Share

บทที่ 8

Author: สกุลหยางมีบุตรสาว
ฉู่เชียนหลีกินข้าว เที่ยวผู้ชาย ฟังคำซุบซิบของชาวบ้าน และเดินตลาดครู่หนึ่ง ท้ายที่สุดสองมือไพล่หลังเดินกลับจวนอ๋องเฉินอย่างสบายใจ ราวกับชายชราที่มีอายุมากแล้ว

เมื่อเหล่าคนรับใช้เห็นใบหน้าอัปลักษณ์ที่มีปาน ตกใจจนเดินเลี่ยงสามส่วน

ยามดึก

ยามราตรีในจวนดั่งวารี แสงเทียนล้นเหลือ สายลมอ่อนตีหน้า เงาต้นไม้กวัดแกว่ง สงบสุขสำราญ

ทันใดนั้นเสียงจืดชืดของผู้ชายก็ดังขึ้นกลางอากาศ ไม่รู้ว่ามาจากที่ไหน

“ไปไหนมา”

ฉู่เชียนหลีหันกลับมา ก็มองเห็นเงาอันสูงศักดิ์ร่างหนึ่งเดินออกมาจากยามราตรีที่มืดสลัวอย่างเชื่องช้า ชายคนนั้นเดินทวนแสงเข้ามา เงาร่างยาวที่ถูกสะท้อนกระทบลงบนร่างกายของนาง ทำให้นางมองไม่เห็นใบหน้าของเขา

รู้สึกเพียงดวงตาสีดำคู่นั้นลึกล้ำมาก มองไม่เห็นก้นบึ้ง

“กลับบ้านแม่”

ตอนออกจากบ้านก็บอกนายแล้วไม่ใช่เหรอ?

นายบกพร่องทางสติปัญญาเหรอ?

นายหูหนวกเหรอ?

นายปัญญาอ่อนเหรอ?

แววตาเฟิงเย่เสวียนครึ้มลง เดินผ่านข้างกายนาง แล้วหยุดอยู่ตรงระหว่างไหล่ที่เฉียดผ่าน

หันหน้า โน้มตัว ริมฝีปากบางเฉียดผ่านติ่งหูของนาง

“ตัวหอมเช่นนี้เลยหรือ?” น้ำเสียงแหบแห้ง

ฉู่เชียนหลีตกใจจนร่างเกร็ง พริบตาที่ริมฝีปากบางเฉียดผ่านติ่งหู เหมือนกับกระแสไฟฟ้าไหลผ่านร่างกาย รู้สึกชาจนแทบยืนไม่มั่นคง

เขา…

เจ้าผู้ชายบ้าคนนี้เข้าใกล้นางโดยไม่มีสาเหตุใดๆ คงจะไม่ใช่หิวจนไม่เลือกอาหารกระมัง

นางคาดเดาความคิดของชายคนนั้น กล่าวอย่างตะลึงงัน “เป็น…เป็นตั้งแต่เกิด”

“ฮืม” เขาค่อยๆ หันมา ดวงตาคู่นั้นเหมือนหมาป่าโดดเดี่ยวในความมืดมาก จ้องมองนาง พุ่งเป้ามาที่นาง ทำให้หนังศีรษะของนางหดเกร็งอย่างไม่มีเหตุผล

เขามองดูนาง เหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้ม “นี่พระชายาเกิดมาพร้อมกับกลิ่นแป้งหอมราคาถูกเช่นนี้หรือ?”

“...”

มักจะรู้สึกว่าผู้ชายคนนี้มีความหมายอื่นแฝงอยู่ในคำพูดเสมอ

หรือเป็นเพราะรู้อะไรบางอย่างแล้ว

ในยุคโบราณ ผู้หญิงที่แต่งงานแล้วล่อลวงผู้ชาย จะถูกจะไปจุ่มกรงหมู!

ฉู่เชียนหลีกลอกตาหนึ่งรอบ กอดแขนเฟิงเย่เสวียนกะทันหัน เงยหน้ากล่าว “ท่านอ๋อง ที่จริงนี่เป็นกลิ่นน้ำหอมที่ข้าจงใจทาบนตัว ข้าอยากใช้วิธีนี้ดึงดูดความสนใจของท่าน!”

พูดจบ นางกะพริบตาปริบๆ น้ำเสียงน้อยเนื้อต่ำใจ

“พวกเราแต่งงานกันสามเดือนกว่าแล้ว ข้าทนต่อการอยู่อย่างโดดเดี่ยวในห้องเพียงลำพังไม่ไหวแล้ว ดังนั้นจึงใช้ความคิดนอกกรอบ เพื่อให้ตนเองได้รับความโปรดปราน…”

ผู้ชายคนนี้นอกจากหน้าตาดูดีและสูงหน่อย ยังมีข้อดีอะไรอีก

เงิน นางมีมากจนสามารถทุบคนตาย

ความสามารถ วิชาแพทย์ของนางเลิศล้ำ สามารถรักษาคนตาย ทำให้กระดูกงอกใหม่

ไม่ว่าจะไปที่ไหน นางก็เป็นที่ยอมรับ เหตุใดจำต้องแขวนคอตายอยู่บนต้นไม้ที่ชื่ออ๋องเฉิน

ชีวิตที่ยัดทองคำไว้ในกระเป๋า เที่ยวหอบำเรอทุกวันไม่ดีหรอกหรือ?

เฟิวเย่เสวียนที่ได้ยินเสียงในใจของนางกำหมัดแน่น อดกลั้นความวู่วามที่อยากจะบีบคอผู้หญิงคนนี้ให้ตาย และสั่งให้พ่อบ้านตัดเบี้ยเดือนของนางทั้งหมด ดูซิว่านางจะเอาเงินมาจากไหน

ด่าว่าเขาก็ช่างเถอะ ยังจะทำเรื่องที่ผิดต่อเขา!

สูดลมเข้าลึกๆ ปรับลมหายใจ “นี่พระชายากำลังโทษที่ข้าละเลยเจ้าหรือ?”

ก็ใช่น่ะสิ!

เจ้าไม่สนใจข้าสามเดือน ไม่หย่ากับข้า แต่ก็ไม่รักข้า ทำให้ข้าเสียวัยสาวไปโดยเปล่าประโยชน์ไม่ใช่หรือ? ชีวิตอันรุ่งโรจน์ของข้าไม่ได้มีไว้ใช้เลี้ยงสุนัข!

หนังตาเฟิงเย่เสวียนกระตุก

เขาเป็นหมาหรือ?

ฉู่เชียนหลีกอดแขนเขาอย่างหวานหยาดเยิ้ม เบี่ยงใบหน้าฝั่งขวาที่มีปานของตนเองมาเข้าตาเฟิงเย่เสวียน จากนั้นทำหน้าทำตางาม กิริยาอ้อนแอ้น น้ำเสียงออดอ้อน

“ท่านอ๋อง ข้าเป็นเพียงผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง ก็หวังว่าสามีจะรักใคร่ ลูกจะกตัญญูเช่นกัน ก็อยากมีชีวิตเยี่ยงเกื้อหนุนสามี สั่งสอนลูกหลานเช่นกัน”

พูดไปพลาง เอาตัวถูเขาไปพลาง

ใบหน้าอัปลักษณ์ที่มีปานครึ่งหน้าหันเขาหาชายคนนั้น ริมฝีปากใหญ่สีแดงที่อวบอิ่มห่อยื่นออกมา และยังทำเสียงจุ๊บๆ

จัดจ้าน…ไปหน่อย

เฟิงเย่เสวียนอยากผลักนางออก พลันได้ยินนางด่าทอในใจว่า ‘ผู้ชายบ้า รังเกียจฉันยังไม่รีบหย่าฉันอีก’ แววตาของเขาครึ้มลง มือข้างที่ผลักเปลี่ยนเป็นคว้าข้อมือนาง

“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ คืนนี้พระชายานอนกับข้าก็แล้วกัน”

Related chapters

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 9

    อะไรนะ!ดวงตาฉู่เชียนหลีเบิกกว้างทันที ดวงตาทั้งสองลูกแทบหลุดออกจากเบ้า“นี่พระชายาดีใจหรือ?” เฟิงเย่เสวียนชำเลืองนางแวบนาง เก็บอาการตกใจกับตะลึงงันของนางไว้ในสายตา พลันมีแววเจตนาร้ายแล่นผ่านดวงตาอย่างเร็วฉู่เชียนหลีอยากร้องไห้จริงๆดีใจแม่เจ้าสิ!เสียงออดอ้อนร่างอรชรอย่างเซียวจือฮว่าเจ้าไม่เอา แต่จะเอานางที่อัปลักษณ์ไร้ความงาม เจ้าบ้านนี่ตาบอดหรืออย่างไร ของแปลกเช่นนี้ก็กล้าเอาอุจจาระที่สุนัขก็ไม่กิน แต่เขากลับกินเก่งยิ่งกว่าสุนัขด่าทอในใจ สีหน้าแสร้งปลื้มปีติอย่างคาดไม่ถึง “หา จริงหรือ จริงหรือ ความสุขมากะทันหันเกินไป ข้าอึ้งไปชั่วขณะ ข้าจะไปอาบน้ำเดี๋ยวนี้ จะได้ปรนนิบัติท่านอ๋องได้ดียิ่งขึ้น!”พูดจบก็สับขาวิ่งทันทีเพิ่งพุ่งออกไปครึ่งก้าว ปกคอเสื้อด้านหลังก็ถูกมือใหญ่ข้างหนึ่งคว้าไว้“ไม่เป็นไร ข้าชอบรสชาติดั้งเดิม”เชี่ย!ชอบของแปลกอย่างนี้เลย!ไม่ให้นางอาบน้ำ แล้วนางจะหาโอกาสหนีได้อย่างไรไม่ทันได้คิดมาก เฟิงเย่เสวียนได้เข้าใกล้นางแล้ว นางเซถอยหลังอย่างตื่นตระหนกหนึ่งก้าว ล้มก้นทิ่มนั่งลงบนหินภูเขาจำลองก้อนหนึ่ง เฟิงเย่เสวียนถือโอกาสนี้โน้มตัวเข้าไป แขนทั้งสองข้าง

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 10

    เฟิงเย่เสวียนได้ยินคำพูดนี้ การเคลื่อนไหวหยุดชะงักในพริบตา เขาปล่อยฉู่เชียนหลีและตามสาวใช้ออกไปอย่างเร่งรีบก่อนออกไป สาวใช้หันมาจ้องเขม็งฉู่เชียนหลีแวบหนึ่ง‘ผู้หญิงอัปลักษณ์คนนี้ไม่เคยได้รับความโปรดปรานหรืออย่างไร? ตะโกนเสียเสียงดังเช่นนั้น โชคดีที่หูนางดีจึงได้ยิน ไม่เช่นนั้น ความโปรดปรานเพียงผู้เดียวที่เป็นของพระชายารองก็จะถูกนางแย่งไปแล้ว’ฉู่เชียนหลีหล่นลงพื้น ก้มหัวใจที่เต้นตุบๆ ของตนเองไว้ อีกแค่ห้าก้าวก็จะถึงเตียงแล้ว…ตกใจแทบตายนางตกใจมากจริงๆ!นางใช้มือและเท้าดันร่างกายลุกขึ้น วิ่งกลับเรือนโทรมๆ อย่างเร็ว  นางหยิบผ้าห่อของผืนหนึ่งออกจากตู้ กางไว้บนโต๊ะ นำแจกันถ้วยชา ปิ่นปักผมเครื่องประดับใส่เข้าไปทั้งหมด“คุณหนู เหตุใดจึงเพิ่งกลับมาเจ้าคะ ท่านหิว…”นอกประตู เยว่เอ๋อร์วิ่งเข้ามา เมื่อเห็นท่าทางที่กำลังเก็บของของคุณหนู ก็ตะลึงงันครู่หนึ่งนี่คือ…“ข้าจะไปจากสถานที่นี่! ข้าจะไปจากจวนอ๋อง!” ฉู่เชียนหลีพลางห่อของ พลางกัดฟันกล่าว “ข้าไม่อยากอยู่สถานที่บ้าบอแห่งนี้แม้แต่ครู่เดียว”เยว่เอ๋อร์ตกใจมาก “ไม่ได้เจ้านะคุณหนู!”ฮ่องเต้เป็นคนพระราชทานการแต่งงานครั้งนี้ หากคุณหน

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 11

    เรือนหมิงเยว่ภายในห้องนอนที่ตกแต่งอย่างวิจิตรอ่อนโยน ร่างแสนอ่อนเพลียของเซียวจือฮว่านอนอยู่บนเตียง ใบหน้าเล็กๆ ขนาดเท่าฝ่ามือซีดขาวไปสามส่วน ไม่มีสีเลือด ลมหายใจค่อนข้างกระชั้น“เฉิน ทำให้ท่านต้อง... แค่ก... เป็นห่วง... รบกวนท่านทำงาน... แค่ก...”นางรู้จักฉอเลาะบุรุษท่าทางแสนทรมานเพราะขืนสะกดอาการไอเอาไว้แต่ยังคงคำนึงถึงบุรุษเช่นนั้นทำเอาคนสงสารยิ่งเฟิงเย่เสวียนนั่งอยู่ข้างเตียงกุมมือเล็กๆ ที่ค่อนข้างเย็นของนางเอาไว้ กล่าวเสียงหนักว่า “จือฮว่า ข้าจะต้องหายาดีมารักษาเจ้าให้ได้ ตลอดหลายปีมานี้ เป็นเพราะข้า เจ้าจึงต้องทุกข์ทรมาน”“แค่ก...ไม่...” นางส่ายหน้าอย่างอ่อนแรงพลางจับจ้องดวงตาที่เปี่ยมด้วยความรักลึกล้ำไม่ทรยศของเขา“ปีนั้น หากฮว่าเอ๋อร์มิได้ช่วยท่านอ๋องเอาไว้ ยามนี้ก็จะไม่ได้มีวาสนาได้แต่งงานกับท่านอ๋อง... แค่ก กลับเป็นฮว่าเอ๋อร์ที่ร่างกายอ่อนแอ ทำให้ท่านอ๋องเป็นห่วงเปล่าๆ ให้ท่านอ๋องพลอยต้องลำบาก...แค่ก...”เพียงแค่ไม่กี่ประโยค นางก็ทั้งหอบทั้งไอไม่หยุด ท่าทางเช่นนั้น ดั่งต้นหยางหลิวโบกไหวท่ามกลางสายลมเฟิงเย่เสวียนเอื้อมมือไปช่วยสอดชายผ้าห่มเข้าใต้ตัวนางเซียวจือฮว่า

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 12

    วันรุ่งขึ้นฉู่เชียนหลีนอนอยู่บนเตียงยังคงคำนึงถึงเรื่องที่ตนเองต้องสูญทรัพย์สินล้านล้านล้านไปในคืนเดียว นางกอดผ้าห่ม ยังคงอยู่ในอารมณ์เศร้าสลดเนิ่นนานมิอาจกลับมาเป็นตัวของตัวเองได้“เฮ้อ!”พอรุ่งเช้า เยว่เอ๋อร์ต้องวุ่นหน้าวุ่นหลัง ทำความสะอาดห้องหับ พับเสื้อผ้า เช็ดโต๊ะ ถอนหญ้าในลานบ้าน เปิดหน้าต่างระบายอากาศ และยังต้องยกกระถางดอกไม้ออกไปตากแดดด้วย ซึ่งฉู่เชียนหลีถอนหายใจมาเก้าสิบแปดครั้งแล้ว“เฮ้อ...”ทรัพย์สินล้านล้านของนางเยว่เอ๋อร์ยกอ่างน้ำเข้ามา “คุณหนูเจ้าคะ ตะวันส่องบั้นท้ายแล้ว ท่านยังไม่ตื่นอีกหรือเจ้าคะ?”ฉู่เชียนหลีช้อนดวงตาแดงก่ำทั้งคู่ขึ้น ดวงตาที่มีเต็มไปด้วยเส้นเลือดฝอยสีแดงจ้องเยว่เอ๋อร์ด้วยความคับแค้นใจแสนล้ำลึกถ้าไม่ใช่เพราะนังเด็กนี่รับใช้นางอย่างจงรักภักดี ไม่ละไม่ทิ้งมาตั้งแต่เล็ก จะต้องหักคอแสนชั่วช้าของนางเป็นแน่...“เฮ้อ!”นางพลิกตัว นอนหลับต่อไปด้วยความห่อเหี่ยวใจไม่อยากลุกจากเตียง ข้าวปลาก็ไม่อยากกิน เงินของฉัน...เยว่เอ๋อร์เรียกต่ออีกหลายครั้ง เมื่อเห็นคุณหนูไม่ตอบสนอง จึงได้แต่ไปทำงานอื่นๆ ต่ออย่างจนใจตลอดช่วงเช้า เรือนหลังเล็กโกโรโกโสและ

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 13

    ยังไม่ทันตั้งตัว ก็มีอีกแท่งลอยมากระแทกข้อมือเขา แทบจะกระแทกจนกระดูกป่น จึงคลายมือที่จับเยว่เอ๋อร์“คุณหนู!”นางเห็นคนที่นอนมาทั้งช่วงเช้าลุกจากเตียงแล้วและยืนอยู่ตรงหน้าประตูห้อง กำลังกะน้ำหนักทองแท่งที่ทั้งใหญ่ทั้งหนักด้วยการโยนขึ้นลงในมือนางหรี่ตา เล็งเป้า“กล้าแตะต้องคนของข้ารึ? แม่จะเอาทองแท่งปาเจ้าให้ตาย!”ตุบ!“โอ๊ย...”โดนทองไปสามแท่ง พ่อบ้านถูกปาจนหน้าผากแตก กระดูกข้อมือหัก เอวชราๆ ยอกไปหมด พลันล้มพับอยู่บนพื้น กุมสะเอวร้องครวญคราง 'ไอ้หยาๆ' ทว่า ในพริบตาต่อมา เขาก็กัดฟันทนต่อความเจ็บปวด หอบเอาทองแท่งหนึ่งขึ้นมาแล้วออกแรงขบไปครั้งหนึ่งในทันทีเจ็บฟัน!แข็งจริงๆ!เป็นของจริง!ทองคำ!หน่วงขนาดนี้ หนักถึงเพียงนี้ ซ้ำยังมีตั้งสามแท่ง พระชายามั่งมียิ่งกว่าท่านอ๋องเสียอีก!ตาของพ่อบ้านเป็นประกายแวววาวขึ้นในบัดดล จู่ๆ เอวก็ไม่เจ็บ ขาไม่ปวด โรคข้ออักเสบที่เป็นมาหลายสิบปีก็หายเป็นปลิดทิ้ง พลันคุกเข่าแบบประจบลงตรงหน้าพระชายา ยิ้มเสียจนมีแต่ความสอพลออยู่เต็มใบหน้า“เป็นบ่าวเองที่ดวงตาโง่เง่า มีตาหามีแววไม่ นับแต่นี้ไป พระชายาให้บ่าวทำสิ่งใดบ่าวก็จะทำสิ่งนั้นขอรับ”“บ่

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 14

    พ่อบ้านยกทองแท่งก้อนหนึ่งยิ้มปากแทบฉีกเดินออกไปเยว่เอ๋อร์ตะลึงจนเหม่อ “คุณหนูเจ้าคะ นะ นะ นะ นั่นคือทองคำแท่ง...ขะ ขะ ขะ เขาเอาไปแล้ว นะ นะ นั่น...”กระทั่งพูดจาก็ยังติดๆ ขัดๆ เสียแล้วฉู่เชียนหลีตบไหล่นางเอ่ยด้วยน้ำเสียงผ่อนคลาย “เงินทองเป็นของนอกกาย ไม่ต้องใส่ใจ ยามนี้เจ้าจงรีบไปเตรียมกระดาษพู่กันมาให้ข้า ยิ่งไวยิ่งดี”ยังดีที่ก่อนนี้นางหลักแหลมจึงวางแผนจัดเก็บเงินที่หามาได้ส่วนหนึ่งเอาไว้กับบัตรธนาคาร อีกส่วนหนึ่งเป็นเงินสด ที่เหลือซึ่งเป็นเงินส่วนใหญ่ก็เอาไปซื้อทองคำแท่งจนหมดและเรียงไว้เหมือนก่อผนังฉะนั้น นางจึงมีทองคำแท่ง อยู่มากมายเท่ากับผนังด้านหนึ่งทีเดียวแม้จะสูญเงินสดไปเป็นล้านๆ แต่ก็ยังมีทองแท่งอยู่อีกมากเพียงนี้ หลังจากโศกเศร้ามาหนึ่งคืน ที่สุดอารมณ์ก็ผ่อนคลายลงบ้างแล้ว ยามนี้นางมีเรื่องที่สำคัญกว่าจะต้องทำตัวทั้งตัวของเยว่เอ๋อร์เหมือนถูกสายฟ้าฟาด แต่หัวจรดเท้ามีแต่ความงุนงง นางไปหยิบกระดาษและพู่กันมา มองแผ่นหลังของคุณหนูขณะเดินจากไป เนิ่นนานจากนั้นก็ยังดึงสติกลับมาไม่ได้นี่นี่ใช่คุณหนูของนางจริงหรือ?!ณ เรือนหานเฟิงด้วยอ๋องเฉินปล่อยข่าวออกไปว่าได้รับบาด

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 15

    ในกระดาษจดหมาย เป็นตัวอักษรเขียนด้วยพู่กันที่โอนไปเอียงมา ตัวอักษรนั้นเหมือนถูกไก่เขี่ย เอียงกระเท่เร่ไปหมดเนื้อหาว่า:...วันนี้ อ๋องเฉินล้มป่วย อารมณ์แปรปรวนรุนแรง กินข้าวห้าถ้วยด้วยความโมโห จนเมื่อกินมันดิน[footnoteRef:1]เส้นไปคำหนึ่ง ใส่เกลือน้อยไป จึงลงโทษบ่าวอย่างหนัก คำที่สองกินปลานึ่งซีอิ๊ว ปรากฏว่ามันย่องเกินไป เป็นเหตุให้ โกรธจนไปแย่งกระทะมา ลงครัวด้วยตนเองเสีย [1: มันดิน คือ มันฝรั่ง] “เฮอะ!”เฟิงเย่เสวียนหลุดหัวเราะออกมา เมื่อรู้สึกตัวว่าเสียกิริยา จึงรีบกลั้นเอาไว้และอ่านต่อไป ...อ๋องเฉินร่อแร่ หญิงงามอยู่ในอ้อมอกหากไม่แตะต้อง ข้าสังเกตดู สงสัยว่าจะ...ไม่ขัน“...” ความโค้งที่มุมปากของชายหนุ่มหดหายไปทันใด หายไปอย่างไร้ร่องรอย บรรยากาศรอบตัวก็หนักอึ้งตามไปด้วย...แม้คนผู้นี้จะมีสันดานป่าเถื่อน แต่กลับหน้าตาไม่เลว จากที่ข้าสืบดูอย่างละเอียด บนแก้มก้นซ้ายของเขามีไฝดำอยู่เม็ดหนึ่ง“...”หานเฟิงยืนอยู่ข้างๆ เห็นเจ้านายตนมีอาการประเดี๋ยวอมยิ้ม ประเดี๋ยวสายตาเคร่งขรึม ประเดี๋ยวก็เลิกคิ้ว จึงตระหนกอยู่ในใจก่อนนี้ ยามนายท่านจัดการพวกสายลับ วิธีทรมานทั้งสิบแปดล้วนเลือก

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 16

    หลังป้อนยาเสร็จ ฉู่เชียนหลีกอดหมอน เดินไปนั่งที่ขอบหน้าต่างนำหมอนหนุนไว้ข้างหลัง นั่งพิงอยู่ตรงนั้น ชันขาข้างหนึ่งขึ้น แล้วห้อยขาอีกหนึ่งแกว่งสบายๆ และถือขวดแก้วใสใบเล็กไว้ในมือนี่เป็นยาชนิดใหม่ที่นางศึกษา สามารถแก้พิษประหลาด และก็ย่อมสามารถแก้พิษบนตัวอ๋องเฉินได้เช่นกันแต่นางไม่อยากให้ผิวปากไปพลาง แกว่งขาไปพลาง และล้วงปี่ซั่วน่าออกจากบั้นท้ายอย่างเข้ากับบรรยากาศเฟิงเย่เสวียน “...ห้ามเป่า!”เขายังไม่ตาย!“นี่ไม่ใช่เพราะกลัวท่านอ๋องนอนทั้งวันจะรู้สึกเบื่อหน่ายหรอกหรือ?” นางยิ้มแล้วยิ้มอีก พลางโยนยาช่วยชีวิตของผู้ชายบางคนออกนอกหน้าต่างนางยอมมองดูเขาตาย ก็ไม่ยอมช่วยเขาเฟิงเย่เสวียมองดูขวดโปร่งใสที่ใส่ของเหลวสีเขียวอ่อนถูกโยนออกนอกหน้าต่าง ตกลงไปในพุ่มดอกไม้และหายไป แววตาครึ้มลงนี่ยาถอนพิษหรือ?นางเป็นคนศึกษาทำเองกับมืออย่างนั้นหรือ?นางเกี่ยวข้องอะไรกับคนร้าย?ตอนนั้นนางแต่งเข้าจวนอ๋องเฉินโดยไม่เลือกวิธีการ ทว่านางกลับไม่สนใจความเป็นตาย แต่ในจดหมายลับที่ส่งให้จวนอัครมหาเสนาบดีฝ่ายซ้ายฉู่ กลับไม่ได้เปิดเผยข้อมูลสำคัญของจวนอ๋องเฉิน และตอนนี้ยังต้องการหนังสือหย่าตกลงจุด

Latest chapter

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1148

    “เป็นไปได้อย่างไร?”นางกล่าวด้วยความประหลาดใจ “เมื่อห้าวันก่อน ข้าคุยกับเขาแล้ว และจัดการทุกอย่างไว้ให้เขาแล้ว เขาสามารถออกจากวังอย่างราบรื่น นอกเสียจาก…”จู่ๆ นางก็เข้าใจอะไรบางอย่าง เสียงค่อยๆ เบาลงเฟิงเย่เสวียนกล่าวต่อ“เขาไม่อยากไป”ใช่!ไท่ซ่างหวงไม่อยากไปมีความเป็นไปได้เพียงหนึ่งเดียวไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด ยังอาลัยอาวรณ์ หรือเพราะสาเหตุอื่น เขาจึงเลือกที่จะอยู่เมืองหลวงแต่ถ้าหากเขาอยู่เมืองหลวง เฟิงเจิ้งหลีต้องหาเรื่องเขาแน่นอนฉู่เชียนหลีเป็นห่วง หลังจากครุ่นคิด ก็เดินออกไปข้างนอกแล้ว“ไม่ได้ ข้าต้องกลับวังหลวง ทิ้งเขาไว้ในเมืองหลวงเพียงลำพังไม่ได้”“ไม่ทันแล้ว”เฟิงเย่เสวียนจับข้อมือของนาง กล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “การเคลื่อนไหวเมื่อครู่ทำให้ทุกคนรู้ตัวแล้ว เกรงว่าตอนนี้คนสนิทของเฟิงเย่เสวียนกำลังมา เขาก็อยู่ระหว่างทางกลับเช่นกัน เสียเวลาไม่ได้แล้ว”กำลังหลักของเขาอยู่ที่เจียงหนานไม่เหมาะที่จะอยู่เมืองหลวงนาน ครึ่งปีมานี้ วิธีการของเฟิงเจิ้งหลีเหี้ยมโหด กำจัดพวกต่อต้าน รวบอำนาจเข้าด้วยกัน เมืองหลวงเป็นถิ่นของเขา อยู่ในถิ่นของเขา พวกเขาเป็นฝ่ายที่เสียเปรียบ

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1147

    “อ๋อง อ๋องเฉิน…”มองดูเฟิงเย่เสวียนเดินเข้ามาทีละก้าว ร่างกายผู้บัญชาการจางหดเกร็ง เพิ่งอ้าปาก ก็ได้ยินเสียงแหวกอากาศที่เฉียบคมดังขึ้นเพี๊ยะ!“อ่า!”แส้สีดำแหวกอากาศ ฟาดไปที่ใบหน้าผู้บัญชาการจางตั้งแต่หน้าผากถึงจะจมูกและคาง มีรอยสีเลือดปรากฏขึ้นทั้งลึกทั้งน่ากลัวเขากุมใบหน้า ขดตัวด้วยความเจ็บปวด เสียงกรีดร้องราวกับหมูถูกฆ่า ก่อนที่เขาจะตั้งสติได้ ก็โดนฟาดอีกครั้ง“อ่า!”แผ่นหลัง เจ็บอย่างรุนแรงเสื้อผ้าฉีกขาด ผิวหนังปรี่แตกเพี๊ยะเพี๊ยะๆ!“ช่วยด้วย…อ่า!”“อ๊ะ…โปรด โปรดไว้ชีวิต….อ่า!”ผู้บัญชาการจางอยากโต้ตอบ แต่เขาไม่มีโอกาสนี้ และไม่มีความสามารถนี้ อยู่ต่อหน้าเฟิงเย่เสวียน ก็เหมือนกับลูกไก่ตัวหนึ่ง ทำอะไรไม่ได้เลยเขาเจ็บจนกลิ้งไปกลิ้งมาพื้นไม่มีใครกล้าเข้าไปเหมือนกับที่ผู้บัญชาการจางฟาดเฟิงเย่เสวียนเมื่อครึ่งปีก่อน เฟิงเย่เสวียนฟาดคืนด้วยสีหน้าที่นิ่งสงบและยังเหี้ยมโหดกว่าด้วยหลังจากถูกฟาดไปหลายสีที ร่างกายเต็มไปด้วยเลือด ใบหน้าเละจนจำไม่ได้ผู้บัญชาการจางทั้งเจ็บทั้งกลัว ประมาณว่ากลัวจนถึงขีดสุด ฟางเส้นสุดท้ายขาด กุมศีรษะกล่าวอย่างเกรี้ยวกราด“เฟิงเย่เ

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1146

    เฟิงเย่เสวียน!“อ๋องเฉิน?!”“เฟิงเย่เสวียน!”เมื่อร่างเงาสีหมึกสายนั้นร่อนลงบนพื้นอย่างมั่นคง และใบหน้าที่คุ้นเคยแผ่กลิ่นอายอันเย็นเยือก ทุกคนเบิกตากว้างด้วยความตะลึงตกใจประหลาดใจคิดไม่ถึงผ่านไปครึ่งปี อ๋องเฉินกลับถึงเมืองหลวงอีกครั้ง ก้าวสู่บ้านเกิดที่คุ้นเคยแห่งนี้ฉู่เชียนหลีไม่เจอเขามาครึ่งปีเต็มๆ แวบแรก ก็มองเห็นหนวดที่อยู่ใต้คางของเขาแล้วทั้งๆ ที่เพิ่งอายุยี่สิบห้าปี ยังหนุ่ม สุขุม หนักแน่น หนวดสีดำนั่นดูไม่เข้ากับใบหน้าของเขาเลยแปลกๆตลกสบตากันผ่านผู้คนมากมายนางมองเห็นเขาในฝูงชนตั้งแต่แวบแรก แล้วเขาจะมองไม่เห็นนางตั้งแต่แวบแรกหรือ? เขาพุ่งพรวดเข้ามากอดนางไว้ในอ้อมกอด กระชับแขนกอดนางไว้แน่น หมื่นพันคำพูด ทั้งหมดอยู่ในอ้อมกอดที่แน่นหนานี้ไม่จำเป็นต้องใช้คำพูด กลับสื่อความหมายออกมาทั้งหมดการกอดคือสิ่งที่ทำให้รู้สึกปลอดภัยที่สุด“อีอา!”จื่อเยี่ยน้อยยังถูกฉู่เชียนหลีอุ้มไว้ในอ้อมแขนบิดากอดมารดา ประกบเขาไว้ตรงกลาง ทำให้เขาแทบหายใจไม่ออก โดยเฉพาะหนวดที่อยู่ใต้คาง ตามใบหน้าของเขาจนแดงก่ำแล้วผู้ชายบ้าที่ไหนเนี่ย!โมโห!โบกกำปั้นน้อยๆ ตีใส่ใบหน้าของเฟ

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1145

    ฉู่เจียวเจียวได้ยินคำนี้ แค่อยากหัวเราะดังๆนี่มันเวลาไหนแล้ว นางกำนัลตัวน้อยๆ คนหนึ่งก็กล้าขวางนาง?“ข้าอยากให้ใครตาย คนคนนั้นก็ต้องตาย ข้าอยากฆ่าเจ้า ก็ง่ายเหมือนบี้มดตัวหนึ่ง”มดตัวน้อยๆ ยังกล้ากระโดดออกมาเรียกร้องความสนใจ?น่าขำ!ขันทีคนหนึ่งเดินเข้าไปใช้มือคว้าคอของไฉ่เซียไว้“อ่า!”ออกแรงบีบ!ไฉ่เซียหายใจไม่ออก หน้าแดงก่ำ ดิ้นรนอย่างเจ็บปวด“คนอย่างเจ้าก็กล้าออกหน้าแทนฉู่เชียนหลี? รนหาที่ตาย นี่ก็คือจุดจบของเจ้า!” ฉู่เจียวเจียวมองอย่างเย็นชาฉู่เชียนหลีขมวดคิ้วพลันยกเขาถีบขันทีคนนั้นจนหน้าหงาย“แค่ก…แค่กๆ…” ไฉ่เซียล้มลงพื้นอย่างเจ็บปวด หอบหายใจและน้ำตาคลอเบ้า“กลับไป” ฉู่เชียนหลีหลุบตาไฉ่เซียพักหายใจครู่หนึ่ง เงยหน้าขึ้น จับชายกระโปรงของฉู่เชียนหลี “บ่าวไม่ไป”นางรับใช้แม่นางฉู่ครึ่งปี แม่นางฉู่ดีกับนางมาก และนางก็ชอบจื่อเยี่ยน้อยมาก มีความผูกพันต่อกัน“ฝ่าบาทเคยสั่งไว้ ต้องดูแลท่านให้ดี บ่าวจะปล่อยให้ท่านตกอยู่ในอันตรายได้อย่างไร?”เขาหอยหายใจ ลุกขึ้นอย่างโซซัดโซเซ“ฮองเฮา ท่านขัดเจตนาของฝ่าบาท หลังจากฝ่าบาทกลับมา ต้องลงโทษท่านแน่”ฉู่เจียวเจียวโกรธทันทีนา

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1144

    ข้าเกือบจะจมอยู่ในโลกของเจ้าแล้ว รักเจ้า ปกป้องเจ้า ตามใจเจ้า ในใจในสายตาล้วนมีแต่เจ้าสุดท้ายแล้วกลับบอกเขาว่า นี่เป็นเพียงแผนลวงฉู่เชียนหลี เจ้าเป็นเด็กดื้อจริงๆการอยู่ด้วยกันที่ยาวนานถึงครึ่งปี ข้าทุ่มเทให้เจ้าทุกอย่าง เจ้าไม่รู้สึกซาบซึ้งเลยหรือ? ไม่มีความผูกพันเลยหรือ?ต่อให้เป็นก้อนหิน ก็ควรจะกุมจนอุ่นนานแล้วต่อให้เป็นน้ำแข็ง ก็ควรกุมจนละลายนานแล้วหัวใจของเจ้าทำด้วยอะไร?เหตุใดจึงแข็งยิ่งกว่าก้อนหิน เย็นยิ่งกว่าหิมะน้ำแข็ง แต่ข้า…กลับรักเจ้าองครักษ์ลับคุกเข่าอยู่บนพื้นอย่างกระวนกระวาย หัวใจกระสับกระส่าย หางตากวาดมองสีหน้าเขาอย่างระมัดระวัง และกล่าวอย่างระมัดระวัง“นายท่านวางใจได้ ผู้บัญชาการจางจับตัวไว้แล้ว”อาศัยแค่แม่นางฉู่คนเดียว และเด็กอายุครึ่งขวบคนหนึ่ง ต่อให้ติดปีกก็ยากจะหนีออกจากเมืองหลวงเฟิงเจิ้งหลีค่อยๆ หลุบตา เสียงที่เฉยเมยฟังอารมณ์ไม่ออก“อย่าทำร้ายนาง”“ขอรับ…”เวลานี้แล้ว นายท่านยังห่วงความปลอดภัยของแม่นางฉู่เฮ้อตั้งแต่อดีตรักมากก็เจ็บมากองครักษ์ลับรับคำสั่ง ขี่ม้าเร็วกลับเมืองหลวง เวลาเดียวกัน ทหารส่งสารของเมืองเทียนสู่ก็ส่งจดหมายมา“รายงา

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1143

    ฉู่เจียวเจียวกุมมือที่มีเลือดไหล เจ็บจนโกรธแล้ว ประกอบกับไฟโทสะที่อยู่เต็มอก ระเบิดออกมาโดยตรง“ความโชคร้ายของข้าล้วนเกิดจากเจ้า!”ฉู่เชียนหลีกล่าวเสียงเย็น“ข้าไม่เคยชอบเฟิงเจิ้งหลี และไม่เคยคิดจะแย่งผู้ชายกับเจ้า เจ้าเป็นคนยืนกรานว่าเป็นข้า เจ้าเป็นคนคาดเดาว่าเป็นข้าอย่างไร้เหตุผล เจ้าแต่งงานกับเขา และยังให้กำเนิดลูกสาวของเขาหนึ่งคน เป็นเจ้าที่ไม่รู้จักดูแลครอบครัวนี้ จึงส่งผลให้เกิดเหตุการณ์ในวันนี้”“ข้าไม่ได้ทำอะไรเลย!”คนสองคนอยู่ด้วยกัน ความสัมพันธ์ที่ยาวนานคืออาศัยการดูแลซึ่งกันและกันไม่ได้พยายามอะไรเลย ก็อยากได้มา?ใต้ฟ้าไม่มีเรื่องที่ดีเช่นนี้“ไม่! เจ้านั่นแหละ!” ฉู่เจียวเจียวกรีดร้อง น้ำตาทะลักออกมาอย่างไม่สามารถควบคุม “ตราบใดที่เจ้ายังมีชีวิต ฝ่าบาทก็ชอบเจ้า ห่วงเจ้า เจ้ายังมีชีวิต ข้าก็ไม่มีวันมีโอกาส”“ทั้งหมดเป็นความผิดของเจ้า!”“อ๊ะ!”นางร้องไห้อย่างเศร้าโศก“ฉู่เชียนหลี เจ้าเป็นแค่ลูกสาวชาวนาที่แม่ข้าเก็บมาเลี้ยง ชาติกำเนิดของเจ้าต่ำต้อย ในร่างกายมีเลือดของคนธรรมดาไหลอยู่ ถ้าไม่ใช่แม่ข้ารับเลี้ยงเจ้า เจ้าก็ไม่มีวันกลายเป็นคุณสี่จวนอัครเสนาบดีฉู่ และไม่มีส

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1142

    แม่คือจุดอ่อนของลูกไม่มีข้อยกเว้นไม่ มีคนหนึ่งที่ยกเว้น ฉู่เจียวเจียวไม่เคยเป็นห่วงลูกสาวของตัวเองเลยฉู่เชียนหลีกล่าว “เจ้าเป็นผู้หญิงที่น่าเวทนาจริงๆ”ฉู่เจียวเจียวอึ้งไปครู่หนึ่ง“ในฐานะภรรยา เจ้าไม่ได้ใจของสามี ทำได้เพียงดึงดูดความสนใจด้วยวิธีที่บ้าคลั่งเหมือนคนบ้า”“ในฐานะแม่ เจ้าให้กำเนิดลู่ฉิน กลับไม่เคยเลี้ยงนาง ไม่เคยแยแสนาง เจ้าตั้งครรภ์สิบเดือนคลอดอะไรออกมา? เจ้าไม่รู้สึกว่าตัวเองน่าเวทนาและน่าสมเพชเลยหรือ?”ม่านตาฉู่เจียวเจียวหด มีอารมณ์บางอย่างแลบผ่านแววตาอารมณ์เชื่อมโยงกับหัวใจ แน่นหน้าอกฉับพลันนาง…ได้ครอบครองตำแหน่งฮองเฮาแล้วมารดาแห่งแผ่นดินในสายตาของผู้อื่น ความสูงศักดิ์และความสูงส่งของนางทำให้ผู้คนอิจฉาริษยา แต่ในความเป็นจริง ภายใต้รูปลักษณ์ที่สดใสงดงาม กลับมีจิตวิญญาณที่โดดเดี่ยวและน่าเวทนานางไม่มีครอบครัว…กำหมัดแน่น ไม่แสดงอารมณ์ออกมา กล่าวเสียงแข็ง“คนที่น่าเวทนาคือเจ้า! เจ้ามันก็แค่นักโทษคนหนึ่ง มีสิทธิ์อะไรมาตัดสิน? คืนนี้ เจ้าก็จะตายแล้ว เมื่อเทียบกับว่าข้า ไม่สู้เป็นห่วงตัวเองก่อนดีกว่า!”เพิ่งสิ้นเสียง ยกมือจับคอที่บอบบางของเฟิงเจิ้งจื่

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1141

    “พ่ะย่ะค่ะ!”เหล่าขันทีขานรับ ล้วงไม้กระบองที่ซ่อนอยู่ในแขนเสื้อออกมา เดินปรี่เข้าไปยกกระบองขึ้นก็ฟาดลงไปอย่างแรงตายซะเถอะ!ฉู่เชียนหลีใช้มือซ้ายอุ้มลูกไว้แน่น เบี่ยงร่างกายหลบ มือขวาคว้าข้อมือของขันทีคนหนึ่ง พลันออกแรงหัก ก็ผลักเขาออก ชนขันทีล้มไปสามคนในเมื่ออย่างไรก็ต้องสู้ เช่นนั้นนางก็ไม่เกรงใจแล้วสะบัดแขนเสื้อ โคจรกำลังภายใน ยกมือคว้ากลางอากาศ ก็มีกระบี่น้ำแข็งเล่มหนึ่งปรากฏในมือชูกระบี่ฟันออกไป ไม้กระบองแตกเป็นเสี่ยงเพียะ!เมื่อกระทบกัน คมกระบี่แตกออกเป็นเศษน้ำแข็ง กระจายกลางอากาศ ระเหยเป็นไอ อากาศที่หนาวเย็นแผ่ออก ทำให้ค่ำคืนที่ไม่ธรรมดานี้ดุเดือดยิ่งขึ้นการเคลื่อนไหวของนางปราดเปรียว รับมือการโจมตีของเหล่าขันทีได้อย่างง่ายดาย ทำเอาพวกเขาไม่สามารถโต้ตอบฉู่เจียวเจียวเห็นแล้ว สีหน้าเคร่งขรึมเล็กน้อยฉู่เชียนหลีซ่อนไผ่ตายไว้ด้วย?เป็นวรยุทธ์ตั้งแต่เมื่อไร?เหตุใดร้ายกาจเช่นนี้?แต่ว่าต่อให้นางมีวรยุทธ์ที่ร้ายกาจเพียงใด มันก็ไม่มีประโยชน์ นางคนเดียวจะสู้คนมากมายเช่นนี้ได้อย่างไร? ต่อให้ผลัดกันเข้าไปสู้กับนาง ก็ต้องทำให้นางเหนื่อยตายทั้งเป็น!นางเหลือบมองนางกำน

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1140

    ฉู่เชียนหลีหัวเราะเบาๆ ช่างเถอะ อุ้มเขาขึ้น เปิดประตู“แม่นางฉู่ ดึกเช่นนี้แล้ว ท่านจะออกไปข้างนอกหรือ?” ไฉ่เซียกับไฉ่เตี๋ยยืนอยู่ที่นอกประตู รับใช้อย่างเอาใจใส่ทั้งวันทั้งคืนโดยเฉพาะไฉ่เตี๋ย เป็นคนมากอุบายฉู่เชียนหลีกล่าวด้วยน้ำเสียงเป็นกันเองเหมือนเช่นเคย“คืนนี้ป้อนนมจื่อเยี่ยมากไปหน่อย เขาไม่ค่อยสบาย ข้าพาเขาไปสูดอากาศในสวน”“ไฉ่เตี๋ย ไปเอานำซานจาที่ห้องครัวให้ข้าหน่อย”ไฉ่เตี๋ยโน้มกายกล่าวอย่างนอบน้อมโดยไม่ต้องคิด ‘เจ้าค่ะ’ ก็ไปแล้ว“ไฉ่เซีย”“เจ้าคะ” ไฉ่เซียเดินออกมาหนึ่งก้าว โน้มกายก้มหน้าฉู่เชียนหลีมองนาง กล่าวด้วยรอยยิ้ม “ครึ่งปีมานี้ ขอบคุณที่เจ้าดูแลข้า เจ้าเป็นคนจิตใจดี วันข้างหน้าต้องได้แต่งงานกับคนดีแน่นอน”เมื่อไฉ่เซียได้ยินคำนี้ จู่ๆ ก็แน่นหน้าอกอย่างน่าประหลาด“แม่นางฉู่…”อยู่ดีๆ มาพูดเรื่องนี้นางได้กลิ่นแปลกๆฝ่าบาทเพิ่งออกรบ แม่นางฉู่ก็พูดเรื่องนี้ คงไม่ได้คิดจะ…“แม่นางฉู่ เจ้า…”ฉู่เชียนหลีนำทรัพย์สินทั้งหมดที่มี และส่วนใหญ่เป็นของที่เฟิงเจิ้งหลีมอบให้นาง เปลี่ยนเป็นตั๋วเงิน มอบให้ไฉ่เตี๋ยทั้งหมด“ดูแลตัวเองด้วย”ไฉ่เซียเบิกตากว้าง มองตั๋วเงิ

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status