ซาเอบะ นักสืบเอกชนที่มีชื่อเสียง ได้รับคดีที่ท้าทายเมื่อ เมย์ นักศึกษาสาวผู้มีความมุ่งมั่นและเก่งกาจ หายตัวไปอย่างลึกลับ ซาเอบะร่วมมือกับ หลินหลิน นักศึกษาสาวผู้มีความสามารถด้านการสืบสวนและการวิเคราะห์ เพื่อค้นหาความจริงเบื้องหลังการหายตัวไปของเมย์ระหว่างการสืบสวน ซาเอบะและหลินหลินพบว่าเมย์มีความขัดแย้งกับ อาร์ม หนึ่งในเพื่อนร่วมชั้นของเธอ ซึ่งอาจเป็นต้นเหตุของการหายตัวไป นอกจากนี้ยังพบว่า ภูมิ หนุ่มที่มีปัญหาทางการเงินและรู้สึกถึงความกดดันจากเจ้าหนี้ อาจมีส่วนเกี่ยวข้องในการหายตัวไปนี้ในระหว่างการตรวจสอบเอกสารและสอบถามผู้ที่เกี่ยวข้อง ซาเอบะพบเบาะแสใหม่ที่เกี่ยวข้องกับการประชุมลับที่เมย์เคยเข้าร่วม ซึ่งอาจเป็นจุดเชื่อมโยงสำคัญที่นำไปสู่การไขปริศนา ซาเอบะและหลินหลินจึงต้องย้อนกลับไปตรวจสอบข้อมูลทั้งหมดเพื่อหาความเชื่อมโยงที่ซ่อนอยู่คดีนี้เต็มไปด้วยความซับซ้อนและแรงจูงใจที่ไม่ชัดเจน ซาเอบะและหลินหลินต้องใช้ทั้งทักษะการสืบสวนและความเข้าใจในจิตใจของผู้คน เพื่อไขปริศนานี้และหาคำตอบว่าใครอยู่เบื้องหลังการหายตัวไปของเมย์
View Moreความเงียบที่ปกคลุมหมู่บ้านร้างสร้างบรรยากาศชวนอึดอัด ทุกคนในกลุ่มของซาเอบะต่างรู้สึกได้ว่ามีบางสิ่งไม่ชอบมาพากล ทาเคชิเดินตรวจตรารอบๆ บ้านไม้เก่าหลังหนึ่ง มือยังจับปืนแน่น ขณะที่หลินหลินเดินตามอย่างระมัดระวัง เมย์เกาะฮิโรชิเอาไว้ ร่างกายของเธอสั่นเล็กน้อยเพราะความกลัว “หมู่บ้านนี้เงียบเกินไป” หลินหลินพูดเบาๆ พลางมองรอบๆ ด้วยสายตาสงสัย “เงียบเกินกว่าจะเป็นเรื่องบังเอิญ” ซาเอบะกล่าว ขณะเดินออกจากบ้านหลังหนึ่งพร้อมกระดาษในมือ เขายื่นกระดาษนั้นให้ทาเคชิอ่าน ทาเคชิขมวดคิ้วเมื่อเห็นข้อความว่า “พวกเรารู้ว่าคุณจะมาที่นี่” “พวกมันเล่นเกมกับเรา” เขาพูด “เราควรออกจากที่นี่ก่อนที่จะสายเกินไป” “เห็นด้วย” ซาเอบะตอบ “แต่เราต้องหาวิธีให้แน่ใจก่อนว่าทางออกของเราจะปลอดภัย” ทันใดนั้น เสียงดัง ปัง! ก็ดังขึ้นจากระยะไกล เสียงนั้นสะท้อนไปทั่วหมู่บ้าน “ระวัง!” ซาเอบะตะโกน ทุกคนหมอบลงกับพื้นในทันที เสียงฝีเท้าหนักๆ ดังเข้ามาใกล้จากทางทิศตะวันออก ฮิโรชิหันไปมองพลางพูดด้วยเสียงสั่น “พวกมันมาแล้ว…พวกมันรู้ว่าเราอยู่ที่นี่” ซาเอบะกัดฟันแน่น “เราต้องหาที่กำบัง” เขาออกคำสั่ง “ทาเคชิ! หลินหลิน! พาเมย์กับฮิโ
เสียงก้าวเดินเบาๆ ของกลุ่มซาเอบะยังคงดังสะท้อนในความเงียบสงัดของป่าทึบ แม้พวกเขาจะรักษาระยะห่างจากคนร้ายได้ แต่ความตึงเครียดยังคงปกคลุม เมย์เดินด้วยท่าทางเหนื่อยอ่อน หลินหลินประคองเธอเอาไว้ไม่ให้ล้ม “เราใกล้ถึงหมู่บ้านแล้วใช่ไหม?” เมย์ถามพลางหายใจหอบ “อีกไม่ไกล” ซาเอบะตอบ เขากวาดสายตาไปรอบตัวเพื่อจับตาความผิดปกติ ทาเคชิที่เดินตามหลังกลุ่มอยู่หยุดเท้ากระทันหัน เขาชูมือขึ้นเป็นสัญญาณให้ทุกคนหยุดตาม “มีบางอย่างผิดปกติ” เขาพึมพำเบาๆ ซาเอบะหันกลับมามองทาเคชิ สายตาของเขาฉายแววสงสัย “เจออะไร?” ทาเคชิชี้ไปยังพื้นดินเบื้องหน้า “ดูรอยเท้า…มันสดมาก” ซาเอบะขมวดคิ้วก่อนจะก้มลงตรวจดูรอยเท้าด้วยความระมัดระวัง “ไม่ใช่พวกเรา และมันไม่ได้มาจากคนร้ายที่ไล่ตามเราด้วย” “หมายความว่ามีคนอื่นอยู่แถวนี้?” หลินหลินถาม น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยความวิตก ซาเอบะพยักหน้าเบาๆ “ใช่ และคนพวกนี้อาจไม่เป็นมิตร” ทันใดนั้น เสียงกิ่งไม้หักดังมาจากพุ่มไม้ด้านข้าง ทุกคนต่างจับอาวุธในมือแน่น ขณะจ้องมองไปยังจุดที่เสียงดังขึ้น ซาเอบะยกปืนขึ้นเล็ง พร้อมออกคำสั่งเบาๆ “ระวังตัว…อย่าเพิ่งทำอะไรบุ่มบ่าม” เงาร่างหนึ่งเคลื่อน
เสียงฝีเท้าหนักหน่วงและเสียงเห่าสะท้อนผ่านป่ามืด ซาเอบะหยุดวิ่งทันทีเมื่อเห็นเงาสะท้อนจากไฟฉายห่างออกไป เขายกมือส่งสัญญาณให้ทุกคนหมอบลงใต้พุ่มไม้หนาทึบ แม้ว่าความเหนื่อยล้าจะเริ่มทำให้ขาของเขาสั่น แต่ซาเอบะก็รู้ดีว่าการหยุดชั่วคราวนี้เป็นสิ่งจำเป็น “พวกมันยังตามมาไม่เลิก” ทาเคชิพึมพำพร้อมปาดเหงื่อจากหน้าผาก ขณะที่เขาพยายามจับปืนให้มั่น “เงียบก่อน” ซาเอบะตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชา แต่หนักแน่นพอให้ทุกคนทำตาม เสียงสุนัขที่เคยดังใกล้หูเริ่มห่างออกไปทางทิศเหนือ กลุ่มคนร้ายดูเหมือนจะเดินตามรอยที่กลุ่มของพวกเขาเบี่ยงเบนไว้ก่อนหน้า หลินหลินที่นั่งใกล้เมย์สัมผัสได้ถึงอาการตัวสั่นของหญิงสาว จึงเอื้อมมือไปจับแขนเมย์เบาๆ “อย่ากังวลไปนะ เราเกือบจะพ้นแล้ว” หลินหลินกระซิบด้วยน้ำเสียงปลอบโยน ซาเอบะหันมาหากลุ่มพลางกระซิบเบาๆ “เราต้องเคลื่อนที่ทันที ตอนนี้เป็นโอกาสดี พวกมันยังไม่ทันรู้ว่าเรามุ่งหน้าไปทางไหน” ทุกคนพยักหน้าและเริ่มเคลื่อนตัวไปตามเส้นทางลำธารต่อ ซาเอบะนำทางไปขณะที่สายตาของเขากวาดมองรอบตัวอย่างระแวดระวัง ทาเคชิคอยปิดท้ายกลุ่ม มือของเขากุมปืนแน่นตลอดเวลา หลังจากเดินต่อมาอีกหลายร้อยเมตร พว
ความเงียบภายในห้องใต้ดินถูกทำลายด้วยเสียงลมหายใจของกลุ่มซาเอบะ เสียงฝีเท้าหนักหน่วงของคนร้ายที่เดินวนอยู่ด้านบนทำให้ทุกคนต้องระมัดระวังตัว ซาเอบะมองไปรอบๆ ห้องใต้ดินที่มีแสงสลัวจากตะเกียงน้ำมันดวงเล็ก ความกดดันในสถานการณ์ทำให้ทุกคนต้องเก็บเสียงอย่างที่สุด “เราออกไปตอนนี้ไม่ได้” ซาเอบะกระซิบเบาๆ ให้ทุกคนได้ยิน “พวกมันยังอยู่ใกล้ๆ” “แต่ถ้ารอนานกว่านี้ พวกมันอาจค้นเจอเรา” ทาเคชิแย้งด้วยน้ำเสียงร้อนรน มือขวาของเขากุมปืนแน่นราวกับเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้ ชายชราเจ้าของบ้านเดินเข้ามาพูดเบาๆ “ที่นี่มีทางออกลับอยู่ข้างหลังห้องใต้ดิน แต่ต้องคลานผ่านอุโมงค์แคบๆ ไป” เขาชี้ไปที่มุมหนึ่งของห้อง ซึ่งมีประตูไม้เล็กๆ ซ่อนอยู่ใต้กองลังเก่า “นี่อาจเป็นโอกาสเดียวของเรา” หลินหลินพูด ขณะช่วยชายชราเคลื่อนลังออกจากทาง “ทาเคชิ นายไปก่อนเพื่อสำรวจทาง ถ้ามันปลอดภัย พวกเราจะตามไป” ซาเอบะสั่ง ทาเคชิพยักหน้าก่อนจะเปิดประตูเล็กและคลานเข้าไปในความมืดที่รออยู่ ขณะที่ทุกคนรออยู่หลัง ทาเคชิก็ส่งสัญญาณกลับมาด้วยเสียงกระซิบว่า “ทางนี้ปลอดภัย แต่ต้องรีบแล้ว” ซาเอบะให้หลินหลินพาเมย์คลานตามไปก่อน เขาเองเป็นคนสุดท้า
เสียงปืนดังกึกก้องท่ามกลางความมืด เสียงกระสุนที่วิ่งทะลุผ่านต้นไม้สร้างแรงสะท้อนให้ทุกคนต้องเคลื่อนตัวอย่างระมัดระวัง ซาเอบะถือปืนพกไว้แน่น เขารู้ว่ากระสุนของเขามีเหลือไม่มาก อีกทั้งสถานการณ์ยังดูยากลำบากเมื่อคนร้ายไล่ล่าพวกเขาอย่างไม่ลดละ“เราต้องหาทางออกจากป่าผืนนี้ก่อนที่พวกมันจะจับเราได้!” ซาเอบะกล่าวเสียงเข้ม ขณะมองไปรอบๆ เพื่อหาทางหนี ทาเคชิพยักหน้ารับคำ ก่อนจะชูปืนที่เพิ่งเก็บมาจากคนร้ายขึ้นมา “กระสุนเหลือไม่มาก แต่ยังพอใช้ยิงกันทางได้”หลินหลินประคองเมย์ที่ยังดูหวาดกลัวอยู่ เธอค่อยๆ หายใจลึกเพื่อทำให้ตัวเองใจเย็นลง “ทางนี้มีแสงไฟลิบๆ เราอาจไปทางนั้นได้” เธอชี้ไปยังแนวต้นไม้ที่มีแสงริบหรี่ลอดผ่าน“เป็นทางเดียวที่เรามี แต่ต้องรีบ เพราะพวกมันจะตามมาเร็วแน่” ซาเอบะกล่าวก่อนจะเริ่มนำทีมเดินต่อ เขาใช้ความเงียบและทักษะในการอ่านสถานการณ์เพื่อพาทุกคนหลบไปตามมุมที่ปลอดภัยที่สุดระหว่างที่พวกเขาเคลื่อนตัวผ่านป่า ความตึงเครียดปกคลุมทุกย่างก้าว เสียงใบไม้ที่กรอบแกรบใต้เท้าของพวกเขาทำให้ทุกคนต้องหยุดชะงักเป็นระยะ ซาเอบะชูมือส่งสัญญาณให้หยุดเมื่อเขาสังเกตเห็นเงาของคนร้ายที่เดินลาดตระเวนอยู่ไ
ท่ามกลางความเงียบที่แผ่ซ่านไปทั่ว พวกเขาทั้งหมดนั่งอยู่ในรถกระบะที่หลินหลินขับมา หลังจากที่ได้หนีออกมาจากการล้อมของคนร้าย พวกเขามองหน้ากันด้วยความเคร่งเครียด ซาเอบะยังคงนั่งตรงที่นั่งข้างคนขับ ขยับตัวเล็กน้อยขณะหันไปมองที่แผนที่ที่เขากำลังถืออยู่ในมือ “เราต้องหาทางไปยังสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุดแล้ว” ซาเอบะพูดเบาๆ ขณะยกนิ้วชี้ไปที่จุดบนแผนที่ “นี่คือที่ที่มีการเคลื่อนไหวของคนร้าย ถ้าเราพุ่งไปที่นั่น อาจจะทำให้พวกมันหายไปจากตัวเราได้สักระยะ” หลินหลินที่ขับรถมาเงียบๆ หยุดชะงักแล้วหันไปมองเขา “แต่เรายังไม่รู้เลยว่าพวกมันต้องการอะไรจากเรา” “เรารู้แค่ว่ามันเกี่ยวข้องกับข้อมูลที่เมย์ถืออยู่” ทาเคชิพูดขัดขึ้น “และมันก็ไม่ใช่เรื่องดีแน่ถ้าพวกมันยังตามเรามา” “ใช่ แต่ข้อมูลนั้นไม่ได้บอกทั้งหมดว่าพวกมันคือใคร และทำไมพวกมันถึงตามล่าหมายเลขนี้” ซาเอบะตอบกลับ ขมวดคิ้ว ขณะพิจารณาแผนที่ในมือ “มันต้องมีอะไรบางอย่างที่เรายังไม่รู้” ในขณะเดียวกัน เมย์ซึ่งนั่งเงียบๆ อยู่เบาะหลัง เริ่มรู้สึกถึงแรงกดดันและความเหนื่อยล้า เธอยังคงไม่เข้าใจทั้งหมดเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นกับตัวเอง “ฉัน… ฉันอยากรู้ว่า… ฉันเ
กระสุนจากปืนของซาเอบะพุ่งตรงไปยังเป้าหมาย เสียงดัง “ปัง!” ดังก้องในความเงียบ เสี้ยววินาทีนั้นใบพัดของเฮลิคอปเตอร์สะดุด แต่ยังไม่เพียงพอที่จะทำให้เครื่องเสียหาย พวกมันปรับระดับเครื่องบินต่ำลงเพื่อโต้กลับ “ไม่สำเร็จ!” ซาเอบะกัดฟันขณะรีบหลบเข้าที่กำบังเพื่อเติมกระสุน “ยิงให้แม่นกว่าเดิม ถ้าทำไม่ได้ เราจะไม่มีโอกาสหนี!” ทาเคชิพูดขณะจับปืนแน่น เฮลิคอปเตอร์เริ่มยิงตอบโต้ กระสุนพร่างพรายเจาะพื้นและต้นไม้รอบตัวพวกเขา เสียงใบพัดหมุนดังระงม ผสมกับเสียงคำรามของเครื่องยนต์ ซาเอบะรู้ดีว่าต้องทำบางอย่างเพื่อเปลี่ยนสถานการณ์ ในขณะที่หลินหลินขับรถหลบหนี เธอมองกระจกหลังอย่างกังวล ใบหน้าของเมย์ซีดเผือด แต่ยังพยายามควบคุมตัวเองไม่ให้ตื่นตระหนก “เราจะทำยังไงดี?” เมย์ถามเสียงสั่น “ใจเย็นไว้ ฉันจะหาทางออก” หลินหลินตอบ พลางหักพวงมาลัยเลี้ยวเข้าสู่เส้นทางลูกรังที่คดเคี้ยว เฮลิคอปเตอร์ยังคงไล่ล่าพวกเธออย่างไม่ลดละ กระสุนที่ถูกยิงลงมาสร้างความเสียหายให้กับตัวรถ ไฟเตือนบนหน้าปัดเริ่มกระพริบ “รถนี่คงไม่ไปได้นานกว่านี้” หลินหลินพูดพลางกัดริมฝีปากแน่น เธอพยายามประคองรถต่อไป แต่หัวใจกลับเต้นรัวด้วยความหวาดห
สายลมที่พัดผ่านต้นไม้รอบบ้านหลังเก่าเย็นเยียบจนเหมือนกับจะเตือนให้ทุกคนระวังตัว ทาเคชิออกสำรวจพื้นที่รอบบ้านอีกครั้งอย่างเงียบ ๆ ในขณะที่ซาเอบะนั่งตรวจสอบแฟ้มเอกสารอย่างละเอียด “นี่ไม่ใช่แค่เทคโนโลยีธรรมดา…” เขาพูดพึมพำกับตัวเอง ดวงตาจับจ้องไปยังหน้ากระดาษที่เต็มไปด้วยข้อมูลทางเทคนิค “ซาเอบะ เจออะไรบ้าง?” หลินหลินเดินเข้ามาใกล้ สีหน้าของเธอยังคงเคร่งเครียด “เทคโนโลยีนี้ไม่ใช่แค่ระบบควบคุมเครือข่ายทั่วไป” ซาเอบะตอบ “มันเป็นโปรแกรมที่สามารถรวบรวมข้อมูลจากทุกระบบในเครือข่ายทั่วโลก ทั้งข้อมูลส่วนตัว ข้อมูลทางการเงิน ไปจนถึงระบบความมั่นคงระดับประเทศ” “หมายความว่าถ้าองค์กรนั้นได้มันไป…” หลินหลินหยุดพูดกลางประโยค “พวกมันสามารถควบคุมทุกอย่างได้” ซาเอบะพูดต่อ “นี่คือเหตุผลที่พวกมันไล่ล่าเมย์ พวกมันต้องการข้อมูลนี้จากพ่อของเธอ” เมย์ที่นั่งอยู่ใกล้ ๆ เงยหน้าขึ้น น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยความวิตก “แล้วพ่อฉันรู้หรือเปล่าว่าข้อมูลนี้อันตรายแค่ไหน?” “ฉันคิดว่าเขารู้” ซาเอบะตอบ “นั่นอาจจะเป็นเหตุผลที่เขาซ่อนมันไว้และพยายามปกป้องเธอ” “แต่ตอนนี้เราเป็นเป้าหมาย” ทาเคชิพูดขึ้นขณะที่เดินกลับเข้ามา
เสียงนกกลางคืนแว่วดังในความมืด ความเหน็บหนาวในยามดึกของหมู่บ้านร้างยิ่งทำให้บรรยากาศดูเงียบเชียบและน่ากลัว ซาเอบะยืนพิงประตูบ้านร้าง มองออกไปในความมืดรอบตัว ความคิดของเขายังคงวนเวียนอยู่กับเรื่องที่เมย์เล่า “พ่อของเมย์เกี่ยวข้องกับอะไร?” เขาพึมพำเบา ๆ ด้านใน หลินหลินและเมย์นั่งอยู่ใกล้กองไฟเล็ก ๆ ที่พวกเขาก่อขึ้นในเตาผุพังเพื่อความอบอุ่น ทาเคชิกำลังตรวจสอบปืนและอุปกรณ์ที่พวกเขาเก็บมาได้จากคนร้าย “กระสุนเหลือไม่มาก” ทาเคชิพูดเสียงเรียบขณะใส่กระสุนลงในแมกกาซีน “พวกเราต้องระวัง” “นายคิดว่าพวกมันจะตามมาถึงที่นี่ไหม?” หลินหลินถาม “คงไม่เร็วขนาดนั้น แต่เราคงอยู่นานไม่ได้” ทาเคชิหยุดมองหลินหลินก่อนจะพูดต่อ “พวกมันไม่ได้หยุดแค่จับตัวเมย์แน่ ถ้าเรายังอยู่ในพื้นที่นี้ เราจะถูกล้อมอีกครั้ง” “แล้วเราจะไปไหน?” เมย์ถามขึ้นอย่างกังวล “ก่อนอื่น เราต้องรู้ให้ได้ว่าพ่อของเธอเกี่ยวข้องกับอะไร” ซาเอบะพูดพลางเดินเข้ามาในห้อง สายตาของเขาจับจ้องไปที่เมย์ “ฉันบอกแล้วว่าฉันไม่รู้” เมย์ตอบเสียงสั่น “พ่อไม่เคยพูดถึงอะไรพวกนี้เลย” ซาเอบะหยุดยืนตรงหน้าเธอ “เธอแน่ใจหรือ? ไม่มีอะไรเลยที่เธอจำได้ ไม่ว่ามันจ
ยามเช้าในกรุงเทพมหานคร อากาศยังคงอบอ้าวและควันรถจากถนนสายหลักก็ลอยคลุ้งไปทั่ว ซาเอบะ นักสืบเอกชนที่มีชื่อเสียงด้านการไขคดีที่ซับซ้อนและเป็นที่รู้จักในวงการสืบสวน เดินทางมาที่สำนักงานเล็กๆ ของเขาที่ตั้งอยู่ในย่านเงียบสงบไม่ไกลจากใจกลางเมือง สำนักงานของซาเอบะนั้นเรียบง่าย มีโต๊ะทำงานไม้ที่ดูเก่าๆ หนังสือกองพะเนิน และบอร์ดที่เต็มไปด้วยรูปถ่ายและโน้ตที่แปะไว้ซาเอบะเป็นชายวัยกลางคน ใบหน้าของเขามีแววครุ่นคิดเสมอ และมักจะมีลักษณะเงียบขรึม เขามักจะเริ่มต้นวันด้วยกาแฟดำเข้มๆ และหนังสือพิมพ์รายวัน แต่วันนี้ไม่เหมือนวันอื่นๆ เขารู้สึกได้ว่ามีบางอย่างไม่ปกติเมื่อได้เห็นซองจดหมายสีน้ำตาลวางอยู่บนโต๊ะทำงานของเขาจดหมายนี้ถูกส่งมาโดยไม่มีชื่อผู้ส่ง มีเพียงคำว่า "ด่วน" เขียนไว้ด้านหน้า ซาเอบะเปิดจดหมายออก และพบว่ามีการ์ดขนาดเล็กที่พับเอาไว้ ข้างในการ์ดมีข้อความสั้นๆ ที่พิมพ์ด้วยตัวอักษรเรียบง่ายแต่ชัดเจน:“ช่วยหาตัว เมย์ ให้ที เธอหายตัวไปแล้ว ฉันไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรต่อดี”ซาเอบะอ่านข้อความนั้นด้วยความสนใจแต่ก็ยังสงสัย จดหมายนี้มาจากใคร? เมย์เป็นใคร? และทำไมเขาถึงต้องเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้? ขณะที่เขา
Comments