ซาเอบะและหลินหลินตัดสินใจที่จะสืบหาต้นตอของเบอร์โทรศัพท์ที่ส่งข้อความข่มขู่มาหาเมย์ ด้วยความหวังว่าจะสามารถพบเบาะแสที่นำไปสู่การค้นหาตัวเมย์ได้
"เราควรจะเริ่มจากการตรวจสอบข้อมูลของเบอร์โทรศัพท์นี้" ซาเอบะกล่าว ขณะเขากำลังใช้เครื่องมือค้นหาข้อมูลเพื่อดูว่าเบอร์นี้อาจจะเกี่ยวข้องกับใคร
ซาเอบะทำการค้นหาข้อมูลเบื้องต้นและพบว่าเบอร์โทรศัพท์นี้เป็นของหมายเลขที่ถูกลงทะเบียนในชื่อของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ซาเอบะบันทึกชื่อบริษัทและที่อยู่ที่แสดงไว้
"เราควรไปที่บริษัทนี้และถามข้อมูลเพิ่มเติม" ซาเอบะเสนอ "บางทีอาจมีข้อมูลบางอย่างที่สามารถเชื่อมโยงกับคดีนี้"
ทั้งสองเดินทางไปยังบริษัทที่เบอร์โทรศัพท์นั้นลงทะเบียนอยู่ บริษัทนี้เป็นบริษัทที่ดูแลด้านความปลอดภัยและระบบสื่อสาร ซาเอบะและหลินหลินเข้าไปในสำนักงานและขอพบกับผู้จัดการ
ผู้จัดการของบริษัทคือชายวัยกลางคนที่ดูเหมือนจะไม่รู้สึกดีใจนักที่มีคนมาเยี่ยม เขานั่งลงและฟังเรื่องที่ซาเอบะเล่า
"ผมเข้าใจว่าคุณค้นหาเบอร์โทรศัพท์ที่ใช้ส่งข้อความข่มขู่ใช่ไหม?" ผู้จัดการถาม
"ใช่ครับ เราต้องการทราบว่าเบอร์นี้เชื่อมโยงกับใคร และเหตุใดถึงส่งข้อความข่มขู่ไปยังเมย์" ซาเอบะตอบ
ผู้จัดการดูเหมือนจะตกใจเล็กน้อย และบอกว่าเขาจะต้องตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติม แต่สามารถให้ข้อมูลเบื้องต้นได้ว่าเบอร์โทรศัพท์นี้อาจเชื่อมโยงกับพนักงานของบริษัทที่ชื่อว่า "ภูมิ" ซึ่งทำงานในฝ่ายสนับสนุนลูกค้า
ซาเอบะขอให้ผู้จัดการจัดเตรียมข้อมูลติดต่อของภูมิ และขอเวลาพูดคุยกับเขา
เมื่อซาเอบะและหลินหลินพบกับภูมิ พวกเขาพบว่าเขามีท่าทางวิตกกังวลและรีบพูดว่าเขาเพิ่งลาออกจากบริษัทไปเมื่อไม่นานมานี้
"ผมไม่รู้เรื่องนี้เลยครับ ผมแค่ทำงานตามหน้าที่ ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการข่มขู่ใคร" ภูมิกล่าว
ซาเอบะได้ยินแล้ว แต่เขารู้สึกว่าคำตอบของภูมิอาจไม่ครบถ้วน "ทำไมคุณถึงลาออกจากบริษัท?"
ภูมิพูดถึงเหตุผลส่วนตัวและปัญหาที่เขาต้องเผชิญ แต่มันไม่เป็นไปตามที่เขาคาดไว้
"เราต้องหาคำตอบที่ชัดเจนมากกว่านี้" ซาเอบะคิดในใจ "ตอนนี้เราต้องกลับไปพิจารณาเบาะแสที่เรามีอยู่"
ซาเอบะและหลินหลินกลับมาที่สำนักงานและตรวจสอบข้อมูลที่ได้มา ซาเอบะรู้ว่ามีบางอย่างที่ยังไม่ครบถ้วน และการสืบสวนนี้อาจจะต้องขยายออกไปมากกว่านี้เพื่อหาความจริง
หลังจากที่ซาเอบะและหลินหลินได้รับข้อมูลจากภูมิแล้ว ซาเอบะรู้ว่าเขาต้องมองหาความเชื่อมโยงที่อาจถูกมองข้ามไป ในช่วงเย็นของวันนั้น ซาเอบะนั่งทบทวนเบาะแสทั้งหมดที่เขามีอยู่"ตอนนี้เรามีข้อมูลจากโทรศัพท์ของเมย์ ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามีการข่มขู่เกิดขึ้น" ซาเอบะกล่าว "และเรายังมีข้อมูลจากภูมิ ที่บอกว่าเบอร์โทรศัพท์นั้นเชื่อมโยงกับเขา แต่เขาปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง"หลินหลินนั่งอยู่ข้าง ๆ และพูดขึ้น "เราต้องหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับภูมิและบริษัทของเขา อาจมีสิ่งที่เรายังไม่รู้"ซาเอบะพยักหน้า และตัดสินใจเริ่มค้นคว้าข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับภูมิและบริษัทที่เขาทำงานด้วย เขาใช้เวลาหลายชั่วโมงในการหาข้อมูลจากแหล่งข้อมูลออนไลน์ และพบว่าภูมิเคยมีปัญหาทางการเงินในช่วงที่เขาทำงานที่บริษัท"ดูเหมือนภูมิอาจจะมีแรงจูงใจบางอย่างที่เรายังไม่รู้" ซาเอบะกล่าว "แต่ยังไม่เพียงพอที่จะแสดงให้เห็นว่าเขาเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของเมย์"ในตอนเช้าของวันถัดไป ซาเอบะและหลินหลินไปที่บริษัทที่ภูมิเคยทำงานเพื่อพูดคุยกับพนักงานคนอื่น ๆ ที่อาจมีข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเขาพวกเขาพบกับพนักงานอีกคนหนึ่งที่ชื่อ "นัท" ซึ่งดูเหมื
ซาเอบะและหลินหลินกลับมาที่สำนักงานของซาเอบะเพื่อทบทวนเอกสารทางการเงินที่พบในห้องของเมย์ เอกสารเหล่านี้ดูเหมือนจะเป็นข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับหนี้สินและการชำระเงินที่อาจมีความเกี่ยวข้องกับภูมิซาเอบะเปิดเอกสารออกและตรวจสอบรายละเอียดอย่างละเอียด ในเอกสารมีข้อมูลเกี่ยวกับหนี้สินที่ภูมิอาจมี รวมถึงการชำระเงินที่ดูเหมือนจะไม่เป็นไปตามกำหนด"ข้อมูลนี้อาจหมายความว่า" ซาเอบะกล่าว "ภูมิอาจมีแรงจูงใจในการกระทำบางอย่างเพื่อหาเงินด่วน แต่เราไม่สามารถยืนยันได้ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของเมย์จริง ๆ"หลินหลินมองเอกสารและถาม "เราควรทำอย่างไรต่อไป?"ซาเอบะตอบว่า "เราต้องตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการชำระเงินที่ไม่ตรงตามกำหนดนี้ และอาจจะต้องค้นหาเกี่ยวกับผู้ที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้"หลังจากตรวจสอบเอกสารที่พบ ซาเอบะและหลินหลินตัดสินใจติดต่อผู้ให้กู้ที่เกี่ยวข้องในเอกสารเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับหนี้สินและการชำระเงินเมื่อได้ข้อมูลจากผู้ให้กู้ ซาเอบะพบว่าหนี้สินของภูมิไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับเมย์โดยตรง แต่มันบ่งชี้ว่าเขาอาจมีความเครียดที่เกี่ยวข้องกับปัญหาการเงินอย่างรุนแรง"ภูม
ซาเอบะและหลินหลินกลับไปที่สำนักงานของพวกเขาหลังจากการสัมภาษณ์อาร์มและการตรวจสอบเอกสารที่พบในห้องของเมย์ พวกเขารู้ว่าการหาความจริงเกี่ยวกับการหายตัวไปของเมย์เป็นเรื่องที่ท้าทายและเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน“เราต้องการหลักฐานที่แข็งแกร่งกว่านี้” ซาเอบะกล่าวขณะเขานั่งที่โต๊ะทำงานและทบทวนข้อมูล “ตอนนี้เรามีเบาะแสที่เกี่ยวข้องกับภูมิและอาร์ม แต่ยังไม่มีการเชื่อมโยงที่ชัดเจน”หลินหลินพยักหน้าและแนะนำ “เราควรจะกลับไปตรวจสอบข้อมูลและสอบถามผู้คนเพิ่มเติมที่อาจมีความเกี่ยวข้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่อาจรู้เกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างเมย์กับอาร์ม”ซาเอบะเห็นด้วยและตัดสินใจที่จะลงมือทำทันที เขาและหลินหลินออกจากสำนักงานเพื่อไปยังหอพักของอาร์มอีกครั้งเพื่อพูดคุยกับเพื่อนร่วมชั้นที่อาจมีข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการขัดแย้งระหว่างเขากับเมย์เมื่อถึงที่หอพัก ซาเอบะและหลินหลินพบกับ “ปุ๊บ” เพื่อนของอาร์มที่เคยเห็นเหตุการณ์การขัดแย้งระหว่างเมย์และอาร์ม“ปุ๊บ, คุณพอจะบอกเราเพิ่มเติมเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างอาร์มและเมย์ได้ไหม?” ซาเอบะถามปุ๊บดูลังเลเล็กน้อย แต่ในที่สุดก็พูด “อาร์มและเมย์มีปัญหาใหญ่ในระหว่างการทำโ
ในวันรุ่งขึ้น ซาเอบะและหลินหลินกลับมาที่สำนักงานเพื่อจัดระเบียบข้อมูลทั้งหมดที่รวบรวมมา การสอบถามกับปุ๊บและการตรวจสอบเอกสารทำให้พวกเขามีมุมมองที่ชัดเจนยิ่งขึ้นเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างเมย์และอาร์ม“เราต้องหาวิธีที่จะเชื่อมโยงข้อมูลที่เรามีอยู่ในตอนนี้” ซาเอบะกล่าว “ความขัดแย้งระหว่างเมย์และอาร์มอาจเป็นจุดเริ่มต้น แต่เราต้องหาหลักฐานที่ชัดเจนเพื่อยืนยันว่าเขามีส่วนเกี่ยวข้อง”หลินหลินเสริม “เราอาจจะต้องกลับไปตรวจสอบสถานที่ที่เมย์อาจไปเยี่ยมบ่อย ๆ หรือพูดคุยกับคนที่ใกล้ชิดกับเธอ เพื่อหาความสัมพันธ์ที่อาจส่งผลต่อการหายตัวไปของเธอ”ซาเอบะเห็นด้วยและตัดสินใจไปที่ห้องเรียนของเมย์เพื่อพูดคุยกับเพื่อนร่วมชั้นที่อาจมีข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเธอและสถานการณ์ของเธอ ก่อนที่พวกเขาจะไปที่ห้องเรียน ซาเอบะได้ทบทวนข้อมูลที่พวกเขามีในมืออีกครั้ง และพบว่ามีข้อมูลที่ยังไม่ได้ตรวจสอบอย่างละเอียดซาเอบะเริ่มสังเกตเห็นการกระทำที่ผิดปกติในบันทึกของเมย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงก่อนที่เธอหายตัวไป เขาพบว่ามีการเปลี่ยนแปลงในลำดับเวลาและการจัดการเอกสาร ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของบางสิ่งที่ไม่ปกติเมื่อไปถึงห้องเรียน ซาเ
ซาเอบะและหลินหลินนั่งที่โต๊ะทำงานในสำนักงานของพวกเขา รายละเอียดของการประชุมลับที่เมย์เคยเข้าร่วมยังคงวนเวียนอยู่ในความคิดของซาเอบะ นี่อาจเป็นกุญแจสำคัญในการไขปริศนาการหายตัวไปของเมย์"เราต้องหาให้ได้ว่าการประชุมนี้เกี่ยวข้องกับอะไร และใครเข้าร่วมบ้าง" ซาเอบะพูดขณะมองดูเอกสารที่มีข้อมูลเล็กน้อยเกี่ยวกับการประชุมหลินหลินพยักหน้าและเริ่มค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมผ่านฐานข้อมูลของมหาวิทยาลัย เธอพบข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับกลุ่มนักศึกษาที่มักจะจัดการประชุมลับเกี่ยวกับโปรเจกต์วิจัยที่สำคัญในห้องประชุมแห่งหนึ่งในมหาวิทยาลัย"ซาเอบะ ฉันพบข้อมูลเกี่ยวกับกลุ่มนักศึกษาที่จัดการประชุมลับนี้แล้วค่ะ" หลินหลินพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น "มันเป็นกลุ่มนักศึกษาที่ทำโปรเจกต์วิจัยเกี่ยวกับเทคโนโลยีใหม่ๆ และเมย์ก็เป็นหนึ่งในสมาชิกของกลุ่มนี้""น่าสนใจมาก" ซาเอบะกล่าวพร้อมกับรอยยิ้มที่มุมปาก "เราควรไปที่มหาวิทยาลัยเพื่อตรวจสอบห้องประชุมและดูว่าเราสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ไหม"ทั้งสองเดินทางไปยังมหาวิทยาลัยและมุ่งหน้าไปยังห้องประชุมที่ใช้ในการจัดการประชุมลับ เมื่อพวกเขาเข้าไปในห้องประชุม ความรู้สึกหนักอึ้งของความลับที่
เช้าวันถัดมา ซาเอบะและหลินหลินกลับมาที่สำนักงานของพวกเขา หลังจากการค้นพบข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับกลุ่มวิจัย พวกเขารู้ว่าคดีนี้กำลังจะเริ่มคลี่คลาย แต่ยังคงมีหลายคำถามที่ยังไม่ได้คำตอบซาเอบะเริ่มต้นวันด้วยการโทรหาเพื่อนร่วมงานในหน่วยสืบสวนของเขาเพื่อขอความช่วยเหลือในการสืบค้นข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสมาชิกในกลุ่มวิจัย เขารู้สึกว่ามีบางอย่างที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังโปรเจกต์ที่พวกเขากำลังทำ"หลินหลิน, ฉันคิดว่าเราควรกลับไปพูดคุยกับอาร์มอีกครั้ง" ซาเอบะกล่าวขณะดูข้อมูลที่รวบรวมมา "เขาอาจจะรู้มากกว่าที่เขาให้ข้อมูลกับเรา"หลินหลินพยักหน้าและเตรียมตัวเพื่อออกไปเจออาร์มอีกครั้ง เมื่อพวกเขาไปถึงที่พักของอาร์ม พวกเขาพบว่าอาร์มดูเครียดและไม่สบายใจเมื่อเห็นซาเอบะและหลินหลิน"ซาเอบะ หลินหลิน พวกคุณกลับมาอีกแล้ว มีอะไรหรือ?" อาร์มถามด้วยน้ำเสียงที่กังวล"เรามีคำถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับกลุ่มวิจัยที่คุณกับเมย์เป็นสมาชิก" ซาเอบะตอบด้วยท่าทีที่หนักแน่น "เราพบว่ามีบางอย่างที่ไม่ปกติในโปรเจกต์ของพวกคุณ และเราต้องการรู้ว่ามันเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของเมย์หรือไม่"อาร์มเงียบไปสักพัก ก่อนจะเริ่มพูด "โปรเจกต์ของพวกเรา
หลังจากที่ซาเอบะและหลินหลินได้รับข้อมูลจากอาร์มเกี่ยวกับโปรเจกต์วิจัย พวกเขารู้สึกว่ากำลังเข้าใกล้ความจริงมากขึ้น แต่ข้อมูลที่อาร์มให้มายังไม่เพียงพอ ซาเอบะจึงตัดสินใจที่จะตรวจสอบเบื้องหลังของโปรเจกต์นี้ให้ลึกลงไปกว่านี้ทั้งคู่มานั่งที่คาเฟ่เล็กๆ ในย่านเงียบสงบ เพื่อรอการติดต่อจากคนที่ซาเอบะเคยทำงานด้วยมาก่อน คนนี้คือ แทน สายลับที่เชี่ยวชาญด้านการสืบข้อมูลลับ ซาเอบะรู้ดีว่าแทนจะสามารถช่วยหาข้อมูลที่พวกเขาต้องการได้อย่างแน่นอน"แทนคือสายลับที่เก่งที่สุดที่ฉันเคยร่วมงานด้วย" ซาเอบะบอกหลินหลิน ขณะจิบกาแฟร้อนเพื่อระงับความเครียด "เขาเคยช่วยฉันไขคดีใหญ่หลายคดี และถ้าใครจะช่วยเราได้ตอนนี้ ก็คงเป็นเขา"หลินหลินได้แต่นั่งเงียบๆ และพยักหน้ารับรู้ เธอรู้สึกประหลาดใจที่คนแบบซาเอบะ ซึ่งปกติแล้วมักจะทำงานคนเดียว ยังมีเพื่อนร่วมงานที่เชื่อใจได้ขนาดนี้เวลาผ่านไปไม่ถึงสิบนาที ชายหนุ่มในเสื้อแจ็กเก็ตหนังสีดำก็ก้าวเข้ามาในคาเฟ่โดยไม่พูดอะไร เขานั่งลงตรงข้ามซาเอบะและหลินหลินพร้อมกับหันมองไปรอบๆ ราวกับสำรวจสิ่งต่างๆ ในร้านอย่างละเอียดซาเอบะยิ้มก่อนจะแนะนำ "นี่คือแทน สายลับที่ฉันไว้ใจมากที่สุด แทน นี่ค
หลังจากที่ได้ข้อมูลสำคัญจากแทนเกี่ยวกับที่ตั้งของศูนย์วิจัยลับ ซาเอบะและหลินหลินตัดสินใจที่จะเดินทางไปยังชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน ที่ซึ่งออร์บิทใช้เป็นฐานปฏิบัติการลับ ทั้งสองรู้ว่าภารกิจนี้มีความเสี่ยงสูง แต่พวกเขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากการเดินหน้าต่อการเดินทางเริ่มต้นจากกรุงเทพฯ โดยซาเอบะติดต่อแหล่งข้อมูลใต้ดินเพื่อจัดหารถที่ไม่มีใครติดตามได้ พวกเขาออกเดินทางในช่วงกลางคืนเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกตรวจสอบ ซาเอบะขับรถอย่างระมัดระวัง ท่ามกลางแสงไฟถนนที่ส่องเป็นทางยาวผ่านเขตชานเมือง หลินหลินนั่งเงียบๆ อยู่ข้างๆ เขา ความคิดของเธอเต็มไปด้วยความกังวลเกี่ยวกับเมย์ เพื่อนรักที่ยังคงหายตัวไป"นายคิดว่าเมย์จะเป็นยังไงบ้าง?" หลินหลินถามขึ้นมาในที่สุด หลังจากเงียบไปนาน"ฉันเชื่อว่าเธอยังปลอดภัย" ซาเอบะตอบด้วยน้ำเสียงมั่นใจ "แต่เราต้องหาเธอให้เจอก่อนที่มันจะสายเกินไป"ระหว่างทาง ซาเอบะและหลินหลินแลกเปลี่ยนความคิดและวางแผนอย่างละเอียดเกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขาจะทำเมื่อไปถึงที่ตั้งของศูนย์วิจัย ทั้งสองรู้ดีว่าพวกเขาต้องเจอกับความท้าทายครั้งใหญ่ และการเผชิญหน้ากับองค์กรอย่างออร์บิทไม่ใช่เรื่องง่ายเมื่อมาถึงใ
เมื่อท้องฟ้าเริ่มสว่างขึ้น รถของซาเอบะและทาเคชิก็แล่นกลับมายังสำนักงานลับที่พวกเขาใช้เป็นฐานชั่วคราว เมย์ หลินหลิน และอาคิระยืนรออยู่ด้านหน้าอาคารเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ในมุมหนึ่งของเขตชานเมือง สายตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความกังวลและเหน็ดเหนื่อย “กลับมาแล้ว” ทาเคชิกล่าวพลางเปิดประตูรถ “ทุกอย่างเป็นไปตามแผน” “ได้ข้อมูลที่ต้องการไหม?” หลินหลินถามทันที ซาเอบะพยักหน้า เขาชูแฟลชไดรฟ์ในมือขึ้น “รายชื่อเป้าหมายทั้งหมดอยู่ในนี้ รวมถึงที่ตั้งขององค์กรด้วย” “แล้วแผนต่อไปล่ะ?” เมย์ถาม สีหน้าของเธอบ่งบอกถึงความกดดัน “เราต้องพักก่อน” ซาเอบะตอบเสียงเรียบ “ทุกคนต้องพร้อมสำหรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้” พวกเขาทั้งหมดเดินเข้าไปในสำนักงาน ทาเคชิล็อกประตูทันทีเพื่อป้องกันการถูกติดตาม ห้องภายในดูเรียบง่าย มีเพียงโต๊ะทำงานเก่าๆ และแผนที่ขนาดใหญ่ที่ปิดทับผนังด้านหนึ่ง “พักฟื้นก่อน” ซาเอบะพูดพร้อมกับวางกระเป๋าเป้ลง “คืนนี้เราจะเริ่มวางแผนตอบโต้” หลังจากพักผ่อนและรักษาบาดแผลจากการปะทะที่ผ่านมา ทุกคนรวมตัวกันในห้องประชุมขนาดเล็ก แสงไฟจากโคมเพดานทำให้บรรยากาศดูจริงจัง “นี่คือเป้าหมายที่เราต้องจัดการ” ซาเอบ
รถคันเล็กแล่นผ่านเส้นทางเปลี่ยวในยามเช้าตรู่ เสียงเครื่องยนต์ที่ดังแผ่วๆ กลมกลืนกับบรรยากาศเงียบสงบ ซาเอบะและทาเคชิยังคงอยู่ในชุดที่พร้อมสำหรับการต่อสู้ โดยทั้งคู่ไม่มีการพูดคุยมากนักระหว่างทาง ทั้งสองต่างจมอยู่ในความคิดของตัวเอง “ใกล้ถึงแล้ว” ทาเคชิเอ่ยขึ้นขณะมองแผนที่ GPS บนหน้าจอคอนโซล “อีกห้านาทีก็จะถึงจุดพักที่เราวางแผนไว้” ซาเอบะพยักหน้า “อย่าลืมว่าเราต้องหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าตรงๆ เข้าไปแบบเงียบที่สุดเท่าที่จะทำได้” “แน่นอน” ทาเคชิตอบ พร้อมกับขับรถเลี้ยวเข้าไปในซอยเล็กๆ ที่ปกคลุมด้วยต้นไม้ใหญ่ เส้นทางนี้นำไปสู่จุดซ่อนตัวซึ่งห่างจากโกดังเป้าหมายเพียงไม่กี่ร้อยเมตร เมื่อจอดรถเสร็จ ทั้งสองก็ลงจากรถและตรวจสอบอุปกรณ์เป็นครั้งสุดท้าย ซาเอบะสะพายกระเป๋าเป้ที่บรรจุเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์และระเบิดขนาดเล็ก ส่วนทาเคชิถือปืนไรเฟิลติดกล้องซึ่งเขาใช้เพื่อการป้องกันระยะไกล “พร้อมไหม?” ทาเคชิถาม ขณะที่ทั้งสองคนเริ่มเดินเท้าไปยังจุดเป้าหมาย “พร้อม” ซาเอบะตอบเสียงเรียบ โกดังขนาดใหญ่ปรากฏให้เห็นอยู่ลิบๆ ท่ามกลางความมืดสลัวของเงาต้นไม้ อาคารนี้ตั้งอยู่ในพื้นที่รกร้าง มีรั้วลวดหนามล้อมรอบแล
ความเงียบยามค่ำคืนปกคลุมสำนักงานลับของทาเคชิ แม้สมาชิกในทีมคนอื่นๆ จะพักผ่อนอยู่ในห้องต่างๆ แต่ซาเอบะกับทาเคชิยังคงนั่งจมอยู่กับกองข้อมูลบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ สายตาของทั้งคู่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น พวกเขารู้ดีว่าทุกนาทีมีค่า และการตอบโต้ต้องเกิดขึ้นก่อนที่ศัตรูจะได้เปรียบ “ข้อมูลนี้…” ทาเคชิชี้ไปที่ไฟล์รายชื่อบุคคลสำคัญในองค์กรร้ายที่ปรากฏบนหน้าจอ “ฉันเจาะเข้าไปในระบบของพวกมันได้บางส่วน รายชื่อเหล่านี้คือคนที่มีบทบาทสำคัญในการตามล่าเรา” ซาเอบะก้มลงอ่านรายละเอียด ชื่อแต่ละชื่อถูกบันทึกไว้พร้อมตำแหน่ง หน้าที่ และความเชื่อมโยงกับหัวหน้าองค์กร หลายคนเป็นผู้ที่พวกเขาเคยเจอหน้าในสนามรบก่อนหน้านี้ “เราจะเริ่มยังไงดี?” ซาเอบะถามเสียงเบา “ก่อนอื่น เราต้องตัดกำลังพวกมัน” ทาเคชิกล่าว “คนพวกนี้แต่ละคนเป็นเหมือนเสาหลักขององค์กร ถ้าเราสามารถจัดการพวกเขาได้แม้เพียงบางส่วน ความสามารถในการเคลื่อนไหวของพวกมันจะลดลง” “แต่นั่นก็หมายความว่าเราต้องเสี่ยงอีกครั้ง” ซาเอบะเอ่ยพร้อมถอนหายใจ “เรายังไม่รู้เลยว่าพวกมันจะวางแผนอะไรต่อ” ทาเคชิพยักหน้าเห็นด้วย “นั่นแหละที่ทำให้มันยากขึ้น แต่เราก็ไม่มีทางเลือกอื่น
บรรยากาศภายในสำนักงานลับของทาเคชิเริ่มเงียบสงบลงหลังจากความโกลาหลที่พวกเขาเผชิญมาตลอดหลายวัน ซาเอบะเดินสำรวจพื้นที่โดยรอบในขณะที่ทาเคชิกำลังตรวจสอบระบบรักษาความปลอดภัย ทั้งคู่รู้ดีว่าความปลอดภัยคือสิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้ “ทุกคนไปพักผ่อนเถอะ” ซาเอบะเอ่ยเสียงเรียบขณะหันมองหลินหลิน เมย์ และอาคิระที่ดูอ่อนล้าจนเห็นได้ชัด หลินหลินถอนหายใจยาว ก่อนพยักหน้า “ก็ดีเหมือนกันค่ะ ฉันแทบจะยืนไม่ไหวแล้ว” เมย์ยิ้มบางๆ พร้อมกับพยุงหลินหลินเดินไปยังโซฟาตัวยาวที่ตั้งอยู่มุมห้อง “พักก่อนเถอะหลินหลิน ฉันจะหาน้ำมาให้” อาคิระนั่งลงกับเก้าอี้ตัวหนึ่งแล้วเอนหลังพิงกำแพง “พวกนายควรพักเหมือนกัน ไม่ใช่แค่พวกเราหรอกที่เหนื่อย นายสองคนก็คงไม่ต่างกัน” ทาเคชิหัวเราะเบาๆ พลางเดินไปหยิบกล่องปฐมพยาบาลจากชั้นวาง “ยังมีงานที่ต้องจัดการ แต่ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวเราจะพักบ้าง” เมื่อทุกคนเริ่มผ่อนคลาย ซาเอบะจึงเดินไปที่ห้องครัวเล็กๆ ที่มุมสำนักงาน เขาเปิดตู้เย็นและหยิบขวดน้ำออกมา มือที่หยิบขวดน้ำยังมีรอยช้ำจากการต่อสู้ที่ผ่านมา ทุกครั้งที่ขยับเขารู้สึกเจ็บแปลบ แต่ก็พยายามไม่แสดงออก “เจ็บอยู่ใช่ไหม?” ทาเคชิถามขณะเดิ
กลุ่มของซาเอบะเดินต่อผ่านป่าเขาที่หนาแน่น ทิวไม้สูงตระหง่านและเสียงนกกาหม่นมัวในอากาศให้บรรยากาศที่ทั้งสงบและน่าหวาดหวั่น ทุกคนยังคงระวังภัย แม้ว่าพวกเขาจะเริ่มห่างจากการไล่ล่าของคนร้ายไปแล้ว หลินหลินเดินอยู่ข้างเมย์ มือของเธอแตะไหล่เพื่อนอย่างปลอบโยน “ไม่ไกลแล้ว เมย์ เราต้องออกจากป่านี้ได้แน่” ซาเอบะซึ่งนำหน้าอยู่หันกลับมามอง “พวกเราต้องเก็บแรงไว้ ถ้าออกจากป่านี้เมื่อไร เราต้องหารถเพื่อเดินทางต่อให้เร็วที่สุด” อาคิระที่เดินตามหลังก้มมองแผนที่กระดาษในมือ “เส้นทางนี้ควรนำเราไปถึงถนนสายเล็กที่มุ่งหน้าออกจากป่า ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามที่คิด เราอาจเจอใครสักคนที่ช่วยได้” การเดินทางยังคงดำเนินต่อไป เสียงฝีเท้าของพวกเขาเป็นเพียงเสียงเดียวที่ดังก้องอยู่ในป่า แม้ทุกคนจะเหนื่อยล้า แต่ก็ไม่มีใครบ่น ทุกก้าวที่เดินคือการเข้าใกล้ความปลอดภัย จนกระทั่งในที่สุด ขอบป่าก็ปรากฏขึ้นมาในสายตา ทุกคนต่างถอนหายใจด้วยความโล่งอก หลินหลินยิ้มให้เมย์ “เห็นไหม? เราทำได้แล้ว!” เมื่อพวกเขาออกมาจากป่า ก็พบกับถนนลูกรังสายเล็กที่ทอดยาวไปยังพื้นที่ชนบท มีป้ายบอกทางเก่าๆ ตั้งอยู่ริมถนน ซาเอบะมองไปรอบๆ แล้วพูดขึ้น “เรา
แสงแดดยามเช้าสาดส่องไปทั่วหมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ริมป่า กลุ่มของซาเอบะที่เพิ่งผ่านพ้นการหนีตายอย่างหวุดหวิดเริ่มตั้งหลักได้อีกครั้ง พวกเขาได้รับการต้อนรับจากชาวบ้านในแบบเรียบง่าย ผู้คนในหมู่บ้านนี้ใช้ชีวิตอย่างสงบสุข ไร้ความวุ่นวายจากโลกภายนอก ชายแปลกหน้าที่เป็นผู้นำทางมายังหมู่บ้านยืนอยู่ห่างออกไปจากกลุ่ม สีหน้าของเขาบ่งบอกถึงความลังเลบางอย่าง ซาเอบะมองเขาแล้วเดินเข้าไป “คุณดูเหมือนมีเรื่องจะพูด” เขาเอ่ยเสียงเรียบ ชายแปลกหน้าหันมามองเขา ก่อนจะถอนหายใจ “พวกคุณปลอดภัยแล้ว ผมคิดว่าถึงเวลาที่ผมจะต้องแยกตัวไป” คำพูดนั้นทำให้ทุกคนในกลุ่มหันมาสนใจ หลินหลินถามขึ้น “ทำไมคุณต้องไปตอนนี้? พวกเรายังต้องการความช่วยเหลือของคุณอยู่นะ” ชายแปลกหน้ายิ้มเล็กน้อย “ผมมีเรื่องที่ต้องจัดการ พวกคุณมีจุดหมายที่ชัดเจนแล้ว ผมมั่นใจว่าคุณซาเอบะจะนำพวกคุณไปสู่ทางออกได้” ซาเอบะจับจ้องชายคนนั้นอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะพยักหน้าอย่างเข้าใจ “คุณช่วยเรามากแล้ว เราไม่มีสิทธิ์รั้งคุณไว้” “แต่ถ้าคุณต้องการความช่วยเหลืออีก คุณจะหาผมได้ที่ไหน?” ซาเอบะถาม ชายแปลกหน้าหยิบกระดาษแผ่นเล็กๆ ออกมา เขียนข้อความสั้นๆ แล้วส่งให
กลุ่มของซาเอบะเดินต่อไปในป่าที่เริ่มเบาบางลง ใบไม้และกิ่งไม้ที่ทึบจนบดบังแสงจันทร์ก่อนหน้านี้เริ่มเปิดทางให้มองเห็นฟ้ากว้าง พวกเขาทุกคนเหนื่อยล้า แต่ความมุ่งมั่นที่จะเอาชีวิตรอดยังคงขับเคลื่อนพวกเขาให้เดินหน้าต่อไป หลินหลินหันไปมองซาเอบะที่เดินอยู่ข้างหน้า แม้ใบหน้าของเขาจะเปื้อนไปด้วยรอยเหนื่อยล้า แต่แววตาของเขายังเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น “คุณแน่ใจหรือว่าพวกมันไม่ตามมาแล้ว?” เธอถามเสียงเบา “น่าจะปลอดภัยแล้ว” ซาเอบะตอบกลับพลางมองไปรอบๆ เขาหยุดเดินชั่วครู่เพื่อฟังเสียงรอบตัว เสียงใบไม้ไหวเบาๆ จากลมและเสียงแมลงกลางคืนคือสิ่งเดียวที่ดังขึ้น ทาเคชิที่เดินอยู่ด้านหลังพูดขึ้นมา “เราหนีมาไกลพอสมควร ถ้าพวกมันจะตามมา ก็คงไม่เร็วขนาดนี้” “แต่เราก็ประมาทไม่ได้” ชายแปลกหน้าพูดเสริม “เราไม่รู้ว่าพวกมันมีคนมากแค่ไหน หรือมีแผนอะไรอีก” ทุกคนหยุดพักกันใกล้ลำธารเล็กๆ น้ำใสเย็นช่วยให้พวกเขาเติมพลัง หลินหลินใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดหน้าของตัวเอง ในขณะที่เมย์นั่งซบอยู่ข้างอาคิระ ท่าทางของเธอสะท้อนถึงความเหนื่อยล้าทางจิตใจ “พวกเราควรวางแผนต่อไปยังไง?” เมย์ถาม ขณะดื่มน้ำจากมือที่วักขึ้นจากลำธาร ซาเอบะมองทุกคนก่
แสงจันทร์สาดส่องลงมาบนเส้นทางแคบที่ทอดยาวเข้าสู่ป่าทึบ ซาเอบะเดินนำหน้ากลุ่ม โดยมีชายแปลกหน้าติดตามอยู่ใกล้ๆ เสียงกรอบแกรบของใบไม้ใต้ฝ่าเท้าเป็นเสียงเดียวที่ดังขึ้นในความเงียบงันของค่ำคืน “ทางนี้แหละ,” ชายแปลกหน้ากระซิบ พลางชี้ไปที่ซอกหินขนาดใหญ่ที่ปกคลุมไปด้วยเถาวัลย์ “เส้นทางนี้จะนำเราไปสู่ป่าด้านหลังหมู่บ้าน ถ้าพวกมันยังอยู่ในหมู่บ้าน เราจะมีโอกาสหลบหนีไปได้” หลินหลินเงยหน้ามองเถาวัลย์และพึมพำเบาๆ “มันดูเหมือนไม่เคยมีใครใช้มานานแล้ว คุณแน่ใจนะว่าพวกเราจะปลอดภัย?” ชายแปลกหน้าพยักหน้า “ทางนี้เป็นทางลับที่คนในหมู่บ้านใช้หลบภัยเมื่อหลายสิบปีก่อน แต่ไม่มีใครใช้มันอีกเพราะป่าเส้นทางนี้รกและอันตราย” ทาเคชิที่เดินอยู่ข้างหลังส่ายหน้าเล็กน้อย “อันตรายแค่ไหนก็ต้องลอง ไม่มีเวลาให้ลังเลแล้ว” ซาเอบะหันมาสบตาทุกคน “เราไม่มีทางเลือก เราต้องเดินต่อไป ถ้าหยุดตอนนี้ พวกมันจะตามมาถึงแน่” ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วย ก่อนที่ชายแปลกหน้าจะยกมือขึ้นเปิดเถาวัลย์ออก เผยให้เห็นช่องแคบที่พอให้คนผ่านเข้าไปได้ทีละคน พวกเขาเดินเรียงกันเข้าไปในเส้นทางแคบนี้ โดยมีซาเอบะเป็นคนนำหน้า ทาเคชิเป็นคนปิดท้าย ทางเดินในซอ
เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้าในบ้านหลังเก่า ซาเอบะนั่งอยู่บนพื้นไม้ที่เย็นเฉียบ ยกมือขึ้นสัมผัสแผลที่ข้อมือของเขา ก่อนที่จะหันไปมองเพื่อนร่วมทีมที่นั่งกระจายอยู่ตามมุมต่างๆ ของห้อง ทุกคนดูเหนื่อยล้าและเครียดจากการไล่ล่าอย่างหนัก แต่ในแววตาของพวกเขากลับแฝงไปด้วยความมุ่งมั่น “เราจะอยู่ที่นี่ไม่นานหรอก” ซาเอบะพูดเบาๆ พลางลุกขึ้นจากพื้นไม้แล้วเดินไปที่หน้าต่าง มองออกไปข้างนอก หมู่บ้านที่เงียบสงบในตอนนี้ กลับทำให้เขารู้สึกเหมือนว่าโลกภายนอกนั้นห่างไกลออกไปทุกที คนร้ายที่ตามล่าพวกเขากำลังอยู่แค่ไม่กี่ก้าว และไม่มีใครสามารถรู้ได้ว่าพวกเขาจะสามารถหลบหนีไปได้อีกนานแค่ไหน ทาเคชิยืดตัวออกจากเก้าอี้ไม้และหันไปมองซาเอบะ “พวกเราต้องคิดแผนใหม่ให้เร็วที่สุด อย่าลืมว่าพวกเขาตามมาใกล้แล้ว และพวกเราไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้จนถึงรุ่งเช้า” “จริงของนาย” ซาเอบะตอบเสียงเครียด “เราต้องหาทางออกไปจากที่นี่ ไม่ว่าจะมีแผนอะไร เราต้องไม่ยึดติดกับที่เดิมเกินไป” หลินหลินที่นั่งเงียบมองไปที่พวกเขา สายตาของเธอเต็มไปด้วยความวิตกกังวล แม้จะพยายามกลั้นอารมณ์แต่เธอก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกท้อแท้ “พวกเราจะทำยังไงถ้าหมู่บ้านนี้ไม่ไ