Share

บทที่ 13

Author: ฮวาฮวาตีลังกาแปล
เดิมทีกู้หว่านเยว่ก็อยากไปซื้อของอยู่แล้ว ต่อไประหว่างทางถ้าหยิบอะไรออกมา ก็จะได้อ้างว่าเป็นของที่ซื้อมา

เมื่อได้ยินคำพูดของจางเอ้อร์ นางก็รีบกลับไปที่ห้องเพื่อหยิบตะกร้า

ตอนจะไป ซูจิ่งสิงที่อยู่บนเตียงก็ยัดกุญแจให้นาง

“เจ้าเอาอันนี้ไป หาโอกาสไปที่ลานบ้านเล็ก ๆ หลังตรอกอูอี มีของอยู่ข้างใน... เจ้าขนมันออกมาให้หมด”

ขณะที่พูดประโยคสุดท้าย ซูจิ่งสิงก็มองนางอย่างลึกซึ้ง

แต่กู้หว่านเยว่มัวแต่ตกใจจนไม่ได้สังเกตแววตาของเขา ผู้ชายคนนี้แอบซ่อนของไว้ที่นี่ด้วยหรือ?

สมกับเป็นตัวร้ายในนิยายที่มีสติปัญญาและวรยุทธ์เหนือกว่าฮ่องเต้สุนัขตัวนั้น ดูเหมือนว่าจะเตรียมทางหนีทีไล่ไว้แล้วสินะ

กู้หว่านเยว่อยากรู้อยากเห็นมาก “ท่านซ่อนอะไรไว้?”

“เห็นแล้วก็จะรู้เอง”

นักการยังคงรออยู่ข้างนอกประตู กู้หว่านเยว่ไม่สะดวกที่จะถามอะไรมากนัก จึงรับกุญแจมาแล้วรีบออกไป

“บางคนนี่หน้าไม่อายจริง ๆ ไม่รู้ว่าลับหลังแอบไปประจบประแจงอะไรนักการ ถึงได้ไปซื้อของกับพวกเราได้โดยไม่ต้องจ่ายเงิน”

เมื่อเห็นนักการไปลากรถ หลี่ซือซือก็พูดจาเหน็บแนมด้วยความอิจฉา

คนอื่น ๆ ในอีกหลายครอบครัวเห็นกู้หว่านเยว่ช่วยซุนอู่ไว้ ในใจก็รู้ถึงความสามารถของนาง จึงไม่ได้คิดว่ากู้หว่านเยว่ทำเรื่องน่าอับอาย ตรงกันข้าม พวกเขาต่างมองนางด้วยความชื่นชม

ถ้าสร้างสัมพันธ์ที่ดีกับนักการได้ ระหว่างทางก็คงจะสะดวกสบายไม่น้อยเลย

กู้หว่านเยว่ไม่แม้แต่จะมองหลี่ซือซือ ก้าวเท้าเดินไปที่รถลาก ยื่นมือออกไปแล้วกระโดดขึ้นไปนั่งบนรถลากเพื่อหาที่นั่งที่ดีก่อน

ปล่อยให้หลี่ซือซือยืนกระทืบเท้าด้วยความโกรธอยู่ที่เดิม

“กระทืบอะไรนักหนา จะไปซื้อของไหม ถ้าจะไปก็รีบหน่อย ทำชักช้าอยู่ได้!”

จางเอ้อร์ตะคอกใส่หลี่ซือซือ

หลี่ซือซือตัวสั่นด้วยความกลัว รีบฝืนยิ้มแล้ววิ่งมา “ข้าไป ข้าไป...”

เพราะนางชักช้า จึงไม่มีที่นั่งบนรถลากแล้ว นางจึงทำได้เพียงวิ่งตามไปข้างหลังตลอดทาง ในใจก็ยิ่งเกลียดกู้หว่านเยว่เข้าไปใหญ่

“กู้หว่านเยว่นี่มันตัวซวย ตัวซวยจริง ๆ!”

เมื่อซูเช่อได้ยินคำด่าสาปแช่งของนางก็ขมวดคิ้ว เห็นได้ชัดว่าเป็นลูกพี่ลูกน้องที่เอาแต่หาเรื่องกู้หว่านเยว่ จึงลืมขึ้นรถลาก เหตุใดถึงโทษคนอื่นได้...

ท่านแม่ยังให้เขาสนิทกับลูกพี่ลูกน้องอีก ผู้หญิงแบบนี้... เฮ้อ!

เมืองอูอวิ๋นเป็นเมืองเล็ก ๆ ไม่ค่อยเจริญ แต่โชคดีที่ข้าวสาร แป้ง ธัญพืช น้ำมัน และของจำเป็นในชีวิตประจำวันอื่น ๆ มีครบ

เนื่องจากถูกเนรเทศ พวกเขาคงไม่ซื้ออาหารสดใหม่ ทุกคนจึงเดินข้ามร้านอาหารไปยังร้านขายอาหารแห้ง ตั้งใจจะซื้อข้าวโพด มันเทศ และขนมปังชนิดต่าง ๆ ที่สามารถเก็บไว้ได้ระหว่างทาง

จางเอ้อร์พานักการไปซื้อของ แล้วนำของที่ซื้อมาไปวางบนรถลาก ส่วนคนอื่น ๆ ก็ใช้โอกาสขณะที่เขาซื้อของ หยิบเงินออกมาซื้อเสื้อผ้าและของใช้

หลี่ซือซือแม่ลูกสองคนต่างจากตระกูลซู พวกนางถูกเนรเทศมา แต่ไม่ได้ถูกยึดทรัพย์สิน จึงมีเงินติดตัวมาพอสมควร

เมื่อมาถึงร้านขายอาหารแห้ง นางซื้อของมากมาย และโยนของทั้งหมดให้ซูเช่อถือ

นางเหลือบมองกู้หว่านเยว่ด้วยหางตา แล้วพูดอย่างเสแสร้ง

“ได้ยินมาว่าตระกูลโหวตัดขาดกับเจ้าแล้ว เจ้าคงไม่มีเงินติดตัวสินะ อยากให้ข้าใจดีให้เจ้ายืมหน่อยไหม? ดูสภาพจน ๆ ของเจ้าสิ!”

“น้องสาว อย่าพูดเลย”

ซูเช่อได้ยินหลี่ซือซือด่ามาตลอดทาง ทนไม่ไหวแล้วจริง ๆ

เขามองกู้หว่านเยว่ด้วยความสงสาร “พี่สะใภ้ ข้ายังมีเศษเงินอยู่นิดหน่อย เอาไปก่อนนะ ถือว่าเป็นการตอบแทนที่ท่านช่วยชีวิตหร่านหร่านไว้ตอนที่ถูกยึดทรัพย์”

“ไม่ต้องหรอก”

กู้หว่านเยว่ยิ้มให้ซูเช่อแล้วโบกมือปฏิเสธ ส่วนเงินนางก็ไม่ได้ขาดแคลน

ซูเช่อเห็นดังนั้นก็ไม่ฝืนอีกต่อไป ถึงอย่างไรทั้งครอบครัวต้องมาลำบากเพราะบ้านสาม เขาก็รู้สึกไม่ค่อยดีนัก อีกทั้งบ้านใหญ่ของพวกเขาก็มีเงินไม่มาก ในเวลานี้ก็ต้องเอาตัวเองให้รอดก่อน

กู้หว่านเยว่มองไปรอบ ๆ ไม่มีอะไรอยากซื้อ แต่เพื่อไม่ให้เป็นที่สงสัย จึงแกล้งทำเป็นซื้อของเล็กน้อย

ส่วนใหญ่เป็นข้าวโพดและมันเทศ สามารถนำไปย่างกินระหว่างทางได้ รสชาติก็ไม่เลว

นางยังซื้อน้ำตาลแดงเล็กน้อย น้ำตาลแดงสามารถเติมพลังได้ ทหารที่ออกรบก็ขาดน้ำตาลแดงไม่ได้ ในช่วงเวลาสำคัญอาจจะดีกว่าอาหารเสียอีก

“สิ้นเปลืองเงิน มีเงินแต่ไม่ซื้ออาหาร ดันไปซื้อน้ำตาลแดง ตะกละ”

หลี่ซือซือกลอกตา “อ๋อ จริงสิ เจ้าอาจจะไม่มีเงินด้วยซ้ำ”

นางรอที่จะดูเรื่องตลกของกู้หว่านเยว่ แต่กลับเห็นกู้หว่านเยว่ค่อย ๆ หยิบตั๋วเงินห้าสิบตำลึงออกมาจากอก

มูลค่าของตั๋วเงินนั้นมากกว่าที่นางหยิบออกมาเสียอีก

“เจ้าเอาเงินมาจากไหน?” หลี่ซือซือมองด้วยสายตาดุร้าย ที่แท้นางแกล้งทำเป็นจนมาตลอด

“เรื่องของข้า”

กู้หว่านเยว่วางของที่ซื้อมาไว้บนรถลากด้วยกัน จากนั้นลูบกุญแจที่อยู่ในอกอย่างเงียบ ๆ เห็นว่าฟ้าเริ่มจะมืดแล้ว ถ้าไม่รีบไปเก็บของ ก็จะไม่มีเวลาแล้ว

นางก้าวไปหาแล้วกล่าวกับจางเอ้อร์

“พี่จางเอ้อร์ ข้าอยากไปซื้อของอย่างอื่นคนเดียว ของใช้สำหรับผู้หญิงน่ะ”

ขณะพูดประโยคนี้ กู้หว่านเยว่ก็ไม่ได้คาดหวังอะไรมาก เพราะแค่ได้ออกมาซื้อของก็ถือว่าใจดีมากแล้ว

ถ้าจางเอ้อร์ไม่เห็นด้วย นางค่อยมาใหม่ตอนกลางคืน เพียงแต่ไม่แน่ใจว่าพวกเขาจะออกจากเมืองอูอวิ๋นวันนี้หรือไม่ ถ้ามาอีกครั้งก็จะลำบากกว่าเดิม

แต่คาดไม่ถึงเลยว่าจางเอ้อร์จะพูดง่ายมาก “กลับมาภายในครึ่งชั่วยาม”

กู้หว่านเยว่รู้สึกซาบซึ้งใจ “ขอบคุณมาก”

นางเข้าใจว่านี่เป็นความไว้วางใจที่จางเอ้อร์มีให้นาง หยิบตะกร้าแล้วเดินไปที่ตรอกอูอี

“ท่านนักการ ข้าขอไปดูร้านเสื้อผ้าข้าง ๆ ได้ไหม?” หลี่ซือซือเข้ามาขอร้อง

ตอนที่นางออกเดินทางก็ไม่ได้เก็บเสื้อผ้าอะไรเลย เสื้อผ้าที่สวมก็เกือบจะขาดหมดแล้ว ซึ่งสำหรับคนที่รักสวยรักงามอย่างนาง นี่เป็นเรื่องที่ทนไม่ได้

“ฝันไปเถอะ!”

จางเอ้อร์ด่านางอย่างสาดเสียเทเสีย ทำเอาหลี่ซือซือน้ำตาคลอ

“ทำไมกู้หว่านเยว่ไปได้ แล้วข้าไปไม่ได้?”

เมื่อได้ยินคำพูดนี้ซูเช่อก็รู้สึกกลัว หลี่ซือซือถึงกับกล้าท้าทายท่านนักการ ไม่กลัวตายหรือ?

โชคดีที่จางเอ้อร์ไม่ชอบทำร้ายคน จึงไม่ได้ฟาดแส้ใส่นาง แค่หัวเราะเยาะ

“แม่นางกู้ช่วยท่านหัวหน้าไว้ เป็นผู้มีพระคุณต่อท่านหัวหน้า เจ้าเป็นหรือไม่? ไม่ส่องกระจกดูเลยหรือว่าตัวเองมีค่าแค่ไหน ต่อไปนี้ถ้าไม่สงบเสงี่ยม ก็อย่าหวังว่าจะได้ออกมาซื้อของอีก!”

ทางด้านนี้ กู้หว่านเยว่ทำตามคำแนะนำของซูจิ่งสิงจนไปถึงลานบ้าน จากนั้นหลบหายตัวเข้าไปในลานบ้าน ใช้กุญแจเปิดประตูห้องใต้ดินแล้วรีบวิ่งเข้าไป

เมื่อนางจุดเทียนให้แสงสว่างส่องไปรอบ ๆ หนังตาก็กระตุกอย่างแรง

ดีมาก สมกับเป็นผู้ชายของนางกู้หว่านเยว่!

ที่แท้ก็สะสมเสบียงและอาวุธไว้เต็มห้องใต้ดิน ไม่แปลกใจเลยที่ขณะค้นจวนอ๋อง ไม่มีอะไรในคลังสมบัติเลย ดูท่าจะรู้ล่วงหน้าแล้วรีบย้ายออกไปก่อนแล้ว

แต่ของเยอะขนาดนี้ ซูจิ่งสิงจะให้นางขนไปหมดเลยหรือ?!

ไม่สิ ผู้ชายคนนี้รู้ว่านางมีมิติวิเศษแล้วหรือ?

กู้หว่านเยว่รู้สึกหวาดระแวงเล็กน้อย แต่ก็ไม่ปล่อยให้มือว่าง นางโบกมือเก็บของในห้องใต้ดินจนหมด

หลังจากที่แน่ใจว่าไม่มีอะไรเหลืออยู่แล้ว จึงหันหลังกลับแล้วออกไป

จากนั้นก็กะเวลาแล้วไปที่ร้านขายยา ให้หมอจัดยาสมุนไพรชนิดต่าง ๆ ตามที่นางสั่ง แล้วรีบกลับไปหากลุ่มหลัก

เหล่านักการได้ขนของขึ้นรถลากแล้ว

กู้หว่านเยว่วิ่งเข้ามา “ขอโทษที ขอโทษที ไปร้านขายยาจึงมาช้าแล้ว”

จางเอ้อร์เกาหัว “ไม่เป็นไร แม่นางกู้ขึ้นรถก่อนเถอะ พวกเรากำลังจะกลับโรงเตี๊ยมแล้ว”

“ได้” กู้หว่านเยว่ถอนหายใจ จากนั้นเอ่ยขึ้นมาทันที “จริงสิ ห่อยาสมุนไพรพวกนี้ให้ท่าน”
Comments (2)
goodnovel comment avatar
จีรพันธ์
สนุก ติดตาม ๆๆ
goodnovel comment avatar
วรรณดี ศาลาทอง
สนุกมากค่ะขอบคุณที่เปิดโอกาสให้ได้อ่านนิยายสนุกสนุกค่ะ
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 14

    “นี่คือ?” จางเอ้อร์ยังไม่เข้าใจ“ยาสมุนไพรที่ข้าไปซื้อมาจากร้านขายยา ใช้ทาที่ขา สามารถรักษาอาการบาดเจ็บเรื้อรังที่ขาได้”จางเอ้อร์ตกตะลึง ก้มมองขาของตัวเองโดยไม่รู้ตัว ครอบครัวของเขายากจน พ่อแม่เสียชีวิตตั้งแต่ยังเด็ก ขาข้างนี้ก็ได้รับบาดเจ็บจากการถูกแผ่นหินกระแทกในขณะที่เขาพยายามหาเลี้ยงชีพปกติแล้วการเดินไม่เป็นอุปสรรค แต่ถ้าเดินมาก ๆ ก็จะเริ่มเดินกะเผลกการคุมตัวนักโทษนั้นจริง ๆ แล้วค่อนข้างไม่สะดวก แต่คนชั้นต่ำอย่างเขาไม่มีสิทธิ์จะมาเรื่องมากแม่นางกู้กลับสังเกตเห็นยิ่งไปกว่านั้น นางมาสายเพราะไปจัดยาให้เขาจางเอ้อร์ก้มหน้าลง ดวงตาแดงก่ำเล็กน้อย เขาหยิบยาที่กู้หว่านเยว่ยื่นให้มาอย่างลวกๆ“แม่นางกู้ ขอบคุณมาก”นอกจากหัวหน้าแล้ว แม่นางกู้เป็นคนแรกที่ดีกับเขาขนาดนี้“ไม่ต้องเกรงใจ ท่านก็ดูแลข้าเหมือนกัน” กู้หว่านเยว่เป็นคนแบบนี้ ไม่เอาเปรียบคนอื่น ถ้าคนอื่นดีกับนาง นางก็จะตอบแทนกลับไปเป็นสองเท่าในเมื่อจางเอ้อร์ไว้ใจนาง นางจะไม่ทำให้เขาผิดหวัง“นางจิ้งจอก ไม่รู้จริง ๆ ว่าเจ้าใช้มนตร์เสน่ห์อะไรกับพวกนักการน่ารังเกียจพวกนี้!”ในที่ไม่ไกลนัก หลี่ซือซือเห็นกู้หว่านเยว่พูดคุยก

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 15

    กู้หว่านเยว่คนนี้ถึงกับสร้างบ้านด้วยมือเปล่าในถิ่นทุรกันดาร!เห็นเพียงนางหยิบเชือกป่านออกมา ผูกไว้กับลำต้นของต้นไม้สองต้นที่อยู่ใกล้กัน จากนั้นก็หยิบผ้าใบกันน้ำขนาดใหญ่มาคลี่ออก ผูกปลายทั้งสองข้างเข้ากับเชือก และใช้ก้อนหินทับด้านล่างไว้กับพื้น เพียงเท่านี้เต็นท์ขนาดเล็กก็สร้างเสร็จแล้ว“ไปกัน จื่อชิงและท่านแม่ช่วยกันพยุงท่านพ่อเข้าไปข้างใน จิ่นเอ๋อ เจ้าเอาผ้าห่มที่อยู่บนเกวียนลงมาปูให้เรียบร้อย”กู้หว่านเยว่สั่งการอย่างเป็นระบบคนของบ้านสามต่างมองนางเป็นผู้นำตัวน้อย ๆ และทำตามคำสั่งของนางทันทีนักโทษที่อยู่รอบข้างมองพวกเขาเข้าไปข้างใน นอนลงบนผ้าห่มนุ่ม ๆ แล้วหันกลับมามองพื้นดินที่ตัวเองนอนอยู่ ก็รู้สึกนอนไม่หลับขึ้นมาทันทีซุนอู่ยิ่งประหลาดใจ พวกเขาคุมนักโทษมาเป็นเวลานาน ไม่เคยเห็นใครตั้งเต็นท์กลางทางได้มาก่อน“แม่นางกู้ เต็นท์นี้กันน้ำหรือไม่?” ซุนอู่ถามด้วยความอยากรู้“แน่นอนว่ากันน้ำได้ นี่คือผ้าใบกันน้ำ ไม่ต้องพูดถึงน้ำค้าง แม้แต่น้ำฝนก็กันได้”ขณะที่กู้หว่านเยว่พูด นางก็หยิบธูปหอมออกจากบนเกวียนมาจุดไฟ จากนั้นแขวนไว้ข้างเต็นท์ เพื่อป้องกันยุงมากัดในตอนกลางคืนซุนอู่เริ่มส

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 16

    “พี่สะใภ้ใหญ่ ท่าน ท่านปิดบังซ่อนเร้นได้เก่งมาก ท่านสามารถซ่อนขาแกะย่างเอาไว้ในห่อ ท่านคือแบบอย่างที่ดีของข้า!”ซูจื่อชิงอ้าปากกล่าววาจาประจบ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเด็กคนนี้ถึงโตมากลายเป็นพ่อไก่แจ้หว่านเสน่ห์สาวไปทั่วเมืองซูจิ่นเอ๋อขยี้ตาเล็กน้อย เขาคิดว่าภาพตรงหน้าคือความฝัน “ขาแกะ ข้าไม่ได้ตาฝาดใช่ไหม ข้าได้กินขาแกะจริง ๆ ใช่ไหม....”แววตาของนางหยางเปล่งประกายและกลืนน้ำลายด้วยความตะกละตะกลามอย่างต่อเนื่อง ใบหน้าของซูจิ่งสิงยังคงนิ่งเฉยไร้ความรู้สึก แต่นัยน์ตาสีดำทะมึนคู่นั้นเต็มไปด้วยความตกใจ เขามองกู้หว่านเยว่ด้วยสายตาล้ำลึก เขามั่นใจว่าขาแกะชิ้นนี้ไม่ได้ถูกนำออกมาจากห่อกระดาษอย่างแน่นอนดูท่าการคาดเดาของเขาจะถูกต้อง....แต่ทว่าเขาก็ไม่ได้เปิดโปงกู้หว่านเยว่ ถึงอย่างไรนางก็ไม่ได้ทำร้ายพวกเขาเขาเพียงแต่แปลกใจ ทำไมกู้หว่านเยว่คนนี้ถึงได้เปลี่ยนเป็นคนละคนไม่เหมือนกับกู้หว่านเยว่ที่เขาเคยสอบสวนอยู่ในจวนโหว?“ชู่ว์ เบา ๆ หน่อย คนอื่นได้ยินหมดแล้ว”กู้หว่านเยว่ยกนิ้วชี้ขึ้นมาทาบบนริมฝีปากส่งสัญญาณ แม้ว่าตอนนี้นักการในศาลาว่าการจะยอมปิดตาข้างหนึ่งในเรื่องของพวกเขา แต่หากคนอื่นเห

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 17

    ดึกดื่นค่อนคืนที่ทุกคนกำลังนอนหลับ ทันใดนั้นท้องฟ้ายามราตรีก็เกิดปรากฏการณ์ฟ้าร้องเสียงดังสนั่น ตามมาด้วยฝนที่ตกปรอย ๆ ก่อนจะก่อตัวขึ้นเป็นฝนตกห่าใหญ่“แย่แล้ว ฝนตกหนัก....”ทุกคนต่างสะดุ้งตื่นจากความฝัน กระทั่งพบว่าตัวเองนั้นเปียกโชกไปทั้งตัวแล้วในทางกลับกันกู้หว่านเยว่ คนของบ้านสามที่นางพากลับมารับรู้เหตุการณ์ได้ล่วงหน้าจึงรีบซ่อนตัวอยู่ในกระโจม ดังนั้นจึงไม่มีใครเปียกฝนสักคนเหล่านักการในศาลาว่าการที่ซ่อนตัวอยู่ในกระโจมต่างรู้สึกตื่นเต้นอยู่ในใจ“โชคดีที่พวกเราเรียนรู้วิธีการกางกระโจมมาจากแม่นางกู้ ไม่อย่างนั้นพวกเราคงได้เปียกฝนกันหมดแล้ว”จางเอ้อร์แสดงสีหน้าพอใจซุนอู่ตอบ “อื้อ” คำเดียว แม้ว่าน้ำเสียงจะแข็งกระด้าง แต่สายตายังแฝงไปด้วยความชื่นชมกู้หว่านเยว่คนนี้มีประโยชน์มากจริง ๆ แต่เหตุการณ์นี้สร้างความไม่พอใจให้กับคนอื่น ฝนที่ตกกระหน่ำลงมาโดยไม่ทันตั้งตัว แม้แต่ที่หลบฝนพวกเขาก็ยังไม่มีผู้ใหญ่ยังเอาตัวรอดได้ แต่เด็กและอาวุโสจะทนฝนที่ตกหนักขนาดนี้ได้อย่างไร?ทางฝั่งตระกูลเหยียนที่โดนรื้อค้นก็กำลังประสบปัญหาเดียวกัน เหยียนฮูหยินอุ้มเด็กน้อยวัยห้าขวบอยู่ในอ้อมอกและซ่อ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 18

    ในตอนแรกเหยียนฮูหยินเป็นฝ่ายอาสาช่วยพวกเขาล้างหม้อและชามก่อน ต่อมาผู้อาวุโสเหยียนก็ได้เข้ามาช่วยพวกเขาลากเกวียนระหว่างเดินทางผู้อาวุโสเหยียนเป็นเพียงข้าราชการพลเรือน ถึงแม้ว่าร่างกายของเขาจะแข็งแรงสู้ซูจิ่งสิงไม่ได้ แต่ถึงอย่างไรเขาก็เป็นผู้ชาย ซึ่งต้องมีพละกำลังไม่มากก็น้อยพอมีเขาเข้ามาช่วย นางหยางและซูจื่อชิงก็เบาลงไปไม่น้อยเมื่อเป็นเช่นนี้กู้หว่านเยว่จึงไม่ต้องกังวลว่าจะลื่นโคลนที่เกิดจากหลังฝนตก หากเป็นเช่นนั้นอาจจะทำให้การเดินทางล่าช้าจนได้รับการตำหนิจากนักการในศาลาว่าการอีกทั้งนางยังพบว่าผู้อาวุโสเหยียนและซูจิ่งสิงมักจะฉวยโอกาสตอนที่ไม่มีใครเห็นแอบกระซิบกระซาบกันเห็นได้ชัดว่ากู้หว่านเยว่ตั้งใจช่วยชีวิตเหยียนซือหยวน แต่ก็ยังเข้าไปสานสัมพันธ์กับผู้อาวุโสเหยียนและซูจิ่งสิงโดยไม่ได้ตั้งใจ“ผู้อาวุโสเหยียนเคยเป็นเพื่อนกับเจ้ามาก่อนใช่หรือไม่?”ระหว่างแวะพักกลางทาง กู้หว่านเยว่ได้ยื่นกระติกน้ำให้ซูจิ่งสิงพร้อมกับถามด้วยความอยากรู้สิ้นสุดคำถามนางก็ส่ายหน้าอีกครั้งหากทั้งสองคนเป็นเพื่อนกันจริง ๆ คงไม่ต้องรอให้กู้หว่านเยว่คอยเป็นตัวกลางเชื่อมความสัมพันธ์ ให้พวกเขาติดต่อกัน

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 19

    ตอนนี้หลี่ซือซือกำลังใช้ความน่าสงสารนี้มาเผชิญหน้ากับนาง นางจึงรู้สึกเอือมระอาอย่างมาก“เจ้าหยุดทำตัวน่าสงสารต่อหน้าข้าได้แล้ว ต่อไปข้าจะไม่เชื่อคำพูดของเจ้าอีก ถอยไป”ซูจิ่นเอ๋อกล่าวพลางโน้มตัวลงเก็บหน่อไม้ต่อ จากนั้นก็เอ่ยถามกู้หว่านเยว่ด้วยท่าทีประจบ“พี่สะใภ้ใหญ่ พี่ดูสิว่าใช่หน่อไม้หรือไม่ ข้ากลัวเก็บผิด”เมื่อเห็นซูจิ่นเอ๋อมีท่าทีที่เปลี่ยนไปกับกู้หว่านเยว่ อีกทั้งพวกเขายังเก็บหน่อไม้อย่างมีความสุข หลี่ซือซือได้แต่กำหมัดแน่น“พี่จิ่งสิง อากาศร้อนขนาดนี้ ข้ามีน้ำอยู่หนึ่งขวด เจ้ารีบกินแก้กระหายสิ”หลี่ซือซือเดินมาหน้าเกวียน จากนั้นก็ยื่นขวดน้ำที่นางกินแล้วให้กับซูจิ่งสิด้วยท่าทีออดอ้อนเหยียนเหวินจิ้งและเหยียนฮูหยินต่างมองตากัน ทั้งสองคนไม่ชอบการเล่นละครของหลี่ซือซือ จึงหันหลังให้นางหลี่ซือซือไม่ได้ใส่ใจ นางยังคงมองซูจิ่งสิงด้วยสายตารักใคร่ละคนความสดใสในฤดูใบไม้ผลิถึงแม้ว่าซูจิ่งสิงจะนอนอยู่บนเกวียน แขนและขาท่อนล่างไม่สามารถขยับตัวได้ แต่องค์ประกอบทั้งหน้าที่ครบเครื่อง และกลิ่นอายเย็นเยือกที่แผ่อยู่รอบตัวของเขายังคงทำให้หลี่ซือซือหวั่นไหวนางแอบรักซูจิ่งสิงมาตั้งแต่เด็

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 20

    นี่มันความโชคดีชัด ๆ เบื้องหน้าของพวกเขาคือถ้ำหลบฝนที่ตั้งเด่นอยู่ตรงเชิงเขาซูอู่สั่งให้ทุกคนพักผ่อนนอนอยู่ที่เดิม ส่วนเหล่านักการในศาลาว่าต่างหามุมที่สบายที่สุดในถ้ำ พวกเขารองพื้นด้วยหญ้าแห้ง ส่วนนักโทษพวกเขาปล่อยตามมีตามเกิด นอนบนพื้นที่เย็นเยือกอย่างนั้นกู้หว่านเยว่มองกลุ่มนักโทษที่นอนกระจายตามจุดต่าง ๆ คล้ายกับศพที่นอนเกลื่อนกลาด แล้วก็ได้แค่ส่ายหัวหนทางของการโดนเนรเทศที่แสนลำบากนั้นเพิ่งเริ่มต้นขึ้น ถึงแม้ว่าหลายวันมานี้ทุกคนจะเหนื่อยล้ามาก แต่กลับไม่มีคนตายต่อไปก็อาจจะไม่แน่“ท่านแม่ ท่านเปลี่ยนยาให้สามีข้าได้แล้ว ข้าจะออกไปเดินดูแถวนี้หน่อยว่ามีอาหารอะไรให้พวกเรากินได้บ้างกู้หว่านเยว่ตั้งใจจะไปดูว่าในป่าแถวนี้มีผลไม้ป่าหรือสัตว์ป่าอาทิเช่นไก่และกระต่ายบ้างหรือไม่นางหยางรู้ว่าขวดยาถูกเก็บไว้ที่ไหน นางจึงพยักหน้า“รู้แล้ว หว่านเยว่ เจ้าต้องระวังตัวนะ....”ซูจิ่งสิงมองนางด้วยสีหน้าเป็นห่วงมาก “ป่าแถวนี้รกและทึบ เจ้าอย่าเดินไปไกลล่ะ จะได้หลีกเลี่ยงสัตว์ป่า”“วางใจเถอะ”กู้หว่ายเยว่คลี่ยิ้มกระหายเลือด ต่อให้เจอกับสัตว์ป่า พวกมันก็ต้องล้มลงต่อหน้านาง!หลี่ซือซือจ้อ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 21

    สองขาของจางเอ้อร์สั่นเทา “หัว หัวหน้า หนีหรือไม่ขอรับ...”ข้างหลังหมูป่าตัวนั้นยังมีหมูป่าโตเต็มวัยไล่ตามมาอีกสองตัว เผยเขี้ยวสีขาวยาวๆ สองซี่ ครั้นวิ่งขึ้นมาผืนดินสั่นภูเขาสะเทือนซุนอู่สบถทีหนึ่ง “หนี ไม่หนีก็รอความตายเถอะ!”ไม่รู้ว่าหลี่ซือซือทำเรื่องใดลงไป กระตุ้นหมูป่าสามตัวให้ฉุนเฉียว หมูป่าโมโหขึ้นมา ก็สามารถชนคนตายได้ซุนอู่ออกคำสั่ง นักการแห่งศาลาว่าการเหล่านั้นก็ดึงขาวิ่งออกนอกถ้ำแล้วนักโทษที่เหลือเองก็รู้ตัวแล้ว ร้องไห้โอดครวญไล่ตามหลังนักการแห่งศาลาว่าการไปมิใช่พวกเขาไม่อยากหนี แต่นี่คือป่ารกชัฏ มิหนำซ้ำยังไม่รู้ทาง หากวิ่งหนีจนหลงทาง นั่นคงจะอนาถยิ่งกว่าถูกเนรเทศเสียอีก“ท่านนักการ รอพวกเราด้วย!”“ช่วยด้วยๆ!”ทุกคนในสกุลซูเห็นหลี่ซือซือพาหมูป่าออกมา ก็หอบสัมภาระเป็นอย่างแรก วิ่งหนีออกไปอย่างว่องไว“หลี่ซือซือ เจ้าก็คือดาวหายนะ เจ้าล่อหมูป่ามามากเพียงนี้ คิดฆ่าพวกเรากระนั้น?”นางเฉียนสบถด่าอย่างบ้าคลั่ง“อย่ามาทางพวกเรา เจ้าไสหัวไปไกลหน่อย ไปไกลหน่อย...”มีเพียงซูหวู่อวิ๋นหยิบก้อนหินขึ้นจากพื้นขว้างใส่หมูป่า“ซือซือ รีบหนีไปๆ...”“ท่านแม่ท่านจะทำเช่นไร?” หล

Latest chapter

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1288

    “เจ้า?”สายตาของนางโจวสั่นไหวเล็กน้อย สีหน้าของชายหนุ่มตรงหน้าดูจริงใจอย่างยิ่ง ดวงตาเป็นประกาย แต่นางจำไม่ได้ว่านางเคยพูดคุยอะไรกับเฉินเถียนสุ่ย“แม่นางโจว เจ้าเป็นคนหมู่บ้านข้าง ๆ พวกเรา”ใบหูของเฉินเถียนสุ่ยแดงระเรื่อ“จริง ๆ แล้ว ข้ารู้จักเจ้ามานานแล้ว ครั้งหนึ่งข้าเดินผ่านหมู่บ้านของเจ้า เห็นเจ้ากำลังซักผ้าอยู่ริมแม่น้ำ”ตอนนั้นเขาตกหลุมรักนางโจวตั้งแต่แรกพบ แต่น่าเสียดายที่ยังไม่ทันได้ไปสู่ขอ สกุลโจวก็ยกนางให้แต่งงานกับลูกพี่ลูกน้องของเขาเสียก่อนเฉินเถียนสุ่ยจึงทำได้เพียงเลือกที่จะอวยพรแต่ในตอนนี้ โอกาสของเขามาถึงอีกครั้งแล้ว“เฉินเถียนสุ่ย เจ้า!”เฉินอาหนิวก็เข้าใจแล้ว ไม่ใช่ว่าเฉินเถียนสุ่ยแอบมีความสัมพันธ์กับนางโจว แต่เป็นเฉินเถียนสุ่ยแอบรักนางโจวมาโดยตลอดต่างหาก“นางเป็นพี่สะใภ้ของเจ้า!”เมื่อมองไปที่ใบหน้าอันงดงามของนางโจว ทันใดนั้น เฉินอาหนิวก็รู้สึกเสียใจขึ้นมาบ้างตอนนั้นเขาก็ชอบนางโจวเพราะความงาม จึงได้ไปสู่ขอที่สกุลโจว“ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว” เฉินเถียนสุ่ยจัดปกเสื้อของตัวเอง “นางบอกแล้วว่าจะขอหย่ากับเจ้า”“ข้าไม่มีทางยอม”เฉินอาหนิวส่ายหัว ในขณะนั้นเอง ก็มีช

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1287

    เฉินอาหนิวเกิดความคิดขึ้นมาในหัว “พวกเจ้าสองคน แอบมีความสัมพันธ์กันหรือไม่?”“เจ้าบ้าไปแล้วหรือ?”เฉินเถียนสุ่ยรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระสิ้นดี“เจ้าไม่กลัวว่าจะทำลายชื่อเสียงของพี่สะใภ้หรือ?”ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความโมโห เมื่อมองไปที่นางโจว เขาก็ยิ่งรู้สึกเสียใจมากขึ้นหากรู้ตั้งแต่แรกว่าพี่ชายเป็นคนแบบนี้ ตอนนั้น เขาน่าจะแย่งเจ้าสาวมา!“ถ้าพวกเจ้าสองคนไม่ได้มีความสัมพันธ์กัน เจ้าจะมาสนใจนางทำไมกัน?”เฉินอาหนิวยิ่งคิด เขาก็ยิ่งรู้สึกว่าเป็นแบบนั้น“ข้าว่าแล้วเชียว เหตุใดตอนที่ภรรยาของข้าถูกงูกัด เจ้าถึงเป็นคนแรกที่เจอ!”เขาหันกลับไปด้วยความโมโหแล้วเดินไปหานางโจว จากนั้นเขย่าไหล่ของนางอย่างแรง“รีบพูดมา พวกเจ้าแอบทำเรื่องน่าอายกันใช่หรือไม่?”เดิมทีนางโจวก็ถูกพิษงู ทำให้รู้สึกมึนหัวอยู่แล้ว เพิ่งจะได้กินยาแก้พิษไป แต่ยายังไม่ออกฤทธิ์ ตอนนี้ยังคงรู้สึกหนาวสั่นและคลื่นไส้อยู่ เฉินอาหนิวไม่ช่วยนาง แถมยังสงสัยว่านางแอบเป็นชู้กับคนอื่นอีก ทำให้นางโกรธจนตัวสั่น“จะพูดไม่พูด พูดสิ!”มือที่หยาบกระด้างของเฉินอาหนิว จับไหล่นางเอาไว้จนเริ่มรู้สึกเจ็บ“ปล่อยนางนะ” เฉินเถียนสุ่ย

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1286

    “เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มีผลกระทบ ท่านแม่ของข้าไม่โกหกหรอก”ดวงตาของเฉินอาหนิวสั่นไหวเล็กน้อย “และข้าก็เคยถามหมอหลายคนแล้ว หมอพวกนั้นก็ไม่กล้ายืนยัน...”ลั่วยางแสดงสีหน้างุนงง แล้วหันไปมองกู้หว่านเยว่โดยไม่รู้ตัว ทั้งสองคนสบตากันกลางอากาศ ต่างรู้สึกพูดไม่ออก“ดังนั้น เจ้าเคยไปหาหมอคนอื่นมาก่อนหน้านี้แล้ว?”นางคิดว่าเฉินอาหนิวผู้นี้ถ่วงเวลาไปกว่าสองชั่วยาม จึงจะพาน้องหญิงของตนเองมาหานาง แต่ไม่คิดเลยว่า เขาเคยไปหาหมอคนอื่นมาก่อนหน้านี้แล้วนั่นก็หมายความว่า เพื่อที่จะแก้พิษให้ภรรยาสกุลเฉิน หมอคนอื่น ๆ ก็น่าจะสั่งจ่ายยาให้เช่นกัน เพียงแต่เฉินอาหนิวไม่ยอมให้ภรรยาของเขาดื่มยาต้มแก้พิษ ดังนั้นเขาจึงล้มเลิกที่จะให้หมอคนอื่น ๆ รักษา แล้วมาขอร้องนาง เพราะคิดว่านางน่าจะมีวิธีอื่นลั่วยางรู้สึกโกรธเล็กน้อยคนผู้นี้สนใจแต่ลูก ไม่สนใจชีวิตของภรรยาสกุลเฉินเลย!สายตาของนางเปลี่ยนเป็นเยือกเย็น“อยากจะแก้พิษ ก็มีแต่ต้องดื่มยาต้มเท่านั้น ไม่มีวิธีอื่น!หากเจ้าขัดขวางอีก ภรรยาของเจ้าก็จะตาย ลูกก็จะไม่รอดด้วย!”น้ำเสียงของนางเด็ดขาด เฉินอาหนิวแสดงสีหน้าลังเล“ขะ ข้าต้องการดื่มยา”ในเวลานี้ ภรรยา

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1285

    “น้องหญิงของเจ้าตั้งครรภ์หรือ?”ลั่วยางยิ่งตกใจมากขึ้น เหตุใดคนผู้นี้ถึงไม่พูดทุกอย่างให้ชัดเจนในคราวเดียว?นางจับชีพจรของภรรยาสกุลเฉิน พบว่าเป็นชีพจรของผู้ที่ตั้งครรภ์จริง ๆ ตั้งครรภ์จริง ๆ ด้วย ทว่าเรื่องนี้ไม่ได้มีผลกระทบอะไรต่อการแก้พิษ“หนาว ข้าหนาวเหลือเกิน”เวลานี้ ภรรยาสกุลเฉินก็ครางออกมาเบา ๆ นางโดนพิษ สติเลอะเลือนอย่างยิ่ง เนื่องจากโดนพิษมานานเกินไป ตอนนี้ร่างกายจึงเริ่มมีปฏิกิริยาต่อพิษ เช่น รู้สึกหนาวสั่น เป็นต้นเฉินอาหนิวจับมือของภรรยาสกุลเฉินเอาไว้แน่น แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน“น้องหญิง เจ้าอดทนหน่อยนะ ไม่ต้องห่วง ข้าพาเจ้ามาหาหมอแล้ว หมอต้องสามารถแก้พิษงูให้เจ้าได้อย่างแน่นอน”“ชะ ช่วยข้าด้วย”ภรรยาสกุลเฉินราวกับไม่ได้ยินคำพูดของเขา มองไปที่ลั่วยาง นางหายใจรวยริน แล้วเอ่ยพึมพำเบา ๆ หนึ่งประโยค“ข้าไม่อยากตาย ต้องช่วยข้าให้ได้...”เฉินอาหนิวรู้สึกอึดอัดใจเล็กน้อย “นะ นางโดนพิษจนสติเลอะเลือนแล้ว...”“ข้าจะช่วยเจ้าเอง”ลั่วยางไม่ได้ใส่ใจกับรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ เมื่อรู้ว่าภรรยาสกุลเฉินกำลังตั้งครรภ์ นางก็รีบเข้าไปหยิบยาที่ปรุงเตรียมเอาไว้แล้วอย่างรวดเร

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1284

    ชายร่างใหญ่แสดงสีหน้าร้อนรน ไม่รู้ว่าควรจะโขกศีรษะกับใครดี จึงได้แต่มองไปที่เกาเจี้ยนผู้ที่เอ่ยขึ้นก่อนหน้านี้“อาการของน้องหญิงของข้าสาหัสมากจริง ๆ ขอร้องพวกท่านช่วยชีวิตนางด้วยเถิด”เขาเผยสีหน้ากังวล ดวงตาแดงก่ำเสียแล้วคงเป็นเพราะว่าเขามีหน้าตาดุดันเกินไป ดังนั้นตอนที่เข้ามา ทุกคนจึงเข้าใจผิดคิดว่าเขามาหาเรื่อง ตอนนี้เมื่อรู้ว่าเขามาขอความช่วยเหลือ ลั่วยางจึงรีบก้าวออกมา“ข้าคือหมอหญิงลั่วที่เจ้ากำลังตามหา น้องหญิงของเจ้าเป็นอะไร? บอกมาให้ชัดเจนก่อน”ชายคนนั้นรีบคุกเข่าลงกับพื้น ร้องไห้พลางเอ่ยขึ้น “น้องหญิงของข้า น้องหญิงของข้า นางถูกงูพิษกัด เป็นงูห้าก้าว งูพิษ”“ซี้ด!”งูห้าก้าว นั่นมันงูที่สามารถคร่าชีวิตคนได้เชียวนะเมื่อลั่วยางฟังจบ ก็รีบเอ่ยขึ้น “ในเมื่อเป็นงูพิษ เช่นนั้นก็ควรจะรีบแก้พิษ”“ชะ ใช่ ควรจะรีบแก้พิษโดยเร็ว”สายตาของชายคนนั้นดูแปลก ๆ ลั่วยางไม่ได้สังเกตถึงสายตาของเขา คิดเพียงแค่ว่าการช่วยชีวิตคนสำคัญที่สุด“น้องหญิงของเจ้าอยู่ที่ไหนล่ะ? รีบพานางมาเดี๋ยวนี้เลย ข้าจะได้ตรวจดูอาการ”เมื่อได้ยินว่าลั่วยางยินดีที่จะช่วย ชายคนนั้นก็รีบก้มลงโขกศีรษะให้นาง“

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1283

    ทำสิ่งต่าง ๆ มากมายเช่นนั้น ความหมายของการช่วยเหลือประชาชน ไม่ได้อยู่ที่ตรงนี้หรอกหรือ?กู้หว่านเยว่เดินตามเกาเจี้ยนออกไป แต่เดินไปเดินมากลับรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ“พวกเราตกลงกันแล้วว่าจะไปตลาดมิใช่หรือ เหตุใดถึงพาข้ามาที่โรงหมอ?”กู้หว่านเยว่แสดงสีหน้างุนงง แต่เมื่อเห็นร่างที่คุ้นเคยกำลังวุ่นอยู่กับการทำงานในโรงหมอ ก็เข้าใจขึ้นมาทันที“แหะ ๆ ”เกาเจี้ยนเหมือนคนตัวโตที่เซ่อ ๆ ลูบหัวด้วยความเขินอาย“พระชายาอย่าได้ถือโทษ ข้าเผลอเดินมาที่นี่โดยไม่รู้ตัว”ในหัวของเขาเอาแต่คิดถึงลั่วยาง ร่างกายจึงขยับไปเองโดยไม่รู้ตัว“พี่หญิงหว่านเยว่?”ลั่วยางได้ยินเสียงเคลื่อนไหวจากด้านนอก พอเห็นเกาเจี้ยน ก็ยังรู้สึกเคอะเขินอยู่บ้าง แต่เมื่อสายตาเหลือบไปเห็นกู้หว่านเยว่ก็เปลี่ยนเป็นความดีใจ“พี่หญิงหว่านเยว่ ท่านกลับมาตั้งแต่เมื่อไร?”นางรีบวิ่งออกมา อย่างไรเสีย กู้หว่านเยว่ก็มาถึงที่นี่แล้ว จึงตัดสินใจเข้าไปดูข้างใน“เพิ่งมาถึงเมื่อคืนนี้เอง”กู้หว่านเยว่มองนางด้วยความอยากรู้อยากเห็น“เหตุใดเจ้าถึงอยู่ที่ชายแดน ไม่ได้กลับไปหรือ?”นางจำได้ว่าปรมาจารย์แพทย์ให้นางมาที่นี่เพื่อหาสมุนไพร ล

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1282

    เขายังมีเรื่องเกี่ยวกับทูเจวี๋ยที่จะต้องปรึกษากับแม่ทัพผู้เฒ่าเกาเนื่องจากทุกคนต่างรู้สึกเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางไกล ประกอบกับซูจิ่งสิงยังมีธุระที่ต้องจัดการที่ชายแดน ดังนั้นหลังจากปรึกษาหารือกันแล้ว จึงตัดสินใจพักอยู่ที่บ้านสกุลเกาอีกสองวัน“พอดีเลย ครั้งที่แล้วมาแบบรีบร้อน ยังไม่มีโอกาสได้ชมทัศนียภาพของด่านซานไห่วันนี้ได้ออกไปเที่ยวชมพอดี”กู้หว่านเยว่เปลี่ยนกลับมาใส่ชุดสตรี หยิบชุดกระโปรงยาวสีเขียวออกมาจากมิติแล้วสวมใส่ ทันใดนั้น ก็สะกดสายตาของซูจิ่งสิง“น้องหญิง วันนี้ข้าออกไปเที่ยวกับเจ้าด้วยดีกว่า”น้องหญิงงดงามเกินไป กลัวว่าคนอื่นจะมาแย่งไป ทำอย่างไรดี?ซูจิ่งสิงจ้องมองนาง น้องหญิงของนาง แม้ไม่แต่งตัวก็เป็นหญิงงามอันดับหนึ่งอยู่แล้ว พอแต่งตัวขึ้นมาเล็กน้อย ก็ยิ่งงดงามจนไม่อาจละสายตาได้“อย่ามาพูดเล่น ท่านสัญญากับข้าแล้วว่าจะไปปรึกษากับแม่ทัพผู้เฒ่าเกาให้ดี ๆ ”กู้หว่านเยว่หยิบผ้าคลุมหน้าออกมาสวม ด่านซานไห่ลมแรงทรายเยอะ นางกังวลว่าผิวจะเสียหาย“ชิงเหลียน พวกเราไปกันเถอะ”“เจ้าค่ะ” ชิงเหลียนที่กำลังเหม่อลอย รีบตามกู้หว่านเยว่ไปซูจิ่งสิงก็มีธุระต้องจัดการจริง ๆ มิเช

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1281

    สายตาของกู้หว่านเยว่ที่มองทะลุทุกสิ่ง พร้อมกับรอยยิ้มที่คลุมเครือนั้น ทำให้ใบหูของเกาเจี้ยนแดงก่ำ“พระชายา ทะ ท่านกำลังพูดอะไร?” สายตาที่หลบเลี่ยง บ่งบอกชัดเจนว่าไม่กล้าที่จะยอมรับกู้หว่านเยว่ชี้ไปที่เอวของเขา “ถุงยานี้เป็นสิ่งที่ลั่วยางพกติดตัวอยู่ตลอด”เกาเจี้ยนรีบมองไปที่เอวของตัวเอง แล้วลูบหัวอย่างเขินอาย “พระชายา สายตาของท่านช่างเฉียบคมจริง ๆ ”ในเมื่อถูกมองออกแล้ว เขาก็ไม่ปิดบังอีกต่อไป“ถุงยานี้ ข้าพยายามอย่างยากลำบากกว่าจะได้มาจากลั่วยาง”เขาหัวเราะแหะ ๆ สองที“ข้ากำลังตามจีบนางอยู่น่ะ แต่ลั่วยางยังไม่ตกลง”ดังนั้น กู้หว่านเยว่ถามเขาเมื่อครู่ เขาจึงคิดที่จะปิดบัง ไม่อยากให้ลั่วยางพบกับความยุ่งยาก“ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้”กู้หว่านเยว่ยิ้มอย่างมีเลศนัย ไม่ได้ซักถามอะไรต่อ ดึงซูจิ่งสิงให้มานั่งลงกลับเป็นซูจิ่งสิงที่มีเรื่องกังวลใจอยู่บ้าง เพียงแต่ไม่ได้แสดงออกมาในระหว่างงานเลี้ยง รอจนกระทั่งกลับห้องพักผ่อนแล้ว จึงได้เอ่ยถามกู้หว่านเยว่“น้องหญิง เกาเจี้ยนกำลังตามจีบลั่วยางหรือ?”เขาขมวดคิ้ว กู้หว่านเยว่มองแวบเดียวก็รู้ว่าเขากำลังกังวลเรื่องอะไร“ท่านกลัวว่าเขาจะถูกลั่

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1280

    กู้หว่านเยว่อาลัยอาวรณ์เล็กน้อย ซูจิ่งสิงลูบมือปลอบใจนาง “ไม่แน่อาจจะเป็นช่วงเวลาที่ทั้งสองประเทศจะได้ปรองดองกัน”ครั้นกู้หว่านเยว่ได้ยินประโยคนี้ก็อดขบขันไม่ได้ นี่คือเรื่องที่จะบอกเสี่ยวถ่านยามนางจากไปนางได้กำชับเสี่ยวถ่านเอาไว้ หากสามารถขึ้นครองบัลลังก์ได้ จะต้องทำตามข้อตกลงของพวกเขา จะให้ทูเจวี๋ยเข้ามาโจมตีต้าฉีไม่ได้ ให้ทั้งสองประเทศสามารถอยู่ร่วมกันด้วยความสามัคคีและสันติสุข“ข้าเชื่อว่าเสี่ยวถ่านจะต้องทำได้”กู้หว่านเยว่ยิ้มบาง ๆ นางเชื่อใจเด็กคนนี้มากมีเยียนอวิ๋นชูคอยช่วยเหลือเสี่ยวถ่านอยู่ เสี่ยวถ่านไม่มีทางหลงทางอย่างแน่นอนจะว่าไปแล้ว นางและเยียนอวิ๋นชูก็มีเงื่อนไขเช่นกัน...หลังจากที่รถม้าวิ่งออกจากทูเจวี๋ย ก็ตรงมาถึงชายแดนก่อนเวลานี้สองพ่อลูกสกุลเกาได้รับจดหมายของซูจิ่งสิงแล้ว จนได้รู้ว่าซูจิ่งสิงมาจากชายแดน จึงออกไปต้อนรับที่หน้าประตูเมืองเมื่อพวกเขาเห็นซูจิ่งสิงและกู้หว่านเยว่พาซูจิ่นเอ๋อร์กลับมา ก็พากันเบิกตากว้างด้วยความตกใจจนลูกตาแทบจะถลนกันออกมา“ท่านอ๋อง ข้าน้อยขอคารวะท่านอ๋องขอรับ”แม่ทัพผู้เฒ่าเการุดหน้าเข้าไปทำความเคารพก่อน จากนั้นก็มองซูจิ่งสิงด

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status