(กักตุนสินค้าในมิติวิเศษ+หญิงแกร่ง+นิยายที่นางเอกทันคน+แก้แค้นคนชั่ว+ทั้งครอบครัวถูกเนรเทศ+คืนแต่งงาน+สร้างความร่ำรวย) หลุดเข้ามาในหนังสือ กู้หว่านเยว่พบว่าเธอกลายเป็นนางร้ายตัวประกอบ ถูกยึดทรัพย์เนรเทศ? ไม่เป็นไร เธอมีมิติวิเศษ เสบียงในท้องพระคลังล้วนเก็บเข้ามิติวิเศษ มิหนำซ้ำยังย้ายของออกจากบ้านมารดาและจวนอ๋องจนหมด ทำให้คนยึดทรัพย์ไม่ได้ไปแม้แต่เหมาเดียว ระหว่างถูกเนรเทศ ต้องตกระกำลำบาก แต่ไม่เป็นไร ในน้ำเธอสามารถจับปลา บนบกสามารถล่ากระต่ายป่า ชีวิตธรรมดาผ่านไปอย่างงดงามสงบสุข
View Moreทั้งสองคนกำลังกระซิบกระซาบกันอยู่ทางนี้คนของกลุ่มก่อไฟทางด้านนั้นถูกข่มขู่จนหวาดกลัวมาก ไม่กล้าเข้ามาแอบฟังเลยกู้หว่านเยว่เห็นว่าไม่มีใครสนใจพวกเขาแล้ว ก็หยิบผงยาซองหนึ่งออกมาจากมิติอย่างเงียบ ๆ แล้วเทลงในไหสุราโดยตรงที่นี่มีไหสุราทั้งหมดสิบกว่าไห ทุกไห กู้หว่านเยว่ได้เทผงยาลงไปทั้งหมดหลังจากทำทุกอย่างเสร็จสิ้นแล้ว นางก็ดึงซูจิ่งสิงออกมา“เอาล่ะ ข้าได้ตรวจสอบอาหารรอบหนึ่งแล้วทั้งหมดไม่มีปัญหา คืนนี้พวกเจ้าก็นำอาหารเหล่านี้ขึ้นโต๊ะตามกำหนดก็แล้วกัน”“ทำอาหารมากมายเช่นนี้พวกเจ้าต้องเหน็ดเหนื่อย รอจบงานเลี้ยงนี้แล้ว ข้าจะสั่งให้แม่ทัพเฉียนตกรางวัลพวกเจ้าอย่างเต็มที่”“ขอบคุณท่านแม่ทัพ”หลายคนนึกไม่ถึงว่ายังมีเรื่องดี ๆ แบบนี้ด้วย จึงคุกเข่าให้กู้หว่านเยว่ด้วยความตื่นเต้นกู้หว่านเยว่ไม่ได้อยู่ที่นี่นานนักหลังจากสั่งการไม่กี่คำ ก็ดึงซูจิ่งสิงออกไปม่านราตรีเยื้องกรายมาถึงทหารทั้งสามเหล่าทัพ รวมถึงทหารจากค่ายเฟิงไถ ทั้งหมดรวมตัวกันอยู่ในค่ายทหาร“แม่ทัพใหญ่ ส่วนใหญ่มากันพร้อมแล้ว ขอเพียงท่านสั่ง งานเลี้ยงจะเริ่มขึ้นทันที”แม่ทัพเฉียนเข้ามาด้วยสีหน้าอ่อนโยนกู้หว่านเยว่พ
แม่ทัพเฉียนอธิบายว่า “ฮูหยิน เจ้าไม่ต้องกังวล ข้าไม่ออกไปลักขโมยใครแน่นอน ในค่ายทหารต้องการข้า”เฉียนฮูหยินกอดเงินไว้ไม่คิดอะไรอีกแล้ว“ท่านไปเถอะ ไปเถอะ ข้าเชื่อมั่นในตัวท่าน”แค่ทิ้งเงินไว้กับนางก็พออย่างอื่นจะพูดอย่างไรก็ได้“เฮ้อ”ฮูหยินพอมีเงินก็ไม่รู้จักใครแล้ว มันแท้จริงที่สุดแม่ทัพเฉียนไม่ถือสา รอยยิ้มเล็ก ๆ เผยขึ้นที่มุมปาก ภูมิหลังครอบครัวของเขาไม่ดี ต้องขอบคุณการดูแลและประคับประคองของภรรยาถึงสามารถเดินมาอยู่ในตำแหน่งอย่างทุกวันนี้ได้การที่ภรรยาแต่งงานกับเขาถือว่าเป็นการแต่งกับระดับต่ำกว่า หลายปีมานี้ต้องลำบากยากเข็ญ ต้องดูแลความเป็นอยู่ภายในจวนสามารถทำให้นางดีอกดีใจได้ เขาก็พอใจมาก“ถ้าอย่างนั้นข้าไปก่อนล่ะ”หลังจากปลอบโยนเฉียนฮูหยินแล้ว แม่ทัพเฉียนยังต้องไปที่ค่ายทหาร จึงรีบพาผู้ใต้บังคับชาไปบนกำแพง กู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงมองตามด้านหลังของแม่ทัพเฉียนไปด้วยสีหน้าเย้ยหยัน“นึกไม่ถึงว่า แม่ทัพเฉียนผู้นี้จะเป็นคนที่รู้คุณคนข้ายังคิดว่าเขาเป็นพวกทาสเฝ้าทรัพย์ งานเลี้ยงครั้งเดียวรับสินบนไปทั้งหมดสองแสนตำลึง”ผลปรากฏว่า ที่แท้ก็เพื่อให้ภรรยาของตัวเองพอใจมอง
“ช้าก่อน พวกเจ้าอย่าเพิ่งไป”แม่ทัพเฉียนคว้าอนุคนหนึ่งในนั้นไว้ “เฉี่ยวเอ๋อร์ เจ้าบอกข้าหน่อยซิว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? ผู้หญิงนอกบ้านอะไรกัน?”เฉี่ยวเอ๋อร์ปาดน้ำตา“นายท่าน ท่านยังเสแสร้งอยู่อีกหรือ”“ข้าเสแสร้งอะไร?”“หลายวันมานี้ท่านไม่ได้กลับมาเลย ตอนกลางคืนก็ไม่ได้ค้างที่จวน ทุกวันกลับมาพร้อมรอยยิ้มบนใบหน้า ชัดเจนว่ามีผู้หญิงอยู่ข้างนอกแล้ว นายท่านมีคนที่โปรดปรานแล้วก็ไม่สนใจพวกข้าพี่น้องแล้ว ซ้ำยังทำให้ฮูหยินโกรธจนต้องเสียน้ำตาอีกด้วย”เฉี่ยวเอ๋อร์มีสีหน้าตัดพ้อ“นายท่าน ครั้งนี้ท่านทำผิดไปแล้ว”แม่ทัพเฉียนตีหน้าผาก “ผู้หญิงที่ไหนกัน ไม่มีเรื่องแบบนี้เสียหน่อย พวกเจ้าเข้าใจผิดแล้ว”“แล้วทำไมนายท่านถึงต้องไปข้างนอกทุกวันด้วยเจ้าคะ?”เฉี่ยวเอ๋อร์ใคร่อยากรู้“ข้าจะไปคุยกับฮูหยินให้รู้เรื่อง”แม่ทัพเฉียนไม่รู้เลยว่าภายในบ้านปั่นป่วนเพราะเรื่องนี้ มิหนำซ้ำยังคิดว่าเขาเลี้ยงดูผู้หญิงอยู่ข้างนอกอีกเขารีบตามเฉียนฮูหยินมาจนทัน“ฮูหยิน เจ้าฟังข้าอธิบายก่อน เรื่องราวไม่ได้เป็นแบบที่เจ้าคิด”เฉียนฮูหยินปาดน้ำตา“ท่านไม่ต้องมาโกหกข้า ข้าคาดเดาได้หมดแล้ว”“ไม่ได้โกหกจริง ๆ ม
กู้หว่านเยว่รับใบรายการพลางก้มลงมอง นางดีใจมากแม่ทัพเฉียนผู้นี้ถนัดเรื่องการรับสินบนมากดูสิ ในทุกขั้นตอนเขารับสินบนไปเป็นก้อน“แม่ทัพเฉียน ท่านใจกล้ามาก”กู้หว่านเยว่เหน็บแนมเงียบ ๆคิดว่าเจ้านายตาบอด คำนวณเงินไม่เป็นหรืออย่างไร?“ท่านแม่ทัพ ท่าน ท่านหมายความว่าอย่างไร?”แม่ทัพเฉียนไม่เพียงละโมบ แต่ยังขี้ขลาดเป็นพิเศษอีกด้วย เมื่อถูกกู้หว่านเยว่ขู่ขวัญเช่นนี้ ขาของเขาก็อ่อนแรงก่อนจะรีบอธิบาย“แม่ทัพใหญ่มองทะลุปรุโปร่ง แต่ว่าข้ามีตรงไหนที่จัดการไม่ดีหรือ?”“ไม่ ๆ ท่านจัดการได้ดีทีเดียว”กู้หว่านเยว่กลั้นยิ้มไว้ทำให้แม่ทัพเฉียนตกใจมันไม่มีความหมายอะไร ปล่อยให้เขาดีใจไปพลาง ๆ สักสองวัน“ข้าไม่ได้มองคนผิดไป เช่นนั้นก็ทำตามแผนการของท่าน รีบไปจัดการเสีย”“ขอรับ!”แม่ทัพเฉียนดีใจเป็นที่สุด พยักหน้าด้วยความตื่นเต้นจะไม่ดีใจได้หรือ?จัดงานเลี้ยงครั้งนี้ เขาสามารถรับสินบนได้อย่างน้อย ๆ สองแสนตำลึงเงิน เผื่อไม่รู้ เงินเดือนข้าราชการของเขาในตอนนี้แค่หนึ่งพันตำลึงเท่านั้น“แม่ทัพใหญ่ไม่ต้องกังวล ข้าจะจัดการเรื่องนี้เป็นอย่างดีแน่นอน”แม่ทัพเฉียนกระวีกระวาดออกไป ส่วนใหญ่อาจจะ
ลั่วยางพยักหน้า รีบรับน้ำแร่ศักดิ์สิทธิ์มา“ได้ ข้าจำได้แล้ว หลังจากเขาฟื้นขึ้นมาแล้วข้าจะบอกเขา”“ที่นี่ไม่สมควรอยู่นาน ข้ากับท่านอ๋องต้องไปแล้ว แล้วพบกัน”“แล้วพบกัน”ลั่วยางท่าทางอาลัยอาวรณ์ มองตามทั้งสองที่จากไปด้วยแววตาเป็นกังวลกู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงเพิ่งจะออกไปได้ประเดี๋ยวเดียว อวิ๋นมู่ก็เอาเสื้อผ้าพาดบ่าออกมาจากห้องอย่างรีบร้อน“แม่นางลั่วยาง เมื่อครู่มีใครมาใช่ไหม?”ดูเหมือนว่าเขาจะได้ยินเสียงของกู้หว่านเยว่“เมื่อครู่ท่านอ๋องกับพระชายามา และพระชายาก็ฝากยาน้ำขวดนี้ไว้ด้วย บอกว่าให้ท่าน”ลั่วยางส่งยาน้ำให้อวิ๋นมู่อวิ๋นมู่มองดูขวดที่คุ้นเคย ก่อนที่รูม่านตาจะหดตัวลง“แล้วพวกเขาล่ะ พวกเขาอยู่ที่ไหน?”“เพิ่งออกไปเมื่อครู่นี้เอง”ทันทีที่สิ้นเสียงของลั่วยาง อวิ๋นมู่ก็เดินออกไปข้างนอกอย่างรีบร้อน ราวกับว่าต้องการหาตัวพวกเขานางรีบคว้าตัวเขาไว้“ท่านอย่าออกไป เมืองหลวงมีคำสั่งห้ามออกนอกเคหสถานในยามราตรี หากท่านออกไปพบเจออันตรายเข้าจะทำเช่นไร?”ลั่วยางพูดเกลี้ยกล่อม“ท่านไม่ต้องกังวล พระชายาบอกแล้วว่า อีกสามวันทัพใหญ่จะตีเมืองหลวงแตก ถึงตอนนั้นพวกเราย่อมมีโอกาสได้พบ
“โชคดีที่ท่านช่วยเฟิ่งอู๋ชีออกมาได้”หากเฟิ่งอู๋ชีตายที่ต้าฉีจริง ๆ ผลที่ตามมาคงไม่อาจจินตนาการได้“ลั่วยาง ครั้งนี้ต้องขอบคุณเจ้ามาก”กู้หว่านเยว่เอ่ยอย่างจริงจัง“เจ้าต้องการอะไร ก็บอกได้เต็มที่เลย”ลั่วยางตื่นเต้นเล็กน้อย ใบหน้าแดงระเรื่อขึ้น“ความจริงแล้ว ข้าไม่ได้ต้องการอะไรเลย”นางหันหน้าหนี น้ำตาคลอเบ้าระยิบระยับ“ที่ผ่านมาข้าทำผิดพลาดไป ข้าไม่เคยได้โอกาสไถ่โทษเลย ครั้งนี้ สวรรค์ให้โอกาสข้าแล้ว จากนี้ไปข้าจะได้เฉิดฉายเสียที ไม่ต้องพะว้าพะวังคอยพึ่งพาพวกท่านแล้ว”ในใจของนางมีความสุขมากกว่าที่เห็นภายนอก และเป็นความสุขที่เหมือนกับยกภูเขาออกจากอก“ลั่วยาง”กู้หว่านเยว่นึกไม่ถึงว่า ในใจของนางจะคิดมากเช่นนี้แม้ว่าในอดีตอาจดูเหลวไหล แต่กู้หว่านเยว่ก็เข้าใจได้ ตอนเด็ก ๆ ใครบ้างที่ไม่เคยมีช่วงเวลาคลั่งรักมองผู้ชายผิดไป?”“อ้อ เกาเจี้ยนเป็นห่วงเจ้ามาก”กู้หว่านเยว่เปลี่ยนหัวข้อสนทนา เอ่ยด้วยรอยยิ้ม“เดิมที เขาต้องการแอบเข้ามาในเมือง แต่ถูกข้ากับท่านอ๋องห้ามไว้”“เขายังสบายดีอยู่ไหม?”เมื่อพูดถึงเกาเจี้ยน สีหน้าของลั่วยางก็เคร่งเครียดทันใด“ดี ดีมาก แค่รำพันถึงเจ้าทุก
กู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงเข้ามาในห้องพร้อมกันลั่วยางเดินเข้าไปจุดเทียน ภายในห้องสว่างไสวขึ้นทันใด กู้หว่านเยว่ก็มองเห็นเฟิ่งอู๋ชีที่แอบอยู่ที่มุมห้องได้อย่างชัดเจนแล้ว“เฟิ่งอู๋ชี?”กู้หว่านเยว่เดินเข้าไปตบบ่าของอีกฝ่ายเฟิ่งอู๋ชีครึ่งหลับครื่งตื่นจากความเจ็บปวด ขณะที่กำลังจะหมดสติไป ก็ได้ยินว่ามีคนเรียกชื่อเขาอย่างแผ่วเบาเขาพยายามฝืนลืมตาทั้งสองขึ้น สิ่งที่เข้าสู่สายตาก็คือใบหน้าหนึ่งที่คุ้นเคย“ท่าน”เขาคิดว่าตัวเองกำลังอยู่ในความฝัน“ข้าคือกู้หว่านเยว่”กู้หว่านเยว่หยิบยาแก้ปวดออกมาจากมิติ แล้วยื่นไปที่ปากของเขานี่คือยาแก้ปวด ท่านกินแล้วจะรู้สึกดีขึ้นมาก”“ตกลง”เฟิ่งอู๋ชีพยักหน้า แล้วกลืนยาลงไปโดยไม่ลังเลใด ๆ“ขอโทษด้วย”ยายังไม่ออกฤทธิ์เขายังคงเจ็บปวดจนใบหน้าซีดเผือด“เรื่องที่รับปากไว้กับท่าน ยังทำไม่สำเร็จ”“ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรมาก ข้ารู้ว่าท่านป่วย”กู้หว่านเยว่ถามด้วยความอยากรู้ “ข้าจำได้ว่าก่อนที่ท่านจะไป ข้าได้มอบเลือดเต่าทะเลแก่ท่านแล้วมิใช่หรือ ทำไมท่านถึงยังไม่หายจากอาการป่วย มิหนำซ้ำยังกำเริบรุนแรงถึงเพียงนี้”นางจำได้ว่า ตอนที่ทั้งสองพบกันครั้งแร
ทั้งสองคลำทางเข้าไปในเรือน พบว่าไฟในห้องเปิดอยู่ เลยเที่ยงคืนแล้ว พวกเขายังไม่ได้นอนอีกหรือเมื่อเดินเข้าไปใกล้ มีคนสองคนกำลังพูดคุยกัน“พี่หญิงลั่วยาง ท่านรีบไปพักผ่อนเถอะ”“ไม่ล่ะ ข้าต้องดูตำราแพทย์อีกสักครู่”“ตอนนี้อาการป่วยของคุณชายเฟิ่งไม่เร่งด่วนนัก ท่านต้องพักผ่อนให้เต็มที่ หน้าซีดหมดแล้วเงาร่างของทั้งสองสะท้อนอยู่บนหน้าต่างกู้หว่านเยว่เอียงศีรษะ พลางยิ้มกล่าวว่า “บังเอิญจริง ๆ ฉางเล่อกับลั่วยางอยู่ด้วยกันอย่างไม่น่าเชื่อ”ซูจิ่งสิงกุมมือนางขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม “ก็ดีเหมือนกัน ไม่ต้องตามหาไปทั่วแล้วไป เราสองคนไปมอบความประหลาดใจให้พวกเขากันเถอะ”สองสามีภรรยาพูดจบ ก็เข้ามาในห้องลั่วยางและมู่หรงฉางเล่อสะดุ้งตกใจ“ท่าน พวกท่าน...”“เจิ้นเป่ยอ๋อง? พี่หญิงหว่านเยว่!” ลั่วยางจำทั้งสองได้เป็นคนแรกเป็นความประหลาดใจมากมายดังคาด ทั้งมู่หรงฉางเล่อและลั่วยางต่างก็รู้สึกดีใจมาก“เป็นพวกท่านจริงหรือ?”มู่หรงฉางเล่อมองไปที่กู้หว่านเยว่ด้วยท่าทีใหม่ “พี่สะใภ้ เหตุใดท่านถึงแต่งตัวในสภาพนี้?”กู้หว่านเยว่ลูบเครา “ยากที่จะอธิบายเป็นคำพูดเพียงไม่กี่คำ ข้ากับญาติผู้พี่ของเจ้าแฝงตัวเ
รองแม่ทัพทั้งหลายสบตากันแวบหนึ่ง ไม่อาจเข้าใจว่า “โจวถิงเว่ย” หมายความว่าอย่างไร“ท่านแม่ทัพต้องการเลี้ยงฉลองให้กับสามเหล่าทัพหรือ?”“ถูกต้อง รวมถึงกองทัพของค่ายเฟิงไถทุกกองทัพด้วย”กู้หว่านเยว่เลียนแบบน้ำเสียงของโจวถิงเว่ย และตบโต๊ะตัดสินใจโดยไม่รอคำตอบจากทุกคน“เรื่องนี้ตัดสินใจตามนี้ เพื่อเป็นการเพิ่มขวัญกำลังใจของสามเหล่าทัพ ข้าจะใช้เงินจากกรมพระคลัง”กู้หว่านเยว่ครุ่นคิดสักครู่ แล้ววางนิ้วมือลงบนตัวรองแม่ทัพคนหนึ่ง”“แม่ทัพเฉียน เรื่องนี้ขอมอบหมายให้เจ้าไปจัดการ”เดิมทีแม่ทัพเฉียนตั้งใจจะพูดคัดค้าน แต่หลังจากได้ยินคำพูดของกู้หว่านเยว่แล้ว ก็มีสีหน้ายินดีปรีดา หากมอบหมายเรื่องนี้ให้เขาจัดการ เขาก็จะสามารถตักตวงผลประโยชน์จากในนั้นได้ไม่น้อยเลย“ขอบคุณท่านแม่ทัพสำหรับความไว้วางใจ ข้าน้อยจะจัดการเรื่องนี้ให้ดี หากจัดการเรื่องนี้ได้ไม่ดี ก็ตัดหัวคนอย่างข้าน้อยได้เลย”แม่ทัพเฉียนรีบคุกเข่าลงที่เหลือไม่กี่คนต่างพยักหน้า โดยไม่มีทีท่าคัดค้าน“เอาล่ะ พวกเจ้าออกไปได้แล้ว”สายตาของกู้หว่านเยว่จับจ้องไปที่ใบหน้าของซูจิ่งสิง เริ่มสมคบคิดแผนร้ายกับเขาเหล่าทหารพากันก้มหน้าลง ไม่กล
ร่างกายร้อนผ่าวอยู่บ้างกู้หว่านเยว่ลืมตาขึ้นมา พบว่าตนเองกำลังนอนอยู่บนเตียงแกะสลักขนาดใหญ่ มีกลิ่นอายโบราณหลังหนึ่ง ข้างเตียงมีชายสวมชุดแต่งงานนั่งอยู่หนึ่งคนนี่คงฝันไปใช่ไหม แต่เหตุใดเหมือนจริงถึงเพียงนี้?นางเบือนหน้ามองฝ่ายชายฝ่ายชายผิวพรรณขาวดุจหยก ใบหน้าหล่อเหลางดงาม มองแวบเดียวก็ทำให้คนจมดิ่งสู่ภวังค์อย่างยากจะหักห้ามใจ เพียงแต่สีหน้าของเขาเย็นชาเกินไป สุ้มเสียงเองก็ไร้อารมณ์เสียนี่กระไร“ข้ารู้ว่าเจ้าไม่อยากแต่งกับข้า พระบรมราชโองการยากจะฝ่าฝืน หากเจ้าไม่ยินยอม...”“ข้ายินยอม ข้ายินยอม!”ชายหนุ่มรูปงามหาใครเทียบได้เช่นนี้ นางครองโสดมายี่สิบกว่าปีไม่เคยได้พบพานมาก่อน ไฉนเลยจะไม่ยินยอมกันเล่า!กู้หว่านเยว่พยักหน้าอย่างบ้าคลั่ง ไม่สนใจสีหน้าตกตะลึงของฝ่ายชาย ยื่นมือออกไปเกี่ยวเข็มขัดโผเข้าหาอ้อมอกของเขาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เฮือกหนึ่ง อ้า หอมยิ่งนัก กลิ่นหอมเย็นของชายหนุ่มรูปงามเห็นได้ชัดว่านี่คือครั้งแรกของฝ่ายชาย ทีแรกยังคิดปฏิเสธ แต่กลับไม่อาจต้านทานเสียงที่ดังออดอ้อนออเซาะขึ้นมาของนางได้ สติค่อยๆ เลือนรางไป ทว่า ครู่เดียวก็ทำเอากู้หว่านเยว่วิญญาณหลุดลอยทั้งสองเกี...
Comments