"เจ้าว่าตาแก่หยางกับตาแก่เซียวใครเป็นฮูหยินกันแน่ เซียวอี้หลงดูอ่อนหวานหรือแปลว่างั้นเขาเป็นเมีย ส่วนตาเฒ่าหยางก็เป็นสามีของเขา อ๊ายฮูหยินเซียวฮ่าๆๆๆ เหมาะสมๆช่างเป็นคู่รักสะท้านเมืองหลวงจริงๆ" จางอวี้ถิงเอ่ยกับสาวใช้ นางหัวเราจนขนมติดคอจึงไอออกมารุนแรง "แค่กๆๆๆ อื้อ แค่กๆ ขะ ขอน้ำ น่ะ น้ำหน่อยลี่จู แค่กๆๆๆ" ลี่จูรีบลุกไปหยิบน้ำให้คุณหนูของนาง แต่ยังไม่ทันไปถึงไหนก็เจอกับร่างสูงที่ยืนจังก้าอยู่หน้าเรือน "ตะ ตะ ใต้เท้าหยาง คะ คุณหนู อื้อออ ใอ้เอ้า(ใต้เท้า)" หลี่จิ้งใช้มือปิดปากลี่จูตามคำสั่งของเจ้านาย ลี่จูส่ายหน้า หยางหมิงหยิบชามใส่น้ำแล้วเดินไปหาเมียเด็กของเขาแทน ส่วนลี่จูถูกหลี่จิ้งเอามือปิดปากแล้วกอดเอาไว้ จากนั้นเขาก็เอ่ยกับนางที่ข้างหู "หากอยากให้คุณหนูของเจ้าถูกเฉดหัวออกจากจวนก็ลองร้องดังๆสิลี่จู จะลองไหม" ลี่จูส่ายหน้าหลี่จิ้งจึงเอามือออกจากปากนาง ลี่จูหันมาหาเขาก่อนจะเอ่ยถาม "องครักษ์หลี่ ใต้เท้าจะไม่ทำอะไรคุณหนูของข้าใช่หรือไม่เจ้าคะ" หลี่จิ้งยิ้มก้มหน้าลงไปกระซิบที่ข้างหู "ลี่จูคนงาม เจ้าควรห่วงตัวเองก่อนจะดีไหม...หื้ม"
View Moreหยางหมิงไปแล้วรวมถึงหลี่จิ้งก็ตามไปด้วย ปี้เฉาจึงออกจากที่ซ่อนเดินมาหาลี่จูที่หน้าแดงปากเจ่อ ดรุณีน้อยเอียงคอมองก่อนจะเอ่ยถามด้วยความอยากรู้"พี่ลี่จู ท่านกับองครักษ์หลี่เอ่อ แบบว่า คือ..."เสียงตะกุกตะกักยิ่งทำให้ลี่จูอายก่อนจะเสียงเข้มใส่สาวน้อยตรงหน้า"ปี้เฉา มานานหรือยังเมื่อกี้เห็นอะไรบ้าง""มาสักพักแล้ว เห็นองครักษ์หลี่กัดปากท่านอยู่ พี่ลี่จูท่านเจ็บมากหรือไม่เจ้าคะ ปากท่านบวมเชียว""ข้า...ช่างเถอะๆ เจ้าถืออะไรมาล่ะนั่น""อ้อ..คุณหนูเซียวนางให้ข้านำขนมมาให้ฮูหยินน้อยของท่านกับท่านน่ะเจ้าค่ะ""อ้อ..เดี๋ยวข้าไปตามฮูหยินน้อยให้รอสักครู่นะ"ปี้เฉาพยักหน้า ก่อนจะนั่งรอดรุณีน้อยไม่รู้ว่าหลี่จิ้งรับรู้ลมหายใจของนางตั้งนานแล้ว เรื่องนี้เขาบอกกล่าวแก่เจ้านายตนเองเรียบร้อย แปลว่าสองจวนไปมาหาสู่กันนานแล้ว ปิดเงียบเสียจริงๆไม่นานจางอวี้ถิงก็ออกมากับลี่จู ปี้เฉาชอบฮูหยินน้อยสกุลหยางคนนี้ยิ่งนัก นางช่างซุกซน นางทำให้ฮูหยินน้อยของนางและนางนั้นได้เปิดหูเปิดตา จางอวี้ถิงนั่งลงกินขนมที่ปี้เฉาเอามาก่อนจะถามหาอีกคน"ปี้เฉาคนงาม พี่ชิงชิงของข้าล่ะ เป็นเช่นไรบ้างข้าไม่เจอหน้า
วันนี้จางอวี้ถิงไปยังหอจันทราคนเดียว ไร้เงาเซียวอี้หรู เพราะว่ามารดาและบิดากลับมาเมืองหลวงด้วยเรื่องสำคัญนางจึงต้องอยู่ที่จวน จางอวี้ถิงที่ยามนี้มาถึงหอจันทราเรียบร้อยแล้ว นางเลือกเข้าทางด้านหลังของหอจันทรา ไม่นานก็ได้ยินเสียงเฮลั่นมาจากด้านบนชั้นสอง ทั้งคู่มาหยุดตรงที่มีชายฉกรรจ์ร่างใหญ่โตสามคนยืนคุมอยู่ หนึ่งในนั้นถามนางว่ามาทำอะไรที่นี่"เจ้าเป็นใคร มาทำอะไร ท่าทางอ้อนแอ้นราวกับสตรี""อะ แฮ่มเอ่อพี่ชาย ข้ามาตามคำเชิญคุณชายเยี่ยน่ะ ไม่ทราบว่าที่นี่ใช่บ่อนคุณชายเยี่ยหรือไม่ขอรับ""อืม มีสัมมาคารวะดีนี่หว่าเจ้าหนู ใช่ที่นี่บ่อนคุณชายเยี่ย เจ้าชื่ออะไรข้าจะไปแจ้งคุณชายก่อน""เอ่อ ข้าชื่อจางอวี้ขอรับ""ได้เจ้ารอตรงนี้ก่อน เดี๋ยวข้ามา"จางอวี้ถิงรู้มาว่าเยี่ยเฟิงคือหลานชายคนเดียวของมหาเสนาบดีเยี่ยหาน หยางหมิงและเซียวอี้หลงเป็นลูกศิษย์ของเขา มิน่าเยี่ยเฟิงถึงได้กล้าเปิดบ่อนและไม่ถูกจับแต่อย่างใดคนดูแลหอกลับออกมาจากด้านในก่อนจะเชิญจางอวี้ถิงเข้าไปด้านใน เมื่อมาถึงก็เดินตามคนนำทางไปชั้นสอง มีเสียงเฮฮาดังมา เมื่อเข้าไปก็เจอกับนักพนันรุ่นเยาว์จำนวนไม่น้อย แต่ละค
ลี่จูหน้าแดงทันทีที่ใต้เท้าเรียกนางว่าเมียของเขา หลี่จิ้งจูงมือเมียหมาดๆที่เพิ่งเข้าหอเมื่อคืนหายไปจากห้องเล็ก จางอวี้ถิงพยายามจะลงจากตักแกร่งแต่เขากอดเอวนางแน่น "อาหิวแล้ว เดี๋ยวสาย มาเถอะป้อนอาสักหน่อย""ท่านกินเองได้ มิได้เจ็บป่วยหรือพิการสักหน่อย""เฮ้อ ท่านพ่อกับท่านแม่ไปปกครองมณฑลกว่างโจว อาต้องอยู่กับท่านปู่ ท่านย่ามักไปขอพรครั้งละนานๆ อาขาดความรักความอบอุ่น มีเมียก็อยากได้ความรักจากเมียบ้าง ถิงถิงอย่าใจร้ายนักเลย""ท่านอา..ชีวิตท่านดราม่าเพียงนี้เชียว เอารางวัลออสก้าไหม หรือว่ารางวัลโนเบลสาขารันทดดีล่ะ"หยางหมิงไม่เข้าใจที่นางพูด อะไรคือดราม่า อะไรคือรางวัลโนเบล แล้วยังมีออสก้าอะไรนั่นอีก เมียเขาช่างมีแต่คำพูดแปลกๆมาให้เขาได้ยินอยู่เรื่อยๆ"ถิงถิง เจ้าพูดอะไร อาฟังไม่เข้าใจ""เฮ้อ...เอาล่ะๆไม่เข้าใจก็ไม่ต้องเข้าใจ ข้าป้อนท่านก็ได้ คนแก่มักจะมือไม้อ่อน เรี่ยวแรงไม่ค่อยดี ข้าเข้าใจๆ ท่านอายุขนาดนี้แล้ว มีแรงหายใจก็ดีแล้วล่ะเจ้าค่ะ"จางอวี้ถิงประชดเขาก่อนจะตักข้าวต้มแล้วเป่าเบาๆให้อุ่นๆ หยางหมิงอ้าปากกินข้าวต้มที่นางป้อน แต่ในใจคาดโทษแล้ว คำก็ค
ยามเหมาจางอวี้ถิงต้องตื่นเพราะมีมือมาป้วนเปี้ยนแถวๆหน้าอกของนาง มือเล็กคว้าหมับที่ข้อมือหนา เอ่ยออกไปด้วยน้ำเสียงดุเข้ม"ใต้เท้าหยาง ปล่อยนะ ไม่งั้นข้ากลับจวนจางจริงๆด้วย""หอมมาก หอมเหลือเกินถิงถิงไม่ล่วงเกินสัญญา ขอแค่หอมปากหอมคอ นะเด็กดี""ใต้เท้า ท่านลืมคำพูดตัวเองจนสิ้นแล้วหรือ ท่านบอกว่าท่านไม่มีวันแตะต้องข้า ท่านปู่กลับมาท่านจะหย่ากับข้า ข้าเป็นเพียงสตรีที่ท่านไม่ต้องการ ตอนนี้ที่ท่านทำอยู่มันขัดกับเจตจำนงเดิมของท่านหรือไม่"หยางหมิงพลิกตัวทาบทับนาง จางอวี้ถิงกลืนน้ำลายทันที บางอย่างส่วนล่างกำลังดันหน้าขานางอยู่ จะเอาตัวรอดอย่างไรดี ดูแล้วเขาคงไม่หยุดจนจะได้ในสิ่งที่ต้องการ แน่ๆ แต่เขากลับซุกใบหน้าลงกับซอกคอหอมกรุ่น เอ่ยด้วยน้ำเสียงกระเส่า"อย่าขยับนะ ถ้าไม่อยากให้อารังแกเจ้า ถิงถิงเจ้าทำข้าควบคุมตัวเองไม่ได้"มือบางทำได้เพียงยกขึ้นโอบเอวหนาเอาไว้ ก่อนจะส่งเสียงรับรู้"อืม" หยางหมิงที่เดิมคิดว่าจะสงบ แต่กลับหนักกว่าเดิมเพราะกลิ่นกายหอมกรุ่งลอยเข้าจมูก เขาเริ่มซุกไซร้ซอกคอระหง ไต่จมูกไปถึงใบหูปากหยักงับติ่งหูนางเบาๆ มีเสียงครางเบาๆออกมาจากคนใต้ร่าง
ว่านชิงเหอตามมาแต่กลับไม่ทันทั้งสามคน จางอวี้ถิงพาหลบเร้นอยู่ด้านหลังห้องน้ำของหอบุรุษงาม ว่านชิงเหอเดินมาถึงแต่ไม่เข้าไป สกปรกเหม็นเพียงนี้นางไม่มาแน่ๆ หรือว่าบุรุษคนนั้นคือบุรุษนางโลมชายกันนางจึงมาแถวนี้ หึ ถึงกับเที่ยวนางโลมชาย เซียวอี้หรูเจ้านี่ทำให้ข้าคาดไม่ถึงเสียจริงๆหลังจากที่ว่านชิงเหอไปแล้ว ทั้งสามคนก็เดินออกมาจากตรอก ลี่จูอาเจียนออกมาทันที เหม็นเกินไปแล้ว คุณหนูนะคุณหนูพาไปที่อื่นมิได้หรือ"อย่ามัวแต่โอ้เอ้รีบกลับเถอะ อี้หรูหากเขาเอาเรื่องนี้ไปข่มขู่เจ้าจะยุ่งเราต้องถึงจวนก่อนเข้าใจหรือไม่""เจ้าค่ะ ไปๆพี่ลี่จูเร็วๆ"อยู่ด้วยกันไม่ถึงสิบวันแต่จางอวี้ถิงได้แผ่สปอเชื้อราให้กับเซียวอี้หรูไปมากนัก คำพูดกิริยาที่ก๋ากั่นหากบิดามารดากลับมาเจอตอนนี้คงล้มทั้งยืน สามคนนายบ่าวมาถึงตรอกที่ลัดเข้าจวนหยางได้ ก่อนจะเอาตัวเองมาถึงรูสุนัข จางอวี้ถิงลอดเข้าไปก่อน ตามด้วยเซียวอี้หรูและลี่จูเป็นคนสุดท้าย จากนั้นเซียวอี้หรูก็ลอดรูจวนข้างกลับจวนเซียวเพื่ออาบน้ำสระผม กลิ่นปัสสาวะเหม็นติดเสื้อผ้า เนื่องจากตรอกนั้นมักมีคนเมามายืนทำธุระส่วนตัวประจำเพราะสุขารอแถวนาน คนตัวเล็
งานเลี้ยงชุมนุมกวี เซียวอี้หลงกำลังพูดคุยอยู่กับบรรดาลูกศิษย์และคุณหนูทั้งหลาย แม้จะมีข่าวลือว่าเขากับหยางหมิงเป็นพวกตัดแขนเสื้อ แต่ก็มีสตรีไม่น้อยที่พยายามทอดสายตาเชิญชวนทั้งสองคน พวกนางเชื่อมั่นว่าเสน่ห์ของพวกนางจะทำให้ราชครูหนุ่ม และใต้เท้าผู้ตรวจการเปลี่ยนใจมาชอบสตรี กระทั่งวันนี้ใต้เท้าเซียวพาสตรีนางหนึ่งมา นางคือคุณหนูสกุลว่านน้องสาวใต้เท้าว่านแห่งกองปราบ ว่านชิงชิงนั่งเล่นอยู่คนเดียว นางไม่ชอบงานเหล่านี้เพราะไม่ชอบปั้นสีหน้า มีหญิงวัยกลางคนเดินมาหานาง เป็นฮูหยินเจ้ากรมการคลัง สตรีสูงวัยเอ่ยทักทาย"ชิงชิงอ่า วันนี้มาได้อย่างไรกัน ป้าเห็นแล้วยังว่าใช่เจ้าหรือไม่""ชิงชิงคารวะหลินฮูหยินเจ้าค่ะ พอดีข้ามากับคนที่บ้านน่ะเจ้าค่ะ""เด็กคนนี้ ฮูหยินอะไรกันเรียกท่านป้าเถอะ ว่าแต่พี่ชายเจ้าเล่า อยู่ที่ใดกัน จะว่าไปพี่มู่ของเจ้าบ่นถึงเจ้าทุกวันเลยเชียว ยังบอกว่าหากเสร็จสิ้นการสอบจะไปหาเจ้าที่จวนน่ะ"ว่านชิงชิงยิ้มแต่ไม่ตอบ หลินฮูหยินมิควรมางานเช่นนี้ เห็นได้ชัดว่ามาหาภรรยาให้บุตรชาย นางเที่ยวทาบทามไปทั่ว หลินมู่ยังไม่พ้นเงามารดาเลย หลินฮูหยินเจ้ากี้เจ้าการไปทุกอย่า
ทั้งสามคนมาหยุดที่ร้านขายแป้งชาติ เมื่อได้ของมาแล้วจางอวี้ถิงก็แปลงโฉมเป็นคนแก่วัยสี่สิบกว่าๆ ส่วนลี่จูแต่งเป็นบ่าวชรา เซียวอวี้หรูแต่งเป็นตาแก่หัวล้าน ตอนนี้ต่อให้อยู่ต่อหน้าหยางหมิงกับเซียวอี้หลงหากพวกนางไม่พูดเขาไม่มีทางจำได้แน่ๆทั้งสามมาถึงหน้าหอนางโลมชายคนดูแลก็เดินมาขวาง ก่อนจะมองหัวจรดเท้า หนึ่งในนั้นเอ่ยขึ้น"นี่ตาแก่ พวกเจ้ามีเงินหรือไม่ หอหลันฮวาของข้ามิใช่ถูกๆ บุรุษที่นี่ล้วนงามกว่าสตรีของหอฮวาเซียงเสียอีก"จางอวี้ถิงรำคาญจึงควักเงินตำลึงออกมาสามก้อนให้พวกมันสามคน เมื่อเห็นเงินตำลึงก็ตาโตต้อนรับอย่างดี"นายท่าน เชิญด้านในขอรับ ท่านต้องการบุรุษรูปงามแค่ไหนข้ายินดีหามาให้ท่านจนกว่าจะพอใจขอรับ""อืม ขอชั้นสอง สุราอย่างดีกับแกล้มอย่างดีอีกด้วย""เอ่อ ขอรับทำไม่เสียงนายท่านดู...เอ่อ""แค่กๆ ข้าเดินทางมาจากตะวันตก อากาศทางนั้นเย็นนิดหน่อยเลยป่วย ทำไมหอหลันฮวาของเจ้ามีกฎว่าป่วยไม่ให้เข้าหรือ ช่างๆเถอะๆ ท่านพี่อี้ อาจูพวกเราไป"ทั้งสามคนเห็นบ่อเงินบ่อทองกำลังจะไปก็รั้งเอาไว้ นานๆจะมีคนยอมให้เงินพิเศษกับพวกเขาต้องเอาใจมากหน่อย"มิได้ขอรับ นายท่านรอสักครู่ข
จางอวี้ถิงพยักหน้าให้ ลี่จูจึงไปหยิบชุดบุรุษออกมาอีกหนึ่งชุด เซียวอี้หรูเปลี่ยนชุดเรียบร้อยแล้วก็เดินออกมา ทั้งสามคนลอดรูสุนัขออกจากจวน ก่อนจะไปได้ติดสินบนท่ายายเฝ้าประตูหมดทุกทางแล้ว จางอวี้ถิงเอ่ยถามดรุณีน้อยที่มาด้วยกัน"อี้หรู เจ้ารู้จักเมืองหลวงแค่ไหนกัน""ก็พอรู้บ้าง พี่จะไปที่ใดกันเจ้าคะ""อืม หอนารี ข้าอยากไปหอนารี ว่ากันว่าที่นี่รวมคนทุกรูปแบบเอาไว้""หอฮวาเซียง ว่ากันว่าใหญ่มากอีกทั้งสาวงามมากมายยิ่งนัก""หืม ฮวาเซียว ดอกไม้หอมหรือ งั้นเราไปที่นี่แหละ อาหารอร่อยไหมมีสุราหรือเปล่า""ข้าไม่เคยเข้า แต่ว่าพวกเราจะเข้าได้หรือ ที่นั่นมีแต่บุรุษนะ""อี้หรูนะอี้หรู วันนี้เจ้าเป็นบุรุษหรือสตรี ลองดูตัวเองสิ"เซียวอี้หรูยิ้มกว้างก่อนจะคล้องแขนจางอวี้ถิงเดินไปตามถนน กระทั่งมาถึงหอฮวาเซียง สตรีร่างอ้อนแอ้น สวมเสื้อผ้าบางเบาจนเห็นผิวกายลางๆ เมื่อเห็นบุรุษหนุ่มหน้าตาดีสามคนก็เดินส่ายสะโพกพร้อมกับโบกพัดในมือ หนึ่งในนั้นเอาพัดในมือปิดปากก่อนจะเอ่ยเสียงหวาน"คุณชายทั้งสาม ข้าชื่อเซียงเซียง เป็นนายหญิงของที่นี่ มิทราบว่าพวกท่าน มีคนที่เลือกเอาไว้แล้วหรือไม่ ดอ
จางอวี้ถิงยอมลุกไปทำบะหมี่ให้กับทั้งสี่คน ว่านชิงชิงเป็นลูกมือนาง เซียวอี้หรูมาช่วยด้วย หยางหมิงกับเซียวอี้หลงพูดคุยเรื่องการเดินทางหลังจากงานชุมนุมกวีวันนี้ แน่นอนคนตัวเล็กเงี่ยหูฟังอย่างตั้งใจ ตาแก่หยางจะไม่อยู่สามวัน นี่มันสวรรค์ชัดๆเลย ฮ่าๆๆใบหน้าที่ยิ้มมุมปาก บ่งบอกว่าคนตัวเล็กกำลังมีเรื่องซุกซน แม่ลูกแกะน้อยเจ้าลืมหรืออย่างไรวันนี้เจ้ายังมิไอออกมาสักนิด ยังมิได้แสดงบทบาทคุณหนูขี้โรคเลย สงสัยจะลืมตัวเมื่อรับมื้อเที่ยงเรียบร้อยว่านชิงชิงก้ตามเซียวอี้หลงกลับจวน ส่วนหยางหมิงไม่กลับเขานั่งอยู่ที่ลานหน้าบ้าน มองดูคนตัวเล็กนั่งจัดการกับไหดองผักของนางต่อ โดยไม่สนใจเขาแต่อย่างใด แม่ตัวดีมาดูกันว่าใครจะพลาดท่าก่อนปลายยามเว่ยหยางหมิงเตรียมตัวที่จะไปงานชุมนุมกวีที่ศาลากลางน้ำเรือนเหลียนฮวา วันนี้ฝ่าบาทจะเสด็จมาด้วยพระองค์เอง รถม้าเตรียมแล้ว คนตัวสูงไม่ยอมกลับเรือนหลักเขาสั่งให้เตรียมน้ำที่เรือนเล็ก กระทั่งน้ำร้อนถูกเตรียมเรียบร้อยแล้ว หยางหมิงเอ่ยกับคนสนิทให้ไปดูด้านนอกก่อนจะเรียกคนตัวเล็กให้มาอาบน้ำให้"ฮูหยิน..สามีเจ้าจะไปงานชุมนุมกวี รบกวนเจ้าอาบน้ำแต่งตัวให้สั
หยางหมิงหลงอดีตผู้ตรวจการแทนพระองค์ บัดนี้เขาอายุจะเจ็ดสิบแล้ว มักไปร่ำสุรากับสหายกันเป็นประจำ อย่างเช่นวันนี้ หยางหมิงหลงนัดกับสหายอีกสามคนไปนั่งท่องบทกวีชมจันทร์ ชมเวหาที่ป่าเหมยนอกเมืองเซียวจ้าน อดีตใต้เท้ากรมคลังจาวอวี้หมิ่น อดีตหมอหลวงว่านผิงอัน อดีตเจ้ากรมกลาโหมทั้งสี่คนร่ำสุรากันจนดึกดื่น เลยยามจื่อมาจนครึ่งชั่วยามแล้วยังไม่เลิกร่ายบทกวี อดีตผู้ตรวจการเริ่มเมามากแล้ว เขาหันไปหาว่านผิงอันก่อนจะเอ่ยอ้อแอ้"เอิ่ม เอิ๊กกก นี่ๆๆๆตาแก่ว่าน หลานสาวเจ้าอายุเท่าไหร่กันเล่า"หยางหมิงหลงเอ่ยถามว่านผิงอัน ชายชราที่ถูกถามเอ่ยน้ำเสียงอ้อแอ้ไม่ต่างกัน ก่อนจะทำท่าครุ่นคิด แล้วหันไปถามอดีตหมอหลวงที่เมาแอ๋อยู่ข้างๆ"ชิงชิงหรือ...เอหลานสาวข้าอายุเท่าไหร่นะ ตาแก่จางเจ้าจำได้ไหม ว่าหลานสาวข้าอายุเท่าไหร่"ว่าวผิงอันลุกเซไปเซมา เดินไม่ตรงทาง หยางหมิงหลงจึงหันไปหาจางอวี้หมิ่นแล้วถามเขาแทน"เอิ่ม...ตาแก่จางดูเหมือนว่าอวี้ถิงหลานสาวเจ้าสิบห้าปักปิ่นไปไม่นานแล้วนี่นา หลานชายข้ารับตำแหน่งต่อจากข้าจนป่านนี้ยังไม่แต่งงาน ข้าหมั้นหลานสาวเจ้าให้หมิงเอ๋อร์เลยแล้วกัน นี่ๆหยกชิ้นนี้ค...
Comments