(กักตุนสินค้าในมิติวิเศษ+หญิงแกร่ง+นิยายที่นางเอกทันคน+แก้แค้นคนชั่ว+ทั้งครอบครัวถูกเนรเทศ+คืนแต่งงาน+สร้างความร่ำรวย) หลุดเข้ามาในหนังสือ กู้หว่านเยว่พบว่าเธอกลายเป็นนางร้ายตัวประกอบ ถูกยึดทรัพย์เนรเทศ? ไม่เป็นไร เธอมีมิติวิเศษ เสบียงในท้องพระคลังล้วนเก็บเข้ามิติวิเศษ มิหนำซ้ำยังย้ายของออกจากบ้านมารดาและจวนอ๋องจนหมด ทำให้คนยึดทรัพย์ไม่ได้ไปแม้แต่เหมาเดียว ระหว่างถูกเนรเทศ ต้องตกระกำลำบาก แต่ไม่เป็นไร ในน้ำเธอสามารถจับปลา บนบกสามารถล่ากระต่ายป่า ชีวิตธรรมดาผ่านไปอย่างงดงามสงบสุข
View Moreด้านหลังตามมาด้วยฮูหยินผู้เฒ่าหลี่และหลี่เหวินที่ด่าทอไม่หยุด“รีบวางศพลงเดี๋ยวนี้”“พวกเจ้ากำลังขโมยศพ ยังเคารพกฏหมายกันอยู่หรือไม่?”“รีบวางศพลูกสะใภ้ข้าลงเดี๋ยวนี้”ทั้งสองคนร้อนใจมาก จึงพูดออกไปวิธีที่ฮูหยินผู้เฒ่าหลี่คิดเป็นวิธีที่ดี จุดไฟเผาศพของเจี่ยหง ถึงตอนนั้นค่อยบอกว่าไม่ระวังจึงเกิดเพลิงไหม้อย่างไรก็ไม่มีหลักฐานแต่ใครจะไปคิด จู่ๆ มีคนชุดดำสองคนบุกเข้ามา แล้วแบกศพหนีไปทันทีความเร็วนั้นรวดเร็วราวกับลมพัดผ่านตอนนี้ฮูหยินผู้เฒ่าหลี่และหลี่เหวินจึงลนลานมากรีบกุลีกุจอตามไป แต่กลับถูกกู้หว่านเยว่ถีบจนกระเด็ดออกไป“ทหาร สองคนนี้คิดจะลอบสังหารท่านอ๋อง จับตัวพวกเขาเอาไว้”ยังไม่ทันที่ทั้งสองจะได้ตั้งตัว กู้หว่านเยว่ออกคำสั่ง ทหารที่อยู่ด้านหลังรีบกรูกันเข้ามา แล้วจับทั้งสองกดลงกับพื้นซูจิ่งสิงเกือบจะหัวเราะออกมา น้องหญิงของเขาช่างมีไหวพริบ ชิงลงมือก่อน“รีบปล่อยข้า ข้าไม่ได้คิดจะลอบสังหารท่านอ๋อง”หลี่เหวินถูกกดไว้กับพื้น ยังคงร้องตะโกนเสียงดัง“คืนศพของเมียข้ามาเดี๋ยวนี้ พวกเจ้าบุกเข้าจวนโดยพลการ ข้าจะไปแจ้งทางการ”เขาดิ้นรนขัดขืนแทบอยากจะทำลายศพของเจี่ยหงต
“เกิดอะไรขึ้น?” สองแม่ลูกลนลานทันทีพ่อบ้านส่ายหน้า“ข้าน้อยก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น พอเห็นทหารกลุ่มใหญ่มุ่งหน้ามาทางนี้แต่ไกล จึงรีบเข้ามารายงานขอรับ”“ท่านแม่”หลี่เหวินกินปูนร้อนท้อง“ต้องเป็นเรื่องของเจี่ยหงแพร่งพรายแล้วแน่ๆ”“เป็นไปไม่ได้ เรื่องนี้ข้าปิดข่าวอย่างดี ไม่มีทางแพร่งพรายเด็ดขาด”ฮูหยินผู้เฒ่าหลี่ยังคงส่ายหน้า“ท่านลืมเจี่ยอวิ๋นไปแล้วหรือ?” หลี่เหวินตกใจจนแทบจะฉี่ราดกางเกง “ต้องเป็นเขาไปแจ้งทางการแน่ ท่านแม่ ตอนนี้จะทำอย่างไรดี?”“อย่าลนลาน”ดวงตาฮูหยินผู้เฒ่าหลี่กลิ้งไปมา ใบหน้าเผยความอำมหิต“รีบไป ให้คนไปเอาคบเพลิงมา”“ท่านแม่ ท่านคิดจะ...”หลี่เหวินรู้สึกกลัวอยู่บ้าง ตอนตีเมียเขาไม่ออมมือสักนิด แต่ความจริงเป็นพวกกระจอก“ยังยืนบื้ออยู่ทำไม? ไปเอาคบเพลิงมาสิ”ฮูหยินผู้เฒ่าหลี่สั่งการอย่างระอาความไม่เอาไหน ไม้เท้าตกไปอยู่บนตัวพ่อบ้าน“เจ้ารีบพาคนออกไป แล้วรั้งพวกเขาเอาไว้”พอดีกับเด็กทั้งสองคนร้องไห้อย่างน่าเวทนา พ่อบ้านหันมองพวกนางแวบหนึ่ง ขมวดคิ้วแล้วรีบออกไป“ให้คนล้อมจวนสกุลหลี่เอาไว้ อย่าให้ออกไปได้แม้แต่แมลงวันตัวเดียว”ขณะนี้ กู้หว่านเยว่และซูจิ
“ดังนั้น ความหมายของเจ้าคืออยากให้ข้าช่วยสืบเรื่องนี้หรือ?”กู้หว่านเยว่ฟังมาสักพัก จึงพอจะคาดเดาความหมายของเจี่ยอวิ๋นได้“นั่นคือพี่สาวแท้ๆ ของข้า ข้าไม่มีทางนิ่งดูดายแน่นอน”ใบหน้าเจี่ยอวิ๋นขาวซีด ในดวงตามีความกังวล“ยิ่งไปกว่านั้น แม้พี่สาวข้าจะตายไปแล้ว แต่นางยังทิ้งบุตรสาวไว้อีกสองคน บุตรสาวทั้งสองไม่เป็นที่รักในจวนสกุลหลี่ แต่พวกนางเป็นหลานสาวแท้ๆ ของข้า ข้าจะทำใจให้พวกนางอยู่ในถ้ำเสือได้อย่างไร”หากเจี่ยหงถูกหลี่เหวินซ้อมจนตายจริงๆ ลูกสาวทั้งสองอยู่ในสกุลหลี่ต่อไปก็คงจะเป็นเรื่องร้ายมากกว่าดีไม่แน่ ต่อไปอาจต้องพบจุดจบเช่นเดียวกันกับมารดาของพวกนางแต่น่าเสียดายที่เหตุผลเหมือนกันกับที่เขาไม่สามารถตรวจสอบสาเหตุการตายของเจี่ยหงได้ แม้สกุลหลี่จะไม่ชอบหลานสาวทั้งสองคน แต่อย่างไรพวกนางก็เป็นลูกหลานสกุลหลี่ เขาไม่มีสิทธิ์ไปพาตัวมา“ข้าเข้าใจความหมายของเจ้าแล้ว”กู้หว่านเยว่กำหมัดแน่น“ตอนนี้พี่สาวเจ้ายังไม่ฝังสินะ?”“ยังไม่ฝัง เดิมทีควรจะจัดงานศพเจ็ดวัน แต่ไม่รู้ว่าสกุลหลี่ละอายใจหรือว่าด้วยเหตุใด จึงจัดงานศพเพียงสามวันแล้วทำพิธีฝัง วันนี้ก็คือวันทำพิธีฝัง”เจี่ยอวิ๋นรีบเอ่
“คารวะพระชายา คารวะท่านอ๋อง”เจี่ยอวิ๋นรีบหยุด จากนั้นยิ้มแล้วทำความเคารพทั้งสองคนในใจกู้หว่านเยว่ยิ่งกระวนกระวาย“เกิดเรื่องใดขึ้น ทำไมสีหน้าย่ำแย่ขนาดนั้น?”ขอบตาเจี่ยอวิ๋นแดงก่ำ พร้อมยิ้มขมขื่น“ข้าน้อย พี่สาวของข้าน้อยตายแล้ว”“อะไรนะ?”กู้หว่านเยว่อุทานอย่างตะลึง นางจำได้ว่าวันนั้นในจวนสกุลหลี่ นางยังได้พบเจี่ยหงอีกฝ่ายอุ้มลูกเอาไว้ แม้สีหน้าจะไม่สู้ดีนัก แต่ก็ดูไม่เหมือนผู้ที่เป็นโรคร้าย“จวนสกุลหลี่บอกว่าพี่สาวข้าเป็นโรคลำไส้อุดตันกะทันหัน ทำให้ปวดจนตาย”เจี่ยอวิ๋นใบหน้าขาวซีด แล้วรีบเอ่ยเตือน“ใช่สิ เรื่องนี้ข้ายังไม่ได้บอกเพียวเพียว กลัวนางจะตกใจมากเกินไป ขอพระชายาโปรดเก็บเป็นความลับ อย่าบอกนาง”“ข้าเข้าใจความหมายของเจ้า”กู้หว่านเยว่พยักหน้า ในเมื่อเจี่ยอวิ๋นไม่อยากบอก นางย่อมไม่พูดมากอยู่แล้วตอนนี้หลิ่วเพียวเพียวอยู่ในช่วงเวลาเฉพาะ อารมณ์ไม่ควรจะขึ้นลงมากเกินไป“จัดการงานศพแล้วหรือ?”ชั่วขณะนั้นกู้หว่านเยว่ไม่รู้จะปลอบเขาอย่างไรดี ทั้งที่หลายวันก่อนยังเห็นดีๆ อยู่เลย นี่ก็กะทันหันเกินไป“ยังเลย”เจี่ยอวิ๋นส่ายหน้า เหมือนยากจะเอื้อนเอ่ย เขามองกู้หว่านเยว่
“น้องหญิงระวัง”ซูจิ่งสิงรีบกันกู้หว่านเยว่ไว้ด้านหลังหลังจากเจี่ยชิงอวิ๋นลุกขึ้น มีเพียงดวงตาที่ขยับ ราวกับหุ่นเชิดซูจิ่งสิงรู้สึกผิดปกติ จึงให้คนไปเรียกผู้เฒ่าหวงกลับมาอีกครั้งหลังจากผู้เฒ่าหวงดูอาการแล้วลูบเครา ส่ายหน้า“คนผู้นี้ช่างเหี้ยมโหด ถึงกับใส่หนอนกู่ให้ตัวเองด้วย”“นางใส่หนอนกู่อย่างไรให้ตัวเองหรือ?”กู้หว่านเยว่รีบสอบถาม “หนอนกู่หุ่นเชิด”ผู้เฒ่าหวงถอนหายใจมองแววตาของเจี่ยชิงอวิ๋น รู้สึกเสียดายเล็กน้อย“จากนี้คนผู้นี้ไม่ต่างจากศพเดินได้ ทำตามเพียงคำสั่งที่ได้รับมอบหมาย ไม่มีอารมณ์นึกคิดของตัวเองอีกต่อไป”“ท่านหมายถึงนางหรือ”กู้หว่านเยว่มองเจี่ยชิงอวิ๋นด้วยความแปลกใจแวบหนึ่ง“นางทำให้ตัวเองกลายเป็นหุ่นเชิดหรือ?”ผู้เฒ่าหวงพยักหน้า “หมายความว่าเช่นนั้น”คนผู้นี้น่าจะสะเทือนใจมาก ไม่อาจยอมรับที่ตัวเองรับโจรเป็นบิดาช่วยคนชั่วก่อกรรม ทำให้สะเทือนใจเกินไป จึงทำให้ตัวเองกลายเป็นหุ่นเชิดนับจากนี้ จะได้ไม่ต้องเผชิญหน้ากับใครอีกเดิมทีกู้หว่านเยว่โกรธนางที่ใส่หนอนกู่ให้ซูจิ่งสิงโดยไม่สนใจสิ่งใด ตอนนี้เมื่อเห็นดวงตาที่ว่างเปล่าของนาง ในใจกลับเกิดความสงสารขึ้นม
หลังผู้เฒ่าหวงรับมีดสั้นไป จึงกรีดข้อมือซูจิ่งสิงออกจนเป็นแผล“นังหนู เจ้าสายตาดีกว่าข้า อีกเดี๋ยวตอนที่หนอนกู่คลานออกมาเจ้ารีบใช้ขวดหยก จับหนอนไว้ตั้งแต่แรกเลยนะ”“เจ้าค่ะ”กู้หว่านเยว่รีบนำขวดที่ใส่หนอนกู่ตัวแม่ออกมา วางไว้ด้านข้าง แล้วรออย่างจดจ่อผู้เฒ่าหวงหยิบธูปหนึ่งก้านออกมา แล้วจุดไฟ“นี่คือสิ่งใด?”กู้หว่านเยว่รีบสอบถาม“นี่คือธูปหอม สามารถทำให้แม่หนอนกู่เหน็บชา ทำให้นางปล่อยสัญญาณผิดพลาด ให้ลูกหนอนกู่ออกมาจากร่างกายมนุษย์” ผู้เฒ่าหวงอธิบาย“สิ่งที่หนอนกู่ทนไม่ได้ที่สุดก็คือธูปหอม”“เข้าใจแล้ว”กู้หว่านเยว่พยักหน้ากลิ่นธูปหอมนี้แข็งกร้าวมาก จุดเพียงไม่นาน ภายใจห้องก็เต็มไปด้วยกลิ่นหอมประหลาด“ออกมาแล้ว”จากนั้นผู้เฒ่าหวงทำท่าให้เงียบงดใช้เสียงกู้หว่านเยว่กับซูจิ่งสิงกลั้นหายใจ สายตาต่างมองไปที่บาดแผลเพียงไม่นาน กู้หว่านเยว่มองเห็นหนอนตัวหนึ่งซึ่งเล็กมาก บินออกมาจากบาดแผลของซูจิ่งสิงเมื่อลูกหนอนกู่ออกมา บินมุ่งหน้าไปหาขวดที่ใส่แม่หนอนกู่ทันที“ตอนนี้ละ!”ลูกหนอนกู่เข้าไปในขวดแล้ว กู้หว่านเยว่มือไวใจเร็ว รีบปิดฝาขวดหยกทันที“จับได้แล้ว”นางผ่อนลมหายใจ ใ
“ไม่จำเป็นต้องเกรงใจ เจ้าระวังหน่อย หนอนกู่นี้เจ้าเล่ห์ยิ่งนัก อย่าปล่อยให้มันเข้าไปในรูจมูกของเจ้าได้ ใช้ผ้าอุดรูจมูกและใบหูเอาไว้เถอะ”กู้หว่านเยว่พยักหน้านางหยิบผ้าออกมาหนึ่งผืนจากใต้วงแขน อุดรูจมูกและใบหูไว้แล้วผู้เฒ่าหวงหยิบซองจดหมายออกมา วางซองจดหมายลงไปในน้ำอย่างระมัดระวังผ่านไปครู่หนึ่งซองจดหมายก็มีท่าทีตอบสนองต่อน้ำยาที่อยู่ภายในอ่าง แผ่กลิ่นหอมแปลกบางอย่างออกมา“กลิ่นนี้หอมเหลือเกิน”“ฮ่าๆๆๆ ไม่เพียงแค่เจ้าที่คิดเช่นนี้ หนอนกู่เองก็คิดเช่นนี้ มันได้กลิ่นหอมนี้แล้วย่อมออกมาอย่างว่าง่าย”กู้หว่านเยว่เข้าใจหลักการแล้ว พยักหน้าลง“ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้”“เร็ว หยิบขวดใบหนึ่งให้ข้า”ผู้เฒ่าหวงออกคำสั่งอย่างตื่นเต้นหนึ่งประโยค ภายในกล่องเครื่องมือมีขวดมากมาย กู้หว่านเยว่เลือกมาหนึ่งอัน รีบส่งถึงมือผู้เฒ่าหวงจากนั้นก็ได้เห็นหนอนกู่ตัวเล็กมากหนึ่งตัวคลานออกจากซองจดหมาย ทั้งตัวหนอนเป็นสีดำ ซ่อนตัวภายในความมืดย่อมแยกไม่ออกหากไม่ใช่มันปีนออกมาด้วยตนเอง กู้หว่านเยว่ย่อมคิดไม่ถึงว่าภายในร่องรอยความมืดดุจหมึกนี้ ถึงขั้นยังซ่อนหนอนกู่ตัวหนึ่งไว้ก็ไม่รู้ว่าเพราะผลกระทบจากน้ำย
หร่านถิงประกบมือเข้าหากันอย่างถ่อมตนพลางพูด “ผู้น้อยไม่กล้ารับความดีความชอบขอรับ”“พูดเรื่องความดีความชอบ เรื่องวันนี้ข้าจะตกรางวัลให้เจ้าอย่างงาม”นับตั้งแต่หงเจาและหร่านถิงคบหาดูใจกัน เขาก็กลายเป็นผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาของกู้หว่านเยว่ทว่าปกติมีเรื่องให้ใช้งานเขาน้อยมาก วันนี้ก็ได้ใช้งานแล้วมิใช่หรือ“ผู้น้อยขอตัวก่อน”หร่านถิงถนอมช่วงเวลาสงบสุขที่ได้ใช้กับหงเจาเป็นพิเศษ กลัวกู้หว่านเยว่ไม่ชอบเขาจึงรีบถอนตัวจากไปชิงเหลียนและหงเจาเดินเข้ามา“ฮูหยิน เช่นนั้นนางจะทำเยี่ยงไร?”“ขังนางไว้ก่อน ให้หมอมาดูอาการนาง อย่าให้ถูกกระตุ้นมากเกินไปจนตาย”บัดนี้ยังไม่ยืนยันอย่างแน่นอนว่าหนอนกู่อยู่ภายในซองจดหมายจริง หลังถอนหนอนกู่ออกจากร่างกายซูจิ่งสิงแล้ว ถึงจะสามารถจัดการนางได้“เจ้าค่ะ”ชิงเหลียนรีบขังคนไว้หงเจากลับออกไปพบหร่านถิง “ทำได้ดีมาก ครั้งนี้ท่านช่วยฮูหยินครั้งใหญ่ ฮูหยินจะต้องตกรางวัลท่านอย่างงามแน่”หร่านถิงยิ้มขมปร่า สบมองสตรีตรงหน้า“ตราบใดที่ฮูหยินไม่คัดค้านข้าคบหากับเจ้า ไม่ว่าให้ข้าทำอันใดก็ยอม”พวงแก้มหงเจาแดงเรื่อ“เหตุใดดีต่อข้าถึงเพียงนี้?”หร่านถิงผ่านสตรีมาน
หากไม่ระวังก็จะถูกเปิดโปง“หว่านเยว่”ซูจิ่งสิงเปลี่ยนหัวข้อสนทนาได้ทันเวลา ช่วยกู้หว่านเยว่กลบเกลื่อน “ทางฝั่งเจี่ยชิงอวิ๋นมีความคืบหน้าเยี่ยงไร?”“อ้อ คนได้รับบาดเจ็บหมดสติไป แต่ข้าให้นางกินยาแล้ว กลางคืนนางจะฟื้นขึ้นมา ถึงตอนนั้นค่อยทำตามแผนของพวกเรา”กู้หว่านเยว่เดินไปหยุดข้างกายซูจิ่งสิง จับมือเขาไว้อย่างเป็นธรรมชาติ“ลำบากเจ้าแล้ว”ซูจิ่งสิงลูบเส้นผมนาง“คืนนี้ข้าจะไปกับเจ้าด้วย”“พวกเจ้าเด็กสองคนนี้วางแผนแสดงละครอีกแล้วกระมัง?”ผู้เฒ่าหวงขยับไปอยู่ทางด้านข้าง ดื่มน้ำชานั้นอีกหลายอึกอย่างไม่อาจทนไหวช่างเป็นของดีโดยแท้ เขาต้องดื่มมากหน่อยราตรีมาเยือนกู้หว่านเยว่พาซูจิ่งสิงมาบนหลังคา ทั้งสองคนเปิดแผ่นกระเบื้องออก มองลงไปเบื้องล่างเจี่ยชิงอวิ๋นได้รับบาดเจ็บไม่เบาบัดนี้ยังนอนบนเตียง แต่ศีรษะนางเต็มไปด้วยเหงื่อเม็ดโต เห็นได้ชัดว่ากำลังฝันร้าย นอนหลับไม่สนิท“ชู่ว์ มาแล้ว”กู้หว่านเยว่กระซิบเตือนข้างโสตซูจิ่งสิงเบาๆ สองสามีภรรยากลั้นหายใจในทันใด รอรับชมละครฉากสนุกเงียบๆเจี่ยชิงอวิ๋นกินน้ำแกงยาผสมบางอย่างเข้าไปเรียบร้อยแล้วก็ฝันร้ายอยู่ตลอดนางสะลึมสะลือ คิดว่า
ร่างกายร้อนผ่าวอยู่บ้างกู้หว่านเยว่ลืมตาขึ้นมา พบว่าตนเองกำลังนอนอยู่บนเตียงแกะสลักขนาดใหญ่ มีกลิ่นอายโบราณหลังหนึ่ง ข้างเตียงมีชายสวมชุดแต่งงานนั่งอยู่หนึ่งคนนี่คงฝันไปใช่ไหม แต่เหตุใดเหมือนจริงถึงเพียงนี้?นางเบือนหน้ามองฝ่ายชายฝ่ายชายผิวพรรณขาวดุจหยก ใบหน้าหล่อเหลางดงาม มองแวบเดียวก็ทำให้คนจมดิ่งสู่ภวังค์อย่างยากจะหักห้ามใจ เพียงแต่สีหน้าของเขาเย็นชาเกินไป สุ้มเสียงเองก็ไร้อารมณ์เสียนี่กระไร“ข้ารู้ว่าเจ้าไม่อยากแต่งกับข้า พระบรมราชโองการยากจะฝ่าฝืน หากเจ้าไม่ยินยอม...”“ข้ายินยอม ข้ายินยอม!”ชายหนุ่มรูปงามหาใครเทียบได้เช่นนี้ นางครองโสดมายี่สิบกว่าปีไม่เคยได้พบพานมาก่อน ไฉนเลยจะไม่ยินยอมกันเล่า!กู้หว่านเยว่พยักหน้าอย่างบ้าคลั่ง ไม่สนใจสีหน้าตกตะลึงของฝ่ายชาย ยื่นมือออกไปเกี่ยวเข็มขัดโผเข้าหาอ้อมอกของเขาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เฮือกหนึ่ง อ้า หอมยิ่งนัก กลิ่นหอมเย็นของชายหนุ่มรูปงามเห็นได้ชัดว่านี่คือครั้งแรกของฝ่ายชาย ทีแรกยังคิดปฏิเสธ แต่กลับไม่อาจต้านทานเสียงที่ดังออดอ้อนออเซาะขึ้นมาของนางได้ สติค่อยๆ เลือนรางไป ทว่า ครู่เดียวก็ทำเอากู้หว่านเยว่วิญญาณหลุดลอยทั้งสองเกี...
Comments