แชร์

บทที่ 10

ผู้เขียน: ฮวาฮวาตีลังกาแปล
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
นางผละตัวออกจากมือของพวกนางด้วยความรู้สึกไม่สบายตัว

“ท่านย่า ป้าสะใภ้รอง ข้าต้องไปแล้วเจ้าค่ะ ไม่เช่นนั้นท่านแม่จะโกรธเอาได้”

เมื่อเห็นว่านางไม่เชื่อฟัง เฉียนซื่อก็เริ่มร้อนรน “แม่เจ้าเป็นแค่คนสมองทื่อคนหนึ่ง จะโกรธเกรี้ยวอะไรขึ้นมาได้?”

ดวงตาของซูจิ่นเอ๋อเบิกกว้าง “ป้าสะใภ้รอง ท่านพูดถึงท่านแม่ข้าเช่นนั้นได้อย่างไร?”

จิตใจของเฉียนซื่อถูกตีกระตุ้น พลันโพล่งออกมาว่า “แม่เจ้าเดิมทีก็ไม่สมประดี ยังห้ามไม่ให้คนพูดอีก ยังคิดว่าตัวเองเป็นมารดาอ๋อง ขนิษฐาอ๋องอยู่อีกหรือ?”

“ท่าน……”

ร่างกายของซูจิ่นเอ๋อสั่นเทา นางไม่อยากจะเชื่อเลยว่าป้าสะใภ้รองที่เคยดีกับนางถึงเพียงนั้น จะพูดออกมาเช่นนี้

หันมาอีกด้าน ท่านย่าเองก็แสดงสีหน้าเย็นชาเช่นกัน สายตาที่มองนางเผยให้เห็นถึงความไม่อดทน

ซูจิ่นเอ๋อวิ่งหนีไปอย่างเศร้าใจ

กู้หว่านเยว่เพิ่งย้ายซาลาเปาเนื้อไปยังที่ที่ปลอดภัยที่อื่นเสร็จ ก็เห็นสีหน้าของซูจิ่นเอ๋อดูตื่นตระหนก

“เจ้าเป็นอะไรไป?”

แม้ว่าจะไม่อยากสนใจนางหนูนี่ แต่นางยังเล็กเพียงนี้ก็ต้องติดตามโดนเนรเทศ จึงอดไม่ได้ที่จะถามไถ่ออกมาสักคำ

ซูจิ่นเอ๋อเม้มริมฝีปาก เหลือบมองกู่หว่านเยว่ ทันใดนั้นก็พูดว่า

“ขอโทษ”

“หา?”

นางหนูนี่โดนประตูหนีบหัวเข้าให้แล้ว

มาขอโทษกันกะทันหันเช่นนี้เกิดอาเพศอะไรขึ้นกัน?

ซูจิ่นเอ๋อไม่พูดอะไร วิ่งไปหาหยางซื่อด้วยดวงตาแดงก่ำ ก่อนจะขดตัวอยู่กับพื้น ซุกหน้าอยู่ในอ้อมแขนของหยางซื่อ ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่

วันนี้ ทุกคนในตระกูลซูต้องดิ้นรนกันอยู่ทั้งคืน กว่าจะดึงที่กับดักหมูป่าออกจากมือของซูหัวหลินได้

ซูหัวหลินเจ็บจนเป็นลมไปหลายตลบ กว่าจะหลุดออกมาได้ก็ยากเย็น กลับถูกนักการจับไปเฆี่ยนตีอีกหนึ่งรอบ

ปรากฏหัวขโมยในกลุ่มผู้ถูกเนรเทศ หากไม่ลงโทษให้ถูกระเบียบ ในอนาคตจะมีคนมือเท้าไม่สะอาด[footnoteRef:1]เพิ่มมากขึ้น [1: คนที่ทำเรื่องไม่ดี]

โดยเฉพาะหลังจากนี้ อาหารจะเริ่มขาดแคลนมากขึ้น เงินทองของทุกคนก็ถูกใช้ไปจนหมด

หากปัญหานี้ไม่แก้ไขให้ดี ย่อมต้องเกิดความวุ่นวายครั้งใหญ่ตามมา

เสียงกรีดร้องดังระงมอยู่ทั้งคืน ซูหัวหลินถูกทุบตีจนเกือบตาย

กระนั้น กลับไม่มีใครเห็นใครเขาเลย

ใครไปจะเห็นใจขโมยขโจรกัน?

กลับกัน ทุกคนกลับเก็บอาหารและเงินที่ติดตัวมาไว้มิดชิดกว่าเดิม กลัวว่าจะมีคนคิดเรื่องเลวร้ายขึ้นมาอีก

กู้หว่านเยว่เดินมาทั้งวันเหนื่อยแสนเหนื่อย ทว่าบนพื้นนอนไม่สนิท นางจึงปีนขึ้นไปบนรถเข็นของซูจิ่งสิง นอนหลับอยู่ข้างๆ เขา

ครึ่งคืนนั้นต่อให้โวยวายอย่างไร นางก็ไม่แม้แต่จะตื่นขึ้นมา

เมื่อฟ้าสว่างขึ้นเล็กน้อย นักการก็ตะโกนว่า “ตื่นกันได้แล้ว ตื่น ตื่นมาเก็บของเสีย เตรียมออกเดินทาง”

ได้ยินเสียงนี้ ทุกคนก็ตื่นมาจากความฝัน

หนึ่งคืนผ่านไป ไม่เพียงแต่ร่างกายยังไม่คลายล้า แต่กลับรู้สึกเจ็บมากขึ้นอีกต่างหาก

ขยับมือเท้าสักหน่อยก็สะดุ้งกันจนตัวโยน เสียงครวญครางโอดโอยดังอยู่รอบตัว

มือเท้าของกู้หว่านเยว่เองก็ไม่ปกติดีนัก ออกกำลังกายมือเท้าแล้ว ก็พลันมองเห็นถุงหอมวางอยู่บนรถเข็น นางมองดูซูจิ่งสิงด้วยสีหน้าประหลาดใด

“ท่านเย็บถุงหอมทั้งหมดเสร็จแล้วหรือ?”

แม้รอยเย็บจะบิดเบี้ยวไปบ้าง แต่ก็มองออกว่าตั้งใจอย่างยิ่ง

ซูจิ่งสิงที่เห็นว่านางดีใจ ในใจก็มีความสุขขึ้นมาเล็กน้อย แต่ไม่แสดงออกบนสีหน้า “เมื่อคืนนี้นอนไม่หลับ เลยเพลินมือเย็บถุงหอมเสร็จสองอันพอดี”

นี่มันเพลินมือที่ไหนกัน? ต้องทำอยู่นานมากแน่ๆ!

“สามี ท่านดีเหลือเกินเจ้าค่ะ!”

กู้หว่านเยว่ก้มศีรษะลง จุมพิตเขาไปหนึ่งที ฉวยโอกาสเอาเปรียบเขามานิดหน่อย

ซุนอู่ที่มาขอบคุณบังเอิญเห็นฉากตรงหน้านี้ก็สำลักน้ำลายพัลวัน ประเจิดประเจ้อเหลือเกิน

“แม่นางน้อยกู้ เมื่อวานนี้ขอบคุณท่านที่ช่วยเหลือ เมื่อคืนนี้ข้าไร้เรี่ยวแรงลุกไม่ไหว จึงไหว้วานจางเอ้อมาขอบคุณท่านแทน ต้องขอโทษด้วยขอรับ”

แม้จะกำลังพูดขอบคุณ แต่ใบหน้าของเขากลับแข็งทื่อ เห็นได้ชัดว่าจะรับมือกับเหตุการณ์เมื่อครู่นี้นั้นไม่ง่ายนัก

“เล็กน้อยเจ้าค่ะ เพียงบังเอิญที่ว่าตัวข้ามีวิชาแพทย์ติดตัวอยู่บ้างเท่านั้น”

กู้หว่านเยว่พูดกับซุนอู่แต่มือไม่ได้ว่างงาน รีบใส่หญ้าสมุนไพรที่เก็บมาเมื่อวานลงในถุงหอม

ซุนอู่ตาไว

“แม่นางน้อยกู้ นี่คือสิ่งใดหรือ?”

“นี่คือสมุนไพรป้องกันแมลงพิษ บรรจุใส่ถุงหอม พกไว้กับตัว แมลงมีพิษที่ได้กลิ่นก็จะไม่มาเข้าใกล้”

เมื่อซุนอู่ได้ยิน ดวงตาคมก็เผยให้เห็นถึงความคิดที่ลึกซึ้ง

พวกเขาที่เป็นนักการ รับผิดชอบดูแลนักโทษที่ถูกเนรเทศ ถูกแมลงมีพิษกัดเข้าสักนิดหน่อยย่อมไม่ใช่เรื่องแปลก

หากโชคดี ถูกแมลงมีพิษที่พิษไม่รุนแรงกัดเข้า ทนปวดแสบปวดร้อนสักวันสองวันก็หายดี

ทว่าหากโชคร้าย ก็มิวายเป็นเช่นเดียวกับที่เขาเมื่อวานนี้ เกือบได้สิ้นชีวิต

หากมีถุงหอมป้องกันแมลงพิษ ก็จะช่วยคุ้มครองพวกเขายามเดินทางให้ปลอดภัยขึ้นมาสักเปลาะหนึ่ง

ซุนอู่เหลือบมองใบหน้าของกู้หว่านเยว่ เขารู้สึกได้ว่าผู้หญิงตรงหน้านี้อารมณ์รุนแรงมาก

หากบีบบังคับนาง รังแต่จะสร้างเรื่องให้ตนเอง

เขาถามด้วยน้ำเสียงปรึกษาว่า

“แม่นางน้อยกู้ ถุงหอมป้องกันแมลงพิษของท่านยังมีเหลืออยู่บ้างหรือไม่ขอรับ? สามารถแบ่งให้พวกเรานักการสักหน่อยได้หรือเปล่า?

ท่านวางใจ พวกเราไม่เอาไปเปล่าๆ แน่นอน

ราคาเท่าไหร่หรือ? ท่านบอกราคามา พวกเราซื้อเอง”

กู้หว่านเยว่เลิกคิ้ว จุดประสงค์ของซุนอู่ นางเข้าใจดี เพียงแต่หญ้าสมุนไพรพวกนี้ล้วนแต่เป็นพวกไร้ราคา

กู้หว่านเยว่กล่าวด้วยความเสียดาย

“ถุงหอมมีเพียงสองถุง เกรงว่าจะไม่มีให้พวกท่านแล้วเจ้าค่ะ”

ซุนอู่ผิดหวังเล็กน้อย

“แต่หญ้าสมุนไพรที่ใส่ในถุงหอม ข้ายังมีเหลือ พวกท่านเอาไปใช้ได้ สร้างถุงหอมขึ้นมาเอง แล้วใส่มันลงไป เช่นนั้นก็บป้องกันแมลงได้เหมือนกัน”

“เช่นนั้นก็ดียิ่ง!”

ใบหน้าของซุนอู่ปรากฏรอยยิ้มอีกครั้ง เมื่อเห็นกู้หว่านเยว่เดินไปเอาหญ้าสมุนไพรที่รถเข็น เขาก็หยิบเงินออกมาจากถุงเงิน แต่กู้หว่านเยว่กลับโบกมือให้เขา

“หญ้าสมุนไพรพวกนี้มีค่าไม่กี่ตำลึง ข้าเก็บมาจากข้างทางทั้งนั้น มอบให้พวกท่านแล้ว”

“เช่นนี้จะดีหรือ?”

ซุนอู่ดูตกใจ แต่ในใจก็รู้ดีว่ากู่หว่านเยว่พูดจริง เพราะพวกเขาต้องการหญ้าสมุนไพรพวกนี้จริงๆ จึงไม่ได้ดึงดันปฏิเสธ รับหญ้าสมุนไพรไป

“แม่นางน้อยกู้ ข้าคือหัวหน้านักการของนักโทษเนรเทศ หากระหว่างทางท่านมีปัญหาอันใด บอกข้าได้เสมอ

ขอเพียงไม่เกินกว่าหน้าที่รับผิดชอบของข้า ข้าจะพยายามช่วยเหลือเต็มที่”

ยังไม่ต้องพูดถึงกู้หว่านเยว่ที่มีบุญคุณช่วยชีวิตเขา

แต่หากหมอยาคนนี้เจ็บไข้ได้ป่วยขึ้นมาระหว่างทางเนรเทศ เช่นนั้นก็เป็นภัยร้ายแรงแล้ว!

ดวงตาของกู้หว่านเยว่สว่างวาบ “ข้ามีเรื่องจะขออยู่จริงๆ หวังว่าท่านขุนนางจะยินยอม”

“ท่านพูด”

“ข้าสามารถซื้อหม้อจากท่านขุนนาง ทำอาหารทานระหว่างทางได้หรือไม่เจ้าคะ?”

วันเวลายังยาวนาน ไม่อาจกินแผ่นแป้งไส้เนื้อเย็นเฉียบ หรือซื้อซาลาเปาเนื้อจากนักการได้ทุกวัน

“มีเพียงคำขอเล็กน้อยนี้หรือ?” ซุนอู่ตกตะลึง บอกให้คนนำหม้อเหล็กเล็กๆ มาให้กู่หว่านเยว่โดยไม่ลังเล จากนั้นก็หยิบหญ้าสมุนไพรแล้วกลับไป

ซูจือชิงและหยางซื่อฟังการสนทนาเมื่อครู่นี้ไม่ขาดตก ซูจือชิงกล่าวออกมาด้วยสีหน้านับถือ

“พี่สะใภ้ใหญ่ ท่านเก่งกาจมากจริงๆ!

ถึงขั้นสานสัมพันธ์อันดีกับพวกนักการได้จริงๆ!”

นักการเหล่านี้ปกติดื้อรั้นอย่างกับอะไรดี แต่พวกเขากลับฟังคำพี่สะใภ้ เรื่องนี้เกิดขึ้นได้ยากนัก เห็นได้ชัดว่าพวกเขาเองก็ชื่นชมวิชาแพทย์ของพี่สะใภ้ใหญ่มากเช่นกัน

แม้ว่าซูจิ่นเอ๋อจะไม่พูดอะไร แต่ดวงตาของนางที่มองกู้หว่านเยว่ กลับทอประกายระยับ

กู้หว่านเยว่มอบหญ้าสมุนไพรที่เหลือให้พวกเขา ให้พวกเขาเย็บถุงหอมด้วยตนเอง
ความคิดเห็น (2)
goodnovel comment avatar
Dumpjea
เยี่ยม ผูกสัมพันธ์ได้แล้ว หลังจากนี้ เวลาเดินทางน่าจะดีขึ้น
goodnovel comment avatar
วรรณดี ศาลาทอง
สนุกมากมากค่ะ
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 11

    กู้หว่านเยว่ไม่ได้ช่วยซูจื่อชิงและซูจิ่นเอ๋อเย็บถุงหอมบนเส้นทางการเนรเทศ ไม่มีคุณชายและคุณหนูผู้สูงส่ง ทุกคนต้องลงมือทำทุกอย่างด้วยตัวเองซูจื่อชิงรับถุงหอม จากนั้นไปขอคำแนะนำจากนางหยางซูจิ่นเอ๋อลังเลครู่หนึ่ง แต่ก็ไม่ได้ด่าทออย่างรุนแรงอีกต่อไป หยิบเข็มและด้ายขึ้นมาลองเย็บดูทว่าดวงตาของนางกลับมองไปที่กู้หว่านเยว่เป็นครั้งคราว ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่เมื่อเห็นว่าขบวนยังพักอยู่ กู้หว่านเยว่หยิบผ้าขึ้นมาแล้วเดินไปที่ริมลำธาร จากนั้นก้มหน้าลงแล้วแอบหยิบยาสีฟันและแปรงสีฟันออกมาจากมิติเพื่อล้างหน้าแปรงฟันไม่แปรงฟันปากเปื้อนไปหมด นางทนไม่ได้ในที่ไม่ไกลนัก หลี่ซือซือก็กำลังวักน้ำจากลำธารมาล้างหน้าเช่นกัน หางตาเหลือบไปเห็นกู้หว่านเยว่ล้างหน้าเสร็จแล้ว และกำลังจ้องมองผิวน้ำอย่างตั้งใจ ใจของนางก็เต้นแรงขึ้นมาอาศัยจังหวะที่ไม่มีใครอยู่รอบๆ ย่องเข้าไปใกล้กู้หว่านเยว่จากด้านหลัง จากนั้นยื่นมือออกไปผลักอย่างรุนแรง“ว้าย!”เสียงกรีดร้องดังขึ้นกู้หว่านเยว่ที่มองเห็นการเคลื่อนไหวของนางจากเงาสะท้อนในน้ำตั้งแต่แรกแล้วจึงหลบไปด้านข้าง ไม่ลังเลที่จะถีบหลี่ซือซือที่กำลังเซไปเซมาลงไปในน้ำ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 12

    เพื่อที่จะจับปลา พวกเขาถึงกับไม่ไปรับโจ๊กผักจากนักการ!ไม่ได้กินข้าวเช้า แถมยังจับปลาไม่ได้อีกซวยสุด ๆ ไปเลย!กู้หว่านเยว่เหลือบมองเขา “พวกเจ้าไม่มีความสามารถจับปลาไม่ได้ มันเกี่ยวอะไรกับข้า ลูกผู้ชายตัวโตตั้งหลายคนยังทำตัวเหมือนพวกไร้ค่า”หลายคนโมโหจนแทบจะเป็นลมกับปากร้าย ๆ ของนาง แต่ก็ไม่กล้าเข้าไปหาเรื่อง ได้แต่โกรธอยู่ในใจหลังจากกินข้าวเช้าเสร็จ ทุกคนก็ออกเดินทางกันต่อซูหัวหลินถูกทุบตีทั้งคืน นอนอยู่บนพื้นในสภาพร่อแร่ ไร้เรี่ยวแรงจะขยับเขยื้อนฮูหยินผู้เฒ่าไม่อยากให้ซูอวี่แบก ส่วนบ้านรองก็ไม่มีผู้ชายคนอื่น นางจึงหันไปมองนางเฉียนแต่คาดไม่ถึงเลยว่านางเฉียนกลับร้องโอ๊ยแล้วลงไปนั่งยอง ๆ “ท่านแม่ เท้าของข้าแพลง ข้าแบกท่านพี่ไม่ไหวหรอก”“เจ้า นางสารเลว เมื่อกี้ยังกระโดดโลดเต้นอยู่เลย” ซูหัวหลินโมโหจนกระอักเลือด นี่มันชัดเจนว่านางเฉียนจงใจไม่อยากแบกเขานางเฉียนกระชับห่อของที่อยู่บนตัวแน่น “ข้าต้องแบกเงินมากมายขนาดนี้ แล้วยังต้องแบกอาหารอีก ข้าแบกท่านไม่ไหวจริง ๆ ”ซูหัวหลินเงียบเสียงตอนนี้เขาต้องพึ่งพาเงินที่ได้จากครอบครัวฝั่งแม่ของนางเฉียน ถ้าทำให้นางเฉียนโกรธ คงต้องอดตา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 13

    เดิมทีกู้หว่านเยว่ก็อยากไปซื้อของอยู่แล้ว ต่อไประหว่างทางถ้าหยิบอะไรออกมา ก็จะได้อ้างว่าเป็นของที่ซื้อมาเมื่อได้ยินคำพูดของจางเอ้อร์ นางก็รีบกลับไปที่ห้องเพื่อหยิบตะกร้าตอนจะไป ซูจิ่งสิงที่อยู่บนเตียงก็ยัดกุญแจให้นาง“เจ้าเอาอันนี้ไป หาโอกาสไปที่ลานบ้านเล็ก ๆ หลังตรอกอูอี มีของอยู่ข้างใน... เจ้าขนมันออกมาให้หมด”ขณะที่พูดประโยคสุดท้าย ซูจิ่งสิงก็มองนางอย่างลึกซึ้งแต่กู้หว่านเยว่มัวแต่ตกใจจนไม่ได้สังเกตแววตาของเขา ผู้ชายคนนี้แอบซ่อนของไว้ที่นี่ด้วยหรือ?สมกับเป็นตัวร้ายในนิยายที่มีสติปัญญาและวรยุทธ์เหนือกว่าฮ่องเต้สุนัขตัวนั้น ดูเหมือนว่าจะเตรียมทางหนีทีไล่ไว้แล้วสินะกู้หว่านเยว่อยากรู้อยากเห็นมาก “ท่านซ่อนอะไรไว้?”“เห็นแล้วก็จะรู้เอง”นักการยังคงรออยู่ข้างนอกประตู กู้หว่านเยว่ไม่สะดวกที่จะถามอะไรมากนัก จึงรับกุญแจมาแล้วรีบออกไป“บางคนนี่หน้าไม่อายจริง ๆ ไม่รู้ว่าลับหลังแอบไปประจบประแจงอะไรนักการ ถึงได้ไปซื้อของกับพวกเราได้โดยไม่ต้องจ่ายเงิน”เมื่อเห็นนักการไปลากรถ หลี่ซือซือก็พูดจาเหน็บแนมด้วยความอิจฉาคนอื่น ๆ ในอีกหลายครอบครัวเห็นกู้หว่านเยว่ช่วยซุนอู่ไว้ ในใจก็รู้ถึ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 14

    “นี่คือ?” จางเอ้อร์ยังไม่เข้าใจ“ยาสมุนไพรที่ข้าไปซื้อมาจากร้านขายยา ใช้ทาที่ขา สามารถรักษาอาการบาดเจ็บเรื้อรังที่ขาได้”จางเอ้อร์ตกตะลึง ก้มมองขาของตัวเองโดยไม่รู้ตัว ครอบครัวของเขายากจน พ่อแม่เสียชีวิตตั้งแต่ยังเด็ก ขาข้างนี้ก็ได้รับบาดเจ็บจากการถูกแผ่นหินกระแทกในขณะที่เขาพยายามหาเลี้ยงชีพปกติแล้วการเดินไม่เป็นอุปสรรค แต่ถ้าเดินมาก ๆ ก็จะเริ่มเดินกะเผลกการคุมตัวนักโทษนั้นจริง ๆ แล้วค่อนข้างไม่สะดวก แต่คนชั้นต่ำอย่างเขาไม่มีสิทธิ์จะมาเรื่องมากแม่นางกู้กลับสังเกตเห็นยิ่งไปกว่านั้น นางมาสายเพราะไปจัดยาให้เขาจางเอ้อร์ก้มหน้าลง ดวงตาแดงก่ำเล็กน้อย เขาหยิบยาที่กู้หว่านเยว่ยื่นให้มาอย่างลวกๆ“แม่นางกู้ ขอบคุณมาก”นอกจากหัวหน้าแล้ว แม่นางกู้เป็นคนแรกที่ดีกับเขาขนาดนี้“ไม่ต้องเกรงใจ ท่านก็ดูแลข้าเหมือนกัน” กู้หว่านเยว่เป็นคนแบบนี้ ไม่เอาเปรียบคนอื่น ถ้าคนอื่นดีกับนาง นางก็จะตอบแทนกลับไปเป็นสองเท่าในเมื่อจางเอ้อร์ไว้ใจนาง นางจะไม่ทำให้เขาผิดหวัง“นางจิ้งจอก ไม่รู้จริง ๆ ว่าเจ้าใช้มนตร์เสน่ห์อะไรกับพวกนักการน่ารังเกียจพวกนี้!”ในที่ไม่ไกลนัก หลี่ซือซือเห็นกู้หว่านเยว่พูดคุยก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 15

    กู้หว่านเยว่คนนี้ถึงกับสร้างบ้านด้วยมือเปล่าในถิ่นทุรกันดาร!เห็นเพียงนางหยิบเชือกป่านออกมา ผูกไว้กับลำต้นของต้นไม้สองต้นที่อยู่ใกล้กัน จากนั้นก็หยิบผ้าใบกันน้ำขนาดใหญ่มาคลี่ออก ผูกปลายทั้งสองข้างเข้ากับเชือก และใช้ก้อนหินทับด้านล่างไว้กับพื้น เพียงเท่านี้เต็นท์ขนาดเล็กก็สร้างเสร็จแล้ว“ไปกัน จื่อชิงและท่านแม่ช่วยกันพยุงท่านพ่อเข้าไปข้างใน จิ่นเอ๋อ เจ้าเอาผ้าห่มที่อยู่บนเกวียนลงมาปูให้เรียบร้อย”กู้หว่านเยว่สั่งการอย่างเป็นระบบคนของบ้านสามต่างมองนางเป็นผู้นำตัวน้อย ๆ และทำตามคำสั่งของนางทันทีนักโทษที่อยู่รอบข้างมองพวกเขาเข้าไปข้างใน นอนลงบนผ้าห่มนุ่ม ๆ แล้วหันกลับมามองพื้นดินที่ตัวเองนอนอยู่ ก็รู้สึกนอนไม่หลับขึ้นมาทันทีซุนอู่ยิ่งประหลาดใจ พวกเขาคุมนักโทษมาเป็นเวลานาน ไม่เคยเห็นใครตั้งเต็นท์กลางทางได้มาก่อน“แม่นางกู้ เต็นท์นี้กันน้ำหรือไม่?” ซุนอู่ถามด้วยความอยากรู้“แน่นอนว่ากันน้ำได้ นี่คือผ้าใบกันน้ำ ไม่ต้องพูดถึงน้ำค้าง แม้แต่น้ำฝนก็กันได้”ขณะที่กู้หว่านเยว่พูด นางก็หยิบธูปหอมออกจากบนเกวียนมาจุดไฟ จากนั้นแขวนไว้ข้างเต็นท์ เพื่อป้องกันยุงมากัดในตอนกลางคืนซุนอู่เริ่มส

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 16

    “พี่สะใภ้ใหญ่ ท่าน ท่านปิดบังซ่อนเร้นได้เก่งมาก ท่านสามารถซ่อนขาแกะย่างเอาไว้ในห่อ ท่านคือแบบอย่างที่ดีของข้า!”ซูจื่อชิงอ้าปากกล่าววาจาประจบ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเด็กคนนี้ถึงโตมากลายเป็นพ่อไก่แจ้หว่านเสน่ห์สาวไปทั่วเมืองซูจิ่นเอ๋อขยี้ตาเล็กน้อย เขาคิดว่าภาพตรงหน้าคือความฝัน “ขาแกะ ข้าไม่ได้ตาฝาดใช่ไหม ข้าได้กินขาแกะจริง ๆ ใช่ไหม....”แววตาของนางหยางเปล่งประกายและกลืนน้ำลายด้วยความตะกละตะกลามอย่างต่อเนื่อง ใบหน้าของซูจิ่งสิงยังคงนิ่งเฉยไร้ความรู้สึก แต่นัยน์ตาสีดำทะมึนคู่นั้นเต็มไปด้วยความตกใจ เขามองกู้หว่านเยว่ด้วยสายตาล้ำลึก เขามั่นใจว่าขาแกะชิ้นนี้ไม่ได้ถูกนำออกมาจากห่อกระดาษอย่างแน่นอนดูท่าการคาดเดาของเขาจะถูกต้อง....แต่ทว่าเขาก็ไม่ได้เปิดโปงกู้หว่านเยว่ ถึงอย่างไรนางก็ไม่ได้ทำร้ายพวกเขาเขาเพียงแต่แปลกใจ ทำไมกู้หว่านเยว่คนนี้ถึงได้เปลี่ยนเป็นคนละคนไม่เหมือนกับกู้หว่านเยว่ที่เขาเคยสอบสวนอยู่ในจวนโหว?“ชู่ว์ เบา ๆ หน่อย คนอื่นได้ยินหมดแล้ว”กู้หว่านเยว่ยกนิ้วชี้ขึ้นมาทาบบนริมฝีปากส่งสัญญาณ แม้ว่าตอนนี้นักการในศาลาว่าการจะยอมปิดตาข้างหนึ่งในเรื่องของพวกเขา แต่หากคนอื่นเห

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 17

    ดึกดื่นค่อนคืนที่ทุกคนกำลังนอนหลับ ทันใดนั้นท้องฟ้ายามราตรีก็เกิดปรากฏการณ์ฟ้าร้องเสียงดังสนั่น ตามมาด้วยฝนที่ตกปรอย ๆ ก่อนจะก่อตัวขึ้นเป็นฝนตกห่าใหญ่“แย่แล้ว ฝนตกหนัก....”ทุกคนต่างสะดุ้งตื่นจากความฝัน กระทั่งพบว่าตัวเองนั้นเปียกโชกไปทั้งตัวแล้วในทางกลับกันกู้หว่านเยว่ คนของบ้านสามที่นางพากลับมารับรู้เหตุการณ์ได้ล่วงหน้าจึงรีบซ่อนตัวอยู่ในกระโจม ดังนั้นจึงไม่มีใครเปียกฝนสักคนเหล่านักการในศาลาว่าการที่ซ่อนตัวอยู่ในกระโจมต่างรู้สึกตื่นเต้นอยู่ในใจ“โชคดีที่พวกเราเรียนรู้วิธีการกางกระโจมมาจากแม่นางกู้ ไม่อย่างนั้นพวกเราคงได้เปียกฝนกันหมดแล้ว”จางเอ้อร์แสดงสีหน้าพอใจซุนอู่ตอบ “อื้อ” คำเดียว แม้ว่าน้ำเสียงจะแข็งกระด้าง แต่สายตายังแฝงไปด้วยความชื่นชมกู้หว่านเยว่คนนี้มีประโยชน์มากจริง ๆ แต่เหตุการณ์นี้สร้างความไม่พอใจให้กับคนอื่น ฝนที่ตกกระหน่ำลงมาโดยไม่ทันตั้งตัว แม้แต่ที่หลบฝนพวกเขาก็ยังไม่มีผู้ใหญ่ยังเอาตัวรอดได้ แต่เด็กและอาวุโสจะทนฝนที่ตกหนักขนาดนี้ได้อย่างไร?ทางฝั่งตระกูลเหยียนที่โดนรื้อค้นก็กำลังประสบปัญหาเดียวกัน เหยียนฮูหยินอุ้มเด็กน้อยวัยห้าขวบอยู่ในอ้อมอกและซ่อ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 18

    ในตอนแรกเหยียนฮูหยินเป็นฝ่ายอาสาช่วยพวกเขาล้างหม้อและชามก่อน ต่อมาผู้อาวุโสเหยียนก็ได้เข้ามาช่วยพวกเขาลากเกวียนระหว่างเดินทางผู้อาวุโสเหยียนเป็นเพียงข้าราชการพลเรือน ถึงแม้ว่าร่างกายของเขาจะแข็งแรงสู้ซูจิ่งสิงไม่ได้ แต่ถึงอย่างไรเขาก็เป็นผู้ชาย ซึ่งต้องมีพละกำลังไม่มากก็น้อยพอมีเขาเข้ามาช่วย นางหยางและซูจื่อชิงก็เบาลงไปไม่น้อยเมื่อเป็นเช่นนี้กู้หว่านเยว่จึงไม่ต้องกังวลว่าจะลื่นโคลนที่เกิดจากหลังฝนตก หากเป็นเช่นนั้นอาจจะทำให้การเดินทางล่าช้าจนได้รับการตำหนิจากนักการในศาลาว่าการอีกทั้งนางยังพบว่าผู้อาวุโสเหยียนและซูจิ่งสิงมักจะฉวยโอกาสตอนที่ไม่มีใครเห็นแอบกระซิบกระซาบกันเห็นได้ชัดว่ากู้หว่านเยว่ตั้งใจช่วยชีวิตเหยียนซือหยวน แต่ก็ยังเข้าไปสานสัมพันธ์กับผู้อาวุโสเหยียนและซูจิ่งสิงโดยไม่ได้ตั้งใจ“ผู้อาวุโสเหยียนเคยเป็นเพื่อนกับเจ้ามาก่อนใช่หรือไม่?”ระหว่างแวะพักกลางทาง กู้หว่านเยว่ได้ยื่นกระติกน้ำให้ซูจิ่งสิงพร้อมกับถามด้วยความอยากรู้สิ้นสุดคำถามนางก็ส่ายหน้าอีกครั้งหากทั้งสองคนเป็นเพื่อนกันจริง ๆ คงไม่ต้องรอให้กู้หว่านเยว่คอยเป็นตัวกลางเชื่อมความสัมพันธ์ ให้พวกเขาติดต่อกัน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29

บทล่าสุด

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 842

    กู้หว่านเยว่อดพูดไม่ได้ว่า “โจวเซ่อเป็นคนต่ำช้าและเจ้าเล่ห์ หมายใจจะพึ่งพาความมั่งคั่งของสกุลโจว จะเป็นฝ่ายเสนอตัวขอถอนหมั้นได้ยังไง?”“เขายอม” ซูจิ่งสิงอมยิ้มกล่าว “ระหว่างชีวิตกับความมั่งคั่ง เจ้าคิดว่าเขาจะเลือกอะไร”ถึงตอนนั้นจริง ๆ เกรงว่าเขาจะไม่ใช่แค่ยินดีถอนหมั้นเท่านั้น แต่ยังคิดหาวิธีถอนหมั้นที่สมบูรณ์แบบโดยไม่ทำให้ซ่งเสวี่ยเสียหายอีกด้วยทันใดนั้นพวกเขาก็ถึงบางอ้อในทันใด แน่นอนเรื่องนี้ต้องมีคนไปบอกโจวเซ่อ ซูจิ่งสิงเสนอว่า “ข้าจะเข้าไปพูดคุยกับเขาหน่อย”กู้หว่านเยว่รีบชี้ไปที่ห้อง ซูจิ่งสิงพาฉู่เฟิงเข้าไป ไม่รู้ว่าเขาพูดอะไรกับโจวเซ่อ แต่เมื่อเขาออกมา โจวเซ่อก็ตอบตกลงเรียบร้อยแล้วไม่ใช่แค่ตอบตกลง แต่ยังยินดีไปจัดการอย่างรวดเร็วอีกด้วยกู้หว่านเยว่ขมวดคิ้ว “ไม่ใช่ว่าเขากลับเรือนไปแล้ว จะเปลี่ยนใจมาทำลายชื่อเสียงของพี่หญิงซ่งให้มัวหมองหรอกนะ?”“ไม่มีทาง” ซูจิ่งสิงส่ายหัวด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยมเว้นแต่ว่าเขาไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว และไม่อยากให้อี๋เหนียงของเขามีชีวิตอยู่ด้วยทว่าคนต่ำช้าอย่างโจวเซ่อที่ทำเพื่อความมั่งคั่งและชื่อเสียงอยู่แล้ว จะยอมตายได้อย่างไรหากยังไม่ไ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 841

    หากฝ่ายหญิงถอนหมั้น โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร ผู้คนรอบตัวก็จะคาดเดาและวิพากษ์วิจารณ์กันไปจะฆ่าโจวเซ่อตรง ๆ เลยก็ไม่ได้ ซ่งเสวี่ยสูญเสียสามีไปแล้วครั้งหนึ่ง หากคู่หมั้นยังมาตายอย่างไม่ทราบสาเหตุอีก จะต้องเป็นที่โจษจันเรื่องดวงกินผัวแน่นอนซ่งเสวี่ยกล่าวอย่างเด็ดขาด “อย่าคิดมาก ข้าเป็นคนมือสะอาด ถ้าใครอยากนินทาก็ปล่อยพวกเขาไป หรือจะให้ข้าผูกติดอยู่กับคนสารเลวนั่นจนตาย เพราะกลัวข่าวลือและคำติฉินนินทา?”สู้เจ็บแต่จบจะดีกว่า ซ่งเสวี่ยยอมถูกคนประณาม ดีกว่าให้มีความเกี่ยวข้องกับโจวเซ่อต่อไปเมื่อนึกถึงหน้าตาตอนที่เขาหว่านเสน่ห์ นางก็รู้สึกคลื่นไส้และอยากอาเจียน“ไม่ได้นะลูก”ฮูหยินผู้เฒ่าโจวส่ายหัว “คำคนน่ากลัว คนที่แยกแยะผิดชอบชั่วดีไม่ได้ อะไรที่หยาบคายก็สามารถพูดออกมาได้ทั้งนั้น”แม้แต่คำว่าหญิงสำส่อน จงใจยั่วสวาท ไม่มีมูลหมาไม่ขี้ คำพูดประเภทนี้ยังเบาไปนางถอนหายใจ “เจ้าไม่สนใจเรื่องพวกนี้ แล้วนานนานล่ะ?”“นานนาน?”นานนานสูญเสียพ่อไปแล้ว ถ้านางจะมีแม่ที่มีชื่อเสียงไม่ดีอีก ก็เลิกคิดเรื่องออกเรือนในอนาคตได้เลยใบหน้าของซ่งเสวี่ยเต็มไปด้วยความสิ้นหวังทันที ขบฟันแน่น ไม่รู้จะพูดอย่า

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 840

    เดิมทีซ่งเสวี่ยยังคิดจะปะทะกับโจวเซ่ออีกสักสองสามคำ แต่คำพูดต่อหน้าไม่กี่ประโยคเมื่อครู่ ทำให้นางรู้สึกได้ในทันใดว่าการเผชิญหน้ากับคนเช่นนี้ มันไม่มีความหมายใด ๆ เลยโจวเซ่อในขณะนี้ก็คือหมาบ้าตัวหนึ่ง จับใครได้ก็กัดไม่เลือกหน้า แล้วนางจะโต้เถียงกับหมาบ้าให้ได้อะไรขึ้นมา?“หว่านเยว่ ยกเขาให้เจ้าจัดการแล้วกัน”ซ่งเสวี่ยรู้สึกรังเกียจ รีบหมุนตัวกลับก่อนจะเดินออกไป“เสวี่ยเอ๋อร์ เสวี่ยเอ๋อร์ เจ้าทำแบบนี้กับข้าไม่ได้ ข้าเป็นคู่หมั้นของเจ้านะ!”โจวเซ่อตะโกนดังลั่น แต่เมื่อเห็นว่าซ่งเสวี่ยไม่สนใจเขา ก็เปลี่ยนเป็นการด่าทอด้วยวาจา“ซ่งเสวี่ย เจ้ามันคนสารเลว แยกแยะดีชั่วไม่ได้ ข้าต้องตาเจ้าก็นับว่าเป็นวาสนาของเจ้าแล้ว เจ้ากล้าทำแบบนี้กับข้า ต่อให้ตายเป็นผีข้าก็จะไม่ปล่อยเจ้าไปเด็ดขาด เจ้าคอยดู ตราบใดที่ข้ายังมีชีวิตอยู่ ข้าจะทำให้เจ้าอยู่ไม่เป็นสุขแน่นอน...”คำพูดเหล่านี้ของโจวเซ่อทำให้ซ่งเสวี่ยขนลุกชันทันทีนางไม่เคยคิดมาก่อนว่าคนที่ทำตัวอยู่ในกรอบมาโดยตลอดอย่างนาง จะต้องมาพบเจอหมาบ้าเช่นนี้ โชคดีที่ไม่ถูกหมาบ้าตัวนี้กัดเข้า ไม่เช่นนั้นคงจะรู้สึกเป็นทุกข์ไปทั้งชีวิตซ่งเสวี่ยเดินเข้ามา

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 839

    “ไม่ อย่านะ”เสี่ยวซือกลัวจนขาทั้งสองสั่นระริก กู้หว่านเยว่ดูชั่วร้ายราวกับว่ามีดกำลังจะกรีดลงบนตัวเขาในวินาทีถัดไป“ข้าพูดแล้ว!”เขาขมิบก้นแน่น จนแทบจะฉี่ราด“ที่คุณชายของข้าต้องการแต่งงานกับฮูหยินน้อย ก็เพราะว่าเขาได้ยินมาว่าฮูหยินน้อยเป็นธิดาสายตรงของสกุลซ่ง หากได้แต่งงานกับท่าน ไม่เพียงแต่จะได้ทรัพย์สมบัติของสกุลโจวตามขั้นตอนอย่างราบรื่นหลังจากโจวเหล่าและฮูหยินผู้เฒ่าโจวอายุครบร้อยปี แล้วก็ไม่แน่ว่าอาจจะได้ของสกุลซ่งเพิ่มเติมอีกด้วย”“เสี่ยวซือ! เจ้าอย่าพูดจาเหลวไหล เสวี่ยเอ๋อร์ เจ้าอย่าไปฟังเขาพูดจาเหลวไหล ข้าตกหลุมรักเจ้าตั้งแต่แรกเห็น ข้ารักเจ้าจากใจจริง”โจวเซ่อรีบแสดงความรู้สึกออกมา น้ำเสียงนั้นทำให้ซ่งเสวี่ยอยากหัวเราะ“ที่แท้ ท่านก็อยากกินสมบัติของผู้ไร้ทายาท!”ในขณะนี้ ซ่งเสวี่ยถึงมองเห็นความทะเยอทะยานที่โฉดชั่วของอีกฝ่ายได้อย่างแท้จริงอะไรคือรักแรกพบ อะไรคือรักเป็นอย่างยิ่ง ล้วนเป็นสิ่งจอมปลอมทั้งนั้นโจวเซ่อถูกต่อว่าจนหน้าแดงหูแดง ยั่วให้เกิดโทสะขึ้น “กินสมบัติของผู้ไร้ทายาทหมายความว่ายังไง เจ้าเป็นเพียงแม่หม้ายคนหนึ่ง ข้ายอมรับเจ้าได้ ก็นับว่าเป็นบุญวาสนาที่

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 838

    ในเมื่อโจวเซ่อกล้าทำกับนางแบบนี้ นางก็ต้องไปถามให้รู้เรื่อง“หว่านเยว่ เจ้าไปกับข้าเถิด ข้ากลัวว่าข้าคนเดียวจะรับมือไม่ไหว”ซ่งเสวี่ยค่อนข้างกลัวปากนั่นของโจวเซ่อ กู้หว่านเยว่พยักหน้า เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ข้าจะไปกับเจ้า”ทั้งสองคนนั่งลงในห้องข้าง ๆ โจวเซ่อถูกทรมานไปแล้วรอบหนึ่ง นอนคว่ำหน้ากับพื้นอย่างอ่อนแรงเมื่อเห็นกู้หว่านเยว่เข้ามา เขาอ้าปากด่าทอเป็นสิบ ๆ ครั้งชิงเหลียนถีบเข้าที่ใบหน้าของเขาโดยตรง “ไอ้สารเลว ฮูหยินของพวกเราไม่ใช่คนที่เจ้าจะด่าทอได้”โจวเซ่อรีบหันไปขอร้องซ่งเสวี่ย “เสวี่ยเอ๋อร์ ช่วยข้าด้วยเห็นข้าถูกทุบตีอย่างโหดร้ายเช่นนี้ เจ้าไม่สงสารหรือ?”ซ่งเสวี่ยหัวเราะด้วยความโมโห “ท่านคิดจะข่มเหงข้า แล้วยังจะให้ข้าช่วยท่านอีกหรือ?”“ข่มเหงอะไรกัน พูดจาน่าเกลียด”สายตาของโจวเซ่อหลบเลี่ยง กล่าวด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิด “ข้าแค่ชอบเจ้ามากเกินไป อยากครอบครองเจ้าเร็ว ๆ สิ่งที่ข้าทำทั้งหมดก็เพื่อเจ้า”ซ่งเสวี่ยแทบตกตะลึงกับความไร้ยางอายของเขาดีจริง ๆ ทำเพื่อนางกล้าพูดเรื่องข่มเหงอย่างเปิดเผยเช่นนี้ชิงเหลียนเดินเข้ามาแล้วเอ่ยขึ้น “บ่าวได้ส่งคนไปสอบสวนเขาและบ่าว

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 837

    ยามพลบค่ำ แขกเหรื่อต่างก็ลุกขึ้นกล่าวลา รถม้าทยอยออกจากจวนกู้ทีละคันอย่างต่อเนื่องก่อนขึ้นรถม้า เว่ยเสียวฉู่ยังคงอาลัยอาวรณ์ “เหยียนซือหยวน บ้านเจ้าอยู่ที่ไหน วันหลังข้าจะไปเล่นกับเจ้าที่ไหนล่ะ?”“บ้านข้าอยู่ที่หมู่บ้านสือหาน เดือนหน้าจะย้ายมาแล้ว”ดวงตาของเหยียนซือหยวนเป็นประกาย เขาฝึกยิงหนังสติ๊กมาทั้งบ่าย ในที่สุดก็ยิงออกไปได้เสียที“ครั้งหน้า เจ้าต้องสอนข้าเล่นหนังสติ๊กอีกนะ”“ได้สิ ถ้าเจ้าเรียกข้าว่าพี่เสียวฉู่ ข้าก็จะสอนเจ้า” เว่ยเสียวฉู่เท้าสะเอว ท่าทางเหมือนพี่ใหญ่“พี่เสียวฉู่” เหยียนซือหยวนเชื่อฟัง เรียกได้อย่างคล่องปากไม่ติดขัดแม้แต่น้อยเด็กน้อยทั้งสองคนร่ำลากันที่หน้าประตูอย่างอาลัยอาวรณ์ จนกระทั่งแม่เฒ่าเว่ยเปิดม่านรถม้าขึ้น แล้วตะโกนด้วยความไม่พอใจ“เว่ยเสียวฉู่ รีบขึ้นรถมาเร็ว ข้าจะรีบกลับบ้านไปเข้าห้องน้ำ”“อ๋อ”เว่ยเสียวฉู่โบกมือ จากนั้นก็วิ่งไปที่รถม้าของตัวเองอย่างใจเย็น แล้วกระโดดขึ้นรถม้า“เหยียนซือหยวน เจ้าต้องมาเล่นกับข้านะ!”แม่เฒ่าเว่ยจับหัวหลานสาวดันกลับเข้าไปในรถม้า “หลานรัก นั่นลูกชายบ้านไหนกัน เหตุใดเจ้าถึงไปเล่นกับเขา?”เว่ยเสียวฉู่รีบเอ่ยขึ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 836

    “เกิดอะไรขึ้น?”เมื่อกู้หว่านเยว่เดินมาอยู่ข้างกาย ซูจิ่งสิงก็วางแก้วเหล้าลง แล้วเอ่ยถามด้วยเสียงเบา ๆ เมื่อครู่ยังมีขุนนางและผู้มีบรรดาศักดิ์มากมายเข้ามาชนแก้ว แต่พอเห็นแววตาของเจิ้นเป่ยอ๋อง ทุกคนก็รู้จักกาลเทศะ ขอตัวออกไปกู้หว่านเยว่กระซิบข้างหูเขาสองสามประโยค ทำให้สีหน้าของซูจิ่งสิงเปลี่ยนไปทันที“เขากล้ามากถึงเพียงนี้เชียวหรือ?”“นั่นน่ะสิ” กู้หว่านเยว่ทำท่ากางมือออก “โชคดีที่โจวเซิงมาทันเวลา”สองสามีภรรยาพูดคุยกันด้วยเสียงเบา ๆ อยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็หันไปจัดการงานเลี้ยงต่อ วันนี้มีคนรู้จักมาร่วมงานเลี้ยงไม่น้อย ทั้งสกุลเหยียน สกุลหลี่ และสกุลเซิ่ง พวกเขาต่างส่งตัวแทนมากู้หว่านเยว่ถือโอกาสดึงนายท่านเหยียนมาสอนหนังสือที่สำนักศึกษาถงซัน ให้เป็นคนดูแลบัญชี ดูเหมือนจะใช้ความสามารถได้ไม่เต็มที่เลยจริง ๆ “พี่สาว” เหยียนซือหยวนกอดขาเล็ก ๆ ของกู้หว่านเยว่ ดวงตากลมโตสีดำขลับเต็มไปด้วยความชื่นชมตั้งแต่กู้หว่านเยว่และครอบครัวของพวกเขาย้ายไปอยู่ที่เมืองอวี้ เหยียนซือหยวนก็ไม่ได้เจอนางมาเป็นเวลานานแล้ว“ซือหยวน ไม่ได้เจอกันนาน เจ้าสูงขึ้นแล้ว”เด็ก ๆ โตเร็วจริง ๆ ไม่ได้เจอกันแค่ไม

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 835

    “รบกวนท่านช่วยข้า พาพี่หญิงซ่งไปที่เตียงหน่อย” กู้หว่านเยว่เรียกโจวเซิงโจวเซิงพยักหน้า ไม่พูดพร่ำทำเพลง อุ้มซ่งเสวี่ยขึ้นมา จากนั้นวางนางลงบนเตียงอย่างเบามือถึงแม้ว่าเขาจะเป็นบัณฑิต แต่รูปร่างสูงใหญ่ พละกำลังก็ไม่น้อยเลย“อืม อึดอัด...”โจวเซิงเพิ่งจะวางนางลง จู่ ๆ ซ่งเสวี่ยก็คว้าชายแขนเสื้อของเขาไว้ แล้วเอ่ยพึมพำเห็นเพียงนางที่สง่างามและสุขุมในยามปกติ เวลานี้แก้มแดงระเรื่อ ดวงตาหวานเยิ้ม เต็มไปด้วยเสน่ห์เย้ายวนชวนหลงใหล เขาอดกลืนน้ำลายไม่ได้ ใบหูแดงก่ำ ด้วยเกรงว่าจะล่วงเกินซ่งเสวี่ย เขารีบชักมือกลับ หันหลังให้ซ่งเสวี่ย แล้วพูดกับกู้หว่านเยว่ “ข้าขอออกไปรอที่หน้าประตูก่อน”กู้หว่านเยว่พยักหน้า จับชีพจรของซ่งเสวี่ย โชคดีที่ถึงแม้โจวเซ่อจะใช้เครื่องหอมปลุกกำหนัด แต่ก็ไม่ได้ใช้ของดีอะไร ฤทธิ์ยาของเครื่องหอมปลุกกำหนัดนี้จึงไม่รุนแรงนักกู้หว่านเยว่หยิบยาลดความร้อนในร่างกายออกมาจากมิติแล้วให้นางกิน จากนั้นก็ใช้เข็มเงินขับพิษออกจากร่างกาย ไม่นาน ซ่งเสวี่ยก็ค่อย ๆ สงบลงเมื่อกู้หว่านเยว่แน่ใจว่านางไม่เป็นไร จึงห่มผ้าให้นาง ก่อนจะหันหลังเดินออกไปโจวเซิงรีบก้าวไปข้างหน้าแล้วเอ่ยถ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 834

    ทันใดนั้น โจวเซ่อก็รู้สึกโกรธแค้น ความชั่วร้ายผุดขึ้นในใจ เขาคว้าเก้าอี้ตัวหนึ่งที่อยู่ข้าง ๆ ฟาดไปยังโจวเซิง“ในเมื่อเจ้าชอบยุ่งเรื่องชาวบ้านนัก เช่นนั้นเจ้าก็ตายไปเสียเถอะ!”“เจ้าบอกว่า มีบ่าวคนหนึ่งมาบอกเจ้าว่า ข้าสั่งให้เขาไปหาเจ้า แล้วบอกว่าจ้านจ้านสำรอกนมออกมาหรือ?”เมื่อเห็นสายตาสงสัยของกู้หว่านเยว่ หงเจาก็พยักหน้าอย่างงุนงง“พี่หญิงซ่งเล่า?”“ยังเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่เจ้าค่ะ นางให้บ่าวมาที่นี่ก่อน เดี๋ยวนางจะตามมาทีหลัง”หงเจาเริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติ คุณชายน้อยเล่นกับนานนานและคนอื่น ๆ อย่างสบายดี ไม่ได้สำรอกนมสักหน่อย“หรือว่าบ่าวถูกหลอกแล้ว?”สีหน้าของหงเจาเปลี่ยนทันที กู้หว่านเยว่ก็รีบกระซิบข้างหูซูจิ่งสิง “ข้าไปที่เรือนด้านหลังก่อน ท่านคอยต้อนรับแขกอยู่ข้างหน้าไปก่อน”จากนั้นก็ลุกออกจากงานเลี้ยงอย่างเงียบ ๆ แล้วเดินตรงไปยังห้องแต่งตัว“โจวเซ่อล่ะ เหตุใดจึงไม่เห็นเขา?”กู้หว่านเยว่สีหน้าไม่สู้ดีนัก ในใจรู้สึกไม่สงบ องครักษ์จันทราพุ่งตัวเข้ามา กล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “ฮูหยิน โจวเซ่อไปที่ห้องแต่งตัวขอรับ”เนื่องจากที่นั่นเป็นห้องแต่งตัวของสตรี องครักษ์จันทราจึงไม่ไ

DMCA.com Protection Status