หลิวเสวี่ยหงผู้นำแก๊งมาเฟียสาว ที่เต็มไปด้วยความมั่นใจและความเฉียบขาด ประสบอุบัติเหตุรถคว่ำตายท่ามกลางสายฝน ระหว่างการถูกไล่ล่าจากศัตรูฝ่ายตรงข้าม เมื่อเธอฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง กลับพบว่าตัวเองทะลุมิติมายังยุคจีนโบราณ และอยู่ในร่างของหลิวซูอันหญิงสาววัยสิบสี่หนาว ในความทรงจำของร่างนี้ ท่านย่าถูกท่านปู่หลอกแต่งงาน รับเข้าจวนในฐานะอนุภรรยา แต่ความเป็นจริงแล้วท่านปู่ผู้นี้ ต้องการเพียงความสามารถในการปักผ้าจากท่านย่าเท่านั้น ถึงจะมีบุตรชายให้แต่ไม่เคยได้รับความโปรดปราน ท่านย่าจึงสอนบิดาของหลิวซูอันปักผ้า พร้อมบอกเคล็ดลับการปักผ้า แต่ห้ามนำไปบอกท่านปู่เด็ดขาด ช่างบังเอิญยิ่งนักที่เธอได้รับมรดก เป็นโรงงานทอผ้าและโรงงานปักผ้าด้วยเครื่องจักรที่ทันสมัย “ชอบรังแกคนที่อ่อนแอกว่าสินะ ฉันจะยุยงให้บิดาของร่างนี้แยกบ้านให้ได้ และจะใช้ทักษะจากโลกปัจจุบัน และความรักในงานปักผ้าเพื่อสร้างชื่อเสียง จนกลายเป็นช่างปักผ้าที่ทุกคนในยุคนี้ ต้องการผ้าปักจากตระกูลของเธอมากที่สุด เมื่อเข็มและด้ายในมือคืออาวุธที่จะเปลี่ยนชะตาชีวิต ฉันก็จะปักทุกลวดลายลงบนผืนผ้า ให้โลกใบนี้ต้องจดจำ!” ตำแหน่งเจ้าของร้านผ้าไหมอันดับหนึ่งของแคว้นต้องเป็นของเธอ!
View Moreในวันนี้ที่หยางไท่หมิงกลับมาถึงเมืองผู่เถียน ช่างประจวบเหมาะกับการกลับมาของไห่หยุน ที่ได้รับมอบหมายภารกิจสืบประวัติครอบครัวของซูอัน ว่ามีความเป็นมาอย่างไร“ว่าอย่างไรไห่หยุน ได้เรื่องอันใดกลับมาบ้างรีบพูดมาให้ละเอียด พวกข้าสองคนรอฟังอยู่” ฟงเฉิงฮ่าวถามคนของตนทันทีที่ไห่หยุนเข้ามาพบไห่หยุนค้อมตัวทำค
ภารกิจบนภูเขาผู่ถัวผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ช่างทอผ้าทุกคนปลอดภัยไร้บาดแผล ส่วนลูกน้องของเหยียนโจวเฟิงถูกสังหารทั้งหมด เนื่องจากไม่มีผู้ใดยอมวางอาวุธในมือเพื่อยอมแพ้ พวกเขายอมตายดีกว่าถูกจับตัวไปทรมานฟงเฉิงฮ่าวพาทั้งทหารและช่างทอผ้าลงจากเขา และกลับมาถึงศาลาว่าการเมืองผู่กังในยามเว่ย หยางไท่หมิงจึงให้ทหาร
ทางฝั่งของอู๋ซูกับทหารห้าสิบนาย ที่มาถึงจวนตระกูลเหลียง ท่ามกลางสายตาของบ่าวไพร่จวนใกล้เคียง ที่เริ่มออกมาจับจ่ายซื้อหาอาหารให้เจ้านาย ต่างขยับเท้าเข้าไปใกล้กำแพงจวนอย่างช้า ๆ เนื่องจากอยากรู้ว่าเกิดเรื่องอันใดขึ้นกับตระกูลนี้อู๋ซูไม่รีรอที่จะใช้เท้าของตนถีบประตู แม้จะมีบ่าวไพร่ยืนเฝ้าอยู่ก็ตาม ปัง
“ขอรับคุณชาย”เสียงของความวุ่นวายภายในจวน แม้แต่เสียงกรีดร้องตกใจของสตรีที่อยู่ในเรือนของตน ก็ให้เกิดความงุนงงยิ่งนัก ว่าผู้ที่บุกรุกเข้ามาไล่จับตัวพวกตนนั้นคือผู้ใด ส่วนตัวเจ้าเมืองถูกทหารนายหนึ่ง ลากตัวมาพร้อมกับอนุสี่ทำให้ยามนี้ ภายในห้องโถงที่ดูใหญ่โตกลับคับแคบไปทันตาตุบ ตุบ โอ๊ย!เจ้าเมืองเจิ้
“ขอรับใต้เท้า พรุ่งนี้บ่าวจะรีบไปที่จวนนายท่านเหลียงแต่เช้า”“อืม เอาล่ะวันนี้ข้าอารมณ์ดีจะไปค้างที่เรือนอนุสี่ หากคนของฮูหยินถามเจ้าก็ตอบนางไปตามจริงก็พอ”“ขอรับใต้เท้า”ลับร่างเจ้าของเรือนใหญ่ในจวน สองพี่น้องอู๋ที่ซ่อนตัวอยู่ในที่มืด ได้ยินสิ่งที่เจ้าเมืองเจิ้งพูดคุยกับบ่าวคนสนิททุกคำ พวกเขาได้จดจ
ด้านหยางไท่หมิงและฟงเฉิงเฮ่าพร้อมผู้ติดตามทั้งสาม ได้ขี่ม้ามาสมทบกับทหารจำนวนสองร้อยนาย ที่เขาได้เอ่ยขอไว้กับเจ้าเมืองปิงชุน ก่อนจะพาขบวนขนาดใหญ่นี้ออกเดินทางมุ่งหน้าไปยังเมืองผู่กัง เพื่อจับตัวผู้ที่ให้ความร่วมมือกับเหยียนโจวเฟิง รวมถึงการช่วยเหลือช่างทอผ้า ที่ถูกลักพาตัวมาให้กลับไปหาครอบครัวด้วยค
ข้าขอตัวก่อนนะขอรับ” หลังจากสั่งงานกับลูกน้องจบ เจ้าเมืองปิงชุนจึงขอตัวกลับไปทำงานต่อทันทีหยางไท่หมิงเดินกลับไปหาซูอัน เพื่อบอกกับนางเรื่องที่ต้องไปจัดการภารกิจที่เมืองผู่กัง “คุณหนูเล็ก ข้ากับอาฮ่าวคงต้องขอตัวไปทำภารกิจต่อแล้ว ส่วนของตอบแทนที่ท่านกับพี่สาวตั้งใจจะมอบให้ รบกวนท่านเตรียมไว้ หลังจากเ
เมื่อเหยียนโจวเฟิงพ่ายแพ้ให้กับซูอันอย่างไม่เต็มใจ มิหนำซ้ำยังถูกนางใช้ผ้าผูกผมบนศีรษะ มัดรวบข้อมือของตนที่ไขว้หลังอย่างแน่นหนา พอจะเรียกหาลูกน้องให้มาช่วยเหลือ กลับกลายเป็นว่าคนนับสิบ ล้วนถูกสังหารนอนตายเกลื่อนกลาด มีเพียงฉู่เฟยที่บาดเจ็บจากการต่อสู้กับเว่ยโฉว ถูกดาบปลายแหลมชี้หน้าในท่ากึ่งนั่งกึ่ง
พรึบ!“นะ นะ นั่นมัน ทะ ทะ ทองคำจริง ๆ ด้วย!!”“โอ้สวรรค์ ข้าเห็นผ้าไหมและผ้าปักลวดลายมามากมาย จนผ่านมาหลายสิบปีสิ่งที่เคยผ่านดวงตาคู่นี้ของข้า ยังไม่อาจเทียบได้กับผ้าไหมทองคำ ที่ปักดอกอวี้หลานได้อย่างวิจิตรงดงามผืนนี้”“ข้าจะต้องประมูลผ้าไหมผืนนี้ให้ได้ หลังจากนั้นจะนำไปเป็นสมบัติของตระกูลข้า”“สอง
เสียงฝนกระหน่ำลงมาเป็นจังหวะสม่ำเสมอ ท่ามกลางถนนที่มืดมิดและเปียกชื้น รถคันหรูแล่นไปด้วยความเร็ว ภายใต้แสงไฟจากไฟฟ้าริมสองข้างถนน เสียงดังกระหึ่มของเครื่องยนต์ ไม่ได้รบกวนสมาธิของหญิงสาวที่นั่งอยู่ด้านคนขับ แม้แต่เสียงฝนที่กระทบกระจก ก็ยังไม่สามารถกลบเสียงของรถยนต์หลายคัน ที่กำลังพยายามเร่งความเร็วเ...
Comments