DEVIL'S CURSE ต้องคำสาป 'เขา' ผู้นั้นเคลื่อนไหวอย่างดุดันอยู่เหนือร่างของเธอ ในความฝัน รสจูบ และการเสียดสี สร้างความสุขสมเสียจนไม่อยากให้มันจบลง เธอจมดิ่งสู่ห้วงจินตนาการมาอย่างยาวนาน กระทั่งเสียงทุ้มกระซิบข้างหู "มีความสุขให้พอ เพราะมันเป็นวันสุดท้ายของเจ้า" ดังนั้นความสุขในค่ำคืนนี้เธอจะขอรับไว้ทั้งหมดเอง
View Moreหนึ่งอาทิตย์ต่อมา…เสียงหอบหายใจดังขึ้นท่ามกลางสายลมยามเย็น ขณะที่ชายหญิงคู่หนึ่งกำลังบดเคล้าริมฝีปากกันอย่างร้อนแรงอยู่บนพื้นหญ้าใต้ต้นมะกอกสูงใหญ่‘วะ…วันนี้เจ้าเอาเปรียบข้ามากเกินไปหรือเปล่า’ หญิงสาวตำหนิชายคนรักด้วยน้ำเสียงกระเส่า‘อย่างนั้นหรือ…แต่เจ้าเป็นผู้ที่ดึงข้าเข้าไปจูบเองมิใช่รึ?’‘เพราะเจ้าพูดจามิน่าฟังอย่างไรเล่า’ พวงแก้มสองข้างเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อเพราะความเขินอาย แม้จะเป็นคนรักกัน แต่ก็ใช่ว่าคุ้นเคยกับการกระทำของเขาเสียเมื่อไร‘ที่ข้าพูดว่าร่างกายของเจ้าน่ายลไม่หยอกนะหรือ?’ ไม่ว่าเปล่าชายหนุ่มยังขยับกายของไปนั่งปลายเท้าของหญิงสาว แล้วประคองฝ่าเท้าขึ้นมาจูบอย่างหลงใหล ‘…ข้าพูดความจริง’‘หยุดได้แล้วโลธาน เจ้านิสัยไม่ดีเลย’‘ข้ายอม หากได้เห็นเจ้าเป็นเช่นนี้’‘หากเจ้าไม่หยุด ข้าจักฟ้องท่านพ่อ’ชายหนุ่มรู้ดีว่าหญิงสาวคนรักไม่กล้าทำเช่นนั้นแน่นอน เพราะเธอคงไม่อยากให้เขาถูกลงโทษที่บังอาจแตะต้องร่างกายสูงศักดิ์ของเธอ‘ละ…โลธาน’ หญิงสาวเรียกชื่อชายหนุ่มด้วยน้ำเสียงติดขัด เมื่อริมฝีปากหนาพรมจูบลงบนหลังเท้า ซ้ำยังขบเม้มปลายนิ้วอย่างไม่รู้จักรังเกียจ ‘เท้าข้าสกปรก…’‘ข้ามิเคยรัง
“นายกำลังทำให้ฉันสับสนนะ”“สับสน?”“เพราะนายขอฉันเป็นแฟน บอกคิดถึงฉัน แต่ความจริงนายทำไปเพราะอ่านความรู้สึกของฉัน แบบนี้มันแฟร์กับความรู้สึกฉันเหรอเซส” เซเลน่ารู้สึกว่ามันไม่แฟร์กับเธอเลย เขาทำไปโดยไม่ได้คิดอะไร ในขณะที่เธอเอาแต่คิดวนเวียนจนขาดความเป็นตัวเองไปเธอพยายามหยุดคิดเรื่องของเขา ทั้งที่เกือบทำได้ แต่จู่ๆ เขาก็โผล่หน้ามาแบบไม่ได้ตั้งตัว“แล้วฉันต้องทำยังไง เธออยากให้ทำยังไง”“กลับไปได้มั้ย ฉันยังไม่พร้อมจะเจอนายตอนนี้”“ไม่ได้” ปีศาจหนุ่มปฏิเสธทันควัน ถ้าเขาอยากกลับ คงไม่อยู่รอเจอเธอตั้งแต่แรก ไม่แอบมองเธอเวลาไปไหนมาไหนกับใคร“แล้วจะถามทำไมว่าฉันต้องการอะไร นายนี่โคตรเห็นแก่ตัว ไม่เคยเข้าใจความรู้สึกจริงๆ ของฉันเลย” หญิงสาวขึ้นเสียงใส่อย่างหมดความอดทน ยิ่งเห็นสีหน้าเรียบเฉยเหมือนคนเห็นแก่ตัวก็ยิ่งอยากหนีจากเซเวียสเสียเดียวนี้ “ล้อเล่นกับความรู้สึกฉันมันสนุกมากเลยใช่มั้ย”“ฉันล้อเล่นกับความรู้สึกของเธอตอนไหนเซล”“ตอนนี้แหละ! ตอนที่นายโผล่หน้ามาหาฉัน แล้วบอกว่าคิดถึง ทั้งที่นายต้องการแค่เซ็กซ์จากฉันอย่างเดียว มันทุเรศ ถ้าอยากนักก็ไปเอาคนอื่นไป!”เซเวียสมองคนตัวเล็กอย่างไม่เข้าใ
19.00 น.หญิงสาวขอตัวออกมาเดินเล่นนอกร้านอาหารหลังจากกินไปไม่กี่คำ ช่วงนี้เธอมีเรื่องให้ต้องคิดมากมายจึงพลอยทำให้รู้สึกไม่อยากอาหารไปด้วยอยากรู้ว่าเซเวียสจะรู้สึกอย่างไรที่ไม่ได้เจอเธอหลายวัน ขณะที่เธอเอาแต่คิดถึงเขาจนสติไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัว แต่ก็ยังไม่พร้อมจะพบหน้าเขาในตอนนี้“คุณ…เซเลน่ารึเปล่าครับ?” เสียงทุ้มฉุดรั้งเซเลน่าให้หลุดออกมาจากภวังค์ความคิด ก่อนจะหันหน้าไปมองทางต้นเสียง“คุณริโอ?”“ครับ ผมเอง” รอยยิ้มสดใสปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าหล่อเหลาของชายหนุ่ม “ยืนเหม่ออะไรอยู่ตรงนี้ครับ”“เพิ่งกินข้าวเสร็จก็เลยออกมาเดินย่อยน่ะค่ะ แล้วคุณมาทำอะไรที่นี่คะเนี่ย”“บ้านผมอยู่แถวนี้ครับ ผมมาวิ่งออกกำลังกาย”ชุดที่ริโอใส่บ่งบอกว่าสิ่งที่เขาพูดเป็นเรื่องจริง แต่เซเลน่ากลับรู้สึกแปลกใจที่บ้านเขาอยู่แถวนี้ แทนที่จะอยู่ใกล้ๆ กับมหาวิทยาลัยริโอหัวเราะเบาๆ เมื่อเห็นโครงคิ้วเรียวสวยขมวดเข้าหากัน “คุณคงคิดว่าทำไมผมถึงอยู่แถวนี้ใช่มั้ยครับ”“รู้ได้ยังไงคะว่าฉันกำลังคิดแบบนั้น”“สีหน้าคุณมันฟ้องหมดแหละครับว่าคิดอะไรอยู่”เซเลน่าพยักหน้าเป็นเชิงเข้าใจ เพราะการอ่านสีหน้าใครๆ ก็ทำกันทั้งนั้น คงไม่มีใค
เมื่อความรู้สึกในส่วนลึกของใจถูกเปิดเผยจากคนที่มีใจให้ เซเลน่าก็พยายามหลบหน้าเจ้าตัว แม้ว่าจะนั่งเรียนห้องเดียวกัน แต่เธอไม่เปิดโอกาสให้อีกฝ่ายเข้าหาเซเวียสส่งข้อความมาไม่รู้กี่ข้อความ เธอก็ไม่ยอมตอบเขากลับไป“ช่วงนี้แกกับเซสดูตึงๆ กันจังเลยนะ ทะเลาะกันเหรอ” เซเลน่ารู้ว่าเพื่อนทุกคนดูออกว่าเธอเปลี่ยนไปมาสักพักแล้ว แต่ไม่มีใครปริปากพูดอะไรออกมาจนกระทั่งวันนี้“ไม่เชิง ฉันแค่ทำตัวไม่ค่อยถูกเฉยๆ”“เรื่องบางเรื่องถ้าเก็บไว้คนเดียวแล้วมันเครียดก็เอามาปรึกษาเพื่อนได้นะ แกรู้ใช่มั้ย”หญิงสาวเอนหลังพิงเก้าอี้พลางถอนหายใจออกมาพรืดใหญ่ ตอนแรกคิดว่าจะจัดการความรู้สึกของตัวเองได้แล้วแท้ๆ แต่กลับไม่ได้เป็นอย่างที่คิด ซ้ำยังคงคิดถึงคนที่เกี่ยวข้องในสมการนี้จนนอนไม่หลับอีกต่างหาก“…เซสรู้ว่าฉันชอบเขา”“เขาบอกแกเหรอ”“อืม เขาบอกว่าที่ขอฉันเป็นแฟนเพราะรู้ว่าฉันมีใจให้”“มันก็แปลว่าเขาใส่ใจแกไง ไม่อยากให้แกเอาแต่แอบชอบเขาอยู่เงียบๆ ทั้งที่เขาไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้นก็ได้ แค่กินแกไปเรื่อยๆ ก็น่าจะพอแล้ว” แอนนาลูบหลังเซเลน่าอย่างปลอบโยน เพราะเธอรู้ดีว่าการแอบรักข้างเดียวมันทรมาน แต่การที่อยู่ด้วยกันแต่ไม่
ร่างบางถูกอุ้มกระเตงมาวางบนเตียงนอน ตามมาด้วยสัมผัสนุ่มลึกจากริมฝีปากหนาที่พรมจูบไปทั่วเรือนร่างตั้งแต่หน้าผากจรดปลายเท้าเซเลน่าดันศอกพาตัวเองลุกขึ้นจากเตียง แล้วกล่าวออกมาผ่านปลายเสียงแหบพร่า “มื้อสุดท้ายก่อนประหารเหรอ ทำไมนายดูอ่อนโยนกับฉันจัง”ปีศาจหนุ่มไม่รู้ตัวว่าตัวเองสัมผัสอีกฝ่ายอ่อนโยนจนขนาดเธอต้องตั้งคำถาม ครั้งสุดท้ายที่เขาแตะต้องผู้หญิงอย่างนุ่มนวลมันผ่านมาพันกว่าปีแล้ว“เหมือนเธอจะชอบให้ฉันทำแรงๆ สินะ”“ไม่ได้บอกว่าชอบ แค่แปลกใจที่นายเป็นแบบนี้เฉยๆ” เซเวียสไม่เคยอ่อนโยนขนาดนี้กับเธอ แต่ก็ไม่ได้ถึงกับเจ็บปวดจนทนไม่ได้คนตัวสูงจูบหัวเข่าอมชมพูหนึ่งที ก่อนจะเกี่ยวเรียวขาเล็กพาดบ่า เคลื่อนตัวขึ้นมาจนริมฝีปากขนานกัน เขาขบเม้มกลีบปากอวบอิ่มเป็นเชิงหยอกเย้า ขณะที่ใจกลางความเป็นสาวถูกปลายท่อนลำถูไถให้เกิดความพร้อม“เธอกำลังเกร็งอยู่”“แล้วจะไม่ให้เกร็งได้ไง มันใหญ่นี่”“ชินได้แล้วมั้ง มันเป็นผัวเธอมาตั้งกี่ทีแล้ว”“นายก็เอ็นดูฉันหน่อยสิเซส”“ได้” เซเวียสรับปากว่าจะเอ็นดูคนตัวเล็ก แต่การเอ็นดูของเขามันไม่เหมือนกับมนุษย์ทั่วไป อยู่ที่ว่าเธอจะมองเห็นถึงสิ่งที่เขาหรือเปล่าเท่านั้นเอ
22.45 น. แรงสั่นของการแจ้งเตือนข้อความกับแสงหน้าจอโทรศัพท์สว่างขึ้นท่ามกลางความมืดมนอันแสนเงียบงันภายในห้องนอน ส่งผลให้หญิงสาวสะลึมสะลือตื่นอย่างไม่ได้ตั้งใจเซเลน่าหยิบมันมาหรี่แสงลงเพื่อไม่ให้รบกวนเพื่อนสนิทที่นอนอยู่เตียงข้างๆ แล้วเปิดดูข้อความที่ถูกส่งมาจากเซเวียสChat Room : XAVIES XAVIES : เธอลืมของไว้XAVIES : ลงมาเอาXAVIES : ฉันรออยู่หน้าโดมTo the Moon : ทำไมไม่เอามาให้พรุ่งนี้To the Moon : มันดึกแล้วXAVIES : รีบลงมาริมฝีปากบางผ่อนลมหายใจพรืดใหญ่ ก่อนจะลุกจากเตียงนอนเดินไปหยิบเสื้อคลุมสวมทับชุดนอนกระโปรง แล้วรีบลงมาหน้าหอพักศึกษาก่อนที่ประตูจะปิดเซเวียสยืนรออยู่ข้างประตูรถยนต์พร้อมกับสูบบุหรี่ แต่พอเห็นเซเลน่าเดินออกมาจากหอพักจึงทิ้งบุหรี่ลงบนพื้นแล้วขยี้ดับด้วยรองเท้า“ไหนของที่บอกว่าฉันลืม”“เมื่อตอนเย็นเธอโกรธอะไรฉัน” เขาเลือกจะเอ่ยถามเธอแทนการเอาของชิ้นนั้นออกมาให้ เพราะที่จริงแล้วมันไม่มีหรอกของที่เซเลน่าลืมไว้ แต่ถ้าเขาหลอกล่อด้วยเหตุผลเช่นนี้เธอก็คงไม่ลงมา“เปล่านี่ เอาของมาได้แล้ว ก่อนประตูจะปิด”“แต่เธอทำเหมือนไม่พอใจฉัน” เพราะเขาไม่ได้อ่านความคิดของเซเลน่าอีก
“เซเลน่า…” เซเวียสส่งเสียงปลุกคนตัวเล็กที่เพลียหลับไปตั้งแต่ขึ้นมาบนรถจนกระทั่งขับมาถึงหอพักโดมไฮคลาส แต่เรียกอย่างไรก็ไม่ยอมตื่นเสียที“โอ๊ย!” คนหลับสะดุ้งตื่นเพราะความเจ็บ หลังจากถูกอะไรแข็งๆ กระทบหน้าผากอย่างจัง “ทำอะไรของนายเนี่ยเซส”“เรียกไม่ยอมตื่น ถึงนานแล้ว”“ปลุกกันดีๆ ก็ได้ แล้วนี่นายตีฉันเหรอ”“แค่ดีดหน้าผาก”“เจ็บ” เซเลน่าบ่นกระปอดกระแปด ลูบหน้าผากตัวเองป้อยๆ“ฉันไม่ได้ทำแรงขนาดนั้น” ปีศาจหนุ่มอาจจะลืมไปว่าพละกำลังของตัวเองไม่เหมือนกับมนุษย์ทั่วไป อีกอย่างหลักฐานที่บอกว่าเขาทำแรงเกินไปก็ปรากฏอยู่บนหน้าผากของเซเลน่า“แต่ฉันเจ็บไง”“แล้วจะให้ฉันทำยังไง”“นายผิดนะ ต้องรู้จักขอโทษสิ”“…”“ถ้าไม่ขอโทษ ไม่ต้องมาคุยกันอีก” หญิงสาวยื่นคำขาดอย่างจริงจัง แม้ว่ามันจะไม่ใช่เรื่องใหญ่โตถึงขั้นต้องโกรธเคืองอะไรเขา แต่เธออยากสอนให้เขารู้สึกขอโทษเวลาทำผิดก็เท่านั้นเอง“…ขอโทษ”“ดีมาก ฉันให้อภัย” เซเลน่าเผลอยื่นมือไปหยิกแก้มสากด้วยความชอบใจ สิ่งที่เธอทำไม่ต่างอะไรจากการหยอกล้อเขาเลย ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไรที่เธอกล้าทำเช่นนี้พอได้รู้จักกันจริงๆ ก็พบว่าเขามีส่วนคล้ายกับมนุษย์ทั่วไป ลึกๆ เซ
“จริงจังเกินไปป้ะเนี่ย ฉันล้อเล่น”“ฉันแยกไม่ออกว่าเธอพูดจริงหรือเล่น”“แค่หยอกเล่นเฉยๆ” ตอนแรกก็ว่าจะจริงจัง แต่ไม่คิดว่าเซเวียสจะทำเหมือนง้องอนเธอต่อหน้าพ่อแม่ แล้วพวกท่านก็ดูจะสนใจมากเป็นพิเศษถึงได้มองกันตาไม่กะพริบ อีกไม่นานความคงแตกว่าไม่ใช่เพื่อนกันธรรมดา“แน่ใจ?”“แน่ใจสิ ไหนนายบอกจะกินอีกใช่มั้ย เอาอีกรึเปล่า”“อืม”“เดี๋ยวฉันตักให้” ว่าจบเซเลน่าก็ลุกขึ้นยืน ใช้ช้อนตักขนมจีนที่ม้วนๆ เป็นก้อนใส่จานของเซเวียส จากนั้นตักน้ำยากะทิราดจนเต็มจาน“เซสกินอาหารไทยเก่งกว่าที่แม่คิดนะ ตอนอยู่ไทยคงกินอาหารไทยบ่อยล่ะสิใช่มั้ย”“ประมาณนั้นครับ” เขาพยักหน้าตอบ ทั้งที่มันไม่ใช่ความจริงเลย เขาไม่ค่อยได้กินอาหารไทย เพราะสำหรับเขาอาหารไม่ได้สำคัญกับการมีชีวิตอยู่เลย“นายเอาล็อบสเตอร์ด้วยมั้ย จิ้มกินกับน้ำจิ้มซีฟู้ดอร่อยนะ เอามั้ย เดี๋ยวฉันแกะให้”หญิงสาวหยิบหักกล้ามล็อบสเตอร์มาแกะที่จานตัวเอง โดยใช้กรรไกรเป็นตัวช่วย เนื่องจากเปลือกอาหารทะเลชนิดนี้ค่อนข้างแข็ง หากใช้มือเปล่าอาจจะมือแหกเอาได้เซเวียสมองท่าทางทุลักทุเลของหญิงสาวอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะยื่นมือไปบีบกล้ามล็อบสเตอร์ในมือเธอจนเปลือกแหลกคามือ
“เลือกซื้ออะไรกันไปบ้างแล้วคะแม่”“แม่กับพ่อกำลังคุยอยู่ว่าเราจะเลือกเนื้อแบบไหนดีน่ะ”“เอาคาวบอยสเต๊กกับริบดีมั้ยคะ หนูอยากกินซี่โครงบาร์บีคิว”“พ่อว่าดีนะ จิบไวน์สักขวดสองขวดคงเยี่ยมไปเลย”เซเลน่าเอ่ยแซว “ถ้าสองขวดไม่เรียกว่าจิบแล้วป้ะคะพ่อ”“แล้วดินเนอร์เย็นนี้จะกินอะไรกันดี”“อาหารไทยได้มั้ยคะ หนูอยากกินขนมจีนน้ำยากะทิปู แต่ถ้าแม่ไม่สะดวกทำ เดี๋ยวหนูทำเอง”“แล้วเพื่อนลูกกินเป็นเหรอ”“กินได้ครับ ผมเคยอาศัยอยู่ในประเทศไทย”“จริงเหรอ แล้วพูดไทยได้มั้ย”“ได้ครับ” ประโยคนี้เซเวียสตอบซาร่าเป็นภาษาไทย ซึ่งมันชัดเจนจนเจ้าของภาษาจริงๆ ถึงกับตกใจ“นายพูดไทยได้ด้วยเหรอ ไม่เห็นบอกฉันเลย”“เธอไม่ได้ถาม”“ก็จริง” ใบหน้าของเขาเหมือนชาวตะวันตกหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะอย่างนั้นจึงคาดไม่ถึงว่าเขาจะพูดภาษาไทยได้ แต่ก็ลืมนึกไปว่าเซเวียสไม่ใช่มนุษย์ธรรมดาทั่วไป เขาเป็นถึงปีศาจจะเข้าใจทุกภาษาบนโลกยังได้เลยชาร์ลีถาม “พูดชัดแจ๋วเลย เราไปอยู่ไทยมากี่ปี”“หลายปีครับ”เซเลน่ากลัวว่าผู้เป็นพ่อจะถามเซเวียสซอกแซกมากเกินไปและเขาอาจจะรำคาญเอาได้ จึงเบี่ยงประเด็นไปเรื่องอื่นแทน “เราไปซื้อของกันต่อดีกว่ามั้ยคะ ต
มีตำนานกล่าวไว้ว่า...อสุรกายสันโดษใต้ทะเลลึกมักจะออกล่าและหากินในเวลากลางคืน หลังจากที่มันจำศีลจนพลังแกร่งกล้า บ้างก็ว่ามันเป็นสัตว์ในตำนานที่มีคนเคยพบเห็นทั่วทุกมุมโลกจะมีใครบ้างที่รู้ว่าแท้จริงมันไม่ได้เป็นเพียงแค่อสุรกายที่สร้างความหวาดกลัวให้กับผู้คนและนักเดินเรือ แต่ทว่ามันกลับเป็นปีศาจที่สามารถทำให้โลกทั้งใบตาลปัตรพังพินาศ เพราะความร้ายกาจและฤทธิ์เดชที่ไม่มีใครสามารถต่อกรกับมันได้ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานกี่ศตวรรษ ตำนานเล่าขานถึงอสุรกายตนนี้ก็ยังคงตามหลอกหลอนผู้คนอยู่เสมอ มันอยู่คู่กับทุกคนจนกลายเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านต้องเซ่นไหว้บูชา และอธิษฐานก่อนออกเดินเรือ…ว่าขอให้อย่ามีใครโชคร้ายได้พบเจอกับมันอีกเลย“น่าเบื่อ” ชายหนุ่มเปล่งเสียงออกมาอย่างแผ่วเบา ในขณะที่สายลมเย็นฉ่ำพัดโบกจนเสื้อผ้าและเส้นผมปลิวไสว เจ้าของเสียงนั่งอยู่บนตึกสูงเสียดฟ้าใจกลางเมือง ดวงตาสีอำพันคล้ายกับเหล้าราคาแพงกวาดมองจุดต่ำสุดของสายตาการจราจรติดขัดช่วงหัวค่ำทำให้รถยนต์มากมายอัดแน่นกันอยู่บนท้องถนนใจกลางเมืองหลวงของมหานคร มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นหลายเหตุการณ์จนนับไม่ถ้วน เพราะความใจร้อนของคนใช้รถใช้ถนนหนึ่...
Comments