แชร์

บทที่ 3

ผู้เขียน: ฮวาฮวาตีลังกาแปล
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-07-16 15:38:34
“กบฏ ไม่ตายดี!”

“สมรู้ร่วมคิดกับทูเจวี๋ย คลอดลูกชายไม่สมประกอบ!”

ซูจิ่งสิงนอนกึ่งหลับกึ่งตื่นอยู่บนกระดานเกวียน รับก้อนหิน มูลแพะและผักเน่าที่โยนเข้ามาทุกทิศทาง...

ยามรบชนะกลับมา เขาคือวีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ปกป้องแคว้น ราษฎรล้วนโห่ร้องแสดงความยินดี

บัดนี้เขาถูกใส่ร้ายข้อหากบฏ ไม่เพียงไม่มีคนขอความเป็นธรรมแทนเขา ทุกคนยังร้องตะโกนใส่ กลายเป็นคนบาปที่ทุกคนตราหน้า

หันมองไปที่คนอื่น ๆ ของสกุลซู แต่ละคนเกือบซุกหน้าลงบนบ่าแล้ว

ฮูหยินผู้เฒ่าร้องไห้น้ำตาไหลเป็นทาง “เวรกรรม สกุลซูของข้าตกต่ำถึงขั้นนี้เชียวหรือ...”

นายท่านบ้านรองซูหัวหลินอดตำหนิไม่ได้ “ล้วนต้องตำหนิจิ่งสิง อยู่ดีๆ ก็คิดไม่ตก ไปสมรู้ร่วมคิดกับกบฏขายบ้านเมือง ตอนนี้เป็นอย่างไรเล่า ทั้งครอบครัวล้วนต้องเดือนร้อนเพราะเขา ข้าเป็นคนรักศักดิ์ศรีที่สุด ถูกราษฎรกลุ่มนี้สบถด่า หน้าก็ไม่กล้าเงยขึ้นมาแล้ว ภายภาคหน้าจะใช้ชีวิตเยี่ยงไร!”

นับตั้งแต่ยึดทรัพย์จนถึงตอนนี้ เริ่มแรกทุกคนยังงุนงง จนถึงตอนนี้แต่ละคนก็เกิดความคิดขึ้นมาแล้ว มีทั้งคนเชื่อว่าซูจิ่งสิงมิได้ก่อกบฏ และมีคนที่ไม่เชื่อ นายท่านรองเป็นคนแรกที่มิอาจอดกลั้น

บ้านอื่นสบตากันแวบหนึ่ง ล้วนปิดปากเงียบโดยพร้อมเพรียงกัน

นางหยางฟังไม่เข้าใจว่าพวกเขาพูดเรื่องใด แต่นางอ่านคำตำหนิและรังเกียจภายในสายตาของซูหัวหลินออก หดบ่าผอมบางไม่กล้าเปล่งเสียง ดึงลูกชายลูกสาวตัวน้อย ก้มหน้าออกแรงลากเกวียนอยู่ข้างหลัง

กู้หว่านเยว่อารมณ์ไม่ดีแล้ว “มีชีวิตอยู่ต่อไม่ได้ก็โขกศีรษะตายไปเสียเลย ยามท่านอยู่ดีกินดีในจวนอ๋อง เหตุใดถึงไม่แม้แต่จะผายลมเล่า?”

ยามอ่านหนังสือก็รู้แล้วว่าสกุลซูไม่สามัคคีกัน คิดไม่ถึงเพียงถูกยึดทรัพย์ คนเหล่านี้ก็ไม่มีความอดทนหลงเหลือแล้ว

หวังจะประคับประคองช่วยเหลือกันกับคนเช่นนี้ระหว่างถูกเนรเทศ ยังมิสู้แตกหักไปเสียเลย

“เจ้าเจ้าเจ้า หลานสะใภ้ เหตุใดเจ้าพูดกับผู้อาวุโสเช่นนี้?”

ซูหัวหลินเห็นว่าบ้านสามไม่มีคน ถึงกล้าบ่นออกมา คิดไม่ถึงกู้หว่านเยว่ที่มีรูปร่างบอบบาง ถึงขั้นหาญกล้าทะเลาะกับเขา?

ยังอยากพูดอะไร ฮูหยินผู้เฒ่าก็เคาะไม้เท้า โศกเศร้าเสียใจมาก “เงียบให้หมด ตกระกำลำบากแล้วครอบครัวก็ควรรวมใจเป็นหนึ่ง ใครยังทะเลาะกันข้าจะไม่ละเว้นแล้ว!”

บ้านมารดากู้หว่านเยว่คือจวนโหว นางยังมีประโยชน์

.......

ณ เนินเขาสิบลี้นอกเมือง

ภายใต้แสงตะวันแผดเผา คนหนึ่งกลุ่มเข็นเกวียนหนึ่งคันออกจากประตูเมืองอยู่ไกลๆ บ้างก็สวมชุดนักโทษ บ้างก็สวมเสื้อผ้าสกปรกมอมแมม สีหน้าด้านชา มีทั้งคนชราทั้งเด็ก คนกลุ่มนี้ก็คือสกุลซูทั้งเด็กและผู้ใหญ่ที่ถูกเนรเทศไปยังหนิงกู่ถ่า

ที่แห่งนี้คือสถานที่ส่งตัวนักโทษถูกเนรเทศ มีญาติจำนวนมากมารวมกันอยู่ที่นี่เพื่อร่ำลา ในมือญาติล้วนถือห่อสัมภาระทั้งใหญ่ทั้งเล็ก หวังให้คนในครอบครัวดีขึ้นบ้างระหว่างเดินทาง

สำหรับเรื่องนี้นักการในศาลาว่าการยอมหลับตาข้างลืมตาข้าง

นักโทษที่ถูกเนรเทศล้วนเป็นคนมั่งคั่งร่ำรวย แม้ถูกลงโทษทั้งตระกูล แต่มีญาติและสหายเดินทางมาหา พวกเขาสามารถอาศัยโอกาสนี้หาประโยชน์ให้ตนเองได้

สกุลซูเองก็มีญาติฝ่ายหญิงมาถึงไม่น้อยแล้ว

บ้านมารดาของบ้านใหญ่สกุลจิน และบ้านสี่สกุลหลิว ล้วนส่งอาหารและเสื้อผ้าบางส่วนมา

พี่ใหญ่บ้านมารดาของบ้านรองสกุลเฉียนยังเป็นขุนนางอยู่ในราชสำนัก แม้คนมิได้มาด้วยตนเอง แต่ของที่ส่งมามากที่สุด สัมภาระราวๆ สี่ห้าห่อใหญ่ ไว้หน้านางเฉียนอย่างเพียงพอ แม้แต่ฮูหยินผู้เฒ่าเองก็มองนางสูงขึ้นแวบหนึ่ง

มีเพียงบ้านสามโดดเดี่ยวอ้างว้าง ไม่มีใครมาเยี่ยมแม้แต่คนเดียว

“ฮึ นางหยางนั้นช่างเถอะ บิดามารดาพี่ชายนางล้วนตายทั้งหมดแล้ว แต่เกิดอันใดขึ้นกับหลานสะใภ้คนนี้ เป็นถึงคุณหนูจวนโหวเชียวนะ ถึงขั้นไม่มาบอกลาแม้แต่คนเดียว”

สายตาแต่ละคนล้วนตกลงบนตัวกู้หว่านเยว่ ฮูหยินผู้เฒ่าเองก็ขมวดคิ้ว

ทันใดนั้น นางจินเปิดปากตะโกนออกมา

“พวกเจ้าดู นั่นมิใช่รถม้าของจวนโหวหรือ?”

รถม้าของจวนโหวก็มาแล้ว นั่นต้องนำของมาไม่น้อยเป็นแน่ คิ้วของฮูหยินผู้เฒ่าคลายออกแล้ว

เพียงแต่รถม้าจอดอยู่ตรงหน้า คนบนรถม้ากลับไม่ทำแม้แต่ลงมา เพียงแหวกชายผ้าพูดอย่างเสแสร้ง

“หว่านเยว่เอ๋ย แต่งงานออกจากเรือนก็ต้องติดตามสามี บัดนี้เจ้าเป็นหญิงออกเรือนแล้ว ไม่เกี่ยวอันใดกับจวนโหวแม้แต่น้อย ข้าใจดีมีเมตตา เห็นแก่เจ้าที่เป็นบุตรีของท่านโหว นำของกินมาให้เล็กน้อย หวังว่าภายภาคหน้าเจ้าจะไม่กลับมาตอแย”

พูดจบ ยิ้มดูเบาทีหนึ่ง โยนหมั่นโถวสองสามลูกลงจากรถม้า

ทุกคนล้วนตะลึงงันอยู่กับที่ เห็นใจ เยาะหยัน สายตาหลากอารมณ์ล้วนตกลงบนตัวกู้หว่านเยว่

กู้หว่านเยว่เตรียมใจไว้ตั้งแต่แรกแล้ว สีหน้ากลับเรียบเฉยมาก นางจำได้ว่านี่ก็คืออนุที่คอยเป่าหูบิดาชั่ว ยิ้มเย็นทีหนึ่ง ทันใดนั้นเบี่ยงตัวขึ้นไปลากนางลงจากรถม้า

ถัดมาปลดปิ่นทอง กำไลหยก ต่างหูทับทิมออกจากตัวนางอย่างว่องไว...

ฝ่ายอนุร้องอุทานเสียงหลง “นางแพศยากู้หว่านเยว่ เจ้ากล้าแย่งของของข้าอย่างนั้นหรือ?!”

กู้หว่านเยว่ตบนางหนึ่งฉาด ตบจนนางเงียบเสียงลงไป

“อนุก็คือนางแพศยา เจ้าต่างหากเป็นนางแพศยา ของเหล่านี้ล้วนใช้สินเดิมของท่านแม่ข้าซื้อมา ข้าเพียงนำกลับมาก็เท่านั้นและกลับไปบอกท่านโหวของเจ้าด้วยว่า นับแต่นี้ไป ข้าและจวนโหวไม่มีอันใดเกี่ยวข้องกันอีก!”

ตัดขาดความสัมพันธ์ใช่หรือไม่ นางแทบทนรอไม่ไหวแล้ว!

เงินทองของมีค่าของจวนโหวล้วนอยู่ในมือนาง ใครมีชีวิตดีกว่ายังต้องรอดู

“เจ้าเจ้าเจ้า เจ้าเสียสติไปแล้ว!” อนุเห็นกู้หว่านเยว่กำเริบเสิบสานถึงเพียงนี้ แม้เป้าหมายสำเร็จแล้ว แต่กลับโมโหจนกระอักเลือด หนีตะลีตะลานจากไป

“หลานสะใภ้ สะใภ้ไม่มีไร้มารดาก็เท่ากับไร้ที่พึ่ง ภายภาคหน้าเจ้าก็ลำบากแล้วล่ะ” นางหลิวบ้านสี่พูดประชด

ยังหลงคิดว่าจวนโหวนำของกินมาให้เสียอีก ปรากฏว่า...ฮึ!

ในที่สุดฮูหยินผู้เฒ่าก็มิอาจข่มตนได้แล้ว ถลึงตาใส่กู้หว่านเยว่แวบหนึ่ง

นางจินมีสีหน้ารู้สึกผิด หากมิใช่นางร้องตะโกนเสียงดัง ทุกคนก็คงไม่หันมาสนใจ นางพูดตะกุกตะกัก “หลานสะใภ้ ข้าขอโทษ...”

ยังไม่รอให้นางพูดจนจบ พี่ใหญ่ซูหัวหยางก็ถลึงตาใส่นางสีหน้าบึ้งตึงหนึ่งปราด “อย่าไปทำเรื่องน่าอับอายขายหน้าที่นั่น รีบมาถือของ บ้านมารดาส่งของมาเพียงเท่านี้ แต่งกับเจ้าโดยเสียเปล่าจริงๆ”

นางจินฝืนส่งยิ้มที่น่าเกลียดยิ่งกว่าร้องไห้ออกมา หดบ่าเดินตามไป ซูหรานหร่านมองกู้หว่านเยว่อย่างเห็นใจแวบหนึ่ง แต่ไม่กล้าพูดปลอบ วิ่งเหยาะๆ ไปช่วยมารดาถือของ

ผิดกับนางหยางที่ถูมือแล้วถูมืออีก หยิบหมั่นโถวบนพื้นขึ้นมา มองนางอย่างระแวดระวัง “หว่านเยว่ อย่า อย่าเสียใจ...”

กู้หว่านเยว่รู้สึกอบอุ่นในใจ แม่สามีโง่สติไม่ดี จิตใจกลับดีมาก

“ท่านแม่ ข้าไม่เป็นไร ข้าไปดูบาดแผลของท่านพี่ก่อนนะเจ้าคะ”

ซูจิ่งสิงเข้าวังถูกสั่งโบย ลงโทษโบยนี้มิได้ตีที่บั้นท้าย แต่ตีที่กระดูกสันหลังส่วนเอว ส่งผลให้พิการได้

ดังนั้นเขาขยับไม่ได้แล้ว ทำได้เพียงนอนบนกระดานไม้บนเกวียน

กู้หว่านเยว่เองก็คร้านจะเสแสร้ง หยิบยาจินชวงรักษาแผลออกมาหนึ่งขวด โรยลงบนบาดแผลของเขา

ซูจิ่งสิงลืมตาขึ้นมาในทันใด

แหม ชายคนนี้สัญชาตญาณแข็งแกร่งมากทีเดียว

“ท่านอ๋องไม่จำเป็นต้องกลัว ข้ามาเพื่อใส่ยาให้ท่าน”

ซูจิ่งสิงเห็นว่าเป็นนางก็วางใจแล้ว ถ้อยคำเมื่อครู่ของคนจวนโหว เขาเองก็ได้ยินแล้ว สายตาเผยแววรู้สึกผิด

“ขอโทษ ทำเจ้าเดือดร้อนแล้ว”

เดือดร้อน? ไม่จำเป็น จวนโหวอยากเตะนางออกมาตั้งแต่แรกแล้ว

ทว่าตอนนี้กู้หว่านเยว่ไม่อยากพูด นางตรวจอาการบาดเจ็บของซูจิ่งสิงอย่างตั้งใจ

แย่แล้ว บาดแผลนี้ร้ายแรงกว่าที่นางคิดไว้ กระดูกสันหลังส่วนเอวล้วนหักอย่างสมบูรณ์ ภายภาคหน้าไม่ต้องพูดเรื่องอย่างว่า แม้แต่ยืนก็ลำบาก...

ฮ่องเต้ชั่วคนนี้ นี่คือความสุขอีกครึ่งชีวิตของนางเชียวนะ บัดนี้หนีไปยังทันหรือไม่?

สายตาซูจิ่งสิงซับซ้อน “ข้ายังสามารถลุกขึ้นได้หรือไม่?”

สีหน้ากู้หว่านเยว่ไม่สบอารมณ์ “พูดยาก”

หากมีอาคารทางการแพทย์ ก็สามารถรักษาได้

“ติ๊ง ระบบเชื่อมต่อกับเจ้าของร่างสำเร็จ ยินดีกับเจ้าของร่าง เปิดใช้งานอาคารทางการแพทย์ที่เพิ่งสร้างใหม่สำเร็จแล้ว”
ความคิดเห็น (10)
goodnovel comment avatar
วีระวุฒิ ประจันบาน
น่าติดตามมาก
goodnovel comment avatar
อนงนารถ บุญทวี
ติดตามต่อคะ
goodnovel comment avatar
Charnyuth Techa
ขยายตัวอักษรให้หน่อยครับ อายุมากแล้วอ่านตัวเล็กลำบากครับ
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 4

    เสียงอิเล็กทรอนิกส์ดังขึ้นภายในสมอง ทำให้กู้หว่านเยว่ตกใจแทบแย่“เจ้าเป็นใคร?”“สวัสดีเจ้านาย ข้าเป็นผู้ดูแลระบบมิติ รับผิดชอบตอบปัญหาที่ท่านสงสัยโดยเฉพาะ”มิติคือพลังวิเศษที่นางมีตั้งแต่ชาติก่อน ทว่าแต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยได้ยินเรื่องผู้ดูแลระบบอันใด“ก่อนนี้เจ้านายอยู่ในขั้นเริ่มต้น จึงไม่ได้เปิดใช้งานฟังก์ชันของระบบ แต่อิงตามการกักตุนสินค้าเต็มพื้นที่ของท่านในวันนี้ มิติได้เปิดใช้งานผู้ดูแลระบบและอาคารทางการแพทย์ให้ท่านแล้ว”กู้หว่านเยว่หลับตาลง เพียงนึกคิดก็เข้าสู่มิติได้แล้ว ดังคาด ภายในพื้นที่กักตุนสินค้า นอกจากสิ่งของที่นางเก็บมา ก็มีอาคารทางการแพทย์เครื่องมือล้ำสมัยหลังหนึ่งทว่า เหตุใดเป็นอาคารทางการแพทย์เล่า?“ซูจิ่งสิงต้องการอาคารทางการแพทย์ เจ้าก็เปิดการใช้งานอาคารทางการแพทย์ ตกลงเจ้าของร่างคือข้าหรือซูจิ่งสิงกันแน่?”กู้หว่านเยว่ไม่สบอารมณ์อย่างมากในใจ“...” ผู้ดูแลระบบแกล้งตายไปแล้วกู้หว่านเยว่ทำเพียงสำรวจการเปลี่ยนแปลงภายในมิติ นอกจากอาคารทางการแพทย์ นางยังพบหน้าจอคล้ายศูนย์ควบคุมทำนองนั้นเพิ่มขึ้นมาในระบบอย่างหนึ่ง ข้างบนเขียนการเปิดใช้งานอาคารใหม่หลากหลายแบบอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-16
  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 5

    มีนางเป็นตัวอย่าง ทุกคนล้มเลิกความคิดแล้ว แต่ละคนกัดฟันเดินไปข้างหน้าเดินออกมาอีกราวห้าลี้ กู้หว่านเยว่เห็นนางหยางเหนื่อยจนคล้ายลาแก่ ต้องการขยับขึ้นไปช่วย แต่กลับถูกนางปฏิเสธ “หว่านเยว่ เจ้า เจ้าเหนื่อย ข้าเข็น...”“ใช่แล้วพี่สะใภ้ใหญ่ ท่านเพิ่งแต่งเข้ามาก็ต้องถูกเนรเทศไปกับพวกเรา จะยังให้ท่านลำบากอีกได้เยี่ยงไร” ซูจื่อชิงรู้ความ เรียกซูจิ่นเอ๋อร์น้องสาวมาช่วยเข็นด้วยกันใครรู้ซูจิ่นเอ๋อร์ตัวเล็กแต่อารมณ์ร้าย ใบหน้าเปี่ยมอารมณ์ไม่พอใจ “ข้าเหนื่อยจะตายแล้ว เข็นไม่ไหว ก็ควรให้กู้หว่านเยว่เข็น ใครให้นางเป็นดาวหายนะทำให้พวกเราต้องถูกเนรเทศกันเล่า”“น้องหญิง เจ้าพูดส่งเดชอันใด เรื่องนี้ตำหนิพี่สะใภ้ใหญ่ไม่ได้”ซูจื่อชิงโมโหขึ้นมาบ้างแล้ว เหตุใดน้องหญิงคิดเห็นเฉกเดียวกันกับบ้านเหล่านั้นได้เล่า?สีหน้าซูจิ่นเอ๋อร์กลับเปลี่ยนไปแล้ว รู้สึกเกลียดกู้หว่านเยว่เพิ่มมากขึ้นอีกหนึ่งส่วนอยู่ภายในใจกู้หว่านเยว่คร้านจะตามใจอารมณ์ของคุณหนูใหญ่ “เจ้าเองก็รู้ว่าพี่ใหญ่ของเจ้าเอ็นดูเจ้าที่สุด บัดนี้เขาหมดสติยังไม่ฟื้น ปรากฏว่าแม้แต่เข็นเกวียนของเขาสักเล็กน้อยเจ้าก็ไม่ยินดี ช่างเอ็นดูอย่างเสียเปล่า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-16
  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 6

    ซูจิ่งสิงไม่รู้ว่าตนตื่นตั้งแต่เมื่อไร“ดีเหลือเกิน พี่ใหญ่ ในที่สุดท่านก็ตื่นแล้ว”ซูจื่อชิงถอนหายใจด้วยความโล่งอกพี่ใหญ่ตื่นแล้ว ในที่สุดเรื่องพี่สะใภ้ใหญ่ก็มีกำลังหนุนแล้ว“พยุงข้าหน่อย” ซูจิ่งสิงยื่นมือออกมาอย่างอ่อนแรง พอนั่งพิงหัวเตียงได้แล้ว เขาก็มองดูกู้หว่านเยว่ที่ยืนอยู่คนเดียวด้วยสายตารู้สึกผิด“ขอโทษนะ”ไม่เพียงแต่ทำให้นางเดือดร้อน แต่ยังทำให้นางถูกตระกูลซูหยามเหยียดกู้หว่านเยว่สบตาเขา ตกตะลึงไปเล็กน้อยแล้วรีบร้อนพูดว่า “ไม่ต้องขอโทษข้าหรอก เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับท่าน”ยิ่งไปกว่านั้น นางเองก็ไม่สนใจวาจาของพวกคนขยะแต่นางไม่คิดว่า ซูจิ่งสิงจะปกป้องนางทว่ากลับเป็นคนอื่นๆ ในห้องที่อดกลั้นไว้ไม่ไหว และไม่สนว่าบาดแผลของซูจิ่งสิงเป็นอย่างไร กระโจนเข้ามาถามว่า“จิ่งสิง เจ้าขอโทษนางมันหมายความว่าอย่างไร? เจ้าคิดว่าพวกเราเหล่าผู้เฒ่าทำผิดหรือ?”หากไม่หย่าภรรยา หรืออยากเห็นนางทำลายตระกูลหรือ?!“รีบหย่ากับนางเสีย ขอเพียงเจ้าหย่ากับนาง พวกเรายังคงเป็นครอบครัวเดียวกัน”“...”ครอบครัวเดียวกัน?ฮะๆ... ช่างเป็นครอบครัวเดียวกันที่แสนประเสริฐยามเขายังเป็นเจิ้นเป่ยอ๋อง ไม่เ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-16
  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 7

    เมื่อซูจิ่นเอ๋อกลับมา น้ำตาบนใบหน้าของนางก็เริ่มแห้ง มุมปากยังขดเม้มอย่างไม่ชอบใจอยู่เมื่อเดินผ่านกู้หว่านเยว่ นางจงใจแค่นเสียงตะคอก ก่นด่าไปหลายคำ“ดาวไม้กวาด[footnoteRef:1] บ่างช่างยุ สุนัขจิ้งจอก!” [1: หรือดาวหาง คติชนจีนบอกว่าดาวหางจะกวาดล้างผู้คน หากพบเห็น จะเกิดสงครามหรือภัยธรรมชาติ ส่วนความหมายของสมัยใหม่คือ เป็นคำสาปแช่งบุคคลที่จะนำภัยพิบัติหรือโชคร้ายมาสู่ตน มักใช้กับผู้หญิงเป็นหลัก] สุนัขจิ้งจอกนางยอมรับ แต่อีกสองคำนั้นนางไม่ยอมรับกู้หว่านเยว่เหลือบมองหญิงสาว ได้กลิ่นซาลาเปาเนื้อบนตัวของนางโชยมา พลันพูดเสียงดังว่า “ซูจิ่นเอ๋อ เหตุใดปากเจ้าจึงมันเยิ้มเช่นนั้น? เศษเนื้อเองก็ติดอยู่ที่ปาก เจ้าแอบไปกินซาลาเปาเนื้อลับหลังพวกเราหรือ?”“ไม่ ไม่ใช่เสียหน่อย!”ซูจินเอ๋อรู้สึกผิด รีบเช็ดมุมปากทันที สายตามองไปที่ซูจิ่งสิงและคนอื่นๆ โดยไม่รู้ตัว ก่อนจะได้ยินกู่หว่านเยว่ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา“เจ้าหลอกข้า?”ใบหน้าของซูจิ่นเอ๋อเปลี่ยนเป็นสีแดงด้วยความโกรธ นางกัดฟันแล้วพูดว่า“เจ้าบ่างช่างยุ รอก่อนเถอะ เจ้าจะได้มีความสุขเช่นนี้อีกไม่กี่วันแล้ว!”พี่หญิงซือซือรับปากกับนางแล้ว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-16
  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 8

    “นั่นน่ะสิ หัวหน้าใกล้จะหมดลมแล้ว นางยังพิรี้พิไรอยู่อีก”“รู้วิชาแพทย์อันใดกัน? ข้าว่านางเสแสร้งเสียมากกว่า” ชายคางแหลมคนหนึ่งกะพริบตาเล็กน้อย หยิบแส้ออกมา ตั้งใจฟาดไปที่กู้หว่านเยว่ทว่าจางเอ้อคว้าแส้ไว้ได้อย่างรวดเร็ว“เหล่าหลี ให้นางดูก่อนเถิด”เขารู้สึกว่ากู้หว่านเยว่ทำได้“นางยังเยาว์ถึงเพียงนี้ ทั้งยังเป็นอิสตรี จะรู้วิชาแพทย์ได้อย่างไร?” เหล่าหลี่ยังคงไม่ปล่อยมือกู้หว่านเยว่เลือกเซรุ่มที่ต้องการมาจากหอแห่งโอสถแล้ว เมื่อได้ยินคำเมื่อครู่ จึงมองไปหาและแดกดันว่า“เจ้ารีบห้ามข้าเช่นนี้ หรือว่าไม่อยากให้ข้ารักษาหัวหน้าของพวกเจ้าให้หายหรือ?”“เจ้า เจ้าเหลวไหล ข้าเปล่าเสียหน่อย!”เหล่าหลี่ที่ถูกคำพูดแทงก็โกรธมากเขาอายุมากกว่าซุนอู่ มีคุณสมบัติสูงกว่าซุนอู่ การคุ้มกันครั้งนี้ควรเป็นเขาที่เป็นหัวหน้า แต่เบื้องบนกลับมอบหมายงานนี้ไปให้ซุนอู่แทน...กู้หว่านเยว่มองเขาอย่างหยอกล้อ ไม่สนใจที่จะโต้เถียงกับเขา ก่อนจะหยิบเข็มฉีดยาที่บรรจุเซรุ่มออกมาจากกระเป๋าสะพายหลังแล้วปักลงไปที่แขนของซุนอู่โดยไม่ลังเลการฉีดเข้ากล้ามเนื้อ เป็นวิธีล้างพิษที่มีประสิทธิภาพที่สุดจางเอ้อไม่เคยเห็

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-16
  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 9

    “ทำไมเจ้ายังไม่นอน?” “เหตุใดท่านยังไม่นอน?”ทั้งสองพูดออกมาพร้อมกันกู้หว่านเยว่เขย่างานเย็บปักในมือ “ข้าเอาผ้าขี้ริ้วมาเย็บเป็นถุงหอมเล็กๆ สักสองสามถุง แล้วจะใส่สมุนไพรป้องกันแมลงลงไปเจ้าค่ะ”ระหว่างทางเนรเทศ ผู้คนกินนอนในที่โล่ง งูเงี้ยวเขี้ยวขอมีให้ได้เห็นอยู่เรื่อยๆแมงป่องพิษวันนี้มันด้วยมิใช่หรือ?พกถุงหอมป้องกันแมลงไว้สักหน่อย จะได้ไม่โดนแมลงพิษกัดเอาพูดจบ กู้หว่านเยว่ก็ก้มหน้าเย็บถุงหอมต่อทว่าฝีมือการเรือนของนางไม่ค่อยดีนัก นางพลางเย็บพลางมุ่ยหน้า ราวกับว่ากำลังเจอกับปัญหาใหญ่ไร้ทางแก้ซูจิ่งสิงมองแล้วก็อยากจะช่วยขึ้นมา“ข้าช่วยเจ้าเย็บดีกว่า”กู้หว่านเยว่ถามเขาด้วยรอยยิ้มจางๆ “ท่านไม่กลัวอับอายหรือ?”นางคิดว่าหากเขากล้าแสดงสีหน้ารังเกียจ นางจะหันหลังจากไปแน่นอน“สิ่งนี้มีอะไรน่าอับอายกัน?” ซูจิ่งสิงพูดอย่างเถรตรง “ข้าได้แต่นอนอยู่บนรถเข็น ช่วยอะไรพวกเจ้าไม่ได้ หากเรื่องเย็บปักเล็กน้อยเช่นนี้ยังรังเกียจ เช่นนั้นถึงจะเรียกว่าน่าอับอาย”อื้ม เป็นคำตอบที่สุภาพบุรุษมาก!เจอปัญหาไม่คิดกลัว กลัวเพียงยามบุรุษเจอปัญหาแล้วยังนอนอยู่บนเตียงทำตัวเป็นนายท่าน รังเกียจนั่น รั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-16
  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 10

    นางผละตัวออกจากมือของพวกนางด้วยความรู้สึกไม่สบายตัว“ท่านย่า ป้าสะใภ้รอง ข้าต้องไปแล้วเจ้าค่ะ ไม่เช่นนั้นท่านแม่จะโกรธเอาได้”เมื่อเห็นว่านางไม่เชื่อฟัง เฉียนซื่อก็เริ่มร้อนรน “แม่เจ้าเป็นแค่คนสมองทื่อคนหนึ่ง จะโกรธเกรี้ยวอะไรขึ้นมาได้?”ดวงตาของซูจิ่นเอ๋อเบิกกว้าง “ป้าสะใภ้รอง ท่านพูดถึงท่านแม่ข้าเช่นนั้นได้อย่างไร?”จิตใจของเฉียนซื่อถูกตีกระตุ้น พลันโพล่งออกมาว่า “แม่เจ้าเดิมทีก็ไม่สมประดี ยังห้ามไม่ให้คนพูดอีก ยังคิดว่าตัวเองเป็นมารดาอ๋อง ขนิษฐาอ๋องอยู่อีกหรือ?”“ท่าน……”ร่างกายของซูจิ่นเอ๋อสั่นเทา นางไม่อยากจะเชื่อเลยว่าป้าสะใภ้รองที่เคยดีกับนางถึงเพียงนั้น จะพูดออกมาเช่นนี้หันมาอีกด้าน ท่านย่าเองก็แสดงสีหน้าเย็นชาเช่นกัน สายตาที่มองนางเผยให้เห็นถึงความไม่อดทนซูจิ่นเอ๋อวิ่งหนีไปอย่างเศร้าใจกู้หว่านเยว่เพิ่งย้ายซาลาเปาเนื้อไปยังที่ที่ปลอดภัยที่อื่นเสร็จ ก็เห็นสีหน้าของซูจิ่นเอ๋อดูตื่นตระหนก“เจ้าเป็นอะไรไป?”แม้ว่าจะไม่อยากสนใจนางหนูนี่ แต่นางยังเล็กเพียงนี้ก็ต้องติดตามโดนเนรเทศ จึงอดไม่ได้ที่จะถามไถ่ออกมาสักคำซูจิ่นเอ๋อเม้มริมฝีปาก เหลือบมองกู่หว่านเยว่ ทันใดนั้นก็พ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-16
  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 11

    กู้หว่านเยว่ไม่ได้ช่วยซูจื่อชิงและซูจิ่นเอ๋อเย็บถุงหอมบนเส้นทางการเนรเทศ ไม่มีคุณชายและคุณหนูผู้สูงส่ง ทุกคนต้องลงมือทำทุกอย่างด้วยตัวเองซูจื่อชิงรับถุงหอม จากนั้นไปขอคำแนะนำจากนางหยางซูจิ่นเอ๋อลังเลครู่หนึ่ง แต่ก็ไม่ได้ด่าทออย่างรุนแรงอีกต่อไป หยิบเข็มและด้ายขึ้นมาลองเย็บดูทว่าดวงตาของนางกลับมองไปที่กู้หว่านเยว่เป็นครั้งคราว ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่เมื่อเห็นว่าขบวนยังพักอยู่ กู้หว่านเยว่หยิบผ้าขึ้นมาแล้วเดินไปที่ริมลำธาร จากนั้นก้มหน้าลงแล้วแอบหยิบยาสีฟันและแปรงสีฟันออกมาจากมิติเพื่อล้างหน้าแปรงฟันไม่แปรงฟันปากเปื้อนไปหมด นางทนไม่ได้ในที่ไม่ไกลนัก หลี่ซือซือก็กำลังวักน้ำจากลำธารมาล้างหน้าเช่นกัน หางตาเหลือบไปเห็นกู้หว่านเยว่ล้างหน้าเสร็จแล้ว และกำลังจ้องมองผิวน้ำอย่างตั้งใจ ใจของนางก็เต้นแรงขึ้นมาอาศัยจังหวะที่ไม่มีใครอยู่รอบๆ ย่องเข้าไปใกล้กู้หว่านเยว่จากด้านหลัง จากนั้นยื่นมือออกไปผลักอย่างรุนแรง“ว้าย!”เสียงกรีดร้องดังขึ้นกู้หว่านเยว่ที่มองเห็นการเคลื่อนไหวของนางจากเงาสะท้อนในน้ำตั้งแต่แรกแล้วจึงหลบไปด้านข้าง ไม่ลังเลที่จะถีบหลี่ซือซือที่กำลังเซไปเซมาลงไปในน้ำ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-16

บทล่าสุด

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1084

    “ขออภัยพระชายา ข้าขอตัวก่อน”เขาแทบจะเผ่นหนีไปเลย ทำให้เซี่ยเหอมีความมั่นใจ พูดจาน้ำเสียงก็แข็งกร้าวขึ้น“พระชายา ข้ารู้ว่าท่านกับชิงหลานมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน เพียงแต่ว่า ข้าและพี่ใหญ่เฉิงมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งต่อกันแล้วในอนาคตเขาจำเป็นต้องแต่งงานกับข้า หวังว่าท่านจะช่วยเตือนคุณหนูชิงหลาน อย่าให้นางมาทำลายพวกเรา”เซี่ยเหอ พูดจาประชดประชัน ทำให้ชิงหลานโมโหอย่างมาก“เรื่องของพวกเจ้า เกี่ยวอะไรกับฮูหยินของพวกเราด้วย?”กู้หว่านเยว่กลับไม่โกรธ มองนางพลางยิ้มอย่างคลุมเครือ “ใครทำลายใครกันแน่?”สีหน้าของเซี่ยเหอเปลี่ยนไป นางไม่ได้อะไรดี ๆ เลยเมื่ออยู่ต่อหน้ากู้หว่านเยว่“ขอตัวลาก่อน”“เซี่ยเหอผู้นี้ ตอนแรกก็แสร้งทำเป็นใสซื่อบริสุทธิ์ แต่พอได้ขึ้นเตียงกับคุณชายเฉิงแล้ว ก็เผยธาตุแท้ออกมา”ชิงเหลียนบ่นพึมพำออกมาประโยคหนึ่ง โชคดีที่หงเจาไม่ได้อยู่ที่นี่ ไม่เช่นนั้นหมัดหนัก ๆ คงพุ่งออกไปแล้ว“ไม่ต้องสนใจนาง” กู้หว่านเยว่เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย“นางใช้วิธีแบบนี้เพื่อยกฐานะตัวเอง ต่อไปก็คงได้รับผลกรรมแน่นอน”เฉิงเซวียนก็ไม่ใช่คนโง่เขลา ต่อให้เขาโง่ แต่คนตระกูลเฉิงจะโง่หรือ?ใน

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1083

    กู้หว่านเยว่อยู่ในมิติเป็นเวลาสามชั่วยาม ในที่สุดก็ปรุงยาเสร็จสิ้น“หากมิใช่เพราะน้ำแร่ศักดิ์สิทธิ์อัปเกรด ทำให้สมุนไพรเติบโตอย่างรวดเร็ว คงไม่อาจปรุงยาลูกกลอนเม็ดนี้ได้จริง ๆ ”หลังจากใส่ยาลูกกลอนสีแดงลงในขวดหยกแล้ว กู้หว่านเยว่ก็ออกมาจากมิติ“น้องหญิง”ซูจิ่งสิงที่อยู่นอกประตูได้ยินเสียง จึงเรียกเบา ๆ กู้หว่านเยว่ที่อารมณ์ดีเอ่ยขึ้น“เปิดประตูเถิด ปรุงยาแก้พิษเสร็จแล้ว”“ได้”ซูจิ่งสิงเปิดประตู ใบหน้าเผยความห่วงใย “เหนื่อยมากหรือไม่?”“ไม่เท่าไร”กู้หว่านเยว่ชื่นชอบในวิชาแพทย์ ความรู้สึกประสบความสำเร็จจากการปรุงยาช่วยกลบความเหนื่อยล้า“ไปหาเทียนซิงเยว่ก่อน”ยานี้เก็บไว้ได้ไม่นานนัก กู้หว่านเยว่มาถึงห้องของเทียนซิงเยว่ แล้วมอบยาลูกกลอนให้กับนาง“กินกับน้ำอุ่น หลังจากกินแล้วอาจจะง่วงนิดหน่อย ท่านก็นอนพักผ่อนสักหน่อย”“ขอบคุณมาก”เทียนซิงเยว่รับขวดยาด้วยมือทั้งสองข้างอย่างระมัดระวัง ยานี้มีค่ามากสำหรับนางไป๋โม่อวี่ยังไม่กลับมา กู้หว่านเยว่จึงตัดสินใจไปทานข้าวก่อนยุ่งมาทั้งวันแล้ว นางยังไม่ได้ทานข้าวเลย“ในหม้อมีกับข้าวร้อน ๆ แล้ว” เป็นของที่หลี่หรงหรงทำขึ้นมาใหม่ ฝีมื

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1082

    เทียนซิงเยว่ยิ้มเล็กน้อย “ข้ารักเขา ดังนั้นข้าจึงเชื่อว่าเขาจะไม่มีวันทอดทิ้งข้า เช่นเดียวกัน เขาก็รู้สึกเช่นนี้ต่อข้า”เฉิงเซวียนสะดุ้งเล็กน้อย “ข้า...”เขาอยากจะบอกว่าตัวเองมีคนที่ชอบ แต่พอนึกขึ้นได้ เขาก็ดูเหมือนจะไม่ได้เชื่อใจน้องหญิงอย่างเต็มที่วันนั้น เขาเข้าข้างเซี่ยเหอโดยไม่ได้แยกแยะถูกผิด และยังทะเลาะกับน้องหญิงเพราะเซี่ยเหออีก“หลังจากที่ชิงหลานกลับมา ดูเหมือนเจ้าจะไม่เคยถามสักคำว่านางไปเจออะไรมาบ้างในช่วงที่หายตัวไป?”กู้หว่านเยว่เอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา คนผู้นี้ช่างรู้ตัวช้าจริง ๆ เพิ่งจะมาคิดได้เอาป่านนี้เฉิงเซวียนเข้าใจขึ้นมาทันที สีหน้าแดงก่ำ “เรื่องที่เกิดขึ้นในคืนนั้นมันมากมายเหลือเกิน...”เขาไม่ใช่ไม่อยากถาม เพียงแต่ยังไม่มีโอกาสได้ถามเท่านั้น“น้องหญิง”เขาเงยหน้าขึ้น เห็นเนี่ยชิงหลานยืนอยู่ที่หน้าประตูพอดี มองเขาด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความผิดหวัง“พี่หญิงหว่านเยว่ ข้าวเสร็จแล้ว”เนี่ยชิงหลานพูดจบประโยคนี้ก็หันหลังเดินจากไป ทำให้เฉิงเซวียนตกใจจนต้องรีบวิ่งตามไป“น้องหญิงฟังข้าอธิบายก่อน เรื่องวันนั้นมันไม่ใช่อย่างที่เจ้าคิดจริง ๆ ”เสียงของทั้งสองคนค่อย

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1081

    ถึงแม้ไป๋โม่อวี่จะบอกกับนางหลายครั้งแล้วว่าเขาไม่สนใจรูปลักษณ์ภายนอกของนางเลยแต่ทุกครั้งที่นางเห็นหญิงชราที่ดูซูบผอมในกระจก ก็ยังคงรู้สึกว่าตัวเองน่าเกลียดเกินไป ไม่คู่ควรกับชายหนุ่มที่ดีที่สุดในใจของนาง“ข้ามียาสมุนไพรชนิดหนึ่ง”ในที่สุดกู้หว่านเยว่ก็รู้สึกสงสารขึ้นมาเล็กน้อย“ถึงแม้จะไม่สามารถแก้พิษของท่านได้ แต่สามารถทำให้ใบหน้าของท่านกลับคืนสู่สภาพเดิมได้”สมุนไพรชนิดนี้ นางพบตอนที่อยู่ในถ้ำ ก่อนหน้านี้ก็ไม่มีเช่นกัน“จริงหรือ?”เทียนซิงเยว่รู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย แม้ว่านางจะไม่เคยเสียใจที่ตอนนั้นใบหน้าของตนเองถูกทำลายเพื่อตามหายาให้กับไป๋โม่อวี่แต่นางก็มักจะคิดอยู่เสมอว่า หากใบหน้าของนางกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ เช่นนั้นคงจะดีไม่น้อย“พระชายา โปรดมอบยาให้ด้วยเถิด”นางรู้ดีว่าในมือของนางไม่มีสิ่งใดที่จะทำให้อีกฝ่ายซาบซึ้งได้ ทำได้เพียงเอ่ยคำขอร้องเท่านั้น“ข้าหวังว่าภาพสุดท้ายที่ข้าจะทิ้งไว้ให้อาโม่ จะเป็นภาพที่งดงามสมบูรณ์แบบ”“ซิงเยว่”ไป๋โม่อวี่ก็เข้าใจดีว่าตนเองได้มอบชิ้นส่วนแผนที่ขุมทรัพย์ออกไปแล้ว ไม่มีสิ่งใดที่จะนำมาแลกเปลี่ยนกับกู้หว่านเยว่ได้อีกเพื่อให้บรรลุเ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1080

    “ชิ้นส่วนแผนที่ขุมทรัพย์?”ดวงตาของกู้หว่านเยว่เป็นประกาย ก่อนหน้านี้อ๋องหกเพื่อที่จะแลกเปลี่ยนเงื่อนไขกับนาง ก็มอบชิ้นส่วนแผนที่ขุมทรัพย์ชิ้นหนึ่งให้กับนางเช่นกัน ชิ้นส่วนนั้นนางเก็บไว้ในมิติมาโดยตลอดเท่าที่นางรู้ ชิ้นส่วนแผนที่ขุมทรัพย์ที่อ๋องหกมอบให้แก่นางก็น่าจะเป็นของราชวงศ์ตงโจวเช่นกัน หรือว่าชิ้นส่วนที่ทั้งสองคนหยิบออกมานั้นจะเป็นแผนที่ขุมทรัพย์เดียวกัน?“ท่านเอาชิ้นส่วนนั้นออกมาให้ข้าดูหน่อย”กู้หว่านเยว่กล่าวอย่างรีบร้อน“วางใจได้ หากสิ่งของสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ข้าต้องการจริง ๆ ข้าจะไม่คืนคำแน่นอน”“ตกลง”ไป๋โม่อวี่พยักหน้า บอกตำแหน่งของชิ้นส่วนแผนที่ขุมทรัพย์ให้กับพวกเขา“หลังจากได้ชิ้นส่วนแผนที่ขุมทรัพย์มาแล้ว ด้วยประสบการณ์การดูสมบัติของข้ามาหลายปี จึงตัดสินได้ว่าแผนที่ขุมทรัพย์นี้ต้องมีมูลค่ามหาศาล ดังนั้นข้าจึงเย็บมันไว้ที่ด้านในของเสื้อผ้า”ไป๋โม่อวี่ชี้ไปที่ตำแหน่งหนึ่งบนร่างกายของเขา ซูจิ่งสิงเหลือบมองเขา แล้วเอ่ยกับกู้หว่านเยว่“น้องหญิงเจ้าหันหลังไปก่อน ข้าจะไปเอาชิ้นส่วนแผนที่ขุมทรัพย์ออกมาให้”เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายเย็บชิ้นส่วนแผนที่ขุมทรัพย์ไว้ในเสื้อตัวใน

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1079

    ไม่รู้ว่าเขาเอาเรี่ยวแรงมาจากไหน จู่ ๆ ก็ลงมือกับกู้หว่านเยว่ซูจิ่งสิงคอยปกป้องกู้หว่านเยว่อยู่ข้าง ๆ ตลอดเวลา เมื่อเห็นดังนั้นจึงเตะเขาจนกระเด็นออกไป จากนั้นก็เผยเจตนาสังหาร หยิบกระบี่ยาวข้างกายขึ้นมาแล้วเดินไปหาเขาคนผู้นี้ช่างไม่รู้จักผิดชอบชั่วดีเลยจริง ๆ น้องหญิงของเขาเต็มใจยื่นมือช่วยเหลือคนรักของเขา ก็ถือว่าดีมากแล้วเขากล้าดีอย่างไรถึงได้ลงมือ?“อย่าฆ่าเขา”เทียนซิงเยว่รีบขอร้อง มองซูจิ่งสิงด้วยสายตาอ้อนวอน“เขาแค่รู้เรื่องอาการป่วยของข้า จึงตื่นเต้นไปชั่วขณะ ไม่ได้มีเจตนาใด ๆ ขอร้องพวกท่านปล่อยเขาไปเถิด”“ท่านพี่ เก็บกระบี่เถิด”กู้หว่านเยว่เข้าใจความรู้สึกของไป๋โม่อวี่ ดังนั้นนางจึงไม่อยากจะถือสาเขาไม่มีใครที่รู้ว่าคนรักกำลังจะตายในอีกไม่ช้า แล้วสามารถทำใจให้สงบนิ่งได้“ขอบคุณมาก”เทียนซิงเยว่มองกู้หว่านเยว่ด้วยความซาบซึ้ง จากนั้นก็รีบคลานไปหาไป๋โม่อวี่ซูจิ่งสิงเตะออกไปอย่างแรง ดังนั้นตอนนี้ไป๋โม่อวี่จึงแทบจะลุกไม่ขึ้น“อาโม่ ช่วงเวลาที่ผ่านมาที่ได้อยู่กับเจ้า ข้าก็มีความสุขมากแล้ว”นางจับมือทั้งสองข้างของเขาไว้“อย่าโทษผู้ใดเลย โรคของข้ารักษามานานหลายปี หมอ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1078

    “ซิงเยว่ จะ เจ้าเป็นอะไรไป?”“อึก!”เทียนซิงเยว่กระอักเลือดออกมาอีกครั้ง ทำให้เขาตกใจเสียจนแทบจะเป็นบ้าตั้งแต่ถูกจับมาจนถึงตอนนี้ เขามีท่าทีแข็งกร้าวมาตลอด แต่ในตอนนี้กลับวิงวอนกู้หว่านเยว่อย่างน่าเวทนา“ขอร้องล่ะ ไปตามหมอหน่อยเถิด”ไป๋โม่อวี่กอดเทียนซิงเยว่เอาไว้ เขารับไม่ได้หากต้องสูญเสียนางไปจริง ๆ “ขอเพียงท่านไปตามหมอ ไม่ว่าท่านต้องการทำอะไรข้าก็จะรับปาก ท่านต้องการเงิน หรือว่าต้องการตลาดมืด หรือแม้แต่ชีวิตของข้า ข้าก็จะให้ท่าน”“อาโม่...” เทียนซิงเยว่จับมือของไป๋โม่อวี่เอาไว้ “อย่าร้องไห้”“ไม่ได้ร้อง” ไป๋โม่อวี่หางตาแดงก่ำ น้ำตาไหลรินลงมาแล้ว เมื่อเห็นเทียนซิงเยว่กระอักเลือดออกมาคำโต หัวใจของเขาก็แตกสลายจนพูดอะไรไม่ออกกู้หว่านเยว่ถอนหายใจ “ช่างเถิด ข้าจะดูให้เอง”นางเป็นฝ่ายอธิบายขึ้นมาก่อน “ข้ามีความรู้ทางการแพทย์”ซูจิ่งสิงรู้ว่าน้องหญิงของเขาใจอ่อน จึงรีบอธิบายแทนว่า “ขาที่หักของข้า หว่านเยว่เป็นคนรักษาให้หายดี”“เร็วเข้า” ไป๋โม่อวี่ก็นึกขึ้นมาได้แล้วเช่นกัน เขาเคยส่งคนไปสืบเรื่องราวของสามีภรรยาคู่นี้ในรายงานที่ส่งกลับมานั้น มีการระบุว่ากู้หว่านเยว่เชี่ยวชาญด้

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1077

    เฉิงเซวียนโกรธเสียจนหน้าแดงเส้นเลือดปูด “ท่านเป็นน้องสาวบุญธรรมของท่านตาของข้า!”สุดยอด กู้หว่านเยว่ที่กำลังยุ่งเรื่องชาวบ้านถึงกับมือสั่น ดวงตาเป็นประกายเรื่องใหญ่น่าดูเชียว!“น้องหญิง นั่งก่อน” ซูจิ่งสิงยกเก้าอี้มาให้ด้วยความเอาใจใส่ ภรรยาต้องสนใจเรื่องแบบนี้แน่ ๆ “พวกท่านทำอะไรท่านตาของข้า?”เฉิงเซวียนร้อนใจเล็กน้อย ไป๋โม่อวี่กล่าวอย่างดูถูก“แค่ข้ารับใช้คนหนึ่ง คู่ควรให้เราทำอะไรด้วยหรือ?”น้ำเสียงดูถูกของเขาทำให้เฉิงเซวียนโกรธ “ระวังปากหน่อย”“อาโม่ อย่าเอ่ยเช่นนั้น”เทียนซิงเยว่หลับตาลงด้วยความเจ็บปวด “ในเมื่อเจ้าอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ข้าก็จะบอกเจ้า”แท้จริงแล้วเทียนซิงเยว่ผู้นี้ เป็นถึงคุณหนูใหญ่ของตลาดมืดเพียงเพราะเถ้าแก่เทียนคู่สามีภรรยาถูกศัตรูฆ่าตาย ก่อนสิ้นใจ ทั้งสองคนได้ฝากฝังเสี่ยวซิงเยว่ไว้กับเฉิงเย่ว์ผู้เป็นลูกน้อง และกำชับให้เขาดูแลตลาดมืดเป็นอย่างดีเฉิงเย่ว์เลี้ยงดูเทียนซิงเยว่ราวกับน้องสาวแท้ ๆ ทั้งเลี้ยงดูนางจนเติบใหญ่ และบริหารจัดการตลาดมืดไปพร้อมกันเพียงแค่รอให้นางเติบโตเป็นผู้ใหญ่และแต่งงาน ก็จะมอบตลาดมืดให้กับนางและสามีของนาง“แต่ข้ากลับรักอา

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1076

    เขาเป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นมาก่อน“ข้าอยากจะถามเรื่องเกี่ยวกับท่านตาของข้าในตอนนั้น”กู้หว่านเยว่ครุ่นคิด ตลอดทางที่นางและท่านพี่เดินทางจากเจดีย์หนิงกู่มาจนถึงเขาอินซาน เฉิงเซวียนก็ช่วยเหลือไว้ไม่น้อย หากไม่มีเขา พวกนางคงไม่สามารถปล้นคลังเก็บของทั้งแปดแห่งได้“ได้ เจ้ามากับข้า”เรื่องของความรู้สึกก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของความรู้สึก กู้หว่านเยว่ยังคงแยกแยะได้อย่างชัดเจนหลังจากที่กู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงกลับมา ก็ขังไป๋โม่อวี่และเทียนซิงเยว่เอาไว้ในห้องมืด เวลานี้ทั้งสองคนได้สติขึ้นมาแล้วเมื่อเห็นกู้หว่านเยว่เดินเข้ามาจากข้างนอก ไป๋โม่อวี่ก็อดไม่ได้ที่จะด่าทอออกมา“ที่นี่มันที่ไหน? พวกท่านคนชั่วช้าพาข้ามาที่ไหนกัน?”“ท่านไม่รู้จริง ๆ หรือว่าที่นี่คือที่ไหน? ที่นี่คือเรือนของเวินทิงอวิ๋นลูกน้องของท่านอย่างไรเล่า”กู้หว่านเยว่แสร้งหัวเราะแล้วเอ่ยขึ้น “ภายในเรือนของพวกเขามีสมบัติล้ำค่าอยู่ไม่น้อยเลย ท่านช่างใจกว้างยิ่งนัก ถึงกับมอบสมบัติมากมายให้กับลูกน้องคนหนึ่ง จนกระทั่งคลังเก็บของแทบไม่หมดแล้ว”สีหน้าของไป๋โม่อวี่เปลี่ยน เขาไม่เคยมอบสมบัติใด ๆ ให้กับเวินทิงอวิ๋นเลย ในเมื่ออีกฝ่ายแอบสะสม

DMCA.com Protection Status