(กักตุนสินค้าในมิติวิเศษ+หญิงแกร่ง+นิยายที่นางเอกทันคน+แก้แค้นคนชั่ว+ทั้งครอบครัวถูกเนรเทศ+คืนแต่งงาน+สร้างความร่ำรวย) หลุดเข้ามาในหนังสือ กู้หว่านเยว่พบว่าเธอกลายเป็นนางร้ายตัวประกอบ ถูกยึดทรัพย์เนรเทศ? ไม่เป็นไร เธอมีมิติวิเศษ เสบียงในท้องพระคลังล้วนเก็บเข้ามิติวิเศษ มิหนำซ้ำยังย้ายของออกจากบ้านมารดาและจวนอ๋องจนหมด ทำให้คนยึดทรัพย์ไม่ได้ไปแม้แต่เหมาเดียว ระหว่างถูกเนรเทศ ต้องตกระกำลำบาก แต่ไม่เป็นไร ในน้ำเธอสามารถจับปลา บนบกสามารถล่ากระต่ายป่า ชีวิตธรรมดาผ่านไปอย่างงดงามสงบสุข
ดูเพิ่มเติม“ไม่ใช่ว่าข้าเก่งนะ แต่มีคู่มือการผลิตอยู่ในมิติ ข้าแค่ทำตามคู่มือก็เสร็จแล้ว””นั่นเจ้าก็เก่งเหมือนกัน คนทั่วไปต่อให้ได้คู่มือการผลิตมา ก็อาจจะทำออกมาได้ไม่เหมือนต้นฉบับซูจิ่งสิงไม่ยอมรับการโต้แย้ง กู้หว่านเยว่วกเข้าเรื่องเดิม “ข้าตั้งใจจะผลิตแก้วให้ครบวงจร”นางกล่าวอย่างครุ่นคิด “ความจริงแล้วแก้วไม่ใช่ของหายากอะไร เป็นชาวต่างแดนที่เห็นต้าฉีของเราไม่มี ก็เลยจงใจปั่นราคาให้สูงขึ้น”ที่กู้หว่านเยว่ยืนกรานที่จะผลิตแก้วออกมาให้ได้ เพราะไม่อยากให้ชาวต่างแดนขูดรีดพวกเขา“ท่านพี่รู้หรือไม่? ความจริงแล้วแก้วมีประโยชน์ใช้สอยมากมาย ไม่เพียงแต่สามารถใช้ทำเป็นถ้วยจานชามได้เท่านั้น แต่ยังใช้ผลิตหน้าต่างกระจกได้อีกด้วย ไม่เพียงแต่สามารถกันลมกันฝนได้เท่านั้น แต่ยังทำให้แสงแดดส่องถึงอีกด้วย มากไปถึงขั้นที่สามารถใช้มันผลิตกระจกได้ด้วย กระจกทองแดงที่พวกเราใช้กันอยู่ตอนนี้จะชัดเจนและสว่างไสวมากขึ้น”ดวงตาของกู้หว่านเยว่เปี่ยมไปด้วยประกายแวววาว ในขณะที่นางพรรณนาประโยชน์ของแก้วด้วยเสียงแผ่วเบา“หากสามารถส่งเสริมการใช้แก้วออกไปได้ ก็จะเป็นเรื่องที่ดีมากที่สร้างความผาสุกให้แก่ประชาชน”นี่คือจุดประส
“ยังไม่กลับเจ้าค่ะ” ชิงเหลียนส่ายหัวกู้หว่านเยว่เหลือบมองสีท้องฟ้า ฟ้ากำลังจะมืดแล้ว ซูจิ่งสิงคงยุ่งมากแน่ ๆนางแทบรอไม่ไหวที่จะแบ่งปันความสุขนี้กับอีกฝ่าย “เดี๋ยวท่านพี่กลับมา รีบไปบอกข้าทันทีนะ”หลังจากยุ่งมาตลอดช่วงบ่าย นางก็เหงื่อแตกพลั่กไปทั้งตัว อาศัยช่วงเวลานี้อาบน้ำได้พอดี“ชิงเหลียน ข้าอยากอาบน้ำ”“เจ้าค่ะ” ชิงเหลียนรีบร้อนลงไป ให้ทางห้องครัวเล็กนำน้ำร้อนมาให้ ไม่นานอ่างอาบน้ำก็เต็มไปด้วยน้ำร้อนกู้หว่านเยว่แค่อยากแช่น้ำ ก็เลยไม่ได้เข้าไปอาบน้ำในมิติหยิบขวดน้ำมันหอมระเหยกลิ่นกุหลาบออกมา ก่อนหยดลงในอ่างอาบน้ำ กลิ่นหอมแรงทำให้ชิงเหลียนเผยสีหน้าเคลิบเคลิ้มออกมา“ฮูหยิน หอมจัง เมื่อครู่ท่านหยดอะไรลงไปหรือเจ้าคะ? ทำไมถึงหอมเช่นนี้?“นี่คือน้ำมันหอมระเหยกลิ่นกุหลาบ”กู้หว่านเยว่ลงไปนั่งอย่างผ่อนคลาย แช่ในน้ำร้อนอุ่น ๆ หลับตาพริ้ม“ฮูหยินเก่งสุดยอดจริง ๆ “ชิงเหลียนชื่นชมอย่างจริงใจ หลังจากติดตามฮูหยินมานาน ก็ได้รู้ว่าสิ่งของอะไรที่หายาก ฮูหยินสามารถทำออกมาได้ทั้งหมด“เก่งสุดยอดไปเลย”ทำแก้วสำเร็จ กู้หว่านก็เยว่อารมณ์ดีทีเดียว พลางพยักหน้าอย่างหลงระเริงหลังจากแช่น้ำเส
“ตกลง ตกลง” นางจินเช็ดน้ำตา รู้สึกมีความหวังขึ้นมาทันใดในเวลานี้พ่อบ้านศูนย์พักพิงรีบวิ่งเข้ามา “ท่านทั้งสองเป็นญาติของท่านอ๋องใช่ไหม?”“เกิดอะไรขึ้นหรือ?” ทั้งสองรู้สึกประหม่าเล็กน้อย ไม่ใช่ว่าเมื่อครู่เพิ่งรู้สึกมีความหวังในชีวิต พอหันกลับมาก็ถูกตบหน้าแล้วหรอกนะ?“ท่านทั้งสองอย่าประหม่าไปเลย” พ่อบ้านรีบบอก “ถ้าท่านทั้งสองต้องการความช่วยเหลือใด ๆ ข้าคือพ่อบ้านศูนย์พักพิง บอกกับพวกข้าได้เลย”นี่คือญาติของท่านอ๋อง ถึงจะไม่รู้ว่าทำไมถึงเร่ร่อนมาถึงศูนย์พักพิงได้ แต่ก็ไม่สามารถล่วงเกินได้อยู่ดี“ข้า พวกข้าต้องการทำงาน” ซูเช่อรวบรวมคว้ากล้า“ได้สิ ถ้าท่านรู้หนังสือล่ะก็ ศูนย์พักพิงของเราขาดนักบัญชีหนึ่งคน”“ข้ารู้หนังสือ!”“งั้นพรุ่งนี้ท่านก็สามารถมาทำงานได้เลย” พ่อบ้านกล่าวอย่างผ่อนคลาย“จริงหรือ ขอบคุณ ยังมีแม่ของข้าด้วย...”“ถ้าแม่เฒ่าไม่รังเกียจ ทางศูนย์พักพิงก็สามารถจัดหางานที่ค่อนข้างสบายให้ได้”“ไม่รังเกียจ ไม่รังเกียจ รบกวนพ่อบ้านด้วย”เมื่อเห็นพ่อบ้านออกไปแล้ว สีหน้าของซูเช่อที่เคยขมขื่น ความเคียดแค้นที่มีต่อซูจิ่งสิงก็หายไปทันที“ท่านแม่ ข้าคิดได้แล้ว ต่อไปข้าจะใช้ช
“น้องหญิง เจียงอวิ๋นจิ่น ไม่ใช่ชายารอง”ซูจิ่งสิงต้องแก้ไขให้ถูกต้องอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เขาไม่อยากให้ในอนาคตหากมีคนอื่นพูดถึงเขาอีก แล้วยังคิดว่าเขามีชายารอง“ตกลง ๆ ๆ ข้าคิดว่าเจียงอวิ๋นจิ่นผู้นี้ อาจจะไม่ได้มาโดยสมัครใจ”กู้หว่านเยว่เห็นนางลังเลที่จะพูดอยู่หลายครั้ง คำพูดนี้ทำให้ซูจินเอ๋อร์ถึงกับต้องออกปาก“พี่สะใภ้ใหญ่ ท่านใจดีเกินไปแล้ว นางเป็นศัตรูหัวใจของท่านนะ”“ใช่แล้วหว่านเยว่ ถ้านางไม่เต็มใจมา จะมีใครถือมีดจี้คอบังคับนางอยู่หรือ?”นางหยางเห็นแก่คนที่มาก่อน ไม่ค่อยชอบเจียงอวิ๋นจิ่นสักเท่าใด นางจับมือของกู้หว่านเยว่เอาไว้พลางถอนหายใจ “จิ่นเอ๋อร์พูดถูก เจ้าใจดีเกินไปแล้ว”“อุ๊บ!”กู้หว่านเยว่แสดงออกว่า ใช้ชีวิตอยู่มาสองชั่วอายุคน เป็นครั้งแรกที่มีคนบอกว่านางใจดี พวกท่านใส่ตัวกรองเข้มงวดเกินไปแล้ว“ยินดีด้วยท่านอ๋อง ยินดีด้วยชายาอ๋อง”ขุนนางที่รีบรุดมาถึงพากันคุกเข่าลง หลี่เฉินอันก็เดินเข้ามาหาด้วยความตื่นเต้น “อาจารย์หญิง ในที่สุดฟ้าหลังฝนก็มาถึงท่านแล้ว นับจากนี้ไปก็ไม่ได้อยู่ในสถานะนักโทษเนรเทศอีกแล้ว”เขามองกู้หว่านเยว่ด้วยแววตาที่เปี่ยมไปด้วยความชื่นชม ไม่มีความ
ซูจิ่งสิงปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใย มีเพียงเขาเท่านั้นที่รู้ว่า การเปิดใจของน้องหญิงเป็นเรื่องยากเพียงใดเขาจะไม่ยอมปล่อยให้เรื่องใด ๆ ที่อาจทำร้ายหว่านเยว่เกิดขึ้นเด็ดขาด“แต่งเพียงในนาม ก็ไม่ได้เช่นกัน”“ท่านพี่” ความหวานชื่นผุดขึ้นในหัวใจของกู้หว่านเยว่ เจือด้วยความซาบซึ้งขันทีเริ่มลำบากใจขึ้นเรื่อย ๆ การเลี้ยงดูสตรีในจวนอ๋อง ก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไรมิใช่หรือ?“ท่านอ๋อง ท่านทำเช่นนี้ ทำให้ข้าลำบากใจ”ก่อนออกเดินทาง พระองค์ท่านตรัสไว้ว่า ต้องให้ซูจิ่งสิงยอมรับเจียงอวิ๋นจิ่นให้ได้ ไม่เช่นนั้นหัวของเขาจะหลุดจากบ่าเมื่อนึกถึงภารกิจที่ที่ได้รับมอบหมาย ขันทีก็ใช้เหตุผลอธิบายให้เข้าใจ ใช้ความรู้สึกโน้มน้าวจิตใจต่อไป“ท่านอ๋อง แค่สตรีเพียงคนเดียว เก็บไว้ข้างกายท่าน จะไม่เป็นอุปสรรคต่อเรื่องใดแน่ราชโองการของฮ่องเต้ได้ประกาศลงมาแล้ว ชายารองเจียงก็เดินทางมาไกลถึงที่นี่แล้ว หากถูกส่งคืนกลับไป จะเอาหน้าที่ไหนไปใช้ชีวิตต่อเล่า?”“ความเป็นความตายของคนอื่น มันเกี่ยวข้องอะไรกับข้าด้วย?”หรือว่าต้องทำให้น้องหญิงเสียใจเพื่อคนที่ไม่สลักสำคัญอะไรเพียงคนเดียวเล่า?“จะใกล้หรือไกล ใกล้ชิดหรือห่างเหิ
ทุกคนรีบมองไปยังเกี้ยวซูจิ่นเอ๋อร์พูดขวานผ่าซาก “เหตุใดของกำนัลถึงวางไว้ในเกี้ยว? อย่าบอกนะว่าฮ่องเต้ส่งคนตัวเป็น ๆ มาให้?”“ท่านหญิงน้อยผู้มีจิตใจงดงาม”ขันทียิ้มอย่างมีเลศนัย กู้หว่านเยว่รู้สึกเห็นท่าไม่ดี เห็นสาวงามวัยแรกแย้มนางหนึ่งลงจากเกี้ยวเดินเข้ามา“ข้าเจียงอวิ๋นจิ่น คารวะท่านอ๋อง คารวะชายาอ๋อง”เจียงอวิ๋นจิ่นยิ้มเล็กน้อย สวยสง่า น่ารักมีเสน่ห์ดึงดูด กล้าพูดได้ว่า ผู้ชายคนใดเมื่อเห็นนางก็ต้องอยากทะนุถนอมขันทีเอ่ยขึ้นถูกเวลา “ท่านอ๋อง พระองค์ทรงนึกถึงความหนาวเย็นของเจดีย์หนิงกู่ จึงพระราชทานสาวงามนางหนึ่งมาปรนนิบัติท่านอ๋องด้วยพระองค์เอง และมีพระราชโองการแต่งตั้งแม่นางเจียงให้เป็นชายารองแล้ว”“น้องหญิง ข้าไม่รู้เรื่องนี้”สีหน้าของซูจิ่งสิงมืดมน มองไปทางกู้หว่านเยว่โดยสัญชาตญาณ กลัวว่านางจะโกรธ“อืม” กู้หว่านเยว่พ่นเสียงลมหายใจฮึดฮัดเบา ๆ น้ำเสียงนั้นทำให้ซูจิ่งสิงถึงกับขนหัวลุก“น้องหญิง เจ้าอย่าโกรธเลยนะ”“ข้าไม่โกรธ สิแปลก!”เขาควรจัดการเรื่องนี้อย่างเหมาะสมเป็นดีที่สุด หากกล้าปล่อยให้ชายารองเจียงอะไรนั่นเข้าเรือน ฮึ อย่าหาว่านางไร้หัวใจซูจิ่งสิงสัมผัสถึงความ
ฮ่องเต้ชั่วคือคู่อริที่ฆ่าพ่อแม่ของเขา คิดจะให้เขาคุกเข่า มันเป็นไปไม่ได้เด็ดขาดสำหรับกู้หว่านเยว่น่ะหรือ นางเป็นคนสมัยใหม่อยู่แล้ว ไม่มีความเคยชินในการคุกเข่าเลยถ้าไม่ใช่เพราะขันทีเอ่ยเตือน นางคงไม่รู้ว่าตัวเองต้องคุกเข่าลงแต่เมื่อได้ยินสามีพูดว่าไม่คุกเข่า ผัวหาบเมียคอน นางย่อมไม่คุกเข่าลงเช่นกัน“พวกเจ้า...” สีหน้าของขันทีบูดเบี้ยวเล็กน้อย แต่เมื่อลองคิดดูอีกที ที่นี่คืออาณาเขตเจดีย์หนิงกู่หากกระทำการล่วงเกินซูจิ่งสิงที่นี่ อีกฝ่ายก็มีแนวโน้มที่จะสังหารเขาเพื่อระบายอารมณ์ได้เลยยอมข่มความโกรธนี้ไว้ชั่วคราว ก่อนอ่านราชโองการจนจบแต่โดยดีเอาไว้เมื่อกลับถึงเมืองหลวงแล้ว ค่อยรายงานเรื่องนี้ให้ฮ่องเต้ทราบโดยละเอียด ให้ฮ่องเต้มาแก้แค้นเอง“แค่ก ๆ...ด้วยโองการแห่งฟ้า ฮ่องเต้จึงทรงมีพระบัญชา คืนตำแหน่งเจิ้นเป่ยอ๋องแก่ซูจิ่งสิง มีผลในทันที สิ้นสุดราชโองการ”หลังจากขันทีอ่านจบ รอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าในที่สุด“ท่านอ๋อง แม้ว่าท่านจะถูกเนรเทศ แต่ในที่สุดก็เป็นฟ้าหลังฝนแล้ว ต่อไปจะมีชีวิตที่ดีในวันข้างหน้า เจดีย์หนิงกู่แห่งนี้จะเป็นดินแดนในการปกครองของท่าน ขอมอบอำนาจจัดการให้ท่าน
“ทรมานเขา อย่าให้เขาตายง่าย ๆ”แววตาของซูจิ่งสิงมีประกายเย็นชาบาง ๆบังอาจวางยาพิษ ให้ตายไป มันก็ง่ายดายสำหรับเขาเกินไป“แขวนคอประหารชีวิต”หางตาของกู้หว่านเยว่กระตุกเบา ๆ ทันใดนั้นก็รู้สึกว่าสามีของตัวเองก็ดูโรคจิตเล็กน้อยเช่นกัน“ซูจิ่งสิง เจ้าไม่ตายดีแน่ ข้าขอสาปแช่งเจ้า ให้สูญสิ้นทายาท ลูกหลานตายอย่างอนาถ!”ซูหัวหยางถูกลากออกไป ปากก็ยังตะโกนลั่นเหมือนเดิม คำพูดร้ายกาจยั่วให้กู้หว่านเยว่คลั่ง“แขวนคอ ยังเบาไป!”กล้าสาปแช่งลูกชายของนาง รนหาที่ตายเสียแล้ว!“ท่านพ่อ...”ซูเช่อคุกเข่าลงสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว มองดูซูหัวหยางถูกลากไปทั้งเป็นซูจิ่งสิงพูดอย่างเฉยเมย “หวังว่าในอนาคตพวกท่านจะไม่ทำอะไรนอกลู่นอกทาง แน่นอน หากเจ้าคิดจะแก้แค้นให้พ่อของเจ้าก็ทำได้”นางจินรีบพูด “เราจะไม่มีวันทำเรื่องชั่วร้าย เราจะไม่ทำอะไรนอกลู่นอกทาง หายตัวไปจากสายตาของพวกท่าน จะไม่มารบกวนพวกท่านอีก”ว่าแล้วก็ดึงซูเช่อออกไปซูเช่อเอ่ยด้วยความเจ็บปวด “พ่อของข้า สมควรได้รับการลงโทษแล้ว”ยาพิษกระเรียนแดง ทำเกินไปจริง ๆ“ต่อไปข้าจะไม่ทำอะไรให้เดือดร้อนพวกท่านอีก”“จิ่งสิง พวกข้าไปได้แล้วใช่ไหม?” นา
นางจินพยักหน้า “ได้สิ ได้สิ ถึงข้าจะไม่รู้จักลวดลายนั้น แต่ข้าจำได้ว่ามันมีลักษณะยังไง”กู้หว่านเยว่รีบเอ่ยขึ้น “ไปเอากระดาษกับพู่กันมา”ซูจิ่นเอ๋อร์สั่งให้คนไปเอากระดาษกับพู่กันที่ห้องบัญชีมา กระดาษกับพู่กันวางลงตรงหน้านางจิน นางขบคิดอยู่ครู่หนึ่ง ไม่นานก็วาดลวดลายที่มีชีวิตชีวาราวกับของจริงลงไปแม้ว่าทักษะการวาดภาพของนางจะไม่ดีนัก แต่ก็พอจะมองออกว่าลวดลายนั้นมีลักษณะอย่างไร“ลวดลายนั้นมีหน้าตาแบบนี้ เพราะมันพิเศษมาก ข้าไม่เคยเห็นจากรถม้าคันอื่นมาก่อน ข้าจึงตั้งใจดูอย่างถี่ถ้วน”นางจินยื่นกระดาษและพู่กันให้พวกเขา ซูจิ่งสิงรับลวดลายนั้นมาดู ก่อนจะส่งให้ฉู่เฟิง“ไปตรวจสอบดู”“ขอรับ”ฉู่เฟิงรีบนำลวดลายนั้นออกไปนางจินพูดต่อ “ข้าบอกทุกอย่างที่ข้ารู้ให้เจ้าฟังหมดแล้ว ปล่อยข้ากับลูกชายไปทีได้ไหม เราสองคนไม่รู้เรื่องจริง ๆ ไม่เคยเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ตั้งแต่ต้นจนจบ”กู้หว่านเยว่พยักหน้า“ข้าพูดคำไหนคำนั้น ในเมื่อพวกท่านสองคนไม่มีส่วนร่วมกับเรื่องนี้ เช่นนั้นเรื่องนี้ก็ไม่เกี่ยวข้องกับพวกท่าน ประเดี๋ยวข้าจะปล่อยพวกท่านไป”“ขอบคุณ” นางจินถอนหายใจด้วยความโล่งอก พลางดึงซูเช่อออกไปข้า
ร่างกายร้อนผ่าวอยู่บ้างกู้หว่านเยว่ลืมตาขึ้นมา พบว่าตนเองกำลังนอนอยู่บนเตียงแกะสลักขนาดใหญ่ มีกลิ่นอายโบราณหลังหนึ่ง ข้างเตียงมีชายสวมชุดแต่งงานนั่งอยู่หนึ่งคนนี่คงฝันไปใช่ไหม แต่เหตุใดเหมือนจริงถึงเพียงนี้?นางเบือนหน้ามองฝ่ายชายฝ่ายชายผิวพรรณขาวดุจหยก ใบหน้าหล่อเหลางดงาม มองแวบเดียวก็ทำให้คนจมดิ่งสู่ภวังค์อย่างยากจะหักห้ามใจ เพียงแต่สีหน้าของเขาเย็นชาเกินไป สุ้มเสียงเองก็ไร้อารมณ์เสียนี่กระไร“ข้ารู้ว่าเจ้าไม่อยากแต่งกับข้า พระบรมราชโองการยากจะฝ่าฝืน หากเจ้าไม่ยินยอม...”“ข้ายินยอม ข้ายินยอม!”ชายหนุ่มรูปงามหาใครเทียบได้เช่นนี้ นางครองโสดมายี่สิบกว่าปีไม่เคยได้พบพานมาก่อน ไฉนเลยจะไม่ยินยอมกันเล่า!กู้หว่านเยว่พยักหน้าอย่างบ้าคลั่ง ไม่สนใจสีหน้าตกตะลึงของฝ่ายชาย ยื่นมือออกไปเกี่ยวเข็มขัดโผเข้าหาอ้อมอกของเขาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เฮือกหนึ่ง อ้า หอมยิ่งนัก กลิ่นหอมเย็นของชายหนุ่มรูปงามเห็นได้ชัดว่านี่คือครั้งแรกของฝ่ายชาย ทีแรกยังคิดปฏิเสธ แต่กลับไม่อาจต้านทานเสียงที่ดังออดอ้อนออเซาะขึ้นมาของนางได้ สติค่อยๆ เลือนรางไป ทว่า ครู่เดียวก็ทำเอากู้หว่านเยว่วิญญาณหลุดลอยทั้งสองเกี
ความคิดเห็น