่างอรชรอย่างเซียวจือฮว่าเจ้าไม่เอา แต่จะเอานางที่อัปลักษณ์ไร้ความงาม เจ้าบ้านนี่ตาบอดหรืออย่างไร ของแปลกเช่นนี้ก็กล้าเอาอุจจาระที่สุนัขก็ไม่กิน แต่เขากลับกินเก่งยิ่งกว่าสุนัขด่าทอในใจ สีหน้าแสร้งปลื้มปีติอย่างคาดไม่ถึง “หา จริงหรือ จริงหรือ ความสุขมากะทันหันเกินไป ข้าอึ้งไปชั่วขณะ ข้าจะไปอาบน้ำเดี๋ยวนี้ จะได้ปรนนิบัติท่านอ๋องได้ดียิ่งขึ้น!”พูดจบก็สับขาวิ่งทันทีเพิ่งพุ่งออกไปครึ่งก้าว ปกคอเสื้อด้านหลังก็ถูกมือใหญ่ข้างหนึ่งคว้าไว้“ไม่เป็นไร ข้าชอบรสชาติดั้งเดิม”เชี่ย!ชอบของแปลกอย่างนี้เลย!ไม่ให้นางอาบน้ำ แล้วนางจะหาโอกาสหนีได้อย่างไรไม่ทันได้คิดมาก เฟิงเย่เสวียนได้เข้าใกล้นางแล้ว นางเซถอยหลังอย่างตื่นตระหนกหนึ่งก้าว ล้มก้นทิ่มนั่งลงบนหินภูเขาจำลองก้อนหนึ่ง เฟิงเย่เสวียนถือโอกาสนี้โน้มตัวเข้าไป แขนทั้งสองข้าง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-02-21
  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 10

    เฟิงเย่เสวียนได้ยินคำพูดนี้ การเคลื่อนไหวหยุดชะงักในพริบตา เขาปล่อยฉู่เชียนหลีและตามสาวใช้ออกไปอย่างเร่งรีบก่อนออกไป สาวใช้หันมาจ้องเขม็งฉู่เชียนหลีแวบหนึ่ง‘ผู้หญิงอัปลักษณ์คนนี้ไม่เคยได้รับความโปรดปรานหรืออย่างไร? ตะโกนเสียเสียงดังเช่นนั้น โชคดีที่หูนางดีจึงได้ยิน ไม่เช่นนั้น ความโปรดปรานเพียงผู้เดียวที่เป็นของพระชายารองก็จะถูกนางแย่งไปแล้ว’ฉู่เชียนหลีหล่นลงพื้น ก้มหัวใจที่เต้นตุบๆ ของตนเองไว้ อีกแค่ห้าก้าวก็จะถึงเตียงแล้ว…ตกใจแทบตายนางตกใจมากจริงๆ!นางใช้มือและเท้าดันร่างกายลุกขึ้น วิ่งกลับเรือนโทรมๆ อย่างเร็ว  นางหยิบผ้าห่อของผืนหนึ่งออกจากตู้ กางไว้บนโต๊ะ นำแจกันถ้วยชา ปิ่นปักผมเครื่องประดับใส่เข้าไปทั้งหมด“คุณหนู เหตุใดจึงเพิ่งกลับมาเจ้าคะ ท่านหิว…”นอกประตู เยว่เอ๋อร์วิ่งเข้ามา เมื่อเห็นท่าทางที่กำลังเก็บของของคุณหนู ก็ตะลึงงันครู่หนึ่งนี่คือ…“ข้าจะไปจากสถานที่นี่! ข้าจะไปจากจวนอ๋อง!” ฉู่เชียนหลีพลางห่อของ พลางกัดฟันกล่าว “ข้าไม่อยากอยู่สถานที่บ้าบอแห่งนี้แม้แต่ครู่เดียว”เยว่เอ๋อร์ตกใจมาก “ไม่ได้เจ้านะคุณหนู!”ฮ่องเต้เป็นคนพระราชทานการแต่งงานครั้งนี้ หากคุณหน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-02-21
  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 11

    เรือนหมิงเยว่ภายในห้องนอนที่ตกแต่งอย่างวิจิตรอ่อนโยน ร่างแสนอ่อนเพลียของเซียวจือฮว่านอนอยู่บนเตียง ใบหน้าเล็กๆ ขนาดเท่าฝ่ามือซีดขาวไปสามส่วน ไม่มีสีเลือด ลมหายใจค่อนข้างกระชั้น“เฉิน ทำให้ท่านต้อง... แค่ก... เป็นห่วง... รบกวนท่านทำงาน... แค่ก...”นางรู้จักฉอเลาะบุรุษท่าทางแสนทรมานเพราะขืนสะกดอาการไอเอาไว้แต่ยังคงคำนึงถึงบุรุษเช่นนั้นทำเอาคนสงสารยิ่งเฟิงเย่เสวียนนั่งอยู่ข้างเตียงกุมมือเล็กๆ ที่ค่อนข้างเย็นของนางเอาไว้ กล่าวเสียงหนักว่า “จือฮว่า ข้าจะต้องหายาดีมารักษาเจ้าให้ได้ ตลอดหลายปีมานี้ เป็นเพราะข้า เจ้าจึงต้องทุกข์ทรมาน”“แค่ก...ไม่...” นางส่ายหน้าอย่างอ่อนแรงพลางจับจ้องดวงตาที่เปี่ยมด้วยความรักลึกล้ำไม่ทรยศของเขา“ปีนั้น หากฮว่าเอ๋อร์มิได้ช่วยท่านอ๋องเอาไว้ ยามนี้ก็จะไม่ได้มีวาสนาได้แต่งงานกับท่านอ๋อง... แค่ก กลับเป็นฮว่าเอ๋อร์ที่ร่างกายอ่อนแอ ทำให้ท่านอ๋องเป็นห่วงเปล่าๆ ให้ท่านอ๋องพลอยต้องลำบาก...แค่ก...”เพียงแค่ไม่กี่ประโยค นางก็ทั้งหอบทั้งไอไม่หยุด ท่าทางเช่นนั้น ดั่งต้นหยางหลิวโบกไหวท่ามกลางสายลมเฟิงเย่เสวียนเอื้อมมือไปช่วยสอดชายผ้าห่มเข้าใต้ตัวนางเซียวจือฮว่า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-02-21

บทล่าสุด

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1082

    นางกำนัลรีบนำพู่กันมาฉู่เชียนหลีเอาพู่กันจุ่มน้ำหมึก แล้วใส่ในมือฮ่องเต้ร่างกายของฮ่องเต้เป็นอัมพาต ไม่ควบคุมมือไม่ได้ ไม่สามารถจับพู่กันด้วยซ้ำ ปากของเขาเบี้ยว ใช้แรงทั้งหมดหนีบด้ามพู่กันด้วยนิ้วชี้กับนิ้วกลาง อาศัยแรงกระตุกของร่างกาย ลงพู่กันบนกระดาษอย่างเบี้ยวไปเบี้ยวมาเพียงไม่กี่ขีด เขียนอย่างยากลำบาก บนหน้าผากเต็มไปด้วยเหงื่อแนวเฉียง…แนวตั้ง…สองคำ ทั้งหมดสี่ขีดเขียนเสร็จ พู่กันก็ร่วงตกบนพื้น เขาเหนื่อยจนหอบบนเตียง ขยับไม่ได้อีกแล้ว“ลูกชาย…” อวิ๋นอิงอุทานเบาๆ “คนที่ฝ่าบาทคิดถึงคือลูกชาย?”ฉู่เชียนหลีถือกระดาษ แม้สองคำนี้เขียนได้คดเคี้ยวมาก แต่เนื่องจากลายเส้นเรียบง่าย จึงมองออกในปราดเดียวว่ามันคือคำว่า ‘ลูกชาย’นี่เขาอยากบอกอะไรนาง?“หรือเป็นอ๋องหลี?” อวิ๋นอิงคาดเดาฉู่เชียนหลีส่ายศีรษะโดยไม่ต้องคิด“อ๋องหลีวางยาพิษเขา กบฏวังชิงราชบัลลังก์ มีความทะเยอทะยาน ฝ่าบาทไม่มีทางคิดถึงอ๋องหลี”นางกล่าววิเคราะห์“ส่วนอ๋องหลีหลังจากขึ้นบัลลังก์ ไม่ฆ่าผู้บริสุทธิ์ องค์ชายท่านอื่นอยู่อย่างสงบเสงี่ยมเหมือนเมื่อก่อน ไม่มีอันตราย ฮ่องเต้ก็ไม่มีทางคิดถึงองค์ชายท่านอื่น”อวิ๋

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1081

    ตอนที่ตื่น ก็เป็นเที่ยงของวันใหม่แล้ว เฟิงเย่เสวียนรู้จักเตียงนานแล้ว หลังจากฉู่เชียนหลีกินอะไรง่ายๆ ก็ไปที่สำนักหมอหลวง หมกมุ่นอยู่กับตำราแพทย์พริบตาเดียวก็กลางคืนแล้วนางกำนัลมารายงาน ฮ่องเต้ฟื้นแล้ว ฉู่เชียนหลีไปตำหนักผานหลง ฮ่องเต้นอนตัวเกร็งอยู่บนเตียง นิ้วมือหยิกงอ ร่างกายครึ่งหนึ่งแข็งเหมือนท่อนไม้ ปากก็เบี้ยวจนมีน้ำลายไหลยืดเขาเบิกตากว้างจนลูกตาแทบทะลักออกมาแล้ว นางกำนัลที่ปรนนิบัติกลัวเล็กน้อย ไม่กล้าเข้าไปปรนนิบัติฉู่เชียนหลีเดินเข้ามา“ฝ่าบาททรงฟื้นเมื่อไร”“เมื่อหนึ่งเค่อก่อนเจ้าค่ะ” นางกำนัลตอบ“ดื่มโอสถหรือยัง?”“หนึ่งวันสามมื้อ ป้อนตรงเวลาเจ้าค่ะ”“อืม”นางเดินไปที่หน้าเตียง จับชีพจรของฮ่องเต้ ลักษณะชีพจรคงที่ ไม่มีปัญหาใหญ่อะไร เพียงแต่ร่างกายได้รับหญ้าหมาเฟ้ยมากเกินไป ส่งผลให้ร่างกายชาจนไม่ตอบสนอง อย่างน้อยต้องใช้เวลาอีกครึ่งปี จึงจะสามารถสลายหญ้าหมาเฟ้ยเหล่านี้หมดถึงเวลา ก็สามารถกลับมาเป็นปกติ“ดูแลดีๆ ต้องมีคนเฝ้าอยู่ข้างพระวรกายตลอดอย่างน้อยสองคน” นางกำชับนางกำนัลเวลานี้เอง ที่นอกประตู อวิ๋นอิงอุ้มน้องสาวมาแล้ว“พระชายา ท่านเอาแต่ยุ่งทั้งวัน ลู่ฉิ

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1080

    ฉู่เชียนหลีมองนาง กล่าวด้วยรอยยิ้ม “ถ้าหากไม่ใช่เพราะเจ้า อ๋องหลีก็ไม่สามารถก่อเรื่องมากมายเช่นนี้ เจ้าจะให้ข้าจัดการเจ้าอย่างไรจึงจะดี?”ถ้าไม่มียาอายุวัฒนะ อ๋องหลีจบสิ้นไปนานแล้วและยาชนิดนี้ก็มาจากมือของอูหนูอูหนูยืนอยู่ตรงนั้นด้วยสีหน้าเย็นชา ยืดอกหลังตรง การแสดงออกบนใบหน้าไม่เย่อหยิ่งแต่ก็ไม่ถ่อมตน นางเป็นคนที่เคยตายมาแล้วหนึ่งครั้ง ย่อมไม่กลัว“จะฆ่าจะแกง เชิญตามสะดวก”นางเงยหน้า หลับตา“เจ้าเป็นผู้ช่วยที่ดีของอ๋องหลี ข้าฆ่าเจ้าทั้งเช่นนี้ จะไม่เสียดายแย่หรือ?” ฉู่เชียนหลีเดินไปที่ตรงหน้านาง “ข้าขอถามเจ้า เจ้าทำอะไรกับฝ่าบาท? เหตุใดจู่ๆ เขาก็เป็นอัมพาตเฉียบพลัน”อูหนูย่อมไม่อยากพูดไม่รอนางเอ่ยปาก ฉู่เชียนหลีเสริมอีกประโยค“ตายเป็นแค่ผลลัพธ์อย่างหนึ่ง แต่ขั้นตอนการตาย ควรตายอย่างไร ขึ้นอยู่กับข้า”“เจ้าสามารถปากแข็ง แต่ปากแข็งไม่สามารถเปลี่ยนแปลงผลลัพธ์ และยังจะเพิ่มความเจ็บปวด เจ้าเป็นคนฉลาด รู้ว่าควรเลือกอย่างไร”อูหนู “...”ข่มขู่อย่างโจ่งแจ้งถ้าหากนางยอมพูด มอบความตายที่ไม่เจ็บปวดให้นางถ้าหากนางไม่ยอมพูด คิดวิธีทรมานสารพัด เพื่อทำให้นางยอมพูด สุดท้ายก็ตายอยู่

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1079

    กล่าวจบ เขาหมุนกาย นั่งขัดสมาธิลงบนกระดานไม้ที่เย็นเยียบ หันหลังให้นางฉู่เชียนหลีมองไม่เห็นสีหน้าของเขา และไม่แน่ใจคำพูดนี้ของหมายความว่าอย่างไร ยืนอยู่ตรงนั้นครู่หนึ่งก็จากไปแล้วออกจากคุกหลวง ข้างนอกท้องฟ้าสดใส อากาศสดชื่น“ส่งพระชายาอ๋องหลีไปอยู่ตำหนักเจาหยางชั่วคราว ปรนนิบัติให้ดี ห้ามละเลยเด็ดขาด” นางสั่งให้องครักษ์ลับคนหนึ่งคุ้มกันส่ง ในความเป็นจริงก็สั่งให้คนจับตาดูฉู่เจียวเจียวด้วยหลังไปแล้วท้องฟ้า ละอองฝนโปรยปรายลงมาเมื่อเงยหน้าก็ปะทะลม ละอองฝนตกใส่ใบหน้า หนาวจนรู้สึกเจ็บแสบเล็กน้อย ใบไม้เหี่ยวหลุดจากกิ่งก้าน ล่องลอยไปตามสายลมรู้ตัวอีกทีก็เข้าหน้าหนาวแล้วมองดูท้องฟ้าอึมครึมที่ถูกเมฆดำปกคลุม นึกถึงคำพูดของอ๋องหลี รู้สึกกดดันอย่างน่าประหลาด และไม่สบายใจเล็กน้อย เหมือนมีเรื่องบางอย่างกำลังจะเกิดขึ้นก้มหน้าอก รีบไปที่ห้องทรงอักษรเฟิงเย่เสวียนยุ่งมากฮ่องเต้ป่วย อ๋องหลีถูกจับ ราชสำนัก บ้านเมือง พรรคอ๋องหลี เรื่องราวต่างๆ มารวมกัน กดทับอยู่บนไหล่เฟิงเย่เสวียนทั้งหมด เขายุ่งจนตัวหมุน ไม่ได้หลับตาพักผ่อนมาสองวันแล้วฉู่เชียนหลีเดินเข้าห้องทรงอักษร “จับอูหนูได้หรือย

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1078

    ฉู่เชียนหลีกวาดมองหมอหลวงที่อยู่โดยรอบแวบหนึ่ง ยกเท้าเดินออกไป “เจ้าตามข้ามา”เมื่อฉู่เจียวเจียวได้ยินก็ดีใจ รีบกอดลูกแน่น แล้วเดินตามออกไปอย่างไวคุกหลวงองครักษ์เงาเฝ้ายาม เมื่อพวกเขาเห็นผู้มา ก็คำนับอย่างนอบน้อม “พระชายา”ฉู่เชียนหลีพยักหน้า เดินเข้าไปในคุกหลวงหัวใจฉู่เจียวเจียวบีบรัดแน่น ฝีเท้าเร็วขึ้นเรื่อยๆ หลังจากเดินผ่านทางเดินยาวที่มืดสลัว มาถึงห้องขังที่อยู่ห้องท้ายสุด เมื่อเห็นผู้ชายที่ถูกขังอยู่ข้างใน รู้สึกเจ็บหน้าอกฉับพลัน“ท่านโหว!”เดินปรี่เข้าไป เอาข้างหนึ่งอุ้มลูก มืออีกข้างจับราวลูกกรงอย่างร้อนใจ“ท่านอ๋อง ท่านไม่เป็นอะไรกระมัง!”ไม่เจอกันแค่คืนเดียว สภาพของเฟิงเจิ้งหลีโทรมมากสภาพแวดล้อมในห้องขังเปียกชื้นมืดสลัว ตรงที่มุมมีแมลงสาบกับหนูเกาะอยู่ ชุดเพ้าสีขาวเปื้อนไปด้วยสิ่งสกปรกและความโชคร้าย ตรงคางเริ่มมีตอนหนวดปรากฏให้เห็น สภาพดูสะบักสะบอมมากผ่านไปครู่หนึ่งเฟิงเจิ้งหลีค่อยๆ เงยหน้า เมื่อเห็นเฟิงเจิ้งจื่อเยี่ย มีประกายที่ปกปิดสายหนึ่งแลบผ่าน“ถ้าไม่เป็นอะไร…”เขาลุกขึ้นยืน เสียงแหบไร้เรี่ยวแรงฉู่เจียวเจียวตาแดงทันที “คุกหลวงสกปรกเช่นนี้ เหม็นเช่นน

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1077

    หมอหลวงคนหนึ่งกล่าวทันที “พระชายาอ๋องเฉิน ลูกสามารถมีใหม่ แต่ถ้าตายแล้ว ก็ไม่มีอะไรแล้ว มีเพียงเอาเด็กออก แล้วใช้สูตรยานี่ ผู้ป่วยจึงจะมีโอกาสรอด”หมอหญิงเว่ยพยักหน้า “นี่เป็นวิธีเดียวเจ้าค่ะ”เด็กกับผู้ใหญ่ เลือกได้แค่คนเดียวฉู่เชียนหลีขมวดคิ้วแน่น สีหน้ากังวลนางไม่มีสิทธิ์ขัดความปรารถนาของอวิ๋นอิง ถอดคุณสมบัติการเป็นแม่ของนางออก ถ้าหากฝืนเอาเด็กคนนี้ออก อวิ๋นอิงต้องเกลียดนางทั้งชีวิตแน่นอนอีกทางร่างกายของอวิ๋นอิงอ่อนแอมาก เกรงว่าไม่สามารถทนต่อการแท้งบุตรไม่ไหวนางถอนใจหนักๆ “ข้าจะเก็บไว้ทั้งสองคน”“ฮะ?!”ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ตะลึงแล้วหรือพระชายาอ๋องเฉินเลอะเลือนแล้ว?“พระชายาอ๋องเฉิน คนท้องห้ามกินยาส่งเดช และถ้าไม่กินยา จะรักษาโรคอวัยวะล้มเหลวได้อย่างไร? ใต้ฟ้าไม่มีวิธีทำสองอย่างให้สมบูรณ์แบบพร้อมกัน”ฉู่เชียนหลีรู้ว่าเป็นไปไม่ได้ แต่อย่างไรก็ต้องพยายามสักตั้ง รอวันที่ผลลัพธ์ออกมา จึงจะไม่รู้สึกผิดนางกวาดมองตำราที่เก็บสะสมในห้องแวบหนึ่ง ชั้นวางที่สูงตระหง่านสองกว่าแถว มีตำราที่หลากหลายและนับไม่ถ้วนวางเต็มไปหมด“ตำราแพทย์ทั้งหมดล้วนอยู่ที่นี่หรือ?”หมอหญิงเว่ยพยัก

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1076

    “ไม่เป็นอะไรเจ้าค่ะ พระชายา ข้าชอบเว่ยซีกับลู่ฉิน พวกนางเป็นเด็กดีมาก เมื่อคืนไม่ร้องไห้เลย” อวิ๋นอิงเม้มปากยิ้มเล็กน้อยฉู่เชียนหลีจูงมือของนาง “ทุกคนลำบากมาทั้งคืนแล้ว ไปพักผ่อนเถอะ”“จิ่งอี้ เสียวอู่ พวกเจ้าอุ้มเด็กไปที่ตำหนักผานหลง ฝ่าบาทอยู่ที่นั่น มีคนช่วยดูแลด้วยกัน”หลังมอบหมายงานเสร็จ นางกับอวิ๋นอิงก็ไปแล้วกระซิบไปตลอดทาง“ยาที่ข้าจ่ายให้เจ้า กินทุกวันหรือไม่?” ขณะเดียวกับที่จูงมืออวิ๋นอิง ก็จับชีพจรของนางด้วยสภาพร่างกายของนาง…ไม่สู้ดีนักกินยาแล้ว แต่ไม่เห็นผลเพราะกำลังตั้งครรภ์ ฉู่เชียนหลีไม่กล้าใช้ยาฤทธิ์แรง ส่วนยาฤทธิ์เบาสำหรับอวิ๋นอิงนั้น มีผลไม่มาก ซึ่งเทียบเท่ากับไม่มีเลย อวิ๋นอิงพยักหน้า “ทำให้พระชายาเป็นห่วงแล้ว ร่างกายของข้า ข้ารู้ดีเจ้าค่ะ ดีก็ดี ไม่ดีก็ช่าง ข้าทำใจยอมรับผลแล้ว”ทัศนคติของนางดีมาก มองโลกในแง่ดีมากพลางลูบท้อง แววตาเผยให้เห็นความหวัง“ขอแค่เด็กคนนี้สามารถเกิดมาอย่างปลอดภัย ทุกอย่างก็คุ้มค่าแล้ว”ชั่วขณะ ในใจฉู่เชียนหลีรู้สึกไม่สบอารมณ์หลังจากมีลูก นางสามารถเข้าใจความรักของแม่ของอวิ๋นอิง แต่นางก็ปล่อยมืออวิ๋นอิงไม่ลง ถ้าหากต้องเลื

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1075

    “จริงๆ แล้ว ไม่มีใครสามารถราบรื่นทั้งชีวิต ชีวิตใครบ้างไม่เคยมีปัญหา? ร้องไห้ก็ดี หัวเราะก็ดี ล้วนต้องมองไปข้างหน้า”“อย่าจมอยู่กับอดีตที่ผ่านไปแล้ว ถ้าหากมักจะใช้ชีวิตอยู่ในเงาของอดีต เช่นนั้นชีวิตนี้เจ้าก็ไม่มีวันหลุดพ้นจากมัน”ฉู่เชียนหลีปลอบใจเขาเด็กที่อยู่ในท้องของกู้ชิงชิง มันหมายถึงการเริ่มต้นใหม่ไม่ใช่หรือ?หลิงเชียนอี้สะอื้นเบาๆ เงยใบหน้าที่เปื้อนน้ำตาขึ้นมา“น้าสะใภ้ ตกลงอวิ๋นอิงกับจิ่งอี้มันอย่างไรกันแน่? จิ่งอี้จะดีกับนางจริงๆ หรือ? เหตุใดข้ารู้สึกว่าดูไม่ค่อยเหมือน?”ฉู่เชียนหลีชะงักเล็กน้อยเรื่องนี้นางก็ถูกปิดบังอยู่นานมากเช่นกัน เพิ่งจะรู้เมื่อไม่กี่วันก่อน นางไม่สามารถอธิบายความพัวพันระหว่างอวิ๋นอิงกับจิ่งอี้“ข้าเชื่อในตัวจิ่งอี้ เขาไม่มีทางจงใจทำร้ายผู้อื่นโดยเจตนา”“แต่อวิ๋นอิงได้รับบาดเจ็บ…”ฉู่เชียนหลีเม้มปากเพราะเยว่เอ๋อร์ ส่งผลให้ระหว่างพวกเขาเกิดการเข้าใจผิด ตอนนี้ความขัดแย้งคลี่คลายแล้ว จิ่งอี้ตระหนักถึงความผิดพลาดของตัวเอง เชื่อว่าต่อไปจะดีกับอวิ๋นอิงแน่นอนปัญหาที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือ หัวใจของอวิ๋นอิงปิดตายแล้ว ไม่มีทางเปิดออกง่ายๆเกรงว่า

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1074

    ในที่สุดทุกคนก็สามารถออกจากวังแล้ว สีหน้าของแต่ละคน…ยากจะพูดให้เข้าใจในประโยคเดียวมีทั้งโล่งอก มีทั้งร้องไห้โดยไม่มีน้ำตา มีทั้งรู้สึกโชคดีที่รอดมาได้ ต่างๆ นานาหลังจากนั่งมานานทั้งคืน ร่างกายของทุกคนแข็งหมดแล้ว ตอนที่ลุกขึ้นยืน บางคนก็ตัวแข็งจนเดินไม่ไหว บางคนก็ล้มลงพื้นด้วยอาการเหน็บชา และยังมีบางคนเป็นตะคริวที่ขา ต้องใช้คนสองคนช่วยพยุงภาพภาพนี้ นับว่าเป็นความสุขอีกแบบหนึ่งฉู่เชียนหลีเห็นแล้วเม้มปากกลั้นยิ้ม เดินไปรอเฟิงเย่เสวียนที่ข้างนอกแล้วผ่านไปครู่หนึ่งเฟิงเย่เสวียนมาแล้ว“เจ้าก็เหนื่อยมาทั้งคืนแล้ว ไปนอนพักสักครู่?” เขากล่าวอย่างห่วงใยฉู่เชียนหลีกล่าว “เจ้ารู้สุขภาพของฝ่าบาทดี ไม่รู้ว่าอ๋องหลีทำอะไรลงไป เขาอาจจะไม่สามารถฟื้นตัวในครึ่งปีหรือหนึ่งปี…เหตุใดเจ้าไม่ถือโอกาสนี้ดูแลราชสำนักล่ะ?”แม้เป็นตัวแทน แต่ความหมายก็ใกล้เคียงกันแต่ก็นะ ด้วยสถานการณ์ในตอนนี้ เก้าในสิบราชบัลลังก์เป็นของเขาแล้ว จะช้าหรือเร็วมันก็เหมือนกัน“ในขุนนางกลุ่มนั้น เกรงว่ายังมีคนของอ๋องหลีไม่น้อย ถ้าหากข้าฉวยโอกาสตอนที่ฝ่าบาทไม่มีสติ แทรกแซงการบริหารแผ่นดินอย่างโจ่งแจ้ง อาจจะถูกคนเจตนาร้

DMCA.com Protection Status