แชร์

บทที่ 2

ผู้เขียน: ฮวาฮวาตีลังกาแปล
“ฝ่าบาทมีรับสั่ง เจิ้นเป่ยอ๋องซูจิ่งสิงคิดก่อกบฏ หลักฐานชัดเจน!”

“นับแต่นี้ไปปลดออกจากตำแหน่ง เป็นสามัญชน ยึดทรัพย์เนรเทศไปยังหนิงกู่ถ่า ผู้ใดกล้าฝ่าฝืน ฆ่าได้ไม่ละเว้น!”

ฮูหยินผู้เฒ่าทุบอกกระทืบเท้า “สกุลซูของข้าซื่อสัตย์ภักดี ไฉนเลยจะก่อกบฏได้?”

หัวหน้าหน่วยยึดทรัพย์เจียงเต๋อจื้อสบถเสียงเย็น “ฝ่าบาทมีพระกระแสรับสั่งออกจากพระโอษฐ์ของพระองค์เอง เจ้ากำลังกล่าวหาว่าฝ่าบาท ทรงวินิจฉัยผิดพลาดงั้นหรือ?”

ทุกคนไม่กล้าโวยวายอีก กอดกันร่ำไห้โอดครวญ

ทหารหลวงหลั่งไหลเข้ามา ถีบเปิดประตูเรือน ทุบทำลายข้าวของทั่วทุกสารทิศคล้ายโจรก็มิปาน ไม่ว่าที่ผ่านมาเจ้ามีตำแหน่งสูงส่งเยี่ยงไร หากถูกลงโทษยึดทรัพย์ นั่นก็คือคนต่ำต้อย

มองภาพวุ่นวายภายในจวนอ๋อง ฮูหยินผู้เฒ่าคิดห้าม แต่กลับถูกเจียงเต๋อจื้อผลักล้มลงกับพื้น กระดูกของหญิงชราเกือบหัก

ถัดมา เจียงเต๋อจื้อหรี่ตามองทางญาติฝ่ายหญิงของจวนอ๋อง

“เพื่อป้องกันมิให้พวกเจ้านำทรัพย์สินส่วนตัวออกไป ญาติฝ่ายหญิงทั้งหมดต้องเปลื้องผ้าตั้งแต่ใต้สะดือลงมาเพื่อตรวจสอบหนึ่งรอบ!”

“ไม่ได้!”

สีหน้าเหล่าญาติฝ่ายหญิงทั้งโกรธทั้งอาย

ฮูหยินผู้เฒ่าก่นด่าออกมา “เจียงเต๋อจื้อ เจ้าอย่าทำเกินเลยไปนัก ไม่ว่าอย่างไรพวกเราก็เกือบจะได้เป็นครอบครัวเดียวกัน”

“แต่พวกเจ้ากลับดูแคลนข้า”

เจียงเต๋อจื้อถูกจี้ใจดำ เขาเคยสู่ขอบุตรีของฮูหยินผู้เฒ่าซูหวู่อวิ๋น เพียงเพื่อปีนป่ายเกาะกิ่งสูงเฉกเช่นจวนอ๋องนี้ ใครจะรู้ว่าจวนอ๋องกลับปฏิเสธเขาแล้ว!

วันนี้เขามาเพื่อลบล้างความอับอายนี้

เจียงเต๋อจื้อขยับขึ้นไปจับบุตรีคนเล็กของบ้านใหญ่สกุลซูซูหรานหร่าน ต้องการถกชุดกระโปรงของนางลง

“อย่านะ! ท่านพ่อท่านแม่ท่านพี่ช่วยข้าด้วย...”

“ข้าจะสู้ตายกับพวกเจ้า!”

ฝ่ายชายของบ้านใหญ่ยกเก้าอี้ปรี่ถลาเข้าไป แต่กลับถูกทหารหลวงขวางไว้ ทำได้เพียงมองซูหร่านหรานถูกหยามเกียรติตาแดงก่ำ

ในช่วงเวลาสำคัญนี้เอง กู้หว่านเยว่ปรากฏตัวออกมาและยื่นมือออกไป หักข้อมือเจียงเต๋อจื้อโดยตรง

“บัดซบ เจ้าเป็นใครกัน?” หน้าตานับว่างดงามมาก?

“ย่าของเจ้า ชายาเจิ้นเป่ยอ๋อง!”

กู้หว่านเยว่กำลังแทะน่องไก่หนึ่งชิ้น ท่าทางไม่เรียบร้อย เผยความโอหังอย่างเห็นได้ชัด “เจียงเต๋อจื้อ ฝ่าบาทให้เจ้ายึดทรัพย์ มิได้ให้เจ้าสร้างความอับอายให้ญาติของท่านอ๋อง หากเจ้าอาจหาญฝ่าฝืนราชโองการ ทุกคนในจวนอ๋องเราก็ขอพังพินาศไปพร้อมเจ้า!”

ซูหรานหร่านที่มีคราบน้ำตาเกลื่อนหน้ารีบยกแจกันดอกไม้ ยืนเคียงข้างกู้หว่านเยว่

คนของบ้านอื่น ๆ ก็ยกขึ้นมาด้วย คนของบ้านรองเชื่องช้าอยู่ครู่หนึ่ง มีเพียงครอบครัวของบ้านสี่แสร้งประคองฮูหยินผู้เฒ่า มิได้ลุกขึ้นยืนไปด้วยกัน

แต่นี่ก็เพียงพอให้เจียงเต๋อจื้อสั่นสะท้านแล้ว มองกู้หว่านเยว่อย่างขุ่นเคืองแวบหนึ่ง ระบายโทสะทั้งหมดลงบนตัวผู้อยู่ใต้อาณัติ

“ยังเหม่ออันใดอยู่อีก ไปยึดของให้หมด เหล็กแม้แผ่นเดียวก็อย่าให้เหลือ!”

สกุลซูทำกิจการมานับร้อยปี เงินทองของมีค่าในคลังต้องมีไม่น้อย จะได้อาศัยโอกาสนี้ตักตวงผลประโยชน์ให้ตนเอง

ส่วนกู้หว่านเยว่หรือ ก็แค่ผู้หญิงตัวเล็กๆ เพียงคนเดียว ระหว่างทางถูกเนรเทศยังมีวิธีจัดการนาง

เจียงเต๋อจื้อผลิยิ้ม รอสมบัติถูกยกมาวางตรงหน้า

แต่ใครรู้ ทหารหลวงที่มายึดทรัพย์เพิ่งเข้าเรือนได้ไม่นาน ก็ต้องวิ่งออกมาอย่างตกตะลึงรับมือไม่ทัน

“ท่านแม่ทัพ แย่แล้ว ไฟไหม้คลังแล้ว!”

“เปลวเพลิงใหญ่เกินไป พวกผู้น้อยไม่สามารถเข้าไปได้”

“นอกจากคลังเก็บของ เรือนทุกหลัง ห้องครัว ยุ้งฉางก็ล้วนไหม้ทั้งหมดแล้ว...”

“...”

“ไม่นะ สมบัติของข้า!” เจียงเต๋อจื้อเบิกตากว้างมองเปลวเพลิงที่กำลังโหมกระหน่ำ ผลักทุกคนออกพุ่งกระโจนเข้าไปอย่างมิอาจหักใจ ต้องการช่วงชิงสมบัติออกมาสักเล็กน้อย

ถูกเปลวเพลิงบังคับให้ถอยกลับ หนีตะลีตะลานออกมา

เห็นว่าไม่สามารถหาผลประโยชน์ได้แม้แต่น้อย เขาโมโหจนตัวสั่น ชาไปหมดทั้งตัว

ไม่รู้เลยว่านี่ก็คือฝีมือของกู้หว่านเยว่ เพราะนางกังวลว่าคนยึดทรัพย์ค้นหาเงินไม่พบ แล้วจะลงโทษซูจิ่งสิงข้อห้าโยกย้ายทรัพย์สิน จึงวางเพลิงเผาคลังจนมอดไหม้

“เหตุใดจู่ๆ ไฟก็ไหม้ พวกเจ้าตั้งใจวางเพลิงใช่หรือไม่!” เจียงเต๋อจื้อบันดาลโทสะใส่ทุกคนในจวนอ๋อง

ทุกคนตกใจจนตัวสั่นเทิ้ม “ใต้เท้าปรักปรำแล้ว เรื่องนี้เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน พวกเราไหนเลยจะมีเวลาไปวางเพลิง?”

เจียงเต๋อจื้อก็รู้ว่าพวกเขามิได้ทำ แต่เพราะไม่ได้แม้เหมาเดียว ทำให้เขาโมโหจนปวดแปลบไปหมดทุกส่วน

ขณะเดียวกัน เสียงตะโกนก็ดังขึ้นที่ภายนอกประตู “ท่านอ๋องกลับมาแล้ว!”

ซูจิ่งสิงสีหน้าซีดเผือด ถูกประคองลงจากม้า เพียงผ่านเข้าจวน ก็เกือบล้มลงกับพื้น

“ท่านอ๋อง ท่านกลับมาเสียที”

ทุกคนในจวนอ๋องล้วนหันมองเขา รีบถลันเข้าไปต้องการคำอธิบาย ถามไถ่ว่าเกิดเรื่องอันใดขึ้น ไม่สนใจว่าเขาได้รับโทษถูกโบยจนใกล้ตายแล้ว

มีเพียงมารดาแท้ๆ สมองไม่ดีนางหยางและกู้หว่านเยว่ขยับขึ้นไปตรวจอาการของเขา โชคดีที่ก่อนหน้านี้กินยาถอนพิษ นับว่ารักษาชีวิตเอาไว้ได้ แต่ขาทั้งสองข้างของเขานี้...

“ท่านอ๋อง ขาของท่านยังมีความรู้สึกอยู่หรือไม่?”

ซูจิ่งสิงสติเลือนราง เจ็บปวดจนพูดไม่ออกแม้คำเดียว

เพื่อมิให้ราษฎรของต้าฉีต้องลำบากเพราะสงคราม เขาเลือกกล้ำกลืนฝืนทน

แต่คิดไม่ถึง วิธีการของฮ่องเต้ร้ายกาจถึงเพียงนี้ ทีแรกสั่งโบยเขาหนึ่งร้อยไม้ ถัดมาสั่งกรอกสุราพิษให้เขา

คิดถึงถ้อยคำของกู้หว่านเยว่ในตอนเช้า หรือนางรู้อยู่แล้วว่าวันนี้จะเกิดเรื่องใดขึ้น?

“ซูจิ่งสิงเจ้ามาถูกเวลายิ่งนัก ว่าเจ้าสั่งให้คนเผาจวนใช่หรือไม่?!”

เจียงเต๋อจื้อกำลังโมโหเป็นฟืนเป็นไฟ หยิบแส้ฟาดลงบนตัวซูจิ่งสิง คนเพิ่งถูกลงทัณฑ์มา ไหนเลยจะทนรับไหว ร่างกายกระตุกอย่างเจ็บปวด

นางหยางร้อนใจเข้าไปจับเขาไว้ “ไป เจ้าไป...”

ทว่าเจียงเต๋อจื้อจะยอมเลิกราได้อย่างไร เขาเห็นซูจิ่งสิงอยู่เหนือกว่าจนคุ้นชินแล้ว วันนี้เห็นเขาหมดอำนาจ ลำพองใจอยู่ภายในใจไม่รู้ตั้งเท่าใด ฟาดแส้แรงขึ้นเรื่อย ๆ

หยางซื่อเห็นลูกชายเจ็บปวดจนเหงื่อผุดทั่วทั้งสรรพางค์กาย เดินวนไปมาอยู่กับที่อย่างรับมือไม่ทัน ทันใดนั้นร่างกายหยุดชะงัก หันเข้าหาเจียงเต๋อจื้อแล้วคุกเข่าลงไป “ขอร้องท่าน อย่า อย่าตีอาจิ่ง เขาเจ็บ เขาเจ็บ...”

“ท่านแม่ ลุกขึ้น...”

ซูจิ่งสิงจับแขนนางหยาง แววตาเยียบเย็น แม้ว่าต้องกลายเป็นนักโทษ แต่ความน่าเกรงขามที่หลงเหลือจากสนามรบยังทำให้เจียงเต๋อจื้อกริ่งเกรงตกใจได้ดังเดิม

ไม่รอให้เจียงเต๋อจื้อไหวตัวทัน กู้หว่านเยว่ถลันขึ้นมาจากทางด้านข้าง จับคอเสื้อเหวี่ยงหมัดทีหนึ่ง ต่อยสันจมูกของเขาจนหัก

“โอ๊ย ช่วยด้วย!”

เจียงเต๋อจื้อร้องโอดครวญ พยายามดิ้นหนี คนบอบบางอ่อนแอเฉกเช่นกู้หว่านเยว่กลับมีแรงมากจนคนตกใจ หักแขนทั้งสองข้างของเขาอย่างแรง ต่อยจนฟันหน้าของเขาร่วงทั้งแถว

“เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นใคร ถึงได้กล้ารังแกคนของข้ากู้หว่านเยว่ ใครมอบความกล้าให้เจ้า!”

ต่อยเสร็จ รังเกียจมือตนเองสกปรก โยนเขาทิ้งทันที

กระแทกกับเจ้าหน้าที่ทหารที่ถลันเข้ามาพอดี

“ท่านแม่ทัพเกิดเรื่องแล้ว วังหลวงถูกปล้น ฝ่าบาทรับสั่งให้ท่านเข้าวังด่วน!”

หา?

คนยึดทรัพย์ถูกตีแสกหน้าแล้ว วังหลวงยังจะถูกปล้นทรัพย์สินอีกหรือ?

เจียงเต๋อจื้อโมโหจนกระอักเลือด รีบเดินทางเข้าวัง ก่อนจากไปยังพูดทิ้งท้ายไว้ให้กู้หว่านเยว่หนึ่งประโยค ไม่มีวันปล่อยให้นางอยู่อย่างเป็นสุข!

ส่วนพวกที่เหลือล้วนตกตะลึงเพราะวรยุทธ์ของกู้หว่านเยว่ กลืนน้ำลายแล้วก็กลืนน้ำลายอีก ขยับออกห่างจากนางเงียบๆ

เว้นเสียแต่ซูจิ่งสิง สายตายามสบมองนางเปี่ยมไปด้วยความซับซ้อน ครู่ถัดมาก็หมดสติไป

ทันใดนั้น เจ้าหน้าที่ก็ร้องตะโกนเสียงดัง

“จัดเรียงแถวนับจำนวน เตรียมตัวออกเดินทาง”

ชายถูกเนรเทศล้วนต้องถูกตีตรวนที่คอ หญิงล่ามโซ่ที่ขาป้องกันการหลบหนี นักโทษทำผิดร้ายแรงยังต้องสักอักษรคำว่าทาสลงบนหน้า

สกุลซูเพียงถูกลดฐานะเป็นสามัญชน ไปเริ่มชีวิตใหม่ที่หนิงกู่ถ่า มิใช่นักโทษ ดังนั้นจึงไม่ต้องถูกลงทัณฑ์เหล่านี้

ถัดจากเสียงคร่ำครวญ ประตูบานใหญ่ถูกปิดป้ายผนึกไว้ แผ่นป้ายสีแดงอมทองร่วงหล่นลงพื้น จวนเจิ้นเป่ยอ๋องล่มสลายแล้ว

ทว่านี่ยังไม่พอ เพียงก้าวพ้นประตู ทุกคนก็ถูกราษฎรล้อมเอาไว้
ความคิดเห็น (4)
goodnovel comment avatar
Kunticha
น่าอ่านสนุกดี
goodnovel comment avatar
Wiphawee
สนุกค่ะน่าติดตามขอบคุณมาก
goodnovel comment avatar
วรรณดี ศาลาทอง
สนุกมากค่ะขอบคุณที่เขียนนิยายให้อ่านสนุกสนุกแบบนี้ขอบคุณมากๆค่ะ
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 3

    “กบฏ ไม่ตายดี!”“สมรู้ร่วมคิดกับทูเจวี๋ย คลอดลูกชายไม่สมประกอบ!”ซูจิ่งสิงนอนกึ่งหลับกึ่งตื่นอยู่บนกระดานเกวียน รับก้อนหิน มูลแพะและผักเน่าที่โยนเข้ามาทุกทิศทาง...ยามรบชนะกลับมา เขาคือวีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ปกป้องแคว้น ราษฎรล้วนโห่ร้องแสดงความยินดีบัดนี้เขาถูกใส่ร้ายข้อหากบฏ ไม่เพียงไม่มีคนขอความเป็นธรรมแทนเขา ทุกคนยังร้องตะโกนใส่ กลายเป็นคนบาปที่ทุกคนตราหน้าหันมองไปที่คนอื่น ๆ ของสกุลซู แต่ละคนเกือบซุกหน้าลงบนบ่าแล้วฮูหยินผู้เฒ่าร้องไห้น้ำตาไหลเป็นทาง “เวรกรรม สกุลซูของข้าตกต่ำถึงขั้นนี้เชียวหรือ...”นายท่านบ้านรองซูหัวหลินอดตำหนิไม่ได้ “ล้วนต้องตำหนิจิ่งสิง อยู่ดีๆ ก็คิดไม่ตก ไปสมรู้ร่วมคิดกับกบฏขายบ้านเมือง ตอนนี้เป็นอย่างไรเล่า ทั้งครอบครัวล้วนต้องเดือนร้อนเพราะเขา ข้าเป็นคนรักศักดิ์ศรีที่สุด ถูกราษฎรกลุ่มนี้สบถด่า หน้าก็ไม่กล้าเงยขึ้นมาแล้ว ภายภาคหน้าจะใช้ชีวิตเยี่ยงไร!”นับตั้งแต่ยึดทรัพย์จนถึงตอนนี้ เริ่มแรกทุกคนยังงุนงง จนถึงตอนนี้แต่ละคนก็เกิดความคิดขึ้นมาแล้ว มีทั้งคนเชื่อว่าซูจิ่งสิงมิได้ก่อกบฏ และมีคนที่ไม่เชื่อ นายท่านรองเป็นคนแรกที่มิอาจอดกลั้นบ้านอื่นสบตากันแวบ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 4

    เสียงอิเล็กทรอนิกส์ดังขึ้นภายในสมอง ทำให้กู้หว่านเยว่ตกใจแทบแย่“เจ้าเป็นใคร?”“สวัสดีเจ้านาย ข้าเป็นผู้ดูแลระบบมิติ รับผิดชอบตอบปัญหาที่ท่านสงสัยโดยเฉพาะ”มิติคือพลังวิเศษที่นางมีตั้งแต่ชาติก่อน ทว่าแต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยได้ยินเรื่องผู้ดูแลระบบอันใด“ก่อนนี้เจ้านายอยู่ในขั้นเริ่มต้น จึงไม่ได้เปิดใช้งานฟังก์ชันของระบบ แต่อิงตามการกักตุนสินค้าเต็มพื้นที่ของท่านในวันนี้ มิติได้เปิดใช้งานผู้ดูแลระบบและอาคารทางการแพทย์ให้ท่านแล้ว”กู้หว่านเยว่หลับตาลง เพียงนึกคิดก็เข้าสู่มิติได้แล้ว ดังคาด ภายในพื้นที่กักตุนสินค้า นอกจากสิ่งของที่นางเก็บมา ก็มีอาคารทางการแพทย์เครื่องมือล้ำสมัยหลังหนึ่งทว่า เหตุใดเป็นอาคารทางการแพทย์เล่า?“ซูจิ่งสิงต้องการอาคารทางการแพทย์ เจ้าก็เปิดการใช้งานอาคารทางการแพทย์ ตกลงเจ้าของร่างคือข้าหรือซูจิ่งสิงกันแน่?”กู้หว่านเยว่ไม่สบอารมณ์อย่างมากในใจ“...” ผู้ดูแลระบบแกล้งตายไปแล้วกู้หว่านเยว่ทำเพียงสำรวจการเปลี่ยนแปลงภายในมิติ นอกจากอาคารทางการแพทย์ นางยังพบหน้าจอคล้ายศูนย์ควบคุมทำนองนั้นเพิ่มขึ้นมาในระบบอย่างหนึ่ง ข้างบนเขียนการเปิดใช้งานอาคารใหม่หลากหลายแบบอ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 5

    มีนางเป็นตัวอย่าง ทุกคนล้มเลิกความคิดแล้ว แต่ละคนกัดฟันเดินไปข้างหน้าเดินออกมาอีกราวห้าลี้ กู้หว่านเยว่เห็นนางหยางเหนื่อยจนคล้ายลาแก่ ต้องการขยับขึ้นไปช่วย แต่กลับถูกนางปฏิเสธ “หว่านเยว่ เจ้า เจ้าเหนื่อย ข้าเข็น...”“ใช่แล้วพี่สะใภ้ใหญ่ ท่านเพิ่งแต่งเข้ามาก็ต้องถูกเนรเทศไปกับพวกเรา จะยังให้ท่านลำบากอีกได้เยี่ยงไร” ซูจื่อชิงรู้ความ เรียกซูจิ่นเอ๋อร์น้องสาวมาช่วยเข็นด้วยกันใครรู้ซูจิ่นเอ๋อร์ตัวเล็กแต่อารมณ์ร้าย ใบหน้าเปี่ยมอารมณ์ไม่พอใจ “ข้าเหนื่อยจะตายแล้ว เข็นไม่ไหว ก็ควรให้กู้หว่านเยว่เข็น ใครให้นางเป็นดาวหายนะทำให้พวกเราต้องถูกเนรเทศกันเล่า”“น้องหญิง เจ้าพูดส่งเดชอันใด เรื่องนี้ตำหนิพี่สะใภ้ใหญ่ไม่ได้”ซูจื่อชิงโมโหขึ้นมาบ้างแล้ว เหตุใดน้องหญิงคิดเห็นเฉกเดียวกันกับบ้านเหล่านั้นได้เล่า?สีหน้าซูจิ่นเอ๋อร์กลับเปลี่ยนไปแล้ว รู้สึกเกลียดกู้หว่านเยว่เพิ่มมากขึ้นอีกหนึ่งส่วนอยู่ภายในใจกู้หว่านเยว่คร้านจะตามใจอารมณ์ของคุณหนูใหญ่ “เจ้าเองก็รู้ว่าพี่ใหญ่ของเจ้าเอ็นดูเจ้าที่สุด บัดนี้เขาหมดสติยังไม่ฟื้น ปรากฏว่าแม้แต่เข็นเกวียนของเขาสักเล็กน้อยเจ้าก็ไม่ยินดี ช่างเอ็นดูอย่างเสียเปล่า

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 6

    ซูจิ่งสิงไม่รู้ว่าตนตื่นตั้งแต่เมื่อไร“ดีเหลือเกิน พี่ใหญ่ ในที่สุดท่านก็ตื่นแล้ว”ซูจื่อชิงถอนหายใจด้วยความโล่งอกพี่ใหญ่ตื่นแล้ว ในที่สุดเรื่องพี่สะใภ้ใหญ่ก็มีกำลังหนุนแล้ว“พยุงข้าหน่อย” ซูจิ่งสิงยื่นมือออกมาอย่างอ่อนแรง พอนั่งพิงหัวเตียงได้แล้ว เขาก็มองดูกู้หว่านเยว่ที่ยืนอยู่คนเดียวด้วยสายตารู้สึกผิด“ขอโทษนะ”ไม่เพียงแต่ทำให้นางเดือดร้อน แต่ยังทำให้นางถูกตระกูลซูหยามเหยียดกู้หว่านเยว่สบตาเขา ตกตะลึงไปเล็กน้อยแล้วรีบร้อนพูดว่า “ไม่ต้องขอโทษข้าหรอก เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับท่าน”ยิ่งไปกว่านั้น นางเองก็ไม่สนใจวาจาของพวกคนขยะแต่นางไม่คิดว่า ซูจิ่งสิงจะปกป้องนางทว่ากลับเป็นคนอื่นๆ ในห้องที่อดกลั้นไว้ไม่ไหว และไม่สนว่าบาดแผลของซูจิ่งสิงเป็นอย่างไร กระโจนเข้ามาถามว่า“จิ่งสิง เจ้าขอโทษนางมันหมายความว่าอย่างไร? เจ้าคิดว่าพวกเราเหล่าผู้เฒ่าทำผิดหรือ?”หากไม่หย่าภรรยา หรืออยากเห็นนางทำลายตระกูลหรือ?!“รีบหย่ากับนางเสีย ขอเพียงเจ้าหย่ากับนาง พวกเรายังคงเป็นครอบครัวเดียวกัน”“...”ครอบครัวเดียวกัน?ฮะๆ... ช่างเป็นครอบครัวเดียวกันที่แสนประเสริฐยามเขายังเป็นเจิ้นเป่ยอ๋อง ไม่เ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 7

    เมื่อซูจิ่นเอ๋อกลับมา น้ำตาบนใบหน้าของนางก็เริ่มแห้ง มุมปากยังขดเม้มอย่างไม่ชอบใจอยู่เมื่อเดินผ่านกู้หว่านเยว่ นางจงใจแค่นเสียงตะคอก ก่นด่าไปหลายคำ“ดาวไม้กวาด[footnoteRef:1] บ่างช่างยุ สุนัขจิ้งจอก!” [1: หรือดาวหาง คติชนจีนบอกว่าดาวหางจะกวาดล้างผู้คน หากพบเห็น จะเกิดสงครามหรือภัยธรรมชาติ ส่วนความหมายของสมัยใหม่คือ เป็นคำสาปแช่งบุคคลที่จะนำภัยพิบัติหรือโชคร้ายมาสู่ตน มักใช้กับผู้หญิงเป็นหลัก] สุนัขจิ้งจอกนางยอมรับ แต่อีกสองคำนั้นนางไม่ยอมรับกู้หว่านเยว่เหลือบมองหญิงสาว ได้กลิ่นซาลาเปาเนื้อบนตัวของนางโชยมา พลันพูดเสียงดังว่า “ซูจิ่นเอ๋อ เหตุใดปากเจ้าจึงมันเยิ้มเช่นนั้น? เศษเนื้อเองก็ติดอยู่ที่ปาก เจ้าแอบไปกินซาลาเปาเนื้อลับหลังพวกเราหรือ?”“ไม่ ไม่ใช่เสียหน่อย!”ซูจินเอ๋อรู้สึกผิด รีบเช็ดมุมปากทันที สายตามองไปที่ซูจิ่งสิงและคนอื่นๆ โดยไม่รู้ตัว ก่อนจะได้ยินกู่หว่านเยว่ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา“เจ้าหลอกข้า?”ใบหน้าของซูจิ่นเอ๋อเปลี่ยนเป็นสีแดงด้วยความโกรธ นางกัดฟันแล้วพูดว่า“เจ้าบ่างช่างยุ รอก่อนเถอะ เจ้าจะได้มีความสุขเช่นนี้อีกไม่กี่วันแล้ว!”พี่หญิงซือซือรับปากกับนางแล้ว

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 8

    “นั่นน่ะสิ หัวหน้าใกล้จะหมดลมแล้ว นางยังพิรี้พิไรอยู่อีก”“รู้วิชาแพทย์อันใดกัน? ข้าว่านางเสแสร้งเสียมากกว่า” ชายคางแหลมคนหนึ่งกะพริบตาเล็กน้อย หยิบแส้ออกมา ตั้งใจฟาดไปที่กู้หว่านเยว่ทว่าจางเอ้อคว้าแส้ไว้ได้อย่างรวดเร็ว“เหล่าหลี ให้นางดูก่อนเถิด”เขารู้สึกว่ากู้หว่านเยว่ทำได้“นางยังเยาว์ถึงเพียงนี้ ทั้งยังเป็นอิสตรี จะรู้วิชาแพทย์ได้อย่างไร?” เหล่าหลี่ยังคงไม่ปล่อยมือกู้หว่านเยว่เลือกเซรุ่มที่ต้องการมาจากหอแห่งโอสถแล้ว เมื่อได้ยินคำเมื่อครู่ จึงมองไปหาและแดกดันว่า“เจ้ารีบห้ามข้าเช่นนี้ หรือว่าไม่อยากให้ข้ารักษาหัวหน้าของพวกเจ้าให้หายหรือ?”“เจ้า เจ้าเหลวไหล ข้าเปล่าเสียหน่อย!”เหล่าหลี่ที่ถูกคำพูดแทงก็โกรธมากเขาอายุมากกว่าซุนอู่ มีคุณสมบัติสูงกว่าซุนอู่ การคุ้มกันครั้งนี้ควรเป็นเขาที่เป็นหัวหน้า แต่เบื้องบนกลับมอบหมายงานนี้ไปให้ซุนอู่แทน...กู้หว่านเยว่มองเขาอย่างหยอกล้อ ไม่สนใจที่จะโต้เถียงกับเขา ก่อนจะหยิบเข็มฉีดยาที่บรรจุเซรุ่มออกมาจากกระเป๋าสะพายหลังแล้วปักลงไปที่แขนของซุนอู่โดยไม่ลังเลการฉีดเข้ากล้ามเนื้อ เป็นวิธีล้างพิษที่มีประสิทธิภาพที่สุดจางเอ้อไม่เคยเห็

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 9

    “ทำไมเจ้ายังไม่นอน?” “เหตุใดท่านยังไม่นอน?”ทั้งสองพูดออกมาพร้อมกันกู้หว่านเยว่เขย่างานเย็บปักในมือ “ข้าเอาผ้าขี้ริ้วมาเย็บเป็นถุงหอมเล็กๆ สักสองสามถุง แล้วจะใส่สมุนไพรป้องกันแมลงลงไปเจ้าค่ะ”ระหว่างทางเนรเทศ ผู้คนกินนอนในที่โล่ง งูเงี้ยวเขี้ยวขอมีให้ได้เห็นอยู่เรื่อยๆแมงป่องพิษวันนี้มันด้วยมิใช่หรือ?พกถุงหอมป้องกันแมลงไว้สักหน่อย จะได้ไม่โดนแมลงพิษกัดเอาพูดจบ กู้หว่านเยว่ก็ก้มหน้าเย็บถุงหอมต่อทว่าฝีมือการเรือนของนางไม่ค่อยดีนัก นางพลางเย็บพลางมุ่ยหน้า ราวกับว่ากำลังเจอกับปัญหาใหญ่ไร้ทางแก้ซูจิ่งสิงมองแล้วก็อยากจะช่วยขึ้นมา“ข้าช่วยเจ้าเย็บดีกว่า”กู้หว่านเยว่ถามเขาด้วยรอยยิ้มจางๆ “ท่านไม่กลัวอับอายหรือ?”นางคิดว่าหากเขากล้าแสดงสีหน้ารังเกียจ นางจะหันหลังจากไปแน่นอน“สิ่งนี้มีอะไรน่าอับอายกัน?” ซูจิ่งสิงพูดอย่างเถรตรง “ข้าได้แต่นอนอยู่บนรถเข็น ช่วยอะไรพวกเจ้าไม่ได้ หากเรื่องเย็บปักเล็กน้อยเช่นนี้ยังรังเกียจ เช่นนั้นถึงจะเรียกว่าน่าอับอาย”อื้ม เป็นคำตอบที่สุภาพบุรุษมาก!เจอปัญหาไม่คิดกลัว กลัวเพียงยามบุรุษเจอปัญหาแล้วยังนอนอยู่บนเตียงทำตัวเป็นนายท่าน รังเกียจนั่น รั

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 10

    นางผละตัวออกจากมือของพวกนางด้วยความรู้สึกไม่สบายตัว“ท่านย่า ป้าสะใภ้รอง ข้าต้องไปแล้วเจ้าค่ะ ไม่เช่นนั้นท่านแม่จะโกรธเอาได้”เมื่อเห็นว่านางไม่เชื่อฟัง เฉียนซื่อก็เริ่มร้อนรน “แม่เจ้าเป็นแค่คนสมองทื่อคนหนึ่ง จะโกรธเกรี้ยวอะไรขึ้นมาได้?”ดวงตาของซูจิ่นเอ๋อเบิกกว้าง “ป้าสะใภ้รอง ท่านพูดถึงท่านแม่ข้าเช่นนั้นได้อย่างไร?”จิตใจของเฉียนซื่อถูกตีกระตุ้น พลันโพล่งออกมาว่า “แม่เจ้าเดิมทีก็ไม่สมประดี ยังห้ามไม่ให้คนพูดอีก ยังคิดว่าตัวเองเป็นมารดาอ๋อง ขนิษฐาอ๋องอยู่อีกหรือ?”“ท่าน……”ร่างกายของซูจิ่นเอ๋อสั่นเทา นางไม่อยากจะเชื่อเลยว่าป้าสะใภ้รองที่เคยดีกับนางถึงเพียงนั้น จะพูดออกมาเช่นนี้หันมาอีกด้าน ท่านย่าเองก็แสดงสีหน้าเย็นชาเช่นกัน สายตาที่มองนางเผยให้เห็นถึงความไม่อดทนซูจิ่นเอ๋อวิ่งหนีไปอย่างเศร้าใจกู้หว่านเยว่เพิ่งย้ายซาลาเปาเนื้อไปยังที่ที่ปลอดภัยที่อื่นเสร็จ ก็เห็นสีหน้าของซูจิ่นเอ๋อดูตื่นตระหนก“เจ้าเป็นอะไรไป?”แม้ว่าจะไม่อยากสนใจนางหนูนี่ แต่นางยังเล็กเพียงนี้ก็ต้องติดตามโดนเนรเทศ จึงอดไม่ได้ที่จะถามไถ่ออกมาสักคำซูจิ่นเอ๋อเม้มริมฝีปาก เหลือบมองกู่หว่านเยว่ ทันใดนั้นก็พ

บทล่าสุด

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1288

    “เจ้า?”สายตาของนางโจวสั่นไหวเล็กน้อย สีหน้าของชายหนุ่มตรงหน้าดูจริงใจอย่างยิ่ง ดวงตาเป็นประกาย แต่นางจำไม่ได้ว่านางเคยพูดคุยอะไรกับเฉินเถียนสุ่ย“แม่นางโจว เจ้าเป็นคนหมู่บ้านข้าง ๆ พวกเรา”ใบหูของเฉินเถียนสุ่ยแดงระเรื่อ“จริง ๆ แล้ว ข้ารู้จักเจ้ามานานแล้ว ครั้งหนึ่งข้าเดินผ่านหมู่บ้านของเจ้า เห็นเจ้ากำลังซักผ้าอยู่ริมแม่น้ำ”ตอนนั้นเขาตกหลุมรักนางโจวตั้งแต่แรกพบ แต่น่าเสียดายที่ยังไม่ทันได้ไปสู่ขอ สกุลโจวก็ยกนางให้แต่งงานกับลูกพี่ลูกน้องของเขาเสียก่อนเฉินเถียนสุ่ยจึงทำได้เพียงเลือกที่จะอวยพรแต่ในตอนนี้ โอกาสของเขามาถึงอีกครั้งแล้ว“เฉินเถียนสุ่ย เจ้า!”เฉินอาหนิวก็เข้าใจแล้ว ไม่ใช่ว่าเฉินเถียนสุ่ยแอบมีความสัมพันธ์กับนางโจว แต่เป็นเฉินเถียนสุ่ยแอบรักนางโจวมาโดยตลอดต่างหาก“นางเป็นพี่สะใภ้ของเจ้า!”เมื่อมองไปที่ใบหน้าอันงดงามของนางโจว ทันใดนั้น เฉินอาหนิวก็รู้สึกเสียใจขึ้นมาบ้างตอนนั้นเขาก็ชอบนางโจวเพราะความงาม จึงได้ไปสู่ขอที่สกุลโจว“ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว” เฉินเถียนสุ่ยจัดปกเสื้อของตัวเอง “นางบอกแล้วว่าจะขอหย่ากับเจ้า”“ข้าไม่มีทางยอม”เฉินอาหนิวส่ายหัว ในขณะนั้นเอง ก็มีช

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1287

    เฉินอาหนิวเกิดความคิดขึ้นมาในหัว “พวกเจ้าสองคน แอบมีความสัมพันธ์กันหรือไม่?”“เจ้าบ้าไปแล้วหรือ?”เฉินเถียนสุ่ยรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระสิ้นดี“เจ้าไม่กลัวว่าจะทำลายชื่อเสียงของพี่สะใภ้หรือ?”ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความโมโห เมื่อมองไปที่นางโจว เขาก็ยิ่งรู้สึกเสียใจมากขึ้นหากรู้ตั้งแต่แรกว่าพี่ชายเป็นคนแบบนี้ ตอนนั้น เขาน่าจะแย่งเจ้าสาวมา!“ถ้าพวกเจ้าสองคนไม่ได้มีความสัมพันธ์กัน เจ้าจะมาสนใจนางทำไมกัน?”เฉินอาหนิวยิ่งคิด เขาก็ยิ่งรู้สึกว่าเป็นแบบนั้น“ข้าว่าแล้วเชียว เหตุใดตอนที่ภรรยาของข้าถูกงูกัด เจ้าถึงเป็นคนแรกที่เจอ!”เขาหันกลับไปด้วยความโมโหแล้วเดินไปหานางโจว จากนั้นเขย่าไหล่ของนางอย่างแรง“รีบพูดมา พวกเจ้าแอบทำเรื่องน่าอายกันใช่หรือไม่?”เดิมทีนางโจวก็ถูกพิษงู ทำให้รู้สึกมึนหัวอยู่แล้ว เพิ่งจะได้กินยาแก้พิษไป แต่ยายังไม่ออกฤทธิ์ ตอนนี้ยังคงรู้สึกหนาวสั่นและคลื่นไส้อยู่ เฉินอาหนิวไม่ช่วยนาง แถมยังสงสัยว่านางแอบเป็นชู้กับคนอื่นอีก ทำให้นางโกรธจนตัวสั่น“จะพูดไม่พูด พูดสิ!”มือที่หยาบกระด้างของเฉินอาหนิว จับไหล่นางเอาไว้จนเริ่มรู้สึกเจ็บ“ปล่อยนางนะ” เฉินเถียนสุ่ย

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1286

    “เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มีผลกระทบ ท่านแม่ของข้าไม่โกหกหรอก”ดวงตาของเฉินอาหนิวสั่นไหวเล็กน้อย “และข้าก็เคยถามหมอหลายคนแล้ว หมอพวกนั้นก็ไม่กล้ายืนยัน...”ลั่วยางแสดงสีหน้างุนงง แล้วหันไปมองกู้หว่านเยว่โดยไม่รู้ตัว ทั้งสองคนสบตากันกลางอากาศ ต่างรู้สึกพูดไม่ออก“ดังนั้น เจ้าเคยไปหาหมอคนอื่นมาก่อนหน้านี้แล้ว?”นางคิดว่าเฉินอาหนิวผู้นี้ถ่วงเวลาไปกว่าสองชั่วยาม จึงจะพาน้องหญิงของตนเองมาหานาง แต่ไม่คิดเลยว่า เขาเคยไปหาหมอคนอื่นมาก่อนหน้านี้แล้วนั่นก็หมายความว่า เพื่อที่จะแก้พิษให้ภรรยาสกุลเฉิน หมอคนอื่น ๆ ก็น่าจะสั่งจ่ายยาให้เช่นกัน เพียงแต่เฉินอาหนิวไม่ยอมให้ภรรยาของเขาดื่มยาต้มแก้พิษ ดังนั้นเขาจึงล้มเลิกที่จะให้หมอคนอื่น ๆ รักษา แล้วมาขอร้องนาง เพราะคิดว่านางน่าจะมีวิธีอื่นลั่วยางรู้สึกโกรธเล็กน้อยคนผู้นี้สนใจแต่ลูก ไม่สนใจชีวิตของภรรยาสกุลเฉินเลย!สายตาของนางเปลี่ยนเป็นเยือกเย็น“อยากจะแก้พิษ ก็มีแต่ต้องดื่มยาต้มเท่านั้น ไม่มีวิธีอื่น!หากเจ้าขัดขวางอีก ภรรยาของเจ้าก็จะตาย ลูกก็จะไม่รอดด้วย!”น้ำเสียงของนางเด็ดขาด เฉินอาหนิวแสดงสีหน้าลังเล“ขะ ข้าต้องการดื่มยา”ในเวลานี้ ภรรยา

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1285

    “น้องหญิงของเจ้าตั้งครรภ์หรือ?”ลั่วยางยิ่งตกใจมากขึ้น เหตุใดคนผู้นี้ถึงไม่พูดทุกอย่างให้ชัดเจนในคราวเดียว?นางจับชีพจรของภรรยาสกุลเฉิน พบว่าเป็นชีพจรของผู้ที่ตั้งครรภ์จริง ๆ ตั้งครรภ์จริง ๆ ด้วย ทว่าเรื่องนี้ไม่ได้มีผลกระทบอะไรต่อการแก้พิษ“หนาว ข้าหนาวเหลือเกิน”เวลานี้ ภรรยาสกุลเฉินก็ครางออกมาเบา ๆ นางโดนพิษ สติเลอะเลือนอย่างยิ่ง เนื่องจากโดนพิษมานานเกินไป ตอนนี้ร่างกายจึงเริ่มมีปฏิกิริยาต่อพิษ เช่น รู้สึกหนาวสั่น เป็นต้นเฉินอาหนิวจับมือของภรรยาสกุลเฉินเอาไว้แน่น แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน“น้องหญิง เจ้าอดทนหน่อยนะ ไม่ต้องห่วง ข้าพาเจ้ามาหาหมอแล้ว หมอต้องสามารถแก้พิษงูให้เจ้าได้อย่างแน่นอน”“ชะ ช่วยข้าด้วย”ภรรยาสกุลเฉินราวกับไม่ได้ยินคำพูดของเขา มองไปที่ลั่วยาง นางหายใจรวยริน แล้วเอ่ยพึมพำเบา ๆ หนึ่งประโยค“ข้าไม่อยากตาย ต้องช่วยข้าให้ได้...”เฉินอาหนิวรู้สึกอึดอัดใจเล็กน้อย “นะ นางโดนพิษจนสติเลอะเลือนแล้ว...”“ข้าจะช่วยเจ้าเอง”ลั่วยางไม่ได้ใส่ใจกับรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ เมื่อรู้ว่าภรรยาสกุลเฉินกำลังตั้งครรภ์ นางก็รีบเข้าไปหยิบยาที่ปรุงเตรียมเอาไว้แล้วอย่างรวดเร

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1284

    ชายร่างใหญ่แสดงสีหน้าร้อนรน ไม่รู้ว่าควรจะโขกศีรษะกับใครดี จึงได้แต่มองไปที่เกาเจี้ยนผู้ที่เอ่ยขึ้นก่อนหน้านี้“อาการของน้องหญิงของข้าสาหัสมากจริง ๆ ขอร้องพวกท่านช่วยชีวิตนางด้วยเถิด”เขาเผยสีหน้ากังวล ดวงตาแดงก่ำเสียแล้วคงเป็นเพราะว่าเขามีหน้าตาดุดันเกินไป ดังนั้นตอนที่เข้ามา ทุกคนจึงเข้าใจผิดคิดว่าเขามาหาเรื่อง ตอนนี้เมื่อรู้ว่าเขามาขอความช่วยเหลือ ลั่วยางจึงรีบก้าวออกมา“ข้าคือหมอหญิงลั่วที่เจ้ากำลังตามหา น้องหญิงของเจ้าเป็นอะไร? บอกมาให้ชัดเจนก่อน”ชายคนนั้นรีบคุกเข่าลงกับพื้น ร้องไห้พลางเอ่ยขึ้น “น้องหญิงของข้า น้องหญิงของข้า นางถูกงูพิษกัด เป็นงูห้าก้าว งูพิษ”“ซี้ด!”งูห้าก้าว นั่นมันงูที่สามารถคร่าชีวิตคนได้เชียวนะเมื่อลั่วยางฟังจบ ก็รีบเอ่ยขึ้น “ในเมื่อเป็นงูพิษ เช่นนั้นก็ควรจะรีบแก้พิษ”“ชะ ใช่ ควรจะรีบแก้พิษโดยเร็ว”สายตาของชายคนนั้นดูแปลก ๆ ลั่วยางไม่ได้สังเกตถึงสายตาของเขา คิดเพียงแค่ว่าการช่วยชีวิตคนสำคัญที่สุด“น้องหญิงของเจ้าอยู่ที่ไหนล่ะ? รีบพานางมาเดี๋ยวนี้เลย ข้าจะได้ตรวจดูอาการ”เมื่อได้ยินว่าลั่วยางยินดีที่จะช่วย ชายคนนั้นก็รีบก้มลงโขกศีรษะให้นาง“

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1283

    ทำสิ่งต่าง ๆ มากมายเช่นนั้น ความหมายของการช่วยเหลือประชาชน ไม่ได้อยู่ที่ตรงนี้หรอกหรือ?กู้หว่านเยว่เดินตามเกาเจี้ยนออกไป แต่เดินไปเดินมากลับรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ“พวกเราตกลงกันแล้วว่าจะไปตลาดมิใช่หรือ เหตุใดถึงพาข้ามาที่โรงหมอ?”กู้หว่านเยว่แสดงสีหน้างุนงง แต่เมื่อเห็นร่างที่คุ้นเคยกำลังวุ่นอยู่กับการทำงานในโรงหมอ ก็เข้าใจขึ้นมาทันที“แหะ ๆ ”เกาเจี้ยนเหมือนคนตัวโตที่เซ่อ ๆ ลูบหัวด้วยความเขินอาย“พระชายาอย่าได้ถือโทษ ข้าเผลอเดินมาที่นี่โดยไม่รู้ตัว”ในหัวของเขาเอาแต่คิดถึงลั่วยาง ร่างกายจึงขยับไปเองโดยไม่รู้ตัว“พี่หญิงหว่านเยว่?”ลั่วยางได้ยินเสียงเคลื่อนไหวจากด้านนอก พอเห็นเกาเจี้ยน ก็ยังรู้สึกเคอะเขินอยู่บ้าง แต่เมื่อสายตาเหลือบไปเห็นกู้หว่านเยว่ก็เปลี่ยนเป็นความดีใจ“พี่หญิงหว่านเยว่ ท่านกลับมาตั้งแต่เมื่อไร?”นางรีบวิ่งออกมา อย่างไรเสีย กู้หว่านเยว่ก็มาถึงที่นี่แล้ว จึงตัดสินใจเข้าไปดูข้างใน“เพิ่งมาถึงเมื่อคืนนี้เอง”กู้หว่านเยว่มองนางด้วยความอยากรู้อยากเห็น“เหตุใดเจ้าถึงอยู่ที่ชายแดน ไม่ได้กลับไปหรือ?”นางจำได้ว่าปรมาจารย์แพทย์ให้นางมาที่นี่เพื่อหาสมุนไพร ล

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1282

    เขายังมีเรื่องเกี่ยวกับทูเจวี๋ยที่จะต้องปรึกษากับแม่ทัพผู้เฒ่าเกาเนื่องจากทุกคนต่างรู้สึกเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางไกล ประกอบกับซูจิ่งสิงยังมีธุระที่ต้องจัดการที่ชายแดน ดังนั้นหลังจากปรึกษาหารือกันแล้ว จึงตัดสินใจพักอยู่ที่บ้านสกุลเกาอีกสองวัน“พอดีเลย ครั้งที่แล้วมาแบบรีบร้อน ยังไม่มีโอกาสได้ชมทัศนียภาพของด่านซานไห่วันนี้ได้ออกไปเที่ยวชมพอดี”กู้หว่านเยว่เปลี่ยนกลับมาใส่ชุดสตรี หยิบชุดกระโปรงยาวสีเขียวออกมาจากมิติแล้วสวมใส่ ทันใดนั้น ก็สะกดสายตาของซูจิ่งสิง“น้องหญิง วันนี้ข้าออกไปเที่ยวกับเจ้าด้วยดีกว่า”น้องหญิงงดงามเกินไป กลัวว่าคนอื่นจะมาแย่งไป ทำอย่างไรดี?ซูจิ่งสิงจ้องมองนาง น้องหญิงของนาง แม้ไม่แต่งตัวก็เป็นหญิงงามอันดับหนึ่งอยู่แล้ว พอแต่งตัวขึ้นมาเล็กน้อย ก็ยิ่งงดงามจนไม่อาจละสายตาได้“อย่ามาพูดเล่น ท่านสัญญากับข้าแล้วว่าจะไปปรึกษากับแม่ทัพผู้เฒ่าเกาให้ดี ๆ ”กู้หว่านเยว่หยิบผ้าคลุมหน้าออกมาสวม ด่านซานไห่ลมแรงทรายเยอะ นางกังวลว่าผิวจะเสียหาย“ชิงเหลียน พวกเราไปกันเถอะ”“เจ้าค่ะ” ชิงเหลียนที่กำลังเหม่อลอย รีบตามกู้หว่านเยว่ไปซูจิ่งสิงก็มีธุระต้องจัดการจริง ๆ มิเช

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1281

    สายตาของกู้หว่านเยว่ที่มองทะลุทุกสิ่ง พร้อมกับรอยยิ้มที่คลุมเครือนั้น ทำให้ใบหูของเกาเจี้ยนแดงก่ำ“พระชายา ทะ ท่านกำลังพูดอะไร?” สายตาที่หลบเลี่ยง บ่งบอกชัดเจนว่าไม่กล้าที่จะยอมรับกู้หว่านเยว่ชี้ไปที่เอวของเขา “ถุงยานี้เป็นสิ่งที่ลั่วยางพกติดตัวอยู่ตลอด”เกาเจี้ยนรีบมองไปที่เอวของตัวเอง แล้วลูบหัวอย่างเขินอาย “พระชายา สายตาของท่านช่างเฉียบคมจริง ๆ ”ในเมื่อถูกมองออกแล้ว เขาก็ไม่ปิดบังอีกต่อไป“ถุงยานี้ ข้าพยายามอย่างยากลำบากกว่าจะได้มาจากลั่วยาง”เขาหัวเราะแหะ ๆ สองที“ข้ากำลังตามจีบนางอยู่น่ะ แต่ลั่วยางยังไม่ตกลง”ดังนั้น กู้หว่านเยว่ถามเขาเมื่อครู่ เขาจึงคิดที่จะปิดบัง ไม่อยากให้ลั่วยางพบกับความยุ่งยาก“ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้”กู้หว่านเยว่ยิ้มอย่างมีเลศนัย ไม่ได้ซักถามอะไรต่อ ดึงซูจิ่งสิงให้มานั่งลงกลับเป็นซูจิ่งสิงที่มีเรื่องกังวลใจอยู่บ้าง เพียงแต่ไม่ได้แสดงออกมาในระหว่างงานเลี้ยง รอจนกระทั่งกลับห้องพักผ่อนแล้ว จึงได้เอ่ยถามกู้หว่านเยว่“น้องหญิง เกาเจี้ยนกำลังตามจีบลั่วยางหรือ?”เขาขมวดคิ้ว กู้หว่านเยว่มองแวบเดียวก็รู้ว่าเขากำลังกังวลเรื่องอะไร“ท่านกลัวว่าเขาจะถูกลั่

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1280

    กู้หว่านเยว่อาลัยอาวรณ์เล็กน้อย ซูจิ่งสิงลูบมือปลอบใจนาง “ไม่แน่อาจจะเป็นช่วงเวลาที่ทั้งสองประเทศจะได้ปรองดองกัน”ครั้นกู้หว่านเยว่ได้ยินประโยคนี้ก็อดขบขันไม่ได้ นี่คือเรื่องที่จะบอกเสี่ยวถ่านยามนางจากไปนางได้กำชับเสี่ยวถ่านเอาไว้ หากสามารถขึ้นครองบัลลังก์ได้ จะต้องทำตามข้อตกลงของพวกเขา จะให้ทูเจวี๋ยเข้ามาโจมตีต้าฉีไม่ได้ ให้ทั้งสองประเทศสามารถอยู่ร่วมกันด้วยความสามัคคีและสันติสุข“ข้าเชื่อว่าเสี่ยวถ่านจะต้องทำได้”กู้หว่านเยว่ยิ้มบาง ๆ นางเชื่อใจเด็กคนนี้มากมีเยียนอวิ๋นชูคอยช่วยเหลือเสี่ยวถ่านอยู่ เสี่ยวถ่านไม่มีทางหลงทางอย่างแน่นอนจะว่าไปแล้ว นางและเยียนอวิ๋นชูก็มีเงื่อนไขเช่นกัน...หลังจากที่รถม้าวิ่งออกจากทูเจวี๋ย ก็ตรงมาถึงชายแดนก่อนเวลานี้สองพ่อลูกสกุลเกาได้รับจดหมายของซูจิ่งสิงแล้ว จนได้รู้ว่าซูจิ่งสิงมาจากชายแดน จึงออกไปต้อนรับที่หน้าประตูเมืองเมื่อพวกเขาเห็นซูจิ่งสิงและกู้หว่านเยว่พาซูจิ่นเอ๋อร์กลับมา ก็พากันเบิกตากว้างด้วยความตกใจจนลูกตาแทบจะถลนกันออกมา“ท่านอ๋อง ข้าน้อยขอคารวะท่านอ๋องขอรับ”แม่ทัพผู้เฒ่าเการุดหน้าเข้าไปทำความเคารพก่อน จากนั้นก็มองซูจิ่งสิงด

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status