ทางด้านหลี่อวี้ถิงที่หนีไปอยู่ห้องเพื่อนแล้วแล้วบอกขายคอนโดเรียบร้อยก็ไปหาซื้อคอนโดใหม่อยู่ เกือบสามเดือนแล้วที่เจอผีผูหญิงในชุดโบราณ ตั้งแต่ย้ายสถานที่เธอก็ไม่เจออีกเลย แปลว่าที่เธอขายคอนโดนั้นตัดสินใจถูกแล้ว วันนี้เธอมีปาร์ตี้สละโสดของเพื่อนสาวในแก๊ง หลังจากดื่มกันจนเมาแล้วหลี่ว่านถิงก็ขอตัวกลับบ้านก่อน เธอเพิ่งจะซื้อคอนโดห้องใหม่ได้ไม่นาน
"นี่ถิงถิง..เธอเลื่อนตำแหน่งใหม่แล้วเหรอ"
"อืม...บอสให้ไปคุมการค้าภูมิภาคน่ะ"
"อิจฉาแกก็ไม่ได้ด้วย ใครจะไปพูดได้8ภาษาเหมือนแกล่ะ ถิงถิงขับรถดีๆนะ"
หลี่อวี้ถิงขับรถมาตามทาง เธอเป็นคนคออ่อนจึงดื่มแค่นิดหน่อย และเพราะต้องขับรถกลับบ้านเอง กำลังจะถึงไฟแดงอีกสามร้อยเมตรอยู่ๆก็รู้สึกเย็นๆในรถ เสียงเรียกเธอเบาๆจึงหันไปดู ตาเบิกกว้างทันทีมาอีกแล้วหรือ
"พี่สาว เราเจอกันอีกแล้วนะเจ้าคะ"
"ห๊ะ..ทะ เธออีกแล้วหรือ ทำไมไม่ไปเกิดมาทำไมอีก"
"พี่สัญญามาก่อนว่าจะช่วยทำหน้าที่ทุกอย่างแทนข้าแล้วข้าจะไป"
"หน้าที่อะไร ได้ๆๆๆสัญญาเธอพอใจหรือยังแม่ผีน้อยจ๋า ไปเถอะๆฉันสัญญาจะทำทุกอย่างแทนเธอเอง ฮือๆๆ หรือที่จริงเธอมากับรถคันนี้ ได้ๆๆพรุ่งนี้ฉันจะขายรถทิ้ง แม่จ๋าช่วยลูกด้วยเถอะ"
เมื่อถึงไฟแดงหลี่อวี้ถิงแตะเบรกแต่มันค้าง หักพวงมาลัยก็ไม่ได้มันล็อคหลี่อวี้ถิงส่ายหน้า เธอหันมาหาวิญญาณหญิงสาวที่นั่งข้างๆก่อนจะร้องไห้ รถของเธอผ่าไฟแดงทันทีและรถบรรทุกขนาดใหญ่ก็พุ่งชนเข้ากลางคัน รถของเธอกลิ้งไปหลายตลบ หลี่อวี้ถิงกระอักเลือดออกมานัยตาค้างเหลือบมองจางอวี้ถิงอย่างแคลงใจ จางอวี้ถิงยื่นมือไปลูบใบหน้าให้ดวงตาของเธอปิดสนิท ก่อนจะเอ่ยขอโทษ
"ขออภัยด้วยพี่สาวที่ทำเช่นนี้ ที่เหลือรบกวนท่านแล้ว"
ดวงวิญญาณสองดวงล่องลอยไปคู่กัน เมื่อจางอวี้ถิงนำดวงวิญญาณของหลี่อวี้ถิงมาส่งนางก็จากไปพร้อมชายชราทันที ร่างกายที่ไร้ลมหายใจไปก่อนหน้าโดยที่ไม่มีผู้ใดรู้ อยู่ๆก็กระตุกเกร็งก่อนจะมีเสียงไอออกมา ลี่จูรีบมาดูคุณหนูขอนางทันที
เสียงในห้องไอออกมา ลี่จูรีบวิ่งเข้าไปดูคุณหนูของนางทันทีที่ได้ยินเสียง เมื่อคืนก่อนนอนคุณหนูหน้าซีดอย่างมาก
หลี่อวี้ถิงรู้สึกเหมือนตัวเองมีก้อนอะไรติดคอจึงไอออกมาแรงๆ เสมหะที่อุดตันมานานจนทำให้ร่างนี่ป่วยมาตลอดเวลานี้ถูกขับออกมาเรื่อยๆ
หลี่อวี้ถิงควานหาถังขยะตามสัญชาตญาณจนลืมมองรอบๆด้าน
เสียงไอรุนแรงเธอพยายามขากออกมาเป็นเสมหะสีข้นมีกลิ่นเน่าออกมาด้วย ก่อนจะโซซัดโซเซไปหาน้ำ ลี่จูที่เข้ามาเห็นเจ้านายตนเองคลานสี่ขาไปหาถ้วยน้ำก็รีบหยิบส่งให้ทันที
หลี่ว่านถิงรับชามมาก่อนจะบ้วนปากลงในหระโถนหลายๆครั้ง ลี่จูเห็นสิ่งที่อยู่ในกระโถนถึงกับผงะ หลี่อวี้ถิงที่เหมือนมีก้อนอะไรมาติดที่หน้าอกพอเธอพยายามไอออกมาแรงๆแล้วมันก็หลุดออกมา จากที่อึดอักก็รู้สึกโล่ง
แต่หลี่อวี้ถิงที่เพิ่งจะบ้วนปากเสร็จกำลังมึนงง เธอขับรถอยู่ดีๆแม่ผีสาวชุดโบราณก็มานั่งข้างๆเบรกไม่อยู่พวงมาลัยก็ล็อคทำให้รถคว่ำไม่ใช่หรือ เธอตายแล้วใช่ไหม ที่นี่ที่ไหนกัน มีแสงตะเกียงหรือว่าเป็นตะเกียงนำดวงวิญญาณกัน
หลี่อวี้ถิงค่อยๆพยุงตัวเองลุกขึ้น ลี่จูเข้ามาประคองคุณหนูของนาง หลี่อวี้ถิงหันหน้าไปหาคนที่กำลังพยุงเธออยู่ก็ผลักออกแล้วดีดตัวไปมุมห้องทันที
“ฮือๆๆ..แม่เจ้าตัวเก่าไปแล้วตัวใหม่มาจากไหนอีกเนี่ย พี่ผีจ๋า อย่ามาหลอกกันเลย อยากได้อะไรบอกมานะจะเผากระดาษเงินกระดาษทองไปให้ เชงเม้งอยากกินอะไรบอกมาเถอะ”
ลี่จูเดินไปหา หลี่อวี้ถิงเดินหนี ผีตัวนี้คนละตัวกับที่นั่งในรถของเธอ ลี่จูคิดว่าอาการของคุณหนูกำเริบก็ร้องไห้ออกมา จนหลี่อวี้ถิงเองต้องหยุดร้องไห้ทันที
“ฮือๆๆๆ คุณหนูเจ้าขาคนดีของบ่าว คุณหนูอาการท่านกำเริบถึงเพียงนี้เชียวหรือเจ้าคะ ฮือๆๆ นายท่านเจ้าขาท่านอยู่ที่ไหน กลับมาเถอะเจ้าค่ะฮือๆๆๆ”
หลี่อวี้ถิงมองหน้าผู้หญิงที่ใส่ชุดโบราณก่อนจะค่อยๆเดินไปหาอย่างกล้าๆกลัวๆ เธอแตะตัวลี่จูอย่างระแวง เอะ!!ตัวอุ่น มีเนื้อหนังจับต้องได้ คะ คนเหรอ กำลังจะเอ่ยปากถามอยู่ก็ปวดหัวขึ้นมาทันที
ภาพความทรงจำของวิญญาณผู้หญิงในชุดราณคนนั้นผ่านเข้าหัวของเธอต่อเนื่อง หลี่อวี้ถิงลงไปนอนตัวงอเพราะเธอปวดหัวมาก ลี่จูที่เห็นคุณหนูของตนเป็นเช่นนั้นก็รีบมากอดก่อนจะร้องไห้หนักกว่าเดิม
“โอ๊ย...ปวด ปวดหัวมากเลย อื้อ ปวดจะระเบิดอยู่แล้ว เธอเป็นใครพอแล้ว พอๆๆๆไม่อยากรับรู้ โอ๊ยยย อ๊ายย อื้อออ พอแล้ว พอสักที”
“ฮือๆๆๆคุณหนู บ่าวอยู่ตรงนี้นะเจ้าคะคนดีของบ่าว มองมาที่บ่าวสิเจ้าคะ คุณหนูเจ้าขา”
“ไม่ไหวแล้ว..อ๊ายยย”
หลี่อวี้ถิงสลบไปแล้ว พอดีกับที่หยางหมิงกำลังเดินกลับมาจากจวนของเซียวอี้หลง เขาผ่านทางจวนเล็กเพราะเป็นทางลัดจึงได้ยินเสียงของสองนายบ่าว หยางหมิงเดินเข้าไปในจวนเล็ก อาจิ้งเอ่ยเรียกคนด้านใน
“คุณหนูจาง แม่นางลี่จูใต้เท้ามาเยือนน่ะ”
“...”
“คุณหนูจาง...แม่นางลี่...”
อาจิ้งยังไม่ทันเอ่ยจบประตูก็เปิดออกมา ลี่จูรีบวิ่งลงมาหาทั้งสองคน หยางหมิงเดินขึ้นหน้ามาก่อนจะถาม
“เอะอะอันใดกันพวกเจ้าสองคนนายบ่าว มิรู้หรือว่านี้ยามไหนแล้ว อีกอย่างบ่าวไพร่ในเรือนไปที่ใดกันหมด”
“เอ่อ..คุณหนูอาการป่วยกำเริบนิดหน่อยเจ้าค่ะ ส่วนบ่าวไพร่พวกนางชอบที่จะซุบซิบนินทา คุณหนูเห็นว่าในเมื่อคนไม่มีใจก็ไม่อาจฝืนให้มารับใช้เจ้าค่ะ”
“คนไม่มีใจ ชอบนินทาหรือ เหตุใดข้าไม่ได้ยินพ่อบ้านรายงานกันว่าพวกเจ้าไล่คนกลับไปแล้ว”
ลี่จูก้มหน้าก่อนจะเอ่ยอุบอิบ
“พ่อบ้านท่านนั่นแหละตัวดี สาวใช้ในจวนเป็นเมียตาแก่นั่นเกือบครึ่งจวนแล้วมั้ง”
แม้จะเสียงเบามากแต่ทั้งคู่ได้ยิน หยางหมิงคงต้องจัดการเรื่องนี้สักหน่อย เขาปล่อยทำไม่เห็นเพราะเรื่องบางอย่างไม่ได้ร้ายแรง หากแต่ถ้าสิ่งที่ลี่จูคนนี้พูดเป็นเรื่องจริงเขาเอาไว้ไม่ได้เช่นกัน
หยางหมิงกำลังจะสาวเท้าเข้าไปดูในเรือนแต่ลี่จูขวางเขาเอาไว้ หยางหมิงมองหน้าสาวใช้ของเมียเด็กตนเองทันที สายตาที่มองมาทำเอาลี่จูกลืนน้ำลายก่อนจะเอ่ย
“คุณหนูไอหนักมากขับเอาเสมหะออกมาเยอะนัก อีกทั้งมีกลิ่นไม่ดี บ่าวเกรงว่าใต้เท้าจะรังกียจคุณหนู แต่ว่านานๆคุณหนูจะป่วยหนักสักที เอาไว้บ่าวทำความสะอาดเรียบร้อยค่อยเข้าไปนะเจ้าคะ”
“แล้วยังรออันใด ไม่รีบไปทำ”
“หา ห๊า เจ้าค่ะจะไปเดี๋ยวนี้”
ลี่จูรีบไปเอากระโถนมาล้างทำความสะอาด จุดกำยานให้ห้องมีกลิ่นหอม ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วยามหยางหมิงก็เข้ามาดูจางอวี้ถิง เขาแต่งกับนางมาสามเดือนแล้ว นอกจากวันที่เข้าพิธีเขาก็ไม่ได้เจอนางอีกเลย เขาอยากให้นางอิสระ และตัวเขาเองก็ไม่อยากมีพันธะเช่นกัน
ร่างบางระหงหลับอยู่บนเตียง ลมหายใจสม่ำเสมอ ดูไม่ป่วยหนักเหมือนตอนก่อนหน้าแล้วนี่ หลี่อวี้ถิงรู้สึกว่ามีคนมองก็ลืมตาขึ้น สายตาทั้งคู่ประสานกัน หลี่ว่านถิงรับรู้จากความทรงจำผ่านเด็กคนนี้ ผู้ชายรูปหล่อสันดานไม่ดีคนนี้คือสามีเจ้าของร่างเดิม อีกทั้งยังต้องเป็นสามีของเธอด้วย เพราะเธอดันมาอยู่ในร่างเมียไม่อยากแต่งของเขา หลี่อวี้ถิงถอนหายใจ ยายผีบ้านี่ไปเอาวิญญาณเธอมา แถมยังให้เธอตายศพไม่สวยอีกมันน่านักเชียว สามีเฒ่าของยายเด็กนี่มาดูอาการหรือมาเช็คความชัวร์กันแน่วะว่ายายนี่ตายหรือยังหยางหมิงเอ่ยถามเมียเด็กของเขาเสียงเข้ม“เจ้าเป็นอะไร เหตุใดร้องโวยวายนัก จวนข้างๆไม่รู้จะคิดได้ว่าข้าทำร้ายคน”“ขออภัยเจ้าค่ะใต้เท้า แค่กๆ ข้าปวดหัวเจ้าค่ะ แค่กๆๆ ต่อไป แค่กๆๆ ไม่กล้าแล้วเจ้าค่ะแค่กๆๆๆ”หลี่อวี้ถิงแกล้งไอออกมาแรงๆ หยางหมิงเข้ามาหาเห็นหน้านางซีดเซียวก็บอกว่าพรุ่งนี้จะให้หมอประจำจวนมาดูอาการนางอีกที จากนั้นเขาก็กลับไปหลี่อวี้ถิงทำใจแล้วว่าตนเองมาอยู่ในร่างนังหนูนี่ที่ชื่อจางอวี้ถิง ลี่จูเห็นคุณหนูของนางเงียบไปก็เดินมาหาก่อนจะเอ่นถาม“คุณหนูเจ้าคะ.... ท่านมิเป็นไรแล้วนะเจ้าคะ”
ส่วนโรงครัวใครบ้างจะกล้าต่อกรหาเรื่องแกล้งพวกนางเชิ่นเมื่อก่อนกันเล่า สาวใช้ที่เคยไปรับใช้และมีเรื่องกับนางและไปฟ้องพ่อบ้านคนเก่า จนเขาเข้าข้างและถูกฮูหยินน้อยไล่กลับมาถูกโบยเมื่อคืนนี้ องครักษ์ไปจับตัวเอามาจากที่นอนเลย เสร็จแล้วก็ขายทิ้ง พ่อบ้านเองก็ถูกโบยจนลุกไม่ขึ้น ค้นห้องนอนของเขาพบว่าซุกซ่อนเงินทองไม่น้อย อีกทั้งกำลังหลับนอนกับสาวใช้รุ่นลูกอยู่ด้วยกันสามคนสีหน้าท่านผู้ตรวจการเมื่อคืนนี้ช่างดูน่ากลัว พวกนางเป็นสาวใช้ที่เคยรับใช้ฮูหยินน้อย แต่ว่าไม่เต็มใจรับใช้ อีกทั้งพ่อบ้านยังยักยอกเงินทองในส่วนที่ฮูหยินน้อยต้องได้ เช่นผ้าตัดชุดใหม่ เสบียงที่ต้องส่งให้จวนเล็ก เพราะภรรยาของเขาดูแลเรื่องการเบิกจ่ายเสบียงในจวน และอาศัยว่าไท่ฮูหยินไปไหว้พระรวมทั้งไว้ใจพวกเขา สองผัวเมียจึงเกิดความละโมบ ลี่จูไม่รู้เหตุการณ์ณ์ในจวนใหญ่ นางได้ของที่ต้องการก็รีบกลับจวนเล็กทันที หยางหมิงที่วันนี้มีเข้าเฝ้าแต่เช้าก็ทันได้เห็นสาวใช้ของเมียเด็กตนเองมาที่โรงครัว“บอกห้องเสบียงกับห้องครัว พวกนางอยากได้อะไรก็ให้ไป เพิ่มเงินเดือนให้นางเป็นเดือนละห้าสิบตำลึง ไปหาท่านหมอไปตรวจนางด้วย เม
หลังจากสั่งงานไปไม่เกินสามวันต้นไม้ที่นางสั่งก็มาถึง บ่าวช่วยกันปลูกเต็มแนวกำแพงจวนเล็กทอดยาวทั้งสี่ด้าน จางอวี้ถิงเริ่มลงมือเพาะเมล็ดพันธุ์ที่ให้พ่อบ้านหาซื้อมาได้ หยางหมิงยังคงออกตรวจตราความเรียบร้อยของบ้านเมืองหยางหมิงยังไม่รู้ว่ามีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของจวนเล็ก หลังจากที่เขาบังเอิญเดินผ่านในคืนนั้นก็เป็นเวลาสองเดือนแล้วจางอวี้ถิงยิ้มหวานให้กับรั้วไม้เลื้อยของนาง โชคดีที่เป็นหน้าฝนต้นไม้งามไวมาก ปฏิบัติการหนีเที่ยวจะเริ่มในไม่ช้าแล้วหลี่อวี้ถิงมาอยู่ในร่างนี้ใช้ชีวิตเป็นจางอวี้ก็ล่วงเลยมาสามเดือนแล้ว นางยังไม่เคยได้ออกไปไหนเลย นางไม่มีเพื่อนนอกจากลี่จูสาวใช้ของร่างเดิม เพียงแต่ว่าอยู่ดีๆ เงินเดือนก็เพิ่มขึ้นจากเดือนละยี่สิบตำลึงเป็นห้าสิบตำลึง ตาเฒ่าหยางหมิงนี่รวยนะ แต่กักนางไว้ในจวนจะไปใช้เงินได้อย่างไรวะลี่จูที่กำลังติดเตาต้มน้ำเพื่อให้คุณหนูของนางล้างหน้ายามเช้าหันมาเจอนางนั่งเท้าคางทำหน้าตาเหมือนกับเบื่อหน่ายก็เดินมาหา“คุณหนูเจ้าคะ...เป็นอะไรไปเจ้าคะเหตุใดทำสีหน้าอย่างนั้น ไม่เอาเจ้าค่ะทำหน้าอมทุกข์ไม่ดีเลย คุณหนูของบ่าวต้องยิ้มสิเจ้าคะ”“พี่ลี่จู....ข้าเบื่อน่ะอยากออกไป
ปี้เหยากับลี่จูมองหน้ากันทันที พวกนางเคยเห็นกันหลายครั้งเพราะลี่จูมักไปซื้อยาที่ร้านหมอประจำ ตอนที่นายท่านเขียนตัวยาให้ ปี้เหยาเองก็ติดตามคุณหนูว่านเสมอ แต่พวกนางไม่เคยได้พูดคุยกัน จางอวี้ถิงวาดแผนที่ตามที่ว่านชิงชิงบอกนาง จางอวี้ถิงยิ้มให้นางก่อนจะเอ่ย“ช่องโหว่ทางด้านติดกับช่องทางด้านท่านพอดี เอาอย่างนี้ท่านทุบฝั่งท่าน ส่วนข้าทุบฝั่งข้าไม่กี่วันก็ทะลุถึงกันแล้วอีกอย่างข้าทุบไว้บ้างแล้ว เมื่อมันทะลุกันเราสองคนสามารถไปไหนก็ได้ เวลาที่กลับมาท่านก็กลับเรือนตนเองได้เลยไม่ต้องผ่านเรือนข้า” “ดีเลย งั้นข้าจะกลับไปทุบเดี๋ยวนี้ไว้พวกเราจะได้ไปเที่ยวให้ทั่งเมืองหลวงเลย ข้าได้เงินเดือนจากตาเฒ่านั่นสามสิบตำลึง”“ข้าก็ได้เงินเดือนเหมือนกัน เอาเช่นนี้ไหมไหนๆ วันนี้ท่านก็มาแล้วพวกเรามาช่วยกันทุบดีกว่า เผื่อจะทะลุกันเร็วขึ้น ข้ามีเครื่องมือเกษตรที่ข้าขอไปทางตาเฒ่าหยางไว้”“ได้สิ ปี้เหยาพวกเรามาช่วยกันเถอะ”จากนั้นทั้งสี่คนก็ช่วยกันลากกระถางต้นโบตั๋นมาบังฝั่งที่จะทุบ ก่อนจะช่วยกันค่อยๆ ทุบทีละน้อย หากเสียงดังเกินไปอาจมีคนได้ยิน ปี้เหยากับลี่จูละมือไปทำอาหารเที่ยง ทั้งสองคนยังคงหมกมุ่นกับการทุบกำแพงอ
รุ่งเช้าจางอวี้ถิงเดินไปที่โรงครัวเพื่อพบกับหัวหน้าห้องครัวเพราะตอนนี้ผักในแปลงของนางสามารถตัดกินได้แล้ว ของปลูกต้องใช้แรงเมล็ดพันธุ์ก็ต้องซื้อหา จางอวี้ถิงมาพบกับป้าหงแม่ครัวใหญ่ของโรงครัวแห่งนี้ นางไม่แสดงทีท่าว่าเป็นฮูหยินเพราะตาแก่นั่นสั่งห้ามเรียกนางว่าฮูหยิน ไม่นานป้าหงก็เดินมาหานางก่อนจะเอ่ยทักทาย"คุณหนูจางวันนี้ออกจากจวนเล็กมาถึงโรงครัวด้วยตนเองไม่ทราบว่าท่านต้องการอะไรหรือเจ้าคะ""ไม่ได้ต้องการสิ่งใด ท่านป้าหงข้าปลูกผักไว้หลายสิบแปลงกินอย่างไรก็ไม่ทัน วันนี้มีผักกาด หลัวโปว กวางตุ้งดอก ข้าขายถูกๆกำละยี่สิบอีกแปะ พวกท่านคนมากข้าขายถูกกว่าตลาดถึงห้าอีแปะสนใจจะรับหรือไม่เล่า"ป้าหงถึงกับอ้าปากค้าง คุณหนูจางท่านปลูกในที่ดินสกุลหยางยังกล้ามาขายให้สกุลหยางอีกเนี่ยนะ ป้าหงทำสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกทันที อาจิ้งที่เดินมาเพื่อรับน้ำอุ่นจากโรงครัวเห็นว่าคุณหนูจางมาถึงจวนใหญ่เองก็แปลกใจจึงเดินไปหานางเพื่อสอบถามความต้องการ"คุณหนูจาง ไม่พบเสียนานท่านสบายดีนะขอรับ""อ้อ..องครักษ์หลี่ ข้าสบายดีเอ่อจริงสิ ข้าปลูกผักไว้หลายแปลงแต่มาขายโรงครัวดูแล้วท่านป้าหงคงไม่อาจรับซื้อ
เซียวอี้หลงอยากตบศีรษะคนตรงหน้าสักที ฟังก็รู้ว่าล้อเลียนเขา หึใครอยากได้เจ้าเป็นเมียกันว่านชิงชิง จากนั้นรถม้าของเขาก็เคลื่อนออกจากจวนหลัง พอดีกับรถม้าของว่านชิงชิงเคลื่อนออกจากทางจวนข้างพอดี รถของเขานำหน้าไปก่อนเขานัดหยางหมิงมาเจอกันที่ด้านหน้าหออี้ชุน เมื่อมาถึงก็ลงจากรถม้าไปนั่งรอที่ชั้นสอง หยางหมิงออกจากจวนมาก็ตรงมาหาเซียวอี้หลงที่ร้านอาหารอี้ชุนทันที ทั้งสองนั่งสนทนาถึงเรื่องข้อสอบ วันนี้ไม่มีประชุมจเช้าทั้งคู่จึงถกปัญหากันกับอาจารย์อีกสามท่านที่นัดมาวันนี้ ด้านล่างเซียวอี้หลงเหลือบสายตาไปมองเห็นสตรีอ้อนแอ้นหนึ่งคนกับบุรุษที่เหมือนจะสวมชุดสำนักศึกษาหลวง ป่านนี้ยังไม่ไปเรียนอีกหรือ ที่สำคัญสตรีคนนั้นคือคนที่ยั่วโมโหเขาเมื่อตอนสายนั่นเองด้านล่างว่านชิงชิงกำลังพูดคุยกับหลัวชิวหมิง เขาเป็นบุตรชายของใต้เท้าหลัวรองเจ้ากรมอาลักษณ์ ทั้งคู่สนิทสนมกันจนใครๆต่างก็คิดว่าทั้งคู่เหมาะสมกันหากได้แต่งงานคงเป็นคู่ที่เหมาะสมมากที่สุดในเมืองหลวง "ชิงชิง...เจ้าสบายดีหรือไม่เหตุใดไปหาที่จวนจึงมิเจอเจ้าสักครั้ง""พอดีข้าไปอยู่ที่อื่นน่ะ ท่านปู่เห็นว่าอยู่บ้านข้าเกเรไม่เอาถ่านเลยให
เซียวอี้หลงเลื่อนมือค่อยๆ ปลดสายรัดเอวนางออกใบหน้าหล่อเหลากำลังจะสัมผัสกับปลายถันที่เขาไม่เคยลืมนับจากคืนก่อน เซียวอี้หลงกำลังก้มลงจะชิมความหวานอยู่ๆ ประตูก็เปิดออกพร้อมเสียงใสๆ ของเด็กสาว"ท่านอาเข้ามาแล้ว...เอ๋พวกท่านกำลังทำอะไรกันอยู่หรือเจ้าคะ"เซียวอี้หลงต้องคว้าผ้าห่มมาคลุมร่างบางเอาไว้แล้วหันไปหาตัวต้นเรื่อง"เสี่ยวหรูเจ้ามาได้อย่างไรแล้วบิดาเจ้าเล่า""ท่านพ่อได้รับคำสั่งให้เข้าเฝ้าแล้วข้าก็ตามมาด้วยท่านพ่อบอกว่าฝ่าบาทจะให้ท่านพ่อไปเมืองซีโจว ดูแลเรื่องสร้างเขื่อนกั้นน้ำน่าจะใช้เวลานานท่านแม่ก็ไปด้วยท่านพ่อก็เลยเอาข้ามาทิ้งท่านเอ้ยไม่ใช่เอาข้ามาฝากท่านอาสักสองสามเดือนเจ้าค่ะ""แล้วพรวดพราดมาห้องคนอื่นเจ้าเป็นสตรีแบบใด""โอ่ว..ปกติข้าก็มาได้นี่เจ้าคะไอ้หยาอ้อหลานลืมไปท่านอาแต่งงานแล้ว ได้ยินท่านพ่อบอกท่านแม่ว่าท่านอาแต่งงานกับเด็กสาวอายุสิบหก ท่านอานางอายุเท่าข้าเลยนะเจ้าคะ ท่านพ่อยังบอกท่านแม่ว่าท่านอาแก่ปูนนี้แล้วจะไม่หมดแรงตายคาห้องหอหรือ เอแต่เท่าที่หลานเห็นท่านอาก็ยังสบายดีอยู่นี่เจ้าค่ะ""เซียวอี้หรู...""โอ่ว...งั้นข้าไม่รบกวนพวกท่านแล้วเชิญทั้งสองคนต่อเลยเจ้าค่ะอาสะใภ
ทางด้านจางอวี้ถิงที่กำลังนวดแป้งเพื่อทำขนมโก๋อ่อนกับบัวหิมะ นางอยากกินไม่ได้กินนานแล้วจากนั้นก็เริ่มคั่วแป้ง สองนายบ่าวช่วยกันทำโดยไม่รู้เลยว่ามีคนมายืนดูสองคนนายบ่าวกำลงง่วนกับการทำขนมดูนางไม่ได้ป่วยสักนิด จางอวี้ถิงเจ้าปิดบังอะไรไว้อีกเท้าที่กำลังจะเดินไปหยุดชะงักเพราะได้ยินสาวใช้เอ่ยถึงตนเอง“คุณหนูจะทำไปให้ใต้เท้าด้วยไหมเจ้าคะ”“อย่าเลย เขารังเกียจข้าเพียงนั้นเอาไปเขาก็ทิ้งขว้างเปล่าๆ เสียดายของ”“อ้อ...แต่ว่าเราทำมากเกินไปหรือไม่เจ้าคะ”“ขายสิ...บ่าวในเรือนมีตั้งเกือบสองร้อยคนชิ้นละสิบอีแปะก็มีคนซื้อน่า มันเทศก็ปลูกเอง เผือกก็ปลูกเอง มีแค่ถั่วกับน้ำตาลและแป้งที่ซื้อมา”เขายืนหน้าหน้าดำเป็นก้นหม้อก่อนจะเดินหันหลังกลับจวนหลักตนเองทันที เด็กอะไรไม่รู้จักบุญคุณเขาอุตส่าห์ให้ที่อยู่ที่กิน คุ้มครองไม่ต้องให้อยู่กันเองสองคนนายบ่าวที่จวนกลับไม่คิดถึงเขาสักนิด แล้งน้ำใจยิ่งนัก หึจางอี้ถิงไม่รับรู้ว่ามีคนกำลังงอนนางอยู่ ชาติก่อนมีฝีมือในการทำขนมและรังสรรค์มันออกมาได้อย่างสวยงาม นางแบ่งแป้งเป็นสีต่างๆ ก่อนจะจัดรูปทรงและปั้นแป้งใส่ไส้จากนั้นก็เริ่มใช้ไม้ไผ่ที่ทำเป็นแหนบเล็กๆ กรีดร่องทำลวดล
ทางด้านจางอวี้ถิงที่กำลังนวดแป้งเพื่อทำขนมโก๋อ่อนกับบัวหิมะ นางอยากกินไม่ได้กินนานแล้วจากนั้นก็เริ่มคั่วแป้ง สองนายบ่าวช่วยกันทำโดยไม่รู้เลยว่ามีคนมายืนดูสองคนนายบ่าวกำลงง่วนกับการทำขนมดูนางไม่ได้ป่วยสักนิด จางอวี้ถิงเจ้าปิดบังอะไรไว้อีกเท้าที่กำลังจะเดินไปหยุดชะงักเพราะได้ยินสาวใช้เอ่ยถึงตนเอง“คุณหนูจะทำไปให้ใต้เท้าด้วยไหมเจ้าคะ”“อย่าเลย เขารังเกียจข้าเพียงนั้นเอาไปเขาก็ทิ้งขว้างเปล่าๆ เสียดายของ”“อ้อ...แต่ว่าเราทำมากเกินไปหรือไม่เจ้าคะ”“ขายสิ...บ่าวในเรือนมีตั้งเกือบสองร้อยคนชิ้นละสิบอีแปะก็มีคนซื้อน่า มันเทศก็ปลูกเอง เผือกก็ปลูกเอง มีแค่ถั่วกับน้ำตาลและแป้งที่ซื้อมา”เขายืนหน้าหน้าดำเป็นก้นหม้อก่อนจะเดินหันหลังกลับจวนหลักตนเองทันที เด็กอะไรไม่รู้จักบุญคุณเขาอุตส่าห์ให้ที่อยู่ที่กิน คุ้มครองไม่ต้องให้อยู่กันเองสองคนนายบ่าวที่จวนกลับไม่คิดถึงเขาสักนิด แล้งน้ำใจยิ่งนัก หึจางอี้ถิงไม่รับรู้ว่ามีคนกำลังงอนนางอยู่ ชาติก่อนมีฝีมือในการทำขนมและรังสรรค์มันออกมาได้อย่างสวยงาม นางแบ่งแป้งเป็นสีต่างๆ ก่อนจะจัดรูปทรงและปั้นแป้งใส่ไส้จากนั้นก็เริ่มใช้ไม้ไผ่ที่ทำเป็นแหนบเล็กๆ กรีดร่องทำลวดล
เซียวอี้หลงเลื่อนมือค่อยๆ ปลดสายรัดเอวนางออกใบหน้าหล่อเหลากำลังจะสัมผัสกับปลายถันที่เขาไม่เคยลืมนับจากคืนก่อน เซียวอี้หลงกำลังก้มลงจะชิมความหวานอยู่ๆ ประตูก็เปิดออกพร้อมเสียงใสๆ ของเด็กสาว"ท่านอาเข้ามาแล้ว...เอ๋พวกท่านกำลังทำอะไรกันอยู่หรือเจ้าคะ"เซียวอี้หลงต้องคว้าผ้าห่มมาคลุมร่างบางเอาไว้แล้วหันไปหาตัวต้นเรื่อง"เสี่ยวหรูเจ้ามาได้อย่างไรแล้วบิดาเจ้าเล่า""ท่านพ่อได้รับคำสั่งให้เข้าเฝ้าแล้วข้าก็ตามมาด้วยท่านพ่อบอกว่าฝ่าบาทจะให้ท่านพ่อไปเมืองซีโจว ดูแลเรื่องสร้างเขื่อนกั้นน้ำน่าจะใช้เวลานานท่านแม่ก็ไปด้วยท่านพ่อก็เลยเอาข้ามาทิ้งท่านเอ้ยไม่ใช่เอาข้ามาฝากท่านอาสักสองสามเดือนเจ้าค่ะ""แล้วพรวดพราดมาห้องคนอื่นเจ้าเป็นสตรีแบบใด""โอ่ว..ปกติข้าก็มาได้นี่เจ้าคะไอ้หยาอ้อหลานลืมไปท่านอาแต่งงานแล้ว ได้ยินท่านพ่อบอกท่านแม่ว่าท่านอาแต่งงานกับเด็กสาวอายุสิบหก ท่านอานางอายุเท่าข้าเลยนะเจ้าคะ ท่านพ่อยังบอกท่านแม่ว่าท่านอาแก่ปูนนี้แล้วจะไม่หมดแรงตายคาห้องหอหรือ เอแต่เท่าที่หลานเห็นท่านอาก็ยังสบายดีอยู่นี่เจ้าค่ะ""เซียวอี้หรู...""โอ่ว...งั้นข้าไม่รบกวนพวกท่านแล้วเชิญทั้งสองคนต่อเลยเจ้าค่ะอาสะใภ
เซียวอี้หลงอยากตบศีรษะคนตรงหน้าสักที ฟังก็รู้ว่าล้อเลียนเขา หึใครอยากได้เจ้าเป็นเมียกันว่านชิงชิง จากนั้นรถม้าของเขาก็เคลื่อนออกจากจวนหลัง พอดีกับรถม้าของว่านชิงชิงเคลื่อนออกจากทางจวนข้างพอดี รถของเขานำหน้าไปก่อนเขานัดหยางหมิงมาเจอกันที่ด้านหน้าหออี้ชุน เมื่อมาถึงก็ลงจากรถม้าไปนั่งรอที่ชั้นสอง หยางหมิงออกจากจวนมาก็ตรงมาหาเซียวอี้หลงที่ร้านอาหารอี้ชุนทันที ทั้งสองนั่งสนทนาถึงเรื่องข้อสอบ วันนี้ไม่มีประชุมจเช้าทั้งคู่จึงถกปัญหากันกับอาจารย์อีกสามท่านที่นัดมาวันนี้ ด้านล่างเซียวอี้หลงเหลือบสายตาไปมองเห็นสตรีอ้อนแอ้นหนึ่งคนกับบุรุษที่เหมือนจะสวมชุดสำนักศึกษาหลวง ป่านนี้ยังไม่ไปเรียนอีกหรือ ที่สำคัญสตรีคนนั้นคือคนที่ยั่วโมโหเขาเมื่อตอนสายนั่นเองด้านล่างว่านชิงชิงกำลังพูดคุยกับหลัวชิวหมิง เขาเป็นบุตรชายของใต้เท้าหลัวรองเจ้ากรมอาลักษณ์ ทั้งคู่สนิทสนมกันจนใครๆต่างก็คิดว่าทั้งคู่เหมาะสมกันหากได้แต่งงานคงเป็นคู่ที่เหมาะสมมากที่สุดในเมืองหลวง "ชิงชิง...เจ้าสบายดีหรือไม่เหตุใดไปหาที่จวนจึงมิเจอเจ้าสักครั้ง""พอดีข้าไปอยู่ที่อื่นน่ะ ท่านปู่เห็นว่าอยู่บ้านข้าเกเรไม่เอาถ่านเลยให
รุ่งเช้าจางอวี้ถิงเดินไปที่โรงครัวเพื่อพบกับหัวหน้าห้องครัวเพราะตอนนี้ผักในแปลงของนางสามารถตัดกินได้แล้ว ของปลูกต้องใช้แรงเมล็ดพันธุ์ก็ต้องซื้อหา จางอวี้ถิงมาพบกับป้าหงแม่ครัวใหญ่ของโรงครัวแห่งนี้ นางไม่แสดงทีท่าว่าเป็นฮูหยินเพราะตาแก่นั่นสั่งห้ามเรียกนางว่าฮูหยิน ไม่นานป้าหงก็เดินมาหานางก่อนจะเอ่ยทักทาย"คุณหนูจางวันนี้ออกจากจวนเล็กมาถึงโรงครัวด้วยตนเองไม่ทราบว่าท่านต้องการอะไรหรือเจ้าคะ""ไม่ได้ต้องการสิ่งใด ท่านป้าหงข้าปลูกผักไว้หลายสิบแปลงกินอย่างไรก็ไม่ทัน วันนี้มีผักกาด หลัวโปว กวางตุ้งดอก ข้าขายถูกๆกำละยี่สิบอีกแปะ พวกท่านคนมากข้าขายถูกกว่าตลาดถึงห้าอีแปะสนใจจะรับหรือไม่เล่า"ป้าหงถึงกับอ้าปากค้าง คุณหนูจางท่านปลูกในที่ดินสกุลหยางยังกล้ามาขายให้สกุลหยางอีกเนี่ยนะ ป้าหงทำสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกทันที อาจิ้งที่เดินมาเพื่อรับน้ำอุ่นจากโรงครัวเห็นว่าคุณหนูจางมาถึงจวนใหญ่เองก็แปลกใจจึงเดินไปหานางเพื่อสอบถามความต้องการ"คุณหนูจาง ไม่พบเสียนานท่านสบายดีนะขอรับ""อ้อ..องครักษ์หลี่ ข้าสบายดีเอ่อจริงสิ ข้าปลูกผักไว้หลายแปลงแต่มาขายโรงครัวดูแล้วท่านป้าหงคงไม่อาจรับซื้อ
ปี้เหยากับลี่จูมองหน้ากันทันที พวกนางเคยเห็นกันหลายครั้งเพราะลี่จูมักไปซื้อยาที่ร้านหมอประจำ ตอนที่นายท่านเขียนตัวยาให้ ปี้เหยาเองก็ติดตามคุณหนูว่านเสมอ แต่พวกนางไม่เคยได้พูดคุยกัน จางอวี้ถิงวาดแผนที่ตามที่ว่านชิงชิงบอกนาง จางอวี้ถิงยิ้มให้นางก่อนจะเอ่ย“ช่องโหว่ทางด้านติดกับช่องทางด้านท่านพอดี เอาอย่างนี้ท่านทุบฝั่งท่าน ส่วนข้าทุบฝั่งข้าไม่กี่วันก็ทะลุถึงกันแล้วอีกอย่างข้าทุบไว้บ้างแล้ว เมื่อมันทะลุกันเราสองคนสามารถไปไหนก็ได้ เวลาที่กลับมาท่านก็กลับเรือนตนเองได้เลยไม่ต้องผ่านเรือนข้า” “ดีเลย งั้นข้าจะกลับไปทุบเดี๋ยวนี้ไว้พวกเราจะได้ไปเที่ยวให้ทั่งเมืองหลวงเลย ข้าได้เงินเดือนจากตาเฒ่านั่นสามสิบตำลึง”“ข้าก็ได้เงินเดือนเหมือนกัน เอาเช่นนี้ไหมไหนๆ วันนี้ท่านก็มาแล้วพวกเรามาช่วยกันทุบดีกว่า เผื่อจะทะลุกันเร็วขึ้น ข้ามีเครื่องมือเกษตรที่ข้าขอไปทางตาเฒ่าหยางไว้”“ได้สิ ปี้เหยาพวกเรามาช่วยกันเถอะ”จากนั้นทั้งสี่คนก็ช่วยกันลากกระถางต้นโบตั๋นมาบังฝั่งที่จะทุบ ก่อนจะช่วยกันค่อยๆ ทุบทีละน้อย หากเสียงดังเกินไปอาจมีคนได้ยิน ปี้เหยากับลี่จูละมือไปทำอาหารเที่ยง ทั้งสองคนยังคงหมกมุ่นกับการทุบกำแพงอ
หลังจากสั่งงานไปไม่เกินสามวันต้นไม้ที่นางสั่งก็มาถึง บ่าวช่วยกันปลูกเต็มแนวกำแพงจวนเล็กทอดยาวทั้งสี่ด้าน จางอวี้ถิงเริ่มลงมือเพาะเมล็ดพันธุ์ที่ให้พ่อบ้านหาซื้อมาได้ หยางหมิงยังคงออกตรวจตราความเรียบร้อยของบ้านเมืองหยางหมิงยังไม่รู้ว่ามีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของจวนเล็ก หลังจากที่เขาบังเอิญเดินผ่านในคืนนั้นก็เป็นเวลาสองเดือนแล้วจางอวี้ถิงยิ้มหวานให้กับรั้วไม้เลื้อยของนาง โชคดีที่เป็นหน้าฝนต้นไม้งามไวมาก ปฏิบัติการหนีเที่ยวจะเริ่มในไม่ช้าแล้วหลี่อวี้ถิงมาอยู่ในร่างนี้ใช้ชีวิตเป็นจางอวี้ก็ล่วงเลยมาสามเดือนแล้ว นางยังไม่เคยได้ออกไปไหนเลย นางไม่มีเพื่อนนอกจากลี่จูสาวใช้ของร่างเดิม เพียงแต่ว่าอยู่ดีๆ เงินเดือนก็เพิ่มขึ้นจากเดือนละยี่สิบตำลึงเป็นห้าสิบตำลึง ตาเฒ่าหยางหมิงนี่รวยนะ แต่กักนางไว้ในจวนจะไปใช้เงินได้อย่างไรวะลี่จูที่กำลังติดเตาต้มน้ำเพื่อให้คุณหนูของนางล้างหน้ายามเช้าหันมาเจอนางนั่งเท้าคางทำหน้าตาเหมือนกับเบื่อหน่ายก็เดินมาหา“คุณหนูเจ้าคะ...เป็นอะไรไปเจ้าคะเหตุใดทำสีหน้าอย่างนั้น ไม่เอาเจ้าค่ะทำหน้าอมทุกข์ไม่ดีเลย คุณหนูของบ่าวต้องยิ้มสิเจ้าคะ”“พี่ลี่จู....ข้าเบื่อน่ะอยากออกไป
ส่วนโรงครัวใครบ้างจะกล้าต่อกรหาเรื่องแกล้งพวกนางเชิ่นเมื่อก่อนกันเล่า สาวใช้ที่เคยไปรับใช้และมีเรื่องกับนางและไปฟ้องพ่อบ้านคนเก่า จนเขาเข้าข้างและถูกฮูหยินน้อยไล่กลับมาถูกโบยเมื่อคืนนี้ องครักษ์ไปจับตัวเอามาจากที่นอนเลย เสร็จแล้วก็ขายทิ้ง พ่อบ้านเองก็ถูกโบยจนลุกไม่ขึ้น ค้นห้องนอนของเขาพบว่าซุกซ่อนเงินทองไม่น้อย อีกทั้งกำลังหลับนอนกับสาวใช้รุ่นลูกอยู่ด้วยกันสามคนสีหน้าท่านผู้ตรวจการเมื่อคืนนี้ช่างดูน่ากลัว พวกนางเป็นสาวใช้ที่เคยรับใช้ฮูหยินน้อย แต่ว่าไม่เต็มใจรับใช้ อีกทั้งพ่อบ้านยังยักยอกเงินทองในส่วนที่ฮูหยินน้อยต้องได้ เช่นผ้าตัดชุดใหม่ เสบียงที่ต้องส่งให้จวนเล็ก เพราะภรรยาของเขาดูแลเรื่องการเบิกจ่ายเสบียงในจวน และอาศัยว่าไท่ฮูหยินไปไหว้พระรวมทั้งไว้ใจพวกเขา สองผัวเมียจึงเกิดความละโมบ ลี่จูไม่รู้เหตุการณ์ณ์ในจวนใหญ่ นางได้ของที่ต้องการก็รีบกลับจวนเล็กทันที หยางหมิงที่วันนี้มีเข้าเฝ้าแต่เช้าก็ทันได้เห็นสาวใช้ของเมียเด็กตนเองมาที่โรงครัว“บอกห้องเสบียงกับห้องครัว พวกนางอยากได้อะไรก็ให้ไป เพิ่มเงินเดือนให้นางเป็นเดือนละห้าสิบตำลึง ไปหาท่านหมอไปตรวจนางด้วย เม
ร่างบางระหงหลับอยู่บนเตียง ลมหายใจสม่ำเสมอ ดูไม่ป่วยหนักเหมือนตอนก่อนหน้าแล้วนี่ หลี่อวี้ถิงรู้สึกว่ามีคนมองก็ลืมตาขึ้น สายตาทั้งคู่ประสานกัน หลี่ว่านถิงรับรู้จากความทรงจำผ่านเด็กคนนี้ ผู้ชายรูปหล่อสันดานไม่ดีคนนี้คือสามีเจ้าของร่างเดิม อีกทั้งยังต้องเป็นสามีของเธอด้วย เพราะเธอดันมาอยู่ในร่างเมียไม่อยากแต่งของเขา หลี่อวี้ถิงถอนหายใจ ยายผีบ้านี่ไปเอาวิญญาณเธอมา แถมยังให้เธอตายศพไม่สวยอีกมันน่านักเชียว สามีเฒ่าของยายเด็กนี่มาดูอาการหรือมาเช็คความชัวร์กันแน่วะว่ายายนี่ตายหรือยังหยางหมิงเอ่ยถามเมียเด็กของเขาเสียงเข้ม“เจ้าเป็นอะไร เหตุใดร้องโวยวายนัก จวนข้างๆไม่รู้จะคิดได้ว่าข้าทำร้ายคน”“ขออภัยเจ้าค่ะใต้เท้า แค่กๆ ข้าปวดหัวเจ้าค่ะ แค่กๆๆ ต่อไป แค่กๆๆ ไม่กล้าแล้วเจ้าค่ะแค่กๆๆๆ”หลี่อวี้ถิงแกล้งไอออกมาแรงๆ หยางหมิงเข้ามาหาเห็นหน้านางซีดเซียวก็บอกว่าพรุ่งนี้จะให้หมอประจำจวนมาดูอาการนางอีกที จากนั้นเขาก็กลับไปหลี่อวี้ถิงทำใจแล้วว่าตนเองมาอยู่ในร่างนังหนูนี่ที่ชื่อจางอวี้ถิง ลี่จูเห็นคุณหนูของนางเงียบไปก็เดินมาหาก่อนจะเอ่นถาม“คุณหนูเจ้าคะ.... ท่านมิเป็นไรแล้วนะเจ้าคะ”
ทางด้านหลี่อวี้ถิงที่หนีไปอยู่ห้องเพื่อนแล้วแล้วบอกขายคอนโดเรียบร้อยก็ไปหาซื้อคอนโดใหม่อยู่ เกือบสามเดือนแล้วที่เจอผีผูหญิงในชุดโบราณ ตั้งแต่ย้ายสถานที่เธอก็ไม่เจออีกเลย แปลว่าที่เธอขายคอนโดนั้นตัดสินใจถูกแล้ว วันนี้เธอมีปาร์ตี้สละโสดของเพื่อนสาวในแก๊ง หลังจากดื่มกันจนเมาแล้วหลี่ว่านถิงก็ขอตัวกลับบ้านก่อน เธอเพิ่งจะซื้อคอนโดห้องใหม่ได้ไม่นาน"นี่ถิงถิง..เธอเลื่อนตำแหน่งใหม่แล้วเหรอ""อืม...บอสให้ไปคุมการค้าภูมิภาคน่ะ""อิจฉาแกก็ไม่ได้ด้วย ใครจะไปพูดได้8ภาษาเหมือนแกล่ะ ถิงถิงขับรถดีๆนะ"หลี่อวี้ถิงขับรถมาตามทาง เธอเป็นคนคออ่อนจึงดื่มแค่นิดหน่อย และเพราะต้องขับรถกลับบ้านเอง กำลังจะถึงไฟแดงอีกสามร้อยเมตรอยู่ๆก็รู้สึกเย็นๆในรถ เสียงเรียกเธอเบาๆจึงหันไปดู ตาเบิกกว้างทันทีมาอีกแล้วหรือ"พี่สาว เราเจอกันอีกแล้วนะเจ้าคะ""ห๊ะ..ทะ เธออีกแล้วหรือ ทำไมไม่ไปเกิดมาทำไมอีก""พี่สัญญามาก่อนว่าจะช่วยทำหน้าที่ทุกอย่างแทนข้าแล้วข้าจะไป""หน้าที่อะไร ได้ๆๆๆสัญญาเธอพอใจหรือยังแม่ผีน้อยจ๋า ไปเถอะๆฉันสัญญาจะทำทุกอย่างแทนเธอเอง ฮือๆๆ หรือที่จริงเธอมากับรถคันนี้ ได้ๆๆพรุ่งนี้ฉันจะขายรถทิ้