Share

บทที่ 10

นางผละตัวออกจากมือของพวกนางด้วยความรู้สึกไม่สบายตัว

“ท่านย่า ป้าสะใภ้รอง ข้าต้องไปแล้วเจ้าค่ะ ไม่เช่นนั้นท่านแม่จะโกรธเอาได้”

เมื่อเห็นว่านางไม่เชื่อฟัง เฉียนซื่อก็เริ่มร้อนรน “แม่เจ้าเป็นแค่คนสมองทื่อคนหนึ่ง จะโกรธเกรี้ยวอะไรขึ้นมาได้?”

ดวงตาของซูจิ่นเอ๋อเบิกกว้าง “ป้าสะใภ้รอง ท่านพูดถึงท่านแม่ข้าเช่นนั้นได้อย่างไร?”

จิตใจของเฉียนซื่อถูกตีกระตุ้น พลันโพล่งออกมาว่า “แม่เจ้าเดิมทีก็ไม่สมประดี ยังห้ามไม่ให้คนพูดอีก ยังคิดว่าตัวเองเป็นมารดาอ๋อง ขนิษฐาอ๋องอยู่อีกหรือ?”

“ท่าน……”

ร่างกายของซูจิ่นเอ๋อสั่นเทา นางไม่อยากจะเชื่อเลยว่าป้าสะใภ้รองที่เคยดีกับนางถึงเพียงนั้น จะพูดออกมาเช่นนี้

หันมาอีกด้าน ท่านย่าเองก็แสดงสีหน้าเย็นชาเช่นกัน สายตาที่มองนางเผยให้เห็นถึงความไม่อดทน

ซูจิ่นเอ๋อวิ่งหนีไปอย่างเศร้าใจ

กู้หว่านเยว่เพิ่งย้ายซาลาเปาเนื้อไปยังที่ที่ปลอดภัยที่อื่นเสร็จ ก็เห็นสีหน้าของซูจิ่นเอ๋อดูตื่นตระหนก

“เจ้าเป็นอะไรไป?”

แม้ว่าจะไม่อยากสนใจนางหนูนี่ แต่นางยังเล็กเพียงนี้ก็ต้องติดตามโดนเนรเทศ จึงอดไม่ได้ที่จะถามไถ่ออกมาสักคำ

ซูจิ่นเอ๋อเม้มริมฝีปาก เหลือบมองกู่หว่านเยว่ ทันใดนั้นก็พูดว่า

“ขอโทษ”

“หา?”

นางหนูนี่โดนประตูหนีบหัวเข้าให้แล้ว

มาขอโทษกันกะทันหันเช่นนี้เกิดอาเพศอะไรขึ้นกัน?

ซูจิ่นเอ๋อไม่พูดอะไร วิ่งไปหาหยางซื่อด้วยดวงตาแดงก่ำ ก่อนจะขดตัวอยู่กับพื้น ซุกหน้าอยู่ในอ้อมแขนของหยางซื่อ ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่

วันนี้ ทุกคนในตระกูลซูต้องดิ้นรนกันอยู่ทั้งคืน กว่าจะดึงที่กับดักหมูป่าออกจากมือของซูหัวหลินได้

ซูหัวหลินเจ็บจนเป็นลมไปหลายตลบ กว่าจะหลุดออกมาได้ก็ยากเย็น กลับถูกนักการจับไปเฆี่ยนตีอีกหนึ่งรอบ

ปรากฏหัวขโมยในกลุ่มผู้ถูกเนรเทศ หากไม่ลงโทษให้ถูกระเบียบ ในอนาคตจะมีคนมือเท้าไม่สะอาด[footnoteRef:1]เพิ่มมากขึ้น [1: คนที่ทำเรื่องไม่ดี]

โดยเฉพาะหลังจากนี้ อาหารจะเริ่มขาดแคลนมากขึ้น เงินทองของทุกคนก็ถูกใช้ไปจนหมด

หากปัญหานี้ไม่แก้ไขให้ดี ย่อมต้องเกิดความวุ่นวายครั้งใหญ่ตามมา

เสียงกรีดร้องดังระงมอยู่ทั้งคืน ซูหัวหลินถูกทุบตีจนเกือบตาย

กระนั้น กลับไม่มีใครเห็นใครเขาเลย

ใครไปจะเห็นใจขโมยขโจรกัน?

กลับกัน ทุกคนกลับเก็บอาหารและเงินที่ติดตัวมาไว้มิดชิดกว่าเดิม กลัวว่าจะมีคนคิดเรื่องเลวร้ายขึ้นมาอีก

กู้หว่านเยว่เดินมาทั้งวันเหนื่อยแสนเหนื่อย ทว่าบนพื้นนอนไม่สนิท นางจึงปีนขึ้นไปบนรถเข็นของซูจิ่งสิง นอนหลับอยู่ข้างๆ เขา

ครึ่งคืนนั้นต่อให้โวยวายอย่างไร นางก็ไม่แม้แต่จะตื่นขึ้นมา

เมื่อฟ้าสว่างขึ้นเล็กน้อย นักการก็ตะโกนว่า “ตื่นกันได้แล้ว ตื่น ตื่นมาเก็บของเสีย เตรียมออกเดินทาง”

ได้ยินเสียงนี้ ทุกคนก็ตื่นมาจากความฝัน

หนึ่งคืนผ่านไป ไม่เพียงแต่ร่างกายยังไม่คลายล้า แต่กลับรู้สึกเจ็บมากขึ้นอีกต่างหาก

ขยับมือเท้าสักหน่อยก็สะดุ้งกันจนตัวโยน เสียงครวญครางโอดโอยดังอยู่รอบตัว

มือเท้าของกู้หว่านเยว่เองก็ไม่ปกติดีนัก ออกกำลังกายมือเท้าแล้ว ก็พลันมองเห็นถุงหอมวางอยู่บนรถเข็น นางมองดูซูจิ่งสิงด้วยสีหน้าประหลาดใด

“ท่านเย็บถุงหอมทั้งหมดเสร็จแล้วหรือ?”

แม้รอยเย็บจะบิดเบี้ยวไปบ้าง แต่ก็มองออกว่าตั้งใจอย่างยิ่ง

ซูจิ่งสิงที่เห็นว่านางดีใจ ในใจก็มีความสุขขึ้นมาเล็กน้อย แต่ไม่แสดงออกบนสีหน้า “เมื่อคืนนี้นอนไม่หลับ เลยเพลินมือเย็บถุงหอมเสร็จสองอันพอดี”

นี่มันเพลินมือที่ไหนกัน? ต้องทำอยู่นานมากแน่ๆ!

“สามี ท่านดีเหลือเกินเจ้าค่ะ!”

กู้หว่านเยว่ก้มศีรษะลง จุมพิตเขาไปหนึ่งที ฉวยโอกาสเอาเปรียบเขามานิดหน่อย

ซุนอู่ที่มาขอบคุณบังเอิญเห็นฉากตรงหน้านี้ก็สำลักน้ำลายพัลวัน ประเจิดประเจ้อเหลือเกิน

“แม่นางน้อยกู้ เมื่อวานนี้ขอบคุณท่านที่ช่วยเหลือ เมื่อคืนนี้ข้าไร้เรี่ยวแรงลุกไม่ไหว จึงไหว้วานจางเอ้อมาขอบคุณท่านแทน ต้องขอโทษด้วยขอรับ”

แม้จะกำลังพูดขอบคุณ แต่ใบหน้าของเขากลับแข็งทื่อ เห็นได้ชัดว่าจะรับมือกับเหตุการณ์เมื่อครู่นี้นั้นไม่ง่ายนัก

“เล็กน้อยเจ้าค่ะ เพียงบังเอิญที่ว่าตัวข้ามีวิชาแพทย์ติดตัวอยู่บ้างเท่านั้น”

กู้หว่านเยว่พูดกับซุนอู่แต่มือไม่ได้ว่างงาน รีบใส่หญ้าสมุนไพรที่เก็บมาเมื่อวานลงในถุงหอม

ซุนอู่ตาไว

“แม่นางน้อยกู้ นี่คือสิ่งใดหรือ?”

“นี่คือสมุนไพรป้องกันแมลงพิษ บรรจุใส่ถุงหอม พกไว้กับตัว แมลงมีพิษที่ได้กลิ่นก็จะไม่มาเข้าใกล้”

เมื่อซุนอู่ได้ยิน ดวงตาคมก็เผยให้เห็นถึงความคิดที่ลึกซึ้ง

พวกเขาที่เป็นนักการ รับผิดชอบดูแลนักโทษที่ถูกเนรเทศ ถูกแมลงมีพิษกัดเข้าสักนิดหน่อยย่อมไม่ใช่เรื่องแปลก

หากโชคดี ถูกแมลงมีพิษที่พิษไม่รุนแรงกัดเข้า ทนปวดแสบปวดร้อนสักวันสองวันก็หายดี

ทว่าหากโชคร้าย ก็มิวายเป็นเช่นเดียวกับที่เขาเมื่อวานนี้ เกือบได้สิ้นชีวิต

หากมีถุงหอมป้องกันแมลงพิษ ก็จะช่วยคุ้มครองพวกเขายามเดินทางให้ปลอดภัยขึ้นมาสักเปลาะหนึ่ง

ซุนอู่เหลือบมองใบหน้าของกู้หว่านเยว่ เขารู้สึกได้ว่าผู้หญิงตรงหน้านี้อารมณ์รุนแรงมาก

หากบีบบังคับนาง รังแต่จะสร้างเรื่องให้ตนเอง

เขาถามด้วยน้ำเสียงปรึกษาว่า

“แม่นางน้อยกู้ ถุงหอมป้องกันแมลงพิษของท่านยังมีเหลืออยู่บ้างหรือไม่ขอรับ? สามารถแบ่งให้พวกเรานักการสักหน่อยได้หรือเปล่า?

ท่านวางใจ พวกเราไม่เอาไปเปล่าๆ แน่นอน

ราคาเท่าไหร่หรือ? ท่านบอกราคามา พวกเราซื้อเอง”

กู้หว่านเยว่เลิกคิ้ว จุดประสงค์ของซุนอู่ นางเข้าใจดี เพียงแต่หญ้าสมุนไพรพวกนี้ล้วนแต่เป็นพวกไร้ราคา

กู้หว่านเยว่กล่าวด้วยความเสียดาย

“ถุงหอมมีเพียงสองถุง เกรงว่าจะไม่มีให้พวกท่านแล้วเจ้าค่ะ”

ซุนอู่ผิดหวังเล็กน้อย

“แต่หญ้าสมุนไพรที่ใส่ในถุงหอม ข้ายังมีเหลือ พวกท่านเอาไปใช้ได้ สร้างถุงหอมขึ้นมาเอง แล้วใส่มันลงไป เช่นนั้นก็บป้องกันแมลงได้เหมือนกัน”

“เช่นนั้นก็ดียิ่ง!”

ใบหน้าของซุนอู่ปรากฏรอยยิ้มอีกครั้ง เมื่อเห็นกู้หว่านเยว่เดินไปเอาหญ้าสมุนไพรที่รถเข็น เขาก็หยิบเงินออกมาจากถุงเงิน แต่กู้หว่านเยว่กลับโบกมือให้เขา

“หญ้าสมุนไพรพวกนี้มีค่าไม่กี่ตำลึง ข้าเก็บมาจากข้างทางทั้งนั้น มอบให้พวกท่านแล้ว”

“เช่นนี้จะดีหรือ?”

ซุนอู่ดูตกใจ แต่ในใจก็รู้ดีว่ากู่หว่านเยว่พูดจริง เพราะพวกเขาต้องการหญ้าสมุนไพรพวกนี้จริงๆ จึงไม่ได้ดึงดันปฏิเสธ รับหญ้าสมุนไพรไป

“แม่นางน้อยกู้ ข้าคือหัวหน้านักการของนักโทษเนรเทศ หากระหว่างทางท่านมีปัญหาอันใด บอกข้าได้เสมอ

ขอเพียงไม่เกินกว่าหน้าที่รับผิดชอบของข้า ข้าจะพยายามช่วยเหลือเต็มที่”

ยังไม่ต้องพูดถึงกู้หว่านเยว่ที่มีบุญคุณช่วยชีวิตเขา

แต่หากหมอยาคนนี้เจ็บไข้ได้ป่วยขึ้นมาระหว่างทางเนรเทศ เช่นนั้นก็เป็นภัยร้ายแรงแล้ว!

ดวงตาของกู้หว่านเยว่สว่างวาบ “ข้ามีเรื่องจะขออยู่จริงๆ หวังว่าท่านขุนนางจะยินยอม”

“ท่านพูด”

“ข้าสามารถซื้อหม้อจากท่านขุนนาง ทำอาหารทานระหว่างทางได้หรือไม่เจ้าคะ?”

วันเวลายังยาวนาน ไม่อาจกินแผ่นแป้งไส้เนื้อเย็นเฉียบ หรือซื้อซาลาเปาเนื้อจากนักการได้ทุกวัน

“มีเพียงคำขอเล็กน้อยนี้หรือ?” ซุนอู่ตกตะลึง บอกให้คนนำหม้อเหล็กเล็กๆ มาให้กู่หว่านเยว่โดยไม่ลังเล จากนั้นก็หยิบหญ้าสมุนไพรแล้วกลับไป

ซูจือชิงและหยางซื่อฟังการสนทนาเมื่อครู่นี้ไม่ขาดตก ซูจือชิงกล่าวออกมาด้วยสีหน้านับถือ

“พี่สะใภ้ใหญ่ ท่านเก่งกาจมากจริงๆ!

ถึงขั้นสานสัมพันธ์อันดีกับพวกนักการได้จริงๆ!”

นักการเหล่านี้ปกติดื้อรั้นอย่างกับอะไรดี แต่พวกเขากลับฟังคำพี่สะใภ้ เรื่องนี้เกิดขึ้นได้ยากนัก เห็นได้ชัดว่าพวกเขาเองก็ชื่นชมวิชาแพทย์ของพี่สะใภ้ใหญ่มากเช่นกัน

แม้ว่าซูจิ่นเอ๋อจะไม่พูดอะไร แต่ดวงตาของนางที่มองกู้หว่านเยว่ กลับทอประกายระยับ

กู้หว่านเยว่มอบหญ้าสมุนไพรที่เหลือให้พวกเขา ให้พวกเขาเย็บถุงหอมด้วยตนเอง
ความคิดเห็น (2)
goodnovel comment avatar
Dumpjea
เยี่ยม ผูกสัมพันธ์ได้แล้ว หลังจากนี้ เวลาเดินทางน่าจะดีขึ้น
goodnovel comment avatar
วรรณดี ศาลาทอง
สนุกมากมากค่ะ
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status