จวนสกุลเซียว
ตอนนี้เซียวอี้หลงกำลังหัวเสียอยู่ในห้องหอ ว่านชิงชิงเองก็นั่งนิ่งหยิบของแห้ง ขนมเข้าปากนั่งฟังเขาโวยวายมากว่าครึ่งชั่วยามแล้ว หนวกหูจริงๆเลย
“เจ้าไม่มีปากปฏิเสธออกมาบ้างหรือว่านชิงชิง หรือจริงๆแล้วเจ้าเองก็อยากแต่งงานกับข้าจนเนื้อเต้น”
“ใต้เท้าเซียว..ข้าเองก็อยากปฏิเสธแต่คนที่ไปรับข้าคือเซียวจ้านท่านปู่ของท่าน จะให้ข้าทำเช่นไร ท่านต้องการให้สกุลว่านทำเช่นไร ปฏิเสธเขาไล่กลับมาให้พวกเราหักหน้าอดีตเจ้ากรมการคลังหรือ ต้องการเช่นนั้นจริงๆหรือเซียวอี้หลง”
“เจ้าๆๆ..ใจง่ายนัก อย่าหวังนะว่าข้าจะสนใจใยดีเจ้า แห้งเหี่ยวตายคาเรือนหอไปเถอะ”
“นั่นเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่ท่านสามารถทำได้ จงอยู่ห่างๆข้าเอาล่ะจะนอนที่นี่หรือใต้เท้า ในเมื่อชังหน้ากันนักท่านควรเอาตัวเองออกไปจากห้องได้แล้ว”
“นี่เรือนข้า เจ้ากล้าสั่งหรือ อาอวี้มาขนของคุณหนูว่านไปไว้เรือนเล็ก เรือนข้าไม่เหมาะกับเจ้าหรอก สตรีไร้ยางอาย”
"ไร้ยางอายหรือ..ใช่ๆๆ ใต้เท้าหมิงก็แต่งงานวันนี้ สงสารคู่รักยวนยางอย่างท่านสองคนจริงๆ ข้าไปอยู่เรือนข้างดี จะได้ไม่เห็นอะไรที่ขนลุกขนพอง พี่อี้หลงงง น้องหมิงง อึ๊ยขนลุก ปี้เหยาไปกันเถอะ”
"เจ้าหมายความว่าอย่างไร"
เซียวอี้หลงรู้ถึงเรื่องซูบซิบนินทามาบ้างว่าเขากับหยางหมิงเป็นพวกตัดแขนเสื้อ และมีใจให้กัน แต่ถึงขั้นมีสัมพันกัน่ยังไม่มีใครกล้าเอ่ยออกมาให้ได้ยิน ยายเด็กร้ายกาจนี่ไปเอามาจากไหน
ว่านชิงชิงไม่สนใจท่าทีของเขา นางเรียกหาสาวใช้ของตนก่อนจะยกชายกระโปรงชุดแต่งงานเดินตามองครักษ์ของเขาไป ทั้งสองจวนเงียบสนิทหยางหมิงและเซียวอี้หลงห้ามใครเอ่ยออกไปว่าจางอวี้ถิงกับว่านชิงชิงคือภรรยาพวกเขา
ท่านปู่ของพวกเขาออกเดินทางไปทันทีที่ส่งหลายชายหลานสะใภ้เข้าห้องหอเรียบร้อย ทั้งสี่คนมีนัดกับตาแก่เอาแต่ใจที่สุดในแคว้นจะชักช้ารอแอบฟังหลานชายกับหลานสะใภ้ก็ไม่ได้อีก
แต่งงานมาสามเดือนแล้ว จางอวี้ถิงอยู่ในจวนเล็กมาตลอด ไม่เคยออกจวกจวนเลย นางยังคงกินยาต่อเนื่อแต่กลับอาการแย่ลง บ่าวไพร่ที่เคยถูกให้มาอยู่คอยรับใช้ก็เริ่มรังเกียจ ฮูหยินน้อยอันใดใต้เท้าไม่ใยดีมิหนำซ้ำยังห้ามเอ่ยว่านางคือภรรยาของเขา ใครจะอยากถูกขายเพราะกาฝากคนนี้กัน ยิ่งนางแสดงอาการป่วยเท่าไหร่พวกนางก็ไม่อยากอยู่ใกล้รับใช้อีกต่อไป
"เจ้าว่านางจะเอาโรคร้ายมาติดพวกเราหรือไม่กัน"
"ข้าว่านะนางน่าจะไปอยู่ที่อื่น เกิดมาตายในจวนผู้ตรวจการมิเป็นอัปมงคลหรืออย่างไร"
"ใช่ๆๆ"
สาวใช้สองคนต่างก็นินทากันสนุกปาก จนลี่จูมาได้ยินและไปหาผู้ดูแลจวนแต่เขากลับเข้าข้างพวกนาง จนจางอวี้ถิงบอกให้พวกนางกลับไปไม่ต้องมารับใช้แล้ว ทั้งจวนจึงเหลือเพียงสองนายบ่าวเท่านั้น คืนนี้อากาศหนาวกว่าปกติ จางอวี้ถิงคิดถึงท่านปู่ของนางน้ำตาก็ไหลออกมา ตั้งแต่ท่านพ่อกับท่านแม่จากไปนางก็ถูกท่านปู่เลี้ยงมาตลอดตั้งแต่อายุห้าขวบ สิบปีแล้วที่ชายชราพยายามจะรักษาโรคที่นางเป็นอยู่ จางอวี้ถิงได้ยินเสียงเรียกที่คุ้นเคยก็ลืมตามองดู
"ได้เวลาแล้ว ไปพานางมาเถอะข้าจะรอเจ้าอยู่ที่นี่เด็กน้อย"
จางอวี้ถิงพยักหน้าก่อนจะลุกออกจากร่างตนเองไปตามแสงสีขาวที่สาดเป็นทางเดิน
ทางด้านหลี่อวี้ถิงที่หนีไปอยู่ห้องเพื่อนแล้วแล้วบอกขายคอนโดเรียบร้อยก็ไปหาซื้อคอนโดใหม่อยู่ เกือบสามเดือนแล้วที่เจอผีผูหญิงในชุดโบราณ ตั้งแต่ย้ายสถานที่เธอก็ไม่เจออีกเลย แปลว่าที่เธอขายคอนโดนั้นตัดสินใจถูกแล้ว วันนี้เธอมีปาร์ตี้สละโสดของเพื่อนสาวในแก๊ง หลังจากดื่มกันจนเมาแล้วหลี่ว่านถิงก็ขอตัวกลับบ้านก่อน เธอเพิ่งจะซื้อคอนโดห้องใหม่ได้ไม่นาน"นี่ถิงถิง..เธอเลื่อนตำแหน่งใหม่แล้วเหรอ""อืม...บอสให้ไปคุมการค้าภูมิภาคน่ะ""อิจฉาแกก็ไม่ได้ด้วย ใครจะไปพูดได้8ภาษาเหมือนแกล่ะ ถิงถิงขับรถดีๆนะ"หลี่อวี้ถิงขับรถมาตามทาง เธอเป็นคนคออ่อนจึงดื่มแค่นิดหน่อย และเพราะต้องขับรถกลับบ้านเอง กำลังจะถึงไฟแดงอีกสามร้อยเมตรอยู่ๆก็รู้สึกเย็นๆในรถ เสียงเรียกเธอเบาๆจึงหันไปดู ตาเบิกกว้างทันทีมาอีกแล้วหรือ"พี่สาว เราเจอกันอีกแล้วนะเจ้าคะ""ห๊ะ..ทะ เธออีกแล้วหรือ ทำไมไม่ไปเกิดมาทำไมอีก""พี่สัญญามาก่อนว่าจะช่วยทำหน้าที่ทุกอย่างแทนข้าแล้วข้าจะไป""หน้าที่อะไร ได้ๆๆๆสัญญาเธอพอใจหรือยังแม่ผีน้อยจ๋า ไปเถอะๆฉันสัญญาจะทำทุกอย่างแทนเธอเอง ฮือๆๆ หรือที่จริงเธอมากับรถคันนี้ ได้ๆๆพรุ่งนี้ฉันจะขายรถทิ้
ร่างบางระหงหลับอยู่บนเตียง ลมหายใจสม่ำเสมอ ดูไม่ป่วยหนักเหมือนตอนก่อนหน้าแล้วนี่ หลี่อวี้ถิงรู้สึกว่ามีคนมองก็ลืมตาขึ้น สายตาทั้งคู่ประสานกัน หลี่ว่านถิงรับรู้จากความทรงจำผ่านเด็กคนนี้ ผู้ชายรูปหล่อสันดานไม่ดีคนนี้คือสามีเจ้าของร่างเดิม อีกทั้งยังต้องเป็นสามีของเธอด้วย เพราะเธอดันมาอยู่ในร่างเมียไม่อยากแต่งของเขา หลี่อวี้ถิงถอนหายใจ ยายผีบ้านี่ไปเอาวิญญาณเธอมา แถมยังให้เธอตายศพไม่สวยอีกมันน่านักเชียว สามีเฒ่าของยายเด็กนี่มาดูอาการหรือมาเช็คความชัวร์กันแน่วะว่ายายนี่ตายหรือยังหยางหมิงเอ่ยถามเมียเด็กของเขาเสียงเข้ม“เจ้าเป็นอะไร เหตุใดร้องโวยวายนัก จวนข้างๆไม่รู้จะคิดได้ว่าข้าทำร้ายคน”“ขออภัยเจ้าค่ะใต้เท้า แค่กๆ ข้าปวดหัวเจ้าค่ะ แค่กๆๆ ต่อไป แค่กๆๆ ไม่กล้าแล้วเจ้าค่ะแค่กๆๆๆ”หลี่อวี้ถิงแกล้งไอออกมาแรงๆ หยางหมิงเข้ามาหาเห็นหน้านางซีดเซียวก็บอกว่าพรุ่งนี้จะให้หมอประจำจวนมาดูอาการนางอีกที จากนั้นเขาก็กลับไปหลี่อวี้ถิงทำใจแล้วว่าตนเองมาอยู่ในร่างนังหนูนี่ที่ชื่อจางอวี้ถิง ลี่จูเห็นคุณหนูของนางเงียบไปก็เดินมาหาก่อนจะเอ่นถาม“คุณหนูเจ้าคะ.... ท่านมิเป็นไรแล้วนะเจ้าคะ”
ส่วนโรงครัวใครบ้างจะกล้าต่อกรหาเรื่องแกล้งพวกนางเชิ่นเมื่อก่อนกันเล่า สาวใช้ที่เคยไปรับใช้และมีเรื่องกับนางและไปฟ้องพ่อบ้านคนเก่า จนเขาเข้าข้างและถูกฮูหยินน้อยไล่กลับมาถูกโบยเมื่อคืนนี้ องครักษ์ไปจับตัวเอามาจากที่นอนเลย เสร็จแล้วก็ขายทิ้ง พ่อบ้านเองก็ถูกโบยจนลุกไม่ขึ้น ค้นห้องนอนของเขาพบว่าซุกซ่อนเงินทองไม่น้อย อีกทั้งกำลังหลับนอนกับสาวใช้รุ่นลูกอยู่ด้วยกันสามคนสีหน้าท่านผู้ตรวจการเมื่อคืนนี้ช่างดูน่ากลัว พวกนางเป็นสาวใช้ที่เคยรับใช้ฮูหยินน้อย แต่ว่าไม่เต็มใจรับใช้ อีกทั้งพ่อบ้านยังยักยอกเงินทองในส่วนที่ฮูหยินน้อยต้องได้ เช่นผ้าตัดชุดใหม่ เสบียงที่ต้องส่งให้จวนเล็ก เพราะภรรยาของเขาดูแลเรื่องการเบิกจ่ายเสบียงในจวน และอาศัยว่าไท่ฮูหยินไปไหว้พระรวมทั้งไว้ใจพวกเขา สองผัวเมียจึงเกิดความละโมบ ลี่จูไม่รู้เหตุการณ์ณ์ในจวนใหญ่ นางได้ของที่ต้องการก็รีบกลับจวนเล็กทันที หยางหมิงที่วันนี้มีเข้าเฝ้าแต่เช้าก็ทันได้เห็นสาวใช้ของเมียเด็กตนเองมาที่โรงครัว“บอกห้องเสบียงกับห้องครัว พวกนางอยากได้อะไรก็ให้ไป เพิ่มเงินเดือนให้นางเป็นเดือนละห้าสิบตำลึง ไปหาท่านหมอไปตรวจนางด้วย เม
หลังจากสั่งงานไปไม่เกินสามวันต้นไม้ที่นางสั่งก็มาถึง บ่าวช่วยกันปลูกเต็มแนวกำแพงจวนเล็กทอดยาวทั้งสี่ด้าน จางอวี้ถิงเริ่มลงมือเพาะเมล็ดพันธุ์ที่ให้พ่อบ้านหาซื้อมาได้ หยางหมิงยังคงออกตรวจตราความเรียบร้อยของบ้านเมืองหยางหมิงยังไม่รู้ว่ามีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของจวนเล็ก หลังจากที่เขาบังเอิญเดินผ่านในคืนนั้นก็เป็นเวลาสองเดือนแล้วจางอวี้ถิงยิ้มหวานให้กับรั้วไม้เลื้อยของนาง โชคดีที่เป็นหน้าฝนต้นไม้งามไวมาก ปฏิบัติการหนีเที่ยวจะเริ่มในไม่ช้าแล้วหลี่อวี้ถิงมาอยู่ในร่างนี้ใช้ชีวิตเป็นจางอวี้ก็ล่วงเลยมาสามเดือนแล้ว นางยังไม่เคยได้ออกไปไหนเลย นางไม่มีเพื่อนนอกจากลี่จูสาวใช้ของร่างเดิม เพียงแต่ว่าอยู่ดีๆ เงินเดือนก็เพิ่มขึ้นจากเดือนละยี่สิบตำลึงเป็นห้าสิบตำลึง ตาเฒ่าหยางหมิงนี่รวยนะ แต่กักนางไว้ในจวนจะไปใช้เงินได้อย่างไรวะลี่จูที่กำลังติดเตาต้มน้ำเพื่อให้คุณหนูของนางล้างหน้ายามเช้าหันมาเจอนางนั่งเท้าคางทำหน้าตาเหมือนกับเบื่อหน่ายก็เดินมาหา“คุณหนูเจ้าคะ...เป็นอะไรไปเจ้าคะเหตุใดทำสีหน้าอย่างนั้น ไม่เอาเจ้าค่ะทำหน้าอมทุกข์ไม่ดีเลย คุณหนูของบ่าวต้องยิ้มสิเจ้าคะ”“พี่ลี่จู....ข้าเบื่อน่ะอยากออกไป
ปี้เหยากับลี่จูมองหน้ากันทันที พวกนางเคยเห็นกันหลายครั้งเพราะลี่จูมักไปซื้อยาที่ร้านหมอประจำ ตอนที่นายท่านเขียนตัวยาให้ ปี้เหยาเองก็ติดตามคุณหนูว่านเสมอ แต่พวกนางไม่เคยได้พูดคุยกัน จางอวี้ถิงวาดแผนที่ตามที่ว่านชิงชิงบอกนาง จางอวี้ถิงยิ้มให้นางก่อนจะเอ่ย“ช่องโหว่ทางด้านติดกับช่องทางด้านท่านพอดี เอาอย่างนี้ท่านทุบฝั่งท่าน ส่วนข้าทุบฝั่งข้าไม่กี่วันก็ทะลุถึงกันแล้วอีกอย่างข้าทุบไว้บ้างแล้ว เมื่อมันทะลุกันเราสองคนสามารถไปไหนก็ได้ เวลาที่กลับมาท่านก็กลับเรือนตนเองได้เลยไม่ต้องผ่านเรือนข้า” “ดีเลย งั้นข้าจะกลับไปทุบเดี๋ยวนี้ไว้พวกเราจะได้ไปเที่ยวให้ทั่งเมืองหลวงเลย ข้าได้เงินเดือนจากตาเฒ่านั่นสามสิบตำลึง”“ข้าก็ได้เงินเดือนเหมือนกัน เอาเช่นนี้ไหมไหนๆ วันนี้ท่านก็มาแล้วพวกเรามาช่วยกันทุบดีกว่า เผื่อจะทะลุกันเร็วขึ้น ข้ามีเครื่องมือเกษตรที่ข้าขอไปทางตาเฒ่าหยางไว้”“ได้สิ ปี้เหยาพวกเรามาช่วยกันเถอะ”จากนั้นทั้งสี่คนก็ช่วยกันลากกระถางต้นโบตั๋นมาบังฝั่งที่จะทุบ ก่อนจะช่วยกันค่อยๆ ทุบทีละน้อย หากเสียงดังเกินไปอาจมีคนได้ยิน ปี้เหยากับลี่จูละมือไปทำอาหารเที่ยง ทั้งสองคนยังคงหมกมุ่นกับการทุบกำแพงอ
รุ่งเช้าจางอวี้ถิงเดินไปที่โรงครัวเพื่อพบกับหัวหน้าห้องครัวเพราะตอนนี้ผักในแปลงของนางสามารถตัดกินได้แล้ว ของปลูกต้องใช้แรงเมล็ดพันธุ์ก็ต้องซื้อหา จางอวี้ถิงมาพบกับป้าหงแม่ครัวใหญ่ของโรงครัวแห่งนี้ นางไม่แสดงทีท่าว่าเป็นฮูหยินเพราะตาแก่นั่นสั่งห้ามเรียกนางว่าฮูหยิน ไม่นานป้าหงก็เดินมาหานางก่อนจะเอ่ยทักทาย"คุณหนูจางวันนี้ออกจากจวนเล็กมาถึงโรงครัวด้วยตนเองไม่ทราบว่าท่านต้องการอะไรหรือเจ้าคะ""ไม่ได้ต้องการสิ่งใด ท่านป้าหงข้าปลูกผักไว้หลายสิบแปลงกินอย่างไรก็ไม่ทัน วันนี้มีผักกาด หลัวโปว กวางตุ้งดอก ข้าขายถูกๆกำละยี่สิบอีกแปะ พวกท่านคนมากข้าขายถูกกว่าตลาดถึงห้าอีแปะสนใจจะรับหรือไม่เล่า"ป้าหงถึงกับอ้าปากค้าง คุณหนูจางท่านปลูกในที่ดินสกุลหยางยังกล้ามาขายให้สกุลหยางอีกเนี่ยนะ ป้าหงทำสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกทันที อาจิ้งที่เดินมาเพื่อรับน้ำอุ่นจากโรงครัวเห็นว่าคุณหนูจางมาถึงจวนใหญ่เองก็แปลกใจจึงเดินไปหานางเพื่อสอบถามความต้องการ"คุณหนูจาง ไม่พบเสียนานท่านสบายดีนะขอรับ""อ้อ..องครักษ์หลี่ ข้าสบายดีเอ่อจริงสิ ข้าปลูกผักไว้หลายแปลงแต่มาขายโรงครัวดูแล้วท่านป้าหงคงไม่อาจรับซื้อ
เซียวอี้หลงอยากตบศีรษะคนตรงหน้าสักที ฟังก็รู้ว่าล้อเลียนเขา หึใครอยากได้เจ้าเป็นเมียกันว่านชิงชิง จากนั้นรถม้าของเขาก็เคลื่อนออกจากจวนหลัง พอดีกับรถม้าของว่านชิงชิงเคลื่อนออกจากทางจวนข้างพอดี รถของเขานำหน้าไปก่อนเขานัดหยางหมิงมาเจอกันที่ด้านหน้าหออี้ชุน เมื่อมาถึงก็ลงจากรถม้าไปนั่งรอที่ชั้นสอง หยางหมิงออกจากจวนมาก็ตรงมาหาเซียวอี้หลงที่ร้านอาหารอี้ชุนทันที ทั้งสองนั่งสนทนาถึงเรื่องข้อสอบ วันนี้ไม่มีประชุมจเช้าทั้งคู่จึงถกปัญหากันกับอาจารย์อีกสามท่านที่นัดมาวันนี้ ด้านล่างเซียวอี้หลงเหลือบสายตาไปมองเห็นสตรีอ้อนแอ้นหนึ่งคนกับบุรุษที่เหมือนจะสวมชุดสำนักศึกษาหลวง ป่านนี้ยังไม่ไปเรียนอีกหรือ ที่สำคัญสตรีคนนั้นคือคนที่ยั่วโมโหเขาเมื่อตอนสายนั่นเองด้านล่างว่านชิงชิงกำลังพูดคุยกับหลัวชิวหมิง เขาเป็นบุตรชายของใต้เท้าหลัวรองเจ้ากรมอาลักษณ์ ทั้งคู่สนิทสนมกันจนใครๆต่างก็คิดว่าทั้งคู่เหมาะสมกันหากได้แต่งงานคงเป็นคู่ที่เหมาะสมมากที่สุดในเมืองหลวง "ชิงชิง...เจ้าสบายดีหรือไม่เหตุใดไปหาที่จวนจึงมิเจอเจ้าสักครั้ง""พอดีข้าไปอยู่ที่อื่นน่ะ ท่านปู่เห็นว่าอยู่บ้านข้าเกเรไม่เอาถ่านเลยให้
เซียวอี้หลงเลื่อนมือค่อยๆ ปลดสายรัดเอวนางออกใบหน้าหล่อเหลากำลังจะสัมผัสกับปลายถันที่เขาไม่เคยลืมนับจากคืนก่อน เซียวอี้หลงกำลังก้มลงจะชิมความหวานอยู่ๆ ประตูก็เปิดออกพร้อมเสียงใสๆ ของเด็กสาว"ท่านอาเข้ามาแล้ว...เอ๋พวกท่านกำลังทำอะไรกันอยู่หรือเจ้าคะ"เซียวอี้หลงต้องคว้าผ้าห่มมาคลุมร่างบางเอาไว้แล้วหันไปหาตัวต้นเรื่อง"เสี่ยวหรูเจ้ามาได้อย่างไรแล้วบิดาเจ้าเล่า""ท่านพ่อได้รับคำสั่งให้เข้าเฝ้าแล้วข้าก็ตามมาด้วยท่านพ่อบอกว่าฝ่าบาทจะให้ท่านพ่อไปเมืองซีโจว ดูแลเรื่องสร้างเขื่อนกั้นน้ำน่าจะใช้เวลานานท่านแม่ก็ไปด้วยท่านพ่อก็เลยเอาข้ามาทิ้งท่านเอ้ยไม่ใช่เอาข้ามาฝากท่านอาสักสองสามเดือนเจ้าค่ะ""แล้วพรวดพราดมาห้องคนอื่นเจ้าเป็นสตรีแบบใด""โอ่ว..ปกติข้าก็มาได้นี่เจ้าคะไอ้หยาอ้อหลานลืมไปท่านอาแต่งงานแล้ว ได้ยินท่านพ่อบอกท่านแม่ว่าท่านอาแต่งงานกับเด็กสาวอายุสิบหก ท่านอานางอายุเท่าข้าเลยนะเจ้าคะ ท่านพ่อยังบอกท่านแม่ว่าท่านอาแก่ปูนนี้แล้วจะไม่หมดแรงตายคาห้องหอหรือ เอแต่เท่าที่หลานเห็นท่านอาก็ยังสบายดีอยู่นี่เจ้าค่ะ""เซียวอี้หรู...""โอ่ว...งั้นข้าไม่รบกวนพวกท่านแล้วเชิญทั้งสองคนต่อเลยเจ้าค่ะอาสะใภ
ลี่จูหน้าแดงทันทีที่ใต้เท้าเรียกนางว่าเมียของเขา หลี่จิ้งจูงมือเมียหมาดๆที่เพิ่งเข้าหอเมื่อคืนหายไปจากห้องเล็ก จางอวี้ถิงพยายามจะลงจากตักแกร่งแต่เขากอดเอวนางแน่น "อาหิวแล้ว เดี๋ยวสาย มาเถอะป้อนอาสักหน่อย""ท่านกินเองได้ มิได้เจ็บป่วยหรือพิการสักหน่อย""เฮ้อ ท่านพ่อกับท่านแม่ไปปกครองมณฑลกว่างโจว อาต้องอยู่กับท่านปู่ ท่านย่ามักไปขอพรครั้งละนานๆ อาขาดความรักความอบอุ่น มีเมียก็อยากได้ความรักจากเมียบ้าง ถิงถิงอย่าใจร้ายนักเลย""ท่านอา..ชีวิตท่านดราม่าเพียงนี้เชียว เอารางวัลออสก้าไหม หรือว่ารางวัลโนเบลสาขารันทดดีล่ะ"หยางหมิงไม่เข้าใจที่นางพูด อะไรคือดราม่า อะไรคือรางวัลโนเบล แล้วยังมีออสก้าอะไรนั่นอีก เมียเขาช่างมีแต่คำพูดแปลกๆมาให้เขาได้ยินอยู่เรื่อยๆ"ถิงถิง เจ้าพูดอะไร อาฟังไม่เข้าใจ""เฮ้อ...เอาล่ะๆไม่เข้าใจก็ไม่ต้องเข้าใจ ข้าป้อนท่านก็ได้ คนแก่มักจะมือไม้อ่อน เรี่ยวแรงไม่ค่อยดี ข้าเข้าใจๆ ท่านอายุขนาดนี้แล้ว มีแรงหายใจก็ดีแล้วล่ะเจ้าค่ะ"จางอวี้ถิงประชดเขาก่อนจะตักข้าวต้มแล้วเป่าเบาๆให้อุ่นๆ หยางหมิงอ้าปากกินข้าวต้มที่นางป้อน แต่ในใจคาดโทษแล้ว คำก็ค
ยามเหมาจางอวี้ถิงต้องตื่นเพราะมีมือมาป้วนเปี้ยนแถวๆหน้าอกของนาง มือเล็กคว้าหมับที่ข้อมือหนา เอ่ยออกไปด้วยน้ำเสียงดุเข้ม"ใต้เท้าหยาง ปล่อยนะ ไม่งั้นข้ากลับจวนจางจริงๆด้วย""หอมมาก หอมเหลือเกินถิงถิงไม่ล่วงเกินสัญญา ขอแค่หอมปากหอมคอ นะเด็กดี""ใต้เท้า ท่านลืมคำพูดตัวเองจนสิ้นแล้วหรือ ท่านบอกว่าท่านไม่มีวันแตะต้องข้า ท่านปู่กลับมาท่านจะหย่ากับข้า ข้าเป็นเพียงสตรีที่ท่านไม่ต้องการ ตอนนี้ที่ท่านทำอยู่มันขัดกับเจตจำนงเดิมของท่านหรือไม่"หยางหมิงพลิกตัวทาบทับนาง จางอวี้ถิงกลืนน้ำลายทันที บางอย่างส่วนล่างกำลังดันหน้าขานางอยู่ จะเอาตัวรอดอย่างไรดี ดูแล้วเขาคงไม่หยุดจนจะได้ในสิ่งที่ต้องการ แน่ๆ แต่เขากลับซุกใบหน้าลงกับซอกคอหอมกรุ่น เอ่ยด้วยน้ำเสียงกระเส่า"อย่าขยับนะ ถ้าไม่อยากให้อารังแกเจ้า ถิงถิงเจ้าทำข้าควบคุมตัวเองไม่ได้"มือบางทำได้เพียงยกขึ้นโอบเอวหนาเอาไว้ ก่อนจะส่งเสียงรับรู้"อืม" หยางหมิงที่เดิมคิดว่าจะสงบ แต่กลับหนักกว่าเดิมเพราะกลิ่นกายหอมกรุ่งลอยเข้าจมูก เขาเริ่มซุกไซร้ซอกคอระหง ไต่จมูกไปถึงใบหูปากหยักงับติ่งหูนางเบาๆ มีเสียงครางเบาๆออกมาจากคนใต้ร่าง
ว่านชิงเหอตามมาแต่กลับไม่ทันทั้งสามคน จางอวี้ถิงพาหลบเร้นอยู่ด้านหลังห้องน้ำของหอบุรุษงาม ว่านชิงเหอเดินมาถึงแต่ไม่เข้าไป สกปรกเหม็นเพียงนี้นางไม่มาแน่ๆ หรือว่าบุรุษคนนั้นคือบุรุษนางโลมชายกันนางจึงมาแถวนี้ หึ ถึงกับเที่ยวนางโลมชาย เซียวอี้หรูเจ้านี่ทำให้ข้าคาดไม่ถึงเสียจริงๆหลังจากที่ว่านชิงเหอไปแล้ว ทั้งสามคนก็เดินออกมาจากตรอก ลี่จูอาเจียนออกมาทันที เหม็นเกินไปแล้ว คุณหนูนะคุณหนูพาไปที่อื่นมิได้หรือ"อย่ามัวแต่โอ้เอ้รีบกลับเถอะ อี้หรูหากเขาเอาเรื่องนี้ไปข่มขู่เจ้าจะยุ่งเราต้องถึงจวนก่อนเข้าใจหรือไม่""เจ้าค่ะ ไปๆพี่ลี่จูเร็วๆ"อยู่ด้วยกันไม่ถึงสิบวันแต่จางอวี้ถิงได้แผ่สปอเชื้อราให้กับเซียวอี้หรูไปมากนัก คำพูดกิริยาที่ก๋ากั่นหากบิดามารดากลับมาเจอตอนนี้คงล้มทั้งยืน สามคนนายบ่าวมาถึงตรอกที่ลัดเข้าจวนหยางได้ ก่อนจะเอาตัวเองมาถึงรูสุนัข จางอวี้ถิงลอดเข้าไปก่อน ตามด้วยเซียวอี้หรูและลี่จูเป็นคนสุดท้าย จากนั้นเซียวอี้หรูก็ลอดรูจวนข้างกลับจวนเซียวเพื่ออาบน้ำสระผม กลิ่นปัสสาวะเหม็นติดเสื้อผ้า เนื่องจากตรอกนั้นมักมีคนเมามายืนทำธุระส่วนตัวประจำเพราะสุขารอแถวนาน คนตัวเล็
งานเลี้ยงชุมนุมกวี เซียวอี้หลงกำลังพูดคุยอยู่กับบรรดาลูกศิษย์และคุณหนูทั้งหลาย แม้จะมีข่าวลือว่าเขากับหยางหมิงเป็นพวกตัดแขนเสื้อ แต่ก็มีสตรีไม่น้อยที่พยายามทอดสายตาเชิญชวนทั้งสองคน พวกนางเชื่อมั่นว่าเสน่ห์ของพวกนางจะทำให้ราชครูหนุ่ม และใต้เท้าผู้ตรวจการเปลี่ยนใจมาชอบสตรี กระทั่งวันนี้ใต้เท้าเซียวพาสตรีนางหนึ่งมา นางคือคุณหนูสกุลว่านน้องสาวใต้เท้าว่านแห่งกองปราบ ว่านชิงชิงนั่งเล่นอยู่คนเดียว นางไม่ชอบงานเหล่านี้เพราะไม่ชอบปั้นสีหน้า มีหญิงวัยกลางคนเดินมาหานาง เป็นฮูหยินเจ้ากรมการคลัง สตรีสูงวัยเอ่ยทักทาย"ชิงชิงอ่า วันนี้มาได้อย่างไรกัน ป้าเห็นแล้วยังว่าใช่เจ้าหรือไม่""ชิงชิงคารวะหลินฮูหยินเจ้าค่ะ พอดีข้ามากับคนที่บ้านน่ะเจ้าค่ะ""เด็กคนนี้ ฮูหยินอะไรกันเรียกท่านป้าเถอะ ว่าแต่พี่ชายเจ้าเล่า อยู่ที่ใดกัน จะว่าไปพี่มู่ของเจ้าบ่นถึงเจ้าทุกวันเลยเชียว ยังบอกว่าหากเสร็จสิ้นการสอบจะไปหาเจ้าที่จวนน่ะ"ว่านชิงชิงยิ้มแต่ไม่ตอบ หลินฮูหยินมิควรมางานเช่นนี้ เห็นได้ชัดว่ามาหาภรรยาให้บุตรชาย นางเที่ยวทาบทามไปทั่ว หลินมู่ยังไม่พ้นเงามารดาเลย หลินฮูหยินเจ้ากี้เจ้าการไปทุกอย่า
ทั้งสามคนมาหยุดที่ร้านขายแป้งชาติ เมื่อได้ของมาแล้วจางอวี้ถิงก็แปลงโฉมเป็นคนแก่วัยสี่สิบกว่าๆ ส่วนลี่จูแต่งเป็นบ่าวชรา เซียวอวี้หรูแต่งเป็นตาแก่หัวล้าน ตอนนี้ต่อให้อยู่ต่อหน้าหยางหมิงกับเซียวอี้หลงหากพวกนางไม่พูดเขาไม่มีทางจำได้แน่ๆทั้งสามมาถึงหน้าหอนางโลมชายคนดูแลก็เดินมาขวาง ก่อนจะมองหัวจรดเท้า หนึ่งในนั้นเอ่ยขึ้น"นี่ตาแก่ พวกเจ้ามีเงินหรือไม่ หอหลันฮวาของข้ามิใช่ถูกๆ บุรุษที่นี่ล้วนงามกว่าสตรีของหอฮวาเซียงเสียอีก"จางอวี้ถิงรำคาญจึงควักเงินตำลึงออกมาสามก้อนให้พวกมันสามคน เมื่อเห็นเงินตำลึงก็ตาโตต้อนรับอย่างดี"นายท่าน เชิญด้านในขอรับ ท่านต้องการบุรุษรูปงามแค่ไหนข้ายินดีหามาให้ท่านจนกว่าจะพอใจขอรับ""อืม ขอชั้นสอง สุราอย่างดีกับแกล้มอย่างดีอีกด้วย""เอ่อ ขอรับทำไม่เสียงนายท่านดู...เอ่อ""แค่กๆ ข้าเดินทางมาจากตะวันตก อากาศทางนั้นเย็นนิดหน่อยเลยป่วย ทำไมหอหลันฮวาของเจ้ามีกฎว่าป่วยไม่ให้เข้าหรือ ช่างๆเถอะๆ ท่านพี่อี้ อาจูพวกเราไป"ทั้งสามคนเห็นบ่อเงินบ่อทองกำลังจะไปก็รั้งเอาไว้ นานๆจะมีคนยอมให้เงินพิเศษกับพวกเขาต้องเอาใจมากหน่อย"มิได้ขอรับ นายท่านรอสักครู่ข
จางอวี้ถิงพยักหน้าให้ ลี่จูจึงไปหยิบชุดบุรุษออกมาอีกหนึ่งชุด เซียวอี้หรูเปลี่ยนชุดเรียบร้อยแล้วก็เดินออกมา ทั้งสามคนลอดรูสุนัขออกจากจวน ก่อนจะไปได้ติดสินบนท่ายายเฝ้าประตูหมดทุกทางแล้ว จางอวี้ถิงเอ่ยถามดรุณีน้อยที่มาด้วยกัน"อี้หรู เจ้ารู้จักเมืองหลวงแค่ไหนกัน""ก็พอรู้บ้าง พี่จะไปที่ใดกันเจ้าคะ""อืม หอนารี ข้าอยากไปหอนารี ว่ากันว่าที่นี่รวมคนทุกรูปแบบเอาไว้""หอฮวาเซียง ว่ากันว่าใหญ่มากอีกทั้งสาวงามมากมายยิ่งนัก""หืม ฮวาเซียว ดอกไม้หอมหรือ งั้นเราไปที่นี่แหละ อาหารอร่อยไหมมีสุราหรือเปล่า""ข้าไม่เคยเข้า แต่ว่าพวกเราจะเข้าได้หรือ ที่นั่นมีแต่บุรุษนะ""อี้หรูนะอี้หรู วันนี้เจ้าเป็นบุรุษหรือสตรี ลองดูตัวเองสิ"เซียวอี้หรูยิ้มกว้างก่อนจะคล้องแขนจางอวี้ถิงเดินไปตามถนน กระทั่งมาถึงหอฮวาเซียง สตรีร่างอ้อนแอ้น สวมเสื้อผ้าบางเบาจนเห็นผิวกายลางๆ เมื่อเห็นบุรุษหนุ่มหน้าตาดีสามคนก็เดินส่ายสะโพกพร้อมกับโบกพัดในมือ หนึ่งในนั้นเอาพัดในมือปิดปากก่อนจะเอ่ยเสียงหวาน"คุณชายทั้งสาม ข้าชื่อเซียงเซียง เป็นนายหญิงของที่นี่ มิทราบว่าพวกท่าน มีคนที่เลือกเอาไว้แล้วหรือไม่ ดอ
จางอวี้ถิงยอมลุกไปทำบะหมี่ให้กับทั้งสี่คน ว่านชิงชิงเป็นลูกมือนาง เซียวอี้หรูมาช่วยด้วย หยางหมิงกับเซียวอี้หลงพูดคุยเรื่องการเดินทางหลังจากงานชุมนุมกวีวันนี้ แน่นอนคนตัวเล็กเงี่ยหูฟังอย่างตั้งใจ ตาแก่หยางจะไม่อยู่สามวัน นี่มันสวรรค์ชัดๆเลย ฮ่าๆๆใบหน้าที่ยิ้มมุมปาก บ่งบอกว่าคนตัวเล็กกำลังมีเรื่องซุกซน แม่ลูกแกะน้อยเจ้าลืมหรืออย่างไรวันนี้เจ้ายังมิไอออกมาสักนิด ยังมิได้แสดงบทบาทคุณหนูขี้โรคเลย สงสัยจะลืมตัวเมื่อรับมื้อเที่ยงเรียบร้อยว่านชิงชิงก้ตามเซียวอี้หลงกลับจวน ส่วนหยางหมิงไม่กลับเขานั่งอยู่ที่ลานหน้าบ้าน มองดูคนตัวเล็กนั่งจัดการกับไหดองผักของนางต่อ โดยไม่สนใจเขาแต่อย่างใด แม่ตัวดีมาดูกันว่าใครจะพลาดท่าก่อนปลายยามเว่ยหยางหมิงเตรียมตัวที่จะไปงานชุมนุมกวีที่ศาลากลางน้ำเรือนเหลียนฮวา วันนี้ฝ่าบาทจะเสด็จมาด้วยพระองค์เอง รถม้าเตรียมแล้ว คนตัวสูงไม่ยอมกลับเรือนหลักเขาสั่งให้เตรียมน้ำที่เรือนเล็ก กระทั่งน้ำร้อนถูกเตรียมเรียบร้อยแล้ว หยางหมิงเอ่ยกับคนสนิทให้ไปดูด้านนอกก่อนจะเรียกคนตัวเล็กให้มาอาบน้ำให้"ฮูหยิน..สามีเจ้าจะไปงานชุมนุมกวี รบกวนเจ้าอาบน้ำแต่งตัวให้สั
ลี่จูตอนนี้กำลังถอนผักอยู่ คุณหนูของนางอยากทำกิมจิอะไรสักอย่างนางเองก็ไม่รู้จักมันหรอก เมื่อเช้าใต้เท้าให้คนนำจดหมายมาส่งให้ นายท่านกำลังเป็นห่วงคุณหนู นางจึงตอบจดหมายกลับไปว่าสบายดีขอท่านปู่อย่าได้กังวล เสียงคนเรียกแว่วๆลี่จูเดินมาดูก็เห็นเป็นฮูหยินเซียวกับคุณหนูเซียว นางจึงรีบเดินมาต้องรับ"เซียวฮูหยิน คุณหนูเซียวพวกท่านมาแล้ว ไม่อยู่เสียหลานวันเชิญเจ้าค่ะ ข้าน้อยจะไปเรียนคุณหนูของข้าน้อยก่อน""อืม..ลี่จูถิงถิงนางทำอันใดอยู่หรือ แล้วนั่นถอนผักทำอันใดมากมายกัน""คือว่าคุณหนูของบข้าน้อยจะทำกิมจิเจ้าค่ะเซียยวฮูหยิน""อ้อ..แล้วกิมจิคือสิ่งใดหรือลี่จู""มันคือผักดองที่เอาไว้กินเป็นเครื่องเคียงน่ะอี้หรู พี่ชิงชิงท่านกลับมาแล้ว"จางอวี้ถิงทักทายว่านชิงชิงกับเซียวอี้หรู จากนั้นทั้งหมดก็นั่งลงคุยกัน เซียวอี้หรูอยากไปงานชุมนุมกวี แต่ว่านชิงชิงบอกว่าพี่ชายนางไปด้วย สาวน้อยก็เบ้ปากทันที ส่วนจางอวี้ถิงนางอยากไปเที่ยวเล่น งานชุมนุมอะไรนั่นนางไม่ใสนใจหรอก"พี่..หลังจากงานชุมนุมกวีพวกเขาจะไม่อยู่เมืองหลวงสามวัน หลังจากกลับมาอีกครึ่งเดือนก็จะตามเสด็จฮ่องเต้ไปล่าสัตว์ ข้าอยากส
เซียวอี้หลงยิ้มให้คนใต้ร่างก่อนจะเริ่มบรรเลงบทรักกับนางอีกครั้งกระทั่งสองชั่วยามผ่านไปเขาจึงหยุดพานางไปอาบน้ำ แต่เพราะเพิ่งได้รักเมียครั้งแรก สุดท้ายว่านชิงชิงก็ถูกตาเฒ่าจับกินในอ่างอีกรอบจนนางหมดแรงจริงๆ เขาอุ้มนางมาเช็ดตัวก่อนจะใส่เสื้อผ้าให้แล้วกล่อนนางนอนหลับไปด้วยกันปี้เหยานั่งรอคุณหนูของตนจนสัปหงกไปหลายรอบ คุณหนูถูกใต้เท้าพาไปสองชั่วยามแล้ว ตกลงพวกนางยังต้องไปจากสกุลเซียวหรือไม่ อาไท่ที่ยืนกอดอกพิงเสาเรือนอยู่ก็ได้แต่ส่ายหน้า เขาเดินไปหานางก่อนจะอุ้มคนตัวเล็กที่สะลึมสะลือขึ้นแล้วสาวเท้ายาวๆ เดินกลับเรือนข้าง อาไท่ห่มผ้าให้นาง ก้มลงหอมหน้าผากแม่ตัวน้อยแล้วจึงเดินออกมา จากนั้นเขาก็ปิดประตูห้องให้นาง ปี้เหยาหลับไปโดยไม่รู้เลยว่าคุณหนูของนางเป็นเช่นไรแล้วตัวเองกลับมาเรือนข้างได้อย่างไรยามเหมาว่านชิงชิงตื่นมาแล้ว นึกถึงเรื่องเมื่อคืนก็หน้าแดง คนตัวโตที่นอนอยู่ข้างๆกระชับอ้อมกอดทันทีที่นางขยับตัว ปากก็เอ่ยทั้งที่ยังหลับตา"ฮูหยิน..ตื่นแต่เช้าเชียวนอนต่อเถอะ"หากเซียวอี้หลงได้เห็นนางตอนนี้เขาคงต้องภูมิใจ ว่านชิงชิงที่ใบหน้ารวมทั้งเรือนร่างเห่อร้อนจนน่าจะแดงไปทั้งตัวเพราะคำว่าฮูห