ซาเอบะและหลินหลินตัดสินใจที่จะสืบหาต้นตอของเบอร์โทรศัพท์ที่ส่งข้อความข่มขู่มาหาเมย์ ด้วยความหวังว่าจะสามารถพบเบาะแสที่นำไปสู่การค้นหาตัวเมย์ได้
"เราควรจะเริ่มจากการตรวจสอบข้อมูลของเบอร์โทรศัพท์นี้" ซาเอบะกล่าว ขณะเขากำลังใช้เครื่องมือค้นหาข้อมูลเพื่อดูว่าเบอร์นี้อาจจะเกี่ยวข้องกับใคร
ซาเอบะทำการค้นหาข้อมูลเบื้องต้นและพบว่าเบอร์โทรศัพท์นี้เป็นของหมายเลขที่ถูกลงทะเบียนในชื่อของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ซาเอบะบันทึกชื่อบริษัทและที่อยู่ที่แสดงไว้
"เราควรไปที่บริษัทนี้และถามข้อมูลเพิ่มเติม" ซาเอบะเสนอ "บางทีอาจมีข้อมูลบางอย่างที่สามารถเชื่อมโยงกับคดีนี้"
ทั้งสองเดินทางไปยังบริษัทที่เบอร์โทรศัพท์นั้นลงทะเบียนอยู่ บริษัทนี้เป็นบริษัทที่ดูแลด้านความปลอดภัยและระบบสื่อสาร ซาเอบะและหลินหลินเข้าไปในสำนักงานและขอพบกับผู้จัดการ
ผู้จัดการของบริษัทคือชายวัยกลางคนที่ดูเหมือนจะไม่รู้สึกดีใจนักที่มีคนมาเยี่ยม เขานั่งลงและฟังเรื่องที่ซาเอบะเล่า
"ผมเข้าใจว่าคุณค้นหาเบอร์โทรศัพท์ที่ใช้ส่งข้อความข่มขู่ใช่ไหม?" ผู้จัดการถาม
"ใช่ครับ เราต้องการทราบว่าเบอร์นี้เชื่อมโยงกับใคร และเหตุใดถึงส่งข้อความข่มขู่ไปยังเมย์" ซาเอบะตอบ
ผู้จัดการดูเหมือนจะตกใจเล็กน้อย และบอกว่าเขาจะต้องตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติม แต่สามารถให้ข้อมูลเบื้องต้นได้ว่าเบอร์โทรศัพท์นี้อาจเชื่อมโยงกับพนักงานของบริษัทที่ชื่อว่า "ภูมิ" ซึ่งทำงานในฝ่ายสนับสนุนลูกค้า
ซาเอบะขอให้ผู้จัดการจัดเตรียมข้อมูลติดต่อของภูมิ และขอเวลาพูดคุยกับเขา
เมื่อซาเอบะและหลินหลินพบกับภูมิ พวกเขาพบว่าเขามีท่าทางวิตกกังวลและรีบพูดว่าเขาเพิ่งลาออกจากบริษัทไปเมื่อไม่นานมานี้
"ผมไม่รู้เรื่องนี้เลยครับ ผมแค่ทำงานตามหน้าที่ ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการข่มขู่ใคร" ภูมิกล่าว
ซาเอบะได้ยินแล้ว แต่เขารู้สึกว่าคำตอบของภูมิอาจไม่ครบถ้วน "ทำไมคุณถึงลาออกจากบริษัท?"
ภูมิพูดถึงเหตุผลส่วนตัวและปัญหาที่เขาต้องเผชิญ แต่มันไม่เป็นไปตามที่เขาคาดไว้
"เราต้องหาคำตอบที่ชัดเจนมากกว่านี้" ซาเอบะคิดในใจ "ตอนนี้เราต้องกลับไปพิจารณาเบาะแสที่เรามีอยู่"
ซาเอบะและหลินหลินกลับมาที่สำนักงานและตรวจสอบข้อมูลที่ได้มา ซาเอบะรู้ว่ามีบางอย่างที่ยังไม่ครบถ้วน และการสืบสวนนี้อาจจะต้องขยายออกไปมากกว่านี้เพื่อหาความจริง
หลังจากที่ซาเอบะและหลินหลินได้รับข้อมูลจากภูมิแล้ว ซาเอบะรู้ว่าเขาต้องมองหาความเชื่อมโยงที่อาจถูกมองข้ามไป ในช่วงเย็นของวันนั้น ซาเอบะนั่งทบทวนเบาะแสทั้งหมดที่เขามีอยู่"ตอนนี้เรามีข้อมูลจากโทรศัพท์ของเมย์ ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามีการข่มขู่เกิดขึ้น" ซาเอบะกล่าว "และเรายังมีข้อมูลจากภูมิ ที่บอกว่าเบอร์โทรศัพท์นั้นเชื่อมโยงกับเขา แต่เขาปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง"หลินหลินนั่งอยู่ข้าง ๆ และพูดขึ้น "เราต้องหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับภูมิและบริษัทของเขา อาจมีสิ่งที่เรายังไม่รู้"ซาเอบะพยักหน้า และตัดสินใจเริ่มค้นคว้าข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับภูมิและบริษัทที่เขาทำงานด้วย เขาใช้เวลาหลายชั่วโมงในการหาข้อมูลจากแหล่งข้อมูลออนไลน์ และพบว่าภูมิเคยมีปัญหาทางการเงินในช่วงที่เขาทำงานที่บริษัท"ดูเหมือนภูมิอาจจะมีแรงจูงใจบางอย่างที่เรายังไม่รู้" ซาเอบะกล่าว "แต่ยังไม่เพียงพอที่จะแสดงให้เห็นว่าเขาเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของเมย์"ในตอนเช้าของวันถัดไป ซาเอบะและหลินหลินไปที่บริษัทที่ภูมิเคยทำงานเพื่อพูดคุยกับพนักงานคนอื่น ๆ ที่อาจมีข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเขาพวกเขาพบกับพนักงานอีกคนหนึ่งที่ชื่อ "นัท" ซึ่งดูเหมื
ซาเอบะและหลินหลินกลับมาที่สำนักงานของซาเอบะเพื่อทบทวนเอกสารทางการเงินที่พบในห้องของเมย์ เอกสารเหล่านี้ดูเหมือนจะเป็นข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับหนี้สินและการชำระเงินที่อาจมีความเกี่ยวข้องกับภูมิซาเอบะเปิดเอกสารออกและตรวจสอบรายละเอียดอย่างละเอียด ในเอกสารมีข้อมูลเกี่ยวกับหนี้สินที่ภูมิอาจมี รวมถึงการชำระเงินที่ดูเหมือนจะไม่เป็นไปตามกำหนด"ข้อมูลนี้อาจหมายความว่า" ซาเอบะกล่าว "ภูมิอาจมีแรงจูงใจในการกระทำบางอย่างเพื่อหาเงินด่วน แต่เราไม่สามารถยืนยันได้ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของเมย์จริง ๆ"หลินหลินมองเอกสารและถาม "เราควรทำอย่างไรต่อไป?"ซาเอบะตอบว่า "เราต้องตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการชำระเงินที่ไม่ตรงตามกำหนดนี้ และอาจจะต้องค้นหาเกี่ยวกับผู้ที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้"หลังจากตรวจสอบเอกสารที่พบ ซาเอบะและหลินหลินตัดสินใจติดต่อผู้ให้กู้ที่เกี่ยวข้องในเอกสารเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับหนี้สินและการชำระเงินเมื่อได้ข้อมูลจากผู้ให้กู้ ซาเอบะพบว่าหนี้สินของภูมิไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับเมย์โดยตรง แต่มันบ่งชี้ว่าเขาอาจมีความเครียดที่เกี่ยวข้องกับปัญหาการเงินอย่างรุนแรง"ภูม
ซาเอบะและหลินหลินกลับไปที่สำนักงานของพวกเขาหลังจากการสัมภาษณ์อาร์มและการตรวจสอบเอกสารที่พบในห้องของเมย์ พวกเขารู้ว่าการหาความจริงเกี่ยวกับการหายตัวไปของเมย์เป็นเรื่องที่ท้าทายและเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน“เราต้องการหลักฐานที่แข็งแกร่งกว่านี้” ซาเอบะกล่าวขณะเขานั่งที่โต๊ะทำงานและทบทวนข้อมูล “ตอนนี้เรามีเบาะแสที่เกี่ยวข้องกับภูมิและอาร์ม แต่ยังไม่มีการเชื่อมโยงที่ชัดเจน”หลินหลินพยักหน้าและแนะนำ “เราควรจะกลับไปตรวจสอบข้อมูลและสอบถามผู้คนเพิ่มเติมที่อาจมีความเกี่ยวข้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่อาจรู้เกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างเมย์กับอาร์ม”ซาเอบะเห็นด้วยและตัดสินใจที่จะลงมือทำทันที เขาและหลินหลินออกจากสำนักงานเพื่อไปยังหอพักของอาร์มอีกครั้งเพื่อพูดคุยกับเพื่อนร่วมชั้นที่อาจมีข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการขัดแย้งระหว่างเขากับเมย์เมื่อถึงที่หอพัก ซาเอบะและหลินหลินพบกับ “ปุ๊บ” เพื่อนของอาร์มที่เคยเห็นเหตุการณ์การขัดแย้งระหว่างเมย์และอาร์ม“ปุ๊บ, คุณพอจะบอกเราเพิ่มเติมเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างอาร์มและเมย์ได้ไหม?” ซาเอบะถามปุ๊บดูลังเลเล็กน้อย แต่ในที่สุดก็พูด “อาร์มและเมย์มีปัญหาใหญ่ในระหว่างการทำโ
ในวันรุ่งขึ้น ซาเอบะและหลินหลินกลับมาที่สำนักงานเพื่อจัดระเบียบข้อมูลทั้งหมดที่รวบรวมมา การสอบถามกับปุ๊บและการตรวจสอบเอกสารทำให้พวกเขามีมุมมองที่ชัดเจนยิ่งขึ้นเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างเมย์และอาร์ม“เราต้องหาวิธีที่จะเชื่อมโยงข้อมูลที่เรามีอยู่ในตอนนี้” ซาเอบะกล่าว “ความขัดแย้งระหว่างเมย์และอาร์มอาจเป็นจุดเริ่มต้น แต่เราต้องหาหลักฐานที่ชัดเจนเพื่อยืนยันว่าเขามีส่วนเกี่ยวข้อง”หลินหลินเสริม “เราอาจจะต้องกลับไปตรวจสอบสถานที่ที่เมย์อาจไปเยี่ยมบ่อย ๆ หรือพูดคุยกับคนที่ใกล้ชิดกับเธอ เพื่อหาความสัมพันธ์ที่อาจส่งผลต่อการหายตัวไปของเธอ”ซาเอบะเห็นด้วยและตัดสินใจไปที่ห้องเรียนของเมย์เพื่อพูดคุยกับเพื่อนร่วมชั้นที่อาจมีข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเธอและสถานการณ์ของเธอ ก่อนที่พวกเขาจะไปที่ห้องเรียน ซาเอบะได้ทบทวนข้อมูลที่พวกเขามีในมืออีกครั้ง และพบว่ามีข้อมูลที่ยังไม่ได้ตรวจสอบอย่างละเอียดซาเอบะเริ่มสังเกตเห็นการกระทำที่ผิดปกติในบันทึกของเมย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงก่อนที่เธอหายตัวไป เขาพบว่ามีการเปลี่ยนแปลงในลำดับเวลาและการจัดการเอกสาร ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของบางสิ่งที่ไม่ปกติเมื่อไปถึงห้องเรียน ซาเ
ซาเอบะและหลินหลินนั่งที่โต๊ะทำงานในสำนักงานของพวกเขา รายละเอียดของการประชุมลับที่เมย์เคยเข้าร่วมยังคงวนเวียนอยู่ในความคิดของซาเอบะ นี่อาจเป็นกุญแจสำคัญในการไขปริศนาการหายตัวไปของเมย์"เราต้องหาให้ได้ว่าการประชุมนี้เกี่ยวข้องกับอะไร และใครเข้าร่วมบ้าง" ซาเอบะพูดขณะมองดูเอกสารที่มีข้อมูลเล็กน้อยเกี่ยวกับการประชุมหลินหลินพยักหน้าและเริ่มค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมผ่านฐานข้อมูลของมหาวิทยาลัย เธอพบข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับกลุ่มนักศึกษาที่มักจะจัดการประชุมลับเกี่ยวกับโปรเจกต์วิจัยที่สำคัญในห้องประชุมแห่งหนึ่งในมหาวิทยาลัย"ซาเอบะ ฉันพบข้อมูลเกี่ยวกับกลุ่มนักศึกษาที่จัดการประชุมลับนี้แล้วค่ะ" หลินหลินพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น "มันเป็นกลุ่มนักศึกษาที่ทำโปรเจกต์วิจัยเกี่ยวกับเทคโนโลยีใหม่ๆ และเมย์ก็เป็นหนึ่งในสมาชิกของกลุ่มนี้""น่าสนใจมาก" ซาเอบะกล่าวพร้อมกับรอยยิ้มที่มุมปาก "เราควรไปที่มหาวิทยาลัยเพื่อตรวจสอบห้องประชุมและดูว่าเราสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ไหม"ทั้งสองเดินทางไปยังมหาวิทยาลัยและมุ่งหน้าไปยังห้องประชุมที่ใช้ในการจัดการประชุมลับ เมื่อพวกเขาเข้าไปในห้องประชุม ความรู้สึกหนักอึ้งของความลับที่
เช้าวันถัดมา ซาเอบะและหลินหลินกลับมาที่สำนักงานของพวกเขา หลังจากการค้นพบข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับกลุ่มวิจัย พวกเขารู้ว่าคดีนี้กำลังจะเริ่มคลี่คลาย แต่ยังคงมีหลายคำถามที่ยังไม่ได้คำตอบซาเอบะเริ่มต้นวันด้วยการโทรหาเพื่อนร่วมงานในหน่วยสืบสวนของเขาเพื่อขอความช่วยเหลือในการสืบค้นข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสมาชิกในกลุ่มวิจัย เขารู้สึกว่ามีบางอย่างที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังโปรเจกต์ที่พวกเขากำลังทำ"หลินหลิน, ฉันคิดว่าเราควรกลับไปพูดคุยกับอาร์มอีกครั้ง" ซาเอบะกล่าวขณะดูข้อมูลที่รวบรวมมา "เขาอาจจะรู้มากกว่าที่เขาให้ข้อมูลกับเรา"หลินหลินพยักหน้าและเตรียมตัวเพื่อออกไปเจออาร์มอีกครั้ง เมื่อพวกเขาไปถึงที่พักของอาร์ม พวกเขาพบว่าอาร์มดูเครียดและไม่สบายใจเมื่อเห็นซาเอบะและหลินหลิน"ซาเอบะ หลินหลิน พวกคุณกลับมาอีกแล้ว มีอะไรหรือ?" อาร์มถามด้วยน้ำเสียงที่กังวล"เรามีคำถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับกลุ่มวิจัยที่คุณกับเมย์เป็นสมาชิก" ซาเอบะตอบด้วยท่าทีที่หนักแน่น "เราพบว่ามีบางอย่างที่ไม่ปกติในโปรเจกต์ของพวกคุณ และเราต้องการรู้ว่ามันเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของเมย์หรือไม่"อาร์มเงียบไปสักพัก ก่อนจะเริ่มพูด "โปรเจกต์ของพวกเรา
หลังจากที่ซาเอบะและหลินหลินได้รับข้อมูลจากอาร์มเกี่ยวกับโปรเจกต์วิจัย พวกเขารู้สึกว่ากำลังเข้าใกล้ความจริงมากขึ้น แต่ข้อมูลที่อาร์มให้มายังไม่เพียงพอ ซาเอบะจึงตัดสินใจที่จะตรวจสอบเบื้องหลังของโปรเจกต์นี้ให้ลึกลงไปกว่านี้ทั้งคู่มานั่งที่คาเฟ่เล็กๆ ในย่านเงียบสงบ เพื่อรอการติดต่อจากคนที่ซาเอบะเคยทำงานด้วยมาก่อน คนนี้คือ แทน สายลับที่เชี่ยวชาญด้านการสืบข้อมูลลับ ซาเอบะรู้ดีว่าแทนจะสามารถช่วยหาข้อมูลที่พวกเขาต้องการได้อย่างแน่นอน"แทนคือสายลับที่เก่งที่สุดที่ฉันเคยร่วมงานด้วย" ซาเอบะบอกหลินหลิน ขณะจิบกาแฟร้อนเพื่อระงับความเครียด "เขาเคยช่วยฉันไขคดีใหญ่หลายคดี และถ้าใครจะช่วยเราได้ตอนนี้ ก็คงเป็นเขา"หลินหลินได้แต่นั่งเงียบๆ และพยักหน้ารับรู้ เธอรู้สึกประหลาดใจที่คนแบบซาเอบะ ซึ่งปกติแล้วมักจะทำงานคนเดียว ยังมีเพื่อนร่วมงานที่เชื่อใจได้ขนาดนี้เวลาผ่านไปไม่ถึงสิบนาที ชายหนุ่มในเสื้อแจ็กเก็ตหนังสีดำก็ก้าวเข้ามาในคาเฟ่โดยไม่พูดอะไร เขานั่งลงตรงข้ามซาเอบะและหลินหลินพร้อมกับหันมองไปรอบๆ ราวกับสำรวจสิ่งต่างๆ ในร้านอย่างละเอียดซาเอบะยิ้มก่อนจะแนะนำ "นี่คือแทน สายลับที่ฉันไว้ใจมากที่สุด แทน นี่ค
หลังจากที่ได้ข้อมูลสำคัญจากแทนเกี่ยวกับที่ตั้งของศูนย์วิจัยลับ ซาเอบะและหลินหลินตัดสินใจที่จะเดินทางไปยังชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน ที่ซึ่งออร์บิทใช้เป็นฐานปฏิบัติการลับ ทั้งสองรู้ว่าภารกิจนี้มีความเสี่ยงสูง แต่พวกเขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากการเดินหน้าต่อการเดินทางเริ่มต้นจากกรุงเทพฯ โดยซาเอบะติดต่อแหล่งข้อมูลใต้ดินเพื่อจัดหารถที่ไม่มีใครติดตามได้ พวกเขาออกเดินทางในช่วงกลางคืนเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกตรวจสอบ ซาเอบะขับรถอย่างระมัดระวัง ท่ามกลางแสงไฟถนนที่ส่องเป็นทางยาวผ่านเขตชานเมือง หลินหลินนั่งเงียบๆ อยู่ข้างๆ เขา ความคิดของเธอเต็มไปด้วยความกังวลเกี่ยวกับเมย์ เพื่อนรักที่ยังคงหายตัวไป"นายคิดว่าเมย์จะเป็นยังไงบ้าง?" หลินหลินถามขึ้นมาในที่สุด หลังจากเงียบไปนาน"ฉันเชื่อว่าเธอยังปลอดภัย" ซาเอบะตอบด้วยน้ำเสียงมั่นใจ "แต่เราต้องหาเธอให้เจอก่อนที่มันจะสายเกินไป"ระหว่างทาง ซาเอบะและหลินหลินแลกเปลี่ยนความคิดและวางแผนอย่างละเอียดเกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขาจะทำเมื่อไปถึงที่ตั้งของศูนย์วิจัย ทั้งสองรู้ดีว่าพวกเขาต้องเจอกับความท้าทายครั้งใหญ่ และการเผชิญหน้ากับองค์กรอย่างออร์บิทไม่ใช่เรื่องง่ายเมื่อมาถึงใ
ความเงียบที่ปกคลุมหมู่บ้านร้างสร้างบรรยากาศชวนอึดอัด ทุกคนในกลุ่มของซาเอบะต่างรู้สึกได้ว่ามีบางสิ่งไม่ชอบมาพากล ทาเคชิเดินตรวจตรารอบๆ บ้านไม้เก่าหลังหนึ่ง มือยังจับปืนแน่น ขณะที่หลินหลินเดินตามอย่างระมัดระวัง เมย์เกาะฮิโรชิเอาไว้ ร่างกายของเธอสั่นเล็กน้อยเพราะความกลัว “หมู่บ้านนี้เงียบเกินไป” หลินหลินพูดเบาๆ พลางมองรอบๆ ด้วยสายตาสงสัย “เงียบเกินกว่าจะเป็นเรื่องบังเอิญ” ซาเอบะกล่าว ขณะเดินออกจากบ้านหลังหนึ่งพร้อมกระดาษในมือ เขายื่นกระดาษนั้นให้ทาเคชิอ่าน ทาเคชิขมวดคิ้วเมื่อเห็นข้อความว่า “พวกเรารู้ว่าคุณจะมาที่นี่” “พวกมันเล่นเกมกับเรา” เขาพูด “เราควรออกจากที่นี่ก่อนที่จะสายเกินไป” “เห็นด้วย” ซาเอบะตอบ “แต่เราต้องหาวิธีให้แน่ใจก่อนว่าทางออกของเราจะปลอดภัย” ทันใดนั้น เสียงดัง ปัง! ก็ดังขึ้นจากระยะไกล เสียงนั้นสะท้อนไปทั่วหมู่บ้าน “ระวัง!” ซาเอบะตะโกน ทุกคนหมอบลงกับพื้นในทันที เสียงฝีเท้าหนักๆ ดังเข้ามาใกล้จากทางทิศตะวันออก ฮิโรชิหันไปมองพลางพูดด้วยเสียงสั่น “พวกมันมาแล้ว…พวกมันรู้ว่าเราอยู่ที่นี่” ซาเอบะกัดฟันแน่น “เราต้องหาที่กำบัง” เขาออกคำสั่ง “ทาเคชิ! หลินหลิน! พาเมย์กับฮิโ
เสียงก้าวเดินเบาๆ ของกลุ่มซาเอบะยังคงดังสะท้อนในความเงียบสงัดของป่าทึบ แม้พวกเขาจะรักษาระยะห่างจากคนร้ายได้ แต่ความตึงเครียดยังคงปกคลุม เมย์เดินด้วยท่าทางเหนื่อยอ่อน หลินหลินประคองเธอเอาไว้ไม่ให้ล้ม “เราใกล้ถึงหมู่บ้านแล้วใช่ไหม?” เมย์ถามพลางหายใจหอบ “อีกไม่ไกล” ซาเอบะตอบ เขากวาดสายตาไปรอบตัวเพื่อจับตาความผิดปกติ ทาเคชิที่เดินตามหลังกลุ่มอยู่หยุดเท้ากระทันหัน เขาชูมือขึ้นเป็นสัญญาณให้ทุกคนหยุดตาม “มีบางอย่างผิดปกติ” เขาพึมพำเบาๆ ซาเอบะหันกลับมามองทาเคชิ สายตาของเขาฉายแววสงสัย “เจออะไร?” ทาเคชิชี้ไปยังพื้นดินเบื้องหน้า “ดูรอยเท้า…มันสดมาก” ซาเอบะขมวดคิ้วก่อนจะก้มลงตรวจดูรอยเท้าด้วยความระมัดระวัง “ไม่ใช่พวกเรา และมันไม่ได้มาจากคนร้ายที่ไล่ตามเราด้วย” “หมายความว่ามีคนอื่นอยู่แถวนี้?” หลินหลินถาม น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยความวิตก ซาเอบะพยักหน้าเบาๆ “ใช่ และคนพวกนี้อาจไม่เป็นมิตร” ทันใดนั้น เสียงกิ่งไม้หักดังมาจากพุ่มไม้ด้านข้าง ทุกคนต่างจับอาวุธในมือแน่น ขณะจ้องมองไปยังจุดที่เสียงดังขึ้น ซาเอบะยกปืนขึ้นเล็ง พร้อมออกคำสั่งเบาๆ “ระวังตัว…อย่าเพิ่งทำอะไรบุ่มบ่าม” เงาร่างหนึ่งเคลื่อน
เสียงฝีเท้าหนักหน่วงและเสียงเห่าสะท้อนผ่านป่ามืด ซาเอบะหยุดวิ่งทันทีเมื่อเห็นเงาสะท้อนจากไฟฉายห่างออกไป เขายกมือส่งสัญญาณให้ทุกคนหมอบลงใต้พุ่มไม้หนาทึบ แม้ว่าความเหนื่อยล้าจะเริ่มทำให้ขาของเขาสั่น แต่ซาเอบะก็รู้ดีว่าการหยุดชั่วคราวนี้เป็นสิ่งจำเป็น “พวกมันยังตามมาไม่เลิก” ทาเคชิพึมพำพร้อมปาดเหงื่อจากหน้าผาก ขณะที่เขาพยายามจับปืนให้มั่น “เงียบก่อน” ซาเอบะตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชา แต่หนักแน่นพอให้ทุกคนทำตาม เสียงสุนัขที่เคยดังใกล้หูเริ่มห่างออกไปทางทิศเหนือ กลุ่มคนร้ายดูเหมือนจะเดินตามรอยที่กลุ่มของพวกเขาเบี่ยงเบนไว้ก่อนหน้า หลินหลินที่นั่งใกล้เมย์สัมผัสได้ถึงอาการตัวสั่นของหญิงสาว จึงเอื้อมมือไปจับแขนเมย์เบาๆ “อย่ากังวลไปนะ เราเกือบจะพ้นแล้ว” หลินหลินกระซิบด้วยน้ำเสียงปลอบโยน ซาเอบะหันมาหากลุ่มพลางกระซิบเบาๆ “เราต้องเคลื่อนที่ทันที ตอนนี้เป็นโอกาสดี พวกมันยังไม่ทันรู้ว่าเรามุ่งหน้าไปทางไหน” ทุกคนพยักหน้าและเริ่มเคลื่อนตัวไปตามเส้นทางลำธารต่อ ซาเอบะนำทางไปขณะที่สายตาของเขากวาดมองรอบตัวอย่างระแวดระวัง ทาเคชิคอยปิดท้ายกลุ่ม มือของเขากุมปืนแน่นตลอดเวลา หลังจากเดินต่อมาอีกหลายร้อยเมตร พว
ความเงียบภายในห้องใต้ดินถูกทำลายด้วยเสียงลมหายใจของกลุ่มซาเอบะ เสียงฝีเท้าหนักหน่วงของคนร้ายที่เดินวนอยู่ด้านบนทำให้ทุกคนต้องระมัดระวังตัว ซาเอบะมองไปรอบๆ ห้องใต้ดินที่มีแสงสลัวจากตะเกียงน้ำมันดวงเล็ก ความกดดันในสถานการณ์ทำให้ทุกคนต้องเก็บเสียงอย่างที่สุด “เราออกไปตอนนี้ไม่ได้” ซาเอบะกระซิบเบาๆ ให้ทุกคนได้ยิน “พวกมันยังอยู่ใกล้ๆ” “แต่ถ้ารอนานกว่านี้ พวกมันอาจค้นเจอเรา” ทาเคชิแย้งด้วยน้ำเสียงร้อนรน มือขวาของเขากุมปืนแน่นราวกับเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้ ชายชราเจ้าของบ้านเดินเข้ามาพูดเบาๆ “ที่นี่มีทางออกลับอยู่ข้างหลังห้องใต้ดิน แต่ต้องคลานผ่านอุโมงค์แคบๆ ไป” เขาชี้ไปที่มุมหนึ่งของห้อง ซึ่งมีประตูไม้เล็กๆ ซ่อนอยู่ใต้กองลังเก่า “นี่อาจเป็นโอกาสเดียวของเรา” หลินหลินพูด ขณะช่วยชายชราเคลื่อนลังออกจากทาง “ทาเคชิ นายไปก่อนเพื่อสำรวจทาง ถ้ามันปลอดภัย พวกเราจะตามไป” ซาเอบะสั่ง ทาเคชิพยักหน้าก่อนจะเปิดประตูเล็กและคลานเข้าไปในความมืดที่รออยู่ ขณะที่ทุกคนรออยู่หลัง ทาเคชิก็ส่งสัญญาณกลับมาด้วยเสียงกระซิบว่า “ทางนี้ปลอดภัย แต่ต้องรีบแล้ว” ซาเอบะให้หลินหลินพาเมย์คลานตามไปก่อน เขาเองเป็นคนสุดท้า
เสียงปืนดังกึกก้องท่ามกลางความมืด เสียงกระสุนที่วิ่งทะลุผ่านต้นไม้สร้างแรงสะท้อนให้ทุกคนต้องเคลื่อนตัวอย่างระมัดระวัง ซาเอบะถือปืนพกไว้แน่น เขารู้ว่ากระสุนของเขามีเหลือไม่มาก อีกทั้งสถานการณ์ยังดูยากลำบากเมื่อคนร้ายไล่ล่าพวกเขาอย่างไม่ลดละ“เราต้องหาทางออกจากป่าผืนนี้ก่อนที่พวกมันจะจับเราได้!” ซาเอบะกล่าวเสียงเข้ม ขณะมองไปรอบๆ เพื่อหาทางหนี ทาเคชิพยักหน้ารับคำ ก่อนจะชูปืนที่เพิ่งเก็บมาจากคนร้ายขึ้นมา “กระสุนเหลือไม่มาก แต่ยังพอใช้ยิงกันทางได้”หลินหลินประคองเมย์ที่ยังดูหวาดกลัวอยู่ เธอค่อยๆ หายใจลึกเพื่อทำให้ตัวเองใจเย็นลง “ทางนี้มีแสงไฟลิบๆ เราอาจไปทางนั้นได้” เธอชี้ไปยังแนวต้นไม้ที่มีแสงริบหรี่ลอดผ่าน“เป็นทางเดียวที่เรามี แต่ต้องรีบ เพราะพวกมันจะตามมาเร็วแน่” ซาเอบะกล่าวก่อนจะเริ่มนำทีมเดินต่อ เขาใช้ความเงียบและทักษะในการอ่านสถานการณ์เพื่อพาทุกคนหลบไปตามมุมที่ปลอดภัยที่สุดระหว่างที่พวกเขาเคลื่อนตัวผ่านป่า ความตึงเครียดปกคลุมทุกย่างก้าว เสียงใบไม้ที่กรอบแกรบใต้เท้าของพวกเขาทำให้ทุกคนต้องหยุดชะงักเป็นระยะ ซาเอบะชูมือส่งสัญญาณให้หยุดเมื่อเขาสังเกตเห็นเงาของคนร้ายที่เดินลาดตระเวนอยู่ไ
ท่ามกลางความเงียบที่แผ่ซ่านไปทั่ว พวกเขาทั้งหมดนั่งอยู่ในรถกระบะที่หลินหลินขับมา หลังจากที่ได้หนีออกมาจากการล้อมของคนร้าย พวกเขามองหน้ากันด้วยความเคร่งเครียด ซาเอบะยังคงนั่งตรงที่นั่งข้างคนขับ ขยับตัวเล็กน้อยขณะหันไปมองที่แผนที่ที่เขากำลังถืออยู่ในมือ “เราต้องหาทางไปยังสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุดแล้ว” ซาเอบะพูดเบาๆ ขณะยกนิ้วชี้ไปที่จุดบนแผนที่ “นี่คือที่ที่มีการเคลื่อนไหวของคนร้าย ถ้าเราพุ่งไปที่นั่น อาจจะทำให้พวกมันหายไปจากตัวเราได้สักระยะ” หลินหลินที่ขับรถมาเงียบๆ หยุดชะงักแล้วหันไปมองเขา “แต่เรายังไม่รู้เลยว่าพวกมันต้องการอะไรจากเรา” “เรารู้แค่ว่ามันเกี่ยวข้องกับข้อมูลที่เมย์ถืออยู่” ทาเคชิพูดขัดขึ้น “และมันก็ไม่ใช่เรื่องดีแน่ถ้าพวกมันยังตามเรามา” “ใช่ แต่ข้อมูลนั้นไม่ได้บอกทั้งหมดว่าพวกมันคือใคร และทำไมพวกมันถึงตามล่าหมายเลขนี้” ซาเอบะตอบกลับ ขมวดคิ้ว ขณะพิจารณาแผนที่ในมือ “มันต้องมีอะไรบางอย่างที่เรายังไม่รู้” ในขณะเดียวกัน เมย์ซึ่งนั่งเงียบๆ อยู่เบาะหลัง เริ่มรู้สึกถึงแรงกดดันและความเหนื่อยล้า เธอยังคงไม่เข้าใจทั้งหมดเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นกับตัวเอง “ฉัน… ฉันอยากรู้ว่า… ฉันเ
กระสุนจากปืนของซาเอบะพุ่งตรงไปยังเป้าหมาย เสียงดัง “ปัง!” ดังก้องในความเงียบ เสี้ยววินาทีนั้นใบพัดของเฮลิคอปเตอร์สะดุด แต่ยังไม่เพียงพอที่จะทำให้เครื่องเสียหาย พวกมันปรับระดับเครื่องบินต่ำลงเพื่อโต้กลับ “ไม่สำเร็จ!” ซาเอบะกัดฟันขณะรีบหลบเข้าที่กำบังเพื่อเติมกระสุน “ยิงให้แม่นกว่าเดิม ถ้าทำไม่ได้ เราจะไม่มีโอกาสหนี!” ทาเคชิพูดขณะจับปืนแน่น เฮลิคอปเตอร์เริ่มยิงตอบโต้ กระสุนพร่างพรายเจาะพื้นและต้นไม้รอบตัวพวกเขา เสียงใบพัดหมุนดังระงม ผสมกับเสียงคำรามของเครื่องยนต์ ซาเอบะรู้ดีว่าต้องทำบางอย่างเพื่อเปลี่ยนสถานการณ์ ในขณะที่หลินหลินขับรถหลบหนี เธอมองกระจกหลังอย่างกังวล ใบหน้าของเมย์ซีดเผือด แต่ยังพยายามควบคุมตัวเองไม่ให้ตื่นตระหนก “เราจะทำยังไงดี?” เมย์ถามเสียงสั่น “ใจเย็นไว้ ฉันจะหาทางออก” หลินหลินตอบ พลางหักพวงมาลัยเลี้ยวเข้าสู่เส้นทางลูกรังที่คดเคี้ยว เฮลิคอปเตอร์ยังคงไล่ล่าพวกเธออย่างไม่ลดละ กระสุนที่ถูกยิงลงมาสร้างความเสียหายให้กับตัวรถ ไฟเตือนบนหน้าปัดเริ่มกระพริบ “รถนี่คงไม่ไปได้นานกว่านี้” หลินหลินพูดพลางกัดริมฝีปากแน่น เธอพยายามประคองรถต่อไป แต่หัวใจกลับเต้นรัวด้วยความหวาดห
สายลมที่พัดผ่านต้นไม้รอบบ้านหลังเก่าเย็นเยียบจนเหมือนกับจะเตือนให้ทุกคนระวังตัว ทาเคชิออกสำรวจพื้นที่รอบบ้านอีกครั้งอย่างเงียบ ๆ ในขณะที่ซาเอบะนั่งตรวจสอบแฟ้มเอกสารอย่างละเอียด “นี่ไม่ใช่แค่เทคโนโลยีธรรมดา…” เขาพูดพึมพำกับตัวเอง ดวงตาจับจ้องไปยังหน้ากระดาษที่เต็มไปด้วยข้อมูลทางเทคนิค “ซาเอบะ เจออะไรบ้าง?” หลินหลินเดินเข้ามาใกล้ สีหน้าของเธอยังคงเคร่งเครียด “เทคโนโลยีนี้ไม่ใช่แค่ระบบควบคุมเครือข่ายทั่วไป” ซาเอบะตอบ “มันเป็นโปรแกรมที่สามารถรวบรวมข้อมูลจากทุกระบบในเครือข่ายทั่วโลก ทั้งข้อมูลส่วนตัว ข้อมูลทางการเงิน ไปจนถึงระบบความมั่นคงระดับประเทศ” “หมายความว่าถ้าองค์กรนั้นได้มันไป…” หลินหลินหยุดพูดกลางประโยค “พวกมันสามารถควบคุมทุกอย่างได้” ซาเอบะพูดต่อ “นี่คือเหตุผลที่พวกมันไล่ล่าเมย์ พวกมันต้องการข้อมูลนี้จากพ่อของเธอ” เมย์ที่นั่งอยู่ใกล้ ๆ เงยหน้าขึ้น น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยความวิตก “แล้วพ่อฉันรู้หรือเปล่าว่าข้อมูลนี้อันตรายแค่ไหน?” “ฉันคิดว่าเขารู้” ซาเอบะตอบ “นั่นอาจจะเป็นเหตุผลที่เขาซ่อนมันไว้และพยายามปกป้องเธอ” “แต่ตอนนี้เราเป็นเป้าหมาย” ทาเคชิพูดขึ้นขณะที่เดินกลับเข้ามา
เสียงนกกลางคืนแว่วดังในความมืด ความเหน็บหนาวในยามดึกของหมู่บ้านร้างยิ่งทำให้บรรยากาศดูเงียบเชียบและน่ากลัว ซาเอบะยืนพิงประตูบ้านร้าง มองออกไปในความมืดรอบตัว ความคิดของเขายังคงวนเวียนอยู่กับเรื่องที่เมย์เล่า “พ่อของเมย์เกี่ยวข้องกับอะไร?” เขาพึมพำเบา ๆ ด้านใน หลินหลินและเมย์นั่งอยู่ใกล้กองไฟเล็ก ๆ ที่พวกเขาก่อขึ้นในเตาผุพังเพื่อความอบอุ่น ทาเคชิกำลังตรวจสอบปืนและอุปกรณ์ที่พวกเขาเก็บมาได้จากคนร้าย “กระสุนเหลือไม่มาก” ทาเคชิพูดเสียงเรียบขณะใส่กระสุนลงในแมกกาซีน “พวกเราต้องระวัง” “นายคิดว่าพวกมันจะตามมาถึงที่นี่ไหม?” หลินหลินถาม “คงไม่เร็วขนาดนั้น แต่เราคงอยู่นานไม่ได้” ทาเคชิหยุดมองหลินหลินก่อนจะพูดต่อ “พวกมันไม่ได้หยุดแค่จับตัวเมย์แน่ ถ้าเรายังอยู่ในพื้นที่นี้ เราจะถูกล้อมอีกครั้ง” “แล้วเราจะไปไหน?” เมย์ถามขึ้นอย่างกังวล “ก่อนอื่น เราต้องรู้ให้ได้ว่าพ่อของเธอเกี่ยวข้องกับอะไร” ซาเอบะพูดพลางเดินเข้ามาในห้อง สายตาของเขาจับจ้องไปที่เมย์ “ฉันบอกแล้วว่าฉันไม่รู้” เมย์ตอบเสียงสั่น “พ่อไม่เคยพูดถึงอะไรพวกนี้เลย” ซาเอบะหยุดยืนตรงหน้าเธอ “เธอแน่ใจหรือ? ไม่มีอะไรเลยที่เธอจำได้ ไม่ว่ามันจ